คลังเก็บป้ายกำกับ: FIND_X3_LITE

OPPO ยืนยัน อัปเดต Security Patch ให้ Find X3 Series ยาวนานถึง 3 ปี

OPPO เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ตบเท้าออกมาประกาศเตรียมอัปเดตแพทช์รักษาความปลอดภัย หรือ Security Patch ให้กับสมาร์ทโฟนเรือธงของพวกเขา จากเดิม 2 ปี เพิ่มเป็น 3 ปี ส่วนอัปเดตข้ามเวอร์ชั่น ยังคงเป็น 2 เวอร์ชั่นเหมือนเช่นเคย

โดยรายชื่อสมาร์ทโฟนที่ OPPO จะปล่อยอัปเดต Security Patch เพิ่มให้เป็น 3 ปี เบื้องต้นจะมีเพียงแค่ Find X3 Series เท่านั้นนะครับ ได้แก่ Find X3 Neo, Find X3 Lite และ Find X3 Pro ส่วนมือถือรุ่นอื่น ๆ ของ OPPO รวมถึง Find X2 Pro เรือธงจากปีก่อน เหมือนว่าจะยังคงได้รับอัปเดตแพทช์ความปลอดภัยเพียงแค่ 2 ปีเหมือนเดิม ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

จะสังเกตได้ว่าพักหลัง ๆ เหมือนผู้ผลิตมือถือ Android หลายค่ายเริ่มหันมาใส่ใจผู้บริโภค ออกมาให้คำมั่นสัญญาว่าจะอัปเดตมือถือให้แบบยาว ๆ 3 – 4 ปี โดยชัดเจนสุดก็คือ Samsung ที่ออกมาประกาศอัปเดต Security Patch ให้กับสมาร์ทโฟน Galaxy ของพวกเขา รวมเป็นจำนวนกว่า 85 รุ่น แทบจะครอบคลุมหมด

อย่างไรก็ดี ตรงนี้ทาง OPPO ก็ยังไม่ปิดประตูถึงความเป็นไปได้ที่จะอัปเดต Security Patch ให้กับ Find X3 Series นานกว่า 3 ปี รวมถึงตอนนี้พวกเขาก็กำลังทดลองอยู่ว่าจะสามารถอัปเดตข้ามเวอร์ชั่นให้กับสมาร์ทโฟนซีรีส์ดังกล่าวได้ 3 เวอร์ชั่นหรือไม่

ที่มา: Android Authority 

from:https://droidsans.com/oppo-confirms-3-years-update-find-x3-series/

OPPO เปิดตัว Find X3 Lite, Neo และ Pro กล้องหลังโคตรเทพ เซนเซอร์ IMX766 คู่, กล้องไมโครเลนส์ ขยาย 60 เท่า, จัดเต็มระบบสี 10-bit

OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟนในซีรีส์ Find X3 ทีเดียว 3 รุ่นรวด ไล่ตั้งแต่ Find X3 Lite, Find X3 Neo และปิดท้ายด้วย Find X3 Pro ตัวท็อปสุด หน้าจอ AMOLED อัตรารีเฟรชสูง แสดงผลได้ลื่นไหล กล้องหลังใส่มาให้เน้น ๆ 4 ตัว รองรับชาร์จไวแรงกระฉูด 65W พร้อมคุณสมบัติกันน้ำเหมือน ๆ กันทุกรุ่น

OPPO Find X3 Lite

แม้ว่า Find X3 Lite นั้นเป็นน้องเล็กประจำซีรีส์ แต่ฮาร์ดแวร์ที่ให้มาก็ไม่ไก่กาแต่อย่างใด มาพร้อมจอภาพ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ อัตรารีเฟรช 90Hz ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 3+ จาก Corning รองรับการแสดงผล HDR10+ และมีเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ใต้หน้าจอ

กล้องหลังให้มาด้วยกันทั้งหมด 4 ตัว ไม่แตกต่างจากรุ่นอื่น ประกอบด้วย กล้องหลัก 64MP กับกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP ที่มีระบบกันสั่นอิเล็กทรอนิกส์ (EIS) ทั้งคู่ เสริมด้วยกล้องมาโคร 2MP และกล้องจับความลึก 2MP

OPPO เลือกใช้ Snapdragon 765G เป็นหน่วยประมวลผลของ Find X3 Lite มี RAM 8GB และ ROM 128GB ส่วนแบตเตอรี่มีความจุ 4300mAh รองรับชาร์จไว 65W นอกจากนี้ยังกันน้ำและฝุ่นตามมาตรฐาน IP52 ด้วย

สเปค OPPO Find X3 Lite

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 90Hz, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 765G
  • หน่วยความจำ : RAM 8GB + ROM 128GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 64MP (ƒ/1.79), EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP (ƒ/2.25), EIS
    – กล้องมาโคร 2MP (ƒ/2.4)
    – กล้องจับความลึก 2MP (ƒ/2.4)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    – Bluetooth 5.1
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4300mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 3+
    – กันน้ำและฝุ่น IP52
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

OPPO Find X3 Neo

มาต่อกันด้วย Find X3 Neo ที่มีหน้าตาคล้ายกับ Find X3 Lite มาก ๆ แต่ขยับขยายขนาดหน้าจอ AMOLED ขึ้นมาเป็น 6.5 นิ้ว และมีขอบโค้ง พร้อมอัปเกรดวัสดุเป็นกระจก Gorilla Glass 5 ส่วนที่เหลืออื่น ๆ ทั้งอัตรารีเฟรชและความละเอียดการแสดงผลนั้นจะเหมือน ๆ กัน

Find X3 Neo ขับเคลื่อนด้วย Snapdragon 865 ชิประดับไฮเอนด์ของเจเนอเรชั่นก่อน ซึ่งประสิทธิภาพยังอยู่ในระดับที่ ทรงพลังมาก ๆ อยู่ พ่วงด้วย RAM 8GB และ ROM 256GB แบตเตอรี่มีความจุเท่ากับ 4500mAh รองรับชาร์จไว 65W

กล้องหลักมีความละเอียด 50MP ต่อด้วยกล้องอัลตร้าไวด์ 16MP กล้องมาโคร 2MP ในขณะที่กล้องจับความลึกนั้นถูกแทนที่ด้วยกล้องเทเลโฟโต้ 13MP ออปติคอลซูมสูงสุด 5 เท่า

สเปค Find X3 Neo

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว, ความละเอียด Full HD+, อัตรารีเฟรช 90Hz, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 865
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.7)
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 16MP (ƒ/2.2), EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4), ซูมออปติคอล 5 เท่า
    – กล้องมาโคร 2MP (ƒ/2.4)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac
    – Bluetooth 5.1
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
    – กันน้ำและฝุ่น IPX4
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

OPPO Find X3 Pro

ไฮไลต์เด็ดประจำวันนี้คงหนีไม่พ้น Find X3 Pro ที่จัดเต็มทุกภาคส่วน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด Quad HD+  อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก ที่จะปรับเปลี่ยนให้สัมพันธ์กับคอนเทนต์โดยอัตโนมัติ ปรับระดับความสว่างได้ละเอียดยิบถึง 8,192 ระดับ ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass 5 สุดแกร่ง รองรับการแสดงผล HDR10+ ตัวเครื่องบางเบาและพรีเมียมสุด ๆ หนา 8.3 มม. หนัง 193 กรัม วัสดุฝาหลังผลิตด้วยกระบวนการที่ซับซ้อน เป็นกระจกที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นเดียว

Find X3 Pro รองรับความลึกสีระดับ 10-bit เป็นมาตรฐานเดียวกับที่ใช้งานกันในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ ทั้งการบันทึกภาพนิ่ง การบันทึกวิดีโอ ตลอดไปจนถึงการถอดรหัสไฟล์และการแสดงผลบนหน้าจอ ซึ่งจะมีเฉดสีกว้างสุดขีดถึง 1.07 พันล้านสี ใกล้เคียงกับที่ดวงตามนุษย์มองเห็นในโลกแห่งความเป็นจริง

แน่นอนว่า Find X3 Pro ที่เป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ย่อมต้องมาพร้อมกับชิประดับท็อปอย่าง Snapdragon 888 ให้ RAM กับ ROM มา 12GB LPDDR5 และ 256GB UFS 3.1 ตามลำดับ แบตเตอรี่ความจุ 4500mAh ชาร์จไว 65W เท่า ๆ กับ Find X3 Neo ชาร์จจาก 0 – 40% ได้ในเวลาเพียง 10 นาที ส่วนการชาร์จไร้สายก็เร็ว ๆ มาก ที่ 30% ชาร์จจาก 0 – 100% ได้ในเวลา 80 นาทีเท่านั้นเอง และกันน้ำและฝุ่นเหมือนกับน้อง ๆ ในซีรีส์ แต่ขอบเขตความทนทานเหนือกว่าที่ระดับ IP68

กล้องอัลตร้าไวด์มีความละเอียด 50MP สูงเท่ากับกล้องหลักเลย ทั้งคู่เป็นเซอร์ IMX766 เหมือนกัน แถมยังรองรับการโฟกัสระยะใกล้ในตัวและมีการนำเลนส์ฟรีฟอร์มเข้ามาแก้ไขความผิดเพี้ยนของภาพด้วย บอกเลยว่า…เด็ดสุด ๆ แต่ถ้ายังไม่สะใจก็ มี “กล้องไมโครเลนส์” กำลังขยาย 60 เท่า ความละเอียด 5MP ให้ใช้งานแยกต่างหากไปเลย เหนือกว่ากล้องมาโครทั่วไปมาก ถ่ายได้คมชัดยันเศษฝุ่น ตบท้ายด้วยกล้องเทเลโฟโต้ 13MP ซูมออปติคอลไฮบริด 5 เท่า ซูมดิจิทัลสูงสุด 20 เท่า ครอบคลุมทุกช่วงระยะ

ยิ่งไปกว่านั้น Find X3 Pro ยัง มีฟีเจอร์ AI Scene Enhancement ใช้ปัญญาประดิษฐ์สุดฉลาดเข้ามาปรับปรุงคุณภาพของภาพถ่ายให้แจ่มแจ๋วไปอีกขั้น บันทึกภาำแบบ RawPlus 10-bit ได้ สามารถนำไปตกแต่งได้อย่างยืดหยุ่นในภายหลัง ส่วนการถ่ายวิดีโอก็มีฟีเจอร์ Cinematic Mode ให้ใช้งาน ถ่ายวิดีโอความละเอียด 4K แบบ 10-bit ได้ทั้งฟอร์แมต LOG และ HDR ในสเปกตรัมสี BT.2020 ได้ด้วย

สเปค OPPO Find X3 Pro

  • จอภาพ : AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว, ความละเอียด Quad HD+, อัตรารีเฟรช 120Hz แบบไดนามิก, รองรับการแสดงผล HDR10+
  • ชิป : Qualcomm Snapdragon 888
  • หน่วยความจำ : RAM 12GB + ROM 256GB
  • กล้องหลัง : 4 ตัว
    – กล้องหลัก 50MP (ƒ/1.8), All Pixel Omni-Directional PDAF, EIS
    – กล้องอัลตร้าไวด์ 50MP (ƒ/2.2), EIS
    – กล้องเทเลโฟโต้ 13MP (ƒ/2.4)
    – กล้องไมโครเลนส์ 5MP (ƒ/3.0)
  • กล้องหน้า : 32MP (ƒ/2.4)
  • เครือข่าย : 5G
  • การเชื่อมต่อ :
    – Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
    – Bluetooth 5.2
    – GPS, A-GPS, GLONASS, BDS, GALILEO, QZSS
    – NFC
    – USB Type-C
  • เซนเซอร์ : Fingerprint, accelerometer, gyro, proximity, compass
  • แบตเตอรี่ : 4500mAh, รองรับชาร์จไว 65W
  • ความทนทาน :
    – กระจกหน้าจอ Corning Gorilla Glass 5
    – กันน้ำและฝุ่น IP68
  • ระบบปฏิบัติการ : Color OS 11.2 บนพื้นฐาน Android 11

ราคาและการวางจำหน่าย

  • OPPO Find X3 Pro – ราคา 1,149 ยูโร (ประมาณ 41,990 บาท) เริ่มวางขาย 30 มีนาคม 2564

from:https://droidsans.com/oppo-find-x3-series-announced/