คลังเก็บป้ายกำกับ: CLOUD_PC

เปิดตัว Windows 365 Boot บูทเครื่องวินโดวส์ On-Prem ที่แชร์กันเข้าคลาวด์พีซีตัวเองตรงๆ ได้

ไมโครซอฟท์เปิดตัวพรีวิวเทคโนโลยีใหม่ที่เปิดให้เปิดพีซีแบบฟิสิคัลของตัวเองบูทเข้าเครื่องเวอร์ช่วลอีกทีที่รันใน Azure โดยตรงได้ แทนที่จะรันวินโดวส์ที่อยู่บนพีซีเดิมปกติ เรียกฟีเจอร์นี้ว่า “Windows 365 Boot”

โฆษณาว่าเป็นโซลูชั่นที่เหมาะมากสำหรับอุปกรณ์ที่แชร์กันใช้งาน ด้วยการเปิดให้ล็อกอินเข้าใช้บัญชีที่แยกออกเฉพาะผู้ใช้ต่างหาก โดยให้เข้ามาใช้ Cloud PC ของตัวเองได้เนียนเหมือนวินโดวส์บนพีซีปกติเลย ถือเป็นอีกหนึ่งในความพยายามของไมโครซอฟท์ในการอำนวยความสะดวกการใช้พีซีที่แชร์กันหรือสาธารณะ

ก่อนหน้านี้ก็มีพรีวิวฟีเจอร์ที่ชื่อ “Windows 365 Frontline” ที่ให้ใช้ไลเซนส์วินโดวส์ปกติอันเดียวกับคลาวด์พีซีได้ถึงสามตัว ไมโครซอฟท์มองว่าพนักงานที่อยู่หน้างานตามไซต์ต่างๆ (Frontline) เช่นด้านการแพทย์หรือคอลเซ็นเตอร์

ก็ควรจะเป็นคลาวด์พีซีของตัวเอง ที่บูทเข้าไปใช้ได้จากเครื่องไหนก็ได้ โดยเฉพาะเครื่องที่เปิดแชร์ใช้ร่วมกันกับพนักงานคนอื่น เรียกว่า Windows 365 Boot เป็นฟีเจอร์สำหรับบูทพีซีเข้า Windows 365 ของแต่ละคนตามชื่อตรงๆ เลย

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Theregister

from:https://www.enterpriseitpro.net/microsoft-enables-booting-physical-pcs-directly-into-cloud-pcs/

บทความน่ารู้ : พีซีบนคลาวด์กลายเป็นอนาคตสำหรับองค์กรจริงหรือ?

ธุรกิจต่างๆ เริ่มปรับตัวขึ้นมาอยู่บนคลาวด์อย่างรวดเร็วในช่วงสองปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นแอพพลิเคชั่นหรือสตอเรจเก็บข้อมูลทั้งหลาย ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการทำงานเป็นแบบระยะไกลทำให้บริษัทต่างย้ายระบบขึ้นคลาวด์เร็วกว่าเดิมถึง 24 เท่า

อ้างอิงจากข้อมูลของสำนักวิจัยอย่าง Synergy Research Group พบว่าการใช้จ่ายขององค์กรกับบริการโครงสร้างพื้นฐานผ่านคลาวด์นั้นเติบโตขึ้นถึง 35% มาอยู่ที่ระดับ 1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียวในปี 2020 ที่ผ่านมา

ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีหลายเจ้าก็ลงทุนกับบริการคลาวด์อย่างหนัก นำโดยไมโครซอฟท์และกูเกิ้ล ที่ก้าวนำตลาดด้วยการเปิดตัวระบบปฏิบัติการที่ใช้งานผ่านคลาวด์ อย่าง Windows 365 Cloud PC และ Chrome OS Flex ตามลำดับ

Windows 365 เป็นบริการคลาวด์สำหรับการทำงานแบบไฮบริด ที่สร้างเวอร์ช่วลแมชชีนแบบใหม่ขึ้นให้อัตโนมัติในชื่อ Cloud PC สำหรับผู้ใช้แต่ละราย รีโมทใช้งานผ่านเครื่องวินโดวส์เดิมอย่าง 10 และ 11 ไปจนถึง macOS, iPadOS, ลีนุกซ์, และแอนดรอยด์ด้วย

นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับแอพในตระกูล Microsoft 365 อย่างครบครันไม่ว่าจะเป็น Word, Excel, และ PowerPoint แถมโฆษณาว่าประสิทธิภาพด้านเครือข่ายจะเยี่ยมยอดกว่าเครื่องคอมพิวเตอร์กายภาพปกติที่เคยใช้ ด้วยเหตุผลที่โฮสต์บนดาต้าเซ็นเตอร์ประสิทธิภาพสูง

ขณะที่ฝั่งกูเกิ้ล แม้จะยังไม่ได้จริงจังเต็มที่ แต่ก็ออกตัวคล้ายๆ วีเอ็มอย่าง Chrome OS Flex สำหรับธุรกิจที่นำไปใช้กับระบบได้ครอบจักรวาลแบบไม่ต้องง้อฮาร์ดแวร์ใหม่อีก โอเอสนี้ติดตั้งบนพีซีหรือแมคได้ภายในไม่กี่นาที ได้ฟีลเหมือน Chrome OS บน Chromebook เป๊ะ

กูเกิ้ลเคลมว่าเป็นระบบที่ติดตั้งและจัดการง่ายมาก มาพร้อมระบบความปลอดภัยระดับองค์กร บูทเครื่องได้รวดเร็ว ไม่ช้าลงตามอายุการใช้งานเหมือนคอมพ์กายภาพทั่วไป มีการมองกันว่าบริการเหล่านี้จะแก้ปัญหาซัพพลายเชนที่กำลังหลอกหลอนตลาดไอทีได้เป็นอย่างดี

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

//////////////////

สมัครสมาชิก Enterprise ITPro เพื่อรับข่าวสารด้านไอที

form#sib_signup_form_4 {
padding: 5px;
-moz-box-sizing:border-box;
-webkit-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 input[type=text],form#sib_signup_form_4 input[type=email], form#sib_signup_form_4 select {
width: 100%;
border: 1px solid #bbb;
height: auto;
margin: 5px 0 0 0;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn {
margin: 5px 0;
padding: 6px 12px;
color:#fff;
background-color: #333;
border-color: #2E2E2E;
font-size: 14px;
font-weight:400;
line-height: 1.4285;
text-align: center;
cursor: pointer;
vertical-align: middle;
-webkit-user-select:none;
-moz-user-select:none;
-ms-user-select:none;
user-select:none;
white-space: normal;
border:1px solid transparent;
border-radius: 3px;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn:hover {
background-color: #444;
}
form#sib_signup_form_4 p{
margin: 10px 0 0 0;
}form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message {
padding: 6px 12px;
margin-bottom: 20px;
border: 1px solid transparent;
border-radius: 4px;
-webkit-box-sizing: border-box;
-moz-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-error {
background-color: #f2dede;
border-color: #ebccd1;
color: #a94442;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-success {
background-color: #dff0d8;
border-color: #d6e9c6;
color: #3c763d;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-warning {
background-color: #fcf8e3;
border-color: #faebcc;
color: #8a6d3b;
}

from:https://www.enterpriseitpro.net/cloud-based-pcs-the-future-of-the-enterprise/

Windows 365 บริการ Cloud PC สตรีมระบบ Windows มาใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ เริ่มต้นเดือนละประมาณ 590 บาท

Microsoft เปิดตัว Windows 365 มาได้ซักพักแล้ว ซึ่งบริการดังกล่าวเป็น Cloud PC ระบบ Windows 10 และ Windows 11 ที่จะให้ผู้ใช้สามารถทำงานด้วยระบบ Windows บนอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งมือถือ Android หรือคอมระบบ Mac ก็ได้ขอแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเอาไว้ โดยล่าสุด Microsoft ได้เปิดบริการ Windows 365 ให้ใช้กันแล้ว มีแพ็คเกจรายเดือนให้เลือกหลากหลายตามความเหมาะสม เริ่มต้นเดือนละ 20 ดอลลาร์ หรือราว 590 บาท (ไม่รวมภาษี) และยังมีทดลองใช้ฟรี 2 เดือนด้วยนะ

สำหรับบริการ Windows 365 จะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสตรีมระบบ Windows 10 หรือ 11 (เมื่อปล่อยตัวเต็มออกมาแล้ว) มาใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ Android, iOS หรือคอมพิวเตอร์ Mac, Linux ทำให้ผู้ใช้ทำงานต่อเนื่องได้แบบไม่มีติดขัด แม้ต้องออกไปนอกบ้าน หรือเปลี่ยนไปทำงานชิ้นเดิมบนอุปกรณ์อื่น

ตอนนี้ทาง Microsoft ก็ได้ออกมาประกาศค่าบริการพร้อมเปิดให้ใช้กันได้แล้ว โดยมีให้เลือกทั้งแบบ ธุรกิจ และองค์กร ซึ่งจะแตกต่างกันตามฟังค์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ อย่างเช่นจำนวนของผู้ใช้งาน Windows 365 แพ็คเกจธุรกิจใช้ได้สูงสุด 300 คน ส่วนแพ็คเกจองค์กรใช้ได้แบบไม่จำกัดจำนวน

นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจแบ่งออกตามสเปคของ Cloud PC อีกเพียบ ซึ่งผู้ใช้ก็เลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน สเปคเริ่มต้น CPU แบบ 1 แกน, RAM 2GB, ความจุ 64GB ค่าบริการรายเดือนสำหรับองค์กรอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ (ประมาณ 590 บาท) และสำหรับธุรกิจอยู่ที่ 24 ดอลลาร์ (ประมาณ 790 บาท)

จนถึงระดับสูงสุด CPU แบบ 8 แกน, RAM 32GB, ความจุ 512GB ค่าบริการรายเดือนสำหรับองค์กร 158 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,200 บาท) และสำหรับธุรกิจ 162 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,340 บาท) ส่วนใครที่ใช้ Windows 10 Pro อยู่ จะได้สิทธิ์ Windows Hybrid Benefit รับส่วนลดค่าบริการ Windows 365 (ธุรกิจ) เป็นจำนวน 16% ด้วย

แพ็คเกจระดับธุรกิจ

**ราคาทุกแพ็คเกจยังไม่รวมภาษี**

แพ็คเกจระดับองค์กร

**ราคาทุกแพ็คเกจยังไม่รวมภาษี**

หรือหากยังไม่แน่ใจว่า Windows 365 จะใช้งานได้ดีรึเปล่า ก็สามารถทดลองใช้ฟรีได้เป็นเวลา 2 เดือน หรือ 60 วัน สำหรับบางแพ็คเกจด้วย แต่หากว่าใช้จนครบช่วงทดลองแล้วไม่ต้องการสมัครต่อก็อย่าลืมไปกดยกเลิกด้วยนะครับ เพราะหากเริ่มการใช้งานเดือนที่ 3 เป็นต้นไป มันจะตัดเงินจากบัตรเครดิตที่ใช้ลงทะเบียนเอาไว้อัตโนมัติ

ใครที่สนใจอยากทำงานได้แบบต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลา (ที่มีอินเทอร์เน็ต) ทำงานอยู่บ้าน ทำงานบนมือถือระหว่างเดินทาง แล้วมานั่งทำงานที่ออฟฟิศต่อแบบไม่ติดขัด ก็มาลองใช้ Windows 365 กันได้เลย ว่ามันจะเข้ามาช่วยให้เราทำงานได้สะดวกกว่าเดิมแค่ไหนครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : Microsoft (ประเทศไทย)

from:https://droidsans.com/windows-365-price-per-month/

Windows 365 บริการ Cloud PC สตรีมระบบ Windows มาใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ เริ่มต้นเดือนละประมาณ 590 บาท

Microsoft เปิดตัว Windows 365 มาได้ซักพักแล้ว ซึ่งบริการดังกล่าวเป็น Cloud PC ระบบ Windows 10 และ Windows 11 ที่จะให้ผู้ใช้สามารถทำงานด้วยระบบ Windows บนอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งมือถือ Android หรือคอมระบบ Mac ก็ได้ขอแค่เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเอาไว้ โดยล่าสุด Microsoft ได้เปิดบริการ Windows 365 ให้ใช้กันแล้ว มีแพ็คเกจรายเดือนให้เลือกหลากหลายตามความเหมาะสม เริ่มต้นเดือนละ 20 ดอลลาร์ หรือราว 590 บาท (ไม่รวมภาษี) และยังมีทดลองใช้ฟรี 2 เดือนด้วยนะ

สำหรับบริการ Windows 365 จะเปิดให้ผู้ใช้งานสามารถสตรีมระบบ Windows 10 หรือ 11 (เมื่อปล่อยตัวเต็มออกมาแล้ว) มาใช้บนอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นมือถือ Android, iOS หรือคอมพิวเตอร์ Mac, Linux ทำให้ผู้ใช้ทำงานต่อเนื่องได้แบบไม่มีติดขัด แม้ต้องออกไปนอกบ้าน หรือเปลี่ยนไปทำงานชิ้นเดิมบนอุปกรณ์อื่น

ตอนนี้ทาง Microsoft ก็ได้ออกมาประกาศค่าบริการพร้อมเปิดให้ใช้กันได้แล้ว โดยมีให้เลือกทั้งแบบ ธุรกิจ และองค์กร ซึ่งจะแตกต่างกันตามฟังค์ชั่นการใช้งานต่าง ๆ อย่างเช่นจำนวนของผู้ใช้งาน Windows 365 แพ็คเกจธุรกิจใช้ได้สูงสุด 300 คน ส่วนแพ็คเกจองค์กรใช้ได้แบบไม่จำกัดจำนวน

นอกจากนี้ยังมีแพ็คเกจแบ่งออกตามสเปคของ Cloud PC อีกเพียบ ซึ่งผู้ใช้ก็เลือกได้ตามความเหมาะสมของการใช้งาน สเปคเริ่มต้น CPU แบบ 1 แกน, RAM 2GB, ความจุ 64GB ค่าบริการรายเดือนสำหรับองค์กรอยู่ที่ 20 ดอลลาร์ (ประมาณ 590 บาท) และสำหรับธุรกิจอยู่ที่ 24 ดอลลาร์ (ประมาณ 790 บาท)

จนถึงระดับสูงสุด CPU แบบ 8 แกน, RAM 32GB, ความจุ 512GB ค่าบริการรายเดือนสำหรับองค์กร 158 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,200 บาท) และสำหรับธุรกิจ 162 ดอลลาร์ (ประมาณ 5,340 บาท) ส่วนใครที่ใช้ Windows 10 Pro อยู่ จะได้สิทธิ์ Windows Hybrid Benefit รับส่วนลดค่าบริการ Windows 365 (ธุรกิจ) เป็นจำนวน 16% ด้วย

แพ็คเกจระดับธุรกิจ

**ราคาทุกแพ็คเกจยังไม่รวมภาษี**

แพ็คเกจระดับองค์กร

**ราคาทุกแพ็คเกจยังไม่รวมภาษี**

หรือหากยังไม่แน่ใจว่า Windows 365 จะใช้งานได้ดีรึเปล่า ก็สามารถทดลองใช้ฟรีได้เป็นเวลา 2 เดือน หรือ 60 วัน สำหรับบางแพ็คเกจด้วย แต่หากว่าใช้จนครบช่วงทดลองแล้วไม่ต้องการสมัครต่อก็อย่าลืมไปกดยกเลิกด้วยนะครับ เพราะหากเริ่มการใช้งานเดือนที่ 3 เป็นต้นไป มันจะตัดเงินจากบัตรเครดิตที่ใช้ลงทะเบียนเอาไว้อัตโนมัติ

ใครที่สนใจอยากทำงานได้แบบต่อเนื่องทุกที่ทุกเวลา (ที่มีอินเทอร์เน็ต) ทำงานอยู่บ้าน ทำงานบนมือถือระหว่างเดินทาง แล้วมานั่งทำงานที่ออฟฟิศต่อแบบไม่ติดขัด ก็มาลองใช้ Windows 365 กันได้เลย ว่ามันจะเข้ามาช่วยให้เราทำงานได้สะดวกกว่าเดิมแค่ไหนครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : Microsoft (ประเทศไทย)

from:https://droidsans.com/windows-365-prices-revealed/

Microsoft เตรียมอัปเดต Windows 10 เพิ่มเวอร์ชั่นบนอุปกรณ์ ARM, Cloud PC และพัฒนาให้ใช้งานแอป Android ได้

Microsoft วางแผนที่จะปล่อย Windows 10X เวอร์ชั่นพิเศษสำหรับโน้ตบุ๊คและแท็บเล็ตที่มีการปรับปรุงระบบให้มีขนาดเล็กลง รวมถึงจะมีเวอร์ชั่นที่เป็นแบบ Cloud PC ที่จะช่วยในเรื่องของการประหยัดพลังงานมากขึ้นและสามารถเรียกใช้งานโปรแกรมหนั กๆ ได้โดยไม่หนักเครื่อง อีกทั้งเตรียมพัฒนาแอป Android ให้ใช้งานบน Windows 10 ได้ด้วยโดยไม่ต้องลง Emulator ใด ๆ บนอุปกรณ์ของ Microsoft ที่ใช้สถาปัตยกรรม ARM อีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะใช้งานได้จริงภายในปี 2021 นี้

Windows 10X คืออะไร ?

ก่อนหน้านี้ Microsoft เคยเปิดตัว Microsoft Surface Neo แท็บเล็ตแบบ 2 หน้าจอที่พับได้ 360 องศา และสามารถแปลงตัวเองให้เป็นโน้ตบุ๊คแบบ 2 หน้าจอได้อีกด้วย ซึ่งมาพร้อมกับ Microsoft Windows เวอร์ชั่นพิเศษเรียกว่า Windows 10x ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้เหมาะสมกับอุปกรณ์แบบสองหน้าจอ

Windows 10X  ได้พัฒนาขึ้นมาจาก Windows 10 ด้วยการปรับปรุงหน้าตาอินเตอร์เฟสบางส่วนให้ใช้งานได้ง่ายจากการสัมผัส ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับการใช้งานของ Android และมีขนาดระบบไม่ใหญ่มาก เพราะได้มีการแยกส่วนคำสั่งให้ไม่ซับซ้อนสามารถทำงานได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังเน้นประสิทธิภาพการใช้งาน และประหยัดแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับอุปกรณ์พกพาอย่างโน้ตบุ๊คและแท็บเล็ต โดยรองรับสามารถใช้งานได้ทั้งแบบ 1 และ 2 หน้าจออีกด้วย

การมาของ Windows 10X ในปี 2021 เป็นเหตุการณ์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างมาก เพราะ Microsoft ตั้งใจที่ทำออกมาแข่งขันกับ Chrome OS เลยทีเดียว เพราะ Chrome OS เป็นระบบปฏิบัติการที่มีขนาดเบาใช้เวลาเปิดปิดเครื่องไม่กี่วินาที แถมยังสามารถลงโปรแกรมจำพวก APK ได้เหมือนมือถือ Android อีกด้วย ในส่วนนี้ทำให้ Microsoft เตรียมวางแผนที่จะนำแอป Android มาลงบน Windows 10 และปรับปรุงระบบเพิ่มเติมด้วยการนำโปรแกรมแบบ Win32 ออกไปและให้เรียกใช้งานผ่านระบบ Cloud PC เพื่อลดขนาดของระบบปฏิบัติการ

Cloud PC คืออะไร ?

Cloud PC คือบริการใหม่ของ Microsoft ที่จะทำให้ Windows 10 สามารถใช้งานแอป Win32 ได้ในระบบคลาวด์ที่เป็นเหมือนการใช้งานแอปต่าง ๆ ของ Windows ผ่านอินเทอร์เน็ตออนไลน์สตรีมมายังเครื่องผู้ใช้งาน และอนุญาตให้ผู้ใช้งานติดตั้งโปรแกรมเพื่อสตรีมผ่านไปยังอุปกรณ์ใดก็ได้ ช่วยประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล และสามารถใช้งานโปรแกรมนั้น ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพของพีซีในเครื่องลดลง

เรียกได้ว่าการนำเสนอ Cloud PC ของ Microsoft นั้นน่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานต่าง ๆ สามารถเข้าถึงและใช้งานแอปของ Windows 10 ได้จากที่ไหนก็ได้ผ่านอุปกรณ์ที่รองรับ โดยไม่จำเป็นต้องติดตั้งแอปนั้น ๆ ลงไปในเครื่องให้เปลืองพื้นที่ ทั้งยังสามารถทำงานหลาย ๆ แอปพร้อมกันได้อย่างไม่มีปัญหาและไม่ลดประสิทธิภาพการทำงานอีกด้วย

Windows 10 ใช้งาน Android App ได้ ?

ความจริงแล้ว Windows 10 สามารถติดตั้งและใช้งานแอปของ Android ได้นานแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะต้องเรียกใช้ผ่านอีมูเลเตอร์ (Emulator) หรือโปรแกรมจำลองอุปกรณ์และระบบต่าง ๆ ให้สามารถทำงานได้บน PC ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จักกันในชื่อ NoxPlayer หรือ Bluestack ที่นิยมใช้กันสำหรับเล่นเกมหรือทดสอบแอป Android บน PC

แต่การใช้งานแอป Android ส่วนใหญ่ผ่านอีมูเลเตอร์ยังไม่เสถียรมากนัก เพราะระบบปฏิบัติการ Android ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้รองรับการใช้งานบนชิปสถาปัตยกรรม ARM ต่างกับคอมพิวเตอร์และโน้ตบุ๊คส่วนใหญ่ที่ใช้ชิปแบบ x86 หรือ x64 ซึ่งสถาปัตยกรรมดังกล่าวหมายถึงสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการออกแบบโครงสร้างส่วนต่างๆของคอมพิวเตอร์ให้สามารถทำงานร่วมกันได้และตอบสนองชุดคำสั่งได้รวดเร็วและประหยัดพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

และในอนาคตแอป Microsoft Windows ต่าง ๆ ก็คาดว่าจะใช้งานร่วมกับ Mac ที่ใช้ชิป Apple M1 ได้ เพราะใช้สถาปัตยกรรม ARM เหมือนกันกับเครื่องที่ใช้ระบบ Windows 10X นั่นเอง เรียกได้ว่าปี 2021 นี้ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของวงการ PC แน่นอน ซึ่งต้องรอติดตามกันต่อไปครับ

 

ที่มา : Windows Central, gsmarena

from:https://droidsans.com/what-next-on-windows-10-in-2021/

ลือ Windows 10X จะไม่ซัพพอร์ต Win32

เว็บไซต์​ ZDNet และ Windows Central รายงานไปในทิศทางเดียวกันถึงแผนการของระบบปฏิบัติการ Windows ตัวใหม่ล่าสุด Windows 10X ที่อาจเผยโฉมในช่วงต้นปี 2021 ที่จะถึง โดยหนึ่งในความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ คือการยกเลิกฟีเจอร์การซัพพอร์ต Win32

Microsoft เริ่มมีการเผยให้เห็น Windows 10X เป็นครั้งแรกในช่วงต้นปีที่ผ่านมา โดยเป้าหมายในตอนแรกนั้นถูกออกแแบบเพื่อเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์ที่มี 2 หน้าจอโดยเฉพาะ ทว่าวิกฤตการณ์ COVID-19 ที่เกิดขึ้นทำให้แผนการนี้ต้องล้มเลิก และมีรายงานใหม่ถึงการปรับเปลี่ยนทิศทางของ Windows 10X เพื่อเป็นระบบปฏิบัติการสำหรับอุปกรณ์จอเดียวที่มีราคาไม่สูงนักแทน

ในการเผยข้อมูลที่ผ่านมา หนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Windows 10X คือการวางสถาปัตยกรรมให้ตัว OS ยังคงรองรับการใช้งานแอปพลิเคชัน Win32 เดิม ผ่านการใช้ Container ซึ่งเป็น Environment สำหรับ Win32 ทว่าตามรายงานล่าสุดจากเว็บไซต์ ZDNet และ Windows Central ไมโครซอฟท์ได้ตัดสินใจที่จะรัน Windows 10X ผ่าน Universal Windows Platform (UWP) และเว็บแอปพลิเคชันเท่านั้น ทำให้ไม่สามารถใช้แอป Win32 ได้

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังได้วางแผนระบบ Cloud PC ที่ผู้ใช้สามารถรันแอปพลิเคชันจากบนคลาวด์ออกมาใช้งานได้

รายงานในเบื้องต้นกล่าวว่า Windows X10 อาจมีการเปิดตัวในปี 2021 และอาจเปิดตัวเป็นครั้งแรกบนอุปกรณ์ชนิดใหม่ โดย ZDNet กล่าวว่า Windows 10X จะซัพพอร์ตอุปกรณ์หน้าจอเดียวในปีหน้า และ 2 หน้าจอในปี 2022 หลังจาก Surface Neo ถูกเลื่อนการเปิดตัวออกไปเนื่องมาจากโควิด 19


ที่มา: https://www.arnnet.com.au/article/681476/reports-windows-10x-will-remove-win32-support-focus-shifts-cloud-pc/

from:https://www.techtalkthai.com/microsoft-reportedly-remove-win32-support-from-windows-10x/