คลังเก็บป้ายกำกับ: BURGER_KING

ปัญหาใหญ่ Burger King! ปิดร้าน 800 สาขาในรัสเซียไม่ได้ เพราะผู้ให้บริการในรัสเซียไม่ยอม

RBI เจ้าของ Burger King เจอปัญหาหยุดให้บริการในรัสเซียไม่ได้ เพราะผู้ร่วมทุนและผู้ให้บริการในรัสเซียปฏิเสธที่จะยุติการดำเนินกิจการ

Burger King เฟรนไชส์ฟาสต์ฟู๊ดชื่อดังกำลังเจอปัญหาไม่สามารถหยุดให้บริการร้านอาหารกว่า 800 สาขา ในรัสเซียเพื่อแสดงจุดยืนในกรณีรัสเซียนำกำลังบุกยูเครนได้ เพราะ Alexander Kolobov ผู้ร่วมทุนและผู้ให้บริการร้าน Burger King ในรัสเซียปฏิเสธที่จะยุติการดำเนินกิจการ

สัญญาซับซ้อน ยุติกิจการไม่ได้ง่ายๆ

สาเหตุที่ Burger King ไม่สามารถระงับการให้บริการได้ทันทีเป็นเพราะข้อตกลงทางกฎหมายที่ซับซ้อน สัญญาไม่ได้อนุญาตให้บริษัทสามารถเปลี่ยนข้อตกลงฝ่ายเดียวและยังไม่อนุญาตให้หนึ่งในผู้ร่วมทุนถอนตัวจากความร่วมมือ Restaurant Brands International (RBI) เจ้าของ Burger King ชี้แจงผ่านแถลงการณ์

นอกจากนี้ Burger King ได้ติดต่อไปยังผู้ให้บริการในรัสเซียให้ยุติการให้บริการทันที แต่ก็ได้รับการปฏิเสธ และเอาเข้าจริงบริษัทก็ไม่ได้มีอำนาจในการสั่งยุติการให้บริการดังกล่าว David Shear ประธานบริษัท RBI ชี้แจงในจดหมายถึงพนักงาน

ทั้งนี้ การให้บริการร้าน Burger King ในรัสเซียเกิดจากความร่วมทุนระหว่างฝ่ายต่างๆ คือ 

  • RBI บริษัทเจ้าของเฟรนไชส์ 
  • Alexander Kolobov ผู้ให้บริการในรัสเซีย 
  • Investment Capital Ukraine กลุ่มการเงินจากยูเครน 
  • VTB Capital ธนาคารเพื่อการลงทุนภายใต้ VTB Bank ซึ่งเป็นธนาคารที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในรัสเซีย และยังเป็นรัฐวิสาหกิจของรัสเซียอีกด้วย 

หมายความว่าการดำเนินการใดๆ ของการร่วมทุนนี้จะต้องได้รับความสนับสนุนจากผู้ร่วมทุน ซึ่งหนึ่งในนั้นอยู่ใต้อำนาจของรัฐบาลรัสเซีย

นอกจาก Burger King บริษัทยักษ์ใหญ่รายอื่นก็กำลังเจอปัญหาเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น Marks & Spencer Marriott ไปจนถึง Accor ด้วยเหตุผลเดียวกันคือสัญญาทางกฎหมาย

ทำเท่าที่ทำได้

แม้จะเจอปัญหาซับซ้อน แต่ RBI ไม่ได้นิ่งนอนใจ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา RBI ออกมาประกาศยุติห่วงโซ่อุปทาน การช่วยเหลือด้านการดำเนินงาน และการช่วยเหลือด้านการตลาดกับการดำเนินงานในประเทศรัสเซียทั้งหมด

นอกจากนี้ RBI ยังประกาศอีกว่ากำลังเล็งขายหุ้น 15% ที่มีอยู่ในการร่วมทุนในธุรกิจ Burger King ในรัสเซีย แถม David Shear ยังประกาศอีกด้วยว่าจะมอบกำไรจากธุรกิจและหุ้นที่ถืออยู่ทั้งหมดให้กับ UNHCR หน่วยงานดูแลเรื่องผู้อพยพของ UN

ที่มา – RBI, The Guardian, BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ปัญหาใหญ่ Burger King! ปิดร้าน 800 สาขาในรัสเซียไม่ได้ เพราะผู้ให้บริการในรัสเซียไม่ยอม first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/burger-king-cant-suspend-its-russian-operation/

Burger King ประเทศไทย เปิดศึก “เมนูไก่ทอด” ดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่กินเบอร์เกอร์

Burger King ประเทศ เปิดศึก “เมนูไก่ทอด” เต็มตัว เปิดตัวเมนูชิกเก้นคิง หวังดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่เคยเข้าร้าน Burger King มาก่อน

Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีเมนูเบอร์เกอร์ Whopper อันเป็นเอกลักษณ์ เพิ่งจะรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ตามนโยบายของบริษัทแม่ในต่างประเทศ ซึ่งการรีแบรนด์นี้ Burger King ให้เหตุผลว่าต้องการเป็นแบรนด์ที่เป็นมิตร เข้ากับยุคดิจิทัล และเป็นมิตรกับคนไทยมากขึ้น

คำว่าเป็นมิตรกับคนไทยมากขึ้นดูจะเป็นรูปธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่ก่อนหน้านี้ Burger King ในประเทศไทย เคยมีความพยายามที่จะปรับเมนูใหม่ให้เหมาะกับความชอบของคนไทย ที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงจะเป็นเมนูข้าว ที่นับว่าเป็น Comfort Food ของคนไทย

ล่าสุด Burger King เพิ่งจะประกาศเปิดตัว “ชิกเก้นคิง” เป็นการเข้าสู่การแข่งขันเมนูไก่ทอดอย่างเต็มตัว จากที่ก่อนหน้านี้ Burger King มีเมนูไก่ แต่จะเป็นเพียงของทานเล่นเท่านั้น ไม่ได้เป็นไก่ทอดที่มาพร้อมกระดูกแบบที่เรากำลังจะเห็นกัน เป็นการต่อยอดจากการเปิดตัวเมนูข้าวเมื่อปี 2019 ตามกลยุทธ์ที่ Burger King ต้องการเป็นฟาสต์ฟู้ดที่เป็นมิตรกับคนไทยมากกว่าที่เคย

เมนูไก่ทอดมีอะไรดี Burger King มองเห็นอะไรในเมนูไก่ทอด

ธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เล่าถึงการลงสู่การแข่งขันเมนูไก่ทอดว่า เมนูอาหารที่ทำจากไก่เป็นตลาดที่ใหญ่มาก ทั้งตลาดมีมูลค่ากว่า 25,000 ล้านบาท และในเชิงพฤติกรรมของคนไทยเอง ก็ชอบบริโภคไก่อยู่แล้ว

หากลองสังเกตกันดีๆ ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไก่ทอดกลายเป็นเมนูที่กำลังมาแรงอยู่ในกระแส มีผู้ลงมาแข่งในตลาดนี้มากมาย โดยเฉพาะไก่ทอดเกาหลี ที่มีผู้เล่นรายใหญ่คือ บอนชอน ซึ่งเป็นเชนร้านอาหารในเครือของ Minor เอง ที่มีการขยายสาขาจากเดิมที่มีอยู่ 30 สาขา เป็น 80 สาขา หลังจากที่ Minor เข้าซื้อบอนชอนในประเทศไทย เมื่อปี 2019 ซึ่งธนวรรธให้ข้อมูลว่าคนไทยชอบเมนูไก่ทอดที่กรอบ มีซอส และเผ็ด

แม้ว่า Burger King ในประเทศไทยจะลงสู่การแข่งขันเมนูไก่ทอด ช้ากว่าคู่แข่งรายอื่นๆ ในตลาด ไม่ใช่แค่บอนชอนเท่านั้น แต่คู่แข่งที่เป็นฟาสต์ฟู้ดรายอื่นๆ อย่าง KFC, McDonald’s และ Texas ขายเมนูไก่ทอดมานานมากแล้ว ยังไม่รวมร้านไก่ทอดเกาหลีที่เห็นกันได้อย่างชินตา

ตลาดเมนูไก่ทอดมูลค่ามหาศาล ยังเติบโตได้อีกมาก

หากเจาะเฉพาะร้านอาหารประเภทฟ้าสต์ฟู้ด ไก่ทอดจะมีมูลค่าตลาดมากที่สุดของธุรกิจอาหารบริการด่วน (Quick-Service Restaurant หรือ QSR) โดยมีมูลค่า 18,700 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 7-9% ต่อปี และยิ่งรวมกับพฤติกรรมการบริโภคของคนไทย ที่นิยมบริโภคไก่มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง ตามมาด้วย หมู และเนื้อ

ด้วยมูลค่าตลาดของเมนูไก่ทอดที่มีอยู่มหาศาล และตลาดยังคงเติบโตอยู่ทุกปี แต่ Burger King ไม่เคยทำเมนูไก่ทอดขายมาก่อน เพราะจุดแข็งของ Burger King จริงๆ อยู่ที่เมนูเบอร์เกอร์เนื้อที่เป็นเอกลักษณ์

เบอร์เกอร์ตลาดเล็กกว่าไก่ทอด

แต่จุดแข็งของ Burger King ที่เป็นเมนูเบอร์เกอร์ อาจไม่เพียงพอต่อการแข่งขันอีกต่อไปแล้ว เพราะธนวรรธให้ข้อมูลว่า ตลาดเมนูเบอร์เกอร์ในประเทศไทยมีมูลค่าเพียง 10,000 ล้านบาทเท่านั้น และเติบโตเพียงแค่ 2-3% ต่อปี การหันมาทำเมนูไก่ทอดเสริมกับเบอร์เกอร์อาจเป็นทางที่ทำให้ Burger King ในประเทศไทยเป็นที่รู้จักมากขึ้น

แต่ปัญหาจริงๆ คือ ไม่ใช่ลูกค้าทุกคนจะชอบกินเบอร์เกอร์ เพราะหากลองเทียบกับคู่แข่งในวงการฟาสต์ฟู้ด ทั้ง KFC, McDonald’s ทั้งคู่ก็มีเบอร์เกอร์ขาย แต่ก็ยังขายเมนูไก่ทอดด้วยเช่นกัน Burger King ที่มีเมนูหลักเป็นเบอร์เกอร์จึงต้องหาทางจับกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ เพื่อรับกับตลาดเมนูไก่ทอดที่กำลังมาแรง

แม้ Burger King จะยอมรับว่าตัวเองเข้าสู่สนามการแข่งขันเมนูไก่ทอดช้ากว่าคนอื่นๆ Burger King จึงต้องทำการบ้าน สร้างความแตกต่างให้กับเมนูไก่ทอดของตัวเอง โดยเฉพาะการเรียนรู้พฤติกรรมของคนไทยว่าชอบไก่ทอดที่ทั้งกรอบ และมีความเผ็ดจากซอส

สำหรับไก่ทอด ชิกเก้นคิง ของ Burger King จะมีด้วยกัน 2 เมนู ได้แก่ ไก่ทอดโรยหอมเจียวรสต้นตำรับ และไก่ทอดหอมเจียวรสซอสเผ็ชชช ซึ่งทั้งสองเมนูไม่มีผงชูรส ไม่มีสารกันบูด โดยจะเริ่มวางขายตั้งแต่วันที่ 16 มีนาคม เป็นต้นไป ในราคา 79 บาท จากปกติ 124 บาท (ไก่ทอด 1 ชิ้น พร้อมโค้ก 1 แก้ว)

ดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ คือเป้าหมายที่ Burger King ต้องการ

เป้าหมายของ Burger King ในการเปิดตัวเมนูไก่ทอดเป็นครั้งแรก Burger King ต้องการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ที่อาจไม่เคยเข้ามาในร้าน Burger King มาก่อนให้ลองเข้ามาชิมเมนูไก่ทอดที่ร้าน ทั้งวัยรุ่น และวัยทำงาน

อย่างไรก็ตามแม้ Burger King จะเพิ่งลงมาเล่นในตลาดเมนูไก่ทอด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า Burger King จะลดความสำคัญของเมนูเบอร์เกอร์ลง เพราะธนวรรธ ยังคงคาดการณ์สัดส่วนยอดขายของเมนูไก่ทอดว่าจะมีสัดส่วนไม่เกิน 15% เท่านั้น ในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้า แสดงว่า Burger King จะยังคงเป็นร้านฟาสต์ฟู้ดที่เน้นขายเบอร์เกอร์อันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเองแน่นอน

ประกอบกับการลงสู่การแข่งขันเมนูไก่ทอดคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับ Burger King เพราะที่ผ่านมา KFC, McDonald’s และ Texas ก็ขายไก่ทอดกันมานานมากแล้ว การดึงดูดลูกค้าคนไทยให้เปลี่ยนใจมาซื้อไก่ทอดจาก Burger King ก็อาจมีความท้าทายพอสมควร

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Burger King ประเทศไทย เปิดศึก “เมนูไก่ทอด” ดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ที่ไม่กินเบอร์เกอร์ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/burger-king-chicken-king/

อ่านเกม Burger King ทำไมต้องทำ Plant-Based Whopper เบอร์เกอร์เนื้อที่ไม่มีเนื้อ

Brand Inside ชวนเปิดกลยุทธ์ Burger King ทำไมต้องทำ Plant Based Whopper เบอร์เกอร์เนื้อจากพืช ไม่มีเนื้อเป็นส่วนประกอบ

Burger King ในประเทศไทยเพิ่งจะเปิดตัวเมนูใหม่ Plant Based Whopper เมนูเบอร์เกอร์ Whopper ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Burger King ในรูปแบบ Plant Based หรือการใช้เนื้อสัตว์ที่ทำจากพืชทดแทนเนื้อสัตว์แบบปกติ โดยทาง Burger King ยังเครมด้วยว่า “กรรมวิธีการย่างบนเปลวไฟซึ่งเป็นกรรมวิธีเอกลักษณ์ ทำให้รสสัมผัสแพลนต์เบสที่ได้ออกมามีรสชาติใกล้เคียงกับเนื้อจริงมากที่สุด”

โดยเมนู Plant Based Whopper จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2564 เป็นต้นไป ในราคา 165 บาท และ 219 บาท เมื่อซื้อเป็นชุดรวมน้ำอัดลม และเฟรนช์ฟรายส์

สำหรับการนำเนื้อสัตว์จากพืชมาทำเป็นเมนู Plant Based Whopper ของ Burger King นี้ นับว่าเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดนำเอาเนื้อสัตว์จากพืชมาใช้เป็นส่วนประกอบหลักของเมนู

อ่านเกม Burger King ทำไมต้องทำเบอร์เกอร์เนื้อที่ไม่มีเนื้อ

จากการเปิดตัวเมนูเบอร์เกอร์เนื้อสัตว์จากพืช Plant Based Whopper ของ Burger King นี้ ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าสาเหตุหลักอาจมาจากกระแสของเนื้อสัตว์จากพืชที่กำลังมาแรงไม่ใช่แค่ในระดับโลก แต่รวมถึงในประเทศไทยด้วยเช่นเดียวกัน

มูลค่าตลาด Plant-based Food ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4.85 แสนล้านบาท และจะเติบโตเฉลี่ย 10.5% จนมีมูลค่า 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 7.57 แสนล้านบาท ในปี 2024

ส่วนในประเทศไทย ตลาด Plant-based Food ปี 2562 มีมูลค่าประมาณ 28,000 ล้านบาท มีโอกาสเติบโตปีละ 10% และในปี 2567 คาดการณ์ว่าจะมีมูลค่าอยู่ที่ 45,000 ล้านบาท (ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส)

ในขณะที่ในประเทศสหรัฐอเมริกา Burger King ได้ทดลองขายเบอร์เกอร์ Impossible Whopper ซึ่งเป็นเบอร์เกอร์เนื้อสัตว์จากพืชที่ทำร่วมกับแบรนด์ Impossible Food ไปก่อนหน้านี้ และวางขายให้ได้ทุกสาขาทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาในช่วงปี 2562

จากมูลค่าตลาดจำนวนมหาศาล จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไม Burger King ต้องหันมาสนใจทำเมนูเบอร์เกอร์เนื้อสัตว์จากพืช โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ในประเทศไทย ยังไม่มีร้านอาหารฟาสฟู้ดต์รายใดทำเมนูเนื้อสัตว์จากพืชมาก่อน Burger King จึงถือเป็นรายแรกที่เข้ามาเปิดตลาดนี้ในประเทศไทย

นอกจากนี้เทรนด์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ให้ความสนใจกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เลือกทานอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และร่างกายมากขึ้นเช่นเดียวกัน เห็นได้จากข้อมูลของศูนย์วิจัยกรุงไทย คอมพาส ที่ระบุว่า ผู้บริโภคชาวไทยกว่า 53% ต้องการลดการบริโภคเนื้อสัตว์ลง และอีก 45% สนใจที่จะเปลี่ยนไปรับประทานอาหารแบบมังสวิรัติ วีแกน และอาหารจากพืช

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post อ่านเกม Burger King ทำไมต้องทำ Plant-Based Whopper เบอร์เกอร์เนื้อที่ไม่มีเนื้อ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/burger-king-plant-based-whopper/

Burger King และ Mcdonald’s ในสหรัฐฯ เดินเกมทำระบบสมาชิก ดึงดูดลูกค้ามากกว่าการลดราคา

Burger King ในประเทศสหรัฐอเมริกากำลังทดลองทำระบบสมาชิกเพื่อสะสมคะแนนจากการซื้อ (Royalty Program) ไม่ใช่แค่การทำโปรโมชัน แต่เป็นการสร้างประสบการณ์สำหรับลูกค้าในยุคดิจิทัล

ตามปกติแล้วร้านค้าหรือร้านอาหารหลายๆ แห่ง จะมีการทำระบบสมาชิกเพื่อสะสมคะแนนจากการซื้อ เพื่อกระตุ้นยอดขาย โดยการดึงดูดให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีกครั้ง ผ่านสิทธิพิเศษที่มีให้ ทั้งการลดราคา ได้สิทธิ์แลกซื้อ ได้ของแถม

burger king

Burger King เดินหน้าทดลองทำระบบสมาชิก ดึงดูดลูกค้าสหรัฐอเมริกา

Burger King ร้านเบอร์เกอร์ในประเทศสหรัฐอเมริกา กำลังทดลองทำระบบสมาชิกของตัวเองเช่นเดียวกัน หลังจากที่ร้านเบอร์เกอร์คู่แข่งอย่าง Mcdonald’s ทดลองทำระบบสมาชิกในสหรัฐอเมริกาไปก่อนหน้านี้ โดย Burger King หวังว่าการทำระบบสมาชิกจะเป็นกลยุทธ์ที่ช่วยกระตุ้นยอดขายในแบบหนึ่ง

สำหรับระบบสมาชิกของ Burger King นี้ จะเริ่มต้นทดลองใน 5 ตลาดภายในสหรัฐอเมริกาก่อน ได้แก่ Los Angeles, Miami, New York City, New Jersey และ Long Island โดยผู้ที่เป็นสมาชิกจะได้รับคะแนนสะสมทุกๆ การใช้จ่าย 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยที่สามารถเช็คคะแนนสะสมที่มีได้จากเว็บไซต์ และแอปพลิเคชันของ Burger King

สมาชิกของ Burger King จะสามารถใช้คะแนนแลกสิทธิพิเศษในแต่ละวัน เช่น การเพิ่มไซส์ของอาหาร และเครื่องดื่ม รวมถึงได้สิทธิ์รับคะแนนสะสมเพิ่ม 2 เท่า ในเดือนเกิดของสมาชิก

Jose Cil CEO ของ Restaurant Brand เจ้าของแบรนด์ Burger King เล่าว่า การใช้ระบบสมาชิกจะช่วยให้ Burger King ก้าวข้ามการใช้โปรโมชัน และให้ดีล เปลี่ยนเป็นการนำเสนอสินค้าที่มีราคาถูกให้แก่ลูกค้าในทุกๆ วัน และเป็นการสร้างประสบการณ์ที่ปรับแต่งเฉพาะให้กับลูกค้าของตัวเองได้

Mcdonald’s ก็ทำระบบสมาชิกเช่นกัน

เมื่อเทียบกับ Mcdonald’s คู่แข่งของ Burger King ในสหรัฐอเมริกา จะพบว่า Mcdonald’s ก็ทำระบบสมาชิกเช่นกัน แต่ความแตกต่างจะอยู่ตรงที่ระบบสมาชิกของ Mcdonald’s จะสร้างประสบการณ์เฉพาะให้กับลูกค้าแต่ละราย เช่น การขับรถยนต์เข้าไปซื้อหาอาหารแบบ Drive Thru พนักงานจะทักทายลูกค้าด้วยชื่อที่อยู่ในระบบสมาชิก รวมถึงการแจ้งข่าวสารที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละคน

นอกจากนี้ระบบสมาชิกของ Mcdonald’s ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับลูกค้าเท่านั้น แต่พนักงานก็เป็นหนึ่งในผู้ที่สามารถใช้ประโยชน์จากระบบสมาชิกนี้ได้ เช่น การฝึกอบรมการให้บริการของพนักงาน ก็จะเป็นการสะสมคะแนนไปด้วยในตัว

อย่างไรก็ตามการให้สิทธิพิเศษแก่ลูกค้าในระบบสมาชิกของ Mcdonald’s ดูเหมือนจะเสียเปรียบ Burger King เล็กน้อย เพราะเมนูที่ให้ลูกค้าเลือกรับสิทธิพิเศษจากคะแนนที่ตัวเองมี มีแค่ 16 เมนูเท่านั้น ในขณะที่ลูกค้า Burger King สามารถเลือกรับสิทธิพิเศษจากคะแนนที่ตัวเองมีได้เกือบทุกเมนูในร้าน

ที่มา – cnbc (1), (2)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Burger King และ Mcdonald’s ในสหรัฐฯ เดินเกมทำระบบสมาชิก ดึงดูดลูกค้ามากกว่าการลดราคา first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/burger-king-mcdonalds-usa-royalty-program/

Burger King ไทยประกาศรีแบรนด์ใหม่ ใต้สถานการณ์ยอดขายติดลบ ปีนี้หวังฟื้นตัวเท่าปี 2019

Burger King ในประเทศไทยประกาศรีแบรนด์ใหม่ทั้งหมดตามบริษัทแม่ ภายใต้สถานการณ์ยอดขายในปี 2020 ที่ติดลบเพราะโควิด-19 ส่วนปี 2021 นี้ หวังยอดขายกลับไปเท่าปี 2019

ก่อนหน้านี้ในช่วงต้นเดือนมกราคม Burger King เพิ่งจะประกาศรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี กลับไปใช้โลโก้เดิมคล้ายกับที่เคยใช้เมื่อช่วงปี 1969-1999 รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบร้าน ป้ายเมนู บรรจุภัณฑ์ และชุดยูนิฟอร์มของพนักงานใหม่ทั้งหมด ส่วนด้าน Burger King ในประเทศไทยก็ได้ประกาศรีแบรนด์ใหม่ตามนโยบายของ Burger King ในต่างประเทศแล้วเช่นกัน

Burger King
ธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

ธนวรรธ ดำเนินทอง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เบอร์เกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้เล่าถึงเบื้องหลังการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี ของ Burger King ว่าการรีแบรนด์ครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปลี่ยนโลโก้ใหม่ แต่เป็นการเปลี่ยนทุกอย่างที่เป็น Touch Point ของลูกค้า เพราะในช่วง 20 ปีที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงไปมาก ทั้งในมุมของผู้บริโภค และเชิงดิจิทัล ทำให้โลโก้เดิมมีความล้าสมัย

Burger King

ลายเส้นรูปเสี้ยวสีน้ำเงินไม่ได้มีอยู่ในอาหารของ Buger King เงาบนตัวเบอร์เกอร์ดูปลอม ส่วนโลโก้ใหม่ใช้สีสันจากขนมปังสีเหลือง และซอสสีแดง มีความอบอุ่น มีความคมชัดมากขึ้น

นอกจากโลโก้ที่มีความเปลี่ยนแปลงกลับไปใช้โลโก้แบบคลาสสิกคล้ายกับที่เคยใช้ในช่วงปี 1969-1999 แล้ว ยังมีความเปลี่ยนแปลงในส่วนของการออกแบบสาขา ตั้งแต่ป้ายร้าน การออกแบบภายใน เมนู รวมถึงชุดพนักงานด้วย โดยธนวรรธ เล่าว่า Burger King ต้องมีความเป็นมิตร และเข้ากับยุคสมัยดิจิทัลมากขึ้น โดยในอนาคตเราจะได้เห็นป้ายที่หน้าร้าน โดยใช้คำว่า “เบอร์เกอร์คิง” เป็นภาษาไทยอยู่ที่หน้าร้านด้วย เพราะ Burger King อยากจะมีความใกล้ชิดกับลูกค้าชาวไทยมากกว่าเดิม เหมือนที่เคยประกาศกลยุทธ์มาแล้วก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามอาจต้องใช้เวลาพักใหญ่กว่าเราจะเห็นความเปลี่ยนแปลงของ Burger King ครบทุกสาขา เพราะนโยบายจากบริษัทในต่างประเทศกำหนดเส้นตายว่าจะต้องปรับปรุงทุกสาขาให้เข้ากับการรีแบรนด์ใหม่นี้ภายในปี 2030

Burger King

สำหรับในประเทศไทย ธนวรรธ เล่าว่าจะค่อยๆ ทยอยเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามกำหนดการรีโนเวทร้านของแต่ละสาขา ส่วนการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์อาหารก็จะใช้ของเดิมจนหมดสต็อกก่อน จึงเริ่มเปลี่ยนไปใช้บรรจุภัณฑ์ใหม่

สาขาที่จะได้เห็นความเป็น Burger King ในภาพลักษณ์ใหม่สองสาขาแรก คือ สาขาปั๊มน้ำมันเชลล์ เวสต์เกต และปั๊มน้ำมันคาลเท็กซ์ รังสิต-นครนายก

Burger King

สถานการณ์ Burger King ในปี 2020 ยอดขายยังติดลบ

สำหรับสถานการณ์ของ Burger King ในประเทศไทย ในปี 2020 ที่ผ่านมา มีจำนวนสาขาทั้งหมด 116 สาขา (นับรวมสาขาใหม่ที่เปิดในปีนี้ 2 สาขา) แต่เปิดให้บริการอยู่ 99 สาขา โดยสาขาที่ปิดไปชั่วคราวส่วนใหญ่เป็นสาขาที่อยู่ในสนามบิน ส่วนสาขาที่มีการเติบโตสูงส่วนใหญ่เป็นสาขาที่อยู่ตามปั๊มน้ำมัน หรือที่อยู่ในจุดการเดินทางของคน ซึ่งมีอยู่ราว 50 สาขา

โดยในปีที่ผ่านมา Burger King เปิดสาขาใหม่เพิ่มเพียง 3 สาขา ส่วนในปีนี้วางแผนที่จะเปิดเพิ่มอีก 5-10 สาขา ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นสาขาแบบ Stand Alone

ด้านยอดขายของ Burger King ในปีที่แล้ว ธนวรรธ ยอมรับว่ายังติดลบอยู่ราวๆ เลขสองหลัก แม้ว่าสัดส่วนการขายของ Burger King จะเปลี่ยนไปเป็นการเดลิเวอรีมากขึ้นในยุคที่โควิด-19 ระบาด

    • ปี 2019 สัดส่วนการนั่งทานในร้านอยู่ที่ 50% Take Away 35% และเดลิเวอรีอีก 15%
    • ปี 2020 สัดส่วนการนั่งทานในร้านลดลงเหลือ 25% Take Away 50% และเดลิเวอรีอีก 25%

ส่วนเป้าหมายในปี 2021 นี้ อยากกลับไปสร้างยอดขายได้เท่ากับปี 2019 หรือก่อนที่โควิด-19 จะระบาด อยู่ในระดับ 2,000 ล้านบาท จากปัจจัยการมีวัคซีนโควิด-19

โดยในปีนี้เราจะยังเห็นความพยายามของ Burger King ที่ต้องการเป็นร้านเบอร์เกอร์ที่เป็นมิตรกับคนไทยมากขึ้น เพื่อชิงส่วนแบ่งจากตลาดเบอร์เกอร์ที่มีมูลค่าราว 10,000 ล้านบาท ด้วยการเพิ่มเมนูใหม่ๆ ที่เหมาะกับความชอบของคนไทย โดยเฉพาะเมนูข้าว ที่เป็น Comfort Food ของคนไทยเหมือนกับที่เบอร์เกอร์เป็น Comfort Food ของต่างชาติ รวมถึงการออกโปรโมชันดึงดูดผู้บริโภค และการหันมาเปิดตัวเบอร์เกอร์ที่ทำจาก Plant Based Meat ที่กำลังเป็นกระแส ซึ่งคาดว่าจะได้เห็นกันภายในปีนี้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Burger King ไทยประกาศรีแบรนด์ใหม่ ใต้สถานการณ์ยอดขายติดลบ ปีนี้หวังฟื้นตัวเท่าปี 2019 first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/burger-king-thailand-rebrand-2021/

Burger King รีแบรนด์ใหญ่ในรอบ 20 ปี เปลี่ยนหมดตั้งแต่โลโก้ หน้าร้าน ยันชุดยูนิฟอร์ม

Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดแบรนด์ดังจากสหรัฐอเมริกาประกาศเปลี่ยนโลโก้ การออกแบบร้าน ป้ายเมนู รวมถึงชุดยูนิฟอร์มพนักงานใหม่ทั้งหมด โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 20 ปี

Burger King
ภาพจาก Burger King

Burger King รีแบรนด์ใหม่ครั้งแรกในรอบ 20 ปี

Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีเมนูเบอร์เกอร์ Whopper ที่เป็นเอกลักษณ์ ประกาศเปลี่ยนแปลงอัตลักษณ์ (rebranding) ของตัวเองใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่โลโก้ การออกแบบร้าน ป้ายเมนูอาหาร บรรจุภัณฑ์ รวมถึงชุดยูนิฟอร์มของพนักงาน โดยเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 20 ปี หลังจากที่เคยเปลี่ยนโลโก้ครั้งล่าสุดเมื่อปี 1999

โลโก้ใหม่ของ Burger King จะใช้การออกแบบด้วยความเรียบง่าย มินิมอล ลดทอนรายละเอียด และโทนสีออกไป เหลือเพียง 2 สีหลักๆ เท่านั้น โดยโลโก้ใหม่ของ Burger King ในปี 2021 นี้ เป็นการนำโลโก้เก่าที่ใช้ระหว่างปี 1969-1999 มาใช้อีกครั้งหนึ่ง โดยตัดเอาสีน้ำเงินที่ล้อมรอบคำว่า Burger King ออกไป

เมื่อมองไปที่โลโก้ใหม่ของ Burger King จะพบว่ามีสีสันที่สด ใช้ตัวอักษรตัวหนาที่มีชื่อว่า Flame รูปทรงมีความโค้งมน โดยได้รับแรงบันดาลในการออกแบบจากรูปทรงเบอร์เกอร์ของ Burger King

Burger King
ภาพจาก Burger King

นอกจากการเปลี่ยนโลโก้ใหม่แล้ว Burger King ยังเปลี่ยนชุดยูนิฟอร์มของพนักงาน และบรรจุภัณฑ์อาหารใหม่ด้วยเช่นกัน โดยชุดยูนิฟอร์มจะมีความทันสมัย สวมใส่สบาย มาพร้อมกับกราฟฟิกที่เป็นสีสด ส่วนบรรจุภัณฑ์อาหารใหม่ จะให้ความสำคัญของโลโก้ใหม่ให้ชัดเจน มาพร้อมกับแนวคิดการใช้วัตถุดิบต่างๆ ของ Burger King เป็นภาพประกอบของบรรจุภัณฑ์ รวมถึงยังมีการใส่คำพูดเข้าไปด้วย เช่น Crispy และ Tasty ที่แปลว่าความกรอบ และความอร่อย

ในขณะนี้ลูกค้าของ Burger King จะเริ่มเห็นอัตลักษณ์ใหม่ของแบรนด์นี้ได้แล้วจากสื่อโฆษณาทั้งหลาย แต่การเปลี่ยนแปลงที่ตัวสาขาอาจต้องใช้เวลา เพราะในปัจจุบัน Buger King มีสาขารวมแล้วกว่า 19,000 แห่ง ทั่วโลก ซึ่งต้องใช้เวลาในการปรับปรุงร้านไม่ใช่น้อย

ที่มา – cnn

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post Burger King รีแบรนด์ใหญ่ในรอบ 20 ปี เปลี่ยนหมดตั้งแต่โลโก้ หน้าร้าน ยันชุดยูนิฟอร์ม first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/burger-king-major-rebranding-in-20-years/

Burger King ประกาศยกพื้นที่ในอินสตราแกรม เพื่อช่วยให้ร้านอาหารขนาดเล็กทำการตลาด

ธุรกิจร้านอาหารต่างเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก แต่เบอร์เกอร์คิงของสหราชอาณาจักร (Burger King UK) ได้ผลิกวิกฤตเป็นโอกาส โดยใช้พื้นโซเชียลมีเดียของแบรนด์ ขอให้ลูกค้าช่วยซื้ออาหารจากร้านขนาดเล็ก

โดยในแถลงการณ์บริษัทได้ระบุว่า “มีร้านอาหารมากมายหลายพันแห่ง สมควรได้รับชื่อเสียงเทียบเท่ากับ Whopper (สินค้าของเบอร์เกอร์คิง) ซึ่งต้องการการสนับสนุนจากลูกค้าของเรา”

นอกจากนี้ยังแจ้งให้กับร้านอาหารขนาดเล็กว่า หากร้านต้องการให้เบอร์เกอร์คิงช่วยประชาสัมพันธ์สามารถส่งรูปภาพอาหารจานเด็ดมา และจะช่วยโพสต์ลงในอิสตราแกรมแอคเค้าท์ @Burgerkinguk พร้อมติดแฮชแท็ก #WhopperAndFriends

ที่มา Burgerkinguk

ตลอดปี 2020 ที่ผ่านมาทุกประเทศทั่วโลกเผชิญกับวิกฤตการแพร่ระบาด ทำให้สังคมต้องเว้นระยะห่าง ธุรกิจร้านอาหารไม่สามารถเปิดหน้าร้านได้ จึงต้องปรับตัวสู่ออนไลน์ซึ่งเสียค่าคอมมิชชั่นให้กับแพลตฟอร์มเดลิเวอรี่

แคมเปญการตลาดของเบอร์เกอร์คิงสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวและการสร้างสรรค์การตลาดในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ ซึ่งนอกจากช่วยให้แบรนด์สื่อสารได้ถึงลูกค้าแล้ว ยังสามารถช่วยร้านค้าขนาดเล็กให้มีรายได้ เสริมภาพลักษณ์ให้กับแบรนด์ยิ่งขึ้นไปอีก

from:https://www.thumbsup.in.th/burgerking-support-local-business?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=burgerking-support-local-business

Burger King ใจดี ใช้ Instagram ของตัวเองโพสต์โปรโมทร้านอาหารขนาดเล็กช่วงโควิดแบบฟรีๆ

ธุรกิจร้านอาหารในประเทศอังกฤษยังได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก โดยเฉพาะร้านอาหารขนาดเล็ก Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง จึงประกาศว่าจะช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็ก ด้วยการโพสต์โปรโมทบน Instagram ของตัวเองแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย

อังกฤษยังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างหนัก จนถึงขั้นต้องประกาศล็อคดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดอีกครั้งในวันอังคารที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ห้ามมีการรับประทานอาหารที่ร้าน อนุญาตให้ซื้อกลับไปที่บ้านเท่านั้น

หนึ่งในผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดทั้งจากมาตรการล็อคดาวน์ และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 คือ ร้านอาหารขนาดเล็ก Burger King ในประเทศอังกฤษจึงโพสต์ Instagram เพื่อแสดงความช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบนั้น ด้วยการช่วยโพสต์โปรโมทร้านอาหารแบบฟรีๆ ใน Instagram ของ Burger King (@burgerkinguk) เอง ที่มีผู้ติดตามอยู่ราว 33,000 คน

โดย Burger King ระบุว่า “ยังมีอาหารอีกมากมาย ที่สมควรได้รับความนิยมเหมือนกับเบอร์เกอร์ Whoppers ของตัวเอง” Burger King จึงตัดสินใจที่จะช่วยเหลือร้านอาหารขนาดเล็ก ด้วยการโพสต์โปรโมทให้แบบฟรีๆ เพียงร้านอาหารถ่ายรูปลง Instagram และใส่ #WhopperAndFriends ซึ่ง Burger King จะเลือกรูปภาพเหล่านั้นมารีโพสต์ให้ผ่าน Instagram ของตัวเองโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Burger King ทำการตลาดด้วยการช่วยเหลือผู้อื่น เพราะก่อนหน้านี้ Burger King ก็เคยออกแถลงการณ์ ประกาศว่าให้ผู้บริโภคเลือกซื้ออาหารจากฟาสต์ฟู้ดรายอื่นๆ รวมถึงร้านอาหารรายเล็กๆ เพื่อช่วยเหลือให้ร้านอาหารเหล่านั้นอยู่รอดได้ในสถานการณ์โควิด-19 ระบาด

ที่มา – business insider

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-help-promote-small-restaurant-in-ig/

Burger King ในอังกฤษขอสงบศึก ชวนสั่ง McDonald’s ช่วยเหลือพนักงานและวงการอาหารฟาสต์ฟู้ด

สงบศึกสงครามเบอร์เกอร์ชั่วคราว เมื่อ Burger King ในประเทศอังกฤษ ประกาศขอให้ผู้บริโภคช่วยสั่งซื้ออาหารจาก Mcdonalds และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายอื่นๆ ทั้ง KFC, Subway และ Pizza Hut เพื่อช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมร้านอาหาร และพนักงานหลายพันคน ที่ต้องการความช่วยเหลือในช่วงเวลานี้

Burger King และ Mcdonalds นับว่าเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่เป็นคู่แข่งกันมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ทั้งสองแบรนด์ก่อตั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีเมนูอาหารที่คล้ายๆ กันตามแบบฉบับของอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่วนๆ อยู่ที่ เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ของทอด และเครื่องดื่ม

รวมถึงในมุมมองของผู้บริโภคเองก็มักนำเอาทั้งสองแบรนด์ไปเปรียบเทียบกันบ่อยๆ ทั้งเรื่องรสชาติ ราคา สถานที่ตั้งร้าน และโปรโมชัน

Burger King VS Mcdonalds กับศึกแห่งวงการเบอร์เกอร์

แม้ในประเทศไทยเราจะไม่ได้เห็นการออกโฆษณาในเชิงบลัฟกันระหว่างแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งในวงการเดียวกัน แต่ในต่าประเทศ การออกโฆษณาแนวนี้ถือเป็นลูกเล่นทางการตลาดที่สร้างความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1986 Burger King ออกโฆษณาเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคเลือก Burger King เพราะ Burger King รู้จักเบอร์เกอร์ดีกว่า เนื้อย่างด้วยเตาให้ความรู้สึกเหมือนกินบาร์บีคิวในสวนหลังบ้าน ส่วน Mcdonalds เป็นเบอร์เกอร์ธรรมดาๆ

หรือเมื่อปี 2012 Mcdonalds ออกโฆษณาจับกลุ่มคนเดินทาง โดยระบุว่าร้านของ Mcdonalds มีอยู่ทุกที่ ไม่ไกลจากตัวคุณ ในขณะที่ร้านของ Burger King อยู่ไกลกว่า หลังจากนั้นไม่นาน Burger King ก็ได้ออกโฆษณาตอบกลับ ให้คนเดินทางแวะซื้อกาแฟที่ร้าน Mcdonalds แล้วรีบขับรถไปที่ร้าน Burger King

Burger King ขอลูกค้าช่วยสั่ง Mcdonalds และร้านฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ

อย่างไรก็ตามศึกระหว่าง Burger King และ Mcdonalds คงต้องหยุดลงชั่วคราว เมื่อรัฐบาลอังกฤษประกาศล็อคดาวน์ประเทศ เป็นระยะเวลานาน 4 สัปดาห์ โดยปิดทั้งร้านอาหาร สถานบันเทิง และร้านค้าที่ไม่ได้มีความจำเป็น โดยเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป

Burger King จึงได้ออกประกาศถึงผู้บริโภคทุกๆ คน ว่าให้สั่งอาหารจาก Mcdonalds รวมถึงร้านอาหารอื่นๆ ทั้ง KFC, Subway, Domino’s Pizza, Pizza Hut, Five Guys, Greggs, Taco Bell, Papa John’s และ Leon หรือร้านอาหารอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือไม่ก็ตาม ในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมวงการ เพื่อเป็นการสนับสนุนพนักงานในอุตสาหกรรมร้านอาหารหลายพันคน ที่ต้องการความช่วยเหลือในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเดลิเวอรี ซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือใช้บริการ Drive Thru

อย่างไรก็ตามที่ด้านท้าย Burger King ก็ยังคงทิ้งลูกเล่นในการเปรียบเทียบตัวเองกับคู่แข่งสำคัญในวงการอาหารฟาสต์ฟู้ดด้วยการระบุว่า แม้การสั่งเบอร์เกอร์ Whopper จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่การสั่งเบอร์เกอร์ Big Mac จาก Mcdonalds ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เช่นกัน

ที่มา – Burger King, Mediasamosa, BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-tell-customer-to-order-mcdonald-or-other-restaurant/

เปิดศึกโปรโมชัน เบอร์เกอร์ 1 แถม 1 เมื่อ Burger King ปะทะ McDonald’s ใครเหนือกว่าใคร

ในช่วงนี้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคลดลง ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงเลือกที่จะมองหาความคุ้มค่าให้กับตัวเองเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อสินค้า ไม่เว้นแม้แต่การซื้ออาหารฟาสต์ฟู้ด

ในช่วงนี้เราจึงเห็นแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดรายใหญ่ ทั้ง McDonald’s และ Burger King ต่างออกโปรโมชัน 1 แถม 1 เป็นตัวเรียกลูกค้า ที่มองหาความคุ้ม และช่วยกระตุ้นการขาย ในช่วงที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจไม่แน่นอน

เริ่มกันที่ Burger King ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่มีต้นกำเนิดจากประเทศสหรัฐอเมริกา มี Whopper เป็นเมนูขึ้นชื่อ ที่นอกจากจะเร่งวันเร่งคืนตกแต่งร้านในสไตล์คริสมาสต์ตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้ว ยังมีการจัดโปรโมชัน 1 แถม 1 ใน 4 เมนูยอดนิยม ได้แก่

  • วอปเปอร์ จูเนียร์ ชีส (Whopper Jr. Cheese)
  • นินจาเบอร์เกอร์ (Ninja Burger Pork)
  • ฟิช แอนด์ คริสป์ (Fish N’ Crisp)
  • เบอร์เกอร์สะโพกไก่ทอด (Tender Crisp)

โดย 4 เมนู 1 แถม 1 ของ Burger King นี้ มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 139-219 บาท จากราคาปกติ 254-410 บาท ตั้งแต่วันที่ 25 กันยายน จนถึง 30 พฤศจิกายน 2533

ด้าน McDonald’s ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดอีกรายหนึ่งในไทยที่คนส่วนใหญ่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก็ออกโปรโมชัน 1 แถม 1 ตามหลัง Burger King ได้ไม่นานเช่นกัน โดยโปรโมชันของ McDonald’s แมคฟิช ซามูไรเบอร์เกอร์หมู และดีลักซ์ชีสเบอร์เกอร์ พร้อมแฟรนช์ฟรายส์ขนาดกลาง ในราคา 163 บาท จากปกติ 326 บาท ตั้งแต่วันที่ 1-31 ตุลาคม 2563

คำถามที่เกิดขึ้นคือ เมื่อทั้ง Burger King และ McDonald’s ทำโปรโมชัน 1 แถม 1 ด้วยกันทั้งคู่ จุดเด่นทั้งของสองแบรนด์คืออะไร และใครที่จะได้เปรียบมากกว่ากัน?

จุดเด่น Burger King กับ Whopper ที่มีชื่อเสียง

  • มีความเชี่ยวชาญด้านการทำเมนูเบอร์เกอร์โดยเฉพาะ
  • มีเมนู Whopper ที่เป็นเอกลักษณ์ และคนทั่วโลกรู้จัก
  • เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อ และนำเข้าเนื้อมาจากต่างประเทศ
  • เนื้อใช้วิธีการย่างไฟ หอมกว่า
  • ลูกค้าสามารถสั่งได้ตามใจชอบ ทำเมนูอาหารออกมาตามใจลูกค้า

แต่ทั้งนี้ ใช่ว่า Burger King จะมีแต่ข้อดีอย่างเดียว เพราะสิ่งสำคัญคือ สาขาของ Burger King ในประเทศไทย ที่ปัจจุบันมีเพียง 96 สาขา เท่านั้น ยังไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ทุกกลุ่ม แถมเมื่อมีสาขาจำนวนน้อย ก็แสดงถึงความครอบคลุมในการจัดส่งแบบ Delivery เช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ Burger King ที่ผ่านมา ภาพลักษณ์ยังไม่ค่อยเป็นมิตรกับคนไทยมากเท่าไหร่ ภายในร้านจึงเต็มไปด้วยเมนูภาษาอังกฤษ ที่คนไทยอาจไม่เข้าใจ แต่ในเร็วๆ นี้ Burger King เพิ่งจะประกาศปรับกลยุทธ์ หันมาให้ความสนใจกับลูกค้าคนไทยมากขึ้น เพื่อหวังเป็นร้านอาหารฟาสฟู้ดต์ ที่เป็นมิตรกับคนไทยมากกว่าเดิม

จุดเด่น McDonald’s ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่คนไทยคุ้นเคย

  • มีเมนูหลากหลายกว่า เข้ากับความชอบของคนไทย
  • คนไทยคุ้นเคยกับ McDonald’s มาอย่างยาวนาน
  • มี 245 สาขา ทั่วประเทศ หาสาขาง่าย มีแทบทุกห้างสรรพสินค้า สั่ง Delivery ได้ง่ายกว่า
  • ราคาเป็นมิตร

อย่างไรก็ตาม โปรโมชัน 1 แถม 1 ของ McDonald’s ร่วมรายการเฉพาะบริการ Delivery เท่านั้น ไม่สามารถสั่งซื้อที่ร้านได้เหมือนอย่าง Burger King แต่ก็อย่าลืมว่า McDonald’s มีสาขาจำนวนมาก ทำให้พื้นที่ให้บริการจัดส่ง Delivery ครอบคลุมมากไปด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้เมนูที่แถม จะเป็นเมนูเดียวกันกับที่ซื้อเท่านั้น เช่น หากเลือกแมคฟิช เมนูที่ได้แถมก็จะเป็นแมคฟิชด้วยเช่นกัน ต่างจาก Burger King ที่เลือกจับคู่เมนูได้ตามความต้องการ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-mcdonald-buy-1-get-1-free-promotion/