คลังเก็บป้ายกำกับ: ธนาคารกรุงเทพ

ธนาคารกรุงเทพ โอนเงิน 5 หมื่นบาทขึ้นไปต้องสแกนหน้า เริ่มใช้งานพฤษภาคม 2566

ธนาคารกรุงเทพเพิ่มระดับความปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง รายการที่โอนเงินไปยังบุคคลอื่น หรือเติมเงินพร้อมเพย์ / G-wallet ยอดตั้งแต่ 5 หมื่นบาทขึ้นไป จะต้องยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า แจ้งเตือนผู้ใช้งานอย่าลืมนำบัตรประชาชนมาอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศค่ะ

เพื่อเป็นการเพิ่มระดับความปลอดภัยสำหรับการใช้งาน ตั้งแต่พฤษภาคม 2566 เป็นต้นไป ผู้ใช้งานที่ทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง ตั้งแต่ยอด 50,000 บาทขึ้นไป/รายการ จะต้องยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า แจ้งเตือนผู้ใช้งานเตรียมความพร้อมในการเปิดการใช้งานบริการดังกล่าง ดังนี้

  • นำบัตรประชาชนไปอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบัน
  • ถ่ายภาพใบหน้าที่ธนาคารกรุงเทพ ทุกสาขาทั่วประเทศ

สำหรับการเพิ่มระดับความปลอดภัยในการใช้งานโมบายแบงก์กิ้ง ธนาคารกรุงเทพได้ยกระดับความปลอดภัยในการใช้งานแอปพลิเคชันดังนี้ค่ะ

1.จำกัดการใช้แอปพลิเคชันเป็น 1 อุปกรณ์/1 ผู้ใช้งานเท่านั้น 

ผู้ใช้งานที่จะดาวน์โหลดและเปิดการใช้งานในเครื่องใหม่ ระบบจะให้ผู้ใช้งานลบแอปธนาคารที่เคยติดตั้งในเครื่องอื่น ๆ ก่อนหน้านี้ ไม่อย่างนั้นจะไม่สามารถใช้งานแอปที่โหลดใหม่ได้ค่ะ

2.บล็อกการเข้าถึงแอปจากระยะไกล (Remote access) 

สำหรับผู้ใช้งานที่เปิดการใช้งาน การช่วยเหลือการเข้าถึง (Accessibility)  จะไม่สามารถใช้แอปธนาคารได้จนกว่าจะปิดการใช้งานที่การตั้งค่าของอุปกรณ์ก่อน

3.ลดวงเงินตั้งต้น 

สำหรับธุรกรรม โอน / จ่าย / เติมเงิน ธนาคารจะลดวงเงินจากเดิม 200,000 บาท/วัน เป็น 50,000 บาท/วัน เพื่อเป็นการลดความเสียหายที่อาจจะเกิด แต่ทั้งนี้ผู้ใช้งานสามารถปรับเพิ่มวงเงินเองได้ผ่านแอปโมบายแบงก์กิ้ง จะมีผลเฉพาะกับผู้ใช้งานที่ไม่เคยปรับวงเงินเท่านั้น

4.การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าในการทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงก์กิ้ง 

เป็นขั้นตอนการใช้งานล่าสุดที่ทางธนาคารได้เพิ่มเข้ามา และเริ่มใช้งานในเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งมีเงื่อนไขการใช้งาน ดังนี้

  • การโอนเงินไปยังบุคคลอื่นผ่านเลขที่บัญชี/พร้อมเพย์/สแกนคิวอาร์ หรือ เติมเงินพร้อมเพย์/G-Wallet ยอดเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปจะต้องมีการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าก่อนทุกครั้ง
  • รายการที่ทำให้ยอดสะสมต่อวันครบทุก 200,000 บาทก็ต้องยืนยันตัวตนด้วยเช่นกัน
  • ยืนยันตัวตนก่อนปรับเพิ่มวงเงินโอน / จ่ายเงิน ผ่านแอป

อย่างไรก็ดี ผู้ที่ใช้งานธนาคารกรุงเทพทุกท่านก็อย่าลืมไปอัปเดตข้อมูลที่ธนาคารทุกสาขาใกล้บ้าน จะได้ใช้งานแอปได้อย่างปลอดภัย ไร้กังวล และหากมีข้อสงสัยแนะนำให้ติดต่อโดยตรงกับทางธนาคารหรือโทรติดต่อสอบถาม Call Center ค่ะ

 

ที่มา : ธนาคารกรุงเทพ

from:https://droidsans.com/bangkok-bank-adds-facial-recognition-process-for-security-upgrade/

ธนาคารกรุงเทพ จับมือ AIS เปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ใช้จ่ายสะดวก สะสมแต้ม AIS Points แลกสิทธิพิเศษสุดคุ้ม!

AIS จับมือ Co-Branding กับ BBL เปิดตัวบัตรเดบิต “Be1st Digital AIS POINTSใหม่ล่าสุดที่ผนึกกำลังระหว่างระบบความปลอดภัยสูงสุดมาตรฐานบริการทางการเงินจากธนาคารกรุงเทพ ร่วมกับสิทธิพิเศษจากคะแนนสะสมของ AIS Points  เพื่อพลิกโฉมประสบการณ์การช้อปปิ้งออนไลน์ของผู้ใช้งาน โดยทุกการช้อปออนไลน์ 200 บาท รับทันที 1 AIS Points สมัครวันนี้ฟรีค่าธรรมเนียมปีแรกด้วยนะ!

บัตร บีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์ ดีอย่างไร

ลายบัตร Be1st Digital AIS POINTS

บัตรเดบิต บีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์ มีให้เลือกทั้งหมด 4 ลายคาแรคเตอร์น้องอุ่นใจ มีทั้งแบบบัตรดิจิตอล และบัตรแข็งพลาสติกสามารถชำระเงินค่าสินค้า และบริการผ่านร้านค้าออนไลน์ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัยสูงใช้เทคโนโลยีเดียวกันกับบัตรบีเฟิสต์ดิจิทัล รองรับการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ครบถ้วน ทั้งเบิก โอน จ่ายที่ตู้ ATM หรือแตะจ่ายแบบ Contactless ก็ทำได้

พิเศษสำหรับบัตรรุ่นนี้ เมื่อใช้จ่ายช้อปปิ้งออนไลน์ด้วยบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS ครบทุก ๆ 200 บาท รับเอไอเอส พอยท์ 1 พอยท์ สะสมได้สูงสุด 100 พอยท์ต่อเดือน สามารถนำคะแนนไปรวมกับ AIS Points ในแอป myAIS ได้เลยทันทีเพียงคลิกเดียว ทำให้เก็บแต้มได้เร็วขึ้น และนำคะแนนไปแลกรับสิทธิพิเศษได้ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม รวมถึงส่วนลดร้านค้าต่าง ๆ จาก 1.8 ล้านร้านค้าได้ทั่วประเทศ

วิธีสมัครใช้บริการ

หากใครสนใจสมัครใช้บริการ สามารถดาวน์โหลดแอป Bualuang mBanking และสมัครใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันได้เลย เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้

วิธีสมัคร Be1st Digital AIS POINT

  • เลือกเมนู บัญชี กดเข้าหน้าบัญชีที่ต้องการสมัคร (หรือจะเปิดบัญชี E-Saving ใหม่ผ่านแอปก็ได้)
  • เลือกเมนู จุดไข่ปลา 3 จุด ( ••• ) ที่มุมบนขวามือของหน้าจอ
  • เลือกเมนู จัดการบัตรเดบิต จากนั้น เลือกสมัครบัตรเดบิต

  • เลือกหน้าบัตร 1 จาก 4 ลายที่ชื่นชอบ
  • ตรวจสอบข้อมูลที่อยู่ หากต้องการบัตรแข็งให้กดระบุ (มีค่าธรรมเนียมออกบัตร 100 บาท)  หลังจากนั้นให้ตรวจสอบเงื่อนไข และกดยอมรับเงื่อนไข
  • กรอกเบอร์มือถือ AIS ที่ต้องการผูกกับบัตรเดบิต

  • ตรวจสอบข้อมูลการสมัคร และกดยืนยันจากนั้นใช้งานบัตรได้เลยทันที

เปิดบัตร Be1st Digital AIS POINTS วันนี้ฟรีค่าธรรมเนียมรายปี

สิทธิพิเศษ Be1st Digital AIS POINTS

พิเศษสำหรับผู้ที่สมัครบัตร บีเฟิสต์ ดิจิทัล เอไอเอส พอยท์ ตั้งแต่วันนี้ – 31 สิงหาคม 2566 จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย อาทิเช่น ยกเว้นค่าธรรมเนียมปีแรก 300 บาท และหากเป็นลูกค้าใหม่ที่มีการเปิดบัญชี e-Saving บนแอปธนาคารกรุงเทพ และใช้ช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านบัตรตามเงื่อนไขที่กำหนด ก็จะได้รับ AIS Points 200 แต้มทันที

ส่วนลูกค้าปัจจุบันของธนาคารกรุงเทพก็ไม่ต้องน้อยใจไป เพราะเมื่อสมัครบัตรพร้อมใช้จ่ายออนไลน์ครั้งแรกก็จะได้รับ 100 AIS Points ด้วยเช่นกัน และทุก ๆ การช้อปออนไลน์ผ่านบัตร 200 บาท จะได้รับ 1 เอไอเอส พอยท์ สูงสุด 100 พอยท์ ต่อบัตร / ต่อเดือนด้วยนะ

ใครสนใจอย่ารอช้าสามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ Bangkok Bank และดาวน์โหลดแอป Bualuang mBanking เพื่อสมัครใช้บริการได้เลย

Bualuang mBanking (Free, Google Play) →


‎Bualuang mBanking (Free, App Store) →

 

ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/be1st-digital-ais-points/

เปิดตัวบัตรเดบิต Be1st Digital AIS POINTS สมัครง่ายผ่านแอป Bualuang mBanking

27 มีนาคม 2566 ทาง AIS และธนาคารกรุงเทพได้ร่วมกันเปิดตั […] More

from:https://www.iphonemod.net/be1st-digital-ais-points-launch.html

แบงก์กรุงเทพออกแถลงการณ์ กรณีหมอลิลลี่ถูกตัดเงินค่า TikTok ads จากบัตรเครดิต ทั้งที่ไม่ได้ใช้

กรณีหมอลิลลี่ ที่ถูกตัดยอดเงินจากบัตรเครดิตแบงก์กรุงเทพ 2,675 เหรียญสหรัฐหรือประมาณ 90,558 บาทนั้น โดยมีข้อความรุบุว่าตัดจาก TikTok ads เป็นสกุลเงินดอลลาร์ โดยที่หมอลิลลี่ระบุว่า เป็นเรื่องแปลกมากเพราะไม่เคยยิงแอดผ่าน TikTok ด้วยตนเอง ไม่เคยผูกบัตรกับ TikTok เคยแต่ Gen Code ให้คนอื่นบูส 2 ครั้ง ไม่ได้ยิงแอดเอง

Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ
ภาพจาก Shutterstock

หมอลิลลี่เล่าว่า กำลังเล่นมือถืออยู่แล้วตกใจ ทำไมมียอดค่าใช้จ่ายจากบัตร BBL เพราะในรอบ 1 เดือนนี้ไม่เคยใช้บัตรใบนี้เลย พอดูข้อความก็ส่งมาจากธนาคารจริง ดูจากแอปธนาคารเงินก็โดนตัดจริง จึงรีบโทรแจ้งธนาคารให้อายัดบัตรให้ แต่เนื่องจากยอดต้องรอวันทำการที่ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์ 3-7 วันถึงจะตามเรื่องให้ได้ แต่จะโน๊ตไว้คร่าวๆ ว่าไม่ได้ใช้บัตร แต่ธนาคารยังไม่ได้ปฏิเสธยอดให้นั้น จนสุดท้ายได้คุยกับทางธนาคารและหมอลิลลี่ได้ขอจดหมายยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรว่าไม่ต้องจ่ายยอดหนี้และจะไม่โดนเรียกย้อนหลังและทำให้เสียเครดิตนั้น

ล่าสุด ธนาคารกรุงเทพออกแถลงการณ์แล้ว ดังนี้

เนื้อหาแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่มีข่าวใน Social Media เมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 ว่า ผู้ถือบัตรเครดิตของธนาคารถูกนำหมายเลขบัตรไปทำรายการในการซื้อโฆษณากับร้านค้าทางอินเตอร์เน็ต และได้รับ SMS จากทางธนาคาร  โดยผู้ถือบัตรได้ปฏิเสธการทำรายการต่อธนาคารในวันเดียวกัน  ธนาคารตรวจสอบแล้วได้ข้อยุติว่าผู้ถือบัตรไม่ต้องรับผิดชอบต่อรายการดังกล่าว

เนื่องจาก ระบบ Card Scheme ของ Visa และ MasterCard ที่ใช้กันในทุกประเทศ ได้อนุญาตให้ร้านค้าเลือกที่จะทำรายการ ทั้งแบบมีการยืนยันตัวตนโดยต้องใส่ OTP และรายการที่ใส่เฉพาะหมายเลขบัตรโดยไม่ใส่ OTP ในกรณีการทำรายการทางอินเตอร์เน็ตที่ใส่เฉพาะหมายเลขบัตรโดยไม่ใส่ OTP หากผู้ถือบัตรไม่ได้ทำรายการ สามารถปฏิเสธต่อธนาคารโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่ต้องรับผิดชอบต่อรายการดังกล่าว

กรณีการใช้บัตรเครดิตในการซื้อสินค้าและบริการทางอินเตอร์เน็ต ธนาคารมีระบบแจ้งเตือนลูกค้าที่ทำรายการทางอินเตอร์เน็ตทุกรายการ ด้วยการส่งผ่านทาง SMS และ/หรือ ข้อความแจ้งเตือน (Notification) ผ่าน Mobile Banking

นอกจากนี้  ธนาคารยังมีระบบ Monitor Fraud ดักจับรายการที่ผิดปกติ และบล็อกร้านค้าที่ต้องสงสัย รวมทั้งระบบ Mobile Banking มีฟังก์ชั่นให้ลูกค้าสามารถเปิด ปิดการใช้งานของบัตรได้ด้วยตนเอง เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกค้า ดังนั้น ลูกค้าผู้ถือบัตรของธนาคารควรเช็คสอบทาง SMS และ/หรือ ข้อความแจ้งเตือน (Notification) ผ่าน Mobile Banking ของธนาคารอย่างสม่ำเสมอ

Varanya Nganthavee

ที่มา – BBL

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post แบงก์กรุงเทพออกแถลงการณ์ กรณีหมอลิลลี่ถูกตัดเงินค่า TikTok ads จากบัตรเครดิต ทั้งที่ไม่ได้ใช้ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bangkok-bank-statement-after-credit-card-hacks/

ผลประกอบการ ธนาคารกรุงเทพ-กรุงศรีอยุธยา-ทีเอ็มบีธนชาต ประจำปี 2565

มาแล้ว ฤดูรายงานผลประกอบการธนาคารทั้งหลายของธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงศรีฯ และธนาคารทีเอ็มบีธนชาต ประจำปี 2565

BBL, Krungsri, TTB

ธนาคารกรุงเทพ กำไรเพิ่มขึ้น 10.6% หรือ 29,306 ล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิสำหรับปี 2565 จำนวน 29,306 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 24.4% ของปริมาณเงินให้สินเชื่อ อัตราดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 2.42% สอดคล้องกับทิศทางของอัตราดอกเบี้ย

ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง 30.0% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิลดลงจากธุรกิจหลักทรัพย์และบริการประกันผ่านธนาคารและบริการกองทุนรวม ด้านรายได้ค่าธรรมเนียมจากการอำนวยสินเชื่อและบริการการค้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้น ธนาคารเตรียมตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตคาดว่าจะเกิดขึ้น 32,647 ล้านบาท ลดลง 4.4% จากปีก่อน

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,682,691 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.6% มีเงินฝาก ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 จำนวน 3,210,896 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.7% จากสิ้นปี 2564

อัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับากอยู่ที่ 83.5% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ 19.1%, 15.7% และ 14.9% ตามลำดับ อยู่ในระดับสูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

คาดการณ์ ปี 2566

เศรษฐกิจไทยยังคงเชิญความเสี่ยงจากสภาวะเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอตัวลง ท่ามกลางดอกเบี้ยนโยบายที่ปรับตัวสูงขึ้นทั่วโลก ความไม่แน่นอนจากปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ยังยืดเยื้อ แต่การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจีน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนเศรษฐกิจไทยปี 2566 คาดว่านักท่องเที่ยวต่างชาติมากกว่า 20 ล้านคน คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 50% เทียบกับช่วงก่อนเกิดการระบาดของโควิด-19

BBL

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กำไรเพิ่มขึ้น 20% หรือ 30,713 ล้านบาท

เงินให้สินเชื่อของกรุงศรีเติบโตทั่วถึง ครอบคลุมลูกค้าทุกกลุ่ม ปี 2565 กำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติในปี 2565 จำนวน 30,713 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.9% หรือ 5,104 ล้านบาท จากปี 2564 ปัจจัยหลักมาจากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ สอดคล้องการเพิ่มขึ้นของเงินให้สินเชื่อและส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปรับตัวดีขึ้น กำไรสุทธิจากการขายหุ้นของบริษัท เงินติดล้อ ลดลง 9.1% หรือ 3,081 ล้านบาท

เงินให้สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น 3.1% หรือจำนวน 59,033 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม 2564 เพิ่มขึ้นครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้า สินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อเพื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อมขยายตัว 3.8% และ 5.3% ตามลำดับ

เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 1.4% หรือจำนวน 25,553 ล้านบาท จากสิ้นเดือนธันวาคม ปี 2564 มีปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของเงินรับฝากประเภทออมทรัพย์ ขณะที่ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้นจาก 3.24% เป็น 3.45% ในปี 2564

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย จากการดำเนินงานตามปกติ ลดลง 4.6% หรือ 1,561 ล้านบาท จากปี 2564 หากรวมรายการพิเศษจากกำไรเงินลงทุนขายหุ้นของเงินติดล้อ ปี 2564 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยลดลง 12,288 ล้านบาทหรือ 27.4%

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้อยู่ที่ 43.8% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานตามปกติ (ไม่รวมกำไรจากการขายหุ้นเงินติดล้อ) ที่ 43.2% ในปี 2564 ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ อยู่ที่ 2.32% เมื่อเทียบกับ 2.20% ปี 2564 ส่วนอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ อยู่ในระดับแข็งแกร่ง 167.4% ขณะที่อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (ของธนาคารอยู่ที่ 17.97% ลดลงจาก 18.53% ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564

คาดการณ์ ปี 2566

ปี 2566 มีหลายตัวแปรด้านความเสี่ยง ทั้งภาวะเศรษฐกิจถดถอย ปัญหาความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย แต่การท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะยังคงเป็นแรงสนับสนุนหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย กรุงศรีคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตได้ในอัตรา 3.6% ในปี 2566

Krungsri

ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต (TTB) กำไรเพิ่มขึ้น 36% หรือ 14,195 ล้านบาท

ผลการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง มีกำไรสุทธิรวม 14,195 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากปี 2564 ด้านคุณภาพสินทรัพย์ยังดูแลได้ดี โดยอัตราส่วนหนี้เสียอยู่ที่ 2.73% ลดลงจากปีที่แล้วและต่ำกว่ากรอบที่วางไว้

ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2565 เงินฝากอยู่ที่ 1,399 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากไตรมาสก่อน และ 4.5% จากปี 2564 ด้านสินเชื่ออยู่ที่ 1,376 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.3% เนื่องจากมีการชำระหนี้คืนจากธุรกิจรายใหญ่ ทั้งปียังคงเพิ่มขึ้น 0.4% YTD เป็นผลมาจากการเติบโตสินเชื่ออย่างระมัดระวัง เน้นที่สินเชื่อรายย่อยเป็นหลัก นำโดยสินเชื่อเช่าซื้อและสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย

รายได้มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้น รายได้ดอกเบี้ยสุทธิในไตรมาส 4 อยู่ที่ 13,826 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.6% QoQ หนุนโดยการเติบโตของสินเชื่อรายย่อยและการบริหารต้นทุนทางการเงินหลังการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก

รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยอยู่ที่ 4,014 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% QoQ จากรายได้ค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ปี 2565 ธนาคารมีรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ 65,852 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.5% จากปีก่อนหน้า ค่าใช้จ่ายดำเนินงาน 29,952 ล้านบาท ลดลง 4.1% YoY อัตราส่วนต้นทุนต่อรายได้ลดลงอยู่ที่ 45% ลดลงจาก 48% ของปี 2564

TTB

ที่มา – BBL, Krungsri, TTB

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ผลประกอบการ ธนาคารกรุงเทพ-กรุงศรีอยุธยา-ทีเอ็มบีธนชาต ประจำปี 2565 first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bbl-krungsri-and-ttb-announce-profit-in-2022/

เริ่มแล้ว! ธนาคารกรุงเทพปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ตามมติ กนง.

หลัง กนง. ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจาก 0.75% เป็น 1% ตอนนี้ธนาคารกรุงเทพเริ่มปรับปรับอัตราดอกเบี้ยตามแล้ว ทั้งเงินฝากและเงินกู้ มีผลพรุ่งนี้ 29 กันยายน 65

Bangkok Bank ธนาคารกรุงเทพ
ภาพจาก Shutterstock

ธนาคารกรุงเทพ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ เพื่อให้สอดคล้องกับคณะกรรมการนโยบายการเงินหรือ กนง. ด้านรัชนี นพเมือง รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ธนาคารประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้เพิ่มขึ้น

โดยอัตราดอกเบี้ยเงินฝากปรับเพิ่มขึ้น 0.15-0.50% ต่อปี ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ MLR หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) เพิ่มขึ้น 0.40% ต่อปี

เอ็มโออาร์ (MOR: Minimum Overdraft Rate) หรืออัตราอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี เพิ่มขึ้น 0.375% ต่อปี และเอ็มอาร์อาร์ (MRR: Minimum Retail Rate) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี เพิ่มขึ้น 0.30% ต่อปี โดยมีผลตั้งแต่พรุ่งนี้ 29 กันยายน 2565

ทางแบงก์กรุงเทพระบุว่า การปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้กลุ่มผู้ฝากเงิน และเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบกับกลุ่มเปราะบาง ในด้านเงินกู้ ธนาคารจึงปรับอัตราดอกเบี้ย MRR ในอัตราน้อยกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อื่นๆ

ที่มา – BBL

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post เริ่มแล้ว! ธนาคารกรุงเทพปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ ตามมติ กนง. first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bbl-raise-interest-rate/

BBL ชวนลูกค้าปรับโมเดลธุรกิจสู่ความยั่งยืน ตามเจตนารมณ์ด้าน ESG

นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารให้ความสำคัญกับดำเนินธุรกิจเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งรวมถึงเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-zero Emission) ผ่านเจตนารมณ์ด้าน ESG หรือการคำนึงถึงประเด็นพื้นฐานทั้ง 3 มิติ ได้แก่ มิติสิ่งแวดล้อม (Environmental) มิติสังคม (Social) และมิติธรรมาภิบาล (Governance)

โดยได้ประยุกต์แนวทางดังกล่าวเข้ากับรูปแบบการดำเนินธุรกิจด้านการเงินธนาคาร รวมถึงประสานการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการเพื่อพัฒนาเครื่องมือสำหรับการประเมินความเสี่ยงทางกายภาพของภาวะโลกร้อน (Physical risk) และความเสี่ยงจากการปรับเปลี่ยนสู่สังคมคาร์บอนต่ำ (Transition risk)

ขณะเดียวกัน ธนาคารยังได้ทำงานร่วมกับลูกค้าเพื่อปรับเปลี่ยน Business Model ที่จะนำไปสู่อนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน โดยธนาคารให้การสนับสนุนทั้งด้านการเงินและการให้คำแนะนำที่จะช่วยให้ลูกค้าพัฒนากระบวนการทางธุรกิจเพื่อความยั่งยืนของกิจการ

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงเทพได้ดำเนินการในหลากหลายด้าน เพื่อสนับสนุนภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งลูกค้าและสังคม ให้สามารถมุ่งสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนร่วมกันใน 8 มิติ ประกอบด้วย 

1.) การให้สินเชื่ออย่างมีความรับผิดชอบ โดยเฉพาะการพัฒนากระบวนการบริหารและเครื่องมือที่ช่วยประเมินความเสี่ยงด้าน ESG 

2.) การสนับสนุนการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะในปี 2564 ที่ธนาคารผู้รับประกันการจัดจำหน่าย (Underwriter) ตราสารเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Bond ในสัดส่วนถึง 66% ของมูลค่าตราสารดังกล่าว

3.) บริการสินเชื่ออนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อมสำหรับเอสเอ็มอี เป็นสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับธุรกิจที่ต้องการลงทุนด้านธุรกิจที่ไม่ก่อให้เกิดมลพิษ 

4.) การสนับสนุนเอสเอ็มอี ภาคเกษตรกรรมและชุมชน ผ่านการสร้างเครือข่าย ‘บัวหลวงเอสเอ็มอี’ และ ‘โครงการเกษตรก้าวหน้า’ 

5.) การสนับสนุนการศึกษาและการพัฒนาเยาวชน สนับสนุนตั้งแต่การสร้างโรงเรียนในพื้นที่ชนบท การพัฒนาศักยภาพบุคลากรครู และความรู้ด้านการเงิน 

6.) การดูแลกลุ่มเปราะบาง ด้วยการส่งเสริมการเข้าถึงบริการทางการเงินอย่างเท่าเทียมสำหรับผู้ด้อยโอกาสและผู้พิการ

7.) การอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปะและวัฒนธรรม ด้วยการจัดกิจกรรมและประกวดเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนตระหนักและเห็นคุณค่าด้านศิลปะและวัฒนธรรมของไทย

8.) การทำนุบำรุงศาสนา โดยในด้านพิธีการทางศาสนาและการสนับสนุนการศึกษาตามหลักสูตรคณะสงฆ์

“ธนาคารกรุงเทพมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ในด้าน ESG แต่กระบวนการเหล่านี้ธนาคารคงไม่สามารถทำตามลำพังได้ หากแต่เราได้พยายามประสานความร่วมมือกับทุกฝ่าย ทั้งผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการที่มีข้อมูลความรู้ ทั้งลูกค้าที่ต้องตระหนักถึงความสำคัญถึงประเด็นเหล่านี้และยินดีปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจไปด้วยกัน เพราะแน่นอนว่า ในหลายๆ กระบวนการทำงานแบบใหม่ อาจมีต้นทุนเพิ่มและสุดท้ายก็ต้องถูกส่งต่อไปถึงลูกค้าที่ปลายทางของห่วงโซ่อุปทานในที่สุด รวมถึงอาจทำให้ธุรกิจมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นด้วย”

from:https://www.thumbsup.in.th/bbl-to-esg?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=bbl-to-esg

CPF จับมือ BBL ธนาคารกรุงเทพ หนุนคู่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต้นทุนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ

ธนาคารกรุงเทพ จับมือกับ CPF ให้คู่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุนวงเงินสูง ต้นทุนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน

BBL x CPF

ธนาคารกรุงเทพ​ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด หรือซีพีเอฟ เปิดตัวโครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” มอบสินเชื่อหมุนเวียนด้วยดอกเบี้ยพิเศษ สำหรับคู่ค้า CPF

จรัมพร โชติกเสถียร กรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ระบุ ธนาคารกรุงเทพมีความยินดียิ่งที่ได้ร่วมพัฒนาต่อยอดความร่วมมือกับ CPF เพื่อสนับสนุนคู่ค้าให้สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มีต้นทุนต่ำ เสริมสภาพคล่องทางการเงิน ผ่านบริการสินเชื่อหมุนเวียนของธนาคารกรุงเทพ โดยธนาคารจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาและระบบงานดิจิทัลเข้ามาสนับสนุนคู่ค้าสามารถใช้บริการได้สะดวก รวดเร็วและได้รับประโยชน์เต็มที่

ด้านพิพัฒน์ อัสสมงคล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ระบุว่า ภายใต้ความร่วมมือาดังกล่าว ธนาคารได้ออกแบบสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจ ด้วยอัตราดอกเบี้ยพิเศษสำหรับคู่ค้าของ CPF ให้วงเงินสูง อนุมัติไว ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน ลูกค้าสามารถเบิกใช้วงเงินได้ง่าย ชำระคืนได้ทุกวัน ตรวจสอบวงเงินออนไลน์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เบาใจได้เรื่องภาระดอกเบี้ย

ขณะที่ประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารมีคู่ค้าที่ผลิตวัตถุดิบและสินค้าต่างๆ กว่า 10,000 ราย ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตและส่งมอบอาหารคุณภาพปลอดภัยให้ผู้บริโภคได้ต่อเนื่อง การร่วมมือกันระหว่าง CPF x BBL นี้ จะช่วยให้คู่ค้าสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำ

จะช่วยให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนดีขึ้น สามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่องโดยเฉพาะผู้ประกอบการ SME คิดเป็น 60% ของจำนวนคู่ค้าทั้งหมด เป็นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากโครงการนี้เพราะเป็นกลุ่มที่มีโอกาสน้อยในการเข้าถึงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษได้มีโอกาส เติบโตและยกระดับเป็นผู้ผลิตขนาดใหญ่ในอนาคต

BBL x CPF

ธิดารัตน์ เดชายนต์บัญชา รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านจัดซื้อพัสดุครุภัณฑ์ ซีพีเอฟ ระบุ โครงการ CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า เป็นอีกแนวทางที่ช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินในการดำเนินธุรกิจให้แก่คู่ค้าได้เข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น เป็นสินเชื่อหมุนเวียนที่มีอัตราดอกเบี้ยพิเศษโดยเฉพาะธุรกิจ SME

โครงการ “CPF x BBL เสริมสภาพคล่อง…เคียงข้างคู่ค้า” คือการต่อยอดจากโครงการ Faster Payment ที่ CPF ดำเนินการตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคม 2563 ต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2565 นี้ เป็นโครงการที่คู่ค้าของ CPF ลดระยะเวลาเครดิตเทอมเหลือภายใน 30 วัน เพื่อช่วยเหลือคู่ค้า SME จำนวน 6,000 รายที่ได้รับผลกระทบจากโควิดมีสภาพคล่อง มีเงินหมุนเวียนในการทำธุรกิจโดยไม่หยุดชะงัก รักษาการจ้างงานและฟื้นเศรษฐกิจในภาพรวมได้ดีขึ้น

ที่มา – BBL

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post CPF จับมือ BBL ธนาคารกรุงเทพ หนุนคู่ค้าเข้าถึงแหล่งเงินทุน ต้นทุนต่ำ ดอกเบี้ยพิเศษ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/cpf-collaboration-bbl-support-sme/

ธนาคารกรุงเทพ แจ้งเลื่อนปิดปรับปรุงระบบ บริการทุกประเภทของธนาคารสามารถใช้งานได้ตามปกติ

สืบเนื่องจากที่ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ได้แจ้งขอปิดให้บริการชั่วคราว เพื่อปรับปรุงระบบ และเพิ่มประสิทธิภาพการบริการ ที่ได้กำหนดไว้เดิมในคืนวันเสาร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 22.30 น. ถึง เช้าวันอาทิตย์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2564 เวลา 10.30 น. นั้น

ธนาคารขอเลื่อนการปิดปรับปรุงระบบดังกล่าว เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันและตอบรับกับมาตรการและข้อปฏิบัติต่างๆ ตามแนวทางควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ที่ศูนย์ปฏิบัติการ ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) กำหนดไว้ จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย โดยธนาคารจะแจ้งกำหนดการใหม่ในโอกาสต่อไป

โดย บริการทุกประเภทของธนาคาร สามารถใช้งานตามปกติ   

ธนาคารขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้ กรณีมีความประสงค์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อ บัวหลวงโฟน โทร.1333 หรือ 0 2645 5555./

from:https://www.thumbsup.in.th/bbl-annoucement?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=bbl-annoucement

ธนาคารกรุงเทพ แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกปี 64 กำไร 6,923 ล้านบาท

bbl

ธนาคารกรุงเทพและบริษัทย่อยรายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 1 ปี 2564 จำนวน 6,923 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,525 ล้านบาท จากไตรมาส 4 ปี 2563 โดยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.3 จากค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย

เงินรับฝากลดลงจากการบริหารต้นทุนเงินรับฝาก และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิอยู่ที่ร้อยละ 2.17 สำหรับรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.4 จากค่าธรรมเนียมการให้บริการกองทุนรวมและบริการประกันผ่านธนาคาร และค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักทรัพย์ ขณะที่ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานลดลง ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้จากการดำเนินงานอยู่ที่ร้อยละ 51.1 ทั้งนี้ ธนาคารยังคงตั้งสำรองตามหลักความระมัดระวังอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจำนวน 6,326 ล้านบาท

ธนาคารกรุงเทพยังคงดำรงฐานะการเงิน สภาพคล่อง และเงินกองทุนให้อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง ตามแนวทางการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวังและรอบคอบ เพื่อรองรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่ยังมีความไม่แน่นอนสูง

ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2564 ธนาคารมีเงินให้สินเชื่อจำนวน 2,369,276 ล้านบาท อยู่ในระดับใกล้เคียงกับสิ้นปี 2563 สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อรวมอยู่ที่ร้อยละ 3.7 ลดลงเล็กน้อยจากสิ้นปีก่อน โดยธนาคารยังคงให้ความสำคัญในการดูแลกระบวนการอำนวยสินเชื่อและบริหารความเสี่ยง ทั้งนี้ อัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตต่อเงินให้สินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตอยู่ที่ร้อยละ 187.3

ด้านสภาพคล่อง ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ธนาคารมีเงินรับฝากจำนวน 2,904,276 ล้านบาท เพิ่มขึ้น

ร้อยละ 3.3 จากสิ้นปี 2563 โดยเพิ่มขึ้นจากเงินรับฝากทุกประเภท สำหรับอัตราส่วนเงินให้สินเชื่อต่อเงินรับฝาก

อยู่ที่ร้อยละ 81.6 สะท้อนถึงสภาพคล่องที่เพียงพอในการรองรับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

ด้านเงินกองทุน ณ วันที่ 31 มีนาคม 2564 ธนาคารมีอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้น อัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 และอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นส่วนของเจ้าของต่อสินทรัพย์เสี่ยงของธนาคารและบริษัทย่อยอยู่ที่ร้อยละ 18.4 ร้อยละ 15.9 และร้อยละ 15.1 ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าอัตราส่วนเงินกองทุนขั้นต่ำตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ธนาคารกรุงเทพ แจ้งผลประกอบการไตรมาสแรกปี 64 กำไร 6,923 ล้านบาท first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/bbl-q1-2021/