คลังเก็บป้ายกำกับ: XIAOMI_MI_6

Xiaomi เตรียมอัปเดตฟีเจอร์ Face Unlock ปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้าให้กับ Mi 6 และ Mi Mix 2 เร็วๆ นี้

Xiaomi ได้เปิดตัวการปรับปรุงรอม MIUI ในสัปดาห์ที่ 367 โดยหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าสนใจคือ เพิ่มการอัปเดตฟีเจอร์ Face Unlock หรือการปลดล็อคหน้าจอด้วยใบหน้าให้กับสมาร์ทโฟน Xiaomi จำนวน 2 รุ่นคือ Mi 6 และ Mi Mix 2 หลังจากที่ Redmi Note 5 Pro เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Xiaomi ที่มาพร้อมฟีเจอร์นี้

mi 6

สำหรับฟีเจอร์ Face Unlock ที่จะอัปเดตเพิ่มให้กับ Mi 6 และ Mi Mix 2 นั้นใข้กล้องหน้าเซลฟี่ในการระบุองต์ประกบอบางส่วนของใบหน้าผุ้ใช้เช่น ผิวหน้า และริ้วรอย

mi mix 2

ซึ่งถ้าเทียบกับฟีเจอร์สแกนม่านตา (iris scanner) และระบบจดจำใบหน้า 3D Facial Recognition จะมีระดับความลปอดภัยที่น้อยกว่า เนื่องจากใบหน้าของคนที่คล้ายกันสามารถปลดล็อคด้วยฟีเจอร์ Face Unlock ได้

Face Unlock

ทั้งนี้ Xiomi ได้เริ่มปล่อยอัปเดต MIUI ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Face Unlock ให้กับผู้ใช้ Mi 6 และ Mi Mix 2 ในประเทศจีนแล้ว โดยหลังจากที่อัปเดตเรียบร้อยแล้ว ให้เข้าไปที่เมนู “Settings” แล้วเลือกที่ “lock screen, password and fingerprint” และเลือก “Add face data” เพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้

ส่วนผู้ใช้ Mi 6 และ Mi Mix 2 ในบ้านเราอดใจรออีกนิดนะครับ คาดว่าจะได้อัปเดตเร็วๆ นี้กัน

ที่มา : Gizchina

 

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Xiaomi ได้ที่นี่ >>> https://goo.gl/dy1V0y

 

from:http://mobileocta.com/upcoming-miui-update-to-add-face-unlock-to-xiaomi-mi-6-mi-mix-2/

เปรียบเทียบประสิทธิภาพ Snapdragon 845 vs Snapdragon 835 จากแอพพลิเคชั่น AnTuTu

Qualcomm เปิดตัวชิปประมวลผล Snapdragon 845 เมื่อเดือนธันวาคม 2017 แต่ยังไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนในตลาดที่ได้รับชิปรุ่นใหม่ แต่ก็ใกล้ถึงเวลาเปิดตัวแล้วในเร็วๆ นี้ โดย Xiaomi Mi Mix 2S อาจเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มากับชิป Snapdragon 845 หลังจากพบว่ามีการทดสอบแล้วบนแอพพลิเคชั่น AnTuTu

Snapdragon 845 ใช้เทคโนโลยีการผลิต 10 นาโนเมตร เช่นเดียวกับ Snapdragon 835 แต่มีประสิทธิภาพดีกว่าอย่างชัดเจน หลังจากนำชิปทั้ง 2 รุ่น มาเปรียบเทียบกันโดยใช้คะแนนจากแอพพลิเคชั่น AnTuTu เป็นเกณฑ์ตัดสิน

เปรียบเทียบครั้งนี้ใช้คะแนนจากสมาร์ทโฟน Xiaomi Mi 6 ที่ใช้ชิป Snapdragon 835 ความจำ RAM 6GB กับ Xiaomi Mi Mix 2S ที่ใช้ชิป Snapdragon 845 แต่ไม่ทราบขนาด RAM

คาดว่า เราจะได้เห็นสมาร์ทโฟนที่มากับชิปประมวลผลรุ่นใหม่ของ Qualcomm เปิดตัวในปลายเดือนกุมภาพันธ์นี้ ที่งาน Mobile World Congress 2018

ที่มา – wccftech

from:http://www.flashfly.net/wp/208087

Xiaomi เริ่มปล่อยอัพเดต Android 8.1.11 Oreo เวอร์ชั่น Global Beta ให้กับ Mi 6 แล้ว

หลังจากที่ทาง Xiaomi ได้ประกาศรับสมัครผู้ทดสอบเบต้า Android 8.0 Oreo สำหรับ Mi 6 ไปเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา ล่าสุดได้เริ่มปล่อยอัพเดต Android 8.1.11 Oreo เวอร์ชั่น Global Beta ให้กับ Mi 6 แล้ว

Mi 6

สำหรับผู้ใช้ Mi 6 (เครื่องนอกที่ไม่ใช Global ROM ) ทีมีการอัพเดต MIUI 9 ไปก่อนหน้านี้ และต้องการอัพเดต Android 8.1.11 Oreo เวอร์ชั่น Global Beta จะต้องอัพเดตเป็น MIUI 9 Global Beta ROM v7.12.14 บนพื้นฐานระบบปฎิบัติการ Android 7.0 Nougat ก่อน โดยทำตามขั้นตอนดังนี้

ขั้นตอนที่ 1
ดาวน์โหลดไฟล์ MIUI Recovery ROM 7.12.14 (Android N) 

Recovery 1567M
http://bigota.d.miui.com/7.12.14/miui_MI6Global_7.12.14_94bf868f69_7.1.zip

Fastboot 2012M
http://bigota.d.miui.com/7.12.14/sagit_global_images_7.12.14_20171214.0000.00_7.1_global_f7ec16d0bb.tgz

เปลี่ยนชื่อไฟล์ ROM ที่ดาวน์โหลดมาเป็น “update.zip” บนคอมพิวเตอร์ 

ขั้นตอนที่ 2
เชื่อมต่อ Mi 6 กับเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ้คที่ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows โดยใช้สาย microUSB และคัดลอกไฟล์ ROM ที่ดาวน์โหลด และเปลี่ยนชื่อในขั้นตอนที่ 1 ลงใน root directory ของที่จัดเก็บข้อมูลภายในของเครื่อง (อย่าใส่ลงในโฟลเดอร์ใด ๆ )

ขั้นตอนที่ 3
เข้าสู่โหมด Recovery mode บนเครื่อง Mi 6 สามารถทำได้ 2 ​​วิธีคือ

วิธีที่ 1 : เปิดแอป “Updater” บนเครื่อง Mi 6 แล้วคลิกไอคอน ‘… ‘ ที่มุมขวาบนและเลือก ‘Reboot to Recovery mode’ เพื่อเข้าสู่โหมด Recovery mode

วิธีที่ 2: ปิดเเครื่อง Mi 6 จากนั้นให้กดปุ่ม Volume + และปุ่ม Power ค้างไว้พร้อมกันเพื่อเข้าสู่โหมด Recovery mode

ขั้นตอนที่ 4
ในโหมด Recovery mode สามารถใช้ Volume +/- เพื่อเลือกขึ้น/ลง และปุ่ม Power เพื่อกดยืนยัน
หลังจากเข้าสู่โหมด Recovery mode เลือกภาษาที่คุณใช้เลือก “ติดตั้ง update.zip ไปที่ System One” แล้วกดยืนยัน จากนั้นเครื่องของคุณจะเริ่มการอัพเดตอัตโนมัติ รอจนกว่าการอัพเดตจะเสร็จสิ้นให้เลือก ‘Reboot to System One’ จากนั้นเครื่องของคุณก็จะบู๊ตเป็น Android เวอร์ชันใหม่

ส่วนผู้ที่ใช้ Mi 6 เวอร์ชั่น MIUI 9 Global Beta ROM อยู่ สามารถอัพเดตเป็น Android 8.1.11 Oreo เวอร์ชั่น Global Beta ผ่านทาง OTA ได้ทันที

ทั้งนี้ ก่อนอัปเดตให้ทำการสำรองข้อมูลที่อยู้ในเครื่อง Mi 6 ไว้ก่อน เพราะ Android 8.1.11 Oreo เวอร์ชั่น Global Beta สำหรับ Mi 6 นี้ยังเป็นแค่เวอร์ชุ่ั่นเบต้าไม่ใช่เวอร์ชั่น Global Stable หรือเวอร์ชั่นสมบูรณ์ที่เสถียร ดังนั้นอาจจะมีบั๊กอยุ่ และคาดว่าเวอร์ Glovla Stable จะปล่อยออกมาเร็วๆ นี้ ซึ่งถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะมารายงานให้ทราบกันต่อไป

ที่มา  : en.miui.com

from:http://mobileocta.com/xiaomi-mi6-gets-android-oreo-global-beta-rom/

iPhone 8 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่แบตอึดที่สุดเท่าที่เคยมี iPhone มา แต่ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ใช้เวลาชาร์จนานที่สุดเท่าที่เคยมี iPhone มาเช่นกัน

ในช่วงแรกของการขาย iPhone รุ่นใหม่ จะเห็นได้ว่าสาวกต่างเข้าคิวจะซื้อ iPhone 8 Plus มากกว่ารุ่นหน้าจอเล็กกว่าอย่าง iPhone 8 นั่นก็เพราะว่า แฟนๆชื่นชอบฟีเจอร์ที่เหนือชั้นมากกว่า ด้วยสุดยอดเทคโนโลยี กล้องคู่ (dual-camera) แต่ iPhone 8 ได้เพียงกล้องตัวเดียวเท่านั้น , แล้วก็อีกจุดที่เด็ดกว่าก็คือ แบตเตอรี่บิ๊กบึ้ม ที่ช่วยให้ใช้งานได้อึดกว่า iPhone 8 ถึง 25% (คหสต. : อาจจะเพราะว่าแฟนๆที่เคยซื้อรุ่นเก่าๆ คงเบื่อกับการวิ่งหาปลั๊กไฟ ตอนใช้งานนอกบ้านแล้วมั้ง?) ซึ่งส่งผลให้ 8 Plus เป็นไอโฟนที่แบตอึด ถึก ทน ที่สุดเท่าที่ทางเว็บ phonearena เคยทดสอบมา เอ้าาาา รออะไร ปรบมือสิ (แปะๆๆๆๆๆ)

ด้วยเหตุนี้จึงต้องยก ความดีความชอบ ให้กับชิปเซ็ตมหาเทพจิ๋วแต่แจ๋วอย่าง A11 Bionic  ที่ขนาดเพียง 10 นาโนเมตร แต่พลังแรงเหลือเชื่อ แถมยังกินแบตน้อยลง ถ้าเพื่อนๆยังจำที่เราเคยเขียนข่าวไปแล้วว่า คะแนนเทสสูงเหนือกว่า Android ตัวท็อปเกิน 50% ได้นะ ซึ่งเพื่อนๆคอมเมนท์เข้ามาแสดงความเห็นแบบถล่มทลาย จนแฟนเพจ Appdisqus แทบล่ม เช่น “ซื้อมาทำไมแพงๆ สุดท้ายก็เล่นแต่ facebook” , “เราใช้มือถือไม่กี่พันก็ตอบโจทย์แล้ว” ประมาณนี้นะครับ ลองเลื่อนๆหาดูในแฟนเพจเราเอาเองนะ ^^

กลับมาเล่าข่าวกันต่อ … ซึ่งสาเหตุที่แท้จริงว่าทำไม Apple ต้องทำชิปแรงนรก นั่นก็เพราะ ต้องการจะตอบโจทย์ผู้ใช้ที่ “เล่นเกมหนักๆกราฟฟิกเทพๆ , ใช้งาน AR และ ตัดต่อคลิปความละเอียด 4K เป็นต้น” แต่ว่าสเปคในภาพรวมของ 8 Plus เช่น สัดส่วนหน้าจอ , จำนวน RAM และ Software ยังคงเหมือนกับ iPhone 7 Plus ส่วนแบตของ 8 Plus มีความจุ 2,691 mAh แต่กลับใช้งานแบตได้นานกว่าแบตของ 7 Plus ที่มีความจุมากกว่าที่ 2,900 mAh เราเลยต้องยกเครดิตให้ชิป A11 Bionic อีกครั้งครับ

ทดสอบการใช้งานแบต (ชั่วโมง) : ยิ่งมากยิ่งดี

ถ้าเพื่อนๆยังไม่เชื่อนะ เราก็มีผล test ให้ดูโดยการนำเอาสมาร์ทโฟนรุ่นระดับแนวหน้า มาเปรียบเทียบกัน ซึ่งในกลุ่มนี้ก็มีบางรุ่นที่ใช้หน้าจอละเอียดเช่น QuadHD ไม่ก็ QuadHD+ อยู่ด้วยซึ่งกินแบตมากกว่า หน้าจอ 1080p ของ iPhone 8 Plus และแน่นอนว่า ในกลุ่มมือถือนี้ก็ยังมีบางรุ่นที่ใช้หน้าจอ Full HD เช่น HTC U11 (แบต 3,000 mAh) และ Xiaomi MI6 นอกจากชิปเซ็ตแล้ว iOS 11 ยังช่วยจัดการพลังงานได้ดี จนทำให้ iPhone 8 Plus สามารถ standby ได้นาน 1 วันครึ่ง ถึง 2 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งานของเราว่าใช้เยอะแค่ไหน

ทดสอบการชาร์จแบต (นาที) : ยิ่งน้อยยิ่งดี

ในขณะเดียวกันเมื่อเปรียบเทียบเวลาชาร์จแบต ซึ่งขณะนี้ 8 Plus รองรับทั้ง wireless charging และระบบ Fast charge แล้วนะ ซึ่งช่วยให้แบตของ 8 Plus ขึ้นมาเป็น 50% ในเวลาครึ่งชั่วโมง แต่สาวกอย่าเพิ่งดีใจไป เพราะสายชาร์จนี้ไม่ได้แถมมาในกล่องนะ! ถ้าเพื่อนๆอยากได้อภิสิทธิ์นี้ คุณต้องซื้อแยกจ้า!!! เสียตังเพิ่มอีกแล้วตู ไม่งั้นก็ต้องทนกับการชาร์จแบบเดิมๆต่อไปนะจ๊ะ

from:https://www.appdisqus.com/2017/10/02/iphone-8-plus-battery-lasts-longest-ever.html

รีวิว : Xiaomi Mi 6 สมาร์ทโฟนเรือธงสุดหรู พร้อมกล้องคู่ และสเปกจัดเต็ม ในราคาสุดคุ้ม

เมื่อประมาณ 3-4 ปีทก่อนมีข่าวว่า Xiaomi แบรนด์มือถือชื่อดังจากแดนมังกรจะเข้ามาเปิดสาขาในไทย แต่ก็เงียบหายไป ทำให้มีแต่เครื่องหิ้วเข้ามา ล่าสุดเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Xiaomi ก็ได้ฤกษ์ประกาศการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะพันธมิตรด้านการจัดจำหน่าย

รวมถึงประกาศเปิดตัว Xiaomi Mi 6 พร้อมกับ Xiaomi Redmi Note 4 ซึ่งรุ่นที่นำมารีวิวคือ Xioami Mi 6 สมาร์ทโฟนเรือธง ที่มาพร้อมดีไซน์ระดับพรีเมี่ยมด้วยบอดี้กระจก พร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera และชิปเซ็ท Snapdragon 835 สุดแรง ในราคาสุดคุ้มเริ่มต้นเพียง 13,790 บาทเท่านั้น (RAM 6GB,ROM 64GB) นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย ว่าแล้วไปชมกันเลยดีกว่า

Xiaomi Mi 6

อุปกรณ์ในกล่อง

กล่องของ Xiaomi Mi 6 เป็นกล่องกระดาษแข็งสีขาว  ด้านหน้ากล่องตรงกลางมีเฉพาะโลโก้ Mi สีส้ม และมุมขวาด้านบนระบุ RAM 6GB, ROM 128GB ส่วนด้านข้างมีชื่อรุ่น Mi 6 และด้านหลังมีสเปกเครื่อง และรายละเอียดของผุู้ผลิต

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเห็นตัวเครื่อง Xiaomi Mi 6 พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ, สายดาต้าลิงค์ USB Type-C, เข็มจิ้มซิมการ์ด, ตัวแปลง USB Type-C เป็นช่องเสียบชุดหูฟัง 3.5 มม., เคสซิลิโคนไส และคู่มือการใช้งาน

รูปลักษณ์ดีไซน์

ตัวเครื่อง Xiaomi Mi 6 ใช้วัสดุที่ทำจากกระจกเคลือบด้วยสีดำเงางาม และไม่เป็นรอยนิ้วง่าย ด้านหลังออกมาให้โค้งมนสอดรับกับมือเวลาถือจับใช้งาน แต่ด้วยที่เป็นกระจกทำให้อาจลื่นมือได้ง่าย (แนะนำให้ใส่เคสป้องกันไม่ให้เครื่องตกนะครับ) ด้วยขนาด 145.17  x 70.49 x 7.45 มม. และน้ำหนัก 168 กรัม

รูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านบนมีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, ช่องลำโพงสนทนา และเซ็นเซอร์วัดระยะ และเซ็นเซอร์วัดแสง ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ขนาด 5.15 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจก Corning Gorilla Glass และกระจกขอบโค้ง 2.5D

ใต้หน้าจอตรงกลางมีปุ่มโฮมแบบสัมผัสที่ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือลงไปด้วย นอกจากนี้ที่ด้านข้างทั้ง 2 ด้านของปุ่มโฮมยังมีปุ่ม Recent Apps กับปุ่มย้อนกลับ ซึ่งถ้าไม่แตะใช้งานก้จะมองไม่เห็นว่ามีปุ่มนี้อยุ่ โดยจะเป็นจุดไฟ LED สีขาวโชว์ขึ้นมาเมื่อใช้นิ้วแตะใช้งาน

พลิกมาด้านหลังเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากกระจกเคลือบมันวาวสีดำ โดยมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องคู่ Dual Camera ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล โดยมีไฟแฟลชคู่ LED อยู่ด้านซ้าย และตรงกลางด้านล่างมีโลโก้ Mi

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีช่องใส่ซิมการ์ด ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบนาโน

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบนมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง กับพอร์ตอินฟราเรด

ด้านล่าง ตรงกลางมีพอร์ต USB Type-C และขนาบข้างด้วยช่องลำโพงสเตอริโอ

สเปก Xiaomi Mi 6
ขนาด 145.17  x 70.49 x 7.45 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 168 กรัม
หน้าจอ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล ขนาด 5.15 นิ้ว พร้อมกระจกขอบโค้ง 2.5D
หน่วยประมวลผล Octa-Core ความเร็ว 2.45GHz, ชิปเซ็ท Snapdragon 835, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 540
RAM 6GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 64GB
microSD Card
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังคู่ Dual Camer พร้อมไฟแฟลชคู่ LED โดยกล้องหลักเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้าน พิกเซล, 6 ชิ้นเลนส์, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 4 แกน, รูรับแสง f/1.8 กล้องรองเลนส์เทเลโฟ้โต้ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, 5 ชิ้นเลนส์, โหมดพอร์ตเทรตพร้อมเบลอพื้นหลัง, รูรับแสง f/2.6 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ระบบปฏิบัติการ Android 7.1.1 Nougat พร้อม MIUI 8.2 Global version
เชื่อมต่อ รองรับ 802.11a/b/g/n เครือข่ายไร้สายสองย่านความถี่ 2×2 802.11ac MU-MIMO Wi-Fi,
Wi-Fi Display, Wi-Fi Direct, Bluetooth 5.0/ Bluetooth HID, NFC, USB Type-C
รองรับระบบ 4G LTE Band 1/3/5/7/8/38/39/40/41, CAT. 12 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 3,350 mAh
ราคา 13,790 บาท

ประสิทธิภาพ

Xiaomi Mi 6 ใข้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.45GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 835, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 540, RAM 6GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 64GB

หลังจากที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า สามารถใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม  และเกม ที่มีภาพกราฟิกสูงแบบสามมิติ สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วง หรือกระตุกให้เห็น และถ้าเล่นนานๆ เครื่องจะร้อน และกินเแบตเตอรี่พอสมควร แต่โดยรวมถือว่าสอบผ่าน

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 6 ผ่านแอป Antutu

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Xiaomi Mi 6 ผ่านแอป Geekbench 4

ด้านการถ่ายภาพ

Xiaomi Mi 6 มาพร้อมกล้องหลังคู่ Dual Camera พร้อมไฟแฟลชคู่ LED โดยกล้องหลักเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 12 ล้าน พิกเซล, 6 ชิ้นเลนส์, ระบบป้องกันภาพสั่นไหว 4 แกน, รูรับแสง f/1.8 กล้องรองเลนส์เทเลโฟ้โต้ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล, 5 ชิ้นเลนส์, Optical Zoom 2X, โหมดพอร์ตเทรตพร้อมเบลอพื้นหลัง, รูรับแสง f/2.6 สำหรับภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4032 x 3016 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4K

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมโหมด Smart Beauty

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่มีขนาดความจุ 3,350 mAh ทดสอบโดยลองใช้งานเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G/4G และ Wi-Fi ใช้งานอินเทอร์เน็ต เล่นเกม และใช้งานทั่วไป ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ 1 วันสบายๆ ถือว่าการจัดการพลังงานทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว แต่ถ้าใช้งานหนักๆ เล่นเกมหรือดูหนังแบตก็จะลดลงอย่างรวดเร็วเลย ในส่วนของการชาร์จนั้นรองรับการชาร์จเรฺ็ว Quick Charge 4.0 และมีโหมดประหยัดพลังงาน Battery Saver ที่ยืดอายุการใช้งานได้นานขึ้นเมื่อแบตใกล้หมด

บทสรุป่

Xiaomi Mi 6 ถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่มาพร้อมบอดี้กระจกสวยหรู ดีไซน์ระดับพรีเมี่ยม และด้วยขนาดไม่ใหญ่เกินไป ทำให้ถือจับใช้งานมือเดียวได้อย่างสบาย นอกจากนี้ยังอัดแน่นด้วยสเปกการใช้งานอย่างครบครันอีกด้วย และประสิทธิภาพของระบบซอฟต์แวร์ MIUI ที่มีฟีเจอร์น่าสนใจมากมาย และมีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง หลายอย่างนอกจากความสวยงาม

ทังนี้ Xiaomi Mi 6 วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยพร้อมประกันศูนย์ 1 ปี โดยมีอยู่ 2 รุ่นคือ รุ่นความจุ 64GB ราคา 13,790 บาท และรุ่นความจุ 128GB ราคา 15,990 บาท และมี 2 สีให้เลือกคือ ดำและน้ำเงิน ใครสนใจสามารถคลิกซื้อออนไลน์ได้ที่นี่ >>> https://goo.gl/hP5TcT

from:http://mobileocta.com/review-xiaomi-mi-6/

AIS วางขาย Xiaomi Mi 6 และ Redmi Note 4 แล้ว

AIS ประกาศให้เปิดจองและเตรียมจำหน่ายสมาร์ทโฟน Xiaomi แบรนด์ดังจากจีน ผ่าน AIS Online Store ซึ่ง ณ ตอนนี้มี 2 รุ่น คือ Xiaomi Mi 6 ตัวเรือธง และ Redmi Note 4 รุ่นจอใหญ่ราคาถูก พร้อมโปรโมชั่นผ่อน 0% นาน 10 เดือน

Xiaomi Mi 6 ราคา 13,790 บาท

  • หน้าจอ 5.15 นิ้ว
  • ซีพียู Snapdragon 835
  • แรม 6GB
  • ความจุ 64GB
  • กล้องหลัง (กล้องคู่) 12 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล
  • แบตฯ 3,350 mAh

Redmi Note 4 ราคา 6,790 บาท

  • หน้าจอ 5.5 นิ้ว
  • ซีพียู Snapdragon 625
  • แรม 4GB
  • ความจุ 64GB
  • กล้องหลัง (กล้องคู่) 13 ล้านพิกเซล
  • กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล
  • แบตฯ 4,100 mAh

from:http://www.9tana.com/node/ais-xiaomi/

Xiaomi Mi 6 มือถือเรือธงสุดงาม กล้องคู่พร้อมสเปกจัดเต็ม ราคาคุ้มค่าหายห่วง

สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน วันนี้กลับมาพบกันอีกแล้วกับบทความรีวิวมือถือจากผมนาย laruku เมื่อเร็วๆนี้ทาง Xiaomi ได้เข้ามาเปิดตัวในประเทศไทยอย่างเป็นทางการไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย หลังจากที่รอให้เหล่าแฟนๆรอมานานแสนนาน พร้อมนำมือถือเรือธงตัวล่าสุด Mi 6 เข้ามาจำหน่ายในราคาเริ่มต้นเพียง 13,790 บาทเท่านั้น เรามาดูรายละเอียดความน่าสนใจของรุ่นนี้กันดีกว่า

สำหรับเครื่องที่นำมารีวิวให้อ่านกันในวันนี้เป็นเครื่องหิ้วที่ซื้อมาใช้งานได้สักพักแล้วนะครับ ไม่ใช่เครื่องศูนย์ไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ROM ที่ใช้งานเป็น Global ROM เหมือนกับเครื่องที่เข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนี่แหละ ดังนั้นรายละเอียดต่างๆคงไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

 

สเปกของ Mi 6

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : Mi 6
  • ขนาด : 145.17 x 70.49 x 7.45 มม.
  • น้ำหนัก : 168 กรัม
  • หน้าจอ :
    • IPS LCD
    • ขนาด 5.15 นิ้ว
    • ความละเอียด FullHD (1920 x 1080)  
    • 428 PPI
    • ความสว่างสูงสุด 600-nit
    • Contrast ratio 1500:1
    • 94.4% NTSC color gamut, high color saturation
  • เครือข่ายที่รองรับ:
    • 4G : FDD-LTE 850 / 900 / 1800 / 2100 / 2600MHz , TD-LTE : 1900+ / 2300 / 2500 / 2600MHz
    • 3G : WCDMA 850 / 900 / 1900 / 2100
    • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900
  • SIM : 2 SIM แบบ NanoSIM (Dual Standby)
  • CPU : Qualcomm Snapdragon 835 octa-core 2.45GHz
  • GPU : Adreno 540
  • RAM : 6GB
  • หน่วยความจำภายใน : 64GB/128GB UFS 2.1 ไม่รองรับ microSD card
  • กล้องหลัง :
    • กล้องคู่ตัวหลัก Wide angle 12 ล้านพิกเซล  
      • เซ็นเซอร์เลนส์ 6 ชิ้น, f/1.8 aperture
      • OIS 4 แกน
      • ขนาดพิกเซล 1.25μm
      • Focal length 27mm
    • กล้องคู่ตัวรอง Telephoto 12 ล้านพิกเซล
      • เซ็นเซอร์เลนส์ 5 ชิ้น, f/2.6 aperture
      • Optical Zoom 2X
      • ขนาดพิกเซล 1.0μm
      • Focal length 52mm
      • Portrait mode
    • ระบบโฟกัส PDAF
    • แฟลชแบบ Two-tone
  • กล้องหน้า :
    • 8 ล้านพิกเซล
  • แบตเตอรี่ : 3350mAh
  • OS : Android 7.1.1 Nougat พร้อม MIUI 8.2 Global version
  • สแกนลายนิ้วมือ : มี
  • NFC : มี
  • OTG : มี
  • ไฟแจ้งเตือน : มี
  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:
    • GPS, A-GPS, GLONASS, BeiDou
    • Wi-Fi 802.11a/b/g/n Dual-band และ 2×2 802.11ac MU-MIMO Wi-Fi
    • Bluetooth 5.0
    • USB Type-C
    • Accelerometer, Ambient Light, Proximity, Gyroscope, Hall sensor, Compass, Barometer
  • สีที่มีให้เลือก : Black, Blue, White
  • ราคา :
    • รุ่น 64GB 13,790 บาท
    • รุ่น 128GB 15,990 บาท

mi-6-review-colors

 

แกะกล่อง

สำหรับแพ็คเกจของ Mi 6 นั้นนั้นมาพร้อมกล่องสีขาวเรียบๆ ไม่มีอะไรพิเศษ ดู minimal ดี

mi-6-review-unbox01

 

อุปกรณ์ที่แถมมา โดยในกล่องประกอบด้วยของดังต่อไปนี้

  • ตัวเครื่อง Mi 6
  • Adapter สำหรับชาร์จ
  • สาย USB
  • เข็มจิ้มถาดซิม
  • ตัวแปลง USB C เป็นหูฟัง 3.5 มม.
  • เคสซิลิโคนใส
  • คู่มือการใช้งานเบื้องต้น

mi-6-review-unbox02

 

Adapter สำหรับชาร์จที่ให้มารองรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 เรียบร้อย จ่ายไฟได้ 3 ระดับคือ 5V===3A / 9V===2A / 12V===1.5A

mi-6-review-unbox03

 

สายข้อมูลแบบ USB Type-A to Type-C

mi-6-review-unbox04

 

ตัว Adapter แปลง USB Type-C เป็นรูหูฟัง 3.5 มม.

mi-6-review-unbox05

 

เคสซิลิโคนใสตรงรุ่น ตัดช่อง เจาะรูมาเป๊ะแล้ว (ก็มันตรงรุ่น)

mi-6-review-unbox06

 

จะเห็ว่าของแถมในกล่องของ Mi 6 นั่นให้มาค่อนข้างครบ ยกเว้นที่หายไปคือ หูฟัง smalltalk ที่ทาง Xiaomi ไม่แถมอยู่แล้วในมือถือทุกรุ่น เพื่อเป็นการประหยัดต้นทุน และโดยส่วนใหญ่คนใช้มักจะมีหูฟังที่ใช้ประจำอยู่แล้ว ก็เลยไม่แถมมาให้ครับ

 

Hardware

Mi 6 นั้นมีขนาดหน้าจอเพียง 5.15 นิ้ว ถือว่าเป็นมือถือเรือธงขนาดเล็กอีกหนึ่งรุ่นในตลาด เพราะไม่ค่อยมีคนทำมือถือสเปกแรงๆ แต่หน้าจอเล็กสักเท่าไหร่ เมื่อบวกกับขอบบางๆของหน้าจอ จึงทำให้ตัวเครื่องเล็ก สามารถจับได้ถนัดมือมาก วัสดุที่ใช้เป็นกระจกทั้งสองด้านหน้าและหลัง โดยเครื่องรีวิวเป็นรุ่นสีน้ำเงิน ตัวเฟรมของเครื่องเป็นโลหะสีทอง ตัดกับสีน้ำเงิน สวยงามมากๆครับ  งานประกอบก็แน่นหนาดีมาก เนื่องจากไม่สามารถแกะฝาหลังเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ น้ำหนักถือว่าไม่หนักไม่เบากำลังพอดี จับถือได้ง่าย ไม่หลุดมือแน่นอน    

mi-6-review-hardware01

 

ส่วนบนของหน้าจอประกอบด้วยกล้องหน้า, ช่องเซ็นเซอร์ Proximity กับ Ambient Light และ ลำโพงสนทนา

mi-6-review-hardware02

 

ส่วนล่างของหน้าจอมีปุ่มสัมผัส 3 ปุ่มได้แก่ Recents และ Back ขนาบอยู่ 2 ข้างของปุ่ม Home ที่เป็นเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือในตัว

mi-6-review-hardware03

 

พลิกมาด้านล่างของตัวเครื่องได้เห็นเฟรมโลหะสีทองแบบชัดๆ สวยจริงๆ ด้านล่างประกอบด้วย ไมโครโฟนสำหรับสนทนา, พอร์ต USB Type-C และลำโพงสำหรับเสียงเรียกเข้า

mi-6-review-hardware04

 

ด้านบนของตัวเครื่องพอร์ตอินฟราเรด และรูเล็กๆนั่นคือ ไมค์ตัดเสียงรบกวน หายากแล้วครับมือถือเรือธงมี Infrared ด้วยเนี่ย

mi-6-review-hardware05

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีช่องถาดซิมที่ต้องใช้เข็มจิ้มออกมา

mi-6-review-hardware06

 

ด้านขวาของตัวเครื่องมีการจัดเรียงปุ่มตามมาตรฐานของ Android คือ ปุ่มปรับเสียงอยู่ด้านบนและปุ่ม Power อยู่ถัดลงมา

mi-6-review-hardware07

 

พลิกมาดูด้านหลังตัวเครื่องได้เห็นงานออกแบบสีน้ำเงินตัดทองแบบชัดเจน สวยสดงดงามจริงๆ ชมแล้วชมอีก

mi-6-review-hardware08

 

ซูมเข้ามาส่วนบนจะเป็นกล้องคู่ Dual camera 12MP+12MP มีการจัดเรียงไม่เหมือนใคร ถัดไปด้านซ้ายเป็นส่วนของไฟแฟลชแบบ Two-tone

mi-6-review-hardware09

 

ส่วนล่างมีเพียงตัวอักษรโลโก้ mi สีทอง และประโยคด้านล่างที่บอกอย่างภูมิใจว่า

“Designed by Xiaomi Assembled in China”

mi-6-review-hardware10

 

ถาดซิมของ Mi 6 เป็นแบบ 2 ซิม โดยเป็น NanoSIM ทั้งสองช่อง รุ่นนี้ไม่รองรับ microSD อ้อ ระบบ 2 ซิมของรุ่นนี้เป็นแบบ 4G ทั้ง 2 ซิม Full netcom ด้วยครับ

mi-6-review-hardware11

 

โดยรวมงานออกแบบของรุ่นนี้ถือว่า ทำได้โดดเด่นมาก ทั้งการเลือกสีและวัสดุที่ใช้ สีน้ำเงินเข้มตัดด้วยสีทองดูแล้วสวยเด่นแปลกตา การใช้วัสดุกระจกรวมกับเฟรมโลหะก็ทำได้เนียนตา งานประกอบแน่นปัง รุ่นนี้ืถือแล้วสวยเตะตาคนแน่นอน

 

Software

Mi 6 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ MIUI 8.2 Global version ที่ทำงานอยู่บน Android 7.1.1 Nougat ถือเป็นเวอร์ชันเกือบล่าสุดแล้วเนื่องจาก Google เพิ่งเปิดตัว Android 8.0 Oreo อย่างเป็นทางการไปไม่นาน ในส่วนของ Security update ตอนที่รีวิวยังเป็นของเดือนพฤษภาคมอยู่ ถือว่าไม่ใหม่มาก ส่วนเรื่องการอัพเดตซอฟต์แวร์นั้นก็มีมาเรื่อยๆตามสไตล์ของ MIUI

mi-6-review-software01

MIUI

แน่นอนครับมือถือ Xiaomi ทุกรุ่นต้องมาพร้อมกับหน้าตา UI ที่เป็นเอกลักษณ์อยู่แล้ว โดยนอกจากหน้าตาที่ดูสวยงามแลัวยังอัดแน่นมาด้วยฟีเจอร์ที่น่าสนใจหลายๆอย่างเลยทีเดียว และเนื่องจากรุ่นนี้เป็น Global version จึงรองรับภาษาทั่วโลกรวมถึงภาษาไทย และไม่มีการเจือปนด้วยแอปภาษาจีนใดๆทั้งสิ้นครับ

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

สำหรับ MIUI ถือว่าเป็น Android UI รุ่นแรกๆที่ไม่มี App Drawer มาให้ใช้งานเลย คือจะเน้นการใช้งานแบบเดียวกับ iOS เป็นหลัก ดังนั้นแอปทุกแอปจะวางเรียงบนหน้า Homescreen เลย เวลาเอาออกจากหน้าจอก็คือการ uninstall ออกจากเครื่องทันที ส่วนที่เหลืออย่าง Widget และ Shortcut ต่างๆ ก็ยังคงใช้งานเหมือนกับ Android ทั่วไป

 

Notification

สำหรับส่วนการแจ้งเตือนหรือ Notification ใน MIUI นั้น เราสามารถปรับค่าได้หลายอย่าง ทั้งในส่วนของ Layout ที่เลือกว่าจะเป็นแบบ Noti และ toggles อยู่รวมกัน (Combined) หรือแบบแยกคนละหน้า (Separate) นอกจากนั้นก็ปรับได้ว่าจะให้แอปไหนแสดงข้อความแจ้งเตือนได้บ้าง (App notifications) และจัดเรียงตำแหน่งของ toggles ต่างๆได้เอง

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

สำหรับส่วนของไฟแจ้งเตือน (Notification light) เราสามารถเลือกปรับได้ 2 อย่างคือ จะให้สว่างตอนชาร์จมือถือหรือไม่ และ จะให้กระพริบตอนมีข้อความแจ้งเตือนหรือไม่ สำหรับรุ่นนี้ปรับสีของไฟแจ้งเตือนไม่ได้เหมือนกับรุ่นล่างๆ เช่น Redmi 4A ที่ปรับได้ 7 สีเลย

mi-6-review-software11

 

MIUI Theme

ในเมื่อขึ้นชื่อว่ามือถือของ Xiaomi ก็ต้องมีระบบ Theme ของ MIUI มาให้ด้วยเป็นของคู่กัน ซึ่งต้องบอกว่ามี Theme สวยๆให้เลือกใช้งานมากมายเลย 1c]tน่าจะเป็น UI แรกๆของ Android ที่มีระบบ Theme เลยมั้ง สำหรับ Theme ก็จะเป็นการเปลี่ยนแทบทุกส่วนของ UI เลย ไม่ใช่เฉพาะ Icon และ Wallpaper เหมือนบางเจ้า

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

การปรับระบบภาพของหน้าจอ

Mi 6 อนุญาตให้เราสามารถปรับการแสดงผลหน้าจอให้เหมาะกับความชอบของเราได้ทั้งเรื่องความสว่าง (Brightness), โหมดสำหรับการอ่าน (Reading mode) รวมไปถึงการปรับสีและมิติของภาพ  (Colors & contrast) นั้นสามารถทำได้ในมือถือรุ่นเล็กแบบนี้ด้วยเช่นกัน โดย Contrast สามารถเลือกได้ว่าจะให้ปรับอัตโนมัติตามสภาพแสงหรือให้คงที่ก็ได้เช่นกัน นอกจากนั้นเรายังสามารถปรับขนาดตัวอักษร (Text size) และเปิดโหมด Double tap to wake ได้อีกด้วย

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

Security center

MIUI มาพร้อมกับแอป Security ที่เป็นศูนย์ฟีเจอร์หลายๆอย่าง ได้แก่

  • Cleaner : เอาไว้เคลียร์ขยะในหน่วยความจำของเครื่อง
  • Data usage : ตรวจเช็ครวมถึงบล็อคการใช้งานอินเตอร์เน็ตของแอปต่างๆ
  • Blocklist : บล็อคการโทรเข้าของเบอร์ที่ไม่ต้องการรับสาย
  • Battery : ตรวจสอบการใช้งานแบตเตอรี่พร้อมจัดการระบบประหยัดพลังงาน
  • Virus scan : ระบบสแกนไวรัส
  • Permissions : การจัดการสิทธิ์ของแอปในการเข้าถึงทรัพยากรในเครื่องของเรา

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

ฟีเจอร์เสริม Second space, Dual apps, App lock และ Child mode

ฟีเจอร์เสริมที่น่าสนใจของ MIUI มีอีกหลายอย่าง ได้แก่

  • Second space : เปิดพื้นที่ที่สองสำหรับการใช้งานมือถือ เสมือนเรามีมือถืออีก 1 เครื่อง แบ่งแยกแอปและพื้นที่การใช้งานออกจากกันชัดเจน และสามารถสลับไปมาได้ เช่น พื้นที่หลักเอาไว้ใช้งานส่วนตัว ส่วนพื้นที่รองเอาใช้ตอนทำงาน เป็นต้น
  • Dual apps : เราสามารถโคลนแอปบางอย่าง เช่น Facebook, Messenger และ Line ออกมาเป็นแอปอีก 1 อัน เพื่อให้เราสามารถใช้งานแอปเหล่านี้แบบ 2 ไอดีได้เลย
  • App lock : เราสามารถสั่งล็อคด้วยรหัสผ่านได้ เพื่อความเป็นส่วนตัว ไม่ให้คนอื่นมาเปิดแอปนั้นๆดูได้ตอนที่เอามือถือเราไปเล่น
  • Child mode : ปรับมือถือให้เหมาะกับเด็กเอาไปใช้งาน ในกรณีที่จะให้ลูกหลายยืมมือถือไปเล่น โดยเราสามารถเลือกแอป

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

Google apps และแอปเสริมอื่นๆ

Mi 6 มาพร้อมกับ MIUI Global version ดังนั้นจึงมาพร้อมกับแอปมาตรฐานของ Google อย่างครบครัน รวมไปถึง Play Store ด้วย นอกจากนั้นยังมีแอปเครื่องมือแบบมาตรฐานที่สามารถใช้งานได้จริง เช่น Calculator, Recorder, Scanner และ Compass เป็นต้น ไม่มี bloatware เจือปนมาแต่อย่างใด

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

ปัญหาความไม่เสถียรของ MIUI

MIUI 8.2 เวอร์ชันที่ใช้งานบนเครื่องนี้ดูเหมือนจะมีความไม่เสถียรอยู่ครับ จากการใช้งานไปสักพักมีหลายๆครั้งที่แอปเกิดการปิดตัวเอง หรือ Force close อยู่บ่อยๆ ทั้งที่ RAM 6GB ก็เหลือให้ใช้งานอีกมากมาย นอกจากนั้นตัว Theme เองก็ยังมี bug อยู่ในบางครั้งที่เปิดหน้าจอ Lockscree ขึ้นมาแล้วนาฬิกาหายไป ตรงนี้ต้องรอดูว่า Xiaomi จะมีการอัพเดตแก้ไขออกมาหรือไม่ ขอตั้งเป็นข้อสังเกตไว้ก่อน

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

ประสิทธิภาพการใช้งาน

Mi 6 เป็นมือถือเรือธงที่มีสเปกไม่น้อยหน้าเรือธงรุ่นอื่นในตลาด ไม่ว่าจะชิปเซต Qualcomm Snapdragon 835 Octa-core 2.45GHz และ GPU Adreno 540 ในส่วนของ RAM ก็จัดเต็มมาถึง 6GB ส่วน ROM มี 2 ขนาดแต่ก็จุเยอะมั้ง 64GB และ 128GB สำหรับการใช้งานทั่วไปถือว่าเกินพอ ไม่ต้องมี microSD ก็ได้ ประสิทธิภาพของมือถือรุ่นนี้ก็ตามสเปกเลยครับ ผลคะแนนทดสอบ benchmark ก็ได้ตามนี้

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

Antutu Benchmark

 

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

Geekbench 4 : CPU / GPU

 

ในส่วนของความเร็ว Storage จากการทดสอบด้วย AndroBench ก็ได้ความเร็วการอ่านข้อมูลประมาณ 720MB/s ถือว่าเป็น memory แบบ UFS 2.1 แน่นอนครับ

mi-6-review-perf08

 

สำหรับประสิทธิภาพของ Mi 6 จากการทดลองใช้งานจริงนั้น ต้องบอกว่าไม่ทำให้ผิดหวัง การใช้งานมีความลื่นไหล อาการกระตุกไม่มีให้เห็น การใช้งานปกติทั่วไป เรียกว่าเหลือๆ ส่วนการเล่นเกมก็สบายๆ ตามสไตล์มือถือเรือธง แต่มีข้อสังเกตนิดนึงเนื่องจาก ผมใช้ HTC U11 เป้นเครื่องหลักอยู่ เมื่อเทียบการใช้งานแล้วพบว่า U11 ยังลื่นไหลกว่า Mi 6 นิดๆ ทั้งที่ความละเอียดหน้าจอมากกว่าด้วยซ้ำ ตรงนี้เข้าใจว่า Xiaomi ยังจูนซอฟต์แวร์มาไม่สุด แต่แว่วๆว่า MIUI 9 ที่กำลังจะปล่อยอัพเดตมานั้น จะมายกระดับประสิทธิภาพไปอีกขั้นเลยล่ะ ต้องรอดูอีกทีครับ

 

GPS

สำหรับระบบ GPS ของ Mi 6 นั้นตอนแรกเข้าใจว่าจะไม่มีปัญหาอะไร เพราะมือถือระดับนี้ไม่น่าจะมีจุดอ่อนเรื่อง GPS ปรากฎว่า ไม่เป็นอย่างที่คิด เพราะ Mi 6 เครื่องที่รีวิวนั้นจับสัญญาณ GPS ได้ช้าและจับดาวเทียมได้ไม่กี่ดวงอีกต่างหาก พอเอาไปใช้นำทางก็ไม่ work ตำแหน่งไม่มีการเคลื่อนที่ไปตามรถ ต้องรอหลายนาที ถึงจะมีการขยับตามสักที ไม่แน่ใจว่าเป้นปัญหาซอฟต์แวร์หรือฮาร์ดแวร์ของเครื่องรีวิวนะครับ ตรงนี้ขอแจ้งข้อมูลไว้เป็นข้อสังเกต คนที่ซื้อเครื่องมาแล้วก็ลองดูว่าเป็นมั้ย

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

ความอึดของแบตเตอรี่

Mi 6 มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดถึง 3350mAh ถือว่ากำลังพอดีเมื่อเทียบกับขนาดและสเปกเครื่อง จากการใช้งานปกติของผมพบใช้งานได้ครบ 1 วันแบบสบายๆ ตั้งแต่เช้ายันดึกเหลือแบตอีก 20% ถือว่าอึดจริง ส่วนของ Screen on time นั้นทำได้ถึง 5 ชั่วโมง เรียกว่าน่าประทับใจมากเรื่องแบตเตอรี่ของมือถือรุ่นนี้ แถมยังมีระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 มาให้อีก ชาร์จเร็วได้ใจเลยครับ

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

กล้องถ่ายรูปและตัวอย่างภาพถ่าย

แน่นอนหนึ่งในจุดขายของมือถือรุ่นนี้คือ กล้องคู่ Dual Camera โดย Mi 6 มาพร้อมกล้องหลังคู่ 2 เซ็นเซอร์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล เท่ากัน แต่การใช้งานต่างกัน โดยกล้องตัวหลักเป็นเลนส์ wide ค่า aperture f/1.8 สามารถถ่ายในที่มืดได้ดีขึ้น มาพร้อมระบบกันสั่น OIS แบบ 4 แกน ส่วนกล้องตัวรองเป็นเลนส์ Tele สามารถซูมได้ 2X เน้นการถ่ายรูปแบบ Portrait เลยมีค่า f/2.6 ในส่วนของระบบโฟกัสเป็นแบบ PDAF มีแฟลชแบบ Two-tone มาให้ใช้งานด้วย

mi-6-review-camera01

 

สำหรับ UI ของกล้องนั้นก็ตามสไตล์ของ MIUI ด้านซ้ายมีปุ่มเปิดปิด HDR, ปุ่ม Portrait และเปิดปิดแฟลช ด้านขวามีปุ่มสลับกล้องหน้าหลัง, ปุ่มเลือกโหมดกล้อง และปุ่มเปิด Realtime Filter สำหรับโหมดกล้องก็มีให้เล่นหลายแบบ เช่น Beautify, Panorama และ Manual เป็นต้น ส่วน Filter ก็มีให้เลือกหลายโทนสีแล้วแต่สะดวกเลย

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

ในส่วนของ Settings สำหรับกล้องนั้นจะแยกกันระหว่างการถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอ รวมไปถึงกล้องหน้าด้วย โดยถ้าเราเปิดโหมดถ่ายรูปธรรมดาก็จะมี settings ชุดนึง ถ้าโหมดถ่ายวิดีโอก็จะมี settings อีกชุดนึงแยกกันนั่นเอง ส่วนค่า settings ที่เราปรับได้ก็มีเรื่องความละเอียดและสัดส่วนของรูปหรือวิดีโอ รวมไปถึงการเปิดปิดเสียงถ่ายรูปและการบันทึกตำแหน่งลงไปในรูป เป็นตัน

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

หน้าตาการซูมด้วยกล้อง Tele สามารถซูมได้สูงสุด 2X แบบภาพไม่แตกเลย

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

หน้าตาการถ่ายโหมด Portrait มีคำแนะนำให้วัตถุอยู่ห่างกล้องไม่เกิน 2 เมตร บางทีอยู่ใกล้เกินก็ถ่ายไม่ได้ต้องถอยห่างนิดนึง

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

โหมด Manual ของ Mi 6 ก็มีค่าให้ปรับได้หลายอย่าง ทั้ง WB, Focus, Exposure time (Shutter speed), ISO และเลือกเลนส์ Wide/Tele

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

แล้วก็ถึงเวลามาดูตัวอย่างภาพถ่ายกันแล้ว สำหรับ Mi 6 นั้นถือว่าเป็นกล้องที่ดีที่สุดของ Xiaomi เลยนะ ภาพที่ได้มีความคมชัด สีสันสวยงาม Dynamic range ถือว่าดี ส่วนของ HDR ถือว่าช่วยได้เยอะในการถ่ายรูปในสภาพแสงน้อยที่ในที่ร่มหรือวันฝนตก ภาพออกมาดีทีเดียว ส่วนภาพตอนกลางคืนถือว่าโอเค แต่ยังไม่ดีมากเท่าไหร่ ยังมี noise ให้เห็นค่อนข้างชัดเจน โดยรวมคุณภาพอาจยังไม่ถึงมือถือเรือธงยี่ห้ออื่น แต่ด้วยราคาระดับนี้ถือว่าคุ้มค่ามากแล้วครับ มาชมรูปตัวอย่างกันได้เลย

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

สำหรับการถ่ายรูปแบบ Portrait นั้นตอนแรกอาจจะถ่ายยากสักนิด เพราะเครื่องไม่สามารถจับวัตถุที่จะโฟกัสได้ พอใช้ไปสักพักก็เริ่มชืน ถ่ายได้สนุกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตามการเบลอฉากหลังบางครั้งยังไม่เนียน ต้องถ่ายซ้ำเรื่อยๆครับ

/* PhotoSwipe Plugin */
.psgal {
margin: auto;
padding-bottom:40px;

-webkit-transition: all 0.4s ease;
-moz-transition: all 0.4s ease;
-o-transition: all 0.4s ease;
transition: all 0.4s ease;

opacity:0.1;
opacity:1; text-align:center;

}

.psgal.photoswipe_showme{
opacity:1;
}

.psgal figure {
float: left;

float:none; display:inline-block;;

text-align: center;
width: 200px;

padding:5px;
margin: 0px;
box-sizing:border-box;
}
.psgal a{
display:block;
}

.psgal img {
margin:auto;
max-width:100%;
width: auto;
height: auto;
border: 0;
}
.psgal figure figcaption{
font-size:13px;
}

.msnry{
margin:auto;
}
.pswp__caption__center{
text-align: center;
}

 

บทสรุป

Mi 6 นับว่าเป็นมือถือที่น่าสนใจในการซื้อไปใช้งานรุ่นหนึ่ง ด้วยสเปกระดับเรือธง งานออกแบบตัวเครื่องที่สวยงามและพรีเมียมพอสมควร มือถือขนาดไม่ใหญ่ ใช้งานมือเดียวสบาย และแบตเตอรี่ที่อึดพอสมควร ในส่วนของกล้องถือว่าทำได้ดีมากในราคาระดับนี้ ถึงแม้จะไม่ดีเท่ามือถือเรือธงยี่ห้ออื่น ร่วมด้วยประสิทธิภาพของระบบซอฟต์แวร์ MIUI ที่มีฟีเจอร์น่าสนใจหลายอย่างนอกจากความสวยงาม ขอสรุปข้อดีและจุดที่ควรปรับปรุงไว้ดังนี้

 

ข้อดี

  • งานออกแบบสวยงาม งานประกอบดี แข็งแรงมาก
  • กล้องคู่ดีที่สุดของ Xiaomi
  • ประสิทธิภาพลื่นไหล ใช้งาน เล่นเกมสบายๆ
  • แบตเตอรี่อึดเกินคาด
  • MIUI Global หน้าตาสวยงาม ฟีเจอร์หลากหลาย
  • ราคาสุดคุ้มค่า

 

จุดที่ควรปรับปรุง

  • ความเสถียรของซอฟต์แวร์
  • GPS มีปัญหา
  • กล้องยังดีได้อีก เมื่อเทียบกับเรือธงยี่ห้ออื่น
  • ประสิทธิภาพยังรีดได้อีก เมื่อเทียบกับเรือธงยี่ห้ออื่น

 

Mi 6 วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทยพร้อมประกันศูนย์ 1 ปี โดยมีอยู่ 2 รุ่นคือ รุ่นความจุ 64GB ราคา 13,790 บาท และรุ่นความจุ 64GB ราคา 15,990 บาท มี 2 สีให้เลือกคือ ดำและน้ำเงิน สำหรับคนที่สนใจสามารถหาซื้อได้แล้วทางออนไลน์ผ่าน Xiaomi Official Store ส่วนทางร้านออฟไลน์ก็มีผ่านร้าน IT City ครับ ในส่วนของรีวิวผมขอจบเพียงเท่านี้ กลับมาเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ สวัสดีครับ

mi-6-review-end

from:https://droidsans.com/xiaomi-mi-6-review/

เสี่ยวมี่ประกาศรุกตลาดไทย พร้อมเปิดตัว Xiaomi Mi 6 และ Redmi Note 4 วางจำหน่าย 25 สิงหาคมนี้

เสี่ยวมี่ หนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ประกาศการเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ภายใต้ความร่วมมือกับบริษัทวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะพันธมิตรด้านการจัดจำหน่าย 

ผู้บริหารของเสี่ยวมี่ และวีเอสที อีซีเอส ระบุว่าทั้งสองบริษัทจะร่วมมือกันเปลี่ยนความคาดหวังของผู้ใช้งานที่มีต่อเทคโนโลยีระดับโลกและคุณสมบัติการใช้งานกับราคาที่ต้องแลก โดยตั้งเป้าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ตลาดสมาร์ทโฟนไทย ผ่านการจัดจำหน่าย ส่งเสริมการตลาด และสนับสนุนด้านบริการหลังการขายให้แก่ผลิตภัณฑ์ของเสี่ยวมี่ในประเทศไทย

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ของเสี่ยวมี่จะจัดจำหน่ายผ่านทั้งช่องทางออฟไลน์ ณ ร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ผ่านความร่วมมือกับลาซาด้า ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซชั้นนำในประเทศไทย

เสี่ยวมี่ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2553 โดยนักประกอบการเหลย จุน บนพื้นฐานวิสัยทัศน์ในการสร้างที่ว่า “นวัตกรรมสำหรับทุกคน” และได้เปิดตัวอินเตอร์เฟส MIUI รุ่นแรกบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ในปี พ.ศ. 2553  และเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกในปีถัดมา ปัจจุบันเสี่ยวมี่เป็นผู้สร้างสรรค์สินค้ามากมาย อาทิ สมาร์ทโฟนตระกูล Mi และ Redmi รวมถึง Mi ทีวี และเซ็ตท็อปบ็อกซ์ Mi เราเตอร์

และผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม Mi อีโคซิสเต็ม เช่น ผลิตภัณฑ์สำหรับบ้านอัจฉริยะ (smart home) ผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีสำหรับสวมใส่ และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ดังที่รู้กันดีว่าเสี่ยวมี่นั้นมีปรัชญาการดำเนินธุรกิจที่ยึดผู้ใช้งานเป็นศูนย์กลางและขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม ดังนั้นบริษัทจึงสานต่อความมุ่งมั่นนี้โดยขยายธุรกิจออกไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยซึ่งเป็นศูนย์กลางของภูมิภาคอาเซียนก็เป็นอีกหนึ่งตลาดสำคัญของเสี่ยวมี่ ผู้บริหารของเสี่ยวมี่กล่าว

นายโดโนวาน ซง ผู้อำนวยการฝ่ายผลิตภัณฑ์และการตลาด เสี่ยวมี่ โกลบอล กล่าวว่า “แนวทางของเสี่ยวมี่ในการเอาชนะใจผู้บริโภคคือการนำเสนอเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในราคาที่ไม่สามารถหาได้จากที่ไหน ผลิตภัณฑ์ของเสี่ยวมี่ล้วนแล้วแต่ใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นนำของตลาด ในราคาที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้

ส่วนผสมนี้จะเป็นปัจจัยที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในตลาด ทำให้ผู้คนปรับเปลี่ยนความคาดหวังที่มีต่อบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เทคโนโลยี เสี่ยวมี่จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้ส่งมอบความคาดหวังใหม่นี้ให้แก่ประเทศไทย”

เสี่ยวมี่แต่งตั้งบริษัทวีเอสที อีซีเอส ซึ่งมีประวัติการดำเนินงานที่แข็งแกร่งมาตลอดช่วงเวลากว่า 3 ทศวรรษในประเทศไทย อีกทั้งยังมีผลงานการให้บริการหลังการขายเป็นที่ประจักษ์ผ่านวีเซิร์ฟพลัส (VServePlus) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ รวมถึงสาขาต่างๆ ของบริษัทรวม 10 แห่งทั่วประเทศที่พร้อมให้บริการด้วยทีมงานวิศวกรและเจ้าหน้าที่ดูแลลูกค้ามืออาชีพ

“เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับเสี่ยวมี่ ซึ่งเป็นมากกว่าบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟน แต่เป็นผู้นำด้านบริการดิจิทัล และอินเทอร์เน็ต อ็อฟ ธิงส์ (IoT) เพื่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง ปรัชญาการดำเนินธุรกิจและสายผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายของเสี่ยวมี่นั้นน่าทึ่ง ดังจะเห็นได้จากผลิตภัณฑ์ที่เปี่ยมด้วยนวัตกรรมต่างๆ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอีโคซิสเต็ม ที่พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับยุคดิจิทัลและเทรนด์ใหม่ๆ

จึงเชื่อมั่นว่าเสี่ยวมีจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน นอกจากนี้การแต่งตั้งวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ยังเป็นการสนับสนุนมี่แฟน (Mi Fans) ในประเทศไทยอีกทางหนึ่ง โดยเราจะทำทุกวิถีทางให้มี่แฟนได้รับบริการหลังการขายอันเป็นเลิศและเชื่อถือได้จากการสั่งสมประสบการณ์มากว่า 30 ปีในตลาดสินค้าไอที” นายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานบริหาร บริษัทวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

ภายในงาน เสี่ยวมี่ยังประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง พร้อมกัน 2 รุ่น ได้แก่ Mi 6 และ Redmi Note 4 ซึ่งมีจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

Mi 6 เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอกย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมทางเทคโนโลยีและการทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงนวัตกรรมเหล่านั้นมากที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ ด้วยชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 บนเทคโนโลยีการประมวลผลสุดล้ำระดับ 10 นาโนเมตร จึงเป็นการยกระดับสมรรถนะการทำงานของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน Mi 6 มาพร้อมกับกล้องคู่อ็อพติคัลซูม เพื่อการถ่ายภาพวัตถุที่อยู่ไกลได้อย่างคมชัดยิ่งขึ้น และภาพถ่ายบุคคลที่คมชัดมีมิติแบบหน้าชัดหลังเบลอ

นอกจากนี้เสี่ยวมี่ยังได้เพิ่มแรมขึ้นไปเป็น 6GB ทั้งสำหรับรุ่นหน่วยความจำ 64GB และ 128GB โดย Mi 6 รุ่นสีดำที่มาพร้อมแรม 6GB หน่วยความจำ 64GB จะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 25 สิงหาคม เป็นต้นไปทางลาซาด้า และร้านอุปกรณ์ไอทีต่างๆ อาทิ ที่ไอที ซิตี้ ในราคา 13,790 บาท

ส่วนรุ่นแรม 6GB หน่วยความจำ 128GB ที่มาในสีน้ำเงินสุดหรู ราคา 15,990 บาท พร้อมเปิดให้จองได้แล้วตั้งแต่วันนี้ (24 สิงหาคม) และจะวางจำหน่ายที่ลาซาด้า ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน เป็นต้นไป และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเฟซบุ๊กเสี่ยวมี่ประเทศไทย (Mi Thailand: www.facebook.com/thailand.xiaomi)

“คนไทยขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในชนชาติที่ชื่นชอบสมาร์ทโฟน เราจึงตื่นเต้นมากที่ได้นำ Mi 6 มายังประเทศไทย” นายโดโนวานกล่าว “นอกจาก Mi 6 จะเป็นสุดยอดสมาร์ทโฟนด้านสมรรถนะด้วยขุมพลังจากชิป Snapdragon 835 แล้ว ยังเป็นแบบอย่างของการพัฒนาด้านดีไซน์อย่างต่อเนื่อง และการผลักดันเทคโนโลยีด้านวัสดุ

ตัวเครื่องที่ประกอบอย่างไร้รอยต่อด้วยกระจกและเซรามิกขอบโค้งทั้ง 4 ด้าน เราจึงมั่นใจว่า Mi 6 และ Redmi Note 4 จะได้รับความนิยมอย่างล้นหลามจากผู้ที่รักเทคโนโลยี รักงานดีไซน์ชั้นเลิศ และผู้ที่รักความคุ้มค่า”

สำหรับ Redmi Note 4 นั้นมาพร้อมกับชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 ส่งผลให้การทำงานรวดเร็วและไม่สะดุด ชุดชิป Snapdragon 625 นี้เป็นชิปชุดแรกในกลุ่มเดียวกันที่ใช้เทคโนโลยีการประมวลผล FinFET ระดับ 14 นาโนเมตร ส่งผลให้ใช้พลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าชิปที่ใช้เทคโนโลยีระดับ 28 นาโนเมตร เมื่อทำงานร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 4100 mAh จึงทำให้ Redmi Note 4 สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวันด้วยการชาร์ตเพียงครั้งเดียว Redmi Note

4 รุ่นแรม 4GB หน่วยความจำ 64GB มีให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ ทอง ดำ และเทาเข้ม พร้อมวางจำหน่ายทางลาซาด้า วันที่ 25 สิงหาคม และร้านอุปกรณ์ไอทีต่างๆ เช่น ไอที ซิตี้ วันที่ 28 สิงหาคม ในราคาเพียง 6,790 บาท     

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของสมาร์ทโฟน Mi 6:

  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835 บนเทคโนโลยีการประมวลผลระดับ 10 นาโนเมตร (Octa-core, ความเร็วสูงสุด 2.45GHz.)
  • แบตเตอรี่ความจุ 3350mAh ใช้งานต่อเนื่องได้ตลอดทั้งวัน
  • กล้องหลังคู่ เลนส์มุมกว้างความละเอียด 12 ล้านพิกเซล และเลนส์ทางไกลความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • ตัวเครื่องกระจกขอบโค้ง 3 มิติ ทั้ง 4 ด้าน กรอบสแตนเลส สตีลให้ความเงางาม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 5.15 นิ้ว คมชัดระดับ Full HD ลดแสงสะท้อน
  • ลำโพงคู่ให้เสียงในระบบสเตอริโอ
  • แรม LPDDR4x ขนาด 6GB และหน่วยความจำ 64GB หรือ 128GB
  • ป้องกันละอองและหยดน้ำ
  • เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหน้าของตัวเครื่องแบบฝังใต้กระจกหน้าจอ
  • มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สีดำ (6GB+64GB) และสีน้ำเงิน (6GB+128GB)
  • ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ 13,790 บาท

ข้อมูลผลิตภัณฑ์ที่สำคัญของสมาร์ทโฟน Redmi Note 4:

  • ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 625 เทคโนโลยีการประมวลผล FinFET ระดับ 14 นาโนเมตร (8 แกน ความเร็วสูงสุด 2.0GHz.)
  • แบตเตอรี่ความจุ 4100mAh
  • กล้องถ่ายรูปความละเอียดสูง 13 ล้านพิกเซล ระบบเซ็นเซอร์ CMOS และ ระบบโฟกัสอัตโนมัติแบบ PDAF กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
  • ตัวเครื่องทำจากโลหะเกรดพรีเมียมและดีไซน์เส้นขอบอลูมิเนียมเงางาม
  • หน้าจอแสดงผลขนาด 5.5 นิ้ว, ระบบ 2 ซิมการ์ด (นาโนซิมและไมโครซิม)
  • รองรับเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง LTE และเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยเสียงผ่านสัญญาณอินเทอร์เน็ต (VoLTE)
  • แรม 4GB + หน่วยความจำ 64GB
  • เพิ่มหน่วยความจำได้สูงสุด 128GB ด้วย microSD
  • ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือ จากด้านหลังตัวเครื่อง
  • พอร์ต อินฟราเรด
  • มีให้เลือกมากถึง 3 สี ได้แก่ ดำ เทาเข้ม และทอง
  • ราคาจำหน่ายปลีกแนะนำ 6,790 บาท

from:http://mobileocta.com/xiaomi-announced-the-thai-market/

ภาพหลุด Xiaomi Mi 6C คาดมากับชิปที่พัฒนาขึ้นเอง จัดแรมสูงสุด 6GB พร้อมรอม 128GB กล้องเลนส์คู่

xiaomi-6c-back-pcture

Xiaomi Mi 6C ถูกอ้างว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางของเรือธง Mi 6 ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และล่าสุดได้มีการแชร์ภาพหลุดออกมาแล้ว พร้อมข้อมูลทางเทคนิค ด้านการออกแบบ Mi 6C ใช้วัสดุอลูมิเนียม คลุมทับด้วยกระจก 2.5D และไม่มีช่องเสียบแจ๊คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

Xiaomi Mi 6C มาพร้อมกล้องดิจิตอลเลนส์คู่ 12 ล้านพิกเซล (Sony IMX386) กล้องเซลฟี่ 5 ล้านพิกเซล อาจใช้ชิปประมวลผลของตัวที่ ที่มีชื่อว่า Surge S2 ซึ่งถือเป็นชิปรุ่นที่สองถัดจาก Surge S1 ที่ฝังอยู่ในรุ่น Mi 5C ผลิตโดย TSMC ใช้เทคโนโลยี 16 นาโนเมตร ประมวลผลด้วย ARM Cortex-A73 2.2GHz Quad Core + ARM Cortex-A53 1.8 GHz Quad Core พร้อมด้วยจีพียู Mail G71MP12 830MHz สนับสนุนความจำแบบ LPDDR4 และ UFS2.1

คาดว่า Xiaomi Mi 6C จะมีให้เลือก 2 เวอร์ชั่น คือ RAM 4GB จับคู่กับ ROM 64GB ราคา 1,999 หยวน หรือราว 9,900 บาท และ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 128GB ราคา 2,499 หยวน หรือราว 12,370 บาท

xiaomi-6c-front

xiaomi-mi-6c-leak

ที่มา – MyFixGuide

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=189656

เผยสเปค Xiaomi Mi 6C มาพร้อมชิป Surge S2 และกล้องหลังคู่ ราคาเริ่มต้นที่ 10,XXX บาท

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา Xiaomi ได้ทำการพัฒนาชิป Surge S1 ขึ้นเอง และได้นำไปใช้กับมือถือระดับกลางอย่าง Xiaomi Mi 5c แต่ยังไม่หยุดอยู่แค่นั้น เพราะในเวลาแค่ครึ่งปี Xiaomi ก็กำลังพัฒนาชิปตัวใหม่ Surge S2 เพื่อเตรียมมาใช้ในมือถือสเปคกลางรุ่นล่าสุดอย่าง Xiaomi Mi 6C ที่คาดว่าจะเปิดตัวปลายปีนี้อีกด้วย

จากข้อมูลที่ได้มา Xiaomi Mi 6C จะเป็นมือถือที่มีการดีไซน์ตัวเครื่องคล้ายๆกับเรือธง Mi 6 ที่ออกมาเมื่อกลางปีนี้ โดยใช้กระจก 2.5D ประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทำให้เครื่องมีความโค้งมนดูหรูหรา

ส่วนสเปคคร่าวๆ ที่หลุดออกมาบางส่วนก็ตามนี้เลยครับ

  • หน้าจอกระจก 2.5D ขนาด 5.15 นิ้ว
  • CPU : Surge S2 ความเร็ว 2.2 GHz quad-core A73, 1.8 GHz quad-core A53
  • GPU : Mali G71MP8
  • RAM : 4GB / 6GB
  • ความจุ : 64GB / 128GB (UFS 2.1)
  • กล้องหลังคู่ : 12MP (IMX386) + 5MP
  • กล้องหน้า : 5MP
  • ราคา (ประมาณ) : 10,500 บาท / 12,950 บาท

Xiaomi Mi 6C จะเป็นมือถือตัวแรกของแบรนด์ที่ใช้ชิป Surge S2 (อาจมีการเปลี่ยนไปใช้ชื่อ Surge X1 แทน)

 

ที่มา : Gizbot, Phonearena

from:https://droidsans.com/xiaomi-mi-6c-first-phone-with-surge-s2/