คลังเก็บป้ายกำกับ: IPHONE_X

เปรียบเทียบ iPhone X ถึง iPhone 14 ที่ผ่านมา มีอะไรเพิ่มเข้ามา มีอะไรหายไปบ้างนะ?

ในตอนนี้ iPhone ในดีไซน์แบบ Notch Display ได้เดินทางมาถึง iPhone 14 กันแล้ว ซึ่งก็ได้ผ่านการปรับดีไซน์แบบ Minor Change หลายต่อหลายครั้ง และในทุก ๆ ครั้งที่รุ่นใหม่เปิดตัว ก็มักจะมีฟีเจอร์เด่น ๆ ที่ใส่มาเพื่อขายเครื่องรุ่นนั้นโดยเฉพาะ ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ผู้ใช้หลาย ๆ คนสับสนว่า “รุ่นไหนเพิ่มอะไรมาบ้างนะ ?” วันนี้เราเลยได้รวบรวมข้อมูลเปรียบเทียบ iPhone ในดีไซน์แบบรอยบากทุกรุ่นในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาว่าได้เพิ่ม ตัด หรือลดฟีเจอร์ไหนไปบ้าง เพื่อไขข้อสงสัยให้ทุกคนได้กระจ่างกัน

อยากดูรุ่นไหน กดกระโดดข้ามไปดูรุ่นนั้นได้เลย

iPhone X

iPhone X ถือเป็นการนับศักราชใหม่ด้วยการพลิกรูปโฉมแบบหมดจดนับตั้งแต่ปี 2007 มาพร้อมกับอะไรหลาย ๆ อย่างที่ถือเป็น “ครั้งแรก” บน iPhone อย่างเช่น

  • จอ Super Retina HD OLED ไร้ขอบมีรอยบาก
  • กล้องหน้า TrueDepth ที่รวมเซ็นเซอร์ไว้กว่า 6 ตัว เพื่อเก็บใบหน้าผู้ใช้งานแบบ 3 มิติ
  • สร้างมาตรฐานปลดล็อกตัวเครื่องแบบใหม่ Face ID แทนที่ Touch ID บนปุ่ม Home ที่ใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ iPhone 5s
  • มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A11 Bionic พร้อมชิป Neural Engine เป็นครั้งแรก

iPhone XR / XS / XS Max

ถัดมา 1 ปี Apple ได้เปิดตัว iPhone X  รุ่นใหม่ได้แก่ iPhone XS พร้อมแตกไลน์อัพใหม่ 2 รุ่น อาทิ รุ่นพรีเมียมจอใหญ่อย่าง XS Max และ XR รุ่นเริ่มต้นโดยทั้ง 3 รุ่นได้มีการอัปเกรด (และดาวน์เกรด) แบบ Minor Change ไม่ทิ้งลายจาก iPhone X รุ่นก่อนมากนัก โดยเฉพาะ iPhone XS / XS Max ที่เรียกได้ว่าเหมือนกับ iPhone X แทบจะ 80% เลยก็ว่าได้ ซึ่งถึงแม้จะมีการเปลี่ยนแบบสเปคประปราย แต่สิ่งที่ 3 รุ่นได้อัปเกรดเหมือนกันก็คือ

  • ชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่อย่าง Apple A12 Bionic ซึ่งมาพร้อมกับชิป Neural Engine รุ่นที่ 2
  • กล้องหลัก Wide-Angle ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ที่ใช้เซ็นเซอร์ใหม่ที่ใหญ่กว่ารุ่นก่อน 30%  และมีค่า ISO ที่กว้างกว่าเดิม 
  • รองรับการประมวลผลภาพ HDR แบบใหม่ “Smart HDR” ที่จะช่วยปรับแสง ดึงรายละเอียดภาพออกมาได้ดีขึ้นไม่ว่าถ่ายในแดดจ้า ๆ หรือที่แสงน้อย
  • เพิ่มฟีเจอร์ Advanced bokeh และ Depth Control ในกล้อง Portrait Mode ที่สามารถปรับความเบลอ และระยะตื้นลึกของภาพได้อิสระมากขึ้น
  • เป็นครั้งแรกที่ iPhone รองรับ 2 ซิม ผ่านเทคโนโลยี eSIM
  • อัดวิดีโอกล้องหน้าที่ความละเอียด 1080p ที่ 60fps และอัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอได้แล้ว

สิ่งที่ถูกดาวน์เกรดลงไปส่วนใหญ่จะมีในเฉพาะรุ่น iPhone XR โดยมีการตัดฟีเจอร์ ลดสเปค และลดเกรดวัสดุ เพื่อดั้มป์ราคาให้เบากว่าเดิมเกือบ 1 เท่า โดยสิ่งที่ถูกลดลงไปมีดังนี้

  • ใช้จอ Liquid Retina HD IPS LCD ความละเอียด HD+ แทน OLED แต่ก็ทดแทนมาด้วยขนาดจอที่ใหญ่กว่ารุ่น XS เป็น 6.1 นิ้ว
  • มีกล้องหลังแค่ตัวเดียว แต่ยังใช้ฟีเจอร์กล้องได้ครบครันโดยใช้ Software ช่วย
  • ลดเกรดวัสดุจาก Stainless Steel ขัดเงา เป็น Aluminum แทน
  • ตัด 3D Touch ออก ใช้ Haptic Touch แทนซึ่งภายหลังก็ได้กลายมาเป็นมาตรฐานของ iPhone รุ่นใหม่ ๆ

ตารางเทียบสเปค iPhone X, iPhone XR และ iPhone XS / XS Max

สเปค / รุ่น IPHONE X IPHONE XR IPHONE XS / XS MAX
หน้าจอแสดงผล Super Retina HD OLED 60 Hz Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz Super Retina HD OLED 60 Hz
ขนาดจอแสดงผล 5.8″ 6.1″ XS – 5.8″
XS Max – 6.5″
ความละเอียด 2436 x 1125 458ppi 1792 x 828 326 ppi XS – 2436 x 1125 458 ppi
XS Max – 2688 x 1242 458 ppi
CPU A11 Bionic A12 Bionic A12 Bionic
RAM 3GB 3GB 4GB
ความจุ 64GB / 256GB 64GB

128GB

256GB

64GB

256GB

512GB

กล้องหลัก  12MP (Wide) f/1.8, 1.22µm, กันสั่น OIS 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS
กล้อง Ultra Wide X X X
กล้อง Telephoto 12 MP f/2.4, 1.0µm, กันสั่น OIS X 12 MP f/2.4, 1.0µm, กันสั่น OIS
Optical Zoom x2 X x2
Digital Zoom x10 x5 x10
กล้องหน้า 7MP f/2.2 TrueDepth 7MP f/2.2 TrueDepth 7MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS
การถ่ายวิดีโอ กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 1080p @ 30 fps

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 1080p @ 30 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 1080p @ 30 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi 5

Blutooth 5.0

5G X

(4G LTE)

ระบบ Dual SIM X

(ผ่าน eSIM)

(ผ่าน eSIM)

ลำโพง ลำโพง Stereo ลำโพง Stereo ลำโพง Stereo

รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos

มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP67

(ทนน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร 30 นาที)

IP67

(ทนน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร 30 นาที)

IP68

(ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที)

แบตเตอรี่ 2716 mAh 2942 mAh Xs: 2658 mAh
Xs Max: 3174 mAh
ชาร์จไว 15W
ชาร์จไร้สาย Qi Wireless Charge 7.5W

 

iPhone 11 Series

ปี 2019 Apple เปิดตัว iPhone รุ่นใหม่โดยนับรุ่นเลขรุ่นต่อจาก iPhone X Series และข้ามรุ่นที่ 9 ไปแบบงง ๆ โดยเปิดตัวด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่น ได้แก่ iPhone 11 ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานที่มีการอัปเกรดจาก iPhone XR อีกนิดหน่อย เช่น

  • อัปเกรดชิปเซ็ตประมวลผลตัวใหม่อย่าง Apple A13 Bionic ที่มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม 50% – 60% พ่วงด้วยชิป Neural Engine รุ่น 3
  • เพิ่มกล้อง Ultrawide เข้าสู่ครอบครัว iPhone เป็นครั้งแรก
  • เปลี่ยนเซ็นเซอร์กล้องหน้าใหม่เป็นกล้องความละเอียด 12 ล้านพิกเซล
  • กันน้ำกันฝุ่นดีกว่าเป็นมาตรฐาน IP68 หมดทุกรุ่นแล้ว
  • เพิ่มโหมดถ่ายรูปกลางคืน และมีฟีเจอร์ใหม่อย่าง Deep Fusion เข้ามาช่วยประมวลผลรูปถ่ายให้มีคุณภาพดีขึ้น

iPhone 11 Pro และ Pro Max เป็นซีรีส์รุ่นท็อปออกมาให้มีความชัดเจนมากขึ้นภายใต้คำจำกัดความว่า “Pro” ซึ่งเน้นไปที่กลุ่มผู้ใช้งานระดับสูง ได้รับการอัปเกรดที่เหมือนกับ iPhone 11 แต่มากกว่า

เพราะ iPhone 11 Pro และ Pro Max มาพร้อมกับหน้าจอแบบใหม่ Super Retinal Display XDR ที่สว่างขึ้นกว่าเดิมเกือบ 2 เท่า มีกล้องหลัง 3 ตัวเป็นครั้งแรกของ iPhone อีกทั้งยังได้แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น อึดขึ้นอีกด้วย

ตารางเทียบสเปค iPhone XR/XS Series กับ iPhone 11 Series

สเปค / รุ่น iPhone 11 iPhone XR iPhone 11 / 11 Pro และ 11 Pro Max iPhone XS / XS MAX
หน้าจอแสดงผล Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz Super Retina XDR OLED 60 Hz Super Retina HD OLED 60 Hz
ขนาดจอแสดงผล 6.1″ 6.1″ 11 Pro – 5.8″ XS – 5.8″
11 Pro Max – 6.5″ XS Max – 6.5″
ความละเอียด 1792 x 828 326 ppi 1792 x 828 326 ppi 11 Pro – 2436 x 1125 458 ppi XS – 2436 x 1125 458 ppi
11 Pro Max – 2688 x 1242 458 ppi XS Max – 2688 x 1242 458 ppi
CPU A13 Bionic A12 Bionic A13 Bionic A12 Bionic
RAM 4GB  3GB 4GB 4GB
ความจุ 64GB

128GB

256GB 

64GB

128GB

256GB

64GB

256GB

512GB

64GB

256GB

512GB

กล้องหลัก  12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS 
กล้อง Ultra Wide 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ X 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ X
กล้อง Telephoto X X 12 MP f/2.0, 1.0µm, กันสั่น OIS 12 MP f/2.4, 1.0µm, กันสั่น OIS
Optical Zoom x2 X x2 x2
Digital Zoom x5 x5 x10 x10
กล้องหน้า 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 7MP f/2.2 TrueDepth 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 7MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS
การถ่ายวิดีโอ กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 1080p @ 30 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 1080p @ 30 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
Bluetooth 5.0
Wi-Fi 5
Bluetooth 5.0
Wi-Fi 6
Bluetooth 5.0
Wi-Fi 5
Bluetooth 5.0
5G X (4G LTE)
ระบบ Dual SIM (ผ่าน eSIM)
ลำโพง ลำโพง Stereo

รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos

ลำโพง Stereo ลำโพง Stereo

รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos

ลำโพง Stereo

รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos

มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68

(ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที)

IP67

(ทนน้ำลึกสูงสุด 1 เมตร 30 นาที)

IP68

(ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที)

IP68

(ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที)

แบตเตอรี่ 3110 mAh  2942 mAh 11 Pro: 3046 mAh Xs: 2658 mAh
11 Pro Max: 3989 mAh Xs Max: 3174 mAh
ชาร์จไว 18W  15W 11 Pro: 18W 15W
11 Pro Max: 20W
ชาร์จไร้สาย Qi Wireless Charge 7.5W 

iPhone 12 Series

iPhone 12 Series เปิดตัวมาด้วยการใช้ดีไซน์แบบใหม่ที่จากเดิมเป็นขอบมน เปลี่ยนมาใช้ขอบตัวเครื่องแบบเหลี่ยมที่ทำให้นึกถึง iPhone 4 – 5s อีกทั้งยังเปิดตัวไลน์อัพใหม่อย่าง iPhone 12 mini ที่เป็นซีรีส์สำหรับ iPhone ขนาดเล็ก 5.4 นิ้ว ใช้งานมือเดียวสะดวก แต่ยังได้สเปคแบบเดียวกับเครื่องไซซ์ปกติ ส่วนสเปคหลัก ๆ ที่ได้รับการอัปเกรดมีดังนี้

  • อัปเกรดพาเนลจอภาพเป็น OLED Super Retina XDR ทุกรุ่น
  • ใช้วัสดุกระจกใหม่  Ceramic Shield Screen ทนกว่า iPhone 11 Series ถึง 2 เท่า
  • ได้ชิปใหม่ Apple A14 Bionic
  • รองรับ 5G เป็นครั้งแรก
  • MagSafe ชาร์จแบบไร้สายได้ไวกว่าเดิมจากสูงสุด 7.5W เป็น 15W
  • ฟีเจอร์ใหม่ถ่ายวิดีโอแบบ Dolby Vision HDR 4K@30fps

iPhone 12 Series ยังเริ่มสร้างความแตกต่างระหว่างรุ่นมาตรฐาน และรุ่น Pro ให้มีความชัดเจนมากขึ้นด้วยการเก็บฟีเจอร์กล้องบางอย่างไว้ให้ในรุ่น Pro เท่านั้น ซึ่งสเปคพิเศษของใน iPhone 12 Pro Series มีดังนี้

  • เซ็นเซอร์วัดระยะวัตถุ LiDAR Scanner
  • โหมดถ่ายภาพ Portrait ตอนกลางคืน
  • ฟีเจอร์ถ่ายภาพระดับสูง ProRaw

ตารางเทียบสเปค iPhone 11 Series กับ iPhone 12 Series

สเปค / รุ่น iPhone 12 / 12 mini iPhone 11 iPhone 12 Pro / 12 Pro Max iPhone 11 / 11 Pro และ 11 Pro Max
หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR OLED 60 Hz Liquid Retina HD (IPS LCD) 60 Hz Super Retina XDR OLED 60 Hz Super Retina XDR OLED 60 Hz
ขนาดจอแสดงผล 12 – 6.1″ 6.1″ 12 Pro – 6.1″ 11 Pro – 5.8″
12 mini – 5.4″ 12 Pro Max – 6.7″ 11 Pro Max – 6.5″
ความละเอียด 12 – 2532×1170 460 ppi 1792 x 828 326 ppi 12 Pro – 2532 x 1170 460 ppi 11 Pro – 2436 x 1125 458 ppi
12 Mini – 2340×1080 476 ppi 12 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi 11 Pro Max – 2688 x 1242 458 ppi
CPU A14 Bionic A13 Bionic A14 Bionic A13 Bionic
RAM 4GB 4GB  6GB 4GB
ความจุ 64GB

128GB

256GB 

64GB

128GB

256GB 

128GB

256GB

512GB

64GB

256GB

512GB

กล้องหลัก  12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS 12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS  iPhone 12 Pro
12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS
12MP (Wide) f/1.8, 1.4µm, กันสั่น OIS
iPhone 12 Pro Max
12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift
กล้อง Ultra Wide 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120
กล้อง Telephoto X X iPhone 12 Pro

12 MP f/2.0, 1.0µm, 52mm, กันสั่น OIS

12 MP f/2.0, 1.0µm, 52mm, กันสั่น OIS
iPhone 12 Pro Max

12 MP f/2.2, 1.0µm, 65mm, กันสั่น OIS

Optical Zoom x2 x2 iPhone 12 Pro:

ซูมเข้า: x2 ซูมออก: x2

x2
iPhone 12 Pro Max: 

ซูมเข้า: x2.5 ซูมออก: x2.5

Digital Zoom x5 x5 x12 x10
กล้องหน้า 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS
การถ่ายวิดีโอ กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
Blutooth 5.0
5G X

(4G LTE)

X

(4G LTE)

ระบบ Dual SIM (ผ่าน eSIM)
ลำโพง ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที)
แบตเตอรี่ 12 : 2815 mAh 3110 mAh  12 Pro: 2815 mAh 11 Pro: 3046 mAh
12 mini : 2227 mAh 12 Pro Max: 3687 mAh 11 Pro Max: 3989 mAh
ชาร์จไว  20W 18W  12 Pro: 20W 11 Pro: 18W
12 Pro Max: 22W 11 Pro Max: 20W
ชาร์จไร้สาย Qi Wireless Charge 7.5W
MagSafe fast wireless charging 15W
Qi Wireless Charge 7.5W  Qi Wireless Charge 7.5W
MagSafe fast wireless charging 15W
Qi Wireless Charge 7.5W

 

iPhone 13 Series

iPhone 13 Series มีการปรับเปลี่ยนในเรื่องดีไซน์นิดหน่อย มีการลดขนาดของรอยบากให้เล็กลงจากในรุ่นก่อน 20% เปลี่ยน Layout กล้องจากแนวตั้งมาเป็นแนวทแยงเพื่อให้รับแสงได้มากกว่าเดิม 47% มาพร้อมจอแสดงผลที่สว่างกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย

ในซีรีส์นี้ยังได้ใส่ชิปเซ็ตประมวลผล Apple A15 Bionic รุ่นใหม่ที่ช่วยให้คุณภาพภาพถ่าย และวิดีโอดีขึ้น และประหยัดแบตเตอรี่มากขึ้น พ่วงด้วย Neural Engine รุ่นใหม่ที่ประมวลผลข้อมูลรวดเร็วกว่าเดิม 44% และทำให้เราได้โหมดกล้องใหม่ ๆ อย่าง Cinematic mode ให้ได้ลองเล่นกันทุกรุ่น แถมยังถ่ายวิดีโอ HDR Dolby Vision ได้สูงสุด 60fps บนความละเอียด 4K ด้วย

ในรุ่น Pro รอบนี้ได้สร้างความแตกต่างด้วยการเลือกใช้พาเนลที่จอ OLED ตัวใหม่ที่มีรีเฟรชเรตแบบ ProMotion ลื่นไหลสูงสุดกว่า 120Hz และใช้ชิปประมวลผล Apple A15 Bionic ที่มีชิป GPU มากกว่าในรุ่นมาตรฐานจาก 4 คอร์ เป็น 5 คอร์ ด้วยประสิทธิภาพชิปประมวลผลที่ดีกว่าทำให้ iPhone 13 Pro Series สามารถถ่ายวิดีโอในคุณภาพระดับสูงอย่าง ProRes ที่ความละเอียด 4k@30fps ได้ อีกทั้งยังใส่กันสั่นแบบ Sensor Shift ให้กับกล้องหลักในรุ่น Pro ด้วย

ตารางเทียบสเปค iPhone 12 Series กับ iPhone 13 Series

สเปค / รุ่น iPhone 13 / 13 mini iPhone 12 / 12 mini iPhone 13 Pro / 13 Pro Max iPhone 12 Pro / 12 Pro Max
หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR OLED 60Hz Super Retina XDR OLED 60Hz Super Retina XDR 120Hz Super Retina XDR OLED 60Hz
ขนาดจอแสดงผล 13 – 6.1″ 12 – 6.1″ 13 Pro – 6.1″ 12 Pro – 6.1″
13 mini – 5.4″ 12 mini – 5.4″ 13 Pro Max – 6.7″ 12 Pro Max – 6.7″
ความละเอียด 13 – 2532 x 1170 460 ppi 12 – 2532 x 1170 460 ppi 13 Pro – 2532 x 1170 460 ppi 12 Pro – 2532 x 1170 460 ppi
13 mini – 2340 x 1080 476 ppi 12 mini – 2340 x 1080 476 ppi 13 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi 12 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi
CPU A15 Bionic
(GPU 4 คอร์)
A14 Bionic A15 Bionic
(GPU 5 คอร์)
A14 Bionic
RAM 4GB 4GB  6GB 6GB
ความจุ 128GB

256GB

512GB

64GB

128GB

256GB 

128GB

256GB

512GB

1TB

128GB

256GB

512GB

กล้องหลัก  12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift 12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS 12MP (Wide) f/1.5, 1.9µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift iPhone 12 Pro
12MP (Wide) f/1.6, 1.4µm, กันสั่น OIS
iPhone 12 Pro Max
12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift
กล้อง Ultra Wide 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ 12 MP, f/1.8, มุมกว้าง 120˚ 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚
กล้อง Telephoto X X 12 MP f/2.8, 77mm, กันสั่น OIS iPhone 12 Pro
12 MP f/2.0, 1.0µm, 52mm, กันสั่น OIS
iPhone 12 Pro Max
12 MP f/2.2, 1.0µm, 65mm, กันสั่น OIS
Optical Zoom x2 x2 ซูมเข้า: x3 ซูมออก: x2
ช่วงซูม: x6
iPhone 12 Pro
ซูมเข้า: x2 ซูมออก: x2
iPhone 12 Pro Max
ซูมเข้า: x2.5 ซูมออก: x2.5
Digital Zoom x5 x5 x15 x10
กล้องหน้า 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS
การถ่ายวิดีโอ กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6 Blutooth 5.0
5G
ระบบ Dual SIM (ผ่าน eSIM)
ลำโพง ลำโพง Stereo รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68 (ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที)
แบตเตอรี่ 13: 3240 mAh 12 : 2815 mAh 13 Pro: 3095 mAh 12 Pro: 2815 mAh
13 mini : 2438 mAh 12 mini : 2227 mAh 13 Pro Max: 4352 mAh 12 Pro Max: 3687 mAh
ชาร์จไว 13: 23W 20W 13 Pro: 23W 12 Pro: 20W
13 mini : 18W 13 Pro Max: 27W 12 Pro Max: 22W
ชาร์จไร้สาย Qi Wireless Charge 7.5W
MagSafe fast wireless charging 15W

 

iPhone 14 Series

เดินทางมาถึง iPhone 14 Series รุ่นล่าสุดแล้ว ซึ่งรุ่นมาตรฐานในรอบนี้ มีสเปคที่คล้ายกันกับ iPhone 13 และ iPhone 13 mini แบบสุด ๆ ยกเว้นขนาดหน้าจอที่ iPhone 14 Series ได้ตัดรุ่นเล็กไซซ์มินิออกไป และเพิ่มซีรีส์จอใหญ่ที่ห่างหายไปนานอย่าง iPhone 14 Plus ขนาด 6.7 นิ้วเข้ามาแทน

ด้านชิปเซ็ตประมวลผลก็มีความต่างเพียงนิดเดียว เพราะแค่เปลี่ยนมาใช้ชิป A15 Bionic 5 คอร์ จากเดิมที่มีแค่ 4 คอร์ อีกทั้งยังมีฟีเจอร์หลายหลายที่เพิ่มเข้ามาดังนี้

  • กล้องถ่ายภาพอัปเกรดให้ถ่ายในที่แสงน้อยดีขึ้น
  • โหมดถ่ายวิดีโอกันสั่นแบบ Action Mode
  • ฟีเจอร์ส่ง SOS ผ่านดาวเทียม
  • ระบบตรวจจับการชน Crash Detection

iPhone 14 Pro Series ถือว่าได้สร้างความแตกต่างอย่างสมบูรณ์แบบ เพราะได้อัปเกรดสเปคหลากหลายที่รุ่นมาตรฐานไม่มี เช่น

  • Dynamic Island
  • พาเนลจอแบบใหม่ LTPO OLED
  • รองรับการแสดงผลแบบ Always-on Display
  • เพิ่มความละเอียดกล้องหลักไปที่ 48MP จากความละเอียดเดิม 12MP
  • Photonic Engine

ตารางเทียบสเปค iPhone 13 Series กับ iPhone 14 Series

สเปค / รุ่น iPhone 14 / 14 Plus iPhone 13 / 13 mini iPhone 14 Pro / 14 Pro Max iPhone 13 Pro / 13 Pro Max
 
หน้าจอแสดงผล Super Retina XDR  60Hz Super Retina XDR 60Hz LTPO Super Retina XDR 120Hz Super Retina XDR 120Hz
ขนาดจอแสดงผล 14 – 6.1″ 13 – 6.1″ 14 Pro – 6.1″  13 Pro – 6.1″
14 Plus – 6.7″  13 mini – 5.4″ 14 Pro Max – 6.7″  13 Pro Max – 6.7″
ความละเอียด 14 – 2532 x 1170 460 ppi  13 – 2532 x 1170 460 ppi 14 Pro – 2556 x 1179 460 ppi  13 Pro – 2532 x 1170 460 ppi
14 Plus – 2778 x 1284 458 ppi 13 Mini – 2340 x 1080 476 ppi 14 Pro Max – 2796 x 1290 460 ppi  13 Pro Max – 2778 x 1284 458 ppi
CPU A15 Bionic
(GPU 5 คอร์)
A15 Bionic
(GPU 4 คอร์)
A16 Bionic  A15 Bionic
(GPU 5 คอร์)
RAM 6GB 4GB 6GB  6GB
ความจุ 128GB

256GB

512GB

128GB

256GB

512GB

128GB

256GB

512GB

1TB

128GB

256GB

512GB

1TB

กล้องหลัก  12MP (Wide) f/1.5, 1.9µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift  12MP (Wide) f/1.6, 1.7µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift 48MP (Wide) f/1.8, 1.22µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift, Quad Pixel 12MP (Wide) f/1.5, 1.9µm, กันสั่น OIS แบบ Sensor Shift
กล้อง Ultra Wide 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ 12 MP, f/2.4, มุมกว้าง 120˚ 12 MP, f/2.2, มุมกว้าง 120˚ 12 MP, f/1.8, มุมกว้าง 120˚
กล้อง Telephoto X X 12 MP f/2.8, 77mm, กันสั่น OIS 12 MP f/2.8, 77mm, กันสั่น OIS
Optical Zoom ซูมเข้า: x2 ซูมออก: x2 x2 ซูมเข้า: x3 ซูมออก: x2
ช่วงซูม: x6
ซูมเข้า: x3 ซูมออก: x2
ช่วงซูม: x6
Digital Zoom x5 x5 x15  x15
กล้องหน้า 12MP f/1.9 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS 12MP f/1.9 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS + AutoFocus  12MP f/2.2 TrueDepth + กันสั่น gyro-EIS
การถ่ายวิดีโอ กล้องหลัง: 4K @ 60 fps, กันสั่น Action mode

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps, กันสั่น Action mode

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

กล้องหลัง: 4K @ 60 fps

กล้องหน้า: 4K @ 60 fps

อัดวิดีโอแบบเสียงสเตอริโอ

การเชื่อมต่อ Wi-Fi 6
Blutooth 5.3
Wi-Fi 6
Blutooth 5.0
Wi-Fi 6
Blutooth 5.3
Wi-Fi 6
Blutooth 5.0
5G ✓ 
ระบบ Dual SIM
(ผ่าน eSIM)
ลำโพง ลำโพง Stereo
รองรับ Spartial Audio และ Dolby Atmos
มาตรฐานทนน้ำทนฝุ่น IP68
(ทนน้ำลึกสูงสุด 2 เมตร 30 นาที) 
แบตเตอรี่ 14: 3279 mAh 13: 3240 mAh  14 Pro: 3200 mAh  13 Pro: 3095 mAh
 14 Plus: 4323 mAh 13 mini : 2438 mAh  14 Pro Max: 4323 mAh 13 Pro Max: 4352 mAh
ชาร์จไว ยังไม่มีรายละเอียด  13: 23W ยังไม่มีรายละเอียด   13 Pro: 23W
13 mini : 18W 13 Pro Max: 27W
ชาร์จไร้สาย Qi Wireless Charge 7.5W
MagSafe fast wireless charging 15W

 

และนี่คือทั้งหมดของสเปค iPhone รุ่นรอยบากทุกรุ่นที่เราได้รวบรวมมาเปรียบเทียบให้ชมกัน นอกจากเราจะได้รู้เรื่องฟีเจอร์ที่แตกต่างกันไปในแต่ละรุ่นแล้ว เรายังได้เห็นพัฒนาการของ iPhone ในแต่ละปีที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ ด้วย

หลัก ๆ แล้วใครที่ยังถือ iPhone 12 Series อยู่ อาจจะยังไม่คุ้มค่าที่อัปเกรดสักเท่าไหร่ เพราะชิป A14 ก็ยังแรงใกล้ ๆ ชิปรุ่นท็อปในยุคนี้อยู่ แถมฟีเจอร์กล้องที่ได้มา เมื่อเทียบกับ iPhone 14 Series ก็ถือว่ายังไม่ขาดสักเท่าไหร่

แต่หากใครที่กำลังถือ iPhone X Series ลงไปแล้วล่ะก็ อาจจะถึงคราวที่ต้องอัปเกรดกันแล้ว เพราะไม่มีทั้งกล้อง Ultrawide, โหมดถ่ายภาพกลางคืน อีกทั้งชิป A11 และ A12 Bionic ที่ตกรุ่นไปหลายปีแล้ว และในอนาคตเราจะได้เห็น Apple เข็นฟีเจอร์ และสเปคอะไรใหม่มาเพื่อผู้ใช้งานกันอีก ต้องคอยติดตามกันครับ

 

อ้างอิง: Apple, GSMArena

from:https://droidsans.com/from-iphone-x-to-i-phone-14-compare/

Advertisement

(ไม่ยืนยัน) Apple เพิ่มชื่อ iPhone X เข้าโปรแกรมเสนอซ่อมเฉพาะ Face ID ที่เสียหาย

MacRumors เผยว่า Apple เพิ่ม iPhone X เข้าโปรแกรมเสนอซ่ […] More

from:https://www.iphonemod.net/apple-offer-faceid-iphone-x-repair-program-report.html

iPhone พร้อมพอร์ต USB-C ปิดราคาประมูลไปที่ 2 ล้านกว่าบาท!

เมื่อเดือนที่แล้ว Ken Pillonel วิศกรหุ่นยนต์ได้ดัดแปลงพอร์ต iPhone X จากพอร์ต Lighning กลายเป็นพอร์ต USB-C สร้างความฮือฮาให้กับโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะนอกจากแค่เปลี่ยนพอร์ตแล้ว ยังสามารถใช้งานได้ปกติอีกด้วย

iPhone X ที่มีพอร์ต USB-C นั้นถูกเปิดประมูลบน ebay ทำยอดไปได้สูงถึง $86,001 หรือราว 2,821,391 บาท ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงเลยทีเดียว อันที่จริงมีคนบิดไปจนถึงราคา $100,000 แต่เหมือนจะเป็นการบิดเล่น ไม่ยอมจ่ายจริง อันดับ 2 จึงได้เครื่องนี้ไปครับ

อย่างไรก็ดี iPhone X ที่เป็นพอร์ต USB-C นั้นมีข้อจำกัดที่เยอะเลยทีเดียว ทาง Pillonel บอกว่า iPhone X เครื่องนี้ห้าม Restore, Update หรือลบข้อมูลเครื่อง, ไม่แนะนำให้ใช้เป็นเครื่องหลัก เป็นต้น เรียกว่าถ้าได้ไปคือเอาไปสะสมกันอย่างเดียวเลยครับ

ข่าว: iPhone พร้อมพอร์ต USB-C ปิดราคาประมูลไปที่ 2 ล้านกว่าบาท! มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/usb-c-iphone-sold-on-ebay-for-86k-after-hitting-six-figures/

iPhone X ที่ถูกดัดแปลงพอร์ตเป็น USB-C ถูกนำไปประมูลบน ebay ราคาพุ่งกระฉูดกว่า 5 หมื่นเหรียญ

เมื่อ 4 สัปดาห์ก่อน Ken Pillonel นักศึกษาปริญญาโทสาขาวิทยาการหุ่นยนต์จาก EPFL ในเมืองโลซาน ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้สร้างความฮือฮาบนโลกอินเทอร์เน็ตโดยการเผยแพร่คลิป โชว์ความสำเร็จในการดัดแปลง iPhone X จากพอร์ต Lightning มาเป็น USB-C ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งสื่อไอทีและแฟน ๆ Apple ล่าสุดเจ้าตัวได้เปิดประมูล iPhone X เครื่องดังกล่าวบน ebay ตอนนี้ราคาพุ่งไปไกลกว่า 5 หมื่นเหรียญแล้ว (ประมาณ 1 ล้าน 7 แสนบาท)

iPhone X เครื่องนี้เป็นรุ่นความจุ 64GB สีสเปซเกรย์ มีแค่ตัวเครื่องกับกล่อง ไม่มีอุปกรณ์เสริมอย่างอื่น โดย Ken Pillonel รับประกันว่า พอร์ต USB-C สามารถใช้งานได้ตามปกติทุกฟังก์ชันเท่าที่จะนึกออก เช่นฟังก์ชันด้านการชาร์จและการถ่ายโอนข้อมูล

Ken Pillonel ไม่แนะนำให้ รีเซตระบบ อัปเกรดซอฟต์แวร์ หรือลบข้อมูล ไม่ควรนำมาใช้งานเป็นโทรศัพท์เครื่องหลัก และไม่ควรแกะมันด้วย แม้อันที่จริงผู้ที่ซื้อไปจะทำอะไรกับมันก็ได้ ตามสิทธิ์ของคนเป็นเจ้าของ เพียงแต่หากเกิดความเสียหายหรือข้อผิดพลาดขึ้นก็อย่าคาดหวังว่าเจ้าตัวจะช่วยเหลือหรือแก้ปัญหาให้ได้ทุกเรื่อง เพราะนี่เป็นเพียงอุปกรณ์รุ่นต้นแบบเท่านั้น

จุดเริ่มต้นของโครงการนี้มาจากการที่ Apple ไม่ยอมเปลี่ยนพอร์ต iPhone มาเป็น USB-C เหมือนผู้ผลิตรายอื่นเสียที สุดท้าย Ken Pillonel จึงทนไม่ไหว ลงมือจัดการทำเองเสียเลย…

 

ที่มา : ebay

from:https://droidsans.com/iphone-x-usb-c-port-ebay/

ทำเองซะเลย…วิศวกรโมเครื่อง iPhone X เปลี่ยนพอร์ต Lightning ให้กลายเป็นพอร์ต USB-C แถมใช้งานได้จริง

เป็นเรื่องที่แฟน ๆ iPhone รอกันมานานมากแล้วจริง ๆ ว่าเมื่อไหร่ Apple จะเปลี่ยนให้ iPhone มาใช้พอร์ต USB-C ซักที…จะได้ไม่ต้องมีทั้งสายชาร์จ Lightning เอาไว้ใช้กับ iPhone และ USB-C สำหรับใช้กับอุปกรณ์อื่น ๆ โดยล่าสุดได้มีผู้ใช้งาน iPhone X รายนึง ขี้เกียจรอ Apple แล้ว ก็เลยจัดการโมเครื่องของตัวเองด้วยการเอาพอร์ต Lightning ออกแล้วเปลี่ยนมาใช้ USB-C แทนซะเลย แถมยังใช้งานได้ดีซะด้วย!


นักศึกษาด้านวิศวกรรมหุ่นยนต์จาก Swiss Federal Institute of Technology นามว่า Ken Pillonel จัดการโมเครื่อง iPhone X ของตัวเองให้สามารถใช้งานกับสาย USB-C ได้ โดยการเอาพอร์ต Lightning ออกไปซะ แล้วเปลี่ยนเอาพอร์ต USB-C มาใส่แทนแบบเนียน ๆ โดย Ken ใช้เทคนิควิศวกรรมย้อนกลับเพื่อเปลี่ยนเอาการเชื่อมต่อด้วยพอร์ตแบบ PCB ที่เค้าทำขึ้นมาเองใส่เข้าไปในเครื่องแทนการเชื่อมต่อด้วยพอร์ตแบบ C94 ของ Apple

ซึ่งนับว่าเป็นการพัฒนามาจาก Project ที่เค้าเคยทำไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม โดยตอนนั้นเค้าได้โมเครื่อง iPhone X ให้สามารถชาร์จแบตเตอรี่ผ่านสาย USB-C ได้ แต่มันยังไม่สมบูรณ์นัก เพราะไม่สามารถยัดแผงวงจร + สายไฟเข้าไปในเครื่องได้ ก็เลยออกมายุ่บยั่บอยู่นอกเครื่อง

Project แรกที่ยังไม่สมบูรณ์

แต่สำหรับ Project ใหม่ของนาย Ken เรียกว่าออกมาสมบูรณ์แบบเลยล่ะ เพราะ iPhone X ที่ถูกโมแล้ว ไม่มีอะไรต่างไปจากเครื่องเดิม ๆ เลย นอกจากพอร์ต Lightning ที่หายไปแล้วแทนที่ด้วยพอร์ต USB-C โดยพอร์ตสามารถทำได้ทั้งการชาร์จแบตเตอรี่ตามปกติ หรือจะใช้ในการถ่ายโอนข้อมูลก็ได้เช่นกัน

ในตอนนี้ Ken Pillonel ยังไม่ได้เผยข้อมูลอย่างละเอียดออกมาว่าเค้าใช้วิธีโมเครื่อง iPhone X ทั้งในด้านฮาร์ดแวร์ และซอฟท์แวร์ยังไง (เป็นแค่คลิปสั้น ๆ ไม่ถึงนาที) เผื่อจะได้เป็นแนวทางให้คนที่สนใจเอาไปลองทำดูบ้าง

ที่มา : TheVerge

 

from:https://droidsans.com/iphone-x-usb-c-mod/

Apple เพิ่มเอกสารเตือนผู้ใช้ iPhone แรงสั่นจากเครื่องยนต์รถมอเตอร์ไซค์อาจทำให้กล้อง iPhone เสียหายได้

Apple เพิ่มเอกสารสนับสนุนเตือนผู้ใช้ iPhone ว่า เมื่อเร […] More

from:https://www.iphonemod.net/apple-support-document-vibration-can-harm-iphone-camera.html

Apple แชร์วิดีโอแนะนำการใช้ iPhone รุ่น Face ID (เบื้องต้น)

iPhone รุ่นใหม่ ๆ ของ Apple มาพร้อม Face ID และต้องเปลี […] More

from:https://www.iphonemod.net/apple-share-how-to-navigate-iphone-face-id.html

Apple ปรับให้ iPhone รุ่นเก่าโทรวิดีโอ FaceTime ที่ความละเอียด 1080p ได้แล้ว

iOS 14.2, Apple ได้อัปเดตคุณสมบัติโทรวิดีโอ FaceTime ใน […] More

from:https://www.iphonemod.net/iphone-8-and-older-model-support-facetime-video-calling-1080p.html

บริษัทผลิตหน้ากาก N95 ปิ๊งไอเดีย ปริ๊นท์หน้าผู้ใช้ติดไว้บนหน้ากาก จะได้ไม่ต้องถอดตอนปลดล็อค Face ID

การระบาดของไวรัสโคโรนาในปัจจุบัน ทำให้หลายๆ คนต้องใส่หน้ากากอนามัยไว้ตลอดเวลา ทั้งเพื่อป้องกันการติดไวรัส และเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย ซึ่งสร้างความลำบากให้กับเหล่าผู้ใช้งานมือถือ iPhone X และรุ่นอื่นๆ ที่ใช้ระบบ Face ID ในการปลดล็อค เพราะต้องคอยถอดหน้ากากออกก่อนทุกครั้ง…แต่ก็มีบริษัทนึงเกิดปิ๊งไอเดีย ผลิตหน้ากากที่ปริ๊นท์หน้าครึ่งล่างของผู้ใช้เอาไว้ จะได้ไม่ต้องคอยถอดหน้ากากออกเวลาจะปลดล็อคเครื่อง

Faceidmask.com เป็นบริษัทผลิตหน้ากากอนามัย N95 ที่มีรูปหน้าครึ่งล่างของผู้ใช้งานแปะอยู่ ซึ่งทางบริษัทเคลมว่ามันสามารถใช้ปลดล็อค iPhone รุ่นที่มีระบบ Face ID ได้ โดยที่ไม่ต้องคอยถอดๆ ใส่ๆ หน้ากากเวลาใช้งาน

โดยการสั่งทำหน้ากากดังกล่าว ลูกค้าจะต้องส่งภาพหน้าตัวเองให้กับทางบริษัทซะก่อน จากนั้นทางบริษัทก็จะปริ๊นท์ภาพหน้าครึ่งล่างของลูกค้าลงบนหน้ากากอีกทีนึงด้วยหมึกที่ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติ ไม่มีกลิ่น และไม่มีสารพิษ แถมยางสำหรับเกี่ยวหูก็จะเป็นสีเดียวกับสีผิวของลูกค้าอีกด้วย

ถึงแม้ว่าทาง Faceidmask จะเคลมว่าหน้ากากดังกล่าวสามารถใช้ปลดล็อค Face ID ได้ แต่ก็ยังไม่มีอะไรมายืนยันว่ามันทำได้จริงๆ เพราะระบบ Face ID ของ iPhone จะใช้เซ็นเซอร์ 3 มิติ ในการสแกนใบหน้าผู้ใช้ ซึ่งจะจับความลึกของโครงหน้าได้ ทั้งจมูก ตา ปาก แก้ม ฯลฯ แต่หน้าที่ปริ๊นท์ลงบนหน้ากาก เป็นแค่ภาพแบบ 2 มิติ เท่านั้น (ถ้าเป็นระบบสแกนด้วยกล้องหน้าของมือถือ Android หลายๆ รุ่น ก็อาจจะใช้ได้)

หน้ากากดังกล่าวจะมีราคาอยู่ที่ 40 ดอลลาร์ หรือราวๆ 1,250 บาท แต่ว่าในตอนนี้ทางบริษัทยังอยู่ในช่วงพัฒนา และน่าจะพร้อมจำหน่ายได้ในอีกไม่นาน (ถ้าไม่มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนหน้ากากอนามัย) สำหรับใครที่สนใจ ขี้เกียจต้องคอยถอดหน้ากากเข้าๆ ออกๆ ก็เข้าไปลงชื่อแสดงความสนใจในเว็บไซท์ Faceidmask กันได้เลยจ้า

 

ที่มา : Gizchina

from:https://droidsans.com/n95-surgical-mask-for-face-id/

เจ้าของ iPhone X จำนวนหนึ่ง กำลังพบปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว และความจุที่ลดลงอย่างผิดปกติ

ปัญหาเกี่ยวกับแบตเตอรี่ iPhone ยังคงเป็นฝันร้ายของ Apple มาจนถึงปัจจุบัน โดยเจ้าของ iPhone X จำนวนหนึ่ง กำลังพบปัญหาแบตเตอรี่หมดเร็ว และความจุที่ลดลงไป

iPhone X เปิดตัวมานาน 2 ปีแล้ว และเริ่มมีผู้ใช้งานบางรายแจ้งว่าอายุการใช้งานแบตเตอรี่นั้นสั้นลงอย่างผิดปกติ แม้ความจุแบตเตอรี่จะเหลือมากกว่า 80% ขณะที่เจ้าของ iPhone X บางราย ซึ่งซื้อมาตั้งแต่วันแรกที่เปิดตัว พบว่าความจุแบตเตอรี่ยังมีเกือบ 90% แต่เริ่มสังเกตเห็นอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่สั้นลง รวมไปถึงเจ้าของ iPhone XS series บางราย ก็อ้างว่าเจอปัญหาที่คล้ายกัน โดยอายุการใช้งานแบตเตอรี่และความจุที่ลดลงไป จะแตกต่างกันไปตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานแต่ละบุคคล

เมื่อ 2 ปีก่อน Apple ต้องเผชิญปัญหาแบตเตอรี่ครั้งใหญ่กับ iPhone รุ่นเก่า ที่มีอาการปิดเครื่องเองเมื่อความจุแบตเตอรี่เหลืออยู่ประมาณ 30% จนทำให้ Apple ถูกฟ้องร้องถึง 32 คดี จนต้องออกซอฟต์แวร์มาแก้ไขปัญหา รวมถึงออกโปรแกรมลดราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับ iPhone รุ่นเก่า

ที่มา – iPhoneHacks
https://www.flashfly.net/wp/279296

from:https://www.flashfly.net/wp/279296