ลาก่อน Windows 10 ต่อไปนี้จะไม่มีการอัปเดตแล้วนะ

Windows 10 เวอร์ชั่น 22H2 จะเป็นรุ่นสุดท้ายแล้ว ก่อนจะสิ้นสุดการสนับสนุนลงในวันที่ 14 ตุลาคม 2025 เตรียมโบกมือลาเป็นที่เรียบร้อย

แม้จะทราบกันดีมาก่อนหน้านี้แล้วว่าทาง Microsoft จะยกเลิกการอัปเดตซอฟแวร์ Windows 10 แต่การจะให้อัปเดตเป็น Windows 11 ก็มีข้อจำกัดหลายอย่าง ขอหยิบยกผลการสำรวจจาก Lansweeper ที่พบว่ากว่า 43% ของผู้ใช้งานไม่สามารถอัปเดตวินโดว์ได้เนื่องจากมีข้อกำหนดด้านฮาร์ดแวร์ เช่น Trusted Platform Module (TPM) เวอร์ชัน 2.0 และเฟิร์มแวร์ UEFI พร้อม Secure Boot แต่ก็มีข่าวดีก็คือ Windows 10 ทุกรุ่นจะยังคงรองรับการอัปเดตด้านความปลอดภัยรายเดือนจนถึงวันดังกล่าว ก็ถือว่ายังพอมีเวลาเก็บเงินอีก 2-3 ปีก่อนจะซื้อเครื่องใหม่

Advertisement

เป็นได้หรือไม่? การยุติ Windows 10 ครั้งนี้อาจจะมาจากการรองรับชิป AI ของ Microsoft

ก่อนหน้าที่มีข่าวลือว่า Microsoft แอบพัฒนาชิป AI ของตัวเองมานานกว่า 4 ปีแล้วในชื่อ Athena และคาดว่าจะเปิดตัวในปี 2024 นี้ การที่หยุดการอัปเดตครั้งนี้เพื่อเป็นการบังคับกลายๆ ว่าทางผู้ใช้งานต้องใช้ฮาร์ดแวร์ใหม่ๆ นะ จะได้ใช้วินโดว์ใหม่ๆ และฟีเจอร์ AI ใหม่ที่กำลังจะมาเป็นได้ และข่าวลือเกี่ยวกับสเปคขั้นต่ำของการอัปเดตเป็น Windows 12 Next Valley ต้องใช้โปรเซสเซอร์ Intel 8th Gen หรือ AMD Ryzen 3000 Series ขึ้นไป, มีชิป TPM 2.0 หรืออาจอนุโลมเป็นเฟิร์มแวร์ในเมนบอร์ดอย่าง fTPM 2.0 ได้, และแรมขั้นต่ำ 8GB

และนอกจากนี้อีกไม่นาน Microsoft น่าจะเริ่มหากำหนดวันวางจำหน่าย Windows 11 Enterprise LTSC และ Windows 11 IoT Enterprise LTSC ในช่วงครึ่งหลังของปี 2024 รายละเอียดเพิ่มเติมจะเปิดเผยให้ทราบเมื่อใกล้วางจำหน่าย

ที่มา: the register

from:https://notebookspec.com/web/699902-no-more-update-windows-10

เล่นเกมลื่น Windows 10 เตรียมอัพเดต Game Bar ใหม่ จัดการ RAM CPU GPU ได้ในตัว

ไมโครซอฟท์เตรียมอัพเดตใหญ่ให้กับฟีเจอร์ Xbox Game Bar บน Windows 10 อย่างเป็นทางการในไม่ช้านี้ โดยการอัพเดตใหม่นี้ ช่วยให้เล่นเกมลื่นขึ้น ด้วยเครื่องมือสำหรับเกมมิ่งที่มีประโยชน์มากขึ้น และปรับ widget หรือของเล่นใหม่ ไปจนถึงการปรับปรุงในส่วนอื่นๆ ที่มีทั้งฟีเจอร์ใหม่ และยังตรวจสอบความเข้ากันได้ของ DirectX 12 Ultimate อีกด้วย

New Game Bar ช่วยให้เล่นเกมลื่น

ส่วนหนึ่งของการปรับปรุงใหม่นี้ มีการโฟกัสไปที่เรื่องของการเล่นเกมในยุคใหม่ โดยเฉพาะกับ Task Manager ที่หลังจากอัพเดตแล้ว จะมีหน้าตาทันดูทันสมัย และ Task Manager ที่ใช้หน้าต่างบน Game Bar อีกด้วย โดยที่ widget ใหม่ จะช่วยให้การตรวยจเช็คบรรดาโปรแกรมหรือปัจจัยอื่นๆ ที่มีการใช้ทรัพยากร RAM, CPU และ GPU ได้ทันที แบบไม่ต้องออกจากเกม

สำหรับ Widget ที่แสดงให้เห็นทรัพยากรบน Game Bar และยังเปิดควบคู่ไปกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ช่วยในการตรวจเช็คเฟรมเรตได้อีกด้วย เพื่อตรวจเช็คไปพร้อมๆ กับการทำงานของโปรแกรมเบื้องหลัง จะได้จัดการปัญหาได้สะดวกขึ้น

ในกรณีที่ตรวจเจอว่า มีโปรแกรมที่ไม่จำเป็นใช้แรมหรือซีพียูอย่างหนักหน่วง ก็สามารถคลิ๊กที่ปุ่ม “X” เพื่อทำการปิดการทำงานหรือ End Process ได้แบบไม่ต้องปิดตัวเกมลงก่อนอีกด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถเข้าถึง widget อื่นๆ ที่ใช้ในการตรวจสอบการใช้ทรัพยากรที่นอกเหนือจากการเล่นเกม เช่น การเปิดขึ้นมาตรวจเช็คการใช้ทรัพยากรของ Chrome ที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง ด้วยการ Kill process เมื่อคุณต้องการที่จะดูหนังแบบไม่สะดุด โดยการใช้ widget ตัวใหม่นั้น สามารถทำได้โดยอัพเดต Game Bar จาก Microsoft Store หลังจากที่อัพเดตแล้วให้กด Win+G แล้วคลิ๊กที่ไอคอน “Resources”

ที่มา: Windows 10

from:https://notebookspec.com/web/545500-windows-10-game-bar-ram-cpu-gpu

เตรียมตัว Update Windows 10 เร็ว ๆ นี้ ปัญหา Disk 100% ทำเครื่องหน่วง เครื่องช้า จะหมดไป

ปัญหาที่ทำให้ Windows 10 ทำงานช้าลง สาเหตุอย่างหนึ่งอาจจะมาจาก Windows Search Indexer ที่ใช้การทำงานของ Disk อย่างเต็มที่ เกิดเป็นภาพที่เมื่อเราเข้าไปดูเปอร์เซ็นต์การทำงานของโปรแกรมในหน้าต่าง Task Manager ก็จะเจอเข้ากับ ‘Disk 100%’ ส่งผลให้คอมพิวเตอร์ของเราอืด หน่วง และช้าลง ทำให้ Microsoft ต้องออกอัพเดตมาแก้ไขปัญหานี้ด้วยการปรับปรุงประสิทธิภาพและการทำงานของ Windows 10 ในเดือน พฤษภาคม 2020 นี้

Credit: windowslatest

ใน Windows 10 เวอร์ชั่น 1909 นั้น ทาง Microsoft ได้ปรับปรุงการทำงานของ Cortana โดยแยกออกจาก Windows Search และสำหรับในเวอร์ชั่น 2004 ที่จะปล่อยอัพเดตในเดือนพฤษภาคมนี้นั้นอาจให้ความรู้สึกว่าของพิวเตอร์ของเราเร็วขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ใช้ที่ยังคงใช้ HDD เป็นอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บข้อมูลรุ่นเก่าซึ่งช้ากว่า SSD

Credit: windowslatest

การอัพเดตของ Windows 10 ในเดือนพฤษภาคม คาดว่าจะเปิดให้ดาวน์โหลดกันในเร็ว ๆ นี้ และเราก็ต้องมาลุ้นกันว่าการอัพเดตนี้จะช่วยจัดการปัญหาที่ไม่ใหญ่แต่แสนหนักใจกับผู้ใช้นี้ได้หรือไม่

 

ที่มา: windowslatest 

 

from:https://notebookspec.com/windows-10-is-getting-faster-in-next-update/519586/