Toshiba ยอมขายกิจการมูลค่า 2 ล้านล้านเยนให้กลุ่มบริษัทญี่ปุ่น Japan Industrial Partners

ยักษ์ใหญ่เทคโนโลยี Toshiba มีปัญหาด้านธุรกิจมาหลายปีแล้ว จนในที่สุดก็ยอมขายกิจการไปในมูลค่า 2 ล้านล้านเยน หรือประมาณ 5 แสนล้านบาท ให้กับกองทุน Japan Industrial Partners (JIP) เป็นหนทางเอาตัวรอดหลังบริษัทเผชิญปัญหาจากการปั่นค่ากำไรจากการดำเนินงานและถูกจับได้ในปี 2015

หลังจากผ่านการประมูลไปแล้วนาน 1 ปีจากกว่า 10 ข้อเสนอ ในที่สุด Toshiba ก็ยอมรับดีลเข้าซื้อของ JIP โดยกลุ่มบริษัทที่เข้าซื้อโตชิบาประกอบไปด้วย 20 บริษัท รวมไปถึง Chubu Electric Power และบริษัทผลิตชิป chipmaker Rohm Co.

ทำไม Toshiba ต้องขายกิจการ

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2015 โตชิบามีข่าวฉาวสะเทือนวงการ หลังถูกจับได้ว่าบริษัทโกงบัญชีเพิ่มรายได้ให้ตัวเองไปมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังยอมรับด้วยว่าบริษัทอาจมีการแจ้งค่าใช้จ่ายในปี 2013 ผิดพลาดด้วย จากนั้นผู้บริหารใหญ่หลายรายของบริษัทก็รีบพากันลาออกหนีตายกัน

REUTERS/Kim Kyung-Hoon

หลังจากโดนจับได้บริษัทก็พยายามยืดเยื้อชีวิตมาพักใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการปลดพนักงานออกมหาศาลกว่า 8,000 ตำแหน่ง และขายกิจการย่อยต่าง ๆ รวมถึงขายกิจการเซนเซอร์กล้องให้ Sony, ขายกิจการโทรทัศน์ให้ Hisense, และขายธุรกิจชิป พร้อมออกจากตลาดคอมพิวเตอร์ PC

แต่ดูเหมือนจะแก้ไขยังไงก็ยังไปต่อไม่ไหว จึงต้องตัดสินใจขายกิจการนำเงินมาช่วยเหลือครับ

ที่มา : techspot (2), reuter, investopedia

from:https://droidsans.com/toshiba-buyout-2-trillion-yen/

รู้จัก Comfee’ เครื่องใช้ไฟฟ้าแบรนด์ใหม่ที่ โตชิบา นำเข้ามาทำตลาดไทยเพื่อตีตลาดคนรุ่นใหม่

โตชิบา ไทยแลนด์ นำเข้า Comfee’ แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้ายอดนิยมจากยุโรป และอเมริกา เน้นทำตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ ประเดิมสินค้ากลุ่มแรกด้วยเครื่องปรับอากาศที่มาพร้อมเทคโนโลยี IoT ตั้งเป้ายอดขาย 500 ล้านบาท/ปี

อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยมีการแข่งขันกันสูง แม้ในช่วงโควิด-19 แต่ละแบรนด์ก็ยังมีการออกสินค้าใหม่ที่มีการพัฒนาทั้งในด้านดีไซน์ และคุณสมบัติพิเศษต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นความต้องการซื้อของผู้บริโภค และเพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด โตชิบา ไทยแลนด์จึงได้นำแบรนด์ Comfee’ (คอมฟี) ซึ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านที่ได้รับความนิยมในทวีปยุโรป อเมริกา เอเชีย และแอฟริกา รวม 26 ประเทศ เข้ามาทำตลาดในไทย

Comfee’ มีความโดดเด่น ทั้งด้านเทคโนโลยี และดีไซน์ที่ถูกใจคนรุ่นใหม่ มีไลน์สินค้าครบครัน ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาทิ เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เช่น ไมโครเวฟ เครื่องปั่น เตาอบ เครื่องทำน้ำอุ่น ตู้กดน้ำ เป็นต้น โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องปรับอากาศ Comfee’ เคยได้รับรางวัลยอดขายอันดับหนึ่งจากประเทศเยอรมนี

“การนำ Comfee’ เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครั้งนี้ โตชิบา ไทยแลนด์ จะคัดเลือกกลุ่มสินค้าที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของตลาดในแต่ละช่วงเวลา รวมทั้งรับผิดชอบในการสร้างแบรนด์และทำการตลาด ไปจนถึงการจัดจำหน่าย การกระจายสินค้าไปตามช่องทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ และการให้บริการหลังการขายผ่านศูนย์บริการของโตชิบา ไทยแลนด์ บริษัทฯ มั่นใจว่าแบรนด์ Comfee’ จะเป็นที่นิยมของผู้บริโภคชาวไทยได้ในเวลาไม่นาน สนับสนุนกลยุทธ์ในการสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทฯ ให้ทันสมัยยิ่งขึ้น”

โตชิบา ไทยแลนด์ จะเน้นทำตลาดสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ Comfee’ ก่อน เริ่มตั้งแต่สิ้นปี 2021 เพราะตลาดเครื่องปรับอากาศเป็นตลาดหลักในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า มีสัดส่วนตลาดประมาณ 35% หรือราว 20,000 ล้านบาท โดยช่วงปีแรก บริษัทมีแผนจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ 2 ซีรีส์ ได้แก่ C-Flow Series และ Penrose Series รวม 6 รุ่น ทั้งหมด จะเป็นระบบอินเวอร์เตอร์ที่มาพร้อมระบบ IoT สามารถสั่งงานผ่านมือถือ ควบคุมการเปิดปิด และการทำงานได้สะดวก ตอบโจทย์ชีวิตคนรุ่นใหม่ ในราคาที่จับต้องได้

สำหรับกลยุทธ์ และทิศทางการตลาดแบรนด์ Comfee’ ในอีก 3 ปีข้างหน้า เราตั้งเป้าขยายไลน์อัพสินค้า กว่า 30 รุ่น ทั้งสินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น และสินค้าชิ้นเล็ก เพื่อเติมเต็มความต้องการของลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ ตั้งเป้าเติบโตโดยประมาณการยอดขายกว่า 500 ล้านบาท/ปี และมีช่องทางการจัดจำหน่ายมากกว่า 300 แห่ง ทั่วประเทศ ผ่านการใช้สื่อดิจิทัล และสื่อดั้งเดิมในการสื่อสารแบรนด์ รวมถึงอบรมเจ้าหน้าที่กว่า 1,600 คนทั่วประเทศ เพื่อช่วยสื่อสารลูกค้า

from:https://www.thumbsup.in.th/toshiba-comfee?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=toshiba-comfee

โตชิบา หวังโต 20% สวนทางเงินเฟ้อไทย ชูสินค้า IoT กระตุ้นยอด ครองเบอร์ 1 ตู้เย็นประตูเดียว

โตชิบา ประเทศไทย ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% สวนทางภาวะเงินเฟ้อ และผู้ซื้อคุมค่าใช้จ่าย หวังสินค้ากลุ่ม IoT ช่วยสร้างแบรนด์ให้แตกต่าง ยกระดับแบรนด์สู่กลุ่ม Mid-High ย้ำเบอร์ 1 ตู้เย็นประตูเดียวเช่นเดิม

โตชิบา ยกระดับแบรนด์สู่กลุ่ม Mid-High

อเล็กซ์ มา รองประธานกรรมการ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด เล่าให้ฟังว่า สถานการณ์เงินเฟ้อ, ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น และภาวะสงครามรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ภาพรวมตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยค่อนข้างชะลอตัวในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 แม้เอกชน และรัฐบาลจะส่งโปรแกรมสนับสนุนต่าง ๆ มากระตุ้นการจับจ่าย

จุดนี้เองครึ่งหลังของปี 2022 โตชิบา ประเทศไทย จะปรับภาพลักษณ์สู่การทำตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้ากลุ่ม Mid-High เพื่อเพิ่มโอกาสการทำตลาด โดยมีสินค้ากลุ่ม IoT ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต และสั่งการผ่านโทรศัพท์มือถือได้ แต่ยังมีกลุ่มสินค้าที่เน้นความคุ้มค่าให้เลือก

สำหรับสินค้าใหม่ของ โตชิบา ที่จะทำตลาดในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 มีทั้งหมด 53 รุ่น ครอบคลุมตู้เย็น, เครื่องซักผ้า, เครื่องล้างจาน และเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก โดยในครึ่งหลังนี้ โตชิบา ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 20% และมีส่วนแบ่งในกลุ่มสินค้าต่าง ๆ มากขึ้น โดยมีสินค้ากลุ่มตู้เย็นกินสัดส่วนยอดขายหลัก และเป็นผู้นำตู้เย็นประตูเดียวเช่นเดิม

เจาะส่วนแบ่งตลาดแต่ละสินค้าของ โตชิบา

หากเจาะที่สินค้า โตชิบา ประเทศไทย ทางบริษัทตั้งเป้าว่าในช่วงครึ่งหลังปี 2022 ส่วนแบ่งตลาดกลุ่มตู้เย็นจะเพิ่มจาก 13.8% เป็น 17.4%, กลุ่มเครื่องซักผ้า จะเพิ่มจาก 9.6% เป็น 11%, กลุ่มไมโครเวฟ จะเพิ่มจาก 19.5% เป็น 21.5%, หม้อหุงข้าว จะเพิ่มจาก 5.8% เป็น 8.5% และเครื่องทำน้ำอุ่น จะเพิ่มจาก 9.3% เป็น 10%

“โตชิบา ประเทศไทย มียอดขายเติบโตเป็นเลขสองหลักตลอดช่วงโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคอยู่บ้านมากขึ้นจนมีการตัดสินใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่ เช่น ตู้เย็นขนาดใหญ่ขึ้น, เครื่องซักผ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และถึงกระแสดังกล่าวจะเริ่มชะลอตัว แต่ โตชิบา พร้อมเติบโตด้วยสินค้านวัตกรรมใหม่”

ส่วนแผนการทำตลาดหลังจากนี้ โตชิบา ประเทศไทย จะใช้กลยุทธ์ 360 องศา ผ่านการลงทุนตกแต่งจุดขายใหม่ทั้งหมดเพื่อสื่อสารความเป็นสินค้า IoT มากขึ้น พร้อมกับทำกิจกรรมในแต่ละพื้นที่ รวมถึงเพิ่มความสำคัญในการจำหน่ายช่องทางออนไลน์

เงินเฟ้อ ขนส่งแพง บาทอ่อน กระทบเล็กน้อย

ส่วนปัญหาภาวะเงินเฟ้อ, ต้นทุนค่าขนส่งสูงขึ้น รวมถึงค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างหนัก ส่งผลกระทบให้การกำหนดราคาสินค้าของ โตชิบา ประเทศไทย เล็กน้อย และทางบริษัทยืนยันว่า การวางราคาจะเน้นเรื่องความคุ้มค่า และเข้าถึงได้ทุกระดับ

“น้ำมันแพงขึ้นหลายเท่าตัว และทุกคนต้องประหยัด แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าคือสินค้าจำเป็น ไม่ใช่สินค้าฟุ่มเฟือย ทำให้ยังมีความต้องการ ส่วนเรื่องค่าเงินบาทอ่อน ด้วยสินค้าที่จำหน่ายในไทยเป็นการนำเข้าสัดส่วน 30% ส่วนที่เหลือเป็นการจ้างพาร์ตเนอร์ในไทยผลิต ดังนั้นอาจกระทบสินค้ากลุ่มหนึ่งเท่านั้น”

กอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด ย้ำว่า หลังจากนี้โรคโควิด-19 จะกลายเป็นโรคประจำถิ่น หรือเทียบเท่ากับการเป็นไข้หวัดใหญ่ ทำให้ปัจจัยลบดังกล่าวอาจหายไปเร็ว ๆ นี้ ซึ่งบริษัทเตรียมพร้อมทั้งแผนการตลาด และสินค้าเพื่อเติบโตหลังจากนี้

อ้างอิงข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าพบว่า บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด มีรายได้ และกำไร/ขาดทุนสุทธิ ดังนี้

• ปี 2021 รายได้รวม 4,368 ล้านบาท กำไรสุทธิ 70 ล้านบาท
• ปี 2020 รายได้รวม 4,402 ล้านบาท กำไรสุทธิ 64 ล้านบาท
• ปี 2019 รายได้รวม 3,885 ล้านบาท กำไรสุทธิ 18 ล้านบาท

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post โตชิบา หวังโต 20% สวนทางเงินเฟ้อไทย ชูสินค้า IoT กระตุ้นยอด ครองเบอร์ 1 ตู้เย็นประตูเดียว first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/toshiba-2022-business-plan/

โตชิบา ทีวี ฉลองครบรอบ 70 ปี มุ่งเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด 10% ภายใน 5 ปี เดินหน้าเปิดตัวทีวีใหม่ 6 รุ่น ที่ตอบครบทุกความต้องการในยุคนิวนอร์มอล

โตชิบา ทีวี (Toshiba TV) ฉลองครบรอบการก้าวสู่ปีที่ 70 จัดงานแถลงข่าวทิศทางและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในตลาดทีวีไทย ปี พ.ศ. 2565 เดินหน้ารับความท้าทายครั้งใหม่ นำ “โตชิบา ทีวี” สมาร์ททีวีสุดล้ำรุ่นล่าสุด มาพร้อมเทคโนโลยี REGZA ครบครันด้วยภาพและเสียงที่เหนือระดับด้วยคุณภาพระดับโรงภาพยนตร์ ลุยขยายส่วนแบ่งการตลาดทีวีพรีเมียม ตั้งเป้ายอดขาย 330 ล้านบาท ณ ชฎารูม โรงแรมสยามเคมปินสกี้

มร.เจสัน ซู ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานปฎิบัติการต่างประเทศ TVS REGZA Corporation Japan เผยว่า “แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมา ภาพรวมของตลาดทีวีในประเทศไทยที่มีมูลค่ารวมกว่า 30,000 ล้านบาท จะอยู่ในภาวะค่อนข้างอิ่มตัว และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 3% ต่อปี อันเนื่องมาจากภาคเศรษฐกิจที่หดตัวจากผลกระทบของวิกฤติโควิด-19 ภายในประเทศ และวิถีชีวิตของคนในสังคมที่เข้าสู่ยุค “Mobile First” เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตตลอดเวลาผ่านหน้าจอสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต เมื่ออยู่นอกบ้านและภายในบ้าน

แต่ขณะเดียวกันได้เป็น “ความท้าทายครั้งใหม่” ของแบรนด์ผู้ผลิตทีวีเพื่อที่จะผลักดันให้ตลาดทีวีเติบโตต่อไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มสมาร์ททีวี ซึ่งครองส่วนแบ่งการตลาดถึง 50% ในกลุ่มยุโรป อเมริกา และสิงคโปร์ ขณะที่ในไทยยังอยู่ที่ 25% ของมูลค่าตลาดทีวีในไทย ซึ่งจากนโยบายการเปิดประเทศและการกำหนดให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่นในปีนี้ เป็นปัจจัยเชิงบวกสำหรับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งออกที่คาดว่าจะขยายตัวต่อเนื่องตามภาวะเศรษฐกิจโลก ประกอบกับการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ทยอยฟื้นตัว และการขยายตัวของความเป็นเมือง (Urbanization)

ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลดีต่อ “โตชิบา ทีวี” ในการปลุกกระแสความต้องการของผู้บริโภคในตลาดทีวีอีกครั้ง เพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมความสุขและความบันเทิงภายในบ้านของครอบครัว ด้วยสมาร์ททีวีที่มาพร้อม “นวัตกรรม” ที่พัฒนาไปไกล เติมเต็มความสมบูรณ์แบบจากการดึงคอนเทนต์บนมือถือหรือเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตมารับชมผ่านจอทีวีที่มีขนาดใหญ่

ด้วยเทคโนโลยีภาพและเสียง REGZA ซึ่งเป็นตัวย่อของคำว่า “Real Expression Guaranteed by amazing Architecture แทนความหมายถึงความมุ่งมั่นที่แน่วแน่ของโตชิบา ทีวี ที่จะนำเสนอเฉพาะโซลูชันที่ดีที่สุด จึงให้ภาพที่มีความคมชัดระดับ 4K และเสียงที่สมจริงประหนึ่งอยู่ในโรงภาพยนตร์

พร้อมเทคโนโลยีระดับไฮเอนด์และคุณสมบัติอัจฉริยะอีกมากมาย ทำให้ได้อรรถรสความบันเทิงมากกว่า ในราคาที่คุ้มค่าและเข้าถึงได้ง่าย โดยปีนี้ โตชิบา ทีวี พร้อมแนะนำ ไลน์อัพผลิตภัณฑ์ใหม่รวม 6 รุ่นด้วยกัน” 

ด้าน มร.ทัตสึฮิโระ นิชิโอกะ ผู้จัดการด้านภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์โตชิบา ทีวี, Toshiba TV Global TVS REGZA Corporation เผยว่า “โตชิบา ทีวี (Toshiba TV) เริ่มเปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ.1952 และตลอด 70 ปี  ได้สร้างชื่อเสียงในฐานะแบรนด์ทีวีชั้นนำระดับโลกด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นครั้งแรกในโลกและครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นมากมาย ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นแบรนด์ทีวีคุณภาพระดับพรีเมียม ที่มาพร้อมเสน่ห์และสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรียบง่ายแต่มีสไตล์ เป็นการหลอมรวมระหว่างงานฝีมือชั้นสูงและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย

โตชิบา ทีวี ได้สร้างนวัตกรรมเพื่อเปิดโลกใหม่แห่งความบันเทิง อาทิ ทีวีกรอบจอคู่ (double-window) การชมแบบปรับเวลา (time-shift viewing) การชมภาพ 3 มิติแบบไม่ต้องใช้แว่นตา (glasses-free 3D) และอัลตร้าเอชดี 4 เค (UltraHD 4K) เพื่อมอบประสบการณ์รับชมภาพในบ้านที่เสมือนนั่งชมในโรงภาพยนตร์  

โตชิบา ทีวี มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์รับชมภาพและเสียงที่สมจริงที่สุดด้วยเทคโนโลยีขั้นสุดยอดที่สร้างคอนเทนต์ตรงตามแบบฉบับที่ผู้สร้างคอนเทนต์ตั้งใจมอบให้ ทั้งนี้เพื่อให้ลูกค้าได้รับชมภาพและฟังเสียงอย่างสมจริงและตื่นเต้นมากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้เพื่อนำไปสู่การยกระดับการใช้ชีวิตของทุกคน

ในปี พ.ศ.2561 ตลาดสมาร์ททีวีทั่วโลกมีมูลค่า152.96 พันล้านดอลลาร์ และคาดว่าจะสูงถึง 288.71 พันล้านดอลลาร์ใน พ.ศ.2568  โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยสะสม 9.5% ตลอดระยะเวลาคาดการณ์ตามผลสำรวจของ Nielsen นอกจากนี้ยังพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา มีแนวโน้มในการใช้สมาร์ททีวีเพื่อหลากหลายจุดประสงค์มากขึ้น ไม่เพียงแค่รับชมข่าวสาร แต่ยังเพลิดเพลินกับบริการสตรีมมิ่งต่าง ๆ จากการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านทีวี  

อีกทั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ยังทำให้ใครหลายคนจำเป็นต้องทำงานจากที่บ้าน (Work from home : WFH) ทำให้ต้องอาศัยหน้าจอทีวีเพื่อการทำงาน  และความบันเทิงเพิ่มขึ้น กรณีการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้มีส่วนสนับสนุนการเติบโตสูงสุดในตลาดความบันเทิงภายในบ้าน ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้บริโภคคาดหวังสมาร์ททีวีคุณภาพสูง

สอดคล้องตรงกับปรัชญา Truth ของโตชิบา ทีวี ซึ่งคำว่า Truth คือ คุณภาพที่ผู้บริโภคต้องการในยุคนิวนอร์มอล (New Normal) ทั้งนี้ด้วยคุณภาพของโตชิบา ทีวี แบรนด์ REGZA สามารถคว้าส่วนแบ่งตลาดถึงอันดับ 1 ในตลาดญี่ปุ่นช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม พ.ศ.2565* ดังนั้นเราจึงมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าทีวีรุ่นใหม่ที่เราเปิดตัวในวันนี้จะตอบโจทย์ยุคนิวนอร์มอลได้เป็นอย่างดี”    

ส่วน พงษ์เทพ ศิริสกุลเวโรจน์ ผู้จัดการอาวุโสแผนกขายผลิตภัณฑ์ทีวี, TVS REGZA Corporation Thailand Office  กล่าวว่า “เนื่องจากปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อทีวีพรีเมียมเครื่องใหม่ของผู้บริโภคกลุ่มบน อันดับหนึ่ง คือ คุณภาพของภาพและเสียง ตามมาด้วยรูปโฉมและการออกแบบ แบรนด์ และฟังก์ชั่นสมาร์ททีวี ซึ่งเป็นจุดได้เปรียบของโตชิบา ทีวี ที่ใช้เทคโนโลยี ภาพ REGZA Engine 4K PRO ระบบประมวลผลอัจฉริยะ มีพลังการวิเคราะห์ภาพที่แม่นยำ ผสมผสานระหว่างเทคโนโลยีสีควอนตัมดอท (Quantum Dot) และระบบปรับความสว่างแบบ Full Array Local Dimming  

อีกทั้งยังเพิ่มความคมชัดของภาพยิ่งขึ้นด้วยระบบอัจฉริยะหลักของโตชิบา AI Ultra Essential PQ Technology เพื่อการรับชมภาพที่สมจริงที่สุด พร้อมทั้งระบบ REGZA Engine ที่ช่วยยกระดับภาพคอนเทนต์ Full HD ในทุก ๆ เนื้อหา เช่น รายการทีวี, DVD, Blu-ray และสตรีมมิ่ง ให้มีความคมชัดเทียบเท่า 4K ด้านประสบการณ์รับฟังเสียงที่สมจริงก็เป็นไปได้ด้วยเทคโนโลยีเสียง REGZA Power Audio Technology รวมทั้ง REGZA Power Audio PRO+ ที่มาพร้อมกับ Quad Passive REGZA bass woofer ให้เสียงสมจริงสุดเร้าใจ และ REGZA Power Audio PRO ที่ติดตั้ง Power Bass Booster ให้เสียงอันทรงพลัง

พร้อมยกระดับความบันเทิงด้วย Dolby Atmos และประสบการณ์เสียงเซอร์ราวด์รอบทิศทางที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งได้รับการปรับแต่งคุณภาพจากห้องปฏิบัติการในประเทศญี่ปุ่น เพื่อยกระดับความบันเทิงทั้งภาพและเสียงให้เสมือนการรับชมอยู่ในโรงภาพยนตร์ ภายใต้รูปลักษณ์ดีไซน์มินิมอลสไตล์ แต่คงไว้ซึ่งโครงสร้างที่แข็งแรงและทนทาน พร้อมออกแบบเส้นสายในแนวตั้งและแนวนอนให้สอดคล้องกับพื้นที่อยู่อาศัย ผสมผสานเข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบอย่างลงตัว และเพื่อฉลองครบรอบ 70 ปี เราจึงขยายไลน์อัพโตชิบา ทีวี ประจำปีนี้มีรุ่นใหม่ถึง 6 รุ่น”

 สำหรับปี พ.ศ.2565  โตชิบา ทีวี รุ่นใหม่มีด้วยกัน 6 รุ่น  ได้แก่:  X990 ซีรี่ส์  Z770 ซีรี่ส์  M550 ซีรี่ส์  C350 ซีรี่ส์  V35 ซีรี่ส์  และ S25 ซีรี่ส์   

นายพงษ์เทพ เพิ่มเติมว่า “โตชิบา ทีวี ตั้งเป้าส่วนแบ่งตลาดไว้ที่ 10% ภายใน 5 ปี เพื่อขับเคลื่อนให้บรรลุเป้าหมายทั้งยอดขายและส่วนแบ่งตลาด เราจะดำเนินกลยุทธ์ทางการตลาดที่ช่วยกระตุ้นการซื้อ ด้วยการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค การขยายช่องทางการขาย ส่งเสริมแบรนด์ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นและสร้างการรับรู้แบรนด์ให้ดียิ่งขึ้นผ่านโซเชียลมีเดีย รวมถึงรีวิวโดยนักอินฟลูเอนเซอร์ และการชูจุดแข็งขององค์กรให้แพร่หลายยิ่งขึ้น 

นอกจากนี้ยังชูกลยุทธ์สปอร์ตมาร์เก็ตติ้ง ในฐานะผู้สนับสนุนการแข่งขันฟุตบอล FIFA World Cup 2022 อย่างเป็นทางการ และฉลองครบรอบ 70 ปี ของโตชิบา ทีวี เพื่อให้เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคแต่ละกลุ่มเป้าหมาย”  

ติดตามข้อมูลและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ “โตชิบา ทีวี” และกิจกรรมการตลาดต่าง ๆ ได้ที่  Facebook : Toshiba TV Thailand  /  https://www.th.toshiba-visual.com/

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/toshiba-tv-celebrates-its-70th-anniversary-with-the-launch-of-6-new-tvs/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=toshiba-tv-celebrates-its-70th-anniversary-with-the-launch-of-6-new-tvs

Toshiba จัดหนักฉลองครบรอบ 70 ปี เปิดตัวสมาร์ททีวีระบบ Google TV และ Android TV ใหม่ 6 รุ่น

Toshiba แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟาที่เราคุ้นชื่อกันมาแต่อ้อนแต่ออก ซึ่งแยกย่อยออกมาเป็นอีกแบรนด์สำหรับสินค้าประเภททีวีในชื่อ Toshiba TV ตอนนี้มีอายุปาเข้าไปถึง 70 ปีแล้วนะ (เปิดตัวเมื่อปี 1952) ซึ่งทาง Toshiba TV ก็เลยขอฉลองครบรอบ 70 ปี ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทีวีที่ใช้ระบบบ Google TV และ Android TV รุ่นใหม่ทั้งหมดถึง 6 รุ่น ให้เลือกกันตั้งแต่หน้าจอขนาด 32 นิ้ว ไปจนถึง 75 นิ้วกันไปเลย

ใครกำลังมองหาสมาร์ททีวีระบบ Android TV จอใหญ่ ๆ ภาพงาม ๆ คมจัดชัดจริงระดับ 4K ก็ต้องหันหน้ามาทางแบรนด์ Toshiba TV กันล่ะ โดยทีวีค่ายนี้ไม่ใช่ภาพชัดธรรมดา ๆ เพราะมากับเทคโนโลยีภาพที่อัดมาให้แน่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น REGZA Engine 4K Pro ที่ช่วยอัปสเกลคอนเทนต์ระดับ FHD ให้คมชัดเทียบเท่าระดับ 4K

เทคโนโลยีสีแบบ Quantum Dot ที่ให้ภาพออกมาแบบสมจริงสุด ๆ, ระบบควบคุมความสว่างหน้าจอ Full Array Local Dimming, AI Ultra Essential PQ Technology ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ

ไม่ใช่ว่าจะมีดีแค่เรื่องภาพเท่านั้น แต่ระบบเสียงของสมาร์ททีวีจาก Toshiba ก็ไม่ใช่เล่น ๆ ด้วยเทคโนโลยี REGZA Power Audio Technology, REGZA Power Audio PRO+, Quad Passive REGZA bass woofer เพิ่มความกระหึ่มบึ้ม ๆ ให้กับทั้งหนัง เกม เพลง และ REGZA Power Audio PRO แถมยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพิ่มความสมจริงด้วยเสียงแบบ Surround ที่มีมิติมากขึ้นจนเหมือนดูอยู่ในโรงหนังยังไงยังงั้น

และสำหรับสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ทั้ง 6 รุ่น ของปี 2022 ที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราก็มีตามนี้เลย

1. X9900 Series : ขนาด 55 นิ้ว / 65 นิ้ว
2. Z770 Series : ขนาด 55 นิ้ว / 65 นิ้ว
3. M550 Series : ขนาด 50 นิ้ว / 55 นิ้ว / 65 นิ้ว
4. C350 Series : ขนาด 43 นิ้ว / 50 นิ้ว / 55 นิ้ว / 65 นิ้ว / 75 นิ้ว
5. V35 Series : ขนาด 32 นิ้ว / 43 นิ้ว
6. S25 Series : ขนาด 32 นิ้ว / 43 นิ้ว

 

นอกจากนี้ Toshiba ยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขัน FIFA WORLD CUP ปี 2022 อีกด้วยนะ…ถือเป็นโอกาสดีเลยที่จะได้ถอยทีวีเครื่องใหม่พร้อมเทคโนโลยีทั้งภาพและเสียงไว้เตรียมดูบอลกันแบบสะใจสุด ๆ ช่วงปลายปีนี้ครับ

 

ที่มา : อีเมลประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/toshiba-launched-6-new-android-tvs/

Toshiba จัดหนักฉลองครบรอบ 70 ปี เปิดตัวสมาร์ททีวีระบบ Google TV และ Android TV ใหม่ 6 รุ่น

Toshiba แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟาที่เราคุ้นชื่อกันมาแต่อ้อนแต่ออก ซึ่งแยกย่อยออกมาเป็นอีกแบรนด์สำหรับสินค้าประเภททีวีในชื่อ Toshiba TV ตอนนี้มีอายุปาเข้าไปถึง 70 ปีแล้วนะ (เปิดตัวเมื่อปี 1952) ซึ่งทาง Toshiba TV ก็เลยขอฉลองครบรอบ 70 ปี ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทีวีที่ใช้ระบบบ Google TV และ Android TV รุ่นใหม่ทั้งหมดถึง 6 รุ่น ให้เลือกกันตั้งแต่หน้าจอขนาด 32 นิ้ว ไปจนถึง 75 นิ้วกันไปเลย

ใครกำลังมองหาสมาร์ททีวีระบบ Android TV จอใหญ่ ๆ ภาพงาม ๆ คมจัดชัดจริงระดับ 4K ก็ต้องหันหน้ามาทางแบรนด์ Toshiba TV กันล่ะ โดยทีวีค่ายนี้ไม่ใช่ภาพชัดธรรมดา ๆ เพราะมากับเทคโนโลยีภาพที่อัดมาให้แน่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น REGZA Engine 4K Pro ที่ช่วยอัปสเกลคอนเทนต์ระดับ FHD ให้คมชัดเทียบเท่าระดับ 4K

เทคโนโลยีสีแบบ Quantum Dot ที่ให้ภาพออกมาแบบสมจริงสุด ๆ, ระบบควบคุมความสว่างหน้าจอ Full Array Local Dimming, AI Ultra Essential PQ Technology ระบบปัญญาประดิษฐ์ที่จะช่วยเพิ่มความคมชัดของภาพ

ไม่ใช่ว่าจะมีดีแค่เรื่องภาพเท่านั้น แต่ระบบเสียงของสมาร์ททีวีจาก Toshiba ก็ไม่ใช่เล่น ๆ ด้วยเทคโนโลยี REGZA Power Audio Technology, REGZA Power Audio PRO+, Quad Passive REGZA bass woofer เพิ่มความกระหึ่มบึ้ม ๆ ให้กับทั้งหนัง เกม เพลง และ REGZA Power Audio PRO แถมยังรองรับระบบเสียง Dolby Atmos เพิ่มความสมจริงด้วยเสียงแบบ Surround ที่มีมิติมากขึ้นจนเหมือนดูอยู่ในโรงหนังยังไงยังงั้น

และสำหรับสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ทั้ง 6 รุ่น ของปี 2022 ที่จะนำเข้ามาวางจำหน่ายในบ้านเราก็มีตามนี้เลย

1. X9900 Series : ขนาด 55 นิ้ว / 65 นิ้ว
2. Z770 Series : ขนาด 55 นิ้ว / 65 นิ้ว
3. M550 Series : ขนาด 50 นิ้ว / 55 นิ้ว / 65 นิ้ว
4. C350 Series : ขนาด 43 นิ้ว / 50 นิ้ว / 55 นิ้ว / 65 นิ้ว / 75 นิ้ว
5. V35 Series : ขนาด 32 นิ้ว / 43 นิ้ว
6. S25 Series : ขนาด 32 นิ้ว / 43 นิ้ว

 

นอกจากนี้ Toshiba ยังเป็นสปอนเซอร์ให้กับการแข่งขัน FIFA WORLD CUP ปี 2022 อีกด้วยนะ…ถือเป็นโอกาสดีเลยที่จะได้ถอยทีวีเครื่องใหม่พร้อมเทคโนโลยีทั้งภาพและเสียงไว้เตรียมดูบอลกันแบบสะใจสุด ๆ ช่วงปลายปีนี้ครับ

 

ที่มา : อีเมลประชาสัมพันธ์

from:https://droidsans.com/toshiba-launched-6-new-google-tv-android-tvs/

TOSHIBA M550LP! ชูจุดเด่นด้านภาพและเสียงที่เหนือระดับ ระบบลำโพงรอบทิศทาง มอบประสบการณ์การรับชมแบบโรงภาพยนตร์

TOSHIBA M550LP! ชูจุดเด่นด้านภาพและเสียงที่เหนือระดับ พร้อมมอบประสบการณ์ความบันเทิงเต็มอรรถรสตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

ปัจจุบันหากเราพูดถึงทีวี เรามักจะให้ความสำคัญกับทีวีที่สามารถตอบโจทย์กับการใช้งานมากที่สุด เช่น ทีวีสำหรับเล่นเกม ทีวีสำหรับรับชมภาพยนตร์ หรือทีวีที่มีการเชื่อมต่อแบบสมาร์ท และสำหรับตลาดทีวีในประเทศไทย กลุ่มผู้บริโภคหลักไม่ได้ให้ความสนใจด้านประสิทธิภาพของเสียง แต่จะให้น้ำหนักกับการใช้งานและความต้องการพื้นฐาน ซึ่งสำหรับกลุ่มครอบครัวโดยทั่วไปต้องการเพียงทีวีที่มีคุณภาพปานกลาง เน้นชูจุดเด่นผลิตภัณฑ์ด้านประสิทธิภาพ ที่มีราคาคุ้มค่า และมาพร้อมกับฟังก์ชันการทำงานที่ครบครันมากที่สุดโดย TOSHIBA M550LP รุ่นใหม่ล่าสุดนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างแท้จริง!

Quantum Dot Color และ Local Dimming เพื่อประสบการณ์สุดดื่มด่ำ

M550LP เป็นรุ่นต่อจากรุ่น M550KP ของปีที่แล้ว คนส่วนใหญ่คงคิดว่า M550LP น่าจะมีหลายๆ สิ่งที่เหมือนกับรุ่นปีที่แล้ว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่! สืบเนื่องมาจากความหลงใหลในการพัฒนาคุณภาพของภาพให้ดียิ่งขึ้น M550LP ได้พัฒนาเทคโนโลยี Quantum Dot Color และติดตั้ง Full-array local dimming ซึ่งมันสร้างความแตกต่างได้อย่างชัดเจนจากรุ่นปีที่แล้วในแง่ของคุณภาพของภาพ Quantum Dot Color (หรือเรียกอีกอย่างว่า QLED หรือ QD-LED) เป็นเทคโนโลยีที่ให้สีสันที่สดใสและสมจริงมากขึ้น ด้วยเทคโนโลยีนี้คุณสามารถเห็นสีที่ใกล้เคียงธรรมชาติมากยิ่งขึ้น เช่น ดอกกุหลาบสีแดง ทุกวันนี้ทีวีจำนวนมากติดตั้งจอแสดงผลแบบ Quantum Dot Color แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือวิธีการลดสีที่อิ่มตัวเกินไป และสร้าง “สีแบบดั้งเดิม” ให้ตรงกับเจตนารมณ์ของผู้กำกับที่ตั้งใจถ่ายทอดออกมาด้วย REGZA Engine 4K Pro ใน M550LP มีเทคโนโลยีการฟื้นฟูมากมาย เช่น การฟื้นฟูช่วงขอบเขตสีที่กว้าง และการฟื้นฟู HDR ปัจจัยเหล่านี้เป็นปัจจัยหลักในการปรับปรุงความแม่นยำในการสร้างสีของภาพให้ตรงกับต้นฉบับ

การหรี่แสงเฉพาะจุดด้วย Full-array local dimming เป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งของการพัฒนาในครั้งนี้ เทคโนโลยีนี้ช่วยควบคุมไฟแบ็คไลท์ของทีวี และได้แบ่งแบ็คไลท์ LED ของทีวีออกเป็นโซนๆ แต่ละโซนสามารถควบคุมแยกกันได้ เพื่อปรับปรุงคอนทราสต์โซน LED ที่อยู่เบื้องหลังให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น โดยที่ส่วนใดของภาพมีความมืดก็จะถูกหรี่แสงให้เป็นสีดำเข้ม และส่วนใดของภาพสว่างก็จะปรับแสงให้สว่างขึ้น เพื่อทำให้ภาพตรงกับต้นฉบับ

นอกจากนี้ การจับคู่จอแสดงผลและชิปประมวลผล REGZA Engine 4K Pro ยังเป็นปัจจัยสำคัญอีกประการหนึ่งของ M550LP ซึ่งได้รับการปรับแต่งอย่างประณีตโดยผู้เชี่ยวชาญด้านภาพในห้องปฏิบัติการที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มความแม่นยำของสีและคอนทราสต์ที่ดีที่สุด ด้วยการผสมผสานระหว่างชิปประมวลผลและจอแสดงผล จึงทำให้ M550LP สามารถแสดงสีที่สมจริงยิ่งขึ้นและคอนทราสต์ที่ยอดเยี่ยม ซึ่งทำให้ภาพมีความน่าตื่นตาตื่นใจ อีกทั้งยังขับเคลื่อนด้วย Dolby Vision-Atmos เพื่อนำประสบการณ์ระดับโรงภาพยนตร์มาสู่ทุกการรับชม

รูปลักษณ์ภายนอกสุดคลาสสิก ที่ไม่มีวันล้าสมัย

สำหรับตลาดโทรศัพท์มือถือหรือตลาดทีวี การมุ่งมั่นพัฒนาด้านประสบการณ์การรับชมแบบเต็มหน้าจอ ได้กลายเป็นการออกแบบที่สำคัญสำหรับทุกแบรนด์ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด และ Toshiba M550LP มาพร้อมการดีไซน์แบบไร้ขอบ ด้วยรูปลักษณ์สวยงามสไตล์มินิมอล ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภคได้เป็นอย่างมาก เพราะเราอยู่ในยุคที่คุณภาพมาเป็นอันดับแรก และ Toshiba ยังได้คำนึงถึงการออกแบบผลิตภัณฑ์เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้านที่หลากหลายด้วย นอกจากนี้ Toshiba M550LP ยังมีโครงด้านหน้าและฐานสีดำ ซึ่งเป็นสีคลาสสิกที่ไม่มีวันล้าสมัย และขาตั้งโลหะแบบคู่ที่ทำให้เครื่องทีวีดูมีความพรีเมียมมากขึ้น

ระบบลำโพงรอบทิศทาง ที่มอบประสบการณ์การรับชมแบบโรงภาพยนตร์

M550LP มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่โดดเด่น เพื่อให้ผู้ใช้สัมผัสได้ถึงความเพลิดเพลินจากการรับชมมากที่สุด เพราะคุณภาพเสียงที่ดีเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก และ Toshiba ได้ใส่ระบบเสียงแบบจัดเต็มด้วย “REGZA Power Audio Pro” M550LP รุ่นนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ลำโพงเพียงตัวเดียว แต่ได้มีการเพิ่มลำโพง 25W ที่ช่วยเพิ่มพลังเสียงมากถึง 49W ซึ่งทำให้ได้คุณภาพเสียงเบสกลาง-สูงได้อย่างอิสระ และเปลี่ยนระดับเสียงให้เป็นธรรมชาติมากขึ้น เพื่อสร้างความเพลิดเพลินในคุณภาพเสียงที่ดีที่สุด แนวคิดเรื่องคุณภาพเสียงของทีวี Toshiba คือการทำให้เสียงชัดเจนที่สุดและปล่อยให้เสียงออกมาจากทางด้านหน้าของจอแสดงผลโดยตรง M550LP ได้นำแนวคิดนี้ไปใช้และดึงศักยภาพของระบบเสียงอันทรงพลังออกมา ระบบเสียงของ M550LP ได้รับการปรับแต่งอย่างดีโดยการออกแบบอุปกรณ์ที่ติดตั้งมากับทีวีที่เหมือนกับการปรับแต่งอุปกรณ์เครื่องเสียงคุณภาพสูง เพื่อให้เสียงมีความเหมาะสมยิ่งขึ้น ทำให้ทุกสัมผัสได้ดื่มด่ำกับประสบการณ์และอรรถรสของเสียงที่สมจริง

เหมาะกับคอเกมที่สุด

ทุกวันนี้หลายๆ คนเพลิดเพลินกับการเล่นเกมบนทีวี เช่น เกมแนวจำลองเหตุการณ์ยิงปืน (FPS) เกมแข่งรถ และอีสปอร์ต (eSports) ซึ่ง Toshiba TV เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่แนะนำ “เกมโหมด” ในยุคแรกๆ ของทีวีดิจิตอล ทีวีมีโหมดรูปภาพมากมาย เช่น โหมดสดใส โหมดปกติ และโหมดภาพยนตร์ ซึ่งโหมดเหล่านี้ใช้เวลาในการประมวลผลสัญญาณประมาณ 200-300 มิลลิวินาที (Millisecond) เพื่อสร้างคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม แม้ว่าการประมวลผลจะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับคุณภาพของภาพ แต่ในเรื่องความล่าช้าก็เป็นเรื่องที่สำคัญมากเช่นกันสำหรับคอเกม Toshiba TVS จึงตระหนักถึงเรื่องนี้ และแก้ปัญหาเหล่านี้ ด้วยการนำเทคโนโลยีการถ่ายโอนหน่วยความจำแบบ FIFO (first-in-first-out) และปรับให้เหมาะสมกับการประมวลผลภาพสำหรับเกมโหมด หน่วยประมวลผลภาพใหม่นี้ได้รับการพัฒนาสำหรับเกมโหมดโดยเฉพาะ เพื่อลดเวลาในการประมวลผลให้คุณภาพของภาพเป็นที่ยอมรับได้ และดื่มด่ำกับประสบการณ์การเล่นเกม Toshiba TV ได้ทำเครื่องหมายว่า “Gaming TV ที่มีคุณภาพของภาพที่ยอดเยี่ยม” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดญี่ปุ่น นอกจากนี้ M550LP มีคุณสมบัติการเล่นเกมมากมาย เช่น VRR, ALLM และ eARC คุณสมบัติเหล่านี้มีอยู่ใน HDMI ซึ่งช่วยให้ภาพมีความไหลลื่น และดื่มด่ำกับประสบการณ์การเล่นเกมที่เพลิดเพลิน ด้วยการรวมกันของจอแสดงผล Quantum Dot Color เทคโนโลยีเสียง REGZA Power Audio Pro และเกมโหมด จึงทำให้คอเกมจำเป็น “ต้องมี” M550LP ไว้ครอบครอง

จากจุดกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น สู่การเข้าใจวิถีชีวิตอย่างเหนือระดับ

ในปี ค.ศ.1952 บริษัท Toshiba ได้เริ่มต้นธุรกิจเกี่ยวกับทีวี และในปี 2022 ถือเป็นวันครบรอบ 70 ปีของทีวี Toshiba หลังจากได้มีการพัฒนามาอย่างยาวนาน โดยทีวีของ Toshiba ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีระดับโลกมาอย่างต่อเนื่องและสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ด้วยความมุ่งมั่นในคุณภาพระดับสูง และสไตล์ความเป็นญี่ปุ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว โดยทีวีรุ่น M550LP มาพร้อมตัวประมวลผล REGZA ENGINE ซึ่งคำว่า REGZA มาจากภาษาเยอรมัน “Regsam” มีความหมายที่หลากหลายและเป็นตัวย่อของคำว่า “Real Expression Guaranteed by amaZing Architecture หรือ การแสดงออกที่แท้จริง และคำนี้แทนความหมายถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงของพนักงาน Toshiba ที่ได้เข้าสู่ยุคความละเอียดสูงแบบดิจิทัล และสามารถวางใจได้ว่า REGZA จะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!

สำหรับทีวี Toshiba M550LP ได้มอบประสบการณ์การใช้งานที่ยอดเยี่ยมและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าด้วยคุณภาพของภาพและเสียงที่ล้ำกว่า ที่มาพร้อมกับรูปลักษณ์ภายนอกแบบคลาสสิกและเรียบง่าย ทั้งยังเพิ่มประสบการณ์การรับชมภาพยนตร์ได้สูงสุดด้วยเทคโนโลยี DOLBY VISION & ATMOS และการแสดงภาพที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับรับชมในโรงภาพยนตร์ นอกจากนี้ ในด้านคุณภาพเสียง Toshiba M550LP ยังมีความโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ในตลาด ที่มาพร้อมกับชุดเสียงแบบหลายช่องทางที่ให้เสียงที่ดีขึ้น และปรับปรุงคุณภาพเสียงให้เหมาะกับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสกับประสบการณ์ที่เหนือกว่าได้อย่างแท้จริง หากใครที่กำลังมองหาทีวีที่มีคุณภาพ คุ้มค่าคุ้มราคา พลาดไม่ได้กับ Toshiba M550LP !!

ข่าว: TOSHIBA M550LP! ชูจุดเด่นด้านภาพและเสียงที่เหนือระดับ ระบบลำโพงรอบทิศทาง มอบประสบการณ์การรับชมแบบโรงภาพยนตร์ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/toshiba-m550lp-tv-quantum-dot/

Toshiba เผย ฮาร์ดดิสความจุ 30TB จะพร้อมจำหน่ายภายในปี 2023

Toshiba เผย ฮาร์ดดิสความจุ 30TB จะพร้อมจำหน่ายภายในปี 2023

Credit: ShutterStock.com

Toshiba เผยข้อมูลแผนพัฒนาฮาร์ดดิสของบริษัท ภายในงานประชุมนักลงทุน โดยจะมีการนำฮาร์ดดิสแบบ 9-platter 18TB มาพัฒนาต่อร่วมกับบริษัท Showa Denko ด้วยการใช้เทคโนโลยี MAS-MAMR ทำให้สามารถสร้างฮาร์ดดิสที่มีความจุมากกว่า 30TB ออกมาได้ และคาดว่าในปี 2023 จะสามารถวางจำหน่ายฮาร์ดดิสความจุ 30TB สู่ท้องตลาดได้

ปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนาฮาร์ดดิสขนาด 20TB เพื่อวางจำหน่ายในปีนี้ และฮาร์ดดิสขนาด 26TB เพื่อเตรียมวางจำหน่ายในปีหน้า โดยภายในปี 2026 คาดว่าจะมีฮาร์ดดิสที่มีความจุมากกว่า 40TB ออกจำหน่ายสู่ท้องตลาด

ที่มา: https://www.theregister.com/2022/02/09/30tb_toshiba_disk_drive/

from:https://www.techtalkthai.com/toshiba-30tb-hard-drive-ready-in-2023/

Toshiba เตรียมวางตลาดฮาร์ดดิสก์ 26TB ภายในปีนี้ ปี 2026 จะไปเกิน 40TB

Toshiba แถลงถึงแผนการพัฒนาความจุฮาร์ดดิสก์ว่ารุ่นความจุสูงสุดจะเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่าปีละ 10% ไปจนถึงปี 2026 ที่ฮาร์ดดิสก์จะใหญ่กว่า 40TB ส่วนในปีนี้ก็จะมีรุ่น 26TB วางตลาด

เทคโนโลยีเพิ่มความจุของ Toshiba เดิมใช้ FC-MAMR (Flux-Controlled – Microwave-Assisted Magnetic Recording) มาตลอด แต่ปีนี้ก็จะหันไปใช้ MAS-MAMR (Microwave Assisted Switching – Microwave-Assisted Magnetic Recording) ที่พัฒนาร่วมกับ TDK ผู้ผลิตหัวอ่านเขียนฮาร์ดดิสก์ ร่วมไปกับการเพิ่มแผ่นดิสก์ให้แน่นขึ้น รุ่น 30TB ขึ้นไปนั้นน่าจะใช้ดิสก์ 11 แผ่นขึ้นไปแล้ว

ลูกค้าสำคัญของฮาร์ดดิสก์ความจุสูงเหล่านี้คือบริษัทคลาวด์ต่างๆ ที่มักต้องการความจุสูงสุดเพื่อรองรับลูกค้า เป้าหมายของ Toshiba นับว่าต่ำกว่าของ Seagate ที่ประกาศว่าจะทำความจุ 50TB ภายในปี 2026 อยู่พอสมควร แม้ว่าที่ผ่านมาการขยายความจุรุ่นสูงสุดของทั้งสองบริษัทจะไม่ได้ต่างกันนัก คงต้องดูความสามารถในการส่งมอบเป็นหลัก

ที่มา – BusinessWire

Topics: 

Toshiba

Harddisk

Storage

from:https://www.blognone.com/node/127095

โตชิบาเตรียมเปลี่ยนแผนแบ่งเป็นสองบริษัท แทนสามบริษัทเดิม

โตชิบาตัดสินใจที่จะแบ่งตัวเองออกเป็น 3 บริษัท แทนการแบ่งเป็นถึง 3 บริษัทที่เคยกล่าวก่อนหน้า เพื่อต้องการการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นในการปฏิวัติโครงสร้างธุรกิจตัวเอง โดยแผนล่าสุดนี้จะเป็นการแตกธุรกิจหลักทั้งสามด้าน ทั้งระบบและโซลูชั่นด้านพลังงาน ระบบโครงสร้างพื้นฐาน และธุรกิจแบตเตอรี่

ทั้งหมดนี้จะรวมอยู่ในบริษัทชื่อ Infrastructure Co. ซึ่งรวมถึงหุ้นในบริษัท Kioxia Holdings ด้วย ส่วนธุรกิจที่เหลือจะรวมตั้งเป็นบริษัท Device Co. อันได้แก่ธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และโซลูชั่นสตอเรจ โดยชื่อทางการของบริษัทจะประกาศอีกครั้งหนึ่ง

ทางโตชิบาชี้แจงว่า การตัดสินใจแบ่งเป็นสองบริษัทอิสระครั้งนี้เป็นผลมาจากการที่กรรมการบริหารพิจารณาแผนปรับโครงสร้างองค์กรอย่างละเอียด และการมีส่วนร่วมของทั้งผู้ถือหุ้น หน่วยงานราชการ และฝ่ายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมด้วย

ประธานและซีอีโอของโตชิบา Satoshi Tsunakawa กล่าวถึงเป้าหมายของการแบ่งกิจการในครั้งนี้ว่า “เราทำเพื่อเป้าหมายในการสร้างการเติบโตของผลกำไรได้อย่างยั่งยืน มีประสิทธิภาพ และรวดเร็วที่สุด รวมไปถึงให้มูลค่าแก่ผู้ถือหุ้นดีที่สุด” พร้อมทั้งแพลนว่าจะแบ่งบริษัทเสร็จในช่วงครึ่งปีหลังของปีงบประมาณ 2023

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

 

สมัครสมาชิก Enterprise ITPro เพื่อรับข่าวสารด้านไอที

ชื่อของคุณ

กรุณากรอกอีเมล์*

I accept the Privacy Policy*

form#sib_signup_form_4 {
padding: 5px;
-moz-box-sizing:border-box;
-webkit-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 input[type=text],form#sib_signup_form_4 input[type=email], form#sib_signup_form_4 select {
width: 100%;
border: 1px solid #bbb;
height: auto;
margin: 5px 0 0 0;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn {
margin: 5px 0;
padding: 6px 12px;
color:#fff;
background-color: #333;
border-color: #2E2E2E;
font-size: 14px;
font-weight:400;
line-height: 1.4285;
text-align: center;
cursor: pointer;
vertical-align: middle;
-webkit-user-select:none;
-moz-user-select:none;
-ms-user-select:none;
user-select:none;
white-space: normal;
border:1px solid transparent;
border-radius: 3px;
}
form#sib_signup_form_4 .sib-default-btn:hover {
background-color: #444;
}
form#sib_signup_form_4 p{
margin: 10px 0 0 0;
}form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message {
padding: 6px 12px;
margin-bottom: 20px;
border: 1px solid transparent;
border-radius: 4px;
-webkit-box-sizing: border-box;
-moz-box-sizing: border-box;
box-sizing: border-box;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-error {
background-color: #f2dede;
border-color: #ebccd1;
color: #a94442;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-success {
background-color: #dff0d8;
border-color: #d6e9c6;
color: #3c763d;
}
form#sib_signup_form_4 p.sib-alert-message-warning {
background-color: #fcf8e3;
border-color: #faebcc;
color: #8a6d3b;
}

from:https://www.enterpriseitpro.net/toshiba-now-plans-to-split-into-two-companies/