คลังเก็บป้ายกำกับ: SNAPDRAGON_845

Vivo เปิดตัว iQOO Neo เกมมิ่งโฟนรุ่นสุดคุ้ม เลือกใช้ Snapdragon 845 เคาะราคาเริ่มต้นแค่ 8,000 บาท

เปิดตัวอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้วสำหรับ Vivo iQOO Neo มือถือเกมมิ่งในซีรีย์ iQOO ที่เปิดตัวและเรียกเสียงฮือฮาจากผู้นิยมมือถือสายเกมได้พอสมควร เพราะมาพร้อมกับสเปคที่แรงทั้งเรื่องของประสิทธิภาพและความเร็วในการชาร์จ ส่วนมือถือน้องใหม่นี้เป็นรุ่นที่ถูกลดสเปคลงมาจากรุ่นพี่ แต่ยังคงอัดแน่นด้วยฟีเจอร์ที่เอาใจสายเกมทั้งหลาย รวมถึงมีราคาที่ประหยัดกว่าเดิม

Vivo iQOO Neo มาพร้อมกับจอ Super AMOLED ขนาด 6.38 นิ้ว แบบมีติ่งหยดน้ำ รองรับความละเอียด FHD+ (1080 x 2340 พิกเซล) อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9 รองรับสแกนนิ้วแบบ in-display และ face unlock นอกจากนี้ยังมีการจัดวางลำโพงไว้ระหว่างจอแสดงผลกับขอบตัวเครื่อง พร้อมมีไฟแจ้งเตือนอยู่ข้างๆ

iQOO Neo จะมาพร้อม 4D Game Shock 2.0 และระบบระบายความร้อน Vapor Chamber ที่ใช้แผ่นกราไฟต์หลายชั้นประกบและแผ่นอลูมิเนียม ซึ่งทางค่ายเคลมว่าสามารถลดอุณหภูมิลงถึง 3 องศาฯ ซึ่งทำได้ดีว่ามือถือรุ่นอื่นๆ ที่ใช้ Snapdragon 845 ทั่วไป

รวมถึงยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่เอาในสายเกมอย่าง Multi-Turbo ที่รวมเอาขุมพลังทั้งหลายมาใส่ไว้ในมือถือ อาทิเช่น AI Turbo, Center Turbo, Net Turbo, Cooling Turbo, DC Dimming, dark mode ที่สามารถใช้งานได้กับแอปฯต่างๆ กว่า  300 แอปฯ apps, มีปุ่มสีส้มสำหรับเรียกผู้ช่วยอัจฉริยะ Jovi Assistant, มีช่องเสียบหูฟัง, รองรับ USB Type-C port  รวมถึงมีหน้าจอสแดงผลที่ช่วยป้องกันแสงสีฟ้าจากการจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ

กล้องหลังสามตัว เซนเซอร์หลักความละเอียด 12MP (f/1.79) ทำงานร่วมกับ depth sensor 2MP (f/2.4) ในการถ่ายภาพ Portrait และมีกล้อง Ultra-wide 8MP (f/2.2) สำหรับถ่ายภาพมุมกว้าง

สเปค Vivo iQOO Neo

  • ระบบปฏิบัติการ : Android 9 Pie ครอบทับด้วย Funtouch OS 9
  • หน้าจอ : Super AMOLED 6.38″ ความละเอียด FHD+(2340×1080 พิกเซล) อัตราส่วน 19.5:9
  • ขนาดตัวเครื่อง: 159.53×75.23×8.13 มม/ 198.5 กรัม
  • CPU : Snapdragon 845 (2.8GHz)
  • GPU : Adreno 630
  • RAM : 6/8GB
  • ความจุ : 64/128GB
  • กล้องหลังสามตัว: 12MP (f/1.79) + depth sensor 2MP(f/2.4) + ultra-wide 8MP(f/2.2)
  • กล้องหน้า : 12 MP(f/2.0)
  • เซ็นเซอร์ : in-display Fingerprint, face unlock
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับ Fast Charge 22.5 W

iQOO Neo มี 2 สีให้เลือกคือสีดำ Carbon Black และ สีม่วง Neon Purple และเปิดให้ pre-order เรียบร้อยแล้วบนเว็บไซต์ออนไลน์ของ Vivo, Tmall, JD.com,Suning และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอื่นๆ และจะเปิดวางจำหน่ายในวันที่ 8 กค. นี้สำหรับสนนราคาเปิดตัวมีดังนี้

  • 6GB + 64GB = CNY 1798 หรือประมาณ 8,000 บาท
  • 6GB + 128GB =CNY1998 หรือประมาณ 8,900 บาท
  • 8GB + 64GB = CNY2098 หรือประมาณ 9,300 บาท
  • 8GB + 128GB =CNY2298 หรือประมาณ 10,235 บาท

 

ที่มา gsmarena , gizmochinavivo

from:https://droidsans.com/vivo-iqoo-neo-snapdragon-845-cheal-gaming-phone/

AnTuTu เผย 10 อันดับมือถือแรงสุด ประจำเดือนมกราคม 2019 ยังไม่มีใครแซงแชมป์เก่าได้

มาแล้วว.. ใครที่กำลังรอผลการจัดอันดับมือถือ Android รุ่นที่แรงที่สุดประจำเดือนมกราคม 2019 กันอยู่ ล่าสุดมีผลประกาศจาก AnTuTu  ออกมากันแล้ว โดยอันดับ 1 มงยังคงเป็นของ nubia Red Magic Mars แชมป์เก่าจากเดือนธันวาคมนั่นเอง ส่วนอันดับอื่นๆ จะมีรุ่นไหนจากค่ายไหนกันบ้างนั้นตามมาดูกันเลย

ผล Benchmark จาก Antutu ประจำเดือนมกราคม 2019

อันดับ 1 แชมป์เก่า nubia Red Magic Mars ที่ถึงแม้จะใช้ชิปเรือธงของปีที่ผ่านมาอย่าง Snapdragon 845 แต่ก็มีการอัดสเปค RAM 10GB และปรับจูนประสิทธิภาพให้ออกมาสูงสุด จนสามารถทำคะแนนไปถึง 320,996 ทิ้งห่างอันดับ 2 ไปถึง 12,000 คะแนน

อันดับ 2 ยังเป็นของ Huawei Mate 20 ที่ไปได้ 308,140 คะแนน  อันดับที่ 3 คือ HONOR V20 ผลทดสอบออกมาที่ 306,567 คะแนน ตามมาด้วย อันดับ 4 Huawei Mate 20X และ Honor Magic 2 ในลำดับที่ 5 โดยทั้ง 4 อันดับที่ตามหลังมานั้นใช้ชิป Kirin 980 ที่เป็นชิป 7 นาโนเมตรทุกรุ่น แต่ก็ยังทำคะแนนออกมาในระดับเดียวกับ Snapdragon 845 ที่ 10 นาโนเมตร (นี่ยังไม่รู้ว่าหาก Snapdragon 855 ออกมาพวกชิป Kirin 980 อันดับจะหล่นไปอยู่ตรงไหน)

ส่วนมือถือหน้าใหม่ที่กำลังไต่อันดับเข้าโผมาในเดือนมกราคมที่ผ่านมาคือ vivo NEX ในอันดับที่ 9 และ มือถือเกมมิ่ง Asus Rog Phone ในอันดับที่ 10 โดยทำคะแนนสูสีกันนิดหน่อย และได้เบียดเอา Black Shark และ nubia X หลุดโผไปเป็นที่เรียบร้อย

จากผลที่ออกมาคงจะพูดได้ว่า nubia Red Magic Mars เป็นมือถือที่แรงที่สุดในตอนนี้เพราะรั้งอันดับ 1 มาตั้งแต่เดือนที่ผ่านมา ใช้ขุมพลังความแรงด้วย ชิปเซ็ต Snapdragon 845 จับคู่มากับ RAM 10GB ด้วยความแรงเบอร์นี้จึงทำคะแนนสูงลิ่วไปถึง 302,996 คะแนน

อย่างไรก็ตามผลคะแนนของ AnTuTu ในเดือนมกราคมนี้ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นมือถือที่ใช้ชิป Snapdragon 845 และ Kirin 980 เราจึงยังไม่เห็นมือถือใหม่ๆ ที่ใช้ชิป Snapdragon 855 ติดเข้ามาในโผ รอดูเดือนหน้าโผอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพราะความแรงของชิปเซ็ตใหม่ๆ ที่กำลังเปิดตัวค่ะ

 

ที่มา gsmarena

from:https://droidsans.com/nubia-red-magic-mars-keeps-its-crown-as-antutus-fastest-android-phone/

Huawei Mate 20 Pro ผลทดสอบความแรงยังแพ้กระทั่ง iPhone รุ่นเก่า

Huawei Mate 20 Pro Performance Benchmarks Kirin 980 Cover

ก่อนหน้านี้ Huawei ได้ทำการแซว ขอบคุณที่ไม่มีอะไรใหม่ และคุยเรื่องหน่วยประมวลผล Kirin 980 ที่เป็นสถาปัตยกรรม 7 นาโนเมตรตัวแรกของโลก หากไม่นับรวม A12 Bionic ของทาง Apple ที่เปิดตัวกับ iPhone 2018 ไปก่อนหน้า และข่าวก่อนหน้านี้ Huawei เคยคุยว่า Kirin 980 เร็วกว่า Snapdragon 845 ซึ่งเป็นหน่วยประมวลผลเรือธงของ Android รุ่นล่าสุดถึง 37%

Huawei Mate 20 Pro Geekbench Single Core

Huawei Mate 20 Pro ผลทดสอบความแรงยังแพ้กระทั่ง iPhone รุ่นเก่า

ทางสื่อต่างประเทศได้ทำการเก็บข้อมูลและทดสอบหน่วยประมวลผล Kirin 980 ที่อยู่ใน Huawei Mate 20 Pro เพื่อเปรียบเทียบกับสมาร์ทโฟนเรือธง รุ่นอื่นในท้องตลาดที่ยังคงเป็น Snapdragon 845 รุ่นเก่า (10 นาโนเมตร) และแน่นอนว่ารวมถึง A12 Bionic (7 นาโนเมตร) ที่อยู่ใน iPhone XS และ XS Max ด้วยเช่นกัน

เริ่มต้นจาก GeekBench ในส่วนของ Single Core แพ้กระทั่ง iPhone 7 ที่เปิดตัวมาหลายปีแล้ว และยังรวมถึง Samsung Galaxy Note 9, iPhone X ซึ่งเมื่อเทียบกับ iPhone XS Max รุ่นล่าสุดยิ่งห่างกันหลายขุม

Huawei Mate 20 Pro Geekbench Multi Core

แต่พอมาทดสอบกับแอปพลิเคชันเดิม GeekBench ในส่วนของ Multi Core ก็ยังคงแพ้ iPhone X อยู่เช่นเดิม โชคดีที่ยังสามารถเอาชนะ Galaxy Note 9 และสมาร์ทโฟน Android หลายแบรนด์ในท้องตลาดได้

Huawei Mate 20 Pro Antutu

เพื่อความยุติธรรมดังนั้นจึงเปลี่ยนแอปพลิเคชันทดสอบ (เปลี่ยนกฎและกติกา) โดยในมาตรฐาน AnTuTu ซึ่งเป็นการทดสอบ “ทั้งหมด” ไม่ได้วัดเพียงแค่ CPU แต่มีการเอา GPU และปัจจัยอื่นมาร่วมด้วยก็พบว่า iPhone X แพ้ไปเรียบร้อย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคะแนนก็ยังห่างชั้นกับ iPhone XS Max

Huawei Mate 20 Pro Gfxbench

เพื่อให้ครบทุกแอปพลิเคชัน จึงได้ทำการเปลี่ยนเป็นแอปพลิเคชัน GFXBench ซึ่งให้น้ำหนักด้านกราฟิกมากกว่า Mali G76 (เป็นชิปกราฟิกที่อยู่ใน Kirin 980 อีกที) ผลก็เหมือนเดิมคือยังแพ้ให้กับ Samsung และ Apple อยู่เช่นกัน

ที่มา – phonearena.com

from:https://www.iphonemod.net/huawei-mate-20-pro-performance-benchmarks-kirin-980.html

เปิดตัว Razer Phone 2 มาพร้อมชิป Snapdragon 845 พร้อมปรับปรุงจอและกล้องให้ดีขึ้น

Razer Phone 2  เป็นรุ่นใหม่ของสมาร์ทโฟนที่สร้างมาเพื่อคอเกมโดยเฉพาะ โดยรุ่นแรกที่ออกมาก็ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับน่าพอใจ และมีหลายค่ายเดินตามรอยทำสมาร์ทโฟนสำหรับการเล่นเกมออกมาหลายรุ่น และล่าสุดมีการเปิดตัว Razer Phone 2 อย่างเป็นทางการมาพร้อมชิป Snapdragon 845 และยังทำการปรับปรุงจอและกล้องให้ดีขึ้นไปอีก

สเปคของ Razer Phone 2

  • มาพร้อมชิป Snapdragon 845 มีระบบระบายความร้อนด้วยไอน้ำ
  • GPU Adreno 630
  • แรม 8GB
  • ความจุเริ่มต้น 64 GB UFS storage คาดว่าจะมีรุ่นความจุมากกว่านี้ และรองรับไมโคร SD
  • หน้าจอ LCD IGZO ขนาด 5.7 “มีความละเอียดแบบ QHD 120Hz อัตราส่วน 16: 9 สว่างขึ้นกว่าเดิม 50% โดยกดปุ่มสูงสุด 645 nits
  • แบตเตอรี่ 4,000 mAh รองรับ QuickCharge 4.0
  • Razer Phone 2 อาจจะมีราคาเริ่มต้นที่ 800 เหรียญ (ยังไม่ได้รับการยืนยัน)
  • Android 8.1 Oreo อัพเกรดได้ในอนาคต
  • มีระบบกันน้ำ IP67
  • ระบบเสียง Dolby Atmos  พร้อมลำโพงคู่ด้านหน้า
  • รองรับ USB-C
  • ไม่มีช่องหูฟัง 3.5 ม.ม.
  • กล้องหลักเลนส์คู่ความละเอียด 12MP ทั้งสองเลนส์ ใช้เซ็นเซอร์ของ Sony ถ่ายวีดีโอได้ละเอียด 2160p 60 เฟรมเรตต่อวินาทีและมีโหมดถ่ายภาพสโลว์โมชั่น 1080p @ 120fp

ข่าว: เปิดตัว Razer Phone 2 มาพร้อมชิป Snapdragon 845 พร้อมปรับปรุงจอและกล้องให้ดีขึ้น มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2018/10/11/razer-phone-2-unveiled-with-s845-chip.html

Huawei อวดความเทพ Kirin 980 แน่นทั้งแผ่น ดีกว่าทุก CPU ในปัจจุบัน

ดูเหมือนว่า Huawei จะมีความมั่นในและภูมิใจใน Kirin 980 ที่เพิ่งเปิดตัวไปในงาน IFA และเตรียมจะนำเอามาใช้กับ Huawei Mate 20 ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆนี้ โดยทาง Richard Yu ได้มีการพูดถึงความแรงและประสิทธิภาพต่างๆของ Kirin 980 เอาไว้พอสมควร โดยเปรียบเทียบชนกับคู่แข่งแบบเต็มๆ และแน่นอนว่ามันต้องดีกว่าทุกด้าน แต่ข้อมูลจะมีอะไรบ้างนั้น วันนี้เรารวบรวมเอามาให้ดูกัน

ถ้าใครที่ได้ดูการเปิดตัว iPhone XS, XS Max และ XR เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา จะเห็นว่าทาง Apple เค้าเคลมว่าชิป A12 ของเค้าเป็นชิปขนาด 7 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก…อันนี้ก็ไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วใครเป็นคนผลิตก่อนกันแน่ (เพราะ Huawei เปิดตัว Kirin 980 ขนาด 7 นาโนเมตร ก่อน แต่ทาง Apple ได้วางขายมือถือที่ใช้ชิปขนาด 7 นาโนเมตรก่อน) แต่ถึงยังไง Huawei ก็ดูจะมั่นใจกับชิป Kirin 980 ตัวนี้มาก ว่ามันจะแรงกว่าชิป A12 ของ Apple แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นประสิทธิภาพ, การประหยัดพลังงาน, ความฉลาดของ AI และการเชื่อมต่อกับเครือข่ายความเร็วสูง โดยชิป Kirin 980 นี้ มีสเปคหลายๆ อย่างที่ถือเป็น “ครั้งแรกของโลก” ไม่ว่าจะเป็น…

  • ชิปขนาด 7 นาโนเมตร รุ่นแรกของโลก (ต้องไปเถียงกับ Apple กันอีกทีนะ)
  • ชิปที่ใช้ Cortex-A76 รุ่นแรกของโลก
  • ชิปที่มี Dual-NPU (ระบบประมวลผล AI คู่) รุ่นแรกของโลก
  • ชิปที่ใช้ GPU Mali-G76 รุ่นแรกของโลก
  • ชิปที่ใช้ Modem 1.4 Gbps CAT.21 รุ่นแรกของโลก
  • ชิปที่รองรับการใช้งานหน่วยความจำแบบ 2133 Mhz LPDDR4X รุ่นแรกของโลก

ถ้าหากนำเอาชิปขนาด 7 นม. อย่าง Kirin 980 ตัวนี้ไปเทียบกับชิปขนาด 10 นม. รุ่นอื่นๆ แล้ว มันก็จะมีข้อได้เปรียบมากกว่า ทั้ง…

ความเร็วที่มากกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่า

ชิป Kirin 980 ที่เป็น Cortex-A76 จะมีประสิทธิภาพในการประมวลผลต่างๆ เร็วกว่าชิปขนาด 10 นม. อย่าง Kirin 970 ถึง 75% และประหยัดพลังงานมากกว่าถึง 58%

และถ้าหากเอาไปเทียบกับชิประดับไฮเอนด์จากค่ายคู่แข่ง Qualcomm อย่าง Snapdragon 845 ก็พบว่ามันมีความแรงมากกว่าถึง 37% และประหยัดพลังงานกว่าถึง 32% เลยทีเดียว

นอกจาก CPU ที่ต้องแรงแล้ว ในการประมวลผลกราฟฟิคต่างๆ GPU ก็ยังมีส่วนช่วยอีกด้วย โดย GPU Mali-G76 ที่ใช้ร่วมกับ Kirin 980 นี้ ก็มีทั้งความแรงที่เพิ่มขึ้นถึง 46% แต่ยังคงประหยัดพลังงานกว่าถึง 178% ถ้าเทียบกับ Kirin 970

ส่วนเรื่องของหน่วยความจำ หรือ RAM ที่เจ้า Kirin 980 ตัวนี้ รองรับการใช้งานแบบ 2133 MHz LPDDR4X ทำให้มันมี Bandwidth มากขึ้นถึง 20% และมี Latency ต่ำกว่า 22% ถ้าหากเอาไปเทียบกับชิป Snapdragon 845

ทำให้การเล่นเกมด้วยชิป Kirin 980 โดยรวมมีประสิทธิภาพที่สูงกว่า Snapdragon 845 อย่างเห็นได้ชัด ทั้งเฟรมเรทที่สูงกว่า นิ่งกว่า ในหลายๆ เกม และแน่นอนว่ารวมถึงการใช้พลังงานที่น้อยกว่าเดิมด้วย

และถ้าใช้งานร่วมกับเทคโนโลยี GPU Turbo ยิ่งทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงมากขึ้นไปอีก

 

ระบบ Dual NPU (ประมวลผล AI คู่) ช่วยในการประมวลผลภาพถ่ายได้เร็วกว่า

เราได้เห็น Huawei ใช้ระบบ AI ในการประมวลผลภาพถ่ายควบคู่กับกล้องถ่ายรูปมาแล้วในมือถือรุ่น P20 / P20 Pro แต่ในชิป Kirin 980 จะล้ำกว่าเดิมเพราะมันมาเป็นคู่นั่นเอง ทำให้การใช้ AI เพื่อประมวลต่างๆ มีความเร็วมากกว่าเดิม

Kirin 980 มีความเร็วในการแยกแยะภาพถ่ายมากกว่า Snapdragon 845 เกือบเท่าตัว และมากกว่าชิปรุ่น A11 ของ Apple เกือบ 3 เท่า

Snapdragon 845 / Kirin 980 / A11

 

Kirin 980 ยังสามารถประมวลผลการเคลื่อนไหวหลายบุคคลแบบ Real-Time ได้ในครั้งเดียว

 

ชิปที่รองรับการใช้งาน Modem 1.4 Gbps CAT.21 เพื่อการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและไม่ติดขัด

ด้วย Modem 1.4 Gbps CAT.21 ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตไม่ว่าจะ 3G / 4G หรือ WiFi มีความลื่นไหลในการใช้งานมากกว่าเดิมถึง 10 เท่า แถมยังมีการรับสัญญาณได้ดีกว่าเดิมไม่ว่าจะเป็นการใช้งานบนรถไฟความเร็วสูง หรือรถไฟใต้ดิน

เปรียบเทียบความลื่นไหลในการเล่นเกมออนไลน์ด้วย 4G

นอกจากนี้ชิป WiFi ที่ใช้งานร่วมกับชิป Kirin 980 ยังสามารถทำความเร็วในการดาวน์โหลดได้ทะลุ 1Gbps ขึ้นไปถึงระดับ 1.7Gbps เลยทีเดียว

ชิป Kirin 980 ยังเป็นชิปที่พร้อมสำหรับการใช้งาน 5G อีกด้วย

และถ้าหากทำกราฟเปรียบเทียบระหว่างชิป Kirin 980 และ Snapdragon 845 แล้ว จะเห็นว่าชิป Kirin 980 จะเหนือกว่าทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความแรงของ CPU, การใช้พลังงานที่น้อยกว่า, ความเร็วในการประมวลผลของ AI, ประสิทธิภาพในการเล่นเกมที่สูงกว่า รวมถึงความเร็วในการใช้งานเชื่อมต่อทั้ง 3G/4G/5G และ WiFi อีกด้วย

ก็ต้องรอดูกันว่าชิป Kirin 980 ที่จะใช้ในมือถือรุ่นแรกอย่าง Huawei Mate 20 และ Mate 20 Pro ที่กำลังจะเปิดตัวเร็วๆ นี้ จะมีความเร็วความแรงสู้กับชิปของคู่แข่งค่ายอื่นๆ ได้รึเปล่า และแน่นอนว่าต้องมีอีกหลายคนที่รอดูว่าชิปตัวนี้จะแรงกว่าชิป A12 ของทาง Apple ตามที่ Huawei คุยเอาไว้จริงรึเปล่า…แล้วเราจะเอามาอัพเดทให้ครับ

ส่วนการเปิดตัวนี้สามารถไปดูแบบเต็มๆที่เค้าประกาศได้ที่

from:https://droidsans.com/kirin-980-features/

ชมผลทดสอบ AnTuTu ของ Razer Phone 2 ที่มาพร้อมกับ Snapdragon 845 แรม 8GB ความจุ 512GB

ก่อนหน้านี้มีการประกาศว่าจะมีการเปิดตัว Razer Phone 2 ในเร็วๆนี้ โดยล่าสุด หลุดข้อมูลของผลทำสอบ AnTuTu ด้วยข้อกำหนดระดับไฮเอนด์ มีมาพร้อมกับชิป Snapdragon 845 มาพร้อมกับแรม 8 GB และความจุมากถึง 512 GB โดยเมื่อเทียบกับข้อมูลของ Geekbench ด้วยข้อกำหนดที่คล้ายกัน

โดยมันจะมาพร้อมคะแนนมากถึง 283,397 คะแนน ซึ่งถือว่าสูงมากในแง่ของประสิทธิภาพโดยรวม ส่วนรายละเอียดของ Razer Phone 2 จะมาพร้อมหน้าจอของ Sharp IGZO LCD ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด 2560 × 1440 พิกเซล Razer Phone 2 และรองรับถึง 120 hz ด้วยเทคโนโลยีการแสดงผล Qualcomm Q Sync แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า Razer Phone 2 จะมีหน้าจอขนาดใหญ่หรือจอแสดงที่มีรอยบากขนาดเล็กแบบ waterdrop หรือไม่

สเปคของ  Razer Phone 2

  • มาพร้อม Snapdragon 845
  • Adreno 630
  • แรม 8GB
  • ความจุ 512 GB
  • Android 8.1 Oreo
  • ผลทดสอบ Geekbench สำหรับการทดสอบแกนเดี่ยวได้คะแนน 2,026 และสำหรับมัลติคอร์ได้คะแนน 8,234
  • ส่วนคะแนน Antutu ทำยอดรวม 283,397 คะแนน

ข่าว: ชมผลทดสอบ AnTuTu ของ Razer Phone 2 ที่มาพร้อมกับ Snapdragon 845 แรม 8GB ความจุ 512GB มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2018/09/08/razer-phone-2-appears-on-antutu-with-snapdragon-845.html

พบข้อมูล Geekbench ของ Razer Phone 2 ที่มาพร้อมกับแรม 8 GB และชิป Snapdragon 845

Razer Phone 2 มีข่าวหลุด มาตลอดว่าจะมีการเปิดตัวเร็วๆนี้ เพราะในงาน China Joy 2018 ที่ผ่านมา CEOs ของค่าย ได้กล่าวในงาน  keynotes ว่า Razer Phone 2 จะเปิดตัวภายในเดือน ธันวาคม ปีนี้ ล่าสุดมัการพบข้อมูล Geekbench ของ Razer Phone 2 หลุดออกมาให้ชมแล้ว

โดย ข้อมูล Geekbench ของ Razer Phone 2 ระบุว่ามันจะมาพร้อมกับ แรม 8 GB และชิปเซ็ต Snapdragon 845 ซึ่งขัดแย้งกับรายงานก่อนหน้านี้โดยที่ระบุว่ามันจะมาพร้อมรุ่นใหม่อย่าง Snapdragon 855 ซึ่งผลทดสอบแบบ single-core และ multi-core มีค่าต่ำกว่าคู่แข่งรายอื่น ๆ ถึงแม้ว่าจะยังคงมีการพัฒนาอยู่ก็ตามดังนั้นการอ่านตัวเลขเหล่านี้อาจมีข้อผิดพลาด และอาจจะทำคะแนนได้ดีขึ้นหากตัวเต็มออกมาวางขายแล้ว

โดยคาดว่า Razer Phone 2 จะมาพร้อมกับ Android Oreo OS ตั้งแต่ออกจากกล่อง แต่ในตอนนี้มันควรเปลี่ยนเป็น Android Pie แล้ว นอกจากนี้มันยังมาพร้อมกับระบบเสียง ที่สมจริงของ virtual 7.1 surround sound

ข่าว: พบข้อมูล Geekbench ของ Razer Phone 2 ที่มาพร้อมกับแรม 8 GB และชิป Snapdragon 845 มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2018/09/07/razer-phone-2-arrives-on-geekbench-with-8-gb-ram-and-sd845.html

ชิป Snapdragon 855 ได้รับการทดสอบแล้วจาก Geekbench แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่ดีขึ้นอย่างมาก

พบชิปประมวลผลรุ่นใหม่ Snapdragon 855 ของ Qualcomm ได้รับการทดสอบแล้วบนแอพพลิเคชั่น Geekbench โดยใช้ชื่อว่า QUALCOMM msmnile for arm64 มาพร้อมโปรเซสเซอร์ Octa Core 1.78GHz ติดตั้งอยู่ในอุปกรณ์ที่รันบน Android 9 Pie และมีความจำ RAM 6GB

ชิป Snapdragon 855 ได้รับ 3,697 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 10,469 คะแนน สำหรับ Multi-Core ขณะที่ชิป Snapdragon 845 ที่มีอยู่ในสมาร์ทโฟนเรือธงในปัจจุบัน โดยทั่วไปจะทำคะแนนได้ประมาณ 2,400 คะแนน สำหรับ Single-Core และ 8,500 – 9,000 คะแนน สำหรับ Multi-Core

อย่างไรก็ตาม คะแนนของชิป Snapdragon 855 ยังตามหลังชิป Apple A11 Bionic ที่อยู่ใน iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X นั่นหมายถึง iPhone รุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวในวันที่ 12 กันยายนนี้ จะมีประสิทธิภาพที่น่ากลัวยิ่งขึ้น เพราะถูกลือว่าจะใช้ชิป A12 ที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้นไปอีก

คาดว่า ชิป Snapdragon 855 จะผลิตบนเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร มาพร้อมชิปโมเด็ม X50 LTE ซึ่งอาจสนับสนุนเทคโนโลยี 5G และจะถูกนำไปใช้กับสมาร์ทโฟน Samsung Galaxy S10 เป็นรุ่นแรก

ที่มา – Geekbench

from:http://www.flashfly.net/wp/228366

ผลทดสอบชี้!! ชิป 7 นาโนเมตรของ Kirin 980 และ Snapdragon 855 มีประสิทธิภาพดีกว่า Snapdragon 845 ถึง 30%

HiSilicon Kirin 980 เป็นชิปประมวลผลขนาด 7 นาโนเมตรรุ่นแรกของโลก ที่ได้รับการเปิดตัวทางการที่งาน IFA 2018 และ Huawei ได้แสดงภาพสไลด์เปรียบเทียบกับ Snapdragon 845 ซึ่งชิปประมวลผลขนาด 10 นาโนเมตรรุ่นที่ 2 ของ Qualcomm เพื่อบอกว่า Kirin 980 มีประสิทธิภาพดีกว่า 37% และประหยัดพลังงานได้สูงกว่า 32%

ล่าสุดมีผลทดสอบจากแอพพลิเคชั่น Antutu หลุดออกมาแล้ว โดยเป็นคะแนนของสมาร์ทโฟน Huawei Mate 20 ที่มากับชิปประมวลผล Kirin 980 สามารถทำได้ถึง 356,918 คะแนน ขณะที่สมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ทำคะแนนได้ 2 หมื่นต้นๆ เท่านั้น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของชิปประมวลผลขนาด 7 นาโนเมตรได้อย่างชัดเจน

ไม่ใช่เพียง Kirin 980 แต่ชิปรุ่นใหม่ของ Qualcomm ที่ใช้รหัสรุ่น msmnile ก็มีประสิทธิภาพสูงกว่าชิป Snapdragon 845 ถึง 30% จากผลทดสอบของ Geekbench โดยคาดว่า msmnile เป็นรหัสรุ่นหรือโค้ดเนมของ Snapdragon 855 และผลิตด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร

นอกจากนี้ยังมีข่าวลือว่า ชิป Apple A12 ที่ฝังอยู่ใน iPhone รุ่นใหม่ ซึ่งจะเปิดตัวในเร็วๆ นี้ ก็จะใช้เทคโนโลยี 7 นาโนเมตรเช่นเดียวกัน

ที่มา – Phonearena

from:http://www.flashfly.net/wp/228331

พรีวิว Pocophone F1 สมาร์ทโฟนราคา 10,990 บาทพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 845 แรม 6GB แบต 4000 mAh ถูกที่สุดในเวลานี้

Pocophone เป็นค่ายมือถือน้องใหม่ที่ Xiaomi หนุนหลัง และได้จัดงานเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของค่าย Pocophone F1 ในอินเดียเป็นที่แรกเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา และในวันนี้ก็ได้เปิดตัวในประเทศไทยอย่างทางการแล้ว พร้อมกับอินโดนีเซีย ฮ่องกง และ ฝรั่งเศส

ในบางประเทศ Pocophone F1 จะถูกเรียกสั้นๆ ว่า POCO F1 มีจุดเด่นที่ชิปประมวลผล Snapdragon 845 ซึ่งเป็นชิปที่ดีที่สุดในปีนี้ของ Qualcomm ปกติจะฝังอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเรือธงของแต่ละค่าย รวมถึง Xiaomi Mi 8 ที่เข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่แน่นอนว่า POCO F1 สามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า เพราะมีราคาถูกกว่านั่นเอง

ดีไซน์ด้านหน้าของ Pocophone F1 มีส่วนคล้ายกับ Xiaomi Mi 8 ตรงที่มีรอยบากแบบเดียวกันและภายใต้รอยบากยังมีเซ็นเซอร์อินฟราเรดสำหรับสแกนใบหน้าเพื่อปลดล็อคสมาร์ทโฟนเหมือนกันด้วย

ส่วนบอดี้ถูกผลิตด้วยด้วยวัสดุโพลีคาร์บอเนต และครอบทับแผงด้านหน้าด้วยกระจก Corning Gorilla Glass

Pocophone F1 ใช้จอแสดงผล LCD (2246 x 1080 พิกเซล) ขนาด 6.18 นิ้ว อัตราส่วนภาพ 18.7:9 แตกต่างจาก Xiaomi Mi 8 ที่ใช้จอแสดงผล AMOLED (2248 x 1080) พิกเซล ขนาด 6.21 นิ้ว

Pocophone F1 มาพร้อมกล้องคู่หลัง ตัวหลัก 12 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX363 รูรับแสง f/1.9 ขนาดพิกเซล 1.4 ไมครอน รองรับเทคโนโลยี Dual Pixel กล้องตัวรอง 5 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ของ Samsung ส่วนกล้องเซลฟี่ 20 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.0

Pocophone F1 ตอบสนองความบันเทิงด้วยลำโพงคู่ ตัวหลักอยู่ด้านล่าง อีกตัวเป็นลำโพงหูฟังที่อยู่ด้านบน ทั้งคู่ช่วยขับเสียงในระบบสเตอริโอ พร้อมรองรับระบบเสียง Dirac HD, Dual Smart PA แลสามารถเชื่อมต่อกับหูฟังอันเดิมของผู้ใช้งาน ผ่านช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

Pocophone F1 ทำงานบนพื้นฐานระบบปฏิบัติการ Android 8.1 Oreo สวมทับด้วย MIUI 9 และรองรับการอัพเดทเป็น Android 9 Pie อย่างแน่นอนในอนาคต  เอาใจคอเกมด้วยเทคโนโลยีระบายความร้อน LiquidCool Technology สำหรับการเล่นเกมเป็นเวลานาน และมากับแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh ซึ่งสนับสนุนเทคโนโลยีชาร์จเร็ว Quick Charge 3.0 ขณะที่ Xiaomi Mi 8 มากับแบตเตอรี่ 3,400mAh

Pocophone F1 สำหรับวางจำหน่ายในประเทศไทย จะมีให้เลือก 2 สี คือ สีเทา กับสีน้ำเงิน และมีให้เลือก 2 รุ่น ได้แก่ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 64GB ราคา 10,990 บาท กับ RAM 6GB จับคู่กับ ROM 128GB ราคา 12,990 บาท ทั้ง 2 รุ่น จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคม 2018 เป็นต้นไป ทั้งร้านค้าปลีกที่เป้นตัวแทนของ Xiaomi ทั่วประเทศ รวมถึงช่องทางออนไลน์ของ Lazada

from:http://www.flashfly.net/wp/227510