คลังเก็บป้ายกำกับ: SKYLAKE

(ลือ) อินเทลเตรียมเข็น Coffee Lake, Skylake-X, Kaby Lake-X โชว์ใน Computex 2017

ตามประเพณีของโลกฮาร์ดแวร์ที่จะหมุนมาเจอของใหม่ในช่วงงาน Computex ที่ไต้หวัน ซึ่งงานปีนี้ในวันที่ 30 พฤษภาคม – 3 มิถุนายน 2017 มีข่าวของซีพียูกลุ่มใหม่จากทางอินเทลในชื่อแพลตฟอร์มรวมว่า Basin Falls ที่จะใชซีพียู Skylake-X และ Kaby Lake-X และร่นการผลิต Coffee Lake จากมกราคม 2018 มาผลิตในเดือนสิงหาคม 2017 นี้เลย ขอแยกไฮไลท์ที่ลือกันออกเป็นรุ่นๆ ดังนี้

  • Coffee Lake จะเป็นชีพียูกลุ่มเมนสตรีมที่จะพยายามเพิ่มจำนวนแกนประมวลผลเข้าไปเพื่อสู้กับคู่แข่ง ในขนาดการผลิต 14 นาโนเมตร ทำงานกับชิปเซ็ตเบอร์ใหม่ ทั้ง Z370, H370, B360 และ H310 ที่จะทยอยเปิดตัวภายหลัง
  • Skylake-X จะมีซีพียูสามรุ่น มีแกนประมวลผล 6, 8 และ 10 แกน ค่าความร้อน 140 วัตต์ และมีแพลนจะปล่อยตัวท็อป 12 แกนในเดือนสิงหาคม 2017
  • Kaby Lake-X จะมีซีพียู 4 แกน สเปคความร้อน 112 วัตต์

ที่มา – Digitimes

alt="upic.me"

from:https://www.blognone.com/node/91754

Gigabyte H270 Gaming 3 เกิดมาเพื่อฆ่า Z270!!


สำหรับใครที่เคยติดใจเมนบอร์ด H170 Gaming 3 ของ Gigabyte มาแล้ว เมนบอร์ดตัวนี้จะทำให้คุณไม่อยากเปลี่ยนใจไปใช้ซีรีย์อื่นอีกเลย เพราะ H270 Gaming 3 ยังคงเป็นเมนบอร์ดที่มีฟังก์ชันครบ ดีไซน์สวย และที่สำคัญมันยังสามารถใช้ได้กับทั้ง CPU Intel 6th Generation (Skylake) และ 7th Generation (Kabylake) ในราคามิตรภาพแค่ 4,740 บาทเท่านั้น!!

from:http://www.it-reborn.com/gigabyte-h270-gaming-3-%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%a1%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%86%e0%b9%88%e0%b8%b2-z270/

Intel ระส่ำ เจอสงครามราคาจาก AMD Ryzen ปรับลดราคาซีพียูยกแผง !

Intel price cut

คงจะเรียกได้ว่า AMD ทำสำเร็จไปแล้วครึ่งทางเลยก็ว่าได้ กับการมาของ RYZEN ซึ่งหลังจากที่เราได้ทราบข้อมูลอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับเรื่องของราคาจำหน่ายและช่วงเวลาการเปิดตัวของ RYZEN กันไปเป็นที่เรียบร้อย จากงานแถลงข่าวที่เพิ่งจะมีขึ้นเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับ AMD Techday หรือ AMD RYZEN Techday ซึ่งทางเราเองก็ได้มีการนำเสนอข้อมูลจากในงานให้ได้รับทราบกันไปแล้วเช่นกัน โดยราคาของ RYZEN ในโมเดลท๊อปหรือตัวเรือธงของตระกูลอย่าง RYZEN 7 1800X ทาง AMD จะมีการกำหนดราคาเปิดตัวเอาไว้เพียงแค่ $499USD ส่วนราคาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการก็ได้มีการประกาศและพร้อมเปิดให้ทำการสั่งจองหรือ Pre-order ในราคา 18,900 บาท ซึ่งกับราคาที่ปรากฏให้เห็นตรงนี้นั้น ถือว่ามันเป็นราคาเพียงประมาณครึ่งเดียวของซีพียูในโมเดล Core i7-6900K กับซีพียูในโมเดลรองท๊อปจากทาง Intel ในเวลานี้เท่านั้น แต่เมื่อมองจากประสิทธิภาพหรือความแรงแล้วนั้นมันมีความใกล้เคียงกันเป็นอย่างยิ่ง จนในที่สุดแล้วยักษ์ฟ้าก็ต้องมีความเคลื่อนไหวจนได้ !

สำหรับการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จากทาง Intel อาจจะนับว่าเป็นครั้งประวัติศาสตร์ก็ว่าได้ กับการออกมาประกาศปรับลดราคาซีพียูในตระกูล Kaby Lake ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปยังไม่ทันจะถึง 3 เดือน ยังจะรวมไปถึงซีพียูในตระกูล Skylake และ Broadwell-E เช่นกัน ซึ่งทาง wccftech ได้มีการนำเสนอข้อมูลที่ปรากฏให้เห็นจากเว็บไซต์จำหน่ายสินค้าออนไลน์ที่มีชื่อว่า Microcenter ที่ได้มีการปรับลดราคาซีพียูอินเทลลงมามากถึง 21 รุ่นในคราเดียว ซึ่งราคาที่มีการปรับลดสูงสุดนั้นมีมากถึง $300US หรือกว่า 10,800 บาทเลยทีเดียวสำหรับซีพียูในโมเดล Core i7-6950X ซีพียูที่เคยได้ชื่อว่าทรงพลังที่สุดสำหรับชาว Desktop ก่อนหน้านี้ ส่วนซีพียูในโมเดลยอดนิยมอย่าง Core i7-7700K ก็มีการปรับลดลงมา $80US หรือประมาณ 2,800 บาท และสำหรับ Core i7-6700K ปรับลดลงมามากถึง $140US หรือกว่า 5,000 บาท ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ค่อนข้างช็อคพอสมควร ทั้งนี้สำหรับซีพียูในโมเดลอื่น ๆ ทั้งหมดที่มีการปรับลดราคาลงมานั้น จะมีอัตราการปรับลดลงมามากน้อยขนาดไหน รับชมได้จากรายการด้านล่างเลยนะครับ

Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_31
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_2
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_41
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_3
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_4
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_1
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_Core-i7-6700K-Core-i5-6500-Core-i5-6400
Intel-Kaby-Lake-Skylake-Haswell-Processor-Price-Cuts_Core-i7-7700K-Core-i5-7600K-Core-i5-6600K_1

ZoLKoRn Says: น่าจะชัดเจนเลยละครับว่า งานนี้เราจะต้องขอบคุณ AMD ไม่น้อยเลยทีเดียวที่ทำให้ในที่สุดแล้วเราก็ได้พบเห็นการปรับลดราคาลงยกแผงของซีพีจากทาง Intel ซึ่งโดยปรกติแล้วนั้นเราไม่เคยพบเห็นปรากฏการณ์ในลักษณะนี้มาก่อน โดยการปรับลดที่ผ่าน ๆ มาก็เป็นเพียงการปรับลดตามยุคสมัยที่ลดลงไม่มากมายเท่านี้ แต่ในครั้งนี้นั้นมันคือผลกระทบโดยตรงกับการมาของ RYZEN จากทาง AMD อย่างไม่ต้องสงสัย เพราะทาง AMD ได้ประกาศชัดเจนว่าจะเล่นสงครามราคากับทาง Intel ดังนั้นหาก Intel ไม่มีการปรับลดราคาลงมาอย่างที่เห็นละก็ตนเองลำบากแน่นอน

ส่วนหนึ่งที่ทำให้ Intel ถึงกับจะต้องรีบปรับลดราคาของ CPU ลงมาทั้ง ๆ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปไม่นาน แถมซีพียูตัวใหม่ของ AMD หรือ RYZEN เองก็ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการด้วยซ้ำไป ในจุดนี้ Intel เองก็คงจะทราบดีแล้วว่าประสิทธิภาพของ RYZEN นั้นมันคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะหาก Intel มั่นใจว่า RYZEN ไม่แรงอย่างที่ AMD โม้ไว้ มีหรือที่จะต้องยอมปรับลดราคาลงมา

ในอีกมุมหนึ่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้ฝักใฝ่ฝ่ายใดหรือค่ายไหน ผมก็มองว่ามันก็ตกเป็นผลดีโดยตรงต่อผู้บริโภคต่อคอเกม ซึ่งถ้ามองจากราคาของ 7700K ก่อนที่จะมีการปรับลดราคานั้นมันจะมีราคาในบ้านเราประมาณ 13,900-14,000 บาท หรือถ้าอิงจากราคาของ Microcenter ตามในข่าว มันก็จะมีราคาประมาณ 13,600 บาท มาในเวลานี้ก็ลดลงเหลือเพียง 10,700 บาทโดยประมาณ หรือที่ดูว่าจะน่าสนใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ 6700K ที่ลดราคาลงมาอย่างมหาโหดชนิดที่ว่าหลังหักกันเป็นแถว ๆ สำหรับใครที่เพิ่งจะจัดไป เพราะมีการปรับลดที่มากถึง 5,000 บาท ซึ่งหากใครที่ไม่ได้ซีเรียสว่าจะต้องเป็น Kaby Lake เพราะไม่ได้คิดจะโอเวอร์คล๊อกอะไรมากมาย มันก็จะกลายเป้นตัวเลือกที่คุ้มค่ามากที่สุดตัวหนึ่งบนแพลทฟอร์ม LGA1151 ณ เวลานี้เพราะราคาของมันจะเหลือเพียงประมาณ 9,300 บาทเท่านั้นเอง ซึ่งดู ๆ แล้วราคาจะพอ ๆ กับซีพียูมือสองเลยละครับ ซึ่งงานนี้ก็คงกระทบกับตลาดมือสองกันจ้าละหวั่นเช่นกัน ส่วนใครที่ใช้โมเดลท๊อปอย่าง 6950X นั้นก็คงเจ็บหนักหน่อย เพราะราคาใหม่ปรับลดลงมามากถึง $300US หรือลดกันเป็นหมื่น

สิ่งที่จะน่าสนใจต่อไปหลังจากนี้ก็คือ เมื่อทาง AMD มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีวางขายอย่างเต็มตัวแล้วนั้น กระแสตอบรับจะทำได้ดีเพียงไร เพราะหากว่ากระแสตอบรับทำได้ดีมาก ๆ บางทีเราอาจจะยังได้เห็นการปล่อยซีพียูในตระกูลใหม่ออกมาเร็วกว่าที่เคยวางแผนเอาไว้ก็เป็นได้สำหรับฝั่ง Intel กับ Skylake-X และ Kaby Lake-X ซึ่งมันจะเป็นแพลทฟอร์ม HEDT ที่มีไว้สำหรับต่อกรกับ RYZEN 7 โดยตรง แต่สิ่งที่ต้องมองกันแบบไม่กระพริบตาเลยก็คือ การมาของแพลทฟอร์มใหม่ทั้งในส่วนของ Skylake-X และ Kaby Lake-X ที่มันจะเป็น LGA2066 ซึ่งตัว CPU เองก็จะยังเป็นสถาปัตยกรรมเก่าเพียงแค่มีคอร์เพิ่มขึ้น ใช้แรม Quad-Channel ดังนั้นราคาก็จะเป็นตัวกำหนดอนาคต เพราะหากว่ายังคงยืนอยู่ในเพดานที่เคยเป็นมาก็คงไม่ช่วยอะไรมากอย่างแน่นอน หรือ Intel จะยอมสู้สงครามราคาในครั้งนี้ด้วยการปล่อยราคาที่มีความใกล้เคียงกัน หากเป็นเช่นนั้น ผู้บริโภคก็จะได้แบบเต็ม ๆ เลยละครับ

อีกนิดละกัน กับเรื่องของราคาในบ้านเรานั้น ก็คงยังต้องรอดูกันว่าจะมีการปรับลดลงเมื่อไหร่ จะปรับลด้วยหรือเปล่า ซึ่งในมุมมองส่วนตัวแล้วนั้นต้องมีการปรับลดลงด้วยแน่นอน เพียงแค่จะช้าจะเร็วเท่านั้นเอง แต่ถ้ามองจากที่เคยผ่าน ๆ มานั้นช้าเสมอ ๆ


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/T_rIBfelaq8/

Google Cloud Platform ประกาศใช้ Xeon Skylake รุ่นล่าสุดเป็นรายแรก

ในอดีต เราอวดกันว่าคอมพิวเตอร์ของเราใช้ซีพียูรุ่นล่าสุดที่แรงกว่าใคร พอมาถึงในยุคสมัยของคลาวด์ที่เปลี่ยนจากการซื้อเครื่องมาเป็นการเช่าเวลา พฤติกรรมนี้อาจยังคงอยู่เหมือนเดิม

Google Cloud Platform ออกมาประกาศว่าเป็นผู้ให้บริการคลาวด์ “รายแรก” ที่ใช้ Intel Xeon รุ่นล่าสุดบนสถาปัตยกรรม Skylake (Xeon v5 ตอนนี้ยังเปิดตัวเฉพาะรุ่น E3 แต่กูเกิลจะใช้รุ่นที่สูงกว่าที่จะเปิดตัวเร็วๆ นี้) ช่วยให้ลูกค้าที่ต้องการประสิทธิภาพสูงสุด และฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่างชุดคำสั่ง Intel Advanced Vector Extensions (AVX-512) ประมวลผลข้อมูลทศนิยมขนาดใหญ่ได้ดีขึ้น

กูเกิลยังประกาศว่าปรับแต่ง VM ให้ทำงานกับ Skylake ได้เต็มที่ ตอนนี้เครื่องที่ใช้ Skylake เริ่มให้บริการแล้วใน 5 ภูมิภาค แถวนี้ที่ใกล้ที่สุดคือ Eastern Asia Pacific (ไต้หวัน)

ที่มา – Google Cloud Platform

No Description

from:https://www.blognone.com/node/90401

[Intel] คอมพิวเตอร์ชิปประมวลผล Kaby Lake และ Skylake มีสิทธิโดนเจาข้อมูลผ่านพอร์ต USB ได้

สำหรับงานประชุม CCC ที่เป็นไปด้วยแฮกเกอร์ชื่อดังมากมายโดยจัดขึ้นไปมาเมื่อไม่นานนี้นั้นมีการแถลงงานวิจัยที่น่าสนใจจากนักวิจัยของ Positive Technologies ว่าด้วยเรื่องช่องโหว่ของหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Skylake และ Kaby Lake ตรวจส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการ USB 3.0-based debugging ซึ่งผลลัพธ์ของมันก็คือผู้ไม่ประสงค์ดีอาจจะใช้ช่องทางดังกล่าวนี้นั้นเข้ามาจู่โจม, ขโมยข้อมูลล, ปรับเปลี่ยนข้อมูลหรือที่นักที่สุดก็คือทำรานล้างระบบทิ้งไปเลยก็ได้ครับ

intel cpu in socket 600 e

ช่องโหว่ดังกล่าวนี้จะอนุญาตให้ผู้ไม่ประสงต์ดีสามารถที่จะใช้มันในการส่งข้อมูลอ้อมกลไกการรักษาความปลอดภัยของ USB ตามปกติได้ครับ จุดที่น่ากลัวเลยนี้ก็คือช่องโหว่ดังกล่าวนี้นั้นเป้นทั้งในส่วนของฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ด้วย(ระดับระบบปฎิบัติการ) ด้วยการใช้ช่องโหว่ดังกล่าวนี้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถที่จะทำการเจาะเครื่องของเราๆ ท่านๆ มาเขียนหรือฝังมัลแวร์ไว้ที่ระดับ BIOS ของตัวเครื่องได้เลย ยังคงยังไม่จบเพราะจารายงานนั้นระบุเอาไว้ด้วยครับว่าการเจาะข้อมูลเข้ามาโดยใช้ช่องโหว่ดังกล่าวนี้นั้นยังคงไม่สามารถตรวจพบด้วยซอฟต์แวร์ทั่วไปในปัจจุบันได้ครับ

ที่น่ากลัวจริงๆ เลยก็คือช่องโหว่ดังกล่าวนี้นั้นสามารถที่จะใช้ในการเจาะระบบเข้าไปยังเครื่องของคุณได้โดยมันจะไม่สนใจเลยครับว่าเครื่องของคุณได้มีการติดตั้งระบบปฎิบัติการอะไรเอาไว้หรือไม่ เพราะการทำงานของช่องโหว่นี้นั้นไม่ได้ใช้การเจาะของทางระบบปฎิบัติการแต่เป็นเจาะเข้าผ่าน USB ดังนั้นถ้าคุณเปิดเอาไว้หล่ะก็ ถึงจะไม่มีการติดตั้งระบบปฎิบัติการอะไรลงไปในเครื่องของคุณ ทว่าผู้ไม่ประสงค์ดีก็สามารถที่จะส่งมัลแวร์มาฝันไว้ใน BIOS ได้ครับ

red usb 600

ก่อนหน้าที่จะพบการเจาะข้อมูลในระดับ low-level machine debugging นี้นั้น เคยมีคนค้นพบช่องโหว่ในลักษณะเดียวกันนี้กับพอร์ต ITP-XDP ซึ่งจะต้องใช้อุปกรณ์พิเศษเชื่อมต่อเข้าไปก็จะสามารถที่จะเข้าถึงข้อมูลและฝังมัลแวร์ได้ครับ(แต่ก็ไม่ได้เข้าาถึงได้ง่ายเท่ากับช่องโหว่ใน USB ของ Skylake กับ Kaby Lake) จุดที่ช่องโหว่ของพอร์ต ITP-XDP นั้นไม่ค่อยน่ากลัวมากเท่าไรนั่นก็เนื่องมาจากว่าพอร์ต ITP-XDP นั้นไม่ได้อยู่บนเมนบอร์ดที่มีขายเกลื่อนท้องตลาดทั้วไปเหมือนพอร์ต USB ครับ

จริงๆ แล้วหากคุณได้ติดตามข่าวในเรื่องของการระวังความปลอดภัยที่มีมาก่อนหน้านี้นั้นคุณน่าจะเคยได้ยินเรื่องของช่องโหว่ของ USB มาก่อนแล้วหล่ะครับ ช่องโหว่นี้นั้นมีออกมาตั้งแต่ในสมัยที่ Skylake ออกมาได้ใหม่ๆ แล้วโดยตอนนั้นทาง Intel ได้นำเสนอรูปแบบการเชื่อมต่อ USB กับอุปกรณ์อื่นๆ ใหม่เรียกว่า Direct Connect Interface (DCI) ซึ่งเจ้าอินเตอร์เฟซนี้นั้นสามารถที่จะช่วยให้ผู้ที่มีความรู้สามารถที่จะเข้าถึง JTAG debugging interface ด้วยมาตรฐานพอร์ต USB 3.0 บนเมนบอร์ด ซึ่งดูๆ แล้วเหมือนจะดีแต่นี่แหละครับที่มันกลายมาเป็นดาบ 2 คมครับ

วิธีการเจาะข้อมูลด้วยการใช้พอร์ต USB ดังกล่าวนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ทริคใดๆ เลยหล่ะครับ สิ่งที่ผู้ประสงค์ร้ายต้องการก็คือขอแค่ในเครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นเปิด DCI interface ซึ่งโดยปกติแล้วคอมพิวเตอร์ของเราก็จะเปิดอินเตอร์เฟซนี้ให้โดยอัตโนมัติเอาไว้อยู่แล้ว และถึงแม้ว่าถ้าเครื่องไหนจะปิดเอาไว้ก็ตาม บรรดาผู้ไม่ประสงค์ดีก็สามารถที่จะใช้ช่องทางเข้ามาเปิด DCI interface เพื่อใช้งานได้อย่างสบายๆ เลยทีเดียวครับ

ถ้าผู้ไม่ประสงค์ดีติดตั้งมัลแวร์ผ่านเข้าไปที่เครื่องของของคุณได้และเครืองของคุณมีการทำงาน ตัว DCI interface ก็จะส่งข้อมูลตั้งแต่การทำงานของ kernel ยาวไปจนถึงข้อมูลที่อยู่ในหน่วยเก็บความจำ(RAM) แลลข้อมูลในแหล่งเก็บข้อมูลที่ถูกเรียกใช้งาน นี่คือกรณีที่ถ้าคุณมีระบบปฎิบัติการนะครับ ถ้าไม่มีระบบปฎิบัติการมันก็จะหยุดตั้งแต่ขั้นตอนแรกซึ่งนั่นทำให้ผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้ามาวางมัลแวร์ไว้ใน BIOS ของคุณได้อย่างสบายๆ ครับ

วิธีการแก้ไขทางด้านฮาร์ดแวร์ดนั้นคงเป็นไปได้ยากครับ เพราะนั่นหมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์ไม่รู้กี่สิบล้านเครื่องที่ต้องถูกเรียกคือ อย่างไรก็ตามแต่มีอีกวิธีหนึ่งที่น่าใช้งานมากกว่านั้นก็คือการอัพเดท BIOS ให้รองรับการป้องกันช่องโหว่ดังกล่าวนี้(ปิดการใช้งาน DCI debugging แล้วล๊อคการปรับแต่งการใช้งานดังกล่าวไม่ให้ผู้ใช้สามารถเปิดได้โดยตรง)

หมายเหตุ – แต่ถ้าผู้ไม่ประสงค์ดีสามารถเข้าถึงตัวเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณได้โดยตรง งานนี้ก็ตัวใครตัวมันหล่ะครับ

ที่มา : techpowerup

from:https://notebookspec.com/intels-skylake-and-kaby-lake-based-systems-vulnerable-to-usb-exploit/379986/

น้า Tom’s[Hardware] จัดให้เน้น ๆ ก่อนเปิดตัว กับผลการทดสอบ 7700K ปะทะ 6700K

core-i7-7700k

เรียกได้ว่ากำลังเป็นกระแสคร่กรุ่นกันเลยทีเดียวสำหรับการมาของซีพียูในตระกูลล่าสุดจากทาง Intel สำหรับการมาของ Kaby Lake ที่จะมีการเปิดตัวกันอย่างเป็นทางการในวันที่ 5 มกราคมนี้ในงาน CES 2017 ตามข้อมูลที่หลุดออกมาก่อนหน้านี้ ซึ่งแม้ว่าช่วงเวลาของการเปิดตัวยังจะห่างไกลอีกร่วมหนึ่งเดือนเต็ม แต่ทว่าการมาของ Kaby Lake ในครานี้เรามีผลการทดสอบแบบหลุด ๆ ออกมาให้ได้รับชมกันอยู่เนือง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผลการทดสอบเกี่ยวกับความสามารถในการโอเวอร์คล๊อก เรื่องของอุณหภูมิ เรื่องของประสิทธิภาพ แต่กระนั้นมันก็ยังเป็นเพียงผลที่มีการทดสอบมาให้ได้กันในแบบผ่าน ๆ เท่านั้นเอง โดยผลที่หลุดออกมาให้เห็นกันเป็นครั้งแรกก็ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา กับข้อมูลการโอเวอร์คล๊อก Core i5-7600K ไปที่ความเร็ว 5.1GHz ในแบบ On-Air จากนั้นก็ต่อด้วยผลของ Core i7-7700K กับการทดสอบเรื่องของอุณหภุมิบนความเร็ว 4.9GHz กับการรัน Prime95 ซึ่งมันก็ทำให้เราได้เห็นตัวเลขในระดับ 100°C และตามมาติด ๆ ด้วยการทดสอบที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งที่ความเร็วเดิม ๆ และที่ความเร็ว 5GHz ในแบบ On-Air ซึ่งมันก็เป็นการเสริมข้อมูลที่ว่า Kaby Lake นั้น 5GHz น่าจะไม่ใช่เรื่องยาก

จากผลที่หลุดกันมาก่อนหน้าตามที่ได้ยกตัวอย่างไปนั้น มันก้ยังไม่มีความชัดเจนเท่ากับผลการทดสอบที่ทาง Tom’s Hardware ได้ทำการปล่อยออกมาให้เราได้รับชมกันในวันนี้ ซึ่งเรื่องราวการนำเสนอจาก Tomshardware ที่มีออกมานั้นจัดมาเก็บเต็มกันเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของความแรงในแบบเดิม ๆ วัดกันตรง ๆ กับ Core i7-6700K ที่ 7700K กำลังจะเข้ามาแทนที่ รวมทั้งการเปรียบเทียบผลหลังการทดสอบ แถมยังมีผลทดสอบในเชิ่งวิเคราะห์ทั้งในเรื่องของการใช้พลังงานและอุณหภูมิมาให้ได้รับชมกันแบบเน้น ๆ อีกด้วย ซึ่งถือได้ว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว

ตรงนี้ผมขอเริ่มต้นจากสิ่งที่ทาง Tomshardware ได้บอกเล่าเอาไว้ในช่วงแรกก่อนสักหน่อยนะครับ โดยทางลุงทอมบอกว่า CPU ที่เขาทำการทดสอบนั้นจะเป็นตัว sample หรือมันคือตัวทดสอบที่เรียกกันว่า Engineering sample ไม่ใช่ซีพียูโมเดลตลาดที่วางขายจริง ดังนั้นจากสิ่งที่เขาได้ทดสอบออกไป ก็อาจจะไม่อาจยืนยันได้ 100% เต็มว่าผลที่ออกมานั้นจะมีความแตกต่างไปจากตัวขายจริงในท้องตลาดหรือไม่

r_600x450

สำหรับเรื่องแรกที่ขอหยิบยกมาพูดถึงกันสักหน่อย และดูแล้วเป็นสิ่งที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง กับเรื่องราวของการเปลี่ยนแปลงจากยุค Skylake สู่ Kaby Lake ซึ่งตามที่เราทราบกันในยุคนี้ทาง Intel ได้มีการปรับเปลี่ยนช่วงเวลาในการทำการตลาดหรือการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมออกไปเป็นสามปีหรือใช้กฏ PAO แทน Tick-Tock โดยในช่วงที่สามหรือช่วงของ O ที่หมายถึง Optimize นั้นมันจะยังคงเป็นการใช้สถาปัตยกรรมเดิม แต่มีการปรับปรุงเกี่ยวกับกระบวนการผลิตให้ดียิ่งขึ้นเท่านั้นเอง ซึ่งตรงนี้ให้เราย้อนกลับไปมองการขยับปรับเปลี่ยนขนาดของกระบวนการผลิตจาก 22nm มาสู่ 14nm ของ Intel นั้นทาง intel จะมีการลดจำนวน Fin ของทรานซิสเตอร์ให้น้อยงไป แต่จะไปเพิ่มความสูงและรักษาระยะห่างของตัวฟินหรือที่เรียกว่าระยะ Pitch จากเดิมที่ยอด Fin จะมีลักษณะเป็นเทเปอร์ หรือเป็นมุมป้านแต่สำหรับ 14nm ตัวฟินมันจะขนาดความกว้างที่คงที่ (ตามในภาพ)

r_600x450
r2_600x450

ในส่วนของ Kaby Lake ตามที่ทราบกันว่ามันคือ Skylake Refresh ซึ่งตัว CPU ทาง Inte จะยังไม่มีการปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมใด ๆ จาก Skylake แม้แต่น้อย ที่ไม่เปลี่ยนตรงนี้จะหมายถึง micro architecture หรือพูดให้มองง่าย ๆ ว่าไม่มีการเปลี่ยนแปลงตัวงจรใด ๆแต่สิ่งที่ปรับปรุงก็แค่กระบวนการผลิตที่จะปรับเปลี่ยนมาเป็น 14nm+ ซึ่งจากข้อมูลที่ทาง intel ได้เคยให้ไว้เมื่อช่วง IDF2014 ว่าในการเพิ่มความสูงของ Fin และมันมาระยะห่างที่คงที่จะช่วยให้มันมีความเร็วในการทำงานเพิ่มขึ้นมาอีกราว 300-400MHz ซึ่งในจุดนี้เองที่ถือว่าเป็นจุดที่ทาง intel ได้ทำการ Optimize หรือปรับปรุง ดังนั้นกับการแค่เพิ่มความสูงและเปลี่ยนรูปทรงของเกตทำให้ให้มีระยะห่างที่คงที่ แต่ได้ความเร็วเพิ่มมา 300-400MHz มันก็ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นที่ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

Clip_7

ไม่เพียงแค่เฉพาะการปรับเปลี่ยนการผลิตไปเป็น 14nm+ เท่านั้นสำหรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของ Kaby Lake แต่ในส่วนของชิบกราฟิกหรือ iGFX เองทาง Intel ก็มีการปรับเปลี่ยนเช่นกัน ซึ่งสำหรับซีพียูในตระกูล Kaby Lake ตัวชิบ iGFX จะมีการใช้รหัสเป็น Intel HD Graphics 630 ในขณะที่ Skylake จะเป็น Intel HD Graphics 530 แต่ในขณะนี้เรายังจะไม่สามารถพูดอะไรได้มากนักเกี่ยวกับตัวชิบ iGFX ในรหัส 630 เพราะยังไม่มีข้อมูลที่ชัดเจนใด ๆ ออกมาให้เห็น ซึ่งก็คงจะต้องรอให้ทาง Intel มีการเผยข้อมูลออกมาเสียก่อน

สำหรับบททดสอบตัวแรกที่ทาง Tomshardware ได้ทำการทดสอบนั้น จะเป็นการประเมินดูว่าทาง intel ได้มีการ optimize ซีพียูในยุค Kaby Lake มาดีเพียงไร ซึ่งแม้ว่าจะเป็นการทดสอบง่าย ๆ แต่มันก็พอที่จะบอกอะไรบางอย่างให้เราทราบได้เช่นกัน กับการที่ได้ทดลองก็สามารถยืนยันได้เลยว่าทาง Intel ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนสถาปัตยกรรมใด ๆ แม้แต่น้อย เพราะหลังจากที่สังเกตระดับการใช้ไฟเลี้ยงของตัว Core i7-7700K ที่ช่วงความเร็ว 4.5GHz ตัวซีพียูจะยังคงเรียกใช้ไฟเลี้ยงในช่วงสูงสุดราว 1.30V ที่สามารถอ่านได้จากตัวเมนบอร์ ซึ่งไฟเลี้ยงในช่วงดังกล่าวนี้ถือว่าเป็นจุดเดียวกันกับที่ได้ทำการโอเวอร์คล๊อก Core i7-6700K ไปที่ความเร็ว 4.5GHz ด้วยนั่นเอง

image019

จากกราฟด้านบนเป็นการเปรียบเทียบให้เห็นกันระหว่าง การปรับตั้งซีพียูใช้งานในแบบ Auto และการปรับใช้งานในแบบ Manual และทำการปิด Turbo Boost เพื่อล็อคให้ความเร็วสูงสุดของ Core i7-7700K ทำงานที่ 4.2GHz (ส่วนตัว 6700K ไม่ได้ระบุว่าปิด Turbo Boost ด้วยหรือไม่ แต่คงไม่ปิด เพราะน้าทอมคงต้องการวัดการใช้พลังงานที่ช่วงความเร็วเดียวกันคือที่ 4.2GHz) โดยกราฟด้านล่างเมื่อได้ทำการปิด Turbo mode ของ 7700K ทำให้ระดับการใช้พลังงานในช่วง Idle ลดลงมาเหลือ 24W ส่วนการ Stress Test ด้วย Prime95 ทำให้มีการใช้พลังงานสูงสุดจาก 183W ลงมาเหลือเพียง 141W ซึ่งมันก็จะยังคงสูงกว่า 6700K ที่อยู่ในช่วง 133W เท่านั้น และสำหรับการทดสอบตรงนี้ก็ได้มีการขยายความว่า มันเป็นทางเดียวที่จะได้รู้ว่า ตัวซีพียูจะมีความต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นไปขนาดไหนจากในช่วง 4.2GHz ไปจนถึง 4.5GHz ขณะเดียวกันก็ยังได้ขยายความเพิ่มเติมอีกด้วยว่า เมนบอร์ดรุ่นใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับซีพียูตัวใหม่นี้น่าจะเป็นเมนบอร์ดที่ดีกว่าสำหรับใช้ในการทดสอบ

image019b_w_755

ต่อมาก็เป็นการทดสอบด้านการโอเวอร์คล๊อก ซึ่งได้มีการบังคับระดับการใช้ไฟเลี้ยงเอาไว้ที่ 1.3V และสำหรับ Core i7-7700K ก็จะสามารถทำได้สูงสุดที่ 4.8GHz ในขณะที่ 6700K จะทำได้สูงสุดเพียง 4.6GHz นอกจากนี้ก็ยังมีการทดสอบการใช้งานร่วมกับแรมจำนวน 2 แถวและ 4 แถวอีกด้วย ซึ่งผลที่ออกมานั้น การใช้แรมแบบ 4 แถวด้วยแรมจากทาง G.SKILL ในโมเดลความเร็ว 3600MHz มันจะสามารถปรับใช้งานได้เพียงในช่วงที่ไม่เกิน 3200MHz

image023_w_755

ส่วนในการใช้งานแรมเพียง 2 แถวความเร็วที่ออกมานั้นก็สามารถทำได้ใกล้ได้ดีกว่า ซึ่งก็อยู่ในช่วงที่ใกล้เคียงกับสเป็ค ทั้งนี้ที่มันไม่เป๊ะก็เพราะว่าความเร็วจริงของ BCLK จากเมนบอร์ดที่ใช้มันจะทำงานที่ความเร็วเพียง 99.65MHz ดังนั้นความเร็วของ CPU ที่กล่าวว่า 4.8GHz และ 4.6GHz ความเร็วที่ทำงานอยู่จริง ๆ ก็จะเป็น 4.78GHz และ 4.58GHz ซึ่งจากนี้ไปเราก็มารับชมกันต่อว่าผลการทดสอบต่าง ๆ ที่มีการทดสอบมาให้ชมกันนั้น มันจะทำได้แตกต่างกันมากน้อยขนาดไหน

Synthetic Benchmarks : กับบทดสอบด้วยโปรแกรม Benchmark มาตรฐานที่นิยมใช้งานกันโดยทั่งไป ซึ่งผลจากตัวกราฟนั้น ชุดด้านบนก็เป็นการเปรียบเทียบกันที่การใช้งานที่ความเร็วเดิม ๆ ของตัวซีพียู ส่วนคู่ด้านล่างก็เป็นตามที่เห็นคือ ผลจากการโอเวอร์คล๊อกด้วยความเร็วที่ได้กล่าวถึงกันไปแล้วนั่นเอง

7700k-600x450-0
7700k-600x450-1
7700k-600x450-2
7700k-600x450-3
7700k-600x450-4
7700k-600x450-5
7700k-600x450-6
7700k-600x450-7
7700k-600x450-8
7700k-600x450-9

3D Games : คงจะเข้าใจไม่ยากละครับ กับบทดสอบในการเล่นเกม ซึ่งรูปแบบของการทดสอบก็จะยังคงเดิมตามที่ได้บอกเล่ากันไป

game_600x450-0
game_600x450-1
game_600x450-2
game_600x450-3

Timed Benchmarks : เป็นการทดสอบด้วยโปรแกรมการทำงานที่พบเจอได้ในชีวิตจริงเช่น MS Office, Adobe Photoshop เป็นต้น ซึ่งผลตรงนี้ก็สังเกตดูให้ดี ๆ ด้วยนะครับ เพราะการทดสอบจะใช้เวลาเป็นตัวอ้างอิง ดังนั้นหากให้เวลานี้น้อยกว่าก็จะถือว่าให้ผลที่ดีกว่า ดังนั้นกราฟสั้นก็จะให้ประสิทธิภาพดีกว่า อย่ามองแค่ว่าจะต้องมากกว่าแล้วดีกว่าเสมอไป

realworld-600x450-0
realworld-600x450-1
realworld-600x450-2

Heat And Efficiency : ประเด็นนี้ถือว่าค่อนข้างน่าสนใจมากอีกหนึ่งจุด กับเรื่องของประสิทธิภาพสุทธิที่ได้รับ และเรื่องของอุณหภูมิการทำงาน ซึ่งในจุดนนี้เดี๋ยวผมจะขายความแยกให้ในแต่ละจุดไปละกันนะครับ

r_600x450

ประเด็นแรกกับเรื่องของอุณหภูมิการทำงาน ซึ่งทางต้นขั้วก็สรุปมาแบบง่าย ๆ ว่าในเมื่อ Core i7-7700K มันก็คือ 6700K โอเวอร์คลีอกมา ดังนั้นแน่นอนว่าอุณหภูมิและระดับการใช้พลังงานก็ย่อมจะต้องสูงตามไปด้วย โดยในกราฟด้านบนจะเป็นอุณหภูมิในรูปของอุณหภุมิที่มีค่าสูงกว่าอุณหภูมิห้อง ทั้งนี้ก็ไม่ได้มีการระบุไว้ชัดเจนว่าอุณหภูมิห้องในระหว่างที่ทดสอบนั้นอยุ่ที่ช่วงประมาณไหน แต่บอกไว้เพียงอ้อม ๆ ว่าจากที่ได้ลองเปลี่ยนฮีตซิงก์จาก Noctua NH-U12S ไปเป็น NH-D14 ซึ่งมันช่วงลดอุณหภูมิลงไปได้อีกเพียง 3°C เท่านั้น ในขณะที่แม้ว่าจะต้องใช้อุณหภูมิห้องเพียง 15°C ก็ตามที และถ้ามองจากสันส่วนที่ออกมา ระหว่างความเร็วที่เพิ่มขึ้นมาอีกราว 7.2% ซึ่งประสิทธิภาพที่ได้เพิ่มมาสูงสุดก็อยู่ในช่วง 7.2% เช่นเดียวกัน (กราฟล่าง)

2r_600x450

ส่วนจุดที่ดูจะน่าสนใจจริง ๆ ก็คงเป็นกราฟสุดท้าย สำหรับกราฟในแบบบทสรุปภาพรวมของเรื่องประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงาน ซึ่งหากอิงจาก 6700K โดยที่ 7700K จะให้ความแรงที่เพิ่มขึ้นมาโดยรวมเพียงประมาณ 3% เท่านั้นแต่กลับใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นไปกว่า 28.8% ดังนั้นจึงทำให้ประสิทธิภาพต่อการใช้พลังงานติดลบหรือด้อยกว่า 6700K ด้วยซ้ำไปกับในช่วง -19.5%

สรุปสงส่งท้าย (ZoLKoRn Says) 

คิดว่าเราน่าจะได้เห็นอะไรกันไปมากพอสมควรสำหรับบททดสอบที่แม้ว่าจะยังไม่เป็นทางการ แม้ว่าทาง Tomshardware จะพูดถึงหรือสรุปประเด็นต่าง ๆ ในแบบอ้อม ๆ เพราะครั้นจะให้พูดเต็ม ๆ ก็ยังไม่ได้เพราะว่ายังติดเรื่องของ NDA ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลแบบเต็ม ๆ ได้ทั้งหมด แต่สิ่งที่เขานำเสนออกมาก็คงทำให้เราได้คลายข้อสงสัยกันได้หลายจุด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความแตกต่างไปจาก Skylake ที่หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยกันอยู่ว่า Intel ได้ทำอะไรไปกับ Kaby Lake ไปบ้าง ทำไมถึงได้ความเร็วเพิ่มมาอีกตั้งเยอะแยะ และในเรื่องของความแรง ซึ่งบางท่านอาจจะมองกันว่า มันแรงขึ้นจากผลที่เคยหลุดมา แต่ก็อาจจะไม่ได้มองว่าที่มันแรงขึ้นเพราะตัว CPU มีความเร็วที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในวันนี้ก็คงจะชัดเจนระดับหนึ่งแล้วละครับกับในเรื่องของ IPC หรือความแรงต่อ MHz ที่มันไม่ได้แตกต่างออกไปเลย ทุกอย่างที่ได้มาก็มาจากความเร็วที่เพิ่มขึ้นล้วน ๆ

นอกจากนี้จุดที่ทำให้เราต้องเริ่มพะวงก็คือเรื่องของอุณหภูมิ ซึ่งดูแล้วมันจะยังคงร้อน(แรง)เหมือนเดิม หรืออาจจะเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำ เพราะถ้ามองจากที่ทางน้าทอมทำกราฟมาแล้วบอกว่าสูงกว่าอุณหภูมิห้องไปเท่าไหร่ ซึ่งในจุดความเร็วเดิม ๆ จะเห็นว่ามันบวกไปอีก 76°C และหากว่าอุณหภูมิห้องในระหว่างทำการทดสอบอยู่ในช่วง 15°C นั่นก็หมายความว่าตัวเลขของอุณหภูมิที่ออกมาก็คือกว่า 91°C กันเลยทีเดียว

ทิ้งท้ายตรงนี้ สำหรับใครที่รอการมาของ Kaby Lake กันอยู่นั้น ผมมองว่าถ้ามี 6700K และ Z170 อยุ่ในมืออยู่แล้ว ไม่ต้องไปดิ้นรนอะไรหรอกครับ ปิดเนต ปิด 3G ไม่ต้องตามข่าวซะบ้างจะได้ไม่มีกิเลสแล้วจะได้ไม่ต้องมาอยากได้ของใหม่ และยิ่งถ้าไม่ได้เป็นคนที่คิดจะสนุกกับเรื่องของการโอเวอร์คล๊อก ซื้อมายังไงใช้อย่างนั้น ก็ยิ่งไม่จำเป็นเลย ส่วนใครที่จะจัดใหม่ยกเซ็ตอยู่แล้ว อันนี้ก็ให้รอดูท่าทีที่ชัดเจนอีกครั้ง เพราะไหน ๆ ก็รอมานานแล้วรอดูอีกนิด หากว่ามันไม่มีอะไรในกอไผ่ขึ้นมาจริง ๆ รอเก็บตก 6700K+Z170 ในราคาประหยัด ๆ จากกลุ่มที่ไล่ตามเทคโนโลยีก็ยังได้ หรือถ้าอยากลองอยากเล่น Kaby Lake จริง ๆ ก็คงไม่ว่ากัน แต่จุดหนึ่งที่ผมหวังไว้อย่างยิ่งคือเรื่องของ IMC แต่พอมาเห็นน้าทอมฯแกทดสอบเกี่ยวกับเรื่องแรม 2 แถว 4 แถวแล้ว รุ้สึกว่าท้อขึ้นมานิด ๆ จากที่เคยคิดว่า IMC มันน่าจะแข็งแรงขึ้น แต่ดู ๆ แล้วคงไม่มีอะไรแตกต่างไปจาก Skylake จริง ๆ ดังนั้นมันคงไม่ผิดละครับที่ Tomshardware จะเรียก Kaby Lake ว่ามันคือ Skylake ในเวอร์ชัน Overclock หรือถ้าย้อนกลับไปไกลหน่อยในยุคของ Nehalem มันก็อารมณ์ประมาณการเปลี่ยน Rev จาก C0 ไปเป็น D0 ที่สามารถลากได้ไกลขึ้นมากประมาณนั้นเลย !


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/9Cg10yCmywg/

หลุดชิปเรือธง Xeon E5-2699 V5 32 คอร์ ขายก่อนเปิดตัวใน Taobao

อินเทลเตรียมเปิดตัวซีพียูกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ Xeon E5 โค้ดเนม Skylake-EP กลางปี 2017 ซึ่งรุ่น E5-2699 V5 จะวางตัวเป็นเรือธงในยุคที่จะถึงนี้ (ต่อจาก E5-2699 V4A) ทว่ามีชิปรุ่นนี้ในแบบตัว Engineering Sample (ES) วางจำหน่ายในเว็บไซต์ Taobao ของจีน ในราคา 26,500 หยวน (ประมาณ 1.36 แสนบาท)

Xeon E5-2699 V5 ตัว ES ตามที่หน้าร้านดังกล่าวระบุ มากับ 32 คอร์ 64 เธรด ที่ความเร็ว 2.10GHz ทำงานบนซอกเก็ต LGA3647 โดยวางตัวชนกับแพลตฟอร์ม AMD Naples ที่เป็นชิปที่พัฒนาบนสถาปัตยกรรม Zen ที่เน้นประสิทธิภาพจากจำนวนคอร์ แต่ยังไม่เปิดตัวเช่นกัน

ที่มา – Taobao ทาง TPU

upic.me

from:https://www.blognone.com/node/87474

ภาพและข้อมูลของ Intel Kaby Lake I5,I3 และ Pentium G กับข้อมูลเมนบอร์ด 200-series

cpu-wafer.12

จากที่เดือนที่แล้วถ้าใครยังพอจำกันได้จากที่ผมได้นำเสนอข่าวสารความคืบหน้าของ CPU Intel เจนเรชั่นที่ 7 Kaby Lake ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับปรุงมาจากตระกูล Intel Skylake ที่นำโดยตัวเรือธง Intel Core i7-7700K ในตลาด Mainstream ที่มีข้อมูลออกว่า ไปโพล่ในลิสต์สินค้าสั่งซื้อล่วงหน้าในร้านค้าปลีกในประเทศเอสโตเนีย พร้อมกับราคาที่ค่อนข้างแพงกว่าปกติ ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันว่ามันจะมาแน่นอนในต้นปีหน้านี้ และในวันนี้ได้มีข้อมูลหลุดเป็นรูปภาพตัวเป็นๆของ CPU Intel Core i5-7600K หนึ่งชายกลางในตระกูล Intel Kaby Lake (สถาปัตยกรรมรุ่นที่ 7) ที่จะมาพร้อมกับกระบวนการผลิตตัวใหม่ล่าสุด ที่ทาง Intel ได้ตั้งชื่อให้ว่า 14 nm FinFET+ ที่ถูกออกแบบให้สามารถมีความเร็วสัญญาณนาฬิกาได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น  โดยทาง Intel ได้โม้ไว้ว่า กระบวนการผลิตนี้จะให้ประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้นกว่าตัว 14 nm รุ่นก่อนหน้าที่ใช้ผลิต CPU ตระกูล Intel Skylake ถึง 12% เลยทีเดียว

จากข้อมูลที่ทางคุณลุงหมวกแดงแจ็คสแปโจ้  ได้เคยนำเสนอข้อมูลที่ยืนยันไว้ว่า Intel Kaby Lake จะยังคงใช้ร่วมกับเมนบอร์ดตระกูล 100-series ได้อย่างแน่นอนเพียงแค่ทำการอัพเดทตัว Bios จากทางผู้ผลิตต่างๆ เท่านั้น ผู้ที่เป็นเจ้าของเมนบอร์ดตระกูล 100-series ก็สามารถใช้งานร่วมกับ CPU Intel Kaby Lake 7000 series ได้ทุกตัว!

ภาพของ Intel Core i5-7600K ตัวเป็นๆ 

Intel-Core-i5-7600K Intel-Core-i5-7600K-CPUz2

จากข้อมูลที่เรามีอยู่นั้น Core i5-7600K จะมาพร้อมกับ 4 cores, 4 threads มีค่า TDP ที่ 95 W โดยมี base clock อยู่ที่ 3.8 GHz และ boost clock อยู่ที่ 4.0 GHz และมีขนาดของ L3 cache อยู่ที่ 6 MB โดยภาพด้านบนนั้นจะเป็นข้อมูลรายละเอียดของ Core i5-7600K ในโปรแกรม CPU-z และดูเหมือนว่ามันจะพร้อมสำหรับว่างจำหน่ายในร้านค้าปลีกได้ในช่วงต้อนปี 2017 ได้อย่างแน่นอนพร้อมทั้งการออกแบบในด้านของผลิตภัณฑ์จะถูกปรับปรุงให้ดีขึ้นเมื่อเทียบกับ Intel Skylake ซึ่งเราสามารถสังเกตุได้จากกระดองของตัว CPU ที่หนาและแข็งแรงขึ้น อย่างเห็นได้ชัด

* สำหรับผู้อ่านท่านใดที่ต้องการทราบข้อมูลของ Intel’s Kaby Lake K,S และ T Series สามารถอ่านได้จากบทความนี้ได้เลยครับ

Intel Core i3-7300 จะมาพร้อมกับค่า Base Clock Speed ถึง 4.0 GHZ! และมันจะเป็น Core i3 ที่เร็วที่สุดเท่าที่เคยมีมา ?

Intel-Core-i3-7300-CPUz-1236

Core i3-7300 (S Series )

สำหรับในส่วนของ Core i3-7300 ในตอนนี้ยังมีข้อมูลออกให้เราได้ทราบน้อยมาก ที่เท่าที่เรารู้มันจะ มาพร้อมกับ 2 cores, 4 threads และมีค่า Clock Speed ที่ 4.0 GHz ซึ่งคาดว่ามันยังเป็นแค่เพียงค่า Base Clock speed  -0- และมีความเป็นไปได้ว่ามันจะยังสามารถทำการ overclock ได้อย่างมีขอบเขตในเฉพาะเมนบอร์ดในบางรุ่น ( BCLK – Non-K OC ) โดยตัวชิปจะมีขนาดของ L3 cache อยู่ที่ 4 MB และมีค่า TDP ที่ 51W

Intel-Core-i3-7310T-CPUz-1-473x840

Core i3-7310T

สำหรับในส่วนของ Core i3-7310T หรือ Core i3 ในรุ่นประหยัดพลังงานนั้น มันจะมาพร้อมกับ 2 cores, 4 threads โดยจะมีค่า Base Clock Speed ที่ 3.40 GHz โดยตัวชิปละมีขนาดของ L3 cache อยู่ที่ 3 MB และ มีค่า TDP เพียง 35W เท่านั้น สำหรับ CPU โมเดล Core i3 ทั้งหลายนั้น เราคาดว่ามันน่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกระดับต้นๆ สำหรับผู้ที่ต้องการประกอบคอมในงบประมาณที่จำกัดอีกเช่นเคย

Intel-Pentium-G4620-CPUz2222222222222222

Intel Pentium G4620 

ในที่สุดก็ปรากฏตัวมาสักทีสำหรับ Intel Kaby Lake Pentium โดยในเวอร์ชั่น Engineering Sample ของ Pentium G4620 จะมีค่า Clock Speed ที่ 3.80 GHz โดยในรุ่นนี้จะไม่มีในส่วนของค่า Boost Clock Speed แต่อย่างใด แต่จากข้อมูลในภาพตัวชิปจะมีช่วงสถานะ low-clock Speed ที่มันจะลด Clock Speed ให้เหลือ 900 MHz ในช่วงสถานะ idle หรือในช่วงนี้ถูกใช้งานที่ต่ำมาก
สำหรับรายละเอียดในด้านอื่นๆ นั้น ตัวชิปจะมาพร้อมกับ ขนาดของ L3 cache อยู่ที่ 3 MB ละมีค่า TDP ที่ 51W และสิ่งที่น่าแปลกใจที่สุดสำหรับ CPU ตระกูล Pentium G ตัวนี้ก็คือ Intel ได้ทำการใส่คุณสมบัติ hyper-threaded เข้ามาด้วยซึ่งถ้าตัววางขายในร้านค้าปลีกของจริงมาพร้อมกับ Hyper-Threaded เหมือนกับเวอร์ชั่น Engineering Sample แล้วละก็ มันจะหมายถึง CPU ในตระกูล Pentium G ในสถาปัตยกรรมรุ่นที่ 7 นี้จะมีประสิทธิภาพที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด เมื่อนำมาเทียบ Pentium G ในรุ่นก่อนหน้านี้

ไลน์การผลิตเมนบอร์ด Chipset 200-Series ของผู้ผลิต ASUS, ASRock และ Gigabyte

ASUS 200-Series Motherboard Lineup:

  • ASUS ROG Maximus IX Extreme
  • ASUS ROG Maximus IX Formula
  • ASUS ROG Maximus IX Hero
  • ASUS ROG Maximus IX Code
  • ASUS STRIX Z270E Gaming
  • ASUS STRIX Z270F Gaming
  • ASUS STRIX Z270G Gaming
  • ASUS STRIX Z270H Gaming
  • ASUS TUF Z270 MARK 1
  • ASUS TUF Z270 MARK 2
  • ASUS Prime Z270-A
  • ASUS Prime Z270-AR
  • ASUS Prime H270-PRO
  • ASUS Prime H270M-PLUS

ASRock 200-Series Motherboard Lineup:

  • ASRock FATAL1TY Z270 Professional Gaming i7
  • ASRock FATAL1TY Z270 Gaming K6
  • ASRock FATAL1TY Z270 Performance
  • ASRock Z270 Extreme4
  • ASRock Z270M Extreme4
  • ASRock Z270 SuperCarrier
  • ASRock Z270 SLI Xtreme
  • ASRock Z270 Killer SLI
  • ASRock Z270 Pro4
  • ASRock Z270M Pro4
  • ASRock Z270M-ITX/ac
  • ASRock H270 Pro4
  • ASRock H270M Pro4
  • ASRock H270M-ITX/ac
  • ASRock B250 Pro4
  • ASRock B250M Pro4
  • ASRock B250M Pro4S
  • ASRock B250M-HDV

Gigabyte 200-Series Motherboard Lineup:

  • Gigabyte GA-Z270X-A Ultra
  • Gigabyte GA-Z270X-Gaming 9
  • Gigabyte GA-Z270X-Gaming 8
  • Gigabyte GA-Z270X-Gaming 7
  • Gigabyte GA-Z270X-Gaming 5
  • Gigabyte GA-Z270-Gaming K3
  • Gigabyte GA-Z270X-UD5
  • Gigabyte GA-Z270X-UD3
  • Gigabyte GA-Z270-HD3P
  • Gigabyte GA-Z270-HD3
  • Gigabyte GA-Z270-D3
  • Gigabyte GA-Z270N-WIFI
  • Gigabyte GA-H270-HD3P
  • Gigabyte GA-H270-HD3
  • Gigabyte GA-H270-D3
  • Gigabyte GA-H270M-D3H
  • Gigabyte GA-H270M-DS3H
  • Gigabyte GA-H270N-WIFI

AoTKnighT Says :  Pentium G has Hyper – Threaded Good Job ! Intel  (ผมของติดในส่วนของความคิดเห็นส่วนตัวไว้ก่อนนะครับเดี๋ยวคิดอะไรออกจะมาเพิ่มเติมภายหลัง – ขออภัยในความไม่สะดวกครับ T^T )


from:http://feedproxy.google.com/~r/zolkorn/~3/CuD1Gc9n8Jc/

ไมโครซอฟท์ต่ออายุการซัพพอร์ต Windows 7/8.1 บน Intel Skylake อีกครั้ง

หลังจากไมโครซอฟท์ได้ยืดเวลาการซัพพอร์ต Windows 7/8.1 บนหน่วยประมวลผล Intel Skylake ไปเป็นวันที่ 17 กรกฏาคม 2018 (จากเดิมที่ประกาศไว้ตอนแรก 17 กรกฏาคม 2017)

ล่าสุด ไมโครซอฟท์ได้ต่ออายุการซัพพอร์ตเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ไปจนเท่ากับอายุการสนับสนุนระบบปฏิบัติการ Windows 7 คือวันที่ 14 กรกฏาคม 2020 และ Windows 8.1 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มกราคม 2023 โดยจะได้รับแพตช์ความปลอดภัยจนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดการสนับสนุน

ทั้งนี้ สำหรับหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรมใหม่ๆ จากทั้งฝั่ง Intel Kaby Lake และ AMD Bristol Ridge รวมไปถึงรุ่นใหม่หลังจากนั้น จะรองรับเพียงแค่ Windows 10 เท่านั้น

ที่มา – Windows Business Blog

from:https://www.blognone.com/node/84447

[PC] เมนบอร์ดชิปเซ็ต B150 Intel Skylake ที่มาพร้อมกับการ์ดจอ NVIDIA GTX 1070 รวมเข้าไปด้วย!!

แม้ว่า Colorful จะไม่ใช่ผู้ผลิตอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์รายใหญ่เฉกเช่น ASUS , MSI หรือ Gigabyte แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขาได้ปล่อยของตัวแรงออกมาไม่น้อยหน้าผู้ผลิตรุ่นใหญ่แล้วครับเพราะล่าสุดได้มีการเปิดตัวเผยโฉม Motherboard ชิปเซ็ต B150 Intel Skylake ที่มาพร้อมกับของดีอย่าง GeForce GTX 1070 ที่จะถูกยัดรวมเข้าไปในบอร์ดตัวนี้เลยครับ

B150-Colorful-Full-640x421

สำหรับผลิตภัณฑ์ของทาง Colorful ตัวนี้ก็จะเป็นเมนบอร์ดชิปเซ็ต B150 จาก Intel พร้อมกับซีพียูโพรเซสเซอร์ Intel Skylake รุ่นล่าสุดและจากรูปด้านบนก็จะเผยโฉมหน้าของเมนบอร์ดที่ว่าครับโดยด้านซ้ายมือก็จะเป็น GTX 1070 ซึ่งมีขนาดเล็กพอสมควรแต่ประสิทธิภาพของมันก็จะเหมือนกับการ์ดจอปกติทุกอย่าง ทั้งนี้เนื่องจากซีพียู Intel Skylake ถือว่าเป็นซีพียูระดับสูงแถมยังเป็นซีพียูอยู่ที่อยู่ในตลาดหลักและเมื่อนำการ์ดจอตัวแรงอย่าง GTX 1070 มาผสานกันอีกจึงทำให้มันมีความเจ๋งมากเลยทีเดียวครับ นอกจากนี้ก็ยังมีช่องเสียบ USB จำนวน 2 พอร์ตด้านบนและช่องเสียง Audio jacks ด้านล่างขวามืออีกด้วย

อย่างไรก็ตามสำหรับการเผยโฉมบอร์ดตัวนี้ก็เหมือนว่ามันจะไม่ได้ออกแบบมาเพื่อรองรับกับมาตรฐานขนาดแบบ ATX และเมื่อดูจากขนาดของมันแล้วน่าจะถูกออกแบบมาสำหรับ PC ขนาดเล็กอย่าง Intel NUC หรือ Gigabyte Brix เสียมากกว่าและอัตราการกินไฟทั้งหมดก็มีการคาดเดากันว่ามันน่าจะอยู่ที่ประมาณ 180W ถึง 200W ครับ

ก็ถือว่าเป็นอีกเหตุการณ์ที่น่าสนใจมากทีเดียวครับที่ทาง Colorful ได้ปล่อย Motherboard ตัวนี้ออกมาและคาดว่าในอนาคตน่าจะมีการนำไปต่อยอดพัฒนาเพิ่มมากกว่านี้อย่างแน่นอน

ที่มา: extremetech

from:http://notebookspec.com/colorful-release-mother-intel-skylake-chipset-with-gtx-1070-integrate/351066/