คลังเก็บป้ายกำกับ: SK_HYNIX

สิ้นสุดยุคชิปขาดแคลน SK hynix ประกาศผลขาดทุน 3.4 ล้านล้านวอน หันไปผลิตแรมสำหรับ AI

SK hynix รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2023 มีรายได้ 5.088 ล้านล้านวอน ขาดทุน 3.402 ล้านล้านวอน คิดเป็นการขาดทุน 67% ของรายได้ โดยระบุเหตุผลว่าเกิดจากความต้องการชิปหน่วยความจำที่ยังลดลงต่อเนื่อง แต่คาดว่าจะถึงจุดต่ำสุดแล้ว และความต้องการชิปน่าจะค่อยๆ กลับขึ้นมาในไตรมาสที่สองนี้

แนวทางแก้ไขปัญหาธุรกิจของ SK hynix หลังจากนี้จะเน้นสินค้าพรีเมียมราคาสูง เช่น DDR5, LPDDR5, และ HBM3 ที่ใช้งานในเซิร์ฟเวอร์ประสิทธิภาพสูงโดยเฉพาะงานกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ที่ต้องการแรมปริมาณสูงมาก และความต้องการน่าจะเพิ่มขึ้นต่อไปแม้บริษัทต่างๆ จะลดรายจ่ายก็ตามที

แม้บริษัทจะยังขาดทุนอยู่แต่ก็ต้องลงทุนพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ต่อไป โดยตอนนี้กำลังพัฒนากระบวนการผลิต DRAM เทคโนโลยี 10 นาโนเมตรรุ่นที่ 5 และ NAND แบบ 238 ชั้น

โมเดลปัญญาประดิษฐ์ประมวลผลภาษาขนาดใหญ่ หรือ LLM นั้นต้องการแรมสูงมากในการพัฒนาและรัน ก่อนหน้านี้ NVIDIA ก็ออกโมดูลปัญญาประดิษฐ์โดยเพิ่มแรมต่อโมดูลถึง 188GB เพื่อรองรับงานกลุ่มนี้

ที่มา – SK hynix

from:https://www.blognone.com/node/133566

SK hynix เปิดตัวแรมแบบ LPDDR5T เร็วกว่า LPDDR5X เดิม 13% สูงสุด 9.6 Gbps เริ่มใช้ก่อนบนมือถือ

ชาวพีซีเพิ่งจะตื่นเต้นกับแรม DDR5 ไปไม่นาน (และยังไม่ทันได้ใช้) แต่รู้หรือไม่ว่ามันจะไม่ใช่ของใหม่สุดในยุคอีกต่อไป เพราะตอนนี้กำลังจะมีแรมประหยัดพลังงาน (LP = Low Power) รุ่นใหม่ออกมาตีคู่ โดยค่าย SK hynix เจ้าพ่อแห่งชิป NAND Falsh ได้ประกาศเปิดตัวแรมชนิด LPDDR5T เป็นเจ้าแรก โดยตัว T ท้ายชื่อนี้ย่อมากจากคำว่า Turbo สื่อที่ความเร็วที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

หน่วยความจำ RAM ชนิด LPDDR5T เป็นการอัปเกรดเพิ่มเติมจาก LPDDR5X เดิมใช้กระบวนการผลิตระดับ 10nm ส่งข้อมูลได้ที่ 8.5 Gbps ของใหม่ได้รับการตีบวกเพิ่มอีก 13% กลายเป็นสูงสุด 9.6 Gbps บนพื้นฐาน 10nm ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียดของค่า Bus ว่าจะเป็นเท่าไหร่ แต่เชื่อว่าน่าจะอยู่ในระดับเดียวกันหรือต่ำกว่าสูงสุดที่ DDR5 ทำได้ตอนนี้เล็กน้อย และนี่น่าจะเป็นการอัปเกรดครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นเลข LPDDR6 แล้ว

ขอบคุณตารางข้อมูลจากเว็บไซต์ AnandTech

ตามปกติมาตรฐานของหน่วยความจำ DDR จะถูกกำหนดโดยองค์กร JEDEC แต่ครั้งนี้ SK hynix แอบชิงไหวพริบโชว์ความล้ำของเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาออกมาได้สำเร็จก่อนใคร เลยยังไม่มีมาตรฐานการรองรับที่ชัดเจน แต่ทางบริษัทระบุแล้วว่าจะผลักดันให้ LPDDR5T กลายเป็นมาตรฐานร่วมกับ JEDEC ด้วยต่อไป และบอกจะเริ่มการผลิตจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2023 นี้เลย เพื่อใช้กับสินค้าประเภทมือถือสมาร์ทโฟนก่อน

 

 

ที่มา : SK hynix, AnandTech

from:https://droidsans.com/sk-hynix-the-first-lpddr5t-ram-13-faster/

SK hynix เปิดตัวแรม LPDDR5T (Turbo) ส่งข้อมูลเร็วขึ้นจาก LPDDR5X อีก 13%

SK hynix เปิดตัวแรมรุ่นใหม่สำหรับสมาร์ทโฟน LPDDR5T ที่แรงขึ้นจากแรม LPDDR5X รุ่นล่าสุดในปัจจุบันอีก 13%

LPDDR5T ย่อมาจาก Low Power Double Data Rate 5 Turbo เป็นแรมที่ต่อยอดจาก LPDDR5X โดยเพิ่มอัตราการส่งข้อมูลเป็น 9.6 Gbps หรือเพิ่มขึ้น 13% จาก 8.5 Gbps ของแรมรุ่นเดิม และน่าจะเป็นการอัพเกรดครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นเลขใหม่เป็น LPDDR6 ในอนาคตต่อไป

จุดที่น่าสนใจคือ LPDDR5T เป็นสเปกที่ SK hynix พัฒนาขึ้นเอง ไม่ได้อิงกับมาตรฐานแรมของ JEDEC (Joint Electron Device Engineering Council) แต่ SK hynix ก็บอกว่าจะผลักดันให้เป็นมาตรฐานของ JEDEC ด้วย

แรมของ SK hynix จะใช้กระบวนการผลิตระดับ 10 นาโนเมตร เริ่มผลิตเป็นจำนวนมากในช่วงครึ่งหลังของปี 2023

ที่มา – SK hynix via AnandTech

No Description

No Description

from:https://www.blognone.com/node/132394

สิ้นสุดยุคขิปขาดแคลน Texas Instrument ระบุตลาดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์เริ่มชะลอตัว, SK Hynix กำไรลดหนัก

วันนี้บริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายสำคัญอย่าง Texas Instrument (TI) และ SK Hynix แถลงผลประกอบการ โดยทั้งสองรายระบุเหมือนกันว่าตลาดเริ่มชะลอตัว อาจจะแสดงให้เห็นว่าเราออกจากยุคชิปขาดแคลนอย่างเต็มตัวแล้ว

ผลประกอบการของ TI ยังคงเติบโตแต่ช้าลงมาก โดยรายได้เติบโตเพียง 1% QoQ และ 13% YoY คิดเป็น 5,241 ล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรรวมยังคงเติบโตค่อนข้างดีที่ 18% YoY คิดเป็น 2,295 ล้านดอลลาร์

SK Hynix ที่มีสินค้าหลักคือ DRAM และหน่วยความจำแฟลชนั้นผลประกอบการลดลงทั้งรายได้และกำไร โดยรายได้อยู่ที่ 10.9 ล้านล้านวอน ลดลง 20% QoQ และ 7% YoY ขณะที่กำไรเหลือ 1.1 ล้านล้านวอน ลดลง 62% QoQ และ 67% YoY

ทาง SK Hynix ระบุว่าสภาพเศรษฐกิจโลกกระทบต่อความต้องการแรมและสตอเรจอย่างหนัก แม้ว่าสินค้าใหม่ๆ อย่าง NAND 176-layer จะเริ่มเดินสายการผลิตเต็มรูปแบบแล้วก็ตาม แต่ทั้งนี้บริษัทยังมองภาพระยะยาวเป็นบวก โดยคาดว่าตลาดองค์กรจะต้องการแรมและสตอเรจแบบใหม่ๆ อย่าง HBM3 และ DDR5 ตลอดจนชิป NAND แบบ 238-layer ก็จะทำให้บริษัทแข่งขันได้ในอนาคต

ที่มา – SK Hynix, Texas Instrument

No Description

ภาพโดย Republica

from:https://www.blognone.com/node/131146

สหรัฐฯ อนุญาตพิเศษให้ Samsung, TSMC, SK Hynix ดำเนินธุรกิจชิปในจีนได้อีกหนึ่งปี

สหรัฐอเมริกา ให้อนุญาตพิเศษกับผู้ผลิตชิปอย่าง Samsung, TSMC, และ SK Hynix ให้สามารถดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับชิปในประเทศจีนต่อไปได้เป็นเวลา 1 ปี หลังจากที่เพิ่งออกคำสั่งแบนไม่ให้มีการส่งออกชิ้นส่วนและอุปกรณ์ไปเมื่อวันที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมาครับ

ก่อนหน้านี้สหรัฐฯ เพิ่งประกาศห้ามไม่ให้บริษัทต่าง ๆ ทำการส่งออกและเคลื่อนย้าย อุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ เพื่อใช้ในอุตสาหกรรมชิปของจีน โดยมีการห้ามทำธุรกิจเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์ DRAM ที่ผลิตบนพื้นฐานต่ำกว่า 18 นาโนเมตร, ชิป NAND ที่มีชั้นวงจรเกิน 128 ชั้นขึ้นไป, และชิป logic ที่ผลิตบนฐานเล็กกว่า 14 นาโนเมตร ถือเป็นหนึ่งในมาตรการการกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ที่ต้องการไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีชิปขั้นสูงได้

แต่ SK hynix ผู้ผลิตชิปจากเกาหลีใต้ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐอเมริกา ได้อนุญาตให้บริษัทสามารถดำเนินการต่าง ๆ เพื่อดำเนินธุรกิจชิปในประเทศจีนต่อไปได้อีก 1 ปี โดยไม่จำเป็นต้องขออนุญาตอะไรเป็นพิเศษ

ส่วนอีกสองค่ายผู้ผลิตชิปรายใหญ่อย่าง Samsung และ TSMC ก็รายงานว่าได้รับอนุญาตให้ดำเนินงานต่อไปได้อีก 1 ปี เช่นเดียวกันกับ SK Hynix ด้วย โดย Samsung ก็มีฐานการผลิตชิปอยู่ 2 แห่งในประเทศจีน ส่วน TSMC ก็จะสามารถดำเนินการส่งชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อผลิตชิปบนฐาน 22/28 นาโนเมตรต่อไปได้อยู่

อย่างไรก็ตาม TSMC จะไม่สามารถส่งหน่วยประมวล AI หรือตัวประมวลภาพขั้นสูงไปยังประเทศจีนได้ แต่ก็คงไม่ส่งผลในแง่ลบกับบริษัทมากนัก เพราะธุรกิจส่วนนี้นับเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ของการดำเนินงานทั้งหมดของเค้าครับ

ดังนั้นการอนุญาตบริษัทเหล่านี้ คงเป็นการส่งท้าย ให้บริษัทสำคัญที่ยังดำเนินงานอยู่ในจีน สามารถจัดการ และวางแผนการถอยห่างออกมาได้ ก่อนจะแบนไม่ให้ดำเนินการธุรกิจชิปใด ๆ กับจีนหลังจากนี้ไป

ส่วนทางการจีนเองก็ได้ออกมาประนามการแบนดังกล่าว ระบุว่าการแบนครั้งนี้จะขัดขวางการพัฒนาเทคโนโลยีระหว่างนานาประเทศ ซึ่งก็จะส่งผลเสียต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรม และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวมครับ

ที่มา : theregister

from:https://droidsans.com/us-samsung-tsmc-sk-hynix-chip-ban-exempt-1-year/

ซัมซุงและ SK hynix อาจไม่อัพเกรดโรงงานชิปในจีน เพราะกฎหมาย CHIPS Act ของสหรัฐ

Financial Times รายงานว่ายักษ์ใหญ่ของวงการเซมิคอนดักเตอร์เกาหลีคือซัมซุงและ SK hynix กำลังทบทวนนโยบายการลงทุนในจีน หลังสหรัฐอเมริกาผ่านกฎหมาย CHIPS Act ที่ให้ทุนกับบริษัทเอกชนไปผลิตชิปในสหรัฐ

กฎหมายฉบับนี้ยังมีเงื่อนไขว่าบริษัทที่จะรับทุนจากรัฐบาลสหรัฐ ต้องไม่ขยายหรืออัพเกรดโรงงานผลิตชิปในจีนเป็นเวลา 10 ปีด้วย เงื่อนไขนี้บีบให้บริษัทอย่างซัมซุงและ SK hynix ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกทางใดกันแน่ระหว่างจีนกับสหรัฐ

Financial Times ยังอ้างแหล่งข่าวจากรัฐบาลเกาหลีใต้ว่า โรงงานชิปในจีนของบริษัทเกาหลีจะถูกลดความสำคัญลงเรื่อยๆ และถ้าจีนไม่พอใจ ทางเลือกเดียวของบริษัทเกาหลีก็คือเลือกข้างสหรัฐ

ซัมซุงนั้นมีโรงงานผลิตชิปในสหรัฐอยู่แล้ว และเพิ่งประกาศขยายโรงงานในเท็กซัสเมื่อปลายปี 2021 ตั้งเป้าเริ่มผลิตชิปได้จริงในปี 2024 ส่วน SK hynix เองก็เคยประกาศลงทุนในสหรัฐมูลค่า 22 พันล้านดอลลาร์ ทั้งสองบริษัทต่างมีโรงงานผลิตชิปในจีนเช่นกัน

ภาพโรงงาน SK hynix ที่เมือง Wuxi ประเทศจีน

No Description

ที่มา – Financial Times

from:https://www.blognone.com/node/129653

อินเทลขายธุรกิจ SSD และโรงงานชิป NAND ให้ SK hynix เสร็จเรียบร้อยแล้ว

อินเทลประกาศความคืบหน้าการขายธุรกิจ NAND และ SSD ให้กับ SK hynix ที่ประกาศไว้เมื่อปี 2020 ว่าเสร็จสิ้นกระบวนการขั้นแรกแล้ว

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อินเทลขายธุรกิจ SSD และโรงงานผลิตชิปหน่วยความจำ NAND ที่เมืองต้าเหลียน ประเทศจีน ให้กับ SK hynix ในราคา 7 พันล้านดอลลาร์ โดยอินเทลจะยังใช้บริการผลิต NAND ที่โรงงานแห่งนี้ต่อไป ส่วนธุรกิจ SSD จะกลายเป็นบริษัทใหม่ชื่อ Solidigm (ย่อมาจาก solid-state + paradigm) มีสถานะเป็นบริษัทลูกของ SK hynix และ Robery Crooke หัวหน้าฝ่ายหน่วยความจำของอินเทลจะขึ้นเป็นซีอีโอของบริษัทแห่งนี้

กระบวนการซื้อกิจการส่วนที่เหลือเป็นเรื่องโอนถ่ายทรัพย์สินทางปัญญา พนักงานทั้งฝ่ายวิจัยและฝ่ายผลิต ไปให้ SK hynix เป็นมูลค่าอีก 2 พันล้านดอลลาร์ คาดว่าจะเสร็จสิ้นช่วงต้นปี 2025

การขายกิจการครั้งนี้ทำให้อินเทลออกจากธุรกิจหน่วยความจำ ยกเว้นส่วน Optane ที่ทำร่วมกับ Micron แต่ภายหลัง Micron ก็ขายโรงงานหน่วยความจำ 3D XPoint นี้ให้กับ Texas Instrument ไปซะแล้ว

No Description

ที่มา – Intel

from:https://www.blognone.com/node/126481

โรงงานผลิตชิปในจีนเจอปัญหา สหรัฐล็อบบี้เนเธอร์แลนด์ไม่ขายเครื่อง EUV ให้

Reuters รายงานว่าสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน บวกกับปัญหาชิปขาดตลาดทั่วโลก ส่งผลสะเทือนต่อโรงงานผลิตชิปในประเทศจีน ไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการผลิตบางอย่างได้แล้ว

บริษัทในข่าวคือ SK Hynix บริษัทผลิตหน่วยความจำรายใหญ่จากเกาหลีใต้ ที่มีโรงงานอยู่ที่เมืองอู๋ซี (Wuxi) ประเทศจีน ไม่สามารถซื้อเครื่อง extreme ultraviolet lithography (EUV) จากบริษัทเนเธอร์แลนด์ ASML เพื่อใช้ในการผลิตชิปที่ขนาดเล็กมากๆ ได้มาหลายปีแล้ว

การที่ ASML เป็นบริษัทสัญชาติเนเธอร์แลนด์ ทำให้รัฐบาลสหรัฐไม่สามารถสั่งห้ามทำการค้ากับจีนได้โดยตรง แต่ตามข่าวบอกว่า รัฐบาลทรัมป์ได้เจรจากับรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ เพื่อสกัดการขายเครื่อง EUV ให้กับโรงงานเซมิคอนดักเตอร์ในจีนมาก่อนแล้ว ซึ่งโฆษกของ ASML ก็ระบุว่าต้องปฏิบัติตามกฎหมายด้านการส่งออกของเนเธอร์แลนด์ ส่วน SK Hynix เลือกไม่ตอบคำถามในประเด็นนี้

ตามข่าวบอกว่าโรงงานที่ Wuxi เป็นศูนย์กลางหลักในการผลิตหน่วยความจำของ SK Hynix มีปริมาณการผลิตประมาณครึ่งหนึ่งของ SK Hynix ทั้งหมด การที่โรงงานแห่งนี้ไม่สามารถซื้อเครื่อง EUV ได้ตามแผน จะทำให้เสียความสามารถในการแข่งขัน เพราะผู้ผลิตแรมรายใหญ่เจ้าอื่นๆ คือ Samsung และ Micron ต่างไม่มีปัญหานี้

No Description

ภาพการทำงานของเครื่อง EUV จาก ASML

ที่มา – Reuters, Tom’s Hardware

from:https://www.blognone.com/node/126036

แรมจะแพงอีกหรือไม่ SK hynix ยอมรับสายการผลิตแรมมีปัญหา แต่ยังคาดเดาปริมาณไม่ได้

SK hynix ผู้ผลิตแรมรายใหญ่ออกมายอมรับว่าสายการผลิตแรมมีปัญหาบางสาย โดยยังไม่สามารถระบุปริมาณแรมที่มีปัญหาได้

เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมามีข่าวลือว่ามูลค่ารวมของแรมที่มีปัญหามีปริมาณถึง 240,000 เวเฟอร์ คิดเป็นสัดส่วนถึง 13% ของกำลังผลิต 1.8 ล้านเวเฟอร์ต่อเดือนของ SK hynix มูลค่ารวมถึงหกหมื่นล้านบาท แม้ว่าทางบริษัทจะไม่สามารถระบุมูลค่าความเสียหายได้แต่ระบุว่าตัวเลขนี้เกินความเป็นจริงไปมาก และได้แจ้งความต่อตำรวจเพื่อหาต้นตอข่าวลือนี้

SK hynix มีรายได้เกือบทั้งหมดจากการผลิตแรมและหน่วยความจำแฟลช คิดเป็นกำลังผลิต 80% ของโรงงาน รายได้ไตรมาสแรกของปี 2021 สูงถึง 8.5 ล้านล้านวอน หรือประมาณ 240,000 ล้านบาท

ที่มา – The Register

from:https://www.blognone.com/node/123080

SK Hynix เตรียมสร้างโรงงานผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี EUV มูลค่ากว่า 106 พันล้านดอลลาร์

SK Hynix บริษัทผู้ผลิตชิปสัญชาติเกาหลีใต้ เพิ่งได้รับอนุญาตจากรัฐบาลให้ตั้งศูนย์รวมโรงงานผลิตชิปด้วยเทคโนโลยี extreme ultraviolet lithography (EUV) มูลค่ากว่า 120 ล้านล้านวอน หรือ 106.35 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะเริ่มก่อสร้างช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้

ศูนย์โรงงานนี้จะประกอบไปด้วยโรงงานย่อย 4 โรงงาน ในพื้นที่ 4.15 ล้านตารางเมตร ในเมืองยงอิน ห่างไป 50 กิโลเมตรทางใต้ของกรุงโซล โรงงานแรกจะเริ่มผลิตชิปได้ภายในปี 2025 และมีอัตราการผลิตทั้งหมดเมื่อแล้วเสร็จทั้ง 4 โรงงานอยู่ที่ 800,000 เวเฟอร์ต่อเดือน (wafer starts per month)

กำลังการผลิตจะถูกใช้สำหรับผลิตชิป DRAM ต่างๆ เป็นหลัก ซึ่งถ้าคาดการณ์แล้วเสร็จหลังปี 2025 น่าจะเป็นชิปประเภท DDR5, LPDDR5X หรือชนิดอื่นๆ ในอนาคต

ศูนย์โรงงานนี้จะเป็นศูนย์โรงงานที่สองของ SK Hynix หลังจากศูนย์แรกในเมืองอีช็อน (ไม่ใช่อินชอน) ที่มีโรงงานผลิตชิปแบบ M10, M14 และโรงงานผลิตชิปแบบ M16 ที่เพิ่งสร้างเสร็จเมือเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และจะเริ่มผลิต DRAM แบบ 1a-nm (ขนาด 10 นาโนเมตร) ด้วยกระบวนการ EUV ภายในครึ่งหลังของปีนี้

SK Hynix เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เร่งตั้งโรงงานผลิตชิป หลังดีมานด์ชิปพุ่งสูง และเกิดปัญหาขาดแคลนชิปที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในปีนี้ หลังมีรายงานว่า Samsung กำลังไล่ซื้อที่ดิน และอาจตั้งโรงงานผลิตชิป 3nm มูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์เพิ่มในสหรัฐตั้งแต่ช่วงต้นปี ส่วน TSMC ก็เพิ่งประกาศลงทุนกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์เพื่อตั้งโรงงานผลิตชิปเพิ่มในอีก 3 ปีข้างหน้านี้

ที่มา – Anandtech

from:https://www.blognone.com/node/122044