คลังเก็บป้ายกำกับ: CHIPSET

เปิดตัว Snapdragon 7+ Gen 2 ชิปแรงพรีเมียม ซีพียูแรงขึ้น 50% จีพียูเร็วขึ้นเท่าตัว

Qualcomm เปิดตัวชิปรุ่นใหม่ Snapdragon 7+ Gen 2 เป็นชิประดับกลางพรีเมียม เร็วแรงไม่น้อยหน้าใคร ที่คราวนี้เค้าอัปสปีดให้แรงมากขึ้นพอสมควร จนอาจทำให้ค่ายมือถือต่าง ๆ สนใจหยิบไปประกอบในมือถือมากยิ่งขึ้น รองรับการใช้กล้องความละเอียด 200MP พร้อม ISP ประมวลกล้องสวย สามารถรับสัญญาณ 5G

Snapdragon 7+ Gen 2 ใช้ซีพียูแกน Kryo @2.91GHz ดีไซน์สถาปัตยกรรมแบบ 1+3+4 ที่ทำให้มีความแรงมากขึ้นถึง 50% เมื่อเทียบกับ Snapdragon 7 Gen 1 ส่วนจีพียู ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าใช้ชื่ออะไร แต่เค้าบอกว่าแรงมากขึ้น 2 เท่า ชิปตัวนี้รวมแล้วประหยัดพลังงานมากขึ้นถึง 13%

ชิปตัวใหม่นี้ได้ใช้โมเด็ม Snapdragon X62 5G รองรับใส่ Dual SIM 5G ทั้งแบบ mmWave และ sub-6Ghz ทำให้เชื่อมต่อได้ไวสูงสุดถึง 4.4 Gbps

ส่วนด้าน AI ก็มีการพัฒนาขึ้นมา ควอลคอมระบุว่ามีการประมวล AI ต่าง ๆ ไวมากขึ้นถึง 2 เท่า และใช้พลังงานในการประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 40%

Snapdragon 7+ Gen 2 รองรับการแสดงผลหน้าจอได้ความละเอียดสูงสุด QHD+ 120fps มีตัว aptX ที่ทำให้เชื่อมต่อหูฟังเสียงได้แบบไม่มีดีเลย์ นอกจากนี้ยังรองรับการแสดงผล Auto Variable Rate Shading ที่ควบคุมพลังงานได้อย่างดี

สุดท้ายแล้ว SD 7+ Gen 2 ก็พัฒนาตัว ISP ที่ใช้ประมวลกล้องถ่ายภาพและวิดีโอ โดยเค้าใช้ 18-bit Triple ISP ที่ช่วยให้เก็บข้อมูลรายละเอียดได้มากขึ้นถึง 4000 เท่า และถ่ายภาพ RAW ได้ความลึกสี 18-bit ด้วย

 

ที่มา : qualcomm, androidcentral

from:https://droidsans.com/snapdragon-7-plus-gen-2-launch/

Advertisement

สเปคชิป Exynos 1380 5G ขุมพลังมือถือ Samsung รุ่นคุ้มค่า ราคาแจ่ม

Samsung เปิดตัว Exynos 1380 5G ชิปคุณภาพดีสำหรับมือถือตระกูลคุ้ม มาพร้อมกับประสิทธิภาพการทำงานที่ทรงพลัง รองรับการใช้กล้องระดับสูง มีตัวช่วยประมวล AI ด้วย ข้างในมี GPU แรงกำลังดี ให้มือถือสามารถเล่นเกมต่าง ๆ ได้ไม่มีหวั่น ทำได้ทุกอย่างโดยที่ยังสามารถประหยัดพลังงานมือถือ ช่วยให้ใช้แบตได้ยาวนาน

ชิป Exynos 1380 5G ผลิตบนสถาปัตยกรรม 5 นาโนเมตร เป็นซีพียู 8 แกน ประกอบไปด้วย Cortex-A78 @2.4GHz จำนวน 4 แกน และ Cortex-A55 @2.2GHz จำนวน 4 แกน ใช้ร่วมกับจีพียู Mali-G68 เพื่อใช้ประมวลภาพกราฟิกต่าง ๆ เช่นเวลาเล่นเกม

ข้างในยังมีชิป NPU รุ่นใหม่ รองรับการประมวลผลได้ 4.9 ล้านล้านปฏิบัติการต่อวินาที ช่วยให้ใช้ AI สำหรับการตรวจจับภาษา และ จับวัตถุในภาพเพื่อปรับให้มีความสวยงามได้รวดเร็วมากขึ้น

ชิปตัวนี้รองรับการแสดงผลกับหน้าจอความละเอียดสูงสุด FHD+ กับรีเฟรชเรต 144Hz มี ISP ใช้ประมวลภาพจากกล้อง 200MP ได้แบบไม่มี Shutter Lag กดแล้วได้ภาพทันทีไม่มีหลุด รองรับการถ่ายวิดีโอชัดถึง 4K30fps การถอดรหัส HEVC 10bit, H.264 10bit, VP9

ในด้านการเชื่อมต่อ Exynos 1380 รองรับเครือข่าย 5G แบบ Sub-6GHz ที่ความไว 3.79Gbps / 1.28 Gbps และ mmWave ที่ความไว 3.67Gbps / 0.92 Gbps รองรับ GPS, GLONASS, BeiDou, Galileo

จากข่าวก่อนหน้า คาดว่า Exynos 1380 จะได้ใช้ในมือถือรุ่น Samsung Galaxy A54 ทำให้รุ่นนั้นได้ความแรงสูงขึ้นไปอีกครับ

 

ที่มา : semiconductor.samsung

from:https://droidsans.com/exynos-1380-5g-official-spec-feature-launch/

MediaTek เปิดตัว Dimensity 7200 เพื่อยกระดับประสบการณ์การถ่ายภาพและเกมมิ่งบนสมาร์ทโฟน

วันนี้ MediaTek แถลงข่าวเปิดตัว Dimensity 7200 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตรุ่นแรกในซีรีย์สฺ Dimensity 7000 รุ่นล่าสุด โดยชิปเซ็ต Dimensity 7200 มีคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพด้วย AI ที่ล้ำสมัย ชุดเพิ่มประสิทธิภาพการเล่นเกมที่ทรงพลัง และ 5G ที่มีความเร็วสูงจนน่าประทับใจ ทั้งหมดนี้มาพร้อมกับการประหยัดพลังงานสุดขีดเพื่อยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่

Dimensity 7200 ใช้กระบวนการผลิต TSMC 4nm รุ่นที่สอง ซึ่งเป็นกระบวนการเดียวกับชิป Dimensity 9200 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการออกแบบให้มีรูปลักษณ์บางเฉียบในฟอร์มแฟคเตอร์หลากรูปแบบ ส่วน CPU Octa-core ยังผสานรวม Arm Cortex-A715 สองคอร์ ซึ่งมีความเร็วในการทำงานสูงถึง 2.8GHz พร้อม Cortex-A510 หกคอร์ ช่วยให้ทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างง่ายดาย และใช้งานทุกแอปพลิเคชันได้เต็มประสิทธิภาพ

อีกทั้งหน่วยประมวลผล AI (APU) ในตัวของ MediaTek ยังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานและศักยภาพให้ดียิ่งขึ้น รวมถึงยกระดับการทำงานของ AI และการประมวลผลแบบ AI ฟิวชั่นให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

MediaTek Dimensity 7200

คุณ CH Chen รองผู้จัดการทั่วไปของหน่วยธุรกิจสื่อสารไร้สายแห่ง MediaTek กล่าวว่า “MediaTek Dimensity 7000 จะเป็นซีรีย์สฺชิปที่จำเป็นสำหรับเกมเมอร์ที่เล่นเกมบนมือถือและผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ โดยมีเทคโนโลยีที่ทำให้แบตเตอรี่ในโทรศัพท์ใช้งานได้มาก นานที่สุดโดยไม่ลดทอนประสิทธิภาพการใช้งาน”

สำหรับเหล่าเกมเมอร์ เทคโนโลยี MediaTek HyperEngine 5.0 ประกอบไปด้วย Variable Rate Shading (VRS) ที่ใช้ AI ประมวลผลอันช่วยประหยัดพลังงาน รวมถึงยังเพิ่มประสิทธิภาพทรัพยากร CPU และ GPU อย่างชาญฉลาดเพื่ออายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีขึ้น และการอัปเกรดคุณสมบัติอื่นๆ เพื่อการเล่นเกมที่ราบรื่น ชิปเซ็ตยังรวม GPU Arm Mali G610 อันทรงพลังที่ช่วยให้ตอบสนองได้อย่างรวดเร็วและรักษาอัตราเฟรมความเร็วสูงเอาไว้ได้

Dimensity 7200 ใช้เทคโนโลยี Imagiq 765 ของ MediaTek รวมถึง HDR-ISP 14 บิตด้วย จึงสามารถรองรับกล้องหลักความละเอียด 200MP สำหรับการถ่ายภาพชั้นยอดได้ ทั้งยังบันทึกวิดีโอได้อย่างน่าตื่นตาด้วยวิดีโอความละเอียด 4K HDR และสามารถจับภาพตามที่ต้องการจากกล้องสองตัวที่ความละเอียด Full HD ได้พร้อมกัน

พร้อมทั้งคงโฟกัสทุกจุดไว้ด้วยเทคโนโลยีออโตโฟกัสแบบ All Pixel ผู้ใช้จึงสามารถจับภาพอันงดงามได้ในเวลากลางคืนและในสภาพแสงน้อย นอกจากนี้ ยังมีการลดนอยส์ที่ชดเชยการเคลื่อนไหวได้ในตัว ที่มาพร้อมกับ APU รองรับชุดเพิ่มประสิทธิภาพกล้อง AI อันทรงพลัง เช่น การปรับแต่งภาพบุคคล (Beautification) แบบเรียลไทม์

Dimensity 7200 มีโมเด็ม Sub-6GHz 5G มาตรฐาน 3GPP Release-16 พร้อมดาวน์ลิงก์ความเร็วสูงสุดที่ 4.7Gbps และรองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 6E แบบ Triband และ Bluetooth 5.3 รุ่นที่กำลังจะออกวางตลาด โมเด็ม 5G ที่ผสานรวมแบบครบวงจรและชุดเทคโนโลยี 5G UltraSave 2.0 ของ MediaTek ช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสิทธิภาพการใช้พลังงานสัญญาณเซลลูลาร์ที่ดีที่สุดในคลาสเดียวกัน

มากกว่านั้น ชิปยังรองรับเทคโนโลยีการรวมย่านความถี่ 2CC Carrier Aggregation และซิมคู่ 5G พร้อมเทคโนโลยี Dual VoNR เพื่อการครอบคลุมที่มีความน่าเชื่อถือได้ในทุกที่ และซิมคู่นี้ยังทำให้เชื่อมต่อได้ถึงสองแบบ ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายและโทรจากสมาร์ทโฟนเพียงเครื่องเดียวได้

คุณสมบัติเพิ่มเติมของ Dimensity 7200 ประกอบไปด้วย

  • ความถี่หน่วยความจำสูงถึง 6400Mbps และ UFS 3.1 เพื่อการจัดเก็บได้ปริมาณสูงสุด
  • เทคโนโลยีการแสดงผล MediaTek MiraVision Display HDR รองรับมาตรฐานล่าสุด ได้แก่ HDR10+, CUVA HDR และ Dolby HDR
  • แสดงผลสูงสุดในระดับ Full HD+ และ 144Hz เพื่อการแสดงผลที่ยอดเยี่ยม
  • การเล่นวิดีโอ AI SDR-to-HDR เพื่อประสบการณ์มัลติมีเดียที่ดียิ่งขึ้น
  • เทคโนโลยี Bluetooth LE Audio และ Dual-Link True Wireless Stereo Audio สำหรับรองรับเอียร์บัดไร้สาย

Dimensity 7200 จะขับเคลื่อนอุปกรณ์ 5G ที่กำลังออกสู่ตลาดโลกในไตรมาสที่ 1 ของปี 2566 ท่านสามารถศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ Dimensity ของ MediaTek ได้ที่ https://i.mediatek.com/mediatek-5g

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/mediatek-introduces-dimensity-7200/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=mediatek-introduces-dimensity-7200

ชิปเซ็ต Samsung Galaxy S24? หลุดสเปคชิป Exynos 2400 ซีพียู 10 แกน (10-core)

หลุดข้อมูลจากขาประจำว่า Samsung กำลังพัฒนาชิปเซ็ตรุ่นใหม่ Exynos 2400 สำหรับใช้ในสมาร์ทโฟนของค่าย แปลว่าซัมซุงยังมุ่งพัฒนาชิปของตัวเองอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าล่าสุดจะเปิดตัวมือถือเรือธง Galaxy S23 Series ไปโดยใช้แต่ชิป Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 เหมือนกันทั่วโลก

Samsung Galaxy S23 Series

Samsung เปิดตัว Galaxy S23 ไปโดยไม่มีการพูดถึงชิป Exynos เลย แปลว่าทุกประเทศจะใช้ใช้ชิปรุ่นพิเศษ Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่ผลิตโดย TSMC อย่างเท่าเทียมกัน ถึงกระนั้นก็ยังมีข่าวล่าสุดเป็นชิป Exynos 2400 ที่ขณะนี้ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะใช้เพื่อเป็นขุมพลังให้กับมือถือรุ่นไหน

Ice Universe เผยสเปคภายในชิป Exynos 2400 ว่าจะประกอบไปด้วยแกนหลัก 1x Cortex-X4 + 2x Cortex-A720 (ความเร็วนาฬิกาสูงกว่าเดิม) + 3x Cortex-A720 (ความเร็วนาฬิกาต่ำกว่าเดิม) + 4x Cortex-520 ทำให้ชิปตัวนี้มีส่วนประกอบทั้งหมด 10 แกน (10-core) ต่างจากตอนนี้ที่ส่วนใหญ่ใช้ชิป 8 แกนกัน (8-core)

Samsung Galaxy S24 ใช้ชิป Exynos 2400?

แต่จากประวัติก่อนหน้า ชิป Exynos 2100 ถูกใช้ไปใน Galaxy S21 Series จากนั้น ชิป Exynos 2200 ก็ถูกใช้ไปใน Galaxy S22 Series (เฉพาะบางโซน) จึงเป็นไปได้ว่าเราอาจได้เห็น ชิป Exynos 2400 ในมือถือปีหน้า Samsung Galaxy S24 ครับ

 

ที่มา : gsmarena

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s24-might-use-exynos-2400-10-core-cpu/

Qualcomm บอกยังขายชิป Snapdragon ให้ HUAWEI ได้อยู่ แม้สหรัฐฯ กุมเข้มการแบน

จากข่าวว่าอเมริกาจะกุมเข้มการแบน HUAWEI จนทำให้บริษัทต่าง ๆ ไม่สามารถขายชิป 4G ให้ได้อีกต่อไปแล้ว ล่าสุด Qualcomm ออกมาปัดข่าว บอกว่ามาตรการใหม่นี้ไม่ได้ส่งผลอะไรกับบริษัท เพราะว่าได้ทำสัญญาซื้อขายกับหัวเว่ยเอาไว้แล้ว ทำให้ตอนนี้ค่ายใหญ่แอนดรอยด์จากจีนจะยังมีเวลาหายใจต่อไปได้อีก

Qualcomm ขายชิปให้ HUAWEI ต่อไปได้

Alex Rogers ประธานบริษัท Qualcomm Technology Licensing (QTL) เผยผลดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2023 พร้อมกล่าวว่า ทางบริษัทยังไม่ได้รับทราบมาตรการใหม่จากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ และเท่าที่ทราบมา ก็เกี่ยวกับเรื่องการอนุมัติสัญญาซื้อขายใหม่ ไม่ได้ส่งผลอะไรกับการขายชิปให้กับ HUAWEI 

เพราะว่า Qualcomm นั้นได้รับอนุมัติสัญญาขายชิปกับ HUAWEI มาตั้งนานแล้ว ทำให้ที่ผ่านมาได้ส่งทั้งชิป 4G และชิปอื่น ๆ รวมไปถึงตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ด้วย พร้อมเน้นย้ำว่าการขายชิ้นส่วนพวกนี้ได้รับการยืนยันจากกระทรวงแล้วว่ามีความปลอดภัย ไม่ขัดแย้งกับนโยบายปกป้องความมั่นคงของชาติ

สัญญาของเรายังมีช่วงอายุยาวนานอีกหลายปี ดังนั้นมาตรการใหญ่ของสหรัฐฯ จะไม่ส่งผลกระทบกับเรา – Alex Rogers กล่าว

แปลว่า HUAWEI จะยังมีเวลาสต็อกชิป Qualcomm ได้อีกนานหลายปี และเราจะได้เห็นมือถือรุ่นใหม่พร้อมชิป Snapdragon ต่อไปแน่นอน รวมไปถึงมือถืออย่าง P60, Mate X3, และ Mate 60 series ที่จะเปิดตัวในปีนี้

 

ที่มา : huaweicentral, gizchina

from:https://droidsans.com/qualcomm-allow-sell-chip-for-huawei-despite-us-tighten-ban/

ความพิเศษของ Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ใน Samsung Galaxy S23 Series

Samsung Galaxy S23, S23+, S23 Ultra เพิ่งเปิดตัวไปพร้อมกับ Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ที่เป็นชิปรุ่นพิเศษผลิตมาเพื่อใช้กับมือถือของซัมซุงเท่านั้น ทำให้มีความพิเศษแตกต่างจากชิป 8 Gen 2 ที่เราเห็นวางขายทั่วไปในมือถือยี่ห้ออื่น จุดเด่นหลักอยู่ที่แกนหลักในชิป ที่อัปค่าความเร็วนาฬิกาสูงขึ้น เช่นเดียวกันกับในตัว GPU พร้อม ISP สุดเจ๋ง

Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy แรงขึ้นไหม?

Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy

Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy มีค่าความเร็ว CPU แกนหลักสูงขึ้นมา จาก 3.19GHz เป็น 3.36GHz ทำให้มีความแรงสูงขึ้นมา และประมวลผลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และไม่ใช่อัปเกรดแค่ซีพียู แต่ตัว GPU ก็ได้เพิ่มค่าความเร็วเช่นกัน จาก 680MHz ไปเป็น 719MHz ทำให้สามารถประมวลภาพกราฟิกต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก

Snapdragon Cognitive ISP กล้องเก่งกว่าเดิม

Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ISP Camera

สุดท้าย ชิปตัวนี้ยังมี Snapdragon Cognitive ISP ที่มือถือ Samsung Galaxy S23 จะได้ใช้เป็นรุ่นแรก เป็นตัวประมวลภาพถ่ายที่รองรับ  Semantic Segmentation ทำให้สามารถวิเคราะห์วัตถุและส่วนต่าง ๆ ของภาพโดยแยกแต่ละองค์ประกอบได้แบบละเอียดมาก ๆ เช่น แยกการประมวลภาพริมฝีปาก ดวงตา ฟัน และผิว หรือแม้กระทั่งชิ่นส่วนเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา เป็นต้น ตรงนี้เองที่จะมาช่วยให้ใช้มือถือถ่ายภาพและวิดีโอได้สวยยิ่งขึ้นไปอีก

แถมระบบ ISP นี้จะทำการประมวลผลในขณะที่เรากำลังถือกล้องถ่ายอยู่ หรือแบบ Real-time เริ่มเห็นภาพสวย ๆ ได้เลยทันที

Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ISP Camera

Samsung Galaxy S23 เป็นมือถือแอนดรอยด์รุ่นแรกที่รองรับการถ่ายวิดีโอ Super HDR แบบ 4K 60fps ในทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง รองรับการถ่ายวิดีโอนิ่ง Super Steady ในความชัด QHD (ใน S22 ได้แค่ 1080p) แถมถ่ายวิดีโอ Portrait ได้ชัดถึง 4K 30fps เทียบเท่า iPhone 14 Pro

Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy AI
Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ISP Camera
Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ISP Camera
Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ISP Camera

ดังนั้นแม้ว่า Snapdragon 8 Gen 2 For Galaxy ดูเผิน ๆ เหมือนเป็นแค่การอัปเกรดความแรงชิปทั่วไป แต่แท้จริงแล้วช่วยยกระดับการทำงานรอบด้าน ซึ่งรวมถึงการประมวลภาพจากกล้องด้วย ทำให้คราวนี้กล้องของ Samsung Galaxy S23 มีความสามารถเพิ่มขึ้นไปอีก ตามฟีเจอร์ที่ซัมซุงเผยไปเมื่อวันเปิดตัวครับ

ใครสนใจเรือธงซัมซุงรุ่นใหม่ ลองดูเครื่องและภาพถ่ายจาก Galaxy S23, 23+ และ S23 Ultra พร้อมเช็คราคาได้ตามลิงก์เลย

พรีวิวเครื่องจริง Samsung Galaxy S23 ทุกรุ่น

ที่มา : sparrowsnews, sammobile

from:https://droidsans.com/snapdragon-8-gen-2-for-galaxy-s23-spec-feature/

เผยคะแนนทดสอบ Snapdragon 8 Gen 2 เทียบกับ SD 8+ Gen 1 และ 8 Gen 2

Snapdragon 8 Gen 2 เปิดตัวมาสักพักจนเราได้เห็นมือถือที่ใช้ชิปรุ่นนี้กันบ้างแล้ว และคงจะเป็นมาตรฐานชิปเรือธงสำหรับปี 2023 ไปยาว ๆ ดังนั้นจึงน่าสนใจว่าชิปตัวนี้มีประสิทธิภาพการทำงานอย่างไร ใช้งานทั่วไป เล่นเกม เครื่องร้อนหรือกินแบตขนาดไหน และก็มีคะแนนทดสอบเปรียบเทียบกับชิปรุ่นที่แล้วอย่าง Snapdragon 8+ Gen 1 และ Snapdragon 8 Gen 1 ด้วย

ข้อมูลทดสอบชิปคราวนี้มาจาก Androidcentral ใช้มือถือ iQOO 11 ทดสอบชิป Snapdragon 8 Gen 2, มือถือ ASUS Zenfone 9 ทดสอบ 8+ Gen 1, และสุดท้ายมือถือ Samsung Galaxy S22 Ultra ทดสอบ 8 Gen 1

เปรียบเทียบสเปค Snapdragon 8 Gen 2 กับ 8+ Gen 1 และ 8 Gen 1

สเปค Snapdragon 8 Gen 2 Snapdragon 8+ Gen 1
Snapdragon 8 Gen 1
ซีพียู 1 x 3.2GHz Cortex X3, 2 x 2.8GHz Cortex A715, 2 x 2.8GHz Cortex A710, 3 x 2.0GHz Cortex A510 1 x 3.19GHz Cortex X2, 3 x 2.75GHz Cortex A710, 4 x 1.8GHz Cortex A510
1 x 3.0GHz Cortex X2, 3 x 2.5GHz Cortex A710, 4 x 1.8GHz Cortex A510
จีพียู Adreno 740 Adreno 730 Adreno 730
จอแสดงผล 4K at 60Hz, QHD+ at 144Hz 4K at 60Hz, QHD+ at 144Hz
4K at 60Hz, QHD+ at 144Hz
หน่วยความจำ RAM LPDDR5X LPDDR5 LPDDR5
โมเด็ม และการเชื่อมต่อ Snapdragon X70 5G modem, up to 10Gbit downlink, FastConnect 7800 with Wi-Fi 7, Bluetooth 5.3 Snapdragon X65 5G modem, up to 10Gbit downlink, FastConnect 6900 with Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.2
Snapdragon X65 5G modem, up to 10Gbit downlink, FastConnect 6900 with Wi-Fi 6e, Bluetooth 5.2
ถ่ายภาพ 200MP single shot, 108MP zero shutter lag, 64MP + 36MP zero shutter lag, 10-bit HEIF 200MP single shot, 108MP zero shutter lag, 64MP + 36MP zero shutter lag, 10-bit HEIF
200MP single shot, 108MP zero shutter lag, 64MP + 36MP zero shutter lag, 10-bit HEIF
ถ่ายวิดีโอ 8K HDR video at 30fps, 4K at 120fps, 720p at 960fps 8K HDR video at 30fps, 4K at 120fps, 720p at 960fps
8K HDR video at 30fps, 4K at 120fps, 720p at 960fps
Decode AV1, H.265, VP9 H.265, VP9 H.265, VP9
สถาปัตยกรรม TSMC 4nm TSMC 4nm Samsung 4nm

จะเห็นได้ว่า Snapdragon 8 Gen 2 ใช้โครงสร้างแกนเป็นแบบ 1 + 4 + 3 เน้นมาเพิ่มแกนประสิทธิภาพมากขึ้น (จากเดิมที่ใช้โครงสร้าง 1 + 3 + 4) ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผลชนิด Multi-core ขึ้นมา

ตัว GPU ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นรุ่น Adreno 740 ที่รองรับการประมวลเงาแสงตกกระทบวัตถุ Ray Tracing แปลว่าจะมีโอกาสได้เห็นเกมที่ใช้ระบบนี้เพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ตัวชิปยังมีโมเด็มที่รองรับ Wi-Fi 7 เผื่อสำหรับอนาคต ใช้งานไปได้ยาว ๆ

snapdragon x70 modem

เปรียบเทียบคะแนน Snapdragon 8 Gen 2 กับ 8+ Gen 1 และ 8 Gen 1

การทดสอบ Snapdragon 8 Gen 2 Snapdragon 8+ Gen 1
Snapdragon 8 Gen 1
CrossMark (Overall) 1074 1008 999
Productivity 968 967 980
Creativity 1148 1042 990
Responsiveness 1202 1036 1087
Geekbench 5.1 (single-core) 1474 1311 1005
Geekbench 5.1 (multi-core) 4760 4286 3152
3DMark Wild Life Extreme (score) 2838 2801 2098
3DMark Wild Life Extreme (FPS) 17 16.75 12.55

จะเห็นได้ว่าพอปรับแกนข้างในแล้ว Snapdragon 8 Gen 2 มีคะแนน multi-core สูงขึ้นมาใช้ได้ ส่วนคะแนน Single-core ที่ใช้แกน Cortex X3 ก็ทำได้ดีสูงขึ้นมากว่า Cortex X2

ร้อนน้อย เหมาะเล่นเกมยาว ๆ

ตัวชูโรงการประมวลภาพกราฟิก Adreno 740 ใน Snapdragon 8 Gen 2 ทำได้ดี จับทดสอบแล้วเครื่องร้อนน้อยลงมาก ๆ ทำให้ได้คะแนนไปสูงกว่า Snapdragon 8 Gen 1 ที่มักมีปัญหาเครื่องร้อนจัดจนกระตุก ในขณะเดียวกัน รุ่น 8+ Gen 1 คะแนนยังดีใกล้เคียง Gen 2 เพราะจัดการปัญหาเครื่องร้อนได้เช่นกัน

แต่คะแนนสูงก็ใช่ว่าจะเห็นผลในการใช้งานจริง ทางผู้ทดสอบเค้าบอกว่า ทั้งการใช้งานทั่วไป และการเล่นเกม ไม่ได้เห็นว่าความเร็วจะต่างกันมากขนาดนั้น เพราะชิปในปัจจุบันนั้นมีความแรงมาก ๆ เกินการใช้งานอยู่แล้ว จะต่างกันก็เรื่องความร้อนนี่แหละ

Snapdragon_8_Gen_2_QRD_Outdoor

แบตอึดมาก

จุดเด่นอีกด้าน คือเรื่องการประหยัดพลังงาน ที่เค้าบอกว่ารุ่น iQOO 11 ใช้งานได้ยาวนานกว่ารุ่นเดิมอย่าง iQOO 9 Pro อย่างมาก และมือถือรุ่นอื่นที่ใช้ Snapdragon 8 Gen 2 ก็จะอึดกว่ารุ่นเก่า ๆ อีกเหมือนกัน ดังนั้นใครสนใจมือถือรุ่นใหม่ และใส่ใจเรื่องอายุแบต เลือกซื้อรุ่นที่ใช้ SD 8 Gen 2 รับรองว่าไม่ผิดหวังครับ

สำหรับชิปรุ่นอื่น ๆ จาก Qualcomm สามารถอ่านข้อมูลสรุปได้ที่นี่

 

ที่มา : androidcentral

from:https://droidsans.com/snapdragon-8-gen-2-performance-test/

Dell เตรียมยกเลิกการใช้ชิปที่ผลิตจากจีนทั้งหมดภายในปี 2024

สำนักข่าว Nikkei ได้แหล่งข่าววงในมาว่า Dell เตรียมหยุดการใช้ชิปที่ผลิตจากจีนภายในปี 2024 นี้ รวมทั้งพยายามลดการใช้ชิ้นส่วนอื่นๆ จากจีนในการผลิตสินค้าของตัวเอง “อย่างมีนัยสำคัญ” ท่ามกลางความหวาดกลัวว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนอาจถดถอยลงไปมากกว่านี้

ขณะที่โฆษกของ Dell ให้ข้อมูลกับทางสำนักข่าว CRN ว่า จีนยังคงเป็นตลาดที่สำคัญของตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธข่าวจากทาง Nikkei แต่อย่างใด โดยระบุว่า “เราพยายามขยายความหลากหลาย ความยืดหยุ่น และเสถียรภาพของซัพพลายเชนทั่วโลกเพื่อตอบรับความต้องการของลูกค้าและพาร์ทเนอร์”

“จีนถือเป็นตลาดที่สำคัญที่เรามีทั้งทีมงานและลูกค้ามากมายที่เราให้บริการ อย่างไรก็ตาม เราจะพยายามสร้างความหลากหลายของซัพพลายเชนให้กระจายทั่วโลกมากขึ้นเพื่อให้เหมาะสมกับทั้งความคาดหวังของลูกค้าทั้งหลาย และกลุ่มธุรกิจต่างๆ ของเรา”

แหล่งข่าวเดียวกันยังกล่าวกับ Nikkei ด้วยว่า คู่แข่ง Dell อย่าง HP ก็มองหาแหล่งชิปใหม่นอกจากจีนเช่นกัน แต่ Dell มีการตั้งขอบเขตเวลาชัดเจน แถมยังค่อนข้างเข้มงวดไปถึงซัพพลายเออร์ที่ต้องลดการใช้วัสดุหรือชิ้นส่วนจากจีนไปด้วยถ้ายังไม่อยากเสียลูกค้าอย่าง Dell ไป

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CRN

from:https://www.enterpriseitpro.net/dell-to-phase-out-use-of-china-made-chips-by-2024-report/

TSMC เริ่มเดินเครื่องผลิตชิป 3nm ส่งตรงจากโรงงานไต้หวันแล้ว

ผู้ผลิตชิปรายใหญ่จากไต้หวัน TSMC ประกาศเริ่มผลิตชิ้นส่วนชิปขนาด 3nm จากโรงงานทางใต้ของประเทศแล้ว ซึ่งรุ่นใหม่นี้จะให้ประสิทธิภาพที่ดีกว่ารุ่น 5nm เดิมที่มีใช้ในอุปกรณ์ Apple, Qualcomm, และ AMD ทั่วไปตอนนี้เป็นอย่างมาก

โดย TSMC โฆษณาว่า กระบวนการผลิตแบบ N3 ใหม่นี้จะให้ความหนาแน่นของวงจรเพิ่มขึ้น 60 – 70% ให้ประสิทธิภาพเพิ่ม 15 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ใช้พลังงานน้อยกว่าแบบ N5 เดิมที่เคยใช้ผลิตมานานกว่า 2 ปีแล้วถึง 30 – 35%

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันผู้ผลิตชิปของตัวเองอย่าง Apple และ Nvidia ได้ย้ายมาใช้ชิ้นส่วน N4 แทน N5 ของ TSMC กันแล้ว ดังนั้นการเปรียบเทียบ N3 กับ N5 อาจจะดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลไปหน่อย ขณะที่คู่แข่งอย่างซัมซุงฉีกออกไปจากกลุ่มชิปแบบนี้ไปเลย

โดยซัมซุงได้ใช้ดีไซน์ทรานซิสเตอร์แบบใหม่ที่มีการเรียกกันว่า RibbonFET ที่เป็นลักษณะแบบ Gate-All-Around ซึ่งทาง TSMC ยังคงใช้สถาปัตยกรรมแบบ Tried-and-True FinFET อยู่ โดยไม่น่าจะเปลี่ยนสถาปัตยกรรมเป็นแบบใหม่จนกว่าจะคลอดเทคโนโลยีผลิตแบบ 2nm ออกมา

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Theregister

from:https://www.enterpriseitpro.net/tsmc_3nm_production_taiwan/

7 คุณสมบัติที่ดีที่สุดของ MediaTek Kompanio 520 และ Kompanio 528

โดย PC Tseng ผู้จัดการทั่วไปหน่วยธุรกิจมัลติมีเดียอัจฉริยะแห่ง MediaTek

1. ยกระดับประสิทธิภาพในราคาย่อมเยา

MediaTek Kompanio 520 และ Kompanio 528 อัปเกรด Chromebook รุ่นเริ่มต้นเจนใหม่ด้วยประสิทธิภาพ CPU แบบ Single-core ที่เร็วขึ้นกว่า 100% ประสิทธิภาพของหน่วยความจำยังเร็วเป็นสองเท่าเพื่อให้ CPU อันทรงพลังเหล่านี้ได้รับข้อมูลที่เพียงพอเสมอ สำหรับเกมเมอร์และการสร้างโมเดล มิติ GPU ยังเร็วขึ้นอีก 20% สำหรับการออกแบบ มิติที่ราบรื่นเพื่อการเรียน และ FPS ที่มากขึ้นเพื่อการเล่นเกม

Kompanio 528 มีเพิ่มอีก 200MHz ให้โปรเซสเซอร์ Cortex-A76 ‘Big Core’ คู่เมื่อเทียบกับ Kompanio 520

การยกระดับประสิทธิภาพการบันทึกข้อมูลลงคอมพิวเตอร์ทำให้กิจวัตรประจำวัน เช่น การท่องเว็บ การดูวิดีโอสตรีมมิ่ง การเล่นเกมทั่วไป การใช้งานเพื่อการเรียนและแอป Google Play ต่างๆ มากมายทำงานได้ราบรื่นกว่าที่เคย ยกระดับประสบการณ์การใช้ Chromebook ให้ดีขึ้นไปอีกขั้น

2. ล้ำหน้ากว่าเว็บแคมปกติทั่วไป

ในยุคที่การสื่อสารผ่านวิดีโอคอลเป็นส่วนหนึ่งในการทำงาน การเรียน และการติดต่อกับเพื่อนและครอบครัว และในยุคที่ผู้ใช้สมาร์ทโฟนมีความคาดหวังสูงขึ้นในตัวสินค้า การมีเว็บแคมคุณภาพสูงเป็นสิ่งจำเป็นที่แล็ปท็อปต้องมี Kompanio 520 และ Kompanio 528 สามารถรองรับกล้องที่ใหญ่ขึ้นและสว่างขึ้น และสามารถเข้ารหัสสตรีมการถ่ายวิดีโอแบบ Full HD ได้ที่ 60fps ซึ่งได้ภาพที่เรียบเนียนกว่ารุ่นก่อนหน้านี้ถึง 2 เท่า ทำให้ผู้ใช้หลงรักประสบการณ์การใช้กล้องประหนึ่งใช้สมาร์ทโฟน

3. กล้องหลายตัวมอบประสบการณ์ใหม่ๆ

ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถดีไซน์ให้รองรับกล้องหลายตัวที่มีเซ็นเซอร์ต่างกันได้ ตัวอย่างเช่น กล้องตัวที่ 2 และ CPU อันทรงพลังสามารถตรวจจับความลึกสำหรับการถ่ายรูปโบเก้พอร์เทรต หรือให้ตัวเลือกเลนส์มุมกว้างเพิ่มจากกล้องมาตรฐาน เพื่อให้ทั้งทีมหรือทั้งชั้นเรียนสามารถโต้ตอบร่วมกันได้จาก Chromebook เครื่องเดียว

4. ภาพชัดและละเอียดมากขึ้น

Kompanio 520 และ Kompanio 528 รุ่นนี้สามารถรองรับการแสดงผลภายนอกได้สูงสุดที่ความละเอียด Full HD ซึ่งช่วยเพิ่มความโดดเด่นในด้านคุณภาพของภาพเพื่อการสร้างผลงานที่ดีขึ้น และเหมาะมากขึ้นสำหรับการจับคู่ความละเอียดกับโปรเจเตอร์รุ่นใหม่และสมาร์ททีวีเวลานำเสนองานในที่ทำงานและในห้องเรียน เมื่อใช้งานที่บ้าน การเชื่อมต่อกับสมาร์ททีวีเพื่อชมภาพยนตร์ รายการทีวี และสตรีมออนไลน์ก็ได้คุณภาพที่ดีไม่แพ้กัน

5. สตรีมวิดีโอสุดปัง

เอนจินมัลติมีเดียที่อัปเกรดใหม่ล่าสุดมีการถอดรหัส VP9 บนฮาร์ดแวร์ที่เหมาะมากสำหรับการดู YouTube และวิดีโอออนไลน์

6. แพลตฟอร์มพร้อมผู้ช่วยเสมือน

ระบบประมวลผลเสียงไมโครโฟนใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถกำหนดค่าให้ฟังคีย์เวิร์ดเพื่อเปิดใช้งานผู้ช่วยเสมือน หรือใช้ในซอฟต์แวร์การโทรด้วยเสียงและวิดีโอคอลเพื่อคุณภาพการโทรที่ดีขึ้น และประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานที่มากกว่า ทำให้ยืดอายุแบตเตอรี่ให้ยาวนาน

7. Wi-Fi 6 ที่รวดเร็ว ปลอดภัย และเสถียร

อุปรณ์พกพาจะไร้ประโยชน์หากไม่มีอินเทอร์เน็ตไร้สายที่เสถียรและรวดเร็ว เราจึงอัปเกรดประสบการณ์ Chromebook รุ่นเริ่มต้นอีกครั้งโดยเพิ่มตัวเลือก MediaTek Filogic Wi-Fi 6 ซึ่งช่วยให้ผู้ผลิตอุปกรณ์สามารถยกระดับประสบการณ์การเชื่อมต่อด้วยประสิทธิภาพเครือข่ายไร้สายหลายกิกะบิต บวกกับเสถียรภาพที่ทันสมัย และลักษณะเด่นด้านความปลอดภัย

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/7-best-features-of-mediatek-kompanio-520-and-kompanio-528/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=7-best-features-of-mediatek-kompanio-520-and-kompanio-528