คลังเก็บป้ายกำกับ: SHIFT

Apple ถูกกล่าวหาว่าโลโก้ของ Siri Shortcuts ลอกเลียนแบบโลโก้ของบริษัท Shift

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา Apple ได้เปิดตัวระบบปฏิบัติการ iOS 12 พร้อมแนะนำฟีเจอร์ใหม่ๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ แอพพลิเคชั่น Siri Shortcuts ซึ่งตอนนี้กำลังถูกฟ้องร้องโดยบริษัทสตาร์ทอัพที่มีชื่อว่า Shift (บริษัทขนาดเล็กที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain ในการสร้างเว็บไซต์)

Shift อ้างว่าโลโก้ของแอพพลิเคชั่น Siri Shortcuts ลอกเลียนแบบมาจากโลโก้ของตนเอง ตัวแทนของบริษัท Shift กล่าวว่า “มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อ ที่แอปเปิลบริษัทขนาดใหญ่ ร่ำรวยมหาศาล บริษัทที่มุ่งเน้นการออกแบบ จะคัดลอกโลโก้ของเรา” Shift ยังขอให้ Apple หยุดการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และเรียกร้องให้จ่ายเงินค่าละเมืดลิขสิทธิ์โลโก้ เป็นจำนวน 200,000 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 6.38 ล้านบาท

ที่มา – 9to5mac

from:http://www.flashfly.net/wp/220510

ทำไม Zanroo สตาร์ทอัพไทย ถึงสามารถให้บริการ Social Marketing ได้ใน 15 ประเทศ

Zanroo หรือ แสนรู้ เป็นสตาร์ทอัพไทยสาย MarTech หรือ Marketing Technology ให้บริการ Social Marketing เช่นการทำ Social Monitoring และ Social Engagement พูดให้เข้าใจง่ายคือ ดูแลบริหารจัดการข้อมูล Big Data ที่เกี่ยวกับโซเชียลให้แบรนด์และองค์กรต่างๆ

Zanroo เริ่มต้นมาประมาณ 4 ปี มีสำนักงานสาขาใน 5 ประเทศ และให้บริการใน 15 ประเทศ โดยเฉพาะในไทยที่ ธนาคารใหญ่, ค้าปลีกรายใหญ่, บริษัทขนาดใหญ่ต่างเป็นลูกค้าของ Zanroo แต่ชื่อ Zanroo กลับไม่เป็นที่รู้จักมาก หลายคนอาจเคยได้ยินเป็นครั้งแรก อะไรทำให้ได้รับความสนใจ และสามารถระดมทุนครั้งแรก 7.4 ล้านดอลลาร์ ผ่าน Shift Ventures

แตกต่างด้วยประสิทธิภาพของระบบ AI

ชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Zanroo บอกว่า การทำงานของ Zanroo คือ การเป็นผู้รู้เรื่องราวที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ หรือ WHO KNOW EVERYTHING THAT’S HAPPENING ONLINE เพื่อให้สามารถบอกแบรนด์หรือองค์กรต่างๆ ได้ว่า อะไรกำลังเกิดขึ้น มีการวัดผลที่มีประสิทธิภาพ จะสามารถจัดการอย่างไร และหากมีปัญหาเกิดขึ้น จะแก้ไขอย่างไร

จุดเด่นที่ทำให้ Zanroo แตกต่างจาก Social Marketing รายอื่นๆ ไม่ใช่แค่ในไทย แต่แตกต่างจากผู้ให้บริการอื่นๆ ทั่วโลก ทำให้มีลูกค้าใช้บริการอยู่มากกว่า 300 องค์กรใน 15 ประเทศ ประกอบด้วย 6 จุดแข็ง คือ

  1. Targeted Social Listening มีการเก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด และทำการกลั่นกรองเพื่อให้ได้ข้อมูลที่พร้อมใช้งานทันที
  2. Multi-Language Capabilities รองรับภาษาที่หลากหลาย ไทย, มาเลเซีย, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, จีน สามารถรองรับได้ ลงลึกถึงความแตกต่างของภาษาท้องถิ่นในประเทศด้วย
  3. Real-Time Insights หากมีเรื่องราวใดเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ Zanroo แสดงผลได้ในทันที เพื่อป้องกันหรือแก้ไขสิ่งที่ไม่คาดคิดได้อย่างทันท่วงที
  4. Intuitive Control การใช้งานที่ง่ายต่อการควบคุมจัดการแสดงผลผ่าน dashboard
  5. Data Security 100% รับรองความปลอดภัยของข้อมูลทั้งหมด
  6. All-in-One Product เป็นบริการที่ครบวงจร ทั้ง Monitor, Engagement และ Research
ชิตพล มั่งพร้อม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง Zanroo

Shift ช่วยระดมทุน 7.4 ล้านดอลลาร์ บุก 40 ประเทศ

Zanroo เป็นสตาร์ทอัพไทยไม่กี่ราย ที่มีรายได้ทันทีในเดือนแรกถึงปีที่ผ่านมา มีรายได้กว่า 100 ล้านบาท และตั้งเป้าในปีนี้ 260 ล้านบาทจากการให้บริการในหลายประเทศ ทางผู้ร่วมก่อตั้งระบุว่าก่อนหน้านี้มี บริษัทขนาดใหญ่ในไทยและต่างประเทศต้องการซื้อ หรือถือหุ้น แต่ Zanroo ปฏิเสธเพราะไม่ต้องการจำกัดการให้บริการ และไม่มีความจำเป็นต้องเร่งระดมทุน

แต่เมื่อปลายปีที่ผ่านมา Zanroo ต้องการขยายตลาดอย่างรวดเร็ว ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินทุน ดังนั้นจึงจับมือกับ Shift Ventures เพื่อระดมทุนเป็นครั้งแรกมูลค่า 7.4 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 260 ล้านบาท) โดยมีผู้ร่วมลงทุน เช่น Asia Plus และนักลงทุนอิสระอีกจำนวนหนึ่ง โดยจะใช้เงินเพื่อวิจัยและพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้น, เตรียมหาทีมงานในต่างประเทศเพิ่ม และมุ่งทำตลาด

ภายในปี 2562 จะขยายตลาดให้ได้ 40 ประเทศทั่วโลก มียอดรายได้แตะที่ 30 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 1,000 ล้านบาท ตั้งเป้าเป็นแบรนด์ไทยแบรนด์แรก เป็น Unicorn Startup ติดอันดับ 1  ใน 10บริษัท MarTech ระดับโลก

ชิตพล บอกว่า การลุยตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย ที่ผ่านมา Zanroo เข้าทำตลาดในมาเลเซีย และขึ้นเป็นผู้ให้บริการอันดับ 1 และขยายไปประเทศรอบๆ รวมถึงสิงคโปร์ทำให้ได้เจอกับบริษัทข้ามชาติมากขึ้น ได้เริ่มเข้าทำตลาดในญี่ปุ่น และมีแผนปลายปีที่จะเริ่มทำตลาดอย่างจริงจังใน อเมริกาและจีน ซึ่งถือเป็นตลาดขนาดใหญ่

ความแตกต่างที่ Zanroo ทำได้

ARUN บริการเวอร์ชั่นใหม่ ความพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น

อุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง Zanroo บอกว่า ที่ผ่านมา Zanroo เน้นให้บริการภาษาท้องถิ่น แก้ปัญหาเรื่อง Data แต่เวลานี้อยู่ระหว่างการพัฒนาบริการใหม่ภายใต้ชื่อ ARUN (อรุณ) ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในช่วงปลายปีนี้ โดยจะเป็นระบบโซลูชั่นเดียวในโลกที่สามารถบริหารจัดการสื่อ 3 ส่วนคือ Paid, Owned และ Earned ได้แบบครบวงจร

“การไปทดลองทำตลาดที่อเมริกา ซึ่งเรื่องของ MarTech และ AdTech ที่นั่นล้ำหน้ากว่าไทยประมาณ 7 ปี แต่ผลที่ได้รับคือ Zanroo เป็นผู้ให้บริการเดียวที่สามารถรวม 3 ส่วนในโซลูชั่นเดียว และแสดงผลได้อย่างถูกต้องแม่นยำรวดเร็วที่สุด ทำให้ได้รับความสนใจจากบริษัทกว่า 20 แห่ง ปลายปีนี้ถ้า ARUN พัฒนาสมบูรณ์ นั่นคือเวลาของการปิดการขาย”

แต่ก่อนจะขยายไปอเมริกาและยุโรป Zanroo จะเน้นตลาดในเอเชียให้เรียบร้อยก่อน โดยที่ ไทยและมาเลเซีย เป็นอันดับ 1 อยู่แล้ว แต่ในอนาคต อินโดนีเซีย และ ญี่ปุ่น จะเป็นตลาดที่ใหญ่กว่า รวมถึงจีน ที่ใช้เวลาศึกษามากว่า 2 ปีแล้ว

อุดมศักดิ์ ดอนขำไพร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและผู้ก่อตั้ง Zanroo

สรุป

สิ่งที่ทำให้ Zanroo แตกต่าง คือการบริหาร Big Data ด้วย 3 สิ่ง คือ Velocity คือ รวดเร็วที่สุด, Volume คือ มีปริมาณขนาดใหญ่ และ Variety คือ หลากหลายภาษาและแหล่งที่มาของข้อมูล และทำได้ดีกว่าผู้ให้บริการรายอื่น จึงไม่น่าแปลกใจถ้า Zanroo จะสามารถให้บริการได้ใน 15 ประเทศ และระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจไป 40 ประเทศ ซึ่งทาง ผู้ร่วมก่อตั้งบอกว่า อาจไม่จำเป็นต้องระดมทุนรอบต่อไปแล้ว เพราะ Zanroo สามารถเข้าตลาดหุ้นได้แล้ว แต่อยู่ที่ว่าจำเป็นหรือไม่

สิ่งที่ทำให้ Zanroo โดดเด่นอีกประการ ไม่ใช่แค่การให้บริการด้วย AI ที่มีประสิทธิภาพเท่านั้น แต่เป็นการพัฒนาบริการไปสู่ระดับ ASP หรือ Application Service Provider คือเป็นบริการที่ทุกคน ทุกองค์กรทั่วโลกสามารถเข้าใช้งานได้ทันที เท่ากับสามารถจับตลาดลูกค้าได้ทั่วโลก และทำให้ Zanroo อาจเป็น Unicorn Startup ตัวแรกของไทย

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/zanroo-startup-social-marketing/

Freedom Wars!! จ่อวางจำหน่ายฝั่งเอเชียปลายเดือนมิถุนายนนี้

ในวันนี้ทาง Sony Computer Entertainment Hong Kong Limited (SCEH) ได้ประกาศวันวางจำหน่ายเกม Freedom Wars (เวอร์ชั่นภาษาญี่ปุ่น) สุดยอดเกมฟอร์มยักษ์แนว Multiplayer Action บนเครื่อง PS Vita ที่ชาววีต้าหลายๆคนเฝ้ารอคอยออกมาแล้ว โดยมีกำหนดวางจำหน่ายในวันที่ 26 มิถุนายนนี้ สนนราคาค่าตัวแบบแผ่นอยู่ที่ 2,290 บาท ส่วนแบบดาวน์โหลดสนนราคาอยู่ที่ 2,061 บาท และจะมีเวอร์ชั่นภาษาจีนตามออกมาในเดือนสิงหาคม ส่วนเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลแต่อย่างใด

สำหรับเกม Freedom Wars นั้นทาง Sony Japan ได้จับมือกับบริษัทผู้สร้างเกมชั้นนำอย่าง Shift และ Dimps ร่วมมือกันพัฒนาเกมนี้ขึ้นมา นอกจากนั้นทางค่าย Sony ยังได้เตรียมปล่อยตัวเดโมมาให้ผู้เล่นได้ทดลองเล่นกันในวันที่ 12 มิถุนายนนี้บน PS Store อีกด้วย

Freedom_wars_2

Freedom_wars_3

Freedom_wars

 

Source: SCEH
http://www.flashfly.net/wp/?p=91742

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=91742

11 นาที Freedom Wars กับคลิปวีดีโอสอนการเล่นภายในเกม

Sony Computer Entertainment Japan ได้ปล่อยคลิปวีดีโอสอนการเล่นต่างๆภายในเกม Freedom Wars ออกมาให้เหล่าแฟนๆได้รับชมกันเป็นครั้งแรก กับคลิปที่ชื่อว่า “Volunteer Tutorial Video” ซึ่งมีความยาวประมาณ 11 นาทีด้วยกัน โดยได้มาสคอตตัวใหม่ของทางค่ายผู้พัฒนาเกม Shift และ Dimps อย่าง Propakun มารับหน้าที่สอนวีธีการเล่นในครั้งนี้ให้

แต่ถ้าหากใครอยากลองเล่นเกมนี้ก่อนใครแล้วล่ะก็ ในงาน Jump Festa ช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะมีตัวเกมไปจัดแสดงให้ทดลองเล่นกันในงานด้วยนะ (ใครอยู่ที่ญี่ปุ่นลองแวะไปดูกันได้) งาน Jump Festa จะจัดขึ้นในวันที่ 21-22 ธันวาคมที่ Makuhari Messe เมือง Chiba ประเทศญี่ปุ่น

Freedom Wars มีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่อง PS Vita ที่ญี่ปุ่นในปี 2014

 

Source: gematsu
http://www.flashfly.net/wp/?p=82354

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=82354

Sony!! เปิดตัวเกมเพลย์แรก Freedom Wars บนเครื่อง PS Vita

ทาง Sony Japan ได้ปล่อยเกมเพลย์แรกของ Freedom Wars สุดยอดเกมฟอร์มยักษ์แนว Multiplayer Action RPG บนเครื่อง PS Vita ออกมาให้แฟนๆได้รับชมกันแล้วในวันนี้

ตัวเกมมีกำหนดวางจำหน่ายในปีหน้าที่ญี่ปุ่น โดยได้สตูดิโอผู้อยู่เบื้องหลังเกม God Eater อย่าง Shift และ Dimps สตูดิโอผู้อยู่เบื้องเกม Street Fighter IV มาจับมือร่วมกันพัฒนาเกมนี้กับทาง SCE Japan ส่วนจะน่าสนใจแค่ไหนนั้นรับชมกันได้ทางด้านล่าง

 

Source: gematsu
http://www.flashfly.net/wp/?p=79258

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=79258

Sony Japan, Shift และ Dimps จับมือกันพัฒนาเกม Freedom Wars

สำหรับ Freedom Wars เกมฟอร์มยักษ์แนว Multiplayer Action ของทาง SCE Japan Studio บนเครื่อง PS Vita นั้น ได้สามบริษัทชื่อดังมาร่วมมือกันพัฒนาเกมนี้กันเลยทีเดียวทั้ง Sony Japan, Shift และ Dimps จากการเปิดเผยข้อมูลล่าสุดของนิตยสาร Famitsu

Shift เป็นที่รู้จักกันดีอยู่แล้วผู้อยู่เบื้องหลังเกม God Eater ส่วนทางด้าน Dimps ที่เห็นผลงานเด่นๆเลยก็จะเป็นเกม Street Fighter IV ที่เคยฝากฝีไม้ลายมือเอาไว้ ทั้งสองบริษัทนี้จะเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาเกม Freedom Wars กับทาง SCE Japan Studio ด้วย

นอกจากนั้นทาง Famitsu ยังได้เปิดเผยตัวละครใหม่อีก 2 ตัวด้วยกันได้แก่ Uwe Cabrera นักรบที่มีประสบการณ์โชกโชน (ให้เสียงพากย์โดย Jouji Nakata) และ Aries M หญิงสาวลึกลับที่จะมาคอยให้คำแนะนำกับตัวเอก (ให้เสียงพากย์โดย Yumi Har)

Uwe Cabrera

Freedom-Wars-Chara_11-19_001

 

Aries M

Freedom-Wars-Chara_11-19_002

Freedom Wars มีกำหนดวางจำหน่ายบนเครื่อง PS Vita ที่ญี่ปุ่นในปี 2014

 

Source: gematsu
http://www.flashfly.net/wp/?p=79090

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=79090

นักการตลาดเกือบครึ่งเปลี่ยนใจ เลือก“วิดีโอออนไลน์”แทนโฆษณาทางทีวี (Infographic)

cats
เรารู้กันดีว่าในแวดวงการตลาดมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะรูปแบบของสื่อที่ใช้ในการนำเสนอ ซึ่งในปัจจุบัน นักการตลาดจำนวนมากหันไปให้ความสนใจกับ “วิดีโอออนไลน์” (Video Online) แทนการโฆษณาผ่านสื่อแบบดั้งเดิมอย่าง “โทรทัศน์” เพิ่มขึ้น โดยเว็บไซต์ Business.com ระบุว่า เวลานี้มีนักการตลาดจำนวนเกือบครึ่ง (48%) ที่เริ่มเปลี่ยนใจหันมาใช้วิดีโอออนไลน์แทนการทำโฆษณาผ่านทางโทรทัศน์ รวมไปถึงอีกกว่า 64% ของนักการตลาดยังวางแผนเพื่อเพิ่มเงินลงทุนในการทำโฆษณาผ่านทางวิดีโอด้วยเช่นกัน

นอกจากนี้ยังพบว่า 100 แบรนด์ดังระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Nike, Apple, GM, GE, Toyota และ McDonald’s ยังมีการลงทุนเพื่อทำวิดีโอออนไลน์คิดเป็นมูลค่ามากกว่ารวมกันมากกว่า 4,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

สาเหตุสำตัญที่ทำให้นักการตลาดเทความสนใจไปที่วิดีโอออนไลน์มากขึ้นเนื่องจาก ความเชื่อมั่นถึงประสิทธิภาพของการใช้งานของวิดีโอออนไลน์ โดยนักการตลาดกว่า 39% เห็นว่าวิดีโอเป็นสื่อในการนำเสนอข้อมูลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึง 75% ของบริษัทตัวแทนโฆษณายังเชื่อว่า วิดีโอออนไลน์เป็นสื่อที่มีประสิทธิภาพเหนือกว่าช่องทางอื่นๆอย่างเช่น โทรทัศน์ อีกด้วย

รูปแบบพฤติกรรมการบริโภคสื่อของผู้บริโภคก็อีกส่วนสำคัญที่ทำให้วิดีโอออนไลน์ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น โดยผลการสำรวจพบว่า 25% ของชาวอเมริกันรับชมวิดีโอออนไลน์ผ่านทางอุปกรณ์ต่างๆ คิดเป็นจำนวนมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน ส่งผลทำให้ปัจจุบันแวดวงวิดีโอออนไลน์ในสหรัฐฯกลายเป็นตลาดขนาดใหญ่ที่ดึงดูดผู้ชมรวมกันกว่า 75 ล้านคนต่อวันและมีการรับชมคลิปต่อเดือนมากถึง 40,000 ล้านคลิป

ส่วนเป้าหมายสำคัญในการรับชมวิดีโอออนไลน์ของผู้บริโภคส่วนใหญ่ คือ การหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและการบริการ รวมถึงหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ โดย “โทรศัพท์มือถือ” กลายเป็นอุปกรณ์สำคัญที่กำลังได้รับความนิยมและถูกใช้เป็นช่องทางเพื่อเข้าถึงวิดีโอออนไลน์ ล่าสุดพบว่ามีการรับชมวิดีโอออนไลน์จากผู้ชมทั่วโลกผ่านมือถือเฉลี่ยอย่างต่ำหนึ่งครั้งต่อเดือนที่ 56% และอย่างต่ำหนึ่งครั้งต่อวันที่ 28%

2013-Online-Video-Infographic

ที่มา: business.com

from:http://thumbsup.in.th/2013/10/video-advertising-shift-online-channels/