คลังเก็บป้ายกำกับ: REDMI_9C

แนะนำมือถือราคาประหยัด งบไม่เกิน 4,000 บาท เน้นใช้แอป เป๋าตังค์, Facebook, LINE และ YouTube ประจำต้นปี 2021

เปิดปีใหม่ 2021 มาอยากจะซื้อมือถือใหม่ราคาประหยัดถูก ๆ คุ้ม ๆ งบแบบไม่เกิน 3,000, 3,500 และ 4,000 บาทจะได้รุ่นไหนบ้าง เอามาโทรเข้า-ออก ใช้แอป เป๋าตังค์, Facebook, LINE,  ดู YouTube และแอปธนาคารต่าง ๆ ได้ เหมาะกับเอามาใช้งานเป็นเครื่องสำรอง หรือให้ญาติผู้ใหญ่ใช้ก็ได้เหมือนกัน โดยตอนนี้จะมีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างมาดูกันครับ

สเปคมือถือขั้นต่ำปี 2021

ส่วนตัวแนะนำจากประสบการณ์ที่เคยใช้งานมา ถ้าจะซื้อมือถือเครื่องใหม่สักเครื่องแบบที่ใช้งานได้จริง ไม่หงุดหงิดแบบมีอาการค้าง ๆ เอ๋อ ๆ ลงแอปได้บ้างไม่บ้าง ควรตั้งงบขั้นต่ำไว้ที่ราว 2,500 บาทขึ้นไป สเปคถึงจะโอเคหน่อย ถ้าต่ำกว่านั้นเป็นพวกมือถือ Ram 1GB ความจุเครื่อง 8GB หรือเป็น Android เวอร์ชันเก่า ๆ ซึ่งไม่อยากจะแนะนำเท่าไร เบื้องต้นสเปคมือถือขั้นต่ำประจำปี 2021 ที่อยากจะแนะนำ คือ

  • เป็นมือถือที่มี Ram ไม่น้อยกว่า 2GB
  • มีความจุตัวเครื่องไม่น้อยกว่า 16GB
  • ใช้ Android เวอร์ชัน 10
  • ความละเอียดจอ HD ขึ้นไป
  • เป็นยี่ห้อที่คุ้นหน้าคุ้นตา มีประกันศูนย์ไทย

สำหรับมือถือราคาประหยัดที่ทีมงานแนะนำจะแบ่งออกเป็นช่วงราคา 3 แบบ คือ ไม่เกิน (1) 3,000 บาท, (2) 3,500 บาท และ (3) 4,000 บาท โดยราคาล่าสุดในตารางจะเป็นราคาที่ทีมงานเช็คมาจากพวกร้านค้าออนไลน์นะครับ

(1) เทียบสเปคมือถืองบไม่เกิน 3,000 บาท

ชื่อรุ่น Samsung Galaxy A01 Nokia C3 2020 Xiaomi Redmi 9C
CPU Snapdragon 439 UNISOC SC9863A MediaTek Helio G35
RAM 2GB 2GB / 3GB
Storage 16GB (ใส่เมมได้ 512GB) 16GB (ใส่เมมได้ 128GB) 32GB / 64GB

(ใส่เมมได้ 512GB)

หน้าจอ 5.7 นิ้ว HD+ 5.99 นิ้ว HD+ 6.53 นิ้ว HD+
กล้องหลัง
  • หลัก 13MP f/2.2
  • Depth 2MP f/2.4
8MP f/2.0
  • หลัก 13MP f/2.2
  • Macro 2MP f/2.4
  • Depth 2MP f/2.4
กล้องหน้า 5MP f/2.2 5MP f/2.4 5MP f/2.2
ถ่ายวิดีโอ สูงสุด Full HD 30FPS
แบตเตอรี่ 3000 mAh 3040 mAh 5000 mAh
ชาร์จไว
สแกนนิ้วมือ มีด้านหลัง
รูหูฟัง 3.5 mm มี
Wi-Fi  WiFi 802.11 b/g/n 2.4 GHz
Bluetooth Bluetooth 4.2 Bluetooth 5.0
พอร์ตชาร์จ Micro USB
SIM Triple Slot
OS Android 10
ราคาเปิดตัว 3,290 บ. 2,990 บ.
  • 2/32GB : 3,099 บ.
  •  3/64GB : 3,399 บ.
ราคาล่าสุด
2,360-2,899 บ. 2,495-2,650 บ.
  • 2/32GB : 2,999 บ.
  •  3/64GB : 3,099 บ.

Samsung Galaxy A01

เริ่มต้นกันด้วย Samsung Galaxy A01 ที่เป็นน้องเล็กสุดของซีรีส์ Galaxy ที่มีขายในปัจจุบัน ซึ่งราคาลดลงมาจากราคาเปิดตัวเยอะอยู่เหมือนกัน จากที่ทีมงานลองเสิร์ชดูตามร้านค้าออนไลน์ จะเหลืออยู่ที่ราว 2,500 บาทเท่านั้น ถือว่าเป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟนที่คุ้มค่าราคาประหยัดรุ่นหนึ่งนะเวลานี้เลย แต่รุ่นนี้มีข้อสังเกตนิดหนึ่งจะไม่มี Magnetometer ทำให้เวลาใช้ Google Map นำทางอาจจะทิศทางรถอาจจะไม่เป๊ะนั่นเอง

  • เหมาะกับคนที่ต้องมือถือซัมซุงหาซื้อง่าย สเปคเริ่มต้นโอเค มีกล้อง 2 ตัวใช้งานทั่วไปพอได้

Nokia C3 2020

ถัดมาดูทางฝั่ง Nokia C3 ประจำปี 2020 กันบ้าง ซึ่งเป็นอีกรุ่นน่าสนใจทีเดียว จุดเด่นรุ่นนี้เลยคือลำโพงเสียงดัง โทรเข้าออกเสียงดังฟังชัด มีสแกนลายนิ้วมือ และสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ ปัจจุบันราคาตามร้านออนไลน์ในเน็ตเหลือราว 2,500 บาทเช่นกัน

  • เหมาะกับที่ชอบความเป็นโนเกีย อยากได้มือถือใช้งานพื้นฐานทั่วไป เสียงสนทนาเข้าออกดังฟังชัด และมีสแกนลายนิ้วมือปลดล็อดเครื่องได้

Xiaomi Redmi 9C

คราวนี้มาดูทางด้านแบรนด์ Xiaomi ที่เป็นขวัญใจมือถือสายคุ้มกันบ้างกับซีรีส์ Redmi 9 ซึ่งซอยรุ่นมาเยอะมาก โดยรุ่นที่ทีมงานแนะนำจะเป็นตัว Redmi 9C ที่เป็นรุ่นอัปเกรดจาก Redmi 9A ทั้งในเรื่องของชิปเซ็ตและกล้อง มีสแกนลายนิ้วมือ โดยจุดเด่นของรุ่นนี้เลยจะมีความจุเริ่มต้นที่ 32GB กล้องหลัง 3 ตัว จอใหญ่ 6.53″ และแบต 5,000 mAh มากกว่าใคร ปัจจุบันตามร้านค้าออนไลน์จะขายกันราว 3,000 บาทครับผม

  • เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือที่มีความจุภายในเครื่องเยอะ ลงได้หลาย ๆ แอป แบตอึด จอใหญ่ตัวอักษรชัดเจนครับ

(2) เทียบสเปคมือถืองบไม่เกิน 3,500 บาท

ชื่อรุ่น Xiaomi Redmi 9 Samsung Galaxy A11 Infinix Hot 10
CPU Mediatek Helio G80 Snapdragon 450 Mediatek Helio G70
RAM 3GB / 4GB 3GB 4GB / 6GB
Storage 32GB / 64GB

(ใส่เมมได้ 512GB)

32GB (ใส่เมมได้ 512GB) 64GB / 128GB

(ใส่เมมได้ 512GB)

หน้าจอ 6.53 นิ้ว Full HD+ 6.4 นิ้ว HD+ 6.78 นิ้ว HD+
กล้องหลัง
  • หลัก 13MP f/2.2
  • Ultrawide 8MP f/2.2
  • Macr0 5MP f/2.4
  • Depth 2MP f/2.4
  • หลัก 13MP f/1.8
  • Ultrawide 5MP f/2.2
  • Depth 2MP f/2.4
  • หลัก 16MP
  • Macr0 2MP
  • Depth 2MP
  • AI Lens
กล้องหน้า 8MP f/2.0 8MP
ถ่ายวิดีโอ สูงสุด Full HD 30FPS สูงสุด 2K / Full HD 30FPS
แบตเตอรี่ 5020 mAh 4000 mAh 5200 mAh
ชาร์จไว 18W 15W
สแกนนิ้วมือ ด้านหลังเครื่อง
รูหูฟัง 3.5 mm มี
Wi-Fi  WiFi 802.11 b/g/n 2.4 GHz WiFi 802.11ac 2.4/5.0 GHz
Bluetooth Bluetooth 5.0 Bluetooth 4.2 Bluetooth 5.0
พอร์ตชาร์จ USB Type-C Micro USB
SIM Triple Slot
OS Android 10
ราคาเปิดตัว
  • 3/32GB : 3,899 บ.
  •  4/64GB : 4,599 บ.
5,199 บ.
  • 4/64GB : 3,590 บ.
  •  6/128GB : 3,990 บ.
ราคาล่าสุด
  • 3/32GB : 3,299-3,550 บ.
  •  4/64GB : 3,680-3,850 บ.
3,470-3,999 บ.
  • 4/64GB : 3,479-3,690 บ.
  •  6/128GB : 3,990 บ.

Xiaomi Redmi 9

ขยับขึ้นมาอีกรุ่นดูตัว Redmi 9 กันบ้างซึ่งสเปคต่าง ๆ ถือว่าขยับขึ้นมาเยอะกว่าตัว Redmi 9C พอสมควรโดยเฉพาะตัวความละเอียดหน้าจอที่ได้มาเป็นแบบ Full HD แล้ว RAM จะขยับขึ้นมาเป็น 3GB ชิปเช็ต MediaTek G80 ความแรงถือว่าเอามาเล่นเกมกราฟิกสูง ๆ พอได้ รวมถึงกล้องก็ใส่มาเต็มถึง 4 ตัวเลยทีเดียว แถมพอร์ตชาร์จก็เป็น Type C แล้วนะ รองรับชาร์จไว 18W (ในกล่องแถม 10W)

  • เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือจอความละเอียด Full HD ซีพียูแรงที่พอเล่นเกมกราฟิกสูงได้ ในราคาประหยัด

Samsung Galaxy A11

เป็นอีกรุ่นที่ราคาลงมาค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวสำหรับ Samsung Galaxy A11 ที่ช่วงเปิดตัวมาห้าพันนิด ๆ ปัจจุบันตามร้านค้าออนไลน์ขายกันราว 3,500 บาทเท่านั้น จุดเด่นของรุ่นนี้หลัก ๆ คือหน้าจอที่กล้องหน้าใช้เป็นแบบ Infinity-O Display ทำให้สามารถใช้งานดูหนังวิดีโอได้เต็มตา ซีพียูก็ขยับขึ้นมาเป็น Snapdragon 450 ใช้เล่นเกมพอได้ รวมถึงรองรับชาร์จไฟ 15W อีกด้วย ซึ่งอะแดปเตอร์แถมมาให้ในกล่องเลย

  •  เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือสเปคโดยรวมกลาง ๆ หาซื้อง่าย ราคาร่วงมาค่อนข้างเยอะ และรองรับชาร์จไวที่แถมหัวชาร์จมาให้ในกล่องเลย

Infinix Hot 10

ใครที่กำลังมองหามือถือจอใหญ่ ๆ เบิ้ม ๆ แนะนำเจ้าตัวนี้เลยกับ Infinix Hot 10 ที่ให้ขนาดหน้าจอมาใหญ่ 6.78″ สเปคอะไรต่าง ๆ ก็ถือว่าให้มาโอเคเลยไม่ว่าจะเป็น Mediatek G70 ประสิทธิภาพเล่นเกมหนัก ๆ พอได้  รวมถึง RAM มาถึงเริ่มต้น 4GB ความจุ 64GB แบต 5200 mAh ถือว่าเยอะมากกับมือถือช่วงราคานี้ แถมรองรับ Wi-Fi 5 GHz ด้วยนะ ส่วนข้อสังเกตรุ่นนี้คือมีแอปพรีโหลดเยอะไปนิดกับหัวชาร์จยังเป็น Micro USB แบบเก่าอยู่

  •  เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือจอใหญ่ มี RAM กับความจุเยอะๆ แบตอึด และรองรับ Wi-Fi 5 GHz

(3) เทียบสเปคมือถืองบไม่เกิน 4,000 บาท

ชื่อรุ่น Samsung A02s realme C17 POCO M3
CPU Snapdragon 450 Snapdragon 460 Snapdragon 662
RAM 4GB
Storage 64GB (ใส่เมมได้ 1TB) 64GB (ใส่เมมได้ 256 GB) 64GB / 128GB (ใส่เมมได้ 512GB)
หน้าจอ 6.52 นิ้ว HD+ 6.5 นิ้ว HD+ (90 Hz) 6.53 นิ้ว FHD+
กล้องหลัง
  • หลัก 13MP f/2.2
  • Depth 2MP f/2.4
  • Macro 2MP f/2.4
  • หลัก 13MP f/2.2
  • Ultrawide 8 MP f/2.2
  • Depth 2MP f/2.4
  • Macro 2MP f/2.4
  • หลัก 48MP f/2.2
  • Depth 2MP
  • Macro 2MP
กล้องหน้า 5 MP f/2.0 8 MP f/2.0 8 MP f/2.1
ถ่ายวิดีโอ Full HD 30FPS
แบตเตอรี่ 5,000 mAh 6,000 mAh
ชาร์จไว 15W 18W
สแกนนิ้วมือ ด้านหลัง ด้านข้าง
รูหูฟัง 3.5 mm มี
Wi-Fi  WiFi 802.11 b/g/n 2.4 GHz WiFi 802.11 ac 2.4/5.0 GHz
Bluetooth Bluetooth 4.2 Bluetooth 5.0
พอร์ตชาร์จ USB Type-C
SIM Triple Slot
OS Android 10
ราคาเปิดตัว 3,999 บ. 4,999 บ.
  • 4/64GB : 4,499 บ.
  • 4/128GB : 4,999 บ.
ราคาล่าสุด
3,799-3,899 บ. 3,990-4,299 บ.
  • 4/64GB : 3,999 บ.
  • 4/128GB : 4,499 บ.

Samsung Galaxy A02S

เพิ่งจะเปิดตัวกันไปสด ๆ ร้อน ๆ กับ Galaxy A02s ที่มาคราวนี้สเปคและราคาน่าคบหน้าไม่ใช่น้อย และอาจจะเป็นเหตุผลทำให้เจ้า Galaxy A11 ราคาร่วงลงมา เพราะสเปคค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก สิ่งหลัก ๆ ที่เพิ่มเข้ามาคือได้ Ram กับความจุเพิ่มขึ้น จอใหญ่ขึ้น และแบตที่เพิ่มขึ้นด้วย

  • เหมาะกับคนที่ต้องการความสดใหม่ เป็นแบรนด์ Samsung หาซื้อง่ายขายคล่อง สเปคโดยรวมโอเค

realme C17

เป็นอีกแบรนด์ที่ชอบให้สเปคและความคุ้มค่ามาไม่แพ้ใคร โดยตัว realme c17 เองถือว่าให้สเปคมาค่อนข้างสูงกว่าตระกูล C ปกติ  ซึ่งให้หน้าจอค่า Refresh Rate มากถึง 90Hz และน่าจะเป็นรุ่นเดียวในตลาดบ้านเราในช่วงงบราคานี้ด้วย RAM ความจุเครื่องก็ให้มา 4/64GB โอเค กล้องหลัง 4 ตัว รองรับ WiFi 5 GHz ชาร์จไว 18W พร้อมแถมหัวชาร์จมาให้เลย แถมมีสแกนลายนิ้วมือด้านหลังมาให้ด้วยนะ

  • เหมาะกับคนที่ต้องการหน้าจอลื่น ๆ  เอาไว้เล่นเกม สเปคโดยรวมถือว่าคุ้ม กล้องหลังมีมากกว่ารุ่นอื่น ๆ

POCO M3

ถ้าหาถามว่ามีเงิน 4,000 บาทจะซื้อมือถือรุ่นไหนดี พูดกันตามตรงถ้าเอาความคุ้ม สเปคโดยรวมดีสุด คงต้องยกให้เจ้า POCO M3 เลย ที่เพิ่งตัวไปเมื่อปลายเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา ชิปเซ็ตนี่ได้เป็นตัว Snapdragon 662 ซึ่งมักจะอยู่มือถือระดับพันปลายๆ กล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP รองรับ WiFi 5 GHz แบตให้ 6000 mAh อึดสุดๆ รองรับชาร์จไว 18W ที่สำคัญในกล่องแถมเป็นหัวชาร์จ 20W มาให้ด้วย (เผื่อไว้ชาร์จรุ่นอื่น)

  • เหมาะกับคนที่ต้องการมือถือที่สเปคแรงและคุ้มค่าต่อราคาที่สุดในช่วงงบไม่เกินสี่พันบาท (ตอนนี้ของหาซื้อยากมาก)

เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับมือถืองบช่วงราคาที่ทีมงานแนะนำทั้ง 3 ช่วงหวังว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ  กันนะครับ ซึ่งต้องก่อนว่าราคาล่าสุดที่ทีมงานค้นหามานั้น คือเสิร์ชดูจากร้านค้าออนไลน์ตามแพลตฟอร์มต่าง ๆ และเช็คกับพวกตามร้านค้าส่งที่มาบุญครอง ทำให้ราคาอาจจะมีขยับขึ้นลงได้ ส่วนถ้าเพื่อน ๆ คนไหนมีรุ่นอื่นที่อยากจะแนะนำนอกเหนือจากนี้ก็สามารถมาคอมเมนต์พูดคุยเพิ่มเติมด้านล่างได้เช่นกันครับผม

from:https://droidsans.com/smartphone-4000-recommended-2021-jan/

เสียวหมี่ พร้อมส่งสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น Redmi 9C วางจำหน่ายพร้อมกันในทุกช่องทางการขายแล้ววันนี้

เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Redmi 9C ผ่านทุกช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์อย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 นี้ เพื่อมุ่งหวังสร้างประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดียิ่งขึ้นในราคาจับต้องได้ 

Redmi 9C

Redmi 9C เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่โดดเด่นด้วยกล้อง AI 3 ตัวและหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop ที่มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh จะทำให้คุณได้ใช้งานนานมากขึ้นและเพลิดเพลินในการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ บนมือถือได้มากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Redmi 9C ที่ใช้ระบบประมวลผลอันทรงพลังด้วย MediaTek Helio G35 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-core ที่สามารถให้ความเร็วถึง 2.3GHz เพื่อเอาใจคนชื่นชอบการเล่นเกม และยังมาพร้อมกล้องหลัง AI คุณภาพสูงที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายดาย ได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์

ราคาและการวางจำหน่าย Redmi 9C ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563  

  • Redmi 9C ความจุ 2GB+32GB ราคา 3,099 บาท จะจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์บน 3 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ JD CENTRAL 
  • Redmi 9C ความจุ 3GB+64GB ในราคา 3,399 บาท จะวางจำหน่ายผ่านร้าน TG FONE, JAYMART, COM7, Mi Stores ร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ และผ่านช่องทางออนไลน์บน 3 แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ JD CENTRAL

สำหรับสาวกเสี่ยวหมี่และลูกค้าสามารถเข้าเลือกซื้อสินค้าได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้

Shopee: https://bit.ly/33bsYEY

JD CENTRAL: https://bit.ly/2S7PgB9

Lazada: https://bit.ly/3naRQVs

from:https://www.mobileocta.com/redmi-9c-is-available/

รีวิว Redmi 9C สมาร์ทโฟนรุ่นเล็กราคาประหยัด แบตอึด เล่นเกมดีเกินตัว

Xiaomi ถือเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่มักส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่มาพร้อมสเปคคุ้มค่า ในราคาสบายกระเป๋าอยู่เสมอ โดยล่าสุดได้อัพเดตสมาร์ทโฟนภายใต้ Redmi 9-Series ซึ่งก็คือรุ่น Redmi 9C ที่เราจะได้มารีวิวกันในวันนี้ครับ

โดยกลุ่มเป้าหมายของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้น่าจะจับกลุ่มวัยรุ่น นักเรียนนักศึกษาที่ต้องการอุปกรณ์สำหรับติดต่อสื่อสาร รวมถึงใช้เพื่อความบันเทิงเป็นหลัก เพราะด้วยจุดเด่นของหน้าจอที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน และชิปประมวลผล MediaTek Helio G35 ที่ค่อนข้างแรงใช้ได้ในระดับราคานี้ครับ ว่าแล้วก็ไปดูรีวิวเครื่องนี้กันครับ

Redmi 9C

สเปค Xiaomi Redmi 9C

ขนาดหน้าจอ : 6.53 นิ้ว IPS ความละเอียด 1600×720 พิกเซล

CPU : MediaTek Helio G35 Octa Core 2.3 GHz

GPU : PowerVR GE8320

RAM : 2/3GB (เครื่องที่เรารีวิว RAM 2GB)

หน่วยความจำภายใน : 32/64GB รองรับ microSD Card สูงสุด 512GB

กล้องถ่ายภาพ : 13 + 2 + 2 ล้านพิกเซล (main, macro, depth)

กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล

การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band,3G, 4G, Bluetooth 5.0, และ GPS

แบตเตอรี่ : 5000mAh

ระบบปฏิบัติการ : Android 10 (MIUI 12)

พอร์ตเชื่อมต่อ : microUSB

น้ำหนัก : 196 กรัม

ขนาด : 164.9 x 77 x 9 มิลลิเมตร

Redmi 9C

แกะกล่อง Redmi 9C

เมื่อแกะกล่อง Redmi 9C ออกมาจะเจอกับตัวเครื่องวางอยู่ภายในครับ อุปกรณ์ภายในประกอบไปด้วย คู่มือ, สายดาต้า, เข็มจิ้มซิม และที่ชาร์จความจุ 10W สิ่งที่เราคิดว่าควรจะมีอย่างเช่น หูฟัง หรือเคสใสแถมภายใน ก็ไม่มีให้ ตรงนี้น่าเสียดายนิดๆ 

ดีไซน์การออกแบบ

Redmi 9C งานประกอบถือว่าทำได้แน่นหนา แม้ว่าตัวเครื่องจะเป็นพลาสติกก็ตาม แต่เวลาจับถือไม่รู้สึกก๊อบแก๊บเลยครับ ถือว่าทำได้ดีแน่นหนาดีตามราคา ผิวสัมผัสด้านหลังคล้ายเคฟล่า ทำให้เวลาจับตัวเครื่องแล้วมีความมั่นใจ ไม่ลื่นจนเกินไป 

ปุ่มกดทั้งหมดอยู่ด้านขวาของเครื่องครับ ที่ด้านบนมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ด้านซ้ายมีช่องใส่ซิม ส่วนด้านล่างมีพอร์ต microUSB, ไมค์สนทนา และลำโพงเสียงตัวเดียว ซึ่งคุณภาพของลำโพงถือว่าทำได้ดังดีมาก คุณภาพเสียงถือว่าอยู่ในระดับดีตามมาตราฐานไม่ได้แย่ ตัวเครื่องเปิดตัวมาทั้งหมด 3 สี คือสีเทา, น้ำเงิน, และสีส้ม 

ที่ด้านหลังกล้องถูกวางไว้ในกรอบสี่เหลี่ยมบริเวณซ้ายบน มีไฟแฟลช LED สำหรับส่องสว่าง ใต้กล้องมีอักษร AI Camera ระบุว่ามือถือเครื่องมีระบบ AI ช่วยแต่งภาพให้สวยยิ่งขึ้น ถัดลงมามีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลัง ที่สามารถทำงานได้ดีตามปกติ และล่างสุดมีโลโก้ Redmi 

ช่องใส่ซิมของรุ่นนี้มีช่องใส่การ์ด microSD Card แยกให้ครับ ดังนั้นซิม 2 ไม่จำเป็นต้องเลือกใส่ 

ด้านหน้าจอของ Redmi 9C มีขนาด 6.53 นิ้ว ที่ถือว่าค่อนข้างใหญ่กำลังดี เหมาะกับดูหนังฟังเพลง เล่นเกมก็ถือได้ถนัดกำลังดี ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ HD+ ก็ถือว่าใช้งานได้ดีตามราคา การแสดงผลของหน้าจอก็ถือว่าทำได้ดีครับ สามารถแสดงผลสู้แสงได้ดีในระดับนึง และมีโหมดปรับตัดแสง blue light เพื่อถนอมสายตาให้เลือกใช้ เหมาะกับปรับเพื่ออ่านข้อมูลบนหน้าจออย่างสบายตา

โดยรวมด้านการออกแบบ Redmi 9C ถือว่าดีตามมาตราฐานของสมาร์ทโฟนราคาระดับนี้ครับ อาจไม่มีจุดเด่นมาก แต่ก็ไม่มีจุดเสียเช่นกัน

ประสิทธิภาพการใช้งาน

และเมื่อมาพูดถึงการใช้งานจริง Redmi 9C จุดเด่นของรุ่นนี้คือเป็นรุ่นราคาประหยัดที่ได้ชิป Helio G35 ที่ถือว่าเป็นชิปที่ทำงานได้ดีในระดับราคาเริ่มต้นครับ 

โดยชิปตัวนี้เป็นชิปแบบ octa-core แปดแกนสอง ความเร็วสูงสุด 2.3GHz ทำงานร่วมกับชิปกราฟฟิก PowerVT8320 เพื่อช่วยยกระดับการประมวลผลขณะเล่นเกม หรือด้านกราฟฟิกอื่นๆ จากที่เราได้ทดสอบเล่นเกมแห่งชาติ อย่าง RoV หรือ PUBG ผมได้ลองเล่น RoV แบบเปิดเค้าโครง และเลือกการแสดงผลแบบ HD เกมสามารถรันได้สูงสุดประมาณ 59fps และเวลาบู๊กันเยอะๆ frame rate มีตกไปถึง 45fps บ้าง โดยรวมถือว่าเล่นได้ แต่มีหน่วงบ้างบางจังหวะ แนะนำเปิดเล่นแบบ 30fps จะปลอดภัยกว่า ไม่โดนเพื่อนร่วมทีมบ่น

อีกเกมที่เราได้ทดสอบแล้วคิดว่าโอเคก็เป็นทางด้าน PUBG Mobile สเปคเครื่องนี้ถือว่าเล่นได้สบาย อาจมีหน่วงบ้างเล็กน้อย แต่โดยรวมถือว่ากินไก่ได้ไม่ยากสำหรับมือโปร

อย่างไรก็ตาม เครื่องที่เราใช้ทดสอบเป็นเครื่อง RAM 2GB ดังนั้นหากเล่นเกมด้วยเครื่องรุ่น RAM 3GB จะมีโอกาสแสดงผลได้ดีมากยิ่งกว่านี้ หน่วยความจำภายในจะมีให้เลือก 2 แบบ คือ 32 และ 64GB ดังนั้นถ้าเพิ่มเงินได้อีกนิดหน่อย แนะนำให้เลือกเครื่อง RAM 3GB / ROM 64GB จะดีกว่า 

จากคะแนนทดสอบ AnTuTu สมาร์ทโฟนเครื่องนี้สามารถทำคะแนนได้ประมาณ 9 หมื่นกลางๆ ก็ถือว่าพอใช้ได้ตามระดับราคามือถือระดับนี้ 

ด้านการใช้งานทั่วไป ยูสเซอร์อินเตอร์เฟสถือว่าทำได้น่าชื่นชม การเปิดแอป เปลี่ยนแอป หรือปัดหน้าจอทำได้ลื่นไหล ไม่ดีเลย์ สำหรับการใช้งานทั่วไป รุ่นนี้จัดว่าทำได้ดีไม่มีปัญหาแน่นอน

กล้องถ่ายภาพ

ด้านการถ่ายภาพ Redmi 9C มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัวครับ กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้องมาโคร 2 ล้านพิกเซล สำหรับถ่ายภาพระยะใกล้มาก และสุดท้ายเป็นกล้อง depth สำหรับทำภาพชัดตื้นสวยๆ วีดีโอถ่ายได้สูงสุดที่ 1080p @30fps ทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง

กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่มุมค่อนข้างกว้าง ถือว่าดีสำหรับการถ่ายเซลฟี่ครับ

UI ของกล้องก็มาแบบคลีนๆ ตามสไตล์ MIUI ครับ เมนูต่างๆ ถูกจัดวางให้สามารถเข้าถึง และใช้งานได้ง่าย ชัตเตอร์กล้องสามารถถ่ายได้เร็วตามมาตราฐาน มีโหมดโปรให้เลือกเล่น 

คุณภาพของกล้องต้องบอกว่าพอใช้งานได้ตามราคาครับ คือสามารถถ่ายได้ดีพอใช้ โฟกัสภาพอาจไม่เร็วเท่าไหร่ ไม่มีระบบกันสั่น ดังนั้นหากถ่ายภาพควรถือให้นิ่งพอสมควร การถ่ายภาพในเวลากลางวัน ถือว่าทำได้ดีครับ แต่เวลากลางคืนยังถือว่าไม่ดีเท่าที่ควร แต่ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่า รุ่นราคาระดับนี้ กล้องมันก็จะประมาณนี้แหละครับ ถือว่าพอถ่ายได้อัพโซเชียลขำๆ ไม่ได้เอาไปประกวด

ลองชมตัวอย่างภาพตามด้านล่างนี้เลย

แบตเตอรี่

ถือเป็นจุดเด่นที่สุดอย่างหนึ่งของรุ่นนี้เลยครับ สำหรับด้านแบตเตอรี่ โดย Redmi 9C ให้แบตมาเยอะมากที่ 5000mAh และด้วยองค์ประกอบต่างๆ ของรุ่นนี้ เช่น หน้าจอแค่ระดับ HD+ ยิ่งช่วยให้รุ่นนี้กินไฟน้อยมากกว่ารุ่นที่หน้าจอ Full HD+

และจากที่ผมได้ทดสอบการใช้งานในหลายรูปแบบ หากคุณเป็นคนที่ใช้งานมือถือแบบปกติทั่วไป เน้นรอรับสาย สแตนด์บาย แชตบ้าง อัพเดตโซเชียลบ้าง ดูหนังฟังเพลงบ้าง ไม่เล่นเกมมาก รับรองว่าชาร์จครั้งเดียวอยู่ได้เกือบ 2 วันแน่นอน แต่ถ้าเป็นคนเล่นหนัก จัดหนักเกมยาวๆ เต็มที่ผมว่าน่าจะอยู่ได้ถึงบ่ายๆ ก็น่าจะต้องหาที่ชาร์จแล้วครับ โดยสามารถชาร์จ 0-100% ประมาณ 3 ชั่วโมง

สรุป

โดยสรุปนะครับ Redmi 9C ถือเป็นมือถือราคาประหยัดที่น่าใช้อีกหนึ่งรุ่นครับ เหมาะสำหรับใช้เป็นทั้งเครื่องหลัก และเครื่องรองได้เลย หรือจะซื้อให้เด็กๆ ไว้พกติดตัวไปโรงเรียนก็เหมาะมาก เพราะราคาไม่แพง และตัวเครื่องค่อนข้างแข็งแรง หาเคสดีๆ ใส่หน่อยรับรองดีเลย

จุดเด่นของรุ่นนี้คือมาพร้อมแบตเยอะมากครับ สามารถรอรับสายได้นานเป็นวันๆ แต่น่าเสียดายที่ยังไม่รองรับ fast charge ซึ่งก็ถือเป็นปกติของรุ่นระดับราคานี้ ค่ายอื่นก็ไม่ได้เหมือนกัน  

ด้านการเล่นเกม ถือว่าทำได้ดีตามราคาครับ สมัยก่อนมือถือราคาระดับ 3 พัน อย่าหวังเปิดเล่น RoV ระดับ 60fps เลย แต่รุ่นนี้สามารถทำได้ แม้ว่าจะมี frame rate ตกบ้างก็ตาม แต่ก็ถือว่าพอเล่นได้

ส่วนกล้องถ่ายภาพ ถือว่าทำได้ดีตามราคา เวลากลางวันสามารถถ่ายได้สวยงาม แต่เวลาถ่ายกลางคืนยังถือว่า noise เยอะพอสมควร สรุปด้านกล้องถือว่าอยู่ในระดับดีพอใช้

Xiaomi Redmi 9C เปิดตัวมาทั้งหมด 2 รุ่นด้วยกันครับ คือ RAM 2/32GB ตัวนี้ราคา 3,099 บาท และรุ่น RAM 3/64GB เปิดตัวที่ราคา 3,399 บาท ถ้าให้แนะนำเพิ่มอีก 300 เอารุ่น RAM 3GB จะคุ้มกว่าครับ เพราะจะสามารถใช้งานได้ดีขึ้น และใช้ได้ยาวกว่า เพิ่มอีกนิดเดียวเอง ใครหามือถือราคาระดับนี้อยู่ เชื่อว่า Redmi 9C จะเป็นอีกรุ่นที่คุณมองข้ามไม่ได้ครับ แนะนำให้ไปลองเล่นของจริงก่อน เชื่อว่าจะเป็นมือถืออีกรุ่นที่หลายคนชอบแน่นอน

ข้อดี

  • หน้าจอใหญ่ สู้แสงดีใช้ได้
  • แบตอึดมาก ใช้งานเบาๆ ได้เกือบ 2 วัน
  • ราคาสบายกระเป๋า
  • ใส่ได้ 2 ซิม มีช่อง microSD แยกให้
  • เล่นเกมดีในระดับราคานี้
  • ลำโพงเสียงดังดี
  • กล้องถ่ายภาพ 3 ตัว ถ่ายได้หลากหลายรูปแบบ มี AI ช่วย
  • มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลัง
  • มีช่องเสียบหูฟัง (แต่ไม่แถม)
  • UI ทำงานได้ดี ลื่นไหลไม่สะดุด

ข้อสังเกต

  • ยังใช้พอร์ต microUSB อยู่

from:https://www.mobileocta.com/review-redmi-9c/

Preview | พรีวิว Redmi 9c จอใหญ่ 3 กล้อง AI แบตเยอะจุใจ ในราคาประหยัด 3 พันนิดๆ

Redmi ซีรี่ส์มือถือสุดคุ้มจาก Xiaomi ตอนนี้มีรุ่นน้องในตระกูลออกมาวางขายเพิ่มอีกหนึ่งรุ่น นั่นก็คือ Redmi 9c ที่เปิดราคามาแค่ 3099 บาทเท่านั้น แต่ได้หน้าจอใหญ่ 6.53 นิ้ว พร้อมแบตเตอรี่ความจุมากถึง 5000 มิลลิแอมป์ แถมยังมาพร้อมชิป Helio G35 ที่เน้นการประมวลผลกราฟิกให้เล่นเกมได้ลื่นไหลมากขึ้นด้วย

แกะกล่อง Redmi 9c

Xiaomi ประเทศไทยรอบนี้เปิดตัว Redmi 9 series ออกมามาหมายถึง 3 รุ่นด้วยกัน โดยหากเทียบสเปคแล้ว Redmi 9c ตัวล่าสุดนั้นจะอยู่กึ่งกลางระหว่าง Redmi 9  และ Redmi 9a ที่เรารีวิวเปรียบเทียบไปก่อนหน้านี้ โดยได้อัปเกรดชิปเซ็ด และกล้องที่มีฟีเจอร์หลากหลายมากขึ้น

อุปกรณ์ในกล่องของรุ่นนี้ประกอบไปด้วย

  •  ตัวเครื่อง Redmi 9c
  • หม้อแปลง 10 วัตต์
  • สายชาร์จแบบ micro USB
  • เข็มจิ้มถาดซิม

 

สเปค Redmi 9c และตัวเครื่อง

หน้าจอของรุ่นนี้เป็น Dot Drop Display มีขนาด 6.53 นิ้ว ความละเอียด HD+ ความสว่างสูงสุด 400 nits

มีกล้องเซลฟี่วางอยู่ตรงกลาง ตัวกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซล จากด้านหน้าที่เห็นขอบรอบๆ จอนั้นบางพอๆ กัน แต่ขอบด้านล่างนั้นจะแอบหนาอยู่พอสมควร

ส่วนฝาหลังจะเป็นผิวสัมผัสแบบด้านเพื่อลดรอยนิ้วมือเวลาสัมผัสตัวเครื่อง มีลวดลายเส้นโค้งวิ่งผ่านเป็นริ้วสวยงาม ที่เห็นนี่คือสีน้ำเงิน Twilight Blue นะครับ ตรงกลางค่อนบนคือเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับโมดูลกล้อง

ชุดกล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera นั้นมีเซนเซอร์หลัก 13 ล้านพิกเซล อีก 2 กล้องเป็น Depth เอาไว้ช่วยถ่ายภาพ Portrait และ Macro สำหรับถ่ายภาพวัตุเล็กๆ แบบระยะใกล้ๆ

ช่องหูฟัง 3.5 มม. อยู่ที่บริเวณส่วนหัวของเครื่อง (ในกล่องไม่ได้แถมชุดหูฟังมาให้) หากเราเสียบหูฟังแล้วก็สามารถใช้เป็นเสาอากาศเพื่อรับสัญญาณวิทยุ FM ได้ด้วย

ถาดซิมของ Redmi 9c เป็นแบบทริเปิ้ลสล็อต คือสามารถใส่ได้ 2 ซิม + 1 micro SD เพื่อเพิ่มหน่วยความจำ

ส่วนด้านล่างของตัวเครื่องก็จะมีรูไมโครโฟน พอร์ต micro USB และลำโพง ส่วนแบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุ 5000 มิลลิแอมป์ รองรับการชาร์จเร็วที่มาตรฐาน 10 วัตต์

สำหรับสเปคแบบย่อๆ ของ Redmi 9c ก็ตามนี้เลยครับ

  • หน้าจอ : Dot Drop display 6.53 นิ้ว  HD+ 720 x 1600 พิเซล
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G35
  • หน่วยความจำ : 2GB /32GB , 3GB/64GB
  • กล้องหลัง : Wide 13MP (f/2.2) / Macro 2MP (f/2.4) Depth 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2), ขนาดพิกเซล1.12μm
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 b/g/n , Bluetooth 5.0
  • มีภาครับวิทยุ FM
  • พอร์ต : Micro-USB
  • มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ (ด้านหลังตัวเครื่อง)
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 10W
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 12 บน Android 10
  • ขนาด : 164.9 x 77.07 x 9.0 มม.
  • น้ำหนัก : 196 กรัม

 

ทดลองใช้งานเบื้องต้น

รุ่นที่เราได้มาลองนั้นเป็นรุ่นมาตรฐานคือ RAM 2GB / ROM 32GB ที่ราคา 3099 บาทเลยครับ รุ่นนี้มาพร้อม MIUI 12 บน Android 10

หลังจากแกะกล่องเปิดเครื่องเซ็ตอัปทุกอย่าง และรอให้แอปต่างๆ มันอัปเดทนิดนึงก็พบว่าส่วนของ UI การใช้งานเนียนกว่าที่คิดเอาไว้ การปัดหน้าจอ เปิดแอปก็ดูคล่องดี แต่อนิเมชั่นอาจจะดูหนืดๆ หน่อย ส่วนถ้าแอปใหญ่ๆ หรือเปิดเกมก็อาจจะมีต้องรอกันบ้าง

แล้วก็ไม่ต้องพูดพล่ามทำเพลงอะไร จัด PUBG ทดสอชิป Helio G35 กันเลยจ้า~ โหลดเสร็จติดตั้งเรียบร้อย ตัวกราฟิกแน่นอนว่าอาจจะปรับมากไม่ได้ ด้วยข้อจำกัดของชิปเซ็ต

แต่ระหว่างที่เข้าไปเล่น การตอบสนองของเกมก็ถือว่าค่อนข้างดี จังหวะสะดุดพอมีเบาๆ และนานๆ อาจจะมาทีแต่ระยะสั้น เรียกว่าหากเจอในจังหวะบวกก็ยังสามารถเอาตัวรอดและสาดกระสุนกลับได้คิลกันไป

สำหรับกล้องของ Redmi 9c นั้นถือว่าตีบวกขึ้นมาจาก Redmi 9a ที่วางขายไปก่อนหน้านี้พอสมควรกับราคาที่ต่างกันแค่ 300 บาท (2,799 กับ 3,099) เพราะมีกล้อง Depth และกล่อง Macro เข้ามาเสริม มี AI ช่วยปรับซีนปรับสีให้ด้วย

ยังไงลองดูตัวอย่างภาพถ่ายจาก Redmi 9c กันได้ครับ มีลองไปถ่ายมาเป็นน้ำจิ้มให้ได้ชมกัน

 

ภาพจากกล้อง Redmi 9c












กล้องมาโคร



โหมดฟิลเตอร์สี





 

สำหรับใครที่สนใจ Redmi 9c จะเริ่มวางขายในวันที่ 8 กันยายนนี้ โดยมีให้เลือก 2 สเปค 2 ราคา รุ่น RAM 2GB / ROM 32GB อยู่ที่ 3,099 บาท ส่วนรุ่น RAM 3GB / ROM 64GB นั้นอยู่ที่ 3,399 บาทครับ

from:https://droidsans.com/preview-redmi-9c-budget-gaming-3099-baht/

รีวิว Xiaomi Redmi 9C จอยักษ์ แบตใหญ่ ในราคาจิ๋ว รุ่นสุดคุ้มในเรทราคาสามพัน

Xiaomi Redmi 9C สมาร์ทโฟนรุ่นเล็ก New Entry ที่คุ้มค่ากว่าสมาร์ทโฟนทั่วไปด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop มีเนื้อที่หน้าจอกว้างเต็มตา และยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ให้ใช้งานกันแบบจุใจยาวนาน ด้วยราคาจำหน่ายเริ่มต้นเพียง 3,099 บาทเท่านั้น

ใช้หน่วยประมวลผล Helio G35 2.3GHz ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมในราคาประหยัดของ MediaTek โดย Redmi 9C จะมีเข้ามาจำหน่ายในไทยด้วยกัน รุ่น ได้แก่ รุ่นแรม 2GB รอม 32GB ในราคา 3,099 บาท และรุ่นแรม 3GB รอม 64GB ในราคา 3,399 บาท ราคาถูกมากทั้งคู่ครับ

หน้าจอใหญ่มาก 6.53 นิ้ว เป็นแบบ Dot Drop วางกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซลอยู่ริมจอด้านบนเพียงพื้นที่เล็กๆ ความละเอียดหน้าจอ 720×1600 สัดส่วนจอทรง 20:9 เหมาะสำหรับดูหนังเล่นเกม  ความสว่างสดใสดี 400nit หน้าจอถือว่าเป็นจุดขายแรกของเครื่องรุ่นนี้เลยครับ


ตัวเครื่องด้านหลังมีการออกแบบลวดลายพิเศษเป็นลวดลายเส้นแทยงมุม ผิวสัมผัสเป็นพลาสติกเนื้อเหนียว ตัวเครื่องโค้งถือจับไม่ยาก ไม่ใหญ่ไม่หนาเกินไป มาพร้อมกับที่สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่อง และให้แบตเตอรี่ภายในมาถึง 5000 mAh เลยทีเดียว


รองรับสองซิมการ์ดแบบ Dual 4G พร้อมสล็อตใส่ Micro SD card แยกต่างหากอีกหนึ่งสล็อต (รองรับ Micor SD card สูงสุดได้ 512GB) ใช้พอร์ทชาร์จใต้เครื่องเป็น Micro USB และยังมีพอร์ทหูฟัง 3.5 ให้ใช้งานครับ




ใช้กล้องหลัง 3 ตัวพร้อม AI โดยใช้กล้องหลักความละเอียด 13MP กล้องมาโครระยะโฟกัสใกล้ 4 เซนติเมตรความละเอียด 2MP และสุดท้ายคือกล้องถ่ายบุคคลแบบหน้าชัดหลังเบลอ 2MP

อุปกรณ์ภายในกล่องเพื่อความประหยัดราคา ทาง Xiaomi จะไม่มีชุดหูฟังหรือเคสมาให้นะครับ มีเพียงสายชาร์จ Micro USB และจะให้ที่ชาร์จ 2A 10W มาให้ด้วยครับ


ด้านตัวเครื่อง  ต้องบอกว่าได้เปรียบชาวบ้านเขามากทีเดียวครับ เกรดราคาประมาณสามพันบาท ไม่มีใครให้มาขนาดนี้ หน้าจอใหญ่มาก และแบตเตอรี่ก็ใหญ่มาก รวมถึงรองรับการสแกนลายนิ้วมือและกล้องหลังสามตัวพร้อม AI มีอยู่ในเครื่องราคาเริ่มต้นเครื่องนี้หมดเลย

การใช้งานภายใน 

Xiaomi Redmi 9C ใช้ระบบ MIUI 12.0.1 ครอบทับ Android 10 ฟังก์ชั่นการใช้งานต่างๆ มีมาให้พอประมาณครับ ใช้งานง่าย ความลื่นไหลอยู่ในระดับกลางๆ แม้ราคาจะอยู่ในเกณฑ์ New Entry แต่เอาเข้าจริงมันก็จะดีกว่านั้นไปขั้นนึงนะครับเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนในเรทราคาใกล้ๆ

หน้า UI มีธีมสโตร์ให้ดาวน์โหลดเพื่อเปลี่ยนหน้าตาการใช้งานได้ในทุกๆ วัน มี “โหมดมืด” หรือดาร์คโหมดสำหรับการเปลี่ยนหน้าเมนูต่างๆ ให้เป็นสีดำทั้งหมดเพื่อความสบายตา เราสามารถเปิดปิดการใช้งานเองได้หรือตั้งเวลาให้มันทำงานอัตโนมัติในทุกๆ วันก็ได้ครับ






ทดสอบลองเล่นเกมแบบ MOBA อย่าง ROV เล่นได้ครับ เข้าเกมอาจจะใช้เวลาสักนิดนึง แต่พอเข้าตัวเกมแล้วเล่นได้ไม่สะดุดอะไรซึ่งปกติเครื่องรุ่นเล็กๆ จะพอเล่นพวกมินิเกมหรือ MOBA ได้อยู่แล้วเพราะมันไม่กินสเปคอะไรมากก แต่ถ้าจะเล่นพวก FPS ปกติจะแลคมาก แต่รุ่นนี้สามารถเล่นเกม FPS อย่าง PUBG ได้อยู่นะครับ โดยเฟรมเรทจะสะดุดเล็กน้อยไม่ลื่นไหลแบบรุ่นใหญ่ แต่อยู่ในระดับเล่นได้ไม่แลคจนต้องเลิกเล่นดีกว่า ^^




แถมหน้าจอใหญ่ดีด้วย ^^ เล่นเกมกก็จะเห็นเต็มตามันดีครับ

ลำโพงเสียงระดับกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น เปิดเสียงดังสุดเสียงไม่แตก รองรับการใช้งานฟังวิทยุ FM แต่ต้องเสียบสายหูฟังเพื่อใช้เป็นเสาอากาศในการรับคลื่นวิทยุนะครับ



เอามารับชมคลิปวีดีโอนี่เหมาะสุดเลย เพราะหน้าจอใหญ่มาก และแบตอึดมากครับ ผมไม่สามารถใช้งานมันให้แบตเตอรี่หมดได้ในวันเดียวเลยตั้งแต่ลองใช้งานมา ต้องเล่นหนักแบบต่อเนื่องทั้งวันจริงๆ ครับถึงจะทำให้แบตเตอรี่ 5000 mAh ของมันหมดลงได้ แบตอึดจอใหญ่ สะใจสายชมคลิป ^^


มีฟังก์ชั่นการใช้งานน่าใช้ที่ควรรู้จักไว้สำหรับใครที่หามาใช้งาน เช่น “เมนูลัด” เป็นปุ่มเมนูพิเศษที่สามารถเรียกใช้ได้จากทุกๆ หน้าการใช้งานจากข้างหน้าจอ โดยเราสามารถกำหนดการใช้งานด่วนเพื่อเป็นทางลัดเรียกใช้เอาไว้ได้ล่วงหน้า แอพหรือการใช้งานใดที่เราต้องใช้บ่อยๆ ก็เอามาไว้ใน “เมนูลัด” อันนี้ได้เลยครับ

“ปุ่มทางลัด” อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้ประโยชน์จากปุ่มบนตัวเครื่องและการสั่งงานบนหน้าจอให้มีประโยชน์มากขึ้น เช่นตั้งค่าการเปิดใช้งานกล้องโดยการกดปุ่มโฮมค้างไว้ หรือการเปิดปิดไฟฉายโดยการทัชปุ่มย้อนกลับค้างไว้เป็นต้น

เซฟภาพหน้าจอโดยการใช้สามนิ้้วสไลด์ลงไปบนหน้าจอ หรือจะตั้งไว้ให้เปิดผู้ช่วยคำสั่งเสียง Google จากการกดปุ่มพาวเวอร์ + ปุ่มเมนูก็ได้เช่นกันครับ เรียกว่าค่อนข้างอิสระในการตั้งค่าไว้ล่วงหน้า แนะนำให้ลองเรียนรู้ดู จะสะดวกมากๆ เลย ^^





ผลทดสอบต่างๆ

รองรับ 4G ทั้งสองซิมการ์ดครับ การจับสัญญาณไม่มีปัญหาอะไรในการทดสอบใช้งาน การสนทนาเสียงชัดเจนทั้งต้นสายและปลายสาย การจับสัญญาณ GPS เมื่อเปิดอินเตอร์เน็ตช่วยก็แม่นยำใช้ในการนำทางและเช็คอินได้ปกติ แบตเตอรี่อึดมาก ใช้งานได้นานสองวันต่อเนื่องในระดับการใช้โดยทั่วๆ ไป

แต่รุ่นนี้จะไม่รองรับการใช้สัญญาณ WiFi 5.0G นะครับ ใช้งานได้แต่ 2.4G เท่านั้น




กล้องถ่ายภาพ

กล้องถ่ายภาพของ Xiaomi Redmi 9C ถือว่าดีกว่าที่คิดครับ กล้องโฟกัสง่ายในที่แสงเพียงพอ มี AI คอยช่วยปรับแต่งภาพให้เหมาะกับสภาพแสงและสิ่งที่ถ่าย กล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล กล้องหลังสามตัวทำงานช่วยกันในคนละหน้าที่ กล้องหลักความละเอียด 13ล้านพิกเซลถ่ายภาพในโหมดทั่วไป

มาพร้อมฟิลเตอร์ตกแต่งสีภาพได้หลากหลายอารมณ์ตามต้องการครับ




มีกล้องมาโครความละเอียด 2ล้านพิกเซล ที่ใช้ถ่ายภาพระยะโฟกัสใกล้ 4 เซนติเมตร


และเลนส์สุดท้ายคือเลนส์ Dept Camera สำหรับการจับโฟกัสชัดลึกชัดตื้น เอาไว้ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอนั้นเองครับ จับโฟกัสได้แม่นซะด้วย ราคานี้ทำได้ขนาดนี้แล้ว ยอดเยี่ยมครับ



กล้องของ Redmi 9C สามารถซูมภาพดิจิตอลได้สูงสุด 10x นะครับ โดยการใช้นิ้วขยายบนหน้าจอถ่ายภาพโดยตรง จากที่ทดสอบการซูมภาพระดับประมาณ 3x ภาพยังสวยอยู่เลย


ตัวอย่างภาพถ่ายในหลายๆ โหมด









สรุปท้ายรีวิว

ประสิทธิภาพการใช้งานถือว่าดีเมื่อดูจากราคา แต่ก็อย่าลืมว่ามันเป็นสมาร์ทโฟนระดับ  New Entry การใช้งานต่างๆ  ทำได้ระดับที่ดีสำหรับราคาจำหน่ายมากแล้วครับ โดยเฉพาะในเรื่องของการให้จอภาพขนาดใหญ่มากมาให้ใช้งานกันได้เต็มตา แบตเตอรี่เยอะใช้งานได้จุใจเต็มวัน และกล้องหลังสามตัวพร้อม AI เอาไว้ถ่ายภาพในระดับพึ่งพาได้ยามนำไปท่องเที่ยว ทั้งหมดรวมเป็นจุดขายในเครื่องราคาประหยัดรุ่นนี้ครับ ถูกและคุ้มอีกหนึ่งรุ่นจาก Xiaomi ที่ซื้อได้เลยไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ สำหรับงบประมาณในราวๆ สามพันบาท

Redmi 9C จะเริ่มจำหน่ายผ่าน Shopee ในวันที่ 8-20 กันยายนนี้ โดยเป็นแคมเปญที่ Xiaomi จับมือกับ Shopee จัดแคมเปญพิเศษ Super Shopping Day 9.9 เมื่อช้อปปิ้งบน Shopee ในวันที่ กันยายนนี้ เพียงวันเดียวเท่านั้น https://bit.ly/2GimPOj จะมีจำหน่ายด้วยกัน รุ่น

  • ความจุ 2GB+32GB ในราคา 3,099 บาท 
  • ความจุ 3GB+64GB ในราคา 3,399 บาท

หลังจากนั้นจึงจะเริ่มวางจำหน่ายในราคาปกติพร้อมก้นทั้งสามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ JD Central เริ่มในวันที่ 21 กันยายน 2563 เป็นต้นไป

สำหรับ Redmi 9C ความจุ 3GB+64GB ราคา 3,399 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 21 กันยายน ในทุกช่องทางการขาย ณ ร้าน TG FONE, JAYMART, COM7, AIS และ Mi Stores รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชทั้ง Shopee, Lazada และ JD Central นะครับ

ข่าว: รีวิว Xiaomi Redmi 9C จอยักษ์ แบตใหญ่ ในราคาจิ๋ว รุ่นสุดคุ้มในเรทราคาสามพัน มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/09/04/review-xiaomi-redmi-9c.html

เสียวหมี่ เปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น Redmi 9C พร้อมเครื่องฟอกอากาศ 2 รุ่นใหม่ ลุยตลาดในประเทศไทย

เสียวหมี่ ผู้นำด้านเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศวางจำหน่ายสมาร์ทโฟน Redmi 9C ในประเทศไทยแล้ววันนี้ พร้อมอัดแคมเปญโปรโมชั่นพิเศษสำหรับสาวกเสียวหมี่ในราคาพิเศษเมื่อช้อปออนไลน์ผ่าน Shopee Super Shopping Day 9.9 ในวันที่ 9 กันยายนนี้ เพียงวันเดียวเท่านั้น  

Redmi 9C

Redmi 9C จุดเด่นหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop กล้อง AI 3 ตัว

มร.โจนาธาน คัง ผู้จัดการใหญ่ประจำเสียวหมี่ประเทศไทย เปิดเผยว่า เสียวหมี่ พร้อมวางจำหน่าย Redmi 9C สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สู่ตลาดไทยแล้ววันนี้ มาพร้อมกับกล้อง AI 3 ตัวและหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสกับประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนที่ดียิ่งขึ้นในราคาจับต้องได้

และสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ที่จะทำให้คุณได้ใช้งานนานมากขึ้น และเพลิดเพลินในการใช้แอปพลิเคชันต่างๆ บนมือถือได้มากขึ้น

ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของ Redmi 9C ที่ใช้ระบบประมวลผลอันทรงพลังด้วย MediaTek Helio G35 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-core ที่สามารถให้ความเร็วถึง 2.3GHz เพื่อเอาใจคนชื่นชอบการเล่นเกม และยังมาพร้อมกล้องหลัง AI คุณภาพสูงที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายดาย ได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์

ราคาและการวางจำหน่าย Redmi 9C 

Redmi 9C มีด้วยกัน 2 รุ่น ได้แก่ Redmi 9C ความจุ 2GB+32GB ในราคา 3,099 บาท และรุ่น Redmi 9C ความจุ 3GB+64GB ในราคา 3,399 บาท จะเริ่มจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์ม Shopee ในวันที่ 8-20 กันยายนนี้

โดยเสียวหมี่ จับมือกับ Shopee จัดแคมเปญพิเศษ Super Shopping Day 9.9 เมื่อช้อปปิ้งบน Shopee ในวันที่ 9 กันยายนนี้ เพียงวันเดียวเท่านั้น https://bit.ly/2GimPOj หลังจากนั้นจะเริ่มวางจำหน่ายในราคาปกติพร้อมก้นทั้งสามแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ JD Central เริ่มในวันที่ 21 กันยายน 2563

สำหรับ Redmi 9C ความจุ 3GB+64GB ราคา 3,399 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 21 กันยายน ในทุกช่องทางการขาย ณ ร้าน TG FONE, JAYMART, COM7, AIS และ Mi Stores ร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชทั้ง Shopee, Lazada และ JD Central 

เปิดฮาร์ดแวร์อัจฉริยะรุ่นใหม่ในกลุ่ม Ecosystem

Mi Air Purifier 3C

นอกจากนี้ เสียวหมี่ยังได้เปิดตัวเครื่องฟอกอากาศ 2 รุ่นใหม่ ได้แก่ Mi Air Purifier 3C และ Mi Air Purifier Pro H โดยเครื่องฟอกอากาศ Mi Air Purifier 3C มาพร้อมไส้กรองอากาศ HEPA ที่ติดตั้งมาให้เรียบร้อยแล้วในตัว มีอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (CADR) อยู่ที่ 320 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง สำหรับพื้นที่ครอบคลุมสูงสุดถึง 38 ตารางเมตร และจอแสดงผล LED พร้อมการตรวจสอบ AQI แบบเรียลไทม์อีกด้วย 

Mi Air Purifier Pro H

ขณะที่ Mi Air Purifier Pro H เป็นเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงเหมาะสำหรับใช้งานภายในบ้านและสำนักงานออฟฟิศ ที่มาพร้อมไส้กรอง HEPA รุ่นอัพเกรดและระบบกรองสามชั้น Mi Air Purifier Pro H สามารถช่วยกำจัด อนุภาคที่มีขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% และยังสามารถดักจับควัน ฝุ่น ขนสัตว์เลี้ยง สปอร์เชื้อรา ละอองเกสร และกลิ่นภายในบ้านได้อีกด้วย

พร้อมประสิทธิภาพอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์อนุภาค (PCADR) อยู่ที่ 600 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และสามารถฟอกอากาศบริสุทธิ์ได้มากถึง 10 ตารางเมตรต่อนาที หรือทำสร้างอากาศหมุนเวียนในพื้นที่ 200 ตารางเมตรในพื้นที่ความสูง 3 เมตรต่อหนึ่งชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีไส้กรองขนาดใหญ่ที่สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 14 เดือน ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องอย่างไร้กังวล 

ราคาและการวางจำหน่าย  

  • Mi Air Purifier 3C จำหน่ายในราคา 3,190 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ JD Central โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 8 กันยายนนี้ พร้อมโปรโมชั่นราคาพิเศษเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น เมื่อช้อประหว่างเวลา 00:00 – 02:00 น.
  • Mi Air Purifier Pro H จำหน่ายในราคา 8,990 บาท ในวันที่ 8 กันยายนนี้ ผ่านช่องทางออนไลน์แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ Shopee, Lazada และ JD Central และในวันที่ 21 กันยายน จะวางจำหน่ายในทุกช่องทางการขาย ณ ร้าน TG FONE, JAYMART, COM7, Mi Stores และร้านค้าที่ได้รับอนุญาตจากทางเสียวหมี่อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ รวมถึงแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ชทั้งที่กล่าวมาข้างต้น

สามารถเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศเสียวหมี่ผ่านช่องทางออนไลน์ได้ดังนี้

Lazada

Mi Air Purifie 3C: https://bit.ly/3gKM2gN, Mi Air Purifier Pro H: https://bit.ly/3hRnJPQ  

Shopee

Mi Air Purifier 3C: https://bit.ly/2QIkPAP, Mi Air Purifier Pro H: https://bit.ly/31MwCof  

JD Central 

Mi Air Purifier 3C: https://bit.ly/31RqcEp, Mi Air Purifier Pro H: https://bit.ly/2Dg6SH8

*ความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามตลาดต่าง ๆ

from:https://www.mobileocta.com/xiaomi-launches-redmi-9c-entry-level-smartphone-with-2-new-air-purifiers/

Xiaomi เปิดตัว Redmi 9C หน้าจอ 6.53 นิ้ว HD+ ชิป Helio G35 กล้องหลัง 3 ตัว ราคาเริ่มต้น 3,099 บาท

Xiaomi ได้ทำการเปิดตัว Redmi 9a พร้อมกันกับ 9C ไปตั้งแต่เมื่อปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่ง Redmi 9a นั้นวางจำหน่ายในประเทศไทยไปได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว คราวนี้เป็นตาของ Redmi 9c กันบ้าง มันจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 6.53 นิ้ว ใหญ่เต็มตา กล้องหลัง 3 ตัว แบตใหญ่จุใจ 5000 mAh ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Helio G35 และแน่นอนว่า เปิดตัวมาด้วยราคาแสนเป็นมิตรเช่นเคย แค่ 3,099 บาท

Redmi 9C จะมีสเปคโดยรวมที่อัปเกรดขึ้นจาก Redmi 9a อีกระดับนึง ภายนอกมีจุดที่เปลี่ยนไปอย่างเด่นชัดคือ กล้องหลังที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 3 ตัว ประกอบด้วย เซ็นเซอร์หลัก 13MP, กล้องจับความลึก 2MP และกล้องมาโคร 2MP รวมถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ถูกใส่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ที่บริเวณด้านหลังของตัวเครื่อง

ส่วนสเปคภายในนั้น Redmi 9C เลือกใช้ชิปเซ็ตเป็น Helio P35 ของ MediaTek รองรับเทคโนโลยี HyperEngine ที่ช่วยให้เล่นเกมได้อย่างลื่นไหลและตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น แบตเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่เป็นจุดเด่นในซีรีส์ Redmi 9 ก็ยังคงอยู่เช่นเคย โดย Xiaomi เคลมว่า Redmi 9C สามารถเล่นเพลงได้นานที่สุด 137 ชั่วโมง โทรศัพท์ได้นานที่สุด 32 ชั่วโมง วิดีโอคอลได้นานที่สุด 21 ชั่วโมง และเล่นเกมได้นานที่สุด 10 ชั่วโมง

ยิ่งไปกว่านั้น แบตเตอรี่ของ Redmi 9C เป็นแบตคุณภาพสูงที่มีจำนวนไซเคิลสูงถึง 1,000 รอบ สามารถใช้งานกันได้ยาว ๆ 2.5 ปี โดยไม่ต้องมาคอยกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อมเลย ในขณะที่หน่วยความจำจะมีให้เลือกด้วยกันสองโมเดล แบ่งเป็น RAM 2GB + 32GB และ RAM 3GB + 64GB

Xiaomi ได้ยึดมั่นในแนวทางของแบรนด์ Redmi มาโดยตลอดว่า เป็นมือถือที่มีสเปคโอเคในราคาสุดคุ้ม โดย Redmi 9C เองก็ยังคงอยู่ในแนวทางดังกล่าว เพราะเปิดราคามาได้น่าสนใจสุด ๆ เริ่มต้นเพียงแค่ 3,399 บาท ส่วนสีที่นำเข้ามาจำหน่ายในประเทศไทยนั้นจะมีด้วยกันทั้งหมด 3 สี คือ ส้ม ดำ และน้ำเงิน ใครที่สนใจก็รอซื้อกันได้เลย วันที่ 8 กันยายนนี้ ทาง Shopee

สเปค Redmi 9C

  • หน้าจอ :
    • Dot Drop display 6.53 นิ้ว
    • ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิเซล
    • สัดส่วน 20:9
    • คอนทราสต์เรโช 1500:1
    • NTSC 70%
    • ความสว่าง 400 nit
  • ชิปเซ็ต : MediaTek Helio G35
  • หน่วยความจำ :
    • RAM 2GB LPDDR4X +ROM 64GB eMMC 5.1
    • RAM 3GB LPDDR4X + ROM 64GB eMMC 5.1
  • กล้องหลัง : Wide 13MP (f/2.2) / Macro 2MP (f/2.4) Depth 2MP (f/2.4)
  • กล้องหน้า : 5MP (f/2.2), ขนาดพิกเซล1.12μm
  • การเชื่อมต่อ :
    • Wi-Fi 802.11 b/g/n
    • Bluetooth 5.0
    • วิทยุ FM
  • พอร์ต : Micro-USB, ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม.
  • เซ็นเซอร์ : สแกนลายนิ้วมือ (ด้านหลังตัวเครื่อง)
  • แบตเตอรี่ : 5000 mAh รองรับชาร์จไว 10W
  • ระบบปฏิบัติการ : MIUI 12 บน Android 10
  • ขนาด : 164.9 x 77.07 x 9.0 มม.
  • น้ำหนัก : 196 กรัม

ราคา Redmi 9C

  • RAM 2GB + 32GB  – 3,099 บาท
  • RAM 3GB + 64GB  – 3,399 บาท

 

ที่มา : Xiaomi ประเทศไทย

from:https://droidsans.com/xiaomi-launched-redmi-9c/

เสียวหมี่ เปิดตัวแชมป์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น: Redmi 9 Series

เสียวหมี่ ผู้นำเทคโนโลยีระดับโลก ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น 3 รุ่น ได้แก่ Redmi 9 Redmi 9A และ Redmi 9C ในราคาเข้าถึงได้ ที่มาพร้อมกับชิปเซ็ตทรงพลังและคุณสมบัติระดับพรีเมียม สะท้อนถึงพันธกิจของเสียวหมี่ ที่ต้องการให้ทุกคนสามารถเข้าถึงประสบการณ์ใช้งานสมาร์ทโฟนที่ยอดเยี่ยมได้

Redmi 9: ปฏิวัติประสบการณ์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น

Redmi 9 Series

นับเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi ระดับเริ่มต้นรุ่นแรก ที่มาพร้อมกล้องสี่ตัวที่มีคุณสมบัติรอบด้าน ซึ่ง Redmi 9ช่วยให้คุณเก็บช่วงเวลาสุดพิเศษในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว การถ่ายภาพกลุ่มมุมกว้าง หรือจะถ่ายรูประยะใกล้เก็บรายละเอียดต่างๆ และภาพพอร์เทรตแสนสวย Redmi9 ก็ทำได้หมด สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ได้ผสานรวมความสนุกสนานกับความสร้างสรรค์เข้าด้วยกันให้เกิดประสบการณ์การถ่ายรูปด้วยฟีเจอร์กล้องสุดพรีเมียม ที่รวมไปถึงโหมด kaleidoscopeหรือกล้องสลับลาย และชัตเตอร์ด้วยฝ่ามือ

ขณะเดียวกัน Redmi 9 ก็ทำให้คุณสามารถเห็นภาพได้มากขึ้นกับหน้าจอที่ใหญ่และดีขึ้น ด้วยหน้าจอแสดงผล FHD+ DotDrop ขนาด 6.53 นิ้ว Redmi 9 มอบประสบการณ์การมองเห็นแบบเหนือชั้นอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดที่อยู่เพียงปลายนิ้วของคุณ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองการป้องกันแสงสีฟ้าจากสถาบัน TÜV Rheinlandและป้องกันรอยขีดข่วนด้วยนวัตกรรม Corning® Gorilla® Glassอีกด้วย

ประสิทธิภาพชั้นเลิศรอบด้านของ Redmi9 มาพร้อมระบบประมวลผล MediaTek Helio G80 SoCซึ่งปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 107% มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5020mAh (typ) นอกจากนี้ Redmi9 ยังอัดแน่นไปด้วยพลังงานที่คุณต้องการสำหรับทำงานและความสนุกตลอดวัน และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18 วัตต์ เพื่อให้คุณประหยัดเวลาสามารถกลับไปเล่นเกมได้ 

Redmi 9 มาพร้อมดีไซน์สวยสะดุดตาที่คู่ควรให้คุณเป็นเจ้าของ ฝาหลังนั้นออกแบบมาให้มีการไล่เฉดสีสุดชิคและพื้นผิวเป็นคลื่นกันรอยนิ้วมือ เซ็นเซอร์นิ้วมือด้านหลังถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้อยู่ข้างๆกล้องหลังล้อมไปด้วยดีไซน์วงกลมล้ำสมัยที่มีอยู่ในไลน์ของสมาร์ทโฟน Redmi ในรุ่นปัจจุบัน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Redmi9 นั้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและปลดล็อคได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ Redmi9 ยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. IR blasterและ multi-functional NFC**และรองรับการใช้งานสองซิม ทั้งยังมีช่องเสียบการ์ด microSDเพิ่มได้อีกด้วย สำหรับ Redmi9 คุณจะมีได้ครบทุกฟังก์ชันโดยไม่ต้องสละฟีเจอร์ไหนไปเลย

Redmi 9 มาพร้อม 3 สีสวยให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Carbon Grey Ocean Green และSunset Purpleขณะนี้ Redmi 9 ขนาดความจุ 3GB+32GB ได้วางจำหน่ายในราคา 3,899 บาท และ Redmi 9ขนาดความจุ 4GB+64GBวางจำหน่ายในราคา 4,599 บาท วางจำหน่ายแล้วทุกช่องทาง ทั้ง Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงร้านค้า Jaymart, TG, Com7 ร้านค้า Mi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ผ่านการรับรองทั่วประเทศ

Redmi 9C: กล้องหลัง AI พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้ว

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ให้คุณใช้งานได้เพลิดเพลินมากขึ้น Redmi 9Cใช้ระบบประมวลผลทรงพลังด้วย MediaTek Helio G35 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-coreที่สามารถให้ความเร็วถึง 2.3GHzและยังมาพร้อมกล้องหลัง AIคุณภาพสูงที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายดาย ได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์

ข้อมูลการจัดจำหน่ายในประเทศไทยของ Redmi 9C จะประกาศให้ทราบภายหลังเมื่อสินค้ามีการจัดจำหน่าย    

Redmi 9A:  หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh

สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Dropเพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานชั้นเลิศและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 5000mAhให้คุณได้ใช้งานและเพลิดเพลินได้มากขึ้น Redmi 9Aนั้นใช้ระบบประมวลผลทรงพลังด้วย MediaTek Helio G25 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-coreซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลตลอดทั้งวัน และยังมีกล้องหลัง AIความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซลที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายได้และได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์

Redmi 9Aความจุ 2GB+32GBจะวางจำหน่ายในราคา 2,799 บาท วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada Shopee และ JD Central รวมไปถึงร้านค้า Banana TG Fone Jaymart ร้าน Mi Stores และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ผ่านการรับรองทั่วประเทศ เริ่มวางจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป 

คุณสมบัติหลัก:

  Redmi 9 Redmi 9A Redmi 9C 
หน้าจอแสดงผล 6.53’’ FHD+ Dot Drop display400 nit (typ) brightnessColor contrast ratio: 1500:1 (typ)NTSC: 70% (typ)TÜV Rheinland low blue light certificationReading mode 2.0Corning® Gorilla® Glass 3 6.53” HD+ Dot Drop display400 nit (typ) brightnessColor contrast ratio: 1500:1 (typ)TÜV Rheinland Low Blue Light certificationReading mode 6.53” HD+ Dot Drop display400 nit (typ) brightnessColor contrast ratio: 1500:1 (typ)TÜV Rheinland Low Blue Light certificationReading mode
กล้องหลัง 13MP wide-angle camera8MP ultra wide-angle camera, 118° FOV5MP macro camera2MP depth sensor 13MP main camera 13MP main camera, 2MP macro camera, 2MP depth sensor
กล้องหน้า 8MP selfie camera 5MP front camera 5MP front camera
ตัวเครื่อง Splash-proof nano coating
ขนาด 163.32 x 77.01 x 9.1mm 164.9 x 77.07 x 9.0mm 164.9 x 77.07 x 9.0mm
ระบบประมวลผล MediaTek Helio G8012nm process technologyOct-core CPU, up to 2.0 GHz MediaTek Helio G2512nm process technologyOcta-core CPU, up to 2.0 GHz MediaTek Helio G3512nm process technologyOcta-core CPU, up to 2.3 GHz
น้ำหนัก 198g 194g 196g
ความปลอดภัย Rear fingerprint sensorFace unlock AI Face unlock* AI Face unlock*
การชาร์จ 5020mAh (typ) battery18W wired fast charging10W in-box charger 5000mAh (typ) batterySupports 10W charging10W in-box charger 5000mAh (typ) batterySupports 10W charging10W in-box charger
เครือข่ายที่รองรับ Dual 4G standby Dual 4G standby Dual 4G standby
การเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0Multi-functional NFC**IR blaster Micro USB3.5mm headphone jackDual mic** Micro USB3.5mm headphone jackSupports multi-functional NFC**
ระบบปฏิบัติการ MIUI 11 based on Android 10 MIUI 12 based on Android 10 MIUI 12 based on Android 10
ความจุ 3GB + 32GB, 4GB + 64GB**Expandable storage up to 512GB 2GB+32GBExpandable storage up to 512GB 2GB+32GB, 3GB+64GB[2] Expandable storage up to 512GB
สี Carbon Grey, Ocean Green, Sunset Purple Granite Gray, Peacock Green, Sky Blue Midnight Gray, Sunrise Orange, Twilight Blue

** ความพร้อมใช้งานอาจแตกต่างกันไปตามตลาดต่าง ๆ

from:https://www.mobileocta.com/xiao-mi-launches-entry-level-smartphone-champion-redmi-9-series/

Xiaomi เปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นกับ Redmi 9 ซีรีส์

นับเป็นสมาร์ทโฟนในตระกูล Redmi ระดับเริ่มต้นรุ่นแรก ที่มาพร้อมกล้องสี่ตัวที่มีคุณสมบัติรอบด้าน ซึ่ง Redmi 9 ช่วยให้คุณเก็บช่วงเวลาสุดพิเศษในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายภาพอย่างรวดเร็ว การถ่ายภาพกลุ่มมุมกว้าง หรือจะถ่ายรูประยะใกล้เก็บรายละเอียดต่างๆ และภาพพอร์เทรตแสนสวย Redmi 9 ก็ทำได้หมด สมาร์ทโฟนเครื่องนี้ได้ผสานรวมความสนุกสนานกับความสร้างสรรค์เข้าด้วยกันให้เกิดประสบการณ์การถ่ายรูปด้วยฟีเจอร์กล้องสุดพรีเมียม ที่รวมไปถึงโหมด kaleidoscope หรือกล้องสลับลาย และชัตเตอร์ด้วยฝ่ามือ

ขณะเดียวกัน Redmi 9 ก็ทำให้คุณสามารถเห็นภาพได้มากขึ้นกับหน้าจอที่ใหญ่และดีขึ้น ด้วยหน้าจอแสดงผล FHD+ Dot Drop ขนาด 6.53 นิ้ว Redmi 9 มอบประสบการณ์การมองเห็นแบบเหนือชั้นอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดที่อยู่เพียงปลายนิ้วของคุณ นอกจากนี้ยังได้รับการรับรองการป้องกันแสงสีฟ้าจากสถาบัน TÜV Rheinland และป้องกันรอยขีดข่วนด้วยนวัตกรรม Corning® Gorilla® Glass อีกด้วย

ประสิทธิภาพชั้นเลิศรอบด้านของ Redmi 9 มาพร้อมระบบประมวลผล MediaTek Helio G80 SoC ซึ่งปรับปรุงพัฒนาประสิทธิภาพได้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนถึง 107% มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5020mAh (typ) นอกจากนี้ Redmi 9 ยังอัดแน่นไปด้วยพลังงานที่คุณต้องการสำหรับทำงานและความสนุกตลอดวัน และยังรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็ว 18 วัตต์ เพื่อให้คุณประหยัดเวลาสามารถกลับไปเล่นเกมได้

Redmi 9 มาพร้อมดีไซน์สวยสะดุดตาที่คู่ควรให้คุณเป็นเจ้าของ ฝาหลังนั้นออกแบบมาให้มีการไล่เฉดสีสุดชิคและพื้นผิวเป็นคลื่นกันรอยนิ้วมือ เซ็นเซอร์นิ้วมือด้านหลังถูกออกแบบมาเป็นพิเศษให้อยู่ข้างๆกล้องหลังล้อมไปด้วยดีไซน์วงกลมล้ำสมัยที่มีอยู่ในไลน์ของสมาร์ทโฟน Redmi ในรุ่นปัจจุบัน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้ทำให้ Redmi 9 นั้นสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกสบายและปลดล็อคได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ Redmi 9 ยังมาพร้อมกับช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. IR blaster และ multi-functional NFC** และรองรับการใช้งานสองซิม ทั้งยังมีช่องเสียบการ์ด microSD เพิ่มได้อีกด้วย สำหรับ Redmi 9 คุณจะมีได้ครบทุกฟังก์ชันโดยไม่ต้องสละฟีเจอร์ไหนไปเลย

Redmi 9 มาพร้อม 3 สีสวยให้เลือก ไม่ว่าจะเป็น Carbon Grey Ocean Green และ Sunset Purple ขณะนี้ Redmi 9 ขนาดความจุ 3GB+32GB ได้วางจำหน่ายในราคา 3,899 บาท และ Redmi 9 ขนาดความจุ 4GB+64GB วางจำหน่ายในราคา 4,599 บาท วางจำหน่ายแล้วทุกช่องทาง ทั้ง Shopee, Lazada และ JD Central รวมถึงร้านค้า Jaymart, TG, Com7 ร้านค้า Mi Store และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ผ่านการรับรองทั่วประเทศ

ทั้งนี้ Redmi 9 มีอีกสองรุ่นย่อย ได้แก่

Redmi 9C: กล้องหลัง AI พร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้ว

สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดนี้ มาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop เพื่อให้คุณได้ดื่มด่ำไปกับประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นกับแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ถึง 5000mAh ให้คุณใช้งานได้เพลิดเพลินมากขึ้น Redmi 9C ใช้ระบบประมวลผลทรงพลังด้วย MediaTek Helio G35 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-core ที่สามารถให้ความเร็วถึง 2.3GHz และยังมาพร้อมกล้องหลัง AI คุณภาพสูงที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายดาย ได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์

ข้อมูลการจัดจำหน่ายในประเทศไทยของ Redmi 9C จะประกาศให้ทราบภายหลังเมื่อสินค้ามีการจัดจำหน่าย

Redmi 9A: หน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5000mAh

สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาพร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6.53 นิ้วแบบ Dot Drop เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานชั้นเลิศและแบตเตอรี่ขนาดใหญ่จุใจถึง 5000mAh ให้คุณได้ใช้งานและเพลิดเพลินได้มากขึ้น Redmi 9A นั้นใช้ระบบประมวลผลทรงพลังด้วย MediaTek Helio G25 ชิปเซ็ตเกมมิ่ง octa-core ซึ่งจะทำให้คุณได้รับประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลตลอดทั้งวัน และยังมีกล้องหลัง AI ความละเอียดถึง 13 ล้านพิกเซลที่คุณถ่ายภาพได้รวดเร็วและง่ายได้และได้ภาพสวยคมชัดในทุกสถานการณ์

Redmi 9A ความจุ 2GB+32GB จะวางจำหน่ายในราคา 2,799 บาท วางจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ Lazada Shopee และ JD Central รวมไปถึงร้านค้า Banana TG Fone Jaymart ร้าน Mi Stores และร้านตัวแทนจำหน่ายที่ผ่านการรับรองทั่วประเทศ เริ่มวางจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันที่ 15 กรกฎาคม 2563 เป็นต้นไป


ข่าว: Xiaomi เปิดตัวสุดยอดสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นกับ Redmi 9 ซีรีส์ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2020/07/15/xiaomi-redmi-9-series.html

เปิดตัว Redmi 9A และ Redmi 9C มาพร้อมจอทรงหยดน้ำ, กล้องหลัง 13 MP และแบตขนาดใหญ่ เริ่มต้นเพียง 2,600 บาท

Xiaomi ประกาศเปิดตัว Redmi 9A และ Redmi 9C อย่างเป็นทางการที่ประเทศมาเลเซีย โดยเป็นสมาร์ตโฟนระดับเริ่มต้นราคาประหยัดรุ่นใหม่ ที่มาพร้อมจุดเด่นจอทรงหยดน้ำขนาดใหญ่ 6.53 นิ้ว, กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล และแบตเตอรี่สุดอึด 5,000mAh ในราคาเริ่มต้นเพียง 2,600 บาท

สเปก Redmi 9A

Redmi 9A

มาพร้อมหน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ Dot Drop Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.0GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G25 SoC (12nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR GE8320 (650 MHz), RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12

ติดตั้งกล้องหลังเดี่ยวความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รวมทั้งติดตั้งเซ็นเวอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 5.0, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

ทั้งนี้ Redmi 9A มีให้เลือก 3 สีคือ Granite Gray, Peacook Green และ Sky Blue โดยมีราคาอยู่ที่ 359 ริงกิตหรือประมาณ 2,600 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศมาเลเซียแบบ Flash Sale ผ่านทางเว็บ Lazada ในวันที่ 7 กรกฎาคมนี้

สเปก Redmi 9C

มาพร้อมหน้าจอแสดงผลทรงหยดน้ำ Dot Drop Display แบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1600 พิกเซล ขนาด 6.53 นิ้ว ในอัตราส่วน 20:9

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.3GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio G35 SoC (12nm), หน่วยประมวลผลกราฟิก PowerVR GE8320 (680 MHz), RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 10 ครอบทับด้วย MIUI 12

ติดตั้งกล้องหลัง 3 ตัว Triple Camera พร้อมไฟแฟลช LED ประกอบด้วย

  • กล้องหลักความละเอียด 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 และระบบ PDAF
  • กล้องตัวที่ 2 เลนส์ Macro ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4
  • กล้องตัวที่ 3 เลนส์ Depth ความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4

ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

รวมทั้งติดตั้งเซ็นเวอร์สแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, Wi-Fi Direct, hotspot, Bluetooth 5.0, พอร์ตอินฟราเรด, พอร์ต USB Type-C และใช้แบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh

ทั้งนี้ Redmi 9C มีให้เลือก 3 สีคือ Orange, Black และ Blue โดยมีราคาอยู่ที่ 429 ริงกิตหรือประมาณ 3,100 บาท และจะเริ่มวางจำหน่ายที่ประเทศมาเลเซียในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้

ที่มา : Gsmarena

from:https://www.mobileocta.com/redmi-9a-and-redmi-9c-announced/