คลังเก็บป้ายกำกับ: NOKIA_3.1

“ยิ่งใช้ยิ่งดีขึ้นทุกวัน” ผู้ใช้งาน Nokia 3.1 อัพเกรดระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ได้แล้ววันนี้

 

บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ประกาศอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie รุ่นล่าสุดให้แก่ผู้ใช้งาน Nokia 3.1 แล้ววันนี้

โดยการอัปเดตระบบปฎิบัติการเป็น Android 9 Pie ในครั้งนี้ของ Nokia 3.1 ถือเป็นการอัปเดตระบบปฏิบัติการตัวอักษรที่สองของระบบ OS ที่อัพเกรดจากระบบ Android Nougat เป็นระบบ Android Oreo ในเดือนกันยายน 2561 ที่ผ่านมา

Nokia 3.1

Nokia 3.1 ถือเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์รุ่นล่าสุดของโนเกีย ที่ได้รับการอัพเกรดระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ผู้ใช้งานจะได้สัมผัสเทคโนโลยี AI อัจฉริยะที่สามารถเรียนรู้พฤติกรรมเพื่อประหยัดเวลาในการใช้งาน เพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่ หรือคาดการณ์การใช้งานในอนาคต

ด้วยระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ที่มาพร้อมกับ Nokia 3.1 ผู้ใช้จะได้รับความเพลิดเพลินไปกับฟีเจอร์ต่าง ๆ อาทิ App Actions ที่สามารถคำนวนการใช้งานครั้งถัดไปของคุณได้ Adaptive Battery ที่ปรับเปลี่ยนและคาดการณ์การใช้งานของผู้ใช้เพื่อจัดอันดับความสำคัญของการใช้แบตเตอรี่ Digital Wellbeing ที่สามารถเรียนรู้ข้อมูลการใช้งาน พร้อมทั้งให้ข้อมูลเชิงลึกถึงพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณ

นอกจากนี้ระบบปฏิบัติการ Android 9 Pie ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ล่าสุด อย่าง ฟังก์ชั่น Slices ที่ระบุข้อมูลสำคัญต่าง ๆ ของแอปพลิเคชันที่คุณชื่นชอบ เพื่อให้สามารถเลือกใช้ได้ง่ายยิ่งขึ้น และ Adaptive Brightness ที่ปรับค่าความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ โดยเรียนรู้จากการใช้งานจริงของคุณ

ฟีเจอร์หลักของ Android 9 Pie

  • App Actions ความสามารถในการคาดการณ์ว่าคุณจะใช้งานแอปพลิเคชันอะไรต่อไปและเตรียมปุ่มกดไว้ให้คุณใช้งานง่ายขึ้น
  • Slices ระบุส่วนต่างๆ ของแอปพลิเคชันที่คุณโปรดปราน และใช้งานเป็นประจำเพื่อจัดการให้คุณสามารถเลือกใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น
  • Adaptive Battery ระบบการเรียนรู้แบบ Deep Learning ที่เข้าใจรูปแบบการใช้งานและจัดอันดับความสำคัญของการใช้แบตเตอรี่บนแอปพลิเคชันสำคัญๆ
  • Adaptive Brightness ปรับค่าความสว่างหน้าจออัตโนมัติ โดยเรียนรู้จากการตั้งค่าและปรับเปลี่ยนจากการใช้งานจริงของคุณในทุก ๆ วัน
  • New System Navigation มาพร้อมฟังก์ชัน Home ที่สามารถคาดการณ์และแนะนำทางลัดเข้าแอปพลิเคชันที่ใช้งานบ่อย (ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าเปิดปิดได้เอง)
  • Digital Wellbeing ให้ข้อมูลเชิงลึกถึงพฤติกรรมการใช้งานสมาร์ทโฟนของคุณ และให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกเชื่อมต่อหรือตัดการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนได้ตามต้องการ

 

from:http://mobileocta.com/it-just-keeps-getting-better-nokia-3-1-gets-a-fresh-slice-of-android-9-pie/

Nokia 3.1 ได้รับการอัพเดท Android Pie แล้ว

เมื่อปลายเดือนที่แล้ว HMD ได้เปิดตัวอัพเดต Android Pie สำหรับ Nokia 3.1 Plus และตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ Nokia 3.1 จะได้รับการอัพเกรดเป็น Android Pie ซึ่งแตกต่างจาก Nokia 3.1 Plus ซึ่งได้รับ Android Pie ช้ากว่าที่วางแผนไว้ ส่วนการเปิดตัวของ Pie สำหรับ Nokia 3.1 นั้นตรงตามกำหนดเวลา

การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของการอัปเดตไม่ได้ระบุออกมา แต่เป็น Android 9 Pie ที่จะเพิ่มการอัพเกรดใหม่ๆเช่นคุณสมบัติเช่นท่าทางนำทาง, UI ที่ออกแบบใหม่, ความสว่างที่ปรับ เพ่ื่อประหยัดแบตเตอรี่ โดย Nokia 3.1 เปิดตัวเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว และเป็นสมาร์ทโฟนโครงการ Android One มาพร้อมกับสัญญา สองปีของการอัปเดตเวอร์ชัน และการปรับปรุงความปลอดภัยสามปีดังนั้นมีความเป็นไปได้ว่าในอนาคตจะได้การอัพเกรดเป็น Android Q

ข่าว: Nokia 3.1 ได้รับการอัพเดท Android Pie แล้ว มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/03/15/nokia-3-1-gets-android-pie-update.html

HMD Global เผยกำหนดการอัพเดท Android Pie ให้กับสมาร์ทโฟน Nokia ทั้งหมด 8 รุ่น

Juho Sarvikas ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ HMD Global ประกาศ Roadmap สำหรับปล่อยระบบปฏิบัติการ Android Pie ออกมาให้สมาร์ทโฟน Nokia ได้อัพเดทภายในไตรมาสที่ 1 – 2 ของปี 2019 โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคม Nokia 8 และ Nokia 8 Sirocco เริ่มได้รับการอัพเดทไปแล้ว ส่วนรุ่นอื่นๆ จะได้รับตามช่วงเวลาต่อไปนี้

  • Nokia 5 – มกราคม 2019
  • Nokia 3.1 Plus – มกราคม 2019
  • Nokia 6 – ภายในไตรมาสที่ 1
  • Nokia 5.1 – ภายในไตรมาสที่ 1
  • Nokia 3.1 – ภายในไตรมาสที่ 1
  • Nokia 2.1 – ภายในไตรมาสที่ 1
  • Nokia 3 – ช่วงต้นของไตรมาสที่ 2
  • Nokia 1 – ช่วงต้นของไตรมาสที่ 2

ที่มา – Juho Sarvikas

from:http://www.flashfly.net/wp/240014

Nokia 3.1 Plus เตรียมเปิดตัวในอินเดีย มาพร้อมหน้าจอและแบตขนาดใหญ่

เรียกได้ว่าตลาดสมาร์ทโฟนราคาไม่แพงยังคงมีการเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดโนเกีย ได้เตรียมเปิดตัว Nokia 3.1 Plus ในประเทศอินเดีย พร้อมหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว รวมทั้งมีแบตขนาดใหญ่ถึง 3,500 mAh เรียกว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับราคาไม่แพงที่มีสเปคคุ้มค่าเมื่อเทียบกับราคา

สเปคของ Nokia 3.1 Plus

  • มาร้อมกับจอขนาด 6 นิ้ว สัดส่วน 18:9 ความละเอียด 720 x 1,440px ไม่มีรอยบาก
  • กล้องเลนส์คู่ความละเอียด 13MP f/2.0 และ 5MP
  • มาพร้อมชิปของ MediaTek Helio P22
  • มาพร้อม แรม 2GB ความจุ 16GB และรุ่นแรม 3GB ความจุ 32GB
  • รองรับ ไมโคร SD สูงสุด 400GB
  • แบต 3,500mAh โนเกียเคลมว่าใช้งานได้ 2 วัน
  • ราคาในอินเดีย ประมาณ 5,000 บาท

ข่าว: Nokia 3.1 Plus เตรียมเปิดตัวในอินเดีย มาพร้อมหน้าจอและแบตขนาดใหญ่ มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2018/10/12/nokia-3-1-plus-with-a-6-screen-larger-battery.html

รีวิว : Nokia 3.1 สมาร์ทโฟน Android One ดีไซน์หรู พร้อมฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้า ในราคาเบาๆ

ย้อนกลับไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา HMD Global ได้เปิดตัวสมาร์ทโฟน 3 รุ่นใหม่คือ Nokia 5.1, Nokia 3.1 และ Nokia 2.1 ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอัปเกรดของ Nokia 5, Nokia 3 และ Nokia 2 ที่เปิดตัวในปีที่แล้ว โดยรุ่นที่นำเข้ามาจำหน่ายในบ้านเราก่อนเป็นรุ่นแรกก็คือ Nokia 3.1 

อุปกรณ์ในกล่อง

กล่องแพ็คเกจจิ้งของ Nokia 3.1 เป็นกล่องกระดาษแข็งขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่เกินไป ด้านหน้ากล่องมาพร้อมภาพ Nokia 3.1 อยู่ตรงกลาง โดยมีรูปคนจับมือกันเป็นภาพแบ็คกราวน์ และโลโก้ตัวอักษร Nokia ส่วนด้านหลังมีภาพ Nokia 3.1 แบบชัดๆ เห็นทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง พร้อมสเปกเด่น และข้อมูลต่างๆ

เมื่อเปิดกล่องออกมาจะเห็นตัวเครื่อง Nokia 3.1 พร้อมอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ, สายดาต้าลิงค์ microUSB, ชุดหูฟังสเตอริโอ, เข็มจิ้มซืมการ์ด, คู่มือการใช้งาน และใบรับประกันสินค้า

รูปลักษณ์ดีไซน์

Nokia 3.1 รูปลักษณ์ดีไซน์ภายนอกยังคงยึดดีไซน์เดิมของ Nokia 3 โดยปรับเปลี่ยนให้ขอบมุมมีความโค้งมนมากขึ้น ตัวบอดี้เป็นวัสดุโลหะคู่กับฝาหลังพลาสติกโพลีคาร์บอเนต ด้วยขนาด 146.25 x 68.65 x 8.7 มม. และน้ำหนัก 138.3 กรัม เรียกว่าใกล้เคียงกับ Nokia 3 เลย

รูปลักษณ์ทั่วไปเริ่มจากด้านหน้าเครื่อง ครอบด้วยกระจกกันรอยขอบโค้ง 2.5D Corning Gorilla Glass 3 ด้านบนเริ่มจากซ้ายไปขวามีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล, เซ็นเซอร์ปรับแสง และเซ็นเซอร์ปรับหมุนหน้าจออัตโนมัติ, ช่องลำโพงสนทนา และโลโก้ Nokia

ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1440 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 18::9

พลิกมาด้านหลังเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากโพลีคาร์บอเนต โดยตรงกลางด้านบนสุดมีช่องไมโครโฟนตัดเสียง ถัดลงมามีเลนส์กล้องดิจิทัลความละเอียด 13 พิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนตรงกลางมีตัวอักษรโลโก้ Nokia และด้านล่างมีโลโก้ Android One

ด้านซ้ายข้างเครื่อง มีช่องใส่ SIM Card ซึ่งรองรับ 2 SIM แบบ nanoSIM กับช่องใส่การ์หน่วยความจำภายนอก microSD Card

ด้านขวาข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง กับปุ่ม Power สำหรับเปิด/ปิดเครื่อง

ด้านบนเครื่องมีช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม. และแถบเส้นเสาอากาศ 2 เส้น

ด้านท้ายเครื่องมีช่องไมโครโฟน, พอร์ต microUSB, ช่องลำโพงเสียง และแถบเส้นเสาอากาศ 2 เส้น

สเปก Nokia 3.1

ขนาด 146.25 x 68.65 x 8.7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 138.3 กรัม
หน้าจอ IPS LCD 16 ล้านสี ความละเอียด HD+ 720 x 1440 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว พร้อมกระจกกันรอย Gorilla Glass 3
หน่วยประมวลผล Octa Core 1.5 GHz Cortex-A53, ชิปเซ็ท Mediatek MT6750, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T860MP2
RAM 2GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 16GB
microSD Card รองรับสูงสุด 256GB
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ออโต้โฟกัส พร้อมไฟแฟลช LED กล้องหน้า ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล
ระบบปฏิบัติการ Android 8.0 Oreo (Android One)
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot, GPS, Bluetooth 4.2, microUSB 2.0
รองรับระบบ 4G LTE band 1, 3, 5, 7, 8, 20, 38, 40 และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 2,990 mAh
ราคา 4,990 บาท

 

ประสิทธิภาพ

Nokia 3.1 มาพร้อมหน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core 1.5 GHz Cortex-A53, ชิปเซ็ท Mediatek MT6750, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali-T860MP2. RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.0 Oreo (Android One)

จากการลองทดสอบโดยเล่นเกมแบบ 3 มิติที่มีภาพกราฟิกสูงๆ อย่างเกม ROV ปรากฏว่าสามารถเล่นได้ แต่อาจจะมีสะดุดบ้าง และใช้เวลาในการโหลดเกมนาน เนื่องจากสเปกเครื่องที่มี RAM เพียงแค่ 2GB เท่านั้น ส่วนเกม Identity V นั้นสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด หรืออาการหน่วงให้เห็นเลย รวมถึงการใช้งานทั่วไปก็ทำได้ดี แม้ว่าจะใช้เวลาในการโหลดเกมนานไปนิดนึง

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Nokia 3.1 ผ่านแอป Geekbench 4

ด้านการถ่ายภาพ

Nokia 2 มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และระบบออโต้โฟกัส รวมทั้งมีโหมด HDR, ตั้งเวลาถ่ายอัตโนมัติ, โหมดพาโนรามา และรูรับแสง f/2.7 โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 3264 x 2448 ส่วนวิดีโอบันทึกได้ระดับ HD 720 x 1280 พิกเซล

ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสง f/2.7  โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 1920 x 2560 ส่วนวิดีโอบันทึกได้ระดับ HD 720 x 1280 พิกเซล

ตัวอย่างรูปจากกล้อง

#bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 { width: 1254px; justify-content: center; margin-left: auto; margin-right: auto; background-color: rgba(255, 255, 255, 0.00); padding-left: 4px; padding-top: 4px; max-width: 100%; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item { justify-content: flex-start; max-width: 250px; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item > a { margin-right: 4px; margin-bottom: 4px; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item0 { padding: 0px; background-color: #FFFFFF; border: 0px none #CCCCCC; opacity: 1.00; filter: Alpha(opacity=100); border-radius: 0; box-shadow: 0px 0px 0px #888888; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item1 img { max-height: none; max-width: none; padding: 0 !important; } @media only screen and (min-width: 480px) { #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item0 { transition: all 0.3s ease 0s;-webkit-transition: all 0.3s ease 0s; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item0:hover { -ms-transform: scale(1.1); -webkit-transform: scale(1.1); transform: scale(1.1); } } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-item1 { padding-top: 56%; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-title1 { position: absolute; top: 0; z-index: 100; width: 100%; height: 100%; display: flex; justify-content: center; align-content: center; flex-direction: column; filter: Alpha(opacity=0); opacity: 0; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-title2, #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-ecommerce2 { color: #CCCCCC; font-family: segoe ui; font-size: 16px; font-weight: bold; padding: 2px; text-shadow: 0px 0px 0px #888888; max-height:100%; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-play-icon2 { font-size: 32px; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .bwg-container-0 .bwg-ecommerce2 { font-size: 19.2px; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 #spider_popup_overlay_0 { background-color: #000000; opacity: 0.70; filter: Alpha(opacity=70); }

/*pagination styles*/ #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .tablenav-pages_0 { text-align: center; font-size: 12px; font-family: segoe ui; font-weight: bold; color: #666666; margin: 6px 0 4px; display: block; height: 30px; line-height: 30px; } @media only screen and (max-width : 320px) { #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .displaying-num_0 { display: none; } } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .displaying-num_0 { font-size: 12px; font-family: segoe ui; font-weight: bold; color: #666666; margin-right: 10px; vertical-align: middle; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .paging-input_0 { font-size: 12px; font-family: segoe ui; font-weight: bold; color: #666666; vertical-align: middle; } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .tablenav-pages_0 a.disabled, #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .tablenav-pages_0 a.disabled:hover, #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .tablenav-pages_0 a.disabled:focus { cursor: default; color: rgba(102, 102, 102, 0.5); } #bwg_container1_0 #bwg_container2_0 .tablenav-pages_0 a { cursor: pointer; font-size: 12px; font-family: segoe ui; font-weight: bold; color: #666666; text-decoration: none; padding: 3px 6px; margin: 0; border-radius: 0; border-style: solid; border-width: 1px; border-color: #E3E3E3; background-color: #FFFFFF; opacity: 1.00; filter: Alpha(opacity=100); box-shadow: 0; transition: all 0.3s ease 0s;-webkit-transition: all 0.3s ease 0s; }

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่มีขนาดความจุ 4,100 mAh ตามสเปกระบุว่าสามารถเปิดเครื่องสแตนบายด์ได้นานสูงสุด 2 วัน ทดสอบโดยลองใช้งานเชื่อมต่อกับเครือข่าย 3G/4G และ Wi-Fi ใช้งานอินเทอร์เน็ต เล่นเกม และใช้งานทั่วไป ปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 17-19 ชั่วโมง แต่ถ้าดูคลิปวิดีโอผ่าน YouTube หรือเล่นเกมก็อาจจะหมดไวขึ้น

นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดพลังงานอย่าง Battery saver ที่ช่วยยืดระยะเวลาการใช้งานได้นานขึ้นประมาณ 15% และยังรองรับการชาร์จเร็ว Quick Charge อีกด้วย

บทสรุป

Nokia 2 ถือเป็นสมาร์ทโฟนน้องเล็กสุดของสมาร์ทโฟน Nokia ในตอนนี้ที่มาพร้อมจุดเด่นในเรื่องของแบตเตอรี่สุดอึด 4,100 mAh ที่สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 2 วันโดยไม่ต้องพกแบตเตอรี่สำรอง นอกจากนี้ยังใช้ระบบปฎิบัติการ Android 7.1.1 Nougat รองรับการอัปเดตเป็น Android Oreo (Go Edition) ได้ 

ส่วนสเปกอืนๆ ก็มีมาให้ครบครันทั้งกล้องหน้าและกล้องหลัง, แอป Google รวมถึงใช้วัสดุและงานประกอบที่มีความแข็งแรงตามแบบฉบับ Nokia  ทั้งนี้ Nokia 2 มีให้เลือก 2 สีคือ สีเงิน–ดำ (Pewter/Black) และ สีเงิน–ขาว โดยมีราคาอยู่ที่ 3,490 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ร้านค้าและตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ

คลิกสั่งซื้อ Nokia 2 ออนไลน์ได้ที่นี่ >>> https://goo.gl/j5ju6e

 

from:http://mobileocta.com/review-nokia-3-1/

พรีวิว Nokia 3.1 สมาร์ทโฟน Android One ขนาด 5.2 นิ้ว ให้สัมผัสแบบพรีเมี่ยมราคาเพียง 4,990 บาท

HMD Global สานต่อสมาร์ทโฟน Nokia 3 ในปีที่แล้ว ด้วย Nokia 3.1 พร้อมยกระดับการออกแบบด้วยวัสดุคุณภาพจากขอบอลูมิเนียมผสานกระจก Corning Gorilla Glass แบบโค้ง ทำให้ Nokia 3.1 มีดีไซน์สวยงามเหมือนเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยม
Nokia 3.1 มาพร้อมจอแสดงผล HD+ (1440 x 720 พิกเซล) ขนาด 5.2 นิ้ว ไร้รอยบาก ให้อัตราส่วนภาพ 18:9 ป้องกันรอยด้วยกระจก Corning Gorilla Glass
เหนือจอแสดงผล มาพร้อมกล้องเซลฟี่ 8 ล้านพิกเซล ลำโพงหูฟัง และฝังเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงกับระยะห่าง นอกจากนี้ภายในยังมากับเซ็นเซอร์ Gyroscope จึงรองรับแอพพลิเคชั่นหรือเกม AR หรือ VR

ใต้จอแสดงผลไม่มีปุ่มโฮมหรือปุ่มกดแบบ Physical เพราะฝังปุ่นนำทางไว้กับ User Interface ทำให้พื้นที่ขอบจอด้านล่างเหมือนจะหนาไปสักหน่อย แต่ก็ช่วยให้จับถือสมาร์ทโฟนได้อย่างถนัด โดยเฉพาะเวลาใช้งานในแนวนอนเพื่อเล่นเกม
ด้านหลังติดตั้งกล้องตัวหลักไว้ตรงกึ่งกลาง พร้อมแฟลช LED มีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนอยู่เหนือเลนส์กล้อง ถัดลงมาจะเห็นโลโก้ Nokia และส่วนล่างสกรีนโลโก้ Android One ภายใต้แผงหลังฝังแบตเตอรี่ความจุ 2990mAh
ขอบด้านข้างใช้วัสดุอลูมิเนียมมีความบาง 8.7 มิลลิเมตร ฝั่งขวามือมีปุ่มปรับระดับเสียง ถัดลงมาเป็นปุ่มเพาเวอร์
อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่ซิมการ์ด รองรับขนาดนาโนทั้ง 2 ช่อง ส่วนถาดใส่การ์ด MicroSD ทำแยกออกมาอีกช่องหนึ่ง ไม่ต้องไปแย่งใช้กับช่องซิมที่สอง
ด้านบนพบกับช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร
ด้านล่างประกอบไปด้วยไมโครโฟน, พอร์ตเชื่อมต่อสาย Micro USB และ ลำโพงตัวหลัก
Nokia 3.1 ชูจุดเด่นที่ระบบปฏิบัติการ Android แบบเพียวๆ ไม่มีการสร้าง User Interface มาสวมทับ ตอบสนองการใช้งานได้ลื่นไหล และยังได้รับการอัพเกรดเวอร์ชั่นใหม่อย่างสม่ำเสมอในช่วง 2 ปีแรก นั่นหมายถึง Android P เวอร์ชั่นล่าสุดที่จะพร้อมอัพเดทในปลายปี 2018 ก็จะมาถึง Nokia 3.1 ด้วยเช่นกัน
สำหรับชิปประมวลผลเลือกใช้ MediaTek MT6750N Octa Core 1.5GHz ด้านความจำทำออกมา 2 เวอร์ชั่น คือ RAM 2GB จับคู่กับ ROM 16GB และ RAM 3GB จับคู่กับ ROM 32GB ทั้ง 2 เวอร์ชั่นยังสนับสนุนการ์ด MicroSD สูงสุด 128GB
Nokia 3.1 มาพร้อมกล้องด้านหลัง 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 พร้อมแฟลช LED มีระบบออโตโฟกัส รองรับโหมดถ่ายภาพ HDR ส่วนกล้องเซลฟี่ มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.0 มุมกว้าง 84.6 องศา

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย Nokia 3.1

เชื่อว่าราคา 4,990 บาท คงไม่สูงจนเกินไปนัก สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนเพื่อตอบโจทย์การใช้งานพื้นฐาน แต่ต้องการความเสถียรของระบบ คุณภาพการผลิต และใช้แบรนด์ที่วางใจได้
Nokia 3.1 เชื่อมโยงผู้ใช้งานกับโลกอินเตอร์เน็ตผ่าน 4G LTE และ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac จอแสดงผล HD+ อัตราส่วนภาพ 18:9 เหมาะสำหรับการดูหนังออนไลน์ ประสิทธิภาพของชิปประมวลผลเพียงพอสำหรับการท่องโลกโซเชี่ยล และเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลา โดยที่แบตเตอรี่ก็ให้อายุนานเพียงพอตลอดวัน

from:http://www.flashfly.net/wp/226265

New Nokia 3.1 พร้อมวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย เพียง 4,990 บาท

ธนเดช ช่วงแก้ววิเศษ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ร่วมกับสุทธิพงศ์ จันทร์ภักดี ผู้ช่วยผู้อำนวยการแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า บริษัท บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบริษัท บีเจซี ประกาศวางจำหน่าย New Nokis 3.1 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดคุณภาพพรีเมียมในราคาสุดคุ้มด้วยหน้าจอ HD 5.2 นิ้ว และกล้องหลัง 13 ล้านพิกเซล มีฟีเจอร์ปลดล็อกด้วยใบหน้าคุณภาพเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธง มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android One ให้การใช้งานที่ปลอดภัยลื่นไหลไม่มีสะดุด New Nokia 3.1 มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ สี Black/Chrome และ White/Iron มีหน่วยความจำ RAM 2GB ความจุ 16GB พร้อมวางจำหน่ายแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศในราคาเพียง 4,990 บาท

พิเศษสุดสำหรับลูกค้าที่ซื้อ New Nokia 3.1 ตั้งแต่วันนี้รับฟรีอินเตอร์แนชั่นแนลพาวเวอร์แบงค์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นมูลค่า 590 บาท ติดตามข่าวสารข้อมูลและกิจกรรมของโนเกียเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/NokiamobileTH/

from:http://www.flashfly.net/wp/223662

New Nokia 3.1 เปิดจองที่บิ๊กซีพร้อมของสมนาคุณสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เพียง 4,990 บาท

ธนเดช ช่วงแก้ววิเศษ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอชเอ็มดี โกลบอล เจ้าของลิขสิทธิ์             การจัดจำหน่ายสมาร์ทโฟนแบรนด์โนเกียทั่วโลกแต่เพียงผู้เดียว ร่วมกับ บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ห้างค้าปลีกในกลุ่มบริษัทบีเจซี มอบสิทธิพิเศษให้กับสาวกโนเกีย ในการจอง New Nokia 3.1 สมาร์ทโฟน       รุ่นล่าสุดคุณภาพพรีเมียมในราคาที่จับต้องได้

โดดเด่นด้วยหน้าจอ HD 5.2 นิ้ว และกล้องหลัง13 ล้านพิกเซล ปลดล็อกด้วยใบหน้า มาพร้อมระบบปฏิบัติการ Android One ให้คุณสัมผัสประสบการณ์ การใช้งานที่ลื่นไหล   ไม่มีสะดุด ในราคาเพียง 4,990 บาท ผู้ที่สนใจสามารถจอง New Nokia 3.1 ได้ ตั้งแต่วันที่ 5-11 กรกฎาคมนี้ พิเศษสำหรับลูกค้าที่สั่งจอง รับฟรีอินเตอร์แนชั่นแนลพาวเวอร์แบงค์ ลิมิเต็ดอิดิชั่นมูลค่า 590 บาท และกระเป๋าโนเกียอเนกประสงค์ดีไซน์สุดหรูมูลค่า 690 บาท เฉพาะที่โซนเครื่องใช้ไฟฟ้า โทรศัพท์มือถือ และไอที         ที่บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศเท่านั้น

from:http://www.flashfly.net/wp/223118

เปิดจอง New Nokia 3.1 ในราคา 4,990 บาท มีเฉพาะที่ Big C เท่านั้นพร้อมรับของแถมมูลค่า 1,280 บาท

เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา กับ The New Nokia 3.1 มือถือ Android One ราคาประหยัด ซึ่ง Nokia 3 นั้น ถือเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมมากๆ เมื่อตอนวางจำหน่ายปีที่แล้ว เพราะมีสเปคที่สามารถใช้งานทั่วไปได้แบบลื่นๆ แต่มีราคาสบายๆ ที่ใครก็หาซื้อได้ และตอนนี้ The New Nokia 3.1 ก็ได้เดินทางมาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับค่าตัวสุดประหยัดเช่นเคยที่ 4,990 บาท เท่านั้น

โดย New Nokia 3.1 ในประเทศไทยจะวางจำหน่ายแบบ Exclusive เฉพาะที่ห้างสรรพสินค้า Big C เท่านั้น โดยเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันนี้ – 11 กรกฎาคม 2561 และสำหรับสเปคเต็มๆ ก็ตามนี้เลย

สเปค New Nokia 3.1

  • หน้าจอขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด HD+ อัตราส่วน 18:9
  • CPU : Mediatek 6750
  • GPU : Mali-T860MP2
  • RAM : 3GB
  • ความจุ : 32GB รองรับ MicroSD Card 128GB
  • กล้องหลัง : 13MP (f/2.0), AF
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
  • ระบบสแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่อง
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, gyro, proximity, compass
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, WiFi Direct, hotspot, BT 4.2, MicroUSB 2.0
  • แบตเตอรี่ : 2,990 mAh
  • ระบบ Android 8.0 Oreo

พิเศษ! สำหรับผู้ที่สั่งจองกับทาง Big C ภายในวันที่ 11 กรกฎาคม 2561 รับไปเลยฟรีๆ Powerbank ขนาด 6,000 mAh (มูลค่า 590 บาท) และเป้เอนกประสงค์ Nokia (มูลค่า 690 บาท) ใครที่สนใจก็รีบไปจองกันได้ที่ห้างสรรพสินค้า Big C สาขาใกล้บ้านกันได้

from:https://droidsans.com/the-new-nokia-3-1-exclusive-big-c/

เปิดตัว Nokia 5.1, Nokia 3.1 และ Nokia 2.1 อัปเกรดจอใหญ่ขึ้น และรัน Android 8.1 Oreo

HMD Global ประกาศเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่พร้อมกัน 3 รุ่น ประกอบด้วย Nokia 5.1, Nokia 3.1 และ Nokia 2.1 โดยเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางรุ่นอัปเกรดของ Nokia 5, Nokia 3 และ Nokia 2 ที่เปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้ว มาพร้อมจุดเด่นจอแบบ Full Screen 18:9 (Nokia 5.1 และ Nokia 3.1) และรัน Android 8.1 Oreo ในราคาย่อมเยาว์เหมือนเดิม

Nokia 5.1

Nokia

ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากบล็อกอลูมิเนียมซีรีส์ 6000 ขึ้นรูปชิ้นเดียวแบบ Unibody โดยผ่านกระบวนการผลิตอย่างพิถีพิถันถึง 33 ขั้นตอนทั้งการอโนไดซ์ และขัดเกลาเพื่อให้สมาร์ทโฟนออกมาสวยหรู ด้วยขนาด 151.1 x 70.73 x 8.27 มม.

หน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ IPS LCD ความละเอียด FHD+ 1080 x 2160 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 18::9 และครอบทับด้วยกระจกขอบโค้ง 2.5D

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 2.1GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek Helio P18, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali T720 MP3, RAM 2GB/3GB,

หน่วยความจำภายใน 16GB/32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo

ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่ Dual Tone LED และระบบ PDAF ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง 81.6 องศา

รวมทั้งติดตั้งสแกนลายนิ้วมือที่ด้านหลังเครื่อง, รองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, Bluetooth 4.2, พอร์ต microUSB 2.0, NFC และแบตเตอรี่ความจุ 2,970mAh

ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Nokia 5.1 มีให้เลือก 3 สีคือ Copper, Tempered Blue และ Black ราคาเริ่มต้นที่ 189 ยูโรหรือประมาณ 6,996 บาท เริ่มวางจำหน่ายเดือนกรกฎาคม 2018 

Nokia 3.1 

ตัวเครื่องใช้วัสดุที่จากโลหะที่ถูกเคลือบด้วยการชุบ พร้อมฝาหลังโพลีคาร์บอเนต ด้วยขนาด 146.25 x 68.65 x 8.7 มม. และน้ำหนัก 138.3 กรัม หน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ IPS LCD ความละเอียด HD+ 720 x 1440 พิกเซล ขนาด 5.2 นิ้ว ในอัตราส่วน 18::9 และครอบทับด้วยกระจกกันรอย Gorilla Glass

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Octa Core ความเร็ว 1.5GHz โดยใช้ชิปเซ็ท MediaTek MT6750, หน่วยประมวลผลกราฟิก Mali T860 MP2, RAM 2GB/3GB,

หน่วยความจำภายใน 16GB/32GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 256GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo

ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED และรูรับแสง f/2.0 ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมเลนส์มุมกว้าง 84.6° องศา และรูรับแสง f/2.0

รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, Bluetooth 4.2, พอร์ต microUSB 2.0, NFC และแบตเตอรี่ความจุ 2,990mAh

ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Nokia 3.1 มีให้เลือก 3 สีคือ Blue/Copper, Black/Chrome และ White/Iron ราคาเริ่มต้นที่ 139 ยูโร หรือประมาณ 5,145 บาท เริ่มวางจำหน่ายในเดือนมิถุนายน 2018

Nokia 2.1

สมาร์ทโฟนน้องเล็กสุด โดดเด่นด้วยลำโพงคู่ด้านหน้าเครื่อง และแบตสุดอึด ด้วยขนาด 153.6 x 77.6 x 9.67 มม. และน้ำหนัก 174 กรัม หน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ IPS LCD ความละเอียด HD 720 x 1280 พิกเซล ขนาด 5.5 นิ้ว ในอัตราส่วน 16::9

ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Quad Core ความเร็ว 1.4GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Snapdragon 425, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 308, RAM 1GB,

หน่วยความจำภายใน 8GB เพิ่มได้ด้วย microSD Card สูงสุด 128GB และรันบนระบบปฎิบัติการ Android 8.1 Oreo (Go Edition)

ติดตั้งกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลช LED ส่วนกล้องหน้าเซลฟี่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล รวมทั้งรองรับ 2 SIM, รองรับ 4G LTE, Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot, Bluetooth 4.2, พอร์ต microUSB 2.0 และแบตเตอรี่ความจุ 4,000mAh

ทั้งนี้ ตัวเครื่อง Nokia 2.1 มีให้เลือก 3 สีคือ Blue/Copper, Blue/Silver และ Grey/Silver ราคาเริ่มต้นที่ 99 ยูโรหรือประมาณ 3,664 บาท เริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฎาคม 2018

ที่มา : Gsmarena

from:http://mobileocta.com/launches-nokia-5-1-nokia-3-1-and-nokia-2-1-upgrades-bigger-display-and-runs-android-8-1-oreo/