คลังเก็บป้ายกำกับ: NEXTBIT_ROBIN

Razer เตรียมเปิดตัวมือถือสำหรับเหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้

ก่อนหน้านี้ก็เคยมีข่าวออกมารอบนึงแล้วว่าบริษัทอุปกรณ์เกมยักษ์ใหญ่งูเขียว 3 หัว Razer เตรียมจะเปิดตัวมือถือเน้นเล่นเกมภายในปี 2017 และตอนนี้ Razer ก็ได้ออกมาประกาศผ่าน Twitter และหน้าเว็บไซท์ของตัวเองแล้ว ว่าให้เตรียมพบกัน 1 พฤศจิกายนนี้แน่นอน

เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านก็ได้มีข่าวที่หลายๆคนได้ยินแล้วพอจะเดาได้ว่า Razer เตรียมตัวจะขยายตลาดมาทางฝั่งมือถือ โดยการซื้อกิจการบริษัท Nextbit ผู้ผลิตมือถือ Robin (ที่พึ่งจะมีอายุได้แค่ 1 ปี ก็โดนซื้อไปแล้ว)

จริงๆก็เหลือเวลาอีกแค่ 2 อาทิตย์หน่อยๆเท่านั้น แต่มือถือลึกลับของ Razer รุ่นนี้ ก็ยังไม่เคยได้มีใครเห็นแม้แต่รูปเรนเดอร์ รูปหลุด หรือสเปคหลุดอะไรเลยซักอย่างเดียว รู้แค่อย่างเดียวที่ Razer บอกว่ามันจะเป็นมือถือที่เน้นเจาะตลาดเหล่าฮาร์ดคอร์เกมเมอร์โดยเฉพาะ ตรงนี้แหละที่น่าสงสัยว่า Razer จะใส่ฟีเจอร์อะไรเป็นพิเศษที่ทำให้มือถือของตัวเองกลายเป็นมือถือสำหรับเล่นเกม เพราะเกมทุกเกมใน Google Store มือถือที่มีสเปคระดับกลางๆขึ้นไป ก็สามารถเล่นได้ทุกเกมอยู่แล้ว

หรือ Razer จะทำตามแบบ Sony Xperia ที่สามารถสตรีมเกมจาก PS4 มาเล่นในมือถือได้ โดยทำให้มือถือ Razer สามารถสตรีมเกมจากโน้ตบุ๊คมาเล่นในมือถือ?…แต่การสตรีมเกมจากคอมก็สามารถทำได้ในมือถือทุกรุ่นอยู่แล้วแค่ติดตั้งแอปลงไป ตอนนี้ก็เลยยังไม่สามารถเดาได้เลยจริงๆว่า Razer จะมีไม้เด็ดอะไรสำหรับเหล่าเกมเมอร์กันแน่

รูป (ตั้งใจ) หลุดของมือถือ Razer ในกระเป๋ากางเกงของ CEO บริษัท Razer

ตอนนี้ก็คงได้แต่รอลุ้นกันอีกแค่ 2 อาทิตย์หน่อยๆเท่านั้น เราจะได้เห็นการเปิดตัวของมือถือระดับฮาร์ดคอร์เกมเมอร์ของ Razer ตัวนี้กัน แล้วเราจะเอาข้อมูลมาอัพเดทให้ทันทีเลย เพราะผมก็เป็นเกมเมอร์คนนึงที่สนใจเจ้ามือถือตัวนี้อยู่เหมือนกันล่ะ

 

ที่มา : Razor, Theverge, Engadget

from:https://droidsans.com/razer-phone-to-be-announced-1-november/

Nextbit Robin ลดราคาที่ 11street จาก 12,900 บาทเหลือเพียง 6,990 บาท พร้อมแถมฟรี Premium Set มูลค่า 1,900 บาท

แคมเปญลดราคา Nextbit Robin สมาร์ทโฟนที่หน่วยความจำไม่มีวันเต็มจัดแคมเปญอีกครั้งด้วยโปรโมชั่นลดราคาพิเศษ จาก 12,900 บาท เหลือเพียง 6,990 บาทเท่านั้นครับ พร้อมทั้งยังแถมฟรี Premium Set มูลค่า 1,900 บาทให้อีกด้วย โดยราคาพิเศษนี้จะมีตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค. ถึง12 ก.ค. 60 นี้เท่านั้นครับ หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

ซึ่ง Nextbit Robin ตัวนี้นับเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่มีความพิเศษในตัวมันเองอยู่หลายเรื่องครับ โดยเฉพาะระบบหน่วยความจำที่เป็นคลาวด์ในตัว ทำให้มันกึ่งๆ จะมีหน่วยความจำที่เราใช้งานได้แทบไม่จำกัด ซึ่งรายละเอียดตัวเครื่องและการใช้งานของมัน ทาง Appdisqus เคยรีวิวอธิบายไว้แล้วในบทความนี้ คนที่สนใจเชิญเข้าไปอ่านดูกันก่อนได้เลยครับ

และก่อนวันที่ 12 กรกฏาคมนี้ ก็รีบตัดสินใจ กับราคาพิเศษที่สามารถเข้าชมสินค้าได้ที่ www.11street.co.th ครับ




 

from:https://www.appdisqus.com/2017/07/07/nextbit-robin-11street-6990.html

ไทยเวย์ฯ ร่วมกับ 11Street จัดแคมเปญลดราคา NEXTBIT ROBIN ในราคาเพียง 6,990 บาท ระหว่างวันที่ 6-12 ก.คนี้เท่านั้น!!

กลับมาอีกแล้วจ้า กับแคมเปญลดราคา Nextbit Robin “สมาร์ทโฟนที่หน่วยความจำไม่มีวันเต็ม” จากการเรียกร้องจากแฟนๆอย่างคับคั่ง เมื่อแฟนๆเสนอทางเราก็สนองที่จะให้เกิดแคมเปญอีกครั้งด้วยโปรโมชั่นสุดพิเศษ จากปกติ 12,900 บาท เหลือพิเศษเพียง 6,990 บาท แถมฟรี Premium Set มูลค่า 1,900 บาท วันที่ 6 ก.ค.-12 ก.ค. 60 นี้ เท่านั้นช้าหมดอดแล้วจะเสียใจ ที่ 11street

สามารถเข้าชมรายละเอียดสินค้าได้ที่ www.11street.co.th

อย่าลืมไปช็อปกันน้า 6 ก.ค. – 12 ก.ค. 60 นี้ เท่านั้น สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่

เว็บไซต์ www.thaiway.co.th

เฟสบุ๊ค www.facebook.com/nextbitthailand ,  facebook.com/ThaiwayProduct

from:http://mobileocta.com/thai-way-joins-with-11street-to-launch-discount-campaign-nextbit-robin/

วันเดียวเท่านั้น!! NEXTBIT ROBIN ลดราคาเหลือเพียง 6,990 บาทที่ LAZADA วันที่ 4 ก.ค. 60 เที่ยงคืนเป็นต้นไป

110321187-7fb266655322221c22fb58b8751bd334

NEXTBIT ROBIN สมาร์ทโฟนระบบคลาวด์หน่วยความจำไม่มีวันเต็มร่วมแคมเปญ FLASH SALE กับทาง LAZADA ในราคาพิเศษเพียง 6,990 บาทจากปกติ 12,900 บาท พร้อมของแถมพรีเมี่ยมเซ็ตมูลค่า 1,900 บาทและสามารถสั่งซื้อได้เฉพาะวันที่ 4 ก.ค. 2560 วันเดียวเท่านั้น ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป ซึ่งราคาแคมเปญแรงจริงๆ

unnamed

  • 100 GB Cloud Storage
  • 5.2″ 1920×1080 FHD IPS LCD + Gorilla Glass 4
  • Hexa-core Snapdragon 808 2.0 GHz
  • 3 GB RAM / 32 GB ROM
  • Camera Front 5MP / Back 13MP
  • Androids Marshmallow 6.0 ( can upgrade to 7.1.1 )
  • FingerPrint sensor + USB 3.1 Type C + QC 2.0
  • Dual Stereo Speakers

110321187-e8fea36c4160cb9960d4354563fd7edd 110321187-c51bf04586279888b2c1f6ad6639c6aa 110321187-7455b967b84af19d2fadeb6f5d29dc1b 110321187-3275f703a1d26db043aa367b0a709a66 110321187-ec4dcb47d5ca26352da2b5c0963a42da 110321187-519fbc404e610abcea94eaa295624973-1 110321187-b9cda834625afdca675df03f5c704a37

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=186982

ไทยเวย์ฯ ร่วมแคมเปญ FLASH SALE กับ LAZADA จำหน่าย NEXTBIT ROBIN ในราคาเพียง 6,990 บาท วันเดียวเท่านั้น!!

บริษัทไทยเวย์ โปรดักส์ จำกัด ผู้นำเข้า NEXTBIT ROBIN สมาร์ทโฟนที่หน่วยความจำไม่มีวันเต็ม ร่วมมือกับ LAZADA จัดแคมเปญ FLASH SALE นำสมาร์ทโฟน NEXTBIT ROBIN มาลดราคาพิเศษเพียงแค่วันเดียวจากราคาปกติ 12,000 บาท เหลือเพียง 6,990 บาท  พร้อมรับฟรี!!ชุด Premium Set มูลค่ากว่า 1,900 บาททันที

ทั้งนี้ แคมเปญ FLASH SALE นี้จะเปิดให้ผู้ที่สนใจ สามารถสั่งซื้อได้เฉพาะวันที่ 4 ก.ค. 60 วันเดียวเท่านั้น สามารถสั่งซื้อได้ที่ www.lazada.co.th ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเป็นต้นไป

 

from:http://mobileocta.com/thai-way-joins-flash-campaign-sale-with-lazada-sell-nextbit-robin-for-only-6990-baht/

หลังจากที่รอคอยกันมานานโทรศัพท์สีมิ้นท์ nextbit ได้ปล่อย nougat (Android 7.0) ให้อัพเดตแล้ว

หลังจากที่รอคอยกันมานาน สำหรับเหล่าสาวกโทรศัพท์สีมิ้นท์ วันนี้ nextbit ได้ปล่อย nougat (Android 7.0) ให้อัพเดตแบบ OTA Update กันได้แล้ว ซึ่งนอกจากนี้เหล่าผู้ใช้ nextbit จะได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ที่มีมาพร้อมกับ nougat แล้ว ตัว nextbit เองก็มีการแก้ไข และเพิ่มประสิทธิภาพ ทั้งในส่วนของระบบcloud ที่แก้ไข bug และเพิ่ม interface ใหม่ ให้ใช้งานได้ง่าย และสะดวกมากขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพโปรแกรมกล้อง เพิ่มรูปเล่นตกแต่งภาพในส่วนของ gallery และระบบประหยัดพลังงานได้มากยิ่งขึ้น

Nextbit-robin-android-7.0-flashfly

nextbit สมาร์ทโฟนที่ขายความแตกต่าง ทั้งในเรื่องของดีไซน์ และรูปลักษณ์ รวมไปถึงนวัตกรรม Cloud First เป็นระบบที่เก็บข้อมูลแบบ Cloud ที่ Built-In มากับเครื่องเลยมีให้ใช้ฟรี 100 GB ซึ่งมีความพิเศษคือ สามารถใช้เก็บ Application เพื่อแก้ไขปัญหาความจำเครื่องเต็มเพราะ App เยอะ ผู้สนใจสามารถหาซื้อได้ที่ Power Mall ใน Siamparagon และ The Mall ทุกสาขา และ Big C ทุกสาขา หรือช่องทาง Online ชั้นนำ Lazada, Wemall และ 11street

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=180218

Razer เข้าซื้อกิจการสมาร์ทโฟน Nextbit พร้อมประกาศหยุดขาย Nextbit Robin

Nextbit-Robin

Razer บริษัทที่มีชื่อเสียงในฐานะผู้ผลิตแล็ปท็อปและอุปกรณ์เสริมสายเกมมิ่ง เข้าซื้อกิจการสมาร์ทโฟน Nextbit ทางการแล้ว โดยไม่มีการเปิดเผยมูลค่าการซื้อขาย แต่ Tom Moss ซีโอและผู้ร่วมก่อตั้ง Nextbit ได้ออกมายืนยันแล้ว พร้อมประกาศหยุดทำตลาดสมาร์ทโฟน Nextbit Robin รวมทั้งอุปกรณ์เสริมทั้งหมด แต่ยังสนับสนุนการอัพเดทซอฟต์แวร์ไปจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2018 และขยายเวลารับประกันสินค้าออกไปอีก 6 เดือน

Nextbit_Robin

Tom Moss ประกาศว่า Nextbit จะกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Razer แต่ยังมีการงานที่อิสระ มุ่งเน้นไปที่การออกแบบสมาร์ทโฟนที่มีเอกลักษณ์ และภายใต้บริษัทใหม่ สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ต้องออกมายิ่งใหญ่ และดีกว่าเดิม

สำหรับ Nextbit Robin เคยเปิดตัวในประเทศไทยในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ชูจุดเด่นที่นวัตกรรม Cloud-First พัฒนาขึ้นเพื่อการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ ให้พื้นที่ฟรี!! มากถึง 100 GB

Nextbit-Robin-Smartphone

ที่มา – AndroidAuthority

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=172462

Nextbit เริ่มปล่อยอัพเดท Android 7.0 Beta ให้กับผู้ใช้งาน Robin ที่มาลงทะเบียนรับการทดลองแล้ว

Nextbit แบรนด์ผู้ผลิตน้องใหม่จาก Kickstarter ได้เริ่มทำการปล่อยอัพเดท Android OS 7.0 Nougat เวอร์ชั่นทดสอบ (Beta) ให้กับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน Robin ที่มาลงทะเบียนของรับสิทธิ์การทดลองก่อนหน้านี้แล้ว โดยตัวอัพเดท Android OS 7.0 Beta ที่ทาง Nextbit ปล่อยออกมาจะมีขนาดไฟล์ 1GB พร้อมใส่แพทรักษาความปลอดภัยจาก Google วันที่ 5 สิงหาคม 59 มาให้ด้วย

นอกจากนี้ทาง Nextbit ยังกล่าวถึงการอัพเดทใหม่ในครั้งนี้ว่า สำหรับรอมตัวใหม่นี้ ทางบริษัทได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับทีมพัฒนาจาก Paranoid Android Custom ที่หลายคนในสาย Custom Rom จะรู้จักกันเป็นอย่างดี ในการพัฒนารอม Android OS 7.0 ขึ้นมา ซึ่งตอนนี้ทาง Nextbit ยังคงเปิดให้ผู้ใช้งานที่สนใจลองใช้งาน Android OS 7.0 Beta เข้ามาลงทะเบียนผ่านแบบฟอร์มออนไลน์ได้อยู่ (คลิกเข้าแบบฟอร์มลงทะเบียนโดยเมื่อเข้าไปกรอกแบบฟอร์มในเว็บแล้ว สักพักจะมีการแจ้งเตือนอัพเดทปรากฏขึ้นมาบนสมาร์ทโฟน สามารถกดยืนยันเพื่อทำการอัพเดทและทดลองใช้งานได้ทันที

แต่ทั้งนี้ทาง Nextbit ก็ได้เตือนผู้ที่สนใจเข้ามาลงทะเบียนรับสิทธิ์ทดลองด้วยว่า ตัวเฟริมแวร์ที่ปล่อยให้ทดลองใช้นั้น ยังคงเป็นเวอร์ชั่นทดสอบอยู่ ดังนั้นระหว่างการใช้งานอาจพบข้อบกพร่องหรือความผิดปกติของตัวซอฟท์แวร์อยู่ และอาจเกิดความเสี่ยงในการใช้งานที่จะส่งผลไปยังตัวฮาร์ดแวร์ จนนำไปสู่เครื่องพังได้ด้วย

ที่มา : Community Nextbit via GSMArena

from:http://droidsans.com/nextbit-launch-close-beta-nougat-for-robin-users

Review : Nextbit Robin สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรม Cloud-First รุ่นแรกของโลก

เชื่อว่าหลายๆ คนที่ใช้สมาร์ทโฟนคงเคยประสบปัญหาหน่วยความจำไม่พอ เพราะเก็บทั้งไฟล์ภาพ ไฟล์เพลง ไฟล์วิดีโอ รวมถึงแอปพลิเคชั่นต่างๆ และไม่อยากที่จะลบออกไป สุดท้ายก็ต้องเลือกลบเพื่อให้มีหน่วยความจำที่เพียงพอสำหรับการใช้งานอื่นๆ แต่สำหรับ Nextbit Robin คือคำตอบของผู้ที่ต้องการสมาร์ทโฟนที่มีหน่วยความจำเยอะๆ โดยมาพร้อมนวัตกรรม Cloud-First ที่การันตีว่าหน่วยความจำไม่มีวันเต็ม เพราะมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลบนระบบคลาวด์มากถึง 100GB และพื้นที่หน่วยความจำภายในเครื่องอีก 32GB

pic_nextbit-robin-03

Nextbit Robin เกิดจากการรวมตัวของอดีตผู้เชี่ยวชาญด้านโทรศัพท์มือถือที่เคยทำงานร่วมกับ Google มาก่อน สร้างโปรเจ็คระดมทุนในเว็บ kickstarter โดยมีแนวคิดในการพัฒนาสมาร์ทโฟนที่สามารถรองรับข้อมูลได้มากกว่าเดิม จึงเป็นที่มาของสมาร์ทโฟน Cloud First แต่สิ่งที่ทำให้ได้ทุนมานั่นก็คือ การออกแบบตัวเครื่องที่ไม่เหมือนใคร รวมถึงการใช้สีพาสเทลสดใส ทำให้โปรเจ็คนี้สามารถระดมทุนประสบความสำเร็จอย่างเกินคาด

nextbit_robin4

ชุดอุปกรณ์ในกล่อง

กล่องแพ็คเกจของเครื่อง Nextbit Robin เป็นกล่องกระดาษแข็งรูปทรงยาวแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ออกแบบคล้ายหนังสือพ็อคเก็ตบุ๊ค โดยบนกล่องจะมีแถบกระดาษสีดำคาดไว้พร้อมตัวอักษร Robin by Nextbit เมื่อถอดแถบคาดนี้ออก และเปิดกล่องออกมาจะเหมือนกับหนังสือเล่มหนึ่ง ซึ่งเป็นคู่มือการใช้งานเบื้องต้นของสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ เมื่อเปิดหน้าถัดไปก็จะเห็นตัวเครื่อง Nextbit Robin, สาย USB Type-C และเข็มจิ้มถาดใส่ซิมการ์ดรูปคลาวด์ (เครื่องขายจริงจะมีเคส, ฟิล์มกันรอย และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟแบบ Quick Charge มาให้ด้วย)

nextbit_robin16

nextbit_robin17

ดีไซน์

Nextbit Robin มีรูปทรงแบบแท่งสี่เหลี่ยมผืนผ้า ซึ่งทางผู้ออกแบบได้อธิบายไว้ว่า Nextbit Robin ใช้รูปทรงสี่เหลี่ยม และรูปทรงกลมเป็นพื้นฐานในการออกแบบ และพัฒนาออกมาเป็น Final Design พร้อมดีไซน์เรียบหรูไม่เหมือนใครเห็นครั้งแรกก็สะดุดตาทันที การันตีด้วยรางวัล Red Dot Design Awards 2016 ตัวเครื่องใช้วัสดุที่ทำจากพลาสติกเป็นหลักให้ผิวสัมผัสแบบโพลีคาร์บอเนต ไม่ลื่นมือเวลาถือจับใช้งาน

nextbit_robin3

ด้านหน้าเครื่อง ด้านบนประกอบด้วยเซ็นเซอร์ Proximity, เซ็นเซอร์ Ambient Light, เซ็นเซอร์ Accelerometer, เลนส์กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซล และลำโพงเสียงสำหรับการสนทนา ซึ่งทำหน้าที่เป็นลำโพงหลักด้านบนของตัวเครื่องด้วย ถัดลงมาเป็นหน้าจอแสดงผลเป็นจอแบบ IPS LCD ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด Full HD 1920×1080 พิกเซล พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4 ส่วนใต้หน้าจอเป็นลำโพงตัวที่สองของเครื่อง (ไม่ใช่ปุ่ม Home)

nextbit_robin8

nextbit_robin9

พลิกมาด้านหลังเครื่อง ตรงมุมซ้ายด้านบนมีเลนส์กล้องความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual-LED) ถัดลงมามีโลโก้รูปคลาวด์ โดยใต้โลโก้จะมีไฟสถานะแบบ LED เพื่อแสดงสถานะว่าในขณะนั้นตัวเครื่องกำลังทำการ Sync ข้อมูลเข้าสู่ Cloud หรือไม่ เมื่อการ Sync ข้อมูลสำเร็จไฟก็จะดับลง และด้านล่างมีตัวอักษร Nextbit

nextbit_robin5

ด้านซ้ายข้างเครื่องมีปุ่มปรับเพิ่มลดระดับเสียง

nextbit_robin11

ด้านขวาข้างเครื่อง มีช่องสำหรับใส่ซิมการ์ดแบบ nanoSIM และปุ่ม Power สำหรับเปิด-ปิดเครื่อง หรือล็อกหน้าจอ และมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมืออยู่บนปุ่มนี้

nextbit_robin10

ใช้เข็มจิ้มซิมการ์ดจิ้มเข้าไปในช่องเพื่อดึงถาดใส่ซิมการ์ดออกมา

nextbit_robin14

nextbit_robin15

ด้านบนเครื่องมีช่องไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน และช่องเสียบชุดหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มม.

nextbit_robin12

ด้านท้ายเครื่องมีพอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C และช่องไมโครโฟนสนทนา

nextbit_robin13

สเปก Nextbit Robin

ขนาด 149 x 72 x 7 มิลลิเมตร
น้ำหนัก 150 กรัม
หน้าจอ IPS LCD Full HD 1080p ขนาด 5.2 นิ้ว ความละเอียด 1920×1080 พิกเซล พร้อมกระจกป้องกันหน้าจอ Corning Gorilla Glass 4
หน่วยประมวลผล Hexa-Core Qualcomm Snapdragon 808
RAM 3 GB
หน่วยความจำภายในเครื่อง 32 GB พร้อมหน่วยความจำออนไลน์แบบ Cloud ขนาด 100GB
microSD Card ไม่มี
กล้องถ่ายภาพ กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชแบบคู่ (Dual Tone LED) และระบบ PDAF (Phase Detection Autofocus)  ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล
ระบบปฏิบัติการ Android 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Nextbit OS
เชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.0 LE และ USB Type-C
รองรับระบบ 4G LTE และ 3G 850/900/1900/2100 MHz ( 4G และ 3G ทุกเครือข่ายในไทย)
แบตเตอรี่ 2680 mAh พร้อมรองรับ Qualcomm Quick Charge 2.0
ราคา 12,900 บาท

คุณสมบัติการใช้งาน

Nextbit Robin รันบนระบบปฏิบัติการ Andoid 6.0.1 Marshmallow ครอบทับด้วย Nextbit OS ที่มีคีไซน์เรียบง่าย สบายตา และสอดคล้องกับคอนเซปต์การใช้สี่เหลี่ยมและวงกลมในการออกแบบตัวเครื่องรวมถึงอินเทอร์เฟส โดยในส่วนของ App Drawer หรือหน้ารวมเมนูแอปพลิเคชั่นนั้นไม่มีมาให้ ดังนั้นแอปต่างๆ ทั้งหมดจะวางบนหน้าจอหลักโฮมสกรีนแทน และมีเฉพาะแอปที่ใช้งานพื้นฐาน และแอปที่มาจาก Google เท่านั้น เมื่อใช้นิ้วแตะด้านบนแล้วลากลงมาจะเป็นส่วนของการแจ้งเตือน Notifications และการตั้งค่าเปิด/ปิดการเชื่อมต่อต่างๆ และถ้าใช้นิ้วแตะค้างไว้บนหน้าจอจะเป็นการเปลี่ยนภาพพื้นหลัง และการตั้งค่าต่างๆ

nextbit_robin19

ฟีเจอร์เด่นที่เป็นจุดขายของ Nextbit Robin นั่นก็คือ Cloud-First โดยฟีเจอร์นี้จะอยูในเมนูตั้งค่าและใช้ชื่อว่า Smart Storage ซึ่งถ้าต้องการใช้งานจะต้องทำการล็อคอินก่อนโดยใช้บัญชี Google หลังจานั้นจะมีพื้นที่เก็บข้อมูลบน Cloud มาให้ใช้งาน 100GB และระบบจะเป็นคิดให้เองว่าจะใช้พื้นที่เหล่านี้เมื่อไหร่ รวมทั้งมี options ให้เลือกปรับได้ว่าจะให้มีการ Backup อะไรขึ้นบน Cloud ทั้งแอป และรูปถ่าย ส่วนวิดีโอไม่สามารถเอาขึ้น Cloud ได้ และจะ Backup ได้เฉพาะตอนที่เชื่อมต่อ Wi-Fi และเสียบชาร์จอยู่ด้วยหรือไม่

nextbit_robin20

ติดตั้งเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือบนปุ่ม Power ที่ด้านขวาข้างเครื่อง

nextbit_robin21

คุณสมบัติอื่นๆ ก็มีมาให้อย่างครบถ้วน

 nextbit_robin34

ด้านการถ่ายภาพ

Nextbit Robin มาพร้อมกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมไฟแฟลชคู่แบบ Dual Tone LED พร้อมเทคโนโลยี PDAF(Phase Detection auto Focus) โดยภาพนิ่งถ่ายได้ที่ความละเอียดสูงสุด 4160 x 3120 พิกเซล ส่วนวิดีโอบันทึกได้ในระดับ Full HD 1080p สามารถเลือกโหมดการถ่ายได้ทั้ง  Auto และ Manual ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 5 ล้านพิกเซล โดยใช้เลนส์มุมกว้าง 85 องศา

nextbit_robin22

ตัวอย่างภาพจากกล้อง

nextbit_robin30

nextbit_robin32

nextbit_robin33

nextbit_robin31

ประสิทธิภาพ

Nextbit Robin ใช้หน่วยประมวลผลซีพียูแบบ Hexa Core ความเร็ว 1.8GHz โดยใช้ชิปเซ็ท Qualcomm Snapdragon 808, หน่วยประมวลผลกราฟิก Adreno 418, RAM 3GB และหน่วยความจำภายในเครื่องขนาด 32GB พร้อมหน่วยความจำออนไลน์แบบ Cloud ขนาด 100GB เท่าที่ได้ลองทดสอบโดยใช้งานปกติทั่วไปปรากฏว่า ใช้งานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด และตอบสนองการใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนการเล่นเกมได้ลองกับเกม Point Bank Mobile ที่มีภาพกราฟิกสูง สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น โดยไม่มีอาการกระตุกให้เห็นเลย โดยรวมแล้วถือว่าสอบผ่าน

nextbit_robin23

nextbit_robin24

nextbit_robin25

nextbit_robin26

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Nextbit Robin ผ่านแอป Antutu

nextbit_robin27

ผลการทดสอบประสิทธิภาพของ Nextbit Robin ผ่านแอป Geekbench 4

nextbit_robin28

แบตเตอรี่

แบตเตอรี่ที่ใช้กับเครื่องรุ่นนี้มีขนาด 2,680 mAh ที่มาพร้อมโหมดประหยัดแบตเตอรี่ และรองรับระบบชาร์จเร็ว Qualcomm Quick Charge 2.0 หลังจากที่ได้ทำการทดสอบโดยใช้งานต่อเนื่องใน 1 วันปรากฏว่าสามารถใช้งานได้ประมาณ 8-10 ชั่วโมง แต่ถ้าใช้งานเล่นเกม และเชื่อมอินเทอร์เน็ตในเครือข่าย 4G แบตก็อาจหมดเร็วขึ้น โดยรวมแล้วถ้าจะใช้งานใน 1 วันและอยู่นอกบ้านอาจจะต้องพก Power Bank ติดไปด้วย

nextbit_robin29

บทสรุป

Nextbit Robin ถือเป็นสมาร์ทโฟนแบรนด์น้องใหม่ล่าสุดที่เข้ามาทำตลาดในบ้านเรา โดยชูจุดเด่นในเรื่องของนวัตกรรม Cloud-First ที่การันตีว่า “หน่วยความจำไม่มีวันเต็ม” รวมถึงดีไซน์เครื่องที่โดดเด่นสะดุดเมื่อแรกเห็น และได้รับรางวัล reddot award 2016 มาแล้ว นอกจากนี้ยังมาพร้อมสเปกที่เร็วและแรงกว่าสมาร์ทโฟนระดับกลางในระดับเดียวกัน สำหรับราคาของ Nextbit Robin นั้นอยู่ที่ 12,900 บาท วางจำหน่ายแล้วที่ PowerMall ทุกสาขา รวมทั้งช่องทางออนไลน์อย่าง Lazada, Central, Shopat24, Shopee และ WeloveShopping

The post Review : Nextbit Robin สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมนวัตกรรม Cloud-First รุ่นแรกของโลก appeared first on MobileOcta.

from:http://mobileocta.com/review-nextbit-robin/

[Review] รีวิว Nextbit Robin มือถืออินดี้ ประสบการณ์ดีๆกับ Android สีพาสเทล

สวัสดีเพื่อนพี่น้องชาว Droidsans ทุกท่าน วันนี้ผมได้มีโอกาสมารีวิวมือถืออินดี้อย่าง Nextbit Robin ให้เพื่อนสมาชิกได้อ่านกัน โดย Nextbit Robin นั้นได้มีการเปิดตัววางจำหน่ายในไทยอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อยแล้วในราคา 12,900 บาท มี 2 สีด้วยกันคือ สีเขียว Mint และสีน้ำเงิน Midnight จุดเด่นของมือถือรุ่นนี้นอกจากงานออกแบบอินดี้ไม่เหมือนใครแล้วยังเป็นมือถือ Cloud First ที่ให้พิ้นที่ใช้งานมาถึง 100GB เรามาดูรายละเอียดกันดีกว่า

 

Nextbit Robin มือถือยี่ห้ออะไรเนี่ย? หลายคนอาจจะสงสัยเมื่อได้ยินชื่อมือถือรุ่นนี้ครั้งแรก ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายนปี 2015 มีโปรเจ็คระดมทุนชิ้นหนึ่งใน kickstarter.com ชื่อว่า Robin ระดมทุนโดยบริษัท Nextbit สัญชาติอเมริกา แนวคิดของโปรเจ็คคือการทำมือถือแบบ Cloud First ที่ทำเหมือนกับว่าพื้นที่บน cloud เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่บนมือถือด้วย ทำให้การใช้งานมือถือเหมือนกับมีพื้นที่ไม่จำกัด เพราะ Robin ให้พื้นที่ใช้งานบน cloud มาถึง 100GB แต่สิ่งที่เตะตาและถูกใจผู้ให้ทุนคือ งานออกแบบที่แหวกแนวอินดี้ไม่เหมือนใคร และการใช้สีแบบพาสเทลสดใส ที่ทำให้ทุกอย่างดูซอฟท์ลงไปถนัดตา ซึ่งโปรเจ็คสามารถระดมทุนประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายเลยทีเดียว

nextbit-robin-review-kickstarter.jpg

 

สเปกของ Nextbit Robin

  • ชื่อและรหัสเครื่อง : Nexbit Robin

  • สัดส่วน : 149 x 72 x 7 มิลลิเมตร

  • น้ำหนัก : 150 กรัม

  • หน้าจอ : IPS 5.2 นิ้ว ความละเอียด FHD 1920 x 1080 พิกเซล

  • เครือข่ายที่รองรับ:

    • 4G : LTE ทุกเครือข่ายในไทย Band 1 / 2 / 3 / 4 / 5 / 7 / 8 / 12 / 17 / 19 / 20 / 18

    • 3G : WCDMA 850 / 900 / 1700 / 1900 / 2100

    • 2G : GSM 850 / 900 / 1800 / 1900

  • SIM : 1 SIM แบบ Nano SIM

  • CPU : Qualcomm Snapdragon 808 Hexa-core 1.8GHz

  • GPU : Adreno 418

  • RAM : 3GB

  • หน่วยความจำภายใน : 32GB + พื้นที่ Cloud 100GB ไม่รองรับ microSD card

  • กล้องหน้า : 5 ล้านพิกเซล Fixed focus มุมกว้าง 85 องศา

  • กล้องหลัง : 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ PDAF และ Dual-tone LED flash

  • แบตเตอรี่ : 2680mAh (ถอดเปลี่ยนเองไม่ได้) พร้อม Quick Charge 2.0

  • OS : Android 6.0 Marshmallow พร้อม Nextbit OS

  • สแกนลายนิ้วมือ : มี

  • NFC : มี

  • OTG : ไม่มี

  • ไฟแจ้งเตือน: มี

  • คุณสมบัติพิเศษ:

    • ลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้า พร้อม Amp คู่

    • ระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0

  • เซ็นเซอร์และการเชื่อมต่ออื่นๆ:

    • GPS, A-GPS

    • Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac (2.4/5GHz)

    • Bluetooth 4.0 LE

    • USB 3.0 Type-C

    • หูฟัง 3.5 มิลลิเมตร

    • Accelerometer, Proximity, Light, Compass, Gyroscope

  • สีที่มีให้เลือก : เขียว Mint และ น้ำเงิน Midnight

nextbit-robin-review-spec.jpg

 

แกะกล่องสำรวจของ

กล่องของ Nextbit Robin นั้นก็อินดี้ไม่แพ้กับตัวมือถือ เพราะเป็นกล่องทรงยาวแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า มีแถบกระดาษสีดำคาดอยู่ด้านล่าง ถ้าดูดีๆแล้วจะรู้ว่ามันเป็นเหมือนหนังสือเล่มหนึ่งนั่นเอง

nextbit-robin-review-unbox01.jpg

 

นั่นไงเป็นหนังสือจริงๆด้วยเปิดออกมาก็เป็นคู่มือการใช้งานเบื้องต้นของ Robin นั่นเอง

nextbit-robin-review-unbox02.jpg

 

พอเปิดอ่านมาเรื่อยๆจนถึงหน้าสุดท้ายก็จะเห็นเจ้า Robin พร้อมให้หยิบขึ้นมาใช้งานแล้วล่ะครับ

nextbit-robin-review-unbox03.jpg

 

สำหรับของในกล่องก็ไม่มีอะไรมาก มีแค่ตัวมือถือ Robin, สาย USB Type-C และเข็มจิ้มถาดซิม เท่านั้นเอง แต่ได้ยินว่าเครื่องที่ขายจริงจะมี เคส, ฟิล์มกันรอย และหม้อแปลง Quick Charge ให้ด้วย ฝากใครที่ซื้อแล้วมาช่วยคอนเฟิร์มให้หน่อยละกันครับ

nextbit-robin-review-unbox04.jpg

 

ก่อนจะแกะพลาสติกหุ้มเครื่องออก ก็มีมุกอยู่นิดนึงครับ โดยด้านบนจะมีตัวหนังสือเขียนว่า “ตรงนี้คือลำโพง (เห็นได้ชัดอยู่แล้ว)”

nextbit-robin-review-unbox05.jpg

 

พอมาด้านล่างก็เขียนไว้ว่า “ตรงนี้ก็เป็นลำโพงนะ ไม่ใช่ปุ่ม Home” โอเคนาย Robin เราเข้าใจแล้ว

nextbit-robin-review-unbox06.jpg

 

สำหรับเข็มจิ้มถาดซิมก็ออกแบบเป็นรูป “ก้อนเมฆ” ถือว่าตรงคอนเซ็ปต์มือถือ Cloud First ซะจริงๆ

nextbit-robin-review-unbox07.jpg

 

งานออกแบบ Hardware

เอาล่ะ ได้เวลาแกะเครื่องออกมาจากพลาสติกแล้ว หลังจากที่เราได้เรียนรู้ว่า ด้านบนและล่างของหน้าจอเป็นลำโพงคู่จากคำแนะนำของพลาสติกแผ่นนั้น Tongue

งานออกแบบตัวเครื่อง Robin นั้นเป็นเครื่องแสดงถึงความอินดี้ของมือถือรุ่นนี้เป็นอย่างดี ด้วยแนวคิดแบบ simple และ minimal และไม่ต้องการเหมือนใคร ทางทีมออกแบบใช้แรงบันดาลใจจากรูปทรงสี่เหลี่ยมและวงกลมแบบเรียบๆธรรมดา และไม่เน้นการใช้ลวดลายใดๆทั้งสิ้น แต่เลือกที่จะใช้สีสันแบบสะดุดตาและวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสที่ดีแบบ Polycarbonate ทั้งตัวเลย ผมต้องบอกว่า งานออกแบบจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดของมือถือรุ่นนี้ เพราะมันเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนมือถือตามท้องตลาดทั่วไป ถือไปก็สะดุดตาคน ใครเห็นก็สนใจเข้ามาถามตลอด

nextbit-robin-review-unbox08.jpg

 

ด้านบนของหน้าจอ ประกอบด้วยลำโพงสนทนา (ที่ใช้เป็นลำโพงสเตอริโอด้วย) อยู่ตรงกลาง ถัดไปทางด้านซ้ายเป็นกล้องหน้า 5MP และช่องรวมเซ็นเซอร์

nextbit-robin-review-unbox09.jpg

 

ด้านล่างของหน้าจอ มีเพียงลำโพงอีกข้างเพียงอย่างเดียว ไม่มีปุ่มอะไรทั้งสิ้น เพราะรุ่นนี้ใช้ปุ่ม Navigation แบบ On-screen นะครับ

nextbit-robin-review-unbox10.jpg

 

หน้าจอของ Robin เป็นหน้าจอ IPS ที่ให้สีสันสวยงามและภาพมีความคมชัดดีมากครับ ตรงนี้ทาง Nextbit ไม่ได้ชูประเด็น แต่ผมเอามาบอกให้รู้กัน 55

nextbit-robin-review-unbox11.jpg

 

ด้านล่างของตัวเครื่องจะมีพอร์ต USB Type-C อยู่และรูไมโครโฟนสำหรับสนทนา

nextbit-robin-review-unbox12.jpg

 

ด้านบนมีรูเสียบหูฟัง 3.5 มม. และรูไมโครโฟนตัวที่สองเพื่อตัดเสียงรบกวน

nextbit-robin-review-unbox13.jpg

 

ด้านซ้ายมีเพียงปุ่มปรับเสียงเท่านั้น

nextbit-robin-review-unbox14.jpg

 

ด้านขวามีปุ่ม Power ที่สามารถสแกนลายนิ้วมือได้ในตัว และถัดลงมาเป็นช่องถามซิม

nextbit-robin-review-unbox15.jpg

 

รุ่นนี้รองรับ 1 ซิมแบบ NanoSIM ครับ

nextbit-robin-review-unbox19.jpg

 

พลิกมาดูด้านหลังของตัวเครื่อง จะเห็นสีขาวตัดกับขอบสีฟ้าบนล่าง มันสวยดีนะ

nextbit-robin-review-unbox16.jpg

 

ส่วนบนของด้านหลังจะเป็นกล้องหลักความละเอียด 13MP และ Dual-tone flash ที่วงใหญ่เท่ากล้องเลยครับ

nextbit-robin-review-unbox17.jpg

 

รูปก้อนเมฆที่อยู่ด้านหลังตัวเครื่องนั้นจะมีไฟ LED อยู่ด้านหลัง เพื่อแจ้งเตือนว่ามีการ sync ข้อมูลกับ cloud อยู่นะครับ

 

ด้านล่างไม่มีอะไรนอกจากโลโก้ Nextbit

nextbit-robin-review-unbox18.jpg

 

อ้อ ไฟแจ้งเตือน หรือ Notification LED ของมือถือรุ่นนี้อยู่ด้านล่างของตัวเครื่องนะครับ นี่ก็อินดี้เหมือนกัน 55

nextbit-robin-review-unbox20.jpg

 

โดยรวมงานออกแบบตัวเครื่องของ Robin ถือว่ามีความเป็นเอกลักษณ์สูงมาก เพราะมันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน ทั้งเรื่องวัสดุที่ใช้และสีสันของตัวเครื่อง ถึงแม้ตัวเครื่องจะเป็นสี่เหลี่ยมแต่ก็มีการลบคมตามขอบเครื่องออกทั้งหมด ทำให้การจับถือในมือนั้นรู้สึกว่าเข้ามือ จับถือได้ง่าย ไม่ลื่นหลุดมือด้วย น้ำหนักก็ไม่เยอะ ถือได้สบาย ก็เรียกว่าถ้าใครงานออกแบบมือถือที่สวนกระแส มีความเป็นอินดี้สูง มือถือรุ่นนี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีเลย

nextbit-robin-review-unbox21.jpg

 

ระบบซอฟต์แวร์ Cloud First

Nextbit Robin นั้นมาพร้อมกับระบบซอฟต์แวร์ที่ชื่อว่า “Nextbit OS” ที่พัฒนาบน Android 6.0 Marshmallow โดยรวมการใช้งานไม่ต่างจากมือถือ Android ทั่วไปมากนัก โดยในส่วนของ App Drawer นั้นถูกตัดออกไป ดังนั้น App ทั้งหมดจะถูกวางอยู่บนหน้า Homescreen นอกจากนั้นหน้าตาและไอคอนต่างๆก็ถูกปรับให้เข้ากับคอนเซ็ปต์งานออกแบบ Simple and minimal ของมือถือรุ่นนี้ด้วย สังเกตได้จากสีของทั้งระบบจะเป็นสีแบบพาสเทลแบบเดียวกับตัวเครื่องรวมไปถึงไอคอนที่เป็นวงกลมด้วย

nextbit-robin-review-software01.jpg

 

และแน่นอนฟีเจอร์หลักที่เป็นหัวใจของ Nextbit OS จะต้องเป็นการรวมตัวเองเข้ากับระบบ Cloud อย่างไม่ต้องสงสัย โดยมือถือรุ่นนี้จะมีพื้นที่ cloud มาให้ใช้งาน 100GB และระบบจะเป็นคนคิดให้เองว่าจะใช้พื้นที่เหล่านี้เมื่อไหร่ ซึ่งเราสามารถเช็คพื้นที่ใช้งานที่เหลืออยู่ได้ผ่านทางเมนู Smart storage ที่อยู่ใน Settings โดยสามารถตรวจสอบการใช้งานพื้นที่ทั้งบน Cloud และที่อยู่ในเครื่องได้ นอกจากนั้นจะมี options ให้เลือกปรับได้ว่าจะให้มีการ backup อะไรขึ้นบน Cloud ทั้ง App และรูปถ่าย (วิดีโอไม่สามารถเอาขึ้น Cloud ได้) และจะ backup ได้เฉพาะตอนที่ต่อ Wifi และเสียบชาร์จอยู่ด้วยหรือไม่

nextbit-robin-review-software02.jpg

 

การเลือกว่าจะ backup ข้อมูลขึ้น cloud ตอนไหนนั้น ระบบจะเป็นคนคิดให้เอง โดยเท่าที่สังเกตคือ รูปถ่ายจะถูก backup ขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ App นั้นจะถูก backup เฉพาะตอนที่ระบบเห็นว่าพิ้นที่ในเครื่องเหลือน้อย และจะเลือกเอา App ที่ไม่ค่อยได้ใช้งาน backup ขึ้น cloud ไป โดย App ที่ถูก backup ขึ้น cloud ไปแล้ว ไอคอนจะกลายเป็นสีเทา

nextbit-robin-review-software03.jpg

 

สำหรับ restore ตัว App กลับมาให้ใช้งานก็สามารถทำได้โดยการแตะไปที่ App นั้นแล้วระบบจะ download App กลับลงมาไว้ในเครื่อง เช่นเดียวกันกับการ restore รูปถ่ายของเรา โดยระบบจะ backup รูปความละเอียดสูงขึ้น cloud ไปแล้วสร้างรูปความละเอียดต่ำไว้ในเครื่อง เวลาดูรูปจะเร็วขึ้น เมื่อเราแตะดูรูปนั้นๆก็จะ download รูปความละเอียดสูงกลับมาในเครื่องอีกครั้ง

nextbit-robin-review-software04.jpg

ตัวอย่างการ restore app

 

nextbit-robin-review-software05.jpg

ตัวอย่างการ restore รูปถ่าย

 

แล้วถ้าเราไม่อยากให้มีการ backup App บางตัวขึ้น cloud ล่ะ จะทำยังไง? ตรงนี้ Nextbit OS จะปุ่มวงกลมสีม่วงอยู่มุมล่างขวาของหน้า Homescreen ทุกหน้า เมื่อเราแตะที่ปุ่มจะมีเมนูย่อยให้เลือกสามอัน คือ

  • Archived apps : รายชื่อ App ที่ถูก backup ขึ้น cloud ทั้งหมด

  • Pinned apps : รายชื่อ App ที่เราไม่ต้องการให้มีการ backup ขึ้น cloud เราสามารถเพิ่มชื่อ App ที่ต้องการให้อยู่ในเครื่องตลอดเวลาได้ โดยให้แตะ App ในหน้า Homescreen แล้วลากลง

  • All apps : รายชื่อ App ทั้งหมดทั้งที่อยู่ในเครื่องและอยู่ใน cloud จะมองว่ามันคือ App Drawer แบบแนวตั้งก็ได้เหมือนกัน

nextbit-robin-review-software06.jpg

 

แน่นอนว่าการใช้พื้นที่ cloud ในการ backup ข้อมูลต่างๆนั้นมีประโยชน์ตาม concept ของมัน คือไม่ว่าเราจะทำเครื่องหายหรือเครื่องพัง ข้อมูลของเราก็ยังอยู่ สามารถเรียกกลับมาใช้งานได้ทุกเมื่อ แต่จุดบอดใหญ่ของระบบ cloud คือ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต ถ้าเครื่องเราไม่สามารถต่ออินเตอร์เน็ตได้ เราก็ไม่สามารถเอาข้อมูลเหล่านั้นกลับมาใช้งานได้ หรือมีอินเตอร์เน็ตแต่ความเร็วช้า ก็น่ารำคาญเหมือนกัน เพราะกว่าจะ download ข้อมูลกลับลงมาใช้งานได้คงต้องรอนาน ไม่ทันกินในสถานการณ์ที่เร่งรีบ

 

ปัญหาเรื่องการ restore รูปถ่าย

ผมพบปัญหาการใช้งานส่วนของการ restore รูปถ่ายนั้นสามารถทำได้ทีละรูป และต้องเป็นการเปิดดูรูปนั้นแล้ว zoom จึงจะมีการ restore เกิดขึ้น ซึ่งถือว่าไม่สะดวกมาก ในกรณีที่เราสามารถ clear พื้นที่บนเครื่องไปเองแล้วอยากได้รูปกลับมา ก็ไม่สามารถเลือก restore หลายๆรูปหรือ restore ทั้งหมดได้ในทีเดียว

nextbit-robin-review-software05-1.jpg

Restore รูปถ่ายได้ทีละรูปเท่านั้น

 

ซ้ำร้ายคือ รูปถ่ายที่เคยถูก backup ขึ้น cloud แล้ว restore กลับมานั้น จะไม่ได้กลับมาอยู่ใน DCIM folder ตามปกติอีกต่อไป แต่มันจะไปอยู่ใน folder ภายในของ Nextbit ที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดย App อื่น นอกจาก Nextbit Gallery เท่านั้น นั่นหมายความว่า เราไม่สามารถเสียบสาย USB แล้วก็อปรูปลงเครื่องคอมได้อย่างเดิมอีกแล้ว ซึ่งปัญหานี้ทาง Nextbit ได้เขียนอธิบายไว้บน website ของตัวเองว่า เพื่อไม่ให้การ restore รูปถ่ายของ Nextbit ไปขัดแย้งกับของ Google Photos รูปเหล่านี้จึงไม่ได้อยู่ใน DCIM folder ไม่งั้นจะเกิดรูปซ้ำๆขึ้นมากมาย ถ้าอยากได้รูปลงคอม วิธีการที่ Nextbit แนะนำคือ ให้แชร์รูปจาก Gallery ไปบริการอื่น (เช่น Google Drive หรือ email) แล้วค่อยไป download เอาเอง หรือรอตัวโปรแกรม WebClient ที่ทาง Nextbit ทำมาเพื่อแก้ปัญหานี้โดยเฉพาะ

nextbit-robin-review-software07.jpg

ที่มา: Nextbit Help

 

ประสิทธิภาพและความอึดของแบต

Nextbit Robin มาพร้อมกับชิปเซต Qualcomm Snapdragon 808 Hexa-core ความเร็ว 1.8GHz และมี RAM 3GB คร่าวๆคือ สเปกจะเท่ากับ LG G4 มือถือเรือธงของปีที่แล้วเลย ซึ่งประสิทธิภาพการใช้งานนั้นต้องบอกว่า “ลื่นไหลหายห่วง” ไ่มีอาการกระตุกให้เห็น เพราะสเปกระดับนี้ยังรับมือการใช้งานใน พ.ศ นี้ได้สบาย ไม่ว่าจะเล่น Social app หรือเล่นเกมก็ถือว่าสบายๆ ผลทดสอบ benchmark ถือว่าเซอร์ไพรส์หน่อยๆ เพราะ Geekbench 4 ได้คะแนนสูงกว่ามือถือที่ใช้ชิปเซ็ตดีกว่าอย่าง OnePlus 2 ซะอีก

nextbit-robin-review-perf01.jpg

Antutu Benchmark

 

nextbit-robin-review-perf02.jpg

Geekbench 4 : CPU

 

nextbit-robin-review-perf03.jpg

Geekbench 4 : GPU

 

ในส่วนของแบตเตอรี่ขนาด 2680mAh ที่ให้มานั้น เท่าที่ลองใช้งานดูถือว่าผิดหวังนิดๆ เพราะสามารถใช้ได้ไม่ถึง 1 วันแบบเต็มที่สักเท่าไหร่ จะรอดมิรอดแหล่ แล้วแต่ว่าวันนั้นจะใช้งานมือถือหนักขนาดไหน โดยส่วนตัวผมใช้งานเล่นพวก Social app เป็นหลัก มีการถ่ายรูปบ้างประปราย กลับถึงบ้านก็ต้องรีบเสียบชาร์จกันแล้ว เข้าใจว่าระบบยัง optimize มาไม่สุด

nextbit-robin-review-perf04.jpg

 

ผมได้ทดลองชาร์จ 100% แล้วทิ้งมือถือไว้ทั้งคืน เพื่อทดสอบการ standby ว่าแบตลดมากแค่ไหน ตื่นเช้ามาพบว่าแบตเตอรี่เหลือ 93% ลดไป 7% แตกต่างจากปกติที่ต้องลดเพียง 1-2% เท่านั้น อาจจะมีปัญหาเรื่องการ optimize battery อยู่ คงต้องรอดูอัพเดตซอฟต์แวร์เวอร์ชันต่อไปว่าจะดีขึ้นหรือไม่

nextbit-robin-review-perf05.jpg

 

อย่างไรก็ตาม Robin นั้นรองรับระบบชาร์จเร็ว Quick Charge 2.0 อยู่แล้วอาจจะช่วยผ่อนปรนเรื่องแบตไม่พอใช้ไปได้อยู่ครับ แต่ในกล่องนั้นไม่ได้ให้ตัว Adapter มา คนที่ซื้อก็ลองตรวจสอบดูว่าร้านได้ให้ Adapter มาด้วยหรือเปล่านะครับ

 

กล้องถ่ายรูป

nextbit-robin-review-camera01.jpg

Nextbit Robin มีกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล พร้อมระบบ PDAF (Phase Detection Autofocus) และ Dual-tone flash ซึ่งตัวโหมดในการถ่ายรูปไม่มีอะไรพิเศษมาให้เล่นมากนัก มีเพียงโหมด Auto และ Manual ให้เลือกใช้งาน ซึ่งในโหมด Auto จะสามารถเปิดปิด HDR ได้อีกที

nextbit-robin-review-camera02.jpg

 

โหมด Manual ที่ปรับค่าได้ไม่มาก ได้แก่ ระยะโฟกัส, WB, EV และ ISO

nextbit-robin-review-camera03.jpg

 

กล้องหลังสามารถถ่ายภาพนิ่งละเอียดสูงสุดคือ 13MP อัตราส่วน 4:3 ในขณะที่ถ่ายวิดีโอได้สูงสุดที่ 4K

nextbit-robin-review-camera04.jpg

 

คุณภาพของรูปถ่ายจากกล้องของ Robin นั้นถือว่าใช้ได้เลยครับ ไม่ได้เด่นมาก แต่ไม่ได้ขี้เหร่เลย ภาพมีการเก็นรายละเอียดได้ดี ให้สีได้แม่นยำ ถ่ายได้สนุกๆไม่ผิดหวังแน่นอน แม้ตอนแสงน้อยที่กล้องจะเริ่มจับโฟกัสช้าลง ภาพที่ออกมาก็ถือว่าดีพอตัวเลยทีเดียว มาดูภาพตัอย่างกันดีกว่า

http://albumizr.com/a/ap-g

 

 

กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลก็ถือว่า ถ่ายได้สวยแบบของจริง เพราะว่าไม่มีโหมด Beauty มาให้นะครับ ตรงอาจจะขัดใจขา Selfie นิดนึง

 

บทสรุป

เดินทางมาถึงบทสรุปของการรีวิวในครั้งนี้แล้วสำหรับ Nextbit Robin มือถือน้องใหม่สายอินดี้ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยครั้งแรก จริงๆก็คงเป็นครั้งแรกของแต่ละประเทศทั่วโลก เพราะ Robin คือมือถือรุ่นแรกของ Nextbit ครับ สำหรับมือถือรุ่นนี้จะเน้นที่งานออกแบบที่แปลกสะดุดตา ทั้งรูปร่างและสีสันของตัวเครื่องเรียกว่า ใครเห็นก็ต้องสะดุดมอง รวมไปถึงระบบซอฟต์แวร์ Cloud First ที่เน้นการรวมพื้นที่ใช้งานทั้งในเครื่องและบน Cloud เข้าไว้ด้วยกัน โดยอาจจะมีปัญหาการใช้งานในบางจุด เช่น การ restore รูปถ่ายจาก cloud แต่ก็พอมีวิธีกล้อมแกล้มไปได้ ในด้านสเปกของตัวเครื่องก็ถือว่าแรงพอตัว สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลไม่มีอาการสะดุดเลย ผมขอสรูปจุดดีและจุดที่ควรปรับปรุงของมือถือรุ่นนี้ไว้ดังนี้

จุดดี

  • งานออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร สีสันสะดุดตา

  • กล่อง packaging ก็เป็นเอกลักษณ์

  • หน้าจอ IPS 5.2 นิ้วสีสวยและภาพมีความคมชัดดี

  • ประสิทธิภาพดี การใช้งานลื่นไหล ไม่มีสะดุด

  • ลำโพงคู่สเตอริโอเสียงดังฟังชัด

  • ฟังเพลงผ่านหูฟังก็เสียงดีเช่นกัน

  • Quick Charge 2.0 ถึงจะเก่าแต่ก็ชาร์จเร็วอยู่ดี

 

จุดที่ควรปรับปรุง

  • ระบบ Cloud ที่ยังดูมีปัญหาในการใช้งานอยู่

  • ควาอึดของแบตเตอรี่ที่น่าจะดีกว่านี้

  • การสแกนนิ้วเพื่อปลดล็อดเครื่อง ต้องกดปุ่ม Power ก่อน 1 ครั้ง

Nextbit Robin วางจำหน่ายแล้วในราคา 12,900 บาท ซึ่งผมว่าพอดีๆไม่ถูกไม่แพงจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่มองหาความแตกต่าง ไม่ชอบเหมือนคนอื่น มือถือรุ่นนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอน สำหรับช่องทางจำหน่ายนั้นมือถือรุ่นนี้จะเน้นขาย Online ผ่านหลายเจ้าทั้ง Lazada, Central, Shopat24, Shopee และ WeLoveShopping ส่วนช่องทาง Offline นั้นจะขายผ่านทาง Power Mall เป็นหลัก สำหรับคนที่สนใจสามารถสำรวจรายชื่อร้านค้าที่ได้ที่ ช่องทางจำหน่าย วันนี้ผมขอลาไปก่อน สวัสดีครับ

nextbit-robin-review-end.jpg

 

from:http://droidsans.com/nextbit-robin-review-the-android-pastel-experience