ช่วงปี 2020 นี้นอกจากโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานกันทั่วๆ ไป อาทิ เล่นเกมหรือทำงานพื้นฐานที่มีการปรับเปลี่ยนสเปคในการใช้งานให้ดีขึ้นกว่าปีก่อนๆ ในตลาดโน๊ตบุ๊คแบบ Mobile Workstation ก็มีการปรับเปลี่ยนขึ้นด้วยเช่นกัน ในบทความนี้จะเป็นในส่วนของ Mobile Workstation อย่าง HP ZBook Studio G7 จัดว่าเป็นผลิตภัณฑ์กลุ่ม Z by HP Workstation รุ่นล่าสุด ที่พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุดสำหรับปัจจุบันและอนาคต
ซึ่งรุ่นที่เรานำมารีวิวจะมาพร้อมกับชิปประมวลผลที่ใช้ในการทำงานโดยเฉพาะอย่าง Intel Core i9-10885H พร้อมด้วยการ์ดจอระดับมืออาชีพ NVIDIA Quadro RTX 3000 Max-Q ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานไม่ถูกจำกัดด้วยตัวโปรแกรมอีกต่อไป พร้อมกับแรมที่มีมาให้มากถึง 32GB เพื่อการทำงานที่ต่อเนื่อง เอาใจคนที่ต้องใช้งานพื้นที่จำนวนมากด้วย SSD M.2 ความจุ 512GB สามารถเลือกความละเอียดของจอภาพได้ถึงระดับ 4K Ultra HD เพียบพร้อมในทุกๆ การใช้งาน
NBS Verdict
HP ZBook Studio G7 เป็น Mobile Workstation ทรงพลังที่สุด ได้ถูกสรรสร้างมาเพื่อตอบโจทย์นักออกแบบสร้างสรรค์ คอนเทนต์ครีเอเตอร์ สามารถออกแบบ แก้ไขงาน และสตรีมได้จากทุกที่ไม่ว่าขั้นตอนการทำงานจะซับซ้อน รวมไปถึงตอบสนองนักสร้างสรรค์เทคนิคพิเศษ อนิเมเตอร์ และ Colorist ทั่วโลก ทำให้พวกเขาสร้างสรรค์คอนเทนต์บนหน้าจอได้อย่างแม่นยำจากหน้าจอความละเอียดสูง 4K Ultra HD พาเนล IPS เกรดสูงสุด และด้วยคัลเลอริมิเตอร์ใน DreamColor ให้สีที่แม่นยำ sRGB 100%
โดยเลือกใช้ชิปประมวลผลที่ดีที่สุดอย่าง Intel Core i Gen 10H รุ่นพิเศษ ที่ไม่ใช่แต่ประสิทธิภาพสูง แต่รองรับการทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบมีความสเถียรภาพที่เยี่ยมยอด ซึ่งมีการจำคู่มากับการ์ดจอเพื่องานประมวลผลโดยเฉพาะอย่าง NVIDIA Quadro RTX Series ในส่วนของแรมและที่เก็บข้อมูลก็ดีเยี่ยมที่สุด รวมไปถึงการเชื่อมต่อก็ยังครบถ้วนจากการที่มี Wi-Fi 6 AX และ Thunderbolt 3 สมกับเป็น Mobile Workstation จากทาง HP จริงๆ
จากการปัจจุบันคนทำงานระดับมืออาชีพต้องการทำงานหลายอย่างในขณะที่งานกำลังดำเนินไปโดยไม่ช้างลงไป ผ่านทางโปรแกรม ISV ต่างๆ ที่สนับสนุนการทำงาน อาทิ ซอฟต์แวร์ขั้นสูง Adobe / ArcGIS / AutoCAD / CATIA / Creo / Inventor / Microstation NX / PDMS / Revit / Solid Edge / SolidWorks / Vectorworks ที่ปกติแล้วจะอยู่ในส่วนของงานที่ใช้พลังการประมวลผลที่ซับซ้อน รวมไปถึงโปรแกรมพื้นฐานอื่นๆ ก็ยังรองรับได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
HP ZBook Studio G7 นั้นยังคงความเป็น Z by HP Workstation กับการพัฒนาต่อยอดเป็นรุ่นที่ 7 (Generation 7) เหมาะกับการใช้งานสำหรับวิศวกร สถาปัตย์ นักตัดต่อวีดีโอ หรือผู้ใช้ระดับมืออาชีพในองค์กร ซึ่งเชื่อว่าเครื่องนี้อยู่ในระดับราคาที่น่าลงทุนสำหรับผู้ใช้งานในระดับมืออาชีพจริงๆ
แม้ว่าอาจจะดูว่าราคาสูงกว่าโน๊ตบุ๊คทั่วไป แต่สามารถทำให้สร้างรายได้แน่นอน สำหรับคนที่ต้องการจะซื้อมาใช้งาน เหมาะมากๆ กับคนที่ต้องการใช้งาน Mobile Workstation ที่ยังเต็มประสิทธิภาพ เต็มประสบการณ์ แต่ก็รองรับการใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบายๆ
ข้อดี
- การออกแบบเล็กกระชับ งานประกอบแน่นหนา วัสดุพรีเมียมตลอดทั้งตัวเครื่อง
- ดีไซน์ตัวเครื่องสวยงาม ทันสมัย ตอบโจทย์ของคนทำงานระดับมืออาชีพสายสร้างสรรค์
- ตัวเครื่องมีความทนทานสูง โดยผ่านการทดสอบระดับ Military Grade MIL-STD 810H
- สเปคแรงจัดเต็ม ด้วยชิป Core i9-10885H และการ์ดจอ Quadro RTX 3000 Max-Q
- หน้าจอ 15.6 นิ้ว IPS คุณภาพดีเยี่ยม ที่ 4K Ultra HD สีสันแม่นยำสูงสุด
- สเปกอื่นๆ อย่างแรมขนาด 32GB และ SSD M.2 NVMe PCIe 512GB
- พอร์ตเชื่อมต่อครบครันทั้ง USB 3.2 Type-A และ Thunderbolt 3
- คีย์บอร์ดกันน้ำหกใส่ พร้อมฟีเจอร์ HP Programmable Key
- ความปลอดภัยสูงสุด มีการสแกนนิ้วและสแกนใบหน้าในเครื่องเดียว
- การเชื่อมต่อมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX201 (2×2) ที่ดีและใหม่ที่สุด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานสูงสุดประมาณ 10 ชั่วโมง
- ตัวเครื่องมาพร้อมกับ Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์การปรับแต่งต่างๆ
- มาพร้อมกับการรับประกัน 3 ปี แบบ On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้าน
ข้อสังเกต
- ไม่มีพอร์ต LAN RJ45 มาให้ในตัว
- มีพอร์ต USB Type-A 3.2 มาให้เพียง 1 พอร์ต
Specification
HP ZBook Studio G7 สเปกแรงล้ำใหม่ล่าสุดด้วยการเลือกใช้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i Gen 10H ที่ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดอีกรุ่น อย่าง Core i9-10885H (2.40 GHz, 16 MB L3 Cache, up to 5.30 GHz) ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธร์ด รองรับหลากหลายการใช้งานแบบเหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA Quadro RTX 3000 Max-Q (6GB GDDR6) เรียกได้ว่าตอบสนองการทำงานหรือความบันเทิงได้เต็มประสบการณ์กว่าสเปกเดิมๆ ที่เป็น Core i Gen 9H และ GeForce แน่นอน
โดยการ์ดจอ NVIDIA Quadro RTX 3000 Max-Q (6GB GDDR6) กราฟิกการ์ดเน้นการประมวลผลซึ่งปลดปล่อยความร้อนน้อย ที่มาพร้อมกับสถาปัตยกรรม Turing ที่ออกมาสานต่อความสำเร็จของกราฟิกการ์ดรุ่นก่อนหน้ากับสถาปัตยกรรม Pascal เหนือชั้นกว่า Quadro ปกติ ในเรื่อง CUDA Core และ Tensor Core รวมถึงรองรับกับเทคโนโลยี Ray-Tracing โดยตรงแต่ก็มาพร้อมกับความแรงที่เพิ่มมากขึ้นจากก่อน โดยประสิทธิภาพในการเล่นเกมก็อาจจะสูงที่เป็น GeForce RTX ตรงๆ ไม่ได้
ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 1 ช่อง, Thunderbolt 3 จำนวน 2 ช่อง, mini DislayPort, ช่องเสียบหูฟังและไมค์ขนาด 3.5 มิลลิเมตร การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX201 (2×2) น้ำหนักตัวอยู่ที่ 1.81 กิโลกรัม มี Windows 10 แท้ ได้ประกัน 3 ปี On-site Service ซ่อมฟรีถึงบ้านด้วย กับราคาเริ่มต้นที่ 72,500 บาท
- Core i9-10885H / Quadro RTX 3000 Max-Q / RAM 32GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 4K
Hardware / Design
HP ZBook Studio G7 เป็น Mobile Workstation ที่ถูกออกแบบมาให้ดูสมบุกสมบัน โดยตัวเครื่องจะใช้สีออกน้ำตาลๆแบบด้านรอบตัวเครื่อง ทำให้ดูแล้วเหมาะแก่การนำไปใช้งานในที่ต่างๆ แบบไม่ต้องกังวลเรื่องของความทนทาน เพราะตลอดทั้งตัวเครื่องใช้วัสดุเป็นอลูมินเนียมอัลลอยด์คุณภาพสูง ที่ผ่านกระบวนการ CNC ขั้นสูงแบบ Unibody แทบไร้รอยต่อ พร้อมงานประกอบที่ดีที่สุด ในส่วนของฝาหลังจะ ด้านหลังจะมีโลโก้แบบใหม่อย่าง Z ที่จะแสดงถึงความไฮเอนด์ของซีรีส์ Z by HP Workstation
สำหรับขอบของตัวเครื่อง HP ZBook Studio G7 มีความเล็กกระชับมากๆ สำหรับตัวเครื่องที่มีหน้าจอขนาด 15.6″ แบบขอบบางเฉียบกว่ารุ่นก่อนมากๆ พร้อมกันนั้นยังมีน้ำหนักที่เบามากๆ เพียง 1.81 กิโลกรัมเท่านั้น (เบาลงกว่ารุ่นก่อน 14%) โดยความบางถือว่าทำออกมาได้ดีไม่ได้ดูหนาเกินไปด้วยความบาง 17.5 มิลลิเมตร (บางลงกว่ารุ่นก่อน 22%) ซึ่งได้สเปกและประสิทธิภาพระดับสูงแบบสายมืออาชีพ
แต่ HP ZBook Studio G7 สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่สะดวกสบายกว่า Mobile Workstation รุ่นก่อนๆ มากทีเดียว จัดได้ว่าเป็น Notebook ที่สเปกแรง แต่น้ำหนักไม่หนักจนเกินไป พกพาสะดวก มีความทนทานระดับ Military Grade (MIL-STD-810G) ต่อแรงกระแทก อุณหภูมิสูงต่ำ ความชื้น ความกดอากาศ และแสงแดด โดยเป็น Mobile Workstation รุ่นแรกที่มีวัสดุรีไซเคิลผลิตจากขยะพลาสติกในมหาสมุทรอีกด้วย
เน้นไปโทนสีดำและสีเทาที่สื่อถึงความจริงจังและความเป็นมืออาชีพ พร้อมตามขอบตัวเครื่องทั้งหมดมีการทำลวดลายปัดเสี้ยนสีเงิน เรียกได้ว่าเมื่อนำไปใช้งานนอกสถานที่ก็ดูลงตัวมีความน่าเชื่อถือ ไม่ใช่แค่ประสิทธิภาพจากสเปกภายในให้การทำงานได้เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะแบบใช้งานจริงจังเท่านั้น แต่ดีไซน์ภายนอกก็ส่งเสริมด้วย สำหรับช่องดูดลมเย็นถูกติดตั้งไว้เหนือคีย์บอร์ด และช่องระบายความร้อนจะถูกซ่อนไว้ที่แกนบานพับ และทางขวาของตัวเครื่อง เรียกได้ว่ารองรับการทำงานได้เป็นอย่างดี
ด้านล่างของตัวเครื่อง HP ZBook Studio G7 นั้นก็ยังคงออกแบบด้วยความเรียบง่ายเช่นกัน โดยมีช่องระบายความร้อนของเครื่องด้วยกันสองจุดที่มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งช่วยนำพาลมเย็นเข้าเครื่องได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ก็ยังมียางรองขาตัวเครื่อง ซึ่งป้องกันการลื่นไหลได้เป็นอย่างดี เรียกได้ว่าในการออกแบบรวมๆ นั้น ทำออกมาได้ค่อนข้างแน่นหนา และคำนึงถึงการใช้งานจริงได้ดีทีเดียว รวมไปถึงมีความบางเบากับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คหน้าจอ 15.6 นิ้วอีกด้วย
Keyboard / Touchpad
สำหรับคีย์บอร์ดที่นำมาใช้งานบนเครื่อง HP ZBook Studio G7 จะมาพร้อมกับการใช้งานคีย์บอร์ดขนาดมาตรฐานที่บนโน๊คบุ๊ค HP แต่ไม่มีเลือกที่จะไม่ติดตั้ง Numpad โดยระยะห่างระหว่างปุ่มแต่ละตัวจะมีการเว้นระยะห่างออกมาอย่างพอดี พร้อมกันก็ให้ความรู้สึกที่พิมพ์ได้อย่างแม่นยำด้วยระยะ 1.3 มิลลิเมตร และด้วยฟีเจอร์ Spill-resistant ส่งผลให้ทนทานต่อการที่น้ำหกใส่ในระดับหนึ่ง กรณีที่เกิดเหตุไม่ตั้งใจ
อีกทั้งใช้เทคโนโลยี Whisper-quiet rubber domes ส่งผลให้เสียงกดค่อนข้างเงียบ ส่วนล่างของแต่ละปุ่มจะมีไฟ LED Backlit ให้สามารถใช้งานได้ในที่ที่แสงน้อยหรือในที่มืดได้ชัดเจน ในส่วนของการใช้งานปุ่ม Function ต่างๆ เพื่อปรับตั้งค่า ก็สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก โดดเด่นที่ปุ่ม F12 ได้ฟีเจอร์ HP Programmable Key ที่เราสามารถสร้างคีย์ลัดต่างๆ ด้วยตนเองเพิ่มได้ด้วย
ส่วนของทัชแพดก็ถือว่าถูกแบบมาให้โดดเด่นกว่า HP รุ่นอื่นๆ คือจะมาเป็นแผ่นเดียว โดยไม่มีการแบ่งเส้นหรือสัญลักษณ์กั้นระหว่างซ้ายและขวา สัมผัสลื่นติดนิ้วและได้ความแม่นยำที่สูง นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างสแกนลายนิ้วมือ Fingerprint ไว้ให้ใช้งานร่วมกับ Windows Hello เพื่อที่จะเข้าใช้งานตัวเครื่องเพื่อความปลอดภัยแบบไม่ต้องใส่รหัสไปมาทุกครั้งอีกด้วย โดยการใช้งานก็ถือว่าทำออกมาได้ดีสมกับเป็น Mobile Workstation
Screen / Speaker
หน้าจอของ HP ZBook Studio G7 มีขนาด 15.6″ ขอบจอบางเฉียบที่ 4 ด้าน บนความละเอียด 4K UHD ที่ 3840 x 2160 พิกเซล ให้ทั้งความเรียบเนียนตาหรือพื้นที่ในการใช้งานมากกว่า Full HD หลายเท่าตัว กับพาเนล IPS แบบ 60Hz เกรดสูง และด้วยคัลเลอริมิเตอร์ใน DreamColor ระบบเทียบค่าสีอัตโนมัติ ให้ผลแม่นยำ 100% สำหรับขอบเขตสี sRGB และ Adobe RGB มีค่าสีมากกว่าพันล้านสีสำหรับการแรเงาที่เนียนนุ่มนวลและการไล่ระดับสีที่สม่ำเสมอมากขึ้น ทำให้ใช้งานนอกสถานที่หรือตามสตูดิโอได้สบายๆ
ซึ่งตรงนี้ทำให้รองรับการทำงานระดับมืออาชีพได้สมบูรณ์แบบทีเดียว เหมาะกับงานที่จริงจังเรื่องสีสันและความละเอียดของหน้าจอ รวมไปถึงเมื่อใช้การดูภาพ ดูวิดีโอ และเล่นเกมก็ทำได้อย่างเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีทั้งทำงานแบบจริงจัง ส่วนบานพับก็แข็งแรงกว่าอื่นๆ พร้อมกางได้มากกว่า 145 องศา พร้อมติดตั้งกล้องเว็บแคมแบบ 720p และไมโครโฟนไว้ขอบตัวเครื่องด้านบนพร้อมใช้งาน VDO Call ทันที อีกได้ติดตั้งกล้อง IR ไว้สำหรับสแกนใบหน้าอีกด้วย
ในเรื่องการใช้งานในส่วนของลำโพงและเสียงที่ได้เนื่องจากได้ Bang & Olufsen ระดับเสียงออกมาในโทนที่นุ่มใช้ได้เลย ให้ความรู้สึกแตกต่างจาก HP ตัวอื่นๆ สำหรับตำแหน่งของลำโพงจะถูกติดตั้งไว้ที่ขอบตัวเครื่องด้านล่าง 2 ตัวงฝั่งละตัว ด้วยการใช้ระบบเสียงคุณภาพดี ก็ช่วยเพิ่มอรรถรสในการให้เสียงเพื่อการทำงานหรือความบันเทิงให้ถึงใจยิ่งขึ้น จากการที่เสียงกลางแหลมออกชัดเจนดี ส่วนทุ้มมีออกมาหน่อยๆ แม้จะมีลำโพงซัฟวูฟเฟอร์ ส่วนในเรื่องคุณภาพเสียงนั้นถือว่าดีมากๆ ทั้งเรื่องคุณภาพและความดัง
Connector / Thin And Weight
HP ZBook Studio G7 จัดว่าเป็น Mobile Workstation สายทำงานระดับมืออาชีพขนาดหน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 1 x USB 3.2 Type-A, 2 x Thunderbolt 3, 1 x mini DisplayPort และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo เรียกได้ว่าพอเพียงกับการใช้งานทั่วไปอย่างแน่นอน
ที่สำคัญยังเลือกติดตั้งช่อง SD(XC/HC) Card reader เอาไว้พร้อมช่องปิดกันฝุ่น ทำให้เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน ส่วนการเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายมาตรฐาน Wi-Fi 6 AX ที่เป็นมาตรฐานใหม่ล่าสุดดีที่สุด
ด้านการพกพาตัวเครื่อง HP ZBook Studio G7 ทำได้น่าพอใจมากๆ ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คที่มีดีไซน์ขอบจอบาง ด้วยมิติตัวเครื่องกระชับเทียบเท่าหน้าจอ 14″ รุ่นก่อนหน้า รวมถึงน้ำหนักตัวเครื่องที่ 1.81 กิโลกรัม และเมื่อรวมกับอแดปเตอร์สายชาร์จเข้าไปด้วยแล้วก็จะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 2 กิโลกรัมต้นๆ เท่านั้น นับได้ว่าพกพาสะดวกอยู่เวลาใช้งานนอกสถานที่ ไม่ว่าจะเป็นออฟฟิศ หรือร้านกาแฟต่างๆ
Inside / Upgrade
การแกะเครื่องเพื่อทำวคามสะอาด HP ZBook Studio G7 นั้นสามารถทำได้ง่าย เพียงแค่ไขน็อตทุกตัวรอบฝาล่างออก จากนั้นใช้บัตรแข็งค่อยๆ รูดถอดออกที่ละส่วน จากด้านหลังมาด้านหน้าทีละข้าง โดยเวลาทำห้ามใจร้อนเด็ดขาด ไม่งั้นเกลียวใต้ฝาอาจจะหักได้ แล้วค่อยๆ แงะฝาขึ้นมาอีกที งานประกอบการจัดวางตำแหน่งมีความพิเศษมากๆ
พร้อมด้วยเทคโนโลยี Vapor Chamber แตกต่างจากโน๊คบุ๊คทั่วไป และโพลิเมอร์คริสตัลของเหลว เพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามต้องการกำหนดระบบระบายความร้อนขั้นสูงจาก CPU และ GPU แบบ 3 ช่องทาง เพิ่มประสิทธิภาพสูงกว่า 2.8 เท่า
อีกทั้งมี Z Power Slider ช่วยให้ผู้ใช้งานควบคุมประสิทธิภาพงานในแต่ละส่วนรวมทั้งเสียงสำหรับกระบวนการทำงานเฉพาะด้านได้อย่างสมบูรณ์ ในขณะเดียวกัน Z Predictive Fan Algorithm จะจัดการการทำงานของพัดลมได้อย่างอัจฉริยะตามลักษณะการใช้งานและแอปพลิเคชั่นที่กำลังใช้งานอยู่
ซึ่งแรมจะเป็นแบบติดตั้งอีกด้านของเมนบอร์ดโดยสามารถเลือกความจุได้ทั้งแบบ 16GB หรือ 32GB แบบ soldered down memory รองรับการทำงาน Dual Channel ซึ่งก็จัดเต็มมาแล้ว ส่วน SSD M.2 NVMe PCIe รองรับการติดตั้ง 1 สล็อตด้วยกันที่ความจุ 512GB เรียกได้ว่าการแกะตัวเครื่องนั้นไม่ยาก พร้อมอัพเกรด SSD ให้มีความจุที่ใหญ่กว่าเดิม
Performance / Software
สำหรับ HP ZBook Studio G7 มาพร้อมกับชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H สถาปัตยกรรม Comet Lake-H ที่เป็นตัวแรงพิเศษอย่าง Core i9-10885H เน้นนำไปใช้งานหนักๆ มากกว่ารุ่นยอดนิยมอย่าง Core i7-10750H ที่ใช้กันในหลายแบรนด์ ไม่จะเป็นการโปรเซสหรือเล่นเกม 3 มิติ ที่กินทรัพยากรสูง โดยมีความเร็วในการประมวลผลอยู่ที่ 2.40 GHz แต่สามารถเร่งประสิทธิภาพขึ้นไปได้สูงสุดถึง 5.30 GHz เป็นซีพียูแบบ 8 Core 16 Threads มาพร้อมแรมภายในขนาด 32GB DDR4 Bus 2933 MHz แบบ soldered down memory.
. 
แน่นอนว่ามาพร้อมกับกราฟิกการ์ดเป็นแบบออนบอร์ดอย่าง Intel UHD Graphics 630 ที่ให้พลังในการประมวลผลที่ดีในระดับหนึ่ง อย่างในเรื่องของกราฟิก 2 มิตินั้นก็รองรับได้อย่างสบายๆ หรือถ้าเป็น 3 มิติ ก็ต้องบอกว่ารองรับการทำงานได้ในระดับเบื้องต้นเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ ก็สนับสนุนการทำงานพื้นฐานพวก 2 มิติ รวมถึงการแสดงผลหน้าจอความละเอียดสูง 4K Ulra HD หรือเล่นเกมได้ในระดับนึงเหมือนกัน
. 
อีกทั้งยังมีกราฟิกการ์ดจอแยกอย่าง NVIDIA Quadro RTX 3000 Max-Q (N19E-Q1 MAX-Q) โดยมีแรมการ์จอภายใน 6GB GDDR6 ที่เป็นรุ่นใหม่ของ Quadro RTX รองรับ Ray-Tracing เหมือนอย่าง GeFoece RTX เน้นความแรงในการประมวลผลภาพ 3 มิติ หรืองานดีไซน์อื่นๆ รวมไปถึงใช้งานทางด้านการตัดต่อสื่อวีดีโอและภาพถ่ายโดยเฉพาะ ซึ่งประสิทธิภาพก็เพียงพอในการเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล เทียบเท่ากับ GeForce RTX 2060 เลยก็ว่าได้
. 
สำหรับโปรแกรมทดสอบ CINEBENCH ที่เน้นในเรื่องของพลังชิปประมวลผล คะแนนก็อยู่ในระดับสูง เป็นที่น่าประทับใจ เปรียบเทียบกับชิปประมวลผลรุ่นก่อนหน้าแล้ว ก็ทำได้ดีกว่าพอตัว รวมไปถึงตัวการ์ดจอแยกเองก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้น (แต่ออนชิปคือตัวเดิมนะ) เรียกได้ว่าตอบโจทย์ในส่วนของงานประมวลผลหนักๆ ได้อย่างสบายๆ รวดเร็วทันใจแบบสุดๆ สมกับเป็นชิปประมวลผลตัวบนในรุ่นใช้งานเต็มกำลัง และการ์ดจอระดับบน ที่เน้นการทำงานเป็นหลัก สมกับเป็นชิปประมวลผล Intel Core i9-10885H จริงๆ
ตัวเก็บข้อมูลของเครื่องที่เลือกใช้ SSD ที่กลายเป็นมาตรฐานของ Notebook ไปแล้ว โดยใช้เป็นระดับบน ทำคะแนนออกมาได้อย่างรวดเร็วเป็นที่น่าพอใจบนขนาดความจุ 512GB แบบ M.2 NVMe PCIe ยิ่งเมื่อนำไปใช้เทียบกับฮาร์ดดิสก์แบบจานหมุนแล้วละก็จะเห็นถึงประสิทธิภาพทั้งในด้านการทดสอบและในด้านการใช้งานจริงที่แตกต่างกันอย่างเห็นเห็นได้ชัด เรียกได้ว่าเปิดอะไรปุ๊บก็ติดปั๊บ ที่ต้องบอกว่าความเร็วระดับการอ่านที่ราวๆ 3527 MB/s และเขียนที่ 2979 MB/s ที่เร็วกว่ารุ่นก่อนๆ แต่ก็ถือว่าดีกว่ามาตรฐาน SATA 3 แบบเดิมๆ แล้ว
การทดสอบประสิทธิภาพกับโปรแกรม PCMark 10 Advance ซึ่งสามารถทำคะแนนการทดสอบรวมได้มากถึง 5448 คะแนน ถือได้ว่าในส่วนของการใช้งานทั่วไปโดยรวมนั้นสอบผ่านแบบสบายๆ ทั้งในส่วนของการเล่นเว็บไซต์ งานเอกสาร งานตกแต่งรูปภาพ รวมถึงงานตัดต่อวิดีโอ และจากการที่เป็นโน๊ตบุ๊คเล่นเกมชิปประมวลผล Core i9-10885H มีการ์ดจอแยกอย่าง Quadro RTX 3000 Max-Q แต่ถ้าเทียบจริงๆ จะเห็นถึงคะแนนที่ได้ค่อนข้างสูงใกล้เคียงกับ Gaming Notebook ในช่วงราคาเดียวกัน
คะแนนและเฟรมเรมในการเล่นเกมก็ถือว่าพอเล่นได้ โดยเฉลี่ยของเฟรมเรท (FPS) จากทั้ง 7 เกมที่ได้ทดสอบมีค่าเฟรมเรทเฉลี่ยมากกว่า 60 FPS ขึ้นไปแทบทุกเกม ซึ่งตรงนี้ก็สามารถชี้วัดความสามารถในการเล่นเกมที่กราฟิกละเอียดๆ และภาพสวยๆ ได้ลื่นไหลเป็นอย่างดีเลย
จากการที่สเปกภายในเป็นชิปประมวลผล Intel Core i9-10885H ที่สามารถรีดพลัง Quadro RTX 3000 Max-Q ออกมาได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับยังใช้แรม 32GB DDR4 Bus 2933 MHz รวมไปถึง SSD M.2 NVMe PCIe ก็ส่งผลช่วยด้วย อย่างไรก็ตามก็ไม่แนะนำให้นำเล่นเกมเป็นหลัก เพราะ HP ZBook Studio G7 เน้นทำงานมากกว่า
จุดที่น่าสนใจของ HP ZBook Studio G7 รวมไปถึงโน๊ตบุ๊ค HP ทุกรุ่น ก็คือมาพร้อมซอฟต์แวร์บันเดิลอย่าง HP Support Assistant โดยเป็นโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้เราดูแลคอมพิวเตอร์ได้อย่างเหมาะสม ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และช่วยแก้ปัญหาได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว โปรแกรมนี้ยังระบุข้อมูลที่สำคัญสำหรับแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนั่นหมายรวมไปถึงการอัพเดทไดร์เวอร์ต่างๆ และ Windows ด้วย จัดได้ว่าดีและใช้งานได้จริง
นอกเหนือจากนั้น HP ZBook Studio G7 ยังจัดเต็มเรื่องของซอฟต์แวร์จัดการต่างๆ เรื่องความปลอดภัยขั้นสูง อย่าง HP Client Security Setup ซึ่งเป็นโปรแกรมส่วนกลางคอยจัดการด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ตั้งแต่การตั้งรหัสพื้นฐาน รหัสสำรอง การใช้งานแสกนนิ้ว รวมไปถึงการเข้าถึงระดับ BIOS และซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังเป็นเรื่องของการเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ของตัวเครื่องอีกด้วย
Battery / Heat / Noise
แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน HP ZBook Studio G7 ครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติ ความจุประมาณ 6300mAh ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่โดยตั้งค่าความสว่างหน้าจอและเสียงให้ระดับต่ำ แล้วเล่นเว็บสลับกับดู Youtube พร้อมเปิดโปรแกรม BatteryMon แจ้งระยะเวลาใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวประมาณ 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้อยู่ในเกณฑ์ที่ดีกว่ามาตรฐานปกติกับการที่เป็นโน๊ตบุ๊คประสิทธิภาพสูงแบบนี้
ส่วนเรื่องอุณหภูมิในการใช้งานนั้น HP ZBook Studio G7 เมื่อใช้งานแบบปกติชิปประมวลผลจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส ภายในห้องปรับอากาศอุณหภูมิประมาณ 25 – 27 องศาเซลเซียส จากนั้นทำการทดสอบเบิร์นให้เครื่องทำงาน 100% ด้วยการเล่นเกมกราฟิก 3 มิติ และการประมวลผล 3 มิติ เพื่อให้เห็นถึงระบบระบายความร้อนและเสียงรบกวนที่จะเกิดขึ้นเมื่อพัดลมหมุนรอบจัดสุด
ที่ดูจากภาพแล้วจะเห็นได้ว่าอุณหภูมิสูงสุดของชิปประมวลผล CPU อยู่ที่ไม่เกิน 100 องศาเซลเซียส นับว่าไม่ได้ร้อนจนเกินไปนัก ส่วนการ์ดจอถือว่าเย็นทีเดียวโดยร้อนสุดเพียง 74 องศาเซลเซียสเท่านั้น โดยรวมแล้วมีการจัดการอุณหภูมิได้เป็นอย่างดี ซึ่งเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ได้กลับมากับขนาดตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดพกพาง่ายกว่าเดิม ส่วนเสียงรบกวนก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไม่ได้ดังเกินไปแต่อย่างใด
Conclusion / Award
สรุปรีวิวสำหรับการมาของ HP ZBook Studio G7 ถือได้ว่าเป็น Mobile Workstation ให้ดูแล้วเรียบง่ายหรูหรา เหมาะกับการใช้งานสำหรับวิศวกร สถาปัตย์ นักตัดต่อวีดีโอ หรือผู้ใช้ระดับมืออาชีพในองค์กร ซึ่งเชื่อว่าเครื่องนี้อยู่ในระดับราคาที่น่าลงทุนสำหรับผู้ใช้งานในระดับมืออาชีพจริงๆ ทำงานสร้างสรรค์ระดับมืออาชีพรุ่นท็อปของทาง HP ที่น่าสนใจมากๆ
โดยตั้งใจนำเสนอมาตอบโจทย์กับคนทำงานที่ต้องคอมพิวเตอร์เน้นประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงกว่าคนทั่วไป เพื่อนำไปงานโปรแกรมเฉพาะทางอย่าง Adobe Photoshop / Adobe Illustrator หรือ Autodesk 3Ds Max ด้วยสเปกที่แตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปแบบชัดเจน ที่ไม่ใช่แต่แรงแต่สเถียรภาพสูงด้วย
มิติตัวเครื่องเล็กลงกว่า HP ZBook รุ่นก่อนๆ การประกอบก็แน่นอนไว้ใจได้ อย่างไรก็ตามโดยรวมแล้วก็เป็นการต่อยอดจาก HP ZBook Studio G6 รุ่นสเปกก่อนในหลายๆ ส่วน พร้อมได้หน้าจอระดับสูงทั้งมาตรฐานขอบเขตสี sRGB 100% กับความละเอียดหน้าจอที่สูง 4K Ultra HD ส่งผลให้ประสบการณ์ใช้งานที่แตกต่างอย่างชัดเจน
ทั้งความสเถียรภาพที่สูงจากสเปกภายใน ประสิทธิภาพที่ทำงานร่วมกับโปรแกรมต่างๆ ที่สมบูรณ์แบบ รวมไปถึงได้การเชื่อมต่อที่ดีที่สุดอย่าง Wi-Fi 6 AX201 (2×2) และ Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต รองรับการเชื่อมต่อที่รวดเร็วและได้การแสดงผลที่ 4K / 8K
HP ZBook Studio G7 เป็นเครื่อง Mobile Workstation แบบพกพาที่มีความสมบูรณ์แบบมากๆ ตัวหนึ่งในช่วงปี 2020 นี้ ที่ได้แบตเตอรี่ยาวนานและความทนทาน และสำหรับใครที่สนใจก็สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้เลยซึ่งจำเป็นต้องซื้อผ่านทางองค์กรหรือกับทาง HP โดยตรง สำหรับ HP ZBook Studio G7 จะมีให้เลือกกันหลายสเปค ในขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้ว สนนราคาเริ่มต้นที่ 72,500 บาท มาพร้อมการรับประกันแบบ 3 ปี On-site Service ตามมาตรฐานของโน๊ตบุ๊คระดับมืออาชีพ
Award
โดยในครั้งนี้จะเป็นการเปรียบเทียบการให้รางวัลกับเครื่องในกลุ่มของโน๊ตบุ๊คขนาดหน้าจอ 15.6 นิ้วด้วยกัน ซึ่ง HP ZBook Studio G7 ก็ได้รางวัลต่างๆ ดังนี้
Best Design
เรื่องของรูปร่างหน้าตาก็เป็นหนึ่งในจุดเด่นที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ของ Z by HP Workstation ซึ่งจุดเด่นในข้อนี้ ก็เห็นได้ชัดเจนใน HP ZBook Studio G7 ที่มีดีไซน์ของตัวเครื่องสวยงามโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ดูแล้วเรียบหรูตามสไตล์คนรุ่นใหม่ที่เน้นการทำงานระดับมืออาชีพ ที่สำคัญคือขอบจอบางแม้หน้าจอ 15.6″ ทำให้มิติตัวเครื่องใกล้เคียงพวกจอ 14″ โดยใช้วัสดุของตัวเครื่องทั้งหมดเป็นโลหะอลูเมียมเกรดสูง ผ่านกระบวนการ CNC และกาประกอบที่สมบูรณ์แบบที่สุด
Best Performance
ด้วยสเปกชิปประมวลผล Intel Core i9 Gen 10H รุ่นพิเศษ และการ์ดจอสายงานประมวลผล 3D อย่าง NVIDIA Quadro RTX Sereis ที่มาพร้อมกับแรมขนาดจัดเต็ม รวมไปถึง SSD M.2 ความเร็วสูง ก็ทำให้ประสิทธิภาพโดยรวมของตัวเครื่องนี้มีความน่าประทับใจ ฮาร์ดแวร์ต่างๆ เข้ากันเป็นอย่างดี ทั้งจากในการใช้ทำงานจริงๆ ประเภทงานประมวลผล รวมไปถึงการทดสอบด้วยโปรแกรมต่างๆ ค่าคะแนนต่างๆ ก็ทำออกมาได้ดี ส่วนการใช้งานทั่วไปนั้นก็ลื่นไหลสุดๆ
Best Mobility
ความสามารถในการพกพาก็ยังคงอยู่ในระดับที่ดีตามสไตล์ของโน้ตบุ๊ตที่เน้นความบางเบา กับรุ่นขนาดหน้าจอ 15.6″ ทั้งในความบางเพียง 17.5 มิลลิเมตร และน้ำหนักเบา 1.81 กิโลกรัม ที่ทำให้สามารถหิ้วไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องการจับถือมากนัก สามารถพับฝาจอลงแล้วเก็บเครื่องได้ทันที อแดปเตอร์ก็ทำออกมาให้มีขนาดที่ไม่ใหญ่มากนัก พกพาสะดวก รวมน้ำหนักแล้วยังไม่ถึง 2.2 กิโลกรัม แบตเตอรี่ก็ใช้งานได้ยาวนาน 10 ชั่วโมง เหมาะมากๆ กับคนที่ทำงานนอกสถานที่บ่อยๆ
Best Graphic
หน้าจอพาเนล IPS คุณภาพระดับสูง ที่มีความละเอียดอย่าง 4K Ultra HD ส่งผลให้มีสีสันสวยสมจริง ให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีเยี่ยม คมชัดในทุกมุมมอง พร้อมวัดค่า sRGB ดีที่สุด ตั้งแต่ที่เคยทดสอบโน๊ตบุ๊คมา รวมไปถึงมีพอร์ตความเร็วสูงแห่งอนาคตอย่าง Thunderbolt 3 ไว้เชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ อย่างหน้าจอภายนอกระดับ 4K Ultra HD อีก 2 หน้าจอพร้อมๆ กัน เพื่อยกระดับการทำงานขั้นสูง ตอบโจทย์คนทำงานสายคอนเทนต์ครีเอเตอร์ได้อย่างลงตัวที่สุด
from:https://notebookspec.com/web/545766-review-hp-zbook-studio-g7-i9-rtx3000max
. 
. 
i7-10750H / Quadro T2000/ T1000, 4GB GDDR6/ 15.6″ FHD (1920*1080), IPS-Level Thin Bezel / DDR IV 16GB (2666MHz) / 512GB NVMe PCIe Gen3x4 SSD +1TB (SATA) 7200rpm / Intel Wi-Fi 6 AX201(2*2 ax) + BT5.1 / Single Backlight (White) Keyboard / 3 Years Warranty
techfeedthai 