คลังเก็บป้ายกำกับ: MCDONALD

แมคโดนัลด์รัสเซียได้ชื่อใหม่ Vkusno & tochka สโลแกน ชื่อเปลี่ยนไปแต่หัวใจเหมือนเดิม

Vkusno & tochka ชื่อใหม่ของแมคโดนัลด์ รัสเซีย แปลว่า Delicious. Full Stop อร่อย แค่นั้น ชื่อใหม่ ภายใต้เจ้าของคนใหม่ที่เป็นนักธุรกิจที่ได้รับใบอนุญาตทำร้าน McDonald 25 แห่งในไซบีเรีย ถือเป็นการรีแบรนด์ครั้งใหม่ในรอบกว่า 30 ปี ร้านแมคโดนัลด์ที่รีแบรนด์แล้วและเปิดใหม่นี้คือร้านที่ตั้งอยู่บริเวณจตุรัสพุชกิน (Pushkin Square) กลางใจกรุงมอสโก 

Vkusno-&-tochka

หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีการเปิดตัวโลโก้ที่เป็นเฟรนช์ฟราย 2 อันพร้อมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้น หลายคนมองว่าโลโก้เหมือน Mos Burger แบรนด์เบอร์เกอร์สัญชาติญี่ปุ่น ล่าสุดมาพร้อมชื่อใหม่ที่แปลว่าอร่อยแล้ว ยังมีสโลแกนมาด้วย นั่นก็คือ ถึงชื่อจะเปลี่ยนไป แต่หัวใจยังคงเดิม (The name changes, love stays) 

การรีแบรนด์ครั้งใหม่นี้มีคนต่อคิวเพื่อเข้าไปรับประทานในร้านอาหารน้อยกว่าตอนที่เปิดตัวครั้งแรกในช่วงปี 1990 และยังมีเมนูที่น้อยลงด้วย ไม่มี Big Mac ที่เป็นเมนูยอดฮิตของแมคโดนัลด์เจ้าเก่าและยังมีอีกหลายเมนูที่หายไปรวมทั้งของหวานอย่าง McFlurry ด้วย ไม่ใช่แค่เมนูที่น้อยลงแต่ราคาก็ลดลงด้วย ราคาของดับเบิลชีสเบอร์เกอร์อยู่ที่ 129 รูเบิล (ประมาณ 2.31 เหรียญสหรัฐหรือ 60 กว่าบาท) จากเดิมอยู่ที่ 160 รูเบิล ส่วนแมคฟิชราคา 169 รูเบิลจากเดิมอยู่ที่ 190 รูเบิล ขณะที่องค์ประกอบต่างๆ ของเบอร์เกอร์และอุปกรณ์ของแมคโดนัลด์ก็ยังอยู่คงเดิม เซอร์เกย์ลูกค้าวัย 15 ปีบอกว่า รสชาติยังเหมือนเดิม แต่โค้กมีรสชาติที่แตกต่าง

Oleg Paroev ซีอีโอแมคโดนัลด์ เวอร์ชั่นรัสเซียหรือ Vkusno & tochka ระบุว่า บริษัทเตรียมจะกลับมาเปิดหน้าร้านอีกราว 200 แห่งภายในช่วงสิ้นเดือนมิถุนายนและทั้งหมดรวม 850 สาขาจะเปิดภายในช่วงปลายซัมเมอร์ ภายในร้านยังคงตกแต่งเช่นเดิม เพียงแต่เอาชื่อเดิมออกเท่านั้น เป้าหมายของแมคโดนัลด์เวอร์ชั่นรัสเซียก็คือ ไม่ต้องการให้ลูกค้ารู้สึกถึงความแตกต่างทั้งในเรื่องของคุณภาพอาหารและบรรยากาศ นอกจากนี้ก็พยายามรักษาระดับราคาที่สามารถจับต้องได้ อาจจะมีราคาเพิ่มขึ้นบ้างในช่วงเงินเฟ้อแต่ก็ไม่ได้มีราคาที่สูงกว่าคู่แข่ง

ขณะที่ Alexander Govor นักธุรกิจชาวไซบีเรียนผู้เป็นเจ้าของ Vkusno & tochka ให้สัมภาษณ์รอยเตอร์สว่า อาจจะมีการปล่อยเมนูเด่น Big Mac เหมือนกับแมคโดนัลด์เจ้าเก่าออกมา เขาบอกว่า เขาไม่มีสิทธิใช้สี หรือสัญลักษณ์หรือโลโก้ของแมคโดนัลด์ได้ เขาไม่มีสิทธิที่จะอ้างอะไรที่เกี่ยวข้องกับแมคโดนัลด์ได้ Big Mac คือเรื่องเล่าของแมคโดนัลด์ เราจะทำบางอย่างที่เหมือนกัน เราจะพยายามทำบางอย่างให้ดีขึ้น ด้านซีอีโอเผย บริษัทกำลังมองหาแหล่งซัพพลายเออร์ที่จะจัดหาเครื่องดื่มให้ใหม่ เพราะเครื่องดื่ม Coca Cola กำลังจะหมดแล้วและยังระงับการขายในรัสเซียอยู่

อย่างไรก็ดีขณะที่มีการแถลงข่าวอยู่นั้นก็มีชายคนหนึ่งยืนมาถือป้ายหน้ากล้อง เนื้อหาในป้ายนั้นระบุว่า “เอา Big Mac กลับมา” จากนั้นเขาก็ถูกเชิญตัวออกไปจากร้าน

ด้านเจ้าของแมคฯ คนใหม่ Govor ระบุว่า เขาใช้เงินจ่ายเงินซื้อสัญลักษณ์ในราคาที่ต่ำกว่าตลาด มันคือสัญลักษณ์ของ McDonald เบอร์เกอร์ที่มีสาขามากที่สุดในโลกด้วยราคา 1.4 พันล้านเหรียญสหรัฐหรือประมาณ 4.86 หมื่นล้านบาท ซึ่งสหรัฐมีสิทธิจะซื้อกลับไปภายใน 15 ปี แต่พวกเขาก็ยืนยันว่าเขาจะไม่ซื้อกลับไป ด้านแมคโดนัลด์เคยระบุไว้ว่าเจ้าของธุรกิจคนใหม่จะต้องรักษาการจ้างพนักงาน 6.2 หมื่นรายของแมคโดนัลด์ต่อไปอย่างน้อย 2 ปีเป็นอย่างต่ำ แต่ทาง Govor ก็ยังไม่ได้ออกความคิดเห็นใดๆ กับเรื่องนี้

ที่มา – CNA, The Straits Times

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post แมคโดนัลด์รัสเซียได้ชื่อใหม่ Vkusno & tochka สโลแกน ชื่อเปลี่ยนไปแต่หัวใจเหมือนเดิม first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/russia-mcdonald-new-name-vkusno-and-tochka/

มาแล้ว โลโก้ใหม่ของ McDonald เวอร์ชั่นรัสเซีย

McDonald’s ตัดสินใจหันหลังให้รัสเซียที่ทำมาค้าขายยาวนานถึง 32 ปี 850 สาขา หลังจากรัสเซียบุกยูเครนก็ทำให้ธุรกิจไม่สามารถทำธุรกิจในประเทศนี้ได้อีกต่อไป จึงเทขายธุรกิจทั้งหมดให้นักธุรกิจชาวรัสเซีย Alexander Govor ตอนนี้ธุรกิจเริ่มเดินหน้ารีแบรนด์ตัวเองแล้ว

Russia McDonald logo

มีการเปิดเผยโลโก้ใหม่แล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา โดยสื่อรัสเซีย TASS ระบุว่า ตัวโลโก้มีพื้นหลังเป็นสีเขียวที่สื่อถึงคุณภาพของสินค้าและบริการที่ลูกค้าคุ้นชินกันอยู่แล้วและมีโลโก้เป็นวงกลมสีส้มแดง 1 วงที่สื่อถึงเบอร์เกอร์ 1 อันและเส้นสีส้ม 2 เส้นที่สื่อถึงเฟรนซ์ฟราย ส่วนชื่อใหม่ของแมคโดนัลด์เวอร์ชั่นรัสเซียยังไม่ได้เปิดเผย แต่มีรายงานจากสื่อรัสเซีย RBC ระบุว่า มีทั้งชื่อที่หมายถึงสนุกและอร่อย มีชื่อ Tot Samyi ที่หมายถึงเหมือนเดิม

โลโก้ใหม่ของแมคโดนัลด์สาขารัสเซียนี้เตรียมจะเปิดตัวในวันที่ 12 มิถุนายนนี้ ไม่ใช่แค่ชื่อและโลโก้ที่ต้องเปลี่ยนใหม่ ยังมีชื่อเมนูที่ต้องรีแบรนด์เหมือนกัน เช่น เมนู Filet-o-Fish ก็เป็น Fish Burger หรือ Chicken McNuggets ก็เปลี่ยนชื่อเป็น nuggets ด้านซีอีโอ Oleg Paroev ซีอีโอของแมคโดนัลด์ในรัสเซียก็ระบุว่า เตรียมจะเปิดหน้าร้านอีกราว 200 แห่งภายในช่วงปลายเดือนมิถุนายน

ที่มา – Insider, Fortune, Tass (1), (2)

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post มาแล้ว โลโก้ใหม่ของ McDonald เวอร์ชั่นรัสเซีย first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/mcdonalds-russia-new-logo/

ตัดปัญหา พรุ่งนี้กินอะไรดี? McDonald จัดให้ แพ็กเหมา ผูกอิ่ม เซ็ท 5 วัน 750 บาท

แมคดิลิเวอรี่เปิดตัวอาหาร 5 วัน 5 เซ็ท สั่งเป็นแพ็กแบบเหมากับ McDonald พร้อมส่วนลดสูงสุด 52% ราคา 750 บาท จากปกติ 1,550 บาท ตกมื้อละ 150 บาท พิเศษ! สำหรับ 100 ออเดอร์แรก รับฟรีตั๋วหนัง 2 ใบ มูลค่า 480 บาท เริ่ม 5-28 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ เฉพาะบริการ McDelivery โทร 1711 หรือคลิกลิงก์นี้เพื่อสั่งอาหาร http://bit.ly/mds-meal หรือดูรายละเอียดเพิ่มได้ที่ Facebook McDonald’s

McDonald

แพ็กเหมา ผูกอิ่ม ส่งถึงบ้านด้วยราคามื้อละ 150 บาท เซ็ท 5 วัน 750 บาทมีรายเมนูด้วยกัน มีทั้งอิ่มเดี่ยวและอิ่มคุ้ม 10 เมนู

อิ่มเดี่ยว

  • อิ่มเดียวข้าวแกงกะหรี่ชีสซี่ลาวา
  •  อิ่มเดี่ยวข้าวไก่กรอบหอมเจียว
  •  อิ่มเดี่ยวข้าวแมคกะเพราไก่
  •  อิ่มเดี่ยวข้าวแมคกะเพราหมู
  •  อิ่มเดี่ยวไก่ทอดสุดคุ้ม

อิ่มคุ้ม

  • อิ่มคุ้มซามูไรเบอร์เกอร์หมู
  • อิ่มคุ้มแมคฟิช
  • อิ่มคุ้มชิคแอนด์ชีสเบอร์เกอร์
  • อิ่มคุ้มแมคไก่
  • อิ่มคุ้มดีลักซ์ชีสเบอร์เกอร์เนื้อ

McDonald

เงื่อนไขในการสั่งแพ็กเหมา ผูกอิ่ม

  • ลูกค้าสามารถเลือกวันและเวลาได้ แต่จัดส่งเพียงที่อยู่เดียว หรือมารับที่สาขา
  • ลูกค้าต้องสั่งล่วงหน้า 1 วัน ไม่เกิน 21 วันนับจากออเดอร์แรกที่ไปส่ง
  • ลูกค้าสามารระบุให้ส่งหลายออเดอร์ภายในวันเดียวได้
  • บริการจัดส่งเฉพาะเวลา 11.30-22.00น.
  • สงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงวันเวลาที่จัดส่งและเมนูอาหารที่คอนเฟิร์ม
  • ชำระเป็นเงินสดในวันที่รับออเดอร์วันแรก

McDonald

เงื่อนไขตั๋วหนัง

  • 100 ท่านแรกที่สั่งแพ็กเหมา ผูกอิ่ม รับฟรีตั๋วหนัง 2 ใบต่อ 1 ออเดอร์
  • รหัสตั๋วหนังส่งผ่าน SMS ทุกวันศุกร์ เริ่มส่งวันแรก 12 ก.พ. 64
  • แสดง SMS ตั๋วหนังเพื่อสำรองที่นั่งชมภาพยนตร์สำหรับที่นั่งปกติ ระบบปกติเท่านั้น
  • SMS 1 รหัส ใช้ชมภาพยนตร์ 1 ที่นั่ง
  • รหัสตั๋วหนังไม่สามารถแลก ทอน หรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
  • ขอสงวนสิทธิ์งดใช้ในกรณีพิเศษ โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า
  • บัตรนี้ใช้ได้กับโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ
  • บัตรนี้ไม่สามารถใช้กับภาพยนตร์รอบพิเศษ และภาพยนตร์ที่ฉายใน 4 วันแรกได้ (งดใช้ 7 วันแรกสำหรับภาพยนตร์ Blockbuster)
  • ผู้ใช้สิทธิ์ต้องชำระค่าบริการและภาษีมูลค่าเพิ่ม

McDonald

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ตัดปัญหา พรุ่งนี้กินอะไรดี? McDonald จัดให้ แพ็กเหมา ผูกอิ่ม เซ็ท 5 วัน 750 บาท first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/mcdonald-meals-5-days-5-set-with-mcdelivery-750-baht/

McDonald จัดโปรเซตใหญ่ไก่มงคล พร้อมเสี่ยงเซียมซีรับส่วนลดเมนูโปรดตลอดกุมภาพันธ์นี้

ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท กรรมการผู้จัดการบริษัท แมคไทย จำกัด จัดโปรชุดใหญ่ต้อนรับตรุษจีน มอบส่วนลดแทนคำขอบคุณกระแสตอบรับแมคไก่กรอบดีเกินคาด ดันยอดขายโต 30% ทั้ง 2 รสชาติ คือแมคไก่กรอบ สูตรดั้งเดิม และแมคไก่กรอบ สูตรสไปซี่กับ 2 เซตใหญ่ไก่มงคลเสริมความโชคดี มั่งมีตลอดเดือนกุมภาพันธ์นี้

 เซตใหญ่ ไก่มงคล

โปรเซตใหญ่ไก่มงคลนี้มี 2 เซตด้วยกัน

  • ชุดมหาเฮง ประกอบด้วย แมคไก่กรอบ 8 ชิ้น (สูตรดั้งเดิมหรือสไปซี่), ไก่ไม่มีกระดูก 8 ชิ้น, แมคนักเก็ต 8 ชิ้น, เฟรนช์ฟรายส์ขนาดใหญ่ 1 กล่อง 499 บาท (จากปกติ 700 บาท)
  • ชุดเฮง เฮง ประกอบด้วย แมคไก่กรอบ 8 ชิ้น (สูตรดั้งเดิมหรือสไปซี่) แมควิงส์ 4 ชิ้น, แมคนักเก็ต 4 ชิ้น, เฟรนช์ฟรายส์ขนาดกลาง 1 กล่อง 399 บาท (จากปกติ 534 บาท)

เซตใหญ่ไก่มงคล Prosperity Set McDonald

เฮงเต็มอิ่มกับโปรนี้ได้ทุกช่องทางตั้งแต่ 1-28 กุมภาพันธ์ 2564 ตั้งแต่เวลา 11.00-05.00น. ที่ร้าน McDonald ทุกสาขาที่ร่วมรายการ ทั้งรับประทานที่ร้าน ซื้อกลับบ้าน หรือไดร์ฟทรูได้โดยไม่ต้องลงจากรถ หรือแมคดิลิเวอรี่ที่จัดส่งถึงบ้านได้ สิทธิพิเศษสำหรับลูกค้าที่ดาวน์โหลด McDonald แอปพลิเคชันและลงทะเบียนร่วมเขย่าเซียมซี รับฟรีเครื่องดื่มสไปรท์ ไม่มีน้ำตาลขนาด 12 ออนซ์ มูลค่า 35 บาท และรับสิทธิ์ซื้อเมนูโปรด แมคฟิช หรือซามูไรเบอร์เกอร์หมู หรือ แมคนักเก็ตเพียง 39 บาท จากเดิม 89 บาท

แมคไก่กรอบ 2 ชิ้น แมควิงส์ 2 ชิ้น 88 บาท จากเดิม 143 บาท แมคพายข้าวโพดหรือแมคพายสับปะรด 19 บาท จากเดิม 28 บาท ตั้งแต่ 8-28 กุมภาพันธ์ 2564 นี้ที่ร้านแมคโดนัลด์ทุกสาขาที่ร่วมรายการ

เซตใหญ่ไก่มงคล Prosperity Set McDonald

ที่มา – McDonald

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post McDonald จัดโปรเซตใหญ่ไก่มงคล พร้อมเสี่ยงเซียมซีรับส่วนลดเมนูโปรดตลอดกุมภาพันธ์นี้ first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/mcdonald-launch-prosperity-set/

15 ข้อที่เจ้าของ SME ควรคิด เพื่อสู้ศึกธุรกิจในปี 2021

ในปี 2021 นี้เจ้าของธุรกิจควรหันมาปรับตัวหรือใส่ใจในเรื่องอะไรมากขึ้น เพื่อให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงท่ามกลางวิกฤติโควิด 19 ที่ยังเป็นความท้าทายใหญ่ในปัจจุบัน 

15 ข้อที่เจ้าของ SME ควรคิดสู้ศึกธุรกิจปี 2021
15 ข้อที่เจ้าของ SME ควรคิดสู้ศึกธุรกิจปี 2021

ก่อนเข้าสู่เนื้อหา เราลองมาดูกันก่อนว่าในปีที่ผ่านมา แบรนด์ใหญ่ระดับโลก ออกมารับมือกับสถานการณ์โควิด และเป็นตัวอย่างที่ดีให้เจ้าของธุรกิจ SME ได้เรียนรู้ในประเด็นใดกันบ้าง

1. ตอบให้ได้ว่าธุรกิจของเราเกิดมาเพื่ออะไร

ถ้าเราสามารถตอบตัวเองได้ว่าธุรกิจของเราเกิดมาเพื่ออะไร หรือเรากำลังทำธุรกิจเพื่อช่วยคนกลุ่มไหนอยู่ เราก็จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้แม้ว่าจะเจอวิกฤติหนักแค่ไหนก็ตาม สำหรับตัวอย่างที่น่าสนใจในช่วงโควิดที่ผ่านมาก็เช่น แบรนด์ Burger King ที่ทำแคมเปญชวนคนไปซื้ออาหารของคู่แข่งอย่าง McDonald ในประเทศอังกฤษ หรือแบรนด์ Nike ที่บริจาครองเท้ามูลค่ารวมกว่า 5.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้แก่บุคลากรทางการแพทย์ เป็นต้น

2. ปรับตัวก่อนได้เปรียบกว่า

Agile คือคำศัพท์ในแวดวงธุรกิจที่เรามักจะได้ยินกันบ่อยในปีที่ผ่านมา หากแปลให้เห็นภาพมากขึ้น Agile ก็คือการปรับแผนธุรกิจให้ตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้น มากกว่าที่จะทำตามแผนใหญ่ที่ตั้งไว้ในตอนแรก ตัวอย่างแบรนด์ที่ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วในช่วงโควิดก็เช่น แบรนด์ Nike ที่ทำแคมเปญ “Play Inside, Play for the World” เพื่อส่งเสริมให้คนปฏิบัติตามมาตรการรักษาระยะห่างของรัฐบาล

3. อย่าคิดแต่เรื่องผลกำไร

ลูกค้าจะรู้สึกผูกผันกับแบรนด์ที่มีเป้าหมายเพื่อช่วยเหลือสังคมมากกว่าแบรนด์ที่มีจุดยืนเพื่อแสวงหาผลกำไรเพียงอย่างเดียว ยกตัวอย่างเช่น แบรนด์ Dove ที่รณรงค์ให้วัยรุ่นหญิงกว่า 35 ล้านคนทั่วโลกเกิดความรักและรู้สึกเคารพตัวเองมากขึ้นมาตั้งแต่ปี 2005 หรือแบรนด์ Unilever ที่ผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมมาโดยตลอด เป็นต้น

4. ผลิตสินค้าโดยคำนึงถึงความเป็นมนุษย์และห่วงใยสิ่งแวดล้อม

ในปีที่ผ่านมาเราอาจจะได้ยินปัญหาเรื่องฟาสต์แฟชั่นกันบ่อย เพราะฟาสต์แฟชั่นคือการเร่งผลิตเสื้อออกมาตามสมัยนิยม โดยพยายามลดต้นทุนทั้งด้านวัสดุและแรงงานให้ต่ำที่สุด รวมทั้งทำให้สิ่งแวดล้อมถูกทำลายไปโดยไม่รู้ตัว เพราะต้องนำทรัพยากรมาใช้ในการผลิตเป็นจำนวนมาก ดังนั้น ในปัจจุบันผู้คนในสังคมจึงพยายามรณรงค์ให้ธุรกิจหันมาใส่ใจห่วงโซ่การผลิตที่คำนึงถึงความเป็นมนุษย์มากขึ้น และทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยลง

5. แบ่งกำไรมาช่วยเหลือสังคม

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือในช่วงที่โควิด 19 ระบาดรุนแรง ลูกค้าจะรู้สึกประทับใจและอยากมาซื้อสินค้าของแบรนด์หรือธุรกิจที่ออกมาช่วยเหลือผู้คนในสังคมที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤตินี้ ในทางกลับกัน ลูกค้าก็จะเกิดความรู้สึกต่อต้านแบรนด์หรือธุรกิจที่ทอดทิ้งพนักงาน และไม่มีจุดยืนออกมาช่วยเหลือสังคม

10 ข้อที่ SME ควรรู้เพื่อสู้ศึกธุรกิจปี 2021
10 ข้อที่ SME ควรรู้เพื่อสู้ศึกธุรกิจปี 2021

เมื่อเห็นตัวอย่างของแบรนด์ระดับโลกดังนี้แล้ว SME อย่างเราควรเริ่มต้นครุ่นคิดหรือปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เพื่อให้ธุรกิจพัฒนาไปได้อย่างดียิ่งขึ้น

1. วางแผนธุรกิจให้เรียบร้อยก่อนออกสินค้า

เมื่อคิดอยากตั้งธุรกิจอะไรขึ้นมาสักอย่าง เราควรวางแผนเกี่ยวกับธุรกิจนั้นให้เรียบร้อยและชัดเจนก่อนที่จะผลิตสินค้า เช่น ลองวิเคราะห์คู่แข่งว่าจะทำอย่างไรให้ธุรกิจเรามีจุดเด่นและแตกต่าง จะใช้การตลาดแบบไหน ต้องมีกระแสเงินสดเท่าไหร่ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาใหญ่ที่จะตามมา ทั้งนี้ แผนธุรกิจก็เป็นสิ่งที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ธุรกิจในช่วงนั้น

2. สร้างเรื่องเล่าของแบรนด์เพื่อทำให้ธุรกิจโดดเด่นจากคู่แข่ง

ในช่วงเริ่มทำธุรกิจ หลายๆ คนอาจจะครุ่นคิดเรื่องการตั้งชื่อแบรนด์ การทำโลโก้ หรือการออกแบบเว็บไซต์ ซึ่งเรื่องเหล่านี้สำคัญก็จริง แต่สิ่งหนึ่งที่เจ้าของธุรกิจมักจะหลงลืม คือการสื่อสารเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ออกไป เพราะถ้าเราสามารถนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับแบรนด์ของเราได้ดี ลูกค้าก็จะจดจำแบรนด์ของเราได้มากกว่าแบรนด์อื่นๆ

3. การบริหารเงินคือเส้นเลือดสำคัญของการทำธุรกิจ

ในช่วงเริ่มต้น เจ้าของธุรกิจหลายๆ คนอาจจะตั้งราคาสินค้าให้ต่ำเข้าไว้ เพื่อดึงดูดลูกค้ามาจากคู่แข่ง แต่รู้หรือไม่ว่า ถ้าเราปรับลดราคาสินค้าให้ต่ำลงเป็นระยะเวลานาน แต่ค่าใช้จ่ายในด้านอื่นๆ เช่น ค่าพนักงาน ค่าการตลาด ต้นทุนการผลิต ค่าขนส่ง ฯลฯ ยังสูงแบบเดิม ธุรกิจของเราก็จะขาดทุนในที่สุด ดังนั้น เราควรเน้นการสื่อสารถึงคุณค่าของสินค้าที่เราสามารถส่งมอบให้ลูกค้าแล้วตั้งราคาให้เหมาะสมจะดีกว่า

4. เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณของลูกค้า

เจ้าของธุรกิจมักจะอยากขยายฐานลูกค้าให้ใหญ่ขึ้นไปเรื่อยๆ แต่ข้อผิดพลาดที่มักจะเกิดขึ้นคือแทนที่จะมุ่งทำการตลาดไปที่กลุ่มเป้าหมายหลัก พวกเขากลับเน้น “ปริมาณ” มากกว่า “คุณภาพ” ของลูกค้าจริงๆ ดังนั้น เราจึงควรถามตัวเองอยู่เสมอว่า ธุรกิจของเราเกิดมาเพื่อช่วยเหลือคนกลุ่มไหน แล้วเราอยากต่อยอดธุรกิจให้พัฒนาไปอย่างไรในอนาคต ถ้าตอบคำถามได้ตามนี้เราถึงจะสามารถขยายกลุ่มลูกค้าได้อย่างเป็นเหตุเป็นผลมากขึ้น

4. สิ่งที่เจ้าของธุรกิจต้องคิดเมื่อรับพนักงานเข้ามา

การบริหารพนักงานเป็นเรื่องสำคัญในการทำธุรกิจ ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับพนักงานที่พบได้บ่อยก็เช่น กว่าจะได้พนักงานหนึ่งคนมาต้องผ่านกระบวนการรับสมัครและการคัดเลือกที่ใช้ระยะเวลานาน แต่หลายๆ ครั้งก็กลับได้พนักงานที่ไม่เหมาะกับองค์กร หรือทำงานได้ไม่นานก็ลาออกอยู่ดี ปัญหานี้เกิดจากการที่เจ้าของธุรกิจมักจะจ้างพนักงานเข้ามาช่วยทำงานอย่างเดียว แต่ไม่ได้มองไปถึงขั้นที่ว่าพนักงานคนนั้นจะช่วยให้ธุรกิจ “เติบโตอย่างยั่งยืน” ได้หรือเปล่า

5. เลือกคนผิดชีวิตเปลี่ยน

ในขณะที่การจ้างพนักงานอาจจะไม่ได้เป็นความเสี่ยงมากสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ แต่สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณจำกัดแล้ว กว่าจะเสียเงินจ้างพนักงานหนึ่งคนได้ก็ต้องผ่านการคิดคำนวณมาอย่างดี ดังนั้น เมื่อจะคัดเลือกใครเข้ามาในทีม ขอให้เราพิจารณาอย่างละเอียดก่อนว่า คนๆ นั้นมีทัศนคติและนิสัยเหมาะสมที่จะมาทำงานในธุรกิจของเราหรือไม่ 

6. ระวังข้อมูลสำคัญของธุรกิจรั่วไหล

ข้อมูลที่ว่านั้นรวมไปถึงกลยุทธ์ของธุรกิจและรหัสสำคัญต่างๆ เช่น รหัสล็อกอินเข้าคอมพิวเตอร์ของบริษัท เพราะมีโอกาสสูงที่ผู้ไม่หวังดีจะนำข้อมูลส่วนนี้มาหาผลประโยชน์จากเรา วิธีป้องกันปัญหานี้ คือให้เราระมัดระวังเสมอเมื่อจะให้รหัสสำคัญกับใคร และอย่าลืมเปลี่ยนพาสเวิร์ดของโปรแกรมต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีคนลาออก

7. ถ้าบริหารคนเดียวไม่ไหวควรแบ่งให้เอาท์ซอร์สช่วยเหลือ

ในช่วงปีสองปีแรกเจ้าของธุรกิจคงจะต้องทำงานบางส่วนแบบหัวหมุน จนส่งผลให้แบ่งเวลามาดูด้านอื่นๆ ได้ไม่ทั่วถึง เช่น ขาดการดูแลหรือควบคุมพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้เกิดความผิดพลาดในด้านต่างๆ เช่น การบริหารเงิน การจ้างพนักงาน ดังนั้น วิธีที่จะแก้ปัญหานี้ได้คือให้จ้างเอาท์ซอร์สเข้ามาเพื่อช่วยในเรื่องในเรื่องที่เจ้าของธุรกิจไม่ถนัดหรือไม่มีเวลาดูแลมากพอ

8. เรื่องที่ควรฉุกคิดก่อนตัดสินใจลงทุน

ในการทำธุรกิจเราอาจจะใช้บริการที่ช่วยบริหารระบบหลังบ้านหลายอย่าง เช่น บริการจัดการสต็อคสินค้า บริการจัดทำบัญชี ซึ่งสองบริการนี้ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นและมีประโยชน์ แต่หลายๆ ครั้งเจ้าของธุรกิจก็มักจะหลงเชื่อคำโฆษณา และเผลอไปลงทุนในเครื่องมือหรือซอฟท์แวร์ที่ดูเหมือนจะเป็นตัวช่วยในการทำธุรกิจ แต่ความจริงแล้วไม่ได้จำเป็นสำหรับธุรกิจตัวเองเสียด้วยซ้ำ ส่งผลให้ใช้จ่ายเงินไปอย่างสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

9. ธุรกิจเติบโตเร็วเกินไปใช่ว่าดี

การที่ธุรกิจเติบโตเร็วเกินไปอาจจะส่งผลเสียในระยะยาว ปัญหาที่พบได้บ่อยคือเจ้าของต้องการขยายธุรกิจจึงนำเงินสดออกมาใช้เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ขาดกระแสเงินสดและต้องกู้ยืมเงิน ทำให้เกิดหนี้ในที่สุด นอกจากนี้ ในช่วงที่เราเร่งขยายธุรกิจ พนักงานก็ยิ่งต้องทำงานหนักมากกว่าปกติ ทำให้พวกเขารู้สึกเหนื่อย หมดไฟและมีประสิทธิภาพการทำงานลดลง

ที่มา : Forbes 1, Forbes 2, contentgrip, martechtoday, smallbusinessbc, investopedia, smallbizclub, business

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post 15 ข้อที่เจ้าของ SME ควรคิด เพื่อสู้ศึกธุรกิจในปี 2021 first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/sme-2021-entrepreneur-leadership/

McDonald x Coca Cola เปิดตัว Snack 2 Go แพคเกจใหม่พร้อมอร่อยกับเมนู ไก่เกาหลี

แมคโดนัลด์โดย ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัทแมคไทย จำกัด และโคคา-โคล่า โดยคาร์ลอส ดิแอซ-ริกบี้ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โคคา-โคล่า ประจำไทยและลาว ร่วมเปิดตัว Snack 2 Go แพคเกจดีไซน์ใหม่ ให้ลูกค้าอิ่มอร่อยกับเมนู ไก่เกาหลี และเครื่องดื่มโคคาโคล่า เอาใจนักเดินทาง

Snack 2 Go ไม่ว่าจะเป็น Grab & Go จากหน้าร้านหรือสั่งอาหารผ่านเลนไดร์ฟทรู ก็สะดวกได้ทุกที่ กับเครื่องดื่มโค้กรีฟิลขนาด 22 ออนซ์พร้อมไก่เกาหลี ที่คัดสรรเนื้อไก่คุณภาพหมักด้วยเครื่องเทศสูตรพิเศษ บวกกับซอสสูตรรสบาร์บีคิว ครบรสกับ Wings หรือ Chic Stick 3 ชิ้น

แบบ 2 in 1 ชุดละ 85 บาท (จากปกติ 117 บาท) ตั้งแต่ 2 ธันวาคม 2563 – 31 มกราคม 2564 หรือจนกว่าสินค้าจะหมดที่แมคโดนัลด์ทุกสาขาที่ร่วมรายการ ยกเว้นสาขาคิดส์ซาเนีย เกาะพีพี อิมแพ็คเมืองทองธานี ชาเลนเจอร์และทุกสาขาในสนามบิน

สั่งซื้อได้ที่หน้าเคาน์เตอร์และบริการไดร์ฟ ทรู แต่ถ้าบริการจัดส่งอาหารถึงบ้านและแมคเดลิเวอรี่ไม่รวมรายการ

ที่มา – McDonald

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/mcdonald-x-coca-cola-launch-snack-2-go/

Burger King ในอังกฤษขอสงบศึก ชวนสั่ง McDonald’s ช่วยเหลือพนักงานและวงการอาหารฟาสต์ฟู้ด

สงบศึกสงครามเบอร์เกอร์ชั่วคราว เมื่อ Burger King ในประเทศอังกฤษ ประกาศขอให้ผู้บริโภคช่วยสั่งซื้ออาหารจาก Mcdonalds และร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดรายอื่นๆ ทั้ง KFC, Subway และ Pizza Hut เพื่อช่วยสนับสนุนอุตสาหกรรมร้านอาหาร และพนักงานหลายพันคน ที่ต้องการความช่วยเหลือในช่วงเวลานี้

Burger King และ Mcdonalds นับว่าเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดที่เป็นคู่แข่งกันมาอย่างยาวนาน ด้วยความที่ทั้งสองแบรนด์ก่อตั้งในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน มีเมนูอาหารที่คล้ายๆ กันตามแบบฉบับของอาหารฟาสต์ฟู้ด ที่วนๆ อยู่ที่ เบอร์เกอร์ เฟรนช์ฟรายส์ ของทอด และเครื่องดื่ม

รวมถึงในมุมมองของผู้บริโภคเองก็มักนำเอาทั้งสองแบรนด์ไปเปรียบเทียบกันบ่อยๆ ทั้งเรื่องรสชาติ ราคา สถานที่ตั้งร้าน และโปรโมชัน

Burger King VS Mcdonalds กับศึกแห่งวงการเบอร์เกอร์

แม้ในประเทศไทยเราจะไม่ได้เห็นการออกโฆษณาในเชิงบลัฟกันระหว่างแบรนด์ที่เป็นคู่แข่งในวงการเดียวกัน แต่ในต่าประเทศ การออกโฆษณาแนวนี้ถือเป็นลูกเล่นทางการตลาดที่สร้างความน่าสนใจได้เป็นอย่างดี

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1986 Burger King ออกโฆษณาเพื่อจูงใจให้ผู้บริโภคเลือก Burger King เพราะ Burger King รู้จักเบอร์เกอร์ดีกว่า เนื้อย่างด้วยเตาให้ความรู้สึกเหมือนกินบาร์บีคิวในสวนหลังบ้าน ส่วน Mcdonalds เป็นเบอร์เกอร์ธรรมดาๆ

หรือเมื่อปี 2012 Mcdonalds ออกโฆษณาจับกลุ่มคนเดินทาง โดยระบุว่าร้านของ Mcdonalds มีอยู่ทุกที่ ไม่ไกลจากตัวคุณ ในขณะที่ร้านของ Burger King อยู่ไกลกว่า หลังจากนั้นไม่นาน Burger King ก็ได้ออกโฆษณาตอบกลับ ให้คนเดินทางแวะซื้อกาแฟที่ร้าน Mcdonalds แล้วรีบขับรถไปที่ร้าน Burger King

Burger King ขอลูกค้าช่วยสั่ง Mcdonalds และร้านฟาสต์ฟู้ดอื่นๆ

อย่างไรก็ตามศึกระหว่าง Burger King และ Mcdonalds คงต้องหยุดลงชั่วคราว เมื่อรัฐบาลอังกฤษประกาศล็อคดาวน์ประเทศ เป็นระยะเวลานาน 4 สัปดาห์ โดยปิดทั้งร้านอาหาร สถานบันเทิง และร้านค้าที่ไม่ได้มีความจำเป็น โดยเริ่มตั้งแต่วันพฤหัสบดีนี้เป็นต้นไป

Burger King จึงได้ออกประกาศถึงผู้บริโภคทุกๆ คน ว่าให้สั่งอาหารจาก Mcdonalds รวมถึงร้านอาหารอื่นๆ ทั้ง KFC, Subway, Domino’s Pizza, Pizza Hut, Five Guys, Greggs, Taco Bell, Papa John’s และ Leon หรือร้านอาหารอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดหรือไม่ก็ตาม ในฐานะที่เป็นพี่น้องร่วมวงการ เพื่อเป็นการสนับสนุนพนักงานในอุตสาหกรรมร้านอาหารหลายพันคน ที่ต้องการความช่วยเหลือในขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นการสั่งเดลิเวอรี ซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือใช้บริการ Drive Thru

อย่างไรก็ตามที่ด้านท้าย Burger King ก็ยังคงทิ้งลูกเล่นในการเปรียบเทียบตัวเองกับคู่แข่งสำคัญในวงการอาหารฟาสต์ฟู้ดด้วยการระบุว่า แม้การสั่งเบอร์เกอร์ Whopper จะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด แต่การสั่งเบอร์เกอร์ Big Mac จาก Mcdonalds ก็ไม่ใช่เรื่องแย่เช่นกัน

ที่มา – Burger King, Mediasamosa, BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/burger-king-tell-customer-to-order-mcdonald-or-other-restaurant/

McDonald’s กับความท้าทายของร้านอาหารเสิร์ฟเร็ว ในยุคเดลิเวอรี่ และคนห่วงสุขภาพ

ร้านอาหารประเภท Quick Service Restaurant (QSR) หรือที่เรียกกันติดปากว่า Fast Food ที่ต้องเผชิญกับวิกฤตทางเศรษฐกิจและโควิด-19 ไม่ต่างจากร้านอาหารประเภทอื่น ยิ่งกระแสเรื่องสุขภาพมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นยุคนี้จึงเป็นความท้าทายของร้านอาหาร QSR ว่าจะปรับตัวอย่างไร

สำหรับ McDonald’s เป็นหนึ่งในร้าน QSR ที่มีการปรับตัวได้อย่างน่าสนใจ ด้วยจำนวนสาขา 228 แห่งทั่วประเทศ มี แมคสแน็ค (McSnack) 20 Kiosks มีสาขา Drive Thru 79 แห่ง มีสาขา McDelivery 185 แห่ง พร้อมพนักงาน 7,000 คน การผ่านวิกฤตเศรษฐกิจและโควิดมาได้ ถือว่าไม่ใช่เรื่องง่าย

ครึ่งปีแรกแห่งความท้าทาย

ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท กรรมการผู้จัดการ บริษัท แมคไทย จำกัด บอกว่า ครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เป็นความท้าทายอย่างยิ่ง การที่แมคมีสาขาทั่วโลกทำให้เห็นภาพสิ่งที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ที่ประเทศจีน รู้เลยว่ารุนแรงแน่นอน ดังนั้นจึงเตรียมความพร้อมมาตั้งแต่ ม.ค. ทั้งเรื่องซัพพลายและความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงาน

“แมค จังหวะดีมาก เริ่มกลยุทธ์ Delivery มาตั้งแต่ปีที่แล้ว พอช่วง ก.พ.-มี.ค. ที่เข้าล็อคดาวน์โควิด ทำให้พร้อมรับมือได้ดี บริการ Delivery เติบโตกว่า 100% บริการ Drive Thru เติบโตกว่า 40% แต่ก็มีกระทบจากการปิดห้างสรรพสินค้า หรือให้บริการไม่ได้ตลอด 24 ชั่วโมงในหลายสาขา แต่ก็ทำให้รู้ว่าอย่าพึ่งพาทางใดทางหนึ่งเป็นหลัก”

ปัจจุบันสัดส่วนขอรายได้มากกว่า 50% มาจากร้าน แต่ภายในปีนี้จะผลักดันให้ Delivery ขึ้นมามีสัดส่วนถึง 30% และ Drive Thru ถึง 20% ให้ได้ ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบาย ดังนั้นการมีบริการ Delivery จะตอบโจทย์ตรงนี้มาก

สำหรับ McDelivery Focus ปัจจุบันมี 10 สาขา ที่มียอดขาย Delivery เกินครึ่งหนึ่ง ถือว่าจะเป็นกลยุทธ์ที่จะทำต่อเนื่องไปถึงปีหน้า คือ เป็นสาขาที่ มี dine-in space พื้นที่น้อยลง แต่เน้นบริการ Delivery มากกว่า

จุดสำคัญที่มีบริการ Delivery ของตัวเอง เพื่อให้สามารถควบคุมคุณภาพ ความสะอาดปลอดภัย ได้เป็นอย่างดี มีโปรโมชั่นที่แตกต่าง แต่ก็ยังร่วมมือกับพันธมิตร เช่น Grab, Food Panda และ LINE MAN เพื่อให้บริการได้ทั่วถึงครอบคลุมด้วย

ขณะที่บริการ Drive Thru ถือเป็นจุดแข็งที่แมคทำมาก่อน เป็นผู้นำในบริการด้านนี้ มีเมนูที่ตอบโจทย์หลากหลาย ต้องมีความรู้ว่า ขาไป ขากลับ Drive Thru แตกต่างกัน จุดที่เป็นทางผ่านก็อีกแบบหนึ่ง แต่ต้องเน้น ความเร็ว จากสั่งจนถึงได้อาหาร ใน 2 นาที และ ความแม่นยำในการทำอาหาร ปริมาณคนใช้งานมากขึ้น แต่ความพึงพอใจก็เพิ่มขึ้นด้วย

ครึ่งปีหลัง เน้นเมนูและความคุ้มค่า

ธันยเชษฐ์ บอกว่า นอกจากเรื่องของ Delivery แล้ว ครึ่งปีหลังจะแมคจะเน้นเรื่องขอเมนูและความคุ้มค่าให้มากขึ้น เพื่อให้สอดรับกับเศรษฐกิจ ความหลากหลายของเมนู นอกจาก หมู ปลา ไก่ เนื้อ ต้องครบแล้ว ต้องมีเมนูตามเวลาด้วย เช่น อาหารเช้า อาหารกลางวัน อาหารว่างยามบ่าย เครื่องดื่ม และอาหารเย็น มาเวลาไหนก็ได้

ส่วนเรื่องความคุ้มค่ามีการปรับเมนู Signature เนื้อใหญ่ขึ้น เนื้อนำเข้าจากออสเตรเลีย มีความจุ๊ยซี่ ไก่ก็ใหญ่ขึ้น ขนมปังก็ต้องปรับสูตร ผักก็ใช้จากโครงการหลวง นอกจากโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถม ก็ต้องเพิ่มปริมาณและคุณภาพของเมนูด้วย

ปรับปรุงสาขาใหม่ น่านั่งกว่าเดิม

ปีที่ผ่านมา แมคมีการปรับปรุงสาขาใหม่ไป 14 แห่ง ปีนี้อยู่ระหว่างดำเนินการอีก 20 แห่ง ซึ่งการปรับปรุงสาขาทำให้บรรยากาศดีขึ้น เหมาะกับการใช้งานมากขึ้น มีส่วนช่วยเพิ่มยอดขายได้ 5-10%

การปรับโฉมจะเป็น New Global Design – Alphabet เป็นสไตล์การออกแบบที่เรียบง่าย ในบรรยากาศที่อบอุ่น ทันสมัย ด้วยโทนสีแบบ Monochromatic Palette โดยใช้ไม้เป็นวัสดุหลัก เพิ่มสีสันด้วยเก้าอี้นั่งโทนสีเหลืองสดใส และเติมอารมณ์ความสนุกสนานด้วยแพทเทิร์น ภาพโปสเตอร์ และตัวอักษรกราฟฟิคบนฝาผนัง รองรับการมานั่งทำงาน นั่ง Hangout ได้ สร้าง engagement และ connection กับกลุ่มลูกค้า

นอกจากบรรยากาศภายในร้าน แมค จะเน้นเรื่องความเป็นดิจิทัลมากขึ้น โดยอยู่ระหว่างการพัฒนาแอพคูปอง ที่เป็น Personal Life มากขึ้น ใช้ Data ให้ตรงความต้องการ ช่วยเพิ่มความถี่ในการมาใช้บริการ ยอมรับว่าการทำตลาดยากขึ้น มีความเฉพาะบุคคลมากขึ้น วิธีการก็แตกต่างไปจากเดิม ต้องสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดเวลาใน 1-2 วัน สามารถทำการทดสอบการตลาดได้หลากหลายรูปแบบด้วย

รวมถึงการนำเครื่องอัตโนมัติมาใช้รับออเดอร์ ได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ เพราะมีเวลาสั่งมากขึ้นไม่ต้องยืนรอเลือกนานๆ แล้วรู้สึกอึดอัด หรือมีคนรอต่อคิวยาว แรกๆ คนก็ไม่ใช้ เพราะไม่เข้าใจ ต้องมีเวลาในการเรียนรู้

เศรษฐกิจและกำลังซื้อ คือเรื่องน่าห่วง

ธันยเชษฐ์ บอกว่า เรื่องที่น่าห่วงยังคงเป็นเศรษฐกิจของประทเศ และกำลังซื้อของประชาชน ต้องยอมรับว่า การส่งออก การท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ยังมีปัญหาและกระทบมาถึง SME ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจใหญ่ ซึ่งตรงกับการทำวิจัยของแมค ตั้งแต่โควิดเร่ิมต้น ผู้บริโภคมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจสูงมาก เป็นมาตั้งแต่ก่อนโควิดแล้ว และก็มีเรื่องสุขภาพด้วย แต่เมื่อสามารถจัดการเรื่องสุขภาพได้ดีก็ดีขึ้น แต่เรื่องเศรษฐกิจยังแย่อยู่ไม่หายไปไหน

สิ่งที่ แมค เน้นคือ พนักงานต้องปลอดภัย มีมาตรการที่เข้มงวด เช่น ต้องล้างมือทุกๆ 30 นาที และทำความสะอาดอุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ เพราะถ้าพนักงานปลอดภัย ร้านค้าและอุปกรณ์มีความสะอาดปลอดภัย นั่นคือความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคจะเข้ามาใช้บริการ

จับกระแสสุขภาพ เน้น Flexitarian

กระแสสุขภาพเกิดขึ้นทั่วโลกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่เรื่องของสุขภาพก็มีหลากหลายแนวนทาง แมค ก็ให้ความสนใจเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่ก็ต้องยอมรับว่าถ้าเป็นกลุ่มคนที่เป็นมังสวิรัติ หรือ วีแกน ก็คงไม่ใช่แนวทางที่สามารถตอบความต้องการได้

ดังนั้น แมค จะเน้นกลุ่ม Flexitarian คือ มีความยืดหยุ่นในเรื่องของอาหาร เช่น คีโต ก็สามารถตอบโจทย์ได้ โดยยังเน้นความอร่อย มีคุณภาพ และสะดวกสำหรับทุกคน เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค ขณะที่ Plant Base Food กำลังดูอยู่ ถ้าถึงเวลา แมค ก็อาจทำการทดสอบตลาด

สำหรับการครบรอบ 35 ปีแมคในประเทศไทย แมค ยังเน้นย้ำเรื่องการนำเสนออาหารอร่อย เป็นช่วงเวลาที่ดี และสะดวกสบายสำหรับทุกคน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/mcdonalds-2020/

ไม่ได้กิน ได้กลิ่นก็ยังดี! McDonald เอาใจแฟนคลับ ขายเทียนหอมกลิ่นเบอร์เกอร์ หอม ฟิน กินไม่ได้

เทียนหอมหนึ่งในสิ่งประดิษฐ์สุดมหัศจรรย์ที่ช่วยผ่อนคลายความเหนื่อยล้าจากการทำงานของคุณได้ แต่ล่าสุดดูเหมือนว่ากลิ่นของเทียนหอมจะไปไกลกว่าที่คิดเสียแล้ว เพราะ McDonald ร้านอาหาร Fast food ชื่อดัง จับเอากลิ่นแฮมเบอร์เกอร์ Quarter pounder ไปทำเป็นเทียนหอมแล้ว

เทียนหอมกลิ่น Quarter Pounder ของ McDonald ภาพจาก goldenarchesunlimited.com

ใครที่คิดจะซื้อแค่ชิ้นเดียวคงต้องเสียใจด้วย เพราะ McDonald ทำเทียนหอมกลิ่น Quarter pounder ขายเป็นชุด รวม 6 ชิ้นเป็น 1 แพค ตามส่วนผสมของเมนู คือ เนื้อสด ซอสมะเขือเทศ แตงกวาดอง ชีส หอมหัวใหญ่ และขนมปังเบอร์เกอร์ผสมงา ซึ่งถ้าจุดเทียนหอมทั้งหมดรวมกันจะได้กลิ่นหอมความอร่อยของ Quarter pounder อย่างสมบูรณ์

ส่วนราคาขายของเทียนหอมกลิ่น Quarter pounder อยู่ที่ 35 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 1,109 บาท ต่อ 1 แพค ซึ่งตอนนี้ขายหมดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพจาก McDonald

ที่มา – usatoday

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/mcdonald-sold-quarter-pounder-scent/

McDonald โฆษณาแบบใหม่! ไม่มีโลโก้ ไม่มีคู่สีที่เป็นจุดขาย ไม่บอกว่าตัวเองเป็นใคร..แต่ลูกค้าจำได้

เดิม ถ้าอยากออกแบบสื่อโฆษณาสักชิ้นหนึ่ง สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญคงเป็นตราสินค้า และตัวสินค้าที่แบรนด์อยากให้ลูกค้าจำได้ แต่แนวคิดการออกแบบนี้กำลังลดความนิยมลงเรื่อยๆ เพราะแนวคิด No-Brand กำลังมาแทนที่

No-Brand แนวคิดการออกแบบที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน

No-Brand เป็นแนวคิดการออกแบบที่ไม่เน้นตราสินค้าที่เคยเป็นจุดเด่นที่เห็นได้ชัดเจน แต่เปลี่ยนไปเน้นที่ตัวสินค้าจริงๆ แทน

Photo : Shutterstock

McDonald ร้านอาหาร Fast food ชื่อดัง ที่แต่เดิมเคยออกแบบสื่อโฆษณาของตัวเองโดยเน้นโลโก้ตัว M สีเหลืองขนาดใหญ่บนพื้นหลังสีแดง หรือภาพเมนูอาหารดูน่ากินหลายเมนูเพื่อให้คนจำได้ 

แต่ล่าสุด McDonald เริ่มเปลี่ยนแนวทางการออกแบบสื่อโฆษณาให้เป็น No-Brand แล้วเช่นกัน

Leo Burnett London เอเจนซีโฆษณาชื่อดังแห่งหนึ่งของโลก ร่วมกับ David Schwen นักออกแบบชาวอเมริกัน เปลี่ยนสื่อโฆษณาของ McDonald ให้มีความเรียบง่ายมากขึ้น โดยมีเพียงชื่อส่วนผสมที่ใช้ในเมนูนั้น ซ้อนกันหลายๆ บรรทัด หรือที่เรียกว่า Iconic Stacks โดยไม่มีภาพอาหาร และตรา McDonald ให้เห็นอย่างที่เคยเป็น

แต่สิ่งหนึ่งที่พิสูจน์ได้คือ คนทั่วไปรู้ทันทีว่าเป็นแมคโดนัลด์เมื่อเห็นสื่อโฆษณาชิ้นนี้ (ดูภาพตัวอย่าง) จากชื่อส่วนผสมที่ใช้ในเมนูอาหาร ตัวอักษรที่ใช้สีของส่วนผสมในเมนู เช่น สีเหลืองแทนชีส สีแดงอมส้มแทนซอส หรือสีเหลืองอ่อนๆ แทนมัฟฟิน และพื้นหลัง ที่บ่งบอกความเป็น McDonald ได้เป็นอย่างดีจนคนจำได้

ที่มา: Fastcompany

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/mcdonald-no-brand-design/