คลังเก็บป้ายกำกับ: LG_360_CAM

LG 360 CAM กล้องถ่ายภาพนิ่งและวิดีโอแบบ 360 องศาสำหรับสมาร์ทโฟน พกพาสะดวก

ช่วงนี้กระแสของการถ่ายภาพและถ่ายคลิปวีดีโอในแบบ 360 องศากำลังมาแรงและเป็นที่สนใจเป็นอย่างมาก โดยจะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่า คอนเท้นท์หรือการการถ่ายคลิปวีดีโอและภาพถ่ายแบบ 360 องศานั้นสามารถนำไปเผยแพร่บน YouTube และ Google Street View ได้ และต่อมาก็มีเรื่องของการทำคอนเท้นท์ประเภทนี้ไปแสดงบนอุปกรณ์ประเภท VR ต่างๆ และล่าสุดทาง Facebook เองก็เพิ่งได้เปิดตัวการอัพรูปภาพแบบ 360 ขึ้นมาเมื่อเร็วๆนี้ ดังนั้นจึงทำให้คอนเท้นท์ทั้งคลิปวีดีโอและภาพถ่ายแบบ 360 องศายิ่งได้รับความนิยมมากยิ่งขึ้น แต่หลายคนอาจมีคำถามว่าแล้วถ้าหากต้องการถ่ายคลิปวีดีโอหรือภาพถ่ายแบบ 360 องศาต้องทำอย่างไร วันนี้มีอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่จะมาแนะนำให้ได้รู้จักกัน

LG-360-CAM-Flashfly

จริงแล้วการถ่ายคลิปวีดีโอหรือการถ่ายภาพแบบ 360 องศานั้น สามารถทำได้โดยใช้กล้องหรืออุปกรณ์เสริมที่มาพร้อมเลนส์และคุณสมบัติการถ่ายภาพแบบ 360 องศาได้ ซึ่งในปัจจุบันก็เริ่มมีผู้ผลิตหลายแบรนด์ที่ออกมาเปิดตัวอุปกรณ์เสริมหรือกล้องในลักษณะนี้ออกมาให้เห็นมากยิ่งขึ้น หรืออาจสามารถทำได้โดยการใช้สมาร์ทโฟนร่วมกับแอพพลิเคชั่นในการถ่ายภาพแบบ 360 องศาก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่ในวันนี้ลองมาทำความรู้จักกับอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่จะทำให้การถ่ายวีดีโอและถ่ายภาพแบบ 360 องศาสามารถทำได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นกับ LG 360 CAM

LG-360-CAM-compact-spherical-camera-1600x1200_360-CAM_M02A-new

LG 360 CAM เป็นกล้องที่มาพร้อมคุณสมบัติการถ่ายคลิปวีดีโอและถ่ายภาพแบบ 360 องศา ที่ถูกเปิดตัวมาพร้อมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆในซีรี่ย์ LG G5 Friends ซึ่งเปิดตัวมาพร้อมกับสมาร์ทโฟน LG G5 ในช่วงต้นปีที่ผ่านมาโดยกล้อง LG 360 CAM นี้มาพร้อมกับสเป็คของเลนส์คู่แบบมุมกว้างความละเอียด 13 ล้านพิกเซล 206 องศา 2 ตัว ประกบกัน หรือ Dual Fisheye Lens ทำให้ได้ภาพและมุมมองแบบ 360 องศาได้อย่างสวยงาม

LG-360-CAM-wide-angle

ส่วนการถ่ายคลิปวีดีโอนั้น LG 360 CAM สามารถรองรับการถ่ายคลิปวีดีโอที่ความละเอียด 2K พร้อมไมโครโฟน 3 ตัวและระบบเสียง 5.1 Surround

LG-360-CAM-2K

สำหรับสเป็คอื่นๆของ LG 360 CAM นั้นจะมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 1200 mAh ตัวเครื่องมีขนาดกระทัดรัดเหมาะแก่การพกพา น้ำหนักเพียง 76.7 กรัม หน่วยความจำภายในเครื่อง 4GB และรองรับ SD Card สูงสุด 2 TB

LG-360-CAM

LG-360-CAM-spec

ส่วนเรื่องของคอนเท้นท์ที่ถูกบันทึกในแบบ 360 องศาจาก LG 360 CAM นั้นจะสามารถอัพโหลดนำไปแชร์ขึ้นได้ทั้งทาง YouTube , Google Street View รวมไปถึง Facebook ได้ อย่างสะดวกง่ายดาย ซึ่งหลายคนถามว่าแล้วกล้องประเภทถ่ายภาพ 360 องศาแบบนี้จะมีไว้ใช้ประโยชน์ตอนไหนได้บ้าง จริงๆแล้วการถ่ายภาพหรือคลิปวีดีโอด้วยกล้องประเภทนี้นอกจากจะทำให้สามารถเก็บภาพวิวได้แบบเต็มๆได้ง่าย สะดวกและประหยัดเวลาขึ้นกว่าเดิมแล้ว หลายคนที่ชื่นชอบการเดินทางและการเล่นกีฬาต่างๆ ก็มักจะนำกล้องในลักษณะนี้ไปบันทึกวีดีโอในขณะที่เดินทางไปที่ต่างๆหรือทำกิจกรรมที่ชื่นชอบ เพื่อให้ได้ภาพและมุมมองที่แตกต่างออกไปจากเดิมนั่นเอง ถ้ายังนึกภาพกันไม่ออกวันนี้มีคลิปวีดีโอจากทาง Stuff ที่ได้ทดสอบนำ LG 360 CAM ไปทดสอบใช้งานจริงกับกีฬาประเภท Indoor Skydiving ส่วนจะใช้งานแบบไหนและได้ภาพเป็นอย่างไร ลองติดตามได้จากคลิปที่ด้านล่างได้เลย

LG-360-CAM-img

อาจกล่าวได้ว่า LG 360 CAM เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์แก็ดเจ็ตที่น่าสนใจและกำลังมาตามกระแสของการความนิยมทางด้านคอนเท้นท์ประเภท 360 องศาที่มาแรงอยู่ในปัจจุบันนี้ก็ว่าได้ ซึ่งสนนราคาสำหรับ LG 360 CAM ที่วางจำหน่ายในต่างประเทศจะอยู่ที่ $199.99 หรือประมาณ 7,000 บาท ส่วนในประเทศไทยของเรานั้นจะมีการนำเข้ามาจำหน่ายที่ราคาเท่าใดคงต้องมาติดตามกันต่อไป ผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดได้ที่ http://www.lg.com/uk/lg-friends/lg-LGR105

บทความโดย – www.flashfly.net

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=149009

LG 360 VR อุปกรณ์รุ่นแรกของแบรนด์แดนโสม เปิดราคาวางจำหน่ายในสหรัฐแล้ว!

LG 360 VR เป็นอุปกรณ์ VR รุ่นแรกของ LG ที่เปิดตัวไปพร้อมกับ LG G5 สมาร์ทโฟนสุดร้อนแรงที่สร้างกระแสไปได้ทั่วโลก (เสียดายที่บ้านเรา LG ถอนตัวไปแล้วส่วนจะกลับมาสิ้นปีนี้ได้จริงตามคำอ้างหรือไม่ต้องรอลุ้นกัน) สำหรับราคาของ LG 360 VR จะอยู่ที่ 199$ หรือ 7164 บาทครับ ซึ่งจะแพงกว่าอุปกรณ์ของทาง Samsung

สำหรับ LG 360 VR จะใช้งานควบคู่ไปกับ LG G5 ผ่านทาง USB-C โดยจะแสดงผล 360 องศาตามมาตราฐานของอุปกรณ์ VR และรองรับภาพจากอุปกรณืเสริมของตนเองอย่าง LG 360 Cam ด้วยซึ่งอุปกรณ์กล้องตัวนี้เมื่อถ่ายแล้วสามารถอัพโหลดขึ้น Google Sreet View ได้ในทันที มีความละเอียด 16MP และแบตเตอรี่ความจุ 1200 mAh พร้อมรองรับการบันทึกเสียง 5.1 แจ่มทั้งภาพและเสียงเลยนะครับ

lg-360-vr
LG-360-CAM-1

สำหรับ LG 360 Cam ราคา 199$ เท่ากันครับผมว่ากล้องไม่แพงเลยนะเนี่ยแต่ LG 360 VR นี่แพงน่าดูเลย อย่างน้อยน่าจะขายเท่า Samsung Gear VR แต่ถ้าคุณเป็นแฟน LG ผมว่าสมควรซื้ออย่างยิ่งครับ เพราะประสบการณ์ VR มันช่างวิเศษและชวนให้ตื่นตาตื่นใจจริงๆ

from:https://www.appdisqus.com/2016/04/11/lg_360_vr_headset_is_now_priced_in_the_us_too.html

LG G5 เปิดตัวทางการจอ 5.3 นิ้ว กล้องคู่ ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่และอุปกรณ์เสริมได้ ราว 21,400 บาท

LG-G5-coming-to-Verizon-AT-ampT-and-Sprint-1

วันนี้ LG ได้ทำการเปิดตัว LG G5 สมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นใหม่ล่าสุดในงาน MWC 2016 ที่ประเทศสเปนอย่างเป็นทางการ โดดเด่นด้วยดีไซน์แนวใหม่บอดี้โลหะที่สามารถถอดเปลี่ยนโมดูลท้ายเครื่องได้ตามใจ พร้อมอุปกรณ์เสริมสุดล้ำ LG G5 Friends

lgg5header

สำหรับสเปคทางการของ LG G5 มีดังต่อไปนี้หน้าจอ IPS LCD ขนาด 5.3 นิ้วความละเอียด QHD (2560 x 1440 พิกเซล) ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 820 แรม 4GB หน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ด้วย MicroSD

LG-G5-2

ด้านหลังมีกล้องดิจิตอลแบบคู่ยืนออกมาจากตัวเครื่องความละเอียด 16 ล้านพิกเซลและ 8 ล้านพิกเซลถ่ายภาพมุมมกว้างได้ถึง 135 องศา ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถัดลงมาเป็นเซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือและย้ายปุ่มเพิ่มลดเสียงไปไว้ด้านข้างแทนแล้ว

LG-G5-coming-to-Verizon-AT-ampT-and-Sprint

แบตเตอรี่ 2800mAh ใช้พอร์ต USB Type-C รองรับ Quick Charge 3.0 รันด้วย Android 6.0.1 Marshmallow สเปคโดยรวมแรงกว่า LG G4 ถึง 40%

LG-G5

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ LG G5 คือสามารถถอดเปลี่ยนโมดูลท้ายเครื่องได้ โดยสามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่าง LG Cam Plus ที่ออกแบบมาให้เหมือนกริปติดกล้องจะมีปุ่มชัตเตอร์และปุ่มซูมเข้าออกได้เหมือนกล้องดิจิตอลจริงๆ แถมยังมีแบตเตอรี่เพิ่มอีก 1,200mAh หรือจะเป็นระบบเสียงสุดยอด LG Hi-Fi Plus จาก Bang and Olufsen หรือ B&O เอาใจคนรักการฟังเพลงระดับ 384 MHz

LG-G5-coming-to-Verizon-AT-ampT-and-Sprint.jpg

นอกจากนี้ที่หน้าจอยังมีโหมด Always-on สำหรับโชว์ข้อมูลสำคัญต่างๆอาทิ เวลา วันที่ สายที่ไม่รับ ข้อความ และการแจ้งเตือนต่างๆในตัวเครื่องได้ตลอดเวลาแม้ล็อคหน้าจออยู่ แถมยังใช้งานต่ำเพียง 0.8% ต่อ 1 ชั่วโมงเท่านั้น

LG-G5-Friends

Camera-grip

Battery

LG-360-Camera

VR-Headset

เท่านั้นยังไม่พอ LG ยังได้จัดเต็มกับนวตกรรมใหม่ที่เป็นอุปกรณ์เสริมให้กับ LG G5 หรือที่เรียกว่า LG G5 Friends ได้แก่กล้องถ่ายภาพ 360 องศา LG 360 Cam ,แว่น 360 VR เสียบสายต่อกับ LG G5 เพื่อเข้าสู่โหมดเสมือนจริงได้แบบ 360 องศาทันที ,หูฟัง Tone Platinum ที่ให้เสียงกระหึ่มระดับ Hi-Fi และสุดท้ายกับ LG Rolling Bot หุ่นยนต์ทรวงกลมติดกล้องซูมเช้าออกได้กลิ้งไปตามพื้นในการช่วยเฝ้าบ้านและสัตว์เลี้ยงแสนรัก ควบคุมได้ด้วย LG G5

Color-versions

สำหรับการวางจำหน่ายทางการนั้น LG G5 จะวางจำหน่ายในเดือนเมษายนนี้ในราคา $599 หรือราว 21,400 บาท มีให้เลือก 4 สีคือสีเงิน,สีเทา,สีชมพูและสีทอง

ที่มา – LG

เรียบเรียง –  flashfly 

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=139148

[MWC] LG G5 ยกโขยงกลุ่มเพื่อนอุปกรณ์เสริมเปิดตัวในนาม LG Friend

ในวันนี้ที่งาน MWC 2016 นอกจาก LG จะได้ทำการเปิดตัวเรือธงประจำปีนี้อย่าง LG G5 ไปแล้ว ยังได้ทำการเปิดตัวชุดอุปกรณ์เสริม LG G5 ในนามว่า LG Friend อีกด้วย ซึ่ง LG Friend นี้จะมาเติมเต็มให้ LG G5 นั้นสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เพราะสมาร์ทโฟนอย่าง LG G5 ที่ทาง LG ได้อ้างว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกของโลกที่ปรับเปลี่ยนโมดูล (module) ได้ โดยอุปกรณ์เสริมอย่างใน LG Friend บางตัวนั้นทำหน้าที่เป็นโมดูลที่ทำให้ LG G5 กลายร่างเป็นกล้องดิจิตอลได้ หรือเป็นเครื่องเล่น Hi-Fi ขนาดพกพาโดยที่ไม่จำเป็นต้องพกอุปกรณ์แปลงเสียงระบบ Hi-Fi แบบพกพา

 

ขอบคุณภาพจาก android central

นับเป็นครั้งแรกที่ LG ได้เปลี่ยนวัสดุตัวเครื่องมาเป็นโลหะแบบชิ้นเดียว (Uni-body) ในสมาร์ทโฟนเรือธง ทำให้ตัวเครื่องไม่สามารถเปิดฝาหลังได้อีกต่อไป แต่ทาง LG ยังพยายามที่จะให้สมาร์ทโฟนของตัวเองสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ โดยเปลี่ยนให้ส่วนด้านล่างกลายเป็นโมดูลที่สามารถถอดออกได้เพื่อเปลี่ยนแบตเตอรี่ โดยนอกจากจะเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้แล้ว ทาง LG ยังได้ออกแบบให้โมดูลนี้สามารถถูกสับเปลี่ยนได้เพื่อเพิ่มความสามารถให้กับ LG G5 ให้กลายเป็นกล้องดิจิตอลหรือเครื่องเล่น Hi-Fi แบบพกพาได้

หมายเหตุ เวลาเปลี่ยนโมดูลจำเป็นต้องปิดเครื่องก่อนทุกครั้ง

LG CAM Plus

ขอบคุณภาพจาก android central

LG Cam Plus เป็นโมดูลที่จะทำให้ LG G5 กลายร่างเป็นเป็นกล้องดิจิตอลแบบพกพา โดยตัวโมดูลนี้จะมีส่วนนูนเพิ่มออกมาเป็นที่จับ (เหมือนใน Nokia Lumia 1020) สามารถทำให้จับกระชับมือได้ยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังจะมีปุ่มกดไว้สำหรับถ่ายรูป ถ่ายวิดีโอ และมีวงแหวนสำหรับซูมภาพด้วย ทำให้ได้อารมณ์เหมือนกำลังถ่ายภาพด้วยกล้องดิจิตอล โดยความหนาของโมดูลนอกจากจะทำให้จับกระชับมือแล้ว ยังมีแบตเตอรี่เสริมเพิ่มอีก 1200 mAh ทำให้ LG G5 มีความจุได้สูงสุดถึง 4000 mAH

LG Hi-Fi Plus with B&O PLAY 

โมดูลนี้เป็นตัวแปลงคลื่นเสียงจากดิจิตอลมาเป็นคลื่นเสียงแบบแอนะล็อกในคุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi (Hi-Fi DAC) โมดูลตัวนี้ทาง LG ได้จับมือกับ B&O ผู้นำด้านเครื่องเสียงชั้นนำของโลกผลิตโมดูลนี้ขึ้นมา โดยระบบเสียงของโมดูลตัวนี้จะดีกว่าระบบ Hi-Fi DAC ที่มีอยู่บนตัวเครื่อง LG V10 ซึ่งโมดูลตัวนี้รองรับเสียงที่คุณภาพสูงสุดถึง 32 bits/384 kHz ในขณะที่ LG V10 รองรับได้แค่ 32 bits/192 kHz เท่านั้น

ขอบคุณภาพจาก android central

นอกจากนี้โมดูลตัวนี้ยังไม่จำกัดว่าจะต้องเป็น Hi-Fi DAC ให้กับ LG G5 เท่านั้น ยังสามารถเป็นเครื่อง Hi-Fi DAC ขนาดพกพาให้กับสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ ได้ด้วย

LG 360 CAM

LG 360 CAM เป็นอุปกรณ์เสริมที่ไม่ใช่โมดูลของ LG G5 แต่เป็นกล้อง 360 องศารอบทิศทางตัวแรกของ LG ที่ทำให้การถ่ายภาพแบบ Photo Sphere ง่ายขึ้นร้อยล้านเท่า (แน่ละ)

ขอบคุณภาพจาก android central

โดย LG 360 CAM จะมีกล้องอยู่บนตัวเครื่อง 2 ตัว แต่ละตัวมีความละเอียด 12 MP และมีมุมมองกว้าง 200 องศา โดยตัวเครื่องมีแบตเตอรี่บรรจุมาให้ 1200 mAh และมีหน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 4 GB โดยสามารถเพิ่ม micro SD card ลงใน LG 360 CAM ได้

ตัว LG 360 CAM นั้นสามารถถ่ายวิดีโอแบบ 360 องศาด้วยความละเอียดสูงสุด 2K และมีระบบเสียง surround 5.1 ที่มาพร้อมกับไมโครโฟน 3 ตัว ทำให้บันทึกเสียงได้อย่างมีคุณภาพ นอกจากนี้ยังสามารถอัพโหลดรูปและวิดีโอขึ้นไปบน Google Street View หรือ YouTube ได้ทันที โดย LG 360 CAM นั้นสามารถนำภาพที่หรือวิดีโอที่ถ่ายแบบ 360 องศาไปเปิดในสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้อีกด้วย (ถ้าสมาร์ทโฟนเครื่องนั้นรองรับ)

LG 360 VR

เป็นแว่น VR ที่ทาง LG ได้ทำมาได้ค่อนข้างแหวกแนวชาวบ้าน คือไม่จำเป็นต้องเอาเครื่องใส่เข้าไปในตัวแว่น VR เพื่อเล่น แต่จะใช้การเสียบสายจากตัวเครื่อง LG G5 เข้าสู่ตัวแว่น LG 360 VR แทน โดยใช้สาย USB เพื่อเป็นการส่งภาพเข้าไปแสดงยังแว่น LG 360 VR นอกจากนี้ทาง LG อาจจะเปิดให้สมาร์ทโฟนเครื่องอื่นต่อ LG 360 VR ได้ด้วย (รอยืนยันอีกที)

ขอบคุณภาพจาก android central

LG 360 VR นั้นถูกออกแบบมาให้รองรับเนื้อหา (content) ของ Google Cardboard โดยตัวเครื่องหนักเพียง 118 กรัมเท่านั้นและแสดงภาพได้ละเอียดสูงถึง 639 dpi

LG Rolling Bot

เป็น IoT สุดล้ำถ้ามันมีหัวละก็มันก็จะกลายเป็น BB-8 ไปแล้ว โดยเจ้า LG Rolling Bot นั้นดูเหมือนว่าจะเป็นของเล่นแต่จริงๆ แล้วมันคือผู้ดูแลบ้าน ซึ่งตัวมันเองสามารถกลิ้งไปเพื่อไปลาดตระเวณรอบๆ บ้านได้ โดยมันสามารถถ่ายภาพหรือวิดีโอด้วยกล้องความละเอียด 8 MP นอกจากนี้เราสามารถควบคุมมันได้ผ่านทางอินเตอร์เน็ตด้วยระบบกล้อง IP Camera 

LG Rolling Bot นั้นจะมี IR Blaster ตัวส่งสัญญาณอินฟาเรดที่ทำให้ LG Rolling Bot ถึงแม้จะไม่มีแขนก็สามารถสั่งเปิดปิดอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านการกดรีโมท นอกจากนี้ยังมีโหมดพูดคุยเพื่อเล่นกับเหล่าสัตว์เลี้ยงของคุณยามที่คุณไม่อยู่บ้านได้ด้วย (ถ้าคุณไม่กลัว LG Rolling Bot พัง)

LG Tone PlatinumTM (HBS-1100)

LG Tone Platinum ตัวนี้ทาง LG ได้จับมือกับผู้ผลิตเครื่องเสียงระดับโลกอย่าง Harman Kardon® ผลิต bluetooth headset ตัวนี้ออกมาในระดับ Harmon Kardon Platinum นอกจากนี้ตัวหูฟังยังใช้ระบบถอดรหัสเสียงแบบ aptX™ HDcodec ที่สามารถรองรับความละเอียดของเสียงสูงสุดที่ 24 bits 

และนี่คือทั้งหมดทั้งมวลของกลุ่มผองเพื่อน LG Friend ที่ต้องบอกว่าน่าสนใจมากๆ เพราะดูเหมือนว่า LG 360 VR, LG CAM 360 และ LG Rolling Bot จะสามารถนำไปใช้ร่วมกับสมาร์ทโฟนตัวอื่นๆ ได้ ไม่ได้จำกัดแค่เฉพาะ LG G5 (รอทาง LG ยืนยันมาอีกที) แต่ทั้งหมดที่กล่าวมาทาง LG ยังไม่ประกาศราคาหรือวันที่จะวางจำหน่าย ซึ่งคงต้องรอลุ้นกันว่าราคาจะโหดไหม ส่วนคำถามที่ว่าจะมีขายในไทยไหม เลิกคิดไปได้เลยรอหิ้วอย่างเดียว

ปิดท้ายด้วยวิดีโอโปรโมท LG G5 และอุปกรณ์เสริมอย่าง LG Friend ทั้งหลาย ซึ่งในวิดีโอโปรโมทนี้เราจะได้เห็นอุปกรณ์เสริมทั้งหมดว่ามีหน้าตาจริงๆ เป็นอย่างไรและใช้งานอย่างไร

ที่มา LG News Room และ Android Central 

เสริมเรื่อง Hi-Fi DAC

ก่อนจะมาทำความรู้จักกับ Hi-Fi DAC อื่นมาทำความรู้จักศัพท์ Hi-Fi และ DAC กันก่อน Hi-Fi ย่อมาจากคำว่า Hight Fidelity หมายถึงการทำให้เสียงนั้นมีความเพี้ยนน้อยและเหมือนกับต้นฉบับมากที่สุด ส่วน DAC ย่อมาจาก Digital to Analog Convertor หมายถึงอุปกรณ์ที่แปลงข้อมูลจากรูปแบบดิจิตอลให้กลายเป็นรูปแบบแอนะล็อก

โดยเจ้าตัว DAC ที่เราจะพูดถึงกันนี้ จะเป็นตัวที่แปลงเสียงจากระบบดิจิตอลมาสู่เสียงที่เป็นระบบแอนะล็อก หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมต้องแปลง เพราะเรามาสู่ยุคที่หลายๆ สิ่งที่แปลงจากระบบแอนะล็อกกลายมาเป็นระบบดิจิตอลแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบโทรทัศน์ ระบบโทรศัพท์ไร้สาย ระบบอินเตอร์บอร์ดแบนด์ หรืออื่นๆ แต่บังเอิญว่าคลื่นเสียงที่หูมนุษย์สามารถได้ยินมันเป็นคลื่นเสียงแบบแอนะล็อก ดังนั้นไม่ว่าเสียงนั้นจะถูกบันทึกอยู่ในรูปแบบใด ท้ายที่สุดยังไงก็ต้องถูกแปลงเป็นคลื่นเสียงแบบแอนะล็อกเพื่อให้มนุษย์สามารถได้ยินได้

from:http://droidsans.com/LG-announce-LG-Friend