รีวิวฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X เหนียว ทนทาน ใสมาก จาก Hi-Shield

ไม่มีใครอยากให้ iPhone X สุดที่รักต้องเป็นรอยขีดข่วน รอยตกกระแทก รวมไปถึงคราบกาวจากฟิล์มกันรอยเต็มหลังอย่างแน่นอน ทีมงานขอนำเสนอฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X เหนียว ทนทาน ใสมาก จาก Hi-Shield เป็นอย่างไรไปชมกัน

ภาพรวมตัวฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X จาก Hi-Shield นั้นจะเป็นฟิล์มพลาสติกเนื้อเหนียวคุณภาพดี โดยคุณสมบัติเด่นนั้นจะอยู่ที่ความเหนียวทนทาน ติดง่าย ตัวฟิล์มที่มีวัสดึเป็น TPU จะช่วยป้องกันรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงมีคุณสมบัติ Anti Shock ป้องกันพื้นผิวจากการตกกระแทกได้ดี

อุปกรณ์ภายในกล่อง

• ตัวฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X
• แผ่นตัวช่วยสำหรับการรีดฟองอากาศ
• เทปกาวสำหรับจับฝุ่น
• ผ้าเช็ดเครื่อง
• ผ้าชุบแอลกอฮอล์ สำหรับทำความสะอาดเครื่อง

การติดตั้งฟิล์ม

สำหรับการติดตั้งฟิล์มนั้นทำไม่ยากเลย โดยเริ่มต้นให้เราทำความสะอาดพื้นผิวหลังเครื่องของ iPhone X ก่อน โดยใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่แถมมาให้

จากนั้นทำการติดตั้งฟิล์ม (Layer 1) ส่วนบน (ส่วนที่ 1) ก่อน แล้วค่อยติดตั้งส่วนที่เหลือ (ส่วนที่ 2)

ส่วนที่ 1 คือ พื้นที่ด้านบนของโลโก้ Apple

เมื่อติดส่วนที่ 1 หนึ่งแล้วให้ทำความสะอาดส่วนที่ 2 คือ ตั้งแต่โลโก้ Apple ลงมา แล้วติดตั้งฟิล์มให้เรียบร้อย

ใช้แผ่นตัวช่วยรีดฟองอากาศ รีดฟองอากาศออกให้หมด จากนั้นเก็บมุมข้างให้เรียบร้อย

เมื่อรีดฟองอากาศแล้ว ก็ทำการรีดฟองอากาศอีกครั้ง แล้วลอกแผ่นพลาสติกใส (Layer 2) ออก ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

ความเห็นหลังการติดฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X จาก Hi-Shield

จุดเด่นที่ส่วนตัวเห็นว่าโอเคมากก็เป็นเรื่องของความใสของฟิล์มที่ใสมาก ดูแล้วเหมือนไม่ได้ติดฟิล์มเลย พื้นผิวฟิล์มเป็นเนื้อ TPU ที่ลื่น เหนียว ดูแล้วทนทานแนบกับตัวเครื่องเป็นอย่างดี

ถัดมาก็จะเป็นความง่ายในการติด เพราะตัวฟิล์มที่เป็น TPU หากเราเจอจุดไหนที่เป็นฝุ่นหรือติดเบี้ยว ก็สามารถลอกออกมาแล้วติดใหม่ได้

ตัวฟิล์มเมื่อติดเข้าไปแล้วแนบสนิทกับตัว iPhone X มาก ตัวฟิล์มไม่ย้วย ไม่มีคราบกาวในการติด เมื่อใส่กับตัวเคสกระจกก็ไม่ดูดติดกับตัวเคสแต่อย่างใด

คำแนะนำ

• ตัวฟิล์มเป็น TPU ใส ระหว่างติดพยายามอย่าให้ฝุ่นเข้าไปติดที่ตัวฟิล์มเพราะเอาออกค่อนข้างยาก
• ตัวฟิล์มแบ่งการติดตั้งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนด้านบนของตัวเครื่อง และส่วนกลาง, ล่างตัวเครื่อง ควรติดทีละส่วนตามคำแนะนำที่ติดอยู่
• หลังจากติดแล้วเช็คฝุ่นหรือฟองอากาศให้ดี แล้วค่อยลอกพลาสติก Layer ที่สองออก
• หลังจากติดฟิล์มแล้วควรทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง เพื่อให้ตัวฟิล์ม TPU แนบติดกับตัวเครื่อง
• ตัวฟิล์มเป็น TPU ใส่ อาจมีคราบมันหรือเป็นคราบลายนิ้วมือได้ง่าย (ใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย)
• ควรทำความสะอาดตัวฟิล์มด้วยผ้าสะอาดอย่างสม่ำเสมอ
• ตัวฟิล์มหลังเครื่องตัวนี้ป้องกันการกระแทกได้ระดับหนึ่ง เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ควรสวมใส่เคสเพิ่มเติม

รุ่น ราคาและสถานที่จัดจำหน่ายและโปรโมชัน

• ฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X, iPhone 8, 8 Plus, 7, 7 Plus จาก Hi-Shield = 490 บาท

สำหรับแฟนคลับ iPhoneMod ลดพิเศษ!!

• ฟิล์มกันรอย TPU หุ้มเต็มหลังสำหรับ iPhone X iPhone X, iPhone 8, 8 Plus, 7, 7 Plus จาก Hi-Shield = 350 บาท เท่านั้น

เพียงแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าอ่านจากเพจ iPhoneMod เท่านี้ก็รับส่วนลดได้ทันที! สอบถามรายละเอียดสินค้าและสั่งซื้อได้ที่

• Facebook : https://goo.gl/6hhV4N
• Inbox Facebook : https://goo.gl/VZmxrK
• Line@: https://goo.gl/moNSKn
• IG : hishieldgad

from:https://www.iphonemod.net/review-hi-shield-premium-screen-protector-for-iphone-x.html

รีวิว Hi-Shield กระจกกันรอย iPad (Pro) 9.7 นิ้ว เพื่อการถนอมหน้าจอจากการใช้งานหนัก

เมื่อช่วงเดือนปลายปี 2560 ที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปซื้อ iPhone 8, X ที่ออสเตรเลียพร้อมทั้งเยี่ยมครอบครัวที่นั่นและบังเอิญว่า iPad 2 เครื่องเก่าของหลานเกิดอาการแบตเตอรี่บวมขึ้น ผมเลยตัดสินใจซื้อ iPad 9.7 นิ้วรุ่นประหยัดให้หลานสาวของผมคนหนึ่งเพื่อใช้ในการเรียนที่โรงเรียนและเล่นที่บ้าน แต่…

เด็ก VS. iPad

“เด็กก็คือเด็ก” เขาไม่รู้หรอกว่าของจะแพงมากเท่าไหร่ถ้ามีของให้เขาเล่นเขาก็เล่น, iPad เครื่องใหม่ก็เหมือนกันนะ ถ้าเราจะหวังให้เขาถนอมเครื่องโดยการบอกว่าเล่นเบาๆ นะ, อย่าทำหน้าจอเลอะนะ ฯลฯ เขาไม่สนหรอก 555

ดังนั้นผลที่ตามมาคือ “หน้าจอ iPad ลาย” ตามการใช้งานที่หนักหน่วงตามกาลเวลานั่นเอง (พลาดเองที่ผมไม่ได้ติดฟิล์มให้เขาตั้งแต่ตอนแรก)

เมื่อปีใหม่ 2561 หลานๆ และครอบครับกลับมาที่บ้านที่ไทย ผมก็เลยจัดชุดใหญ่ไฟกระพริบให้เลย ด้วยการทำความสะอาดรอบเครื่องใหม่และติดกระจกกันรอยแบบใสสำหรับ iPad ให้ด้วยเลย เพราะเคยลองติดแบบฟิล์มพลาสติกธรรมดาแล้วเอาไม่อยู่ เด็กเล่นหนักเกินและไม่ได้ดูแลเครื่องดีอย่างผู้ใหญ่แบบเราๆ

Hi-Shield กระจกกันรอย iPad 9.7 นิ้ว เพื่อการถนอมหน้าจอจากการใช้งานหนัก

นี่คือกระจกกันรอยสำหรับ iPad ที่ผมเลือกใช้ วันนี้จะขอแบ่งปันประสบการณ์ให้ฟังกันครับว่าติดแล้วเป็นยังไงบ้าง

คุณสมบัติของ Hi-Shield Tempered Glass สำหรับ iPad 9.7 นิ้ว

• ปกป้องเต็มจอ ด้วยกระจก Asahi Glass จากญี่ปุ่น
• กระจกเต็มพอดีขอบขอบเครื่อง หมดปัญหาขอบกระเทาะ ขอบแตก
• ขอบไม่คมเวลาสัมผัสที่ขอบ
• หน้าจอเคลือบ Oleophobic หน้าจอลื่น ทำความสะอาดง่ายให้ภาพคมชัดเสมือนไม่ติด
• กระจกแข็งแรงระดับ 9H
• ติดเข้ารูปดี งานตัดเนียบ
• แสงผ่านได้ดี ไม่ลดความสว่างหน้าจอ
• ลดรอยนิ้วมือ เช็ดทำความสะอาดง่าย
• กันรอยขีดข่วน

ในกล่อง Hi-Shield Tempered Glass สำหรับ iPad 9.7 นิ้วมีอะไรให้บ้าง?

• กระจกกันรอย iPad 9.7 นิ้ว รุ่นนี้ใช้งานกับ iPad Pro 9.7 นิ้วได้เช่นกัน
• ชุดทำความสะอาดจอ
• และสติกเกอร์ดึงฝุ่นเพื่อเตรียมการติดตั้ง

การติดตั้งกระจกนั่นค่อนข้างง่ายสามารถทำได้ด้วยตนเองข้อแนะนำพิเศษคือ เช็ดจอให้สะอาด, ดึงฝุ่นออกให้หมดและใช้โคมไฟมาช่วยส่องแสงในช่วงติดจะทำให้เห็นเม็ดฝุ่นได้ง่ายขึ้นจากนั้นเล็งให้ตรงตำแหน่ง เพียวเท่านี้ก็จะติดได้สำเร็จเรียบร้อยแล้วนะครับ

ผลงานเสร็จสิ้นหลังจากติดตั้งกระจกกันรอยรุ่นนี้ครับ

ประสบการณ์หลังการใช้งาน

• ไม่ทำให้ความชัดของหน้าจอลดลง
• ติดง่ายติดเนียนไร้ฟองอากาศ
• ติดตั้งแล้วช่วยกลบเกลื่อนรอยที่หน้าจอ iPad อันเก่าได้แม้จะหายไม่หมดแต่ก็ทำให้เบาตาลง
• การทัชหน้าจอลื่นดี
• กันรอยนิ้วมือได้ดี
• เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย
• ขอบกระจกมน ไม่บาดมือในเวลาใช้งานเมื่อแตะขอบ
• ใช้งานกับเคสได้หลากหลายแต่ให้ระวังเคสที่จิกเข้ามาในขอบจอจะทำให้ดันกระจกขึ้นมาได้ ถ้าใครใช้เคสแบบนั้นแนะนำว่าให้เปลี่ยนเคสใหม่หรือเลี่ยงการติดกระจกกันรอยนี้
• ทนทานต่อการใช้งานแม้ในสถาพหนักๆ ทดสอบแล้วด้วย 2 หลานสาวตัวแสบที่ใช้งาน iPad มากกว่าน้าของเขาซะอีก

โดยรวมแล้วถือว่าเป็นที่น่าพอใจอย่างน้อยก็เพิ่มความมั่นใจว่าหน้าจอ iPad จะไม่เป็นรอยจากการใช้งานมากกว่านี้ ด้วยความที่หลานๆ เองใช้งาน iPad หนักมาก (สาวๆ อายุ 6 ขวบ) ทำให้ก่อนหน้านี้ที่ไม่ได้ติดฟิล์มนั้นจอ iPad ค่อนข้างที่จะมีรอยขนแมวเยอะมาก ติดไว้ก็อุ้นใจมากขึ้นครับแถมกันการกระแทกได้ด้วย

iPad พื้นที่หน้าจอใหญ่

พื้นที่การแสดงผลของ iPad นั่นค่อนข้างใหญ่ยิ่งหากครอบครัวไหนให้เด็กเล่น iPad แล้วหละก็ แนะนำเลยครับว่าควรติด ถ้าหากมองว่ากระจกกันรอยราคาสูงเกินไปก็ไม่เป็นไรสามารถหาฟิล์มที่เป็นพลาสติกมาติดแทนก็ได้ แต่ถ้าใครมองว่าอยากลงทุนครั้งเดียวให้อยู่ได้นานๆ เลย กระจกกันรอยก็ยังเป็นคำตอบที่ดีครับ

ส่วนใครที่คิดว่าจะใช้น้ำยาเคลือบกระจกนั้นผมยังมองว่าเลือกกระจกกันรอยดีกว่า นอกจากจะกันรอยได้แล้วยังรองรับการกระแทกได้ดีกว่าเคลือบด้วยน้ำยาเฉยๆ นะครับ (ความคิดเห็นส่วนตัว)

รุ่นของกระจกกันรอย iPad จาก Hi-Shield พร้อมราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

สำหรับ Hi-Shield นั้นผลิตกระจกกันรอยสำหรับ iPad แทบจะทุกรุ่นที่วางขาย ณ ตอนนี้ได้แก่

• iPad mini 4 – 650 บาท (ซื้อผ่านออนไลน์จาก Hi-Shield เท่านั้น)
• iPad 9.7″ และ iPad Pro 9.7″ – 1,290 บาท
• iPad Pro 10.5″ – 1,290 บาท
• iPad Pro 12.9″ – 1,390 บาท

ผู้ที่สนใจสามารถซื้อหากันได้ที่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

• Facebook : Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย
• เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Hishieldgadget/
• LINE@ : @Hishieldgadget

from:https://www.iphonemod.net/ipad-tempered-glass-protector-hi-shield.html

รีวิวกันรอยแบบไหนเหมาะกับ iPhone X และกระจกกันรอยเต็มจอกันฝุ่น Hi-Shield มาแล้ว

ก่อนหน้านี้ทีมงานได้รีวิวกระจกกันรอยสำหรับ iPhone X ให้ชมกันไปแล้วหากใครยังไม่ได้อ่านก็ลองไปอ่านข้อมูลก่อนนะครับ ส่วนรีวิวรอบนี้จะมาแนะนำว่า iPhone X ของเราเนี่ยควรติดกระจกกันรอยแบบไหนดี จะเลือกแต่ละแบบมันดียังไง พร้อมทั้งจะอัปเดตกระจกกันรอยรุ่นที่ 2 ของ 3D Super Strong Max ให้ฟังกันด้วยนะครับ

รีวิวกันรอยแบบไหนเหมาะกับ iPhone X และกระจกกันรอยเต็มจอกันฝุ่นมาแล้ว

ว่าด้วยเรื่องของกระจกกันรอยสำหรับ iPhone X นั้นจะมีให้เลือก 2 แบบคือ แบบเต็มจอและแบบไม่เต็มจอ

• แบบเต็มจอ จะมีให้เลือก 1 สีคือสีดำ เมื่อติดตั้งแล้วจะเต็มหน้าจอและบังส่วนที่โค้งของจอเอาไว้
• แบบไม่เต็มจอ จะเป็นสีใสติดแล้วจะไม่คลุมส่วนที่โค้งและจะมีรอยบากที่แบ่งไว้บริเวณลำโพงด้านบน(บางยี่ห้อจะทำรอยบอกไว้ในส่วนของกล้องหน้า TrueDepth ไว้เลย)

ต่อไปจะมาดูว่าข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบนั้นเป็นยังไง

ข้อดีข้อเสียของกระจกแบบเต็มจอ vs. ไม่เต็มจอ

ข้อดี/เสีย ของกระจกกันรอยแบบเต็มจอ

Hi-Shield 3D Super Strong Max – iPhone X

ข้อดี

• สวยงามติดแล้วคลุมส่วนของจอด้วยทำให้ขอบของจอโดนปกป้องจากรอยที่จะเกิดขึ้นได้
• ติดแล้วดูผ่านๆ เหมือนไม่ได้ติดฟิล์ม ทำให้งานดูเรียบร้อย
• ไม่มีขอบโผล่ขึ้นมาทำให้ swipe ที่ด้านล่างจอเพื่อกลับโฮมนั้นไม่มีอะไรมาขวางนิ้วให้เสียอารมณ์
• ทำความสะอาดง่ายบริเวณด้านหน้าของกระจก
• แข็งแรงทนทาน
• ติดตั้งกับเคสจะทำให้ไม่มีช่องว่างระหว่างเคสกับกระจก

ข้อเสีย

• ฝุ่นเข้าที่ใต้กระจกบริเวณขอบทำให้ดูไม่สวยงามและเสี่ยงต่อการทำงานที่ผิดพลาดของกล้องหน้าและ Face ID ถ้ากระจกรุ่นนั้นไม่ได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าว
• ขอบกระจกมีโอกาสแตกง่ายกว่ารุ่นที่ไม่เต็มจอถ้ากระจกที่นำมาผลิตนั้นไม่ได้คุณภาพหรือแข็งแรงเพียงพอ
• ราคาสูงกว่ารุ่นไม่เต็มจอ
• กระจกแบบเต็มจอบางรุ่นจะใช้งานร่วมกับเคสบางตัวไม่ได้ เนื่องจากเคสนั้นจะดันฟิล์มกระจกให้เกิดเป็นฟองอากาศ

ข้อดี/เสีย ของของกระจกกันรอยแบบไม่เต็มจอ

Hi-Shield HD – iPhone X

ข้อดี

• กระจกใสไม่จำเป็นต้องทำกระจกเป็นสีๆ
• ฝุ่นไม่ซ่อนอยู่ที่กระจก
• ราคาถูกกว่ารุ่นเต็มจอ
• พื้นที่ของกระจกที่ติดลงจอทุกส่วนถูกติดบนจอทั้งหมดจะไม่มีส่วนที่บังพื้นที่การแสดงผลของจอ
• ทำความสะอาดง่ายทั้งบนกระจกและขอบกระจก
• ใช้งานได้กับทุกเคสเนื่องจากเคสนั้นจะไม่ดันถึงขอบกระจกอย่างแน่นอน

ข้อเสีย

• ไม่คลุมส่วนโค้งของจอทำให้ขอบจอมีโอกาสที่จะเป็นรอยได้
• ไม่สวยเท่าแบบเต็มจอ เมื่อเวลามองแล้วจะเห็นเด่นชัดว่าเครื่องนี้ติดกระจกกันรอยอยู่
• ขอบล่างของกระจกจะขัดๆ กับนิ้วตอนที่ตวัดขอบจอล่างเพื่อกลับหน้าโฮมในบางจังหวะ
• ขอบกระจกคมในบางยี่ห้อสามารถทำอันตรายต่อนิ้วได้

จะเลือกกระจกกันรอยแบบไหนดี?

การเลือกกระจกกันรอยนั้นจะมีหลายปัจจัย เช่น ราคา ความสวยงามและคุณภาพของกระจก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งานว่าจะเลือกแบบไหนที่เหมาะที่สุดสำหรับเรา ถ้าใครอยากประหยัด, ขอบกระจกไม่แตกง่ายและไม่อยากมีปัญหากับการใช้งานร่วมกับเคสก็แนะนำให้เลือกกระจกชนิดไม่เต็มจอไปเลย

ส่วนใครที่มีทุนพอสมควร ต้องการความสวยงามเรียบร้อยให้กับ iPhone X และต้องการการป้องกันรอบด้านก็เลือกฟิล์มที่แบบเต็มจอ แต่อย่างไรก็ตามฟิล์มกระจกแบบเต็มจอสำหรับ iPhone X ต้องเลือกรุ่นที่สามารถป้องกันฝุ่นเข้ากระจกด้วยจะดีที่สุด ไม่เช่นนั้นปัญหาที่จะตามมานั้นก็ไม่จบ เช่น กล้องหน้าไม่ชัดหรือรอยฝุ่นที่เห็นแล้วมันช่างดูสกปรกไม่สวยงามเอาซะเลย

รีวิวกระจกกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นปรับปรุง ป้องกันฝุ่นเข้าใต้กระจกได้แล้ว

ข้อมูลทางเทคนิคของกระจกนิรภัยกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นใหม่ล่าสุดเพื่อการปกป้อง iPhone X

• ตัวกระจกผลิตจาก Corning Gorilla Glass จาก USA
• กระจกหนา 0.33 มม. มาตรฐาน
• มาพร้อมเทคโนโลยี Hydrofluoric ที่เพิ่มความเเข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า (2X ShatterProof) ผ่านการอบ Tempered กว่า 6 ชั่วโมง
• ผ่านการทดสอบด้วยการปล่อยลูกตุ้มเหล็ก หนัก 64 กรัมจากความสูง 140 ซม. กระจกยังคงสามารถปกป้องหน้าจอจากแรงกระแทกได้อย่างไร้ริ้วรอย !!! (ชมคลิป)
• พื้นผิวเคลือบด้วยสาร Oleophobic เข้มข้น ที่ช่วยลดรอยนิ้วมือ และคราบมัน ได้มากกว่า
• หน้าจอสัมผัสลื่นแค่ปลายนิ้วกันรอยขีดข่วนได้มากขึ้น
• ให้ภาพคมชัดระดับ HD 98%
• เพิ่มความเเข็งแรงบริเวณ “ขอบกระจก” (Strong-edge) ให้รับแรงกระแทกมากกว่า กระจก 3D ทั่วไป กดที่ขอบแรงๆ ไม่ทำให้ขอบกระจกแตก
• หน้าจอสวยเนี้ยบติดเข้ารูปขอบโค้ง 3D เหมือนกับจอ iPhone จับแล้วไม่คมบาดมือ
• ป้องกันฝุ่นเข้าบริเวณเหนือเซนเซอร์ต่างๆ ได้ดีขึ้น ชมคลิปรีวิวได้จากด้านล่าง

แกะกล่อง

Hi-Shield iPhone X 3D Super Strong Max

อุปกรณ์ที่มีในกล่อง

• กระจกนิรภัยกันรอย 3D Super Strong Max 1 ชิ้น สีดำสำหรับ iPhone X
• ฟิล์มพลาสติกกันรอยด้านหลังแบบใส ติดเนียนไม่มีฟองอากาศที่ Apple โลโก้
• ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงสำหรับเช็ดทำความสะอาด
• กระดาษแอลกอฮอล์แบบเปียกเช็ดคราบหน้าจอก่อนติดตั้งกระจก
• สติกเกอร์ดูดเม็ดฝุ่นใช้ติดเม็ดฝุ่นออกก่อนติดตั้งกระจก
• ชมขั้นตอนการติดตั้งกระจกคลิกที่นี่

จุดเด่นของรุ่นใหม่นี้อยู่ที่การเพิ่มระบบกันฝุ่นไม่ให้เข้าที่ใต้กระจกบริเวณเหนือลำโพงบนของตัวเครื่องจึงช่วยป้องกันฝุ่นได้ดีขึ้น ซึ่งอาการดังกล่าวจะพบบ่อยเมื่อใส่ iPhone X เข้าที่กระเป๋ากางเกง ถ้ารุ่นไหนที่ไม่มีการป้องกันเพียงติดเสร็จแล้วใช้กระดาษทิชชู่เช็คบริเวณดังกล่าวฝุ่นก็จะเข้าไปสะสมแล้ว อันนี้ต้องเลือกให้ดี

Hi-Shield iPhone X 3D Super Strong Max

ภาพหลังติดตั้งกระจก 3D Super Strong Max และผ่านการใช้งานมาประมาณ 4 วัน ยังไร้ฝุ่นที่บริเวณเหนือลำโพง

กระจกรุ่นนนี้สามารถใช้งานกับเคสกันกระแทกอย่าง UAG และเคสจาก Apple ได้โดยที่เคสไม่ดันกระจก

ทดสอบรุ่นนี้กันฝุ่นได้จริงไหม?

ทดสอบโดยการใช้แป้งเด็กเทลงในถุงพลาสติกจากนั้นใส่ iPhone X ที่ติดตั้งกระจกกันรอย 3D Super Strong Max รุ่นใหม่เข้าไปแล้วเขย่าพบว่าแป้งไม่เข้าที่บริเวณใต้กระจกเหนือลำโพงด้านบนแล้ว ชมตัวอย่างตามคลิปได้เลย

หลังจากแกะออกมาสภาพก็จะเป็นแบบนี้ จะเห็นว่ามีคราบแป้งจริงแต่ว่าจะโดนเทปกาวดักเอาไว้ไม่ให้ผ่านเข้าในช่องดังกล่าวนั่นเอง

ทดสอบกล้องหน้าใช้งานได้ชัดเจนปกติ ทดสอบกับ FaceID ก็สามารถใช้งานได้ผ่านปกติเช่นกันครับ ส่วนเรื่องความแข็งและการกันรอยสามารถดูที่คลิปต่อไป

รีวิวกระจกกันรอย Hi-Shield HD แบบไม่เต็มจอสำหรับ iPhone X

มาดูรุ่นที่ไม่เต็มจอกันบ้างครับ Hi-Shield ก็มีให้เลือกซื้อเหมือนกัน นี่คือกล่องของรุ่นนี้ สติกเกอร์ติดหน้ากล่องจะเป็นสีม่วงและเขียนกำกับไว้ว่า HD High Definition เป็นกระจกใสความคมชัดระดับ HD ติดตั้งแล้วไม่บดบังจอหรือลดความสวยงามของจอ iPhone X

อุปกรณ์ที่มีให้ในกล่อง

• กระจกนิรภัยกันรอย HD 1 ชิ้น แบบใสสำหรับ iPhone X
• ฟิล์มพลาสติกกันรอยด้านหลังแบบใส ติดเนียนไม่มีฟองอากาศที่ Apple โลโก้
• ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงสำหรับเช็ดทำความสะอาด
• กระดาษแอลกอฮอล์แบบเปียกเช็ดคราบหน้าจอก่อนติดตั้งกระจก
• สติกเกอร์ดูดเม็ดฝุ่นใช้ติดเม็ดฝุ่นออกก่อนติดตั้งกระจก

Hi-Shield iPhone X HD

หลังติดตั้งด้านบนจะเว้นช่องลำโพงเอาไว้เพื่อการสนทนาและในส่วนของกล้องหน้า TrueDepth นั้นจะถูกปิดทับด้วยกระจกใสซึ่งระบบกล้องหน้าและ Face ID ก็ยังใช้งานได้อย่างปกติไม่พบปัญหาแต่อย่างใด ที่ขอบของกระจกนั้นจะเท่ากับขนาดของส่วนแสดงผลบนจอพอดี ซึ่งส่วนนี้ผมคิดว่าน่าจะทำล้ำออกมาอีกสักนิดน่าจะสวยขึ้น

Hi-Shield iPhone X HD

ด้านล่างติดแล้วออกมาได้ดังนี้ครับ ตัวขอบกระจกเท่าที่ลองใช้งานมีความมนน้อยกว่ารุ่น 3D Super Strong Max

Hi-Shield iPhone X HD

• การใช้งานร่วมกับเคสสามารถใช้ได้ทุกไร้ไม่มีปัญหา
• FaceID ใช้ได้ปกติ
• กล้องหน้าใช้ได้ปกติ
• กันรอยนิ้วมือได้ดี

ราคาของรุ่นนี้อยู่ที่ 690 บาท

สรุป

Hi-Shield 3D Super Strong Max รุ่นนี้(ล็อตผลิตเดือน 12/2017) ได้รับการปรับปรุงประสิทธิภาพเรื่องการกันฝุ่นไม่ให้เข้าไปใต้จอเป็นที่เรียบร้อยแล้วหากใครกังวลเรื่องฝุ่นเข้าใต้จอก็หายห่วงได้เลย การใช้งานร่วมกับเคสอย่าง UAG ก็บอกเลยว่าใช้ได้สบายไม่ดันฟิล์ม

ข้อควรพิจารณ์กระจกกันรอยมีโอกาสแตกได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่กับมุมที่ตกกระทบซึ่งจะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ Hi-Shield 3D Super Strong Max มีการรับประกันกระจกแตกให้นาน 6 เดือนหากว่าเกิดเหตุการณ์นั้นขึ้น

สำหรับลูกค้าเก่าที่ซื้อ 3D Super Strong Max ไปก่อนหน้านี้แล้วสามารถติดต่อไปยัง Hi-Shield เพื่อรับสิทธิพิเศษส่วนลด 80% ในการอัปเกรดเป็นรุ่นใหม่ได้ที่เพจ -> Facebook : https://goo.gl/6hhV4N

ในส่วนของฟิล์มไม่เต็มจอนั้นการจะหมดห่วงเรื่องฝุ่นและราคาประหยัด ใช้งานร่วมกับเคสได้ทุกรุ่นแต่ที่มีส่วนขอบกระจกล่างที่นิ้วเราอาจจะปัดไปโดนจุดนั้นเท่านั้นเอง

ซื้อกระจกกันรอย 3D Super Strong Max แถมประกันฟิล์ม 6 เดือน

เพิ่มความเชื่อมั่นกับคุณภาพกระจกกันรอยรุ่นล่าสุดจาก Hi-Shield ด้วยโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อกระจกนิรกัย 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X วันนี้ รับประกันฟิล์มกระจกแตก 180 วันทันที โดยให้ทำการลงทะเบียนประกันหลังซื้อภายใน 7 วันได้ที่  www.hishieldgadget.com ได้

ราคาและสถานที่จัดจำหน่ายและโปรโมชั่น

• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X = 1,490 บาท

• Facebook : https://goo.gl/6hhV4N
• Inbox Facebook : https://goo.gl/VZmxrK
• Line@: https://goo.gl/moNSKn
• IG : hishieldgad

หมายเหตุโปรโมชั่นสอบถามผ่านหน้าเพจหรือช่องทางออนไลน์ของ Hi-Shield ได้โดยตรง

from:https://www.iphonemod.net/hi-shield-glass-protector-for-iphone-x.html

รีวิว Hi-Shield 3D Super Strong Max กระจกกันรอย iPhone X แข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า

รอบที่แล้วรีวิวฟิล์มกระจก 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8, 8 Plus ให้ชมกันไปแล้ว(อ่านได้ที่นี่) รอบนี้ได้รุ่นที่ใช้งานกับ iPhone X มาแล้ว อยากรีวิวให้ชมกันว่างานจะดีไหม ติดเรียบร้อยเข้ารูป แน่นดีไหม มีฟองอากาศหรือเปล่า เราจะชมรีวิวพร้อมกันและดูความแข็งแรงของกระจกตัวนี้กันครับ

รีวิว Hi-Shield 3D Super Strong Max กระจกนิภัยกันรอย iPhone X แข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า

ข้อมูลทางเทคนิคของกระจกนิรภัยกันรอย Hi-Shield 3D Super Strong Max

• ตัวกระจกผลิตจาก Corning Gorilla Glass จาก USA
• กระจกหนา 0.33 มม. มาตรฐาน
• มาพร้อมเทคโนโลยี Hydrofluoric ที่เพิ่มความเเข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า (2X ShatterProof) ผ่านการอบ Tempered กว่า 6 ชั่วโมง
• ผ่านการทดสอบด้วยการปล่อยลูกตุ้มเหล็ก หนัก 64 กรัมจากความสูง 140 ซม. กระจกยังคงสามารถปกป้องหน้าจอจากแรงกระแทกได้อย่างไร้ริ้วรอย !!! (ชมคลิป)
• พื้นผิวเคลือบด้วยสาร Oleophobic เข้มข้น ที่ช่วยลดรอยนิ้วมือ และคราบมัน ได้มากกว่า
• หน้าจอสัมผัสลื่นแค่ปลายนิ้วกันรอยขีดข่วนได้มากขึ้น
• ให้ภาพคมชัดระดับ HD 98%
• เพิ่มความเเข็งแรงบริเวณ “ขอบกระจก” (Strong-edge) ให้รับแรงกระแทกมากกว่า กระจก 3D ทั่วไป กดที่ขอบแรงๆ ไม่ทำให้ขอบกระตกแตก
• หน้าจอสวยเนี้ยบติดเข้ารูปขอบโค้ง 3D เหมือนกับจอ iPhone จับแล้วไม่คมบาดมือ

แกะกล่อง

อุปกรณ์ที่มีในกล่อง

• กระจกนิรภัยกันรอย 3D Super Strong Max 1 ชิ้น สีดำสำหรับ iPhone X
• ฟิล์มพลาสติกกันรอยด้านหลังแบบใส ติดเนียนไม่มีฟองอากาศที่ Apple โลโก้
• ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงสำหรับเช็ดทำความสะอาด
• กระดาษแอลกอฮอล์แบบเปียกเช็คคราบหน้าจอก่อนติดตั้งกระจก
• สติกเกอร์ดูดเม็ดฝุ่นใช้ติดเม็ดฝุ่นออกก่อนติดตั้งกระจก

ขั้นตอนการติดตั้งสามารถชมได้ในคลิปที่แนบไว้ด้านล่างนะครับ ส่วนรูปด้านล่างจะนำกระจกที่ติดตั้งลง iPhone X เสร็จแล้วมาให้ชมกันแต่ละมุมครับ

ภาพรวมแล้วกระจกรุ่นนี้ติดเข้ารูปกับ iPhone X ดีครับ(เข้ากับรอยบากด้วย) ไม่มีปัญหากับกล้องหน้า True Depth และระบบ Face ID แต่อย่างใด ขอบมีความมนจับแล้วไม่บาดมือ ขอบกระจกแข็งแรงกดแล้วไม่แตกและสามารถใช้งานร่วมกับเคสได้ (เคสหลายๆ ตัวจะทดสอบเพิ่มอีกครั้ง) ใช้กับเคสของ Apple นั้นไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

กันรอยนิ้วมือได้ดี เช็ดทำความสะอาดง่ายครับสำหรับเรื่องความชัดของจอนั้นติดกระจกนี้แล้วความคมชัดระดับ HD ยังดีเช่นเดิมครับ

ต่อไปเดี๋ยวไปชมคลิปแนะนำ 3D Super Strong Max พร้อมการทดสอบความแข็งแรงของกระจกนี้กันครับ

สรุป

Hi-Shield 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X ทดสอบแล้วพบว่า

• ติดเข้ารูปดี ไม่มีฟองอากาศ มีฟิล์มหลังมาให้ด้วย
• ใส่เคสได้ไม่ดันฟิล์ม
• ใช้งาน Face ID สแกนใบหน้าปลดล็อคเครื่องได้ไม่มีปัญหา
• กล้องหน้าใช้งานได้ปกติ
• กันกระแทกได้ดีลดโอกาสที่หน้าจอจะแตกเมื่อโดนกระแทกแรงๆ
• ความแข็งระดับ 7 เริ่มทำให้เห็นขนแมวบางๆ ที่กระจก 3D Super Strong Max
• ความแข็งระดับ 8 รอยชัดเจนมากขึ้น
• ความแข็งระดับ 9 (แข็งสุดคือเพชร ระดับ 10) รอยลึกลงไปในเนื้อกระจก

ดั้งนั้น กระจกกันรอย Hi-Shield Super Strong Max นั้นทนต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นรอยจากเหรียญขูด, กุญแจขูด, คัดเตอร์กรีด อีกทั้งรองรับการกระแทกด้วยแรงขนาดเยอะๆ ได้ ไม่ทำให้กระจกแตก

จุดด้อยจะอยู่ที่ฝุ่นเข้าบริเวณเหนือช่องหูฟังด้านบนหากมีแถบดักฝุ่นบริเวณนั้นน่าจะดีมาก

ซื้อกระจกกันรอยแถมประกัน 6 เดือน

เพิ่มความเชื่อมั่นกับคุณภาพกระจกกันรอยรุ่นล่าสุดจาก Hi-Shield ด้วยโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อกระจกนิรกัย 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X วันนี้ รับประกันฟิล์มกระจกแตก 180 วันทันที โดยให้ทำการลงทะเบียนประกันหลังซื้อภายใน 7 วันได้ที่  www.hishieldgadget.com ได้

ราคาและสถานที่จัดจำหน่ายและโปรโมชั่น

• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X = 1,490 บาท

สำหรับแฟนคลับ iPhoneMod ลดพิเศษ!!

• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone X = 990 บาท เท่านั้น

เพียงแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าอ่านจากเพจ iPhoneMod เท่านี้ก็รับส่วนลดได้ทันที! สอบถามรายละเอียดสินค้าและสั่งซื้อได้ที่

• Facebook : https://goo.gl/6hhV4N
• Inbox Facebook : https://goo.gl/VZmxrK
• Line@: https://goo.gl/moNSKn
• IG : hishieldgad

from:https://www.iphonemod.net/hi-shield-3d-super-strong-max-iphone-x-reveiw.html

รีวิว H-Shield 3D Super Strong Max กระจกกันรอย แข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า ประกันกระจกแตก 6 เดือน

Hi-Shield ผู้ผลิตกระจกนิรภัยกันรอยสำหรับ iPhone และสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังและเป็นอีกหนึ่งผู้สนับสนุน iPhoneMod อย่างเป็นทางการสำหรับการทำข่าว iPhone 8, 8 Plus ที่ออสเตรเลียครั้งนี้ รอบนี้ทางทีมผู้บริหารของ Hi-Shield มีของใหม่มาให้ผมลอง เป็นกระจกกันรอยรุ่นใหม่ในชื่อ 3D Super Strong Max ซึ่งเป็นรุ่น Advance ที่คุณภาพดีกว่า 3D Strong Max ในปัจจุบัน วันนี้เรามาชมข้อมูลพร้อมกับตัวอย่างสินค้าจริงและคลิปทดสอบความทนททานของกระจกนิรภัยกันรอยตัวนี้กันครับว่ามันจะ “แกร่ง” สมคำล่ำลือหรือเปล่า!! พร้อมความเห็นหลังการใช้งานครับ

3D Super Strong Max แข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า มาพร้อมประกันกระจกแตก 6 เดือน

เปิดตัวสายแข็ง !!! กระจกนิรภัย Hi-Shield (ไฮชิลด์) รุ่น 3D Super Strong Max กระจกสุดสตรอง อีกระดับของความแข็งแกร่งขั้นสุด !!!

• ตัวกระจกผลิตจาก Corning Gorilla Glass จาก USA
• กระจกหนา 0.33 มม. มาตรฐาน
• มาพร้อมเทคโนโลยี Hydrofluoric ที่เพิ่มความเเข็งแกร่งขึ้น 2 เท่า (2X ShatterProof) ผ่านการอบ Tempered กว่า 6 ชั่วโมง
• ผ่านการทดสอบด้วยการปล่อยลูกตุ้มเหล็ก หนัก 64 กรัมจากความสูง 140 ซม. กระจกยังคงสามารถปกป้องหน้าจอจากแรงกระแทกได้อย่างไร้ริ้วรอย !!!
• พื้นผิวเคลือบด้วยสาร Oleophobic เข้มข้น ที่ช่วยลดรอยนิ้วมือ และคราบมัน ได้มากกว่า
• หน้าจอสัมผัสลื่นแค่ปลายนิ้วกันรอยขีดข่วนได้มากขึ้น
• ให้ภาพคมชัดระดับ HD 98%
• เพิ่มความเเข็งแรงบริเวณ “ขอบกระจก” (Strong-edge) ให้รับแรงกระแทกมากกว่า กระจก 3D ทั่วไป กดที่ขอบแรงๆ ไม่ทำให้ขอบกระตกแตก
• หน้าจอสวยเนี้ยบติดเข้ารูปขอบโค้ง 3D เหมือนกับจอ iPhone จับแล้วไม่คมบาดมือ

แกะกล่อง

อุปกรณ์ที่มีในกล่อง

• กระจกนิรภัยกันรอย 3D Super Strong Max 1 ชิ้น มีให้เลือกสีขาวและดำสำหรับ iPhone 8, 8 Plus และ iPhone X (สำหรับ iPhone X จะรีวิวอีกครั้งหลังได้เครื่องครับ)
• ฟิล์มพลาสติกกันรอยด้านหลังแบบใส ติดเนียนไม่มีฟองอากาศที่ Apple โลโก้
• ผ้าไมโครไฟเบอร์คุณภาพสูงสำหรับเช็ดทำความสะอาด
• กระดาษแอลกอฮอล์แบบเปียกเช็คคราบหน้าจอก่อนติดตั้งกระจก
• สติกเกอร์ดูดเม็ดฝุ่นใช้ติดเม็ดฝุ่นออกก่อนติดตั้งกระจก

รุ่นนี้มีให้เลือกทั้ง 2 สีนะครับ ฟิล์มจะเต็มขอบเลย แต่ไม่ต้องห่วงเพราะติดแล้วสามารถใส่กับเคสกันกระแทกยี่ห้อดังอย่าง RhinoShield หรือ UAG ก็ยังได้นะครับเคสจะไม่ดันฟิล์มตัวนี้

ขอบข้างโค้งมนจับไม่คมไม่บาดมือติดเข้ารูปดีมากและที่สำคัญแข็งทนทาน (มีคลิปททดสอบให้ชมช่วงท้ายนะครับ)

ขั้นตอนการติดฟิล์ม 3D Super Strong Max สามารถรับชมตามคลิปด้านล่างได้เลย

หลังติดตั้งเสร็จผลงานที่ได้ดูเรียบร้อยดีครับ เข้ารูปเป๊ะภาพคมชัดและแถมใส่เคสกันกระแทกได้ด้วย (แนะนำเลยนะ iPhone 8, 8 Plus ควรใส่เคส ไม่งั้นตกครั้งเดียวกระจกหลังอาจแตกได้นะครับ)

• การกันรอยขีดข่วนทำได้ดีมากลองขูดด้วยกุญแจและเหรียญแรงๆ ก็ไร้รอยขีดข่วนครับ
• การเคลือบกันน้ำทดสอบหยดน้ำลองไปหลายๆ หยดพบว่าน้ำจับตัวกันเป็นก้อนไม่เกาะที่กระจก
• เช็ดทำความสะอาดได้ง่าย เคลือบเหงือหรือมือปื้นของเหลวมาแตะที่จอสามารถเช็ดออกได้ง่าย
• รอยนิ้วมือน้อยเมื่อเทียบกับฟิล์มกระจกธรรมดาๆ
• ติดแล้วไม่บังเซนเซอร์เวลาจับ iPhone แนบหู ไฟที่จอจะดับปกติ
• ไม่บังกล้องหน้า
• ไม่บังช่องลำโพงด้านบน

ทดสอบกับเคสกับสุดยอดเคสกันกระแทก RhinoShield ก็ใช้งานคู่กันได้อย่างไร้ปัญหาเคสดันฟิล์ม ยิ่งถ้าติดฟิล์มแล้วทิ้งให้เซตตัวสัก 1 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้นยิ่งดีครับ แต่โดยรวมแล้วใช้งานมาหลายวันถอดเคสเข้าออกก็ยังไม่พบปัญหาเคสดันฟิล์มครับ

ในส่วนของฟิล์มพลาสติกที่แถมมาพร้อมกันนั้นเมื่อติดตั้งลงด้านหลังเครื่องก็ดูสวยงามใช้ได้แต่เสียดายแค่ไม่คลุมบริเวณกล้องหลังด้วย ถ้าทำได้จะดีงามมากๆ

คลิปทดสอบการกระแทกด้วยลูกตุ้มเหล็ก

ชมคลิป iPhone ติดกระจกนิรภัยกันรอย 3D Super Strong Max รับการกระแทกจากลูกตุ้มเหล็กหนัก 64 กรัมจากความสูง 1.4 เมตรผลการทดสอบจะออกมาเป็นอย่างไร ติดตามชมกันได้เลย

ทั้งแข็งแรงทนทานกันรอยขีดข่วนให้หน้าจอ iPhone 8, iPhone 8 Plus และกระกระแทกได้แข็งแกร่งขึ้นถึง 2 เท่า ยังไม่พอ มีประกันกระจกแตกแถมให้ด้วยอีก 6 เดือน คุ้มค่ากับการลงทุนเลยครับ ใครที่วางแผนจะซื้อ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ในอนาคตอันใกล้นี้ เก็บข้อมูลของ 3D Super Strong Max จาก Hi-Shield เอาไว้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกได้เลย รับรองจะไม่ผิดหวัง

นอกจากรุ่น 3D Super Strong Max แล้วรุ่นธรรมดา 3D Strong Max ก็มีจำหน่ายเช่นกัน

จริงๆ แล้วรุ่นใหม่ที่นำเสนอไปด้านบนนั้นหากมองภายนอกจะเหมือน 3D Strong Max ที่เคยแนะนำไปแต่ว่ากระบวนการผลิตที่ดีขึ้นทำให้กระจก 3D Super Strong Max นั้นมีความแข็งแรงมากกว่าขึ้นกว่าเดิมครับ ส่วนใครที่ชอบรุ่นเก่า 3D Strong Max (ไม่มี Super) รุ่นที่ได้รับความนิยมเมื่อครั้งเปิดตัว iPhone 7 อยู่นั่นก็ยังสามารถหาซื้อใช้งานได้อยู่นะครับไม่ได้หายไปไหนนะครับ

สิ่งที่ให้มาในกล่องจะเหมือนกันแล้วก็ติดตั้งเหมือนกันครับ ติดกับ iPhone 8, 8 Plus เข้าตำแหน่งได้ดีเช่นเดิมแต่ที่ต่างจากตัว 3D Super Strong Max คือกันแรงกระแทกได้น้อยกว่าและไม่มีประกันกระจกแตกนั่นเองครับ

รุ่นนี้ติดตั้งง่ายใช้กับเคส RhinoSheild และ UAG ได้อย่างไม่มีปัญหาครับหายห่วงเรื่องเคสดันฟิล์มได้เช่นกันครับ

สรุป

Hi-Shield 3D Super Strong Max ทดสอบแล้วพบว่า

• ความแข็งระดับ 7 เริ่มทำให้เห็นขนแมวบางๆ ที่กระจก 3D Super Strong Max
• ความแข็งระดับ 8 รอยชัดเจนมากขึ้น
• ความแข็งระดับ 9 (แข็งสุดคือเพชร ระดับ 10) รอยลึกลงไปในเนื้อกระจก

ดั้งนั้น กระจกกันรอย Hi-Shield Super Strong Max นั้นทนต่อการใช้งานทั่วไปในชีวิตประจำวันได้อย่างหายห่วง ไม่ว่าจะเป็นรอยจากเหรียญขูด, กุญแจขูด, คัดเตอร์กรีด อีกทั้งรองรับการกระแทกด้วยแรงขนาดเยอะๆ ได้ ไม่ทำให้กระจกแตก

ซื้อกระจกกันรอยแถมประกัน 6 เดือน

เพิ่มความเชื่อมั่นกับคุณภาพกระจกกันรอยรุ่นล่าสุดจาก Hi-Shield ด้วยโปรโมชั่นพิเศษเมื่อซื้อกระจกนิรกัย 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X วันนี้ รับประกันฟิล์มกระจกแตก 180 วันทันที โดยให้ทำการลงทะเบียนประกันหลังซื้อภายใน 7 วันได้ที่  www.hishieldgadget.com ได้

ราคาและสถานที่จัดจำหน่ายและโปรโมชั่น

• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 = 1,390 บาท
• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus, iPhone X = 1,490 บาท
• 3D Strong Max รุ่น iPhone 8 = 1,190 บาท
• 3D Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus, iPhone X = 1,290 บาท

สำหรับแฟนคลับ iPhoneMod ลดพิเศษ!!

• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 = 900 บาท
• 3D Super Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus, iPhone X = 1,000 บาท
• 3D Strong Max รุ่น iPhone 8 = 750 บาท
• 3D Strong Max สำหรับ iPhone 8 Plus, iPhone X = 850 บาท

เพียงแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าอ่านจากเพจ iPhoneMod เท่านี้ก็รับส่วนลดได้ทันที! สอบถามรายละเอียดสินค้าและสั่งซื้อได้ที่

• Facebook : https://goo.gl/6hhV4N
• Inbox Facebook : https://goo.gl/VZmxrK
• Line@: https://goo.gl/moNSKn
• IG : hishieldgad

from:https://www.iphonemod.net/hi-shield-3d-super-strong-max-review.html

กระจกนิรภัยกันรอยเกรดพรีเมี่ยมสำหรับ Samsung Galaxy Note 8 จาก Hi-Shield

Samsung Galaxy Note 8 เปิดตัวไปเมื่อ 23 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมาชิงตัดหน้า iPhone 8 ที่จะเปิดตัวในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ทีมงานได้เขียนข้อมูลเปรียบเทียบสเปค Galaxy Note 8 กับ iPhone 7 Plus ให้ชมกันไปแล้วเดี๋ยวค่อยรอเทียบกับ iPhone 7s Plus และ iPhone 8 อีกทีเดือนหน้านะ สำหรับข่าวนี้แจ้งให้สาวก Note 8 หรือผู้ที่ต้องการซื้อ Note 8 ในอนาคตทราบว่า Hi-Shield ได้เตรียมกระจกกันรอยเกรดพรีเมี่ยมไว้รองรับรุ่นนี้แล้วนะ

กระจกนิรภัยกันรอยเกรดพรีเมี่ยมสำหรับ Samsung Galaxy Note 8 จาก Hi-Shield

รอบนี้เตรียมสินค้ามาให้เลือกใช้งานได้กัน 3 แบบ

• 3D Case Friendly Note 8 (รูปที่ 1,2 จากซ้าย)
• 3D Curve Note 8 (รูปที่ 3 จากซ้าย)
• TPU Auto Repair (ยังไม่มีรูป)

คุณสมบัติของแต่ละรุ่น

3D Case Friendly Note 8 คุณสมบัติ

• ตัดขอบให้ใส่เคสได้ง่าย โดยเฉพาะกับ UAG
• ผลิตจากกระจก Asahi glass
• กระจกแข็งแรงระดับ 9H
• เคลือบ Oleophobic ช่วยลดรอยนิ้วมือ และคราบมัน เช็ดทำความสะอาดง่าย
• ทัชสกรีนลื่น ไม่มีสะดุด
• ใส่เคสง่ายไม่ดันกระจกไม่มีกระจกบังรบกวนการทำงานของเซนเซอร์
• ขอบ 3D เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องหมดปัญหา ขอบกะเทาะ ขอบแตก
• กันรอยขีดข่วนให้ภาพคมชัดเสมือนไม่ติด

3D Case Friendly Note 8

3D Case Friendly Note 8

3D Curve Note 8 คุณสมบัติ

Hi-Shield 3D (Curve) Samsung Galaxy Note 8 ปกป้องรอบด้าน ป้องกันกระแทกด้วยความแข็งแรงระดับ 9H

• ใส่เคสง่ายกว่ากระจกเต็มจอทั่วไป
• ขอบ 3D เรียบเนียนไปกับตัวเครื่องหมดปัญหา ขอบกะเทาะ ขอบแตก
• กันรอยขีดข่วนกระจกแข็งแรงระดับ 9H
• หน้าจอเคลือบ Oleophobic
• หน้าจอลื่น ทำความสะอาดง่าย

3D Curve

TPU Auto Repair

ฟิล์มนี้

• เนื้อฟิล์ม TPU กันรอยขีดข่วนและคุณสมบัติพิเศษคือชรอยขีดข่วนจางหายเองได้
• ติดง่าย ยกแก้ได้เนื้อฟิล์มไม่ยืดย้วย
• ให้ภาพคมชัด ไม่ลดการแสดงผลของหน้าจอ

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

• 3D Case Friendly Note 8 ราคา 1,190 บาท
• 3D Curve Note 8 ราคา 1,290 บาท
• TPU Auto Repair ราคา 690 บาท

ซื้อได้ที่ร้าน iStudio, JayMart และสามารถสั่งสินค้าออนไลน์ได้ที่ Facebook : Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย, เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Hishieldgadget/ และ LINE@ : @Hishieldgadget

หมายเหตุ TPU Auto Repair หาซื้อได้ที่ K accessories ที่ห้างชั้นนำทุกสาขา

from:https://www.iphonemod.net/hi-shield-tempered-glass-for-note-8.html

วิธีตรวจสอบ MFi (Made for iPhone) ว่าเป็นอุปกรณ์เสริมหรือสายชาร์จแท้หรือไม่

MFi (Made for iPhone iPod iPad) เป็นมาตรฐานอุปกรณ์เสริมที่กำหนดโดย Apple เพื่อให้ผู้ผลิตทำสินค้าออกมาในทิศทางเดียวกัน และได้มาตรฐานสินค้าคู่ควรกับ iDevices โดยจะเป็นโลโก้ ด้วยขนาดและสีที่กำหนดปรากฎอยู่บนกล่อง เพื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อได้อย่างสบายใจ ว่าจะใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา

โดยปกติแล้วโลโก้จะมาพร้อมกัน 3 อุปกรณ์ แต่ก็ไม่จำเป็นว่าต้องมาครบหมด เพราะอาจเป็นอุปกรณ์ที่รองรับเฉพาะอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งก็ได้ โดยผู้ที่เข้าร่วมโปรแกรม MFi ของทาง Apple สามารถเป็นได้ทั้ง “ผู้ผลิต” และ “ผู้พัฒนา” ซึ่งจะได้รับการสนับสนุนข้อมูลทางเทคนิคจากบริษัทฯ รวมถึงการทดสอบมาตรฐานต่าง ๆ

อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ขาย เมื่อได้ตีโลโก้ดังกล่าว
จำเป็นที่จะต้องเสียส่วนแบ่งให้กับบริษัทฯ

และเนื่องจากมันไม่ฟรีนี่เอง เราจึงไม่เห็นโลโก้นี้อยู่บนอุปกรณ์ No Name ทั่วไป โดยมากก็จะเป็นเรื่องของสาย Lightning, อุปกรณ์ Bluetooth, ฯลฯ ไม่นับรวมพวกเคสหรือฟิล์มกันรอยธรรมดาทั่วไปที่ไม่ได้ใช้ไฟฟ้า เนื่องจากของดังกล่าว Apple ได้ปล่อยขนาดต้นแบบให้ในเว็บไซต์อยู่แล้ว

สำหรับวิธีตรวจสอบนั้นง่ายมากเพียงแค่ไปที่เว็บไซต์ MFi Licensed Accessories โดยสามารถค้นหาได้จาก

• Model
• Brand
• UPC/EAN

ซึ่งเบื้องต้นผมได้ลองค้นชื่อ “Moshi” ซึ่งเป็นแบรนด์ดังระดับโลก ก็พบทั้งหมด 42 รายการ แบ่งออกมาเป็นรุ่นย่อยแต่ละรุ่น โดยตรงนี้เราสามารถตรวจสอบได้เลยว่าเป็นของแท้หรือไม่ (ถ้าค้นไม่เจอแสดงว่า MFi ปลอม ที่ทำเนียนแปะโลโก้เฉย ๆ)

อีกหนึ่งตัวอย่างจาก iWalk รุ่น Twister ค้นข้อมูล Brand = iWalk เลื่อนดูจะเห็น  Accessory Name = Twister และ Model = CST003IL

จากนั้นมาดูที่กล่องพบว่าที่ Part No นั้นมีข้อมูล CST003i อยู่ แบบนี้ก็มั่นใจได้ครับว่ามี MFi อย่างแน่นอน

เพื่อความสบายใจและมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาภายหลัง จึงควรเลือกอุปกรณ์เสริมที่ได้มาตรฐาน MFi (ที่เป็นของแท้) ทุกครั้ง

แต่ส่วนมากที่วางจำหน่ายเป็นแบรนด์ดัง ๆ ระดับโลกก็เป็น MFi แท้ทั้งหมด รวมถึงสินค้าที่วางจำหน่ายใน iStudio ผู้ใช้จึงสามารถวางใจได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจะให้ชัวร์ก็ลองเอาชื่อแบรนด์ไปค้นหาผลิตภัณฑ์ก็ได้เช่นกัน

 

from:https://www.iphonemod.net/how-to-check-mfi-accessories.html

รีวิวเคสหนัง iPhone 7, 7 Plus งานดีมาก จาก Hi-Shield

แนะนำเคสหนังสำหรับ iPhone 7, 7 Plus กันสักหน่อยครับเคสนี้ผมได้มาใช้งานสักพักใหญ่ๆ แล้วเลยอยากนำมาบอกเล่าให้ฟังกันครับว่ามันจะน่าใช้งานขนาดไหนและเหมาะกับใคร พร้อมแล้วไปชมกันครับกับ Hi-Shield Leather Case สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus

เคสหนังตัวแรกจาก Hi-Shield ที่ได้ทดสอบใช้งานแล้วค่อนข้างที่จะประทับใจอย่างมาก จุดเด่นของเคสนี้อยู่ที่เคสบาง เคสเข้ารูปกับตัวเครื่อง iPhone 7, 7 Plus ได้ดีและด้านในของเคสเป็นผ้าไม่ทำให้ตัวเครื่องเป็นรอย ว่าแล้วเราไปชมเคสจริงกันเลยครับ

Hi-Shield Leather Case มีให้เลือก 2 สีคือ เทาและน้ำตาล กล่องใส่จะเป็นหน้าตาแบบนี้ครับ

เคสนี้ชนิดของหนังเป็นหนังเทียมนะครับ ผิวสัมผัสเมื่อจับจะกระชับมือและไม่ลื่นเมื่อใช้งานครับ ด้านในเคสจะเป็นเนื้อผ้าสีแดงพร้อมและมีโลโก้ Hi-Shield ติดอยู่ภายใน

ซึ่งผ้าด้านในส่วนนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ตัวเครื่อง iPhone เป็นรอยโดยเฉพาะ iPhone 7, 7 Plus สี Jet Black ครับ หมดห่วงได้เลยว่าเคสจะกัดเครื่องครับ

ติดตั้งเคสเข้าเครื่องนั้นค่อยข้างง่ายครับการถอดออกเช่นกันเมื่อติดตั้งเสร็จหน้าตาเคสจะเป็นแบบนี้ดูมุมด้านหน้าก่อนนะครับ ตัวเคสจะสูงกว่าหน้าจอนิดหน่อยทำให้จอไม่ติดกับพื้น ถ้าต้องการติดกระจกกันรอยก็สามารถทำได้เคสจะไม่ดันกระจก

เคสติดตั้งเข้ารูปดีครับไม่หลวมหรือแน่นเกินไป

ด้านข้างเปิดช่องสำหรับปุ่ม Mute ส่วนปุ่มเพิ่มและลดเสียงนั้นเคสจะคลุมเอาไว้และมีปุ่มนูนๆ ครอบไว้อีกทีครับ การกดปุ่มใช้งานได้ง่ายดีครับรวมทั้งฝั่งของปุ่ม Power ด้วย

ด้านหลังบริเวณกล้องนั้นเคสจะยกตัวสูงขึ้นป้องกันกล้องไม่ให้ถูพื้นครับ

ด้านล่างเปิดโล่งไว้สำหรับการเสียชาร์จและลำโพง ไมค์

ประสบการณ์หลังการใช้งาน Hi-Shield Leather Case เคสหนัง iPhone 7, 7 Plus

ขอสรุปเป็นหัวข้อเด่นๆ ให้ได้ทราบกันครับ

• เนื้องานดี เข้ารูปกับ iPhone 7, 7 Plus และชอบความบางติดตั้แล้วตัวเครื่องดูไม่หนา
• สีสวยดี ใส่แล้วดูหรูดูมีระดับ โดยเฉพาะสำหรับ Look ที่ต้องการเป็นทางการใส่เคสนี้คู่กับสูทดูเข้ากันมากๆ ครับ
• กันฝุ่นได้ดีครับ ฝุ่นเข้าน้อยมากและแกะทำความสะอวดได้ง่าย
• วัสดุหนังค่อนข้างทนทานครับใช้มาเกือบ 2 เดือนเคสยังสวยงามไม่ลอกครับและสียังใหม่
• กลิ่นของหนังจะหายไปเมื่อใช้ไปสักระยะ
• สะดวกเมื่อวางกับพื้นโต๊ะเนื่องจากมันไม่ลื่น
• ป้องกันรอยไม่ให้เกิดกับ iPhone
• ป้องกันการกระแทกได้
• ใช้กับกระจกกันรอยทั้งแบบเต็มและไม่เต็มจอได้
• ไม่มีปัญหากับสายชาร์จ

ชมภาพของ Hi-Shield Leather Case เพิ่มเติมครับ

 

ราคาเคสหนัง Hi-Shield

สำหรับ iPhone 7 อยู่ที่ 650 บาท ส่วน iPhone  7 Plus อยู่ที่ 690 บาท ถือว่าคุ้มค่ามากสำหรับใครที่อยากได้เคสหนังคุณภาพดีสักชิ้นไว้ใช้งาน ดูเรียบหรูและมีสไตล์ Simplicity ตามแบบฉบับของ Apple

พิเศษ หากสั่งซื้อออนไลน์ผ่าน Facebook เพจ Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย หรือ LINE@ HishieldGadget ซื้อได้ในราคาเพียง 490 บาทเท่านั้น

สถานที่จัดจำหน่าย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย, เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Hishieldgadget/ และ LINE@ : @Hishieldgadget

from:https://www.iphonemod.net/hi-shield-leather-case-iphone-7-7plus-hishield-review.html

รีวิวกระจกกันรอย iPad Pro 10.5 นิ้ว ใช้ร่วมกับ Apple Pencil ได้จาก Hi-Shield

มาแล้วครับแนะนำกระจกกันรอยสำหรับ iPad Pro 10.5 นิ้ว กันสักหน่อยจาก Hi-Shield Tempered Glass กระจกนิรภัยกันรอยสำหรับ iPad Pro 10.5 นิ้ว ที่สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ได้อย่างไร้ปัญหา ติดง่ายติดสนิท เข้ารูปขอบมนไม่บาดมือไม่แตกง่าย

กระจกกันรอยกับ iPad Pro จำเป็นหรือไม่?

แต่ก่อนตอนใช้ iPad จะใช้นิ้วจิ้มจอธรรมดา ก็ไม่ได้สนใจกระจกกันรอยเท่าไหร่ แต่พอต้องใช้งานร่วมกับ Apple Pencil ก็เลยต้องคิดให้เยอะขึ้น

ปกติแล้วลำพังหัวของ Apple Pencil นั้นไม่ทำให้หน้าจอ iPad Pro เป็นรอย แต่ส่ิงรอบข้างอย่างเม็ดฝุ่นต่างหากที่จะสร้างปัญหา

จากการสอบถามผู้ใช้งาน iPad Pro มาโดยตลอดให้ความเห็นว่า “ฟิล์มหรือกระจกกันรอยมีความจำเป็นสำหรับผู้ที่ใช้ iPad Pro ร่วมกับ Apple Pencil” โดยให้เหตุผลว่า “ฝุ่นที่ติดตาม Smart Cover เม็ดเล็กๆ เมื่อเราวางมือลงที่หน้าจอ iPad Pro เพื่อเขียนด้วย Apple Pencil จะมีโอกาสถูให้เม็ดฝุ่นเหล่านั้นทำให้จอเป็นรอยได้”   ผลที่ตามมาคือทำให้จอ iPad Pro เปิดรอยขนแมวได้นั่นเองครับ

ดังนั้นฟิล์มกันรอยหรือว่ากระจกกันรอยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับการป้องกันรอยที่จะเกิดขึ้นกับหน้าจอได้ครับ

คุณสมบัติของ Hi-Shield Tempered Glass สำหรับ iPad Pro 10.5 นิ้ว

• ปกป้องเต็มจอ ด้วยกระจก Asahi Glass จากญี่ปุ่น
• กระจกเต็มพอดีขอบขอบเครื่อง หมดปัญหาขอบกระเทาะ ขอบแตก
• หน้าจอเคลือบ Oleophobic หน้าจอลื่น ทำความสะอาดง่ายให้ภาพคมชัดเสมือนไม่ติด
• กระจกแข็งแรงระดับ 9H
• ติดเข้ารูปดี งานตัดเนียบ
• แสงผ่านได้ดี ไม่ลดความสว่างหน้าจอ
• ลดรอยนิ้วมือ เช็ดทำความสะอาดง่าย
• กันรอยขีดข่วน
• ใช้ร่วมกับ Apple Pencil ได้

แกะกล่องพร้อมการติดตั้ง

นี่คือรูปร่างกล่องกระจกกันรอย iPad Pro 10.5” ด้านหน้าจะบอกรุ่นที่ใช้งานได้และคุณสมบัติที่บอกไว้ครับบรรจุในกล่องพลาสติกแข็งสีใสสามารถมองทะลุได้และป้องกันไม่ให้กระจกบิดงอหรือแตก

ซูมดูใกล้ๆ ที่ด้านล่างจะบอกคุณสมบัติเอาไว้ให้ตามที่บอกเอาไว้ที่ด้านบน

ด้านหลัง

นี่คืออุปกรณ์ต่างๆ ที่แกะออกมาแล้วจากกล่อง ประกอบด้วย กระจกกันรอย, ชุดทำความสะอาดจอและสติกเกอร์ดึงฝุ่นเพื่อเตรียมการติดตั้ง

นี่คือภาพหลังจากติดตั้งกระจกกันรอยเข้ากับ iPad Pro 10.5” เป็นที่เรียบร้อยแล้วพบว่าเข้ามุมและเข้ารูปกับปุ่ม Home ได้เป็นอย่างดี

หลังติดตั้งเรียบร้อยแล้วลองไปชมการใช้งานกระจกนิรภัยกันรอยชิ้นนี้กันครับตามคลิปด้านล่าง

รีวิว

ข้อเด่นข้อด้อย

จุดเด่นกระจกกันรอย Hi-Shield ติดตั้งง่าย ขอบมน ลดรอยนิ้วมือเพิ่มการปกป้องไม่ให้หน้าจอเป็นรอยเนื่องจากมาพร้อมความแข็งระดับ 9H อย่างที่เรียนไป ติดแล้วไม่ลดความคมชัดให้กับจอ พร้อมยังใช้งานกับ iPad Pro ได้อย่างไร้ปัญหาติดแล้วทำให้หน้าจอดูใหม่อยู่เสมอ จุดด้อยนั้นยังไม่พบปัญหาตั้งแต่ใช้งานมาครับ

ราคาและสถานที่จัดจำหน่าย

Hi-Shield Tempered Glass สำหรับ iPad Pro 10.5 นิ้ว ราคาอยู่ที่  1,390 บาท ซื้อได้ที่

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Hishieldgadget/

LINE@ : @Hishieldgadget

from:https://www.iphonemod.net/tempered-glass-ipad-pro-10-5-hishield.html

รีวิวกระจกนิรภัยถนอมสายตา Hi-Shield 3D Bluelight ตัดแสงฟ้า ใช้ง่ายสบายตา

จ้องหน้าจอสมาร์ทโฟนนานมีผลต่อสายตาแน่นนอนครับ ทั้งปวดตา เมื่อยล้าดวงตาและหากใช้งานในที่มืดแถมเปิดแสงจ้ายิ่งส่งผลร้ายต่อสายตาเป็นอย่างมาก ผลการสำรวจพบว่าผู้ใหญ่ใช้เวลากว่า 4 ชม. ต่อวันในการดูสมาร์ทโฟนแต่ที่หนักกว่าคือเด็กนั้นใช้เวลามากกว่า 6 ชั่วโมงต่อวันเลยทีเดียว ถึงเวลาหรือยังที่เราต้องถนอมดวงตาของเรา!

กระจกนิรภัยถนอมสายตา Hi-Shield 3D Bluelight ตัดแสงฟ้า ใช้ง่ายสบายตา

ทางเลือกในการถนอมสายตานั้นทำได้หลายทาง เช่น ใช้สมาร์ทโฟนแท็บเล็ตหรือคอมพิวเตอร์ให้น้อยลง, เปิดโหมด Night Shift ใน iOS และ macOS, การทานอาหาร ผักผลไม้หรืออาหารเสริมที่ช่วยบำรุงสายตา ฯลฯ หรืออีกทางเลือกหนึ่งก็คือการติดตั้งฟิล์มหรือกระจกนิรภัยชนิดถนอมสายตาบนสมาร์ทโฟนก็ช่วยได้ครับ

Hi-Shield ได้ผลิตฟิล์มและกระจกนิภัยออกมาหลายแบบรวมถึง Hi-Shield 3D Bluelight แบบถนอมสาย ตามมาให้เลือกใช้งานด้วย สำหรับผู้ที่ต้องการลดแสงสีฟ้าที่เกิดจากหน้าจอสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone

จุดเด่นของ Hi-Shield 3D Bluelight กระจกนิรภัยถนอมสายตา

ตัดแสงสีฟ้าปกป้องจอประสาทตา ติดแล้วไม่ทำให้สีหน้าจอเพี้ยน มั่นใจด้วยความแข็งแกร่งจากกระจก Gorilla Glass แท้จากอเมริกา ขอบกระจกโค้งเต็มขอบพอดีกับขอบเครื่อง หมดปัญหาขอบกะเทาะ ขอบแตกหน้า ส่วนของจอเคลือบ Oleophobic หน้าจอลื่น ทำความสะอาดง่ายให้ภาพคมชัดเสมือนไม่ติดกระจกแข็งแรงระดับ 9H

สิ่งที่มีในกล่อง 3D Bluelight จาก Hi-Shield

• กระจกกันรอย iPhone 7 หรือ iPhone 7 Plus จำนวน 1 ชิ้น
• กระดาษแอลกอฮอล์สำหรับทำความสะอาดหน้าจอ
• ผ้าไมโครไฟเบอร์
• สติกเกอร์สำหรับติดฝุ่น

เมื่อแกะออกมาจะเห็นกระจกมีสีออกฟ้าๆ นิดนึง

ลองเทียบกับกระจกกันราย 3D Strong Max แบบใสปกติจะเห็นความแตกต่างได้ครับ

ขั้นตอนการติดตั้ง

• ทำความสะอาดด้วยกระดาษแอลกอฮอล์เช็คไขมันให้ออก
• เช็คด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์แห้ง
• ดึงฝุ่นออกด้วยสติกเกอร์ที่มีให้ออกให้หมดก่อนติดตั้ง

หลังติดตั้งผลงานที่ได้จะเป็นเช่นนี้ครับ ดูไปแล้วหน้าจอเป็นสีฟ้าขึ้นมาหน่อยๆ จะไม่ดำสนิททั้งหมดเหมือนฟิล์มใสทั่วไปส่วนกระจกนั้นติดได้แน่น เรียบ สนิทได้ไร้ฟองอากาศมาตรฐานเดียวกับ 3D Strong Max, 3D Privacy ที่เคยได้รีวิวไปก่อนหน้านี้

ภาพนี้ทดสอบใช้งานในกลางแจ้งที่ระดับความสว่างของหน้าจอที่แตกต่างกันพบว่าแสงหน้าจอจะมืดลงกว่าฟิล์มใสทั่วไปปกติครับ ส่วนการใช้งานในที่ร่มนั้นความสว่างจะอยู่ในระดับปกติครับ

กล่าวโดยสรุปหลังจากทดสอบใช้งานกระจกนิรภัยถนอมสายตา Hi-Shield 3D Bluelight พบว่า

• ใช้งานสบายตาลดอาการเมื่อยล้าดวงตาเมื่อจ้อง iPhone เป็นเวลานา
• ระบบสัมผัสกระจกกันรอย Hi-Shield ถือว่าทำได้ดีครับติดแล้วทัชลื่นไม่หนืด ติดแล้วเข้าตำแหน่งของหน้าจอพอดี
• ขอบมนไม่บาดนิ้วและสีของขอบกระจก(ขาว ดำ) ทำออกมาได้ดี
• ตอบสนองต่อการพิมพ์ได้ดี ไม่หน่วงหรือกดไม่ติด
• เช็ดทำความสะอาดง่าย
• ทนรอยขีดข่วนได้แต่ก็พบรอยขนแมวให้เห็นบ้างเล็กน้อยหากใช้งานไปสักระยะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้งานของผู้ใช้แต่ละคนด้วยนะครับ
• ลดแรงกระแทกที่จะส่งตรงไปยังจอ iPhone 7, 7 Plus เพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบาได้
• ติดแนบจอดีและไม่มีรอยฟองอากาศที่ขอบจอ
• ทดสอบกดขอบกระจกบริเวณที่คลุมส่วนโค้งของจอ iPhone 7 Plus กระจกไม่แตก แข็งแรงทนทาน
• ใช้งานร่วมกับเคสทั่วไปได้ครับ

3D Bluelight จาก Hi-Shield ราคาเท่าไหร่

สำหรับ iPhone 7 และ iPhone 7 Plus อยู่ที่ 1,190 และ 1,290 ตามลำดับ หาซื้อได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายใกล้ทั่วไป

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

Facebook : Hishield ฟิล์มและกระจกกันรอย

เว็บไซต์: https://www.facebook.com/Hishieldgadget/

LINE@ : @Hishieldgadget

from:https://www.iphonemod.net/3d-blue-light-cut-hi-shield.html