คลังเก็บป้ายกำกับ: HAUWEI

เผยโฉม Huawei P50 Pocket ในนิตยสาร Harper’s Bazaar

Huawei ประกาศเตรียมเปิดตัวสมาร์ตโฟนพับหน้าจอได้แบบแนวตั้ง Huawei P50 Pocket ในวันที่ 23 ธันวาคมที่จะถึงนี้ แต่วันนี้ Harper’s Bazaar นิตยสารแฟชั่นชื่อดังระดับโลก ได้โพสต์ภาพ Guan Xiaotong ถือเครื่อง Huawei P50 Pocket ลงใน ​Weibo ด้วยครับ



ซึ่งภาพที่เราเห็นจาก Harper’s Bazaar คอนเฟิร์มได้เลยว่าตัวเครื่องใช้ดีไซน์ฝาพับแนวตั้ง ที่ด้านหลังของเครื่องมีโมดูลกล้องแบบเดียวกับ Huawei P50 โดยวงกลมอันแรกมีกล้องทั้งหมด 3 ตัว ส่วนโมดูลวงกลมอีกอันเป็นหน้าจอ Always on Display ขนาดเล็ก ซึ่งใช้สำหรับเซลฟีและดูการแจ้งเตือนได้



สำหรับสเปกของ Huawei P50 Pocket นั้นยังไม่มีความแน่ชัดจนกว่า Huawei จะเปิดตัว แต่แหล่งข่าวระบุว่า Huawei จะเลือกใช้ Snapdragon 888 แต่ไม่รองรับโมเด็ม 5G ส่วนกล้องหลังคาดว่าจะประกอบไปด้วยเลนส์มุมกว้างปกติ เลนส์ Ultrawide และเลนส์ Telephoto ที่ไม่ใช่ Periscope

ข่าว: เผยโฉม Huawei P50 Pocket ในนิตยสาร Harper’s Bazaar มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/huawei-p50-pocket-appears-in-harpers-bazaar-photos/

ทดสอบการใช้งานจริง เทคโนโลยี “Active Noise Cancellation” กับ HUAWEI Freebuds 3

หัวเว่ย ได้จัดกิจกรรม “One Day with HUAWEI FreeBuds 3” ตะลุยรอบกรุงจากพระโขนงสู่วัดมังกรและสามย่านมิตรทาวน์ โดยใช้เส้นทางทั้งรถไฟฟ้า BTS, รถไฟฟ้า MRT และรถบัสขนาดใหญ่ ทั้งนี้เพื่อทดสอบ HUAWEI FreeBuds 3 หูฟังไร้สายตัวใหม่ล่าสุด ว่าจะสามารถตอบโจทย์การใช้งานจริงได้อย่างไร และในที่สุดก็พิสูจน์แล้วถึงความสามารถของรุ่นใหม่นี้

ฟีเจอร์ที่น่าสนใจ
สำหรับ HUAWEI FreeBuds 3 หูฟังไร้สายตัวแรกของโลก ที่โดดเด่นด้วยขุมพลังจากชิปเซ็ต Kirin A1 นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อาทิเช่น

– ระบบ ขับเคลื่อนด้วยระบบ BT/BLE dual-mode บลูทูธ 5.1 Soc
– เทคโนโลยี Isochronous Dual Channel จากหัวเว่ย
– เทคโนโลยี Audio Processor แบบ 356 MHz
– ฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน ที่ชื่อว่า Active Noise Cancellation
– เทคโนโลยี Aerodynamic Mic Duct Design ช่วยตัดเสียงลม
– ให้เสียงคุณภาพสูงดุจสตูดิโอ ด้วยไดรเวอร์ขนาด 14 mm
– หูฟังดีไซน์แบบ Dolphin Bionic มอบความสบายและกระชับหูโดยที่ไม่ต้องกลัวหลุด
– ระบบเสียง Bass Tube ที่ให้เสียงนุ่มทุ้มมีมิติกว่าเคย
– ชาร์จ 1 ครั้งใช้ได้ถึง 4 ชั่วโมง และใช้ได้ถึง 20 ชั่วโมงเมื่อใช้พร้อมกับ Charging Case
– มีให้เลือก 2 สี (ขาว/ดำ)
– ราคาจำหน่าย 4,990 บาท

บททดสอบการใช้งานบนพื้นที่จริง
ในระหว่างตะลุยรอบกรุง หูฟังไร้สาย HUAWEI FreeBuds 3 ได้รับการทดสอบในทุกสภาพเสียงและประสิทธิภาพในการจับสัญญานทั้งในบรรยากาศ Indoor และ Outdoor ไม่ว่าจะเป็นการทดสอบฟังก์ชั่นตัดเสียงรบกวน Active Noise Cancellation และเทคโนโลยี Aerodynamic Mic Duct Design

เริ่มต้นจากในอาคารที่เต็มไปด้วยเสียงจอแจต่างๆ ที่อาจรบกวนการสนทนาหรือการรับฟังเสียงเพลง ในรถโดยสารสาธารณะที่เต็มไปด้วย ความวุ่นวาย ให้เสียงเพลงและเสียงเบสแน่นๆ ขับกล่อมความจอแจเมื่อต้องโดยสารรถสาธารณะด้วยคุณภาพเสียง ระดับสตูดิโอ

 

นอกจากนี้ HUAWEI FreeBuds 3 ยังสามารถเชื่อมสัญญานได้อย่างรวดเร็วแม้อยู่ในที่แออัดอย่างบนรถไฟฟ้า

นอกจากนี้ ยังไม่ต้องกังวลว่า HUAWEI FreeBuds 3 จะหลุดง่าย เพราะมีดีไซน์แบบ Dolphon Bionic ทำให้สวมใส่สะดวก สบายหูและไม่หลุดง่ายไม่ว่าจะต้องเดินทางหลายสถานี และ Destination อีกแห่งที่เป็นไฮไลต์ของกิจกรรมคือ ยลโฉมสถานี MRT วัดมังกร แลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชาวกรุง ที่แน่นอนว่าเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและต่างชาติที่พากันมาชมความงดงามของสถานีนี้

แต่ถ้าหากต้องการหามุมสงบเพื่อคุยโทรศัพท์แล้วเรียกได้ว่าแทบจะเป็นไปไม่ได้ แต่ด้วยความสามารถของชิปเซ็ต Kirin A1 ช่วยขจัดเสียงรบกวนรอบข้างระหว่างการสนทนาเสมือนคู่สนทนาอยู่ต่อหน้า ทำให้ไม่พลาดการติดต่อสำคัญและรับฟังเสียงบทสนทนาได้อย่างคมชัด ชัดเจนทุกถ้อยคำทั้งต้นสายและปลายสาย ปิดท้ายการทดสอบประสิทธิภาพของ HUAWEI FreeBuds 3 ด้วยการทดสอบในรถบัสเปิดประทุนที่มีเสียงรบกวนจากการจราจรของกรุงเทพฯ ฝ่าการจราจรเมืองกรุงสู่สามย่านมิตรทาวน์

บทสรุป
HUAWEI FreeBuds 3 ถือเป็นการยกระดับของหูฟังไร้สายขึ้นอีกระดับ ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่เป็นนวัตกรรมล้ำสมัย ตลอดจนดีไซน์ที่ออกแบบมาเพื่อนตอบโจทย์สรีระใบหูของทุกคน ที่สำคัญใช้งานง่ายมาก พร้อมทั้งในราคาที่เหมาะสมและถูกกว่าคู่แข่งในระดับเทคโนโลยีเดียวกัน งานนี้ขอฟันธง! ซื้อเลยจร้า!!

from:https://www.enterpriseitpro.net/huawei-freebuds-3/

พรีวิว Huawei Y9 Prime 2019 กล้องป๊อบอัพเครื่องแรกของ Huawei มาช้าแต่ราคาโหด

HUAWEI Y9 Prime 2019 สมาร์ทโฟนกล้องป๊อปอัพ หรือกล้องหน้าซ่อนได้นั้นเองครับ ก็นับเป็นเครื่องแรก รุ่นแรก ของแบรนด์ Huawei เขาเลย แม้จะถือว่ามาช้า แต่ว่าพอมาแล้วก็ทำเอาเจ้าอื่นๆ เหนื่อยใจ ด้วยการอัดใส่สเปคในราคาที่เบียดมาได้ถูกกว่าอยู่ครับ

7,990 บาท คือราคาที่ทาง Huawei ประกาศออกมาสำหรับสมาร์ทโฟนจอใหญ่ไร้ติ่งตัวนี้ พร้อมรับฟรีของสมนาคุณพิเศษ มูลค่า 990 บาทอีกต่างหาก

จุดเด่นคร่าวๆ ของเจ้าตัวนี้ก็คือกล้องหน้าป๊อปอัพ 16 ล้านพิกเซล เมื่อกล้องหน้าเอาไปไว้ที่อื่นแล้ว เราก็จะได้หน้าจอใหญ่ๆ แบบไร้ติ่งไร้ขอบ ซึ่งทาง HUAWEI  เรียกว่าจอ Ultra FullView Display และมีขนาดที่ใหญ่มากครับ 6.59 นิ้ว สเปคก็ไม่ธรรมดาเมื่อดูจาราคา ใช้ชิปเซ็ต Kirin 710F  RAM 4 GB และ ROM 128 GB!

กล้องหลัง AI 3 ตัว มีโหมดถ่ายกลางคืนตัวเก่งของแบรนด์ และยังมีเลนส์มุมกว้างมาให้ใช้งานด้วย แบตเตอรี่ก็ใหญ่ได้มาตรฐาน 4000 mAh ชาร์จผ่านพอร์ต USB Type-C ดีไซน์สวย เครื่องดูแพง ไม่ได้ลดต้นทุน

ก็น่าสนใจไปหมดครับ HUAWEI Y9 Prime 2019 ด้วยราคา  7,990 บาท จะเริ่มวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการในวันที่
5 กรกฎาคมเป็นต้นไปในทุกๆ ช่องทางทั้งออนไลน์และออฟไลน์หน้าร้านค้า ย

ยังไม่พอครับ ยังมีโปรโมชั่นพิเศษอีกด้วย ใครที่ได้เครื่องมาแล้ว เพียงดาวน์โหลดเกม Legends of Immortality, Lords of Empire หรือ Jellipop Match ผ่าน HUAWEI AppGallery ที่อยู่ภานในเครื่อง Huawei Y9 และเติมเงินเข้าเกมในระหว่างวันที่ 5 กรกฎาคม – 31 สิงหาคมนี้

  • เมื่อสะสมยอดเงินครบรับฟรี! ทองคำแท่ง 96.5%
  • รับ 1 สลึง เมื่อเติมเงินมูลค่า 5,000 – 9,999 บาท
  • รับ 2 สลึง เมื่อเติมเงินมูลค่า 10,000 – 19,999 บาท
  • ถ้าเติมเงินมูลค่า 20,000 บาทขึ้นไป รับ ทองคำแท่ง 96.5% 1 บาท 

และทาง Huawei ยังได้เปิดตัวอุปกรณ์เสริมมาเพิ่มในสโตร์อีกสองตัว ได้แก่ HUAWEI FreeLace หูฟังบลูทูธไร้สายแบบโลหะ ที่สายไม่มีวันพันกัน ให้พลังเสียงกระหึ่มด้วยตัวขับไทเทเนียม แบตอึดใช้งานยาวสูงสุด 18 ชั่วโมง รองรับการชาร์จแบบ HUAWEI HiPair ผ่าน USB Type-C ที่สามารถชาร์จได้ทั้งแบบจับคู่ชาร์จจากสมาร์ทโฟน และการชาร์จแบบเร็ว เพียง 5 นาที ใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง

HUAWEI FreeLace มีให้เลือก 2 สีสุดหรู Amber Sunrise และ Graphite Black ในราคา 2,490 บาท

และยังมี HUAWEI Mini Speaker ลำโพงที่เชื่อมต่อกันได้สองตัวเพื่อสร้างเสียงแบบสเตอริโอ 360 องศา แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 4 ชั่วโมง พร้อมมาตรฐานกันน้ำ IPX4 ป้องกันน้ำกระเด็นใส่ได้ด้วย มีสองสี คือ Graphite Black และ Emerald Green ขายในราคา 1,090 บาท (ลำโพงเดี่ยว) และ 1,990 บาท แบบชุดลำโพงคู่

สามารถดูพรีวิวตัวเครื่องจริงของ Huawei Y9 Prime 2019 ได้ในวีดีโอด้านล่างนะครับ และฝากกดติดตามช่อง Youtube ของเรา Appdisqus กันไว้ด้วยนะ เผื่อมีอะไรใหม่ จะได้รับชมด้วยกันได้ก่อนใครครับ

ข่าว: พรีวิว Huawei Y9 Prime 2019 กล้องป๊อบอัพเครื่องแรกของ Huawei มาช้าแต่ราคาโหด มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/06/26/preview-huawei-y9-prime-2019.html

รวมมือถือและแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ที่มาเปิดตัวและวางขายในงาน Mobile Expo 2019 (รอบกลางปี)

เริ่มกันแล้วสำหรับงานโทรศัพท์มือถือที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทยสำหรับ Thailand Mobile Expo (TME) ประจำปี 2019 ซึ่งครั้งนี้ก็มีสมาร์ทโฟนที่เพิ่งเปิดตัวใหม่ที่มาวางจำหน่ายในงานเป็นครั้งแรก และยังมีรุ่นที่เพิ่งวางขายออกมาจัดโปรโมชั่นและของแถมอยู่เพียบ ซึ่งงานนี้จัดขึ้นที่ ไบเทคบางนา ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนนี้

สเปค Samsung Galaxy A70 

  • หน้าจอ Super AMOLED ความละเอียด FHD+ (1080 x 2400) ขนาด 6.7 นิ้ว
  • CPU : Snapdragon 675
  • GPU : Adreno 615
  • RAM : 6GB / 8GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD Card
  • กล้องหลัง 3 ตัว : 32MP (f/1.7) + 8MP (f/2.2) + 5MP (f/2.2)
  • กล้องหน้า : 32MP (f/2.0)
  • สแกนลายนิ้วมือบนหน้าจอ
  • รองรับ Samsung Pay (เฉพาะ NFC)
  • แบตเตอรี่ : 4500 mAh รองรับชาร์จไว 25W
  • ระบบ Android 9.0 Pie

ซึ่งราคาก็อยู่ที่ 15,900 บาท ในส่วนของโปรโมชั่น ของแถม ก็จะมี Belt Bag Galaxy A มูลค่ากว่า 1,290 บาท รับ ณ จุดขาย และประกันหน้าจอแตก 1 ปีในกรณี ตก แตก หรือร้าว เมื่อลงทะเบียนผ่าน Galaxy Gift

สเปค Huawei Media Pad T5 

  • หน้าจอขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1200
  • CPU : Kirin 659
  • GPU : Mali-T830 MP2
  • RAM : 3GB/ 2GB
  • ความจุ : 32GB / 16GB
  • กล้องหลัง : 5MP (f/2.4) Autofocus
  • กล้องหน้า : 2MP (f/2.4) Fixedfocus
  • ลำโพงสเตอรีโอคู่
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, BT 4.2, MicroUSB 2.0
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer
  • แบตเตอรี่ : 5100 mAh
  • ระบบ Android 8.1 ครอบด้วย EMUI 8

โดยราคาจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วง คือโมเดล 4G จะอยู่ที่ 8,990 บาท แถมฟรีหูฟัง HUAWEI Active Noise Cancellation Earphones 3 มูลค่า 1,990 บาท และสำหรับตัว WiFi ราคาจะอยู่ที่ 5,990  บาท พร้อมกับของแถมเป็นเคสฝาปิด Huawei MediaPad T5 10 มูลค่า 690 บาท

สเปค Huawei MediaPad M5 Lite

  • หน้าจอ LCD ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (1920 x 1200)
  • CPU : Kirin 710
  • GPU : Mali-G51 MP4
  • RAM : 3GB / 4GB
  • ความจุ : 32GB / 64GB รองรับ MicroSD Card 512GB
  • กล้องหลัง : 13MP (f/2.2)
  • กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
  • ลำโพงคู่สเตอรีโอ ปรับแต่งโดย Harman Kardon
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • การเชื่อมต่อ : Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot, BT 4.2, MicroUSB
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, proximity
  • แบตเตอรี่ : 5100 mAh
  • ระบบ Android 9.0 ครอบด้วย EMUI 9.0
  • ขนาด / น้ำหนัก : 204.2 x 122.2 x 8.2 มม. / 310 กรัม

สำหรับราคาของเจ้าตัวนี้จะอยู่ที่ 7,990 บาท พร้อมกับของแถมอย่างที่ชาร์จแบตสำรอง PowerBank 10000 mAh QuickCharge และ HUAWEI SoundStone Bluetooth Speaker มูลค่ารวมกันกว่า 3,000 บาท!

ช้าก่อนๆ ล่าสุดก็มีสมาร์ทโฟนใหม่เปิดตัวภายในงาน TME 2019 แล้วนั้นก็คือ Huawei Y5 2019 โดยราคาเปิดตัวก็น่ารักมากๆ อยู่เพียงแค่ 3,799 บาทเท่านั้น! แต่ของจะเข้ามาวางขายช่วงเดือนหน้านะ

 

สเปค Honor 20 Lite

  • หน้าจอ Dewdrop Display ขนาด 6.21 นิ้ว Full HD+ (1080×2340)
  • ชิป Kirin 710 Octa-Core
  • ชิปกราฟิก GPU Mali-G51 MP4 + GPU Turbo 2.0
  • RAM 4GB
  • ROM 128GB
  • กล้องหลัง 3 ตัว AI Triple Camera 24MP + 8MP + 2MP รูรับแสง f1.8 + f2.4 + f2.4
  • กล้องหน้า 32MP พร้อมฟีเจอร์ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอ AI Portrait
  • แบตเตอรี่ความจุ 3400 mAh
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย EMUI 9.0.1
  • Fingerprint Scanner สแกนลายนิ้วมือหลังเครื่อง
  • Face Unlock ปลดล็อคด้วยใบหน้า
  • ถาดซิม Hybrid Slot รองรับการใช้งานแบบ 2 ซิมการ์ด หรือ 1 ซิม + 1 Micro SD
  • รองรับการเชื่อมต่อ Wi-Fi 802.11 2.4GHz , Bluetooth 4.2
  • พอร์ตเชื่อมต่อ Micro USB 2.0

ราคาจะอยู่ที่ 7,990 บาท ในส่วนของของแถมก็จะมีหูฟัง Honor Sport Bluetooth Earphones มูลค่า 1,290 บาท อีกทั้งภายในบูท Honor ก็ยังมีโปรโมชั่นพิเศษอยู่อีกมากมาย

สเปค Oppo F11 Pro

  • จอแสดงผล : 6.5 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (2340 x1080) 397 ppi อัตราส่วนหน้าจอ 90.9%
  • ระบบปฏิบัติการ : Android 9.0 Pie ครอบทับด้วย ColorOS 6.0
  • ชิปเซ็ต : Helio P70
  • GPU : ARM Mali-G72 MP3 900MHz
  • RAM : 6GB
  • หน่วยความจำภายใน : 64GB
  • กล้องหลังคู่ : 48MP F1.79 + 5MP F2.4
  • กล้องหน้า : Rising Camera 16MP F2.0
  • ถ่ายวิดีโอ : รองรับ 1080P / 720P ทั้งหน้าและหลัง
  • แบตเตอรี่ : 4000 มิลลิแอมป์ รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0
  • รองรับ Dual Nano-SIM Cards (Hybrid slot)
  • การเชื่อมต่อ GPS: GPS/A-GPS/GLONASS/Beidou
  • Bluetooth: 4.2
  • WiFi 802.11 a/b/g/n/ac รองรับ 2.4GHz และ 5GHz
  • ขนาดตัวเครื่อง : 161.3 x 7.61 x 76.1 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 190 กรัม
  • สี Thunder Black และ Aurora Green

ซึ่งอย่างที่บอกไปข้างต้น ราคาปรับลงมาเหลือเพียงแค่ 9,990 บาทเท่านั้น แถมพิเศษเฉพาะในงาน TME 2019 เท่านั้น รับไปเลยของแถม Premium Luggage แต่ก็ต้องรีบหน่อยนึงนะ เพราะว่าของแถมมีจำนวนจำกัด

 

สเปค Vivo V15 Pro 

  • จอ FHD+ Super AMOLED ขนาด 6.39 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอ 19.5:9
  • ขนาด 157.25 mm x 74.71 mm x 8.21 mm
  • น้ำหนักตัวเครื่อง 185 กรัม
  • CPU Snapdragon 675
  • GPU Adreno 612
  • ระบบปฏิบัติการ Android 9.0 (Pie) ครอบทับด้วย Funtouch OS 9
  • RAM 6 GB / 8GB
  • ROM 128 GB รองรับ microSD สูงสุด 256GB
  • รองรับสแกนนิ้วใต้หน้าจอ (5th Generation)
  • กล้องหลัง Tripple Camera 48 MP (Quad Pixel Sensor) + 8 MP (Super Wide Angle) + 5 MP( depth sensor)
  • กล้องหน้าเซลฟี่แบบป๊อบอัพ 32 MP
  • การเชื่อมต่อ USB 2.0, Wi-Fi, Bluetooth 5.0, GPS, OTG, NFC* (มีเฉพาะใน Hong Kong, Taiwan, Singapore และRussia)
  • รองรับ Dual SIM (nano+nano)
  • Battery: 3700 mAh รองรับ Dual-Engine Fast Charging 22.5W

ในส่วนของของแถมก็อย่างที่บอกว่า Vivo นั้นไม่เคยกั๊กอยู่แล้ว จัดเต็มตลอด ซึ่งจะแถมทั้งกล่องของขวัญ Gift Box, บัตร privilege card, ฟิล์มกระจก, กระเป๋าเป้ และกระเป๋าล้อลาก โดยราคาของเจ้า V15 Pro นั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ช่วงก็คือตัวแรม 6GB/128GB จะอยู่ที่ 13,999 บาทและตัวท็อปอย่าง 8GB/128GB จะอยู่ที่ 14,999 บาท

สเปค OnePlus 7 Pro 

  • หน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด QHD+ (3120 x 1440) รีเฟรชเรท 90Hz
  • CPU : Snapdragon 855
  • RAM : 6GB / 8GB / 12GB
  • ความจุ : (UFS 3.0) 128GB / 256GB ไม่รองรับ MicroSD Card
  • กล้องหลัง : เลนส์หลัก 48MP (f/1.6), เลนส์ซูมออพติคอล 3x ความละเอียด 8MP (f/2.4), OIS + เลนส์ Ultra-wide angle 117 องศา ความละเอียด 16MP (f/2.2)
  • กล้องหน้าป๊อปอัพ : 16MP (f/2.0)
  • ระบบเสียง : ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม., ลำโพงคู่สเตอรีโอ, Dolby Atmos
  • สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • เซ็นเซอร์ : Accelerometer, Gyroscope, Proximity, Ambient Light Sensor, Electronic Compass, Laser Sensor
  • แบตเตอรี่ : 4000 mAh รองรับ Warp Charge 30W
  • ระบบ Android 9.0 ครอบด้วย OxygenOS 9.5

สำหรับโปรโมชั่นก็จะมีซื้อเครื่องพ่วงกับสัญญาไปด้วยโดยจะเริ่มต้นที่ 20,490 บาทเท่านั้น

สเปค Motorola One Vision 

  • หน้าจอขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ (2520 x 1080) อัตราส่วน 21:9 CinemaVision (432 ppi)
  • CPU : Exynos 9609
  • RAM : 4GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD Card 512GB (Hybrid)
  • กล้องหลัง : 48MP (f/1.7, OIS, 4K@30fps, 1080p@60fps, Night Vision) + 5MP
  • กล้องหน้า : 25MP (f/2.0)
  • การเชื่อมต่อ : Bluetooth 5.0, Wi-Fi ac, NFC, USB-C
  • รองรับ 2 นาโนซิม
  • สแกนนิ้วมือด้านหลังเครื่อง
  • มีรูหูฟัง 3.5 มม.
  • แบตเตอรี่ 3500 mAh รองรับระบบชาร์จไว TurboPower Fast Charging 15W
  • สีที่วางจำหน่าย : สีน้ำเงิน (Saphire Gradient) สีทองแดง (Bronze Gradient)
  • ระบบ Android 9 (Android One)

สเปค Realme 3 Pro

  • Android OS 9.0 + ColorOS 6.0
  • หน้าจอติ่งหยดน้ำ (Dewdrop) ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด FHD+ 2340 x 1080 พิกเซล
  • ชิปเซ็ต Snapdragon 710 AIE
  • GPU: Adreno 616
  • กล้องหลังคู่ 16 (f/1.7) + 5 ล้านพิกเซล (f/2.4)
  • กล้องหน้า 25 ล้านพิกเซล (f/2.0)+ รองรับ AI Selfie
  • แบตเตอรี่ 4,045 mAh + รองรับ VOOC Flash Charge 3.0

สำหรับใครที่สนใจจะมาเดินงาน Mobile Expo แล้วละก็ ต้องรีบนิดนึง เพราะงานนี้จัดขึ้นแค่ 4 วันเท่านั้น ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 2 มิถุนายนนี้

from:https://droidsans.com/mobile-expo-new-phoner-tablet-2019-mid-year/

เปิดตัว Huawei Powerbank ความจุ 10000mAh รองรับการชาร์จเร็ว 18W แบบ 2-Way

 

Huawei  ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์เสริม Huawei Powerbank ความจุ 10000mAh ซึ่งเป็นแบตเตอรี่สำรองสำหรับสมาร์ทโฟนแบบ 2-Way รองรับการชาร์จเร็ว 18W ในราคาสบายกระเป๋า

huawei powerbank

สำหรับ Huawei Powerbank 10000mAh มีดีไซน์ขอบโค้งมนถือจับใช้งานได้อย่างสะดวกและกระชับมือ ตัวบอดี้มีสีขาวตัดขอบเทาที่ด้านขวา

ด้านบนประกอบด้วยปุ่มเช็คสถานะแบตเตอรี่, ไฟ LED จำนวน 4 ดวง เพื่อบอกปริมาณแบตเตอรี่คงเหลือ,  พอร์ต Type-C และพอร์ต Type-A รองรับการจ่ายไฟกับชาร์จไฟเข้าได้ความเร็วสูงสุด 18W สามารถชาร์จ Huawei Mate 20 Pro ได้สูงถึง 36% ใน 30 นาที

นอกจากนี้ยังมีระบบป้องกันความปลอดภัยทั้งกระแสไฟฟ้าเกิน, ลัดวงจร หรือความร้อนจากการจ่ายไฟเกิน สามารถชาร์จทั้งสมาร์ทโฟน และอุปกรณ์ขนาดเล็กอย่าง SmartBand และ Smart Watch ได้อย่างหายห่วงสบายใจ

ทั้งนี้ Huawei Powerbank 10000mAh มีราคาเปิดตัวที่ประเทศจีนอยู่ที่ 99 หยวนหรือประมาณ 467 บาท ส่วนจะนำเข้ามาจำหนายในบ้านเราหรือไม่นั้นถ้ามีข้อมูลเพิ่มเติมจะมารายงานให้ทราบกันครับ

ที่มา : mydrivers

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน Huawei ที่นี่ >>> http://bit.ly/2CwxAIL

 

from:http://mobileocta.com/%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7-huawei-powerbank-%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%88%e0%b8%b8-10000mah-%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%9a/

3 เทคนิคถ่ายภาพเรียกยอดไลค์บนโซเชียล โดยจุ๋ย จรสพรรณ และกล้อง Huawei nova 2i

วันนี้ผมเอาเทคนิคถ่ายภาพที่ทาง Huawei ออกมาสอนการถ่ายภาพด้วยมือถือหรือสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจมาฝากครับ เป็นเทคนิคจากคุณ จุ๋ย จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา เซเล็บสาวสวย ที่จะมาช่วยให้คุณพัฒนาการถ่ายภาพด้วยกล้องสมาร์ทโฟนและมีภาพที่สวยขึ้นไว้แชร์บนโลกออนไลน์ จนคุณแทบไม่เชื่อว่าภาพถ่ายเหล่านี้ถูกถ่ายด้วยมือถือ

แนะนำก่อนว่าคุณ “จุ๋ย จรสพรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา เป็นเซเล็บสาวสวยมากความสามารถ พี่สาวหนุ่มฮอต “กรรณ สวัสดิวัตน์ ณ อยุธยา” รั้งตำแหน่งพี่สะใภ้มโนแห่งชาติ  มีเคล็ดลับดีๆ สำหรับการถ่ายภาพมาฝากกันกับเทคนิคง่ายๆ ที่คุณก็ทำตามได้ไม่ยาก

3 เทคนิคถ่ายภาพเรียกยอดไลค์บนโซเชียล โดยจุ๋ย จรสพรรณ

  1. ภาพเตะตาด้วย Bokeh Effect เพิ่มความเก๋ให้ภาพด้วยการถ่ายภาพแบบหน้าชัดหลังเบลอ หรือ Bokeh Effect ก็จะได้อารมณ์ที่แปลกใหม่  ถ้าภาพหน้าชัดหลังเบลอโดยฉากหลังเป็นแบ็คกราวด์ทั่วๆ ไปดูธรรมดาเกินไป  ลองถ่ายภาพ Portrait (ภาพบุคคล) ที่ฉากหลังเป็น Bokeh ของแสงไฟ ก็จะทำให้ภาพที่ออกมาสวยงามมากขึ้น   สมัยนี้กล้องบนโทรศัพท์มีเทคโนโลยีอย่างกล้องคู่ทำให้การถ่ายภาพแบบ Bokeh Effect สนุกและสวยขึ้น การมีกล้องคู่ หรือ dual camera ในกล้องหน้า ทำให้คุณจะได้ภาพเซลฟี่แบบมือโปรที่สวยสะดุดตา   และอีกปัญหาหลักของการถ่ายภาพออกมาแล้วดูไม่น่าประทับใจคือมือเราไม่นิ่งตอนถ่ายภาพ   โดยเฉพาะหากอยากถ่ายวิว ถ่ายแสงไฟตอนกลางคืนให้แสงสวยประทับใจ  ขาตั้งกล้องสำคัญมากและขาดไม่ได้ เพราะช่วยเพิ่มความมั่นคงและเก็บรายละเอียดได้ทั้งหมด
  2. แสงสวยช่วยเราได้ แสงสวยในแต่ละวันมีหลายช่วงเวลา เวลาส่วนใหญ่ที่คนชอบถ่ายรูปมักจะเป็นช่วงทานข้าวเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาราวๆ 17.00 น. เป็นต้นไป  ช่วงนี้แสงแดดจะสวย ภาพถ่ายที่ได้จะออกโทนเหลือง ๆ แดง ๆ  คอนทราสของภาพก็จะสวยงามลงตัว
  3. โหมดถ่ายภาพกลางคืนสำคัญมาก – ปัญหาของการถ่ายภาพด้วยมือถือหรือสมาร์ทโฟนในยามค่ำคืนในสภาพแสงน้อยหรือมืดนั้น ส่งผลให้ภาพที่เราถ่ายมืดมัว ไม่ชัด ไม่เคลียร์   หากเราแก้ปัญหาด้วยการใช้แฟลชทั่วไปถ่ายในที่มืด แน่นอนว่าเราจะได้ภาพที่ชัด แต่ภาพจะดูจืดลงไปและแสงของภาพจะดูไม่สด   หรือแม้จะสามารถนำไปแต่งภาพและดึงแสงในคอมหรือในแอพแต่งภาพได้ก็ตามแต่ก็ทำให้แสงเงาของภาพไม่สวยงามและมีเสน่ห์เท่าที่มันควรจะเป็น  ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมาไม่สื่ออารมณ์ที่ดีเพียงพอ  ดังนั้นการถ่ายภาพยามค่ำคืนในที่แสงน้อย กล้องมือถือที่ใช้ควรมีโหมดถ่ายภาพกลางคืน ภาพที่ถ่ายออกมาจะสวยงามกว่าถ่ายด้วยแฟลช  หากอยากถ่ายด้วยแฟลชต้องเลือกแฟลชที่สามารถช่วยจัดแสงได้จะทำให้ภาพที่ออกมาสวยงามดูดี

เพียงเท่านี้ภาพของคุณก็จะดูแปลกใหม่เรียกยอดไลค์บนโซเชียลได้ไม่ยาก และหากใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟน 4 กล้อง ก็ต้อง Huawei nova 2i นี้แหละครับ สมาร์ทโฟนที่ถ่ายภาพสวยทั้งกล้องหน้าเซลฟี่และกล้องหลัง  กล้องทั้งสองตัวมีโหมด Bokeh Effect (หน้าชัดหลังเบลอ) ระดับฮาร์แวร์ดในราคาเบาๆ     ที่มาพร้อมฟีเจอร์ Selfie Toning Flash ตัวช่วยจัดแสงคุณภาพระดับสตูดิโอถ่ายภาพให้ภาพถ่ายที่มีชีวิตชีวา ที่มาพร้อมกับจอแบบ HUAWEI FullView Displayขนาด 5.9 นิ้ว มีสัดส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องสูงถึง 83% ในสัดส่วนหน้าจอ 18:9 ให้มุมมองแบบกว้างเต็มตาพร้อมภาพที่คมชัด สดใส สว่างตาทำให้ถ่ายภาพเซลฟีสวยได้ไม่ยาก

from:https://www.appdisqus.com/2018/02/20/3-technic-photo-huawei-nova-2i.html

ลือ!! Google ได้เลือกแบรนด์ผู้ผลิตรายใหม่ เตรียมผลิต Nexus รุ่นปี 2015 แล้ว

หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ได้มีข่าวลือระบุว่า ทาง Google กำลังจะเลือกให้ผู้ผลิตรายหนึ่งจากจีนเป็นผู้ผลิต Nexus รุ่นต่อไป โดยกระแสข่าวลือต่างๆได้มุ่งเป้าไปที่ Huawei แบรนด์ผู้ผลิตรายใหญ่จากจีน โดยล่าสุดได้มีการรายงานข่าวความคืบหน้าจากกรณีนี้ โดย Kevin Yang ผู้อำนวยการของ iSuppli บริษัทวิจัยทางด้านการตลาดที่ได้ออกมาเปิดเผยพร้อมให้ข้อมูลว่า ทาง Google ได้ทำการเลือกให้ผู้ผลิตมือถือตระกูล Ascend ซึ่งก็คือแบรนด์ Hauwei มาเป็นผู้ดูแลด้านฮาร์ดแวร์สำหรับ Nexus รุ่นปี 2015 นี้

Screen Shot 2558-03-09 at 10.59.58 AM

จากข้อมูลยังระบุได้ว่า Google นั้นได้เลือกหาผู้ผลิตมือถือที่มีความสามารถในการผลิตชุดชิพเซ็ตได้เอง และดูเหมือนว่า Huawei จะมีคุณสมบัติที่ค่อนข้างเหมาะสมเพราะ Huawei มีไลน์ผลิตชิพเป็นของตัวเองได้ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่ได้มีการให้ข้อมูลถึงรายละเอียดเกี่ยวกับ Nexus ปี 2015 ที่จะเตรียมผลิตออกมาว่าจะมีสเป็คอย่างไร หรือมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไรบ้าง แต่คาดว่าหากข่าวลือที่ได้เห็นนี้เป็นความจริงแล้วละก็ ในอนาคตอาจได้เห็น Nexus รุ่นใหม่ที่มีหน้าตาใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนในตระกูล Ascend ก็เป็นได้

ที่มา – phonearena

http://www.flashfly.net/wp/?p=114781

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=114781

เปิดตัว Ascend Mate 7 และ G7 คู่หูสมาร์ทโฟนจอยักษ์บอดี้โลหะจาก Huawei

ในงาน IFA ที่เยอรมนี ยักษ์ใหญ่จากจีนอย่าง Huawei มาออกงานพร้อมกับเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอยักษ์อีกสองรุ่นอย่าง Ascend Mate 7 และ Ascend G7 ที่มาหรูด้วยตัวเครื่องอลูิเนียมสุดบางทั้งคู่

เริ่มกันที่ Mate 7 สมาร์ทโฟนจอยักษ์ 6″ (เล็กลงจากรุ่นเดิม Mate 2 ที่ใช้หน้าจอ 6.1″) แต่ทำตัวเครื่องบางลงอย่างมาก และเพิ่มเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือไว้ที่ด้านหลังใต้กล้อง

สเปคของ Mate 7 อัพเกรดจากมือถือรุ่นกลางๆ ไปเป็นมือถือรุ่นท็อปด้วยซีพียูตัวใหม่ของ Huawei เองอย่าง Kirin 925 ซีพียูแปดคอร์ที่สามารถตั้งค่าการทำงานได้ตามแอพที่ทำงานอย่างละเอียด ส่วนสเปคเต็มๆ มีดังนี้

* ใช้หน้าจอขนาด 6″ ความละเอียด 1080p
* ซีพียู Kirin 925 ควอดคอร์ Cortex-A15 ความถี่ 1.8GHz จับคู่กับควอดคอร์ Cortex-A7 ความถี่ 1.3GHz จีพียูเป็น Mali-T628
* รัน Android 4.4 ครอบทับด้วย Emotion UI 3.0
* หน่วยความจำภายใน 16GB, แรม 2GB
* กล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล
* รองรับ Cat 6 LTE
* ตัวเครื่องบาง 7.9 มม. แต่แบตเตอรี่จุมากถึง 4100mAh

สำหรับเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือนั้น จะเก็บข้อมูลลายนิ้วมือได้สูงสุด 5 ชุด และทำงานร่วมกับชิปในระดับฮาร์ดแวร์ด้วยฟังก์ชัน ARM TrustZone

สำหรับ Ascend Mate 7 เปิดราคามาแล้วที่ 499 ยูโร (ประมาณ 20,700 บาท) จะเริ่มขายมากกว่า 30 ประเทศทั้งในเอเชีย และยุโรป แต่ยังไม่ระบุวันวางขายครับ

อีกรุ่นที่เปิดตัวพร้อมกันอย่าง Ascend G7 ก็เปลี่ยนแปลงไปมากจากรุ่นก่อหน้าเช่นกัน โดยเฉพาะส่วนของตัวเครื่องจากเดิมที่เป็นเฟรมอลูมิเนียม ตอนนี้กลายเป็นว่าใช้อลูมิเนียมครอบทั้งตัวเครื่องไปเรียบร้อยแล้ว

ส่วนของสเปค G7 เองก็เป็นรุ่นแรกของ Huawei ที่รองรับ 64 บิต เช่นกันด้วยการใช้ชิป Snapdragon 410 และสเปคอื่นๆ มีดังนี้ครับ

  • ใช้หน้าจอขนาด 5.5″ ความละเอียด 720p
  • ซีพียู Snapdragon 410 ควอดคอร์
  • รัน Android 4.4 ครอบทับด้วย Emotion UI 3.0
  • หน่วยความจำภายใน 16GB, แรม 2GB
  • กล้องหลัง 13 เมกะพิกเซล กล้องหน้า 5 เมกะพิกเซล
  • รองรับ LTE
  • ตัวเครื่องบาง 7.6 มม. แบตเตอรี่จุ 3000mAh

Ascend G7 เปิดราคามาถูกกว่ารุ่นพี่อย่าง Ascend Mate 7 พอสมควร โดยจะเริ่มต้นที่ 299 ยูโร (ประมาณ 12,400 บาท) ยังไม่แจ้งวันวางขายครับ

ที่มา – Android Authority, Android Authority

Hauwei, FA, China Mobile

from:http://www.blognone.com/node/60103

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ หลุด Huawei Honor 3 ที่จีน

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ หลุด Huawei Honor 3 ที่จีน

ก่อนหน้านี้ ทีมงาน Mobiledista เคยรีวิวสมาร์ทโฟนที่มีชื่อรุ่นว่า Huawei Honor 2 ไปแล้ว (Huawei Honor 2 อีกหนึ่งสมาร์ทโฟนทางเลือกควอดคอร์ต่ำหมื่น) ล่าสุดมีข่าวจากฟากฝั่งประเทศจีนได้เปิดเผยภาพหลุดตัวเครื่องของ Huawei Honor 3 พร้อมสเปกโดยคร่าวออกมาแล้ว

รายงานจาก GSMinsider ได้เปิดเผยภาพตัวเครื่องของสมาร์ทโฟนระดับกลางของแบรนด์จีนชื่อดังอย่าง Huawei ในชื่อรุ่น Huawei Honor 3 โดยในรุ่นใหม่นี้มีการเปลี่ยนแปลงด้านการดีไซน์เครื่อง ด้านหลังเครื่องจากเดิมจะมีลำโพงคู่ แต่ในรุ่น 3 จะตัดเหลือลำโพงแค่ข้างเดียว มีกล้องหลัง และแฟลช ส่วนด้านหน้าสลับกล้องหน้าไปอยู่ทางซ้าย และขอบจอขยายกว้างขึ้น

ทั้งนี้สเปกของตัวเครื่อง Honor 3 จะมาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 4.7 นิ้ว ความละเอียด 720p ชิปประมวลผลควอดคอร์ 1.5GHz แรม 2GB หน่วยความจำเครื่อง 8GB ส่วนกล้อง 13 ล้านพิกเซล

ส่วนช่วงเวลาวางจำหน่ายยังไม่ระบุ

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ หลุด Huawei Honor 3 ที่จีน

 

อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจ หลุด Huawei Honor 3 ที่จีน

ที่มา: Intomobile

from:http://mobiledista.net/huawei-honor-3-leaked-in-china/

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

เงียบหายไปพักนึงสำหรับแบรนด์จีนพันธุ์แท้อย่างหัวเว่ย (Huawei) คราวนี้กลับมาอีกครั้งกับเข้ามาทำตลาดสมาร์ทโฟนในเมืองไทย กับรุ่นที่มีชื่อว่า Honor 2

โดย Honor 2 รุ่นนี้ หัวเว่ยได้วางตัวเครื่องในโพซิชันของกลุ่มสมาร์ทโฟนระดับกลางค่อนไปทางล่าง ซึ่งกลุ่มลูกค้าส่วนนั้น เต็มไปด้วยผู้ผลิตสมาร์ทโฟนทั้งจากแบรนด์จีนด้วยกันเอง อินเตอร์แบรนด์ที่ลงไปจับตลาดกลางและล่าง และที่ห้ามกระพริบตานั่นก็คือ เฮาส์แบรนด์ ก็อยู่ในกลุ่มดังกล่าวนี้ด้วยเช่นกัน

ส่วนความน่าสนใจของ Honor 2 รุ่นนี้จะมีอะไรบ้าง ต้องอ่านจากบทความนี้ครับ

ข้างในมีอะไรบ้าง

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ก่อนที่เราจะพูดถึงความสามารถและหน้าตาของตัวเครื่อง ผู้เขียนขอเริ่มจากการ unbox ตัวเครื่อง เพื่อดูว่าภายในมีอะไรบ้าง

จากภาพก็จะเห็นว่า มีตัวเครื่อง อะแดปเตอร์ สายไมโครยูเอสบี หูฟัง และคู่มือการใช้งาน ซึ่งถ้าใครเป็นผู้ใช้แอนดรอยด์มือใหม่ แนะนำว่าควรอ่านคู่อื่นก่อนการใช้งานครับ

การดีไซน์

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

บอกตามตรงเลย ครั้งแรกที่เห็น Honor 2 ความรู้สึกมันบอกว่า เหมือนผมกำลังจับสมาร์ทโฟนที่มีการดีไซน์ที่ค่อนข้างโบราณ เสมือนช่วงแอนดรอยด์กำลังตั้งไข่ โดยตัวเครื่องมีขนาดที่ค่อนข้างหนาและขาดความกระชับ

ที่สำคัญตรงส่วนของหน้าจอ ยิ่งตอกย้ำว่า ตัวเครื่องค่อนข้างโบราณตรงที่ขอบดำของเครื่องมีมากเกินไป ทำให้พื้นที่การใช้งานแคบลง

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ยังมีอีกก็คือ การจัดวางเลย์เอาท์ของปุ่มต่างๆ ซึ่งรุ่นนี้ทางด้านขวาปุ่ม Power On/Off และปุ่ม Rocker อยู่ติดกันเกินไป ทำให้การใช้งานค่อนข้างลำบากอยู่นิดนึง

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านหน้า – ขนาดหน้าจอเครื่อง 4.5 นิ้ว ด้านบนขวามีกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล ความละเอียด 1280×720 พิกเซล ด้านล่างมีปุ่ม Capacitive ปุ่ม ได้แก่ ปุ่ม Back, Home และ Menu และด้านขวาล่างจะมีร่องสำหรับแกะฝาหลัง

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านซ้าย – มีพอร์ทไมโครยูเอสบี สำหรับโอนถ่ายข้อมูลและชาร์จตัวเครื่อง

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านขวา – ตามที่บอกไว้ครับ มีปุ่ม Power On/Off และ Rocker

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านบน – มีช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านล่าง – ไม่มีอะไร นอกจากไมโครโฟน

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านหลัง – มีกล้องความละเอียด พิกเซล BSI พร้อมแฟลช ด้านล่างสุดมีลำโพงแบบคู่ ซึ่งเสียงที่ให้มาค่อนข้างดังดีครับ

 Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

เมื่อแกะด้านหลังออกมา แบตเตอรีถอดออกได้ ซิมใช้เป็น Normal SIM

สเปกเครื่อง

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ข้อได้เปรียบประการใหญ่ของ Honor 2 เมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนแบรนด์อื่นในท้องตลาด นั่นคือ สเปกเครื่อง ซึ่งจัดหนักมาตั้งแต่ชิปประมวลผลควอดคอร์ แถมระบบปฏิบัติการยังได้รับการอัปเดทเป็น Jelly Bean ด้วย

จุดนี้ถือว่า ค่อนข้างสวนทางกับตลาดพอสมควร ทั้งๆ ที่ตัวเครื่องมีสเปกระดับนี้ แต่จำหน่ายในราคา ทำให้ค่อนข้างน่าสนใจ

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ส่วนสเปกอื่นๆ ของ Honor 2 มีดังนี้

  • ขนาดหน้าจอ 4.5 นิ้ว IPS 1280×720 พิกเซล

  • หน่วยความจำ 8GB (Total Space 5.29GB)

  • ชิปประมวลผล K3V2 (Quad-Core A9 1.4GHz  (หัวเว่ยพัฒนาเอง)

  • RAM 1GB

  • กล้อง 8 ล้านพิกเซล BSI ส่วนกล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล

  • รองรับเครือข่าย 3G ในคลื่น 850 – 900 และ 2100 MHz

  • แบตเตอรี 2150 mAh

คีย์ฟีเจอร์ สิ่งที่น่าสนใจ

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ถ้าให้ว่ากันตามตรงแล้ว ฟีเจอร์หลักๆ ที่เรียกว่า เป็นคีย์ฟีเจอร์ของ Huawei Honor 2 นั้น มีไม่มากนัก เพราะด้วยตัวเครื่องส่วนใหญ่จะเป็น Android Stock ROM ซึ่งตอนที่รีวิวอยู่นี้ ยังเป็น ICS 4.0.4 อยู่ แต่จากการพูดคุยกับผู้บริหารหัวเว่ย คอนเฟิร์มว่า รุ่นนี้จะได้อัปเดทเป็น Jelly Bean อย่างแน่นอนครับ

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ด้านนี้คือส่วนของ App Drawer

อันนี้เป็นข่าวจากต่างประเทศก็คอนเฟิร์มแล้วเช่นกัน ดังนั้นสบายใจได้ว่า มีอัปเดท http://www.gsmarena.com/huawei_to_update_ascend_d1_p1_and_honor_2_to_android_42-news-6100.php

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

สำหรับอินเตอร์เฟสของ Honor 2 ถูกเรียกว่า Emotion UI ซึ่งผู้ใช้สามารถที่จะเปลี่ยนธีมของเครื่องได้ โดยจะมีให้เลือก 3 แบบ แต่ก็นั่นแหละ ตัวเครื่องจะไม่ค่อยมีฟีเจอร์แปลกๆ สะดุดตาให้เห็นสักเท่าไหร่

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ดูหนัง ถือว่าเป็นไฮไลท์เด็ดของ Honor 2 เลยก็ว่าได้ เพราะจากประสบการณ์ในการใช้งานจริง คือ นำไฟล์วิดีโอใส่ลงเครื่อง แล้วดูหนังผ่านรุ่นนี้ อรรถรสในการรับชมถือว่า สุดยอด (ชมผ่านแอปพลิเคชัน MxPlayer)

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ฟังเพลง ตัวเครื่อง Honor 2 จะมาพร้อมกับระบบเสียง Dolby Mobile ซึ่งจะใช้ส่วนนี้ได้ต้องเสียบหูฟังก่อนนะ สำหรับเสียงที่ให้มาค่อนข้างโอเค ไม่ถึงขึ้นเลวร้าย แต่ถ้าต้องการฟังเพลงผ่านลำโพงก็ทำได้เช่นกัน เสียงที่ให้ก็ดังดีครับ และด้วยที่ตัวเครื่องไม่ได้เป็นรุ่นท็อปการปรับแต่งเสียงสำหรับการฟังเพลง ก็จะไม่มีมาให้ คงต้องไปหาแอปพลิเคชันจาก Play Store มาช่วยปรับแต่งแทน

การถ่ายภาพ ส่วนตัวค่อนข้างแฮปปี้กับภาพถ่ายที่ถ่ายผ่านกล้องของ Honor 2 สีสันจัดว่าสวยงาม อาจมีเพี้ยนๆ ไปบ้าง แต่ในภาพรวมถือว่า น่าพึงพอใจ

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

ลองเปิด HDR

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

มีฟิลเตอร์ด้วย

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

นอกเหนือจากนั้นฟีเจอร์ของกล้องยังมีให้ปรับแต่งค่อนข้างเยอะพอสมควรทั้ง Shooting Mode, Filter และ Effect ส่วนกล้องหน้าความสามารถก็ตามมาตรฐาน ไม่ได้โดดเด่นอะไรมาก อยู่ในระดับแค่พอใช้ได้

แบตเตอรี จากการทดสอบ ส่วนตัวถือว่า แบตเตอรีค่อนข้างอึดในระดับหนึ่งเลยทีเดียว เพราะจากที่ทดลองใช้ทั้งในแง่ของการดูหนังผ่านแอปพลิเคชัน MxPlayer ใช้บริการโซเชียลเน็ตเวิร์ก การถ่ายภาพ และฟังเพลง รวมๆ แล้วใช้งานได้เกือบครบวัน

ทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Benchmark

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

Review: Huawei Honor 2 อีกหนึ่งทางเลือกของแอนดรอยด์ควอดคอร์ราคาต่ำหมื่น

เหมาะกับใครบ้าง

ด้วยความที่ Honor 2 เป็นสมาร์ทโฟนชิปควอดคอร์ในราคาต่ำกว่าหมื่น แน่นอนว่า ด้วยราคาดังกล่าวย่อมต้องเหมาะกับผู้ใช้ที่มีงบอยู่ในคลังไม่มากนัก แต่ผลตอบแทนของ Honor 2 ถือว่าน่าสนใจ เพราะแม้ราคาจะไม่แพง แต่ความสามารถด้านการใช้งานแอปพลิเคชันที่ใช้ทรัพยากรสูงๆ ก็สามารถทำได้ในระดับหนึ่ง คุณภาพของกล้อง การตอบโจทย์ด้านเอนเตอร์เทนเมนท์ก็ทำได้ดีในระดับที่้เกินคาด แถมยังสามารถอัปเดทเป็น Jelly Bean ได้อีกด้วย

เพียงแต่ว่า Honor 2 จะมีจุดบอดตรงที่ตัวเครื่องไม่มีฟีเจอร์ใดๆ ติดตัวมาเลย ส่วนใหญ่แทบจะถอดแบบจากแอนดรอยด์ Stock ROM

Like

  • สเปกแรงราคาไม่แพง
  • คุณภาพของกล้องใช้ได้
  • ตอบโจทย์ด้านการดูหนังถือว่าให้ประสบการณ์ที่ดี ภาพจากจอคมชัด + ลำโพงด้านหลังดังดี
  • อัปเดทเป็น Jelly Bean 4.2 ได้

Unlike

  • การดีไซน์ดูโบราณไปหน่อย
  • ตัวเครื่องค่อนข้างเทอะทะ
  • หา AOSP ROM ยากมาก เพราะแบรนด์หัวเว่ยยังไม่ซัพพอร์ทนักพัฒนา

from:http://www.mobiledista.net/review-huawei-honor/