Google เผยสาเหตุที่พูดถึง Android 14 เพียงเล็กน้อยในงาน Google I/O 2023

การประชุม Google I/O คือการประชุมสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ประจำปีของบริษัท มีการพูดถึงหัวข้อ Android 14 น้อยมาก โดยประเด็นหลักในปีนี้จะเป็นหัวข้อเกี่ยวกับ AI เป็นหลัก (แทบจะ 100% ของเนื้อหาในงานเลยก็ว่าได้) การที่ Google ชูจุดเด่นเรื่อง AI ในครั้งนี้ก็เพื่อแข่งขันกับ ChatGPT ในยุคที่ AI เริ่มมีบทบาทมากขึ้น

แต่หัวข้อที่มีการคาดหวังว่าจะพูดถึงอย่าง Android 14 กลับมีการกล่าวถึงน้อยมาก ซึ่งปัจจุบันเวอร์ชั่น 14 อยู่ในรุ่นเบต้าและกำลังจะเปิดตัวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (กันยายน-ตุลาคม) และมีแอปมากมายที่กำลังพัฒนาร่วมไปกับแอนดรอยด์เวอร์ชั่นถัดไป  แต่ตัวแพลตฟอร์มเองกลับได้รับความสนใจน้อยมาก

Advertisement

ทางแหล่งข่าวได้ถามกับ Sameer Samat รองประธานฝ่าย Android ecosystem ว่าทำไมถึงมีการพูดถึง แอนดรอยด์ 14 น้อยนัก เขาก็ได้ตอบกลับมาว่า เพราะ Google ได้อัปเดตผ่านช่องทางต่างๆ อยู่แล้ว อย่างการอัปเดต Play และแอปอื่นๆ จึงจำเป็นต้องวางกรอบสิ่งต่างๆ ใหม่ให้แตกต่างออกไปอีกเล็กน้อย ในปีนี้จึงทำการเปลี่ยนมาเป็นแสดงให้เห็นว่าในแอนดรอยด์ใหม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้างจากมุมมองประสบการณ์ของผู้ใช้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากกว่า แม้ว่าคุณสมบัติบางอย่างที่ทางบริษัทประกาศจะเปิดตัวพร้อมกับ Android 14 แต่คุณสมบัติหลายประการก็กำลังจะมาถึงมือผู้ใช้งานผ่านการอัปเดตอย่างต่อเนื่องเหล่านี้อยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีข้อเท็จจริงอีกอย่างหนึ่งคือผู้คนเริ่มตื่นเต้นกับการอัปเดตเวอร์ชั่นในสมาร์ทโฟนน้อยลง ทำให้ผู้ผลิตหลายๆ เจ้ารวมถึง Google เองหันเหการผลิตไปที่หูฟัง Ear bud, Smart Watch และแท็ปเล็ต แล้วพัฒนาซอฟแวร์ให้สามารถทำงานร่วมกันได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ Google จะดูถึง Android 14 น้อยลง แล้วมุ่งไปที่การพัฒนา AI ให้ส่งเสริมกับระบบการทำงานมากขึ้น

ที่มา: The Verge

from:https://notebookspec.com/web/701588-android-14-was-barely-mentioned-at-google-io-2023

Google ประกาศอัปเดต 5 แอป ปรับหน้าตา UI ให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือจอพับและแท็บเล็ต

หลังจากที่ Google ได้เปิดตัวอุปกรณ์จอใหญ่ ๆ ทั้งมือถือจอพับ Pixel Fold และเเท็บเล็ต Pixel tablet ทำให้ทาง Google เองเริ่มที่จะหันมาใส่ใจกับหน้าตา UI ของแอปต่าง ๆ บนอุปกรณ์จอใหญ่พวกนี้ซักที (จากเมื่อก่อนที่แท็บเล็ต Android เหมือนแค่เอามือถือมาขยายขนาด) โดยล่าสุดก็ได้ออกมาประกาศแอปของ Google ที่ถูกปรับปรุงหน้าตาให้เหมาะกับการใช้งานบนหน้าจอใหญ่ ๆ ได้ดีขึ้นกว่าเดิมด้วยค่ะ

ภายในงาน Google I/O 2023 ปีนี้ Google ได้ประกาศว่า ได้อัปเดตแอปสำหรับใช้งานบนอุปกรณ์จอใหญ่มากกว่า 50 แอป ซึ่งเตรียมจะปล่อยให้ใช้งานกันเร็ว ๆ นี้ แต่จะมี 5 แอป ที่ได้รับการออกแบบใหม่เป็นที่เรียบร้อย พร้อมใช้งานบนอุปกรณ์จอใหญ่ ๆ กันแล้วค่ะ

1. Google Calendar

แอปปฏิทินที่เราใช้งานกันเป็นประจำ ได้ปรับเปลี่ยน Layout ใหม่ให้ดูง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก ผู้ใช้งานสามารถดูปฏิทินในรูปแบบรายเดือนบนหน้าจอด้านซ้ายและดูอีเว้นท์เทียบทางหน้าจอด้านขวาไปด้วยกันได้เลย อีกทั้งยังมาพร้อมแถบนำทาง ( navigation bar ) อยู่ด้านบนสุดเอาไว้สลับมุมมองต่าง ๆ ได้ด้วย

Google Calendar บนมือถือจอพับหรือแท็บเล็ต

2.YouTube Music

ถัดมาเป็นแอปฟังเพลงที่ใช้กันเป็นประจำอย่าง YouTube Music เมื่อผู้ใช้งานฟังเพลง เนื้อเพลงและคอนเทนต์ที่เกี่ยวข้องจะขึ้นมาอยู่ข้าง ๆ ให้ผู้ใช้งานได้เลือกดูไปพร้อมกัน ซึ่งฟีเจอร์ Layout ดังกล่าวจะทำให้ผู้ใช้งานสามารถฟังเพลงพร้อมกับค้นหาหรือเลือกจัดลำดับเพลงในเพลย์ลิสด้วยกันได้เลย จะได้ไม่เสียอรรถรสคอยกดกลับไปมาเวลาหาเพลง

3. Calm

Calm แอปสำหรับช่วยการนอนหลับและทำสมาธิเพื่อผ่อนคลายความเครียดได้อัปเดตเป็นการใช้งานแบบแนวตั้งเรียบร้อยแล้ว อีกทั้งยังออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ด้วย อีกทั้งตัวแอปจะปรับเปลี่ยน Layout แบบอัตโนมัติเมื่อกางมือถือจอพับออก

Calm บนมือถือจอพับ 

4.Candy Crush Soda Saga

เกมเรียงเพชรในตำนานที่อยู่คู่มือถือใครหลาย ๆ คน ก็ได้รับการอัปเดตให้เล่นได้ง่ายขึ้นบนมือถือจอพับและแท็บเล็ตด้วยเช่นกัน

5.Peloton

Peloton แอปสำหรับออกกำลังกายที่มาในดีไซน์ใหม่สำหรับใช้งาน tabletop mode หรือ โหมดการเล่นแบบตั้งโต๊ะบนมือถือจอพับ สามารถใช้งานแอปแบบแฮนด์ฟรีในขณะที่ออกกำลังกายได้ เพียงแค่กางจอมือถืออยู่ที่ 90 องศาและวางไว้บนโต๊ะแค่นั้น

แอปที่อัปเดตทั้ง 5 นี้จะทยอยให้เริ่มใช้งานได้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปค้นหาและกดดาวน์โหลดได้ที่ Google Play เลย อีกทั้งใน Google Play Store ก็จะได้รับอัปเดตให้ผู้ใช้งานได้ดูวิดีโอตัวอย่างเกม เรตคะแนนของเกม หรือรีวิวแอปได้อย่างเต็มตาและจุใจมากขึ้น

อีกทั้ง Google ยังบอกอีกว่า ในอนาคตอันใกล้นี้จะมีการแนะนำแอปที่เน้นสำหรับการใช้งานบนหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้นแนะนำที่หน้าหลักของ Google Play และผู้ใช้งานอาจจะได้เห็นแอปที่มีการใช้งานร่วมกับฟีเจอร์พิเศษที่มาคู่กับแท็บเล็ตอย่าง ปากกา stylus หรือการใช้จอแยกก็เป็นได้ ยังไงก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ

 

ที่มา : Google 

from:https://droidsans.com/google-annouced-application-that-using-for-tablets-and-foldable-phones/

Google เปิดตัว Project Gameface เมาส์สำหรับผู้พิการ ควบคุมด้วยการเคลื่อนไหวศีรษะ และการขยับใบหน้า

Project Gameface เมาส์แบบแฮนด์ฟรีที่ขับเคลื่อนโดยพลัง AI อีกหนึ่งโปรเจ็คที่น่าสนใจและน่าประทับใจที่ถูกเปิดตัวในงาน Google I/O 2023 เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทำออกมาเพื่อคนพิการได้ใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกมากขึ้น รวมไปถึงการเล่นเกมด้วย เพราะมันไม่ได้ใช้มือในการควบคุมเหมือนเมาส์ทั่วไป แต่จะใช้ส่วนหัวและใบหน้าในการควบคุมแทนนั่นเองค่ะ

Project Gameface เป็นเมาส์สำหรับเล่นเกมแบบแฮนด์ฟรี ออกแบบมาให้ผู้พิการได้ควบคุมเคอร์เซอร์เมาส์ของคอมพิวเตอร์ด้วยการเคลื่อนไหวศีรษะไปมา , การแสดงสีหน้า หรือการอ้าปากก็ได้  และใช้การยกคิ้วแทนการคลิกหรือการลากเมาส์

โปรเจคนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ Lance Carr สตรีมเมอร์วิดีโอเกมผู้ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งล่าง และเป็นกล้ามเนื้อเสื่อม แต่เค้าก็ยังมีใจรักที่จะเล่นเกม ซึ่งเค้าสามารถเล่นเกมได้ด้วยอุปกรณ์ควบคุมเคอร์เซอร์ที่ติดอยู่กับศีรษะแทนเมาส์หรือคอนโทรลเลอร์ทั่วไปค่ะ

ในปี 2021 ขณะที่ Carr กำลัง live Stream อยู่นั้น ก็เกิดเหตุไฟไหม้บ้าน แน่นอนว่าเหล่าเกมเมอร์ที่ดูสตรีมอยู่ทั่วโลกเห็นเหตุการณ์ดังกล่าว และก็เห็นด้วยว่าเมาส์ที่ติดตามศีรษะที่มีราคาแพงของ Carr และอุปกรณ์เล่นเกมอื่น ๆ ถูกไฟไหม้จมหายไปในกองเพลิง

หลังจากที่ Google ได้ยินเรื่องราว ก็ได้ดำเนินการติดต่อ Carr เพื่อร่วมทำงานและออกแบบ Project Gameface ขึ้นมา ซึ่งโปรเจ็คดังกล่าวที่ใช้การทำงานจาก MediaPipe open-source การเคลื่อนไหวศีรษะและการแสดงสีหน้าที่ถูกจดจำโดยโมเดลแมชชีนเลิร์นนิงซึ่งจะใช้เพียงแค่ webcam ตรวจจับการเคลื่อนไหวเพื่อให้สอดคล้องกับเคอร์เซอร์เมาส์

และเพื่อปรับให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน พวกเค้าได้รวมไอเดียของขนาดท่าทางมาใช้ เพื่อที่จะดูว่าจะต้องทำท่าโดดเด่นขนาดไหนถึงจะกระตุ้นการทำงานของเมาส์ได้

Project Gameface นี้นับว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่จะทำให้ผู้ใช้งานกลุ่มอื่น ๆ เข้าถึงการเล่นเกมได้มากขึ้น แต่ว่าตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนาอยู่นะ ซึ่งก็ต้องรอดูกันต่อไปค่ะว่า Project Gameface เมื่อเปิดให้ใช้งานเต็มรูปแบบแล้วจะออกมาเจ๋งขนาดไหน แต่แค่เห็นหลักการและแนวคิดของโปรเจ็คนี้แล้วนั้นบอกเลยว่าผู้เขียนประทับใจมากเลยค่ะ

 

ที่มา Google 

from:https://droidsans.com/google-launched-project-gameface-on-google-i-o-2023/

เปิดตัว Google Wear OS 4 ระบบนาฬิกาอัจฉริยะเวอร์ชั่นใหม่ แอปเยอะขึ้น รองรับ Cloud Backup และประหยัดแบตกว่าเดิม

ถึงแม้ว่า Google Wear OS 3 จะถูกนำไปใช้งานในนาฬิกาอัจฉริยะไม่ค่อยเยอะรุ่นเท่าไหร่ แต่ Google ก็ไม่ไหว ประกาศเตรียมปล่อย Wear OS 4 เวอร์ชั่นใหม่ พร้อมปล่อยให้อัปเดตกันภายในปีนี้ มาพร้อมแอปใหม่ ๆ ให้ใช้งาน มี Tiles ใหม่เพิ่มความสะดวก จัดการพลังงานได้ดีขึ้น รวมถึงปรับปรุงฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เสถียรกว่าเดิมด้วย

แอปใหม่ใน Wear OS 4

Gmail และ Google Calendar

Wear OS 4 เวอร์ชั่นใหม่จะมีการเพิ่มแอปในกลุ่ม Google Workspace เข้ามาเป็นครั้งแรก โดยจะมี Gmail และ Google Calendar ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ดู Preview อีเมล ตอบอีเมลด่วน เช็คตารางงาน ดูกำหนดการนัดหมายงานต่าง ๆ รวมถึงอัปเดตสถานะตารางงานได้โดยตรงผ่านตัวนาฬิกาเลย

WhatsApp

แอปแชตชื่อดังอย่าง WhatsApp เตรียมปล่อยแอปสำหรับนาฬิกาอัจฉริยะเป็นครั้งแรกใน Wear OS 4 โดยตัวแอปแชตผ่านระบบ End-to-End Encryption, ตอบแชตได้ผ่านเสียงพูด รวมถึงสามารถรับสายโทรศัพท์ได้ แทบไม่ต้องหยิบมือถือขึ้นมาเลย โดย Google เผยว่าตัวแอปจะเปิดให้โหลดใช้งานในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

Tiles ใหม่จาก 2 แอป

Spotify

แอปสตรีมมิ่งเพลงชื่อดังเตรียมเพิ่ม Tiles หน้าปัดเมนูแบบเร่งด้วย 3 อันใหม่ด้วยกัน ผู้ใช้งานสามารถเลือกเปิด Podcast ที่คุณติดตามตอนใหม่ ๆ หรือเปิด Playlist เพลงที่คุณชื่นชอบได้ทันทีผ่านหน้าปัด รวมถึงยังเพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าง Spotify DJ ดีเจส่วนตัวที่เล่นเฉพาะเพลงที่คุณชื่นชอบให้ได้เลือกเปิดใช้ผ่านหน้าปัด

Peloton

สำหรับสายสุขภาพที่ชอบออกกำลังกายเป็นประจำ แอปออกกำลังกายอย่าง Peloton ก็เตรียมเพิ่ม Tiles ใหม่สำหรับโชว์สถิติการออกกำลังกายประจำวัน เพื่อช่วยให้เราดูและตามเก็บสถิติให้ได้ตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้

ฟีเจอร์ใหม่ใน Wear OS 4

Google Home

OS เวอร์ชั่นใหม่นี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่บนแอป Google Home สามารถเช็คภาพคร่าว ๆ ผ่านเมนูการแจ้งเตือนบนตัวนาฬิกาได้เลยว่าใครกดกริ่งประตู Google Nest Doorbell หรือมีใครมาส่งพัสดุที่หน้าบ้าน อีกทั้งยังสามารถสั่งการปลดล็อกประตูทางไกลผ่านนาฬิกาได้เลย

Watch Face Format

Google ได้จับมือกับ Samsung ปล่อยเครื่องมือพัฒนารูปแบบหน้าปัดสำเร็จรูปแบบใหม่สำหรับ Wear OS  ทำให้นักพัฒนาสร้างรูปแบบหน้าปัดคุณภาพสูงได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องคอยอัปเดตบ่อย ๆ แถมหน้าปัดนาฬิกาที่ทำจากแอปยังช่วยให้ตัวนาฬิกากินแบตเตอรี่น้อยลงด้วย

ฟีเจอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

Google ได้เปรย ๆ ไว้ว่าในเวอร์ชันใหม่นี้จะมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่สามารถสำรองข้อมูล กู้คืนข้อมูล รวมถึงถ่ายโอนข้อมูลการตั้งค่าเวลาย้ายนาฬิกาได้โดยตรงผ่านระบบ Cloud ทำให้การย้ายข้อมูลระหว่างนาฬิกาสะดวกมากกว่าเดิม นอกจากนี้ยังปรับปรุงประสิทธิภาพ Text-to-Speech (แปลงข้อความเป็นเสียง) ให้รวดเร็วขึ้น และใช้การได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ Google บอกเพียงว่าจะเปิดให้อัปเดต Wear OS 4 กันภายในปีนี้ ซึ่งสื่อต่างประเทศคาดการณ์ว่าอาจเปิดตัวมาพร้อมกับ Samsung Galaxy Watch 6 Series รุ่นใหม่ที่ลือกันว่าจะเปิดตัวในช่วงสิ้นเดือนกรกฎาคม 2023 และแน่นอนว่าจะได้เห็นระบบที่ว่าใน Pixel Watch รุ่นใหม่ด้วย

 

ที่มา: Google, GSMArena

from:https://droidsans.com/google-wear-os-4-officially-unveiled/

พาชม 9 AI น่าสนใจ! ที่เปิดตัวในงาน Google I/O 2023

งาน Google I/O 2023 นอกจากจะมีการเปิดตัวสินค้าใหม่แล้ว […] More

from:https://www.iphonemod.net/9-ai-interesting-from-google-io-2023.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=9-ai-interesting-from-google-io-2023

รวม 13 สิ่งน่าสนใจในงาน Google I/O 2023

วันที่ 10 พ.ค. 66 Google ได้จัดงาน Google I/O 2023 ซึ่ง […] More

from:https://www.iphonemod.net/13-interesting-from-google-io-2023.html?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=13-interesting-from-google-io-2023

Google ปล่อย MusicLM ระบบ AI ที่สามารถทำเพลงได้ผ่านข้อความตัวอักษร

ยังไม่หมดเท่านี้สำหรับนวัตกรรมสุดล้ำ Google ยังปล่อย ‘MusicLM’ ในงาน I/O 2023 มาให้ทุกคนได้ตื่นเต้นกันอีกครั้งสำหรับ AI ที่สามารถสร้างเสียงเพลงได้ผ่านข้อความตัวอักษร เพียงใส่ไอเดียเข้าไปว่าเราอยากได้บรรยากาศเพลงแบบไหน อาทิ ดนตรีป็อปที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาสำหรับงานเลี้ยงอาหารค่ำ ทางปัญญาประดิษฐ์ก็จะสร้างฐานข้อมูลเพลงที่อยู่ในระบบกว่า 28,000 เพลงให้เรา

ก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม Google ได้ประกาศเปิดตัว MusicLM ซึ่งเป็นเครื่องมือ AI รุ่นทดลองที่สามารถเปลี่ยนคำอธิบายข้อความของเราให้เป็นเสียงเพลงได้ แต่ล่าสุดได้เปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปลงทะเบียนเพื่อทดลองใช้งานใน AI Test Kitchen บนเว็บ, Android หรือ iOS ได้แล้วค่ะ (คาดการณ์กันว่าเจ้าตัวนี้อาจจะมาแข่งขันกับ Jukebox ของ OpenAI )

MusicLM 

เป็นรูปแบบข้อความที่สามารถสร้างเพลงได้ไม่ซ้ำใครตามแนวคิดหรือ ไอเดียสุดบรรเจิดของเรานั่นเอง

ส่วนการสร้างเพลงนั้นแสนง่าย แค่เพียงพิมพ์ข้อความเช่น  “soulful jazz for a dinner party” หรือ“create an industrial techno sound that is hypnotic” และระบุเครื่องดนตรีเช่น แนวอิเล็กทรอนิกส์, แนวคลาสสิก และแนวป๊อปลงไป รวมถึงกลิ่นอาย vibe, mood, และ emotion ที่เราต้องการ

ในขั้นตอนสุดท้าย MusicLM จะวิเคราะห์ข้อความที่เราพิมพ์บอกไป แล้วประมวลผลออกมาเป็นเสียงเพลงที่มีโทนคล้ายกับคำบรรยายนั้นมากที่สุด ซึ่งทางทีมพัฒนาบอกว่ายิ่งบรรยายเจาะจงมากเท่าไหร่ ระบบก็จะยิ่งแต่งเพลงขึ้นมาได้ดีมากขึ้นเท่านั้น แต่หากจะใช้แค่คำบรรยายสั้น ๆ ก็ทำได้เหมือนกัน

ยกตัวอย่างคำบรรยาย  A fusion of reggaeton and electronic dance music, with a spacey, otherworldly sound. Induces the experience of being lost in space, and the music would be designed to evoke a sense of wonder and awe, while being danceable.

เพลงลูกผสมระหว่างเร็กเก้และเพลง EDM, มีเสียงแบบล้ำ ๆ อวกาศ ๆ, ให้ความรู้สึกเหมือนหลงทางอยู่ในอวกาศ, ดนตรีจะให้ความรู้สึกสงสัยปนความกลัว แต่ยังมีจังหวะที่สามารถเต้นตามได้

 

สำหรับใครที่อยากทดลองใช้ก็สามารเข้าไปได้ทันทีหรือ ถ้าอยากฟังการบรรยายเพลงเพิ่มเติมของ Google สามารถเข้าไปรับชมเพลงที่สร้างโดย MusicLM ได้ที่ google research 

 

ที่มา : MusicLM

from:https://droidsans.com/musiclm-google-ai-test-kitchen/

Google เปิดตัว I/O FLIP เกมการ์ดที่สร้างโดย AI สนุกสนานแบบ Best of Three

ภายในงาน Google I/O 2023 ก็ไม่มีดีแค่สมาร์ทโฟน Pixel Fold , Google Pixel 7a หรือโมเดลด้านภาษา PaLM 2 อย่างเดียว แต่ยังมีเกมการ์ดสุดคลาสสิค I/O FLIP ที่สร้างขึ้นโดย AI ด้วยนะ โดยรูปแบบของเกมทำออกมาได้น่าสนใจไม่น้อย แถมยังใช้หลักการเล่นแบบ Best-of-3 อีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าจะน่าสนใจแค่ไหนตามมาเลย

I/O FLIP คือ เกมไพ่คลาสสิกที่ออกแบบโดย AI ขับเคลื่อนโดย Google พร้อมอัดอั้นไปด้วยแรงบันดาลใจของนักพัฒนามากฝีมือ ด้วยการทดลองในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้ก่อกำเนิดขึ้นใหม่ โดยตัวเกมจะประกอบไปด้วยพลังธาตุทั้ง 5 เพื่อใช้ในการเล่น อาทิ อากาศ น้ำ ไฟ โลหะ ดิน ที่สำคัญการ์ดตัวละครแต่ละใบจะมีความสามารถเฉพาะตัว โดยพลังหลักของการ์ดจะอยู่ที่ 10-100 ในแต่ละแมตช์ ถ้าเพื่อน ๆ อยากชนะใส ๆ แค่ดูพลังธาตุที่มาลบล้างกันให้ได้ก็พอแล้ว เรียกว่าเป็นเกมไว แต่สนุกสนานได้ไม่มีพัก

รูปแบบการเล่น

• ให้ผู้เล่นจัดเดคของตัวเองจำนวน 12 ใบ พร้อมเลือกการ์ดสามใบจากแพ็คเพื่อสร้างทีม
• เข้าร่วมการแข่งขันแบบ Best-of-3 ใครชนะไปก่อน 2 เกมจะเป็นฝ่าย win ไปแต่อาจมีแต้มเสมอแล้วแต่รอบการเล่น
• ชนะหลายแมตช์ติดต่อกันเพื่อสร้าง streak ในการก้าวเป็น leaderboard เพื่อโชว์พลังสุดแข็งแกร่ง
• สามารถแข่งขันและเข้าเล่นเกมไปกับผู้แข่งขันจากทั่วทุกมุมโลกได้สบาย ๆ

เบื้องหลังการทำงานของเหล่าการ์ดสุดคิ้วท์ ไม่ว่าจะเป็นตัวละคร Dash, Sparky, Dino และ Android ซึ่งใช้พื้นฐานการสร้างจาก DreamBooth บน Muse สำหรับคำอธิบายการ์ดด้านล่างใช้  PaLM API ที่คัดกรองออกมาหลายแสนรายการโดยไม่ซ้ำกัน ถัดมาที่ขั้นตอนสุดท้ายสำหรับใช้กลไกลต่าง ๆ ในการสร้างเกม คือ Flutter, Dart, Firebase และ Google Cloud พร้อม Cloud Run เพื่อช่วยปรับขนาดการ์ดเกม

และนี่คือหนึ่งในผลงานที่สร้างสรรค์ขึ้นด้วย Ai ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย ในอนาคตเราอาจได้เห็นเกมอีกมากมายที่มาจากปัญญาประดิษฐ์กันอีกเพียบ

 

 

ที่มา : Google 

from:https://droidsans.com/google-card-game-io-flip-ai/

เปิดตัว Duet AI เครื่องมือช่วยงานเอกสารบน Google Docs ฟีเจอร์เยอะ มาเพื่อท้าชนกับ Microsoft Copilot

หลังจากเมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2023 ที่ผ่านมา Google ได้เคยแง้มไว้ว่าจะเพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามาในกลุ่มซอฟต์แวร์งานเอกสาร Google Workspace เพื่อต่อกรกับฝั่ง Microsoft วันนี้ในงาน Google I/O 2023 ที่เพิ่งจบไปหมาด ๆ ก็ได้ออกมาเผยชื่อพร้อมเปิดตัวเจ้าปัญญาประดิษฐ์ที่ว่านี้เป็นที่เรียบร้อยในนาม Duet AI มาพร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่น่าสนใจเพียบ

Duet AI ช่วยเขียนอีเมลได้ทุกที่ ทั้งในคอม และมือถือ

จากที่ก่อนหน้านี้ Google ได้ทดลองใช้งานระบบ AI ทั้งใน Gmail และ Docs เพื่อช่วยรวบรวมไอเดีย, ตรวจทานข้อมูล, เขียน และแก้ข้อความกันในคอมพิวเตอร์ไปแล้ว ล่าสุดก็เตรียมนำ Duet AI นี้เข้าไปใส่ในแอป Gmail สำหรับมือถือด้วย โดยตัว AI  จะช่วยร่างอีเมลตอบกลับเพียงกรอกคำสั่งไม่กี่คำ นอกจากนี้ยังมีแผนที่จะเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยเหลือด้านบริบท ทำให้ตอบกลับได้ดูเป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเติมชื่อและข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ให้โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องนั่งกรอกเองอีกต่อไป

คิดงานไม่ออก ให้ Duet AI ช่วยเขียน

Duet AI บนแอป Google Docs จะมาพร้อมความสามารถพิเศษเขียนได้ตามใจสั่ง เพียงกรอกประโยคหัวข้อสั้น ๆ ตัว AI ก็จะช่วยร่างข้อความตามที่เราต้องการ อย่างเช่นถ้าเราจะประกาศรับสมัครพนักงานใหม่ เพียงแค่กรอกคำสั่งให้ตัว AI เขียนประกาศรับสมัครงานในตำแหน่งนั้น ตัว AI ก็จะร่างข้อมูลต่าง ๆ มาให้ ว่าตำแหน่งงานนี้ต้องรับผิดชอบอะไร ผู้สมัครต้องมีคุณสมบัติแบบไหน เรามีหน้าที่เพียงแค่เข้าไปแก้ไขให้ตรงกับความต้องการของเราเท่านั้น

นอกจากนี้ตัว Duet AI ยังสามารถตรวจทานไวยากรณ์ภาษา พร้อมช่วยแนะนำปรับเปลี่ยนคำในงานเขียนให้ดูมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และไม่ได้รองรับแค่ภาษาอังกฤษเท่านั้น ไม่ว่าจะภาษาสเปน, ฝรั่งเศส หรือภาษาญี่ปุ่น Duet AI ก็สามารถตรวจทานได้หมด ไม่มีปัญหา

ใช้ AI สร้างรูปประกอบให้อัตโนมัติใน Slides

ต่อไปนี้ไม่ต้องค่อยนั่งหารูปใส่สไลด์พรีเซนต์เองทีละรูปแล้ว เพราะ Duet AI จะเข้ามาช่วยทำภาพประกอบให้ เพียงแค่กรอกคำอธิบายรูปที่ต้องการแบบสั้น ๆ เท่านั้น แถมยังได้รูปภาพที่ไม่เหมือนใคร ตรงตามคำอธิบายที่เรากรอกไป ทำให้เราและผู้ฟังเห็นภาพไอเดียได้ชัดมากยิ่งขึ้น

ให้ AI แปลงข้อมูลดิบเป็นข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึกใน Sheets

Duet AI จะช่วยคุณวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ใน Google Sheets พร้อมจัดระเบียบเรียบเรียงให้คุณได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงช่วยวางแผนจัดตารางประชุม ติดตามงาน และโปรเจกต์ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ และเข้าใจง่าย เพียงพิมพ์คำสั่งที่ต้องการคร่าว ๆ ลงไป AI ก็จะช่วยสร้างตารางตามที่คุณต้องการให้เลยทันที

สร้างภาพพื้นหลังที่ไม่เหมือนใครบน Google Meet

Duet AI มาพร้อมความสามารถใหม่ ช่วย Generate รูปภาพพื้นหลังใน Google Meet ได้เพื่อป้องกันความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน หรือจะสร้างภาพพื้นหลังที่เกี่ยวกับหัวข้อนำเสนอออนไลน์ของเรา เพื่อสร้างจุดเด่นก็ทำได้ เพียงแค่กรอกรายละเอียดพื้นหลังแบบที่เราต้องการ จากนั้น Duet AI ก็จะเนรมิตขึ้นมาให้ทันที

หากใครสนใจอยากลองใช้งาน Duet AI ตอนนี้ Google ก็ได้เปิดให้ลงทะเบียนแสดงความสนใจทดลองใช้งานแล้วบนเว็บไซต์ Google Workspace Labs ผู้ที่ได้รับเลือกก็จะได้ใช้งานฟีเจอร์ AI ใหม่ ๆ ใน Google Workspace ก่อนใคร อีกทั้งยังสามารถร่วมส่งคอมเมนต์ข้อเสนอแนะเพื่อปรับปรุงฟีเจอร์ต่าง ๆ ได้ด้วย

 

ที่มา: Google

from:https://droidsans.com/introducing-duet-ai-for-google-workspace/

มาแล้ว! Google Pixel Tablet แท็บเล็ตดีไซน์มินิมอล มาพร้อมแท่นชาร์จแปลงเป็นจออัจฉริยะได้ เริ่มต้นราว 16,800 บาท

หลังจากที่ปล่อยให้รอเก้อกันอยู่นาน ในที่สุด Google ก็ได้เปิดตัวแท็บเล็ตรุ่นแรกในตระกูลอย่าง Pixel Tablet กันสักที ถึงแม้สเปคอาจจะดูธรรมดา แต่รุ่นนี้มาพร้อมจุดขายหลักอย่างฟีเจอร์ Hub Mode ที่แค่วางเครื่องไว้กับแท่นชาร์จก็จะเปลี่ยนแท็บเล็ตให้กลายเป็นจออัจฉริยะ Google Nest Hub ขนาดย่อม ๆ ทันที แถมราคาพร้อมแท่นชาร์จยังน่าดึงดูดใจ เริ่มต้นที่ราว ๆ 16,800 บาทเท่านั้น (ยังไม่รวมภาษี)

Pixel Tablet มาพร้อมจอแสดงผล IPS LCD ขนาด 10.95 นิ้ว บนอัตราส่วน 16:10 ความละเอียด WQXGA (2560×1600 พิกเซล) รองรับรีเฟรชเรทระดับมาตรฐานที่ 60Hz สว่างสูงสุด 500 nits มาตรฐานสี 24 bits นอกจากนี้ตัวจอแสดงผลยังรองรับปากกาสไตลัส USI 2.0 และเคลือบสารกันรอยนิ้วมือไว้ที่กระจกหน้าจอด้วย

การใช้งานก็ครบรสเพราะแท็บเล็ตรุ่นนี้มาพร้อมกับชิปประมวลผลระดับตัวท็อปอย่าง Google Tensor G2 ที่ใช้ใน Pixel 7 Series ประกบคู่มากับหน่วยความจำ RAM LPDDR5 และ ROM UFS 3.1 มีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่นความจุ ได้แก่ 8GB + 128GB และ 8GB+256GB นอกจากนี้ตัวเครื่องยังมาพร้อมกับชิปรักษาความปลอดภัย Titan M2 ด้วย

ด้านการถ่ายภาพในรุ่นนี้ให้มาทั้งกล้องหน้า และกล้องหลัง Fixed Focus อย่างละ 1 ตัวที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มาพร้อมไมโครโฟนตัดเสียงรบกวน 3 ตัวที่ช่วยให้การวิดีโอคอล, อัดเสียง, หรือเรียกใช้  Google Assistant เป็นไปได้อย่างราบรื่น ด้านความบันเทิงก็สนุกสะใจเพราะให้ลำโพงมาถึง 4 ตัว

จุดขายหลักของรุ่นนี้คือ Charging Speaker Dock ที่สามารถนำตัวแท็บเล็ตมาแปะรวมร่างให้กลายเป็นหน้าจออัจฉริยะได้ในพริบตา โดยตัวแท็บเล็ตจะเปลี่ยนเป็น Hub Mode สามารถสั่งการ Google Assistant ได้ด้วยเสียง, เป็นขาตั้งใช้ในการ video call ได้สะดวก หรือจะใช้เป็นกรอบรูปดิจิตอลไว้ตั้งโชว์สวย แถมยังมี Chromecast ในตัว ส่งคอนเทนต์จากมือถือขึ้นจอขณะต่อ Dock ได้ด้วย

สเปค Pixel Tablet 

• หน้าจอ IPS LCD ขนาด 10.95 นิ้ว ความละเอียด 2560 x 1600 รีเฟรชเรท 60Hz
• CPU : Google Tensor G2
• RAM LPDDR5: 8GB
• ความจุ UFS 3.1: 128GB / 256GB
• กล้องหลังคู่ : 8MP (f/2.0) Fixed Focus
• กล้องหน้า : 8MP (f/2.0)
• การเชื่อมต่อ : WiFi 6 802.11a/b/g/n/ac/ax, MIMO, BT 5.2, UWB
• เซนเซอร์ : Ambient light sensor, Compass, Gravity sensor, Gyroscope, Hall sensor
• ระบบเสียง : ลำโพง 4 ตัว
• รองรับปากกาสไตลัส USI 2.0
• แบตเตอรี่ : 27 Wh / รองรับการชาร์จผ่าน USB-C 3.2 / ชาร์จผ่านแท่นชาร์จ 4 Pin 15W
• ระบบ Android 13

ราคา และวันวางจำหน่าย

Pixel Tablet เปิดตัวมาด้วยกัน 2 รุ่นความจุ พร้อมสีตัวเครื่องให้เลือก 3 สี ได้แก่สีครีม Porcelain, สีเทาเขียว Hazel และสีชมพู Rose (เฉพาะรุ่นเริ่มต้น) โดยทุกรุ่นจะมาพร้อมกับแท่นชาร์จ Charging Speaker Dock ไม่ต้องซื้อแยก ตัวเครื่องเปิดให้สั่งจองตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป และจะจัดส่งให้ภายในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2023 โดยทั้ง 2 รุ่นความจุเปิดราคามาดังนี้

• 8GB + 128GB ราคา 499 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 16,800 บาท ไม่รวมภาษี)
• 8GB + 256GB ราคา 599 เหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 21,170 บาท ไม่รวมภาษี)

 

ที่มา: Pixel Tablet, Help in Your Hands – Google Store

from:https://droidsans.com/google-pixel-tablet-officially-unveiled/