Google ออกโรงขอโทษ เหตุมีผู้ใช้ถ่ายคลิปผู้ช่วยอัจฉริยะบนลำโพง Google Home Mini Speaker หลุดพูดชื่อเพลงของแรปเปอร์ดังที่มีคำเหยียดสีผิวลง TikTok โดยล่าสุดทาง Google ได้ปล่อยอัปเดตให้ Google Assistant เซ็นเซอร์คำดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ขำไม่ออกสำหรับ Google หลังผู้ใช้ TikTok สาวรายหนึ่งอัดคลิปทดสอบระบบเซ็นเซอร์คำของผู้ช่วยอัจฉริยะในลำโพง Google Home Mini Speaker โดยผู้ใช้สาวรายนี้ได้ทำการพูดคำสั่งขอให้ลำโพงเปิดเพลงที่มีคำหยาบอยู่ในชื่อถึงหลายเพลง เพื่อให้ Google Home Assistant พูดทวนชื่อเพลงก่อนที่จะเริ่มเล่น ซึ่งเจ้าลำโพงอัจฉริยะก็ได้เซ็นเซอร์คำหยาบทั่วไปที่อยู่บนชื่อเพลงได้อย่างไม่มีปัญหา
จนกระทั่งผู้ใช้สาวรายนี้ได้ขอให้ Google Assistant ช่วยเปิดเพลงที่มีคำหยาบเหยียดสีผิวที่ถือว่าแรงมาก ๆ ในภาษาอังกฤษ ผลปรากฏว่า Google Assistant ก็ได้พูดคำ ๆ นั้น โดยไม่เซ็นเซอร์ใด ๆ เลย จนผู้ใช้สาวต้องลองขอให้ AI พูดชื่อเพลงอื่นที่มีคำข้างต้นอีกครั้งหนึ่งเพื่อความแน่ใจ ซึ่งผลลัพธ์ก็ออกมาเหมือนเดิม Google Assistant พูดคำที่ว่าเพื่อทวนชื่อเพลงอีกครั้ง โดยที่ไม่เซ็นเซอร์ ทำเอาผู้ใช้สาวที่เป็นคนผิวดำ ตกใจช็อกกันเลยทีเดียว
หลังจากคลิปดังกล่าวได้โด่งดังกลายเป็นไวรัลใน TikTok สื่อนอกอย่าง Gizmodo ได้ทำการติดต่อไปยัง Google เพื่อสอบถามถึงเรื่องที่เกี่ยวข้อง พร้อมตั้งข้อสงสัยว่า Google ใช้มาตรฐานอะไรในการกำหนดว่าคำไหนควรเซ็นเซอร์หรือไม่ควรเซ็นเซอร์ เพราะคำที่มีปัญหานั้น หยาบคาย และส่งเสริมความเกลียดชังต่อกลุ่มคนผิวดำมาก โดย Google เลี่ยงที่จะไขข้อสงสัยดังกล่าว พร้อมกล่าวขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ทำการอัปเดตเพื่อแก้ปัญหานี้เป็นที่เรียบร้อย โดยทาง Google ยังให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำให้ผู้ใช้ทุกคนรู้สึกปลอดภัยในการใช้งาน Google Assistant มากขึ้น
ลำโพงอัจฉริยะ Google Home, Home Mini หรือ Home Hub ถ้าใครที่มีใช้แล้วจะรู้ว่ามันเพิ่มความสะดวกสบายให้เราเยอะเลย เช่นใครที่มีหลอดไฟอัจฉริยะ, ปลั๊กไฟอัจฉริยะ ฯลฯ ก็สั่งงานอุปกรณ์เหล่านั้นด้วยเสียงได้เลย นอกจากนี้เรายังสามารถเล่นเพลงได้จากตัว Google Home หรือ Home Hub ได้เลยด้วย จะติดตรงที่ว่าเสียงของมันอาจจะไม่ดีเท่ากับลำโพงบลูทูธตัวโปรดของเรา ทำให้สุดท้ายแล้วต้องมาฟังเพลงผ่านมือถือเหมือนเดิม…แต่จริงๆ แล้วเราสามาถต่อลำโพงอัจฉริยะเข้ากับลำโพงบลูทูธทั่วไปได้ด้วยนะ! แถมวิธีทำก็ไม่ได้ยากอะไรเลย
อย่างที่บอกไปแล้วว่าพวกลำโพงอัจฉริยะรุ่นเริ่มต้นอย่างเช่น Google Home Mini เป็นลำโพงดอกเล็กๆ ซึ่งไม่ได้เน้นเอาไว้ฟังเพลงเป็นหลัก (เสียงไม่แย่ แต่ก็ไม่ได้ดีเด่อะไร) ซึ่งหากเราอยากได้ลำโพงอัจฉริยะที่เสียงดีๆ ก็ต้องโดดขึ้นไปเล่นพวก Google Home Max ที่มีราคาหลัก 10,000+ บาท หรือพวกลำโพง 3rd Party อย่าง LG WK7 XBOOM ราคาประมาณ 6,XXX บาท และรุ่นอื่นๆ แต่ถ้าเรามีลำโพงบลูทูธที่ชอบอยู่แล้ว และอยากจะให้มันมีความอัจฉริยะของ Google Home Mini ด้วย ก็ต้องเอามาจับคู่กันซะเลย เราก็จะได้ทั้งลำโพงไร้สายเสียงดี ที่สั่งงานด้วยคำสั่งเสียงได้อีกต่างหาก
คนที่เชื่อมต่อลำโพงอัจฉริยะ Google Home, Home Mini หรือพวกหน้าจออัจฉริยะ Home Hub อยู่แล้ว ในมือถือก็จะต้องมีแอป Home ติดไว้สำหรับการตั้งค่าต่างๆ เอาไว้ด้วยแน่นอน โดยเมื่อเข้ามาที่หน้าแรกของแอป ก็จะเจอกับรายชื่ออุปกรณ์ของเราที่มีอยู่แบบนี้
ถ้าเกิดว่าอยากจะเชื่อมต่อลำโพงบลูทูธตัวโปรดของเราเข้ากับหน้าจออัจฉริยะที่อยู่ในห้องนอน (ชื่ออุปกรณ์ที่ผมตั้งไว้คือ Bedroom Display) ก็กดเลือกอุปกรณ์ดังกล่าว แล้วมันก็จะเข้ามาที่หน้าสำหรับควบคุม Media แบบนี้
จากนั้นกดเลือกที่เมนู Device settings (รูปเฟืองมุมขวาบน) เลื่อนลงมาเรื่อยๆ จนเจอกับเมนู Paired Bluetooth devices
พอเข้ามาที่หน้านี้ก็ให้เราเปิดโหมดจับคู่ที่ลำโพงบลูทูธซะก่อน แล้วกดเลือก Pair Bluetooth speaker ที่มือถือ เมื่อมีชื่อของลำโพงที่เราต้องการโผล่ขึ้นมาแล้วก็กดจับคู่ซะ
พอออกมาที่หน้า Device settings ตรงเมนู Default music speaker ก็จะเปลี่ยนเป็นชื่อของลำโพงบลูทูธของเราแทน ซึ่งตอนนี้เพลงที่เล่นจาก Google Home, Home Mini, Home Hub หรืออื่นๆ จะมาออกที่ลำโพงบลูทูธแล้วล่ะครับ โดยถ้าเราเลิกฟัง และปิดลำโพงบลูทูธไปแล้ว คราวหลังต้องการทำแบบนี้อีก ก็แค่เปิดลำโพงบลูทูธ จากนั้นมาเปิดที่เมนู Default music player เลือกชื่อลำโพงตัวเดิมก็ใช้ได้เลย ไม่ต้องจับคู่ใหม่
Google Nest Mini ที่จำหน่ายโดย True จะมีให้เลือกทั้งหมด 2 สี คือ สีขาว Chalk และสีเทา Charcoal นอกจากนี้ยังจะได้รับประกันศูนย์ฟรีอีก 1 ปีด้วย
สำหรับคนที่ยังไม่รู้ถึงความสามารถของเจ้า Google Nest Mini ว่ามันทำอะไรได้บ้าง ก็ขอกอธิบายง่ายๆ ว่ามันเป็นศูนย์กลางในการควบคุม Smart Device ต่างๆ ภายในบ้านของเรา (อุปกรณ์ต้องระบุว่ารองรับการใช้งาน Google Assistant) ผ่านการสั่งงานด้วยเสียง
หรือจะใช้เป็นลำโพงไร้สายสำหรับฟังเพลงจาก Spotiyfy, YouTube Music หรือแอปอื่นๆ ที่รองรับก็ได้ โดยเราสามารถออกคำสั่งให้มันเล่นผ่านลำโพงโดยตรงเลย หรือจะสั่ง Cast to จากมือถือก็ได้
ใครที่สนใจ Google Nest Mini ก็อย่ารอช้า เข้าไปสั่งซื้อกันได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 5 มีนาคม 2563 ทางเว็บไซท์ของ Truemove H นะครับ
สำหรับใครที่รอ Google Nest Mini หรือชื่อเดิม Google Home Mini ในเวอร์ชั่นภาษาไทยไม่ต้องรอแล้วครับ เจ้าลำโพงอัจฉริยะตัวนี้พร้อมแล้วครับ ลำโพงที่รองรับการสั่งการด้วยเสียงในระบบ Google Assistant คอยช่วยเหลือเป็นอุปกรณ์ลำโพงศูนย์กลางภายในบ้าน
ใครที่สนใจเจ้า Google Nest Mini สามารถเป็นเจ้าของได้ก่อนใคร โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ TrueStore โดยในตอนนี้มีการจำหน่ายในราคาพิเศษด้วยครับ เพียง 1,990 บาท (จากปกติ 2,290 บาท)
หลังจากทรูได้สิทธิ์การเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้าจาก Google อย่างเป็นทางการ (Google Authorized Seller) ล่าสุดมีการเปิดตัว Google Nest Mini ลำโพงอัจฉริยะสั่งงานด้วยเสียง เพื่อใช้ควบคุมอุปกรณ์ Smart Home ภายในบ้าน รวมถึงการเป็นผู้ช่วยส่วนบุคคลคล้ายกับ Siri โดยมีการอัปเดตคุณสมบัติล่าสุดคือ “รองรับเสียงไทย” Google Nest Mini สำหรับลำโพงอัจฉริยะตัวนี้เป็นรุ่นที่ 2 (รุ่นเก่าชื่อว่า Google Home Mini) มีการปรับปรุงให้สามารถเล่นเสียงได้ทุกย่าน และมีเสียงเบสได้แน่นกว่าเดิมสองเท่า นอกจากนี้ยังสามารถเล่นเสียงให้ดังหรือเบาได้ตามสภาพแวดล้อม สามารถประมวผลผ่าน Machine Learning ความเร็ว 1 TeraOPS โดยที่ไม่ต้องส่งข้อมูลกลับ สำหรับรุ่น Google Nest Mini ถือว่าเป็นลำโพงรุ่นแรกและรุ่นเดียวที่รองรับภาษาไทย หากอ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ของเกี่ยวกับ เปลี่ยนภาษาของ Google Assistant แต่ทั้งนี้ส่วนตัวผู้เขียนใช้งานรุ่นแรกอยู่ ก็สามารถใช้สั่งการและโต้ตอบด้วยภาษาไทยได้เช่นกัน Google Nest Mini เหมาะกับใช้งานในบ้าน หากใครสนใจ Google Nest Mini พร้อมการรับประกันศูนย์ 1 ปี จากตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ด้วยราคาพิเศษเพียง 1,990 […]
ผู้ช่วยส่วนตัว Google Assistant รองรับฟีเจอร์ Continued Conversation อย่างทางการแล้ว หลังจาก Google เปิดตัวในงาน Google I/O 2018 ซึ่งฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถสนทนากับ Google Assistant ได้อย่างต่อเนื่องและราบรื่นเหมือนคุยอยู่กับคนจริงๆ
ก่อนหน้านี้ Google Assistant จะถูกเปิดใช้งาน เมื่อได้ยินคำสั่ง Hey Google หรือ OK Google ก่อนตั้งคำถามทุกครั้ง แต่หลังจากเปิดฟีเจอร์ Continued Conversation จะทำให้ Google Assistant พร้อมรับคำสั่งและโต้ตอบได้อย่างต่อเนื่อง แต่ต้องพูด Hey Google หรือ OK Google ในครั้งแรกก่อน จากนั้น Google Assistant จะตอบสนองต่อคำถามต่อไปทันที และจะปิดการใช้งานเมื่อได้ยินคำว่า “Thank you” หรือ “Stop”
ฟีเจอร์ Continued Conversation พร้อมใช้งานแล้วบนลำโพง Google Home, Home Mini และ Home Max โดยเข้าไปเปิดใช้งานที่ Settings > Preferences > Continued Conversation ภายในแอพ Google Assistant
ต้องยอมรับว่าเทรนด์การตกแต่งบ้านนั้นมีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่กี่ปีมานี้เทรนด์บ้านอัจฉริยะหรือว่า Smart Home นั้นมาแรง หลายผู้ผลิตได้กระโดดเข้าเล่นวงการนี้ไม่เว้นแม้กระทั่ง Apple ที่ได้ออกแฟลตฟอร์ม Apple HomeKit เพื่อเจาะกลุ่มตลาดนี้เช่นกัน
1. รู้จักกับ Apple HomeKit ระบบสมาร์ตโฮมจาก Apple
ก่อนไปชมอุปกรณ์หลอดไฟอัจฉริยะนั้นเรามาดูกันก่อนว่า Apple HomeKit คืออะไร เพื่อปูพื้นฐานกันก่อนนะครับ
HomeKit allow users to communicate with and control connected accessories in their home using your app. With the HomeKit framework, you can provide a way to configure accessories and create actions to control them. Users can even group actions together and trigger them using Siri.
ระบบ HomeKit ของ Apple นั้นเป็นเฟรมเวิร์กที่ออกแบบมาให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อและควบคุมกับอุปกรณ์ต่างๆ ภายในบ้านได้ สามารถตั้งค่าอุปกรณ์เหล่านั้น สร้างแอคชั่นต่างๆ ที่อยากให้อุปกรณ์นั้นทำ(ในสิ่งที่อุปกรณ์นั้นมีความสามารถในการทำ) และอีกทั้งยังสามารถจัดกลุ่มของอุปกรณ์เข้าด้วยกันพร้อมทั้งสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Siri ได้ทั้ง iPhone, iPad และ HomePod
สิ่งที่จำเป็นต้องมีนั้นมันมาพร้อมใน iOS 11 อยู่แล้วนั่นคือแอป Home เพียงแค่เรามี iPhone, iPad ที่ติดตั้ง iOS 11 ก็จะเห็นแอปนั้นติดตั้งมาแล้วที่เหลือก็แค่หาอุปกรณ์ที่ “Works with Apple HomeKit” ใช้งานร่วมกับระบบ HomeKit ได้ เพียงเท่านี้เราก็จะสนุกกับสิ่งนี้ได้แล้ว
รู้จัก Apple HomeKit กันไปแล้วต่อไปเราไปชมอุปกรณ์ที่จะรีวิวครั้งนี้กันครับ
ตั้งค่าซีน (Scene) ว่า I’m back แล้วให้ Siri เปิดไฟทุกดวงในห้องนั้นๆ พอเราถึงบ้านก็บอก Siri ว่า “Hey Siri I’m back” เพียงเท่านี้ไฟก็จะเปิด
หรือซีน Good Night เราเลือกว่าให้ Siri ปิดไฟทุกดวง จากนั้นถ้าเราจะเข้านอนก็ Siri ว่า “Hey Siri Good Night” เท่านี้ไฟทุกดวงก็จะดับลง
สามารถชมตัวอย่างจริงในคลิปได้เลยครับ
ในส่วนของการใช้งานร่วมกับ Google Assistant นั้นสิ่งที่ต้องมีคือแอป
แอป Google Home ดาวน์โหลดจาก App Store ได้ฟรี ซึ่งแอปนี้จะทำหน้าที่เหมือนแอป Home ของ iOS ที่จะสร้างห้องต่างๆ เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน ห้องครัว ฯลฯ แล้วเราก็เลือกยัดอุปกรณ์ที่เรามีลงในห้องนั้นๆ จากนั้นก็สั่งงานผ่านเสียงได้เลยครับ
บัญชีของ Gmail เพื่อใช้งานระบบ Google Home และ Google Assistant
ขั้นตอนให้เปิดแอป Google Home> เมนูบนขวา> เลือก Home Control> กด + มุมล่างขวาเพื่อเพิ่มอุปกรณ์> เลื่อนลงไปหา Philips HUE ทำการขั้นตอนด้วยการล็อคอินเข้าระบบ
เมื่อได้อุปกรณ์ Philips HUE เข้าบัญชี Google เราแล้วก็ค่อยสร้างห้อง แล้วนำอุปกรณ์ที่เพิ่มในด้านบน ยัดเข้าไปในห้อง
นี่คือสิ่งที่ต้องมีของฝั่งผู้ที่จะใช้ Google Assistant นะครับ หลังจากเพิ่มอุปกรณ์เข้าในไป Home Control แล้วก็สามารถสั่งการผ่านเสียงบนแอป Google Assistant หรือว่าจะผ่าน Google Home ก็ได้เช่นกันครับ
เห็นไหมหละครับว่า Philips HUE ก็ดีไปอย่างที่รองรับหลายๆ ระบบทั้ง Apple HomeKit สำหรับผู้ใช้ Apple และ Google Home สำหรับผู้ใช้ Android และ iOS อย่าง(ผม)เราๆ อีกด้วย
5. การใช้งานร่วมกับ Apple Music และ Spotify
อีกหนึ่งลูกเล่นที่น่าสนใจของหลอดไฟชุดนี้คือสามารถใช้แอปควบคุมให้หลอดไฟเปลี่ยนสีตามจังหวะของเสียงเพลงได้ รองรับการใช้งานได้ทั้ง Apple Music ,Spotify และแอพเพลงอื่นๆ อีกทั้งยังใช้คู่กับการรับชมภาพยนต์ได้ด้วย แต่รีวิวนี้ผมจะพูดถึงแค่การเปิดเพลงเท่านั้น
เรื่องของ Smart Home ก็มีมาให้ชมกันเรื่อยๆ นะครับ ช่วงนี้ผมได้มีโอกาสใช้งาน Smart Home System ของทั้งฝั่ง Apple และ Google วันนี้มีอุปกรณ์หนึ่งชื่อว่า Sensibo Sky มาแนะนำให้ได้รู้จักกัน โดยความสามารถของอุปกรณ์ตัวนี้คือจะเปลี่ยนเครื่องปรับอากาศ(แอร์) ธรรมดาของบ้านเราให้เป็นเครื่องปรับอากาศแบบอัจฉะริยะ ซึ่งมันก็น่าสนใจเป็นอย่างมาก ว่าแล้วไปชมพร้อมกันเลยครับ
แล้วสั่งการด้วยเสียงผ่าน Google Assistant หละทำไง?
หากต้องการสั่งการด้วยเสียงมีทางเลือกคือ
หา Google Home จะรุ่นไหนก็ได้ไม่ว่าจะ mini, Max หรือธรรมดา แต่แนะนำว่า mini พอแล้ว ราคาราว 2,xxx บาท ลองหาดูว่าใครหิ้วมาขาย
หรืออีกทางเลือกคือติดตั้งแอป Google Assisstant จาก App Store มาสั่งแทนได้ ดาวน์โหลดตามบทความนี้
เมื่อได้สิ่งที่ต้องการตามด้านบนแล้ว วิธีการตั้งค่าให้ Google Assistant รู้จักกับ Sensibo ดูได้ผ่านลิงก์นี้ ทำตามนั้นแล้วคุณจะสามารถสั่งให้ Google Assistant เปิด ปิด ปรับอุณหภูมิของแอร์ได้ (สั่งเป็นภาษาอังกฤษนะครับ)
นี่คือตัวอย่างวิดีโอทำสอบการใช้งาน Sensibo Sky โดยผมสั่งการผ่าน Google Home mini ดังที่ได้แจ้งเอาไว้ครับ
ท่านใดสนใจก็ลองหามาใช้งานกันดูได้นะครับ
สรุป โดยส่วนตัวแล้วพอใจกับสิ่งที่ได้นะครับแม้จะต้องลงุทนเยอะพอตัว (ฮ่าๆๆ) อย่างน้อยเป็นการได้ลองใช้งาน Smart Home System ที่สามารถใช้งานได้จริงในบ้านเรา อนาคตคาดว่าจะมีสิ่งอื่นๆ เข้ามามากขึ้นกว่านี้ ถ้าของที่รองรับ Smart Home มันถูกลงมากก็คงจะดีไม่น้อย ตอนนี้หลายสิ่งอันราคาก็ช่างแรงเหลือเกิน
Google เปิดเผยว่า Google Home ผลิตภัณฑ์ประเภทลำโพงอัจฉริยะของตัวเอง สามารถขายได้มากกว่า 1 เครื่องในทุกๆ วินาที นับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เนื่องจากเป็นช่วงที่ Google Home Mini เริ่มวางจำหน่าย Google ไม่ได้ระบุตัวเลขยอดจำหน่ายที่แน่ชัด แต่แหล่งข่าวคาดว่าผลิตภัณฑ์ Google Home ทั้งหมด อาจมียอดขายแตะ 7.5 ล้านเครื่อง
Google Home Mini
เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา Google ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ประเภทลำโพงอัจฉริยะเพิ่มอีก 2 รุ่น คือ Google Home Mini และ Google Home Max โดยเฉพาะรุ่นแรกที่ปัจจุบันมีราคาเพียง 29 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 950 บาท (จากราคาเปิดตัว 49 ดอลล่าร์สหรัฐ หรือราว 1,600 บาท) และมาพร้อมผู้ช่วยดิจิตอล Google Assistant
ปัจจุบัน Google Assistant ถูกนำไปใช้ในอุปกรณ์ราว 400 ล้านเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, สมาร์ทวอทช์ และอุปกรณ์จากบริษัทที่เป็นพาร์ทเนอร์ แม้แต่ iPhone ก็สามารถดาวน์โหลด Google Assistant มาใช้งานได้ฟรี!! จาก App Store นอกจากนี้ Google Assistant ยังถูกฝังอยู่ในผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฮมราว 1,500 รุ่นจากทั้งหมด 225 แบรนด์