คลังเก็บป้ายกำกับ: GOLD

Goldman Sachs ชี้ “บิตคอยน์ไม่ได้คุกคามสถานะของทองคำในการเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อ”

บทวิเคราะห์ล่าสุดจาก Goldman Sachs หลังจากที่ราคาของสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin มีราคาสูงขึ้นนั้นมีมุมมองว่าตัวของ Bitcoin เองจะไม่เข้ามาคุกคามสถานะของทองคำในการเป็นสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อแต่อย่างใด

Cryptocurrency เงินดิจิทัล
ภาพจาก Shutterstock

บทวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ชี้ให้เห็นว่าคุณค่าของ Bitcoin นั้นไม่ได้เข้ามาคุกคามสถานะของราคาทองคำในฐานะที่เป็น 1 ในสินทรัพย์ป้องกันเงินเฟ้อแต่อย่างใด หลังจากที่สกุลเงินดิจิทัลดังกล่าวได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากสถาบันการเงิน หรือแม้แต่บริษัทเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับระบบจ่ายเงินหลายบริษัทได้เริ่มสนใจ Bitcoin เป็นจำนวนมากก็ตาม

แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาเราจะเห็นราคาของทองคำลดลง รวมไปถึงราคาของ ETF ที่ถือสินทรัพย์อย่างทองคำก็ตาม แต่ Goldman Sachs กลับมองว่าราคาที่ลดลงของ ETF รวมไปถึงราคาทองคำในตลาดโลกลดลงจากเหตุผลของวัคซีน COVID-19 ที่เข้ามา ไม่ใช่เหตุผลที่ Bitcoin เข้ามาหักล้างการเป็นสินทรัพย์ทดแทนทองคำแต่อย่างใด

สถาบันการเงินจากสหรัฐรายนี้ได้ให้เหตุผลเพิ่มเติมอีกว่า Bitcoin จะไม่เข้ามาคุกคามสถานะของทองคำ โดยมองว่าราคาของ Bitcoin เป็นไปตามทิศทางเดียวกับราคาของทองแดง ซึ่งทองแดงเองนั้นเป็นสินค้าโภคภัณฑ์หนึ่งที่แสดงถึงการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลก ขณะที่ทองคำเองมีหน้าที่ในการปกป้องและรักษาเงินทุนในระยะยาว

นอกจากนี้แม้ว่าความนิยมใน Bitcoin จะเพิ่มขึ้น แต่ Goldman Sachs มองว่าสถาบันการเงินและบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูงจะยังหลีกเลี่ยงการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากปัญหาของความโปร่งใส ขณะเดียวกันสกุลเงินดิจิทัลซึ่งรวมถึง Bitcoin กลับได้รับความนิยมจากนักลงทุนรายย่อยในการเก็งกำไรเนื่องจากเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง

Goldman Sachs คาดการณ์ราคาทองคำในช่วงปลายปีหน้าจะอยู่ที่ 2,300 เหรียญต่อทรอยออนซ์ จากปัจจัยไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง รวมไปถึงเม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในทองคำจากราคาสินทรัพย์อื่นๆ ที่สูงขึ้นยังคงส่งผลทำให้ทองคำได้รับความนิยมอยู่

ข้อสรุปทั้งหมดดังกล่าวทำให้ Goldman Sachs มองว่า Bitcoin ไม่ได้เข้ามาคุกคามทองคำแต่อย่างใด แต่กลับมองว่าสินทรัพย์ทั้งสองสามารถอยู่ร่วมกันได้

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/bitcoin-not-disrupted-gold-as-inflation-hedge-goldman-sachs-says-19-dec-2020/

ราคาทองคำแท่งล่าสุดแตะ 30,000 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะที่ราคาตลาดโลกยังเพิ่มสูงเรื่อยๆ

ราคาทองคำแท่ง 96.5% ในวันนี้ล่าสุดแตะบาทละ 30,000 เป็นที่เรียบร้อยตามราคาในตลาดโลก บนความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ รวมไปถึงค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง

Gold ทองคำ
ภาพจาก Pixabay

สมาคมทองคำวันนี้ได้ประกาศราคาทองคำแท่ง 96.5% ราคาอยู่ที่บาทละ 30,000 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว หลังจากที่ราคาทองรูปพรรณได้แตะราคานี้ไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมา สำหรับวันนี้นั้นราคาทองคำแท่งมีการปรับราคาขึ้นไปแล้วถึง 5 ครั้งด้วยกัน ก่อนที่จะมีการปรับราคาลงมาเล็กน้อยในช่วง 14:55 น.

ขณะที่ราคาทองคำซื้อขายในตลาดโลกยังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดอยู่ที่ 2,046.4900 เหรียญต่อออนซ์ จากปัจจัยสำคัญคือค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่ยังอ่อนตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ธนาคารกลางของประเทศต่างๆ อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงิน และความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนที่ยังง่อนแง่น

ไม่เพียงแค่ราคาทองคำเท่านั้นแต่โลหะประเภทอื่นๆ เช่น เงิน หรือ พัลลาเดียม ก็มีราคาสูงขึ้นตามทองคำด้วยเช่นกัน

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/thai-gold-price-already-reach-30k-thb-from-weaker-dollar-6-aug-2020/

ทองคำราคาตลาดโลกล่าสุดทะลุ 2,000 เหรียญแล้ว แถมราคายังทำสถิติสูงสุดใหม่

ราคาทองคำซื้อขายในตลาดโลกล่าสุดได้ทะลุ 2,000 เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว ทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง จากปัจจัยเรื่องความขัดแย้งของสหรัฐกับจีน รวมไปถึงสภาพเศรษฐกิจที่ยังอ่อนแอ

Gold Shop ร้านทอง
ภาพจาก Shutterstock

ราคาทองคำในตลาดโลกล่าสุดทะลุ 2,000 เหรียญต่อออนซ์แล้ว โดยราคาทองคำล่าสุดยังได้ทำสถิติใหม่ในรอบปีนี้และยังทำสถิติสูงขึ้นเรื่อยๆ มากกว่าในปี 2011 ที่ผ่านมา ขณะเดียวกันเมื่อนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาทองคำได้สร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนไปแล้วมากถึง 31.32% แล้ว

สำหรับราคาทองคำที่เพิ่มขึ้นนั้นยังวนเวียนอยู่ไม่กี่ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้สภาพเศรษฐกิจทั่วโลกอ่อนแอ การเมืองระหว่างประเทศโดยเฉพาะความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีนที่เพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้น

ขณะเดียวนักลงทุนเริ่มหาสินทรัพย์ปลอดภัยลงทุนมากกว่าเดิม ส่งผลให้ในช่วงที่ผ่านมากองทุน ETF ที่มีสินทรัพย์เป็นทองคำอ้างอิงหลายๆ กองทุนได้ซื้อทองคำเพิ่มเติมจากเม็ดเงินของนักลงทุนที่หลั่งไหลเข้ากองทุน โดยล่าสุดกองทุน ETF ได้ถือครองทองคำมากถึง 3,365 ตันเข้าไปแล้ว

ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ของไทยล่าสุดเมื่อวานนี้ราคาปิดอยู่ที่ 29,050 บาท ต้องมาลุ้นกันว่าราคาทองของไทยจะขึ้นไปได้อีกเท่าไหร่

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/gold-price-reach-2000-usd-new-high-5-aug-2020/

หยุดไม่อยู่ ราคาทองคำแท่งล่าสุดแตะบาทละ 29,050 แล้ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ

ราคาทองคำแท่งยังทำสถิติใหม่ล่าสุดอยู่ที่บาทละ 29,050 แล้ว ท่ามกลางปัจจัยต่างๆ ที่ไม่แน่นอน ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจ หรือแม้แต่การเมืองระหว่างประเทศ

ร้านทอง เยาวราช กรุงเทพ Gold
ภาพจาก Shutterstock

ราคาทองคำแท่ง 96.5% ตามราคาทองตามประกาศของสมาคมค้าทองคำวันนี้ล่าสุดราคาอยู่ที่บาทละ 29,050 แล้ว และเป็นการปรับราคาครั้งที่ 3 ของวันนี้ ส่งผลทำให้ร้านทองต่างๆ ทั่วกรุงเทพมหานครคราคร่ำไปด้วยผู้ที่นำทองมาขายรวมไปถึงผู้สนใจที่จะซื้อทองคำด้วย สาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองขึ้นมาครั้งนี้อยู่ที่ความไม่แน่นอนของปัจจัยต่างๆ ทั้งการเมืองระหว่างประเทศ รวมไปถึงปัจจัยเศรษฐกิจ

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาทองยังขึ้นต่อได้นั้นจากผลของการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลให้ภาคเศรษฐกิจอ่อนแอ รวมไปถึงตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐลดลง ความไม่แน่นอนด้านนโยบายเศรษฐกิจทั่วโลก รวมไปถึงความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐที่มีการตอบโต้โดยปิดสถานกงสุลของทั้ง 2 ฝ่าย

มุมมองของ YLG Bullion ได้วิเคราะห์ในบทวิเคราะห์ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมาว่า ราคาทองคำถ้ายังไม่สามารถทำสถิติใหม่ของวันนี้ได้ แต่ยังทรงตัวพยายามรักษาราคาได้อย่างแข็งแกร่ง ยังมีโอกาสที่ขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่ 1,969-1,981 เหรียญต่อออนซ์ แต่ถ้าหากมีการย่อราคาลงมาจะอยู่ในช่วงแนวรับ 1,945-1,930 เหรียญต่อออนซ์ นอกจากนี้ YLG Bullion แนะนำนักลงทุนตัดขาดทุนถ้าหากราคาทองลงมาต่ำกว่า 1,900 เหรียญต่อออนซ์

ขณะทางด้านของ Globex แนะนำให้ปล่อยให้กำไรวิ่งต่อ หลังจากราคาทองคำสร้างจุดสูงสุดใหม่อีกรอบ โดยล่าสุดราคาทองคำซื้อขายล่วงหน้าในตลาดโลกล่าสุดอยู่ที่ 1,954.20 เหรียญต่อออนซ์ และยังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องจากในปี 2011 เป็นต้นมา

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/thai-gold-price-nearly-30k-thb-on-uncertainty-economic-29-july-2020/

ราคาทองคำตลาดโลกยังพุ่งต่อเนื่อง ทองคำแท่งล่าสุดทำสถิติใหม่อยู่ที่ 28,750 บาท

ราคาทองทำซื้อขายล่วงหน้ในตลาดโลกยังคงทำสถิติใหม่เกิน 1,900 เหรียญต่อออนซ์ไปแล้ว ขณะที่ราคาทองแท่งของไทยก็มีราคาทะลุ 28,000 บาทไปแล้ว จากปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจและการเมือง

ร้านทอง กรุงเทพ Gold
ภาพจาก Shutterstock

ราคาทองคำซื้อขายในประเทศไทยยังคงทำสถิติอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 28,750 บาท ขณะที่ราคาทองคำในตลาดโลกซื้อขายล่วงหหน้านั้น ล่าสุดทะลุ 1,900 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ ซึ่งทำลายสถิติที่ราคาทองคำเคยทำไว้เมื่อปี 2011 ไปได้แล้ว ไม่เพียงแค่นั้นราคาของเงิน ก็ทำลายสถิติที่ทำไว้ในรอบ 7 ปีด้วย

คาดว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้ราคาทองคำ เงิน พุ่งสูงนั้นมาจาก เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ จากผลกระทบ COVID-19 ค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ขณะเดียวกันความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกา-จีน ที่เพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการปิดสถานกงสุลที่ต่างฝ่ายต่างแลกหมัดอยู่ในขณะนี้

นอกจากนี้ยังมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินจากธนาคารของแต่ละประเทศที่ได้อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ภาคการเงินยิ่งผลักดันให้ราคาทองคำและเงินพุ่งตามไปอีก

Christopher Wood หัวหน้านักกลยุทธ์จาก Jefferies ได้กล่าวในบทวิเคราะห์ว่าราคาทองคำอาจมีสิทธิ์ที่จะพุ่งสูงได้ถึง 4,000 เหรียญสหรัฐต่อออนซ์ สอดคล้องกับ Nigam Arora เจ้าของเว็บไซต์ The Arora Report ที่จัดทำบทวิเคราะห์เกี่ยวกับทองคำ มองว่าราคาทองคำในตอนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นของขาขึ้นครั้งใหม่

ที่มา – Business Standard, Livemint

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/gold-price-still-beat-new-high-on-many-factors-27-july-2020/

“สมาคมค้าทองคำ” แจ้งผู้ซื้อขายทองคำแท่งมีส่วนต่าง 300 บาท หลังตลาดผันผวนหนัก

สมาคมค้าทองคำประกาศเพิ่มราคาส่วนต่างในการซื้อขายทองคำแท่งอีก 300 บาทหลังราคาทองคำในตลาดโลกผันผวนหนัก รวมไปถึงปัญหาด้านการขนส่ง นําเข้า-ส่งออกทองคำ

ร้านทอง กรุงเทพ Gold
ภาพจาก Shutterstock

สมาคมค้าทองคําได้ประกาศให้ราคาทองคําแท่งขายออกและราคาทองคําแท่งรับซื้อคืน มีส่วนต่าง 300 บาท หลังจากที่ราคาทองคำที่ซื้อขายในตลาดโลกมีความผันผวน รวมไปถึงปัญหาด้านการขนส่ง นําเข้า-ส่งออกทองคําระหว่างประเทศ ไม่สามารถดําเนินการได้ เนื่องจากการ ลดเที่ยวบิน และมาตรการ การผ่านเข้าออกของแต่ละประเทศที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

ในการประชุมคณะกรรมการของสมาคมค้าทองคํา อันประกอบไปด้วย ผู้ค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้นําเข้าส่งออกทองคํา เพื่อหารือปัญหาดังกล่าวในหลายวาระด้วยกัน ซึ่งเห็นสมควรกําหนดมาตรการเป็นการชั่วคราว เพื่อช่วยให้ตลาดค้าทองคําของประเทศไทย มีความสมดุลและเป็นธรรมโดยอ้างอิงราคาทองคําตามกลไกของตลาดโลก

นอกจากนี้เพื่อให้ภาคธุรกิจค้าทองคําสามารถดําเนินการซื้อขายทองคําภายในประเทศได้ตามปกติ และไม่ให้ผู้บริโภคได้รับผลกระทบจากการซื้อขายที่อาจหยุดชะงักลงจากวิกฤตนี้ การเพิ่มส่วนต่างราคาทองคำจะเริ่มตั้งแต่วันพุธที่ 25 มีนาคม 2553 เป็นต้นไป

ที่มา – ประกาศสมาคมค้าทองคำ

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/thai-gold-trader-association-announce-gold-bullion-spread-added-300-baht-will-effect-today/

ทองคำยังขึ้นต่อเนื่อง ล่าสุดอยู่ที่บาทละ 22,850 บิตคอยน์ก็มาด้วย หลังอิหร่านโจมตีฐานทัพสหรัฐ

ราคาทองคำยังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลังจากที่อิหร่านได้เริ่มโจมตีกลับด้วยการยิงจรวดเข้าไปฐานทัพสหรัฐในอิรัก เพื่อตอบโต้หลังจากที่สหรัฐได้สังหารนายพลคนสำคัญของอิหร่าน

Iran Rocket จรวด อิหร่าน
จรวดของอิหร่านที่ตั้งในพิพิธภัณฑ์ทางการทหารของอิหร่าน – ภาพประกอบบทความจาก Shutterstock

ราคาทองคำแท่ง 96.5% ล่าสุดอยู่ที่บาทละ 22,850 ขณะที่ราคาทองคำซื้อขายในต่างประเทศล่าสุดอยู่ที่ 1,595.05 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ ทำราคาสูงสุดในรอบ 6 ปีครึ่ง หลังจากที่ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มมากขึ้น หลังจากที่อิหร่านประกาศได้ยิงจรวดโจมตีฐานทัพสหรัฐหลายแห่งในอิรัก เพื่อแก้แค้นที่สหรัฐได้สังหารนายพลคนสำคัญ คาเซ็ม ซูลีมานี (Qassem Suleimani)

กองกำลังพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม (IGRC) ได้ประกาศในการยิงจรวดโจมตีฐานทัพของสหรัฐในอิรัก ภายใต้รหัสภารกิจ “Martyr Soleimani” นอกจากนี้ Mohammad Javad Zarif รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่าน ได้กล่าวว่า นี่ไม่ใช่การยกระดับความรุนแรงหรือการทำสงคราม เพียงแต่เป็นการป้องกันตัวเองเท่านั้น และตัวเขาเองยังได้ กล่าวเสริมอีกว่า “สหรัฐทำตัวเหมือนผู้ก่อการร้ายเองด้วย”

อยาโตลเลาะห์ รูห์อัลเลาะห์ โคไมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมากล่าวว่า สหรัฐควรที่จะถอนกำลังออกจากตะวันออกกลางให้หมด นอกจากนี้ยังได้กล่าวเสริมว่าสหรัฐเตรียมกำจัดกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ออกจากเลบานอน เพื่อที่จะช่วยอิสราเอลด้วย

ขณะที่ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาทวีตว่ารับทราบเรื่องที่ฐานทัพสหรัฐในอิรักโดนโจมตีแล้ว และได้กล่าวว่าฐานทัพไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังเตรียมที่จะมีแถลงการณ์ในเช้าวันพรุ่งนี้ (ช่วงค่ำของวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย) ด้วย

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา อิหร่านได้มีแถลงการณ์ประกาศว่าจะไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดต่างๆ ที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อีกต่อไป โดยข้อความในแถลงการณ์ได้พูดถึงเรื่องของ การดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแบบไม่มีข้อจำกัด อย่างไรก็ดี อิหร่านได้กล่าวว่า การเสริมสมรรถนะนี้จะกระทำบนพื้นฐานความจำเป็นด้านเทคนิค

ไม่ใช่แค่เพียงราคาทองคำที่ขึ้นเท่านั้น สินทรัพย์ดิจิทัลอย่างบิตคอยน์ ล่าสุดนั้นราคาก็ขึ้นตามมาด้วยเช่นกัน โดยราคาล่าสุดอยู่ที่ 8,279.6 ดอลลาร์สหรัฐต่อ 1 BTC

ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ซื้อขายล่วงหน้า รวมไปถึงดัชนีตลาดหลักทรัพย์ในเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงถ้วนหน้าเนื่องจากความกังวลถึงเรื่องความตึงเครียดในตะวันออกกลางจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ที่มา – CNBC, NPR, Al Jazeera

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/iran-fires-missiles-at-us-targets-in-iraq-gold-price-and-btc-up-asian-index-down/

น้ำมันยังขึ้นต่อ ทองคำทำสถิติสูงสุดในรอบ 7 ปี หลังอิหร่านประกาศเพิ่มสมรรถนะยูเรเนี่ยม

ราคาน้ำมันและทองคำยังคงมีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่อิหร่านได้ประกาศว่าจะยกเลิกในข้อตกลงนิวเคลียร์ ปี 2015 และจะเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนี่ยม ทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอีก

Oil Gas Flare น้ำมัน
ภาพจาก Shutterstock

ราคาน้ำมันซื้อขายล่วงหน้าล่าสุดยังคงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่อิหร่านได้ประกาศที่จะเพิ่มสมรรถนะของแร่ยูเรเนี่ยม ซึ่งสามารถที่จะนำมาใช้เป็นอาวุธนิวเคลียร์ได้ นอกจากนี้ยังมีการระดมทุนในการสังหารประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ในประเทศอิหร่าน ซึ่งมีค่าหัวประมาณ 80 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลทำให้ความตึงเครียดในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นทันที

ล่าสุดอิหร่านได้มีแถลงการณ์ประกาศว่าจะไม่ปฏิบัติตามข้อจำกัดต่างๆ ที่ระบุไว้ในข้อตกลงนิวเคลียร์ปี 2015 อีกต่อไป โดยข้อความในแถลงการณ์ได้พูดถึงเรื่องของ การดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมแบบไม่มีข้อจำกัด อย่างไรก็ดี อิหร่านได้กล่าวว่า การเสริมสมรรถนะนี้จะกระทำบนพื้นฐานความจำเป็นด้านเทคนิค

ในพิธีฝังศพของ คาเซ็ม ซูลีมานี (Qassem Suleimani) ที่ประเทศอิหร่านนั้น ประชาชนชาวอิหร่านยังได้เดินทางมาร่วมงานอย่างมหาศาล

นอกจากนี้ยังมีการประกาศค่าหัวของประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งประชาชนอิหร่านได้มีการระดมทุนเพื่อที่จะเด็ดหัวผู้นำสหรัฐให้ได้ ขณะที่ประธานาธิบดีสหรัฐเองก็ได้กล่าวว่าสหรัฐเตรียมที่จะจัดหนักถ้าหากอิหร่านทำอะไรลงไป และสหรัฐยังมีอาวุธยุทโธปกรณ์อีกมาก

ขณะที่ประเทศอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเยอรมัน อังกฤษ ฝรั่งเศส ผู้นำของประเทศเหล่านี้ได้ต่างเรียกร้องให้อิหร่านลดการเผชิญหน้ากับสหรัฐในเรื่องนี้ลง โดยแถลงการร่วมดังกล่าวนั้นได้กล่าวถึงการที่อิหร่านและสหรัฐเองควรที่จะลดชนวนความขัดแย้งนี้ลง

ความกังวลที่เกิดขึ้นคือเรื่อของความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอาจทำให้มีโอกาสที่ช่องแคบฮอร์มุซ อาจโดนปิดหรือเรือบรรทุกน้ำมันมีความเสี่ยงทันทีหลังจากความตึงเครียดดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น ทำให้ราคาน้ำมันดิบ West Taxas ล่าสุดอยู่ที่ 63.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยสถิติสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 64.72 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ Brent ซื้อขายในอังกฤษ อยู่ที่ 69.62 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งจุดสูงสุดของวันนี้อยู่ที่ 70.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

ไม่เพียงแค่น้ำมันดิบเท่านั้นแต่ราคาทองคำยังได้ทำสถิติใหม่สูงที่สุดตั้งแต่ปี 2013 ที่ผ่านมา โดยราคาอยู่ที่ 1,580.25 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้นมา 1.79%

ล่าสุด CNN รายงานว่าวุฒิสภาของสหรัฐหลายรายได้ขอให้ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยเรื่องการสังหารคาเซ็ม ซูลีมานี ด้วย

ที่มา – CNBC, CNN, BBC

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/oil-brent-price-touch-70-usd-and-gold-lift-up-after-iran-enrich-uranium-and-pricing-to-kill-trump/

วิเคราะห์เลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐ จะผลกระทบกับตลาดหุ้นทั่วโลก ราคาทองคำ ยังไง?

Brand Inside รวบรวมมุมมองจากสถาบันการเงินเกี่ยวกับการเลือกตั้งกลางเทอมครั้งนี้ จากสถาบันการเงินชั้นนำของโลกไม่ว่าจะเป็น Goldman Sachs รวมไปถึง Citi และมุมมองของสถาบันการเงินในไทยอย่าง บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง และรวมไปถึงธนาคารกรุงศรีอยุธยา

ภาพจาก Unsplash

อีกไม่กี่อึดใจการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐอเมริกาก็จะเกิดขึ้น โดยการเลือกตั้งจะจัดในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน โดยในการชิงคะแนนเสียงครั้งนี้ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญของทั้ง 2 พรรคไม่ว่าจะเป็น พรรครีพับลิกัน รวมไปถึง พรรคเดโมแครต แต่ละฝ่ายพยายามที่จะชิงเสียงไม่ว่าจะเป็นเสียงของสภาผู้แทนราษฎร รวมไปถึง วุฒิสภา เป็นการวัดใจของประธานาธิบดีว่าจะมีความนิยมมากแค่ไหน หลังการทำงานผ่านมา 2 ปี และแน่นอนว่าเรื่องนี้กระทบกับการลงทุนไม่น้อย

สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมนี้จะมีการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎร 435 ที่นั่ง วุฒิสภา อีก 33 ที่นั่ง

ความน่าสนใจในการเลือกตั้งครั้งนี้

ปีนี้ความเข้มข้นของการเลือกตั้งจากฝ่ายเดโมแครตถือว่าสูงมาก เพราะว่าการพ่ายแพ้จากการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่ถือว่าผิดแผนไปอย่างที่คิดมหาศาล ทำให้เกิดผู้สมัครวัยหนุ่มสาวมากขึ้นจากเดโมแครตที่เน้นนโยบายไปทาง Socialist มากขึ้น

นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม Brand New Congress ที่ไม่เชื่อในนโยบายการหาเสียงของพรรคในรูปแบบเดิมๆ และพยายามในการผลักดันคนรุ่นใหม่เข้าสู่สนามเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งหลายๆ คนที่ลงสมัครนั้นยังมีอายุน้อยกว่า 30 ปี แถมยังได้รับชัยชนะจากไพมารี่โหวตอีกด้วย นโยบายที่ผลักดันหลายๆ เรื่องคือไม่ว่าจะเป็น สนับสนุนนโยบายผู้อพยพให้สามารถมีสัญชาติอเมริกันได้ การประกันสุขภาพถ้วนหน้าโดยรัฐ และรวมไปถึง ยกเลิกหนี้การศึกษา 

ขณะที่ฝั่งรีพับลิกันของทรัมป์ก็พยายามผลักดันนโยบายการปฏิรูปภาษี รวมไปถึงการที่จะยกเลิกไม่ให้ผู้อพยพสามารถขอสัญชาติอเมริกันได้ เนื่องจากจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐอาจล่มสลายเพราะผู้อพยพ

ข้อมูลจาก Goldman Sachs

Goldman Sachs มองว่าสภาพตลาดไม่เหมือนเดิม

Ben Snider นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs มองว่าดัชนี S&P 500 ของสหรัฐในปีนี้ไม่เหมือนกับช่วงสมัยที่มีการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐเนื่องจากปัจจุบันมีแรงกดดันจากเรื่องของสงครามการค้า ความไม่แน่นอนทางการเมือง รวมไปถึงนโยบายทางการเงิน

ฉะนั้นแล้วเขาจึงมองว่าถ้าหากจะเก็งกำไรในเรื่องการเลือกตั้งกลางเทอมนี้อาจไม่ใช่เรื่องที่เข้าท่าสักเท่าไหร่ โดยปัจจับสำคัญที่ขับเคลื่อนตลาดในช่วงนี้คือนโยบายทางการเงินมากกว่า และนอกจากนี้การที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ย

ข้อมูลจาก Goldman Sachs

นอกจากนี้ Goldman Sachs ยังได้สัมภาษณ์ Steve Elmendorf ซึ่งอดีตเขาเคยเป็นทีมงานของวุฒิสมาชิก Richard Gephardt ซึ่งเขามีมุมมองว่าพรรคเดโมแครตมีกลยุทธ์ที่แยกออกไปในแต่ละเขต โดยเขาแนะนำให้จับตาพื้นที่เลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรอย่างเช่นบางรัฐที่เดโมแครตเคยแพ้แต่นำผู้สมัครที่น่าสนใจอย่างเช่น ในเมือง Dallas มีอดีตผู้เล่น NFL อย่าง Colin Allred มาลงสมัครและระดมทุนได้เงินมหาศาล เขาเชื่อว่าจะสามารถชนะได้

ถึงแม้ว่าผลสำรวจล่าสุดจะมองว่าพรรคเดโมแครตมีคะแนนสำรวจนำพรรครีพับลิกัน อย่างไรก็ดี Steve มองว่าโอกาสที่เดโมแครตจะชนะแน่นอนไม่แน่เสมอไป เขาได้ยกตัวอย่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2016 ที่ผ่านมาว่าผลสำรวจตอนแรกเดโมแครตมีคะแนนนำ แต่เวลานับคะแนนจริงๆ กลับกลายเป็นว่าทรัมป์ชนะ ซึ่งงานนี้เขามองว่าไม่ง่ายเลย

ส่วนเรื่องความกังวลว่าเดโมแครตจะแก้ไขข้อกฏหมายเรื่องของภาษี Steve มองว่าคงเป็นเรื่องยาก ตราบใดที่ทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดีและรีพับลิกันยังครองเสียงวุฒิสมาชิก

ข้อมูลจาก Citi

Citi มองราคาทองไม่ผันผวน

Citi มองว่า เดโมแครตจะชนะสภาผู้แทนราษฎรส่วนทางด้านรีพับลิกันจะชนะวุฒิสภา มากที่สุด สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสภาผู้แทนราษฎรฝั่งเดโมแครต มีแววที่จะต่อต้านนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ความเสี่ยงอีกเรื่องที่ Citi มองคือมีโอกาสที่เดโมแครตอาจยื่นถอดถอนประธานาธิบดี หรือที่เรียกว่า Impeachment ได้ด้วย และรวมไปถึงไม่ให้เพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลที่อาจทำให้เกิดความเสี่ยงกับเศรษฐกิจสหรัฐได้ แต่คาดว่าทั้ง 2 เรื่องมีโอกาสต่ำมาก

สำหรับค่าเงินในกลุ่ม Emerging Markets ที่รวมประเทศไทยนั้น Citi มองว่าจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่อย่างไรก็ดีค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลงจะเป็นตัวรองรับผลกระทบในเรื่องนี้

ด้านราคาทองคำ Citi มองว่าราคาทองคำรวมไปถึงสินทรัพย์โภคภัณฑ์ไม่น่าจะมีความผันผวนในช่วงการเลือกตั้งกลางเทอม ยกเว้นแต่ว่าพรรคเดโมแครตครองเสียทั้ง 2 สภาเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ราคาโลหะรวมไปถึงทองคำมีราคาสูงขึ้น 3-5%

ข้อมูลจาก Citi

บัวหลวงและกรุงศรีมอง EM ได้ประโยชน์

สำหรับมุมมองของบล.ในไทยอย่าง บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง มีมุมมองว่า เดโมแครตจะชนะสภาผู้แทนราษฎร ส่วนทางด้านรีพับลิกันจะชนะวุฒิสภา มีโอกาสมากที่สุด มากถึง 59% และจะทำให้ตลาดหุ้นในกลุ่ม Emerging Markets ได้ผลดีจากเรื่องนี้ รวมไปถึงหุ้นไทยด้วย เพราะนโยบายต่างๆ ที่ชะลอตัวลงจากเรื่องสงครามการค้า จะทำให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ตลาดหุ้นใน Emerging Markets ได้ประโยชน์

ทางด้านของ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา มองว่า เหตุการณ์สำคัญจะอยู่ที่ผลการเลือกตั้งกลางเทอมสหรัฐฯ ในวันที่ 6 พฤศจิกายน โดยในปัจจุบันพรรครีพับลิกันครองเสียงทั้งในสภาสูงและสภาล่าง แต่คาดว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาคองเกรสครั้งนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น

โดยกรณีที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด คือ พรรคเดโมแครตจะกลับมาครองเสียงในสภาผู้แทนราษฎรแต่วุฒิสภาจะยังคงเป็นของรีพับลิกัน ถ้าหากเกิดสถานการณ์นี้ค่าเงินดอลลาร์จะอ่อนลงเล็กน้อยและเป็นบวกต่อกระแสเงินทุนไหลเข้า Emerging Markets อย่างไรก็ดี ผลกระทบอาจจำกัดเนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่คาดไว้แล้วว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้

ที่มา – บทวิเคราะห์จาก Goldman Sachs, Citi, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา, หลักทรัพย์บัวหลวง

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/analysis-about-us-midterm-election-and-whats-about-all-assets/

ภาพถ่ายเครื่องจำลอง (Dummy) iPhone X สี Gold ที่คาดว่าเป็นสีใหม่ของรุ่นปี 2018

Iphone X 2018 Gold Dummy Model Review

EverythingApplePro ได้พรีวิวเครื่อง Dummy ของ iPhone ใหม่ 2018 โดยในการพรีวิวนั้นมีเครื่อง Dummy ของ iPhone X สี Gold มาให้ชมด้วย

เครื่องจำลอง (Dummy) iPhone X สี Gold

จากในวิดีโอของ EverythingApplePro เราจะเห็นว่าเครื่อง Dummy ของ iPhone X (5.8 นิ้ว) สี Gold นั้นจะออกโทน Copper คือ สีทองแดง ซึ่งเข้มกว่าสี Gold ของ iPhone 8 Plus รุ่นปี 2017

Iphone X 2018 Gold Dummy Model Review 1 Iphone X 2018 Gold Dummy Model Review 2

กรอบเครื่องของ iPhone X Dummy นั้นเป็นสีทองสแตนเลส ดูแล้วสวยงามเข้ากับตัวเครื่องมาก

Iphone X 2018 Gold Dummy Model Review 3

สำหรับ iPhone X รุ่นปี 2017 นั้น Apple เปิดขายเพียงสี Silver, Space Grey เท่านั้น โดยรายงานเผยว่าสี Gold ผลิดยากทำให้ Apple จำหน่ายไม่ทัน แต่บางรายงานบอกว่าเป็นกลยุทธ์ของ Apple ที่อยากขายสี Gold เป็นรุ่นพิเศษ แต่เราก็ไม่ได้เห็น iPhone X สี Gold เปิดขาย

Iphone X Gold Fcc Leak Image

iPhone ใหม่ปี 2018 คาดว่าจะมี 3 รุ่น คือ iPhone OLED 5.8 นิ้ว, iPhone OLED 6.5 นิ้ว ซึ่งอาจมาพร้อมสี Silver, Space Grey และ Gold เป็นสีใหม่ ส่วน iPhone LCD 6.1 นิ้วรายงานบอกว่าอาจมาพร้อมสีใหม่หลายสี ซึ่งต้องติดตามกันเดือน ก.ย. 2018 (ข่าวลือบอกว่า 12 ก.ย. 2018) นี้ว่าจะเป็นอย่างไร

ที่มา – EverythingApplePro 

from:https://www.iphonemod.net/iphone-x-2018-gold-dummy-model-review.html