คลังเก็บป้ายกำกับ: GAMING_NOTEBOOK_2020

MSI Gaming Notebook สเปคแรงลื่น Intel Core i7 + GeForce RTX 2070 เริ่มต้น 48,990 บาท ลดสูงสุด 15,000 บาท คุณภาพจัดเต็ม

MSI Gaming Notebook มีทุกคุณสมบัติสำหรับการเล่นเกมในระดับไฮเอนด์ แน่นอนว่าคงเป็น Gaming Notebook ที่มีสเปคระดับ Intel Core i7 และ Nvidia GeForce RTX 2070 ขึ้นไปเท่านั้น ซึ่งโดยปกติจะอยู่ในช่วงราคา 70,000 บาทขึ้นไป แต่วันนี้ทาง MSI แบรนด์ Gaming Notebook ที่เกมเมอร์ชาวไทยรู้จักกันดี

MSI Promotion i7rtx2070 p1

ได้มีโปรโมชั่นพิเศษสำหรับเกมมิ่งโน้ตบุ๊กตัวเทพ สเปค Intel Core i7 10th Gen และสเปคของการ์ดจอเป็น GeForce RTX 2070 ในราคาเริ่มต้นเพียง 48,990 บาท หากคุณกำลังต้องการ Gaming Notebook ตัวใหม่ ไปดูโปรโมชั่นสุดแรงนี้ของ MSI พร้อมๆ กันเลย!

รีวิว Gaming Notebook MSI GE66 Raider

MSI Promotion i7rtx2070 p2

MSI GE66 Raider เกมเมอร์ต้องถูกใจสิ่งนี้ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวไม่เหมือนใคร จัดเต็มด้วยไฟ RGB สีสดใส ให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมทีน่าทึ่ง มาพร้อมส่วนลดสูงสุดถึง 10,000 บาท ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 67,900 บาท รับฟรี MSI Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

รีวิว Gaming Notebook MSI GS66 Stealth

MSI Promotion i7rtx2070 p3

MSI GS66 Stealth Gaming Notebook สุดเท่ พร้อมให้เกมเมอร์เทใจด้วยดีไซน์ใหม่สุดโดนใจในรูปแบบสีดำสนิท แต่ไม่สามารถปิดความแรงที่แฝงอยู่ข้างใน โดดเด่นในเรื่องการพกพา มาพร้อมมิติเครื่องที่เบาและบาง

สำหรับเกมเมอร์ที่ต้องเดินทางอยู่ตลอดเวลา พร้อมข้อเสนอส่วนลดมูลค่าสูงสุดถึง 10,000 บาท ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 67,900 บาท รับฟรี MSI Stealth Trooper Backpack มูลค่า 1,890 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

รีวิว Gaming Notebook MSI GP65 Leopard

MSI Promotion i7rtx2070 p4

MSI GP65 Leopard Gaming Notebook ที่ประสิทธิภาพเกินราคา มาพร้อมรูปทรงและดีไซน์ที่ดุดัน สมกับคำว่านักล่า ในราคาเป็นกันเองเพียง 57,990 จากราคาเต็ม 59,990 รับฟรี MSI Air Backpack มูลค่า 1,490 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

MSI Promotion i7rtx2070 p5

และน้องใหม่แต่ความแรงไม่เป็นรองใครในโปรโมชั่นนี้ GL Leopard ซีรี่ส์ ที่คราวนี้มาพร้อมการ์ดจอสุดเทพอย่าง GeForce RTX 2070 ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการเล่นเกมสูงขึ้นอีกหลายเท่า รวมถึงฟังก์ชั่นที่เอาไว้สนับสนุนในการเล่นเกมอีกมากมาย ภายใต้ที่สุดของคุ้มค่า ด้วยราคาที่เริ่มต้นเพียง 48,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษ รับฟรี MSI Air Backpack มูลค่า 1,490 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท (*เฉพาะรุ่นที่ร่วมรายการ*)

รีวิว MSI GE66 Dragonshield Limited Edition

MSI Promotion i7rtx2070 p6

Big Surprise ในรุ่น MSI GE66 Dragonshield Limited Edition ที่จัดเต็มความครบครันทั้งด้านเล่นเกมและด้านความสวยงาม พร้อมความ Limited Edition ที่หาไม่ได้กันง่ายๆ ด้วยลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์และมาพร้อมกับชุด Boxset Limited ข้างใน จากราคาปกติ 80,990 บาท ราคาพิเศษเหลือเพียง 75,990 บาท รับฟรี Dragonshield Limited Boxset มูลค่า 7,500 บาท และ MSI Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท

MSI Promotion i7rtx2070 p7

ปิดท้ายแถมด้วย MSI GT76 Titan Gaming Notebook ที่ทรงพลังที่สุดในตอนนี้ มีฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมอย่างครบครัน และประสิทธิภาพที่เรียกว่าเหนือชั้นกว่าเกมมิ่งโน้ตบุ๊กทั่วๆไปหลายขุม ด้วยคุณสมบัติระดับ Intel Core i9 ที่สามารถทำการ Overclock ปลดล็อคความแรงได้

และด้วยการ์ดจอตัวท็อปอย่าง RTX 2080 Super สุดยอดการ์ดจอที่เกมเมอร์ฝันหา มาพร้อมส่วนลดมูลค่า 15,000 บาท จากราคาเต็ม 169,990 ราคาพิเศษเหลือเพียง 154,990 บาท รับฟรี MSI Loot Box No.066 มูลค่า 3,000 บาท,  MSI Urban Raider Backpack มูลค่า 1,890 บาท และ RGB Gaming Mouse M99 มูลค่า 1,290 บาท

สำหรับผู้ที่ต้องการช้อปโปรโมชั่นนี้ สามารถสั่งซื้อได้ที่: https://msi.gm/34xybHK หรือหาซื้อได้ตามหน้าร้านตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีทั่วประเทศไทย

ขอย้ำว่าโปรโมชั่นนี้ มีจำนวนจำกัด สำหรับผู้ที่ซื้อ MSI Notebook รุ่นที่ร่วมรายการระหว่างวันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 – 25 พฤศจิกายน 2563 เท่านั้น!

รายละเอียดโปรโมชั่นเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ MSI Thailand Facebook https://msi.gm/2u6kGeX

หรือโทรสอบถามได้ที่ MSI Call Center: 02-409-2984 (08:30 – 17:30) เวลาทำการ ตั้งแต่วันจันทร์ – ศุกร์ (ยกเว้นวันหยุดราชการ)

from:https://notebookspec.com/web/546974-msi-gaming-notebook-spec-i7-rtx2070-dis

แนะนำ Gaming Notebook ปี 2020 น่าซื้อ ได้แรม 16GB สเปกชิปประมวลผลและการ์ดจอแรงลื่น งบ 25,000 – 40,000 บาท

ในการใช้งาน Gaming Notebook ในปัจจุบัน ต้องยอมรับว่านอกจากชิปประมวลผลและการ์ดจอแยก จะเป็นส่วนสำหรับในการเล่นเกมแล้ว ส่วนประกอบอีกอย่างเช่นแรมก็สำคัญไม่แพ้กัน แม้ตลอดที่ผ่านมากับขนาด 8GB จะเคยพอเพียงการทำงานช่วงหนึ่ง แต่ตอนนี้รูปแบบการใช้งาน โปรแกรม หรือแม้แต่เกมบางเกมก็เปลี่ยนไปแล้ว การที่ Gaming Notebook ที่ให้แรม 8GB มาเดิมอาจจะทำได้แค่เพียงพอ แต่จะดีกว่าถ้าเราได้อัพเกรดแรมเป็น 16GB โดยการเพิ่มแรม 8GB อีกหนึ่งแถวภายหลัง (Dual Channel) เพื่อประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ทั้งเล่นเกมหรือทำงาน

ซึ่งในบทความนี้เราจะมาแนะนำ Gaming Notebook ปี 2020 น่าซื้อ ได้แรม 16GB มาเลยทันที โดยไม่ต้องอัพเกรดเอง สเปกชิปประมวลผล Core i / Ryzen และการ์ดจอแรงลื่นอย่าง GeForce GTX / RTX หรือ Radeon RX 5500M ช่วงงบประมาณในการซื้อ 25,000 – 40,000 บาท ที่หลักๆ แล้วมาพร้อมทั้งที่เก็บข้อมูลแบบ SSD M.2 NVMe ความจุ 512GB ทั้งหมด ได้หน้าจอเป็นมาตรฐาน 14″ / 15.6″ / 17.3″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS โดยติดตั้งระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที ซึ่งจะมี Gaming Notebook รุ่นไหนบ้าง ไปชมกันต่อเลย

MSI Alpha 15 ราคา 25,900 บาท

สำหรับ MSI Alpha 15 ที่เป็น Gaming Notebook ตระกูลใหม่จากทาง MSI โดยเป็นการแยกตัวมาจาก G Series แบบเดิมๆ จัดได้ว่าเป็น Gaming Notebook รุ่นแรกของโลก ที่มาพร้อมกับชิปประมวลผล AMD Ryzen 7 3750H ตัวแรง จับคู่มากับการ์ดจอ AMD Radeon RX 5500M (4GB GDDR6) สถาปัตยกรรม RDNA เทคโนโลยี 7 นาโนเมตร ที่ให้ประสิทธิภาพความแรงใกล้เคียงกับ NVIDIA GeForceGTX 1660 Ti แน่นอนว่าทางฝั่งของ AMD ต้องมาพร้อมกับราคาที่คุ้มค่ากว่า ด้วยราคาเพียง 25,900 บาทเท่านั้น จัดว่าคุ้มค่าสุดๆ ในช่วงราคานี้

ดีไซน์โดยรวมยังคงกลิ่นอายของ MSI G Series ซึ่งมีความใกล้เคียงกับ GL65 มาพร้อมโลโก้ใหม่เป็นรูปนก Phoenix สีเขียว ที่เดิมๆ เป็นมังกร ย้ำให้เห็นถึงความแตกต่างตามสไตล์เอเชีย จากการใช้สเปกเป็น AMD แท้ๆ ทั้งชิปประมวลผลและการ์ดจอที่เชื่อได้ว่าสเปกอื่นๆ ก็คงจัดเต็มไม่แพ้กันอย่างแรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2666 MHz (8GB x 2) และ SSD M.2 NVMe ที่มาตรฐานความจุ 512GB ที่ในส่วนของหน้าจอจะเป็นขนาด 15.6″ แบบขอบจอบาง ความละเอียดที่ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz พร้อมใช้สนับสนุน AMD FreeSync ทำให้ภาพลื่นไหลภาพไม่ฉีกขาด

ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2 ชาแนลแบบ Giant Speaker บนซอฟแวร์เสียง Nahimic 3 ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น USB 3.2 Type-A จำนวน 3 ช่อง, USB 3.2 Type-C หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, SD(XC/HC) card reader, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45

สำหรับ MSI Alpha 15 เป็น Gaming Notebook มาตรฐานปี 2020 ด้วยหน้าจอขนาด 15.6″ ดีไซน์ขอบบางพิเศษ ทำให้มิติตัวเครื่องเทียบกับรุ่นหน้าจอ 14″ เท่านั้น ด้วยน้ำหนักตัวเครื่องเพียง 2.3 กิโลกรัม และมีความบางของตัวเครื่องเพียง 27.5 มิลลิเมตร ทำให้พกพาได้สะดวกอยู่ รอบๆ ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานต่าง ๆได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครอบคลุมถูกจัดวางในส่วนฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของตัวเครื่อง แต่อย่างไรก็ตามต้องยอมรับว่า สเปกภายในจะเป็นแบบรุ่นปีก่อน แต่ก็ถือว่าเป็น Gaming Notebook ที่ได้แรม 16GB มาทันที ในราคาที่ถูกสุดในตลาด

MSI GF63 Thin ราคา 28,900 บาท

ยังคงเป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6″ ปี 2020 ที่แรงลื่นและเบาที่สุดในตลาด กับการมาของ MSI GF63 Thin โดดเด่นความความบางของตัวเครื่อง และมีน้ำหนักเพียง 1.86 กิโลกรัมเท่านั้น เน้นพกพาสะดวก ขอบจอบางมาพร้อมประสิทธิภาพสูง คุณภาพเยี่ยม  แต่ยังได้สเปก Gaming เล่นเกมได้ลื่นไหล ไม่แพ้โน้ตบุ๊คตัวหนักๆ หนาๆ เลย อัพเดทเป็นชิปประมวลผล Intel Core i7-9750H และการ์ดจอ NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti Max-Q ซึ่งแม้ชิปประมวลผลจะเป็นรุ่นปีก่อน แต่ได้การ์ดจอรุ่นใหม่สุด ตอกย้ำความเป็น MSI Gaming ที่มีการผสมลงตัวในราคาที่คุ้มค่า

นอกจากนั้น MSI GF63 Thin จัดเต็มด้วยสเปกอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอพาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 120Hz ให้ความลื่นไหลสบายตา พร้อมได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2666 MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ที่ 512GB ตอบสนองทุกการใช้งานได้อย่างราบรื่น รวดเร็ว ออกแบบโน้ตบุ๊ครุ่นนี้ให้มีความสวย ทันสมัยให้ความแข็งแรง ทนทาน เพิ่มความโดดเด่น ใช้งานง่ายและสะดวก ทำให้ MSI GF63 Thin เป็นโน้ตบุ๊คเล่นเกมน่าซื้อที่สุดรุ่นนึงทีเดียว ในราคาเพียง 28,900 บาท

ลำโพงทำงานร่วมกับซอฟแวร์ของ Nahimic เวอร์ชั่น 3 ทำให้สามารถขับเสียงได้ดียิ่งกว่าเดิม พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอล 2 ตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง HDMI, 3 x USB 3.2 Type-A Gen 1, USB 3.2 Type-C Gen 1, Kensington lock slot, LAN RJ-45, HDMI, รูหูฟังกับไมค์แบบแยกออกจากกัน พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX + Bluetooth 5.1 น้ำหนัก 1.86 กิโลกรัม พร้อม Windows 10 แท้

หน้าตาการออกแบบเอง MSI GF63 Thin ปี 2020 ต้องบอกว่ามีลักษณะรูปทรงคล้ายเดิมทั้งหมดทั้งในส่วนของดีไซน์ภายนอกภายใน ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าทำได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ด้วยความโดดเด่นที่สวยดุดันตามสไตล์ของ Gaming Notebook ที่บรรดาเกมเมอร์ชื่นชอบกัน โดย MSI GF63 Thin ใช้เป็นโทนสีดำตลอดทั้งตัวเครื่องตัดกับสีแดงเช่นเดิม ซึ่งต้องยอมรับว่าโดยรวมนั้นดีอยู่แล้วแม้เป็น Gaming Notebook หน้าจอขนาด 15.6 นิ้ว ซึ่งขอบจอ Thin Bezel บางมากเพียง 4.9 มิลลิเมตร เท่านั้น บางมากๆ จนคิดว่าจอ 14 นิ้วด้วยซ้ำ สำหรับระบบระบายความร้อนจะเป็นพัดลมตัวเดียว แต่ก็ควบคุมได้ดี

Acer Nitro 5 AN515-55 ราคา 31,900 – 35,900 บาท

Acer Nitro 5 (2020) หรือ Acer Nitro 5 AN515 สเปกใหม่ล่าสุด ได้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H พร้อมการ์ดจอ GeForce รุ่นล่าสุด จากที่รุ่นก่อนๆ เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง ซึ่งล่าสุดทาง Acer ประเทศไทยก็พร้อมขาย Acer Nitro 5 รุ่นใหม่ ที่ได้รับการพัฒนาหลายๆ ส่วนแล้ว อาทิ ดีไซน์ภายนอก คีย์บอร์ดไฟ RGB และอื่นๆ เป็นการต่อยอดพร้อมแข่งกันกับ Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ ในราคาเริ่มต้นที่ 31,900 บาทเท่านั้นเอง

สเปกภายในของ Acer Nitro 5 (2020) เลือกใช้ชิปประมวลผล Intel Core i 10H อย่าง Core i5-10300H ที่ทำงานด้วยความเร็ว 2.50GHz – 4.5GHz แบบ 4 คอร์ 8 เธร์ด กับคู่มากับการ์ดจอตัวแรงอย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti (4GB GDDR5) หรือ RTX 2060 (6GB GDDR6) ส่วนแรมได้มาตรฐานเป็นขนาด 16GB แบบ DDR4 Bus 2933MHz ทันทีแบบไม่ต้องอัพเกรดกันให้เสียเวลา มีที่เก็บข้อมูลเป็น SSD มาตรฐาน M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB (รองรับการอัพเกรด SSD M.2 / HDD 2.5″ SATA3 ภายหลัง) พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที

หน้าจอขนาด 15.6″ แบบ Screen-to-Body เป็น 80% ด้วยขอบจอบางเพียง 7.02 มิลลิเมตร บนความละเอียด Full HD (1920×1080 พิกเซล) ที่เลือกใช้ พาเนล IPS ให้มุมมองที่คมชัด สีสันสวยสดงดงามสมจริง Refresh Rate ที่ 144Hz แบบ 3ms ให้การแสดงผลได้ลื่นไหลกว่ารุ่น 60Hz โดยพื้นผิวจอเป็นแบบจอด้าน Anti-Glare ช่วยลดแสงสะท้อนเวลาเรานำโน้ตบุ๊คไปทำงานข้างนอก เหมาะกับการใช้งานทั่วไปหรือการเล่นเกม ดูหนังก็ทำได้ย่อมทำได้อย่างน่าประทับใจ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra

มีพอร์ตเชื่อมต่อที่ครบครันอีกรุ่นเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น 3 x USB 3.2 Type-A (1 พอร์ตเป็นแบบชาร์จเจอร์ด้วย), 1 x USB 3.2 Type-C, 1, HDMI 2.0, RJ45 (Gigabit Ethernet) พร้อมด้วยความสามารถ Killer Ethernet E2600 เพื่อการเล่นเกมออนไลน์ที่ลื่นไหล และ Mic-in/Headphone-out แบบ Combo การเชื่อมต่อไร้สายอย่างรองรับทั้ง Bluetooth 5.0 และอินเตอร์เน็ตไร้สายอย่าง Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงทั้งหมดด้วยพอร์ตที่ครบครัน โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 คอยควบคุมด้วย

ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 ราคา 39,900 บาท

ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 เป็น Gaming Notebook ปี 2020 หน้าจอ 14″ ที่แรงที่สุดในโลก ได้สเปก AMD Ryzen 7 4800HS  ซึ่งเป็นชิปประมวลผลรุ่นใหม่สุดแรงสุด ทำงานแบบ 8 คอร์ 16 เธรด เทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร พร้อมการ์ดจอประสิทธิภาพสูงรุ่นใหม่อย่าง NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti จัดเต็มเลยการเล่นเกมหรือทำงาน มารวมตัวกันใน ASUS ROG Zephyrus G14 ที่เป็น Gaming Notebook ที่อยู่ในซีรีส์พรีเมียมของ ASUS ที่เน้นความพรีเมียม บางเบา แบตยาวนาน ทำงานก็ดีเล่นเกมก็ได้ โดยมีน้ำหนักเบาแค่ 1.6 กิโลกรัม เน้นพกพาสะดวกตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดกว่า 15.6″ พอตัว อีกทั้งมีปุ่ม Power ทำหน้าที่ Fingerprint ด้วย

โดย ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 สนนราคาที่ 39,990 บาท ใช้วัสดุฝาหลังเป็นโลหะผ่านกระบวนการขึ้นรูปเจาะ CNC ที่เรียบเนียนสวยงาม ส่วนสเปกอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน โดยสามารถติดตั้งแรมมาขนาด 16GB Bus 3200 MHz อีกทั้งได้ที่เก็บข้อมูลมาเป็นแบบ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB สำหรับหน้าจอเป็นขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง sRGB เกือบ 100% แสดงผล Refresh Rate ที่ 120Hz ลื่นไหล แน่นอนว่ามาพร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ใช้ได้ทันที และได้ประกันก็เป็น 2 ปีตามาตรฐาน ASUS ที่สามารถเคลมผ่านทางร้าน 7-11 ได้ และประกันอุบัติเหตุในปีแรกด้วย

มีระบบเสียง Dolby Atmos ลำโพงเป็น 2.2 Channel พร้อมพอร์ตการเชื่อมต่อครบครัน ทั้ง 2 x USB 3.2 Gen 2 Type-A และ 2 x USB 3.2 Gen2 Type-C โดยทำงานเป็น DisplayPort 1.4 และชาร์จไฟผ่านทาง USB PD ได้ ระบบการเชื่อมต่อไร้สายเป็นมาตรฐานใหม่อย่าง Intel Wi-Fi 6 with Gig+ (802.11ax) และ Bluetooth 5.0 พร้อมติดตั้งระบบปฎิบัติการติดตั้ง Windows 10 แท้ และซอฟต์แวร์ Utility อย่าง Armory Crate มาให้ในตัว โดยมีข้อสังเกตที่น่าสนใจคือไม่ได้ติดตั้งกล้องเว็บแคมมา ถ้าใครจะใช้ต้องหามาติดตั้งเอง

ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 เป็นซีรีส์ ROG ที่เน้นความบาง ที่ 17.9 – 19.9 มิลลิเมตร  มาพร้อมน้ำหนักเบาที่ 1.6 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางเฉียบที่ 6.9 มิลลิเมตร ขนาด 14″ ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 120Hz ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ด้วยวัสดุฝาหลังเป็นโลหะแม็กนีเซียมอัลลอยด์ให้ดีไซน์ที่ไม่เคยมีมาก่อนใน ROG ที่เน้นความเรียบง่ายสุดๆ ดูแล้วมีความสดใหม่ เรียกได้ว่าดูแล้วมีความเฉียบแต่เรียบง่ายสไตล์สายทำงานที่เน้นการพกพายิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming Series ที่เน้นคุ้มค่า

เหมาะทั้งคนเอาไปทำงานหรือเล่นเกมที่ดูแล้วทันสมัยสุดๆ ตัวเครื่องมี 2 สีสันให้เลือกคือ สีขาวเงิน (Moonlight White) และดำเทา (Eclipse Grey) เลือกใช้วัสดุตัวเครื่องเป็นโลหะส่วนของชิ้นฝาหลัง โดยมุมซ้ายล่างจะเป็นแผ่นสีเงิน ROG ส่วนด้านในเป็นพลาสติกคุณภาพสูง มีความแข็งแรงทนทานประมาณนึง โดยยังคงไว้ซึ่งการออกแบบที่สวยงามทันสมัยพรีเมียม ทั้งนี้ทั้งนั้นฝาหลังเป็นโลหะผ่านกระบวนการขึ้นรูปเจาะ CNC ที่เรียบเนียนแม่นยำ พร้อมแผ่นโลหะสีเงินมันวาวที่มุมซ้ายล่างบ่งบอกความเป็น ROG สุดๆ สมกับเป็นการออกแบบและวิศวกรรมที่เป็นสัญลักษณ์แห่งคุณภาพของ Zephyrus Series ที่แตกต่างไม่ซ้ำใคร

Lenovo Legion 5i (จอ 17.3″) ราคา 39,990 บาท

Lenovo Legion 5i รุ่นที่นำมาแนะนำนับได้ว่าเป็น Gaming Notebook ประจำปี 2020 ที่ได้รับความสนใจพอตัว ด้วยความแตกต่างจากรุ่นอื่นๆ ในตลาด อย่างดีไซน์ภายนอกที่เป็นเอกลักษณ์ มี DNA ที่เป็น Legion Series ชัดเจน รวมถึงมีสเปกชิปประมวผล Intel Core i Gen 10H ที่ทรงประสิทธิภาพ อย่าง Core i7-10750H พร้อมฟีเจอร์ที่จัดเต็มมากมาย และมีขนาดหน้าจอใหญ่ 17.3″ แน่นอนว่าเลือกใช้การ์ดจอแยกเป็น NVIDIA GeForce GTX 1650 Ti ที่มีพลังแรงไว้ใจได้ ติดตั้งแรมเป็น 16GB DDR4 Bus 2933MHz ผสานกับ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB มี Windows 10 แท้ใช้งานได้ทันที

สำหรับ Lenovo Legion 5i นั้นเรียกได้ว่ามาครบเครื่องเป็นโน้ตบุ๊คสำหรับการเล่นเกม ซึ่งรุ่นที่แนะนำเป็นขนาดหน้าจอ 17.3″ พาเนล IPS คุณภาพดี Refresh Rate ที่ 144Hz / 3ms มีความลื่นไหลสบายตา ได้ขอบจอบางเฉียบ มิติตัวเครื่องเล็กกระชับ ลงตัวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนรับรองได้ว่ามันสามารถที่จะสร้างประสบการณ์ในการเล่นเกมแบบใหม่ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างสบายๆ นอกจากเล่นเกมได้ดีแล้ว ยังรองรับทั้งการทำงานที่ต้องการประสิทธิภาพที่สูง อย่างตัดต่อวีดีโอ หรือเรนเดอร์ 3 มิติ ก็เอาอยู่ สนนราคาเพียง 39,990 บาท ได้ประกัน 2 ปี On-site ซ่อมฟรีถึงบ้าน และบริการอื่นๆ อย่างประกันอุบัติเหตุ หรือเครื่องสำรองระหว่างซ่อมด้วย

แน่นอนว่าสเปกแบบนี้ใช้งานทั่วไปพื้นฐานลื่นไหลแน่นอน รวมไปถึงเล่นเกมหรือทำงานหนักๆ ก็ดีเยี่ยมมากๆ พร้อมด้วยกล้องเว็บแคม HD (720p) และมีไมค์ดิจิตอลในตัว ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง 1 x USB 3.1 Type-C, HDMI, 4 x USB 3.1 Type-A, Kensington lock slot, RJ-45 , Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX 

ตอกย้ำการออกแบบและดีไซน์ตัวเครื่องไม่ว่าจะเป็นสีสันที่เป็นตัวเครื่องเลือกที่จะให้มีความเรียบง่าย อย่างสีดำด้านออกเทาๆ เวลาที่โดนกับแสงตลอดทั้งตัวเครื่องโดยมีชื่อสีว่า Phantom Black  โดยมีโลโก้ Legion ที่ฝาหลังและบานพันแบบแกนเดียวขนาดใหญ่เป็นสีไทเทเนียม พร้อมกันนั้นก็มีโลโก้ของ Lenovo อยู่ 2 ตำแหน่งคือฝาหลังและด้านในตัวเครื่อง ส่วนด้านล่างตัวเครื่องก็จะเป็นช่องดูลมเย็นขนาดใหญ่ พร้อมยางรองยกตัวเครื่องให้สูงขึ้น โดยมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 2.98 กิโลกรัม ซึ่งนับว่าพอรับได้ในการพกพา

โดดเด่นด้วยการอัพเกรดระบบควบคุมอุณหภูมิและระบายความร้อน Lenovo Legion Coldfront 2.0ให้ระบบระบายความร้อนที่ดีขึ้น ผ่านใบพัดโพลีเมอร์คริสตัลเหลว 67 ใบและท่อนำความร้อนแบบทองแดง ทำให้ระบายความร้อนได้รวดเร็วมากขึ้น เพื่อระบายความร้อนออกสู่ภายนอกให้เร็วที่สุด ด้วยพัดลม 2 ตัว ฮีท์ไปป์ขนาดใหญ่ 3 เส้นพร้อมแผ่นโลหะที่ Cover ทั้ง CPU / GPU แบบเต็มพื้นที่ ทำงานร่วมกับช่องระบายความร้อน 4 ทิศทาง ขณะเดียวกันไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวนที่ดังเกินไป โดยยังให้ประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมอยู่

from:https://notebookspec.com/introducing-gaming-notebook-2020-worth-buying-ram-16gb-spectrum-processor-chip-and-graphics-card-budget-25000-40000-baht/528169/

Gaming Notebook น่าซื้อปี 2020 การ์ดจอ GeForce RTX 20 / RTX 20 Super ฟรีเกม Death Standing (มูลค่า 1,890 บาท) ที่มาพร้อมลื่นไหล สวยงามที่มากกว่า เริ่ม 35,900 บาท

Gaming Notebook ปี 2020 ที่ได้ประสิทธิภาพทรงพลังพร้อมฟีเจอร์จัดเต็ม ทั้งหมดจะติดตั้งมาพร้อมกับการ์ดจอแยก (GPU) NVDIA GeForce RTX 20 / RTX 20 Super จากเทคโนโลยีการผลิตสถาปัตยกรรม Turing ที่ดีเยี่ยม รองรับการเล่นเกมทุกๆ เกมบนโลกแบบลื่นไหลสุดๆ อีกทั้งให้ความสำคัญเรื่องความสวยงามด้วย โดยมีรุ่น RTX 2060 / RTX 2070 / RTX 2080 / RTX 2070 Super / RTX 2080 Super เน้นไปที่ Gaming Notebook ที่ออกแบบมาให้มีประสิทธิภาพสำหรับการเล่นเกมระดับสูงโดยเฉพาะ แน่นอนว่าเหนือกว่าในกลุ่มของ GTX 1650 / GTX 1650 Ti / GTX 1660 Ti นั่นเอง

ซึ่งจับคู่มากับชิปประมวลผลที่ทรงพลังอย่าง Intel Core i Gen 10H (Comet Lake H) และ AMD Ryzen 4000H รุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้มีการปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้น อาทิ Core i5-10300H / Core i7-10750H / Core i7-10875 ที่แรงลื่นกว่ารุ่นก่อนๆ รวมไปถึงมีรุ่นแรงสุดทางด้วย Core i9-10980HK และ Ryzen 7 4800H / Ryzen 7 4800HS / Ryzen 9 4900H / Ryzen 9 4900HS พร้อมแรม 16GB – 32GB และ SSD 512GB – 1TB ฉะนั้นแล้วใครจะซื้อ Gaming Notebook ระดับสูง สเปกอื่นๆ นอกจากการ์ดจอก็สำคัญไม่แพ้กัน

โดยในบทความนี้เราจะมา แนะนำ Gaming Notebook น่าซื้อปี 2020 ได้การ์ดจอ GeForce RTX 20 / RTX 20 Super ฟรีเกม Death Standing (มูลค่า 1,890 บาท) ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยี DLSS 2.0 ที่เพิ่มความสมจริงให้กับเกม ซึ่งโปรโมชั่นระหว่างวันที่ 9 – 29 กรกฎาคมนี้เท่านั้น (รายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่นี่) พร้อมจับมือผู้ผลิตทุกค่ายไม่ว่าจะเป็น Acer / ASUS / MSI / Lenovo / Dell และอื่นๆ ในการนำเสนอ Gaming Notebook ระดับสูง ที่จับคู่มากับชิปประมวลผลและการ์ดจอแยกระดับไฮเอนด์ ได้หน้าจอเกรดสูงทั้งหมด สนนราคาตั้งแต่ 3x,xxx ขึ้นไป จะมีรุ่นอะไรบ้าง ไปชมกันต่อเลย

***รับเกม Death Stranding สำหรับพีซี เมื่อซื้อกราฟิกการ์ด เดสก์ท็อปเกมมิ่ง หรือแล็ปท็อปเกมมิ่ง GeForce RTX ซีรีส์ 20 ที่ร่วมรายการ ภายในระยะเวลาจำกัดเท่านั้น จำกัด 1 รหัสต่อ 1 ท่าน เป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไข

Acer Nitro 5 (RTX 2060) ราคา 35,900 บาท

Acer Nitro 5 (2020) หรือ Acer Nitro 5 AN515 สเปกใหม่ล่าสุด ได้ชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H ตอนนี้พร้อมขายอย่างเป็นทางการหลากหลายรุ่นแล้ว โดยผสานความแรงร่วมกับการ์ดจอ GeForce รุ่นล่าสุด ซึ่ง Acer Nitro 5 เป็นหนึ่งใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ราคาคุ้มค่า ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ ทั้งจากสเปกที่แรงลื่นหลากหลาย อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ที่จัดเต็ม และประกัน 3 ปี On-site Serive ที่ดีเยี่ยม หรือส่งศูนย์ซ่อมด่วน 3 ชั่วโมง

สำหรับ Acer Nitro 5 ปี 2020 รุ่นราคา 35,900 บาท จะมีชิปประมวลผล Core i5-10300H เป็นขุมพลังหลัก ทำงานร่วมกับการ์ดจอระดับ Gaming ที่แรงที่สุดในรุ่นอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2060 (6GB GDDR6) ที่แรงลื่นกว่าเดิมแน่นอน และแรงกว่ารุ่นรองอย่าง GTX 1650 (4GB GDDR5) / GTX 1650 Ti (4GB GDDR6) แบบรู้สึกได้ในการเล่นเกม โดยในการทำเฟรมเรทที่ลื่นไหล

รวมไปถึงสามารถเปิดฟังค์ชั่นภาพที่สวยงาม Ray Tracing / DLSS (Deep Learning Super Sampling) ได้อีกด้วย ในส่วนของแรมจัดเต็มมาให้เลยที่ 16GB DDR4 Bus 2933MHz แบบ 1 แถว ส่วนที่เก็บข้อมูลให้มามาตรฐาน SSD M.2 NCMe PCIe ความจุ 512GB หน้าจอเป็นพาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ให้ความลื่นไหลทั้งการเล่นเกมหรือทำงาน แน่นอนว่าได้ Windows 10 ใช้งานได้ทันที

นอกจากนี้ยังมีไฟคีย์บอร์ด RGB แบบ 4 โซน คล้ายกับที่เคยมีมาในรุ่นพี่อย่าง Predator Series ปรับแต่งได้อิสระประมาณนึง และได้การตอบสนองของปุ่มแบบทันทีด้วยระยะการกด 1.6 มม. เสริมอารมณ์ในการเป็น Gaming Notebook ไปอีกระดับ ลำโพงของตัวเครื่องใช้เป็นแบบสเตอริโอ โดยมีระบบเสียง DTS:X Ultra ให้เสียงจะชัดเจนและสามารถจำลองระบบเสียงรอบทิศทาง 3 มิติได้ รวมไปถึงมีเทคโนโลยี Acer CoolBoost และช่องระบายความร้อนแบบจัดเต็ม 4 ช่องทาง แบ่งเป็นทางด้านหลัง 2 ช่อง และซ้ายขวาอย่างละ 1 ช่อง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและระบายความร้อนด้วยพัดลมคู่ ซึ่งดีเยี่ยมกว่ารุ่นก่อนหน้าเช่นกัน

เอาเป็นว่าเพื่อนๆ ท่านไหนที่สนใจ Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 15.6″ ได้ดีไซน์ใหม่ที่จัดว่ามีการอัพเกรดให้ดู Gaming มากยิ่งขึ้น โฉบเฉียวมากยิ่งขึ้น พร้อมแซมสีแดงให้ดูโดดเด่น เน้นให้ประสิทธิภาพความแรงที่สดใหม่ล่ะก็ Acer Nitro 5 รุ่นนี้ น่าจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งทีเดียว จากราคาและสเปกคุ้มๆ ได้หน้าจอเทพๆ ทั้งลื่นไหลและค่าขอบเขตสีที่ดีมากๆ

รวมไปถึงการทดสอบใช้งานจริงต้องบอกว่าแบตเตอรี่ใช้งานได้ประมาณ 6 ชั่วโมง ในส่วนนี้ก็ถือว่าทำได้ดีกว่า Gaming Notebook พอตัว พร้อมการอัพเกรดอินเตอร์เน็ตไร้สายเป็น Wi-Fi 6 AX ที่มีเทคโนโลยี 2×2 MU-MIMO ที่ดีกว่า และ LAN RJ45 ก็เป็น Killer Ethernet E2600 โดยมีซอฟต์แวร์ Killer Control Center 2.0 ตรงนี้เหนือชั้นกว่ารุ่นอื่นๆ ชัดเจนทีเดียว

Core i5-10300H / RTX 2060 / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 144Hz ราคา 35,900 บาท

ASUS TUF Gaming A15 FA506 (RTX 2060) ราคา 39,990 บาท

เป็นอีกหนึ่ง Gaming Notebook ที่หลายคนรอคอยมาอย่างแท้จริง อย่าง ASUS TUF Gaming A15 FA506 ใช้สเปกเป็นชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000H ตัวแรงสุดๆ อย่าง Ryzen 7 4800H ด้วยเทคโนโลยีการผลิต 7nm (Renoir) จับคู่มากับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2060 ประสิทธิภาพสูง สมกับเป็นรุ่นท็อปสุดในตระกูล ASUS TUF Gaming A15 FA506 ณ ตอนนี้ สนนราคาอยู่ที่ 39,990 บาท กับต่อยอดความสำเร็จมาจาก ASUS TUF Gaming FX505 รุ่นปีก่อน ที่ประสบความเร็จเป็นอย่างดี โดยนอกจากการตีบวกยัดสเปคจัดเต็มแน่นเอียดในราคาสุดคุ้มเหมือนเดิม

ส่วนสเปกอื่นๆ มีหน่วยความจำแรมขนาด 16GB มาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz และมี SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 1TB มาให้ด้วย ส่วนหน้าจอก็ขนาด 15.6″ความละเอียด Full HD พาเนล IPS รองรับที่ 144 Hz มีเทคโนโลยี Adaptive Sync ให้ภาพลื่นไหลไม่ฉีกขาด พร้อมระบบปฏิบัติการ Windows 10 ได้ประกัน 2 ปี แบบ Global Warranty และประกันอุบัติเหตุ Perfect Warranty 1 ปีแรก พร้อมบริการด้วย 7-11 droppoint กว่าหมื่นสาขาทั่วประเทศไทย

ASUS TUF Gaming A15 FX506 โดดเด่นด้วยดีไซน์ใช้สีสัน Fortress Gray โดดเด่นด้วยฝาโลหะพ่นทรายให้พื้นผิวสีเทาที่สวยงาม โลโก้ TUF Gaming ที่เรียบหรูสลักด้วยเลเซอร์ทำให้ดูโดดเด่นยิ่งขึ้น พร้อมการออกแบบสไตล์รังฝังที่ยอมรับว่าสวยงามจริงๆ แน่นอนว่าด้วยความที่เป็น TUF Gaming ก็จะได้รับการรับรองตามมาตรฐานทางการทหาร MIL-STD-810H โดยสามารถทนต่อแรงสั่นสะเทือน, อุณหภูมิและความชื้นสูง ส่งผลให้มีความทนทานกว่า Gaming Notebook ทั่วไป รวมไปถึงมีไฟ RGB คีย์บอร์ด และตัวคีย์บอร์ดก็ตอบสนองพร้อมความทนทานที่เยี่ยมยอด

สุดทางกันไปเลยสำหรับสเปกตัวท็อป (ในตอนนี้) เพราะขยับการ์ดจอมาเป็นระดับ GeForce RTX 2060 ที่ตอบโจทย์เรื่องของความแรงและกราฟิกที่สวยงาม เพราะรองรับเทคโนโลยีต่างๆ อีกทั้งยังได้แรมมาเลยที่ขนาด 16GB แบบ 8GB x 2 แถว และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุสูงที่ 1TB ส่งผลให้ ซื้อไปแล้วในงบไม่เกิน 40,000 บาท น่าจะเป็น Gaming Notebook ที่แรงสุดแล้วก็ว่าได้

ASUS ROG Strix G17 GL742 (RTX 2070) ราคา 54,900 บาท

ASUS ROG Strix G17 GL742 เป็น Gaming Notebook ที่มีสเปกอัพเดทเป็นชิปประมวลผล Intel Core i Gen 10H เน้นความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่มากกว่า โดดเด่นด้วยไฟคีย์บอร์ด RGB พร้อม Surrounded Light Bar รอบตัวเครื่อง ที่เราสามารถปรับแต่ได้ นอกจากนี้ยังมาพร้อมความสดใหม่ด้วยระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ ROG Intelligent Cooling ที่ทำงานร่วมกับสารโลหะเหลว (liquid metal) จากทาง Thermal Grizzly เพื่อเป็นตัวช่วยในการระบายความร้อนให้กับชิปประมวลผล แทนการใช้ซิลิโคนนำความร้อนแบบปกติ

สำหรับ ASUS ROG Strix G17 GL742 โน้ตบุ๊คเล่นเกมจอ 17.3″ สเปกระดับบนในราคาคุ้มค่า ได้ชิปประมวลผลตัวแรง Intel Core i7-10750H ที่ทำงานแบบ 6 คอร์ 12 เธร์ด พร้อมด้วยการ์ดจอประสิทธิภาพสูงอย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 (8GB GDDR6) ได้แรมขนาด 16GB DDR4 Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB อีกทั้งได้หน้าจอเป็น 17.3″ Full HD พาเนล IPS รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz แบบผิวด้าน ให้สีสันการแสดงผลในเกณฑ์ดีน่าประทับใจอย่างที่สุดทั้งเล่นเกมหรือทำงาน

ส่วนการเชื่อมต่อก็มีมาอย่างครบถ้วน ทั้ง USB 3.1 Type-C, HDMI, 3 x USB 3.0, Kensington lock slot , SD Card Reader, RJ-45, Headset พร้อมยังรองรับมาตรฐานการเชื่อมต่อไร้สายอย่าง Bluetooth 5.0 และ Wi-Fi 6 AX (2×2) แน่นอนว่าได้ Windows 10 แท้ ใช้งานได้ทันทีตั้งแต่เปิดเครื่องในครั้งแรก กับราคาเพียง 54,900 บาท ที่บอกได้เลยไม่แพงเลย ถ้าดูจากสเปกและฟีเจอรที่ติดตั้งมาให้แล้ว โดยได้ประกัน 2 ปี ที่สามารถเคลมผ่าน 7-11 ได้ ปีแรกมีประกันอุบัติเหตุด้วย

ดีไซน์โดยรวมของ ASUS ROG Strix G17 GL542 เป็น Gaming Notebook ขอบจอบางตัวเครื่องมิติเล็กกระชับทั้ง 3 ด้าน คือ บน ซ้ายและขวา พร้อมตัดกล้องเว็บแคมออกไป มีน้ำหนักอยู่ที่ 2.85 กิโลกรัม มีความบางสุดที่ 21~25.8 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าโดยรวมมาพร้อมกับดีไซน์การออกแบบ ได้รับ DNA เต็มๆ มาจาก ASUS ROG Strix รุ่นก่อน ซึ่งมีความพิเศษสุดๆ คือได้ทาง BMW Designworks Group มาร่วมออกแบบด้วย เห็นได้ชัดจากชุดระบายความร้อนด้านหลังที่เป็นครีบคล้ายกับเสื้อสูมมอเตอร์ไซต์จาก BMW เรียกได้ว่ายกระดับขึ้นไปอีกขั้น

ASUS Zephyrus G14 GA401 (RTX 2060 Max-Q) ​ราคา 64,900 บาท

ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 นับว่าเป็นการเขย่าวงการ Notebook เป็นอย่างมาก จากการที่เป็น Gaming Notebook ขนาดหน้าจอ 14″ ที่ทรงพลังจริงๆ และแรงล้ำไม่ซ้ำใคร ซึ่งไม่ใช่แค่เป็นรุ่นหน้าจอ 14″ ที่แรงที่สุดในโลกเท่านั้น ด้วยการมาของสเปกชิปประมวลผลให้ล่าสุดจาก AMD อย่าง Ryzen 4000 Series สูงสุดเป็น Ryzen 9 4900HS ประกอบกับการ์ดจอ NVIDIA GeForce RTX 2060 Max-Q ที่แรงเหนือกว่า Gaming Notebook รุ่นปีก่อนพอตัว รวมไปถึงฟีเจอร์อื่นๆ ก็จัดเต็มไม่แพ้กัน สำคัญคือฝาหลัง AniMe Matrix ที่เป็นไฟ LED ปรับแต่งได้นี่แหละ

สำหรับสเปก ASUS ROG Zephyrus G14 AniMe Matrix เป็นโน้ตบุ๊คเล่นเกมสายบางเบาแนวใหม่ ด้วยขนาดหน้าจอ 14″ ที่ปกติเราไม่ค่อยได้เห็นกัน ใช้ชิปประมวลผล AMD Ryzen 4000 Series รหัส HS ที่ค่า TDP 35W ในเทคโนโลยีการผลิต 7 นาโนเมตร ที่ร้อนน้อยลงไปอีกแต่ประสิทธิภาพแรงขึ้นเป็นอย่างมาก ที่สำคัญคือรองรับแรมมาตรฐาน DDR4 Bus 3200MHz ที่ติดตั้งมาแล้วสูงสุด 32GB พร้อม SSD M.2 NVMe PCIe ความจุสูงสุด 1TB ทำให้ไม่ว่าจะเป็นการทำงานหนักๆ หรือเล่นเกม 3 มิติก็จะมีความลื่นไหลแน่นอน เทียบกับรุ่นรุ่นก่อนๆ ก็เหนือชั้นกว่าด้วย

จุดเด่นที่ต้องพูดถึงนอกจากดีไซน์สวยเฉียบของ ASUS ROG Zephyrus G14 AniMe Matrix  ก็คือความบางที่ 17.9 – 19.9 มิลลิเมตร ขอบจอบางเฉียบ พกพาสะดวกด้วยความเบาของเครื่องเพียง 1.6 กิโลกรัม แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง การเชื่อมต่อก็ครบครันทั้งไร้สายและมีสาย รองรับการชาร์จผ่านทาง USB PD ที่สำคัญก็คือได้หน้าจอคุณภาพสูง ความละเอียด QHD ที่ละเอียดกว่า Full HD พร้อมได้ค่าขอบเขตสี sRGB ใกล้เคียง 100% แน่นอนว่าด้วยการมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 10 จากทาง Microsoft ก็ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานดึงมาได้สูงสุด มานับได้ว่าเป็นโน้ตบุ๊คหน้าจอ 14″ ที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้ก็ว่าได้

ASUS ROG Zephyrus G14 เป็น Gaming Notebook ซีรีส์ ROG ที่เน้นความบาง ที่ 17.9 – 19.9 มิลลิเมตร  มาพร้อมน้ำหนักเบาสุดๆ ที่ 1.6 กิโลกรัม รวมไปถึงแบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนานกว่า Gaming Notebook ทั่วไปกับขนาดหน้าจอขอบบางเฉียบที่ 6.9 มิลลิเมตร ขนาด 14″ ให้ความลื่นไหลในการเล่นเกมหรือ ดีไซน์โดยรวมเน้นความดุดัน แข็งแกร่งสไตล์ ROG ดีไซน์ที่ไม่เคยมีมาก่อนใน ROG ที่เน้นความเรียบง่ายสุดๆ ดูแล้วมีความสดใหม่ เรียกได้ว่าดูแล้วมีความเฉียบแต่เรียบง่ายสไตล์สายทำงานที่เน้นการพกพายิ่งขึ้นไปอีกกว่าพวก TUF Gaming Series ที่เน้นคุ้มค่า

แบตเตอรี่ที่ติดตั้งมาให้ใน ASUS ROG Zephyrus G14 GA401 เครื่องนี้เป็นแบบฝังตามปกติขนาดความจุสูง ส่วนของการทดสอบระยะเวลาใช้งานของแบตเตอรี่ ใช้งานต่อเนื่องในเงื่อนไขดังกล่าวราวๆ 10 ชั่วโมงโดยประมาณ เรียกได้ว่าน่าประทับใจทีเดียวกับการที่ Gaming Notebook จอ 14″ สเปกแรงลื่นแบบนี้ ใช้งานแบตเตอรี่ได้ยาวนานขนาดนี้ สมกับเป็น ROG Zephyrus Series จริงๆ ที่ไม่ใช่แค่แรงจากสเปก แต่แบตอึดด้วย พร้อมรองรับการชาร์จผ่านทาง USB PD (USB Power Delivery) ได้อีก ทำให้เราสามารถชาร์จไฟผ่านทางอแดปเตอร์อื่นๆ หรือ Power Bank ที่รองรับได้ด้วย

Acer Predator Triton 500 (RTX 2070 Super / 2080 Super) ราคา 79,990 – 89,990 บาท

Acer Predator Triton 500 (2020) นี้เป็นการต่อยอดมาจาก Gaming Notebook รูปแบบ Thin & Light รุ่นพี่อย่าง Acer Predator Triton 700 เสริมด้วยการ์ดจอรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง GeForce RTX 2070 Super / RTX 2080 Super ที่มาพร้อมกับประสิทธิภาพกับความสมจริงกว่าที่เคยมีมา โดยทำงานประสานกับชิปประมวลผล Intel Core i7-10750H ที่แรงพอตัว ทำให้สิทธิภาพตัวเครื่องเทียบกับ Deskto PC สบายๆ ภายใต้ตัวเครื่องที่เบา 2.1 กิโลกรัม และบางเฉียบเพียง 17.9 มิลลิเมตร เรียกได้ว่าแรงเกินตัวไปเยอะจริงๆ

Acer Predator Triton 500 (2020) จะมีหน้าจอขนาดใหญ่ 15.6″ แต่กลับมีความเล็กลงจากมิติตัวเครื่องเล็กกระทัดรัดจากการที่ขอบจอบาง (ใกล้เคียงกับโน้ตบุ๊คหน้าจอ 14″) ผนวกกับหน้าจอ IPS และอัตรารีเฟรชเรทที่สูงถึง 144Hz จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนสำคัญในการมอบประสบการณ์ใหม่ๆในการเล่นเกมแบบเต็มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานได้อย่างแน่นอน  ในส่วนของดีไซน์ภายนอกก็ดูเรียบหรู วัสดุเป็นอะลูมิเนียมตลอดทั้งตัวเครื่องแซมด้วยสีฟ้า Predator ที่โดดเด่น สนนราคาที่ 79,990 บาท

ตัวเครื่องยังมีลำโพง 2.0 ชาแนล บนซอฟแวร์เสียง Waves Maxx Audio ทำให้การขับเสียงเวลาเล่นเกม หรือดูหนังฟังเพลงทำได้อย่างยอดเยี่ยมอีกด้วย ทางด้านพอร์ทเชื่อมต่อเองมีมาให้อย่างครบถ้วนไม่ว่าจะเป็น Thunderbolt 3 จำนวน 1 ช่อง, USB 3.1 Type-A จำนวน 3 ช่อง หนึ่งช่อง, HDMI, mini-DisplayPort, ช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5, ช่องเสียบไมค์ขนาด 3.5 และช่องสาย Lan RJ45 พร้อม E3000 Ethernet Controller, Wi-Fi 6 AX 1650 และ Killer Control Center 2.0 ของ Killer ที่ช่วยให้การเล่นเกมออนไลน์ให้มีเสถียรภาพและสมูทขึ้นอย่างเห็นได้ชัด การเชื่อมต่อไร้สายอย่างก็รองรับตัวที่เป็น Bluetooth 5.0 เป็นมาตรฐาน

ดีไซน์การของ Acer Predator Triton 500 (2020) มาพร้อมความสดใหม่ ตัวเครื่องนั้นเป็นทรงแบบเหลี่ยมมุมตลอดทั้งตัวเครื่อง ซึ่งดูแล้วมีความสมมาตรลงตัว มาพร้อมกับวัสดุผสมระหว่างอลูมิเนียมและแมกนีเซียม มาในโทนสีดำอย่าง Obsidian black สลับกับสีฟ้าบางส่วนอย่างโลโก้และฟินระบายความร้อน พร้อมกันนั้นพื้นผิวเรียบจากการใช้วิธีพ่นทราย ซึ่งจะทำได้ละเอียดกว่าการขัดปกติ ผิวชิ้นงานเนียน และช่วยให้สีติดที่เนื้อวัสดุได้อย่างดีที่สุด แถมยังมีความทนทานด้วย โดยการใช้งานจริงนับว่าให้สัมผัสที่เยี่ยมยอด แตกต่างจาก Gaming Notebook ทั่วไปแบบรู้สึกได้ในครั้งแรก

MSI GE66 Raider (RTX 2070 / 2070 Super) ราคา 65,900 – 82,900 บาท

ที่สุดของ Gaming Notebook ขนาด 15.6″ รุ่นล่าสุด อย่าง MSI GE66 Raider ที่เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2020 ซึ่งบทความนี้เราได้รับเครื่องจริงสเปกจริงมารีวิวแล้ว จัดว่าเป็น Gaming Notebook สุดล้ำ ออกแบบมาสำหรับยุคอนาคต โดยเป็นการผสมผสานการออกแบบระหว่างคอนเซปต์ Sci-Fi รูปทรงภายนอกนั้นมีการนำความเป็นยานอวกาศในโลกอนาคตมาปรากฏอยู่บนรูปทรงของตัวเครื่อง สื่อถึงเรื่องของประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการใช้งานที่เหนือกว่าใคร สเปกภายในเป็น Intel Core i Gen 10H ผสานการทำงานกับ NVIDIA GeForce RTX สเปกอื่นๆ ก็จัดเต็มทั้งแรมและ SSD M.2 เกรดสูง

วัสดุหลักรวมถึงส่วนของฝาพับทำมาจากอลูมิเนียมคุณภาพสูง สีสันโทนไทเทเนียมเงินแบบด้านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ รูปทรงโดยรวมมีความคล้ายกับ MSI GT76 Titan รุ่นพี่ และในส่วนหลักของแสงที่ส่องสว่างออกมาจากบริเวณด้านหน้าของที่วางมือ ก็คือ Mystic Light แสดงแสงไฟแบบ Panoramic Aurora วัสดุเป็นอะคริลิคที่รมดำเข้ากับตัวเครื่อง ประกอบกับไฟ Per-Key RGB Gaming Keyboard ที่ร่วมพัฒนากับแบรนด์ SteelSeries หน้าจอเป็น IPS ระดับ 240Hz พร้อมลำโพง Duo Wave Speaker ระบบเสียง Dynaudio ทั้งหมดนี้ช่วยให้เพิ่มประสบการณ์การเล่นเกมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

MSI GE66 Raider ใช้ชิปประมวลผลตัวท็อปสุดเป็น Intel Core i7- 10750H หรือ Core i9-10980HK ที่สุดแสนจะทรงพลังในการทำงาน พร้อมการ์ดจอรุ่นใหม่ที่แรงลื่นและร้อนน้อยสุดๆ อย่าง NVIDIA GeForce RTX 2070 / RTX 2070 Super ที่ทั้ง 2 อย่างนี้ระดับ Gaming Desktop ตัวไฮเอนด์ มีที่เก็บข้อมูลรองรับการติดตั้ง SSD แบบ M.2 NVMe จำนวน 2 สล็อต โดยตามสเปกได้ติดตั้งมาแล้วที่ความจุ 1TB ในส่วนของแรมเองมีมาให้ 16GB แบบ DDR4 Bus 3200 MHz ขนาด 16GB / 32GB พร้อมรองรับ Dual Channel จัดเต็มไม่เป็นรองใคร

สำหรับ MSI GE66 Raider จัดว่าเป็น Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ที่มีพอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบครันที่สุดรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว ซึ่งมีทั้ง 3 x USB 3.2 Type-A, 2 x USB 3.2 Type-C, HDMI, Mini DisplayPort, LAN, SD Card Reader, รูหูฟังและไมค์โครโฟน 3.5 mm และช่องเสียบอแดปเตอร์เหมือน MSI GT76 Titan การเชื่อมต่อแบบไร้สายแบบ Killer ac Wi-Fi 6 (AX)+ Bluetooth 5.0 ซึ่งตัวเครื่องมาพร้อมฟีเจอร์ Killer Doubleshot Pro จัดลำดับความสำคัญให้กับการเชื่อมต่อของเกมมาเป็นอันดับแรก ทำให้มีความเสถียรของอินเตอร์เน็ตมากกว่า Gaming Notebook รุ่นอื่นพอสมควร

Gigabyte AORUS 15G (RTX 2070 Super) ราคา 89,900 บาท

Gigabyte AORUS 15G ที่สุดของ Gaming Notebook ประสิทธิภาพสูง จากทาง Gigabyte รุ่นใหม่ล่าสุดปี 2020 สเปกสุดแรงดีไซน์สุดล้ำ หน้าจอขนาด 15.6″ พาเนล IPS ที่ 240Hz กับสเปกที่จัดเต็มด้วยชิปประมวลผล Intel Core i7-10875H ซึ่งเป็น Core i Gen 10H ตัวแรงกว่ารุ่น Core i7-10750H ส่วนการ์ดจอเป็น NVIDIA GeForce RTX 2070 Super Max-Q โดยมีน้ำหนักแค่ 2.2 กิโลกรัมเท่านั้น ได้ระบบระบายความร้อน WINDFORCE infinity พัดลม 12V 2 ตัว 5 Heatpipes ,4 ช่องระบายความร้อน เทคโนโลยีจากทาง Gigabyte ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านฮาร์ดแวร์ Gaming ในฝั่งของ PC Desktop อยู่แล้ว

สเปกและฟีเจอร์อื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน มาพร้อมกับแรมขนาด 16GB Bus 2933MHz และ SSD M.2 NVMe PCIe ความจุ 512GB และ OMRON Mechanical Switch ให้ความรู้สึกเหมือนคีย์บอร์ดแยก รองรับการกดได้ถึง 15 ล้านครั้ง โดยเป็นคีย์บอร์ด RGB Fusion 2.0 ตั้งค่าสีไฟแยกอิสระทุกปุ่ม พร้อมได้ระบบเสียง Nahimic 3 3D Audio for Gamers รวมถึง AORUS GAMING CENTER ที่ปรับแต่งได้หลากหลาย ส่วนการเชื่อมต่อก็จัดเต็มด้วย Killer Ethernet E2600 + Killer Wi-Fi 6 AX1650 โดดเด่นด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 10 Pro สนนราคาขายอยู่ที่ 89,990 บาท

ดีไซน์การออกแบบจะเห็นว่า Gigabyte AORUS 15G  มีสไตล์แบบไม่ซ้ำใคร AORUS คือซับแบรนด์ของทาง Gigabyte ที่จะเป็นกลุ่มสินค้าระดับ Hi End ที่ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ หรือผู้ที่ต้องการฟีเจอร์ ออปชั่นอื่นๆที่มากกว่าพื้นฐาน เช่นระบบระบายความร้อนที่ดีกว่า ไฟ RGB ที่สวยงามกว่า รวมถึงการออกแบบที่โฉบเฉี่ยวโดดเด่นมากกว่า ซึ่งเราคุ้นเคยกันดีในการ์ดจอ เมนบอร์ด และวันนี้ก็ได้มาเป็นซับแบรนด์ให้ตลาดโน้ตบุ๊คอีกด้วย และแน่นอนว่าทุกรุ่นยังคงผลิตในไต้หวัน จึงมั่นใจในคุณภาพของสินค้าได้ เชื่อว่าโดนใจใครหลายๆ คนแน่นอน ในเรื่องของความพรีเมียมแตกต่างจาก Gaming Notebook แบรนด์อื่นๆ แบบชัดเจน

ตัวเครื่องโดยรวมให้ดูทันสมัยและเรียบง่าย ตามมาด้วยการใส่รายละเอียดต่างๆ ที่สวยงามตามสไตล์ AORUS ที่สำคัญด้วยเทคโนโลยี ระบบระบายความร้อน WINDFORCE พัดลม 12V 2 ตัว 5 Heatpipes ,4 ช่องระบายความร้อน ดูดอากาศเย็นจากใต้ตัวเครื่องพร้อมเปล่าออกผ่านทางฮีทไปป์และฟินขนาดใหญ่ไปทางด้านหลังและด้านข้างออกตัวเครื่อง เชื่อได้เลยว่า Gigabyte AORUS 15G ตัวนี้ต้องจัดการอุณหภูมิได้ดีอย่างแน่นอน มาพร้อมกับไฟ RGB 16.8 ล้านสี ด้วย OMRON Mechanical Switch ให้ความรู้สึกเหมือนคีย์บอร์ดแยก รองรับการกดได้ถึง 15 ล้านครั้ง คีย์บอร์ด RGB Fusion 2.0 ตั้งค่าสีไฟแยกอิสระทุกปุ่ม ที่เราสามารถปรับแต่งได้ดั่งใจ ทั้งส่วนของคีย์บอร์ดที่ดูแล้วสวยงาม

  • Core i7-10875H / RTX 2070 Super Max-Q / RAM 16GB / SSD 512GB / จอ 15.6″ IPS 240Hz ราคา 89,900 บาท

Lenovo Legion 7i (RTX 2080 Super Max-Q ) ราคา 99,900 บาท

Lenovo Legion 7i ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการที่เกมเมอร์มองหาใน Gaming Notebook หน้าจอ 15.6″ ตัวเครื่องภายนอกผลิตด้วยโลหะเฉดสี Slate Grey ตัดด้วยเส้นแสงไฟ RGB สุดล้ำ ให้น้ำหนักเบาเพียง 2.2 กิโลกรัม แต่ภายในนั้นอัดแน่นไปด้วยพลังชิปประมวลผลสูงสุดอย่าง i9-10980HK พร้อมด้วยการ์ดจอที่ดีที่สุดอย่าง NVDIA GeForce RTX 2080 Super Max-Q (8GB GDDR6) อัดแรมได้มากสุดๆ ที่ 32GB DDR4 แบบ Dual Channel โดยติดตั้ง SSD M.2 NVMe ความจุ 1TB ที่ทำงานร่วมกัน Intel Optane 32GB อีกด้วย

จุดเด่นคือได้หน้าจอความละเอียด Full HD พาเนล IPS เกรดสูง รองรับ Refresh Rate ที่ 144Hz ความสว่าง 500 nitts ความแม่นยำสี Adobe sRGB สูง 100% และ VESA DisplayHDR 400 เพื่อการแสดงรายละเอียดของภาพที่คมชัดยิ่งขึ้น ลดเวลาการตอบสนองให้เหลือน้อยกว่า 1ms ผ่าน OverDrivesupport อีกทั้งด้วยฟีเจอร์ G-SYNC ที่ทำงานร่วมกับการ์ดจอ NVIDIA ให้ภาพลื่นไหลไม่ฉีกขาด พร้อมเทคโนโลยี Dolby Vision และ Dolby Atmos Speaker System เพื่อประสบการณ์ความบันเทิงที่สมบูรณ์แบบ

โดดเด่นด้วยระบบระบายความร้อนเต็มไปด้วยนวัตกรรมขั้นสูง Lenovo Legion Coldfront 2.0ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการอุณหภูมิ มาพร้อม Vapor Chamber และเซ็นเซอร์ตรวจจับความร้อน 6 ตัว และพัดลมแบบ liquid crystal polymer ช่วยเพิ่มการไหลเวียนอากาศและถ่ายเทความร้อนสี่จุดรอบตัวเครื่อง อีกทั้งระบบ Dual Burn ที่จัดการ การทำงานของ CPU  และGPU ให้ทำงานร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

อัพเกรดให้ทุกสัมผัสบนแป้นพิมพ์ตอบโจทย์การเล่นได้ดียิ่งกว่าเดิม ด้วย Lenovo Legion TrueStrikeKeyboardรองรับ anti-ghosting ตอบสนองรวดเร็วในระยะเวลาเพียงเสี้ยววินาที ให้สัมผัสของการลงปุ่มกดที่นุ่มนวลแต่หนักแน่นเสมือนใช้ปุ่มกดจากแป้นคีย์บอร์ดสำหรับเกมมิ่ง ดีไซน์ขอบโค้งรับกับนิ้วมือ ปรับแต่งเฉดสีได้มากถึง 16 ล้านเฉดด้วยระบบ CorsairiCUEคีย์บอร์ดของ Lenovo Legion ทุกรุ่นแข็งแรงทนทานผ่านการเคลือบเพื่อต้านทานการเสียดสีและการสึกกร่อนอีกด้วย

Lenovo Legion 7i มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 80WHr สามารถให้พลังงานได้นานถึง 8 ชั่วโมง อะแดปเตอร์ขนาดเล็กลง เพิ่มความยืดหยุ่นในการพกพา และระบบ Rapid Charge Pro ช่วยชาร์จแบตเตอรี่ถึง 50% ได้ภายใน 30 นาที  สำหรับราคาของ Lenovo Legion 7i ราคาและรุ่นสเปกต่างๆ รวมไปถึงการวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ จะแจ้งให้ทราบภายหลังอีกที

from:https://notebookspec.com/2020-gaming-notebook-geforce-rtx-20-rtx-20-super-free-standing-death-game/528210/