คลังเก็บป้ายกำกับ: ENTERPRISE_HARD_DISK

[PR] เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัวฮาร์ดไดร์ฟระดับองค์กรความจุ 14 เทราไบต์ ครั้งแรกของโลก มอบความสามารถในการเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ในระบบคลาวด์และไฮเปอร์สเกล

เทคโนโลยี SMR รุ่นที่สอง มาคู่กับเทคโนโลยี HelioSeal® มอบความสามารถที่โดดเด่นในการเวิร์กโหลดจัดการเขียนข้อมูลในแบบเรียงลำดับ

กรุงเทพฯ 9 ตุลาคม 2560 – เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการเก็บข้อมูลระดับโลก ประกาศให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์ระบบคลาวด์และไฮเปอร์สเกล เพิ่มขีดความสามารถในการจัดเก็บข้อมูลด้วยฮาร์ดไดร์ฟระดับองค์กรความจุ 14 เทราไบต์ ครั้งแรกของโลก โดดเด่นด้วยการใช้เทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลแบบชิงเกิ้ลแมกเนติกหรือเทคโนโลยีเอสเอ็มอาร์ (shringled magnetic recording: SMR) แบรนด์ HGST ภายใต้ชื่อ “อัลตราสตาร์ เอชเอส 14 (Ultrastar® Hs14)” ของเวสเทิร์น ดิจิตอล นั้นมอบความจุที่มากขึ้นกว่าร้อยละ 40 และประสิทธิภาพในการเขียนข้อมูลที่ต่อเนื่องมากกว่าสองเท่าของรุ่นก่อน ช่วยทำให้ประหยัดมากขึ้นและมีประสิทธิภาพในการจับข้อมูลที่มีปริมาณการเติบโตสูงและหลากหลาย

อนาคตถูกสร้างขึ้นจากข้อมูลเชิงลึกและพลังแห่งการคาดการณ์ข้อมูลขนาดใหญ่ ในขณะที่ปริมาณข้อมูลเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ การเก็บข้อมูลทั้งหมดในราคาที่ไม่แพงและสามารถเข้าถึงได้ ถือเป็นความท้าทายสำหรับองค์กรและผู้ให้บริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูล ปัจจัยด้านความจุต่อแร็ค การใช้พลังงาน การระบายความร้อน การบำรุงรักษา และค่าใช้จ่ายในการเข้าซื้อกิจการเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อต้นทุนการเป็นเจ้าของ (Total Cost of Ownership: TCO) เพื่อต่อสู้กับความท้าทายด้านข้อมูลขนาดใหญ่ Ultrastar Hs14 ให้ประสิทธิภาพในการทำงานที่เหนือชั้นและประสิทธิภาพการใช้พลังงานออนไลน์ (วัตต์ต่อเทราไบต์) สำหรับต้นทุนการเป็นเจ้าของที่ต่ำมาก โดยการใช้เทคโนโลยี 2 แกนหลัก ได้แก่ เทคโนโลยีเฮลิโอซีล (HelioSeal) รุ่นที่ 4 และ เทคโนโลยีเอสเอ็มอาร์รุ่นที่ 2 พร้อมด้วยความน่าเชื่อถือในระดับองค์กร เทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์การใช้งานมอบรากฐานสำหรับการส่งมอบประสิทธิภาพการทำงานที่มีคุณภาพและเชื่อถือได้ ตามสภาพแวดล้อมแบบคลาวด์และเฮลิโอซีล เหมาะสำหรับระบบจัดเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีปริมาณการเวิร์กโหลดจัดการเขียนข้อมูลในแบบเรียงลำดับ ด้วยการใช้เทคโนโลยี SMR ฮาร์ดไดรฟ์อัลตราสตาร์ เอชเอส 14 จะเพิ่มความจุเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 16 เปอร์เซ็นต์ โดยที่ยังรักษาประสิทธิภาพการทำงานที่คาดการณ์ได้และน่าเชื่อถือสูง

“กว่าร้อยละ 70 ของข้อมูลมหึมาขนาดเอ็กซาไบต์ (Exabyte ) เวสเทิร์น ดิจิตอล เข้าสู่เซกเมนต์ของพื้นที่ความจุข้อมูลในระดับองค์กรบนฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูงที่ใช้เทคโนโลยีฮีเลียม และยังคงมุ่งมั่นให้การสนับสนุนลูกค้าของเราด้วยความน่าเชื่อถือและการบริการที่เป็นเลิศ (QoS) ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มดาต้าเซ็นเตอร์ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของเรานั้นจะช่วยให้ลูกค้าในหลากหลายกลุ่มได้รับการตอบสนองในเรื่องความต้องการด้านการพัฒนาและดาต้าเซ็นเตอร์แบบไดนามิกได้” มาร์ค เกรซ ประธานอาวุโสด้านอุปกรณ์ของ เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวและเพิ่มเติมว่า “มูลค่าความเป็นเจ้าของทั้งหมดและความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มเฮลิโอซีลของเราเป็นรากฐานของการเป็นผู้นำของระบบการจัดเก็บข้อมูลที่มีความจุสูงในระดับองค์กร”

คุณสมบัติและข้อมูลจำเพาะของ ฮาร์ดไดร์ฟระดับองค์กร อัลตราสตาร์ เอชเอส 14TB

เทคโนโลยีเฮลิโอซีล (HelioSeal Technology): เป็นเทคโนโลยีฮาร์ดไดร์ฟแบบฮีเลียมรุ่นที่สี่ของเวสเทิร์น ดิจิตอล ที่นำฮาร์ดไดรฟ์ความจุสูงสุดออกไปสู่ตลาดได้เร็วกว่าเทคโนโลยีของบริษัทคู่แข่ง

เทคโนโลยีการบันทึกข้อมูลแบบซิงเกิลแมกเนติก (SMR) ที่จัดการเครื่องแม่ข่าย (Host): การใช้การจัดเก็บข้อมูลระดับองค์กรรุ่นที่สองของการบันทึกข้อมูลแบบ SMR ที่จัดการเครื่องแม่ข่ายที่มอบความจุขนาด 14TB ด้วยประสิทธิภาพการทำงานที่แรงเต็มพลังและสม่ำเสมอ ฮาร์ดไดร์ฟแบบ SMR ที่จัดการเครื่องแม่ข่ายได้รับการออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมที่มีการเขียนข้อมูลอย่างต่อเนื่อง และจะไม่สามารถใช้แทนไดรฟ์ระดับองค์กรที่มีความจุแบบดั้งเดิมได้

เชื่อถือได้: อายุการใช้งานเฉลี่ย (Mean Time Between Failure หรือ MTBF) อยู่ที่ 2.5 ล้านชั่วโมง ซึ่งอยู่ในอันดับสูงที่สุดของกลุ่มอุตสาหกรรม

การจัดจำหน่าย

ฮาร์ดไดร์ฟระดับองค์กร อัลตราสตาร์ เอชเอส 14 กำลังอยู่ในช่วงสุ่มตัวอย่างเพื่อเลือกการรับจ้างผลิต ซึ่งมาพร้อมการรับประกันเป็นเวลา 5 ปี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไดร์ฟระดับองค์กร อัลตราสตาร์ เอชเอส 14 เทราไบต์ สามารถดูได้ที่ http://www.hgst.com/products/hard-drives/ultrastar-hs14

สามารถติดตามข้อมูลได้ที่
เว็บไซต์: http://www.hgst.com
เฟสบุ๊ค®: https://www.facebook.com/HGSTStorage/
ทวิตเตอร์®: @WesternDigiDC

ลิงกต์อิน®: HGST, a Western Digital Brand
ยูทูป®: Western Digital Corporation

แถลงการณ์การคาดการณ์ ในอนาคต

ข่าวประชาสัมพันธ์นี้มีแถลงการณ์การคาดการณ์ในอนาคตบางประการ ซึ่งรวมถึงแถลงการณ์เกี่ยวกับการพัฒนา ประสิทธิภาพการทำงานของฮาร์ดไดร์ฟ อัลตราสตาร์ เอชเอส14 (Ultrastar Hs14) ฟีเจอร์การทำงานและประโยชน์ให้กับลูกค้า มีปัจจัยหลายอย่างที่เกี่ยวกับการแถลงการณ์ ในอนาคตนี้ที่อาจเกิดความคลาดเคลื่อน ซึ่งรวมไปถึงและยังมีสิ่งอื่นๆ ด้วย เช่น การจัดจำหน่าย Ultrastar Hs14 อาจจะเป็นไปตามที่คาด ความผันผวนของสภาวะเศรษฐกิจโลก สภาพธุรกิจและการเติบโตในระบบนิเวศของระบบจัดเก็บข้อมูล ผลกระทบจากราคาและสินค้าคู่แข่ง การยอมรับในตลาดและราคาวัตถุดิบของสินค้าโภคภัณฑ์และชิ้นส่วนเฉพาะของสินค้า  การกระทำจากคู่แข่งทางการค้า การแข่งขันทางด้านเทคโนโลยีที่ไม่คาดคิด การพัฒนาของเราและการแนะนำผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ และการขยายตัวเพื่อเข้าสู่ตลาดด้านการจัดเก็บใหม่ๆ  การควบกิจการและการร่วมทุน ความยุ่งยากหรือความล่าช้าด้านการผลิต ปัจจัยด้านความเสี่ยงอื่นๆ และความไม่แน่นอน ตามรายงานจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เรียกว่า “SEC”) รวมถึงรายงานตามช่วงเวลาล่าสุดซึ่งต้องการให้คุณได้ศึกษา เวสเทิร์น ดิจิตอล ไม่มีความตั้งใจใดๆ ในการปรับปรุงข้อมูลที่ปรากฏในข่าวประชาสัมพันธ์นี้

###

เกี่ยวกับ เวสเทิร์น ดิจิตอล

เวสเทิร์น ดิจิตอล ผู้ให้บริการเทคโนโลยีและโซลูชั่นด้านการจัดเก็บข้อมูลชั้นนำของอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นบริการที่ให้อำนาจแก่ผู้ใช้ในการสร้าง ใช้ประโยชน์ สัมผัสประสบการณ์ และเก็บรักษาข้อมูลเอาไว้ บริษัทสนองความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยนำเสนอกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบรูปแบบซึ่งเต็มไปด้วยความน่าสนใจ โซลูชั่นการจัดเก็บข้อมูลคุณภาพสูงด้วยนวัตกรรมที่มุ่งเน้นสนองตอบลูกค้าทั้งในด้าน ประสิทธิภาพสูง ความยืดหยุ่น และความเร็ว ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของบริษัทวางจำหน่ายภายใต้แบรนด์ HGST, SanDisk และ WD ตลอดจนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้แก่ตัวแทนจำหน่ายหลัก ร้านค้าปลีก รวมถึงผู้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานแบบคลาวด์ และผู้บริโภคทั่วไป  ข้อมูลทางการเงินและนักลงทุนสามารถดูได้ที่หน้า นักลงทุนสัมพันธ์ (Investor Relations) บนหน้าเว็บไซต์ของบริษัทที่ investor.wdc.com/

© 2017 Western Digital Corporation หรือเครื่องหมายของบริษัทในเครือ ทั้งหมดเป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าของนั้น ซึ่งสงวนลิขสิทธิ์ทั้งหม เวสเทิร์น ดิจิตอล (Western Digital) แซนดิสก์ (SanDisk) เฮลิโอซีล (HelioSeal) และ อัลตราสตาร์ (Ultrastar) เป็นเครื่องหมายจดทะเบียนหรือเป็นเครื่องหมายการค้าของเวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น หรือบริษัทในเครือในประเทศสหรัฐอเมริกาและ/หรือประเทศอื่นๆ เครื่องหมายอื่นทั้งหมดเป็นสมบัติของเจ้าของนั้น ในการใช้เป็นที่จัดเก็บข้อมูล หนึ่งเทราไบต์ (1TB)  = หนึ่งล้านล้านไบต์ (1,000,000,000,000 ไบต์) การเข้าถึงความจุทั้งหมดอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมของการใช้งาน ข้อมูลจำเพาะของสินค้าสามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่มีการประกาศให้ทราบ ผลิตภัณฑ์ทุกชนิดนั้นอาจไม่มีในทุกภูมิภาคของโลก

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-14-tb-hdd-for-enterprise/

Google เผย Hard Disk ในปัจจุบันไม่เหมาะกับ Cloud เสนอแผนสร้าง Hard Disk อีก 10 แบบใหม่ในอนาคต

ในงาน 2016 USENIX conference on File and Storage Technologies (FAST 2016) ที่ผ่านมา Eric Brewer ผู้ดำรงตำแหน่ง VP Infrastructure แห่ง Google ได้ออกมากล่าวถึงความพยายามในการพัฒนา Disk แบบใหม่ที่ตอบโจทย์ของการสร้างบริการ Cloud-based Storage ภายใน Data Center ให้มากขึ้นกว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบัน พร้อมระบุ Disk แบบ Nearline นั้นไม่เหมาะสมต่อระบบ Cloud อีกต่อไป

Credit: ShutterStock.com
Credit: ShutterStock.com

ตัวอย่างหนึ่งที่ทาง Google ได้หยิบยกขึ้นมาก็คือกรณีการใช้งานของ YouTube ที่ภายในเวลาเพียง 1 นาทีก็มีเหล่าผู้ใช้งานจากทั่วโลกทำการ Upload วิดีโอขึ้นมาเป็นความยาวรวมกันถึง 400 ชั่วโมงแล้ว ซึ่งถ้าหากเทียบง่ายๆ ว่าวิดีโอความยาว 1 ชั่วโมงนั้นใช้พื้นที่ 1GB ด้วยอัตราการเติบโตของข้อมูลระดับนี้แล้วก็แปลว่า YouTube จะต้องการ Storage เพิ่มเติมวันละ 1 Petabyte (1,000,000GB) เลยทีเดียว และปริมาณการอัพโหลดวิดีโอบน YouTube นี้ก็เติบโตมากถึง 10 เท่าในทุกๆ 5 ปี

แต่ถ้าหากมองย้อนกลับมาที่เทคโนโลยี Enterprise Hard Drive อย่างกลุ่มเทคโนโลยี Nearline นั้นก็ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการเติบโตของปริมาณข้อมูลขนาดนี้ แต่กลับไปพัฒนาเพื่อตอบรับการใช้งานของ Server แบบเดิมๆ แทน ดังนั้น Google จึงเชื่อว่าเวลานี้คือเวลาที่เหมาะสมในการที่เหล่าผู้ผลิตและมหาวิทยาลัยต่างๆ จะร่วมมือกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Hard Drive แบบใหม่เพื่อตอบโจทย์ของ Data Center ขนาดใหญ่และแก้ปัญหาที่เคยมีใน Hard Drive แบบเก่าๆ ร่วมกัน

แนวคิดหลักที่ Google เสนอขึ้นมาก็คือการมอง Disk ภายใน Data Center ให้เป็นกลุ่ม (Collection) แต่แรก และ Optimize ที่ระดับนั้นไปเลยทีเดียว เพราะภายในการใช้งานระดับ Data Center ขนาดใหญ่นั้นก็แทบจะไม่มีการใช้งาน Disk เป็นลูกเดี่ยวๆ อยู่แล้ว และการออกแบบเทคโนโลยีใหม่นี้ก็มีเป้าหมาย 5 ประการดังนี้

  • เพิ่ม IOPS ให้มากขึ้น
  • เพิ่ม Capacity (GB) ให้มากขึ้น
  • ลด Tail Latency ลง ให้ 99% ของการอ่านข้อมูลมี Latency ในขอบเขตที่ต้องการ
  • มีความปลอดภัยมากขึ้น ทั้งในระดับของ Firmware และการเข้ารหัสข้อมูล
  • ลดค่า Total Cost of Ownership (TCO) ลง

ทั้งนี้ Google ยังได้เสนอแนวทางการออกแบบ Hard Drive แบบใหม่นี้ด้วยกันคร่าวๆ 10 ข้อ ซึ่งทีมงาน TechTalkThai ขอสรุปมาคร่าวๆ ดังนี้

  1. ออกแบบ Form Factor ใหม่ให้ตอบโจทย์ด้าน TCO, IOPS และ Capacity เพิ่มขึ้น เพราะขนาดของ HDD ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้อ้างอิงมาจาก Floppy Disk และไม่ได้มีเหตุผลอื่นที่ดีพอเลย โดย Gogole เสนอให้เพิ่มความสูงให้ 3.5″ Disk อีก 1″ และเพิ่มความสูงให้ 2.5″ Disk อีก 15 มิลลิเมตรเพื่อให้เพิ่ม Platter เข้าไปได้อีก โดยออกแบบให้รองรับ Parallel Access เพื่อเพิ่ม IOPS, รวม Disk หลายลูกเข้ามาเป็นชุดเดียว และใช้ไฟ 12V DC ที่กำลังส่งสูงสุดเท่านั้น
  2. ย้าย Cache ออกจาก Disk แต่ละลูกมารวมกันไว้ตรงกลางและใช้ร่วมกัน ทำให้ขนาดของ Cache เพิ่มขึ้น และสามารถปรับแต่งพฤติกรรมต่างๆ ได้ตามต้องการ โดยอาจจะใช้ RAM ของ Server เป็น Cache แทนและเชื่อม Disk หลายๆ ลูกเข้ามาทีเดียวผ่าน PCI-E ก็ได้
  3. ปรับปรุงเทคโนโลยี SMR ให้ดีขึ้น โดยหนึ่งในทางเลือกที่น่าสนใจก็คือการทำ Hybrid Drive ระหว่าง SMR และ CMR เพื่อให้รองรับได้ทั้ง Hot Data และ Cold Data พร้อมๆ กัน รวมถึงการลดทรัพยากรที่ใช้ในการทำ Garbage Collection ให้น้อยลงด้วยการปรับปรุงให้ดีขึ้น
  4. มีระบบตรวจสอบพฤติกรรมการเข้าถึงข้อมูล เพื่อให้ผู้ดูแลระบบเข้าใจการทำงานในเชิงประสิทธิภาพมากขึ้น โดยสามารถตรวจสอบเวลาที่ใช้ในการทำ Seeking, เวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูลสำหรับการ Read และเวลาที่ใช้ในการแก้ไข Error ที่เกิดขึ้น
  5. ปรับแต่งการทำ Read Retries ได้ตามต้องการ เพื่อให้ Server ที่ทำการอ่านข้อมูลต่างๆ ได้รับ Error ตอบกลับไปให้เร็วที่สุด และทำให้การตอบสนองของระบบโดยรวมเป็นไปได้ด้วยความเร็วสูงสุด
  6. ยอมรับ Error Rate ที่สูงขึ้นได้ แลกกับการเพิ่มความจุ และลด Tail Latency ลง เพราะในการใช้งาน Disk จำนวนมากๆ นั้น การเกิด Error บ้างก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะระบบก็ยังสามารถอ่านข้อมูลที่ถูกต้องจาก Disk อื่นๆ ได้อยู่ดี
  7. ปรับปรุง Background Task และเพิ่ม Background Management API เพื่อให้สามารถปรับแต่งและควบคุมพฤติกรรมของ Disk ให้เป็นไปในรูปแบบที่ต้องการได้เมื่อข้อมูลเกิดเสียหาย และเพิ่มกรณีการทำงานร่วมกันระหว่าง Disk หลายลูกเข้าไปด้วย
  8. เปลี่ยนความจุแบบตายตัว ให้กลายเป็นความจุแบบ Flexible แทน เพื่อให้ Disk ที่ถูกผลิตออกมาและมีปัญหาใน Platter สามารถถูกนำออกมาขายใหม่ด้วยความจุที่ลดลงได้ เป้นการประหยัดค่าใช้จ่ายลงทั้งสำหรับผู้ผลิตและผู้ซื้อ รวมถึงนำ Reserved Sector ให้เอาออกมาใช้ทำอย่างอื่นได้ และ Disk ควรจะทำงานต่อได้ด้วยความจุที่น้อยลงเมื่อ Drive Head เกิด Fail ขึ้นมา
  9. เพิ่ม Sector Size ให้กลายเป็น 64KiB หรือใหญ่กว่านั้น และให้ไปทำการตรวจสอบความผิดพลาดและซ่อมแซมกันด้วย Distributed File System เอง
  10. ปรับปรุง Queuing Management ให้ดีขึ้น เพื่อให้ตอบโจทย์ต่อ Latency ที่ต้องการ และ Throughput สำหรับผู้ใช้งานแต่ละคนได้ในระดับที่เหมาะสม โดยระบบ Disk Scheduler จะต้องถูกปรับปรุงให้ทำงานคล้ายกับ Real-time Operating System (RTOS) และรองรับการทำ Queuing ได้ดีขึ้น รวมถึงรองรับ API สำหรับควบคุมการปรับแต่งพฤติกรรมของ IO จาก Server โดยตรง

 

ใครที่สนใจ Whitepaper ฉบับเต็ม สามารถเข้าไปอ่านได้จากที่ https://research.google.com/pubs/pub44830.html ทันทีเลยครับ

 

ที่มา: http://googlecloudplatform.blogspot.com/2016/02/Google-seeks-new-disks-for-data-centers.html

from:https://www.techtalkthai.com/google-wants-the-world-to-design-cloud-hard-drives-together-with-10-ideas/

ผลสำรวจชี้ ทั่วโลกซื้อ Hard Drive และ Solid State Drive รวมกัน 143 Exabytes ในไตรมาสที่ 3 ของปี 2015

Trendfocus เผยปริมาณความจุของ Storage ที่ทั่วทั้งโลกซื้อรวมกันในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมานี้ ว่ามีพื้นที่รวมกันถึง 143 Exabytes หรือราวๆ 143 ล้าน Terabytes เลยทีเดียว โดยในจำนวนนี้เป็น Hard Drive จำนวน 145 ล้านลูก และ Solid State Drive อีก 26.22 ล้านลูก และมีตัวเลขสถิติที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

techtalkthai_replicated_enterprise_hard_drives

ตลาด Consumer

  • Western Digital มาเป็นอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาด 43.6%
  • Seagate มีส่วนแบ่งตลาด 39.8%
  • Toshiba มีส่วนแบ่งตลาด 16.5%

ตลาด Enterprise

  • มียอดขายรวมกันทั้งสิ้น 3.1 ล้านชุด รวมกันสำหรับทุกๆ Storage Media
  • PCI-e SSD มียอดขาย 117,000 ชุด
  • SAS มียอดขาย 450,000 ชุด
  • SATA เป็นอันดับหนึ่ง ครองยอดขายที่เหลือทั้งหมด

 

ที่มา: http://www.theregister.co.uk/2015/12/04/world_bought_143_exabytes_of_storage_in_q3_mostly_spinning_rust/

from:https://www.techtalkthai.com/global-comsumption-was-at-143-exabytes-in-2015-q3/

Western Digital เปิดตัว 10TB PMR Hard Drive สำหรับ Data Center เป็นรายแรกของโรก

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ HGST ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Western Digital ได้เปิดตัว Ultrastar Archive Ha10 ซึ่งเป็น Helium Hard Drive ขนาด 10TB สำหรับการ Archive ข้อมูลเป็นหลักไปแล้ว วันนี้ HGST ก็ได้เปิดตัว Ultrastar He10 ซึ่งเป็น Helium HDD รุ่นใหม่ ขนาด 10TB ที่พร้อมใช้งานได้ในระดับ Production สำหรับ Data Center และ Cloud แล้ว โดยมีสเป็คที่น่าสนใจดังต่อไปนี้

wd_hgst_ultrastar_he10

  • ใช้เทคโนโลยี Perpendicular Magnetic Recording (PMR)
  • มีความจุสองระดับ ได้แก่ 8TB และ 10TB
  • มีขนาด 3.5″
  • รองรับ Interface 6Gbps SATA และ 12Gbps SAS
  • รองรับ Sector ทั้งขนาด 4Kn และ 512e
  • มี Buffer ขนาด 256MB
  • ความเร็วรอบ 7200 RPM
  • Sustained Transfer Rate อยู่ที่ 249MBps (10TB)/225MBps (8TB)
  • Seek Time อยู่ที่ 80ms (Read)/8.6ms (Write)
  • Error Rate 1/(10^15)
  • MTBF 2.5 ล้านชั่วโมง
  • Annual Failure Rate 0.35%
  • ประกัน 5 ปี
  • ใช้พลังงาน 0.5W/TB (SATA) / 0.58W/TB (SAS)

จะเห็นได้ว่าประสิทธิภาพในการเขียนอ่านนั้นเหนือกว่ารุ่น Archive เดิมอย่างชัดเจน ในขณะที่ MTBF สูงถึง 2.5 ล้านชั่วโมง และมี Error Rate เพียง 1/(10^15) ซึ่งถือว่าต่ำมาก และมาพร้อมกับประกัน 5 ปี ด้วยการใช้พลังงานต่ำ ทำให้ Data Center ยุคถัดๆ ไปสามารถประหยัดทั้งพลังงาน, พื้นที่บนตู้ Rack และ Maintenance น้อยลงได้ไปพร้อมๆ กัน

ที่มา: http://www.hgst.com/company/media-room/press-releases/western-digital-corporation-is-now-shipping-worlds-first-helium-filled-10TB-PMR-HDD-to-meet-exponential-growth-in-data

from:https://www.techtalkthai.com/western-digital-announced-data-center-10tb-pmr-hard-drive/

HGST เปิดตัว 10TB Enterprise Hard Drive เทคโนโลยี Helium และ SMR แรกของโลก

HGST ผู้ผลิตระบบ Storage สำหรับองค์กร ได้เปิดตัว Ultrastar Archive Ha10 ซึ่งเป็น Enterprise Hard Drive ความจุ 10TB ที่มีฐานเป็นเทคโนโลยี Helium และ Shingled Magnetic Recording (SMR) รองรับการเติบโตของการจัดเก็บข้อมูลในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นการทำ Archive, Cloud Storage, Social Media, Backup และ Media & Entertainment

hgst_ultrastar_archive_ha10

HGST Ultrastar Archive Ha10 นี้ถูกออกแบบมาให้ทำงานได้อย่างประหยัดไฟ, ทนทาน และมีความสามารถในการรองรับ Application ที่ทำงานแบบ Sequential Write / Random Read เป็นหลัก และมุ่งเน้นไปยังกลุ่มลูกค้าที่สร้างระบบ Cloud และการทำ OEM ให้กับผู้ผลิตรายอื่นๆ ดังนั้นก่อนเลือกใช้ Hard Drive Ultrastar Archive Ha10 ขนาด 10TB นี้ก็ควรจะต้องประเมิน Workload ของ Application ก่อนเสมอว่าเหมาะสมกับความสามารถของ Hard Drive ขนาด 10TB นี้หรือไม่

ที่มา: http://www.hgst.com/press-room/press-releases/HGST-Delivers-Worlds-First-10TB-Enterprise-HDD-for-Active-Archive-Applications

from:https://www.techtalkthai.com/hgst-launched-10tb-enterprise-hard-drive/

Infortrend สนับสนุนการใช้งาน HGST 8TB HelioSeal Enterprise HDD ใน SAN Storage แล้ว

infortrend_logo

Infortrend ผู้ผลิต SAN Storage ชั้นนำระดับโลก ได้ประกาศสนับสนุนการใช้งาน Enterprise Hard Drive ขนาด 8TB ของ HGST รุ่น HelioSeal บน SAN Storage รุ่น EonStor DS แล้ว ซึ่งการนำเทคโนโลยีล่าสุดจาก HGST มาใช้นี้ จะช่วยเพิ่มทั้งพื้นที่, ประสิทธิภาพ, ความทนทาน และลดค่าใช้จ่ายไปพร้อมๆ กัน

infortrend_san_storage_with_hgst_helioseal_8tb

การสนับสนุน Enterprise HDD ขนาด 8TB นี้ จะช่วยให้ SAN Storage รุ่น EonStor DS จาก Infortrend มีความจุได้สูงสุดถึง 3.4 Petabytes (3,400 TB) ภายใน SAN Storage เพียงชุดเดียว เพิ่มขึ้นจากเดิมที่สนับสนุน HDD ขนาด 6TB ถึง 33% ในขณะที่มีประสิทธิภาพการเขียนข้อมูลเร็วขึ้นถึง 3 เท่า และประหยัดไฟฟ้าลงถึง 23% รวมถึงการนำ Helium มาใช้ใน Enterprise Hard Drive ก็ช่วยเพิ่มค่า MTBF ขึ้นเป็นถึง 2.5 ล้านชั่วโมง ทนทานยิ่งกว่า HDD ที่ใช้เทคโนโลยีแบบเดิมๆ

Systems Integrator ที่สนใจรับราคา Reseller หรือองค์กรที่สนใจระบบ Infortrend หรือ SAN Storage สามารถติดต่อบริษัททรูเวฟ ประเทศไทย จำกัด ได้ที่เบอร์ 02-210-0969 หรืออีเมลล์มาที่ info@throughwave.co.th หรือตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.throughwave.co.th ได้ทันที

from:https://www.techtalkthai.com/infortrend-supported-hgst-8tb-helioseal-enterprise-hdd-in-san-storage/