คลังเก็บป้ายกำกับ: Daydream

กูเกิลยืนยัน Android 11 เลิกซัพพอร์ต Daydream VR แล้ว

กูเกิลเลิกพูดถึงแพลตฟอร์ม Daydream VR ของตัวเองมานานแล้ว (ตั้งแต่ Pixel 4 เลิกซัพพอร์ต Daydream) ชะตากรรมของ Daydream คงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจนัก และคราวนี้กูเกิลยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่าแอพ Daydream VR จะไม่ซัพพอร์ตบน Android 11

กูเกิลระบุว่าแอพจาก 3rd party อาจยังใช้งานได้บน Android 11 แต่แอพของกูเกิลเองนั้นไม่มีอัพเดตใดๆ เพิ่มเติม และไม่การันตีว่าจะใช้งานได้บน Android 11 อีกต่อไป

ส่วนแว่น Daydream View ของกูเกิลเองที่เคยขายช่วงปี 2016-2017 ยังใช้งานได้ต่อไป แต่ตัวแว่นก็เลิกขายไปนานมากแล้วเช่นกัน

เมื่อต้นปีนี้ ซัมซุงประกาศเลิกทำ GearVR ไปก่อนแล้ว ทำให้ตอนนี้แพลตฟอร์ม VR แบบไม่ต้องเชื่อมต่อพีซี น่าจะเหลือเพียง Oculus ที่เพิ่งออกแว่น Quest 2 เพียงรายเดียว

ที่มา – Google via Android Police

from:https://www.blognone.com/node/118795

เป็นได้แค่ความฝัน Pixel 4 จะไม่ซัพพอร์ต Daydream แพลตฟอร์ม VR ของตัวเองอีกต่อไป

กูเกิลเปิดตัวแพลตฟอร์ม VR ของตัวเองที่ชื่อ Daydream มาตั้งแต่ปี 2016 แต่ก็ไม่ได้เป็นที่นิยมมากนัก และดูเหมือนฝันกลางวันนี้ก็เป็นได้แค่ความฝัน เมื่อกูเกิลยืนยันว่า Pixel 4 และ Pixel 4 XL จะไม่ซัพพอร์ต Daydream อีกต่อไป

นอกจากนี้กูเกิลยังประกาศหยุดขายแว่น Daydream View และไม่มีแผนที่จะซัพพอร์ตอุปกรณ์แอนดรอยด์ตัวไหนอีกในอนาคต อย่างไรก็ตามตัวแอพ Daydream ยังคงใช้งานได้ในตอนนี้

กูเกิลไม่ได้กล่าวถึง Daydream มานานแล้ว ตั้งแต่งาน Google I/O 2018 หรือกระทั่งงานเปิดตัวฮาร์ดแวร์เมื่อปลายปีที่แล้ว รวมถึง Pixel 3a และ Pixel 3a XL ก็ไม่ได้ซัพพอร์ต Daydream แต่ตอนนั้นสถานการณ์ยังไม่แน่ชัดเท่าไหร่ เพราะอาจจะเป็นปัญหาด้านประสิทธิภาพเนื่องจาก Pixel 3a ไม่ใช่มือถือที่มีสเปคระดับเรือธงของกูเกิล

แต่ตอนนี้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าฮาโลวีนปีหน้า สุสานของกูเกิลคงต้องขยายเพิ่มอีกแล้ว

ที่มา – Venturebeat

No Description

from:https://www.blognone.com/node/112569

Firefox Reality ออกเวอร์ชัน 1.0 สำหรับ Oculus, Viveport และ Daydream แล้ว

Mozilla เปิดตัว Firefox Reality เว็บเบราว์เซอร์สำหรับ VR และ AR มาตั้งแต่เดือนเมษายน ล่าสุดเบราว์เซอร์นี้ก็เปิดให้ดาวน์โหลดเวอร์ชัน 1.0 อย่างเป็นทางการแล้ว

Firefox Reality มีให้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม Oculus, Viveport และ Daydream โดยตัวเบราว์เซอร์ได้ optimize ให้เหมาะกับเฮดเซ็ทแบบ standalone อย่าง Oculus Go และ Lenovo Mirage Solo

ตัวเบราว์เซอร์ Firefox Reality ใช้เอนจิน Quantum รวมถึงมีฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวเหมือน Firefox และมีฟีเจอร์อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้ VR อย่างเช่นใช้เสียงพูดเพื่อค้นหาเพื่อลดการใช้คีย์บอร์ด แต่ยังขาดฟีเจอร์สำคัญอย่างเช่นบุ๊คมาร์ก โดย Mozilla บอกว่าจะใส่เข้ามาอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

สำหรับเบราว์เซอร์ Firefox Reality เข้าไปโหลดได้ที่สโตร์ของ VR แต่ละแพลตฟอร์ม ส่วนซอร์สโค้ดของโครงการอยู่บน GitHub

ที่มา – VentureBeat, TechCrunch

No Description

from:https://www.blognone.com/node/105343

Google Chrome มาแล้วบน Daydream พร้อมโหมดปรับวิดีโอบนเว็บให้เหมาะกับ VR

Google นำ Chrome ลงแพลตฟอร์ม Daydream แล้ว โดยรองรับทั้งอุปกรณ์ทั้งสองรุ่นคือ Google Daydream View และ Lenovo Mirage Solo โดยผู้ใช้อุปกรณ์ที่รองรับสามารถเปิดใช้งาน Chrome และเข้าเว็บทั่วไปบนอุปกรณ์ VR ได้ทันที

ฟีเจอร์ของ Chrome บน Daydream มีตั้งแต่ฟีเจอร์ทั่วไปเหมือนแพลตฟอร์มอื่น เช่น ค้นหาด้วยเสียง, โหมดท่องเว็บแบบไม่ระบุตัวตน, บันทึกลงบุ๊กมาร์ก ส่วนฟีเจอร์เฉพาะ Daydream เช่น cinema mode ที่จะปรับวิดีโอทั่วไปบนเว็บให้เหมาะกับการใช้งานบน VR

สำหรับผู้ใช้ทั่วไปสามารถอัพเดต Chrome บน Android เป็นเวอร์ชันล่าสุดจาก Google Play ก็สามารถเปิดใช้งาน Chrome จากหน้าโฮมของอุปกรณ์ Daydream ได้เลย

ที่มา – Google

from:https://www.blognone.com/node/104201

Asus เปิดตัว Zenfone Ares มือถือเน้น AR VR มาพร้อม RAM 8GB ในราคาหมื่นนิดๆ

ย้อนไปในงาน CES เมื่อตอนต้นปี 2017 Asus เปิดตัว Zenfone AR สมาร์ทโฟนที่รองรับทั้ง Daydream (VR) และ Tango (AR) ของ Google ผ่านมาเป็นเวลาปีครึ่งก็ได้ฤกษ์เปิดตัวทายาทรุ่นใหม่อย่าง Zenfone Ares ที่เหมือนกับรุ่นเดิมแทบทุกประการทั้งดีไซน์และสเปคจนเหมือนกับแค่เป็นการเปลี่ยนชื่อรุ่นเพื่อเอามาขายใหม่เท่านั้น แต่ด้วยราคาที่ถูกกว่าเดิมเกือบ 3 เท่า

สเปคหลักๆ ของ Zenfone Ares ใช้หน้าจอ Super AMOLED 5.7 นิ้วความละเอียด 1,440×2,560 พิกเซลพร้อมเทคโนโลยี Tru2life ที่ช่วยให้มองจอในที่กลางแจ้งได้ชัดเจนยิ่งขึ้นและป้องกันรอยนิ้วมือบนจอ, ชิปเซ็ต Snapdragon 821 ตัวเก่า, RAM 8GB (เพิ่มจากเดิมที่เป็น 6GB), ความจุภายใน 128GB เท่าเดิม

ดูเหมือนว่าจะมีแค่ RAM เพียงอย่างเดียวที่ได้รับการอัพเกรดเพิ่ม ส่วนกล้องก็ยังใช้เป็น PixelMaster 3.0 ความละเอียด 23 ล้านพิกเซลพร้อมเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวและความลึกสำหรับเก็บข้อมูลแบบ 3 มิติสำหรับใช้กับฟีเจอร์ VR/AR, กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล f/2.0, รันระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat เหมือนเดิมไม่ได้ใช้ Android Oreo แต่อย่างใด, และแบตเตอรีความจุ 3,300mAh รองรับ Quick Charge 3.0 เริ่มขายในไต้หวันบ้านเกิดแล้ววันนี้ สนนราคาอยู่ที่ 9,999 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 10,900 บาท)

สรุปสเปค Asus Zenfone Ares

  • ระบบปฏิบัติการ Android 7.0 Nougat
  • หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 5.7 นิ้ว ความละเอียด QHD (1,440×2,560 พิกเซล) พร้อม Tru2life
  • กระจก Gorilla Glass 4
  • ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 821 ซีพียู 4 คอร์ 2.3GHz พร้อมการ์ดจอ Adreno 530
  • RAM 8GB LPDDR4
  • ความจุภายใจ 128GB (UFS 2.0) ใส่ MicroSD card เพิ่มได้
  • Hybrid SIM (ช่องที่ 2 เลือกใส่เป็นซิมหรือ MicroSD)
  • กล้องหลัง 23 ล้านพิกเซลพร้อมแฟลช LED 2 สี (เซ็นเซอร์ sony IMX318, f/2.0, เลนส์ Largan 6 ชิ้น, กันสั่น OIS 4 แกน, EIS 3 แกน, ออโต้โฟกัสด้วยเลเซอร์)
  • กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล (f/2.0, มุมกว้าง 85 องศา)
  • เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ
  • ลำโพงโมโนรองรับ Asus SonicMaster 3.0, DTS Headphone: X จำลองเสียง 7.1-channel, รองรับไฟล์เพลงสูงสุดที่ 24-bit/192KHz, และเทคโนโลยี NXP Smart AMP
  • การเชื่อมต่อ: 4G VoLTE, WiFi 802.11ac 5 GHz 2×2 MIMO, Bluetooth 4.2, GPS, และ USB Type-C
  • แบตเตอรี 3,300mAh รองรับ Qualcomm Quick Charge 3.0

 

ที่มา: Gizchina

from:https://droidsans.com/asus-zenfone-ares-launched-in-taiwan/

ใครๆ ก็เดทกับศิลปิน K-pop สาวได้ด้วยแว่น Daydream ของ Google

เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ที่ผ่านมา S.M. Entertainment ปล่อยแอพพลิเคชั่น STAR DATE #IRENE (Red Velvet) ผู้ใช้สามารถเดทกับนักร้องสาว “ไอรีน” แห่ง วง”เรดเวลเวท” เกิร์ลกรุ๊ปอันดับต้นๆ ของเกาหลีผ่านระบบ VR Daydream สามารถดูตัวอย่างของแอพได้ที่นี่

แอพพลิเคชั่นนี้ปล่อยให้ใช้บน Google Daydream Store ต้องใช้กับแว่น Daydream ซึ่งเป็นระบบ VR ที่พัฒนาโดย Google เพื่อใช้กับระบบ Android

ในขณะนี้ยังมีแค่ศิลปินคนเดียว ยังไม่รู้ว่าในอนาคตจะมีคนอื่นอีกหรือไม่ ก็ต้องติดตามกันต่อไป

ก่อนหน้านี้ S.M. Entertainment ประกาศว่ากำลังพัฒนา chatbot สำหรับคุยกับบอทที่มีบุคลิกเหมือนกับศิลปิน (จากข่าวก่อนหน้า) และเปิดพิพิธภัณฑ์ที่ใช้เทคโนโลยี AR สำหรับถ่ายรูปหรืออัดวีดีโอคู่กับศิลปิน นับว่าเป็นความพยายามของค่ายเพลงนี้ที่จะให้เทคโนโลยีสมัยใหม่มาใช้ในวงการบันเทิง

No Description

from:https://www.blognone.com/node/102218

Google โอเพ่นซอร์ส Seurat เครื่องมือลดความซับซ้อนในฉาก VR

Google ประกาศโอเพ่นซอร์ส Seurat เครื่องมือสำหรับช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและช่วยลดความซับซ้อนในฉากความละเอียดสูง

Seurat นั้นเปิดตัวมาพร้อมกับ Daydream VR 2.0 โดยออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนในฉาก โดยวิธีที่ Seurat ใช้คือการระบุว่าผู้ใช้จะอยู่ในส่วนไหนของโลกสามมิติได้บ้าง จากนั้นส่วนที่ไม่จำเป็นจะถูกตัดรายละเอียดออก

Google โชว์ตัวอย่าง Blade Runner ซึ่งระบุว่า Seurat ได้ลดรูปสามเหลี่ยมจาก 46.6 ล้านรูปเหลือเพียง 307,000 รูปเท่านั้น ซึ่งการลดรายละเอียดลงจะช่วยให้นักพัฒนาสามารถนำคอนเทนต์สามมิติไปลงอุปกรณ์ VR แบบพกพาที่มีข้อจำกัดสูงกว่าได้ง่ายขึ้น โดยซอร์สโค้ดของ Seurat สามารถดูได้จาก GitHub

ที่มา – TechCrunch

No Description

ตัวอย่างฉากใน Blade Runner

from:https://www.blognone.com/node/102043

Lenovo จับมือ Google เปิดตัว Mirage Solo อุปกรณ์ Daydream VR แบบไม่ง้อมือถือ

ดูเหมือนว่าเวลาที่ Google คิดนวัตกรรมอะไรใหม่ๆ ออกมาได้แล้ว Lenovo จะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่ Google ใช้ในการทดลองตลาดก่อน อย่างเทคโนโลยี Project Tango ที่ได้ Lenovo มาผลิตมือถือ Lenovo Phab 2 Pro เป็น Tango Phone รุ่นแรกของโลก (สุดท้ายก็ล้มโปรเจ็คท์ไป และมาพัฒนา ARCore แทน) และตอนนี้ Google ก็ขอจับมือกับ Lenovo ร่วมกันพัฒนาอุปกรณ์ VR ซีรีส์ Daydream ที่สามารถใช้งานได้แบบเดี่ยวๆ ไม่ต้องใช้ร่วมกับมือถือหรือ PC ในชื่อ Mirage Solo 

ในปี 2018 นี้ เราน่าจะได้เห็นเหล่าอุปกรณ์ VR ที่สามารถใช้งานได้เดี่ยวๆ แบบไม่ง้อมือถือหรือ PC ออกมาแข่งขันกันในตลาดอย่างดุเดือด เพราะเมื่อช่วงปลายปี 2017 ที่ผ่านมา ก็มีข่าวว่าหลายๆ แบรนด์กำลังผลิตอุปกรณ์ VR ของตัวเองอยู่ไม่ว่าจะเป็น Oculus Go ที่พึ่งจะเปิดตัวไปหยกๆ หรือจะเป็น Mi VR จาก Xiaomi (จริงๆ แล้วทั้ง 2 ค่ายนี้จับมือร่วมกันผลิต แต่ Mi VR จะวางขายเฉพาะในจีนเท่านั้น) Vive Focus จาก HTC, Huawei VR2 และคาดว่าจะมีแบรนด์อื่นตามมาอีกมากมาย

Mirage Solo เป็นอุปกรณ์ VR ที่ใช้เทคโนโลยี WorldSense ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวของผู้เล่นโดยที่ไม่ต้องใช้เซ็นเซอร์ภายนอกเหมือนกับ VR รุ่นใหญ่อย่างพวก Vive หรือ Oculus Rift และใช้คอนโทรลเลอร์แบบเดียวกับ Daydream ในการตอบโต้กับสิ่งต่างๆ ในโลก VR

Lenovo ยังไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับสเปคของ Mirage Solo เอาไว้มากนัก ตอนนี้รู้แค่ว่าใช้ชิป Snapdragon 835, RAM 4GB, มุมมองกว้าง 110 องศา แต่ยังไม่ทราบถึงความละเอียดของจอภาพ และสามารถใช้งานต่อเนื่องได้ประมาณ 7 ชม. ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง แถมยังออกแบบให้ใช้งานร่วมกับแว่นสายตาได้สบายๆ อีกด้วย

สำหรับเรื่องราคา ตอนนี้ Lenovo ยังไม่ได้ให้ข้อมูลแบบเป๊ะๆ เอาไว้ บอกแค่ว่าไม่ถึง 400 ดอลลาร์ (ไม่ถึง 13,200 บาท) เพราะต้องแข่งกับ Oculus Go ที่มีราคา 200 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,600 บาท) และ Vive Focus ที่ 600 ดอลลาร์ (ประมาณ 19,800 บาท)

 

ที่มา : GSMarena, Techradar

from:https://droidsans.com/lenovo-google-unveil-first-standalone-daydream-vr-headset/

Google ร่วมกับ Lenovo เปิดตัว Lenovo Mirage Solo แว่น VR ไม่ง้อสมาร์ทโฟน

Google ร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ Lenovo เปิดตัว Lenovo Mirage Solo แว่น VR แบบ standalone ไม่ต้องใช้สมาร์ทโฟน และ PC ใช้เทคโนโลยี WorldSense ของ Google ติดตามตำแหน่งหันหน้าโดยไม่ต้องใช้เซนเซอร์ ให้ภาพยังคงอยู่กับที่แม้ผู้เล่นจะหันศรีษะซ้ายขวาหน้าหลัง

Lenovo Mirage Solo มาพร้อมหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 835, RAM 4GB และพื้นที่เก็บข้อมูล 64GB มีช่องเสียบการ์ด microSD ไม่มีลำโพง แต่มีช่องเสียบหูฟังขนาด 3.5 มม. อยู่ด้านข้าง หน้าจอ QHD ขนาด 5.5 นิ้ว มีปุ่ม cast ไปยังหน้าจอใหญ่ และคอนเทนต์จากแอพของ Google ประมาณ 250 แอพ

Google ระบุว่าจะเริ่มวางจำหน่ายไตรมาสสองปี 2018

No Description

นอกจาก Lenovo Mirage Solo แล้ว Google ยังเปิดตัวกล้องขนาดเล็ก Lenovo Mirage Camera มาพร้อม Daydream สร้างวิดีโอ VR ได้โดยตัวมันเอง และ YI Horizon VR180 กล้องสามมิติทำไลฟ์วิดีโอความละเอียดสูงได้ อัพโหลดลง YouTube และ Google Photos ได้ จะเริ่มวางจำหน่ายไตรมาสสองเช่นกัน

No Description
Lenovo Mirage Camera

No Description
YI Horizon VR180

ที่มา – Google Blog, Engadget

from:https://www.blognone.com/node/98935

Oculus Go แว่น VR พลัง Snapdragon 821 ผ่านการรับรองจาก FCC แล้ว พบกันได้ในงาน CES

Facebook เปิดตัวแว่น VR Oculus Go ไปเมื่อเดือนตุลาคม 2017 ที่ผ่านมา ซึ่ง Oculus Go มีจุดเด่นตรงที่ไม่จำเป็นต้องใช้งานร่วมกับ PC หรือมือถือใดๆ ทั้งสิ้น ซื้อมาแค่ชิ้นเดียวจบเล่นได้ยาวๆ ไปเลย ไม่ต้องเสียบสายให้เกะกะ และไม่ต้องเอามือถือทั้งเครื่องมาใส่ให้หนักหัวด้วย เพราะ Oculus Go มีหน้าจอและหน่วยประมวลผล Snapdragon 821 ในตัวนั่นเอง 

Facebook ขอลงมาแจมในตลาด VR พกพา เพื่อแข่งกับ Gear VR ของ Samsung และ Daydream ของ Google ซึ่งในตอนนี้ทั้งคู่ยังคงเป็นเจ้าตลาดอุปกรณ์ VR แบบพกพาอยู่ เพราะเหมาะกับคนที่อยากเล่น อยากทดลองประสบการณ์ VR แต่ไม่ได้มีเงินหนาพอที่จะซื้ออุปกรณ์ VR แพงๆ อย่าง Oculus Rift และ HTC Vive ชุดละ 2 – 3 หมื่นบาท แถมยังต้องมีคอมแรงพอที่จะเล่นเกม VR พวกนั้นได้อีกตะหาก

แต่สำหรับ Gear VR และ Daydream ที่ออกมาอุดช่องว่างในเรื่องของราคาอุปกรณ์ VR ทั้ง 2 แบรนด์ที่กล่าวมากับค่าตัวที่เหมือนจะถูก ในช่วง 3,000 – 4,000 บาท แต่ถึงยังไงก็ยังต้องใช้ร่วมกับมือถือเฉพาะรุ่นที่แต่ละรุ่นก็มีราคาตั้งแต่ 1x,xxx – 3x,xxx บาท (รวมๆ แล้วก็ไม่ได้ถูกไปกว่ากันเท่าไหร่เลย)

Facebook เห็นช่องโหว่ตรงนี้ ก็เลยขอส่ง Oculus Go แว่น VR ที่ใช้งานได้เดี่ยวๆ ไม่ง้อมือถือและ PC แถมมีราคาเริ่มต้นแค่ 199 ดอลลาร์ (ประมาณ 6,567 บาท) ก็สามารถใช้ได้เลยไม่ต้องซื้ออะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว โดย Oculus Go จะมีให้เลือกด้วยกัน 2 รุ่น คือรุ่นหน่วยความจำ 32GB และ 64GB ส่วนสเปคอื่นๆ จะเหมือนกันหมดทั้งชิป Snapdragon 821, หน้าจอ LCD ความละเอียดข้างละ 2560 x 1440, ปล่อยเสียงออกมาจากตัวแว่นโดยไม่ต้องใช้หูฟัง (แต่ก็ยังมีรูหูฟัง 3.5 มม. ให้ด้วย) และแน่นอนว่ามีเซ็นเซอร์จับทิศทาง 3DoF ในตัว

ตอนนี้ Oculus Go ผ่านการรับรองจาก FCC เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าน่าจะทำการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงาน CES 2018 และคาดว่า (อีกที) จะวางจำหน่ายในปี 2018 นี้แหละ แต่ยังไม่มีข้อมูลเรื่องวันวางจำหน่ายที่แน่นอนออกมาเลย ยังไงก็อดใจรอหยอดกระปุกกันไปอีกซักพักละกันนะ

 

ที่มา : Gizchina

from:https://droidsans.com/snapdragon-821-powered-oculus-go-comes-two-variants/