มีผู้ใช้แอพ Meta Quest บางราย พบหน้าเพจของ Project Apollo หรือชื่ออย่างเป็นทางการน่าจะเป็น Quest Pass ซึ่งเป็นโปรแกรมแจกเกมฟรีให้สมาชิกกดรับสิทธิในแต่ละเดือน ลักษณะเดียวกับ PlayStation Plus หรือ Xbox Games with Gold
Apparently Meta is adding a game pass thing soon for Quest, “Project Apollo”. Accessible via this deep link URI (on Android at least)oculus://view/platform_subscription pic.twitter.com/Bz5321zRpv
เมื่อเดือนกรกฎาคม 2022 บริษัท Meta เพิ่งขึ้นราคา Meta Quest 2 ทั้งสองรุ่นความจุ จากเดิม 299 และ 399 ดอลลาร์ เป็น 399 และ 499 ดอลลาร์ตามลำดับ โดยให้เหตุผลว่าต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น
ส่วนการรอบนี้คือลดราคา Quest 2 เฉพาะรุ่น 499 ดอลลาร์ลงมาเหลือ 429 ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่าเป้าหมายคือการสร้างแว่น VR ที่เข้าถึงได้กว้างที่สุด (affordable for as many people as possible) และไม่พูดเรื่องต้นทุนแล้ว
On March 9 POPULATION: ONE is FREE-TO-PLAY! Celebrate this amazing milestone and get ready for: 🎉Huge Content/Feature Updates 🎉2023 Roadmap Reveal 🎉Original Banana Bundle Rewards ($80 value)👇 Read about EVERYTHING here 👇 https://t.co/M8yYZ7DSBOpic.twitter.com/9gclu9rCPj
Thanks POP1 players! Exclusive Original Banana Rewards:🎉$80 value (for free!)🎉For ALL players who own POP1 before March 9 🎉Automatic rewards incoming March 9 @ 10am PT 🎉Redeem anytime after F2P launchExplanation of Original Banana Rewards👇 https://t.co/M8yYZ7DSBOpic.twitter.com/PmlqtlYYfi
อีกหนึ่งอย่างที่จะอดพูดถึงไม่ได้เลยในฝั่งของฮาร์ดแวร์นั้นคือการที่ Sony ตั้งใจออกแบบคอนโทรลเลอร์สำหรับ PlayStation VR 2 ขึ้นมาแบบจริงๆ จังๆ เสียที โดยเจ้า PlayStation VR 2 Sense Controller ที่มีแถมมากับ PlayStation VR 2 นั้นคือตัวตึงที่มาเปลี่ยนวงการเกมของ PlayStation VR โดยแท้จริง โยน PlayStation Move ที่แทบจะใช้งานร่วมกับ PlayStation VR รุ่นแรกไม่ได้ทิ้งไปได้เลย เพราะประสบการณ์ที่ได้รับจาก PlayStation VR 2 Sense Controller นั้นมันเป็นอะไรที่อัพเกรดขึ้นกว่าเดิมมากจนประเมินค่าไม่ได้ และเมื่อได้ลองใช้ PS VR 2 Sense Controller ตัวนี้เล่นเกมจริงจังอย่าง Horizon Call of the Mountain และ Star Wars: Tales from Galaxy’s Edge ดูแล้วก็ต้องยอมรับเลยว่าการมาถึงของ PS VR 2 Sense Controller นั้นจะเป็นเหมือนใบเปิดทางให้เหล่าเกมเมอร์ที่เน้นการเล่นเกมจริงจังได้เข้ามาสัมผัสโลก Virtual Reality ของ Sony ได้อย่างแท้จริงเสียที
ตัว PS VR 2 Sense Controller นั้นมีคุณสัมบัติเดียวกันกับ Dualsense Controller ที่เราใช้งานกับ PlayStation 5 เลย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการจัดวางตำแหน่งของปุ่มที่มือซ้ายและมือขวาของเรานั้นจะแยกเลย์เอาต์จอยออกเป็นฝั่งซีกซ้ายและซีกขวาเหมือนบน Dualsense Controller ตลอดจนความรู้สึกในการใช้งานที่ก็ไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่นัก ฟังก์ชั่นการสั่นสะเทือนหรือ Haptic Feedbackซึ่งจะมีความแตกต่างกันไปตามพื้นผิวที่เราเหยียบหรือสภาพอากาศที่เกิดขึ้นภายในเกม หรือจะเป็น Adaptive Triggerที่เราเคยหลงรักบน Dualsense Controller นั้นก็ยังคงอยู่อย่างครบถ้วนบน PS VR 2 Sense Controller ตัวนี้ ซึ่งทั้งหมดได้ถูกโชว์เคสไว้อย่างสมบูรณ์ใน Horizon Call of the Mountain ไม่ต่างจากการเล่นเกมบนเครื่อง PlayStation 5 ที่เชื่อมต่อกับจอทีวีปกติเลย
การตั้งค่าระดับความสูงจากพื้นด้วย PS VR 2 Sense Controller เพื่อความสมจริงของเกม
กล้อง 4 ตัวที่ฝังอยู่บนหน้ากาก PS VR 2 Headset นั้นคือหัวใจหลักในการตั้งค่าพื้นที่การเล่นเลย เพราะการออกแบบในลักษณะ Inside Out นี้ทำให้เราสามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมรอบห้องของเราได้จริงในโหมด See Through และยังเอื้อให้ซอฟต์แวร์การตั้งค่าสามารถสแกนพื้นที่การเล่นของเราได้อย่างละเอียดและแม่นยำอีกด้วย เมื่อรวมกับ PS VR 2 Sense Controller ที่ออกแบบมาให้ใช้วัดระดับจากพื้น และใช้เป็นเครื่องมือในการคาลิเบรตระดับพื้นในโลก VR ของเราแล้วยิ่งทำให้พื้นที่การเล่นหรือ Play Areaนั้นมีความแม่นยำสูงขึ้นไปอีก…สูงถึงขนาดที่ในหลายๆ ฉากของเกมอย่าง Horizon Call of the Mountain นั้นอเล็กซ์ต้องกระโดดตัวลอยจากพื้นจริงเพื่อคว้าเชือกจับเลยทีเดียว
ดังนั้นหากเพื่อนๆ กำลังสนใจเจ้า PS VR 2 อยู่แล้วล่ะก็ ก่อนอื่นเลยต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเราเป็นเจ้าของเครื่อง PlayStation 5 อยู่แล้วเท่านั้น เพราะมันจะไม่สามารถใช้งานได้กับระบบอื่นเลย หรือแม้แต่ PlayStation 4 หรือ PlayStation 4 Pro เองก็ใช้ไม่ได้นะครับ
อย่างไรก็ตาม ข้อดีของการที่มันออกแบบมาให้รองรับ PlayStation 5 เท่านั้นที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดคงหนีไม้พ้นความสามารถในการประมวลผลเกมที่ได้ขุมพลังที่ทรงพลังมากๆ อย่าง PlayStation 5 มาช่วย ทำให้งานภาพที่ได้นั้นอลังการไม่ต่างอะไรไปจากการเล่นเกมบนจอทีวีทั่วไปเลย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดที่สุดนั้นคงหนีไม่พ้น Horizon Call of the Mountain ที่ตอนเล่น อเล็กซ์ต้องสารภาพเลยว่าหาความแตกต่างทางด้านภาพกับ Horizon Forbidden West ที่เล่นบนจอทีวีที่เชื่อมต่อกับ PlayStation 5 ไม่เจอเลย และยิ่งเมื่อไปอยู่ในโลกของ VR ยิ่งทำให้ประสบการณ์ทั้งหมดนั้นยกระดับขึ้นแบบสุดๆ เมื่อเทียบกับ PlayStation VR รุ่นก่อนหน้าที่เชื่อมต่อกับเกมบน PlayStation 4 Pro
PlayStation VR 2 นิยามโลกใบใหม่ของ Virtual Reality ในแบบฉบับ Sony ที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน
ในขณะเดียวกัน PSVR 2 นี้ก็ยังไม่มีกล่องรับสัญญาณที่เราต้องมาเชื่อมโยงสายละโยงละยางเหมือนอย่างตอน PSVR รุ่นก่อนหน้าอีกแล้ว โดยบน PSVR 2 นี้ เราจะสามารถเชื่อมต่อตัว Head Unit เข้ากับ PlayStation 5 ของเราได้เลยผ่านทางช่องเสียบ USB-C หน้าเครื่อง โดยใช้สายที่ติดมากับตัว Head Unit ซึ่งมีความยาวประมาณ 5 เมตรนี้เชื่อมต่อได้โดยตรงเลย
PSVR 2 Unboxing – อุปกรณ์ PSVR 2 เมื่อสวมใส่
ตัว PSVR 2 Head Unit นั้นยังคงออกแบบมาอย่างเรียบหรูดูเป็นดีไซน์ที่กลมกลืนไปกับ PlayStation 5 มาก โดยมาพร้อมกับกล้องหน้าทั้งสิ้น 4 ตัวด้วยกันเพื่อการแทร็คการเคลื่อนไหว พื้นที่ห้อง และอุปกรณ์ภายในห้องเล่นเกมของเรา โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาความสามารถของกล้องที่ติดตั้งภายนอกเหมือนอย่าง PSVR รุ่นแรกอีกต่อ
ด้านซ้ายบนของ PSVR 2 Head Unit นั้นมาพร้อมกับเฟืองหมุนปรับระยะซ้ายและขวาของเลนส์แว่นเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละบุคคล ซึ่งเป็นสิ่งที่เพิ่งมีเพิ่มเข้ามาใหม่ใน PSVR 2 นี้ ในขณะที่ด้านขวาบนนั้นเป็นปุ่มในการปรับความใกล้/ไกลของตัวแว่นกับใบหน้าของผู้สวมใส่เหมือนอย่างที่เราคุ้นเคยกันบน PSVR รุ่นก่อนหน้า
ด้านหลังของตัว PSVR 2 Head Unit ถูกออกแบบใหม่แบบแทบจะทั้งหมด โดยจากเดิมที่เคยใช้เป็นเฟืองปรับความแน่นใน PSVR รุ่นก่อนหน้า มาครั้งนี้เปลี่ยนเป็นเกลียวหมุนปรับความแน่นที่มีปุ่มในการปลดล็อคแบบฝังมาบริเวณเดียวกับเกลียวเลย เพื่อเพิ่มความสะดวกและความง่ายดายในการปรับ PSVR 2 Head Unit นี้ให้เหมาะสมกับสรีระของหัวของผู้สวมได้มากขึ้น
ด้านล่างของตัว PSVR 2 Head Unit นั้นมีการจัดวางปุ่มสำหรับการใช้งานเอาไว้ด้วยกันสองปุ่ม คือปุ่มเปิด/ปิดตัว Head Unit และปุ่มสำหรับการควบคุมอีกหนึ่งปุ่ม ในขณะเดียวกันก็ยังมีไมโครโฟนบิลด์อินซึ่งถูกจัดวางไว้ทางซ้ายมือล่างของ Head Unit มีด้วย ส่วนด้านหลังนั้น หากเราพลิกเครื่องคว่ำลงเราจะมองเห็นช่องสำหรับเสียบสายหูฟังสเตอริโอและช่องเก็บหูฟังให้แนบสนิทกับตัว Head Unit เพื่อให้ไม่เกะกะเวลาที่เราเล่นเกม
ด้านข้างของ PSVR 2 Head Unit ทั้งสองฝั่งนั้นจะมีช่องที่ออกแบบมาสำหรับการเก็บหูฟังโดยการเสียบ Earbuds เข้าไปในแต่ละด้าน เพื่อให้ไม่เกะกะเวลาที่เราต้องการเล่นเกมแต่ไม่ได้ใช้หูฟัง ทั้งนี้หากเพื่อนๆ ใช้หูฟังอื่นๆ ที่ไม่ได้แถมมากับตัว PSVR 2 นี้อาจจะไม่สามารถนำมาเก็บไว้ในช่องนี้ได้นะครับ
PSVR 2 Unboxing – ช่องเสียบหูฟังที่ถูกออกแบบไว้ด้านข้างของตัว PSVR 2 Head Unit
ถัดจากตัว PSVR 2 Head Unit นั้นคงหนีไม่พ้น PSVR 2 Sense Controller ที่ในรอบนี้ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ PSVR 2 อย่างแท้จริง ไม่ใช่อุปกรณ์ครึ่งๆ กลางๆ ที่ใช้งานจริงลำบากอย่าง PlayStation Move ที่เราเห็นใช้ร่วมกับ PSVR รุ่นก่อนหน้า โดยจอย PSVR 2 Sense Controller นี้จะมีอยู่ด้วยกันสองจอย สำหรับการสวมใส่บนมือข้างซ้ายและขวาแยกกันอย่างอิสระ และทั้งสองจอยจะแมฟปุ่มควบคุมที่แตกต่างกันออกไปเอา โดยจอยขวานั้นจะมีปุ่ม O, X, R1, R2, Option และ PS ในขณะที่จอยซ้ายนั้นจะมีปุ่มสามเหลี่ยม, สี่เหลี่ยม, L1, L2, Screenshot และ PS ตามลำดับ
PSVR 2 Unboxing – จอย PSVR 2 Sense Controller
จอย PSVR 2 Sense Controller ทั้งสองจอยจะมาพร้อมกับสายคล้องข้อมือที่ไม่สามารถถอดออกได้ โดยเราสามารถปรับความแน่นของสายคล้องให้เหมาะสมกับขนาดข้อมือของเราได้อย่างอิสระ เพื่อความปลอดภัยและความคล่องตัวในขณะเล่นเกม
PSVR 2 Unboxing – สายคล้องมือทั้งสองข้างแบบไม่สามารถถอดจากตัว Sense Controller ได้
และเนื่องจาก PSVR 2 นั้นไม่ได้มีการฝั่งลำโพงไว้ภายในตัว Head Unit ดังนั้น Sony จึงมีการแถมหูฟังสเตอริโอแบบพอร์ตเสียบ 3.5 มม. มาให้ใช้งานร่วมกับเจ้า PSVR 2 นี้ด้วย โดยตัวหูฟังนั้นถูกออกแบบมาให้มีขั้วเสียบเก็บสายหูฟังให้แนบชิดติดตัว PSVR 2 Head Unit ตามที่กล่าวไปแล้วข้างต้น เพื่อให้ไม่เกะกะเวลาเล่นเกม สะดวกต่อการเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ด้วย แต่หากเพื่อนๆ ต้องการใช้หูฟังของตัวเองนั้นก็สามารถทำได้ เพราะ PSVR 2 นั้นรองรับการทำงานร่วมกับหูฟังทุกชนิดที่มีขั้วต่อแบบ 3.5 มม. นั่นเอง