Google Project Ara กำลังจะมาแล้ว พร้อมให้นักพัฒนาทดสอบช่วงสิ้นปีนี้และน่าจะเปิดตัวปีหน้า

ถึงแม้ว่า Google Project Ara จะไม่ค่อยมีข่าวคราวออกมาให้เราได้เห็นกันบ่อยเท่าไรนัก แต่ทว่าจากรายงานล่าสุดที่เราได้มานี้บอกได้เลยครับว่า มันใกล้แล้วที่เราจะได้สัมผัสกับสมาร์ทโฟนที่สามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ตามใจชอบได้

โดยล่าสุดทาง Google ได้เปิดเผยว่า Google Project Ara นั้นจะพร้อมแล้วสำหรับเหล่านักพัฒนาที่จะได้ทดสอบกันในช่วงฤดูใบไม้ร่วงในปีนี้ ซึ่งจะตรงกับเดือนกันยายน – เดือนพฤศจิกายนนั่นเองครับ ซึ่งหลังจากนั้นเหล่าผู้ใช้ทั่วไปน่าจะได้สัมผัสกันในปีหน้า แต่จะเป็นเมื่อไรนั้นคงต้องรอให้ทาง Google ออกมาเฉลยกันอีกที

และเพื่อเป็นการฉลองข่าวดีในครั้งนี้ ทาง Google ยังได้ทำวิดีโอโปรโมทเจ้า Project Ara ออกมาให้พวกเราได้ชมกันด้วยนะครับ ซึ่งจากที่ดูแล้วบอกได้เลยครับว่ามันสุดยอดมาก ลองไปรับชมคลิปวิดีโอด้านล่างนี้กันได้เลย

นอกจากข่าวดีข้างต้นแล้ว ยังมีรายงานออกมาเพิ่มเติมอีกด้วยนะครับว่า ตอนนี้ในองค์กรของ Google มีผู้ทดสอบใช้เครื่องต้นแบบ Project Ara เป็นสมาร์ทโฟนหลักอยู่ประมาณ 30 คน และ Google ยังได้เปิดเผยอีกว่า “ตอนนี้อุปกรณ์ทุกส่วนของ Project Ara นั้นพร้อมแล้ว”

ทั้งนี้สำหรับ Project Ara ที่เหล่านักพัฒนาจะได้รับมาทดสอบจะมีหน้าจอขนาด 5.3 นิ้ว และรัน Android แต่จะเป็นเวอร์ชั่นไหนทาง Google ไม่ได้บอกไว้ครับ สำหรับใครที่สนใจสามารถลองเข้าไปสมัครเป็นนักพัฒนาได้ตามลิ้งค์นี้ครับ >>> Ara

ข้อมูลเพิ่มเติม : Project Ara นี้ ทาง Google ได้จับมือร่วมกันพัฒนากับเทคโนโลยีชั้นนำหลายบริษัทด้วยกัน ได้แก่ Panasonic, TDK, iHealth, E Ink, Toshiba, Sony Pictures Home Entertainment, และ Samsung ซึ่งพาร์ทเนอร์เหล่านี้ก็จะเป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนต่างๆของเจ้า Project Ara นั่นเองครับ

อย่างไรก็ตามถึงแม้ Project Ara จะทำให้เราสามารถถอดเปลี่ยนชิ้นส่วนต่างๆได้ แต่ชิพเซท,แบตเตอรี่และชิ้นส่วนหน้าจอจะยังไม่สามารถถอดเปลี่ยนได้ด้วยเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ซึ่งในอนาคตก็ไม่แน่ครับ แต่ที่แน่ๆ Project Ara ใน Gen แรกนี้จะเปลี่ยนชิ้นส่วนดังกล่าวไม่ได้ครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/05/21/googles_modular_project_ara_phone_will_be_out_for_developers_this_fall.html

BlackBerry ปล่อยวิดีโอโปรโมทแสดงการประกอบชิ้นส่วนภายในก่อนกลายมาเป็น Priv

สำหรับสมาร์ทโฟนตัวใหม่ล่าสุดอย่าง BlackBerry Priv นั้นอย่างที่เราทราบกันดีว่าในปีหน้านั้นทางบริษัท เตรียมดันยอดขายเจ้าสมาร์ทโฟนตัวนี้ให้มากขึ้นอีก อย่างที่ทาง CEO ของบริษัทเคยให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ไว้ว่า ในปีหน้าจะมีการวางขายเพิ่มในอีก 31 ตลาด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็มีประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาด้วย ดังนั้นจึงคาดกันว่าปีหน้า BlackBerry Priv น่าจะสามารถทำยอดขายได้มากขึ้นกว่าที่เปิดตัวออกมาเมื่อไม่กี่เดือนก่อนแน่ๆครับ

และล่าสุดตอนนี้ทาง BlackBerry ก็ได้เริ่มเตรียมตัวในส่วนของการตลาดที่จะเกิดขึ้นภายในปีหน้าแล้วด้วยการปล่อยคลิปวิดีโอออกมาโปรโมทเจ้า Priv ออกมาเพิ่มเติม ซึ่งวิดีโอดังกล่าวนี้จะมีการแสดงให้เห็นถึงการประกอบชิ้นส่วนภายในต่างๆก่อนจะมากลายเป็น Priv

ทั้งนี้จะเห็นว่าในวิดีโอดังกล่าวได้แสดงให้เห็นถึงชิ้นส่วนที่ช่วยป้องกันเจ้าตัวสไลด์ไม่ให้ล่วงแล้วแตกออกมาเป็นเสี่ยงด้วย แต่ต้องบอกไว้ว่ามันไม่ได้ป้องกันน้ำได้นะครับมีไว้กันการแตกกระจายเท่านั้น อย่าได้คิดนำเอาตัวสไลด์ไปจุ่มน้ำเด็ดขาดเชียว

 

from:https://www.appdisqus.com/2015/12/26/new-video-provides-an-animated-look-at-the-inside-of-the-blackberry-priv.html

Apple ลดจำนวนการสั่งอุปกรณ์คาดมาจากยอดขาย iPhone 6s ที่ตกต่ำลง

ก่อนหน้านี้ถึงแม้จะมีข่าวว่ายอดการสั่งซื้อ iPhone 6s หลังจากเปิดตัวเป็นไปได้อย่างสวยงามคือกว่า 13 ล้านเครื่องถูกขายภายในสุดสัปดาห์ที่ Apple ได้เปิดตัวออกมา แต่ทว่าตอนนี้จากรายงานที่เราได้มาล่าสุดพบว่า Apple ได้มีการสั่งซืออุปกรณ์ที่ใช้ในการประกอบ iPhone ลดลง ซึ่งคาดว่าน่าจะมาจากยอดขายของ iPhone 6s ที่ไม่ได้ขายดีแบบเทน้ำเทท่านั่นเองครับ

จริงๆแล้วสำหรับ iPhone 6s นั้นเคยมีนักวิเคราะห์ออกมาให้ความเห็นกันก่อนหน้านี้ครับว่า เจ้าอุปกรณ์ตระกูล S เครื่องนี้ไม่น่าจะสามารถทำยอดขายได้ดีกว่า iPhone 6 ได้อย่างแน่นอน ดังนั้นพอได้ทราบข่าวว่ามันขายดีกว่า iPhone 6 ในช่วงเปิดตัวยิ่งทำให้เหล่านักวิเคราะห์ถึงกับงุนงงกันไปตามๆกัน แต่ในท้ายที่สุดเมื่อมาถึงตอนนี้ก็ได้มีข้อมูลออกมาจาก Pacific Crest Securities ว่า Apple ได้ลดจำนวนการสั่งซื้ออุปกรณ์ลงไป 15% แล้ว ตามยอดขายของ iPhone 6s ที่ลดลง ซึ่งนอกจากนี้ยังมีอีกหลายๆแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมการผลิตชิพก็ได้ออกมายืนยันไปทิศทางเดียวกันครับ ทั้งนี้ยังมีการคาดการณ์ออกมาใหม่ว่า iPhone 6s และ 6s Plus จะมียอดขายรวมประมาณ 67 ล้านเครื่องเท่านั้นในไตรมาสที่ 4 ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่นักวิเคราะห์เคยกล่าวไว้ว่าน่าจะมียอดขายประมาณ 75-80 ล้านเครื่องครับ

แต่ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่าครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราจะได้ยินว่า Apple มีการสั่งอุปกรณ์ลดลง เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็มีรายงานออกมาจาก Digitimes ว่า Apple น่าจะขาย iPhone 6s ได้เพียง 65-70 ล้านเครื่องในไตรมาสที่ 4 อีกทั้งยังมีนักวิเคราะห์อีกหลายๆสำนักที่มองว่า iPhone 6s จะไม่สามารถมียอดขายเติบโตแซงหน้า iPhone 6 ได้

อย่างไรก็ตามยังมีนักวิเคราะห์บางส่วนที่มองในทางกลับกันว่า Apple น่าจะมียอดขาย iPhone 6s ที่สูงกว่า iPhone 6 เพิ่มขึ้นมา 7% ในไตรมาสที่ 4 ครับ งานนี้ต้องมารอดูกันว่าสรุปแล้วยอดขายของ iPhone 6s จะเป็นอย่างไรกันต่อไป จะสามารถทำลายสถิติของรุ่นพี่อย่าง iPhone 6 ได้หรือไม่ หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมออกมาเราจะรีบนำมารายงานทันทีครับ

 

 

ที่มา : phonearena

from:http://www.appdisqus.com/2015/10/16/apple-said-to-reduce-component-orders-in-response-to-weak-iphone-6s.html

ลือ!!ภาพชิ้นส่วนต่างๆของ iPhone 6s คาด Apple อาจเพิ่มสีใหม่ที่เรียกว่า Champagne

มาอีกแล้วครับสำหรับข่าวลือของ iPhone 6s โดยวันนี้ข่าวลือที่เราได้มาเป็นภาพที่คาดว่าจะเป็นส่วนประกอบของ iPhone 6s ที่เชื่อกันว่า Apple กำลังเตรียมจะปล่อยออกมาในเร็ววันนี้ครับ โดยรูปภาพที่เราได้มาทั้งหมดจะมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปด้วยกันคือ ชิ้นส่วนของปุ่ม Home, ชิ้นส่วนของวงแหวนรอบกล้องและสุดท้ายคือชิ้นส่วนของสายพานภายในครับ

ก่อนอื่นขอพูดถึงส่วนของวงแหวนรอบกล้องก่อนนะครับ สำหรับรูปของวงแหวนรอบกล้องที่หลุดออกมานี้ดูๆไปแล้วแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากของ iPhone 6 เลย จะบอกว่าเหมือนกันก็คงจะไม่ผิดเท่าไรนัก แต่ในส่วนของปุ่ม Home เรากลับพบว่ามีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับมันนิดหน่อยครับ นั่นก็คือเรื่องของสีนั่นเอง ถึงแม้ว่าเราจะเห็นได้ว่ามันเป็นสีทองแต่มันกลับไม่ใช่สีทองแบบเดียวกับของ iPhone 6 หรือ 6 Plus แต่อย่างใดครับ โดยแหล่งข่าวได้อธิบายไว้ว่าสำหรับ iPhone 6s นั้น Apple อาจมีการเพิ่มสีใหม่เข้ามา โดยสีดังกล่าวจะถูกเรียกว่า Champagne หรือในภาษาไทยกับอังกฤษก็คือ”แชมเปญ”นั่นเองครับ

 

นอกจากนี้อีกส่วนหนึ่งที่เป็นภาพหลุดออกมาก็คือ ชิ้นส่วนของสายพานภายในครับ โดยสายพานดังกล่าวนี้จะเห็นได้ชัดเจนว่ามีการปเลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนกับสายพานที่มีอยู่ใน iPhone 6 เพราะสายพานใน iPhone 6 นั้นจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ชิ้นแยกกัน แต่ในภาพดังกล่าวเป็นภาพของสายพานที่ต่อกันเป็นชิ้นเดียวครับ

แต่อย่างไรก็ตามภาพดังกล่าวเหล่านี้ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า iPhone 6s จะออกมาหน้าตาเป็นอย่างไรกันแน่ แต่จากข้อมูลจากหลายๆแหล่ง และภาพหลุดต่างๆที่โผล่ออกมาไม่เว้นในแต่ละวันนั้น เห็นทีว่ามีความเป็นไปได้ที่ iPhone 6s อาจจะมีหน้าตาคล้ายๆกับ iPhone 6 ก็เป็นได้ครับ

 

ที่มา : Phonearena

from:http://www.appdisqus.com/2015/08/04/newscamera-rings-flex-cable-and-home-button-holder-from-the-apple-iphone-6s.html

Samsung ประกาศเปิดตัวเซนเซอร์รับภาพตัวใหม่ขนาดเล็กลงถึง 20% ลืออาจใช้ใน Galaxy Note 5

สำหรับสมาร์ทโฟนในทุกวันนี้คงต้องยอมรับครับว่า มันเริ่มจะบางลงๆไปเรื่อยๆเลย ซึ่งแน่นอนว่ายิ่งมันบางลงมากเท่าไรเหล่าผู้ผลิตอุปกรณ์ภายในก็จำเป็นจะต้องผลิตอุปกรณ์ภายในให้มีขนาดเล็กลงและบางลงเรื่อยๆเช่นกันครับ อย่างล่าสุดทาง Samsung ได้ออกมาประกาศว่าทางบริษัทกำลังเริ่มผลิตเซนเซอร์รับภาพความละเอียด 16 MP ที่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมออกมาแล้ว โดยเจ้าเซนเซอร์ตัวนี้จะมีขนาดอยู่ที่ 1μm เท่านั้น โดยก่อนหน้านี้จะเป็นเซนเซอร์ขนาด 1.12μm ทำให้ความสูงทั้งหมดของเซนเซอร์ลดลงไปถึง 20% เลยครับ

โดยทาง Samsung ได้บอกเอาไว้ว่าเจ้าเซนเซอร์ตัวใหม่นี้เกิดจากเทคโนโลยี ISOCELL เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มในส่วนของความไวต่อแสงและยังช่วยเพิ่มคุณภาพให้กับภาพถ่ายเทียบเท่ากับ เซนเซอร์ตัวเก่าที่มีขนาด 1.12μm ครับ ซึ่งจากการออกมาประกาศเปิดตัวเจ้าเซนเซอร์ตัวจิ๋วนี้ไม่แน่ว่าทาง Samsung อาจจะนำมาใช้ในการผลิตสมาร์ทโฟนเรือธงตัวใหม่ในอนาคตก็เป็นได้ ไม่แน่อาจจะไปโผล่ใน Galaxy Note 5 ก็เป็นได้ครับ ซึ่งหากเป็นไปตามที่ลือกันจริงๆล่ะก็เจ้า Galaxy Note 5 อาจจะทำออกมาได้บางมากๆเลยทีเดียวครับ

 

ที่มา : Androidcentral

from:http://www.appdisqus.com/2015/07/30/samsung-announces-slim-new-16mp-image-sensor-thin-smartphones.html

เผย Apple Watch รุ่น Sport ขนาด 38 มม.อาจมีต้นทุนการผลิตแค่ 2,800 บาทเท่านั้น

IHS iSuppli มักจะทำการรื้ออุปกรณ์และสมาร์ทโฟนต่างๆ เพื่อทำการตรวจสอบราคาของชิ้นส่วนต่างๆ และคำนวณต้นทุนการผลิตอุปกรณ์นั้นๆ และวันนี้ได้ทำการตรวจสอบราคาชิ้นส่วนของ Apple Watch Sport ที่อาจมีต้นทุนการผลิตแค่ $83.70 หรือราวๆ 2,800 บาทเท่านั้น

IHS ได้ทำการตรวจสอบราคาแต่ละชิ้นส่วนของ Apple Watch Sport ขนาด 38 มม. ที่วางจำหน่ายในราคา $349 ราว 11,500 บาท ซึ่งรวมราคาแต่ละชิ้นส่วนแล้วจะอยู่ที่ $81.20 โดยทาง IHS ได้เพิ่มอีก $2.50 สำหรับค่าการผลิต รวมมูลค่าทั้งหมดแล้วเป็น $83.70 หรือร่าวๆ 2,800 บาท โดยมีการเปิดเผยราคาของ Ion-X Glass กระจกที่ใช้กับรุ่นนี้มีราคา $20.50 หรือราว 675 บาท

อย่างไรก็ตามทาง IHS ได้ทำการรวมคาเฉพาะชิ้นส่วนเท่านั้น ยังไม่รวมมูลค่าในขั้นตอนการทำวิจัย, พัฒนา, ซอฟท์แวร์, โฆษณา, การวางจำหน่าย เข้าไปด้วย เพราะถ้าหากรวมมูลการเหล่านี้แล้วยอ่มมีต้นทุนที่สูงขึ้นอย่างแน่นอน

ที่มา – macrumors

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=118655

เผยราคาต้นทุน iPhone 6 โดยประมาณ 6,450 บาท ส่วน iPhone 6 Plus แพงกว่า 520 บาท

ทุกครั้งที่มีการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทาง IHS iSuppli ก็ทำการแยกชิ้นส่วนและประเมินราคาส่วนประกอบแต่ละชิ้น มาถึง iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ก็เช่นกัน ทาง Re/code ก็ได้เผยแพร่จากการแยกชิ้นของ IHS iSuppli ว่า iPhone 6 รุ่น 16GB นั้นมีต้นทุนอยู่ที่ประมาณ $200(~6450 บาท) ทำให้ Apple ได้ margin จากการขาย iPhone ได้เครื่องละ 69% เลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามราคาต้นทุนดังกล่าวนั้นเป็นต้นทุนเพียวๆไม่ได้รวมถึงค่าใช้จ่ายในด้านการพัฒนาวิจัย ค่าการตลาด รวมถึงค่าจัดส่ง ลองมาดูกันว่า margin ของ iPhone ในอดีตนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
“ไล่กันไปตั้งแต่ iPhone 5 ซึ่งเปิดตัวในปี 2012 และ iPhone 5s ในปีที่แล้วมี margin อยู่ที่ 69% ส่วนรุ่นราคาถูกลงมาหน่อยอย่าง iPhone 5c มี margin 68% ซึ่งดูแล้วก็ไม่แตกต่างกับ margin ของ iPhone 6 แต่อย่างใด แต่ถ้าลองเทียบกับ iPhone รุ่นแรกสุดที่เปิดตัวในปี 2007 นั้นมี margin เพียง 55% เท่านั้น”

ถ้าดูเฉพาะ iPhone 6 แล้วรุ่นที่มีความจุสูงที่สุด 128GB นั้นเป็นรุ่นที่มี margin สูงที่สุดเนื่องจากชิ้นส่วนทุกอย่างมีเหมือนกันต่างกันแค่หน่วยความจำ โดยการเพิ่มจาก 16GB เป็น 128GB นั้นมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเพียง $47(~1500 บาท) แต่ราคากลับต่างกันถึง $200(~6450 บาท) ซึ่งก็ทำให้ Apple ได้ margin จากรุ่นที่แพงกว่าเพิ่มขึ้นอีก

ขยับขึ้นมาสำหรับรุ่นใหญ่อย่าง iPhone 6 Plus ที่ดูเหมือนว่าจะมีต้นทุนที่สูงกว่า iPhone 6 มากแต่ความจริงนั้นต้นทุนที่ประเมินออกมาจะต่างกันแค่ประมาณ $16(~520 บาท) เท่านั้นซึ่งมากจากหน้าจอแสดงผล ระบบ OIS และแบตเตอรี่ที่เพิ่มขึ้นมา

นอกจากนั้น chipset A-series ของ Apple ที่ใช้ A8 บน iPhone รุ่นใหม่นั้นปรากฎว่า Samsung ยังคงผลิตให้ Apple ถึง 40% ที่เหลือมาจากทาง TSMC ที่มีข่าวออกมาก่อนหน้านี้

ที่มา – macrumors

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=102342