บราซิลเอาจริง สั่งเจ้าหน้าที่ยึด iPhone ตามร้านค้า หลัง Apple ยังไม่ให้หัวชาร์จมากับเครื่อง

มหากาฬบราซิล-แอปเปิล ยังคงดุเดือดอยู่ จากเมื่อเดือนกันยายนศาลบราซิลได้สั่งตัดสินห้ามขายมือถือ iPhone หากไม่มีการแถมหัวชาร์จมาให้เวลาซื้อเครื่อง เนื่องจากเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคและเป็นการขายสินค้าที่ไม่สมบูรณ์ และแม้ Apple จะโดนสั่งปรับไปแล้วกว่าล้านเหรียญ สุดท้ายพี่แกก็ยังไม่ทำตามข้อบังคับ ไม่ให้หัวชาร์จมากับไอโฟนอยู่ดี บราซิลจึงต้องใช้ไม้แข็งยึดสินค้า iPhone ตามร้าน ไม่ให้ขายซะเลย

บราซิลยึด iPhone เพราะไม่ยอมแถมที่ชาร์จให้ผู้บริโภค

หน่วยงาน Procon-DF ของประเทศบราซิลเริ่มยึดไอโฟนหลายร้อยเครื่องตามร้านต่าง ๆ ในเมืองบราซิเลีย โดยมีจุดมุงหมายเพื่อบังคับให้ Apple ยอมทำตามกฏหมายที่ระบุว่าการขายมือถือต้องแถมที่ชาร์จมาให้ด้วยเสมอ

จากรายงานระบุว่า iPhone ที่ถูกยึดนั้นมาจากร้านขาย iPhone ที่ได้รับอนุญาตจาก Apple อย่างเป็นทางการ รวมไปถึงร้านผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือที่ขายเครื่อง iPhone ด้วย โดยได้สั่งแบนห้ามขายไอโฟนทุกรุ่นที่ไม่แถมที่ชาร์จมาให้ และแม้ว่ารุ่นที่เริ่มไม่แถมจะเป็น iPhone 12 แต่ Apple ก็ได้ปรับกล่อง iPhone 11 ที่ผลิตขึ้นมาใหม่ให้มีขนาดเล็กลงและไม่มีที่ชาร์จมาด้วย เพราะฉะนั้นรุ่น iPhone 11 ก็คงโดนแบนด้วยเหมือนกัน

โดยหลังจากมีการยึดสินค้าไม่ให้ขาย ทาง Apple บราซิล ก็ได้ยื่นคำร้องไปต่อรัฐบาล ขอให้ยังขายไอโฟนต่อไปได้จนกว่าจะมีการตัดสินคดีดังกล่าวจนถึงที่สุด และบริษัทยังเชื่อมั่นอยู่ว่าไม่ได้มีการเอาเปรียบผู้บริโภคตามที่ถูกกล่าวหาแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม Diego Câmara Alves ศาลท่านหนึ่งที่ตัดสินให้ Apple ยังคงขายมือถือต่อไปได้จนกว่าจะได้คำตัดสินสิ้นสุด ระบุว่า Apple ไม่ได้ละเมิดสิทธิผู้บริโภค และมองว่าหน่วยงานของบราซิลนั้นกำลังใช้อำนาจไปในทางไม่เหมาะสมที่จะมาสั่งแบนการขายกันแบบนี้ ในขณะที่ Apple เองบอกว่ายังมีความมั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะคดีนี้ได้ ด้วยเหตุผลที่ว่า “ผู้บริโภคมีความรู้ที่จะชาร์จและเชื่อมต่อมือถือของตัวเองได้หลายช่องทางอยู่แล้ว”

Apple ปากบอกมั่นใจแต่ยังเพลย์เซฟ

แม้ Apple จะแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถชนะคดีนี้ได้ แต่ยังมีทีท่าหวั่น ๆ อยู่บ้าง เห็นได้จากสินค้า Apple TV 4K รุ่นใหม่ ที่ตอนนี้ปกติจะไม่แถมสายชาร์จรีโมทมาให้ ต้องไปซื้อแยกเอาเอง แต่ในบราซิลกลับกลายเป็นว่า Apple ยังให้สาย USB-C มาอยู่ดี โดยไม่ได้มีการชี้แจ้งเหตุผลซะด้วย แต่ถ้าให้เดาก็คงคิดว่าพยายามเลี่ยงปัญหากับหน่วยงานของบราซิลนั่นแหละ เดี๋ยวขายทั้งมือถือ ทั้งกล่อง TV ไม่ได้ จะพาลเสียรายได้ไปเปล่า ๆ

 

ที่มา : 9to5mac

from:https://droidsans.com/brazil-seize-iphone-from-store-after-failed-compliance/

เอาที่สบายใจ…มือถือ OPPO หลายรุ่นจะไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่อง เริ่มต้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

เริ่มกลายเป็นเทรนด์จนมีหลายค่ายทำตามกันเรื่อย ๆ แล้วค่ะ สำหรับการไม่แถมที่ชาร์จมือถือให้มาในกล่องด้วย โดยเหตุผลก็คือต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมเพราะเชื่อว่าการไม่แถมที่ชาร์จให้กับมือถือจะไม่สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ โดยล่าสุดทาง OPPO เองก็ขอตามเทรนด์กันมาติด ๆ เลยค่ะ เพราะมีข้อมูลออกมาว่า OPPO จะไม่แถมที่ชาร์จในกล่องมือถือบางรุ่นเหมือนกัน โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

Billy Zhang รองประธานของ OPPO ได้ออกมาประกาศข้อมูลเกี่ยวกับการเรื่องที่ชาร์จในงานเปิดตัว Reno8 Series ที่ยุโรป โดยระบุว่า OPPO จะไม่แถมที่ชาร์จในกล่องของมือถือหลาย ๆ รุ่น ในปี 2023 แต่สำหรับมือถือรุ่นที่รองรับระบบชาร์จไว SuperVOOC จะยังคงมีให้เหมือนเดิม เพราะว่าหัวชาร์จระบบดังกล่าวยังไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไปนั่นเองค่ะ

เรามีแผนจะนำหัวชาร์จออกจากกล่องในปีหน้าสำหรับผลิตภัณฑ์หลายอย่าง แต่ที่ชาร์จ SuperVOOC ยังเป็นอะไรที่ลูกค้าไม่สามารถหาซื้อได้ทั่วไป ดังนั้นเราก็ยังต้องแถมที่ชาร์จแบบนี้ไว้ในกล่องอยู่ อย่างไรก็ตามเราก็คิดว่าจะนำที่ชาร์จออกจากกล่องและนำไปจำหน่ายที่ร้านของ OPPO แทน เพื่อให้ผู้ใช้ของเราสามารถหาซื้อที่ชาร์จและใช้งานต่อไปได้แม้ว่าจะเปลี่ยนรุ่นแล้วก็ตาม

ที่ผ่านมาคู่แข่งของทาง OPPO เองหลายรายได้ตัดที่ชาร์จออกจากกล่องไปบ้างแล้วค่ะ แต่โดยทั่วไปจะเป็นมือถือที่รองรับการชาร์จแบบ PD ซึ่งสามารถหาหัวชาร์จที่รองรับระบบนี้ได้ไม่ยาก ส่วนบริษัทแรก ๆ ที่เริ่มเทรนด์ไม่แถมหัวชาร์จอย่าง Apple และ Samsung ก็ไม่ค่อยให้ความสำคัญกับความเร็วในการชาร์จสักเท่าไหร่ค่ะ  ดังนั้นที่ชาร์จทั่วไปแค่ 20W หรือ 45W ก็เลยสามารถเอามาใช้ด้วยกันได้

ต้องรอติดตามกันอีกทีนะคะว่ามือถือ OPPO รุ่นไหนบ้างในปีหน้าที่จะไม่แถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องบ้าง…แต่ถ้าฟังตามที่ OPPO พูดมาก็พอจะรู้ได้ค่ะว่าน่าจะเป็นมือถือในระดับราคาประหยัดจนถึงระดับกลาง ๆ ที่ไม่แถมหัวชาร์จมาให้ เพราะว่ามือถือระดับนี้ไม่รองรับระบบ SuperVOOC นั่นเอง

 

ที่มา GSMArena

from:https://droidsans.com/oppo-stop-including-charger-in-the-box/

รุ่นเล็กก็ไม่รอด…Redmi Note 11 SE มือถือราคาครึ่งหมื่น ไม่มีหัวชาร์จมาให้ในกล่องแล้ว

จากที่ Apple เริ่มเทรนด์การไม่แถมหัวชาร์จมาให้ในกล่องมือถือ ตามด้วย Samsung และ Xiaomi ด้วย ซึ่งส่วนมากจะเป็นมือถือในระดับไฮเอนด์ แต่ล่าสุดเทรนด์นี้เริ่มลามมาถึงมือถือรุ่นประหยัดด้วยแล้ว เพราะมีข้อมูลว่า Redmi Note 11 SE ที่กำลังจะขายในอินเดียเร็ว ๆ นี้ จะไม่มีหัวชาร์จแถมมาให้ในกล่องกับเค้าบ้างแล้ว…

Redmi Note 11 SE เป็นมือถือที่เปิดตัวในจีนไปเมื่อช่วงเดือนพฤษภาคม และกำลังจะวางขายในประเทศอินเดียสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ โดยมันเป็นมือถือราคาประหยัดอยู่ที่ราว ๆ 5,300 บาท ก็นับเป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นที่เน้นความคุ้มค่าขึ้นมาหน่อย ตัวสเปคก็เป็นไปตามมาตรฐานในระดับราคานี้และยังรองรับระบบชาร์จไว 18W ซะด้วย…แต่สิ่งที่บังอาจทำกันได้ลงคอ คือการไม่ใส่หัวชาร์จมือถือมาให้ในกล่องด้วยน่ะสิ

พอไปดูในหน้าเปิดตัวในเว็บทางการ mi.com (อินเดีย) ก็จะเห็นว่ามือถือรุ่น Redmi Note 11 SE จะให้ของภายในกล่องเป็นตัวเครื่องมือถือ, เข็มจิ้มซิม, เคส, คู่มือการใช้งาน, ใบประกัน และสายเคเบิล USB Type-C ที่มีแค่สาย แต่ไม่มีหัวชาร์จมาให้นะ

นับว่าเป็นกระแสที่ลามไปหมดถึงพวกมือถือรุ่นเล็กรุ่นน้อยกันแล้วนะครับ จากที่ทุกคนเคยแซว Apple ไปอย่างหนักในตอนที่ไม่แถมหัวชาร์จมาให้กับมือถือ iPhone 12 ตอนนี้กลับกลายเป็นเทรนด์รักษ์โลกที่หลาย ๆ แบรนด์ก็ดูอยากจะทำตามกันจังเลยแม้จะเป็นมือถือราคาประหยัดที่เน้นความคุ้มค่าก็ตาม…ขอบคุณนะทุกแบรนด์ที่รักโลกกันแบบนี้

 

ที่มา : gsmarena

from:https://droidsans.com/xiaomi-redmi-charger-gone/

เอาจริงแล้ว ! คณะกรรมาธิการยุโรป (EU) ยื่นเสนอกฎหมายให้สายชาร์จมือถือในสหภาพยุโรปต้องเป็น USB Type-C เหมือนกันทั้งหมด

คณะกรรมาธิการยุโรป หรือ European Commission ประกาศผ่าน Facebook และ Twitter ว่าได้มีการยื่นเสนอข้อกฎหมายให้สายชาร์จมือถือและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในสหภาพยุโรปต้องเป็นมาตรฐานเดียวกันและใช้งานร่วมกันได้ทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่ามาตรฐานดังกล่าวก็คือพอร์ต USB Type-C ตามที่ได้มีการผลักดันกันมาอย่างยาวนานตลอดช่วง 2-3 ปีมานี้

 

ทาง European Commission ได้ให้เหตุผลสั้น ๆ ถึงการผลักดันกฎหมายครั้งนี้ว่า “การขายสายชาร์จจำนวนมากและหลายรูปแบบไม่ก่อเกิดการแลกเปลี่ยนใช้งานทดแทนกัน ทั้งยังสร้างความสิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็น” โดยทุก ๆ ปีก่อให้เกิดปัญหาเหล่านี้ เช่น

• ทำให้เกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์กว่า 11,000 ตันต่อปี
• แต่ละปีลูกค้าต้องเสียเงินมากกว่า 2,400 ล้านยูโร ในการซื้อสายชาร์จเฉพาะทาง

Consumers spend €2.4 billion annually on standalone chargers.

Our proposal for a common charging solution for portable electronic devices will reduce:
costs
annual e-waste.

A win for people and the environment.#EndChargerChaos @DigitalEU

— European Commission (@EU_Commission) April 15, 2022

 

บนหน้า Facebook ของเพจ European Commission ยังมีการทำมีม Drake ล้อเลียน ซึ่งระบุชัดเจนในภาพว่าจะยึดพอร์ต USB Type-C เป็นมาตรฐานหลักของยุโรปในอนาคตหลังผลักดันกฎหมายนี้จนเสร็จสิ้น พร้อมทิ้งท้ายว่าการทำแบบนี้จะสร้างผลดีทั้งต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม

แน่นอนว่าหากกฎหมายดังกล่าวถูกบังคับใช้แล้ว ก็คาดว่าปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ จะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งเอาจริง ๆ ทาง European Commission ก็เห็นผลักดันกฎหมายนี้มาตั้งนานหลายปีแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นจะบังคับใช้ได้จริงสักที หวังว่าปีนี้จะเริ่มเห็นแนวทางที่จริงจังมากขึ้นนะครับ

EU ยื่นร่างข้อเสนอ USB-C เป็นพอร์ตสากล กระทบ Apple เต็ม ๆ

 

 

ที่มา : European Commission, คอมคร้าบ

from:https://droidsans.com/eu-propose-a-legislation-to-establish-a-common-usb-type-c-charger-standard-for-all-smarphone-and-electronic-devices-in-the-eu/

แนะนำแท่นชาร์จไร้สาย สายไม่ต้อง แค่วางก็ชาร์จได้ ราคาประหยัด อัพเดท 2022

แนะนำแท่นชาร์จไร้สาย รองรับทั้ง Android และ iOS แค่วางก็ชาร์จได้เลย อัพเดท 2022

ถ้าใครที่เบื่อการชาร์จมือถือ Smart Watch หรือ หูฟังไร้สาย แบบที่ต้องมาคอยเสียบสายชาร์จแล้ว ทีมงานก็อยากจะมาแนะนำแท่นชาร์จแบบไร้สาย ใช้งานได้ทั้ง Android และ iOS ในราคาไม่แรง เอื้อมถึงได้ไม่ยาก แต่มาพร้อมคุณภาพที่ดี ใช้งานได้ยาวๆ มาดูกันเลย

• การชาร์จไร้สาย
• แนะนำแท่นชาร์จไร้สาย ราคาประหยัด ที่น่าสนใจ อัพเดต 2022
• ตารางเปรียบเทียบแท่นชาร์จไร้สาย

---

การชาร์จไร้สาย

ก่อนที่เราจะไปดูแท่นชาร์จแบบไร้สายกันนั้น เรามาพูดถึงเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายกันก่อนดีกว่า สำหรับเทคโนโลยีการชาร์จไร้สายนั้น เป็นเทคโนโลยีใหม่ (ที่มีมาสักพักแล้ว) ซึ่งเดิมแล้วก็มักจะใส่เทคโนโลยีนี้เข้าไปในสมาร์ทโฟน Smart Watch หรือ หูฟังไร้สาย ในรุ่นที่มีราคาแพง หรือที่เรียกกันติดปากว่า รุ่นเรือธง นั่นเอง แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีก็ได้แพร่หลาย มือถือระดับกลางๆ ก็รองรับเทคโนโลยีนี้แล้วเหมือนกัน

Advertisement

การชาร์จไร้สายนั้น จะทำงานผ่านขดลวดที่อยู่ภายในอุปกรณ์ ทั้งอุปกรณ์สำหรับชาร์จ และอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จ โดยจะใช้วิธีการเหนี่ยวนำไฟฟ้า เพื่อสร้างสนามแม่เหล็ก แล้วจึงเปลี่ยนเป็นพลังงานในการชาร์จแบตเตอรี่ ซึ่งขดลวดของทั้ง 2 อุปกรณ์นั้นจะต้องอยู่ในตำแหน่งเดียวกันด้วย ในปัจจุบันนั้น การชาร์จแบบไร้สาย จะอยู่ภายใต้เทคโนโลยีที่เรียกว่า ‘Qi’ (ถ้าเป็นทางฝั่ง Apple ก็คือ Mag Safe) ซึ่งเป็น มาตรฐานอุตสาหกรรมสำหรับการถ่ายโอนพลังงานแบบไร้สายรูปแบบหนึ่ง Qi นั้นรองรับกำลังไฟสำหรับชาร์จมือถือ กำลังไฟต่ำสุดอยู่ที่ 5W (ระดับเริ่มต้น), 7.5W, 15W และล่าสุดที่ 30W

---

แนะนำแท่นชาร์จไร้สาย ราคาประหยัด ที่น่าสนใจ อัพเดต 2022

1. แท่นชาร์จไร้สาย Mi 20W Wireless Charging Stand

มาเริ่มต้นกันด้วยแท่นชาร์จแบบไร้สายจาก Xiaomi ที่มาพร้อมกับ Qi Technology กำลังไฟสูงสูด 20W (Fast Charging) โดยแท่นชาร์จนี้จะมีลักษณ์เป็นแท่น เหมาะกับการวางสมาร์ทโฟนในแนวตั้ง แต่แนวนอนก็สามารถชาร์จได้เหมือนกันนะ รองรับการชาร์จผ่านเคสด้วย โดยตัวเครื่องสามารถห่างจากแท่นชาร์จได้สูงสุด 4 มิลลิเมตรเลยทีเดียว ในส่วนของตัวแท่นชาร์จก็จะมีซิลิโคนกันลื่นด้วย ทำให้มั่นใจได้ว่าสมาร์ทโฟนของเราจะไม่ลื่น ร่วง ลงมาอย่างแน่นอน ภายในกล่องก็จะประกอบด้วย ตัวแท่นชาร์จ, สาย USB-A to USB-C, คู่มือการใช้งานเบื้องต้น แต่ไม่มี Adaptor แถมมาให้นะ ถ้าใครที่สนใจซื้อมาใช้งานก็อาจจะต้องหา Adaptor อื่น มาแทน โดยแท่นชาร์จนี้สามารถรองรับ Input ได้ ตั้งแต่ 5V/2A , 9V/1.6A ไปจนถึง 12-16V/1.7A เลย

ราคาโดยประมาณ: 4xx – 5xx บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee, BaNANA IT

---

2. แท่นชาร์จไร้สาย HOCO CW24 Handsome 3 in 1 Wireless Fast Charger

มาต่อกันเลยกับแท่นชาร์จแบบไร้สายจาก HOCO ที่มาพร้อมกับความสามารถในการรองรับการชาร์จอุปกรณ์ได้ถึง 3 อุปกรณ์ ได้แก่ Smartphone, Smart Watch และ หูฟัง สามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 10W (สำหรับ Smartphone), 3W (สำหรับหูฟัง) และ 2W (สำหรับ Smart Watch) เลยทีเดียว ในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานก็ทำได้ค่อนข้างดีเลยทีเดียว มาพร้อมราคาในหลักร้อยเท่านั้น มาพร้อมน้ำหนักเบาเพียง 131 กรัม ภายในกล่องจะมีสาย USB Type-C มาให้ แต่ในส่วน Adaptor นั้น ก็อาจจะต้องหามาใช่เอง โดยตัวแท่นชาร์จ รองรับการชาร์จไฟ Input อยู่ที่ DC5V / 2.0A 9V / 2.0A Max

ราคาโดยประมาณ: 4xx – 7xx บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee

---

3. แท่นชาร์จไร้สาย UGREEN Qi Wireless Charging 10W

สำหรับแท่นชาร์จแบบไร้สายจาก UGREEN ตัวนี้ จะมาพร้อมการชาร์จไฟแบบ 2 ระบบ คือ 10W สำหรับการชาร์จ Smartphone และ 7.5W สำหรับการชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ มาพร้อมการป้องกันการจ่ายไฟเกินกำลัง ทำให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ในความปลอดภัย และมีไฟ LED แสดงสถานะการชาร์จด้วย ทั้งหมดนี้มีการรับประกัน 2 ปี ทำให้เรามั่นใจได้ว่าสินค้านั้นจะได้รับการคุ้มครองหากเกิดอะไรขึ้นแน่นอน ทั้งนี้ตัวแท่นชาร์จรองรับการชาร์จไฟ Input ได้แบบ DC 9V/2A และ 12V/1.5A

ราคาโดยประมาณ: 3xx – 6xx บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee

---

4. แท่นชาร์จไร้สาย Eloop W1 Wireless Charger

มาต่อกันด้วยแท่นชาร์จจาก Eloop แบรนด์แบตเตอรี่สำรองที่ใครหลายคนเลือกใช้งาน สำหรับอุปกรณ์ชาร์จไร้สายของ Eloop นั้นก็ทำงานได้ดีไม่แพ้แบตสำรองเลย ตัวแท่นชาร์จเป็นวัสดุกระจกสวยงาม มีให้เลือกด้วยกัน 3 สี ได้แก่ สีดำ, สีขาว และสีทอง ตัวที่ชาร์จรองรับเทคโนโลยี Qi Wireless Charger รองรับ Quick Charge จ่ายไฟได้ถึงได้ 9V/2A, 5V/2A และสูงสุด 10W สามารถวางตัวเครื่องให้ห่างกับที่ชาร์จได้สูงสุดถึง 5 มิลลิเมตร ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าใส่เคสแล้วจะชาร์จไม่ได้ แท่นชาร์จนี้ยังมีน้ำหนักที่เบาเพียง 103 กรัม เท่านั้น

ราคาโดยประมาณ: 3xx บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee

---

5. แท่นชาร์จไร้สาย Belkin Wireless Charger Pad 15W Boot Up

แท่นชาร์จแบบไร้สายจาก Belkin เป็นอีกอุปกรณ์ที่อยากจะมาแนะนำกัน แม้ว่าราคาจะอยู่ในช่วงหลักพัน แต่ก็ไม่ได้สูงมากนัก เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพที่ทำออกมาได้ดีพอสมควร ตัวแท่นชาร์จสามารถชาร์จสมาร์ทโฟนที่มีระยะห่างจากตัวแท่นได้ถึง 3 มิลลิเมตร ทำให้ไม่ต้องถอดเคสออกก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ ที่ชาร์จยังมาพร้อมกับไฟแสดงสถานะ 3 สีด้วยกัน คือ สีเขียวสำหรับการชาร์จโดยปลอดภัย, สีส้มสำหรับเตือนว่ามีวัตถุแปลกปลอม และสีแดง สำหรับบอกว่าไม่มีการชาร์จ ทำให้ผู้ใช้งานอย่างเราๆ วางใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย แถมตัวแท่นยังมีแผ่นกันลื่นอีกด้วย หมดกังวลเรื่องวางมือถือไปแล้วจะลื่นได้เลย ในส่วนการจ่ายไฟนั้นสามารถชาร์จได้สูงสุดถึง 15W เลยทีเดียว แภมภายในกล่องยังมี Quick Charge รุ่น 3.0 ขนาด 24W มาให้ด้วย ทำให้เราไม่ต้องไปหา Adaptor อื่นๆ มาใช้งานเลย และที่สำคัญ ยังมีรับประกัน 2 ปีเต็ม เรียกว่าคุ้มสุดๆ

ราคาโดยประมาณ: 1,6xx – 1,7xx บาท

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่: Shopee

---

ตารางเปรียบเทียบแท่นชาร์จไร้สาย

แท่นชาร์จแบบไร้สาย	ราคา	รองรับการชาร์จไฟสูงสุด	คุณสมบัติ / ฟีเจอร์
Mi 20W Wireless Charging Stand	4xx – 5xx บาท	20W	– มีแผ่นกันลื่น มั่นคง – รองรับการใส่เคสชาร์จ
HOCO CW24 Handsome 3 in 1 Wireless Fast Charger	4xx – 7xx บาท	10W	– รองรับการชาร์จแบบ 3 อุปกรณ์ ในเวลาเดียวกัน
UGREEN Qi Wireless Charging 10W	3xx – 6xx บาท	10W	– การชาร์จ 2 โหมด – รับประกัน 2 ปี
Eloop W1 Wireless Charger	3xx บาท	10W	– วัสดุทำด้วยกระจก สวยงาม – รองรับ Quick Charge 2A – รองรับการใส่เคสชาร์จ
Belkin Wireless Charger Pad 15W Boot Up	1,6xx – 1,7xx บาท	15W	– มี Adaptor ชาร์จมาให้ – รับประกัน 2 ปี – มีไฟแสดงสถานะ 3 แบบ – รองรับการใส่เคสชาร์จ

---

และทั้งหมดนี้ก็คือ แท่นชาร์จแบบไร้สายที่ทีมงานได้นำมาแนะนำกัน สำหรับใครที่เบื่อการชาร์จแบบต้องเสียบสายแล้ว เพราะยุ่งยากในการหยิบใช้งาน แถมสายยังขายบ่อย ขาดง่าย พันกันวุ่นวายไปหมด อย่างเปลี่ยนมาใช้แท่นชาร์จแบบไร้สาย ก็สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติม และหาซื้อมาใช้งานกันได้เลย

---

อ่านบทความเพิ่มเติม / เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง

• รีวิว Lenovo Tab M10 FHD Plus หลังใช้มา 1 เดือน

• แนะนำสายชาร์จไอโฟน ของดี มี MFi ในราคาประหยัด อัพเดต 2022

• แนะนำเคสไอแพด ปกป้องดี ดีไซน์สวย ดูดี ราคาเบาๆ อัพเดต 2022

• แนะนำส่วนขยาย Chrome Extensions ปังๆ น่าใช้งาน อัพเดต 2022

• รวมคีย์ลัด AutoCAD ใช้ง่าย ประหยัดเวลา ออกแบบไว อัพเดต 2022 (notebookspec.com)

• ราคาเปลี่ยนแบตไอโฟนและอุปกรณ์อื่น จากศูนย์ Apple อัพเดต 2022

• โปรแกรมตัดต่อวิดีโอ ฟรี ใช้งานง่าย สำหรับมือใหม่ อัพเดต 2022

• วิธีปรับภาพให้ชัด ทำภาพเบลอๆ ให้ชัดได้ในพริบตา อัพเดต 2021

from:https://notebookspec.com/web/638108-wireless-charger-suggest-for-you

บราซิลเตรียมฟ้องร้อง Apple กรณีไม่แถมหัวชาร์จให้ด้วย

หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคของบราซิลเตรียมฟ้องร้อง Apple หลังบริษัทไม่แถมอะแดปเตอร์มาพร้อมกับเครื่อง แต่ดันให้ลูกค้าซื้อแยกแทน

อ้างอิงจากรายงานของ TechTudo สื่อของประเทศบราซิลชี้ว่า หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคได้ฟ้องร้องเป็นเงินจำนวนมากถึง 1.9 ล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2021 ที่ผ่านมา ถือว่าเป็นจำนวนเงินสูงสุดที่สามารถปรับได้ตามกฎหมายของประเทศ และไม่สามารถฟ้องร้องซ้ำได้ภายในระยะเวลา 6 เดือนหลังจากฟ้องร้องสำเร็จแล้ว

หลังจากนั้น Apple ได้เปิดตัว iPhone 13 ใหม่ ซึ่งทางการบราซิลก้เล็งที่จะฟ้องร้องในประเด็นเดิมอีกครั้ง หน่วยงานกำกับดูแลอ้างว่าผู้บริโภคคาดควรจะได้รับสมาร์ตโฟนพร้อมที่ชาร์จ ไม่ใช่ให้ลูกค้ามาซื้อแยกเองแบบนี้

อันที่จริงแล้ว สาเหตุในการฟ้องร้องนี่ไม่ใช่ประเด็นเรื่องการไม่แถมที่ชาร์จในกล่อง แต่เป็นการที่ Apple ไม่มีการแจ้งอย่างชัดเจนว่าบริษัทไม่ได้แจ็งลูกค้าว่าไม่มีการแถมที่ชาร์จในกล่องของ iPhone แล้ว ซึ่งแม้ว่า Apple จะระบุไว้ที่หน้าเว็บไซต์แล้วว่าไม่มีที่ชาร์จมาในกล่อง แต่หน่วยงานคุ้มครองผู้บริโภคแจ้งว่าถือว่าเป็นการแจ้งที่ไม่เพียงพอ

ข่าว: บราซิลเตรียมฟ้องร้อง Apple กรณีไม่แถมหัวชาร์จให้ด้วย มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/brazil-will-fine-apple-for-not-having-a-charger-in-the-iphone-13-package/

ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนร่วมมือกันเปิดตัวมาตรฐานชาร์จ UFCS

ก่อนหน้านี้มีรายงานระบุ Huawei ได้ร่วมมือกับบริษัทจีน ได้แก่ OPPO, Vivo และ Xiaomi ภายใต้ Telecommunications Terminal Industry Association (TIA) เพื่อพัฒนามาตรฐานชาร์จที่จะทำให้ทุก ๆ แบรนด์สามารถใช้ชาร์จร่วมกันได้

มาตรฐานชาร์จที่ร่วมมือกันโดยผู้ผลิตแบรนด์จีนมีชื่อว่า UFCS หรือ Universal Fast Charging Specification ซึ่งเป็นการร่วมมือกันที่ดีมาก จากเดิมที่แต่ละแบรนด์จะมีเทคโนโลยีการชาร์จของตัวเอง ซึ่งทำให้การเอาอะแดปเตอร์ชาร์จของแต่ละแบรนด์มาใช้แทนกันจะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพเท่าที่ควรจะได้

แรงดันของมาตรฐาน UFCS แบ่งออกเป็น 4 ช่วง คล้ายกับ USB PD3.0 PPS

1. 5V ทำงานในช่วงระหว่าง 3.4V ถึง 5.5V
2. 10V ทำงานในช่วงระหว่าง 5.5V ถึง 12V
3. 20V ทำงานในช่วงระหว่าง 12V ถึง 21V
4. 30V ทำงานในช่วงระหว่าง 21V ถึง 36V

โดยผู้ผลิตจะต้องระบุสเปกที่แน่ชัดลงในอุปกรณ์สำหรับชาร์จ เช่น สายชาร์จเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด ตัวอย่างเช่น ตัวอย่างเช่น หากกระแสไดนามิกสูงกว่า 4A จะต้องระบุ UFCS ลงในสายชาร์จ แต่หากกระแสไฟฟ้าน้อยกว่าหรือเท่ากับ 4A ก็ไม่จำเป็นระบุรายละเอียดลงในสาย

 

ข่าว: ผู้ผลิตสมาร์ตโฟนจีนร่วมมือกันเปิดตัวมาตรฐานชาร์จ UFCS มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.
from:https://www.appdisqus.com/new-ufcs-charger-standard/

Anker ออกที่ชาร์จใหม่ต้อนรับ iPhone 12 pastel-purple

Anker หนึ่งในผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนชื่อดังของโลกตามกระแสเอาใจสาวก iPhone หลังจากที่ทาง Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 12 สีใหม่อย่างสีม่วง กับที่ชาร์จ Nano 20W ที่มีสีเดียวกันกับ iPhone 12 แบบเข้าชุดกันสุดๆ งานนี้สาวก iPhone ที่เล็ง iPhone 12 รุ่นสีม่วงอยู่นั้นไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

Anker Nano 20W pastel-purple shade

Anker Nano 20W pastel-purple shade

สำหรับงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ของ Apple ที่ผ่านมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนั้นอาจจะไม่ได้ทำให้สาวก iPhone ตื่นเต้นมากเท่าไรนักเพราะทาง Apple เน้นไปในส่วนของผลิตภัณฑ์ทางด้านการทำงานมากกว่าแต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีอะไรใหม่ๆ มาให้สาวกได้ชื่นใจกันเลยเพราะทาง Apple ได้ทำการเปิดตัว iPhone 12 สีใหม่กับ pastel-purple shade ที่น่าจะถูกใจใครหลายๆ คนเข้าให้ งานนี้นั้นหลังจากที่ทาง Apple เปิดตัวออกมาแล้วทาง Anker ผู้ผลิตอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนชื่อดังก็ปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมาตอบรับด้วยกับ Anker Nano 20W pastel-purple shade

เอาจริงๆ แล้วนั้น Anker Nano 20W pastel-purple shade ไม่ได้มีสเปคอะไรที่หวือหวาเท่าไรนักเพราะกำลังไฟที่ใช้ในการชาร์จนั้นก็ไม่ได้มากมายเท่าไร ทว่าสิ่งหนึ่งที่น่าจะทำให้ผู้ใช้ iPhone หันมาให้ความสนใจก็คือโทรสีของตัวที่ชาร์จและสายที่มาในโทนเดียวกันกับสีของตัวเครื่องอย่าง pastel-purple shade 

ทางด้านสเปคนั้นถือว่าทำได้ดีกว่าที่ชาร์จที่แยกจำหน่ายต่างหากของทาง Apple เองเพราะของทาง Apple นั้นจะจ่ายไฟที่กำลังไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 18W ดังนั้นแล้ว Anker Nano 20W pastel-purple shade จึงสามารถใช้งานในการชาร์จ iPhone 12 ซีรีส์ได้แบบสบายๆ 

ตัวที่ชาร์จรองรับเทคโนโลยี USB Power Delivery- (USB-PD) ด้วยชิปแบบเดียวกับที่ใช้งานบนที่ชาร์จ PowerPort III Nano 20W นอกจากตัวสีที่เข้ากันแล้วนั้นจุดที่น่าสนใจมากที่สุดก็คือที่ชาร์จของทาง Anker นั้นจะเล็กกว่าของทาง Apple ถึง 50% เลยทีเดียว ทั้งนี้ Anker Nano 20W pastel-purple shade เริ่มวางจำหน่ายแล้วในบางประเทศโดยจะมีราคาจำหน่ายทั้งชุด(ที่ชาร์จและสายชาร์จ) อยู่ที่ $46 หรือประมาณ 1,450 บาท สำหรับในเมืองไทยเรานั้นอีกไม่นานน่าจะได้เห็นร้านตัวแทนนำเข้ามาจำหน่ายกัน(แต่ไม่น่าจะมีจำนวนมากเท่าไรนัก)

ที่มา : notebookcheck

from:https://notebookspec.com/web/590611-anker-releases-a-new-version-of-its-nano-20w-to-match-the-iphone-12s-new-colorway

Redmi K40 Series อาจมีตัวเลือกว่าจะแถมหรือไม่แถมหัวชาร์จมาให้ในกล่องเหมือนรุ่น Mi 11

หลังจากที่ Xiaomi เปลี่ยนนโยบายในการแถมที่ชาร์จมาให้ในกล่องของ Mi 11 5G ซึ่งดูเหมือนว่ามือถือซีรีส์ Redmi ก็น่าจะทำแบบเดียวกัน เพราะล่าสุด Lu Weibing รองประธานบริษัท Xiaomi ได้โพสต์ภาพกล่องของ Redmi K40 ทั้ง 2 แบบที่มีขนาดแตกต่างกัน โดยมีกล่องขนาดปกติที่น่าจะแถมหัวชาร์จและสายชาร์จตามปกติ กับกล่องขนาดเล็กที่น่าจะมีแค่ตัวเครื่องเท่านั้น

ก่อนหน้านี้ Xiaomi ได้เปิดตัว Mi 11 5G ที่ไม่มีการแถมหัวชาร์จมาให้ในกล่อง แต่ทางแบรนด์ได้นำไปแถมนอกกล่องแบบไม่คิดตังค์เพิ่ม โดยให้ลูกค้าได้เลือกเองว่าต้องการหัวชาร์จหรือไม่

และคาดว่า Redmi K40 Series ที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ อาจจะมีตัวเลือก 2 แบบเช่นกัน คือ มีหัวชาร์จแถมมาในกล่อง กับแถมหัวชาร์จมาให้นอกกล่อง (หรือไม่รับหัวชาร์จ) เพราะ ทาง Xiaomi ได้โพสต์ภาพกล่องของ Redmi K40 พร้อมถามความคิดเห็นจากผู้ใช้งานว่ากล่องแพ็คเกจแบบไหนดีกว่ากันระหว่างแบบหนา กับ แบบบาง ซึ่งความคิดเห็นก็มีทั้งสองแบบ ทั้งที่คิดว่าแบบกล่องบางนั้นดีกว่า หรือแบบหนานั้นเหมาะสมกว่า เพราะจะได้รับอุปกรณ์เสริม

ซึ่งเราก็คงต้องติดตามกันต่อไปในการเปิดตัวของ Redmi K40 Series เดือนกุมภาพันธ์นี้ ว่าสรุปแล้วมือถือซีรีส์ดังกล่าวจะวางจำหน่าย 2 แบบ คือแบบที่แถมหัวชาร์จ และไม่แถม หรือว่าจะใช้วิธีเดียวกันกับ Mi 11 คือให้เลือกเอาว่าจะรับหรือไม่รับหัวชาร์จครับ

 

ที่มา : MyFixGuide

from:https://droidsans.com/redmi-k40-series-packaging-box-teaser/

รักษ์โลกยั่งยืน! Samsung วางแผนจะไม่แถมหัวชาร์จและหูฟังให้สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ หลังจากนี้

หลังจากที่ Samsung ได้นำเอานโยบาย “รักษ์โลก” มาใช้ ด้วยการไม่แถมหัวชาร์จมาให้กับมือถือ Galaxy S21 Series จนทำเอาแฟน ๆ เอ่ยปากชมกันให้ขรมไปหมด…และดูเหมือนว่า Samsung จะไม่ได้หยุดอยู่แค่มือถือซีรีส์เรือธงซะแล้ว เพราะล่าสุดทาง Samsung ได้ออกมาเผยว่าในมือถือ Galaxy รุ่นต่อ ๆ ไป ก็จะไม่แถมที่ชาร์จให้ในกล่องอีกเหมือนกัน

นาย Roh Tae-Moon CEO หัวหน้าแผนกไอทีและอุปกรณ์เคลื่อนที่คนใหม่ของ Samsung ได้ออกมายืนยันว่าสมาร์ทโฟน Galaxy รุ่นใหม่ ๆ ของ Samsung จะไม่มีหัวชาร์จรวมถึงหูฟังมาให้ในกล่องแล้ว นั่นหมายความว่า Samsung Galaxy ที่ผลิตออกมาในอนาคตอาจจะไม่มีการแถมอุปกรณ์เสริมแล้ว โดยเชื่อว่าการที่นำหัวชาร์จและหูฟังออกจากกล่องอุปกรณ์จะสามารถช่วยแก้ปัญหาในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ และการสร้างมลภาวะได้ แถมยังช่วยไม่ให้ลูกค้าต้องมีหัวชาร์จที่แถมมากับมือถือรุ่นใหม่ ๆ วางไว้เกะกะเต็มบ้านอีกด้วย

Galaxy S21 Series เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกของ Samsung ที่ไม่มีการแถมหัวชาร์จมาให้ในกล่อง แต่ทางแบรนด์ได้นำไปแถมนอกกล่องผ่านโปรโมชั่นพรีออเดอร์แทน และยังมีการแถมหูฟัง Galaxy Buds Live, Galaxy Buds Pro หรืออุปกรณ์ระบุตำแหน่งผ่าน Bluetooth อย่าง Galaxy SmartTag อีกด้วย (ของแถมแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ)

อย่างไรก็ตาม คาดว่า Samsung น่าจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไปสำหรับการนำอุปกรณ์เสริมอย่างหัวชาร์จและหูฟังออกจากแพ็คเกจของสมาร์ทโฟน Galaxy รุ่นใหม่ ๆ ซึ่งเราก็คงต้องติดตามกันต่อไปครับ ว่าสุดท้ายแล้วนโยบายดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับมือถือ Galaxy ซีรีส์ใดบ้าง และจะลามมาถึงแท็บเล็ต Galaxy Tab ด้วยหรือไม่

 

ที่มา : PhoneArena

from:https://droidsans.com/samsung-will-remove-charger-and-earphone-from-galaxy-devices/