คลังเก็บป้ายกำกับ: CES_2018

[PR] “ซัมซุง” รุกตลาดลูกค้าองค์กร เปิดตัว “ซัมซุง ฟลิป” ดิจิทัล ฟลิปชาร์ทอัจฉริยะ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม พร้อมปฏิวัติรูปแบบการประชุมสู่อนาคต

ให้ผู้ใช้แชร์ไอเดียจากสมาร์ทโฟนและดีไวซ์ต่างๆ แบบอินเตอร์แอ็คทีฟได้ทันที
รองรับผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อมกัน เพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกรูปแบบการประชุม

  • เปิดตัว “ซัมซุง ฟลิป” (Samsung Flip) ดิจิทัล ฟลิปชาร์ทอัจฉริยะ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรม ปฏิวัติและเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในทุกรูปแบบการประชุม พร้อมมอบประสบการณ์การใช้งานที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าองค์กร
  • “ซัมซุง ฟลิป” โดดเด่นด้วยฟีเจอร์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงานร่วมกันทั้ง แชร์ข้อมูล  เขียนโน้ตประกอบการนำเสนอ ค้นหาข้อมูลจากโน้ตที่ต้องการบนหน้าจอ หรือ สร้างคอนเท้นต์ที่ต้องการโดยผู้ใช้หลายคนพร้อมๆกัน  “ซัมซุง ฟลิป” ยังมาพร้อมพอร์ตและตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ได้แก่ ยูเอสบี พีซี และสมาร์ทโฟน

กรุงเทพฯ – 28 มีนาคม 2561 – บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดตัว “ซัมซุง ฟลิป” (Samsung Flip) ดิจิทัล ฟลิปชาร์ทอัจฉริยะ นวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากซัมซุง ขนาดหน้าจอ 55 นิ้ว อย่างเป็นทางการในตลาดประเทศไทย หลังจากที่ได้เปิดตัวครั้งแรกในงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ (CES) ประจำปี 2561 ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ณ นครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดย “ซัมซุง ฟลิป” เป็นนวัตกรรม ดิจิทัล ฟลิปชาร์ทอัจฉริยะ พร้อมให้ผู้ใช้สามารถแชร์ไอเดียจากสมาร์ทโฟนและดีไวซ์ต่างๆ ในแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ รองรับผู้ใช้งานได้หลายคนพร้อมกัน  ปฏิวัติรูปแบบการประชุมสู่อนาคต ให้การทำงานในแต่ละวันเปี่ยมไปด้วยพลังและความคิดสร้างสรรค์ ไร้ข้อจำกัด ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ ที่ตรงใจผู้ใช้งานยุคดิจิทัล พร้อมระบบการเชื่อมต่อที่ง่ายดายและสมบูรณ์แบบ

“ซัมซุง ฟลิป” เป็นนวัตกรรมดิจิทัล ฟลิปชาร์ทอัจฉริยะที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์รูปแบบการประชุมและทำงานของผู้ใช้ในยุคปัจจุปัน ซึ่งต้องการพื้นที่ทำงานที่มีการโต้ตอบกัน และ เน้นการทำงานทำงานร่วมกันผ่านเทคโนโลยีและดีไวซ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ สมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต  คุณสมบัติที่ล้ำสมัยของ “ซัมซุง ฟลิป” ซึ่ง  เหมาะกับทุกๆรูปแบบการประชุม จะช่วยตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้าองค์กร ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มธุรกิจธนาคาร กลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม องค์กรด้านการศึกษาต่างๆ กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี หรือแม้กระทั่ง กลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ ที่ต้องการอุปกรณ์เพื่อการทำงาน การระดมความคิด หรือพรีเซ้นต์งาน อย่างมีประสิทธิภาพ

“ซัมซุง ฟลิป” พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการประชุมแห่งโลกอนาคตให้ทุกความต้องการด้านธุรกิจเป็นไปได้  อย่างที่ใจคาดคิด ด้วยฟีเจอร์ที่โดดเด่น อาทิ

เสริมสร้างประสิทธิภาพบนการทำงานอย่างสมบูรณ์แบบ

“ซัมซุง ฟลิป” เป็นนวัตกรรมดิจิทัล ฟลิปชาร์ทอัจฉริยะที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเพื่อตอบโจทย์ทุกรูปแบบการประชุม เหมาะกับการทำงานของผู้ใช้ในยุคปัจจุปัน โดยมอบรูปแบบประสบการณ์ใช้งานแบบ All-in-one ให้ผู้ใช้แสดงความคิดได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยผู้ใช้สามารถเขียนบน “ซัมซุง ฟลิป” ได้อย่างง่ายด่าย อีกทั้งสามารถลบข้อความหรือโน้ตที่ไม่ต้องการแล้ว เพียงแค่ให้ฝ่ามือลบบนหน้าจอแสดงผล  ผู้ใช้  “ซัมซุง ฟลิป” ยังสามารถเขียนโน้ตได้มากถึง 20 หน้าต่อหนึ่งไฟล์  ซึ่ง “ซัมซุง ฟลิป” มาพร้อมกับฟังก์ชั่นเซิร์ชคำหลัก อำนวยสะดวกให้การประชุม ไม่ต้องเสียงเวลาหาโน้ตที่ตัวเองต้องการ นอกจากนี้ “ซัมซุง ฟลิป” พร้อมตอบโจทย์ทุกรูปแบบการประชุม      ด้วยหน้าจอที่สามรถปรับได้ทั้งในแบบแนวตั้งและแนวนอน  หน้าจอของ “ซัมซุง ฟลิป” ยังสามารถอดออกและติดบนผนังสำหรับการประชุมได้อีกด้วย

ประสิทธิผลมากขึ้นจากการทำงานร่วมกันในรูปแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ

เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพอย่างเต็มที่บนพื้นที่การประชุม “ซัมซุง ฟลิป” มอบประสบการณ์การทำงานร่วมกันในรูปแบบอินเตอร์แอ็คทีฟ  โดยผู้ใช้สามารถเขียนความคิดเห็นเห็นและแชร์คอมเมนต์ได้ทันทีบนหน้าจอ “ซัมซุง ฟลิป” ด้วยปากกา ที่สามารถปรับแต่งได้ตามสไตล์, สี, และขนาดตัวอักษร พร้อมให้ผู้ใช้แชร์คอนเทนท์ในรูปแบบ        อินเตอร์แอ็คทีฟอย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์สู่อุปกรณ์ จากสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และแท็บเล็ต ขึ้นสู่ “ซัมซุง ฟลิป” ซึ่งมีหน้าจอแสดงผลความละเอียดแบบ UHD Display

นวัตกรรมรักษาความปลอดภัยล้ำสมัย

“ซัมซุง ฟลิป” มาพร้อมนวัตกรรมรักษาความปลอดภัยล้ำสมัย ให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้เต็มเปี่ยมว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหล ด้วยการเก็บรักษาโน้ตและข้อมูลสู่พื้นที่เก็บข้อมูลในตัวเครื่อง อย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบ โดยผู้ใช้สามารถตั้ง    พาสเวิร์ด เมื่อล็อกอินเข้าใช้งานแล้ว สามารถแชร์ข้อมูลหรือคอนเทนท์ที่ต้องการ ผ่านอีเมล์ ผ่านการปริ้น หรือจะเซฟไว้ใน USB และตัวเก็บข้อมูลเพิ่มเติมอื่นๆ

“ซัมซุง ฟลิป” วางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม 2561 เป็นต้นไป ในราคาเครื่องละ 129,000 บาท    (ราคาขายปลีก) ผ่านร้านค้าพันธมิตรกว่า 100 ราย ทั่วประเทศ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่

http://www.samsung.com/th/business/smart-signage/smart-signage-interactive-displays/lh55wmhptwcxt/

###

เกี่ยวกับ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์

บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด จุดประกายแรงบันดาลใจและสร้างวิถีแห่งอนาคตด้วยความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้น โดยบริษัทได้สร้างนิยามใหม่ให้กับโลกของโทรทัศน์ สมาร์ทโฟน อุปกรณ์อัจฉริยะสวมใส่ได้ แท็บเล็ต กล้องถ่ายภาพ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน อุปกรณ์การแพทย์ ระบบเครือข่าย สารกึ่งตัวนำและ LED โซลูชั่น สำหรับข่าวสารล่าสุด ท่านสามารถเยี่ยมชม Samsung Newsroom ได้ที่ news.samsung.com

from:https://www.techtalkthai.com/samsung-flip-digital-flipchart-targeting-organization/

[PR] ฟอร์ติเน็ตสาธิตการป้องกันภัยคุกคามคอนเนคเต็ดคาร์ ในงาน CES ลาสเวกัส

จับมือกับ Renesas แสดงโซลูชั่นด้านความปลอดภัยไซเบอร์อันทันสมัยปกป้องการทำงานที่เชื่อมโยงภายในรถยนต์ ระบบเพาเวอร์เทรน เทเลเมติคส์ และอินโฟร์เทนเม้นต์ ช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าทั่วโลก

กรุงเทพฯ,  21 กุมภาพันธ์ 2561    ในงาน CES 2018 ที่จัดขึ้นที่เมืองลาส เวกัส รัฐเนวาด้า ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมานี้ ฟอร์ติเน็ต (Fortinet® NASDAQ: FTNT) ได้จับมือกับเรอเนซัส อิเล็กทรอนิกส์ (Renesas Electronics)  สาธิตโซลูชั่นด้านความปลอดภัยไซเบอร์อันทันสมัยปกป้องการทำงานที่เชื่อมโยงภายในรถยนต์อัจฉริยะ ซึ่งรวมถึงระบบเพาเวอร์เทรน (Power Train) เทเลเมติคส์ (Telemetics) และอินโฟร์เทนเม้นต์ (Infotainment)

ไมเคิล ซี ผู้ก่อตั้ง ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของฟอร์ติเน็ต

ไมเคิล ซี ผู้ก่อตั้ง ประธานและหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีของฟอร์ติเน็ตกล่าวว่า  “คอนเนคเต็ดคาร์ (Connected Car) หรือยานพาหนะอัจฉริยะเป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญ  มีระบบการทำงานที่เชื่อมต่อกันแบบอัตโนมัติขั้นสูงบนเครือข่ายและอุปกรณ์ที่หลากหลาย รวมถึงการทำแผนที่แบบ 3D การประมวลผลด้วยเซนเซอร์ อุปกรณ์สมาร์ทดีไวซ์แบบบูรณาการนานาประเภท ใช้บริการต่างๆ บนคลาวด์ ใช้เครือข่ายทั้งแบบ LAN และ CAN (Car’s controller area network) และการขับขี่ได้เองแบบอิสระ จึงทำให้ความเสี่ยงด้านภัยไซเบอร์เป็นเรื่องใหญ่  และนอกจากนี้ ด้วยอุปกรณ์ไอโอทีที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายของรถยนต์เพื่อเข้าถึงคอนเท้นท์และแอปพลิเคชันในรถยนต์ จึงยิ่งทำให้โอกาสในการถูกโจมตีมีขนาดใหญ่ขึ้น   นอกจากนี้ ผู้ผลิตเองได้เริ่มพัฒนายานยนต์ที่ต้องการระบบความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ ทำงานด้วยระบบข้อมูลอัจฉริยะด้านภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ ในการปกป้องสถาปัตยกรรมของรถคอนเนคเต็ดคาร์ที่ซับซ้อนนี้ ฟอร์ติเน็ตจึงได้เข้ามามีบทบาท และขยายความเป็นผู้นำระดับโลกจากตลาดความปลอดภัยของระบบเครือข่ายขององค์กรไปยังอุตสาหกรรมยานยนต์”

  • โดยฟอร์ติเน็ตได้สาธิตให้เห็นว่าระบบปฏิบัติการ FortiOS ของฟอร์ติเน็ตที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อการทำงานด้านความปลอดภัยโดยเฉพาะ จะสามารถทำงานร่วมกับระบบ R-Car H3 System-on-chip ของเรอเนซัส ซึ่งช่วยป้องกันเครือข่ายของรถยนต์ บริการและแอปพลิเคชั่นที่ทำงานบนคลาวด์ได้
  • ทั้งสององค์กรได้ร่วมกันจำลองภัยไซเบอร์ขึ้นมาคุกคามคอนเนคเต็ดคาร์รถยนต์ต้นแบบ  อันได้แก่ ภัยคุกคามประเภทไอพีเอส (Intrusion Prevention System: IPS) และภัยประเภทดีดอส (Distributed Denial of Service: DDOS) ที่สามารถทำให้บริการหยุดชะงักลงได้  เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของระบบความปลอดภัยแบบอัตโนมัติที่สามารถป้องกันไม่ให้การทำงานของรถยนต์ถูกครอบงำโดยภัยที่คุกคามเข้ามา
  • ในงาน CES 2018 นั้น ฟอร์ติเน็ตและเรอเนซัส ได้สาธิตให้เห็นการใช้เทคโนโลยีซีเคียวริตี้แฟบริคกับชิป R-Car H3 SoC ในการป้องกันการทำงานเพาเวอร์เทรน และการสื่อสารในรถ ซึ่งรวมถึงเครือข่ายแอลทีอี ระบบการสื่อสารระหว่างยนต์กับยานยนต์ ระบบแอคเซสพ้อยท์ไร้สาย ระบบควบคุมเครื่องยนต์ และอื่นๆ อีกมาก 

รายงาน ON World Connected Car Markets Report (April 2017) คาดว่าจะมีรถคอนเนคเต็ดคาร์จำนวน 300 ล้านคันภายในปีคศ. 2025 ซึ่งเพิ่มจากจำนวน 37 ล้านคันในปีคศ. 2016  และอุตสาหกรรมอุปกรณ์รถที่เชื่อมต่อกันนี้และบริการที่เกี่ยวข้องทั้งหลายจะมีรายได้ต่อปีมากกว่า  250,000 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา  ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ผลักดันให้ความต้องการต่อรถคอนเนคเต็ดคาร์ทั่วโลกเพิ่มมากขึ้น เกิดจากความต้องการคุณสมบัติในการขับขี่ได้ด้วยตนเอง การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจขับเคลื่อน และการเชื่อมต่อภายในรถ เช่น การใช้งานสมาร์ทโฟน การเปิดเพลงแบบออน์ดีมานด์ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและความบันเทิงภายในยานพาหนะ

รถคอนเนคเต็ดคาร์ทำงานได้โดยมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและเครือข่ายแลน (LAN) ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถแชร์การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับอุปกรณ์อื่นๆ ทั้งภายในและภายนอกรถ เช่น เซิร์ฟเวอร์กลางเพื่อประมวลผลต่างๆ ทั้งนี้ เพื่อให้การป้องกันไซเบอร์ที่เหมาะสมและสร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคผู้ผลิตรถยนต์ ผู้ผลิตคอนเนคเต็ดคาร์จึงจำเป็นต้องออกแบบและใช้เทคโนโลยีที่เน้นความปลอดภัยมาเป็นอันดับแรก  นอกจากนี้ เนื่องจากระบบรักษาความปลอดภัยต้องทำงานครอบคลุมทั่วทั้งเครือข่าย อุปกรณ์ และมาตรฐานการสื่อสารทั้งหมด  จึงทำให้ต้องเป็นระบบที่ให้ศักยภาพในการมองเห็นภายในการเชื่อมโยง การทำงานร่วมกันระหว่างระบบและอุปกรณ์ ให้การควบคุมนอกเหนือจากยานพาหนะที่ขับขี่นั้น ไปยังระบบนิเวศด้านการขนส่งในขนาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งรวมถึงระบบควบคุมการจราจรและถนน

รถคอนเนคเต็ดคาร์ต้องการใช้ระบบรักษาความปลอดภัยหลายรูปแบบที่ทำงานเป็นระบบเดียวกัน ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทำงานเชื่อมโยงกับฟังก์ชันในระบบที่สำคัญๆ เช่น ระบบส่งกำลัง (Powertrain) ระบบเทเลเมติคส์ (Telematics) ที่ช่วยบันทึกข้อมูลตลอดการขับขี่ เช่น อัตราการเร่ง อัตราความเร็ว การเบรค และแจ้งเตือนในกรณีต่างๆ อาทิ  แจ้งเตือนเมื่อมีการขับขี่ออกนอกเส้นทาง การบอกเส้นทาง รวมถึงระบบความบันเทิงภายในยานพาหนะ (Infotainment)  ทั้งนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าภัยคุกคามจะถูกกักกันและบรรเทาโดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ รถคอนเนคเต็ดคาร์ต้องการระบบการอัพเดทภัยคุกคามแบบเรียลไทม์ เช่น ระบบ FortiGuard Labs ของฟอร์ติเน็ตที่จะป้อนข้อมูลด้านความเสี่ยงล่าสุดให้แก่รถยนต์ เพื่อให้มีการป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด เป็นไปอย่างอัตโนมัติตลอดเวลา และสร้างการเชื่อมต่อกลับไปยังเครือข่ายคลาวด์เพื่อแชร์ข้อมูลภัย รับแพทช์ด้านความปลอดภัยและปรับปรุงข้อมูลภัยได้อย่างทันท่วงที

ทั้งนี้ ในปีคศ. 2015 มีการทดสอบแฮกรถ Jeep Cherokee โดยสามารถเข้ามาควบคุมระบบรถที่สำคัญๆ ได้และการทดสอบแฮกล่าสุดของรถ Tesla Model S ที่สามารถเข้ามาควบคุมระบบเบรค การล็อคประตู ควบคุมระบบรายงานคอมพิวเตอร์จากระยะทางไกลถึง 12 ไมล์ได้  แสดงให้เห็นว่า ผู้ผลิตยังต้องการระบบความปลอดภัยและป้องกันการละเมิดข้อมูลในระบบของรถคอนเนคเต็ดคาร์ที่มีประสิทธิภาพสูง

###

เกี่ยวกับฟอร์ติเน็ต

ฟอร์ติเน็ต (NASDAQ: FTNT) ปกป้ององค์กร ผู้ให้บริการ หน่วยงานรัฐบาลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ฟอร์ติเน็ตช่วยให้ลูกค้าสามารถมีข้อมูลเชิงลึกและการป้องกันที่ราบรื่นเพื่อให้พ้นภัยคุกคาม และยังเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานที่เยี่ยมยอดให้เครือข่ายที่ไร้พรมแดนในวันนี้และในอนาคต  ซีเคียวริตี้แฟบลิค ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมใหม่จากฟอร์ติเน็ตเท่านั้นที่จะช่วยสร้างเกราะความปลอดภัยโดยจะไม่ยอมแพ้แก่ภัยที่เข้ามา ไม่ว่าจะอยู่ในเครือข่าย แอปพลิเคชั่น คลาวด์ หรือโมบาย  ฟอร์ติเน็ตดำรงตำแหน่งเป็น #1 ในการได้ส่งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยสู่ตลาดโลกมากที่สุด  และมีลูกค้ามากกว่า 330,000 รายทั่วโลกที่ให้ความไว้วางใจฟอร์ติเน็ตในการช่วยสร้างเกราะป้องกันองค์กรของตน   รู้จักฟอร์ติเน็ตเพิ่มเติมได้ที่ http://www.fortinet.com  และ The Fortinet Blog  หรือ FortiGuard Labs

from:https://www.techtalkthai.com/fortinet-connected-car-security/

Samsung เปิดตัวตู้เย็น Family Hub เจนใหม่มาพร้อมระบบสั่งงานด้วยเสียง Bixby และลำโพง AKG ฟังเพลงสตรีมมิ่งได้

ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เปิดตัวตู้เย็น “Family Hub” เจนเนอเรชั่นใหม่ที่ได้รับรางวัลการันตี เดินหน้าบุกเบิกและสร้างนิยามใหม่ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ตู้เย็น Family Hub ได้รับรางวัลนวัตกรรมดีเด่นจากงาน CES 2018 (CES Best of Innovation award) สร้างมาตรฐานใหม่ของการใช้ชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกัน โดยจัดแสดงภายในงานแสดงสินค้าอิเลคโทรนิคส์สำหรับผู้บริโภคหรือ International Consumer Electronics Show (CES) ระหว่างวันที่ 9-12 มกราคม พ.ศ. 2561

Family Hub ปี 2018 มาพร้อมฟีเจอร์อัจฉริยะมากมายที่รองรับการใช้งานของผู้บริโภคอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งการซิงค์เชื่อมต่อการเก็บถนอมอาหารเข้ากับการจัดเตรียมมื้ออาหาร ช่วยให้สมาชิกในครอบครัวมีความใกล้ชิดกันและมีระเบียบมากขึ้น พร้อมกับเพิ่มความสนุกสนานเพลิดเพลิน ตู้เย็น Family Hub ยังมีความอัจฉริยะมากขึ้นและตอบสนองการใช้งานได้ดีกว่าเดิมด้วยระบบสั่งงานด้วยเสียง Bixby และการเชื่อมต่อกับ SmartThings ซึ่งเป็นแอพไอโอทีของซัมซุงที่จะสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่ออย่างแท้จริง

“นับตั้งแต่ Family Hub เปิดตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2559 ผู้บริโภคให้การยอมรับตู้เย็นรุ่นนี้ว่าเป็นศูนย์กลางควบคุมระบบดิจิตอลภายในบ้านของพวกเขาซึ่งช่วยดูแลจัดการอาหารให้แก่ครอบครัวได้อย่างเพลิดเพลินเรารับฟังเสียงตอบรับของผู้ใช้งานในปัจจุบันอย่างใกล้ชิดและสร้างตู้เย็น Family Hub รุ่นใหม่ที่มีความชาญฉลาดยิ่งกว่าและมีความก้าวล้ำหน้ามากกว่าเดิม” จอห์น เฮอร์ริงตัน รองประธานอาวุโส และผู้จัดการทั่วไปฝ่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์กล่าว “การผสมผสานระหว่าง Bixby และ SmartThings ไว้ใน Family Hub สร้างมาตรฐานใหม่ของการเชื่อมต่ออัจฉริยะไว้ในห้องที่สมาชิกครอบครัวใช้เวลาอยู่ร่วมกันมากที่สุดอย่างห้องครัว”

ชีวิตง่ายขึ้นด้วยระบบควบคุมในบ้านที่มีการเชื่อมต่อถึงกัน

ตู้เย็น Family Hub ทำงานด้วยระบบนิเวศ SmartThings ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมและดูแลบ้านที่มีการเชื่อมต่อถึงกันผ่านหน้าจอ Family Hub โดยแอพ SmartThings เชื่อมต่อ Family Hub เข้ากับอุปกรณ์ของซัมซุงหลายร้อยรุ่นและแบรนด์อื่นๆ ที่รองรับการเชื่อมต่อได้อย่างราบรื่น ดังนั้น ผู้ใช้จึงไม่เพียงมองเห็นสิ่งของในตู้เย็นขณะกำลังเดินซื้อของหรือเขียนโน้ตทิ้งไว้บน White Board เพื่อเตือนให้เด็กๆ ทำความสะอาดห้องนอนหลังเลิกเรียนได้เท่านั้น ผู้ใช้ยังสามารถทำสิ่งอื่นๆ ได้อีกมากมายโดยไม่ต้องออกจากห้องครัว ทั้งการดูว่าใครกำลังกดกริ่งหน้าบ้าน การปรับอุณหภูมิภายในบ้าน การตรวจสอบว่าลูกน้อยหลับสนิทอยู่อีกห้อง และการสั่งงานอื่นๆ ผ่านหน้าจอบนตู้เย็น

เพิ่มประสิทธิภาพการดูแลจัดการอาหาร

ตู้เย็น Family Hub ช่วยผู้บริโภคดูแลจัดการอาหารด้วยแอพ View Inside อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นภายในตู้เย็นได้จากทุกสถานที่ สำหรับรุ่นใหม่ปี 2018 มีแอพ Meal Planner รองรับการดูแลจัดการอาหารได้ตามความต้องการของผู้ใช้แต่ละคนได้มากขึ้นด้วยการนำเสนอสูตรอาหารสำหรับครอบครัวโดยอิงจากความชื่นชอบของแต่ละคน การควบคุมอาหาร และวันหมดอายุของอาหาร ตู้เย็น Family Hub ยังช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายด้วยแอพ Deals ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาส่วนลดและบันทึกไว้ในรายการ Shopping List หรือบัตรสมาชิก

สร้างความสัมพันธ์ที่อบอุ่นในครอบครัว

ตู้เย็น Family Hub ช่วยให้สมาชิกครอบครัวมีความใกล้ชิดกันและมีระเบียบมากขึ้น ด้วยความสามารถรองรับความต้องการอย่างเฉพาะเจาะจงในการแชร์ปฏิทินนัดหมาย ภาพถ่าย และบันทึกโน้ต ระบบ Bixby ของ Family Hub ยังสามารถแยกแยะเสียงของผู้ใช้แต่ละคนและมอบข้อมูลที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้คนนั้นได้ เมื่อถาม Bixby ว่า “วันนี้มีข่าวอะไรบ้าง” ระบบนี้จะรายงานข่าว สภาพอากาศ และปฏิทินนัดหมายของผู้ใช้คนดังกล่าวได้ทันที

สร้างรูปแบบใหม่ของการใช้ชีวิตที่สนุกสนานในบ้าน

ด้วยการรองรับการใช้งานทีวีและการฟังเพลงนวัตกรรมใหม่ ตู้เย็น Family Hub รุ่นแรกพลิกโฉมห้องครัวให้กลายเป็นพื้นที่สังสรรค์ของครอบครัวและเพื่อนฝูง ผู้ใช้สามารถฟังเพลงที่มีนับล้านเพลงผ่านแพลทฟอร์มสตรีมมิ่ง และแอพฟังวิทยุออนไลน์ รววมถึงผ่านซัมซุง สมาร์ท ทีวี[1] (Samsung Smart TV) ตู้เย็น Family Hub รุ่นใหม่ยังมาพร้อมฟีเจอร์ AKG Premium Quality Sound Speaker ที่ให้เสียงเบสที่ทุ้มลึกและเต็มอิ่มกับเสียงกลาง[2] (mid-range) นอกจากนี้ ผู้ใช้ยังสามารถสตรีมคอนเทนท์จากสมาร์ทโฟนเข้าสู่ตู้เย็น Family Hub ได้อีกด้วย

ซัมซุงกำลังขยายการใช้งานที่หลากหลายของตู้เย็น Family Hub ด้วยการสร้างความร่วมมือใหม่ๆ กับบริษัทชั้นนำทั้งโฮมแอดไวเซอร์ (HomeAdvisor) พินเทอเรสต์ (Pinterest) เดอะ เวเธอร์คอมพานี (The Weather Company) และเทสตี้ของบัซฟีด (Buzzfeed’s Tasty) ซัมซุงยังเดินหน้าผนึกกำลังกับหุ้นส่วนสำคัญทั้งออลเรซิพี (allrecipes) ริง (ring) และกรับฮับ (Grubhub) เพื่อปรับปรุงและยกระดับประสบการณ์ใช้งานห้องครัวและส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่ชาญฉลาด ซัมซุงจะขยายแพลทฟอร์มรุ่น 4D FDR อีก 4 โมเดลใหม่ รวมทั้งหมดเป็น 14 โมเดล เพื่อสร้างความมั่นใจว่าตู้เย็น Family Hub สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกคน

ตู้เย็น Family Hub พร้อมจัดจำหน่ายในฤดูใบไม้ผลิปีนี้

from:http://www.flashfly.net/wp/207073

Samsung เปิดตัวทีวีสุดอัจฉริยะครั้งแรกในโลกกับ “The Wall” โมดูลาร์ทีวีไมโครแอลอีดีขนาดยักษ์ 146 นิ้ว

Samsung เผยนวัตกรรมทีวีสุดอัจฉริยะครั้งแรกในโลกกับ “The Wall” โมดูลาร์ทีวีไมโครแอลอีดีขนาดยักษ์ 146 นิ้ว นำเสนอไฮไลท์นวัตกรรมโมดูลาร์ทีวีไมโครแอลอีดีมาพร้อมแหล่งกำเนิดแสงในตัว หน้าจอยักษ์ขนาด 146 นิ้ว ตื่นตาตื่นใจที่แรกของโลกในช่วงเฟิร์สลุคอีเว้นท์ภายในงาน CES 2018

บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดตัวสุดยอดนวัตกรรมทีวีสุดล้ำหน้ากับ “เดอะวอลล์” โมดูลาร์ ไมโครแอลอีดี (The Wall Modular MicroLED) ขนาดหน้าจอ 146 นิ้ว ครั้งแรกของโลกในงานคอนซูเมอร์ อิเล็กทรอนิกส์ โชว์ (CES) ประจำปี 2561 ในช่วงเฟิร์สลุคอีเว้นท์ของซัมซุง โดยทีวีนวัตกรรมล่าสุดเป็นหน้าจอแบบโมดูลาร์ ไมโครแอลอีดี ที่มีแหล่งกำเนิดแสงในตัว (Self-emitting Modular MicroLED) ซึ่งเป็นหนึ่งใน ไฮไลท์ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของธุรกิจจอแสดงภาพของซัมซุง สะท้อนให้เห็นถึงการที่ทีวีในปัจจุบันได้ดำเนินพัฒนาการมาจนถึงจุดที่สามารถยกระดับประสบการณ์การรับชมของผู้บริโภคได้อย่างโดดเด่น อีกทั้งทีวียังเป็นอีกหนึ่งแพล็ตฟอร์มศูนย์กลางแบบสมาร์ทฮับอัจฉริยะที่ให้ทุกสิ่งในชิวิตเป็นไปได้อย่างไร้ขีดจำกัด

โดยในช่วงเฟิร์สลุคอีเว้นท์ของซัมซุงที่มีสื่อมวลชน อินฟลูเอ็นเซอร์ และแขกผู้มีเกียรติมาร่วมงานถึง 300 คนจากทั่วโลก ได้มีการกล่าวแนะนำทีวีนวัตกรรมอัจฉริยะดังกล่าวโดย มร. จองฮี ฮาน ประธานฝ่ายจอภาพดิสเพลย์ของซัมซุง ร่วมด้วย มร. เดฟ แดส รองประธานอาวุโสฝ่ายคอนซูมเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ ของซัมซุง อเมริกา ซึ่งทั้ง 2 ท่าน ได้แสดงถึงวิสัยทัศน์ของซัมซุงในการก้าวสู่อนาคต – โดยนวัตกรรมจอภาพสำหรับทีวีจะไม่เพียงแต่ให้คุณภาพและความคมชัดสมจริงอย่างสูงสุด แต่ยังถือเป็นอุปกรณ์ศูนย์กลางในการเชื่อมต่อดีไวซ์ต่างๆ ที่ช่วยให้ตอบไลฟสไตล์คนรุ่นใหม่อย่างไร้รอยต่อได้อย่างสมบูรณ์แบบ

มร. จองฮี ฮาน ประธานฝ่ายจอภาพดิสเพลย์ ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ กล่าว “ที่ซัมซุง เราทุ่มเทอย่างหนักในการสร้างประสบการณ์การใช้งานหน้าจอของผู้บริโภคที่ล้ำหน้าอย่างเหนือชั้น ในฐานที่ ‘เดอะวอลล์’ เป็นทีวีโมดูลาร์ ไมโครแอลอีดี เครื่องแรกในโลก เราได้ปฏิวัติวงการโดยการนำนวัตกรรมนี้มาปรับหน้าจอทีวีได้ในทุกขนาด และยังคงคุณภาพการแสดงผลที่แจ่มชัด สดใส รองรับความกว้างของช่วงสีได้มากขึ้น ให้ระดับความลึกของสีสันต่างๆ และสีดำที่มากยิ่งขึ้น เราจึงรู้สึกตื่นเต้นกับก้าวต่อไปของการพัฒนานวัตกรรมนี้ไปสู่อนาคต โดยเราจะมุ่งมั่นสานต่อการยกระดับประสบการณ์การรับชมทีวีของผู้บริโภคผ่านหน้าจอนวัตกรรมอัจฉริยะจากซัมซุงอย่างไม่หยุดยั้ง”

สุดยอดนวัตกรรมทีวีโมดูลาร์ ไมโครแอลอีดี เครื่องแรกในโลก: จอภาพอัจฉริยะแห่งอนาคต

“เดอะวอลล์” เป็นทีวีโมดูลาร์ ไมโครแอลอีดี ขนาด 146 นิ้ว เครื่องแรกในโลก โดยเป็นเทคโนโลยีที่ให้ความคมชัดเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อไม่ว่าจะเป็นขนาดหน้าจอเท่าใด ค่าความละเอียดมากน้อยเพียงไหน หรือจะใช้กับทีวีในรูปแบบใดก็ตาม นวัตกรรมนี้มีแหล่งกำเนิดแสงในตัว (Self-emitting Modular MicroLED) ที่ใช้กับไมโครมิเตอร์สเกลแอลอีดี ทำให้จุดแสงบนหน้าจอมีขนาดเล็กเป็นพิเศษยิ่งกว่าจอแอลอีดีทั่วไปและเป็นแหล่งกำเนิดแสงในตัวให้กับทีวีอย่างมีประสิทธิภาพนั้นเอง

เทคโนโลยี ไมโครแอลอีดี ที่ใช้ในเดอะวอลล์ จะทำการประเมินค่าความต้องการระดับฟิลเตอร์สีและแบ็คไลท์ ซึ่งจะช่วยยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคให้สามารถรับชมทีวีบนหน้าจอที่มีคุณภาพแบบเหนือชั้น นอกจากนี้ จอแบบไม่โครแอลอีดีนี้ยังให้ความคงทนและประสิทธิภาพที่ดีกว่า ให้สีสันที่สดใสมีชีวิตชีวา ช่วยประหยัดพลังงาน และมีแหล่งกำเนิดแสงในตัว สร้างบันทัดฐานใหม่ให้กับวงการเทคโนโลยีจอภาพในอนาคต

“เดอะวอลล์” มาพร้อมดีไซน์ที่สวยงามไร้กรอบ ช่วยสร้างเทรนด์ใหม่สำหรับผู้บริโภคในการสามารถปรับขนาด รูปทรงและรูปแบบของทีวีที่ยังคงคุณภาพและอรรถรสในการรับชมได้ตามใจปรารถนา นอกจากนี้ หน้าจอของเดอะวอลล์ยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์ต่างๆ มากมาย เช่น สร้างดิสเพลย์สำหรับผนังภายในพื้นที่รูปแบบต่างๆ

เทคโนโลยีเอไอสำหรับการแสดงภาพคุณภาพสูงระดับ 8K: เปิดประสบการณ์การรับชมที่กว้างไกลยิ่งขึ้น

ซัมซุงยังได้เปิดตัว “คิวแอลอีดี ทีวี” (QLED TV) ทีวีรุ่นแรกในโลกที่ใช้เทคโนโลยีเอไอรองรับการแสดงผลที่ความละเอียด 8K ซึ่งจะมีการเปิดตัวทั่วโลกโดยจะเริ่มที่เกาหลีใต้และสหรัฐอเมริกาในช่วงครึ่งปีหลัง ด้วยเทคโนโลยีเอไอ (AI) หรือปัญญาประดิษฐ์ ที่ใช้อัลกอริธึ่มลิขสิทธิ์เฉพาะในการปรับค่าความละเอียดของหน้าจอที่ขึ้นอยู่กับคาแร็คเตอร์คุณภาพของภาพเคลื่อนไหวในแต่ละซีน ทำให้สามารถปรับปรุงคุณภาพของคอนเท้นต์ในรูปแบบใดและความละเอียดเท่าใดก็ตามให้ขึ้นมาเป็นระดับสูงถึง 8K ได้อย่างง่ายดาย

สมาร์ททีวีศักราชใหม่ในเวอร์ชั่น 2018 พร้อมอัพเกรดใหม่ล่าสุดด้วยบิ๊กซ์บี้และสมาร์ทธิงส์

ซังซุงโชว์เคสไลน์อัพสมาร์ททีวีนวัตกรรมประจำปี 2561 ที่มาพร้อมความสามารถที่ดีขึ้นในด้านการเชื่อมต่อและฟังก์ชั่นเพื่อความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในช่วงเฟิร์สลุคอีเว้นท์ของซัมซุงภายในงาน CES 2018 รวมถึงทคโนโลยีอัพเดตล่าสุดทั้งบิ๊กซ์บี้ (Bixby) สมาร์ทธิงส์ (SmartThings) และยูนิเวอร์ซัลไกด์ (Universal Guide)

บิ๊กซ์บี้ (Bixby) ผู้ช่วยเสมือนที่ใช้เสียงที่พัฒนาโดยซัมซุง ช่วยให้ผู้บริโภคสามารถใช้การควบคุมผ่านคำสั่งเสียงกับสมาร์ททีวีได้อย่างง่ายดาย และนอกจากนี้ ยังสามารถใช้งานร่วมกับสมาร์ทธิงส์ (SmartThings) ซึ่งเป็นแพล็ตฟอร์ม ไอโอทีฮับที่จะช่วยให้เกิดการเชื่อมต่อและควบคุมดีไวซ์ที่ซิงก์กับการใช้งานสมาร์ทธิงส์ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ทีวี ไปจนถึง สมาร์ทโฟนได้จากที่เดียว นอกจากนี้ ในปี 2018 ยังจะมีการเปิดตัว ยูนิเวอร์ซัลไกด์ (Universal Guide) ซึ่งเป็นโปรแกรมไกด์ที่จะช่วยแนะนำรายการทีวีและคอนเท้นต์ต่างๆ ตามความชื่นชอบของผู้ใช้งานแบบอัตโนมัติ

นอกจากนี้ยังมีโซนนวัตกรรมต่างๆ ที่เป็นไฮไลท์น่าสนใจของการเปิดตัวในช่วงเฟิร์สลุค อาทิ โซนเทคโนโลยี 8K-AI, โซน 4K HDR Gaming, โซน HDR10+, โซน Smart TV Experience และอื่นๆ อีกมากมาย

from:http://www.flashfly.net/wp/207064

เบลคินประกาศศักดาคว้า 9 รางวัลใหญ่ในงาน CES 2018

 เบลคิน Belkin® ผู้นำตลาดระดับโลกทางด้านอุปกรณ์เสริมสำหรับสมาร์ทโฟนคุณภาพ ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 9 รางวัลในงานCES 2018 จากการนำเสนอผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่และความมุ่งมั่นในการรักษาชื่อเสียงในฐานะผู้นำเสนอสินค้าคุณภาพระดับพรีเมี่ยมอย่างต่อเนื่อง

โดยสินค้าโดดเด่นที่ทำให้เบลคินสามารถกวาดรางวัลได้มากมายคือกลุ่มผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Wireless Charging รุ่นใหม่ล่าสุด ส่วนผลิตภัณฑ์ Thunderbolt™ 3 Express Dock HD ทำให้เบลคินได้รับรางวัล 2018 Picks Award จาก TWICE

นอกจากนี้ รางวัล CES Innovation Awards Honoree ยังตกเป็นของผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Wireless Charging Pad,Thunderbolt™ 3 Express Dock HD และผลิตภัณฑ์ในตระกูล MIXIT↑™ DuraTek™ Cable ของเบลคินทั้งหมด

Belkin

กลุ่มผลิตภัณฑ์แท่นชาร์จไร้สายรุ่นใหม่ BOOST↑UP™ Wireless Charging ของเบลคิน ผสานการทำงานของฟอร์มแฟกเตอร์หลายรูปแบบและใช้เทคโนโลยีตัวประจุไฟแบบไร้สาย โดยได้รับรางวัลจากหลายองค์กร ได้แก่

  • Digital Trends : รางวัล “Best Wireless Chargers of CES 2018” สำหรับผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Bold Wireless Charging Pad, BOOST↑UP™ Wireless Charging Stand และ BOOST↑UP™ Wireless Charging Car Mount
  • iPhone Life Magazine : รางวัล “Best of CES 2018” สำหรับผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Wireless Charging Stand และ BOOST↑UP™ Bold Wireless Charging Pad
  • MacRumors : รางวัล “Best Apple Related Accessories of CES 2018” สำหรับผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Wireless Charging Stand
  • Reviewed.com : รางวัล “Editors’ Choice” สำหรับผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Bold Wireless Charging Pad
  • TechRadar : รางวัล “Best Wireless Charger” สำหรับผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Dual Wireless Charging Pad

โดยผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Wireless Charging Pad ของ Belkin ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับ iPhone 8, iPhone 8 Plus และ iPhone X ที่สามารถชาร์จได้อย่างเต็มประสิทธิภาพที่ 7.5 วัตต์ ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ iPhone รองรับได้

ในขณะเดียวกัน BOOST↑UP™ Wireless Charging Pad ยังสามารถชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับมาตรฐาน Qi หรือสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ ที่รองรับการชาร์จแบบไร้สายได้ที่ความสามารถ 5 วัตต์ พร้อมมาตรฐานด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุด

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบวัตถุที่ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐาน Qi แท่นชาร์จจะไม่ทำการชาร์จหรือปล่อยกระแสไฟออกมา มีชุดป้องกันความร้อนที่ช่วยตรวจสอบขณะชาร์จสมาร์ทโฟนซึ่งเป็นการป้องกันอีกชั้นหนึ่ง รวมไปถึงการรับประกันอุปกรณ์ต่อพ่วงเมื่อเกิดความเสียหายจากแท่นชาร์จนี้

โดยขณะชาร์จห้ามวางวัสดุโลหะ เช่น กุญแจ หรือ เหรียญ บนแท่นชาร์จเพราะจะทำให้ชาร์จไฟโทรศัพท์ไม่เข้า รบกวนการทำงานของแท่นชาร์จ และอาจสร้างความเสียหายแก่ iPhone อุปกรณ์อื่นๆ ที่นำมาประจุไฟหรือตัวแท่นชาร์จเอง

โดยผลิตภัณฑ์ BOOST↑UP™ Wireless Charging Pad ติดตั้งไฟสัญญาณเตือนสีส้ม ซึ่งจะเตือนเมื่อมีการนำอุปกรณ์อื่นๆ หรือสมาร์ทโฟนที่ไม่รองรับมาตรฐานมาชาร์จไฟ และแท่นชาร์จจะตัดไฟโดยอัตโนมัติ

from:http://mobileocta.com/belkin-announces-9-grand-prizes-at-ces-2018/

Huawei Mate 10 Serie แรงต่อเนื่องข้ามปี กวาดอีก 6 รางวัลบนเวที CES 2018

Huawei Mate 10 Series สุดยอดสมาร์ทโฟนจากหัวเว่ย ที่มาพร้อมเทคโนโลยีเอไอที่ฝังอยู่บนชิพเซ็ตเป็นครั้งแรกของโลก ยังคงกระแสความแรงอย่างต่อเนื่องข้ามปี

ด้วยการคว้ารางวัลและคำชื่นชมจากสื่อไอทีชั้นนำต่าง ๆ บนเวที Consumer Electronics Show (CES) 2018 เมื่อต้นเดือนมาราคมที่ผ่านมา ที่ลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา

huawei mate 10 series

เริ่มต้นที่ TechRadar เว็บข่าวสารและรีวิวผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ ได้ยกย่องให้ Huawei Mate 10 Pro เป็นสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดของหัวเว่ย ด้วยความโดดเด่นทั้งในด้านดีไซน์ กล้องถ่ายภาพคุณภาพเยี่ยม และแบตเตอรี่ที่ยาวนาน

ส่วน Android Headlines สื่อออนไลน์ที่ถือเป็นแหล่งข้อมูลข่าวสารสำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีบนแพล็ตฟอร์มแอนดรอยด์ ได้มอบรางวัลBest Batter Life of 2017 ให้กับ Huawei Mate 10 Pro 

ด้วยเหตุผลที่ว่าแบตเตอรี่ของ Mate 10 มีขนาดใหญ่ถึง 4,000 mAh ส่งผลให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มีประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมที่ยอดเยี่ยม พร้อมยังชื่นชมในดีไซน์ที่สวยโดดเด่น

เช่นเดียวกับ Phandroid.com เว็บข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับแอนดรอยด์แห่งแรกของโลก ก็โหวตให้ Huawei Mate 10 เป็น Android phone with the best battery life พร้อมคอมเมนต์ว่าสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ใหญ่ทั้งตัวเครื่องและแบตเตอรี่ อีกทั้งหน้าจอยังสวยสว่างสดใส

ต่อด้วย GizmoChina บล็อกไอทีชั้นนำของจีนซึ่งอัดแน่นด้วยข้อมูลผลิตภัณฑ์สมาร์ทโฟนและไอทีแกดเจ็ต ได้ยกย่องให้ Huawei Mate 10 Pro เป็น “สมาร์ทโฟนสัญชาติจีนยอดเยี่ยมประจำปี 2017” ด้วยความโดดเด่นของดีไซน์ที่สวยสมดุลทุกสัดส่วนและประสิทธิภาพอันเหนือชั้นในทุกด้าน โดยเฉพาะกล้องเลนส์คู่ที่พัฒนาร่วมกับ Leica

ด้าน MobileTechReview เว็บไซต์รีวิวผลิตภัณฑ์โมบายแก็ดเจ็ตชั้นนำ ชื่นชม Huawei Mate 10 Pro ในเรื่องแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน ประสิทธิภาพการทำงานที่รวดเร็ว และเลนส์โมโนโครมของกล้องถ่ายภาพซึ่งให้ภาพถ่ายที่สวยสะกดทุกสายตา

มาถึง Mrwhosetheboss  ช่องยูทูปรีวิวผลิตภัณฑ์ไอทีของ Arun Maini ที่มีผู้ติดตามทั่วโลกเกือบ 1 ล้านคน ก็โปรยคำชมให้กับให้  Huawei Mate 10Series ว่ามีคุณสมบัติพิเศษที่สมาร์ทโฟนอื่นทำไม่ได้ โดยเฉพาะแอพแปลภาษา โหมดเดสก์ท็อป และ EMUI 8.0 ที่แสนฉลาด สรุปว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยเสริมสร้างประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างดีเยี่ยม

หลังจากที่ Huawei Mate 10 Series เปิดตัวไปตั้งแต่ปีที่แล้ว ส่งผลให้รุ่นนี้ได้รับกระแสตอบรับจากผู้ใช้ทั่วโลกและเมืองไทยอย่างต่อเนื่อง   หลังจากเปิดตัวในไทยไม่นาน Mate 10 Pro ทำสถิติยอด pre-booking  เร็วกว่า Mate 9 4 เท่า ภายใน วันแรก

from:http://mobileocta.com/huawei-mate-10-serie-continues-cross-year-sweeps-6-more-awards-on-ces-2018/

Western Digital เปิดตัว USB ความจุ 1 TB ที่มีขนาดจิ๋วที่สุดในโลก ในงาน CES 2018

Wd Usb 1 Tb Ces 2018

ก้าวล้ำไปอีกระดับแห่งวงการ USB ที่เวสเทิร์น ดิจิตอลเปิดตัว USB อุปกรณ์จัดเก็บข้อมูลที่มีความถึง 1 TB แต่มีขนาดเล็กที่สุดในโลก ที่งาน CES 2018

เวสเทิร์น ดิจิตอล เปิดตัว USB ความจุ 1 TB ขนาดเล็กที่สุดในโลก งาน  CES 2018 วันที่ 11 มกราคม 2561

เวสเทิร์น ดิจิตอล คอร์ปอเรชั่น (NASDAQ: WDC) ผู้นำด้านเทคโนโลยีและโซลูชั่นการเก็บข้อมูลระดับโลก ได้เปิดตัว USB Flash Drive ความจุ 1 TB ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกและผลิตภัณฑ์กลุ่ม Ultra-mobile แบบไร้สายที่มีประสิทธิภาพสูงและแฟลชสตอเรจความจุสูงที่จำหน่ายภายใต้แบรนด์แซนดิสก์ (SanDisk) และเวสเทิร์น ดิจิตอล (WD) ที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่มีความก้าวล้ำ ทำให้มั่นใจได้ว่าการเก็บประสบการณ์ส่วนตัวและความทรงจำต่างๆ สามารถเติบโตเพิ่มขึ้นได้อีกหลายปีข้างหน้า

Sandisk Extreme Portable Ssd 03

ชีวิตของเราได้เชื่อมต่อกับและเติมเต็มไปด้วยรูปภาพ วิดีโอ เพลง และไอเดียต่างๆ มากขึ้น

ดีเนช บาฮาล รองประธานฝ่ายการจัดการผลิตภัณฑ์กลุ่มไคลเอ็นต์โซลูชัน บริษัท เวสเทิร์น ดิจิตอล กล่าวและเสริมอีกว่า “ตั้งแต่การถ่ายวิดีโอเก็บบรรยากาศการแสดงลงในสมาร์ทโฟนของบรรดาผู้ปกครอง ไปจนผู้ที่ชื่นชอบโดรนหรือช่างภาพมืออาชีพ ผลิตภัณฑ์กลุ่มโซลูชันสำหรับผู้บริโภคของเราออกแบบมาเพื่อช่วยทุกคนในเรื่องการรักษา เข้าถึง และแชร์โลกดิจิตอลของพวกเขา”

Sandisk Extreme Portable Ssd 01

และยังพบกับเทคโนโลยีใหม่อื่นๆ ได้อีก ที่งาน CES 2018 ดังนี้

1. Streaming Media การสั่งงานได้ด้วยเสียง

โดยสั่งงานผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ My CloudTM Home ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บรักษาและจัดการข้อมูลทั้งหมดไว้ที่ศูนย์กลาง ทำงานในบ้านอัจริยะ ปัจจุบัน My Cloud Home สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ยอดนิยมอย่าง Amazon Alexa ที่ผู้ใช้สามารถฟังเพลงโดยใช้คำสั่งเสียงได้ ขณะนี้แอพของ My Cloud Home ยังสามารถทำงานร่วมกับ Google Chromecast ทำการสตรีมโฮมวิดีโอ รายการทีวี และภาพยนตร์ บนสมาร์ททีวีที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ได้

2. จัดแสดง USB ที่มีขนาดเล็กที่สุดในโลกขนาดความจุ 1 TB

ซึ่งเป็นโซลูชันแบบ USB Flash Drive หัวเชื่อมต่อแบบ Type-C ที่มีประสิทธิภาพในการเก็บข้อมูลได้อย่างมหาศาล และ SanDisk Ultra Fit USB 3.1 Flash Drive ขนาด 256 GB ที่มีขนาดจิ๋วที่ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเก็บรูปถ่าย วิดีโอ เกม และไฟล์เสียงต่างๆ ลงบนคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต เครื่องเล่นเกม และระบบเครื่องเสียงในรถยนต์ สามารถเก็บไฟล์รูปถ่ายได้ราว 14,000 ภาพ วิดีโอแบบความละเอียดสูงที่มีความยาว 10 ชั่วโมง และเพลงที่มีจำนวนมากถึง 16,000 เพลง และยังมีพื้นที่เหลือพอสำหรับจัดเก็บไฟล์อื่นๆ ได้อีก ถึง 64 GB

3. My Passport Wireless SSD และ SanDisk Extreme Portable SSD

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพและโดรน ต้องการเก็บภาพที่มีประสิทธิภาพสูง เวสเทิร์น ดิจิตอล ได้เปิดตัวอุปกรณ์จัดเก็บข้อมูล SSD คือ My Passport Wireless SSD ที่มี One-touch card copy ที่ผู้ใช้งานสามารถตัดต่อและแชร์ข้อมูลได้ทันที รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบนมือถือโดยตรง เช่น FiLMiC Pro และ LumaFusion และ SSD ที่เน้นความเร็วอีกตัวหนึ่งคือ SanDisk Extreme Portable SSD ที่เป็นอุปกรณ์จัดเก็บแบบพกพาที่เหมาะสำหรับการจัดเก็บและตัดต่อภาพถ่ายและวีดีโอที่มีความละเอียดสูงทำงานได้ทุกที่

My Passport Wireless Ssd 01

พบกับการแสดงเปิดตัวสินค้าได้ที่งาน Consumer Electronics Show 2018 (หรือ CES 2018) ในวันที่ 11 มกราคม 2561 สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ WD และ SanDisk

รับชมวีดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ ได้ที่ WD CES 2018 Product

ผลิตและจัดจำหน่ายโดย เวสเทิร์น ดิจิตอล

Image001

from:https://www.iphonemod.net/wd-usb-1-tb-ces-2018.html

LG เปิดตัว LG ThinQ AI เทคโนโลยีสุดล้ำ สั่งการอุปกรณ์หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ทั้งบ้าน ด้วยเสียง

ภาพแห่งอนาคตที่เคยเห็นกันจากในภาพยนตร์แนว Sci-Fi ต่างๆ ดูเหมือนจะใกล้เป็นความจริงเข้าไปทุกที ไม่เว้นแม้แต่การใช้ชีวิตในบ้านกับเครื่องใช้ไฟฟ้าประจำวัน โดยล่าสุดทาง LG ได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่ในงาน CES 2018 ที่ผ่านมากับเทคโนโลยีที่มีชื่อว่า LG ThinQ AI

LG ThinQ AI เป็นการนำเอาเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) มาสู่อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน โดยจะมีผู้ช่วยส่วนตัวที่จะโต้ตอบกับผู้ใช้งานด้วยเสียง หรืออาจเรียกได้ว่าต่อไปนี้เราจะสามารถสั่งงานด้วยเสียงไปยังเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆภายในบ้านได้ง่ายๆแล้วนั่นเอง นอกจากนี้ยังมีระบบเชื่อมต่อกันระหว่างอุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านอีกด้วย

LG ThinQ AI มีการใช้คำสั่งการด้วยเสียงจาก Google Assistant เข้ามาช่วยทำให้สามารถสั่งงานอุปกรณ์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น คำสั่ง Hey Google , Good morning จะเป็นการเริ่มสั่งงานให้เครื่องกรองอากาศเริ่มทำงาน เปิดไฟ และเปิดเสียงที่ลำโพง



หรือจะเป็นการสั่งงานไปยังอุปกรณ์มากกว่า 1 ชิ้นที่อยู่ตามพื้นที่ต่างๆภายในบ้านก็สามารถทำได้ง่ายๆ เช่นการสั่งงานคำสั่งไปยังลำโพงภายในห้องต่างๆในบ้านพร้อมกัน


LG ThinQ AI เน้นให้ผู้ใช้งานได้รับความสะดวกสบายจากความอัจฉริยะของระบบ AI ที่นำมาใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการปรับอุณภูมิเครื่องปรับอากาศ คำสั่งการเปิดลำโพงหรือไม่เว้นแม้กระทั่งเรื่องของการเข้าครัวกับความสามารถในการสั่งงานให้เปิดปิดฟังก์ชันในตู้เย็นที่บ้าน และตัวช่วยในการค้นหาวิธีทำอาหารจากวัตถุดิบที่มีอีกด้วย

เรื่องของการค้นหาข้อมูล หรือค้นหาเส้นทางก็สามารถสั่งคำสั่งด้วยเสียงผ่านรีโมทคอนโทรลไปยังตัวทีวีเพื่อแสดงผลได้ทันที นอกจากนี้ยังมีการแจ้งเตือนเมื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานเสร็จผ่านหุ่นยนต์ตัวจิ๋วแสนฉลาด เช่นเมื่อเครื่องซักผ้าทำงานเสร็จก็จะมีการแจ้งเตือนกันในทันที เป็นต้น

และต่อจากนี้ไป ถ้าต้องการจะออกจากบ้านก็ไม่ต้องวุ่นวาย คอยเช็คปิดไฟ ปิดอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆให้วุ่นวาย เพราะเพียงแค่ใช้คำสั่งงานด้วยเสียง ก็สามารถเซ็ทให้ปิดไฟและอุปกรณ์ต่างๆในบ้านได้ในทันที รวมถึงยังเป็นการสั่งให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นเริ่มทำงานได้อีกด้วย

LG ThinQ AI ไม่ได้มีดีแค่ความสะดวกสบาย รวดเร็วทันใจจากการใช้งานคำสั่งด้วยเสียง หรือการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆภายในบ้านเท่านั้น แต่ LG ThinQ AI ยังมีความฉลาดกับระบบเรียนรู้และการจดจำค่าต่างๆ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกเปิดตัวให้เห็นกันตั้งแต่ต้นปี 2018 ที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว หรือถ้าใครอยากเห็นความฉลาดอัจฉริยะแบบเต็มๆสามารถดูได้จากคลิปด้านล่าง

ผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้าของ LG สามารถดูรายเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.lg.com/th/home-appliances

บทความโดย –www.flashfly.net

from:http://www.flashfly.net/wp/206448

[PR] HP ปลุกพลังแห่งอนาคตวงการคอมพิวเตอร์ ที่งาน CES 2018

สรรค์สร้างประสบการณ์ PC และอวดโฉมนวัตกรรมล่าสุด ทั้ง PC รุ่นพรีเมี่ยม และ Always Connected, ระบบภาพสามมิติ, เทคโนโลยีเกมแบบ immersive และระบบเสียงที่สมจริง

ไฮไลท์ข่าว:

  • HP Spectre x360 15 PC คอนเวอร์ติเบิลที่ทรงพลังที่สุด1 ออกแบบมาสำหรับผู้รักการสร้างสรรค์โดยเฉพาะ
  • HP ENVY x2 ทำงานด้วยขุมพลัง Intel® Core™ เพื่อการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน และประสบการณ์การใช้งาน PC แบบเชื่อมต่อตลอดเวลา (Always Connected)
  • กล้อง HP Z 3D จะเปลี่ยนรูปแบบการทำงานสร้างสรรค์และจุดประกายการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อ
  • HP Pavilion Wave นำประสบการณ์ Amazon Alexa2 สำหรับ Windows 10 สู่เครื่องเดสก์ท็อปอันทรงพลัง และกระทัดรัดสวยงาม
  • OMEN Game Stream ส่งมอบขุมพลังแห่ง OMEN ถึงทุก PC Windows 103 ได้ในทุกที่ที่มีสัญญาณอินเทอร์เนต
  • OMEN X 65 Big Format Gaming Display พร้อมด้วย NVIDIA G-Sync™ ให้คุณดื่มด่ำไปกับจอคมชัดระดับ HDRขนาด 65 นิ้ว ให้ประสบการณ์เกมสมจริง (immersive)

มกราคม 2561, เอชพี อวดโฉมผลิตภัณฑ์ซีรี่ย์ใหม่ที่งาน CES 2018 พาคุณรุดหน้า เข้าสู่เจเนเรชั่นใหม่ของวงการ PC และเปิดประตูสู่หลากหลายประสบการณ์ PC อันน่าตื่นตาตื่นใจ

ผลิตภัณฑ์ล่าสุดจากเอชพีได้ยกระดับสมรรถนะ, การออกแบบ และการใช้งาน PC ขึ้นอีกระดับ นับตั้งแต่ PC คอนเวอร์ติเบิลที่ทรงพลังที่สุด1 และ PC รุ่น Always Connected 2-in-1 ไปจนถึงกล้องสามมิติสุดล้ำ และเทคโนโลยีเกมใหม่ล่าสุด

“โลกแห่งประสบการณ์ PC กำลังถูกสร้างขึ้นใหม่ในทุกๆ ด้าน โดยมีเอชพีเป็นแนวหน้าในการเปลี่ยนแปลงนี้”      รอน คอฟลิน ประธานฝ่าย Personal Systems บริษัทเอชพี กล่าว “เรากำลังเปลี่ยนแปลงวิธีที่โลกเชื่อมต่อกันและสร้างสรรค์ผลงานขึ้นใหม่ทั้งหมด ผลงานที่เรานำมาแสดงในงาน CES 2018 ได้แสดงให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราผสมผสานเสียงความต้องการจากลูกค้า กับขีดความสามารถด้านออกแบบระดับโลก และขีดความสามารถด้านวิศวกรรม ไม่ว่าจะเป็น PC คอนเวอร์ติเบิลที่ทรงพลังที่สุดและพลิกแพลงได้อย่างน่าอัศจรรย์อย่าง  ENVY x2 PC รุ่น Always-Connected ของเรา หรือ อุปกรณ์กล้องที่เป็นที่สุดของผลิตภัณฑ์ อาทิ กล้อง HP Z 3D รวมไปถึงฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์สำหรับการเล่นเกมโดยเฉพาะอย่าง Omen  เทคโนโลยีของเอชพี กำลังเปลี่ยนแปลงวงการนี้”

HP Spectre x360 15

HP Spectre x360 15 เครื่อง PC รุ่นพรีเมียม คอนเวอร์ติเบิลที่ทรงพลังที่สุดในโลก1 มอบสมรรถนะที่รวดเร็วทันใจและกราฟฟิกคมกริบทรงพลังเพื่อการสร้างสรรค์, แก้ไข, และสตรีมเนื้อหา 4K และ 3D ได้อย่างราบรื่น

ฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย:

  • พลังและสมรรถนะสำหรับผู้รักความสร้างสรรค์: แม้จะเป็นการใช้งานหนักเพื่อแก้ไขไฟล์วิดีโอขนาดใหญ่ ผู้ใช้จะยังสามารถเพลิดเพลินไปกับสมรรถนะที่รวดเร็ว ตอบสนองฉับไว และขีดความสามารถทางกราฟฟิกซึ่งมีตัวเลือกดังนี้:
    • หน่วยประมวลผล 8th Gen Intel® Core™ i7 8705G processor4 และแสดงผลด้วย Radeon™ RX Vega M มอบอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง5 พร้อมด้วยเทคโนโลยี Fast Charge ชาร์จได้เต็มถึง 50%6 ภายในเพียง 30 นาที หรือ
    • หน่วยประมวลผล Quad core 8th Gen Intel® Core™ processors4 และแสดงผลด้วย NVIDIA® GeForce® MX 150 มอบอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 13.5 ชั่วโมง5 พร้อมด้วยเทคโนโลยี Fast Charge ชาร์จได้เต็มถึง 90%6 ภายในเพียง 90 นาที
  • ดีไซน์พรีเมียมสวยงาม: วัสดุทำจากอะลูมิเนียม CNC ตัวโครงประกอบบางเพียง 19.5 มม. เบาเพียง 2.09 กก. 8
  • ตัวเครื่องสีเงิน Dark Ash Silver ตกแต่งขอบโดยรอบสีทองแดง Copper Luxe เพื่อเน้นย้ำถึงรูปลักษณ์ที่บางเบาสวยงาม และการเปลี่ยนแปลงอย่างไร้รอยต่อระหว่างโหมดแล็ปท็อป, แท็บเล็ต และเอ็นเตอร์เทนเมนท์ ลำโพง ซึ่งจัดวางตำแหน่งไว้อยู่เหนือแป้นพิมพ์ เพื่อประสบการณ์รับฟังเสียงที่ดียิ่งขึ้นในทุกๆ โหมด ควบคู่ไปกับการใช้งานแป้นพิมพ์ส่วนตัวเลข เพื่อเข้าถึงปุ่มลัดในการเรียกใช้งาน Adobe
  • กว้างไกลเท่าจินตนาการ: จอสัมผัสขนาด 15.6 นิ้ว คุณภาพ 4K UHD9 พร้อมทั้งตัวเลือกปากกา HP Tilt Pen ช่วยปลุกจินตนาการให้โลดแล่นบนผืนผ้าใบดิจิทัล กระจกหน้าจอที่ทนทานและดีเลิศอย่าง Corning® Gorilla® Glass 4 เสริมแข็งแรงและกันรอยขีดข่วน เหมาะสำหรับการออกแบบในทุกที่และการใช้งานจอสัมผัส
  • ปลอดภัยและฉลาด: PC อันทรงพลังนี้ พรั่งพร้อมไปด้วยกล้อง IR ซึ่งสนับสนุน Windows Hello3 และเครื่องอ่านลายนิ้วมือ เพื่อให้สามารถเข้าระบบได้อย่างปลอดภัยและราบรื่นในทุกๆ โหมด

HP ENVY x2

ผลิตภัณฑ์ HP ENVY x2  PC รุ่น Always-Connected ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะให้พร้อมมอบประสบการณ์การพร้อมใช้งานตลอดเวลา โดยใช้หน่วยประมวลผล Intel® CoreTM processors

ฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย:

  • ความบาง, เบา และทนทาน:  แท็บเล็ตทำงานเงียบ (fanless) ซึ่งประกอบเครื่องโดยวัสดุอะลูมินัม CNC บางเพียง 7.9 มม.10 น้ำหนักเบาเพียง 0.7 กก.11 จอสัมผัสขนาด 12.3 นิ้ว WUXGA+12 พร้อมจอกระจก Corning® Gorilla® Glass 4 ช่วยเสริมความทนทานและกันรอยขีดข่วนเมื่อพกพาไปที่ต่างๆ
  • ปรับแต่งเฉพาะสำหรับการแก้ไขงานและ multi-tasking:  เคสเนื้อสัมผัสหนังสี Oxford Blue ประกอบกับแท่นวางปรับระดับได้ เพื่อแปลงอุปกรณ์เข้าสู่โหมดแล็ปท็อป, อ่าน หรือ แท็บเล็ต แป้นพิมพ์พร้อมไฟส่องหลังแป้นพิมพ์ มีปุ่มเว้นระยะพอดีขนาด 1.3 มม. เพื่อการพิมพ์ที่ลื่นไหลในทุกสภาพแสง และยังมี ปากกา Windows Ink ช่วยให้การวาดและเขียนเป็นธรรมชาติ ด้วยการเขียนปากกาและสัมผัสไปพร้อมกัน
  • อิสรภาพในการทำงานอย่างไร้ขีดจำกัดและเชื่อมต่อได้มากขึ้นกว่าเดิม:  ด้วยอายุการใช้งานต่อเนื่องถึง 17 ชม.13 และ Window 10 Home3 จึงสามารถทำงานต่อได้ผ่าน Wi-Fi, ซิงค์กับ Connected Modern Standby14 และรองรับการเชื่อมต่อสัญญาณ LTE-Advanced 15 พร้อมตัวเลือกโมเด็ม Intel® XMM™ LTE
  • สรรค์สร้างมาเพื่อสร้างสรรค์: หน่วยประมวลผล 7th Gen Intel® CoreTM Y-Series processors4 ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะสมเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสูงสุด, พร้อมด้วยพื้นที่ความจุ PCIe SSD Storage ถึง 256 GB 16 เพื่อรองรับการนำเสนองานและการ multi-task ด้วยหน่วยความจำ LPDDR3 ถึง 8GB

กล้อง HP Z 3D

กล้อง HP Z 3D มอบขุมพลังในการออกแบบภาพและวัตถุต่างๆ เพื่อนักสร้างสรรค์ดิจิทัล ด้วยนวัตกรรมฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์จาก HP เพื่อการสร้างภาพดิจิทัลสามมิติจากวัตถุจริงโดยการนำเอาฟีเจอร์ของ Sprout by HP มาสู่ PC นี้

ฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย:

  • เปลี่ยนแปลงระบบการทำงานสร้างสรรค์: ออกแบบมาเพื่อศิลปิน CG, นักออกแบบสามมิติ, นักพัฒนาเกม และศิลปินดิจิทัล กล้อง HP Z 3D ช่วยต่อยอดประสบการณ์การใช้งาน Sprout Pro G2  ถ่ายทอดสู่อุปกรณ์ที่สามารถติดอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้สะดวก17 และเชื่อมต่อผ่าน USB เพื่อจับภาพและแปลงวัตถุสามมิติ, เอกสารสองมิติ และวิดีโอ live ให้เป็นไฟล์ดิจิทัลได้
  • สัมผัสประสบการณ์ร่วมกันมากขึ้น: เปิดโอกาสให้มีการแบ่งปันแบบ live ทางไกล ที่สัมผัสได้มากขึ้น และทันท่วงทีเสมือนอยู่ด้วยผ่านการแชร์หน้าจอ, การส่งข้อความ, และการใช้เว็บแคม
  • เอกลักษณ์แห่งการออกแบบที่ช่วยลดพื้นที่ใช้งานบนโต๊ะ เพื่อการจับภาพและสร้างภาพขึ้นแบบ real time: สร้างภาพดิจิทัลเท่าขนาดจริงโดยการหมุนวัตถุด้วยมือผู้ใช้เอง หรือจัดวางใต้กล้อง ด้วยซอฟต์แวร์การจับและสแกนที่ดาว์นโหลดได้ง่าย กล้องสามารถสร้างโมเดลสามมิติขึ้นได้แบบ real time  ระบบการทำงานสร้างสรรค์ได้รับการพัฒนาโดยการสแกนวัตถุด้วยความละเอียดที่เหมาะสมกับกราฟิกคอมพิวเตอร์ ซึ่งแยกแยะรายละเอียดพื้นผิวไว้อย่างครบถ้วนสำหรับ physical-based rendering (PBR) รวมถึงการสร้างเนื้อหา AR, VR และ MR

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมของกล้อง HP Z 3D สามารถเลือกชมรายละเอียดผลิตภัณฑ์ได้ ดังนี้.

HP Pavilion Wave พร้อม Amazon Alexa2 สำหรับ Windows 103

HP Pavilion Wave ส่งมอบประสบการณ์การใช้งานคอมพิวเตอร์อันทรงพลังพร้อมด้วยคุณภาพเสียงชั้นยอด และได้เพิ่มการตอบโต้ผ่านเสียงด้วย Amazon Alexa

ฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย:

  • ดีไซน์เดสก์ท็อปอันโดดเด่นเดิม ผสานกับการใช้งานเสียง: HP Pavilion Wave คือคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป ที่สร้างขึ้นโดยมีระบบเสียงที่ผสมผสานอย่างลงตัวครบวงจร เพื่อการฟังเพลง, เพลิดเพลินกับเสียงจากภาพยนตร์และสนทนาผ่านเว็บ จึงเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะสมที่สุดในการยกระดับประสิทธิภาพและความสามารถในการ multi-tasking ด้วยAmazon Alexa2 เพื่อให้ความช่วยเหลือในหลายๆ ด้าน
  • ระบบใช้งานด้วยเสียงเพื่อประสบการณ์ล้ำเลิศ: ลูกค้าสามารถควบคุมเสียงดนตรี, นาฬิกาจับเวลา, นาฬิกาปลุก, อุปกรณ์ smart home และอื่นๆ อีกมากมาย เพียงแค่บอก Alexa ไม่ว่าจะเป็นระหว่างท่องเว็บ ทำงาน หรือสตรีมผลงานอยู่18  ไฟ LED จะสว่างขึ้น เพื่อบ่งบอกว่า Alexa กำลังฟังคำสั่งอยู่ ทั้งนี้ วิศวกร Intel และ Amazon ได้ร่วมมือกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยี Intel® Smart Sound เพื่อชวยให้สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องสัมผัส โดยระบบเสียงสะท้อนทุกทิศทาง 360 องศา สามารถรับฟังคำสั่งเสียงได้จากทุกมุม

OMEN Game Stream

OMEN Game Stream19 ให้เหล่าเกมเมอร์สามารถเล่นเกมดังแห่งปีได้ทุกที่ทุกเวลาโดยอาศัยพลังและสมรรถนะของ PC OMEN ของพวกเขาได้บนทุกอุปกรณ์ Windows 103 ที่เชื่อมต่ออินเทอร์เนตความเร็วสูง

ฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย:

  • มอบประสบการณ์คลาวด์เกมมิ่ง: โดยฝังมากับ OMEN Command Center เหล่าเกมเมอร์สามารถสัมผัสประสบการณ์เล่นเกมกับ OMEN ได้ทุกที่ โดยให้เครื่อง PC OMEN รับหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์คลาวด์เกมมิ่ง
  • ผลักดันสู่ขอบเขตใหม่แห่งการเล่นเกม: ด้วยอุปกรณ์ Windows 10 ใดๆ ก็ได้3 เกมเมอร์สามารถเชื่อมโยงกับเครื่อง PC OMEN ของตนเอง และเล่นเกมที่ต้องการสเปคฮาร์ดแวร์สูงกว่าเครื่องที่ใช้เล่นเกมอยู่ได้ เพื่อประสบการณ์เล่นเกมเหนือระดับ

จอ OMEN X 65 Big Format Gaming Display พร้อม NVIDIA G-SYNC™

จอ OMEN X 65 Big Format Gaming Display พร้อม NVIDIA G-SYNC™ คือ เจเนอเรชั่นใหม่แห่งการเล่นเกมผ่านจอแสดงผลขนาดใหญ่สำหรับติดตั้งภายในบ้าน ซึ่งประกอบได้ด้วยจอแสดงผลคุณภาพ 4K UHD9 ขนาด 65 นิ้ว

ฟีเจอร์เด่นประกอบด้วย:

  • กราฟฟิกและสมรรถนะสุดล้ำ: จอแสดงผลด้วย refresh rate ถี่ถึง 120 Hz พร้อมฟีเจอร์ ultra-low latency เพื่อการแสดงภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ พร้อมด้วยสมรรถนะตามต้องการเพื่อชัยชนะในทุกการแข่งขัน
  • ภาพคมชัดสำหรับการเล่นเกม: รองรับ 4K UHD9 และ HDR-10 เพื่อเก็บรายละเอียดสีสัน, ความสว่าง และความคมเข้มของเกมใหม่ล่าสุดในตลาด
  • ออกแบบมาเพื่อการเล่นเกมและอื่นๆ: การผสมผสานของ NVIDIA G-SYNC™ และ NVIDIA® SHIELD™ ช่วยให้หน้าจอมีความยืดหยุ่นในการใช้งานต่างๆ เช่น การเล่นเกม, สตรีมภาพยนตร์, เนื้อหาที่แบ่งเป็นตอน และการฟังเพลง18 ได้

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์กลุ่ม OMEN สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ บล็อก OMEN Game Stream และ บล็อก OMEN X 65 Big Format Gaming Display with NVIDIA G-SYNC™ .

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ที่ประกาศทั้งหมดในวันนี้ กรุณาเลือกชมได้ที่ CES Online Press Kit.

ราคาและการวางจำหน่าย20

  • HP Spectre x360 15 นิ้ว ราคาเริ่มต้นที่ $1,369.99 และจะวางจำหน่ายผ่าน HP.com และ Best Buy ภายในเดือนมีนาคม 2561
  • HP ENVY x2 จะจำหน่ายในช่วงเดือน มีนาคม – มิถุนายน 2561 โดยจะแจ้งราคาและตัวแทนผู้ให้บริการสัญญาณที่จัดจำหน่ายให้ทราบก่อนวันจำหน่าย
  • กล้อง HP Z 3D วางจำหน่ายเฉพาะในสหรัฐฯ เดือนมีนาคม 2561 ในราคา $599.
  • HP Pavilion Wave จะวางจำหน่ายพร้อม Amazon Alexa ในช่วงเดือนมีนาคม – มิถุนายน 2561 ในราคา $549.99
  • OMEN Game Stream จะวางจำหน่ายพร้อมระบบ OMEN systems ในช่วงเดือนมีนาคม – มิถุนายน 2561
  • OMEN X 65 Big Format Gaming Display with NVIDIA G-SYNC™ จะวางจำหน่ายในช่วงเดือนกันยายน – ธันวาคม 2561โดยจะแจ้งราคาให้ทราบก่อนวันจำหน่าย

###

ข้อมูลเกี่ยวกับ HP Inc.

HP Inc. สร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค ธุรกิจ ภาครัฐ และสังคมอย่างแท้จริง ด้วยพอร์ทโฟลิโอด้านเทคโนโลยี ได้แก่ เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ อุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ โซลูชั่นและบริการต่างๆ ทำให้ HP สามารถมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้า ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ HP (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com

from:https://www.techtalkthai.com/hp-at-ces-2018/

ลือ Razer Phone 2 อาจจะมาพร้อมโน้ตบุ๊ค Project Linda ในช่วงเดือนกันยายน 2018

พึ่งเปิดตัวไปหยกๆ เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2017 ที่ผ่านมา กับ Razer Phone มือถือเรือธงรุ่นแรกจากแบรนด์อุปกรณ์เกมชื่อดังของโลก ที่มีจุดเด่นตรงหน้าจอรีเฟรชเรทสูงถึง 120 Mhz ซึ่งก็ดูเหมือนว่าจะได้รับความสนใจพอใช้ได้อยู่เหมือนกัน และในตอนนี้พึ่งผ่านมาแค่ไม่กี่เดือน ก็มีข่าวลือออกมาว่าเราอาจได้เห็น Razer Phone 2 เปิดตัวในเดือนกันยายน 2018 นี้ ในเวลาไม่ถึงปีจากที่เปิดตัวรุ่นแรก แถมคาดว่าจะมาพร้อมกับโน้ตบุ๊คสุดล้ำที่ใช้งานร่วมกับ Razer Phone อย่าง Project Linda อีกด้วย

เราได้เห็นหน้าเห็นตาโน้ตบุ๊ค Project Linda หน้าจอขนาด 13.3 นิ้ว ที่ต้องใช้งานร่วมกับ Razer Phone กันมาแล้วในงาน CES 2018 ที่ผ่านมา (และจากที่ทาง Droidsans ได้ไปลองเล่นดูก็พบว่ามันเข้าท่าดีเหมือนกัน) ซึ่งในตอนแรกก็มีเสียงออกมาบ้างว่า Project Linda นี้ เป็นแค่โปรเจ็คท์ทดลองเฉยๆ อาจไม่ได้ออกมาทำตลาดจริงๆ

แต่ล่าสุดได้มีข้อมูลหลุดออกมาจากเว็บไซท์ FrAndroid ประเทศฝรั่งเศส ว่าเราอาจได้เห็น Project Linda เวอร์ชั่นวางจำหน่ายจริงเปิดตัวพร้อมกับมือถือเรือธงรุ่นถัดไปอย่าง Razer Phone 2 ในเดือนกันยายน 2018 นี้ โดยเป็นการตีความจาก Twitter ของ CEO Razer ที่ได้โพสท์เอาไว้

Marques : คะแนนความอยากให้ Project Linda ออกขายจริงๆ 10 เต็ม 10, คะแนนที่ความคิดนี้จะเป็นจริง 3 เต็ม 10

Min-Liang Tan (Razer CEO) : ผมน่าจะทำอะไรซักอย่าง (กับ Project Linda) แล้วล่ะ…ผมว่า

ในตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติมอะไรมากไปกว่าที่บอกมาเลย ไม่ว่าจะเป็นสเปคคร่าวๆ ของ Razer Phone 2 หรือชื่อจริงๆ ของ Project Linda เอาไว้ค่อยรอลุ้นกันอีกทีตอนใกล้ๆ เดือนกันยายนละกันนะ

 

ที่มา : Phonearena, FrAndroid

from:https://droidsans.com/razer-phone-2-project-linda-release-rumor/