สตาร์ทอัพรถไฟฟ้าของจีน Jidu จะใช้เทคโนโลยีที่เหมือนกับ ChatGPT

ระบบใหม่ของ Baidu ที่คล้ายกับ ChatGPT กำลังจะถูกนำมาใช้ในรถไฟฟ้าแบบขับเคลื่อนได้ด้วยตนเอง หลังจาก Jidu สตาร์ทอัพด้านรถไฟฟ้าในจีนที่ได้รับการสนับสนุนจากทั้ง Baidu และ Geely ประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา

โดยมีแผนจะนำระบบรถไฟฟ้าของ Baidu ที่ชื่อ Apollo พร้อมกับตัว ERNIE bot ที่คล้ายกับ ChatGPT นี้มาใช้กับอินเทอร์เฟซใช้งานภายในรถ และช่วยสนับสนุนเทคโนโลยีการขับขี่ด้วย น่าจะออกรถคันแรกได้ภายในปีนี้

บอท Ernie ที่จะเอามาใช้จะเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ ตั้งใจมายกระดับการปฏิสัมพันธ์กับผู้ใช้ในรถ ที่รวมถึงการสั่งการด้วยเสียง เป็นต้น ทางฝั่ง Baidu ประกาศเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าแพลนจะทดสอบเป็นการภายในให้เสร็จในมีนาคมนี้ ก่อนปล่อย Ernie ออกมาใช้จริง

Jidu Auto ล่าสุดเปิดโชว์รูมจริงแห่งแรกที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา เป็นกลุ่มธุรกิจยานพาหนะขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าภายใต้บริษัท Baidu เมื่อปลายปีที่แล้วได้ออกรถรุ่นแรกชื่อ Robo-01 จำหน่ายที่ราคา 399,800 หยวน หรือประมาณสองล้านบาท

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CNBC

from:https://www.enterpriseitpro.net/chinese-ev-startup-jidu-plans-to-use-ghatgpt-like/

Advertisement

เทสล่าเรียกคืนรถ 362,758 คัน กลัวซอฟต์แวร์รุ่นเบต้า อาจทำให้รถเกิดการชนได้

Tesla ออกประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ยอมเรียกคืนรถยนต์มากถึง 362,758 คันด้วยตัวเอง ไม่ต้องรอหน่วยงานไหนมาสั่ง โดยเป็นรถที่ใช้ซอฟต์แวร์ช่วยขับรถที่ยังอยู่ระหว่างการทดลองชื่อ Full Self-Driving Beta หรือ FSD Beta

เทสล่ายังประกาศเตรียมส่งซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ไปอัพเดทรถยนต์รุ่นดังกล่าวแบบ Over-The-Air ให้ด้วย ทั้งนี้ทางสำนักดูแลความปลอดภัยบนท้องถนนแห่งชาติของสหรัฐฯ ได้ออกรายงานก่อนหน้านี้ว่า ระบบ FSD Beta อาจทำให้เกิดการชนบนรถที่ได้รับผลกระทบ

อันเนื่องมาจากพฤติกรรมการขับที่ไม่ปลอดภัยบริเวณทางแยกต่างๆ เช่น เวลาขับตรงผ่านทางแยกบนเลนที่บังคับให้เลี้ยวอย่างเดียว การขับเข้าแยกที่มีป้ายหยุดโดยไม่ยอมหยุดตามป้ายบอก หรือการขับผ่านแยกตอนไฟเหลืองโดยไม่ได้หยุดระวังใดๆ

นอกจากนี้ระบบ FSD Beta อาจมีปัญหาในการจำกัดความเร็วการขับให้ตรงตามป้ายระบุด้วย สำหรับรุ่นรถที่อยู่ในกลุ่มถูกเรียกคืนได้แก่ Model S และ X ปี 2016-2023, รุ่น Model 3 ปี 2017-2023, และ Model Y 2020-2023 ที่กำลังใช้ หรือกำลังรอติดตั้ง FSD Beta

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CNBC

from:https://www.enterpriseitpro.net/tesla-recalls-362758-vehicles/

Hyundai กับ Kia ออกแพ็ตช์ช่องโหว่ที่โจรใช้ขโมยรถได้ด้วยสาย USB

ผู้ผลิตรถยนต์อย่าง Hyundai และ Kia ต่างออกแพ็ตช์อัพเดตฉุกเฉินมาอุดช่องโหว่ในรถของตัวเองหลายรุ่น ที่เปิดช่องให้ใช้ในการจารกรรมรถยนต์ได้ด้วยวิธีง่ายๆ ที่มีการเผยแพร่เทคนิคเหล่านี้ตามสื่อโซเชียลอย่างเช่น Tiktok

ฮุนไดประกาศว่า “เพื่อรับมือกับขบวนการขโมยรถยนต์ที่ไม่ใช้ปุ่มสตาร์ทที่กำลังระบาด ที่แฮ็กตัวเช็คชิปกุญแจรถ (Immobilizer) ในสหรัฐฯ Hyundai จึงได้เสนออัพเกรดซอฟต์แวร์ป้องกันการขโมยใหม่ให้ เพื่อสกัดกั้นวิธีที่แชร์กันแพร่หลายตอนนี้”

ซึ่งตั้งแต่กรกฎาคม 2022 มีการโพสแข่งกันแฮ็กสตาร์ทรถดังกล่าวบน Tiktok จนขึ้นเป็น “Challenge” ที่คนพากันทำตาม ด้วยการแกะเอาตัวครอบรูกุญแจสตาร์ทรถออกจนเห็นขั้ว USB-A ที่เปิดให้คนภายนอกเสียบเข้ากับระบบรถโดยตรง

ปัญหาอยู่ที่กลไกของระบบ “ไขกุญแจเพื่อสตาร์ทรถ” ที่ข้ามการทำงานของตัว Mobilizer ที่คอยตรวจสอบความถูกต้องของโค้ดที่ฝังในส่วน ECU เทียบกับในกุญแจรถได้ เปิดช่องให้โจรเริ่มต้นการทำงานของเครื่องยนต์เองได้ด้วยสาย USB ทั่วไป

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Bleepingcomputers

from:https://www.enterpriseitpro.net/hyundai-kia-patch-bug-allowing-car-thefts-with-a-usb-cable/

เทสล่าหันราคาในสหรัฐฯ และยุโรป กระตุ้นยอดท่ามกลางตลาดเดือด

ผู้ผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้า Tesla กำลังลดราคาในสหรัฐฯ และทั่วยุโรปอีกครั้ง อ้างอิงจากลิสต์ราคาบนเว็บไซต์บริษัทเมื่อคืนวันพฤหัสก่อนของสหรัฐฯ โดยเทสล่าเองไม่ได้ตอบคำถาม หรือให้ความเห็นเกี่ยวกับเหตุผลที่ต้องหั่นราคาครั้งนี้

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวครั้งนี้อาจช่วยให้เทสล่าได้รับเครดิตภาษีจากรัฐในฐานะผู้ผลิตรถไฟฟ้ามากขึ้น แถมช่วยกระตุ้นยอดขายทั้งในและนอกประเทศ ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่ดุเดือดขึ้น และอัตราดอกเบื้ยที่เพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับในยุโรปนั้น เทสล่าลดราคารุ่น Model 3 และ Model Y ในออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ นอร์เวย์ สวิสเซอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร อ้างอิงตามสำนักข่าวรอยเตอร์นั้น อย่างในเยอรมันเทสล่าลดราคาจาก 1% ลดเพิ่มลงไปถึงประมาณ 17%

ซึ่งรุ่น Model 3 ของเทสล่าเป็นรถไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในเยอรมันประจำเดือนธันวาคม 2022 ที่ผ่านมา รองลงมาเป็นรุ่น Model Y ถือว่าเทสล่าสามารถเอาชนะค่าย Volkswagen โดยเฉพาะรถไฟฟ้ารุ่นยอดนิยมเดิมอย่าง ID.4 ในเยอรมันได้

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CNBC

from:https://www.enterpriseitpro.net/tesla-cuts-prices/

พบช่องโหว่บนรถฮุนได ที่สั่งล็อกประตูได้จากระยะไกล

นักวิจัยด้านความปลอดภัยค้นพบช่องโหว่บนรถ Hyundai และ Genesis ที่เปิดช่องให้แฮ็กเกอร์ควบคุมการทำงานรถจากระยะไกล เช่น ตัวล็อกประตู และเครื่องยนต์ เป็นต้น กระทบกับรถที่จำหน่ายตั้งแต่ปี 2012 เป็นช่องโหว่ของแอพบนอุปกรณ์พกพาของเจ้าของตัวรถที่รักษาความปลอดภัยข้อมูลไม่เพียงพอ

โดยนักล่าค่าหัวบั๊ก Sam Curry กล่าวในทวิตเตอร์ พบว่าตัวเรียก API สำหรับควบคุมตัวล็อก, แตร, เครื่องยนต์, ไฟหน้า, และกระบะหลังท้ายรถนั้นถูกเจาะง่ายมาก สามารถโดนแกะโปรแกรมให้เข้าถึงฟังก์ชั่นเหล่านี้จากระยะไกลได้ พร้อมทั้งอธิบายกระบวนการแบบละเอียด

บนแอพที่มีช่องโหว่นั้น ฟังก์ชั่นการล็อกและปลดล็อกรถใช้การรักษาความปลอดภัยด้วยโทเค่น JSON ผ่านเว็บที่สร้างขึ้นจากบัญชีอีเมลที่เชื่อมต่อไว้ ตรวจกับคำร้องขอ HTTP ที่ส่งมาจากแอพร่วมกับข้อมูลเลขประจำตัวรถหรือ Vehicle Identification Number (VIN)

แต่ทว่า ตัว Regular Expression (Regex) ที่ใช้กรองข้อความจากอีเมลว่าถูกต้องหรือไม่นั้น เปิดให้ใส่อักขระพิเศษได้ อย่างเช่นการใส่ตัวอักขระแบบ CRLF ต่อท้ายที่อยู่เมลที่มีบนระบบ ก็จะปล่อยให้ส่งคำร้องขอ HTTP ไปยังเอนด์พอยต์ที่มีรายการ VIN ให้เรียกดูได้

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

from:https://www.enterpriseitpro.net/hyundai-vulnerability-allowed-remote-hacking-of-locks/

Google จับมือ Renault สร้าง “ยานพาหนะแบบ Software-Defined”

เมื่อปี 2018 กูเกิ้ลร่วมมือกับ Renault Group เพื่อพัฒนาระบบอินโฟเทนเมนท์ในรถยนต์บนระบบแอนดรอยด์มาแล้ว ล่าสุดทั้งสองบริษัทนี้ก็ริเริ่มอีกโครงการที่จะออกแบบและสร้างสถาปัตยกรรมดิจิตอลที่ซับซ้อนกว่าเดิม ที่เรียกว่า “Software-Defined Vehicle” หรือ SDV

ความร่วมมือครั้งนี้มีเป้าหมายหลักสองประการ ทั้งการพัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับใช้งานภายในรถ และสร้างซอฟต์แวร์บนคลาวด์ที่ใช้เป็นแพลตฟอร์ม SDV ในลักษณะของ Digital Twin ที่เป็นสำเนาระบบของยานยนต์ที่มาพร้อมกับความสามารถด้าน AI ขั้นสูง

ความสามารถนี้จะทำให้ผสานบริการใหม่ๆ เข้ากับรถได้ง่ายและต่อเนื่องกว่าเดิม รวมไปถึงการพัฒนาแอพพลิเคชั่นทั้งแบบออนบอร์ด (บริการภายในตัวรถ) และออฟบอร์ดด้วย ตัว SDV มาพร้อมระบบอัพเกรดแบบ Over-the-Air ต่อเนื่อง พัฒนาบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์สำหรับรถยนต์ที่มีอยู่เดิม

แต่จะผสานเข้ากับเทคโนโลยีของกูเกิ้ลคลาวด์เพื่อจัดการรวบรวมข้อมูลสำหรับวิเคราะห์อย่างปลอดภัย ด้วยความสามารถด้านแมชชีนเลิร์นนิ่งและ AI ของกูเกิ้ล ตั้งเป้าเพื่อยกระดับทั้งความสะดวกสบาย ความปลอดภัย และการเชื่อมต่อบนท้องถนน

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ZDNet

from:https://www.enterpriseitpro.net/google-and-renault-are-creating-a-software-defined-vehicle/

BMW เตรียมลงเงินถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์ฯ ผลิตรถไฟฟ้าในสหรัฐฯ

เมื่อสัปดาห์ก่อนถือเป็นปรากฏการณ์ที่ยิ่งใหญ่ด้านรถ EV ในสหรัฐฯ เมื่อประธานาธิบดีโจ ไบเดนประกาศให้รางวัลถึง 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แก่บริษัทที่พัฒนาวัสดุด้านแบตเตอรี่รถไฟฟ้า ซึ่งหวยกำลังตกมาที่ BMW ที่ประกาศจะสมทบทุนอีก 1.7 พันล้านดอลลาร์ฯ

โดยต้องการลงทุนผลิตรถไฟฟ้าในสหรัฐฯ โดยเฉพาะ แบ่งเป็นหนึ่งพันล้านแรกในการขยายโรงงานรถไฟฟ้าที่สปาตันเบิร์ก รัฐเซาท์แคโรไลน่า ขณะที่อีก 700 ล้านจะใช้ในการก่อสร้างโรงงานแบตเตอรี่กำลังสูงที่เมืองใกล้ๆ กันอย่าง Woodruff

สำหรับโรงงานที่ Spartanburg ที่ BMW เรียกว่าโรงงานผลิตรถโดยเฉพาะนี้ เป็นศูนย์กลางการผลิตรถรุ่น “X” ที่กำลังได้รับความนิยมสูง อ้างอิงจากประธานกลุ่ม BMW ในสหรัฐฯ Oliver Zipse โรงงานนี้จะกลายเป็นศูนย์ยุทธศาสตร์ในการผลิตรถไฟฟ้า

เขาประกาศว่า บริษัทตั้งใจผลิตรถ BMW X ให้ได้อย่างน้อย 6 รุ่นภายในปี 2030 สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลไบเดนที่ตั้งเป้าจะขยายสัดส่วนรถยนต์ที่จำหน่ายในประเทศครึ่งหนึ่งให้เป็นรถไฟฟ้า นอกจากนี้ BMW ยังเตรียมพัฒนาเซลล์แบตเตอรี่รุ่นที่ 6 ที่ใช้เทคโนโลยีจาก Envision AESC ด้วย

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – Engadget

from:https://www.enterpriseitpro.net/bmw-will-spend-1-7-billion-to-build-evs-in-the-us/

บริษัทลูกอินเทล “Mobileye” ยื่นขอ IPO ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา Mobileye บริษัทในเครือของอินเทลที่พัฒนาเทคโนโลยียานพาหนะขับเคลื่นด้วยตัวเองได้ยื่นขอ IPO แล้ว หลังจากบริษัทแม่เคยประกาศว่าจะจับน้องใหม่ที่เพิ่งซื้อมานี้เข้าตลาดหลักทรัพย์มาเกือบปี

บริษัท Mobileye นี้ตั้งอยู่ในกรุงเยรูซาเลม อิสราเอล รายงานต่อสำนักงานคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ไว้ว่า รายได้ในช่วงปี 2021 มากถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ แม้จะขาดทุนสุทธิอยู่ที่ 75 ล้านดอลลาร์ฯ

ขณะที่เมื่อปี 2020 Mobileye มีรายได้ 967 ล้านดอลลาร์ฯ ขาดทุนสุทธิ 196 ดอลลาร์ฯ และเมื่อมีนาคมที่ผ่านมานั้น สำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานว่าบริษัทนี้อาจทำมูลค่ารวมสูงถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ฯ เลยทีเดียว สูงกว่าตอนอินเทลซื้อมาหลายเท่า

Mobileye เคยแถลงเมื่อกรกฎาคมว่า ตั้งแต่ก่อตั้งเมื่อปี 1999 จนอินเทลมาซื้อไปเมื่อ 2017 ต่อเนื่องมาถึงตอนนี้ มีการติดตั้งโซลูชั่นของตัวเองในรถยนต์มาแล้วกว่า 800 รุ่น รวมทั้งมีการนำเทคโนโลยี System-on-Chip ของตัวเองไปใช้บนรถมากกว่า 117 ล้านคัน

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – CRN

from:https://www.enterpriseitpro.net/intel-mobileye-unit-files-for-ipo/

เทสล่าประกาศเรียกคืนรถอีกครั้ง รวมแล้วกว่า 1.1 ล้านคัน จากปัญหาซอฟต์แวร์

ยักษ์ใหญ่ด้านรถไฟฟ้าอย่างเทสล่า ต้องเรียกคืนรถยนต์ตัวเองในสหรัฐฯ กว่า 1.1 ล้านคัน หลังพบช่องโหว่บนระบบเปิดปิดหน้าต่างรถอัตโนมัติในรถรุ่น Model 3, Model Y, Model S, และ Model X ที่ผลิตในช่วงปี 2017 ถึง 2022

ปัญหาคือ ระบบปิดหน้าต่างกระจกไม่สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางการปิดกระจกได้ เช่น แขน หรืออวัยวะที่ยื่นออกมา จึงมีโอกาสที่มันจะปิดไม่หยุดจนหนีบทำให้บาดเจ็บได้ เข้าข่ายละเมิดมาตรฐานความปลอดภัยยานยนต์ของสหรัฐฯ เกี่ยวกับระบบควบคุมหน้าต่าง

ทางเทสล่ากล่าวว่า หลังจากทดสอบอย่างเข้มงวดแล้ว พบว่าประสิทธิภาพของระบบตรวจจับและหดกระจกลง (นึกภาพเหมือนประตูลิฟท์ที่กำลังจะหนีบคน) ไม่ได้ตามสเปกของมาตรฐานระบบควบคุมหน้าต่างอัตโนมัติ

ซึ่งเทสล่าเองก็ได้แก้ไขเบื้องต้นด้วยการอัพเดทซอฟต์แวร์ระบบดังกล่าวให้รถทุกคนแบบ Over-The-Air แต่ถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีรายงานการเกิดปัญหานี้จริง หรือทำให้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด ทั้งนี้เมื่อช่วงต้นปี เทสล่าก็เรียกคืนกว่า 59,000 คันมาแล้วจากปัญหาระบบโทรออกฉุกเฉิน

อ่านเพิ่มเติมที่นี่ – ITPro

from:https://www.enterpriseitpro.net/1_1-million-tesla-cars-recalled-over-software-glitch/

เปิดตัวสถานีชาร์จรถไฟฟ้าขนาดใหญ่แบบ “SuperHub” ในเมืองอ็อกฟอร์ด

ศูนย์ที่ชื่อ Energy Superhub Oxford ได้กลายเป็นสถานีจ่ายพลังงานทดแทนเต็มรูปแบบ ด้วยบริการชาร์จไฟแบบรวดเร็ว และเร็วพิเศษ ที่รองรับรถไฟฟ้าได้พร้อมกันมากถึง 42 คัน ที่ลานจอด Redbridge Park and Ride

ถือเป็นฮับสำหรับชาร์จยานพาหนะไฟฟ้าหรือ EV ที่อ้างว่าจะเป็นแม่แบบสำหรับเมืองใหญ่อื่นๆ ทั่วโลกในการหันมาใช้พลังงานสะอาด โดยครั้งเริ่มต้นที่เมืองสำคัญของอังกฤษอย่างอ๊อกฟอร์ดก่อน มีกำลังไฟพร้อมจ่ายสูงถึง 10 MW

ฮับแห่งนี้สามารถพัฒนาให้รองรับบริการชาร์จไฟได้สูงสุดถึง 400 คัน ช่วยรองรับรถไฟฟ้าออกใหม่ที่ประมาณกันว่าจะมาอยู่บนท้องถนนของประเทศอังกฤษมากถึง 36 ล้านคันภายในปี 2040 ฮับนี้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายที่ชื่อ Energy Superhubs ของ Pivot Power ที่จะกระจายไปทั่วประเทศ

โครงการนี้เป็นการผสานเรื่องแบตเตอรี่ที่เชื่อมต่อกับระบบจ่ายไฟ กับโครงสร้างพื้นฐานไฟฟ้าเพื่อสำหรับนำมาใช้ชาร์จ EV โดยเฉพาะ ทำให้มีแหล่งพลังงานสะอาดมากขึ้น และเร่งการลดปริมาณการปลดปล่อยคาร์บอนในภาคการขนส่ง

อ่านเพิ่มเติมที่นี่  – ICTNN

from:https://www.enterpriseitpro.net/electric-vehicle-charging-superhub/