คลังเก็บป้ายกำกับ: 5

รอยบาก iPhone X ความเหมือนที่แตกต่างจากรอยบากบนสมาร์ตโฟนรุ่นอื่น

Notch Iphone X Vs Android

จากรอยบากบน iPhone X ที่ดูน่าเกลียดในวันแรก ไม่น่าเชื่อว่าจะกลายเป็นแรงบันดาลใจให้สมาร์ตโฟนหลายๆ รุ่น หากมองผ่านๆ ก็คิดว่าไม่มีอะไรภายใต้จอแหว่งนั้น แต่ทราบหรือไม่ว่ามันมีพลังบางอย่างที่ซ่อนเอาไว้และรอให้คุณได้ค้นหามันอยู่ วันนี้ทีมงาน iMoD จะพาไปขุดคุ้ย “รอยบาก” นี้ ให้ได้ทราบกันมากขึ้นครับ

รอยบาก iPhone X ความเหมือนที่แตกต่างจากรอยบากบนสมาร์ตโฟนรุ่นอื่นSmartphone With Notch

หากยังจำกันได้เรื่อง “รอยบาก” บน iPhone X สมัยที่เปิดตัวเมื่อกันยายน 2017 ที่ผ่านมานั้นได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ค่อนข้างเยอะว่า “มีทำไม, อุบาทว์, จะไม่ซื้อรุ่นนี้เพราะติ่งนี่แหละ ฯลฯ” ล่าสุดทุกวันนี้กลายเป็นว่า “รอยบาก” ที่ว่าขี้ริ้วขี้เหร่นั้นกลับกลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับสมาร์ตโฟนหลายๆ รุ่นไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ประเด็นที่จะพูดวันนี้ไม่ใช่ “รอยบาก” ที่เห็นกันจากภายนอก เพราะนั่นใครๆ ก็ทำได้และ iPhone X เองก็ไม่ได้ทำรอยบากนี้เป็นเจ้าแรกแต่ทว่าพอ Apple ทำออกมาเท่านั้นแหละก็เลยโดนบ่นกันซะเยอะเลย 555  ส่วนที่จะพูดถึงคือ “ความสามารถจากภายในของบริเวณรอยบาก” นั้นต่างหาก ที่ทำให้ iPhone X โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

รอยบากบน iPhone X คือที่ซ่อนของกล้อง TrueDepth อันทรงพลัง

ความลับที่ซ่อนอยู่ภายใต้รอยบอกของ iPhone X ครับนั่นคือชุดกล้อง TrueDepth ที่ไม่ได้มีเพียงชุดกล้องหน้าเท่านั้นนะด้วยส่วนประกอบต่างๆ ที่มีทั้ง

  • Infrared camera (กล้องอินฟราเรด)
  • Flood Illuminator (อิลลูมิเนเตอร์มุมกว้าง)
  • Proximity Sensor (เซนเซอร์ตรวจจับระยะ)
  • Ambient Light Sensor (เซนเซอร์ตรวจวัดแสงโดยรอบ)
  • Speaker (ลำโพง)
  • Microphone (ไมโครโฟน)
  • Front Camera (กล้อง 7MP)
  • Dot Projector (ตัวฉายจุดแสง)

Iphonex Truedepth

จึงทำให้รอยบากที่เห็นใน iPhone X นั้นดูค่อนข้างที่จะใหญ่กินพื้นที่ส่วนบนไปเยอะแต่อย่างที่บอกครับในพื้นที่เหล่านั้นมันคือหัวใจอย่างหนึ่งของ iPhone X เลยเดียว ซึ่งไม่เหมือนใครอย่างแน่นอน

กล้องหน้า TrueDepth ทำหน้าที่อะไรบ้าง?

Face ID ยืนยันตัวตนปลดล้อคเครื่องและเข้าใช้งานแอปพลิเคชัน

Iphone X Setup Faceid 25Setup Face ID บน iPhone X

ไม่เพียงแค่การถ่ายภาพแบบทั่วไปเท่านั้น สิ่งที่กล้อง TrueDepth บน iPhone X ทำได้คือ การระบุตัวตนเพื่อเข้าใช้งานระบบ ส่วนนี้จะเรียกว่าฟีเจอร์ Face ID โดยการทำงานคือกล้อง TrueDepth จะบันทึกข้อมูลใบหน้าอย่างแม่นยำโดยการฉายและวิเคราะห์จุดแสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่ากว่า 30,000 จุด เพื่อสร้างแผนผังโครงสร้างใบหน้าในแนวลึกและยังจับภาพอินฟราเรดของใบหน้าอีกด้วย (2 และ 3 มิติ) ระบบการคิดแบบนิวรอลของชิพ A11 Bionic จะมีส่วนหนึ่งที่ได้รับการปกป้องอยู่ภายใน Secure Enclave โดยส่วนนี้จะเปลี่ยนแผนผังแนวลึกและภาพอินฟราเรดให้เป็นการแทนค่าทางคณิตศาสตร์และเปรียบเทียบการแทนค่าดังกล่าวเข้ากับข้อมูลใบหน้าที่ลงทะเบียนไว้ ถ้าข้อมูลที่นำมาประมวลผลคำนวนออกมาถูกต้องแล้วเครื่องถึงจะปลดล็อคได้นั่นเอง ดูเหมือนขั้นตอนจะกินเวลาเยอะ แต่ว่าใน iPhone X สามารถปลดล้อคได้ในเสี้ยววินาที

นอกจากการปลดล้อคเครื่องด้วย Face ID แล้วนั้น ยังสามารถใช้ Face ID ร่วมกับการทำงานของแอปพลิเคชันอื่นๆ ได้ด้วย อาทิเช่น แอปพลิเคชันด้านการเงิน ธนาคารต่างๆ ที่จะต้องมีการเข้าระบบก่อนใช้งาน ซึ่งพบว่าบางครั้งเราไม่ต้องการให้คนรอบข้างเห็นรหัสผ่านที่เรากำลังพิมพ์ แต่บน iPhone X นั้น เพียงแค่เรามองที่หน้าจะ ระบบ Face ID ก็จะยืนยันตัวตนให้เข้าไปใช้งานได้แล้วสุดแสนจะง่าย

แอปที่รองรับ Face ID ที่ใช้งานบ่อยๆ ได้แก่

กล้องหน้าที่มีมากกว่ากล้องหน้าธรรมดา

กล้องหน้าของ iPhone X มีความแตกต่างจาก iPhone รุ่นอื่นๆ คือ สามารถใช้งานฟีเจอร์ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอพร้อมการจัดแสงให้กับภาพถ่ายได้เลยที่ Apple เรียกว่า Portrait Lighting Selfies โดยประโยชน์จากฟีเจอร์ Portrait Lighting Selfies ที่ถ่ายจากกล้องหน้านั้นเพื่อเพิ่มมิติใหม่ให้กับภาพถ่ายบุคคลใน 5 สภาวะแสงใหม่ ได้แก่

  1. แสงไฟธรรมชาติ ใบหน้าของแบบที่คมชัดตัดกับฉากหลังที่เบลออย่างลงตัว
  2. แสงไฟสตูดิโอ ภาพแนวสะอาดตาพร้อมใบหน้าตัวแบบที่สว่าง
  3. แสงไฟคอนทัวร์ รายละเอียดเงาคมชัดพร้อมไฮไลท์และโลว์ไลท์
  4. แสงไฟเวที ใบหน้าของแบบจะสว่างเพียงจุดเดียวตัดกับฉากหลังที่มืดสนิท
  5. แสงไฟเวทีขาวดำ เช่นเดียวกับแสงไฟเวที แต่มาในรูปแบบขาวดำสุดคลาสสิก

จะทำให้ได้ภาพถ่ายที่มีความโดดเด่นเหมือนพกสตูดิโอถ่ายภาพติดตัวไปด้วยตลอดเวลา ลองชมคลิปนี้ดูนะครับ

การนำไปประยุกต์ใช้กับแอปพลิเคชันต่างๆ

นอกจากแอปพลิเคชันเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนแล้วความสามารถของกล้อง TrueDepth นั้นยังสามารถนำมาประยุกต์ในด้านความบันเทิงได้อีกด้วย

Iphone X Pitu App
iPhone X ใช้งานแอป Pitu

ถ้าหากมีเพียงกล้องหน้าแบบ 2 มิติมามาจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 มิตินั้นคงทำได้ยาก ความพิเศษของกล้อง TrueDepth ที่ถูกนำมาใช้งานก็อย่างเช่น

  • การสร้างภาพสามิติใน iMessage ที่เรียกว่า Animoji ที่เลียนแบบท่าทางจากใบหน้าทั้งการกระพริบตา, การพูด ฯลฯ และบันทึกเป็นคลิปสั้นๆ ส่งไปยังผู้รับ
  • แอป Pitu แอปพลิเคชันที่ใช้ความสมารถของ TrueDepth ในการตรวจจับใบหน้าพร้อมกับสร้างภาพที่เป็นลวดลายต่างๆ ให้เข้ากับใบหน้าของแต่ละคน แม้เราจะอ้าปาก หลับตาหรือว่ายิ้ม ภาพที่แสดงบนใบหน้าเรานั้นก็จะสมจริงตรงตามพื้นที่บนใบหน้า
  • เกม Rainbrow อีกหนึ่งเกมที่นำความสามารถของกล้อง TrueDepth มาใช้งาน หลักการเล่นคือ การใช้ท่าทางการยักคิ้วและขมวดคิ้วเพื่อความคุมการเคลื่อนที่ของตัวละครในเกม หากมีเพียงกล้องแบบ 2 มิติธรรมดาก็คงไม่สามารถทำเช่นนี้ได้

ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว

Apple ให้ความสำคัญกับการรักษาข้อมูลส่วนตัวของลูกค้าให้ปลอดภัยเป็นสำคัญไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยี Touch ID ใน iPhone 8 และเก่ากว่าหรือ Face ID ใน iPhone X ต่างก็มีความปลอดภัยในการใช้งานค่อนข้างสูงมาก

โดยเฉพาะ Face ID นั้นมีความเป็นไปได้ที่จะมีใครสักคนในโลกนี้ที่สามารถมอง iPhone X ของเราแล้วปลดล็อคเครื่องได้ด้วย Face ID มีความน่าจะเป็นอยู่ที่ประมาณ 1 ใน 1,000,000 (เทียบกับ 1 ใน 50,000 สำหรับ Touch ID) และเพื่อให้การปกป้องที่เพิ่มขึ้นอีกระดับ Face ID จึงอนุญาตให้มีความพยายามจับคู่ที่ไม่สำเร็จได้เพียง 5 ครั้งก่อนที่ระบบจะร้องขอรหัสนั่นเอง และข้อมูลทั้ง Face ID และ Touch ID นั้นจะถูกเก็บภายในตัวเครื่องเท่านั้นมันจะไม่ถูกส่งขึ้นไปเก็บบนเซิร์ฟเวอร์แต่อย่างใด

ฉะนั้นผู้ใช้ก็อุ่นใจได้ว่าอุปกรณ์ iPhone ของ Apple นั้นมีความปลอดภัยในการใช้งานเป็นอย่างมาก

สรุป

Iphone X Home Screen With Notch Focus 7540

ในครั้งนี้เราก็ได้ทราบข้อมูลที่ลึกลงมาอีกหน่อยของ “รอยบาก” บน iPhone X ที่ซ่อนกล้อง TrueDepth เอาไว้นั้นและเราเองก็ได้เห็นศักยภาพของกล้อง TrueDepth แล้วว่าใช้งานดีเพียงใด ซึ่งก็หวังว่าผู้อ่านจะเข้าใจในข้อมูลเหล่านี้มากขึ้น

อนาคตผมอยากเห็น Apple พัฒนากล้อง TrueDepth และระบบ Face ID ให้ดีมากขึ้นกว่านี้อีกในแง่ ประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วขึ้นและการเปิดกว้างให้แอปพลิเคชันอื่นๆ สามารถใช้งาน TrueDepth ได้มากขึ้น ผมอยากเห็นแอปสำหรับการสร้างตัวการ์ตูน 3 มิติได้จาก iPhone และนำมาทำเป็นการ์ตูนแอนิเมชั่นได้ เป็นต้น ถ้าวันนั้นมาถึงผมว่าคงจะเป็นอะไรที่สนุกแน่นอน ทั้งผู้ใช้งาน ผู้เรียนรู้และผู้ผลิตมือโปรก็คงจะสนใจไม่น้อย

บทความนี้ขอจบเรื่องรอยบาก iPhone X และกล้อง TrueDepth ไว้เพียงเท่านี้ก่อน เดี๋ยวรอบหน้าจะหาอะไรมาเขียนให้ได้อ่านกันอีกนะครับ

ทิ้งท้ายไว้ด้วย รีวิว iPhone X สวัสดีต้นแบบแห่งอนาคต ที่แรง แพง หรู และผู้ใช้งานต้องปรับตัว ให้ได้อ่านกันครับเผื่อใครยังไม่ได้ดู

ชมข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมได้ที่ TrueDepth Camera, Apple Privacy, Portrait Lighting Selfies

บทความโดย แอดมินต้อม iMoD

from:https://www.iphonemod.net/iphone-x-inside-the-truedepth-camera.html

เตรียมพบกับ Samsung GALAXY Tab S จาก Truemove H เร็วๆนี้

AW_TMH_NON_APPLE_MICROSITE_GALAXY_S4_PROMOTION

ช่างเป็นแท็บเล็ตที่ฮอตจริงๆสำหรับ Samsung Galaxy Tab S เพราะเพิ่งเปิดตัวมาหมาดๆเลย ทาง Truemove ก็มีประกาศออกมาบอกว่าเตรียมพบกับแท็บเล็ตรุ่นนี้ได้เร็วๆนี้ เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์ที่วเปคจัดเต็มสุดๆของบรรดาแท็บเล็ตของค่ายนี้ จุดเด่นจริงๆเลยคือ หน้าจอที่เป็นครั้งแรกกับ Super AMOLED ความละเอียด QHD และได้เปิดตัวหน้าจอมาถึง 2 ขนาดคือ 10.5 นิ้ว และ 8.4 นิ้ว ความละเอียดระดับ WQXGA (2560×1600, 16:10) Samsung Galaxy TAB S ในช่วงแรกจะมาในสองสี Dazzling White กับ Titanium Bronze

การที่ทาง True เอามาจ่อคิวรอแบบนี้แสดงว่ามันรองรับ 4G LTE จากค่ายนี้ด้วยอย่างแน่นอน สาวกก็ต้องรอติดตามกันดีๆว่าจะพร้อมจำหน่ายในไทยเมื่อไหร่ แล้วก็ราคาเปิดตัวอย่างเป็นทางด้วยแต่จากข่าวต่างประเทศได้บอกว่าราคาของ Samsung Galaxy Tab S 8.4 จะอยู่ที่ประมาณ $399.99 (ปรมาณ 12,900 บาท)  และ Galaxy Tab S 10.5 จะอยู่ที่ $499.99 (ประมาณ 15,900 บาท) ข้อมูลเพิ่มเติมแบบละเอียดยิบสามารถเข้ามาดูได้ที่นี่ครับ : ข้อมูล Samsung Galaxy Tab S พรีเมี่ยมแท็บเล็ต จอ 10.5 และ 8.4 นิ้ว ครั้งแรกกับ Super AMOLED ความละเอียด QHD

credit : truemove h

from:http://www.appdisqus.com/2014/06/13/get-ready-to-meet-samsung-galaxy-tab-s-from-truemove-soon.html

สรุป 5 ขั้นตอนสำคัญเพื่อการทำ Inbound Marketing

cats

ก่อนนี้คำว่า lead generation ถูกนำมาใช้อธิบายหลักการขายตรง เช่นแบรนด์ใหญ่ที่ทำโปรโมทชันให้สมาชิกหรือลูกค้าแนะนำลูกค้าใหม่ให้เป็นลูกโซ่ ทั้งคนรู้จัก ญาติ พี่น้อง พ่อ หรือแม่ แต่วันนี้ lead generation สามารถเกิดขึ้นได้บนเครือข่ายสังคมออนไลน์ ซึ่งกูรูการตลาดบอกว่า ใครก็ตามที่อยากเปลี่ยนธุรกิจของตัวเองให้เป็น “lead generating machine” หรือเครื่องดึงดูดลูกค้าแบบอัตโนมัติ จะต้องเข้าใจหลักการทำงานของ Inbound Marketing เสียก่อน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านกลยุทธ์การตลาดแบบ Inbound Marketing หรือการตลาดที่เน้นการดึงลูกค้าให้เข้ามาหาธุรกิจเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยส่วนใหญ่ใช้ช่องทางออนไลน์ต่างๆอย่าง โซเชียลมีเดีย และ SEO สวนทางกับการทำตลาดรูปแบบเดิมอย่าง Outbound Marketing (เน้นการเข้าหาลูกค้า) ที่เริ่มเสื่อมประสิทธิภาพลงเนื่องจากเหตุผลหลากหลาย เช่น ผลตอบแทนที่ไม่คุ้มต่อการลงทุน รวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่บริโภคสื่อแบบดั้งเดิมน้อยลง

และด้วยความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นนี้เองเว็บไซต์ Boldthinkcreative.com จึงได้รวมรวบวีธีในการทำ Inbound Marketing รวม 5 ขั้นตอน เพื่อเป็นแนวทางในการทำการตลาดให้มีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

นำเสนอเนื้อหาที่มีคุณค่าและเป็นประโยชน์

สิ่งสำคัญในการทำ Inbound Marketing คือ การนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่าเพื่อดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคให้เข้ามาหาแบรนด์ ซึ่งสามารถนำเสนอได้หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็น โซเชียลมีเดีย, บล็อก, อีเมล, วีดีโอ และเอกสารกึ่งวิชาการ (White Paper) ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยดึงดูดความสนใจต่อผู้บริโภคและสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในตลาด นอกจากนี้ยังต้องมีการอัพเดทข้อมูลให้มีความทันสมัยอยู่เสมอเพื่อเอื้อต่อการแสดงผลบนเสิร์ชเอนจิน

ดึงดูดและเชิญชวนผู้บริโภคที่ต้องการสินค้าและบริการ

นอกจากนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์และมีคุณค่า ธุรกิจจะต้องรู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของแบรนด์เป็นกลุ่มไหนและมีการสื่อสารเพื่อจุดประสงค์ใด เพื่อเป็นแนวทางในการนำเสนอเนื้อหาให้มีความเหมาะสมและสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด โดยเน้นการนำเสนอโดยใช้บล็อก, วีดีโอ รวมไปถึงการใช้ Long-tail keyword เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการบนเสิร์ชเอนจินได้สะดวกยิ่งขึ้น

เปลี่ยนผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าใหม่

Conversion นับว่ามีความสำคัญอย่างมากสำหรับการทำ Inbound Marketing ดังนั้นหลังจากมีผู้เข้าชม (Visitor) เข้ามาบนเว็บไซต์แล้ว ควรมีวิธีการเพื่อกระตุ้นการมีส่วนร่วม (Call to action) รวมไปถึงมี Landing Page และ Contact Form เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูล ซึ่งช่วยให้แบรนด์ได้เรียนรู้ถึงข้อมูลของผู้เข้าชมเพิ่มขึ้น

เปลี่ยนลูกค้าใหม่ให้กลายเป็นลูกค้าที่มีความภักดีต่อแบรนด์

แบรนด์สามารถเปลี่ยนลูกค้าใหม่ (Lead) ให้กลายเป็นลูกค้าที่มีความภักดี (Satisfied Customer) ได้โดยใช้การทำการตลาดหลากหลายช่องทาง เช่น อีเมลหรือแคมเปญต่างๆ เพื่อดึงดูดการมีส่วนร่วม และเปิดประสบการณ์ใหม่ๆให้กับลูกค้า รวมไปถึงยังควรมีการนำการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) เพื่อช่วยในระบบการตลาด (Marketing Automation) และปิดช่องว่างระหว่างการตลาดและการขายสินค้า

วัดประสิทธิภาพของกลยุทธ์การตลาดที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

นับว่าเป็นขั้นตอนที่มีความจำเป็นที่สุดอีกขั้นตอนหนึ่งสำหรับการวัดประสิทธิภาพและการประเมินกลยุทธ์การตลาดที่ใช้อยู่ ซึ่งสามารถวัดได้จากการคำนวณค่า ROI (Return of Investment) เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์การทำการตลาดของแบรนด์ในปัจจุบัน เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนเพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้สามารถบรรลุถึงเป้าหมายตามที่ตั้งเป้าไว้

the-5-step-formula-to-inbound-marketing_51b239a45d422

ที่มา: Boldthink

 

from:http://thumbsup.in.th/2013/06/5-step-formula-inbound-marketing/