[IFA 2016] Acer Spin 7 กับ 2-in-1 Notebook พับได้ 360 องศา หนักเพียงโลนิดๆ สเปกครบครัน ราคา 42,000 บาท

ในวันที่ 2 กันยายนนี้ ก็จะถึงวันเปิดงาน IFA 2016 ที่จัดขึ้น ณ กรุงเบอร์ลินประเทศเยอรมัน ภายในงานจะมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่มากมายจากทางค่ายต่าง ๆ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งงานที่ทั่วโลกต่างจับตามอง ซึ่งทาง Acer ได้มีการเปิดตัว 2-in-1 Notebook รุ่นใหม่ที่มีความบางมากเป็นพิเศษในงานนี้อีกด้วย

Acer Spin 7 คือโน๊ตบุ๊กรุ่นใหม่ที่มีพื้นฐานมากจาก Swift 7 ได้ถูกพัฒนามาให้มีความบาง 10.98 มิลลิเมตร หนักเพียงแค่ 1.17 กิโลกรัม ส่วนหน้าจอเป็นแบบ Touch screen ขนาด 14 นิ้ว Full HD IPS สามารถพับได้ถึง 360 องศา ทำให้สามารถถือและใช้งานได้ด้วยมือเดียวเหมือนกับแท็บเล็ต บอดี้เป็นอลูมิเนียมน้ำหนักเบา แข็งแรง และให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม

ประสิทธิภาพการทำงาน Spin 7 มาพร้อมกับ  Intel Core i7  มีแรม 8GB และฮาร์ดดิสก์ 265GB แบบ SSD และยังมาพร้อมกับ USB 3.1 Type-C และ Audio Jack 3.5mm สำหรับเสียบหูฟัง การออกแบบตัวเครื่องด้านซ้ายมีมีปุ่มพาวเวอร์ที่สามารถใช้งานได้สะดวก Touchpad ที่มีขนาดใหญ่ใหญ่เป็นพิเศษ ให้สัมผัสลื่นไหลและแม่นยำ อีกทั้งยังมาพร้อมกับแบตเตอรี่ที่สามาถใช้งานได้ถึง 8 ชม. เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป

Acer Spin 7 จะถูกวางจำหน่ายในอเมริกาเหนือ และยุโรปในช่วงเดือนตุลาคมนี้ ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 42,000 บาท รวมถึงการวางจำหน่ายในรุ่นเล็ก Spin5 ราคา  21,000 บาท, รุ่น Spin3 ราคา 17,000บาท และรุ่น Spin1 ราคา 9,000บาท  ส่วนวันที่วางจำหน่ายในประเทศไทยนั้น ต้องรอ Acer ประกาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งอาจจะถูกนำมาจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้

ที่มา :theverge

 

 

 

 

 

from:http://notebookspec.com/acer-spin-7-ifa-2016/363078/

[Lenovo] หลุดภาพ Yoga 910 เผยตัวเครื่องที่มาในรูปแบบไร้ขอบและหน้าจอใหญ่ขึ้นอยู่ที่ 13.9 นิ้ว

ในงาน IDF ของทาง Intel ซึ่งมีการเปิดตัวหน่วยประมวลผล Kaby Lake ไปอย่างเป็นทางการนั้น ในงานทาง Intel ได้บอกเอาไว้ว่าผลิตภัณฑ์ที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Kaby Lake จะมีออกมาให้เห็นกันในเร็วๆ นี้แต่ทว่าในงาน IDF นั้นก็ไม่ได้มีการเผยข้อมูลของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นออกมาเลย

ทว่าหลังจากจบงานไปได้ไม่นานนั้นบล๊อคเกอร์อยย่าง Roland Quandt ก็ได้ทวีตภาพของผลิตภัณฑ์ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นรุ่นแรกที่มาพร้อมกับ Intel Kaby Lake อย่าง Lenovo Yoga 910 ที่ถึงจะมีแค่ภาพเดียวแต่ทว่าก็ดูสวยงามมากๆ ครับ

Lenovo Yoga 910 จากทวีดของ Roland Quandt

จากข้อมูลของทาง Roland Quandt นั้นบอกเอาไว้ว่า Lenovo Yoga 910 นั้ันอาจจะใช้ชื่อในการวางจำหน่ายว่า Yoga 5 Pro โดยสเปคของมั้นนั้นจะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Kaby Lake รุ่น Core i7-7500U พร้อมกับหน่วยความจำ(RAM) 16 GB (สำหรับรุ่นท๊อปสุด) ทั้งนี้ทุกรุ่นนั้นจะมาพร้อมกับหน้าจอขนาด 13.9 นิ้วและจะเป็นหน้าจอแบบไร้ขอบอีกด้วยครับ(ซึ่งดูจากรูปนั้นสวยงามเลยทีเดียวแต่ทว่าก็มีส่วนที่ทำให้คิดถึง Dell XPS 13 และ XPS 15 ที่หน้าจอเป็นแบบไร้ขอบเหมือนกันครับ)

หมายเหตุ – จากรูปที่หลุดออกมานั้นเผยให้เห็นด้วยครับว่าพอร์ทเชื่อมต่อของ Lenovo Yoga 910 นั้นจะเป็น USB Type-C ตามสมัยนิยมซึ่งจะมีให้มาด้วยกัน 2 พอร์ตเป็นอย่างต่ำ(ส่วนอีกข้างนั้นต้องรอลุ้นกันต่อไปครับ)

ที่มา : notebookcheck

from:http://notebookspec.com/lenovo-yoga-910-leak-shows-narrower-bezels-and-a-larger-13-9-inch-screen/361662/

[Review] Lenovo MiiX 310 แท็บเล็ต Windows 10 สุดคุ้ม สเปกพอดีตัว ราคาไม่ถึงหมื่น !!!

ในปัจจุบัน แท็บเล็ต ยังคงเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มที่จะมากขึ้นในทุกวัน ทำให้หลายแบรนด์ไอทีชั้นนำของโลกหันทำตลาดในอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้น Lenovo เองก็เป็นหนึ่งในนั้น ช่วงก่อนหน้าที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า Lenovo มีการส่งสินค้าไอทีสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง และผลิตภัณฑ์ที่เรียกเสียงฮือฮาจากผู้ใช้งานได้ทั่วโลกก็คงเป็นอุปกรณ์ประเภทแท็บเล็ตแบบ 2 in 1 ซึ่งมีอยู่ด้วยกันหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นใหญ่อย่าง MiiX 700 ที่มีราคาค่อนข้างสูง หรือในรุ่น MiiX 300 ซึ่งถือว่าเป็นรุ่นเล็กที่ผู้คนสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ด้วยเงินไม่ถึงหลักหมื่นบาท

และเมื่อเร็วๆนี้ Lenovo ได้ส่งผลิตภัณฑ์แท็บเล็ต 2 in 1 สู่ตลาดอีกครั้ง โดยในครั้งนี้เป็นรุ่น Lenovo MiiX 310 ซึ่งเป็นรุ่นที่ Lenovo ตั้งใจจะพัฒนาและต่อยอดจาก MiiX 300 นั่นเอง ซึ่งต้องบอกเลยครับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะในรุ่นนี้ยังคงไว้ซึ่งความคุ้มค่า และยังสามารถทำงานได้หลากหลายเหมือนเช่นเคย พร้อมทั้งยังคงชูจุดเด่นในการที่สามารถใช้เป็นทั้งโน้ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตได้ในเครื่องเดียวกัน  ซึ่งจะดีอย่างแน่นอนสำหรับคนที่ไม่ต้องการพกโน้ตบุ๊คหรือแท็บเล็ตจำนวนหลายเครื่อง สำหรับใครที่ต้องการจับจองเป็นเจ้าของ Lenovo MiiX 310 ก็สามารถสอบถามไปยังตัวแทนจำหน่ายสินค้าไอทีชั้นนำได้ทั่วประเทศแล้ววันนี้  ในสนนราคาเริ่มต้นเพียง 8,990 บาท

from:http://notebookspec.com/review-lenovo-miix-310-windows-10-tablet/359684/

[Review] Acer Switch Alpha 12 … โน๊ตบุ๊ครูปแบบ Surface ราคาย่อมเยาว์ – ฉบับแปล

คงปฎิเสธไม่ได้หล่ะครับว่าตั้งแต่ Surface ในรุ่นที่ 3 และ 4 ของ Microsoft เริ่มมีผลกับตลาดทำให้ผู้ผลิตหลายๆ ค่อยต่างก็พัฒนาโน๊ตบุ๊คในรูปแบบของ Surface หรือ 2-in-1 ที่เป็นแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คในตัวตามออกมาอย่างมากมาย

ในวันนี้นั้นเรามีโน๊ตบุ๊รูปแบบเดียวกันจากทาง Acer ในชื่อรุ่น Switch Alpha 12 มารีวิวให้ทุกท่านได้ลองใช้เพื่อเป็นการตัดสินใจในการเลือกซื้อครับ มาดูกันดีกว่าครับว่า 2-in-1 รูปแบบ Surface ของทาง Acer นี้จะทำได้ดีมากน้อยแค่ไหนและน่าเสียเงินซื้อมาใช้หรือไม่

แรกเห็นนั้นบอกได้เลยครับว่า Acer Switch Alpha 12 ดูดีและน่าดึงดูดใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลยกับราคาของมันที่อยู่ที่ $699 หรือประมาณ 25,170 บาทนั้นก็ยิ่งดึงดูดคุณให้เข้าไปดูใกล้ๆ ได้ไม่อย่างยากเย็นเท่าไรนัก ทว่าด้วยราคาแรกเห็นที่คล้ายกับแรงดุงดูดนี่แหละครับที่ถือว่าเป็นกลยุทธ์การขายที่น่ากลัวสำหรับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเลือกสเปคและมีอุปกรณ์เสริมมากมาย เหตุผลนั้นก็เนื่องมาจากว่าราคานี้นั้นเป็นราคาของเครื่องที่มีสเปคต่ำสุดแถมยังไม่รวมอุปกรณ์เสริมต่างๆ เข้าไปด้วยครับ

เอาเป็นว่ามองข้ามจุดที่ดึงดูดไปแล้วมาดูกันที่ตัวเครื่องนั้นก็ต้องยอมรับว่าสวยงามครับ แต่ในความสวยงามนั้นก็ไม่ได้แตกต่างอะไรไปจาก Surface ของทาง Microsoft สักเท่าไรนัก สิ่งที่พอจะทำให้เห็นได้ว่าแตกต่างอย่างชัดเจนก็คือสีตัวเครื่อง(ทางด้านหลังของหน้าขอ) ที่ทาง Acer ใช้นั้นดูแต่ต่างและก็ฐานสำหรับตั้งหน้าจอนั้นก็แตกต่างไปจาก Surface พอสมควร วกกลับมาเรื่องราคาแล้วนั้นถ้าคุณซื้อ Acer Switch Alpha 12 รุ่นสเปคเริ่มติ้นพร้อมกับอุปกรณ์ทั้งหมดราคารวมของ Acer Switch Alpha 12 นั้นก็ยังถือว่าต่ำกว่า Surface ของ Microsoft ถึงราวๆ $500 หรือประมาณ 18,000 บาทครับ

สำหรับสเปคเริ่มต้นของ Acer Switch Alpha 12 ตามราคาที่ระบุไปในตอนต้นนั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

• หน้าจอขนาด 12 นิ้วรองรับการสัมผัสและมาพร้อมกับความละเอียดสูงสุดที่ 2160 x 1440 pixels ซึ่งน้อยกว่า Surface Pro 4 เล็กน้อย(แต่ก็ไม่ได้เห็นข้อแตกต่างอะไรอย่างชัดเจน) หน้าจอมาพร้อมกับความสว่างที่ค่อนข้างมากและสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีถึงแม้ว่าจะจับหน้าจอแล้วเดินไปใช้ไป
• หน่วยประมวลผลมีเป็น Intel Core i ซีรีส์ โดยมีให้เลือกทั้ง Core i3 ไปจนถึง Core i7(แต่รุ่นที่ใช้ในการทดสอบและมาพร้อมกับราคาที่ระบุในตอนแรกคือรุ่นที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Core i5)
• หน่วยความจำ(RAM) ขนาด 8 GB
• แหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 256 GB
• มาพร้อมกับ stylus ภายในชุด
• มาพร้อมกับพอร์ทการเชื่อมต่อ USB Type-C
• แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่อง 8 ชั่วโมง
• ใช้ระบบปฎิบัติการ Windows 10

หมายเหตุ – สเปคและราคานี้วางจำหน่ายเฉพาะที่ Costco

ที่สำหรับเก็บ Stylus จะอยู่ทางด้านซ้ายของส่วนหน้าจอทำให้เวลาหยิบใช้งานและเก็บลงไปนั่นค่อนข้างที่จะสะดวก ทว่าอย่างไรก็ตามการใช้ที่เก็บปากกาแบบนี้นั้นอาจจะทำให้เมื่อใช้ไปนานๆ แล้วที่เก็บปากกาหลวมและมีปัญหาในการเก็บได้(จากผู้แปล : ส่วนตัวผมแล้วด้วยความที่ใช้สมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัสตั้งแต่ Plam และ Windows Phone รุ่นเก่า มาจนกระทั่งปัจจุบันก็ยังใช้ซีรีส์ Note ของ Samsung อยู่นั้น เห็นว่าที่เก็บปากกาแบบนี้ทำให้ผลิตภัณฑ์สูญเสียความสวบโดยรวมไปหน่อย แต่คงจะให้แท็บเล็ตหน้าจอใหญ่ๆ มาพร้อมที่เก็บปากกาแบบเสียบด้านล่างหรือด้านข้างนั้นดูแล้วก็จะหยิบใช้งานยาก ดังนั้นแล้วเรื่องนี้ก็ได้อย่างเสียอย่างหล่ะครับ)

สำหรับฐานตั้งส่วนหน้าจอนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไปไม่ได้เลยหล่ะครับกับคอมพิวเตอร์ที่มีรูปแบบเหมือนกับผลิตภัณฑ์ Surface) โดยฐานตั้งของ Acer นั้นเมื่อดูแล้วจะมีขนาดเล็กกว่า Surface อยู่หน่อย ทว่าด้วยความที่ตัวพับเป็นโลหะและฐานทางด้านล่าง(สำหรับตั้ง) เป็นยางนั้น ทำให้เวลาตั้งแล้วก็พบว่าจะมีความแข็งแรงอยู่พอสมควร อย่างไรก็ตามรูปแบบของฐานตั้งของ Acer Switch Alpha 12 นั้นก็ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่มากนักเราสามารถที่จะพบฐานตั้งแบบนี้ได้บนผลิตภัณฑ์ที่มาในรูปแบบเดียวกับ Surface ทั่วไปเกือบทั้งหมดหล่ะครับ

ในส่วนของคีย์บอร์ดที่สามารถถอดเข้าออกได้ตามสไตล์ Surface นั้นก็เหมือนกับ Surface เลยหล่ะครับ การเชื่อมต่อคีย์บอร์ดเข้ากับหน้าจอนั้นจะทำผ่านด้านล่างของตัวจอโดยใช้แม่แหล็กในการยึดติดเข้าหากัน ตัวคีย์บอร์ดนั้นยังสามารถที่จะพบเข้ากับหน้าจอแล้วยึดติดกับตัวหน้าจอเวลาที่ไม่ได้ใช้งานแต่ต้องการที่จะให้คีย์บอร์ดกันส่วนหน้าจอเอาไว้ด้วยแม่เหล็กเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตามตรงส่วนยึดติดคีย์บอร์ดเข้ากับหน้าจอของ Acer Switch Alpha 12 นั้นจะดีกว่าหน่วยตรงที่ส่วนยึดติดสามารถที่จะทำการขยับเข้าไปอีกเล็กน้อยซึ่งในกรณีนี้ก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถปรับส่วนของหน้าจอกับคีย์บอร์ดให้ได้มุมที่ดีที่สุดสำหรับการพิมพ์ของแต่ละท่านครับ ข้อเสียของคีย์บอร์ดของ Acer Switch Alpha 12 ซึ่งน่าจะเป็นข้อเสียของอุปกรณ์ในรูปแบบ Surface ที่ต้องการเน้นราคาประหยัดก็คือ TrackPad นั้นจะมีขนาดเล็กพอควรและประสิทธิภาพในการใช้งานนั้นก็ไม่ค่อยจะดีมากเท่าไรครับ

ในการใช้งานคีย์บอร์ดนั้นถือว่ามีความสะดวกสบายเป็นอย่างมากครับ ทั้งนี้สำหรับคีย์บอร์ดที่แถมมากับชุดนั้นจะไม่มีแสงไฟส่องสว่างบนตัวคีย์บอร์ดทำให้การใช้งานในการคืนอาจจะไม่สะดวกเท่าไร ทว่าทาง Acer ก็มีคีย์บอร์ดรุ่นที่มาพร้อมกับไฟส่องสว่างวางจำหน่ายด้วยเช่นเดียวกัน แต่ถ้าคุณไม่ต้องการเสียเงินเพิ่มเพื่อทำการซื้อก็ไม่จำเป็นครับเพราะตัวคีย์บอร์ดที่แถมมากับชุดจำหน่ายนั้นเป็นแบบ full-sized (ที่ไม่มีเสียงเวลากด) ที่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีอยู่แล้วครับ

พอร์ทการเชื่อมต่อของ Acer Switch Alpha 12 นั้นถือว่าให้มาครบครับ ไม่ว่าจะเป็น USB Type-C ตามสมัยนิยม, USB 3.0(USB-A) และ 3.5 audio jack จุดที่เป็นข้อเสียอยู่นิดหน่อยก็คือ Acer Switch Alpha 12 นั้นไม่มีพอร์ทเชื่อมต่อหน้าจอภายนอกมาให้เลยทำให้คุณต้องเชื่อมต่อผ่าน USB Type-C แทนซึ่งในปัจจุบันนั้นคุณคงต้องซื้อ Dock Station มาใช้งานร่วมด้วยก่อนหากคุณต้องการที่จะเชื่อมต่อหน้าจอแบบภายนอกครับ

หมายเหตุ – Acer Switch Alpha 12 มาพร้อมกับพอร์ทการชาร์จไปแบบเก่า(วางกลมทางด้านบน) ทำให้เวลาใช้งานนั้น USB Type-C จะยังคงว่างให้คุณเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นๆ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีอย่างหนึ่งหล่ะครับ

ยังครับยังไม่หมด Acer Switch Alpha 12 นั้นยังมาพร้อมกับพอร์ทการเชื่อมต่อ microSD Card slot ซึ่งใน Surface นั้นไม่มีมาให้ ตรงจุดนี้นั้นทำให้การโอนถ่ายข้อมูลเพื่อใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ จำพวกสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ตหรือจะเป็นกล้องดิจิทัลสามารถที่จะทำได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผู้ใช้กล้องดิจิทัลที่ไม่มีการเชื่อมต่อแบบไร้สายมาให้ งานนี้ก็ถือว่าสบายหน่อยหล่ะครับ

สำหรับเรื่องประสิทธิภาพในการใช้งานของตัวเครื่องนั้นถือว่าอยู่ในระดับมาตรฐานของเครื่องที่มาพร้อมกับหน่วยประมวลผล Intel Core i5 ซีรีส์ U และหน่วยความจำ 8 GB พร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ครับ การใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเเป็นดูหนัง, ฟังเพลง, ท่องเว็บหรือแม้กระทั่งทำงานเอกสาร Acer Switch Alpha 12 สามารถรองรับการใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่อย่างเผลอเอาไปเล่นเกมเชียวนะครับเนื่องจากว่าชิปกราฟิกแบบฝังของ Acer Switch Alpha 12 นั้นไม่มีประสิทธิภาพสูงขนาดนั้น

ข้อเสียแบบสุดๆ ของ Acer Switch Alpha 12 นั้นอยู่ที่ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ครับ จากการทดสอบการใช้งานเปิดแอปพลิเคชันมัลติมีเดียอย่าง Netflix เพื่อดูว่าแบตเตอรี่ของ Acer Switch Alpha 12 จะทนไหมพบว่ามันสามารถใช้งานต่อเนื่องได้แค่รายๆ 4.30 ชั่วโมงเท่านั้น ซึ่งหากจะว่าไปแล้วหล่ะก็ถือว่าน้อยมากสำหรับอุปกรณ์จำพวก Surface(เอาไปเทียบกับ Dell XPS 13 หรือ Surface Pro 4 แล้วนั้นแพ้กระจุยเลยครับ)

จุดเด่น

• ราคาถูกกว่าอุปกรณ์รูปแบบ Surface ทั่วไปพอควรแถมอุปกรณ์เสริมหลักๆ ก็มีให้มาในชุดเลย
• มาพร้อมกับดีไซน์การระบายความร้อนแบบไร้พัดลม
• หน้าจอเจ๋งมากทั้งเรื่องของความละเอียด การสู้แสงรวมไปถึงภาพไม่สั่นไหวเวลาสบัดหน้าจอ(สำหรับเดินไปใช้ไป)

จุดด้อย

• อายุการใช้งานแบตเตอรี่ถือว่าตำมากหากเทียบกับอุปกรณ์ในลักษณะเดียวกัน
• ตัวเครื่องเมื่อใช้งานไปสักพักจะร้อนแต่ก็ไม่ถึงขั้นจับตัวเครื่องขึ้นมาได้(แต่ถ้าใช้ในเมืองไทยนั้นก็ไม่แน่ครับ)

สรุป

Acer Switch Alpha 12 ถือว่าเป็นคอมพิวเตอร์ PC แบบ 2-in-1 ที่สามารถใช้งานแบบแท็บเล็ตและโน๊ตบุ๊คที่ค่อนข้างจะดีมากตัวหนึ่งครับหากคิดถึงความคุ้มค่ากับราคาที่ต้องจ่ายไป การใช้งานไม่หนักนั้น Acer Switch Alpha 12 รองรับได้หมดแต่ก็อย่านำไปเล่นเกมนะครับเพราะคุณจะร้องจ๊ากขึ้นมาทันที ตัวเครื่อง Acer Switch Alpha 12 นอกจากจะมาพร้อมกับคีย์บอร์ดในชุดแล้วทาง Acer ยังได้แถมซอฟต์แวร์มาอีกมากมายและก็ไม่ใช่ซอฟต์แวร์ขยะด้วยอย่าง McAfee anti-virus, MusicMaker Jam, WildTangent และเครื่องมือของทาง Acer เองครับ

ที่มา : theverge

from:http://notebookspec.com/acer-switch-alpha-12-review-surface-on-a-budget/358332/

[Acer] Switch Alpha 12 กับ 2-in-1 Notebook ระบายความร้อนด้วยน้ำ พร้อมขายไทย ปลายสิงหาคมนี้

• Acer LiquidLoop™ การออกแบบเทคโนโลยีระบายความร้อนแบบไม่มีพัดลม จึงวางใจได้ในระบบการทำงานที่เงียบสงบ
• เป็นเจ้าแรกที่ทำโน้ตบุ้ค 2 in 1 ที่ไม่มีพัดลม โดยใช้ระบบปฏิบัติการ  6th Generation Intel® Core™  processors และแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมใช้งานได้ยาวนานถึง 8 ชั่วโมง
• ขาตั้งที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
• หน้าจอแสองผล 12 นิ้ว ความละเอียด 2160×1440 มาพร้อม Acer Active Pen
• Switch Alpha 10 ขยายขีดความสามารถได้ทุกข้อจำกัด

Acer เปิดตัวโน้ตบุ้ค 2 in 1 Switch Alpha 12 พร้อม Windows10 ที่มาพร้อมระบบระบายความร้อนอัจฉริยะ และเครื่องที่บางเฉียบ ที่สามารถปรับใช้ได้ทั้งโน้ตบุ้คและแท็บเล็ต

ดีไซน์ที่สวยงามและทนทาน

Switch Alpha 12 ใหม่ เป็นเจ้าแรกที่ทำโน้ตบุ้ค 2 in 1 ที่ไม่มีพัดลม โดยใช้ระบบปฏิบัติการ  6th Generation Intel® Core™  i7, Core i5 or Core i3 processor ทำให้การเปิดเครื่องได้รวดเร็ว ด้วยการทำงานของ Windows 10 ซึ่งมีมากกว่า 270 ล้านคนที่อุปกรณ์ใช้งานนี้

“Switch Alpha 12 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Acer รุ่นใหม่ ของโทรศัพท์มือถือ 2 in 1 ที่มุ่งเน้นในประสิทธิภาพของการทำความเย็นที่เงียบสงบ” กล่าวโดย Jerry Hou General Manager Commercial & Detachable Notebooks, IT Products Business, Acer Inc.

“Switch Alpha จะนำลักษณะเด่นของเราที่ได้รับรางวัลผลิตภัณฑ์ในสาย Switch 2 in 1 และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ อย่างการออกแบบที่ไม่มีพัดลม, แป้นพิมพ์บางเฉียบที่ถอดออกได้ และประสิทธิภาพการทำงานที่ยอดเยี่ยมของคอมพิวเตอร์เคลื่อนที่

“ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องไปพร้อมกับการออกแบบนวัตกรรมใหม่เพื่อออกสู่ตลาดในประเภทของ 2 in 1”  กล่าวโดย Navin Shenoy, corporate vice president and general manager, Client Computing group, Intel Corp. “6th Generation Intel Core-powered ใหม่ใน Acer Switch Alpha 12 เป็นการรวมตัวกันอย่างดี เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีของคอมพิวเตอร์กับแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนาน จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการทำงานตลอดจนการเล่นในระหว่างเดินทาง”

“Acer Switch Alpha 12 มาพร้อม Windows 10 จะช่วยให้ผู้คนได้เลือกสัมผัสกับความบันเทิงและประโยชน์ที่เป็นทั้งโน้ตบุ้คและแท็บเล็ต กับการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์แบบเต็มรูปแบบ” กล่าวโดย Peter Han, vice president worldwide OEM Marketing, Microsoft Corp. “โดยเฉพาะ Windows 10 จะส่งผลให้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว ช่วยผสานผลผลิตและการใช้พลังงานของระบบคลาวด์ เพื่อให้ประสบการณ์ส่วนตัวของคุณไปอยู่ทุกบนอุปกรณ์ต่างๆ ที่คุณคุ้นเคย”

LiquidLoop™ ระบบระบายความร้อนที่เงียบสงบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความคงทน

Acer Switch Alpha 12 เหมาะกับสถานที่ทำงานที่เงียบสงบ เช่น การประชุม สำนักงานรวม ห้องเรียน และห้องสมุด ความเงียบของ LiquidLoop ระบบระบายความร้อนนี้จะช่วยให้ Switch Alpha 12 มีอุณหภูมิที่เหมาะสมและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่มีเสียงพัดลมมารบกวน เป็นเจ้าแรกที่ทำอุปกรณ์ 2 in 1 มาพร้อมระบบปฏิบัติการ  6th Generation Intel® Core™ processor ที่ออกแบบให้ไม่มีพัดลม การผสมผสานนี้ทำให้เกิดประสิทธิภาพที่ดีของระบบตลอดการใช้งานทั้งวันยาวนานถึง 8 ชั่วโมง ด้วยระบบระบายความร้อนของ LiquidLoop แม้จะไม่มีพัดลม Switch Alpha 12 ก็ไม่จำเป็นต้องมีช่องระบายอากาศ เพราะระบบนี้สามารถจัดการปัญหาการถ่ายเทอากาศและลดการสะสมฝุ่นได้อย่างดี

2-in-1 การออกแบบให้ใช้งานได้หลากหลาย

ขาตั้งที่ใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ, คีย์บอร์ดถอดได้, และ Acer Active Pen  จึงทำให้ Switch Alpha 12

ได้พาคุณเพลิดเพลินอย่างต่อเนื่องในฐานะคอมพิวเตอร์เต็มรูปแบบที่เป็นทั้งโน้ตบุ้คและแท็บเล็ต เลือกใช้คีย์บอร์ดได้สองแบบ ทั้งแบบมาตรฐานและแบบ Backlit สำหรับที่มีแสงไฟน้อย การออกแบบขาที่มั่นคงเป็นรูปตัว U เพื่อป้องกันการลื่นไหลในการถือเมื่อลูกค้าสัมผัสหรือเขียนที่หน้าจอ มันสามารถปรับเปลี่ยนได้ถึง 165 องศา ทำให้ Switch Alpha 12 ใช้งานได้สะดวกทั้งบนโต๊ะ บนเครื่องบิน หรือบนตัก นอกจากนี้ ยังมีขาบานพับที่ทนทาน ที่สามารถรับกับการปรับมุมบ่อยๆ

Switch Alpha 12 ทำจาก Anodized Aluminum มีความหรูหราและทันสมัย ตกแต่งด้วยลวดลายที่ลงตัว และช่วยให้พกพาได้สะดวกขณะเดินทาง

Switch Alpha 12 มาพร้อมคีย์บอร์ดขนาดใหญ่ กับปุ่มที่กว้างขวาง แต่กลับเป็นปุ่มที่บางและเบาอย่างน่าเหลือเชื่อ โดยมีความกว้าง 5.85 mm. และบางเพียง 1.4 mm ทำให้พิมพ์ได้สะดวกสบายในทุกการเดินทาง

Trackpad ขนาดใหญ่รองรับการใช้งานที่ง่ายและสะดวก มีความแม่นยำพร้อมตอบสนอง windows 10 ให้ทำงานได้อย่างราบรื่น เชื่อมต่อคีย์บอร์ดกับบานพับแม่เหล็กได้อย่างปลอดภัย เชื่อมต่อง่าย และสามารถปรับมุมให้เหมาะกับการทำงานและความชอบของลูกค้าได้ เมื่อปิดด้านบนของแท็บเล็ต แป้นพิมพ์จะช่วยปกป้องหน้าจอ เพื่อให้มั่นใจในการพกพา

นอกจากนี้ลูกค้ายังเพลิดเพลินกับการสัมผัสบนหน้าจอได้แบบ 10-point touch controls และสามารถเลือกใช้งานปากกา Acer Active Pen ที่จะช่วยให้การสัมผัสการเขียนและวาดได้ง่ายยิ่งขึ้น Acer Active Pen มีคุณสมบัติการตอบสนองที่รวดเร็ว มีความไวต่อแรงกดถึง 256 ระดับ Acer Active Pen ช่วยให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เมื่อ Windows 10 ครบรอบที่จะมาอัพเดตในฤดูร้อนนี้

การแสดงผลที่ยอดเยี่ยม

Switch Alpha 12 มีหน้าจอแสดงผลแบบสัมผัสขนาด 12 นิ้ว สีสันสดใส ซึ่งเป็นขนาดที่เหมาะสำหรับทุกคนที่จะสร้างสรรค์ แก้ไข หรือสนุกไปกับเนื้อหาระหว่างเดินทาง ด้วยเทคโนโลยี IPS ความละเอียด 2160×1440 และรองรับ Intel HD Graphics 520 ลูกค้าจะได้เพลิดเพลินไปกับหน้าจอที่สีสดใสและรายละเอียดที่คมชัด ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเยี่ยมสำหรับการประชุมทางวีดีโอ และการเก็บความความทรงจำ กับ Switch Alpha 12 ด้วย กล้องที่มีความละเอียด 1080p ระบบเสียงแบบ Full HD และการบันทึกวีดีโอ บวกไปกับระบบเสียงที่มีประสิทธิภาพสูงของ Acer TrueHarmony ที่มีลำโพงคู่หน้า ให้ได้ประสบการณ์ด้านเสียงที่หนักแน่นและทรงพลังเพื่อการแสดงผลที่พิเศษ

เครื่องมือเหมาะสำหรับมืออาชีพ

คอมพิวเตอร์ 2 in 1 เป็นโอกาสดีสำหรับการใช้งานที่บ้านและที่โรงเรียน Switch Alpha 12 จะพร้อมให้ลูกค้าเชิงธุรกิจใช้งานได้อย่างหลากหลายรูปแบบด้วยประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่ช่วยให้ธุรกิจและลูกค้าทุกสถาบัน ได้จัดการทำงานทุกด้านของพวกเขา มันสามารถใช้งานโน้ตบุ้คได้ทั้งแบบดั้งเดิมสำหรับการเข้าถึงข้อมูลโดยเฉพาะ เป็นจอแสดงผลสำหรับการนำเสนองาน และเป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมปากกาสำหรับเก็บไอเดียและสเก็ตงานคร่าวๆ รวมถึงต้นแบบธุรกิจมาบูรณาการ Trusted Platform Modules เพื่อให้แน่ใจว่าคอมพิวเตอร์มีความปลอดภัยในทุกสภาพแวดล้อมและได้มาตรฐานของ Windows 10 Pro

หลังจากเสอนแถบไอคอนที่เป็นตัวเลือกที่จะขยายความสามารถใน Switch Alpha12 ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อ Switch Alpha 12 กับสายเคเบิลเพียงเส้นเดียวด้วย Acer USB Type-C ให้ถ่ายโอนได้ทรงพลังอย่างง่ายดาย dock นี้ใช้งานได้สะดวกและมีขนาดกะทัดรัด จะช่วยให้การรับชมวิดีโอและเสียงด้วยความเร็วสูง และการถ่ายโอนข้อมูล การเก็บพื้นที่การทำงานไม่ให้เกะกะ เชื่อมต่อได้ทันทีพร้อมการแสดงผลบนจอแสดงผลบนอุปกรณ์อื่นๆ ไปพร้อมๆ กันด้วย นอกจากนี้ ยังเชื่อมต่อผู้ใช้ทางธุรกิจที่จำเป็น รวมถึง

DisplayPort, HDMI, two USB 3.1 Type-C ports and three USB Type-A ports ตลอดจนการต่อสัญญาณเสียงสำหรับไมโครโฟนและเสียงสำหรับลำโพง อุปกรณ์เสริม Acer ProDock Wireless สามารถรองรับลูกค้าหลายรายด้วยความเร็วสูง 802.11ad wireless 4.6Gbps ในการโอนย้ายข้อมูลมากกว่า 60GHz นอกจากนี้ยังรองรับทั้ง 802.11ac และ 802.11ad สำหรับการเข้าถึงหลาย port รวมถึงการรองรับ DisplayPort, HDMI, VGA และ USB

บาง น้ำหนักเบา จากการออกแบบด้วยเทคโนโลยีล่าสุด

Acer Switch Alpha 12 บาง และ เบา ด้วยขนาดเพียง 292.1 x 201.4 (D) x 15.85 (H) mm (11.5 x 7.93 x 0.62 inches) และหนักเพียง 1250 กรัม เป็นน้ำหนักเมื่อแท็บเล็ตและคีย์บอร์ดเชื่อมต่อกัน ส่วนแท็บเล็ตอย่างเดียวมีขนาดความสูงเพียง 9.5mm (0.37 นิ้ว) และหนัก 900 กรัม

Switch Alpha 12 มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล 128GB, 256GB หรือ 512GB SSD และสามารถเข้าถึงไฟล์เพิ่มเติมบนช่อง MicroSDXC เครื่องที่จะเสนอเป็น 4GB หรือ 8GB ของ LPDDR3 SDRAM มันมีความบางและเปลี่ยนกลับ USB 3.1 Type-C เพื่อการโอนถ่ายข้อมูลที่รวดเร็วถึง 5Gbps จากอุปกรณ์ต่อพ่วงที่เชื่อมต่อเพื่อแบ่งปันวีดีโอและพลังงานบนอุปกรณ์อื่น นอกจากนี้ Switch Alpha 12 ยังเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นด้วย Bluetooth 4.0

รวดเร็วด้วยระบบสองคลื่นความถี่ 2×2 MU-MIMO 802.11ac/a/b/g/n ช่วยให้การเชื่อมต่อ Wi-Fi บน Switch Alpha 12 ของลูกค้าเชื่อต่อได้เร็วขึ้นถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับ 802.11n

 

ราคาและการจัดจำหน่าย

Acer Switch Alpha 12  จะวางจำหน่ายในอเมริการเหนือ ในเดือนมิถุนายน ราคาเริ่มต้นที่ $599, ที่  EMEA ในเดือนพฤษภาคม ราคาเริ่มต้นที่ €699 และที่ประเทศจีน ในเดือนพฤษภาคม ราคาเริ่มต้นที่ ¥5,999 และพร้อมขายไทยประมาณปลายสิงหาคมที่จะถึงนี้

สเปค ราคา และการจัดจำหน่ายจะแตกต่างกันไปตามแต่ละภูมิภาค เพื่อหาข้อมูลการวางจำหน่าย สเปคสินค้าและราคา กรุณาติดต่อสอบถามศูนย์บริการ Acer หรือตัวแทนจำหน่ายที่ใกล้เคียง

from:http://notebookspec.com/pr-acer-switch-alpha-12-2-in-1-notebook/357721/

[ASUS] Zenbook Flip UX360 เริ่มวางจำหน่ายในต่างประเทศแล้ว ราคาเริ่มต้น 25,xxx บาทเท่านั้น

หลังจากที่ปล่อยให้แฟนๆ ในไต้หวันได้สัมผัสกับโน๊ตบุ๊คในรูปแบบ convertible สุดบางเฉียบอย่าง ASUS Zenbook Flip UX360 ไปก่อนเกือบ 2 เดือน ในที่สุดทาง ASUS ก็ตัดสินใจที่จะนำเอาโน๊ตบุ๊ครุ่นดังกล่าวนี้เข้าไปวางจำหน่ายในตลาดสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการเป็นที่เรียบร้อย

ภายใช้ชื่อรุ่นแยกที่ยาวเหยียดว่า ASUS Zenbook Flip UX360CA-UBM1T ซึ่งความสามารถของมันนั้นก็ตามที่บอกเลยครับคือเป็น convertible สุดบางเฉียบที่สามารถพับหน้าจอได้ 360 องศาเพื่อแปลงร่างในการใช้งานเป็นโหมดต่างๆ ตามที่ผู้ใช้ต้องการครับ

สำหรับสเปคของ ASUS Zenbook Flip UX360CA-UBM1T นั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

• หน้าจอขนาด 13.3 นิ้วใช้ panel แบบ IPS รองรับการสัมผัสแบบ multitouch โดยจะมีความละเอียดอยู่ที่ 1,920 x 1,080 pixels
• หน่วยประมวผล Intel Core m3-6Y30 ที่มาพร้อมกราฟิกชิปแบบฝังภายในหน่วยประมวลผลรุ่น Intel HD Graphics 515 IGP
• หน่วยความจำ(RAM) แบบ LPDDR3 ขนาดมากสุดที่เลือกได้คือ 8 GB
• แหล่งเก็บข้อมูลภายในแบบ SSD ความจุ 256 GB
• รองรับการเชื่อมต่อแบบไร้สาย Miracast enabled, WiFi 802.11 ac, Bluetooth 4.1,
• พอร์ทการเชื่อมต่อแบบมีสายประกอบไปด้วย USB 3.0 จำนวน 2 พอร์ท, USB Type-C และ micro HDMI อย่างละ 1 พอร์ท
• มาพร้อมระบบปฎิบัติการ Windows 10 Home 64-bit
• ขนาดของตัวเครื่องอยู่ที่ 12.71 x 8.66 x 0.54 นิ้ว
• น้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 1.27 kg
• แบตเตอรี่แบบ 3-cell ความจุ 54 WHr lithium polymer สามารถใช้งานยาวนานได้ต่อเนื่องถึง 12 ชั่วโมง
• สีที่วางจำหน่ายคือสีเทา

ทั้งนี้ราคาเริ่มต้นที่ทาง ASUS ตั้งไว้สำหรับรุ่น ASUS Zenbook Flip UX360CA-UBM1T นั้นจะอยู่ที่  $699 หรือประมาณ 25,170 [km แต่ในร้าน Microsoft Store กลับขายที่ราคา $749 หรือประมาณ 26,970 บาททั้งๆ ที่สเปคก็ไม่ได้แตกต่างกัน งานนี้คงต้องรอดูในเมืองไทยต่อไปหล่ะครับว่าเมื่อไร ASUS ไทยจะนำเข้ามาและราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่เท่าไร

ที่มา : notebookcheck

from:http://notebookspec.com/asus-zenbook-flip-ux360-hits-the-us-market/352563/

[Dell] เปิดตัว Inspiron 17 7000 โน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 รุ่นขนาดจอ 17 นิ้วตัวแรกของโลกพร้อมวางตลาดภายในปีนี้

กระแสโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 นั้นมาแรงจริงๆ หล่ะครับ โดยเฉพาะในงาน Computex 2016 ที่ผ่านมานั้นไม่เพียงแค่ ASUS เท่านั้นที่ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 รุ่นใหม่ออกมา ทว่าทาง Dell ก็ได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊ตแบบ 2-in-1 ในซีรีส์ Inspiron ออกมาด้วยพร้ิมกันถึง 3 รุ่น 3 ขนาดหน้าจอได้แก่

Inspiron 17 7000 2-in-1 ซึ่งเป็นโน๊ตบุ๊คแบบ 2-in-1 ตัวแรกของโลกที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 17 นิ้ว, Inspiron 5000 ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 13 และ 15 นิ้วกับรุ่นน้องเล็ก Inspiron 11 3000 ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 11 นิ้วครับ

เริ่มกันที่น้องเล็กก่อนอย่าง Inspiron 11 3000 ที่มาพร้อมกับขนาดหน้าจอ 11.6 นิ้วและเน้นไปที่ตลาดสำหรับผู้ใช้งานที่มีงบประมาณจำกัดทำให้มันมาพร้อมกับหน้าจอที่รองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 1366 x 768 pixels เท่านั้นแถมชิปเซ็ทที่ใช้งานนั้นก็เป็นรุ่นเล็กอย่าง Intel Core M3 อีกด้วยต่างหาก(ดีที่ไม่ใช่ตระกูล Atom) แต่ก็อย่างว่าหล่ะครับ ราคาเริ่มต้นของ Inspiron 11 3000 นั้นจะอยู่ที่ $249 หรือประมาณ 8,970 บาทเท่านั้น งานนี้น่าจะเหมาะกับนักเรียนนักศึกษาได้เป็นอย่างดีครับ

หมายเหตุ – Inspiron 11 3000 เริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา

หมายเหตุ 2 – Inspiron 11 3000 มีตัวเลือกแหล่งเก็บข้อมูลแบบ HDD และ SSD(จะราคาจะเพิ่มขึ้นไปสูงพอควร) และจะมาพร้อมกับพอร์ทเชื่อมต่อ USB 3.0 และ Micro SD media card reader ตามมาตรฐานทั่วไป

ขยับกันมาที่รุ่นใหญ่หน่อยอย่าง Inspiron 5000 ที่จะมีขนาดหน้าจอให้เลือกที่ 2 ขนาดคือ 13 และ 15 นิ้วรองรับความละเอียดที่ระดับ Full HD โดยสเคปทั่วไปนั้นก็จะสูงกว่ารุ่น Inspiron 3000 ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกชิปเซ็ทหน่วยประมวลผลที่ดีกว่า(มีให้เลือกได้สูงสุดถึงหน่วยประมวลผลสถาปัตยกรรม Skylake ของทาง Intel รุ่น Core i7 เป็นรุ่นสูงสุด)

หน่วยความจำที่สามารถเลือกได้มากกว่า(สูงสุดที่ 16 GB แบบ DDR4), รวมไปถึงแหล่งเก็บข้อมูลที่มากกว่า(โดยมีให้เลือกทั้งแบบ HDD และ SSD) จุดที่เด็ดสุดของ Inspiron 5000 คงหนีไม่พ้นตัวเลือกกล้องอินฟราเรดที่รองรับกับการใช้งานฟีเจอร์ Windows Hello บน Windows 10 ราคาเริ่มต้นของ Inspiron 5000 นั้นจะอยู่ที่ $529 หรือประมาณ 19,050 บาทครับ

หมายเหตุ – Inspiron 5000 เริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา

หมายเหตุ 2- ซีรีส์ Inspiron 5000 จะมาพร้อมกับ True-life LED-Backlit Touch Display

ปิดท้ายกันที่รุ่นใหญ่สุดอย่าง Inspiron 7000 ที่จะมีขนาดหน้าจอให้เลือกที่ 3 ขนาดคือ 13, 15 และ 17 นิ้วรองรับความละเอียตั้งแต่ระดับ Full HD ขึ้นไป โดยสเคปทั่วไปนั้นก็จะสูงกว่ารุ่น Inspiron 3000 ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกชิปเซ็ทหน่วยประมวลผลที่ดีกว่า(มีให้เลือกได้สูงสุดถึงหน่วยประมวลผลสถาปะตยกรรม Skylake ของทาง Intel รุ่น Core i7 หรือหน่วยประมวลผลของทาง AMD),

หน่วยความจำที่สามารถเลือกได้มากกว่า(สูงสุดที่ 16 GB แบบ DDR4), รวมไปถึงแหล่งเก็บข้อมูลที่มากกว่าและเป็นแบบ SSD จุดที่เด็ดสุดของ Inspiron 7000 คงหนีไม่พ้นตัวเลือกกล้องอินฟราเรดที่รองรับกับการใช้งานฟีเจอร์ Windows Hello บน Windows 10 และการมาพร้อมกับพอร์ทเชื่อมต่อรุ่นใหม่อย่าง USB Type-C และ DisplayPort ด้วยครับ ทั้งนี้เริ่มต้นของ Inspiron 7000 นั้นจะอยู่ที่ $749 หรือประมาณ 29,970 บาทครับ

หมายเหตุ – Inspiron 7000 เริ่มวางจำหน่ายในประเทศจีนและสหรัฐอเมริกาแล้วตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา

หมายเหตุ  2 – ซีรีส์ Inspiron 7000 จะมาพร้อมกับ Standard Waves MaxxAudio Pro audio software เพื่อเพิ่มความสามารถในการรับฟังเพลงหรือภาพยนตร์ให้เหมาะกับผู้ใช้ได้ครับ

ที่มา : theverge

from:http://notebookspec.com/dell-launches-the-worlds-first-17-inch-2-in-1-laptop/351318/

[Computex 2016] Acer เปิดตัวโน๊ตบุ๊ค 2-in-1 อย่าง Switch V 10 และ Switch One 10

ก่อนหน้านี้ถึงแม้ว่าจะมีงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของตัวเองออกมาอย่างเป็นทางการ ทว่าทาง Acer นั้นก็ไม่ทำให้ผู้เข้าชมงานต้องเบื่อกับผลิตภัณฑ์ที่เคยมีการเผยข้อมูลไปแล้วครับเนี่องจากว่าในงาน Computex 2016 นั้นทาง Acer ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊คแบบ convertibles รุ่นใหม่พร้อมกันถึง 2 รุ่นอย่าง Switch V 10 และ Switch One 10 ซึ่งโน๊ตบุ๊คทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวนี้ได้ถูกดีไซน์ขึ้นมาสำหรับนักเรียนนักศึกษาหรือผู้ใช้ที่มีงบประมาณจำกัดแต่ยังคงต้องการโน๊ตบุ๊คที่มีประสิทธิภาพในการใช้งานอยู่ครับ

Acer Switch V 10 และ Switch One 10 จะมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล quad-core Intel Atom ซึ่งประสิทธิภาพนั้นก็อย่างที่ทุกท่านรู้ๆ กันว่าพอใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดีแต่จะให้ถึงขั้นนำไปเล่นเกมหนักๆ หรือทำงานหนักๆ ก็คงจะไม่ไหว ระบบปฎิบัติการบนโน๊ตบุ๊คทั้ง 2 รุ่นนั้นก็เป็น Windows 10 ซึ่งตรงจุดนี้นั้นไม่น่าจะเป็นเรื่องที่แปลกมากเท่าไรนัก

ดีไซน์ของทั้ง 2 รุ่นนั้นค่อนข้างที่จะคล้ายกันโดยเฉพาะในส่วนของบานพับที่มาพร้อมกับบานพับรูปแบบ latch-less magnetic hinge design(ดีไซน์ให้บานพับไม่ได้ใช้ลักษณะการยึดติดด้วยแม่เหล็ก โดยใช้แม่เหล็กมาเกี่ยวข้องน้อยที่สุด) ซึ่งทำให้ตัวบานพับสามารถที่จะใช้งานได้อย่างต่อเนื่องและผู้ใช้สามารถปรับโหมดตัวเครื่องใช้งานได้ถึง 4 โหมดคือ notebook, pad, tent และ display ครับ

จุดที่แตกต่างกันของทั้ง 2 รุ่นนี้ก็คือ Acer Switch V 10 จะเป็นรุ่นที่หรูกว่าหน่อย(ทำให้ราคาสูงกว่าด้วย) โดยมันจะมาพร้อมกับฝาครอบที่ใช้วัสดุเป็นโลหะ, พอร์ท USB Type-C, ระบบสแกนลายนิ้วมือ รวมไปถึงการเชื่อมต่อไร้สายแบบ dual-band MIMO 802.11ac wireless โดย Acer Switch V 10 จะมีตัวเลือกสเปคแหล่งเก็บข้อมูลให้เลือกที่ขนาด 32 GB กับ 64 GB แถมในส่วนของคีย์บอร์ดของรุ่นนี้นั้นยังมาพร้อมกับแหล่งเก็บข้อมูลแบบ HDD อีก 500 GB พร้อมด้วยพอร์ USB Type-A อีกจำนวน 2 อีกจำนวน 2 พอร์ทด้วยครับ

หมายเหตุ – Acer Switch V 10 จะมีวางจำหน่ายหลายสีด้วยซึ่งก็เหมาะกับการเจาะตลาดนักเรียนนักศึกษาที่ไม่ต้องการความซ้ำสากจำเจหล่ะครับ

 

ส่วนรุ่น Switch One 10 สเปคส่วนใหญ่ก็จะเป็นระดับล่างเช่นกันแต่จะเน้นไปที่ผู้ใหญ่มากกว่าเนื่องจากจะมีการวางจำหน่ายเพียงแค่สีเดียวเท่านั้นคือ dark grey เพียงอย่างเดียวและไม่มีพอร์ทพิเศษกับความสามารถพิเศษเหมือนกับ Acer Switch V 10 อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้น(หรือจะบอกว่ามาพร้อมกับความสามารถธรรมดาเช่นการเชื่อมต่อ WiFi ที่เป็นมาตรฐานปกติ, พอร์ท USB 2.0 ธรรมดา, SD card reader, HDMI เท่านั้นครับ

ทั้งนี้ Acer Switch V10 จะเริ่มวางจำหน่ายในทวีปอเมริกาเหนือช่วงไตรมาสที่ 3 นี้ด้วยราคาเริ่มต้นที่ $249 หรือประมาณ 8,970 บาท ส่วน Acer Switch One 10 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกรกฏาคมด้วยราคาเริ่มต้นที่ $199 หรือประมาณ 7,170 บาทเท่านั้นครับ

หมายเหตุ – ทั้ง 2 รุ่นดังกล่าวนี้จะมีขนาดหน้าจอเท่ากันอยู่ที่ 10.1 นิ้วใช้ panel แบบ IPS โดยรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ 1366×768 pixels ครับ

ที่มา : notebookcheck, anandtech

from:http://notebookspec.com/computex-2016-acer-announces-switch-v-10-and-switch-one-10-convertibles/349610/

[Review] Lenovo MIIX 700 สุดยอดแท็บเล็ต 2-in-1 ดีไซน์เรียบหรู ครบเครื่องทุกการใช้งาน

หากจะพูดถึงอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานเป็นแท็บเล็ทได้ และในขณะดียวกันก็สามารถใช้งานในโหมดของโน้ตบุ๊คได้ด้วยเช่นกัน หลายๆท่านคงกำลังนึกถึง แท็บเล็ต 2 in 1 ที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้  ซึ่งปัจจุบันก็มีหลายแบรนด์ชั้นนำที่ได้มีการส่งตัวแท็บเล็ตเหล่านี้เข้าสู่ตลาดไอทีอย่างมากมาย  จนเกิดการแข่งขันกันเป็นวงกว้าง และทำให้ผู้ผลิตแบรนด์ต่างๆ มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ได้ในสิ่งที่แตกต่าง โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะ พร้อมกับน่าใช้งาน

และล่าสุด Lenovo แบนรนด์ชั้นนำของโลกที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน ได้นำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด อย่าง Lenovo MIIX 700 ซึ่งเป็นแท็บเล็ต 2 in 1 เข้าสู่ตลาด เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จ และเจาะจงขยายตัวในกลุ่มของผู้ใช้มากขึ้น โดยเน้นความโดดเด่นด้วยดีไซน์การออกแบบที่ดูเรียบหรู พรีเมี่ยม พร้อมอุปกรณ์เสริมอย่างครบครัน ลงตัวทุกการใช้งาน ที่สามารถท้าชนกับรุ่นต่างๆได้ทุกกระบวนท่าเลยทีเดียว

from:http://notebookspec.com/review-lenovo-miix-700/346744/

[2-in-1 Notebook] Onda oBook 11 Pro ดีไซน์ถอดแบบมาจาก Microsoft Surface Book เด๊ะ!

จะว่าไปแล้วนั้น Surface Book ของ Microsoft เองก็เป็นโน๊ตบุ๊คอีกรุ่นหนึ่งที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กันครับ ถึงแม้ว่าราคาจะค่อนข้างสูงแต่ทว่าในช่วงเปิด pre-order นั้นก็เล่นเอา Microsoft ประกาศว่าได้รับความสนใจจนมีการสั่งของไปมากมายเกินที่คาดไว้ แน่นอนหล่ะครับว่ารูปแบบโน๊ตบุ๊คที่ประสบความสำเร็จเช่นนี้คงหนีไม่พ้นจะมีบริษัทผู้ผลิตรายอื่นดำเนินรอยตาม โดยล่าสุดนั้นทาง Onda ได้ทำการเปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่น oBook 11 Pro ที่ดีไซน์ภายนอกนั้นเหมือนกับ Surface Book อย่างกับแกะเลยครับ

ในส่วนสเปคของ Onda oBook 11 Pro ที่เปิดตัวออกมานั้นมีดังต่อไปนี้ครับ

• หน้าจอขนาด 11.6 นิ้วรองรับความละเอียดสูงสุดที่ระดับ Full HD หรือ 1920 x 1080 pixels และสามารถใช้งานร่วมกับ active stylus ได้
• หน่วยประมวลผลของ Intel สถาปัตยกรรม Skylake รุ่น Core M3-6Y30
• หน่วยความจำ(RAM) แบบ DDR3L ความเร็ว 1,866 Mhz ขนาด 4 GB
• แหล่งเก็บข้อมูลแบบ SSD ความจุ 64 GB
• รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย Bluetooth 4.0 และ wireless-n
• รองรับพอร์ทการเชื่อมต่อ MicroSD, USB 3.0 และ Micro-HDMI
• กล้องหน้า(Webcam) ความละเอียด 2 MP
• ระบบปฎิบัติการ Windows 10(ยังไม่ทราบรุ่นที่แน่ชัด)

นอกไปจากนั้นแล้วทาง Onda ยังได้เปิดตัวโน๊ตบุ๊ครุ่นน้องของ oBook 11 Pro ออกมาอีกด้วยหนึ่งรุ่นอย่าง oBook 10 Plus ซึ่งดีไซน์ยังคงเหมือนกันแต่เปลี่ยนสเปคในส่วนของหน่วยประมวลผลเป็น Intel Atom X5 Z8300 และหน้าจอได้ถูกลดขนาดมาอยู่ที่ 10.6 นิ้วแต่มาพร้อมกับความละเอียดที่ระดับ 2560 x 1600 pixels เท่านั้นครับ(นอกนั้นเหมือนรุ่น oBook 11 Pro หมดเลยครับ) ทั้งนี้น่าเสียดายที่ทาง Onda ยังไม่ได้เปิดตัวราคาและวันวางจำหน่ายของโน๊ตบุ๊คทั้ง 2 รุ่นออกมาอย่างเป็นทางการแต่ในส่วนของราคานั้นคาดว่าไม่น่าจะแพงเท่าไรครับ(ส่วนเรื่องประสิทธิภาพอย่าเอาไปเทียบกับต้นฉบับอย่าง Surface Book นะครับ เทียบกันไม่ได้เลยครับ)

ที่มา : notebookcheck

from:http://notebookspec.com/onda-unveils-obook-11-pro-surface-book-clone/346137/