คลังเก็บป้ายกำกับ: จอโค้ง

จอคอม 4K ขนาดใหญ่ 27″-32″ 10 รุ่นในงบ 12,000 บาท คมชัด HDR เล่นเกม ดูหนังเต็มตา

จอคอม 4K เน้นภาพชัดจอใหญ่ 10 รุ่นที่เราเลือกมาให้ชมกันในวันนี้ มีตั้งแต่จอขนาด 27″ ไปจนถึง 32″ ที่มีการออกแบบสวยงาม ทันสมัย พร้อมฟีเจอร์ใหม่ๆ มาให้ใช้งานกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็นด้านการทำงาน หรือความบันเทิงก็ตาม โดยที่จอ 4K รุ่นใหม่ๆ เหล่านี้ เหมาะทั้งการเป็นจอตัวแรกของผู้ใช้ หรือเป็นจออัพเกรดสำหรับผู้ใช้จอเล็กๆ มา แล้วมองหาจอคอมที่ตอบโจทย์ในด้านต่างๆ ได้ดี และให้พื้นที่ในการใช้งานมากกว่าเดิม และส่วนใหญ่จะมาพร้อมฟีเจอร์และเทคโนโลยี ที่เพิ่มความสามารถในการแสดงผลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น รองรับ HDR และลดการสั่นไหวอย่าง Flicker-Free หรือจะเป็นเรื่องของการลดอาการภาพฉีกขาด เมื่อเล่นเกมด้วย Adaptive-Sync หรือ FreeSync รวมไปถึงพอร์ตรับสัญญาณแสดงผล ที่มีตัวเลือกมากมายในงบประมาณหมื่นต้นๆ เรามาดูกันว่ามีรุ่นไหนที่โดนใจคุณบ้างในปี 2022 นี้

1.PHILIPS 288E2A/67

จอเริ่มต้นของคนที่อยากได้จอคอม 4K ไซส์ใหญ่ มาเปลี่ยนกับจอเดิมระดับ 22″-24″ และให้เล่นเกมได้สนุก ภาพสวยกว่าเดิม ด้วยพื้นที่แสดงผลระดับ 28″ จากทาง PHILIPS รุ่นนี้ จะทำให้คุณตื่นตาตื่นใจไปกับความอลังการของภาพในการเล่นเกมและชมภาพยนตร์ได้อย่างเต็มอิ่ม กับพาแนล IPS ให้ความคมชัดสวยงาม มุมมอง 178/178 องศา ให้ความละเอียดระดับ 3840 x 2160 pixels หรือ 4K ขอบจอบางเฉียบทั้ง 3 ด้าน และฐานสี่เหลี่ยม ที่ลดการใช้พื้นที่บนโต๊ะไปได้มากทีเดียว รองรับการปรับมุมก้ม-เงยได้เล็กน้อย กับค่าความสว่าง 300cd/m2 และ sRGB 119% เพิ่มความลื่นไหล ด้วยการสนับสนุน AMD FreeSync ด้านหลังมี VESA Mount 100x100mm และลำโพงมาในตัว พอร์ตสำหรับเชื่อมต่อสัญญาณ ประกอบด้วย HDMI x2, DP x1 รองรับการทำงานแบบ Multi-View คอเกมได้สนุกแบบเต็มอิ่ม เพราะปรับโหมดเกมได้บนจอผ่านทาง SmartImage Game ที่มีโหมดให้เลือกใช้ สนนราคอยู่ที่ประมาณ 10,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ขอบจอบาง	ไม่เน้นการปรับเลื่อนจอ
มี Game mode
ความสว่างสูง

ข้อมูลเพิ่มเติม: PHILIPS

2.AOC U28P2U/BS

อีกหนึ่งจอเกมมิ่งที่ให้ความละเอียดระดับ 4K สำหรับคอเกมและคนทำงานอย่างแท้จริง ด้วยการออกแบบที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ ในแบบฉบับที่บางเฉียบของบอดี้ ขอบจอบางเพิ่มพื้นที่การมองเห็นภาพได้เต็มตามากขึ้น ดีไซน์ล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้วยเส้นสายที่แปลกตา แต่ที่น่าสนใจกว่าคือ การปรับเลื่อนจอที่มีความยืดหยุ่น ด้วยการหมุนได้ 180 องศา ให้ใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน การติดตั้งง่าย เพราะใช้สลักในการยึด รองรับ HDR Mode ให้สีสันสดใส และเป็นพาแนล IPS กับมุมมองกว้าง 180 องศาทั้งซ้าย-ขวา มีฟีเจอร์ลดแสงสีฟ้า และ AOC Clear Vision เพิ่มความคมชัด เอาใจคอเกมด้วย Adaptive Sync พร้อมกับฟังก์ชั่นการทำงานแบบมัลติทาส์ก ด้วย PIP และ PBP ในการทำงานมัลติสกรีน เช่นเดียวกับการปรับแต่งที่ง่ายมากๆ ผ่านลูกเล่นอย่าง i-Menu ใช้เมาส์คลิ๊กได้เลย การเชื่อมต่อนั้นมีทั้ง HDMI 2.0 x2 และ DP 1.2 x1 รวมถึง USB 3.2 Gen1 มีให้ถึง 4 ช่องด้วยกัน ด้านหลังเป็น VESA Mount 100x100mm เคาะราคาอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รองรับ HDR	ปรับเลื่อนจอได้เล็กน้อย
รองรับ Adaptive Sync
พอร์ตต่อพ่วงให้มาเยอะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: AOC

3.Samsung LS27A800UJEXXT

จอคอม 4K ระดับ 27″ ที่มาพร้อมความพรีเมียม ด้วยเทคโนโลยีที่จัดเต็มมาให้กับผู้ใช้ที่อยากได้จอภาพ ที่ตอบสนองในด้านต่างๆ ได้ครบครัน ทั้งในเรื่องความละเอียด 3840×2160 ความคมชัดสูงด้วยพาแนล IPS มุมมองกว้าง และรองรับ HDR10 กับสีสันสดใสสมจริง บนดีไซน์ที่ดูเรียบง่าย แต่มีความหรูหราซ่อนอยู่ ขาตั้งจอแบบกลม จับถนัดมือ บนฐานสี่เหลี่ยม ขอบจอที่บางเป็นพิเศษ เหมาะกับการใช้หลายจอต่อกันในแบบมัลติมอนิเตอร์ ที่ไม่รู้สึกขัดตา จุดเด่นอยู่ในเรื่องของพอร์ต ที่มีทั้งพอร์ตสัญญาณ HDMI 2.0 และ DP 1.2 รวมถึงพอร์ต USB hub และสนับสนุน USB Type-C ที่ใช้สำหรับการชาร์จไฟ ต่อสัญญาณไปยังภายนอก และการโอนถ่ายข้อมูลความเร็วสูง รองรับการติดตั้ง VESA Mount 100x100mm ตัวจอมีฟังก์ชั่นปรับได้หลายแบบ เช่น มุมก้ม-เงย, ความสูง และ Pivot ในแบบ 90 องศา ในการใช้งานแบบแนวตั้ง และยังหันซ้าย-ขวาได้อีกด้วย ที่น่าสนใจคือ ฟังก์ชั่นการค้นหาสัญญาณให้อัตโนมัติ ผู้ใช้ไม่ต้องไปตั้งเองบ่อยๆ เมื่อต้องเปลี่ยนคอมหรืออุปกรณ์ที่มาต่อพ่วงใช้งาน รวมถึงรองรับทั้ง PIP และ PBP ราคาอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รองรับ HDR10	ดีไซน์ไม่เน้นลูกเล่น
พอร์ตต่อพ่วงเยอะ
ปรับเลื่อนได้หลายแบบ

ข้อมูลเพิ่มเติม: Samsung

4.Viewsonic VX3211-4K-mhd

จอใหญ่ระดับ 32″ ความละเอียด 4K ที่น่าจะนำมาใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์หรือแทนจอทีวีที่บ้าน ก็สะใจไม่แพ้กัน จัดว่าราคาไม่สูงมาก แต่ได้พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ โดยเป็นพาแนลแบบ VA แต่ให้มุมมองที่กว้าง อัตรารีเฟรชเรต 60Hz รองรับ AMD FreeSync รองรับทั้ง PIP และ PBP มีโหมดให้เลือกใช้งานหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Game, Movie หรือท่องเว็บก็ตาม มีลำโพงมาให้ด้านหลัง 2 จุด ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ดูลงตัวกับเฟอร์นิเจอร์ในบ้าน หรือที่ทำงานได้ดี ขอบจอบางทั้ง 3 ด้าน ฐานเป็นแบบตัว Y จึงใช้พื้นที่น้อย การปรับแต่ง OSD ผ่านปุ่มด้านหลัง เพิ่มที่แขวนหูฟังมาให้ โดยมีพอร์ตต่อพ่วงสัญญาณ HDMI และ DP รวมถึง Audio-out ด้วยความที่เป็นจอภาพขนาดใหญ่ ให้การปรับเลื่อนได้เพียงมุมก้ม-เงย ปรับเลื่อนเท่านั้น แต่ที่โดดเด่นคือ เรื่องของสีสันที่เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิงอย่างแท้จริง สนนราคอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์ทันสมัย บางเบา	ปรับเลื่อนได้นิดหน่อย
มีโหมด Game
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Viewsonic

5.BENQ EW3270U

จอเกมมิ่งในระดับ 4K ที่มาพร้อมดีไซน์ล้ำสมัย ใส่ฟีเจอร์มาแน่น สมกับความเป็น BenQ ที่มักจะเติมความเหนือชั้นมาให้กับผู้ใช้ ด้วยโหมด HDR และฟีเจอร์ Brightness Intelligence Plus ปรับได้ 4 ระดับตามสภาพแวดล้อม พร้อมเทคโนโลยี Eye-care และรองรับ AMD FreeSync พื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 32″ ใช้พาแนล VA สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ มุมมองกว้าง 178/178 ให้พอร์ตต่อพ่วงรับสัญญาณ HDMI 2.0 x2, DP และ USB Type-C เรียกว่าสะดวกทุกการเชื่อมต่อ โดยมีลำโพง 2W x2 มาให้ในตัว พร้อมทุกการใช้งาน และยังเลือกโหมดการถนอมสายตาได้หลายรูปแบบ ปรับมุมก้มเงยได้ และด้านหลังมี VESA Mount 100x100mm จัดว่าเป็นอีกหนึ่งจอคอม 4K ที่ตอบสนองการใช้งานได้หลายรูปแบบ ราคาอยู่ที่ประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
โหมด HDR ปรับแต่งได้	ปรับมุมหน้าจอได้เล็กน้อย
มีพอร์ตให้ใช้จำนวนมาก
เป็นจอ 32″ 4K ราคาไม่สูง

ข้อมูลเพิ่มเติม: BenQ

6.LG 32UN500-W

มาถึงจอคอม 4K อีกค่าย ที่สายเกมมิ่งให้ความสนใจ ด้วยพื้นที่แสดงผล 27″ ให้ความละเอียด 3840×2160 พาแนลในแบบ VA พร้อมความแม่นยำของสีในระดับ DCI-P3 90% รองรับ HDR10 จึงตอบโจทย์การทำงานได้ภาพและวีดีโอได้ดีระดับหนึ่ง นอกเหนือจากการเล่นเกม ที่มีฟีเจอร์อย่าง AMD FreeSync และการปรับ Game Mode รวมถึง Dynamic Action Sync และ Black Stabilizer มาให้ พร้อมกับระบบเสียง Maxx Audio 5W x2 เพื่อพลังเสียงที่จัดจ้าน ไม่ต้องผ่านหูฟัง ดีไซน์ยังล้ำสมัย ด้วยขอบจอที่แทบจะไร้ขอบ ฐานโค้งครึ่งวงกลม ทำให้ลดการใช้พื้นที่บนโต๊ะได้เยอะ และปรับเลื่อนในมุมก้ม-เงยตามมาตรฐาน พอร์ตรับสัญญาณมีทั้ง HDMI x2 และ DP x1 และ Audio มาให้ VESA Mount ด้านหลัง 100x100mm ราคาประมาณ 11,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รองรับ HDR10	พอร์ตไม่เยอะมาก
มี Game Mode
ฟีเจอร์สำหรับใช้งานเยอะ

ข้อมูลเพิ่มเติม: LG

7.MSI OPTIX MAG321CURV

อีกหนึ่งจอคอม 4K สายพันธุ์เกมมิ่ง จากค่ายที่มีไลน์ผลิตภัณฑ์จอภาพในกลุ่มเกมมิ่งที่หลากหลาย ซึ่งจอรุ่นนี้ก็มาในแบบพิเศษ ด้วยการเป็นจอโค้ง 1500R เพื่อความโอบกระชับสายตา ข้อดีคือ ไม่ต้องถอยร่นจากหน้าจอที่มีขนาดใหญ่มากนัก แต่เห็นได้เต็มตา พาแนลให้สีสันสดใส และความคมชัด รองรับ HDR เพื่อภาพสีสันสดใสสมจริงและลูกเล่นในการปรับแต่ง ผ่านทางปุ่มจอยสติ๊กง่ายดาย และยังมีฟีเจอร์ที่ทำให้ได้เปรียบในการเล่นเกมในฉากมืด ด้วย Night Vision มองเห็นศัตรูได้ก่อน และยังรองรับการเชื่อมต่อ USB-C ในการเชื่อมต่อสัญญาณแสดงผลจากพีซีได้ กับจุดเด่นที่เป็น Game Mode ตั้งให้เข้ากับเกมที่จะเล่นผ่านทาง Gaming OSD ที่ตั้งค่าได้สนุกสนาน กับพอร์ตสัญญาณที่จัดมาให้เต็มพิกัด อาทิ HDMI 2.0 x2, DP 1.2 x1, USB 2.0 x2, USB-C x1 และ USB Hub เพิ่มความโดดเด่นกับแสงไฟ RGB ทางด้านหลัง ปรับระดับความสูงของจอได้ รวมถึงมุมก้ม-เงย ปรับแต่งได้ บนบอดี้ที่ออกแบบมาได้ล้ำสมัยทีเดียว

จุดเด่น	ข้อสังเกต
เป็นจอโค้ง	มีไฟ RGB ด้านหลัง
ฟีเจอร์สำหรับเล่นเกม ปรับแต่งง่าย
มีพอร์ตจำนวนมาก

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI

8.ASUS VP32UQ

จอคอม 4K สายทำงานและเล่นเกมขนาด 32″ บนความละเอียด 4K ที่หลายคนแอบเทใจ ให้กับเรื่องของสีสันและการแสดงผล ทดแทนจอเดิมที่มีขนาดเล็กได้ล้นเหลือ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ พาแนลในแบบ IPS ความคมชัดสูง มุมมองกว้าง ยังสนับสนุน HDR10 ให้ภาพสวยสีสดใสมากขึ้น รองรับ Adaptive Sync ที่เข้ากันได้กับเทคโนโลยีของทั้ง nVIDIA และ AMD ลดการฉีกขาดของภาพ ด้วยขอบจอที่บางเป็นพิเศษ จึงไม่ดูเทอะทะ และยังเหมาะกับการต่อจอแบบมัลติมอนิเตอร์ เสริมฟีเจอร์ Eye Care เพื่อความสบายตา เมื่อใช้งานเป็นเวลานาน ให้ค่าความแม่นยำสี sRGB 100% โดยที่ ASUS ยังใส่ลูกเล่นมาเพื่อคอเกม ไม่ว่าจะเป็น Crosshair, Timer, FPS Counter และ Display Alignment เป็นต้น โดยมีลำโพงมาให้ในตัว 2W x2 และพอร์ตรับสัญญาณ HDMI 2.0 x1 และ DP 1.2 x1 ขาตั้งออกแบบมาให้ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย สำหรับมุมก้ม-เงย ราคาประมาณ 15,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รองรับ Adaptive Sync	ปรับเลื่อนได้นิดหน่อย
เพิ่มลูกเล่นสำหรับคอเกม
ดีไซน์เน้นเรียบง่าย

ข้อมูลเพิ่มเติม: ASUS

9.Lenovo L32P-30

จอคอม 4K ในสไตล์เรียบง่าย เหมาะทั้งการทำงานและความบันเทิง บนพื้นที่แสดงผล 32″ และลุคที่เข้ากับในบ้าน สำนักงาน รวมถึงในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี ให้การปรับแต่งผ่านซอฟต์แวร์ Lenovo Artery และ USB Type-C ที่ใช้ในการชาร์จไฟ PD 75W ได้ หน้าจอขนาดใหญ่ ให้พื้นที่ในการใช้งานแบบมัลติทาส์กได้สะดวก และยังรองรับ AMD FreeSync อีกด้วย บนโครงสร้างของจอที่มีความแข็งแรง ปรับเลื่อนได้เล็กน้อยในมุมก้ม-เงย พอร์ตต่อพ่วง ประกอบด้วย HDMI 2.0 x1, DP 1.2 x1 และ USB Type-C x1 รวมถึง Audio jack พร้อมกับลำโพง 3W x2 มาในตัว ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
เน้นความแข็งแรง หรูหรา	ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
มีพอร์ต USB Type-C ชาร์จ PD
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Lenovo

10.BenQ EW2880U

อีกหนึ่งจอคอม 4K สายบันเทิง ที่เติมลูกเล่นมาอย่างครบครัน บนพื้นที่แสดงผล 28″ กับความละเอียด 4K กับการออกแบบที่มีสไตล์ เพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และการทำงาน เรียกว่างานก็ได้ บันเทิงก็ดี กับฟีเจอร์อย่าง HDRi ที่เป็นตัวตรวจจับแสงโดยรอบและปรับความสว่างให้อัตโนมัติ รองรับ HDR10 และขอบเขตสี DCI-P3 90% โดยมีระบบเสียง TreVolo เพื่อรายละเอียดเสียงและความบันเทิงที่มากขึ้น ลำโพง 3W x2 ปรับโหมดเสียงได้ถึง 5 โหมดในการใช้งานแบบต่างๆ โดยมีพอร์ต USB-C ที่รองรับการชาร์จไฟแบบ PD 60W และเทคโนโลยี Advanced Eye-Care ในการปรับความสว่างให้เหมาะสม ให้พอร์ตสัญญาณทั้งแบบ HDMI 2.0 x2, DP 1.4 x1 และ USB-C แต่ที่น่าสนใจคือ สามารถปรับเลื่อนได้ทั้งแบบมุมก้ม-เงย รวมถึงหันซ้าย-ขวา พร้อมมี VESA Mount 100x100mm มาให้อีกด้วย ราคาอยู่ที่ประมาณ 12,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์ทันสมัย	ฐานของข้างใหญ่
มีเซ็นเซอร์ตรวจจับแสงรอบข้าง
พอร์ต USB-C รองรับ PD

ข้อมูลเพิ่มเติม: BenQ

Conclusion

จอคอม 4K	Display	Panel	Response time	Brightness	Stand	DCIP3	Input	Price
1.PHILIPS 288E2A/67	28″	IPS	4ms	300	–	sRGB 119.7%	HDMI x1, DP x1	11,900
2.AOC U28P2U/BS	28″	IPS	4ms	300	Height, Pivot, Swivel, Tilt	sRGB 119%	HDMI x2, DP x1, USB x4	11,900
3.Samsung LS27A800U	27″	IPS	5ms	300	Height, Pivot, Swivel, Tilt	sRGB 99%	HDMI x1, DP x1, USB x3	11,900
4.Viewsonic VX3211-4K	32″	VA	3ms	300	Tilt	sRGB 137%	HDMI x2, DP x1	11,900
5.BENQ EW3270U	32″	IPS	4ms	300	Tilt	95%	HDMI x2, DP x1, USB-C x1	11,900
6.LG 32UN500-W	32″	VA	4ms	350	Tilt	90%	HDMI x2, DP x1	11,900
7.MSI OPTIX MAG321CURV	32″	VA	4ms	300	Tilt, Height	78%	HDMI x2 และ DP x1, USB-C x1, USB-B x1	15,900
8.ASUS VP32UQ	32″	IPS	4ms	350	Tilt	sRGB 100%	HDMI x1 ,DP x1	15,900
9.Lenovo L32P-30	32″	IPS	4ms	350	Tilt	90%	HDMI x1, DP x2, USB-C x1, USB x4	12,900
10.BenQ EW2880U	28″	VA	5ms	300	Tilt, Swivel	90%	HDMI x2, DP x1, USB-C	12,900

ก็ถือว่าเป็น 10 จอคอม 4K ที่น่าสนใจ ในงบประมาณหมื่นกว่าบาท ที่ให้ทั้งพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ และความละเอียดระดับ 4K ซึ่งตอบโจทย์การใช้งานและความบันเทิงได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะคนที่ชอบทำงานแบบมัลติทาส์ก ที่ต้องการแบ่งหน้าจอทำงานได้ง่ายขึ้น แนะนำว่าเลือกจอ 32″ ไปเลยดีที่สุด เพราะได้พื้นที่ทำงานมากกว่า มีให้เลือกทั้ง Lenovo, MSI, Viewsonic, BenQ เป็นต้น แต่ถ้าเน้นลูกเล่นการปรับเลื่อน เพื่อใช้ในโอกาสต่างๆ ได้ มี AOC และ Samsung ที่ปรับได้เกือบทุกรูปแบบ ส่วนถ้าจอที่ให้ค่าขอบเขตสีที่กว้าง ก็มีตัวเลือกที่ใกล้เคียงกันหลายจอ ส่วนถ้าเป็นจอ 32″ ราคาถูกที่สุดก็จะเป็น Viewsonic, Lenovo และ BenQ แต่ก็ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การปรับแต่ง OSD เทคโนโลยี และฟังก์ชั่น ซึ่งมีในรายละเอียดของแต่ละรุ่น ใครชอบแบบไหน ก็ลองไปดูด้วยตาตัวเองหรือจะลองดูรีวิวจากค่ายรีวิวต่างๆ ได้อีกด้วย และรุ่นไหนถูกใจคุณ ลองคอมเมนต์ให้เพื่อนๆ ได้ทราบกันบ้างนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/655577-10-gaming-monitor-4k-2022

NOTEBOOKSPEC

จอคอม 32 นิ้ว 8 รุ่น ไม่เกิน 9,000 ปี 2022 ทำงาน แต่งภาพ เทรดคริปโต เล่นเกม

มีนาคม 6, 2022 Feed News

จอคอม 32 นิ้ว 8 รุ่นปี 2022 ไม่เกิน 9,000 จอใหญ่ เล่นเกมสะใจ เทรดคริปโต แต่งภาพ ครบเครื่อง

จอคอม 32 นิ้ว เริ่มกลับมาเป็นเทรนด์ที่ได้น่าสนใจอีกครั้งในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งเพราะมีการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้น ทั้งในแง่ของงานเอกสารทั่วไปหรือจะเป็นด้านความบันเทิง ด้วยภาพที่ใหญ่เต็มตาและให้พื้นที่ใช้งานมากกว่าจอทั่วไประดับ 22″-24″ อยู่เกือบเท่าตัว และในช่วงหลัง ก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยให้การแสดงผลมีความเรียบเนียนมากขึ้นกว่าในอดีต รวมถึงตัวเลือกในระดับ Resolution 2K หรือ 1440p ก็มีให้หลายโมเดล และที่สำคัญราคายังดูเป็นมิตรกว่าแต่ก่อน ทำให้เกมเมอร์หลายคน หันมาสนใจและใช้งานได้สนุกสนานมากยิ่งขึ้น ซึ่งหากจะเป็นการแนะนำในการเลือกจอ 32″ นี้ คงไม่ใช่แค่ขนาดพื้นที่การแสดงผล แต่อยากให้ใส่ใจในเรื่องค่า Brightness และเทคโนโลยีที่ช่วยในการปรับโหมด เพื่อใช้งานในโอกาสต่างๆ รวมถึงพอร์ตการเชื่อมต่อ ที่จะมีผลต่อการทำงานร่วมกับอัตรารีเฟรชเรตสูงๆ อีกด้วย ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าว่าจอที่เราเลือกมาแนะนำกันในวันนี้ ในงบประมาณไม่ถึง 9,000 บาท มีรุ่นใดที่น่าสนใจบ้าง

จอคอม 32 นิ้ว

Viewsonic VX3258-PC-MHD
Acer ED322QRPBMIIPX
AOC C32G2E
AOC Q32V3WS
MSI Optix G32C4
Philips 325E1C
Samsung LC32T550FDEXXT
Viewsonic VX3276-2K-MHD

1.Viewsonic VX3258-PC-MHD

เป็นจอคอม 32 นิ้วที่มีพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ และการออกแบบที่น่าสนใจไม่น้อย กับความเพรียวบาง ไม่ว่าจะเป็นตัวฐานแบบ V shape ที่โค้งรับตัวจอที่มีขอบบางทั้ง 3 ด้านได้อย่างลงตัว เป็นดีไซน์แบบ Curved monitor 1800R บนความละเอียด Full-HD ให้สีสันสดใสในแบบ Wide Gamut ตอบโจทย์คอเกมด้วยพาแนลในแบบ VA และอัตรารีเฟรชเรตที่สูงถึง 165Hz จับคู่กับ AMD FreeSync Premium ได้อย่างลงตัว เล่นลื่น ลดปัญหาภาพฉีกขาด พร้อมโหมดถนอมสายตาแบบจัดเต็ม ไม่ว่าจะเป็น Flicker-Free, Eyecare และ BlueLight Filter รวมถึงมีโหมดให้เลือกปรับตามรูปแบบการใช้งาน เช่น ดูหนัง ทำงาน เกม หรือท่องเว็บเป็นต้น รองรับสัญญาณ Input ทั้ง HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ประมาณ 8,450 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์สวย ขอบจอบาง	ปรับได้เพียงมุมก้ม-เงย
รีเฟรชเรตสูง เหมาะกับการเล่นเกม

ข้อมูลเพิ่มเติม: Viewsonic

2.Acer ED322QRPBMIIPX

เป็นอีกหนึ่งจอโค้งในแบบ Curved 1800R บนพื้นที่แสดงผลขนาดใหญ่ 31.5″ ให้การแสดงผลเต็มตา ทั้งการดูหนัง ทำงานและเล่นเกม บนความละเอียด Full-HD ที่เพียงพอต่อการใช้งาน ด้วยพาแนลสำหรับการเล่นเกม VA จึงให้สีสันสดใสได้ดีในระดับหนึ่ง และตอบสนองได้ไว มุมมองกว้าง กับดีไซน์ที่เรียกว่าออกมาได้ทันสมัย ด้วยขอบจอที่บางพิเศษ ในโทนสีเทา-ดำ ซึ่งทำให้เหมาะกับการวางบนเฟอร์นิเจอร์ในบ้านหรือสำนักงานอย่างลงตัว ตัวฐานโค้งรับกับบอดี้ และฟีเจอร์ถนอมสายตา เช่น BlueLightShield และ Acer VisionCare™รองรับ AMD FreeSync และคู่ไปกับรีเฟรชเรตระดับ 144Hz จึงช่วยให้เกมเมอร์เล่นได้ลื่นไหลมากขึ้น โดยมีพอร์ตสัญญาณ Input มาให้ทั้ง HDMI และ DisplayPort จอคอม 32 นิ้วรุ่นนี้ ราคาอยู่ที่ประมาณ 7,300 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
จอโค้ง ขอบจอบาง	ปรับเลื่อนไม่ได้มากนัก
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Acer

3.AOC C32G2E

จอคอม 32 นิ้ว ที่ให้อารมณ์ของเกมมิ่งมาเต็ม และใส่ฟีเจอร์มาได้ครบคุ้มสำหรับคอเกม ที่อยากได้จอใหญ่ในราคาสบายกระเป๋ามากขึ้น เพราะด้วยอัตรารีเฟรชเรต 165Hz และพาแนล VA ที่สีสันสดใส ตอบสนองกับการเล่นเกมได้ดี ยังมาพร้อม AMD FreeSync Premium ให้เล่นเกมได้ลื่นไหล ลดอาการภาพฉีกขาด ดีไซน์จัดว่าล้ำสมัย ในสไตล์ของจอแบบ Curved เล็กๆ ให้พอกระชับสายตาและขอบจอที่บางเฉียบ โดยมีขาตั้งและด้านหลังที่ทำออกมาโดดเด่น และมี Response time ที่ตอบสนองไว รองรับ HDR mode ให้การไล่เฉดสีทำได้สวยงาม เพิ่มความสมจริงและสวยงามมากขึ้น ทั้งในแง่ของการเล่นเกม และชมภาพยนตร์ มีขอบเขตสีที่กว้างกับค่า Gamut DCI-P3 ระดับ 96% ตอบโจทย์กลุ่มนักสร้างคอนเทนต์ได้ดี ความละเอียดที่ 1080p และมีพอร์ต Input ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น VGA, HDMI และ DisplayPort การปรับมุมทำได้เล็กน้อย เคาะราคาที่ 8,500 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์สวย จอโค้ง 165Hz
ค่า Gamut สูง เหมาะกับงานหลายด้าน
มาพร้อม AMD FreeSync Premium

ข้อมูลเพิ่มเติม: AOC

4.AOC Q32V3WS

จอคอม 32 นิ้ว ที่ให้พื้นที่ทำงานกว้างขวาง มาพร้อมความละเอียดระดับ 1440p หรือ 2K กับการออกแบบที่ดูพรีเมียม เอาใจสายออกแบบหรือกลุ่มทำงานที่บ้าน และปรับแต่งเข้ากับโต๊ะทำงานได้อย่างลงตัว กับโทนสีขาว ให้รูปลักษณ์ที่บาง ไม่เปลืองพื้นที่ พาแนลแบบ VA ให้การทำงานที่ไว ลดอาการสั่นไหวของภาพด้วย Flicker-Free และเทคโนโลยีลดแสงสีฟ้า ช่วยถนอมสายตา ให้คนที่ทำงานด้านเอกสาร และการท่องเว็บ สามารถแบ่งหน้าจอใช้งานได้สะดวก มองเห็นได้ชัดเจน รองรับการปรับแต่งได้ทั้งบน OSD ที่มีโหมดต่างๆ ให้เลือกใช้ เช่น Game, Movie, Web และอื่นๆ พอร์ตรับสัญญาณ Input มีให้ทั้ง HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ 8,500 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์สวยบาง เน้นความพรีเมียม	มุมมองอยู่ที่ 176/ 176
ให้ความละเอียด 2K และมีโหมดให้เลือกใช้

ข้อมูลเพิ่มเติม: AOC

5.MSI Optix G32C4

ถ้าคุณชอบการเล่นเกมเป็นพื้นฐาน และพยายามอย่างหนัก เพื่อจะเล่นให้คว้าชัยชนะให้มากขึ้น MSI รุ่นนี้ จะเป็นทางออกที่ดีสำหรับคุณ ที่ไม่ใช่แค่การเป็นจอคอม 32 นิ้ว และรีเฟรชเรตสูงถึง 165Hz เท่านั้น แต่ยังมาพร้อมลูกเล่นแพรวพราว ทั้งในด้านการปรับแต่งด้วย Game Mode ให้ค่า Gamut ที่กว้าง เพื่อการทำงานด้าน Content และการเล่นเกมที่จัดจ้าน รองรับ AMD FreeSync ขอบจอบางเฉียบแทบจะเรียกว่าไร้ขอบ มุมมองกว้าง ปรับเลื่อนในจุดต่างๆ ได้หลากหลาย นับว่าเป็นจอโค้งในระดับอีสปอร์ตที่น่าเร้าใจ และพอร์ตแสดงผล DisplayPort และ HDMI ในราคา 8,890 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รีเฟรชเรตสูง 165Hz	ไม่รองรับ HDR Ready
จอโค้งปรับได้ มี Game Mode ให้เลือก

ข้อมูลเพิ่มเติม: MSI

6.Philips 325E1C

จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ให้ความละเอียดระดับ 1440p ที่มาพร้อมดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ให้ภาพที่สดใส และการแสดงผลที่กว้างขวาง ด้วยความโค้ง 1500R ฐานสี่เหลี่ยม รับโครงสร้างจอได้แข็งแรง พาแนลในแบบ VA ตอบสนองไว ให้ความสว่างคมชัด มุมมองกว้าง รวมถึงค่า Gamut 123% sRGB เพิ่มฟังก์ชั่นในการปรับแต่ง และมี SmartImage Game เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับการเล่นเกม ด้วยโหมดภาพที่ทำออกมาได้ลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเกมแนว FPS, Racing, RTS หรือจะปรับด้วยตัวเอง พร้อมบันทึกเก็บเอาไว้ พร้อมการสนับสนุน AMD FreeSync ให้พอร์ต Input สัญญาณมาทั้ง VGA, HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ให้ความละเอียด 1400p	รีเฟรชเรตเพียง 75Hz
รองรับ AMD FreeSync
ปรับโหมดเกมได้

ข้อมูลเพิ่มเติม: Philips

7.Samsung LC32T550FDEXXT

จอคอม 32 นิ้ว และเป็นจอโค้งในระดับ 1000R ที่ดูเรียบง่าย แต่มีสไตล์เฉพาะตัว บนหน้าจอขนาด 32″ บนความละเอียด 1080p และใช้พาแนลแบบ VA ขอบจอที่บางทั้ง 3 ด้าน ช่วยเปิดพื้นที่ทำงานให้กว้างขึ้น รองรับเทคโนโลยี AMD FreeSync เพื่อความลื่นไหล ภาพไม่ฉีกขาดขณะที่เล่นเกม เพิ่มความสนุกด้วยชุดลำโพงมาในตัว ให้พอร์ตสัญญาณ Input ที่มีทั้ง VGA, HDMI และ DisplayPort ราคาอยู่ที่ 7,990 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
จอโค้ง 1000R	รีเฟรชเรต 75Hz
รองรับ AMD FreeSync

ข้อมูลเพิ่มเติม: Samsung

8.Viewsonic VX3276-2K-MHD

สำหรับมอนิเตอร์รุ่นนี้ เรียกว่าเป็นการผสมผสานสไตล์ที่เรียบหรูมาคู่กับประสิทธิภาพได้ลงตัว ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 32″ ใช้งานในด้านต่างๆ ได้เต็มที่ ภายใต้โครงสร้างที่แสนมินิมอล แต่ให้ความละเอียดมากถึง 1440p ด้วยกัน ขอบจอบางทั้ง 3 ด้าน และด้านใต้จอก็ดูบางเบา แทบจะเป็น Frameless มาพร้อมพาแนล IPS ให้ความคมชัด ความละเอียดระดับ 10-bit เหมาะอย่างยิ่งทั้งการใช้งานภายในบ้าน สำนักงาน หรือใช้ในการพรีเซนเทชั่น แม้กระทั่งความบันเทิง พร้อมกับ View mode ที่มีให้เลือกทั้ง Game, Movie, Web, Text, Mono และ Mac รวมถึงเทคโนโลยีถนอมสายตา พร้อมการปรับแต่งที่สะดวกมากยิ่งขึ้น มีพอร์ต Input ทั้ง HDMI, DisplayPort และ Mini DisplayPort อีกด้วย ราคา 7,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รูปลักษณ์สวยงาม เพรียวบาง	รีเฟรชเรต 75Hz
ขอบจอบางพิเศษ ความละเอียด 2K
1.07 Billion colours

ข้อมูลเพิ่มเติม: Viewsonic

Conclusion

	Display size	Panel	Curved/ Flat	Resolution	Refresh rate	Brightness cd/m2	Port	Feature	Price (Baht)
1.VIEWSONIC VX3258-PC-MHD	31.5″	VA	Curved	1080p	165Hz	250	HDMI, DP	AMD FreeSync	8,450
2.ACER ED322QRPBMIIPX	31.5″	VA	Curved	1080p	144Hz	250	HDMI, DP	AMD FreeSync	7,300
3.AOC C32G2E	31.5″	VA	Curved	1080p	165Hz	250	HDMI, DP, VGA	AMD FreeSync	8,500
4.AOC Q32V3WS	31.5″	VA	Flat	1440p	75Hz	250	HDMI, DP	–	8,500
5.MSI Optix G32C4	31.5″	VA	Curved	1080p	165Hz	250	HDMI, DP	AMD FreeSync	8,890
6.PHILIPS 325E1C	31.5″	VA	Curved	1440p	75Hz	250	HDMI, DP	AMD FreeSync	7,990
7.SAMSUNG LC32T550FDEXXT	31.5″	VA	Curved	1080p	75Hz	250	HDMI, DP	AMD FreeSync	7,990
8.Viewsonic VX3276-2K-MHD	31.5″	IPS	Flat	1440p	75Hz	250	HDMI, DP, Mini DP	–	7,900

คัดมาให้แบบเน้นๆ กันเลย สำหรับ จอคอม 32 นิ้ว ในราคาไม่เกิน 9 พันบาท แต่ลูกเล่นแพรวพราวน่าใช้ไม่น้อยเลย มีตัวเลือกสำหรับคอเกมด้วย เช่น Viewsonic, AOC และ MSI ที่ให้อัตรารีเฟรชเรตมาถึง 165Hz เล่นกันลื่นๆ หรือ 144Hz ก็มีให้เห็น และส่วนใหญ่จะสนับสนุนเทคโนโลยี AMD FreeSync ช่วยให้การเล่นเกมดูลื่นไหล แต่ถ้าเน้นความละเอียดสูง เช่น 2K ก็มี Viewsonic, AOC และ Philips ตอบโจทย์คุณได้ ใช้งาน ท่องเน็ค ดูหนังสบายตา ใช้พื้นที่ได้กว้างมากขึ้น ส่วนสนนราคาถูกสุดอยู่ที่ 7,300 บาทเท่านั้น ที่เหลือจะเป็นเรื่องของดีไซน์ และการปรับแต่งฟังก์ชั่น เพราะบางรุ่นก็มาพร้อมการปรับ Picture mode มาให้อีกด้วย ใครที่สนใจ ก็ไม่ควรพลาดสำหรับจอ 32″ ที่ในช่วงหลังนี้ราคาดีจริงๆ ครับ

from:https://notebookspec.com/web/641809-8-monitor-32-inch-9000-2022

NOTEBOOKSPEC

จอคอม 144hz เล่นเกม 24″ เริ่มแค่ 5 พัน 9 รุ่น ปี 2022 ดีไซน์สวย จัดโต๊ะคอมลงตัว

มกราคม 25, 2022 Feed News

จอคอม 144hz เริ่มแค่ 5 พันบาท 24″ ปี 2022 สวย คมชัด เล่นเกมสะใจ

จอคอม 144hz เป็นจอในฝันของเกมเมอร์หลายคน เมื่อช่วงปี 2021 เราได้นำเสนอจอเล่นเกมกันไปบ้างแล้ว ที่เริ่มซีเรียสกับความลื่นไหลของเกม ที่มีความต่อเนื่อง มีโอกาสที่ได้เปรียบมากขึ้น เพราะในหลายเกม หากเกิดภาพกระตุกหรือขาดในช่วงไม่กี่วินาที ก็อาจทำให้รู้ผลแพ้ชนะ จะเฮดช็อตหรือจะวาร์ปกลับมาที่เดิมได้ทันที การที่มีคอมสเปคดีอยู่แล้ว ก็ถือว่าเป็นตัวช่วยอย่างหนึ่ง แต่ถ้ามีจอเกมมิ่งที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้ดี มีฟีเจอร์สำหรับเล่นเกม และให้ความต่อเนื่องของภาพ ด้วยอัตรารีเฟรชเรตที่สูงกว่าจอทั่วไป รวมถึงมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดอาการฉีกขาดของภาพ อันเนื่องมาจากอัตรารีเฟรชเรต และเฟรมเรตในการประมวลผลไม่เข้ากัน ก็ยิ่งทำให้ได้ภาพที่ไหลเนียนสวยงามมากขึ้น วันนี้เรามีจอระดับ 24″ ที่น่าสนใจมาแนะนำกัน 9 รุ่นในราคาเริ่มต้นแค่ 5 พันกว่าบาทเท่านั้น หากใครที่กำลังมองหาจอเล่นเกมปี 2022 อยู่ บทความนี้อาจช่วยคุณได้

จอคอม 144hz 24″ เล่นเกมสะใจ 9 รุ่นเด็ด 2022

PHILIPS 242E1GSJ/67
SAMSUNG LC24RG50FQEXXT
AOC G2490VX
MSI G24C4
AOC 24G2E/67
LG 24GN600-B
SAMSUNG ODYSSEY G3
ACER VG240YSbmiipx
MSI Optix G241

1.PHILIPS 242E1GSJ/67 ราคา 5,915 บาท

จอเกมมิ่งที่มาพร้อมรีเฟรชเรต 144Hz จากทาง PHILIPS เติมความลื่นไหลด้วยการสนับสนุน AMD FreeSync Premium ให้อัตราตอบสนองที่รวดเร็ว 1ms ด้วยพาแนล VA พร้อมมุมมองที่กว้างถึง 178/178 มีลูกเล่นให้ปรับแต่ง Game Mode ได้ผ่านทาง OSD และมีฟีเจอร์ SmartImage Game สำหรับการเล่นเกมแนว FPS และเพิ่มความสว่างในที่มืด เพื่อความได้เปรียบเวลาที่เล่น เจอศัตรูได้ไวกว่า สีสันที่สดใส Ultra Wide-Color เกลี่ยสีได้ดูสบายตามากขึ้น แต่ถ้าใครเน้นการทำงานเป็นหลัก ยังมีฟีเจอร์ LowBlue เพื่อช่วยพักสายตาให้กับการทำงานของคุณได้ กับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ปรับแต่งง่าย น่าสนใจไม่น้อยเลย

จุดเด่น	ข้อสังเกต
มี Game Mode	ปรับเลื่อนไม่ได้มากนัก
AMD FreeSync Premium
ขอบจอบาง

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ PHILIPS

2.SAMSUNG LC24RG50FQEXXT ราคา 5,950 บาท

จอคอม 144Hz สำหรับเกมเมอร์ที่ชื่นชอบความโอบกระชับสายตาจาก Samsung เพื่อให้มองพื้นที่ในจอได้กว้างมากขึ้น ด้วยความโค้งระดับ 1800R ที่มาพร้อมดีไซน์สวยงามและทันสมัย ขอบจออาจจะไม่ได้เล็กมากนัก แต่ก็รองรับการใช้งานหลายๆ จอต่อกันทำได้ดี ไม่สะดุดตามากนัก พร้อม Picture Mode ที่ให้ผู้ใช้ได้ปรับการเล่นเกมในแบบต่างๆ ง่ายยิ่งขึ้น มาพร้อมการสนับสนุน AMD FreeSync ทำให้ได้ภาพที่ต่อเนื่อง ไม่เกิดการขาดหรือซ้อนให้เสียอารมณ์ ลดอาการสั่นไหวด้วย Flicker Free ตามสไตล์ของเกมมิ่งมอนิเตอร์ ปรับมุมก้ม-เงยได้เล็กน้อย โดยมีพอร์ตสัญญาณขาเข้า HDMI 2 และ DisplayPort 1 พอร์ต

จุดเด่น	ข้อสังเกต
จอโค้งกระชับสายตา	ขอบจอไม่เล็กมาก
ปรับแต่งง่ายมี Picture Mode
มี HDMI 2 ช่อง

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SAMSUNG

3.AOC G2490VX ราคา 5,850 บาท

ใครที่ชอบอะไรแรงๆ สีแดงไว้ก่อน ก็น่าจะถูกใจจอคอม 144Hz จากทาง AOC รุ่นนี้ กับขอบล่างสีแดงสดใส เติมความโดดเด่นให้กับการเล่นเกม มาพร้อมกับการสนับสนุน AMD FreeSync premium ลดอาการภาพขาด ให้เฟรมเรตต่อเนื่อง เล่นเกมสวยงาม พาแนลแบบ VA ตอบสนองไวกับ Response time 1ms พร้อมทั้งค่า Brightness ถึง 350 NITS และฟังก์ชั่นการปรับ Game Mode เพื่อการเล่นเกมในแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Shooter, Action, FPS รวมถึง RTS, Racing โดยมีพอร์ตสัญญาณขาเข้า HDMI และ DisplayPort อย่างละ 1 พอร์ต

จุดเด่น	ข้อสังเกต
มาพร้อม AMD FreeSync premium	ปรับได้เพียงมุมก้ม-เงย
ค่า Brightness สูง
มี Game Mode

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOC

4.MSI G24C4 ราคา 6,200 บาท

จอเกมมิ่งขนาด 24″ ไซส์กำลังเหมาะจาก MSI ไม่ต้องนั่งถอยระยะห่างจากจอมากนัก มาพร้อมพาแนล VA ให้ความสวยงาม ตอบสนองได้ไว อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ดีไซน์ในแบบจอโค้ง Curved 1500R ให้ความโอบกระชับสายตาได้มากขึ้น พร้อมด้วยหน้าจอแบบ Anti-Glare ลดแสงสะท้อน และจอยังออกแบบมาให้รองรับการใช้ Multi-monitor เพราะขอบจอที่บางพิเศษทั้ง 3 ด้าน ปรับแต่งง่าย ด้วยการใช้งานปุ่ม 5-way Navigation ในแบบจอยสติ๊ก สามารถปรับมุมก้ม-เงยได้ตามมาตรฐาน มาพร้อมกับพอร์ตสัญญาณขาเข้า HDMI 2 และ DisplayPort 1 พอร์ต

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์ล้ำสมัย
ขอบจอบางเฉียบ
จอโค้ง 1500R

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MSI

5.AOC 24G2E/67 ราคา 6,390 บาท

จอคอม 144Hz สายพันธุ์เกมมิ่ง ที่ออกแบบมาได้โดดเด่น ให้อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 144Hz และเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium กับภาพที่ต่อเนื่อง ลดอาการฉีกขาด โดยใช้พาแนล IPS ให้มุมมองกว้าง และความคมชัดสูง เหมาะทั้งการเล่นเกมและการทำงาน โดยมี HDR Mode เอาใจคนที่ชอบสีสันที่สดใส ตอบโจทย์ในด้านความบันเทิงได้ดี กับการเกลี่ยสีได้อย่างสมงาม และทาง AOC ยังมีได้ใส่ AOC Low Input Lag ลดอาการสะดุดหรือขาดของภาพ โดยมีโหมดรองรับการเล่นเกมได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น FPS, Racing, RTS และ Gamer อีก 3 โหมดด้วยกัน ให้การปรับมุมก้ม-เงยได้สะดวก จัดว่าเป็นจอเกมมิ่งอีกรุ่นหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์สวย ฐานตั้งกว้าง	ปรับเลื่อนได้เล็กน้อย
มี HDR Mode
ปรับแต่ง Game Mode ได้

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ AOC

6.LG 24GN600-B ราคา 6,430 บาท

จอเกมมิ่งดีไซน์ล้ำสมัย มาพร้อมอัตรารีเฟรชเรต 144Hz ของ LG ให้พื้นที่แสดงผลกว้าง พาแนลในแบบ IPS ให้สีสันที่สวยงาม และภาพคมชัด จุดเด่นอยู่ที่ฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์การเล่นเกมได้อย่างเต็มอิ่ม เช่น AMD FreeSync Premium ลดอาการภาพขาด ให้ภาพต่อเนื่องลื่นไหล และ Black Stabilizer เพิ่มการมองเห็นได้ฉากที่มืดชัดเจน และยังใส่ AIM point หรือเป้าเล็งมาให้ เพิ่มความแม่นยำ ให้ความสว่างสดใสกับ Brightness 300cd/m2 และลดแสงสะท้อนด้วยหน้าจอ Anti-Glare จุดเด่นด้วยค่า Gamut ที่สูงถึง 97% sRGB เพิ่มสีสันสดใส ด้วยการรองรับ HDR10 ให้พอร์ตสัญญาณขาเข้ามีให้เลือก HDMI 2 พอร์ตและ DisplayPort 1 พอร์ต ให้การปรับมุมก้ม-เงยได้

จุดเด่น	ข้อสังเกต
AMD FreeSync Premium
ค่า Gamut สูง
รองรับ HDR10

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ LG

7.SAMSUNG ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT ราคา 5,900 บาท

เป็นจอภาพ G series จาก Samsung ที่มีความล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและหลัง ใส่ฟีเจอร์มาให้กับผู้ใช้ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นขอบจอที่บางเฉียบ 3 ด้าน ทำให้ใช้งานแบบมัลติมอนิเตอร์ได้ แบบไม่เสียอรรถรส อัตรารีเฟรชเรต 144Hz ใช้พาแนลแบบ VA ที่ให้สีสันสดใส เหมาะกับการเล่นเกม มาพร้อม Flicker Free ลดอาการสั่นไหว และเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium เพื่อภาพที่ต่อเนื่อง ไม่ฉีกขาด จากอัตรารีเฟรชเรตที่สอดคล้องกับการประมวลผล ลดการกระตุก เช่นเดียวกับฟีเจอร์ Eye Saver Mode และ Flicker Free ที่ลดอาการสั่นไหว ให้ภาพที่นุ่มนวลสบายตา เป็นจอรุ่นเดียวในการรวมจอเกมมิ่ง 144Hz ครั้งนี้ ที่ให้การปรับเลื่อนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น มุมก้ม-เงย, หันซ้าย-ขวา และปรับหมุน Pivot ได้ ปรับความสูงได้ถึง 11cm

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ปรับระดับหน้าจอได้หลายรูปแบบ	บอดี้ค่อนข้างใหญ่
AMD FreeSync Premium
ขอบจอบางเฉียบ

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ SAMSUNG

8.ACER VG240YSbmiipx ราคา 6,650 บาท

อีกหนึ่งเกมมิ่งมอนิเตอร์ ที่มีดีไซน์ทันสมัย และโครงสร้างที่แข็งแรงอีกรุ่นหนึ่ง กับโทนสีดำตัดเส้นสายสีแดง เพิ่มพื้นที่แสดงผลด้วยขอบจอที่บางพิเศษ กับฟังก์ชั่นการปรับแต่งที่เรียบง่าย บนพาแนลในแบบ IPS ที่ให้ความคมชัดสดใส แตกต่างจากรุ่นอื่นที่นำมารวมในครั้งนี้เล็กน้อย เพราะสามารถเพิ่มอัตรารีเฟรชเรตได้สูงถึง 165Hz ในโหมด OC จากจอคอม 144hz เดิม เพื่อการเล่นเกมบนเฟรมเรตที่ไหลลื่นมากขึ้น และมีพอร์ตแสดงผลทั้ง HDMI และ DisplayPort กับการปรับเลื่อนหน้าจอได้เล็กน้อย แถมด้วยลำโพงคู่ เสียงจัดจ้านมาบนจอ ไม่ต้องต่อลำโพงแยก ก็เล่นเกมได้สนุกสนานเช่นกัน

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ขอบจอบาง	การปรับแต่งไม่ได้หวือหวานัก
มีลำโพงมาในตัว
พาแนล IPS

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ACER

9.MSI Optix G241 ราคา 6,830 บาท

จัดเป็นอีกหนึ่งจอคอม 144Hz ในราคาที่เป็นมิตรจาก MSI แต่ฟีเจอร์อัดแน่นจัดเต็ม เพราะมาในซีรีส์สำหรับเกมเมอร์ระดับ Esport กับดีไซน์ที่ดูล้ำสมัย โฉบเฉี่ยวไม่ว่าจะด้านหน้าหรือหลัง ให้การเล่นเกมที่ลื่นไหล ร่วมกับเทคโนโลยี AMD FreeSync ลดอาการภาพขาดและยังเป็นจอแบบ Wide Color Gamut ที่มีขอบเขตสีกว้าง สมจริง เหมาะกับทั้งการทำงานและความบันเทิง โดยทาง MSI ยังโชว์ความเป็นจอแบบ Frameless ที่ชอบจอบางเฉียบ เหมาะกับการใช้งานมัลติมอนิเตอร์ มีฟีเจอร์ Night Vision ช่วยให้การมองเห็นในที่มืด ทำได้ดีขึ้น และได้เปรียบคู่แข่ง และเทคโนโลยี Flicker Free ลดความสั่นไหว ให้ความคมชัดยิ่งขึ้น เมื่อเล่นเกมในฉากที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว โดยมีพอร์ตสัญญาณขาเข้ามาให้ครบครัน HDMI และ DisplayPort

จุดเด่น	ข้อสังเกต
มีฟีเจอร์ช่วยในการเล่นเกมเยอะ	ปรับเลื่อนได้ไม่เยอะมาก
ปรับแต่งง่าย
เทคโนโลยีระดับ Esport

เข้าไปดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ MSI

Conclusion

	Display size	Panel	Flat/ Curved	Brightness cd/m²	Input	Adaptive Sync	Price (Baht)
1.PHILIPS 242E1GSJ/67	23.8″	VA	Flat	350	HDMI, DP	FreeSync Premium	5,915
2.SAMSUNG LC24RG50FQEXXT	23.5″	VA	Curved	250	HDMI, DP	FreeSync	5,950
3.AOC G2490VX	23.8″	VA	Flat	350	HDMI, DP	FreeSync Premium	5,850
4.MSI G24C4	23.6″	VA	Curved	250	HDMI, DP	FreeSync Premium	6,200
5.AOC 24G2E/67	23.8″	IPS	Flat	250	VGA, HDMI, DP	FreeSync Premium	6,390
6.LG 24GN600-B	24″	IPS	Flat	300	HDMI, DP	FreeSync Premium	6,430
7.SAMSUNG ODYSSEY G3	24″	VA	Flat	250	VGA, HDMI, DP	FreeSync Premium	5,900
8.ACER VG240YSbmiipx	23.8″	IPS	Flat	250	VGA, HDMI, DP	N/A	6,650
9.MSI Optix G241	23.8″	IPS	Flat	250	HDMI, DP	FreeSync	6,830

ถือได้ว่าจอคอม 144Hz ในปัจจุบัน มีตัวเลือกที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อยทีเดียว ซึ่งราคาที่ต่างกัน ก็มีความแตกต่างในแง่ของเทคโนโลยี และการออกแบบที่ไม่เหมือนกันอยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับผู้ใช้จะชื่นชอบหรือเลือกแบบใด ให้เหมาะกับการใช้งานของตน เช่น พาแนลในแบบ VA และ IPS ซึ่งหากเน้นเล่นเกม และได้จอที่ราคาประหยัดลงมาบ้าง VA คือคำตอบ แต่ถ้าใช้งานด้านอื่นด้วย เช่น ทำงาน แต่งภาพ หรือความสว่างของสีสัน IPS ราคาสูงขึ้นมาหน่อยตอบโจทย์ได้ดี หรือถ้าต้องการจอที่ปรับเลื่อนได้หลากหลาย อาจจะมีตัวเลือกไม่มากนัก เพราะราคาค่อนข้างสูง รวมถึงพอร์ตสัญญาณขาเข้า พื้นฐานจะมีเป็น HDMI และ DisplayPort แต่ถ้าใช้กับคอมรุ่นเก่า หรือมีการ์ดจอที่มีเฉพาะ D-Sub ก็ต้องเลือกให้ดี เพราะอาจจะใช้งานไม่ได้หรือต้องแปลงกันหลายรอบ นอกจากนี้ก็จะมีเรื่องฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยในการเล่นเกม เช่น Night Vision, AIM Point หรือ Game Mode สิ่งเหล่านี้ก็ช่วยเพิ่มความได้เปรียบในการเล่นอยู่ไม่น้อยเลย อย่างไรก็ดีเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการและงบประมาณของคุณ อย่าลืมว่าจอภาพเราไม่ได้เปลี่ยนกันบ่อยๆ นะครับ ขอให้มีความสุขกับการเล่นเกมในทุกวันของคุณ

from:https://notebookspec.com/web/634531-9-gaming-monitor-144hz

NOTEBOOKSPEC

จอคอม 24 นิ้ว 144Hz 10 รุ่น ไม่เกิน 7,000 ภาพสวย สีสดใส เล่นเกม ดูหนังสะใจ

ธันวาคม 18, 2021 Feed News

จอคอม 24 นิ้ว 144Hz 10 รุ่นเด็ด สำหรับเกมเมอร์ เล่นเกมสนุก ปรับแต่งได้ ไม่เกิน 7,000

จอคอม 24 นิ้ว จัดว่าเป็นขนาดที่ตอบโจทย์การเล่นเกมในปัจจุบันได้ดีทีเดียว โดยเป็นขนาดกำลังพอเหมาะกับโต๊ะคอมมาตรฐาน มองเห็นได้ชัด ไม่ต้องถอยระยะออกจากหน้าจอมากนัก อีกทั้งราคาเริ่มต้นก็ไม่สูงเกินไป หาซื้อได้ง่าย เพราะมีตัวเลือกหลายรุ่น ซึ่งเวลานี้คอเกม ที่มีสเปคเครื่องกลางๆ ความแรงในระดับที่เค้นพลังให้กับเกมระดับ AAA หรือเกมแอ็คชั่น รวมถึง MOBA ได้มากกว่า 100fps. บนความละเอียด Full-HD 1080p ตัวเลือกของจอคอม 24″ นี้ ดูจะแซงหน้าจอขนาดใหญ่ระดับ 27″ ไปได้พอสมควร รวมถึงให้พื้นที่การทำงานในชีวิตประจำวันได้ดีในระดับหนึ่ง ซึ่งคุ้มค่ากับค่าใช้จ่าย เมื่อเทียบกับจอขนาดอื่นๆ วันนี้เรามาดูกันว่า 10 จอคอม 24″ รุ่นไหนโดนใจคุณบ้าง

จอคอม 24 นิ้ว

AOC 24G2E
PHILIPS 242E1GSJ
SAMSUNG LC24RG50FQEXXT
AOC AGON G2490VX
MSI Optix G24C4
Samsung ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT
LENOVO G24-20
ASUS VP249QGR
MSI Optix G241
LG 24GN600-B

1.AOC 24G2E

AOC 24G2E/67 จอคอม 24 นิ้ว ดีไซน์สวย สำหรับคอเกมเริ่มต้นสนุกกับการเล่นเกม ในงบประมาณไม่ถึง 6 พันบาท มาพร้อมฟีเจอร์ FreeSync และรีเฟรชเรตที่สูงถึง 144Hz ด้วยพาแนลในแบบ IPS ให้สีสันและภาพที่คมชัด กับโครงสร้างสีดำตัดเส้นสายสีแดง ปรับระดับความสูงได้ พร้อมพอร์ตแสดงผล VGA, HDMI และ DisplayPort ครบครัน รองรับ HDR ให้ภาพแสงสี ที่สวยงาม การเกลี่ยสีทำได้นุ่มนวล เหมาะกับคนที่ชอบดูหนัง และภาพถ่ายสวยๆ ที่สำคัญยังมี Game Mode ปรับแต่งให้เลือก เพื่อการเล่นเกมในแต่ละสไตล์ หน้าจอปรับมุมก้ม-เงยได้ตามมาตรฐาน สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 5,950 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ดีไซน์ล้ำสมัย ขอบจอบาง	ปรับได้เพียงมุมก้มเงย
รองรับ HDR
พอร์ตแสดงผล 3 แบบ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: AOC

2.PHILIPS 242E1GSJ

จอเกมมิ่งไซส์ 23.8″ ที่ใช้พาแนล VA ให้สีสันที่สดใสน่าใช้อีกรุ่นหนึ่ง จากค่ายที่เชี่ยวชาญด้านจอภาพมายาวนาน โมเดลนี้ตอบโจทย์กลุ่มคนที่เน้นความบันเทิงเป็นหลัก ทั้งความสนุกในการเล่นเกม ภาพไหลลื่นด้วยรีเฟรชเรต 144Hz พร้อมเทคโนโนโลยี AMD FreeSync Premium ซึ่งเป็นจอเพียงไม่กี่รุ่นในครั้งนี้ที่มี และเกมเมอร์ยังปรับการใช้งานให้เข้ากับรูปแบบเกมที่เล่นผ่าน OSD settings เพื่อให้ได้ภาพที่เหมาะสมและสวยงาม พร้อม Ultra-Wide Color ที่ให้ความสวยสดใสของภาพกับค่า Color Gamut ที่ดูสวยเนียน และเทคโนโลยี LowBlue ช่วยถนอนสายตา เมื่อต้องจ้องหน้าจอเป็นเวลานาน โดยมีค่า Brightness สูงถึง 350cm/m2 และมาพร้อมกับพอร์ตต่อพ่วง HDMI และ DisplyPort ติดตั้งประกอบง่าย ราคาอยู่ที่ประมาณ 5,990 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
มาพร้อม AMD FreeSync Premium	ปรับ OSD ด้วยปุ่ม
ให้ค่าความสว่างสูง
ขอบจอบางพิเศษ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: PHILIPS

3.Samsung LC24RG50FQEXXT

จอคอม 24 นิ้ว ในแบบ Curved ไซส์ 24″ ที่เรียกว่าได้รับความนิยมไม่น้อยเลย พร้อมฟีเจอร์และเทคโนโลยีที่จัดเต็มมาในราคาประมาณ 6,190 บาท ซึ่งถือว่าทำราคาได้ดีทีเดียว ด้วยความโค้ง 1800R เข้ารับกับสายตา ไม่ต้องถอยระยะออกมา จัดว่าหาได้ยากในระดับราคาเดียวกัน และเทคโนโลยี AMD FreeSync ให้ความลื่นไหล ภาพไม่ฉีกขาด ดีไซน์จัดว่าทำได้ทันสมัย ให้รีเฟรชเรตที่ 144Hz กับลูกเล่นในการปรับแต่งที่ไม่ธรรมดา ไม่ว่าจะเป็น Game Mode หรือ Virtual Aim point สำหรับคอเกม FPS และ Action และเอาใจคนที่จ้องจอเป็นเวลานานๆ ด้วยโหมด Eye Saver และ Flicker Free กับการปรับมุมก้ม-เงยได้เล็กน้อย เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน ใช้การตั้งค่าผ่านจอยสติ๊กด้านหลังจอ ใช้งานได้สะดวกดีทีเดียว

จุดเด่น	ข้อสังเกต
เป็นจอโค้งโอบกระชับสายตา	ขอบจอหนาเล็กน้อย
ดีไซน์ล้ำสมัย
คอนโทรล OSD ผ่านจอยสติ๊กด้านหลัง

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung

4.AOC AGON G2490VX

จอสายพันธุ์เกมมิ่ง จอคอม 24 นิ้วจากทาง AOC ที่ลูกเล่นและเทคโนโลยีที่จัดจ้าน ดีไซน์สวยงามทีเดียว ขอบจอที่บางเฉียบเป็นเอกลักษณ์ ให้ภาพเต็มตา บนพาแนลแบบ VA ให้สัสันสดใส พร้อมด้วย AMD FreeSync Premium ที่ช่วยให้ภาพไหลลื่น จุดเด่นอยู่ที่ค่า Brightness ที่สูงถึง 350cd/m2 และค่า Contrast ที่สูง เหมาะกับการเล่นเกมเป็นอย่างยิ่ง เสริมความสนุกด้วย Game Mode ที่มีให้เลือกปรับหลากหลาย เช่น FPS, RTS, Racing เป็นต้น สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 6,250 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
AMD FreeSync Premium	ปรับเลื่อนหน้าจอได้ไม่มาก
ค่า Brightness ที่สูงถึง 350cd/m2
ปรับ Game Mode ได้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: AOC

5.MSI Optix G24C4

MSI Optix เป็นจอคอมเล่นเกม 24″ อีกรุ่นหนึ่ง ที่เข้ากลุ่มมาในการรวมจอครั้งนี้ได้อย่างสมศักดิ์ศรี ด้วยความสวยงามของดีไซน์ ที่หลายคนชื่นชอบ และฟีเจอร์ต่างๆ ที่จัดมาบนจอโค้งระดับ 1500R ให้ความโค้งกระชับสายตา รีเฟรชเรต 144Hz ขอบบางเป็นพิเศษ เพิ่มพื้นที่รับชม รวมกับเทคโนโลยี AMD FreeSync กับมุมมองที่กว้าง เพื่อให้ได้ภาพที่คมชัดทุกมุมมอง ด้วยหน้าจอแบบ VA สีสันสดใส ลดแสงสีฟ้า ถนอมสายตา และค่า Gamut sRGB 115% ตอบโจทย์ได้ทั้งการเล่นเกม และการสร้างคอนเทนต์ ให้พอร์ตแสดงผล DisplayPort และ HDMI 2 ช่อง ควบคุมการทำงานด้วย 5-way Joystick ที่ใช้งานง่ายสุดๆ พร้อม Game Mode ที่ช่วยในการปรับแต่ง เพื่อเล่นกับเกมต่างๆ ได้สนุกสนาน ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,290 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
จอโค้งระดับ 1500R	ปรับเลื่อนจอได้ไม่มาก
ให้ค่าของเขตสีได้กว้าง
5-way Joystick ปรับแต่งง่าย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: MSI

6.Samsung ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT

จอคอม 24 นิ้ว จาก Samsung เพื่อคอเกมมิ่งระดับพรีเมียม ให้ความคมชัดสูง กับความสวยงาม ขอบจอที่บางเฉียบ เสริมการปรับแต่งไว้อย่างครบครัน มาคู่ AMD FreeSync Premium ด้วยพาแนลแบบ VA ให้ความคมชัดสีสันสดใส การตอบสนองที่รวดเร็ว ปรับหมุนจอได้ตามสะดวก ไม่ว่าจะสูงต่ำ หัน ก้มเงยหรือจะ Pivot 90 องศาก็ตาม ซึ่งถือว่าโดดเด่นมากๆ ในบรรดาจอที่แนะนำกันในวันนี้ ปรับแต่ง OSD ผ่านปุ่มทางด้านหลัง รองรับการแสดงผล DP, HDMI และ D-Sub ให้การทำงานของ Game Mode ปรับแต่งได้ ใครที่มองว่าจะใช้งานมัลติมอนิเตอร์ จอนี้ตอบโจทย์ได้ดี ด้วยขอบจอที่บาง ทำให้ไม่เกะกะสายตา ราคาอยู่ที่ประมาณ 6,690 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ปรับเลื่อนจอได้หลายรูปแบย	ปุ่ม OSD อยู่ด้านหลัง
มาคู่ AMD FreeSync Premium
พอร์ตแสดงผล DP, HDMI และ D-Sub

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: Samsung

7.LENOVO G24-20

อีกหนึ่งจอเกมมิ่งตัวฮอตของชาวอีสปอร์ต ที่ยืนระยะมายาวนานจาก Lenovo กับความโดดเด่นด้านการออกแบบและฟังก์ชั่น ซึ่งเป็นจอที่เกือบไร้ขอบทั้ง 3 ด้าน และรีเฟรชเรตที่สามารถโอเวอร์คล็อกไป 165Hz ได้ กับเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium กับพาแนลแบบ IPS ที่ให้ความคมชัดสูง โดยมีค่า sRGB สูงถึง 99% และค่า Brightness 350 cd/m2 สามารถควบคุมการทำงานผ่านทางซอฟต์แวร์ได้ เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน นอกจากนี้ยังปรับระดับความสูงและมุมก้มเงยได้อีกด้วย ในแง่ของดีไซน์จัดว่าทันสมัย เข้ากับโต๊ะทำงานหรือการเล่นเกมได้ลงตัว เคาะราคาประมาณ 6,690 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
AMD FreeSync Premium	ปรับระดับความสูงและมุมก้มเงยได้
ค่า Brightness 350 cd/m2
เพิ่มอัตรารีเฟรชเรตให้สูงขึ้นได้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: LENOVO

8.ASUS VP249QGR

จอเกมมิ่งในแบบที่เรียบง่าย แต่ใส่ฟังก์ชั่นการทำงานมาอย่างน่าสนใจ ด้วยพาแนล IPS ที่มาพร้อมเทคโนโลยี ASUS Extreme Low Motion ที่ให้ความนุ่มนวล คู่มากับ AMD FreeSync เพื่อให้ความต่อเนื่องภาพไม่ฉีกขาด บนพื้นฐานของการดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ ขอบจอที่บางเป็นพิเศษ มีฟีเจอร์ในการทำงานมัลติมอนิเตอร์ได้ และ ASUS ยังใส่ลำโพงมาในจอรุ่นนี้ด้วย ด้วยลูกเล่นในการปรับแต่ง และมี Game Mode ให้ได้เลือกใช้ เช่นเดียวกับ Crosshair และ FPS Counter แสดงผลเฟรมเรตได้บนหน้าจอ รวมถึงพอร์ตแสดงผลที่มีถึง 3 แบบด้วยกัน ปรับมุมก้มเงยได้เล็กน้อย ราคาอยู่ที่ 6,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
ลูกเล่นการปรับแต่งทำได้เยอะ	ดีไซน์ค่อนข้างเรียบง่าย
มีลำโพงมาในตัว
พอร์ตแสดงผล 3 รูปแบบ

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: ASUS

9.MSI Optix G241

จอคอมเกมมิ่งที่ให้คุณสมบัติอันยอดเยี่ยมทั้งในด้านของภาพ และการใช้งาน ด้วย Wide color gamut กับขอบเขตสีที่กว้าง สีสันสมจริง สำหรับงานและความบันเทิง ขอบจอที่บางพิเศษ 3 ให้พื้นที่กว้าง สำหรับการชมภาพยนตร์และการเล่นเกม และมีเทคโนโลยี FreeSync เพื่อความต่อเนื่องไร้การฉีกขาด ปรับมุมก้มเงย ให้เข้ากับรูปแบบการใช้งานได้ บนดีไซน์ที่ดูทันสมัย ตามแบบฉบับของ MSI ที่เป็นเกมมิ่ง และฟังก์ชั่นในการปรับแต่งครบครัน เลือกปรับ Game Mode และฟีเจอร์ Night Vision ได้อีกด้วย สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 6,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
Wide color gamut	ปรับเลื่อนจอไม่ได้มากนัก
ขอบจอบางเฉียบ
ปรับ Game Mode ได้

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: MSI

10.LG 24GN600-B

จอเกมมิ่งขนาด 24″ ดีไซน์สวย ให้ความสว่างสดใส Brightness 300cd/m2 พาแนล IPS ให้ความคมชัดสดใส และฟีเจอร์อย่าง HDR 10 ที่ให้ความอิ่มของสีได้สดใสมากขึ้น รองรับ AMD FreeSync Premium และฟีเจอร์สำหรับการเล่นเกมอย่าง Black Stabilizer เพิ่มความได้เปรียบในการแข่งขัน มองเห็นศัตรูในที่มืดได้ชัดขึ้น รวมถึง Crosshair ปรับแต่ง OSD ได้ทั้งบนหน้าจอ และซอฟต์แวร์ LG Screen Manager พร้อมด้วยการปรับมุมก้มเงย เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งาน ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัย ทั้งด้านหน้าและหลัง รวมถึงโทนสีแดงที่ดูเร้าใจ จึงทำให้เป็นอีกรุ่นที่น่าจับตาสำหรับเกมเมอร์ สนนราคาอยู่ที่ประมาณ 6,900 บาท

จุดเด่น	ข้อสังเกต
รองรับ HDR 10	ปรับเลื่อนจอได้ไม่มาก
AMD FreeSync Premium
ปรับแต่ง OSD ได้ทั้งบนหน้าจอ และซอฟต์แวร์

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม: LG

Conclusion

	Size	Panel	Display	Refresh rate	Brightness cd/m2	Response time	Signal	Price
1.AOC 24G2E	23.8″	IPS	Flat	144Hz	250	1ms	HDMI, DP, VGA	5,950
2.PHILIPS 242E1GSJ	23.8″	VA	Flat	144Hz	350	4ms	HDMI, DP	5,990
3.SAMSUNG LC24RG50FQEXXT	23.5″	VA	Curved	144Hz	250	4ms	HDMI, DP	6,190
4.AOC AGON G2490VX	23.8″	VA	Flat	144Hz	350	1ms	HDMI, DP	6,250
5.MSI Optix G24C4	23.8″	VA	Curved	144Hz	350	1ms	HDMI, DP	6,290
6.Samsung ODYSSEY G3	24″	VA	Flat	144Hz	250	1ms	HDMI, DP, D-sub	6,690
7.LENOVO G24-20	23.8″	IPS	Flat	144Hz	350	1ms	HDMI, DP	6,690
8.ASUS VP249QGR	23.8″	IPS	Flat	144Hz	300	5ms	HDMI, DP, D-sub	6,900
9.MSI Optix G241	23.8″	IPS	Flat	144Hz	250	1ms	HDMI, DP	6,900
10.LG 24GN600-B	24″	IPS	Flat	144Hz	300	1ms	HDMI, DP	6,900

จอคอม 24 นิ้ว ที่ว่ามาทั้ง 10 รุ่นนี้ มีรุ่นไหนเข้าตาคุณบ้างครับ อย่าลืมบอกเหตุผลให้เพื่อนๆ ที่กำลังส่องอยู่ด้วย เผื่อจะป้ายยากันไป ฝากเอาไว้เผื่อใครกำลังคิดที่จะเปลี่ยนจอใหม่ หรือจะประกอบคอมเล่นเกมเครื่องแรก แต่ยังไม่ได้ต้องการจอใหญ่ยักษ์เอาไว้ใช้งาน แต่เน้นที่ความเร็วและรีเฟรชเรตสูงๆ ไว้ก่อน เพื่อให้การเล่นเลื่นไหลบนความละเอียด Full-HD ส่วนการเลือกใช้ นอกจากเรื่องของดีไซน์แล้ว ก็อาจจะต้องสนใจในแง่ของพาแนล ที่มีให้เลือกทั้ง IPS และ VA รวมถึงบางรุ่นมาพร้อมฟีเจอร์ FreeSync Premium ส่วนถ้าซีเรียสกับการปรับแต่ง ก็อาจจะต้องดูในรุ่นที่ปรับเลื่อนได้ง่าย ส่วนถ้าไม่อยากจ่ายเยอะ รุ่นที่เริ่ม 5 พันกว่าบาท ก็ให้คุณใช้งานได้ดีไม่แพ้กัน แต่ถ้าจะเน้นจอโค้งในนี้มา 2 รุ่นมาแนะนำกันด้วยครับ อย่างไรก็ดีชอบรุ่นไหน ตรงใจกับงบประมาณก็ไปช้อปกันได้เลย เพราะผมทำลิงก์เอาไว้ให้แล้ว ขอให้มีความสุขกับจอใหม่ ใช้งานกันให้เพลิดเพลินนะครับ

from:https://notebookspec.com/web/628797-24-inch-144hz-gaming-monitor

NOTEBOOKSPEC

จอคอมมือสอง 2021 วิธีง่ายๆ เลือกจอแบบไหน ได้ของดี ใช้งานได้ตรงที่ต้องการ ประหยัดเงิน

ตุลาคม 19, 2021 Feed News

จอคอมมือสอง เลือกแบบไหนดี 2021 วิธีสังเกต และตรวจสอบให้มั่นใจ ใช้งานได้ยาวนาน ประหยัดค่าใช้จ่าย ซื้อแล้วสบายใจ

จอคอมมือสอง ขึ้นชื่อว่าของมือสอง หลายคนก็อาจจะมีความกังวล ว่าจะใช้งานได้ทนหรือมีปัญหามาหรือไม่ ยิ่งอุปกรณ์บางอย่างที่เสียง่าย ถ้าไม่จำเป็นก็อยากจะได้ของใหม่มาใช้ แต่ติดเรื่องราคาที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะคนที่เล่นเกม ลงทุนไปกับคอมแรงๆ แล้ว ก็อยากได้จอเกมมิ่งใหญ่ สเปคดี มีรีเฟรชเรตสูงๆ มาใช้งานด้วย แต่เริ่มต้น 27″ ระดับที่มากกว่า 144Hz ราคาพุ่งไปเกือบ 8 พันบาทแล้ว ส่วนถ้าจอใหญ่กว่านั้น หรือรีเฟรชเรตสูงๆ เป็นจอเกมมิ่งหรือ Curved Monitor ก็ยิ่งต้องเพิ่มเงินไปอีก ทางเลือกอย่างจอมือสอง ก็ดูจะน่าสนใจ เพราะส่วนใหญ่ไม่ค่อยช้ำมาก สามารถหาซื้อได้ง่าย เนื่องจากเวลานี้มีตัวเลือกและช่องทางซื้อขายอยู่มากมายทีเดียว

จอคอมมือสอง

เลือกจอแบบไหนดี Flat หรือ Curved
ขนาดหน้าจอสำคัญมั้ย
ซื้อจอคอมมือสองที่ไหน
เช็คประกันให้มั่นใจ
เช็คหน้าจออย่างไรได้บ้าง
ปุ่มตั้งค่า OSD settings
เสียงจากลำโพง
พอร์ตต่อพ่วง
ไม่แน่ใจ ไม่ได้ลอง อย่าซื้อ

เลือกจอแบบไหนดี Flat หรือ Curved

หลายคนคุ้นเคยกับจอแบนหรือแบบ Flat ก็อาจจะลองใช้จอโค้ง แต่หลายคนก็ยังคงจบที่จอแบนเหมือนเดิม เพราะไม่อยากปรับตัว ปรับสายตาใหม่ ซึ่งในแง่ของการเลือกจอคอมมือ 2 เอามาใช้งาน ทั้ง 2 แบบนี้ ก็ยังคงมีความต่างกันอยู่ในแง่มุมต่างๆ โดยปกติคนที่ใช้จอใหญ่ ก็มักจะมีปัญหาเมื่อจะต้องกวาดสายตามองไปให้ทั่วจอได้ยาก โดยเฉพาะคนที่เล่นเกมแนว FPS หรือแอ็คชั่นชู๊ตติ้ง ที่ต้องจับสังเกตพื้นที่ได้ทั่วๆ บริเวณสมรภูมิ เพื่อให้เห็นศัตรูได้ง่ายขึ้น ยิ่งเป็นจอที่มีความละเอียดสูง เช่น 2K หรือ 4K ก็ยิ่ง ต้องใช้สายตามากขึ้น การที่เป็นจอโค้ง ที่โอบกระชับสายตาเข้ามา ก็ช่วยให้การมองเห็นได้ง่ายกว่าเดิม รวมถึงไม่ต้องถอยระยะออกห่างจากหน้าจอมากนัก เพียงแต่จอโค้ง Curved monitor นั้น ราคาจอใหม่ ก็จะค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับจอแบบ Flat หรือจอแบนในสเปคใกล้เคียงกัน ซึ่งหากเป็นจอมือสองนั้น ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปไม่น้อยเลยทีเดียว

แต่การเป็นจอแบนหรือ Flat นั้น ก็เป็นทางเลือกที่เหมาะสม สำหรับคนที่จะเน้นไปใช้ในแง่ของการทำงานเป็นหลัก เพราะส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญต่อมุมมองในการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของแสงสี ที่มีความแม่นยำสูง และพื้นที่การใช้งานที่กว้างขวางมากกว่า อย่างไรก็ดีขึ้นอยู่กับผู้ใช้เอง ที่จะพิจารณาในข้อนี้ เพราะหลายคนใช้งานหลายอย่างบนจอตัวเดียว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการทำงานและความบันเทิง ซึ่งจะให้น้ำหนักในส่วนใดเป็นหลัก เช่น ถ้าเน้นที่การเล่นเกม ก็อาจจะดูที่ขนาดของหน้าจอ ความละเอียด ฟีเจอร์ของจอภาพ เช่น อัตรารีเฟรชเรตที่สูง, มีเทคโนโลยี FreeSync, G-Sync, Black Stabilizer หรือจะเป็น HDR เป็นต้น แต่หากจะเน้นไปที่การทำงานเป็นหลัก ก็คงต้องให้น้ำหนักไปที่ คุณสมบัติเฉพาะ เช่น พาแนล IPS คุณภาพสูง มุมมองที่กว้าง มีเทคโนโลยีและขอบเขตสีที่แม่นยำ เช่น sRGB หรือ DCI-P3 ซึ่งมีตัวเลขที่สูง อย่างไรก็ดี ราคาของจอประเภทนี้ก็จะสูงตามไปด้วย ซึ่งหากได้มาในราคาที่เหมาะสม ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ

ขนาดหน้าจอสำคัญมั้ย

เรื่องของขนาดจอภาพ ก็จะเป็นตัวกำหนดของราคาจอมือสองที่คุณจะซื้ออยู่ด้วยเช่นกัน แม้จะไม่ทั้งหมดก็ตาม เพราะจอภาพใช้งานทั่วไปหน้าจอที่ใหญ่ระดับ 27″ ก็อาจจะราคาถูกกว่า จอภาพที่เล็กกว่า เช่น 24″ ที่เป็นจอเกมมิ่ง ฉะนั้นอาจจะต้องสังเกตดีๆ เมื่อจะเลือกซื้อ จอขนาดที่ใหญ่ ก็ช่วยให้การมองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น ไม่ว่าจะเป็นทัศนียภาพ หรือสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัว ซึ่งสำคัญมากต่อการเล่นเกมหรือดูหนัง เพราะจะได้พื้นที่ในการรับชมที่มากกว่า รวมถึงการมองเห็นตัวละครได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกมในแนวใดก็ตาม เช่นเกม Action Shooting FPS ก็จะช่วยให้เห็นศัตรูจากระยะไกล การเล็งเป้าหมาย ก็ง่ายขึ้น หรือจะเป็นแนว MOBA ก็จะทำให้เห็นความสวยงามของเวทย์และความอลังการของฮีโร่ และแผนที่ในเกม หรือจะเป็นแนว RTS ก็ทำให้การเคลื่อนไหว มองเห็นสิ่งต่างๆ การทำ Quest ก็ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเป็นจอภาพที่มีความละเอียดสูง ก็จะทำให้ขอบเขตของสิ่งต่างๆ เหล่านี้กว้างขึ้นอีกด้วย

แต่ก็ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบของผู้ใช้แต่ละคน เพราะการรับชมหรือการมองภาพนั้นไม่เหมือนกัน บางคนที่ชอบจอขนาดไม่กว้างเกินไป หรือมีพื้นที่ทำงานค่อนข้างจำกัด หรือไม่อยากจะขยับขยาย นั่งห่างจากหน้าจอเกินไปนัก การเลือกใช้หน้าจอระดับ 24″ ความละเอียด Full-HD 1080p ก็ดูจะเหมาะสม แต่ถ้าต้องการใช้ทำงานไปด้วย หน้าจอความละเอียดมากกว่า 2K 1440p ขึ้นไป ก็ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น แต่ถ้าต้องการความละเอียดในการเล่นเกมสูงๆ รวมถึงมีสเปคคอมที่แรง และสามารถขับเคลื่อนหรือรีดเฟรมเรตได้สูงๆ มองเห็นรายละเอียดโดยรอบได้ชัดเจน ทางเลือกที่เป็นจอขนาดใหญ่กว่า 27″ บน Resolution ระดับ 4K ก็น่าสนใจไม่น้อย แต่ราคาก็จะสูงตามไปด้วย เช่นในปัจจุบัน จอขนาด 32″ ที่ความละเอียด 2K 144Hz เริ่มต้นที่ 10,000 บาท ซึ่งอาจจะหาจอที่เป็นมือสองได้ที่ราวๆ 7,xxx บาท เทียบได้กับจอ 27″ มือหนึ่ง ที่เป็นจอเกมมิ่งเลยทีเดียว ก็น่าสนใจเหมือนกัน

ซื้อจอคอมมือสองที่ไหน

แหล่งซื้อหาจอคอมมือสอง มีมากมาย ไม่ต่างจากการหาคอมมือสองที่เราเคยนำเสนอกันไปแล้วในบทความก่อนหน้านี้ มีทั้งแบบ Online ที่เรียกว่าหาซื้อกันได้บนหน้าร้านออนไลน์ Facebook หรือจะเป็น Kaidee และอื่นๆ อีกมากมาย ซึ่งแล้วแต่ความสะดวกของแต่ละบุคคล ส่วนอีกแบบคือ แบบ Offline ซึ่งเป็นการเดินไปดูในห้างไอที หน้าร้าน ตู้ขายมือสอง หรือที่อื่นๆ ทั้งสองแบบนี้ มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ในแง่ต่างๆ เพราะถ้าหากใครเคยซื้อขายของมือสอง ก็น่าจะพอทราบกันดีว่า มีรายละเอียดปลีกย่อยกันพอสมควร และมีข้อดีข้อเสียที่ต่างกันออกไป

	ซื้อผ่านออนไลน์	ซื้อที่หน้าร้าน
ความสะดวก	ดูรุ่นที่ชอบผ่านมือถือได้	ต้องเดินหา
เช็คสินค้า	เช็คได้ยาก	เช็คได้ง่าย เห็นตัวจริง
ราคา	อาจได้ราคาถูก+ค่าส่ง	ราคาอาจสูง+มีต้นทุน
ความเชื่อมั่น	อยู่ที่เครดิตคนขาย	มีหน้าร้าน เข้าถึงง่าย
เครดิตคนขาย	เช็คเครดิตผู้ขายได้ในกลุ่ม	มีตัวตน หลักแหล่ง เช็คได้
รายละเอียดสินค้า	ดูจากรูปและข้อมูลประกอบ	ดูได้ละเอียดกว่า สัมผัส และทดลองได้
เปรียบเทียบ	ง่าย ดูจากเว็บไซต์และ Group อื่นๆ	ยาก ต้องเช็ครุ่นและซีรีส์ แล้วเปรียบเทียบในเว็บไซต์
รูปภาพและตัวจริง	ไม่ละเอียด ดูจากในภาพ	เห็นตัวจริง จับได้ ทดลองใช้
การรับประกัน	ประกันสินค้า + ประกันใจ	ประกันสินค้า + ประกันร้าน + ประกันใจ
การจัดส่ง	ส่งพัสดุ ไม่ได้เช็คสภาพ ลุ้นระหว่างการขนส่ง ปลายทาง ต้องถ่ายหลักฐานเมื่อรับของ	ตรวจเช็คเสร็จ สภาพรับได้ จ่ายเงิน หิ้วกลับ
ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม	ค่าเน็ต ค่าขนส่ง	ค่าเดินทาง ค่าอาหาร
สินค้ามีปัญหา	ติดตามผู้ขาย ส่งกลับ ส่งซ่อม	หิ้วกลับไปที่ร้าน รอซ่อมหรือเปลี่ยน

จะเห็นได้ว่าทั้ง 2 แบบนี้ อาจจะมีความต่างกันบ้างในบางแง่มุม แต่อย่าลืมว่า ความแตกต่างบางจุดนั้น อาจส่งผลต่อสิ่งที่คุณได้รับอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แม้ว่าการซื้อแบบออนไลน์ จะช่วยให้คุณสะดวก ไม่ต้องออกไปเอง หรือสามารถหาข้อมูลและรุ่นอื่นๆ เปรียบเทียบได้ ต่างจากการต้องเดินไปดูตามตู้หรือหน้าร้านในห้างไอทีต่างๆ และยังจ่ายเงินออนไลน์ รอของมาส่งได้ แต่ก็ต้องแลกมาด้วยความมั่นใจ เพราะตั้งแต่ที่คุณติดต่อกับผู้ขาย เช็คเครดิตและการทำธุรกรรมออนไลน์ ไปจนถึงการขนส่ง มาถึงมือคุณและตรวจสอบการใช้งานอีกครั้งว่าสามารถใช้งานได้ปกติหรือสภาพเป็นไปตามรูปภาพ หรือที่ผู้ขายเสนอไว้หรือไม่ ก็ถือว่าเป็นความเสี่ยงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน หากทุกขั้นตอนที่ว่ามานี้ผ่านพ้นด้วยดี ได้รับสินค้าสภาพดี ถูกใจในราคาที่เหมาะสม ก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าโชคร้าย ไปเจอความผิดปกติในขั้นตอนใด เพียงแค่สิ่งเดียว เรื่องทั้งหมดก็จะดูเป็นปัญหาขึ้นทันที เช่น โอนเงินแล้วไม่ส่งของ ส่งของให้ล่าช้า หรือส่งของเสียหรือไม่ตรงปกมา ก็ต้องเสียเวลาในการติดตาม แก้ไขปัญหาเช่นกัน

แต่ก็ไม่ใช่บอกว่าการซื้อแบบออนไลน์ไม่ปลอดภัย ในกรณีที่เช็คเครดิตผู้ขายดีแล้ว การโอนเงินอาจผ่านทางแอดมินเพจได้ หรือที่เรียกว่าผ่านกลาง ก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้ระดับหนึ่ง สุดท้ายหากสินค้าไม่ได้อยู่ไกลจากคุณมากนัก พอที่จะเดินทางไปรับด้วยตัวเองได้ หรือไปลองใช้งาน เพื่อเช็คสภาพก่อนได้ ก็ยิ่งลดความเสี่ยงต่างๆ ที่ว่ามาทั้งหมดนี้ไปได้มาก เหลือแค่เพียงคุณประคองจอนั้นให้กลับถึงบ้านโดยปลอดภัย และเสียบปลั๊กใช้งาน เล่นเกมกันต่อไปเท่านั้น ซึ่งเชื่อว่าถึงขั้นนี้แม้จะมีความเสี่ยง เพราะมีแค่ประกันใจ เพราะประกันตัวเครื่องอาจหมดไปแล้ว แต่ก็ไม่ได้ต่างไปจากเราเดินดูตามร้านหรือตามตู้มือสองมากนัก

เช็คประกันให้มั่นใจ

การรับประกันถือว่าเป็นสิ่งสำคัญ แม้ว่าของมือสองส่วนใหญ่ ไม่ประกันหมด ก็ถือว่าใกล้จะถึงอายุการรับประกัน ดังนั้นแล้วก็ควรจะต้องมีแผนสำรองเอาไว้ด้วย ไม่ใช่ว่าซื้อมาใช้ได้ 2-3 วัน แล้วพัง เปิดไม่ติดแบบนี้คงไม่ดีแน่นอน จึงต้องสอบถามและขอข้อมูลผู้ขายเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการซื้อแบบออนไลน์หรือจากหน้าร้านขายมือสองก็ตาม สิ่งที่ควรจะต้องเช็คแรกๆ คือ การรับประกันใจ หรือประกันร้าน ในกรณีที่ประกันสินค้าหมดไปแล้ว และอยากจะให้ชัดเจนว่าไม่มีการหมกเม็ด เพื่อขายทิ้งนั่นเอง

ประกันปกติ: หรือที่เป็นประกันสินค้าจากดีลเลอร์หรือผู้จำหน่ายโดยตรง เป็นสิ่งที่ผู้ที่จะซื้อจอมือสอง ต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ อย่างน้อยควรเหลือประกันไว้บ้าง สัก 1-3 เดือน เพื่อให้มั่นใจว่า ยังใช้งานได้ต่อไป และจอนั้น ก็ไม่ได้เก่าเกินไป จนไม่เหลือประกัน ซึ่งจะหมายความว่าจอได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมายาวนาน กว่าจะถึงมือคุณ ซึ่งก็อาจจะทำให้ชิ้นส่วนบางอย่างเสื่อม หรือจะเสียหายได้ เมื่อใช้งานไปได้ไม่นาน จึงถือว่าหากเป็นจอ ควรเลือกที่ยังมีประกันพื้นฐานอยู่สักหน่อย

ประกันร้าน: เป็นการรับประกันการใช้งานจากทางร้านที่จำหน่าย จะมากน้อยก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของทางร้าน ซึ่งอาจจะคาดเดาได้ยาก บางร้านขายขาด เปิดใช้งานได้ ราคาโอเค จ่ายตังก็ยกไปได้เลย ไม่รับคืน ไม่รับซ่อม หรือบางร้านตรวจเช็คมาดีแล้ว และต้องการเก็บฐานลูกค้าสร้างเครดิต ก็อาจจะประกันร้านให้ 1-3 เดือน แล้วแต่ความเก่า มีปัญหากลับมาซ่อม

ประกันใจ: อาจจะเป็นทั้งผู้ขายออนไลน์ ที่เรียกว่าพ่อค้าหรือทางร้านก็อาจจะมี เป็นการประกันใจ ให้มั่นใจได้ว่า 7 วันนี้ ถ้าเสียเอากลับมาคืนได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะมีเงื่อนไข หรือบางรายก็นับวันแบบไม่ตรงก็เยอะ โดยประกันใจนี้ ย้ำทุกครั้งว่าอย่ายึดจากลมปากผู้ขาย ให้เขียนมาเป็นลายลักษณ์อักษรด้วยเลย แนบนามบัตรก็ได้ จะได้เชื่อมั่นได้ว่าไม่มีบิดพริ้ว หลายคนอาจจะเคยเสียน้ำตากับเคสแบบนี้เหมือนกัน

ลิงก์สำหรับการเช็คประกันของผู้จำหน่ายแต่ละค่าย

Synnex: https://www.synnex.co.th/th/service/check_warranty_expiry_date_2.aspx

Strek: http://checkwarranty.strek.co.th/

ARC: http://www.ascenti.co.th/check/

Advice: https://www.advice.co.th/services/waranty

JIB: https://www.jib.co.th/web/checkserial/warranty

เช็คหน้าจออย่างไรได้บ้าง

ซื้อจอคอม ก็ต้องเช็คหน้าจอให้ละเอียด และน่าจะเป็นสิ่งแรกๆ ที่เราจะต้องทำ เพราะหากจอเสีย มีอาการที่เรียกว่า Dead, Bright หรือ Dot เราจะได้เลี่ยงหรือไม่ต้องไปเสี่ยงกับจอแบบนั้น เพราะเชื่อได้เลยว่าร้อยทั้งร้อย ผู้ใช้มักจะถูกสะกดสายตา ด้วยบรรดาจุดเหล่านี้ที่ขึ้นมาให้เห็น แต่จะทำอย่างไรที่เราจะมองเห็นได้ว่า มีจุดต่างๆ เหล่านี้ขึ้นหรือไม่บนจอที่เราจะซื้อ ให้เริ่มต้นด้วย การสังเกต

ดูด้วยตาเปล่า: อาการเหล่านี้ เราจะพอสังเกตได้ เมื่อเกิดขึ้นมาบนหน้าจอ โดยจะเป็นจุดที่โดดเด่นขึ้นมาให้เห็น ต่างจากแสงสีบริเวณรอบๆ นั้น เช่น เป็นจุดสว่างสีเดียวหน้าจอสีดำ หรือเป็นจุดดำ บนหน้าจอขาว หรือสีอื่นๆ ซึ่งทำให้การแสดงผลผิดปกติไป และเมื่อเราใช้งานไปเรื่อยๆ โอกาสที่จะเพิ่มขึ้นก็มีเหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ชอบเอามือไปลูบๆ ถูๆ ในจุดที่เป็น หากมีแค่จุดเดียว แล้วคุณรับได้ เพราะลดราคาลงมาเยอะ ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าเยอะมากจนทำให้เสียอรรถรสในการใช้งาน แนะนำว่าให้ผ่านไปก่อน
ปิดไฟโดยรอบ: การปิดไฟรอบๆ แล้วเปิดจอให้สว่างก็เป็นอีกวิธีหนึ่ง ที่ทำให้เราจับสังเกตความผิดปกติของจอภาพได้เช่นกัน เพราะเมื่อไม่มีแสงตกกระทบบนหน้าจอ ก็ทำให้มองเห็นได้ชัดขึ้น ให้ลองส่องดีๆ ทุกขอบทุกมุม ก็จะช่วยให้คุณได้จอที่มีความผิดปกติน้อยที่สุด
ใช้โปรแกรมช่วย: แนะนำหัวข้อนี้เลย ถ้าเป็นไปได้ อย่างที่ได้บอกไปคือ หากเป็นไปได้ เมื่อไปถึงร้านหรือที่นัดหมาย ควรจะต้องลองให้รู้ชัดกันไปเลย ก่อนจะจ่ายเงินแล้วหิ้วกลับบ้าน เพราะใช้เวลาไม่นาน และเตรียมสิ่งที่จำเป็นไปง่ายๆ เช่น แฟลชไดรฟ์หรือถ้าผู้ขาย ต่อคอม ต่ออินเทอร์เน็ตอยู่แล้ว ก็ดาวน์โหลดโปรแกรมมาทดสอบได้ เช่น DPT หรือ Dead Pixel Test โปรแกรมนี้จะช่วยให้คุณเช็คความผิดปกติได้ละเอียด และไม่ต้องติดตั้งลงบนเครื่องด้วย เมื่อเปิดโปรแกรม จะเป็นการแสดงผลของสีต่างๆ ให้เปิดไล่ไปทีละสี และเช็คทีละจุด ว่ามีความผิดปกติหรือไม่ โปรแกรมนี้ช่วยให้เห็นได้อย่างชัดเจน

ส่วนอีกอาการ ซึ่งคนส่วนใหญ่ก็พอจะยอมรับได้ ถ้าไม่มีการเกินไปนักก็คือ อาการแสงลอด หรือบางอาจจะบอกว่าแสงรั่ว สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ ขอบบางส่วนจะมีแสง LED ลอดออกมาสว่างชัดเจน ยิ่งในที่มืด และเปิดหน้าจอสีทึบๆ เช่น สีดำ ก็จะเห็นได้ชัดเลยว่า แสงสว่างจะโดดเด่นออกมาในพื้นที่ของหน้าจอโดยรอบ ไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหาย แต่จะรำคาญสายตา เวลาที่คุณจะดูฉากในหนังหรือเล่นเกมที่เป็นโทนมืด คุณจะเห็นแสงนี้ จนเข้ามาทำให้ฉากดูเปลี่ยนไป หรือบางทีก็ไปทำให้ภาพที่อยู่บริเวณขอบแสดงผลผิดเพี้ยนนั่นเอง

ปุ่มตั้งค่า OSD settings

ตรงจุดนี้ค่อนข้างสำคัญเช่นกัน เพราะจอที่ใช้งานส่วนใหญ่ ก็จะมีให้ปรับละเอียดขึ้น ยกเว้นจอคอมพื้นฐาน ซึ่งจะมีน้อยกว่าแบบที่เป็นจอเกมมิ่ง ที่ยังไงก็ยังต้องปรับแต่งเพื่อให้เข้ากับการเล่นเกมหรือการใช้งานในแต่ละแบบ หรืออย่างน้อย ใช้ในการปรับแสง สี และค่า Contrast ต่างๆ ได้ดีขึ้น ในกรณีที่มีซอฟต์แวร์ปรับควบคู่กันไปได้ ก็ยังพอใช้งานทดแทนกันได้ แต่ถ้าจอที่ไม่มีซอฟต์แวร์มาให้จะทำอย่างไร ควรจะต้องเช็คให้สามารถใช้งานได้ทุกฟังก์ชั่น

โดยปุ่มควบคุม OSD settings จะมีด้วยกัน 2 แบบหลักๆ คือ แบบที่เป็นปุ่มกด และแบบที่เป็นจอยสติ๊ก ซึ่งทั้ง 2 แบบก็ให้ความสะดวกสบายในการใช้งานได้เช่นเดียวกัน เพียงแต่ว่าใครจะถนัดแบบไหนมากที่สุด

แบบปุ่มกด: แบบนี้จะมักจะมีมาให้ 4-5 ปุ่มด้วยกัน ใช้ในการกดเลือก ยกเลิก ย้อนกลับหรือกดขึ้น-ลง ตามแต่ละเมนู ซึ่งหลายคนก็อาจจะต้องใช้เวลาในการทำความคุ้นเคยกันพอสมควร เพราะบางทีอยู่ข้างหลังจอ ก็ต้องจำว่าปุ่มมีอยู่กี่ปุ่ม เลือกเมนู ฟังก์ชั่นอย่างไร แต่บางรุ่นก็อยู่ด้านใต้จอ ก็ใช้งานง่ายขึ้นอีกนิด วิธีเช็ค ก็ให้กดไล่ไปทีละปุ่ม ลองกดเลือก เปิด-ปิด หรือกดซ้ำๆ ดูว่า ใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ ซึ่งหากแนะนำคือ ไม่ควรเสียเลยสักปุ่มจะดีที่สุด เพราะทำงานสอดคล้องกัน

แบบจอยสติ๊ก: เป็นแบบปุ่มเดียว แต่ออกแบบมาในลักษณะของจอยสติ๊ก กดง่ายใช้สะดวก แต่ถ้าเจอกับคนมือหนัก ก็อาจจะเกิดปัญหาได้ การใช้งานค่อนข้างง่าย เพราะกดลงไป เป็นการเลือกเมนู เลื่อนขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา และกดอีกครั้ง เพื่อกำหนดการตั้งค่า และเนื่องจากเป็นแบบที่ใช้ปุ่มเดียว ก็ควรจะต้องตรวจเช็คให้ดี สามารถเลื่อนเมนูได้ตามปกติ ซึ่งถ้าเลื่อนไม่ได้ กดไม่ลง ก็อาจจะเกิดความเสียหาย ซ่อมได้ แต่ก็ใช้เวลาและเสียค่าใช้จ่ายพอสมควร

เสียงจากลำโพง

ลำโพงในจอคอมมือสอง ถามว่าจำเป็นมั้ย? ก็อาจจะจำเป็นหรือไม่ก็ได้ เพราะบางคนก็ไม่ได้เสน่ห์หาในเสียงจากลำโพงวัตต์น้อยๆ แบบนี้ แต่มีให้ก็ดี อย่างน้อยก็ไม่เหงา จะเปิดหรือปิดในภายหลังก็ไม่เสียหาย ฟังจากลำโพงที่ต่อออกจาก USB หรือหูฟังที่ต่อแยกจากคอมโดยตรง อาจจะได้อรรถรสมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าเกมเมอร์ หรือคนที่ชอบดูหนัง คงไม่ได้ใส่ใจมากนัก อย่างไรก็ดี หากมีให้แล้ว ก็ตรวจเช็คเสียหน่อยว่า เสียงเปิด-ปิด เพิ่ม-ลดเสียงได้หรือไม่ หรือมีเสียงจี่ รบกวนระหว่างที่ใช้งานหรือเปล่า ถ้ามีก็ต้องเช็คว่า เกิดจากสิ่งใด เพราะเอามาใช้แล้ว มีเสียงรบกวน คงน่ารำคาญไม่น้อย แต่ถ้าให้ความสำคัญ ยังถือว่าน้อยกว่าปุ่ม OSD และพอร์ตสัญญาณต่อพ่วง ที่มีบทบาทมากกว่า

พอร์ตสัญญาณต่อพ่วง

เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากในจอคอมมือสอง เพราะถ้ามีพอร์ตแต่ใช้ไม่ได้ หรือพอร์ตเสีย สัญญาณต่อเข้ามาไม่ได้ ก็หมายความว่า ซื้อจอไปก็ไม่มีประโยชน์ เพราะแสดงผลจากแหล่งที่มาไม่ได้ จะซื้อมาทำไม? ดังนั้นแล้ว นอกจากเรื่องของการแสดงผล สัญญาณขาเข้าต่อเข้ากับพอร์ตนี้ก็สำคัญ ส่วนใหญ่จอในปัจจุบัน จะให้พอร์ตแสดงผลมา 2-3 รูปแบบคือ DVI, HDMI และ DisplayPort แต่ก็ยังมีจอหลายรุ่นที่มีพอร์ต D-Sub หรือ VGA มาให้ ซึ่งเป็นพอร์ตสีฟ้าๆ ใช้ต่อกับคอมรุ่นเก่า ให้สัญญาณเป็นแบบแอนาล็อก ซึ่งจะให้สัญญาณที่มีข้อจำกัดในการใช้งาน ต่างจากบรรดาพอร์ตรุ่นใหม่ๆ และที่บอกว่าพอร์ตเหล่านี้มีความจำเป็น และไม่ควรเสียไปสักพอร์ตเลยก็เพราะ

ส่งสัญญาณภาพเข้าหน้าจอไม่ได้: อย่างที่บอกคือ หากมีพอร์ต แต่สัญญาณไม่เข้าก็มีแต่เสียกับเสีย เพราะนอกจากจะเสียเงินฟรีแล้ว ยังเสียอารมณ์ที่ใช้งานไม่ได้อีกด้วย ต้องเช็คให้ละเอียดเลยในจุดนี้
ไม่สามารถใช้รีเฟรชเรตสูงสุดของจอได้: เพราะพอร์ตสัญญาณแต่ละแบบ แต่ละเวอร์ชั่น ก็จะมีขอบเขตในการแสดงผลหรืออัตรารีเฟรชเรตที่ต่างกันออกไป และส่วนใหญ่มักจะกำหนดมาให้ในสเปคเลยว่า หากต้องการใช้ Refresh Rate ระดับที่สูงกว่า 144Hz, 200Hz ขึ้นไป จะต้องต่อที่พอร์ตใด หากพอร์ตนั้นเสียก็หมายความว่า คุณจะไม่สามารถเล่นที่โหมดสูงสุดนั้นได้เลย ตัวอย่างเช่น

Display Port: 2560 x 1080(Up to 200Hz)
Type C: 2560 x 1080(Up to 200Hz)
HDMI: 2560 x 1080 (Up to 180Hz)

ใช้งาน PIP หรือ PBP ไม่ได้: เพราะว่าจอบางรุ่นจะมาพร้อมฟีเจอร์พิเศษอย่าง Picture In Picture หรือใช้จอเดียว แต่ต่อสัญญาณจากคอมได้มากกว่า 1 ช่อง เช่น จะใช้คอมกับโน๊ตบุ๊ค ขึ้นจอแสดงผลเดียวกัน ก็ต้องมี HDMI1, HDMI2 เป็นต้น พอร์ตเสียก็ใช้งานไม่ได้ แม้จะไม่ค่อยได้ใช้ แต่ก็ดูแล้วไม่คุ้มค่าเงินที่จ่ายไปเท่าใดนัก

ไม่แน่ใจ ไม่ได้ลอง อย่าเพิ่งรีบซื้อ

มาดูภาพรวมกันดีกว่า อย่าว่าแต่เรื่องของจอคอมมือสองนี้เลย ที่คุณจะต้องใส่ใจในรายละเอียด เมื่อจะต้องเลือกซื้อ อุปกรณ์อื่นๆ ที่คุณใช้ในชีวิตประจำวันนี้ก็เช่นกัน เข้าใจว่าเป็นของมือสอง อาจจะเสียบ้างเล็กๆ น้อยๆ ในบางจุด แต่ก็ต้องไม่ใช่ปัญหาใหญ่ในภายหลังจนคุณไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ เพราะถ้าคุณไม่ได้ใช้หรือใช้ไม่ได้ ก็แทบจะไม่เกิดประโยชน์อันใดที่จะซื้อมา ถึงจะได้ราคามาถูกเพียงใดก็ตาม เพราะฉะนั้นแล้ว ให้คิดเสมอว่า ต้องคุ้มค่ากับเงินที่คุณจ่ายออกไปมากที่สุด และตามข้อมูลที่บอกไปในบทความนี้ แม้จะไม่ได้เป็นเรื่องที่ครอบคลุมทั้งหมด แต่ก็น่าจะพอช่วยให้คุณเลือกจอคอมมือสองที่ถูกใจ ถูกเงิน และตรงกับการใช้งานของคุณมากที่สุด ขอให้โชคดีครับ

from:https://notebookspec.com/web/617427-2-nd-hand-monitor-2021

NOTEBOOKSPEC

MSI OPTIX MAG301CR2 จอเกมมิ่ง 30″ 200Hz จอโค้ง 1500R พร้อม HDR Ready สวยคมชัด สำหรับเกมเมอร์

ตุลาคม 5, 2021 Feed News

MSI OPTIX MAG301CR2 จอเกมมิ่ง 30″ 200Hz จอโค้ง 1500R พร้อม HDR Ready สวยคมชัด สำหรับเกมเมอร์

MSI OPTIX MAG301CR2 จอเกมมิ่งระดับ 30″ บนความละเอียด 2560 x 1080 (WFHD) ที่เพิ่มพื้นที่ให้กับการทำงานและเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน บน Ratio 21:9 ในแบบจอโค้ง Curved 1500R และยังมาพร้อมอัตรารีเฟรชเรตที่สูงถึง 200Hz จึงช่วยให้การเล่นเกมนั้นไหลลื่น และต่อเนื่อง หน้าจอในแบบ Anti-Glare ที่ลดแสงสะท้อนรอบข้างได้ดี และที่สำคัญยังมาพร้อมเทคโนโลยี AMD FreeSync Premium และการปรับแต่งบนหน้าจอ เพื่อตอบสนองกับการใช้งานด้านต่างๆ นอกเหนือจากการเล่นเกมอีกมากมาย ด้านหลังจอเสริมหล่อด้วยแสงไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ รองรับการเชื่อมต่อทั้ง HDMI และ DisplayPort ให้ความคล่องตัวในการใช้งาน ขอบเขตสีที่กว้าง sRGB 103% ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับงานภาพและการตัดต่อได้ดียิ่งขึ้น

MSI OPTIX MAG301CR2

Specification
Design
OSD settings
Software
Adjustable
Performance
Conclusion

จุดเด่น

อัตรารีเฟรชเรตสูงถึง 200Hz คู่กับ FreeSync Premium ช่วยให้เฟรมเรตนิ่งและไหลลื่น
หน้าจอปรับได้หลากหลายมุม รวมถึงการ Pivot
รองรับ HDR Ready ปรับสีสันในการใช้งานได้ดีพอสมควร
ให้พอร์ตต่อพ่วงสัญญาณมาหลากหลาย
ปรับแต่ง OSD ได้ทั้งบนจอและซอฟต์แวร์
สีสันสดใส เหมาะในด้านความบันเทิง
มีโหมดการเล่นเกมมาให้ (Game Mode)

ข้อสังเกต

ไม่มีลำโพงมาในตัว แต่มีพอร์ต Audio มาให้
การปรับแต่งในบางฟีเจอร์ จะครอบคลุมหลายส่วน หากต้องการเปลี่ยน ต้องเซ็ตด้วยตัวเอง

Specification

	Description
PANEL SIZE	29.5″
PANEL RESOLUTION	2560 x 1080 (WFHD)
REFRESH RATE	200Hz
RESPONSE TIME	1ms(MPRT)
PANEL TYPE	VA
BRIGHTNESS (NITS)	300
VIEWING ANGLE	178°(H) / 178°(V)
ASPECT RATIO	21:9
CURVATURE	1500R
CONTRAST RATIO	3000:1
ACTIVE DISPLAY AREA (MM)	690.432 (H) x 291.276 (V)
SURFACE TREATMENT	Anti-glare
DISPLAY COLORS	1.07B（8bit+FRC）
DCI-P3 / SRGB	82% / 103%
VIDEO PORTS	1x Display Port (1.2), 2x HDMI (2.0), 1x Type C (DP alt.)
USB PORTS	2x USB 3.2 Gen1 Type A, 1x USB 3.2 Gen1 Type B
AUDIO PORTS	1 x Earphone out
VESA MOUNTING	75 x 75 mm
DYNAMIC REFRESH RATE TECHNOLOGY	FreeSync Premium
ADJUSTMENT	-5° ~ 20° (TILT) -30° ~ 30° (SWIVEL) -90° ~ 90° (PIVOT) 0 – 110mm (HEIGHT)
DIMENSION (W X H X D)	703 x 512 x 287 mm
WEIGHT	5.8 kg
Note	Display Port: 2560 x 1080(Up to 200Hz) Type C: 2560 x 1080(Up to 200Hz) HDMI: 2560 x 1080 (Up to 180Hz) DCI-P3 and sRGB follow CIE1976 Standard
Price (Baht)

Design

MSI OPTIX MAG301CR2 เมื่อประกอบเสร็จ สไตล์ที่ดูทันสมัย ไม่เทอะทะ กับขอบจอที่บางเป็นพิเศษ อันเป็นเอกลักษณ์ของจอ MSI

ตัวจอน้ำหนักค่อนข้างเบา จึงทำให้การประกอบค่อนข้างง่าย แม้ว่าเป็นหน้าจอระดับ 30″ ก็ตาม

ตัวฐานและขาตั้ง ที่ประกอบเข้าด้วยกันได้เพียงน็อตตัวเดียวเท่านั้น ฐานเป็นแบบตัว Y ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่กระจายน้ำหนักได้ดี ตัวจอด้านหลังมาในแบบซ็อกเก็ต ที่แค่เสียบขาตั้งลงไป ตัวล็อคจะทำงานอัตโนมัติ ง่ายชนิดที่ว่าใครๆ ก็ทำได้ ไม่ต้องมีเครื่องมือ

เมื่อประกอบเสร็จสิ้น จะออกมาในรูปแบบเช่นนี้ เรียกว่าง่ายและรวดเร็ว ขาตั้งเป็นแบบกลม ทำให้จับถนัดมือ ทั้งในแง่ของการประกอบ และการปรับหมุนเมื่อใช้งาน

พอร์ตต่อพ่วง ประกอบไปด้วย Audio, USB-C, HDMI1, HDMI2, DisplayPort, USB Type-A 2 ช่อง, USB-B และพอร์ตอแดปเตอร์ไฟเลี้ยง ในแง่ของการเชื่อมต่อ 200Hz จะใช้ร่วมกับ DisplayPort และ USB-C ส่วนถ้าใช้ HDMI จะอยู่ที่ 180Hz เท่านั้น

OSD settings

ในการปรับแต่ง OSD สามารถใช้งาน 5-Way Navigation Joystick ที่อยู่ทางด้านหลังจอได้ ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้งานง่ายมากๆ เพราะแค่ กด เพื่อยืนยัน เลื่อนขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา เพื่อเปลี่ยนเมนู เป็นแบบที่เรียบง่ายและไม่ต้องให้ผู้ใช้ทำความเข้าใจได้ในการใช้เพียงไม่กี่นาที คล้ายกับใน MSI Optix อยู่เหมือนกัน

เมนูทั้งหมดจะมี 6 ส่วน ตามแบบจอเกมมิ่งของทาง MSI ที่เราเคยได้รีวิวกันไปก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น Gaming, Professional, Image, Input Source, Navi Key และ Settings

ส่วนที่สำคัญจอง Gaming นี้ อยู่ที่ Gaming Mode ที่มีให้เลือกปรับตามเกมที่เล่น ไม่ว่าจะเป็น FPS สำหรับแนวเกมแอ็คชั่น, Racing เกมรถแข่งหรือกีฬา, RTS เช่นเกม DOTA2 หรือ COH เป็นต้น รวมไปถึง RPG เช่น Cyber Punk, Black Dessert สามารถเลือกรูปแบบการปรับแสงสีและภาพได้ตามชอบ หรือจะปรับแต่งเพิ่มเติม ในโหมดของ User ก็ได้เช่นกัน

นอกเหนือจากการเล่นเกม ยังสามารถใช้งานในโหมดสำหรับการทำงานอื่นๆ ได้ ด้วยการปรับในหัวข้อ Professional โดยเลือกตามการใช้งาน เช่น โหมดการท่องเว็บหรืออ่าน e-Book ในส่วนของ Reader หรือจะชมภาพยนตร์ใน Cinema รวมถึงใช้ซอฟต์แวร์การตกแต่งภาพหรือวีดีโอ ในส่วนของ Designer และเน้นความบันเทิงเป็นหลัก ยังมีโหมด HDR ให้ได้ใช้อีกด้วย

และในส่วนของ Image จะเป็นการปรับแต่ง แสง ภาพ ความคมชัด และอุณหภูมิสี รวมไปถึงขนาดหรือ Ratio ของหน้าจอ มีให้เลือกทั้ง 4:3, 16:9 และ 21:9 ขึ้นอยู่กับ Source และประเภทของงานที่ใช้ เพราะซอฟต์แวร์บางตัว จะเลือกใช้แบบ 4:3 เท่านั้น

Input Source เป็นตัวเลือกสำหรับการต่อสายสัญญาณจากพอร์ตต่างๆ รวมถึงการตั้งค่าปุ่มให้เป็นคีย์ลัด เมื่อจะใช้งานบน Navi Key สุดท้ายคือ การตั้งค่าของตัวจอ ในส่วนของ Settings

Software

นอกจากการใช้ OSD Settings จากปุ่มควบคุมบนจอได้แล้ว ก็ยังมีทางเลือกอย่างซอฟต์แวร์ MSI Gaming OSD 2.0 ในการปรับตั้งค่าจอได้เช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนตัวค่อนข้างชอบเลยทีเดียว เพราะนอกจากไม่ต้องเอื้อมมือไปกดปุ่มด้านหลังแล้ว ยังใช้เมาส์คลิ๊กได้ง่าย และที่สำคัญยังมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่ครบเครื่อง รวมถึงการปรับให้แบบเรียลไทม์อีกด้วย คือ ปรับอะไร ภาพบนจอก็จะเปลี่ยนให้ทันที แทบจะไม่หน่วงเลย

ฟังก์ชั่นในซอฟต์แวร์นี้ มีให้เลือกปรับแต่งใช้งานได้ค่อนข้างมากทีเดียว ว่ากันตั้งแต่ การปรับแต่งโหมดการทำงาน แบบเดียวกับใน OSD แต่รวมมาอยู่ในหน้าเดียว ให้คลิ๊กเลือกได้สะดวกมากขึ้น เช่นเดียวกับการปรับแต่งที่สำคัญ เช่น Response Time, FreeSync, Screen Size และ Image Enhancement และฟังก์ชั่นในการช่วยเล่นเกมให้กับเกมเมอร์อย่างเช่น Screen Assistance หรือสัญลักษณ์แบบเป้าเล็ง สำหรับเป็นไกด์ไลน์ให้กับการเล่นเกมในบางเกม ที่มีฉากเคลื่อนไหวเร็วและดูสับสน ไม่ให้หลงทิศทาง เมื่อโดนโจมตีหนักๆ ก็เลือกเปิดใช้ได้ มีให้เลือกเป็นสิบแบบเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชั่นในการแสดงอัตรารีเฟรชเรตบนหน้าจอได้อีกด้วย

และที่น่าสนใจก็คือ ฟังก์ชั่นในการปรับแต่งแสงสี RGB หรือที่ทาง MSI เรียกว่า Mystic Light ที่บริเวณด้านหลังของจอภาพ ซึ่งมีให้เลือกถึง 11 โพรไฟล์ด้วยกัน แม้ว่าคนเล่นหรือผู้ใช้จะอยู่หน้าจอ ไม่ได้เห็นแสงไฟเหล่านี้ แต่ก็เป็นวิธีที่เพิ่มความสวบงามให้กับชุดคอมและโต๊ะคอมได้ดีทีเดียว ไม่ว่าจะหันเข้าผนังหรือหันด้านหลังออกมาโชว์ด้านนอกก็ตาม

ตัวอย่างแสงไฟที่อยู่ด้านหลังของจอ จะเป็นแบบวงกลม และมีความสวยงามไม่น้อยเลย ซึ่งดูน่าสนใจไม่แพ้จอรุ่นพี่อย่าง MPG series หรือ ARTYMIS ก็ตาม

Adjustable

นอกจากสเปคและฟังก์ชั่นการปรับแต่งหน้าจอของ MSI OPTIX MAG301CR2 รุ่นนี้แล้ว การปรับเลื่อนในจุดต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานของผู้ใช้ ก็ยังเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะรองรับทั้งการปรับเลื่อนความสูง หันซ้ายขวาและ Pivot ได้อีกด้วย เรียกว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว

สำหรับการปรับความสูงนั้น ตัวจอมีขาตั้งที่แข็งแรง และปรับเลื่อนได้ถึง 11cm ด้วยกัน ซึ่งถือว่าทำได้มากกว่าปกติเล็กน้อย เพราะส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 10cm

การปรับมุมก้ม-เงย อยู่ที่ -5° ~ 20° เรียกว่าจะนั่งหรือยืน ก็ใช้งานได้สะดวก

การหันซ้าย-ขวา อยู่ที่ด้านละ 30 องศา ซึ่งเป็นการหันจากตัวฐานของจอ ทำให้เลื่อนได้อย่างนิ่มนวล

แต่ที่เป็นไฮไลต์น่าสนใจก็คือ MSI ยังเพิ่มการปรับหมุนจอในแบบ Pivot 90 องศา มาให้อีกด้วย เอาใจสายท่องอินเทอร์เน็ต ได้ยาวๆ แบบไม่ต้องเลื่อน Scroll mouse บ่อยๆ เปิดหน้าเว็บได้สะใจ

Performance

เข้าสู่โหมดการเล่นเกมก่อนเลยดีกว่า เพราะถ้าได้มาเห็นภาพในขณะที่ทดสอบ รับรองว่าต้องอยากโยนจอเก่าของคุณทิ้งเลยทีเดียว ภาพเดิมๆ ที่ยังไม่ได้ปรับก็ว่าลงตัวแล้ว พอได้ใช้งาน Game Mode ที่เป็น FPS ในเกม Battlefield V ยิ่งทำให้รู้สึกอยากเล่นมากกว่าเดิม โดยเฉพาะคนที่เล่นบนจอเล็กระดับ 22-23″ แล้วขยับมาใช้จอนี้ หรือเป็นจอ 29.5″ ก็จะเห็นความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัด รวมถึงรายละเอียดต่างๆ ที่ปรากฏให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้น

ภาพด้านบนนี้ เราปรับให้เห็นความต่างใน Game Mode แต่ละแบบ ซึ่งให้สีสันและความสว่างที่ต่างกันออกไป จะปรับแบบใดก็ได้ตามความชอบ ซึ่งในแต่ละโหมดจะมี Config ของภาพที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละเกม

ตัวอย่างภาพและสีสันที่เกิดขึ้นในตัวเกม BFV บอกได้เลยว่าฉากมีความสดใสคมชัด ยิ่งได้กราฟิกการ์ดที่สามารถรีดประสิทธิภาพให้เฟรมเรตได้ลื่นๆ ด้วยแล้ว คุณจะได้ภาพที่สวยในการเล่น และรายละเอียดที่มากขึ้น จากตัวอย่างนี้ กลุ่มควันและความเสียหาย รวมถึงการโจมตี สะเก็ดไฟต่างๆ เพิ่มอรรถรสในการเล่นได้ไม่น้อยเลย

มีทดสอบอีกฟีเจอร์หนึ่งที่น่าสนใจบนจอ MSI OPTIX MAG301CR2 รุ่นนี้กันบ้าง นั่นคือ Night Vision ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเติมเต็มในการเล่นเกมที่มีฉากมืดหรือสมรภูมิ ที่มีแสงน้อย ให้คุณมองเห็นได้ชัดเจนมากขึ้น เรียกว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยเพิ่มความได้เปรียบให้คุณมองเห็นสิ่งต่างๆ รวมถึงศัตรูที่อยู่รอบตัวได้ดีกว่าปกติ และภาพด้านบนนี้ เราได้เรียงตามระดับ Night Vision มาให้ เรียกว่าถ้าจะเน้นเห็นแบบชัดๆ โหดๆ จัดเป็น Strong หรือ Strongest กันไปได้เลย แต่ถ้ากลัวจะไม่ได้ภาพและอารมณ์ตื่นเต้นไปบ้าง อาจะเลือกใช้ AI หรือ Normal ก็เพียงพอ

มาดูภาพในเกมเมื่อเปิดแลปิด HDR กันบ้าง ซึ่งในการใช้งานปกติ โดยใช้โหมด FPS ก็ให้ภาพที่ดูสดใส และรายละเอียดที่ชัดดีแล้ว แต่เมื่อเปิด HDR ทำให้ภาพดูสมจริงมากขึ้น โดยเฉพาะการไล่เฉดสี และความสว่าง ที่ให้อารมณ์ตื่นเต้นและน่าสนใจ ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชื่นชอบ แต่แนะนำว่าลองสัมผัสดู แล้วคุณจะรักความเป็น HDR บนจอ MSI รุ่นนี้

อีกเกมหนึ่งที่ได้ประโยชน์จากจอ MSI OPTIX MAG301CR2 เช่นเดียวกัน นั่นคือ DOTA2 ซึ่งจอกว้างๆ แบบนี้ สามารถขยายพื้นที่การมองเห็นของฉากได้มากขึ้น อีกทั้งใครที่ชอบเอฟเฟกต์การโจมตี หรือมองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวได้ชัดขึ้น ต้องไม่พลาด โดยเฉพาะเอฟเฟกต์ของฮีโรบางตัวนั้น ดูสวยงาม น่าเล่นมากขึ้น เลือกใช้โหมด RTS ได้เลย

ส่วนอีกเกมเรียกว่าพลาดไม่ได้เลย สำหรับ Battle Royale ตัวท็อป กับเกม PUBG นี่ก็เป็นอีกเกมที่ให้คุณสามารถสนุกสนานได้อย่างเต็มอิ่ม โดยสามารถใช้ฟีเจอร์ในหลายส่วนได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการตั้งค่า Response Time หรือ Night Vision ซึ่งการตั้งค่าเดิมๆ ของ Game Mode: FPS ก็ช่วยให้การเล่นเกมสนุกขึ้นได้แล้ว แต่การปรับในส่วนอื่นๆ เสริมเข้ามา ก็ให้อารมณ์ความสนุกสนานเพิ่มขึ้นได้ไม่น้อย รวมไปถึงการเปิดใช้งาน AMD FreeSync Premium ก็เข้ากับการ์ดจอที่เรานำมาใช้ในครั้งนี้ ช่วยลดอาการภาพขาด ทำให้ดูสมูทขึ้น แม้จะขยับตัวไวๆ แต่จอก็ตอบสนองได้ไว กับเฟรมเรตระดับ 100fps ก็ทำให้ขับเคลื่อนตัวเกมได้อย่างลื่นไหลเลยทีเดียว

การแบ่งพื้นที่เพื่อใช้งานแบบหลายหน้าต่างบนจอ MSI รุ่นนี้ ก็ถือว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง ด้วยสัดส่วน 21:9 ทำให้ความยาวแบบ Ultra-Wide มากขึ้น พื้นที่การแบ่งแบบ 50:50 ใช้ประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเทรดหุ้น และการท่องเว็บไซต์ดูข้อมูลไปพร้อมๆ กันได้ เช่นเดียวกับการดูวีดีโอ ไปพร้อมกับการเล่นเน็ต หรือจะเป็นการเปรียบเทียบเอกสารบนซอฟต์แวร์ Office ไม่ว่าจะเป็น Word, Excel หรือ PowerPoint ก็ทำได้ง่ายดาย แต่ถ้าใครไม่สะดวกในการ Split หน้าจอ Windows เอง ก็ใช้ซอฟต์แวร์ MSI Gaming OSD 2.0 จัดการได้เลย สะดวกมากๆ

ส่วนถ้าคุณเป็นนักเล่นเน็ตหรือชอบดูข้อมูลผ่านเว็บ การอ่าน eBook แบบไม่ต้องสกอลล์เมาส์บ่อยๆ แนะนำว่าการปรับ Pivot แบบนี้ ก็ทำให้คุณสะดวกขึ้นอย่างแน่นอน แม้ว่าจะเป็นจอโค้ง แต่ทาง MSI ออกแบบจอ MSI OPTIX MAG301CR2 ออกมาได้ดีทีเดียว การปรับหมุนก็ง่าย พลิกซ้ายหรือขวา จากนั้นตั้งค่า Display ให้เป็น Portrait ก็พร้อมใช้งานได้แล้ว

ในการดูวีดีโอหรือการชมภาพยนตร์ ก็ดูได้อย่างเต็มอิ่ม ไม่เพียงเรื่องของสีสันที่สดใส เมื่อปรับใช้ในโหมด Cinema เท่านั้น แต่ยังเพิ่มความลึกของสี และรายละเอียดในการไล่เฉดสีได้จากการเปิด HDR อีกด้วย รวมไปถึงขอบจอที่เป็น Frameless design ทำให้ขอบบางเป็นพิเศษ ดูแล้วไม่เกะกะสายตา จะต่อจอเพิ่มก็ยังดูลงตัวอีกด้วย

MSI OPTIX MAG301CR2 monitor 16 — HDR Off

MSI OPTIX MAG301CR2 monitor 19 — HDR Off

ภาพด้านบนนี้ เป็นตัวอย่างของวีดีโอที่เป็นโหมดปกติด้านซ้ายมือ และด้านขวาที่เพิ่มแสงเงาและสีสันมากขึ้น ด้วยการเปิดใช้ HDR เรียกว่าความสวยงามสมจริง ต่างกันพอสมควร

ส่วนสุดท้ายเป็นการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ตัดต่อภาพ แม้ว่าจะเป็นจอในแบบ 21:9 ที่เน้นความกว้างของหน้าจอ แต่ก็ยังให้พื้นที่ในการจัดการวีดีโอบน Adobe Premier Pro ทำงานได้คล่องตัวได้ โดยเฉพาะการปรับสัดส่วนของ Preview, Source และ Timeline ได้สะดวกทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี หากต้องการพื้นที่ที่จัดเต็ม สามารถใช้งานช่อง Timeline ได้สะดวกขึ้น เพิ่มจอแยกสำหรับ Source เฉพาะอีกหนึ่งจอ ก็น่าสนใจ นอกจากนี้ MSI OPTIX MAG301CR2 ก็ยังรองรับงานด้านตัดต่อนี้ได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะมาพร้อม DCI-P3 82% และ sRGB 103% แม้จะไม่ได้สูงระดับจอที่ใช้เกรดสีในงานสตูดิโอ แต่ขอบเขตสีในระดับนี้ ก็ตอบโจทย์กลุ่มเกมแคสเตอร์ หรือยูทูปเบอร์ได้ดีในระดับหนึ่ง

Conclusion

ด้วยคุณสมบัติหลายด้าน บวกกับความสวยงามของการแสดงผล ที่ทำให้จอ MSI OPTIX MAG301CR2 รุ่นนี้ดูมีเสน่ห์มากขึ้น โดยเฉพาะกับเกมเมอร์และนักแข่งอีสปอร์ตที่ต้องการเติบโตไปกับการเล่นเกมได้อย่างสนุกสนาน กับการอัพเกรดจากจอเดิมที่เคยใช้ ขยับมาเป็นจอใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม หรือคนที่เริ่มไต่อันดับ ขยับมาเป็นเกมเมอร์ระดับอีสปอร์ต ก็สามารถใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์ในหลายส่วนได้ ไม่ว่าจะเป็นอัตรารีเฟรชเรต 200Hz หรือ AMD FreeSync Premium โดยเฉพาะในแง่ของการมองเห็น ที่จะช่วยเพิ่มความแม่นยำได้มากขึ้น หรือเกมเมอร์ที่ต้องการอรรถรสในการเล่นเกมได้มากกว่าเดิม ด้วยจอขนาดใหญ่ 30″ และมีลูกเล่นอย่าง Screen Assistant หรือ Night Vision ฟีเจอร์ที่โดดเด่น น่าจะทำให้ใครหลายคนเติมเต็มการใช้งานได้มากกว่าการเล่นเกมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นนักสร้างคอนเทนต์ หรือจะเป็นเกมแคสเตอร์ก็ตาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเป็นเกมมิ่งมอนิเตอร์ ที่เกมเมอร์ในยุคนี้ไม่ควรพลาด

ข้อมูลเพิ่มเติม

จอมอนิเตอร์อีสปอร์ต MSI Optix MAG301CR2 200Hz 2K 1ms 11,900 บาท โปรโมชั่นเปิดตัวสินค้า
10,500 บาท รับประกัน 3 ปีเต็ม https://th.msi.com/Monitor/Optix-MAG301CR2
ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://bit.ly/AdviceMAG301CR2

รับ Steam Code มูลค่า 20USD ฟรี! เมื่อ ร่วมกิจกรรม MSI Shout Out แชร์ประสบการณ์ใช้สินค้า MSI
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://msi.gm/ShoutOutTH
เลือกจอเกมมิ่งที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ที่นี่: https://msi.gm/BestGamingMonitorTH

ติดตามโปรโมชั่น ได้ที่: https://msi.gm/Promotionth
MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand
MSI Call Center : 02 409 2984 (8.30 – 17.30 น.)

from:https://notebookspec.com/web/614273-msi-optix-mag301cr2-gaming

NOTEBOOKSPEC

MSI MPG ARTYMIS 323CQR จอเกมมิ่ง 1000R 32″ 2K 165Hz เล่นเกม ดูหนัง เทรดหุ้นสะใจ ไฟ RGB ฟีเจอร์แน่น

กันยายน 29, 2021 Feed News

MSI MPG ARTYMIS 323CQR จอเกมมิ่ง 1000R 32″ 2K 165Hz เล่นเกม ดูหนัง เทรดหุ้นสะใจ ไฟ RGB ฟีเจอร์แน่น

MSI MPG ARTYMIS 323CQR เป็นอีกหนึ่งจอเกมมิ่งระดับ Esport ที่มีดีกรีความร้อนแรง โดย ARTYMIS นี้เป็นซีรีย์จอโค้งระดับ 1000R ของทาง MSI มีให้เลือกตั้งแต่ 24 นิ้วไปจนถึง 34 นิ้ว โดยรุ่นที่เราได้มาทดสอบนี้ เป็นขนาดจอที่ใหญ่ 32″ WQHD 2560x1440p ที่อัตรารีเฟรชเรต 165Hz ให้ค่าความสว่างถึง 400nits และมีขอบเขตสีที่สูงถึง 89.8% DCI-P3 และ 113% sRGB ปรับเลื่อนให้เข้ากับสรีระในการใช้งานได้ พร้อมการเป็น จอโค้งในระดับ 1000R ซึ่งเป็นโค้งกระชับสายตาแบบที่สมจริงมากที่สุด (Human Eye) เหมาะกับไซส์ของหน้าจอในระดับนี้ ฟังก์ชั่นที่เอาใจเกมเมอร์ เช่น Mouse sling และที่แขวนหูฟัง เพิ่มความสวยงามให้กับด้านหลังของจอภาพ ด้วยแสงไฟ RGB ที่ปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ โดยมีฟีเจอร์สำหรับคอเกมแบบแน่นๆ อีกเพียบ #MSI

MSI MPG ARTYMIS 323CQR 32″ 165Hz

Specification
Design
Port connector
Function
Feature
Adjustable
OSD settings
Performance
Conclusion

Specification

	Description
PANEL SIZE	31.5″ (80 cm)
PANEL RESOLUTION	2560 x 1440 (WQHD)
REFRESH RATE	165Hz
RESPONSE TIME	1ms (MPRT)
PANEL TYPE	VA
BRIGHTNESS (NITS)	400
VIEWING ANGLE	178° (H) / 178° (V)
CURVATURE	1000R
CONTRAST RATIO	2500:1
ACTIVE DISPLAY AREA (MM)	697.344 (H) x 392.256 (V)
SURFACE TREATMENT	Anti-glare
DISPLAY COLORS	1.07B(8bit + FRC)
DCI-P3 / SRGB	89.8% / 113%
VIDEO PORTS	1x DP(Supports WQHD@165Hz as specified in DisplayPort 1.2a) 2x HDMI(Supports WQHD@165Hz as specified in HDMI2.0b)
VESA MOUNTING	100 x 100 mm
HDR SUPPORT	Yes, HDR 400
SIGNAL FREQUENCY	30~160 KHz(H) / 60~165 Hz(V)
ADJUSTMENT (TILT, SWIVEL,HEIGHT)	-5° ~ 20°, -30° ~ 30°, 0 ~ 100mm
DIMENSION (W X H X D)	701.4 x 317.7 x 473.4 mm
WEIGHT	9 kg
Note	Display Port: 2560 x 1440 (Up to 165Hz) HDMI: 2560 x 1440 (Up to 144Hz) Type C. 2560 x 1440(Up to 165Hz) *sRGB and DCI-P3 follow CIE1976 standard

Design

มาในโทนสีดำ และขอบบางพิเศษ เป็นแบบที่เรียกว่า Frameless design คือลดขนาดขอบ ให้มีพื้นที่ในการแสดงผลมากขึ้นทั้ง 3 ด้าน มีเพียงด้านล่างเท่านั้น ที่มีขนาดใหญ่ เพื่อเพิ่มความแข็งแรง

ด้านล่างนี้เอง ยังมาพร้อมกับฟีเจอร์ที่น่าสนใจ อย่าง Smart Brightness 2.0 เซ็นเซอร์ปรับระดับแสงในตัว และมีโลโก้ MSI สีขาวอยู่ทางมุมล่างซ้ายของหน้าจอเท่านั้น ค่อนข้างดูสบายตาเลยทีเดียว

ด้วยการที่เป็นจอภาพแบบโค้ง จึงทำให้โครงสร้างไม่ได้บางลงมากนัก เน้นให้ความแข็งแรงในการใช้งาน โดย MSI จัดลูกเล่นอย่าง ที่แขวนหูฟังมาให้ด้านข้างขวา สามารถกดปุ่มเพื่อดึงออกมาใช้งานได้ และดันกลับเมื่อเลิกใช้

MSI MPG ARTYMIS 323CQR ใช้ฐานในแบบ Y ตามสมัยนิยม ที่ให้สมดุลในการรับน้ำหนัก สำหรับจอขนาด 32” แบบนี้ และข้อดีคือ หมุนจอซ้ายขวาได้สะดวก ไม่เปลืองพื้นที่บนโต๊ะทำงานมากนัก เพราะยังเหลือไว้สำหรับวางคีย์บอร์ด และอุปกรณ์อื่นๆ ได้อีกด้วย

ด้านหลังที่ดูบึกบึนแข็งแรง และยังมาพร้อมกับเส้นแสงไฟ RGB และโลโก้ที่อยู่มุมบน ซึ่งซิงก์แสงไฟได้อย่างสวยงาม ปรับแต่งได้ง่ายๆ ด้วยซอฟต์แวร์ OSD Gaming 2.0

มุมมองจากด้านข้าง ทำให้เห็นเลยว่า MSI เน้นโครงสร้างที่ให้ความแข็งแรง เพื่อให้รับกับตัวจอได้เป็นอย่างดี สัดส่วนที่ดูหนาขึ้น เป็นเพราะส่วนโค้งของหน้าจอ มีขาตั้งขนาดใหญ่ และถ่ายน้ำหนักลงตัวฐาน ที่เป็นตัว Y ซึ่งดูแล้วลงตัวทีเดียว

ดีไซน์แบบคาร์บอนเคฟลาร์ ที่อยู่ด้านบน ซึ่งทำให้ดูสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ใครที่ชอบโชว์ด้านหลังจอออกข้างนอก MSI รุ่นนี้ ตอบโจทย์คุณได้ชัดเจน

แถบด้านข้าง ที่เป็นโลโก้รูปมังกร อันเป็นสัญลักษณ์ของทาง MSI Gaming ไม่ได้เป็นเพียงโลโก้ธรรมดา แต่มาพร้อมกับแสงไฟ RGB ปรับแต่งได้ผ่านทางซอฟต์แวร์เช่นกัน

สามารถคลิ๊กที่โลโก้ RGB บนซอฟต์แวร์ เพื่อเข้าสู่รูปแบบการปรับแต่งแสงไฟ RGB ซึ่งมีโพรไฟล์หรือรูปแบบแสงให้ถึง 10 แบบด้วยกัน ปรับได้แบบเรียลไทม์ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับโต๊ะเล่นเกมของคุณ

มุมล่างซ้ายมาพร้อมกับ 5-way OSD navigation Joystick ที่ใช้ในการตั้งค่า OSD พร้อมปุ่มเพาเวอร์และ Gaming Mode เพื่อเป็นคีย์ลัดเข้าสู่โหมดหน้าจอสำหรับการเล่นเกมได้ทันที

ในภาพรวมการออกแบบ ดูมีการเติมแต่งเพิ่มฟังก์ชั่น เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้ใช้ได้มากพอสมควร ซึ่งดูแล้วเกมเมอร์ จะได้ใช้งานกันสนุกสนานมากขึ้น นอกเหนือจากฟีเจอร์ที่มีมาให้ จัดเป็นอีกซีรีส์หนึ่งที่ออกมาได้โดนใจใครหลายคน

Port connector

DisplayPort 1 พอร์ต สำหรับการใช้งานความละเอียด 1440p 165Hz
HDMI 2 พอร์ต 1440p จะอยู่ที่ 144Hz
Type-C มาให้ 1 พอร์ต สำหรับการแสดงผล 1440p 165Hz
USB Type-B จำนวน 1 พอร์ต สำหรับต่อเข้ากับพีซี โน๊ตบุ๊ค เพื่อใช้ร่วมกับซอฟต์แวร์
USB Type-A จำนวน 2 พอร์ต สำหรับอุปกรณ์เช่น เมาส์-คีย์บอร์ด

Function

ด้านหลังของจอ จัดเตรียมมาแบบล้ำสมัย ด้วยแถบลายเคฟลาร์ที่อยู่ด้านบน มีเฉดของไฟ RGB พาดผ่านตรงกลาง ตัดกับด้านล่างที่เป็นลายอะลูมิเนียมปัดเสี้ยน และมีโลโก้เรืองแสง RGB ซึ่งซิงก์กับ MSI MYSTIC Light มาด้วย

ที่แขวนหูฟัง ซึ่งทำมาเป็นพิเศษ เอาใจคอเกม อยู่ทางด้านข้างขวาของจอภาพ โดยถูกซ่อนเอาไว้ สามารถกดปุ่มเพื่อดึงออกมาใช้งานได้ และดันกลับเมื่อเลิกใช้ เป็นดีไซน์ที่ดูลงตัวทีเดียว

นอกจากนี้ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ ยังได้เพิ่มลูกเล่นพิเศษ Mouse sling มาให้ในการแขวนสายเมาส์ ไม่ให้เกะกะในการเล่นเกม สามารถย้ายไปไว้ได้ทั้งด้านซ้ายและขวา ตามถนัด

ขาตั้ง ถูกดีไซน์ให้ดูล้ำสมัยเข้ากับตัวจอได้ดี ปรับเลื่อนขึ้นลงได้ และยังมีช่องสำหรับลอดสายไฟและสายสัญญาณ เพื่อความเป็นระเบียบมากขึ้น จุดนี้ถือว่าทำได้ดี เพราะถ้าจะใช้จอนี้อย่างเต็มรูปแบบ ก็จะต้องมีสายอย่างน้อยๆ 3 เส้น คือ สายสัญญาณ, สายไฟ, สาย USB เพื่อใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ Gaming OSD 2.0 เป็นต้น

สำหรับฟีเจอร์นี้ มีประโยชน์อย่างมาก เมื่อคุณต้องใช้งานในสถานที่ที่มีความต่างของแสงไฟ หรือมีแสงจากภายนอกมากระทบ หรือบางครั้งต้องใช้งานในที่แสงน้อย หน้าจอจะปรับเพิ่มหรือลดแสงให้พอเหมาะกับการใช้งาน และการตั้งค่าเดิมของคุณ เติมเต็มอรรถรสในการเล่นเกม พร้อมกับถนอมสายตา เพื่อให้การมองเห็นชัดเจน ไม่สว่างจ้ามากเกินไป หรือแสงน้อยจนมองไม่ชัด โดยการใช้งานสามารถตั้งค่าได้จาก OSD settings เข้าไปที่โหมด G.I แล้วเลือกที่ Auto Brightness Control แล้วเลือก Auto ได้เลย

MSI Gaming OSD Intelligent

นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่งจอภาพ ผ่านทางซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า MSI Gaming OSD 2.0 ได้อีกด้วย เป็นโปรแกรมที่สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ของ MSI ได้โดยตรง ซอฟต์แวร์นี้จะทำหน้าที่คล้ายกับ OSD settings ของหน้าจอ แต่ง่ายกว่า เพราะคุณจะสามารถใช้เมาส์ในการปรับ เลื่อน คลิ๊ก ได้ทันที และยังเป็นการปรับแบบ Real-time ได้อีกด้วย ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งดีที่ทาง MSI เอาใจใส่ต่อผู้ใช้ และง่ายต่อการปรับแต่ง

สำหรับโปรแกรมดังกล่าวนี้ ดูจะได้รับการปรับปรุงให้มีฟังก์ชั่นมากขึ้น แต่ยังคงใช้งานได้ง่าย เหมาะกับคนที่ไม่ชอบการเข้าไปปรับแต่งจากปุ่ม OSD ด้านหลังจอ ซึ่งยังสามารถปรับแต่งได้ง่ายดาย และทำงานในแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ใช้เลือกปรับได้ตั้งแต่โพรไฟล์การใช้งาน ซึ่งจะรวมทั้งในส่วนของ Game Mode และ Professional เข้าด้วยกัน ทำให้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงการใช้งานฟีเจอร์อย่าง Auto Brightness หรือ Smart Crosshair จะปรับแต่งหรือตั้งค่าการใช้งาน ง่ายกว่าเดิมเยอะเลย

ในแท็ป Tools ทางขวามือ จะเป็นฟังก์ชั่นในการปรับแต่งเมาส์ คีย์บอร์ด ด้วยการตั้งค่าความละเอียด ปรับความเร็ว รวมถึงการจัดการระบบพลังงาน การย่อ-ขยายแอพฯ บนวินโดว์ และการจัดการแสดงผลหน้าจอ เหมือนที่เรากด Win+P ทำให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น

Split Windows เป็นการจัดการหน้าจอ ด้วยการแบ่งหน้าต่าง หรือ Split Windows ให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องไปคำนึงว่า เราจะต้องไปในรูปแบบการ Snap หน้าจออย่างไร แค่เลือกแอพที่ต้องการ 2-4 หน้าต่าง แล้วเลือกรูปแบบ Split ที่ต้องการได้ทันที เป็นอีกฟีเจอร์หนึ่ง สำหรับคนที่ชอบใช้งานในแบบหลายๆ หน้าต่างพร้อมกัน ชื่นชอบ

Feature

KVM: ฟีเจอร์ที่น่าสนใจที่มาพร้อมกับจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR ด้วยการลดความวุ่นวายในการต่อสายเมาส์ คีย์บอร์ด ในกรณีที่ต้องใช้คอมและโน๊ตบุ๊คพร้อมกันบนหน้าจอเดียว เพราะแค่คุณต่อเมาส์ คีย์บอร์ด เข้ากับจอโดยตรง ก็สลับการใช้งานพีซีและโน๊ตบุ๊คได้เลย ไม่ต้องซื้อเมาส์ คีย์บอร์ด 2 ชุด เป็นฟีเจอร์ที่ถูกเติมเข้ามาให้กับเกมเมอร์ สตรีมเมอร์ หรือแม้กระทั่งการทำงาน WFH ก็ยังสะดวก ช่วยให้การควบคุมพีซีหรืออุปกรณ์อื่นๆ ผ่านทางเมาส์ คีย์บอร์ดชุดเดียวเท่านั้น

เข้าไปดูตัวอย่างการใช้งานได้ที่ MSI

Sound Tune: สามารถตัดเสียงรบกวนได้ เพื่อการรับฟังเสียงได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ด้วยการต่อสาย USB-C เข้ากับพีซีหรือโน๊ตบุ๊คที่ใช้งานร่วมกัน ฟีเจอร์นี้ AI จะทำการคำนวณและจัดการเสียงในการสื่อสาร ให้มีความคมชัด ลดเสียงรบกวนจากภายนอก เพื่อการเล่นเกมเป็นทีมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้งานได้ทั้งหูฟัง ลำโพง และไมโครโฟน

Smart Crosshair: ฟีเจอร์พิเศษ ที่ช่วยให้ผู้ใช้มีจุดนำสายตา เพื่อให้ดูทิศทางด้านหน้าได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสมรภูมิที่มีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง แต่ที่พิเศษก็คือ สามารถปรับสีของ Crosshair ให้ Contrast หรือโดดเด่น เปลี่ยนสีไปตามฉากที่เคลื่อนไหว

Smart Brightness 2.0: ปรับความสว่างของหน้าจออัตโนมัติ ด้วยเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านหน้าของจอ

Console Mode: ให้คุณเชื่อมต่อการแสดงผลกับเครื่องเล่นเกมคอนโซลอย่างเช่น PS5 ได้ความละเอียดที่ตรงในระดับ 2K ทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัด ต่างจากจอ 2K ทั่วไป PS5 จะลดความละเอียดเหลือเพียง FHD ทำให้ลดทอนคุณภาพลงไป

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ performance 55 — HDR Off

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ performance 65 1 — HDR Off

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ performance 53 1 — HDR Off

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ performance 63 — HDR Off

Certified DisplayHDR400: เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ กับภาพที่มีสีสันสดใสมากขึ้น เมื่อเทียบกับการไม่ได้เปิด HDR ซึ่งภาพที่ได้มีความลึกชัดในมิติ และการไล่เฉดสีได้อย่างสวยงาม ทำให้เห็นรายละเอียดของภาพได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม Battlefield V ที่รองรับการเปิดใช้งาน HDR หรือการชมภาพยนตร์ก็ตาม เรียกว่ามิติที่ได้แตกต่างกันอย่างชัดเจน เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ชื่นชอบความมีสีสันและเห็นรายละเอียดได้มากกว่าการใช้จอทั่วๆ ไปในการเล่นเกม

Adjustable

MSI MPG ARTYMIS 323CQR รองรับการปรับเลื่อนจอได้ตามปกติ และเกือบครบทุกรูปแบบ เพื่อให้เข้ากับสรีระของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็น ปรับความสูงได้ที่ระดับ 10cm สำหรับคนที่มีเก้าอี้ทำงานที่สูงขึ้นมาหน่อย ดูจะใช้งานได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องหาที่รองจอ และไม่ต้องก้มคอมาก จนเสียสุขภาพ กลางหน้าจอตรงกับระดับการมองได้พอดี

รองรับการปรับมุม Tilt หรือก้ม-เงย ได้ที่ -5 ถึง 20 องศา เหมาะทั้งการนั่งทำงาน หรือการยืนเพื่อใช้งานได้สะดวก ซึ่งจุดเด่นอยู่ที่แกนหลักในการจับยึดจอ ที่ออกแบบมาแข็งแรง รับน้ำหนักได้ดีทีเดียว

สามารถปรับหันซ้าย-ขวา ได้ด้านละ 30 องศา ในกรณีที่ต้องการแบ่งปันให้คนด้านข้างได้มองเห็นมากขึ้น

ไม่สามารถปรับ Pivot ในแบบ 90 องศาได้ เช่นเดียวกับในรุ่น MSI MPG ARTYMIS 343CQR เพราะเป็นจอโค้งที่เน้นการเล่นเกมเป็นหลัก

OSD settings

ในหน้าของ G.I มีฟีเจอร์สำคัญอย่าง Auto Brightness ใช้ร่วมกับเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านหน้าของจอ ในการปรับเพิ่ม-ลดแสง ให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละสภาพแสงรอบตัว, KVM รวมถึง Smart Crosshair ที่เป็นตัวช่วยในการจับทิศทาง และยังปรับสีให้ตัดกับฉากได้อัตโนมัติ

ในหน้าของ Gaming คอเกมจะได้ประโยชน์ในส่วนนี้มากที่สุด เพราะมาพร้อมกับฟีเจอร์ Game Mode ที่มีตัวเลือกให้ปรับรูปแบบหน้าจอ เพื่อเข้ากับเกมที่เล่น เช่น FPS, RTS, Racing หรือ RPG เป็นต้น, หรือจะเป็นฟีเจอร์ Night Vision ที่ช่วยให้การมองเห็นฉากมืดในเกมได้ชัดเจน ซึ่งสร้างความได้เปรียบให้กับการเล่นไม่น้อยเลย

ส่วนหน้าของ Professional จะเป็นส่วนที่มีความสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพราะใช้สำหรับการปรับแต่ง ที่มีผลต่อการใช้งาน โดยเฉพาะ Pro Mode ที่ใช้ในการปรับโพรไฟล์ของหน้าจอ เพื่อใช้งานในแบบที่ต่างกัน เช่น Movie, Office หรือจะเป็น sRGB ก็ตาม, Low Blue Light ลดแสงสีฟ้าให้คนที่ต้องจ้องจอคอมนานๆ ใช้งานได้สบายตามากขึ้น, HDCR, Image Enhancement เพิ่ม-ลดสี เพื่อปรับให้ดูสวยงามตามความต้องการ มีให้เลือกถึง 4 ระดับ

และในหน้าของ Image นั้น จะเน้นเรื่องของภาพเป็นส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น ค่า Brightness, Contrast, Sharpness หรือ Color ก็ตาม

ส่วนหน้าของ Navi Key จะเป็นการกำหนดคล้ายๆ ปุ่มลัด เพื่อให้เข้าถึงเมนูและการปรับแต่งที่ใช้บ่อยๆ ได้ง่ายขึ้น

ในหน้า Settings จะเป็นการตั้งค่าพื้นฐานของหน้าจอ ไม่ว่าจะเป็น ภาษา ความโปร่งแสง แสงไฟ RGB ด้านหลัง หรือจะเป็นการตั้งค่าปุ่มต่างๆ

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ OSD 20 1 — Racing

Game Mode: MSI MPG ARTYMIS 323CQR ให้คุณสามารถปรับให้เข้าตามเกมที่เล่นได้ เพื่อให้ได้สีสัน รายละเอียดตามความเหมาะสม จากตัวอย่างนี้ เราให้ดูในเกมเดียวกันคือ BF V กับตัวอย่างภาพและสี ที่ปรากฏขึ้น จากการปรับใน OSD settings จะเห็นได้ถึงความแตกต่างในแต่ละโพรไฟล์อย่างชัดเจน

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ OSD 27 — Night Vision: Off

MSI MPG ARTYMIS 323CRQ OSD 30 — Night Vision: Off

Night Vision: ใครที่เล่นเกมแนวสยองขวัญ หรือต้องอยู่ในสมรภูมิที่มืด แสงน้อย ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเปรียบหรือโดนยิงก่อน เพราะคุณสามารถเลือกปรับโหมดนี้ เพื่อให้การมองเห็นชัดเจน แบบไม่เสียอรรถรสในการเล่น จากตัวอย่างด้านซ้ายที่ Off เอาไว้ และด้านขวา เราเปิดใช้งาน จะเห็นผนังไม้ตรงหน้ารถถังได้ชัดเจนทีเดียว

Performance

พูดถึงการตั้งค่าต่างๆ เพื่อให้เข้ากับเกมกันไปบ้างแล้ว ลองมาทดสอบเล่นเกม Battlefield V ด้วยจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้กันบ้างดีกว่า ว่าจอโค้ง 32″ ในแบบ 1440p 165Hz จะทำให้เกมดูน่าเล่นขึ้นเพียงใด ในเบื้องต้นบอกเลยว่า ถ้าคุณเล่นเกมบนจอ 24″ FHD แล้วขยับมารุ่นนี้ อาจจะต้องปรับตัวเล็กน้อย เพราะภาพที่ได้เต็มตามากๆ ก่อนหน้านี้แม้จะได้ทดสอบกับจอในระดับใกล้กัน แต่เป็นแบบ WQHD 2K สัดส่วนการแสดงผล ต่างอารมณ์กันอยู่พอสมควร ด้วยความเป็น 16:9 ของรุ่นนี้ ก็ทำให้การชมภาพมีความกระชับสายตามากขึ้น ในแง่ของพื้นที่ด้านบนที่มีความสูงกว่าเดิม ก็ทำให้การเล่นและการคอนโทรล ทำได้ง่าย ช่วงแรกรู้สึกเหมือนมิติข้างๆ จะหายไปบ้างเล็กน้อย แต่พอปรับใช้มาเรื่อยๆ ก็ดูสบายตา และให้ความตื่นเต้นในการเล่นได้เหมือนเดิม

ซึ่งเกมนี้สามารถปรับ HDR ได้ เมื่อเทียบกับการเล่นเกมในโหมด FPS แบบเดิมๆ ซึ่งระบบก็ปรับโพรไฟล์โหมดสีมาให้ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อเปิดใช้งาน HDR สีสันดูน่าเล่นขึ้นอีกเยอะ แม้ว่าจะดูสีจะจัดจ้าน จนดูแปลกตาไปบ้าง แต่โดยรวมการเกลี่ยสีของจอทำได้ดี จนทำให้ดูกลมกลืนและสนุกไปกับการเล่นได้ไม่น้อยเลย อย่างไรก็ดี อยู่ที่ความชื่นชอบของคุณเอง ว่าจะเล่นในโพรไฟล์ปกติกับสีที่ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากเห็นอะไรที่ดูตื่นตาตื่นใจมากขึ้น แนะนำให้เปิดใช้งาน HDR ในเกมได้เลยครับ

มาถึงเกม PUBG กันบ้าง เกมนี้หลายคนให้ความสำคัญกับการจับทิศทางและมองเห็นศัตรูได้ในระยะไกล เพื่อหวังผลในการยิงที่แม่นยำ โพรไฟล์ FPS เพียงพอต่อการใช้งาน และถ้าเครื่องคุณแรงในระดับหนึ่ง ให้ลองเปิด View Distance ให้สูงกว่า 100 หรือเปิดจนสุดก็ได้ เพราะคุณจะได้ประโยชน์ในการส่องระยะไกลได้ดี และภาพก็ยังลื่นไหลต่อเนื่อง เข้าคู่กับรีเฟรชเรตระดับ 165Hz ได้สบายๆ ทำให้ภาพไม่ขาด และไม่รู้สึกเสียอารมณ์ เมื่อเคลื่อนไหวรวดเร็ว ในช่วงที่โดนโจมตีหนักๆ อีกด้วย นอกจากนี้การเปิดใช้ Smart Crosshair ก็ยังช่วยให้การจับทิศทางการเล่นได้ง่ายขึ้น ช่วงแรกอาจจะรู้สึกแปลกๆ เพราะมีจุดนำสายตาเพิ่มเข้ามา แต่ลองเล่นไปสักระยะการปรับสีให้อัตโนมัติ ก็กลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราตื่นตัว และการยิงทำได้ง่ายขึ้นอีกด้วย แม้จะไม่ได้มีผลต่อความแม่นยำโดยตรง แต่ก็ช่วยให้การเช็คระยะทำได้ดี

มาที่เกมแนว MOBA ยอดฮิตกับ DOTA2 กันบ้าง เกมนี้แม้ว่าอาจจะไม่ได้ต้องการรีเฟรชเรตที่สูงมากมายนัก แต่ในแง่ของสีสันและพื้นที่การมองเห็นในฉาก จอภาพระดับ 1440p นี่ถือว่าสร้างความได้เปรียบอยู่ไม่น้อยเลย เพราะสามารถมองเห็นเหตุการณ์ในจุดต่างๆ ได้ง่ายขึ้น รวมถึงสีสันที่เราลองปรับเป็น RTS ก็ทำให้ได้ภาพที่สวยงาม และความสว่างอยู่ในระดับที่ดี โดยเฉพาะเอฟเฟกต์ในการโจมตีด้วยเวทย์ใหญ่ ก็สร้างความเร้าใจได้ไม่น้อย แต่ถ้ายังไม่ถูกใจ ยังลองปรับด้วยโหมด User ได้ เอาแบบที่คุณชอบใจได้เลย

ในแง่ของการชมภาพยนตร์ ด้วยจอขนาด 16:9 นี้ เป็นระดับ Ratio ที่ดูจะเหมาะกับบรรดา Source หรือมีเดียที่มีให้ชมกันเยอะแยะในปัจจุบัน กับการชมแบบ Full screen จุดที่สังเกตได้เลยก็คือ ขอบจอที่บางมากๆ ทำให้รู้สึกสบายตา ไม่มีขอบหนาๆ มาเกะกะ เรื่องสีสัน ให้ความคมชัดสดใส จุดที่เด่นคือ ในแง่ของที่เป็นโซนมืด กลับมองเห็นรายละเอียดได้ดีพอสมควร การไล่เฉดสีมีความนุ่มนวล แต่ที่สำคัญคือ ภาพที่ดูเนียนตา และไหลลื่น มองเห็นฉากได้ทั่วจอ กับความโค้ง 1000R ที่ดูลงตัวมากทีเดียว แต่อย่าลืมปรับโหมดโพรไฟล์ให้เป็น Movie ด้วย

เรามีตัวอย่างบางส่วนของสีสันบนจอภาพ กับการใช้งาน HDR ซึ่งทำให้เห็นสีสันและรายละเอียด ที่มีการเกลี่ยสีออกมาได้อย่างสวยงามบนจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ ส่วนถ้าต้องการดูรายละเอียดเปรียบเทียบ คลิ๊ก

การที่จอขนาดใหญ่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า จะมีพื้นที่ทำงานเท่ากัน จอที่มีความละเอียดสูง จะช่วยให้การใช้งานแบบหลายงานพร้อมกันสะดวกมากกว่า เพราะสามารถจัดวางหน้าต่างและขนาด Font ได้ง่ายขึ้น ดังนั้นด้วยความละเอียดระดับ 2K หรือ 1440p ของจอรุ่นนี้ ก็ช่วยให้การแบ่งหน้าจอ เทรดหุ้น ท่องเว็บและการดู Youtube เป็นไปได้ไม่ยาก และยังมองเห็นได้ชัดเจน และด้วยฟีเจอร์ Split Window บน Gaming OSD ก็ช่วยให้ใช้งานได้ง่ายกว่าเดิม ช่วยให้ผู้ใช้สามารถพลิกแพลงการปรับแต่งใช้งานได้สะดวก

และไม่ใช่แค่เกมเมอร์เท่านั้นที่จะได้ประโยชน์จากจอ MSI รุ่นนี้ นักเทรดหรือนักลงทุน ไม่ว่าจะเป็น เทรดหุ้น หรือ Cryptocurrency Trade ต่างก็ได้ประโยชน์จากหน้าจอที่ใหญ่ ทำให้มองเห็นรายละเอียดได้ไม่ผิดเพี้ยน และพื้นที่ในการพลอตกราฟชัดเจนกว่า ซึ่งอาจมีส่วนช่วยให้การวิเคราะห์ได้แม่นยำมากขึ้น การขยายหรือย่อกราฟและตารางซื้อขาย เห็นได้กว้างชัดเจน ส่วนที่เหลือก็แค่เหล่านักเทรดเท่านั้น ที่จะตัดสินใจว่าซื้อหุ้นตัวไหนดี บอกเลยว่าจอโค้งแบบนี้ ดีต่อสุขภาพพอร์ตอยู่ด้วยนะ

Conclusion

ในส่วนที่อยากจะบอกกับผู้ใช้ ก็ถูกถ่ายทอดไปในรายละเอียดในจุดต่างๆ ของบทความนี้เกือบหมดแล้ว สำหรับจอ MSI MPG ARTYMIS 323CQR รุ่นนี้ โดยสิ่งที่อยากจะบอกทุกๆ ครั้งหลังการทดสอบก็คือ เหมาะกับใคร? คำตอบคือ กลุ่มที่เป็นเกมเมอร์ และให้ความสำคัญกับเรื่องของความสนุกเป็นหลัก และเน้นที่การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน โดยเฉพาะคนที่เริ่มที่จะใช้เวลาในการเล่นเกมนานขึ้น และกระหายในชัยชนะได้มากกว่าเดิม สตรีมเมอร์และเกมแคสเตอร์ ก็ต่างได้ประโยชน์จากจอขนาดใหญ่นี้เช่นกัน โดยคุณไม่จำเป็นต้องมีคอมที่แรงมาก ก็สามารถใช้งานประโยชน์ในฟีเจอร์ต่างๆ ได้เช่นเดียวกัน และไม่ได้เน้นที่การเล่นเกมเพียงอย่างเดียว แต่ต้องตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย ด้วยฟังก์ชั่นต่างๆ ที่นำเสนอไปทั้งหมด น่าจะเป็นคำตอบได้ดี สำหรับคนที่กำลังมองหาจอขนาดใหญ่ ความละเอียดสูง มีลูกเล่นมากพอ ที่จะไปต่อสำหรับการฝึกฝนสู่การเป็นโปรเกมเมอร์ หรือเล่นทัวร์นาเมนต์ได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ฝากเอาไว้ครับ สำหรับจอ #MSI รุ่นนี้

จอมอนิเตอร์เกมมิ่ง MPG ARTYMIS 323CQR 1000R 20,900 บาท รับประกัน 3 ปีเต็ม https://th.msi.com/Monitor/MPG-ARTYMIS-323CQR

ซื้อสินค้า MSI ได้ที่: https://msi.gm/where-to-buy-solution
รับ Steam Code มูลค่า 20USD ฟรี! เมื่อร่วมกิจกรรม MSI Shout Out แชร์ประสบการณ์ใช้สินค้า MSI รายละเอียดเพิ่มเติม: https://msi.gm/ShoutOutTH

เลือกจอเกมมิ่งที่เหมาะสำหรับตัวคุณได้ที่นี่ : https://msi.gm/BestGamingMonitorTH
ติดตามโปรโมชั่นได้ที่: https://msi.gm/Promotionth

MSI Facebook: https://www.facebook.com/MSIGamingThailand
MSI Call Center : 02 409 2984 (8.30 – 17.30 น.)

from:https://notebookspec.com/web/611679-msi-mpg-artymis-323crq-2k-165hz

NOTEBOOKSPEC

จอคอม มืออาชีพ EIZO 37.5 นิ้ว Ultrawide สว่างเจิดจ้า sRGB 100% ตัดต่อ แต่งภาพ Good!

กันยายน 19, 2020 Feed News

งานตัดต่อระดับมืออาชีพ ไม่ใช่แค่คอมแรง แต่ต้องมี จอคอม ระดับโปร คุณภาพสูง ให้ภาพคมชัด สีสันสมจริงด้วย ล่าสุด EIZO เปิดตัว จอในแบบ Ultrawide 37.5 นิ้ว โค้งกว้าง โอบสายตา ให้ขอบเขตสีที่แม่นยำ

EIZO FlexScan EV3895 ต้องเป็นจออีกรุ่นที่มืออาชีพหรือคนที่กำลังก้าวสู่วงการตัดต่อหรือแต่งภาพอย่างจริงจัง หันมาสนใจ เพราะแค่ค่ายนี้ ก็การันตีถึงความเป็นมือโปรได้อย่างชัดเจน จอคอมรุ่นใหม่ล่าสุดนี้มาในแบบ Ultrawide ซึ่งนับเป็นตัวแรกจากค่ายนี้ ที่มาในรูปลักษณ์ที่สวยงาม โดดเด่นตั้งแต่ฐานไปจนถึงตัวจอ เข้ากับไลฟ์สไตล์ในบ้าน ที่เน้นความทันสมัยหรือออฟฟิศที่ดูล้ำ หน้าจอขนาด 37.5″ ความละเอียด UWQHD+ 3840 x 1600 พิกเซล สัดส่วน 24:10 ฟีเจอร์มาแน่นมาก

หน้าจอใช้พาแนล IPS ให้มุมมองกว้าง คมชัด 178/ 178 องศา แต่ใครที่อยากได้จอนี้ อาจจะต้องมีโต๊ะยาวสักหน่อย เพราะความยาวก็ปาไป 120cm แล้ว ความหนาแน่นของพิกเซลอยู่ที่ 111 ppi และให้ความสว่างกว่าจอทั่วไป 300cd/m2 มีอัตราตอบสนอง 5ms และค่า sRGB 100%, DCI-P3 94% และจุดเด่นคือ คุณสามารถ Input มายังจอได้ถึง 3 device ด้วยกัน และแบ่งหน้าจอใช้งานได้กว้างขึ้น

สามารถปรับแต่งหรือควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส และใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ที่เชื่อมต่ออยู่ ไม่ว่าจะเป็นพีซีหรือโน๊ตบุ๊คได้ด้วยคีย์บอร์ดเพียงอันเดียว แต่ที่น่าสนใจคือ การมีพอร์ต USB Type-C ในการชาร์จไฟให้กับโน๊ตบุ๊คได้อีกด้วย ทำให้ไม่ต้องต่อสายชาร์จอุปกรณ์อื่นๆ ให้วุ่นวาย นอกจากนี้ยังมีพอร์ตสำหรับใช้งานมาให้อีกเพียบ ไม่ว่าจะเป็น HDMI, DisplayPort, USB Type-B และ LAN แต่ที่สำคัญมีลำโพงเสียง Surround มาในตัว

แต่จุดที่น่าสนใจของจอขนาดใหญ่แบบนี้ อยู่ที่การแบ่งพื้นที่ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น โดยเฉพาะคนที่ทำงานด้านกราฟิกหรือมัลติมีเดีย เพราะจะใส่เมนูหรือเปิดภาพพรีวิวได้กว้างกว่าเดิม ด้วยการออกแบบที่บางและไร้ขอบ ทำให้พื้นที่ในการใช้งานกว้างกว่าที่คิด และยังใช้ต่อมัลติมอนิเตอร์ได้แนบเนียนยิ่งขึ้น มีให้เลือกทั้งสีขาวและดำ ผู้ใช้สามารถเก็บสายเข้ากับขาตั้งจอได้อีกด้วย โต๊ะทำงานจะสะอาดขึ้นจนผิดหูผิดตากันเลยทีเดียว นอกจากนี้จอจาก EIZO ยังมาพร้อม EcoView อันเป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ช่วยลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 40% ราคายังไม่เคาะออกมาเป็นทางการ แต่คาดว่าไม่ต่ำกว่า 50,000 – 60,000 บาท

ที่มา: จอ EIZO

from:https://notebookspec.com/professional-monitor-eizo-37-5-flexscan/538037/

NOTEBOOKSPEC

ชี้เป้า Samsung 24 นิ้ว จอ 144Hz Curved เหลือ 4,900 บาท ภาพลื่น

มิถุนายน 2, 2020 Feed News

เรียกว่าอดีตตัวจี๊ดเลนยทีเดียวสำหรับ Samsung รุ่นนี้ เพราะเป็น จอ 144Hz ที่มีพร้อมความโค้งสวยๆ ในขนาด 24″ ที่ดูลงตัวกับเหล่าเกมเมอร์ส่วนใหญ่ ไม่จำเป็นจะต้องถอยออกไปไกล ที่สำคัญความลื่นไหล และดีไซน์ที่ดูสวยงาม น่าจะตอบโจทย์การใช้งานของหลายคนได้ดี งานนี้ทาง JIB มาจัดโปรเหลือแค่ 4,990 บาท มาดูกันว่า SAMSUNG LC24RG50FQEXXT จอเกมมิ่งรุ่นนี้น่าใช้เพียงใด

ไปช้อปกันที่ คลิ๊ก

SAMSUNG LC24RG50FQEXXT เป็น จอ 144Hz ที่ตอบสนองการใช้งานได้ทั้งความบันเทิงและการทำงานทั่วไป จุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์ที่ค่อนข้างลงตัว ขอบจอที่บางเป็นพิเศษ รวมถึงการปรับแต่งที่ง่ายดาย พาแนลในแบบ VA ให้มุมมองค่อนข้างกว้าง สำหรับการเล่นเกมไม่มีข้อกังขา ตอบสนองได้ไวกับ Response time 1ms เช่นเดียวกับอัตรารีเฟรชเรตที่เป็นจุดขาย 144Hz ถือว่าหาได้ยากในเวลานี้ ซึ่งเท่าที่ดูจะมีแค่ 1 หรือ 2 รุ่นเท่านั้น แต่ไม่ได้เป็นจอโค้งเช่นนี้ รองรับ AMD FreeSync โดยปรับมุมก้มเงยได้เล็กน้อย พอร์ตต่อพ่วงประกอบด้วย HDMI x2 และ DisplayPort x1

from:https://notebookspec.com/samsung-24-inch-144hz-curved-game/523468/

NOTEBOOKSPEC

น่าใช้! จอเกมมิ่ง โค้ง 27 นิ้ว 165Hz ลดเหลือ 6,990 บาท จาก Aopen

พฤษภาคม 12, 2020 Feed News

ราคาปีก่อน 7,990 บาท ลดเหลือ 6,990 บาท จอเกมมิ่ง AOPEN 27HC2R จากอีกหนึ่งผู้เชี่ยวชาญในด้านการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในต่างประเทศ ที่มีอยู่ในคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ซึ่งมีการวางจำหน่ายในบ้านเรามาได้สักระยะหนึ่ง ด้วยการเปิดตัวที่เป็นจอโค้งเช่นเดียวกัน และได้การสนับสนุนจาก Acer กับการรับประกัน 3 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่า ได้รับการสนับสนุนจากผู้ผลิตอย่างอุ่นใจแน่นอน โดยจอรุ่นนี้ออกแบบมาในรูปแบบ จอโค้ง 1500R และมีกรอบบาง ZeroFrame 3 ด้าน เหมาะกับการใช้งานแบบมัลติมอนิเตอร์

สนใจไปโดนกันได้ คลิ๊ก

ขนาดจอ: 27H
พื้นที่แสดงผลจริง(มม.) 597 x 336
ประเภทจอภาพ: VA
อัตรารีเฟรชและความละเอียดสูงสุด: HDMI1: 1920×1080 @120Hz
HDMI2: 1920×1080@165Hz
DP: 1920×1080@165Hz
เวลาตอบสนอง: 4ms (G to G)
อัตราส่วนความเปรียบต่าง: สูงสุด 100 ล้าน:1 (ACM)
ความสว่าง ค่าเริ่มต้น: 400 Nits
โหมด HDR400: สูงสุด 400 Nits
มุมมองในการดู: 178°(H), 178°(V)
สี: 16.7M
ช่วงสี: 95% sRGB
บิต: 8 บิต
สัญญาณอินพุต: HDMI1 (v1.4) + HDMI2 (v2.0) + DP (1.2a) + สัญญาณเสียงออก
ตัวยึดผนัง VESA: 100 x 100 มม.
ลำโพง: 3W x 2
อุปกรณ์จ่ายไฟ (100 – 240 V): อะแดปเตอร์ภายนอก
การเอียง: -5 °~20 °
การปรับขึ้นลง: +/- 30°
Height Adjustment: 110 มม.

มุมมองที่กว้าง 178 องศา ให้ความละเอียด 1080p Full-HD ที่ไม่ธรรมดาคือ ให้อัตรารีเฟรชเรตสูงสุดถึง 165Hz ด้วยกัน สำหรับการใช้งานร่วมกับ DisplayPort กับค่าความสว่างที่มากถึง 400-nits ซึ่งถือว่าเป็นจุดเด่น หน้าจอมี OSD ปรับได้ง่าย อินเทอร์เฟสที่เป็นกันเอง สามารถปรับเลื่อนหน้าจอขึ้น-ลงได้ง่ายกว่า รวมถึงมุมของหน้าจอ แต่ไม่รองรับการ Pivot โดยทาง AOPEN ให้ค่าตัวเลขอ้างอิง sRGB มาถึง 95% และอัตราตอบสนอง 4ms ที่สำคัญ พร้อมกันนี้ยังใส่ลำโพง 3W มาให้อีก 2 ชุด เรียกว่าใช้งานได้แบบครบเครื่องเลยทีเดียว ราคานี้ยังผ่อน 0% ได้อีก 3 เดือน ตกเดือนละ 2,xxx บาท เท่านั้น

from:https://notebookspec.com/gaming-monitor-aopen-27-inch-curved/520616/

จอคอม 4K ขนาดใหญ่ 27″-32″ 10 รุ่นในงบ 12,000 บาท คมชัด HDR เล่นเกม ดูหนังเต็มตา

จอคอม 4K

1.PHILIPS 288E2A/67

2.AOC U28P2U/BS

3.Samsung LS27A800UJEXXT

4.Viewsonic VX3211-4K-mhd

5.BENQ EW3270U

6.LG 32UN500-W

7.MSI OPTIX MAG321CURV

8.ASUS VP32UQ

9.Lenovo L32P-30

10.BenQ EW2880U

Conclusion

แบ่งปันสิ่งนี้:

จอคอม 32 นิ้ว 8 รุ่นปี 2022 ไม่เกิน 9,000 จอใหญ่ เล่นเกมสะใจ เทรดคริปโต แต่งภาพ ครบเครื่อง

จอคอม 32 นิ้ว

1.Viewsonic VX3258-PC-MHD

2.Acer ED322QRPBMIIPX

3.AOC C32G2E

4.AOC Q32V3WS

5.MSI Optix G32C4

6.Philips 325E1C

7.Samsung LC32T550FDEXXT

8.Viewsonic VX3276-2K-MHD

Conclusion

แบ่งปันสิ่งนี้:

จอคอม 144hz เริ่มแค่ 5 พันบาท 24″ ปี 2022 สวย คมชัด เล่นเกมสะใจ

จอคอม 144hz 24″ เล่นเกมสะใจ 9 รุ่นเด็ด 2022

1.PHILIPS 242E1GSJ/67 ราคา 5,915 บาท

2.SAMSUNG LC24RG50FQEXXT ราคา 5,950 บาท

3.AOC G2490VX ราคา 5,850 บาท

4.MSI G24C4 ราคา 6,200 บาท

5.AOC 24G2E/67 ราคา 6,390 บาท

6.LG 24GN600-B ราคา 6,430 บาท

7.SAMSUNG ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT ราคา 5,900 บาท

8.ACER VG240YSbmiipx ราคา 6,650 บาท

9.MSI Optix G241 ราคา 6,830 บาท

Conclusion

แบ่งปันสิ่งนี้:

จอคอม 24 นิ้ว 144Hz 10 รุ่นเด็ด สำหรับเกมเมอร์ เล่นเกมสนุก ปรับแต่งได้ ไม่เกิน 7,000

จอคอม 24 นิ้ว

1.AOC 24G2E

2.PHILIPS 242E1GSJ

3.Samsung LC24RG50FQEXXT

4.AOC AGON G2490VX

5.MSI Optix G24C4

6.Samsung ODYSSEY G3 LF24G35TFWEXXT

7.LENOVO G24-20

8.ASUS VP249QGR

9.MSI Optix G241

10.LG 24GN600-B

Conclusion

แบ่งปันสิ่งนี้:

จอคอมมือสอง

เลือกจอแบบไหนดี Flat หรือ Curved

ขนาดหน้าจอสำคัญมั้ย

ซื้อจอคอมมือสองที่ไหน

เช็คประกันให้มั่นใจ

เช็คหน้าจออย่างไรได้บ้าง

ปุ่มตั้งค่า OSD settings

เสียงจากลำโพง

พอร์ตสัญญาณต่อพ่วง

ไม่แน่ใจ ไม่ได้ลอง อย่าเพิ่งรีบซื้อ

แบ่งปันสิ่งนี้:

MSI OPTIX MAG301CR2 จอเกมมิ่ง 30″ 200Hz จอโค้ง 1500R พร้อม HDR Ready สวยคมชัด สำหรับเกมเมอร์

MSI OPTIX MAG301CR2

Specification

Design

OSD settings

Software

Adjustable

Performance

Conclusion

แบ่งปันสิ่งนี้:

MSI MPG ARTYMIS 323CQR จอเกมมิ่ง 1000R 32″ 2K 165Hz เล่นเกม ดูหนัง เทรดหุ้นสะใจ ไฟ RGB ฟีเจอร์แน่น

MSI MPG ARTYMIS 323CQR 32″ 165Hz

Specification

Design

Port connector

Function