รีวิว OPPO A9 2020 สเปคแรงแรม 8GB ความจุ 128GB กล้องหลัง 4 ตัว 48 ล้านพิกเซล แบตเตอรี่ 5000mAh ใช้เป็น Power Bank ได้

เปิดตัวในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับ OPPO A9 2020 สมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดและดีที่สุดของ A series ถูกสร้างขึ้นมาภายใต้แนวคิด “Super Spec – สเปคแรงสุด” ทำให้มีคุณสมบัติหลายอย่างเทียบเท่ากับสมาร์ทโฟนระดับเรือธงได้เลย แต่ก่อนอื่นเรามาดูเรื่องของดีไซน์กันก่อน

OPPO A9 2020 ได้รับการออกแบบมาให้ถูกหลักสรีรศาสตร์ ด้านหลังจึงโค้งรับกับฝ่ามือช่วยให้จับถือได้อย่างถนัด และยังเน้นเรื่องความสวยงามด้วยเทคนิคไล่เฉดสีแบบ 3 มิติ ทำให้ภาพลักษณ์ภายนอกดูไม่แตกต่างไปจากสมาร์ทระดับพรีเมี่ยม 

ด้านสีสันก็ผลิตออกมาให้เลือก 2 เฉดสี ได้แก่ Marine Green และ Space Purple แต่ละสีได้รับแรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ ขึ้นอยู่กับว่าชอบมองท้องฟ้าหรือท้องทะเล

จอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.5 นิ้ว ความละเอียด 1600 x 720 พิกเซล ดีไซน์ขอบจอบางเฉียบเพียง 1.98 มิลลิเมตร สำหรับขอบจอด้านข้าง ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 3+ ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี เพราะแข็งแรงกว่ารุ่น 3 ถึง 2 เท่า 

ส่วนขอบจอด้านบนแคบเพียง 2.44 มิลลิเมตร (ไม่วัดรวมรอยบากแบบหยดน้ำ) และขอบด้านล่าง 6.6 มิลลิเมตร ทำให้มีอัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 89% และยังมาพร้อมโหมด Sunlight Screen ช่วยปรับไดนามิกในระดับพิกเซล เพื่อให้ภาพที่ชัดเจนเมื่อใช้งานกลางแจ้ง และให้สีสันคมชัดเมื่อใช้งานในที่แสงน้อย อีกทั้งยังถนอมดวงตาด้วยฟีเจอร์ Blue Shield ช่วยกรองแสงสีฟ้า 

ขอบจอด้านบน ยังมีรอยบากแบบหยดน้ำแต่มีขนาดเล็กลงกว่าเดิมถึง 31.4% เพื่อซ่อนกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล และติดตั้งลำโพงไว้จนสุดขอบบน ทำงานร่วมกับลำโพงด้านล่างเพื่อขับเสียงออกมาในระบบสเตอริโอ

ด้านหลังมีจุดดึงดูดสายตาที่ระบบกล้อง 4 ตัวความละเอียด 48 ล้านพิกเซล + 8  ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล จัดวางไว้ตรงกึ่งกลาง ถัดลงมาเป็นตำแหน่งของเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ

ขอบด้านข้างมีความบาง 9.1 มิลลิเมตร มาพร้อมปุ่มเพาเวอร์ติดตั้งไว้ที่ด้านซ้ายของจอแสดงผล

อีกข้างหนึ่งมีถาดใส่การ์ดแบบ 3 ช่อง รองรับซิมการ์ด 2 ช่อง และอีกช่องสำหรับการ์ด MicroSD (สูงสุด 256GB) ถัดลงมาเป็นปุ่มปรับระดับเสียง

ช่องเสียบหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรยังมีมาให้เหมือนเดิม พบได้ที่ด้านล่าง วางอยู่ใกล้กับรูไมโครโฟน กึ่งกลางเป็นพอร์ต USB Type-C (ไม่ใช่ Micro-USB แบบเดิม) และถัดมาเป็นตำแหน่งของลำโพง

ลำโพงด้านล่างยังทำงานร่วมกับลำโพงด้านบน (ที่วางอยู่เหนือกล้องเซลฟี่) เพื่อขับเสียงออกมาในระบบสเตอริโอ และให้คุณภาพเสียงที่น่าประทับใจมากเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่ถึง 10,000 บาท 

ทั้งความดังและมิติเสียง เนื่องจากมาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos และยังสนับสนุนไฟล์เสียงคุณภาพสูงแบบ Hi-Res Audio จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือสมาร์ทโฟนในครอบครัว A series ของ OPPO 

OPPO A9 2020 มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ถึง 5,000mAh สามารถใช้งานได้นานต่อเนื่อง 19 ชั่วโมง เล่นวีดีโอระดับ HD ได้นานกว่า 11 ชั่วโมง 

และยังมีฟีเจอร์ Reverse Charging หรือใช้งานเป็น Power Bank ชาร์จแบตเตอรี่ให้กับสมาร์ทโฟนเครื่องอื่นได้ เพียงแค่เสียบสาย USB ไปยังเครื่องที่ต้องการแล้วเปิดใช้งาน OTG เท่านั้น แถมยังสามารถโอนไฟล์ต่างๆของอีกเครื่องได้ทันทีอีกด้วย

ความน่าสนใจของ OPPO A9 2020 อยู่ที่ระบบกล้องหลัง 4 ตัว โดยกล้องหลักมีความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.8 วางคู่กับกล้องมุมกว้างพิเศษ 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.25 กล้องตัวที่ 3 มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ช่วยถ่ายภาพในโหมด Portrait 

และกล้องตัวสุดท้ายเป็นกล้องโมโน 2 ล้านพิกเซล ทำงานร่วมกับกล้อง Portrait เพื่อสร้างฟิลเตอร์ต่างๆ โดยเฉพาะฟิลเตอร์สีขาว-ดำที่ให้ภาพถ่ายออกมาดูสวยงามคลาสสิค

จุดเด่นของกล้องหลัง คือ สามารถถ่ายภาพได้หลากหลายในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่ายมุมกว้างพิเศษ ภาพถ่ายใบหน้าบุคคล สามารถถ่ายภาพในเวลากลางคืนหรือในที่แสงน้อยได้ด้วยฟีเจอร์ Ultra Night Mode 2.0 ด้วยความช่วยเหลือของเทคโนโลยีลดจุดรบกวนบนภาพถ่าย กับ HDR มาช่วยทำให้ภาพถ่ายในเเวลากลางคืนออกมาสวยงามคมชัด

ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียด 16 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/2.4 แน่นอนว่ามาพร้อม AI Beauty ที่ช่วยให้ภาพถ่ายเซลฟี่ออกมาดูดีอย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้ AI มาช่วยระบุสีผิว อายุ เพศ เพื่อช่วยปรับผิวพรรณให้เหมาะสมกับแต่ละคน อีกทั้งยังมี HDR สำหรับถ่ายภาพเซลฟี่ในสภาพแสงที่แตกต่างกันหรือย้อนแสง มีโหมด Portrait สำหรับถ่ายเซลฟี่พร้อมเบลอฉากหลัง และมีฟิลเตอร์เปลี่ยนโทนสีภาพให้เลือกใช้ด้วย

ตัวอย่างภาพถ่ายด้วย OPPO A9 2020

สำหรับการบันทึกวีดีโอ สามารถถ่ายวีดีโอได้ถึง 4K ที่ 30 เฟรมต่อวินาที สำหรับกล้องหลัง โดยนำเทคโนโลยี EIS (Electronic Image Stabilization) กับเซ็นเซอร์ Gyroscope มาช่วยป้องกันภาพสั่นไหว 

ทำให้ภาพเคลื่อนไหวในวีดีโอนิ่งขึ้น ไม่ว่าจะถ่ายวีดีโอขณะวิ่งหรืออยู่บนยานพาหนะ และยังมีฟิลเตอร์สำหรับวีดีโอด้วย ส่วนกล้องเซลฟี่ สามารถถ่ายวีดีโอได้สูงสุด Full HD 1080p 

OPPO A9 2020 ทำงานบนระบบปฏิบัติการ ColorOS 6 (พื้นฐานเป็น Android 9 Pie) ซึ่งพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้งานบนสมาร์ทโฟนที่เน้นดีไซน์ Full Screen มีหน้าตา UI ที่เรียบง่ายขึ้น เน้นตอบสนองการสัมผัสที่รวดเร็ว และออกแบบมาให้ควบคุม UI ด้วยคำสั่งท่าทาง 

ColorOS 6 มาพร้อมฟีเจอร์ Smart Assistance แสดงข้อมูลที่เจ้าของสมาร์ทโฟนอาจจะสนใจรวมถึงแอพโปรดบนหน้าจอหลัก เพียงปัดนิ้วไปทางขวา และยังรองรับ Screen Multitasking เปิดใช้งาน 2 แอพพร้อมกันแบบแยกหน้าจอ 

อีกทั้งยังมี Smart Bar หน้าต่างขนาดเล็กที่รวมแอพโปรดไว้ พร้อมฟีเจอร์จับภาพหน้าจอ เรียกใช้งานได้ง่ายๆ เพียงปัดนิ้วจากขอบจอเข้ามา Smart Bar ยังเรียกใช้ในระหว่างเล่นเกมได้ด้วย เผื่อบางคนต้องการบันทึกหน้าจอระหว่างเล่นเกมเป็นวีดีโอ หรือเปิดใช้แอพด่วน โดยไม่ต้องออกจากเกม

สเปกแรงสุด!! OPPO A9 2020 เลือกใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 665 AIE ผลิตด้วยเทคโนโลยี 11 นาโนเมตร สถาปัตยกรรม 64-bit ซีพียู Octa Core (Cortex A73 + Cortex A53) ความเร็วสูงสุด 2GHz พร้อมด้วยจีพียู Adreno 610 มีประสิทธิภาพของ CPU ดีขึ้น 40% และ GPU ดีขึ้นถึง 100%  ส่วนการประมวลผลด้าน AI มีประสิทธิภาพดีขึ้น 2 เท่า และใช้พลังงานลดลง 20%  เมื่อเทียบกับชิป Snapdragon 660 ของ OPPO A7 

OPPO A9 2020 มาพร้อมความจำระดับเรือธงด้วย RAM 8GB และเป็นแบบ LPDDR4X Dual Channel ให้ประสิทธิภาพสูงขึ้น 100% ประหยัดพลังงานกว่า 50% เมื่อเทียบกับความจำแบบ LPDDR3 ส่วน ROM 128GB เป็นแบบ UFS 2.1 มีประสิทธิภาพในการอ่านข้อมูลต่อเนื่อง 61% เมื่อเทียบกับ EMMC 5.1 และยังรองรับการ์ด MicroSD สูงสุด 256GB 

ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 665 และความจำ RAM แบบ LPDDR4X Dual Channel ส่งผลให้ OPPO A9 2020 เป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองการเล่นเกมได้เป็นอย่างดี 

และยังมี Game Space มาช่วยรีดประสิทธิภาพสำหรับเกมที่ต้องการทรัพยากรเครื่องเป็นพิเศษ รวมถึงช่วยปรับปรุงการเชื่อมต่อเครือข่ายให้เล่นเกมออนไลน์ได้เสถียรขึ้น และระบบปิดกั้นการแจ้งเตือนระหว่างเล่นเกม 

นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยี Game Boost 2.0 ที่ช่วยให้การเล่นเกมลื่นไหล และตอบสนองการสัมผัสได้อย่างรวดเร็ว

สรุปแล้ว OPPO A9 2020 ยังคงมุ่งเน้นไปที่ความคุ้มค่า แต่มีการอัพเกรดสเปกให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อตอบสนองการใช้งานรอบด้าน ไม่ว่าจะถ่ายรูป เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง มาพร้อมระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos กับลำโพงคู่ที่ให้คุณภาพเสียงน่าพอใจ เรียกได้ว่ารองรับการใช้งานรอบด้าน และยังมีดีไซน์สวยงามเหมือนสมาร์ทโฟนระดับเรือธง

OPPO A9 2020 พร้อมเปิดให้จับจองแล้วในระหว่างวันที่ 16 – 27 กันยายน 2562 ในราคาเพียง 8,990 บาท มาพร้อม RAM 8GB + ROM 128GB มีให้เลือก 2 สี ได้แก่ Marine Green และ Space Purple

from:https://www.flashfly.net/wp/268144