รีวิวแกะกล่องสัมผัสแรก iPhone 8 (PRODUCT)RED Special Edition หน้าดำหลังแดงที่หลายคนรอคอย เพราะสวยมาก

มาแล้วกับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus สีใหม่ล่าสุดกับสีแดง (PRODUCT)RED Special Edition รายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ (PRODUCT)RED ทั้งหมดจะนำไปสมทบทุนโครงการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ HIV และโรคเอดส์ของกองทุนโลก ซึ่งปีนี้ก็เป็นปีที่ 2 แล้วกับ (PRODUCT)RED ของ iPhone

แต่ปีนี้ Apple ได้เปลี่ยนดีไซน์ใหม่เช่นเดียวกับ iPhone 8 และ iPhone 8 Plus ที่วางจำหน่ายไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยเป็นตัวเครื่องแบบกระจกสีแดง ด้านข้างเป็นแถบอะลูมิเนียม ส่วนด้านหน้าเปลี่ยนจากสีขาวในปีแล้วมาเป็นสีดำที่แฟนๆจำนวนไม่น้อยชื่นชอบเป็นพิเศษ โดยมีความจุ 64GB และ 256GB ให้เลือกเหมือนสีอื่นๆ

ซึ่งวันนี้ทีมงาน @flashfly ก็ได้ iPhone 8 (PRODUCT)RED Special Edition สีแดงความจุ 256GB มาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็จะมาทำการแกะกล่องดูความสวยงามของ iPhone 8 สีแดงใหม่ล่าสุดนี้กันเลยดีกว่า
เริ่มที่ตัวกล่องเห็นดีไซน์ด้านหลังสีแดงของ iPhone 8 ตัดกับพื้นสีขาวชัดเจนด้านข้างโลโก้ Apple รวมถึง iPhone ก็เป็นสีแดง
ด้านหลังบอกชัดเจนว่าเป็นรุ่นพิเศษ (PRODUCT)RED
เปิดกล่องออกมาก็จะพบกับซองใส่เอกสารต่างๆวางอยู่ด้านบนเช่นเคย

หยิบออกมาดูก็จะพบกับกระดาษสีแดง (PRODUCT)RED อยู่บนสุด ด้านหลังก็จะบอกรายละเอียดการร่วมกันระหว่าง Apple กับ (RED) ในการบริจาคกองทุนต่อต้าน HIV กับ AIDS

ส่วนเอกสารที่เหลือยังคงมีคู่มือการใช้งานเบื้องต้น ใบรับประกัน เข็มจิ้มถาดใส่ซิม รวมถึงสติกเกอร์โลโก้ Apple ที่ยังคงเป็นสีขาว

ถัดมาก็จะพบตัวเครื่อง iPhone 8 (PRODUCT)RED Special Edition ด้านหน้าสีดำสุดหรูวางอยู่

ลอกพลาสติกที่ติดรอบตัวเครื่องออก ก็จะเห็นตัวเครื่องสวยงามแบบนี้
ปุ่มโฮมและวงแหวนก็เป็นสีดำสนิท
ด้านหลังเป็นกระจกสีแดงสด ตัดกับโลโก้ Apple สีเงินเงางาม
ขอบด้านข้างอะลูมิเนียมสีแดงเข้ากับตัวเครื่อง
ถาดใส่ซิมก็เป็นสีแดง
มาดูกันต่อกับอุปกรณ์ที่เหลือในกล่องก็จะมีหูฟัง EarPods หัวต่อแบบ Lightning พร้อมแจ็คแปลงพอร์ต Lightning เป็น 3.5 มม.
สาย Lightning สำหรับชาร์จแบตเตอรี่และเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ สุดท้าย USB Power Adapter แบบพกพาขนาด 5 วัตต์
สำหรับสเปกต่างๆของ iPhone 8 (PRODUCT)RED Special Edition นั้นก็เหมือนกับ iPhone 8 ทุกประการไม่ว่าจะเป็นจอภาพ Retina HD ชิพ A11 Bionic ที่ออกแบบมาเพื่อ AR ประหยัดพลังงาน กล้องดิจิตอลด้านหลังความละเอียด 12 ล้านพิกเซล f/1.8 ถ่าย VDO แบบ 4K ที่ 60 FPS กล้องหน้า 7 ล้านพิกเซล
กันน้ำกันฝุ่น IP67 รวมถึงการชาร์จแบบไร้สาย และยังคงมี Touch ID ที่ปุ่ม Home ในการปลดล็อคหน้าจอ
โดยทั้ง iPhone 8 และ iPhone 8 Plus (PRODUCT)RED Special Edition พร้อมวางจำหน่ายแล้วกับ 3 ค่ายมือถือในบ้านเราราคาเริ่มต้น 28,500 บาทในรุ่น iPhone 8 และ 32,500 บาทในรุ่น iPhone 8 Plus ที่มาพร้อมโปรโมชั่นลดราคาค่าเครื่องนับหมื่นบาทเมื่อสมัครแพคเกจที่กำหนด รวมถึงร้านค้าไอทีตัวแทนจำหน่ายชื่อดังหรือจะสั่งซื้อจากร้านค้าออนไลน์ Apple Online Store ประเทศไทยก็ได้อีกช่องทาง
สำหรับใครที่รอ iPhone X สีแดงนั้น ก็ต้องขอแสดงความเสียใจเพราะทาง Apple ไม่ได้ทำออกมาด้วยแต่เปิดตัวเคสหนังแบบฝาปิด (Leather Folio) รุ่น (PRODUCT)RED ใหม่ออกมาแทนบทความโดย – www.flashfly.net

from:http://www.flashfly.net/wp/219742