คลังเก็บป้ายกำกับ: Visual_Studio

Visual Studio มีปลั๊กอินสำหรับเขียน Node.js แล้ว

ชุมชนผู้ใช้งานเฟรมเวิร์คจาวาสคริปต์ Node.js ร่วมกันดัดแปลง Python Tools for Visual Studio ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนา Python บน Visual Studio ของไมโครซอฟท์ ให้ใช้งานกับ Node.js ได้

ผลออกมาเป็น Node.js Tools for Visual Studio ที่ใช้ได้กับทั้ง Visual Studio 2012 และ 2013 ทำให้ Visual Studio เหมาะกับการเขียนโค้ด Node.js มากขึ้น ทั้งการแก้ไข, การช่วยคาดเดา Intellisense, การทำ profiling/debugging รวมถึงการเขียน Node.js เพื่อใช้กับ Azure หรือบริการกลุ่มเมฆอื่นๆ ด้วย

โปรแกรมเมอร์แถวนี้ที่คุ้นกับ Visual Studio อยู่แล้วและอยากเขียน Node.js ก็สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Codeplex โดยมันเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่เปิดให้ชุมชนร่วมกันพัฒนาได้

ที่มา – Scott Hanselman

Node.js, Visual Studio, Open Source, Development, Programming

from:http://www.blognone.com/node/51055

Visual Studio มีปลั๊กอินสำหรับเขียน Node.js แล้ว

ชุมชนผู้ใช้งานเฟรมเวิร์คจาวาสคริปต์ Node.js ร่วมกันดัดแปลง Python Tools for Visual Studio ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือสำหรับพัฒนา Python บน Visual Studio ของไมโครซอฟท์ ให้ใช้งานกับ Node.js ได้

ผลออกมาเป็น Node.js Tools for Visual Studio ที่ใช้ได้กับทั้ง Visual Studio 2012 และ 2013 ทำให้ Visual Studio เหมาะกับการเขียนโค้ด Node.js มากขึ้น ทั้งการแก้ไข, การช่วยคาดเดา Intellisense, การทำ profiling/debugging รวมถึงการเขียน Node.js เพื่อใช้กับ Azure หรือบริการกลุ่มเมฆอื่นๆ ด้วย

โปรแกรมเมอร์แถวนี้ที่คุ้นกับ Visual Studio อยู่แล้วและอยากเขียน Node.js ก็สามารถดาวน์โหลดได้จากเว็บไซต์ Codeplex โดยมันเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์สที่เปิดให้ชุมชนร่วมกันพัฒนาได้

ที่มา – Scott Hanselman

Node.js, Visual Studio, Open Source, Development, Programming

from:https://www.blognone.com/node/51055

เบื้องหลัง Monaco ของไมโครซอฟท์: ทีมสร้างจาก Eclipse, เขียนด้วย TypeScript

ข่าวนี้ต่อจาก ไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio Online บริการกลุ่มเมฆสำหรับการพัฒนาโปรแกรม ซึ่งไมโครซอฟท์ได้เปิดตัว IDE สำหรับเขียนโปรแกรมผ่านเบราว์เซอร์ชื่อ “Monaco”

ZDNet มีเบื้องหลังการสร้าง Monaco ว่าเกิดจากฝีมือของ Erich Gamma อดีตพนักงานของ IBM และผู้นำฝ่ายเทคนิคของโครงการ Eclipse ที่ย้ายมาอยู่กับไมโครซอฟท์เมื่อปี 2011 โดยเขาตั้งศูนย์วิจัยสาขาในเมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และมีเพื่อนร่วมงานของเขาที่ IBM จำนวนหนึ่งย้ายมาร่วมทีมด้วย

Gamma บอกว่าวิสัยทัศน์ของไมโครซอฟท์ไม่ใช่เป็นการสร้าง Visual Studio เวอร์ชันเว็บ แต่เป็นการสร้าง “กล่องเครื่องมือสำหรับนักพัฒนา” ที่เหมาะกับบางสถานการณ์เท่านั้น ตัวอย่างการใช้งาน Monaco ในตอนนี้คือใช้แก้ไขเว็บไซต์ที่โฮสต์อยู่บน Azure และใช้ร่วมกับ “Napa” ซึ่งเป็นเครื่องมือสร้างแอพสำหรับ Office 365

การที่ Monaco ทำงานผ่านเบราว์เซอร์ก็ไม่มีปัญหากับนักพัฒนามากนัก Gamma บอกว่านักพัฒนาในปัจจุบันก็แทบจะออนไลน์ตลอดเวลาอยู่แล้ว การใช้งานแบบออฟไลน์จึงเป็นไปได้น้อยมาก

Gamma ค่อนข้างได้อิสระจากไมโครซอฟท์ในการทำงานนี้ (เขาบอกว่าเหมือนเป็น startup อยู่ภายในบริษัท) ทีมของเขาเลือกใช้ภาษา TypeScript ที่พัฒนาโดยทีมอื่นจากไมโครซอฟท์เช่นกัน ด้วยเหตุผลว่าทีมของเขาเชี่ยวชาญ JavaScript ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันอยู่แล้ว

ที่มา – ZDNet

Microsoft, Visual Studio, IDE, Eclipse, TypeScript, Development

from:http://www.blognone.com/node/51041

ไมโครซอฟท์เปิดตัว Visual Studio Online บริการกลุ่มเมฆสำหรับการพัฒนาโปรแกรม

ไมโครซอฟท์จัดงานเปิดตัว Visual Studio 2013, .NET 4.5.1, Team Foundation Server 2013 และอัพเดต Visual Studio 2012 Update 4 อย่างเป็นทางการ (รายละเอียดของ VS2013 ว่ามีอะไรใหม่ ย้อนดูในข่าวเก่า)

สิ่งที่เป็นของใหม่จริงๆ ในงานนี้กลับเป็นการเปิดตัว Visual Studio Online บริการกลุ่มเมฆสำหรับการพัฒนาโปรแกรม ถือเป็นส่วนขยายของ Visual Studio ที่อยู่บนอินเทอร์เน็ต (ลักษณะเดียวกับ Office.com ที่เป็นส่วนต่อขยายของ Microsoft Office มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว)

Visual Studio Online

Visual Studio Online เป็นชื่อรวมๆ ของบริการหลายอย่างที่เกี่ยวกับการพัฒนาโปรแกรม ที่เปิดตัวตอนนี้ได้แก่

  • Hosted Source Control มันคือการเอา Team Foundation Version Control ไปรันบนกลุ่มเมฆของไมโครซอฟท์แล้วคิดเงินแบบ “เช่าใช้” ไมโครซอฟท์ยังมี Git เป็น source control ให้เลือกด้วย (จะเรียกว่าเป็น GitHub เวอร์ชันองค์กรก็พอได้)
  • Work Items and Agile Planning บริการด้านการจัดการโครงการด้วยเทคนิค agile
  • Hosted Build Service เป็น build service หรือการคอมไพล์โปรแกรมบนเซิร์ฟเวอร์ของไมโครซอฟท์ ช่วงนี้ไมโครซอฟท์จัดโปรโมชั่นทดลองใช้งานฟรี บัญชีละ 60 นาที (นับตามเวลาคอมไพล์) ต่อเดือน
  • Elastic Load Test Service บริการด้านการทดสอบโปรแกรมโดยจำลองโหลดหนักๆ
  • Application Insights บริการวิเคราะห์ประสิทธิภาพการทำงานของแอพ ว่าทำงานราบรื่นดีไหมเมื่อเผชิญกับโหลดจริงๆ (หน้าตาตามภาพ) ตอนนี้ยังอยู่ในขั้นพรีวิว และรองรับเฉพาะแอพที่เขียนด้วย .NET/Java เท่านั้น

App Insights

ฟีเจอร์เด็ดอีกอย่างของ Visual Studio Online คือตัวแก้ไขโค้ดเวอร์ชันเว็บแอพ ทำงานผ่านเบราว์เซอร์ได้เลย (cloud IDE) ตอนนี้มันยังมีชื่อเรียกเป็นโค้ดเนมว่า “Monaco” และยังอยู่ในสถานะพรีวิวเท่านั้น

ไมโครซอฟท์อธิบายว่าไม่ได้ตั้งใจพัฒนา Monaco ให้มาแข่งกับ VS2013 ตัวเต็ม แต่เน้นการแก้ไขงานง่ายๆ เล็กๆ สำหรับโค้ดที่รันอยู่บนกลุ่มเมฆเป็นหลัก

เอนจินการทำงานของ Monaco นำบางส่วนมาจากบริการลักษณะเดียวกันของไมโครซอฟท์คือ Office 365 “Napa” (ตัวสร้างแอพสำหรับ Office 365) และตัวแก้ไขไฟล์ออนไลน์ของ SkyDrive

เบื้องต้น Monaco เปิดให้ทดสอบแล้ว โดยยังใช้ได้กับการแก้ไขไฟล์เว็บไซต์ที่อยู่บน Azure Websites เท่านั้น (ใครอยากเห็นหน้าตาของ Monaco ละเอียด ดูวิดีโอได้จากเว็บ Channel 9 ของไมโครซอฟท์)

VS Monaco

ที่มา – Somasegar’s blog

Visual Studio, Cloud Computing, Development, Microsoft,

from:http://www.blognone.com/node/50776

Visual Studio 2013, .NET 4.5.1, Team Foundation Server ปล่อยตาม Windows 8.1

หลังการเปิดตัว Windows 8.1 ไมโครซอฟท์ก็อัพเดตชุดพัฒนาทันที เป็นชุดทั้ง Visual Studio 2013, .NET 4.5.1, และ Team Foundation Server 2013 ฟีเจอร์สำคัญมาจากฝั่ง IDE เช่น

  • Peek Definition เข้าดูนิยามของตัวแปรได้โดยไม่ต้องออกจากส่วนที่แก้ไขอยู่
  • CodeLens ดูข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโค้ดแต่ละส่วน เช่น การแก้ไขโดยทีมงานคนอื่นๆ, ชุดทดสอบที่เกี่ยวข้องกับโค้ดส่วนนี้
  • รองรับ Windows 8.1 เต็มระบบ เครื่องมืออัพเดตสำหรับการตรวจสอบการตอบสนองของหน้าจอ และการใช้หน่วยความจำ
  • รองรับการพัฒนาแอพพลิเคชั่นสำหรับ Office 365 Cloud Business Apps

ราคาอัพเกรด 99 ดอลลาร์สำหรับช่วงเปิดตัว หลังจากมกราคม 2013 ราคาอัพเกรดจะขึ้นเป็น 299 ดอลลาร์ ราคาเต็มสำหรับลูกค้าใหม่ 499 ดอลลาร์ ส่วนรุ่น Express เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้เช่นกัน

ที่มา – MSDN, Visual Studio 2013

upic.me

Visual Studio, .NET, Development, Microsoft

from:http://www.blognone.com/node/49946

ไมโครซอฟท์ปล่อย Visual Studio 2013 Preview, .NET 4.5.1, Visual Studio 2012 Update 3

S. Somasegar รองประธานบริษัทฝ่าย Developer Division เผยในบล็อกของเขาว่า ไมโครซอฟท์ได้ปล่อย Visual Studio 2013 Preview และ .NET Framework 4.5.1 Preview ให้ดาวน์โหลดแล้ว

ในส่วนของ VS 2013 นั้น นอกเหนือจากการปรับปรุงเพิ่มเติมเกี่ยวกับด้าน Application Lifecycle Management (ALM) อย่างการทดสอบ load test บนกลุ่มเมฆแล้ว ยังจะสนับสนุน Git, รองรับมาตรฐาน C++11 ในตัว, การปรับปรุง XAML editor บน Visual Studio, เครื่องมือวัดการตอบสนอง XAML UI, เพิ่มฮับ Performance and Diagnostics ที่รวมเครื่องมือวัดประสิทธิภาพและวิเคราะห์ปัญหาในโค้ดอย่างเครื่องมือวัดการใช้พลังงาน เป็นต้น รายละเอียดทั้งหมดดูได้ที่บล็อกของ Somasegar

ในส่วนของ .NET Framework 4.5.1 นั้นมี API ใหม่หลายพันชุด เฟรมเวิร์กนี้ได้รับการปรับปรุงเพื่อเพิ่มผลิตผลของพัฒนา (developer productivity) อาทิ ฟีเจอร์ Edit and Continue ที่ทำให้นักพัฒนาสามารถเปลี่ยนแปลงโค้ดของโปรเซสแบบ 64 บิตได้ทันที การดีบัก Async-aware, การตรวจจับค่าที่ถูกส่งกลับมาในเมธอด, การปรับปรุงในส่วนของการพัฒนาแอพขึ้น Windows Store เป็นต้น และการปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแอพพลิเคชันที่รันอยู่บนเฟรมเวิร์ก อาทิ การปรับปรุงมัลติคอร์ JIT, การบีบอัด object heap ขนาดใหญ่แบบ on-demand เป็นต้น รายละเอียดทั้งหมดดูได้ที่ .NET Framework Blog

นอกจาก ไมโครซอฟท์ยังปล่อยอัพเดต Visual Studio 2012 Update 3 เช่นกัน อัพเดตนี้เน้นการแก้บั๊กเป็นหลัก สำหรับผู้ที่ต้องการสลับการเปิดโปรเจกต์ระหว่าง VS 2012 และ VS 2013 หรือต้องการรัน VS 2012 บน Windows 8.1 จะต้องติดตั้งอัพเดตนี้ด้วย รายละเอียดการปรับปรุงทั้งหมดดูได้จากที่นี่

ที่มา: บล็อกของ S. Somasegar, .NET Framework Blog

Visual Studio, Microsoft, Development, .NET

from:http://www.blognone.com/node/45833

ไมโครซอฟท์เผย Visual Studio 2013 กับ Team Foundation Server 2013

ในการประกาศสิ่งใหม่ๆ ด้านการพัฒนาโปรแกรมที่งาน TechEd North America นอกจากไมโครซอฟท์เปลี่ยนวิธีคิดเงิน Windows Azure เป็นรายนาที และใช้สิทธิ์ลงโปรแกรมจาก MSDN ได้ วันนี้บริษัทได้เผย Visual Studio 2013 (VS 2013) และ Team Foundation Server 2013 (TFS 2013) เป็นทางการ และได้เผยการปรับปรุงเพิ่มเติมเกี่ยวกับด้าน Application Lifecycle Management (ALM) ดังนี้

Agile Portfolio Management จากการเพิ่มฟีเจอร์บริหารจัดการโปรเจกต์แบบ Agile (backlog, sprint, Kanban) ใน TFS 2012 และใน TFS 2013 ทีมพัฒนาได้เพิ่มเติมเครื่องมือการจัดการให้ทุกระดับของคนในองค์กรสามารถมีส่วนร่วมกับโปรเจกต์ในมุมมองที่เหมาะสมกับกลุ่มคนในแต่ละระดับได้ (enterprise agile) อาทิ ผู้ใช้สามารถจัดการ backlog ในแต่ละดับ และติดตาม (trace) ความสัมพันธ์ระหว่างต่างๆ อาทิ ระหว่าง business initiative กับ scenario ต่างๆ และกับ user story ที่เกี่ยวเนื่องกันได้
Version Control อาทิ การเพิ่มหน้า Connect ลง Team Explorer เพื่อให้นักพัฒนาสามารถควบคุมโปรเจกต์หรือ repository ที่เชื่อมต่อทั้งระดับ local, enterprise หรือ cloud ได้ หรือ การปรับปรุงหน้า Team Explorer ใหม่ โดยเพิ่มรายชื่อโซลูชันที่ถูกสร้างบน VS 2013 ทำให้นักพัฒนาสามารถเข้าถึงโปรเจกต์ที่ทำอยู่ได้สะดวก หรือ การเปิดให้นักพัฒนาสามารถคอมเมนต์ลงโค้ดได้ และการคอมเมนต์จะถูกแสดงผลแบบ inline บนไฟล์ (ดูภาพที่ 1)

ภาพที่ 1

  • Coding อาทิ การแสดงป็อบอัพบอกข้อมูลต่างๆ อย่างสถานะของการรันทดสอบโค้ดของเมธอดที่เรากำลังสนใจ (ดูภาพที่ 2) หรือ การวิเคราะห์การใช้หน่วยความจำ โดยนักพัฒนาสามารถเก็บ snapshot ของหน่วยความจำ และนำมาเปิดบน Visual Studio เพื่อดูว่าหน่วยความจำถูกครอบครองด้วยโค้ดส่วนใด

ภาพที่ 2

  • Testing อาทิ การปรับปรุงการจัดการ test case และความสามารถของ test execution ต่อจาก VS 2012.2 โดยนักทดสอบสามารถสร้างและแก้ไข test plan ได้จากหน้าเว็บของ Team Foundation Service ได้โดยตรง ไม่ต้องสลับมายังโปรแกรม Test Professional หรือ บริการใหม่ cloud load testing ที่นักทดสอบไม่จำเป็นต้องกำหนดค่าโครงสร้างพื้นฐาน (infrastructure) สำหรับการ load test เลย เพียงแต่สร้าง load test และชี้ไปยัง Team Foundation Service (เฉพาะ Visual Studio Ultimate Edition ที่ใช้ได้)
  • *Release Management** ไมโครซอฟท์เผยว่าได้ซื้อซอฟต์แวร์จัดการ release ชื่อ InRelease จากบริษัท InCycle Software และผนวกเข้ากับผลิตภัณฑ์ของบริษัท รายละเอียดเพิ่มเติมนั้นให้ติดตามจากงาน BUILD
  • Team Collaboration อาทิ ใน TFS 2013 จะเพิ่ม Team Room หรือพื้นที่ที่จะบันทึกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการพัฒนาแอพและให้ทีมสามารถเข้ามาพูดคุยกันได้ โดยผู้ใช้สามารถตั้งการแจ้งเตือนขึ้นไปบน Team Room อาทิ การ check-in โค้ด, การ build หรือการรีวิวโค้ด เป็นต้น

สำหรับรายละเอียดของ VS 2013 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับด้าน ALM นั้น จะได้รับการเปิดเผยที่งาน BUILD

ไมโครซอฟท์กล่าวว่า จะเปิดให้ดาวน์โหลด VS 2013 และ TFS 2013 เวอร์ชันพรีวิวช่วงงาน BUILD เป็นต้นไป ส่วนใครที่ต้องการลองใช้ฟีเจอร์ใหม่บางส่วนในกลุ่ม ALM ก็สามารถทดลองบนบริการ Team Foundation Service ได้แล้ว

ที่มา: บล็อกของ Brian Harry

Visual Studio, Microsoft, Development

from:http://www.blognone.com/node/44989

Visual Studio 2012 Update 2 มาแล้ว

ไมโครซอฟท์ออกอัพเดตตัวที่สองของ VS2012 หลังจากออกรุ่นอัพเดตแรกที่เป็นแค่แก้บั๊กเมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว

VS2012 Update 2 (VS2012.2) มีฟีเจอร์เพิ่มเข้ามาทั้งหมด 5 ด้าน

  • Agile Planning ปรับปรุงฟีเจอร์ของ Team Foundation Server หลายจุดให้เหมาะกับการทำงานแบบ agile
  • Quality Enablement ปรับปรุงฟีเจอร์ด้านการทดสอบ เช่น เข้าถึง Test Case Management ได้จากหน้าเว็บ, ปรับปรุง unit testing หลายจุด
  • Windows Store development เพิ่มความสามารถการวิเคราะห์การตอบสนองของแอพ JavaScript ที่เขียนสำหรับ Windows Store
  • Line-of-business development ปรับปรุงการพัฒนาแอพกลุ่มธุรกิจด้วย LightSwitch
  • Development experience ปรับปรุงประสบการณ์ใช้งาน IDE โดยรวม เช่น Code map ประสิทธิภาพดีขึ้น ทำงานร่วมกับ debugger ได้มากขึ้น, เพิ่มธีมใหม่สีฟ้าเข้ามา เป็นต้น

ดาวน์โหลด Visual Studio 2012 Update 2, รายการเปลี่ยนแปลงทั้งหมด

ที่มา – MSDN

Visual Studio, Development, Microsoft

from:http://www.blognone.com/node/42900