ตั้งแต่ iPhone X ได้ตัดปุ่ม Home ออกไปก็ทำให้การเคลียแรมใน iPhone, iPad ที่จะแบบรุ่นเก่าๆ ไม่ได้แล้ว แต่ทั้งนี้ไม่ต้องตกใจไปทางออกยังมีครับ เรามีวิธีการเคลียแรมใน iPhone X มาให้ชมกันพร้อมแล้วไปติดตามกันเลย
วิธีเคลียแรม iPhone X ทำให้เครื่องกลับมาเร็วขึ้นทันที คอนเฟิร์ม!
ค้าปลีกในอเมริกาไปไม่ไหวขึ้นทุกวันๆ แม้แต่แบรนด์ค้าปลีกที่ทำกำไรสูงสุดในโลกอย่าง Apple ยังต้องถอย เพราะคนมาเดินห้างสรรพสินค้าน้อยลงทุกวัน แต่นั่นอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ของ Apple เพราะยอดขายไม่ได้พึ่งหน้าร้านมาก ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
Photo: Pixabay
ค้าปลีกไปไม่ไหว แม้แต่แบรนด์กำไรสูงสุดยังถอย
อย่างที่รู้กันดีว่ากระแสค้าปลีกทยอยปิดตัวในปี 2017 นี้จะทำสถิติสูงสุดไปแล้ว แต่รู้ไหมว่า แบรนด์ Apple ที่เปิดร้านขายสินค้าในห้างสรรพสินค้า และถือเป็นแบรนด์ค้าปลีกที่ทำกำไรสูงสุดในโลก โดยมีการศึกษาการตลาดบอกไว้เลยว่า ทำกำไรได้ 5,546 เหรียญ (180,000 บาท) ต่อตารางฟุต นอกจากนั้นร้าน Apple ในห้างสรรพสินค้ายังเป็นแบรนด์ที่เพิ่มยอดขายให้กับห้างสรรพสินค้าได้ถึง 10% อีกด้วย
แต่แม้ว่าจะทำกำไรได้มากขนาดนั้น (แถมช่วยยอดขายในห้างสรรพสินค้า) Apple ก็มองเห็นแนวโน้มของร้านค้าปลีกในห้างสรรพสินค้าที่กำลังร่วงลงเรื่อยๆ ล่าสุด ร้าน Apple ใน Simi Valley ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ประกาศปิดร้านในวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยถือเป็นครั้งแรกของ Apple ที่ปิดหน้าร้านในห้างสรรพสินค้า
เหตุผลหลักๆ น่าจะมาจากยอดขายของห้างสรรพสินค้าใน Simi Valley Town Center ที่มีคนมาเดินน้อยลง และที่สำคัญค้าปลีกหลายรายก็ทยอยปิดตัวลงไปหลายรายแล้ว
อย่างไรก็ตาม Apple ได้ส่งแถลงการณ์ออกมาขอบคุณลูกค้าที่เคยเดินทางมาเยี่ยมชมร้านที่ Simi Valley พร้อมทั้งระบุว่า ถ้าเดินทางมาที่แคลิฟอร์เนีย และอยากเข้าร้านของ Apple ก็ให้ไปที่ Apple Topanga หรือ Apple The Oaks ซึ่งอยู่ไม่ไกลมากนัก
แต่ทั้งนี้ การปิดร้านของ Apple ในครั้งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อยอดขายโดยรวมแต่อย่างใด เพราะถ้านับดูยอดขายจากหน้าร้านแบบค้าปลีกทั้งหมดของ Apple นั้นคิดเป็นยอดขายเพียง 12% เท่านั้น
เล่าย้อนไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว Google ได้เปิดตัวแอพ Device Assist app ออกมาอย่างเป็นทางการ โดยแอพนี้จะรองรับการทำงานร่วมกับสมาร์ทโฟน Android บางรุ่นเท่านั้น อีกทั้งยังจำเป็นต้องรัน Android 5.5 Lollipop ขึ้นไป ซึ่งสำหรับใครที่ยังไม่มีโอกาสได้โหลดมาทดลองใช้งาน ตั้งแต่นี้ต่อไปคุณก็จะไม่มีโอกาสได้สัมผัสเจ้าแอพนี้อีกแล้วครับ เพราะล่าสุดทาง Google ได้ทำการถอนมันออกจาก Play Store เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะไม่มีการซัพพอร์ตใดๆต่อจากนี้อีกด้วย
สำหรับแอพ Device Assist นั้นจริงๆแล้วมันก็มีหน้าที่ตามชื่อของมันเลยครับคือการช่วยเหลือผู้ใช้เกี่ยวกับอุปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการใช้งาน รวมไปถึงช่วยหาวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับตัวอุปกรณ์ อีกทั้งตัวแอพยังนำเสนอเคล็ดลับใหม่ๆทุกๆอาทิตย์อีกด้วย ซึ่งอย่างที่เราเรียนไว้ในข้างต้นว่ามันสามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์บางรุ่นนั่นก็คือ Nexus, Android One และอุปกรณ์ Google Play Edition ซึ่งด้วยเหตุที่ว่ามันรองรับการทำงานกับอุปกรณ์เพียงไม่กี่รุ่นจึงทำให้แอพมียอดการดาวน์โหลดที่น้อยจนเป็นสาเหตุให้ Google ต้องปิดตัวแอพนี้ไปในที่สุด เพราะถึงแม้มันจะเป็นแอพที่ Google พัฒนาขึ้น แต่กลับมียอดดาวน์โหลดเพียง 500,000 ครั้งเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากๆครับ
อย่างไรก็ตามบริการนี้ก็ไม่ใช่บริการแรกที่ Google ได้ปิดให้บริการ รวมทั้งมันก็ไม่น่าจะเป็นบริการสุดท้ายด้วย แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ไม่ได้หมายความว่า Google กำลังแย่นะครับ เพราะเชื่อว่าการปิดบริการที่ไม่ค่อยมีผู้ใช้งานน่าจะเป็นหนทางที่ทำให้บริษัทสามารถหันไปโฟกัสในสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการได้มากขึ้นนั่นเองครับ
เรื่องนี้อาจเป็นเรื่องดีสำหรับคนรำคาญโฆษณา แต่นักการตลาดอาจจะกุมขมับปวดตับเอาได้ เพจก็โดนลด reach แถมโฆษณาก็จะถูกตัดตอน ฮ่าๆ แต่ส่วนตัวก็คิดว่า เดี๋ยวก็คงมีโฆษณาประเภทใหม่ที่อาจจะโดนใจโจ๋อะไรงี้ออกมาก็ได้นะ เพราะทุกวันนี้โฆษณาบางประเภทของ Facebook เช่น Page Post Ad หรือ Page Like Ad ก็จะมีข้อความที่ Facebook เรียกว่า Social Context ที่ระบบจะสร้างออกมาให้อัตโนมัติอยู่แล้วอะไรงี้