คลังเก็บป้ายกำกับ: SAFE_MODE

8 วิธีแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด อัพเดต 2023 ซ่อมให้ตรงจุด ไม่ต้องซื้อใหม่

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด เช็คตรงจุด 8 วิธีแก้ปัญหาก่อนส่งซ่อม ทำเองได้ อัพเดตปี 2023 ฟรี!

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด อย่าเพิ่งท้อ เพราะอาจจะไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่อย่างที่คิด ลองเช็คสิ่งที่อยู่รอบข้าง ก็อาจจะช่วยให้ใช้งานได้ตามปกติ ในปี 2023 นี้ บางคนอาจจะเริ่มกับการทำงานจริงจัง หรือกำลังไปเรียนแบบออนไซต์กันได้แล้ว การใช้งานโน๊ตบุ๊คที่หนักหน่วงในช่วงที่ออนไลน์กันอย่างต่อเนื่องในช่วงระบาดชของ COVID19 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายคน มีวิถีชีวิตที่หนักหน่วง ทำงานด้วย เล่นเกมด้วย และบางครั้งต้องนำไปใช้งานข้างนอก หากไม่ได้ดูแลโน๊ตบุ๊คตามความเหมาะสม ก็ทำให้โน๊ตบุ๊คทำงานผิดปกติได้ ดังนั้นหากเกิดปัญหาขึ้นมา เปิดไม่ติด จอค้าง เครื่องแฮงก์ บลูสกรีนจอฟ้า ลองมาดูกันว่าเราจะทำอย่างไรกันได้บ้าง

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด


ปัญหาเกิดจากอะไรได้บ้าง?

ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด เข้าวินโดว์ไม่ได้ หรือเปิดแล้วดับ จอดำ ไม่แสดงผล เกิดขึ้นได้จากหลายๆ สาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นแบตเตอรี่เสื่อม ชาร์จไฟไม่เข้า ไม่เก็บประจุ หรือบางครั้งแบตบวม จากความเสื่อมหรืออุบัติเหตุ หรืออาจเกิดจากการจัดเก็บที่ไม่ดีพอ อยู่กับความร้อนสูงนานๆ และที่เรามักพบกันบ่อยคือ เปิดแล้วจอภาพดำหรือจอลาย ซึ่งอาจเกิดจากความเสียหายของสายแพ จอภาพหรือชิพกราฟิกในการแสดงผล หรือบางครั้งอาจเจอการเปิดติด แต่รีสตาร์ทและบลูสกรีนวนไปเรื่อยๆ ก็อาจเป็นได้ทั้งวินโดว์ผิดปกติ แรมเสียหรือ Storage ทำงานไม่ได้ ทำให้ไม่มีตัวบูต มักจะจบตรงที่ไฟเข้า พัดลมทำงาน บูตติด แต่ไม่เข้าวินโดว์นั่นเอง เรามาดู รายละเอียดแนวทางแก้ไขในแต่ละจุดกันครับ

Advertisementavw

1.เปิดไม่ติด เงียบสนิท

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

เป็นหนึ่งอาการที่น่าเป็นห่วง เมื่อโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด เพราะอย่าลืมว่าโน๊ตบุ๊คจะต่างกับพีซีเดสก์ทอปอยู่บ้าง ในแง่ของชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่มีส่วนทำให้เปิดไม่ติด เช่น เพาเวอร์สวิทช์ สายต่อ ขั้วสัญญาณ เพราะพีซี เรายังสามารถใช้ไขควงหรืออุปกรณ์จากขั้นต่อ Front panel ที่อยู่บนเมนบอร์ด เพื่อเพาเวอร์ออนได้ กรณีที่เราสงสัยว่าสวิทช์เสีย แต่โน๊ตบุ๊คไม่สามารถทำได้

ดังนั้นอาการที่เงียบสนิท กดปุ่มเพาเวอร์แล้วไม่ติด ก็อาจเกิดจากระบบไฟภายใน หรือแบตอาจหมดได้ เพราะบางคนก็ตกม้าตาย เนื่องจากคิดว่าเสียบสายไฟอแดปเตอร์เอาไว้แล้ว และเข้าใจว่าโน๊ตบุ๊คได้รับการชาร์จไฟตลอด แต่ที่จริงแล้วไฟไม่เข้า เพราะไม่ได้เปิดสวิทช์ที่ปลั๊กราง หรือเสียบไม่แน่น พอโน๊ตบุ๊คดับ ก็คิดว่าอาจเกิดปัญหากับตัวเครื่อง

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

แก้ไขได้โดย ต่ออแดปเตอร์ให้ไฟชาร์จเข้าระบบอย่างน้อย 10-15 นาที เพื่อให้มีไฟเข้าไปเก็บไว้ในแบตสักครู่ ก็ใช้งานได้แล้วครับ

หรือในกรณีที่แบตเริ่มเสื่อมหรือมีปัญหาเกี่ยวกับการชาร์จ แล้วเกิดอาการเปิดไม่ติด ไม่มีแสงไฟสถานะใดๆ เกิดขึ้น ให้ลองแก้ไขโดย กดปุ่มเพาเวอร์ค้างเอาไว้ 10 วินาที จากนั้นต่อสายไฟชาร์จ ชาร์จไฟทิ้งไว้สัก 2-3 ชั่วโมง เพื่อเป็นการกระตุ้นแบต จากนั้นลองกดปุ่มเพาเวอร์ค้างเอาไว้สักครู่ แล้วดูว่าระบบเข้าสู่การทำงานปกติหรือไม่ แต่ถ้าไม่เข้าวินโดว์ ก็อาจจะเกิดปัญหาจากแบตหรือขั้วแบตโดยตรง อาจจะต้องส่งศูนย์ หรือส่งซ่อม


2.เปิดติด แล้วดับหรือรีสตาร์ท

อาการแบบนี้ค่อนข้างน่ากังวลเช่นกัน เพราะอาจเกิดความเสียหายได้ในหลายจุด ไม่ว่าจะเป็นที่แบตเตอรี่ สายไฟ หรือจะเป็นขั้วต่อกับอแดปเตอร์กับโน๊ตบุ๊ค รวมถึงพัดลม และชิปเซ็ต จะเห็นได้ว่ามีความหลากหลายที่จะเกิดปัญหาได้ ก็ต้องไล่ไปทีละขั้นตอน เพื่อเช็คจากต้นเหตุที่แท้จริง ไม่ว่าจะเป็น

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ลองต่อขั้วต่อจากอแดปเตอร์ เข้ากับโน๊ตบุ๊ค แล้วดูจากสัญลักษณ์ของไฟสถานะบนโน๊ตบุ๊ค ซึ่งส่วนใหญ่จะมีบอกว่า ตอนนี้คุณต่อไฟหรือชาร์จไฟอยู่หรือไม่ หากไฟสถานะขึ้นอย่างน้อยก็อุ่นใจได้ว่า แบตน่าจะยังใช้ได้อยู่

ลองถอดอแดปเตอร์แล้วกดปุ่มเปิดเครื่อง ลองดูว่าระบบสามารถเข้าไปถึงจุดใดของระบบ เพราะบางครั้งแค่เปิดเข้าไป ยังไม่ทันเริ่มต้นระบบปฏิบัติการ ก็รีสตาร์ทแล้ว ตรงนี้ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากความร้อน แต่อาจเกิดจากแบตมีน้อยไป หรือชาร์จไฟไม่เข้า หรือลัดวงจรในจุดใดจุดหนึ่ง ให้ลองปิดเครื่อง แล้วชาร์จทิ้งไว้สัก 1-2 ชั่วโมง แล้วลองดูใหม่

แต่ในบางครั้งก็อาจเกิดปัญหาที่แรมของโน๊ตบุ๊คได้ ส่วนหนึ่งอาจใช้งานมานาน หรือแรมเสียหายได้จากการใช้งานนั่นเอง ตรงนี้ก็ต้องแกะออกมาดูกันอีกที

กรณีที่แรมเสีย หากเป็นโน๊ตบุ๊คที่เป็นแบบออนบอร์ด หรือ LPDDR ส่วนใหญ่ก็อาจจะเช็คได้ยาก แต่ถ้ามีสล็อตแรม SO-DIMM มาให้ ก็ยังพอใส่แรมเพื่อตรวจเช็คได้ ให้ลองเปิดฝาด้านใต้โน๊ตบุ๊คเพื่อเช็คแรม ก่อนซื้อมาทดสอบ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

บางครั้งเกิดจากฮาร์ดดิสก์หรือ SSD เสียหาย ทำให้ไม่สามารถบูตเข้าระบบได้ เมื่อเปิดเครื่องมีไฟเข้า พัดลมหมุน และหน้าจอติดชั่วครู่ จากนั้นจะค้างอยู่ที่หน้าจอ BIOS หรือเป็นหน้าจอดำ อาการแบบนี้ ให้ลองใช้การเข้า Safe Mode เพื่อสแกนระบบแก้ไขในเบื้องต้น หรือถ้าจำเป็นต้องถอด SSD หรือ HDD ออกมา ไปลองต่อเข้ากับคอมหรือโน๊ตบุ๊คเครื่องอื่น เพื่อเช็คอีกครั้งก็เป็นอีกแนวทางที่ดีครับ


3.เปิดติด บูตเข้าระบบแล้ว BSOD

อาการแบบที่เปิดติด บูตได้ แต่เจอกับจอฟ้า BSOD บางทีเราก็ไม่นับว่าเปิดติด เพราะใช้งานไม่ได้จริง เข้าระบบปฏิบัติการไม่ได้ และก็เป็นปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้กับหลายสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ แต่ในเบื้องต้นอยากให้ใช้วิธีการที่ง่ายที่สุดก่อน นั่นคือ การใช้วิธี Startup Repair ด้วยการเข้าไปที่ Safe Mode นั่นเอง ซึ่งการเข้าในแต่ละโน๊ตบุ๊คไม่เหมือนกันครับ บางครั้งต้องกดปุ่มเพาเวอร์ค้าง ทำซ้ำๆ กัน แล้วจึงจะเข้าได้ แต่ในกรณีที่โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด บูตไม่เข้าวินโดว์ การใช้ตัวบูตที่ทำขึ้นมา เป็นวิธีที่สะดวกกว่าครับ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ถ้าไม่ทราบว่าจะเข้าไป Safe Mode ได้อย่างไร โดยสิ่งที่ต้องใช้ก็คือ USB แฟลชไดรฟ์ที่เป็นตัวบูตระบบ หากใครยังไม่มีหรือไม่ทราบว่าจะทำอย่างไร สามารถเข้ามาชมในคลิปด้านล่างนี้ได้เลยครับ นาทีที่ 3:00 เป็นต้นไป

และเมื่อทำตัวบูตระบบด้วย USB Flash drive มาแล้ว ให้ต่อเข้ากับพอร์ต USB บนโน๊ตบุ๊ค จากนั้นกดเปิดปุ่มเพาเวอร์ แล้วกดปุ่ม F9, F11 หรือ F12 บนโน๊ตบุ๊ค แล้วแต่ว่าแบรนด์ไหน กดปุ่มใด เพื่อให้เลือกตัวบูตที่แฟลชไดรฟ์นี้ โดยหัวข้อจะเป็น Boot sequence หรือ Select Boot Device เป็นต้น ให้เลือกที่ขึ้นเป็นแฟลชไดรฟ์ แล้วเข้าสู่ระบบ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

โดยเมื่อเข้ามาในส่วนของแฟลชไดรฟ์แล้ว ให้เลือกที่ Next แล้วคลิ๊กที่ Repair your computer จากนั้นไปที่หัวข้อ Repair startup แล้วทำตามขั้นตอนที่ระบบแนะนำ

นอกจากนี้ยังสามารถใช้ฟังก์ชั่นเดียวกันนี้ ย้อนไปในช่วงที่ระบบยังทำงานได้ดีอยู่ก่อนหน้านี้ แต่นั่นคุณต้องทำการ Backup system เอาไว้ สำหรับการ Recovery ระบบนั่นเอง

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

เพียงเท่านี้ ก็น่าจะพอช่วยแก้ไขปัญหาในเบื้องต้นได้บ้าง แต่ถ้ายังมีอาการ BSOD หรือจะฟ้า ก็อาจจะต้องเช็ครหัสที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ เพื่อไปเทียบกับรหัสอ้างอิงจอฟ้า ว่าเกิดขึ้นจากอะไร แล้วแก้ไปตามตัวเลขที่ระบุอาการเหล่านั้น ตรงนี้อาจจะค่อนข้างยากสักนิด เพราะต้องมีความชำนาญในระดับหนึ่ง


4.ไฟหน้าจอสว่าง แต่ภาพลาย

มีความเป็นไปได้ว่า อาจเกิดปัญหาที่ชิปเซ็ตหรือสายแพสัญญาณต่อจอภาพ หรือจอภาพที่เป็นต้นเหตุของอาการ ให้สังเกตแสงไฟสถานะของโน๊ตบุ๊ค มีการกระพริบตอบสนองหรือไม่

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

หากมีแสงไฟกระพริบ แต่ภาพไม่ขึ้น ก็เป็นไปได้ว่า สายแพของจอภาพ เกิดความเสียหาย พับ บิด ขาดเป็นต้น ตรงนี้อาจจะแก้อะไรด้วยตัวเองไม่ได้ แต่พอทราบข้อมูล เพื่อแจ้งให้กับร้านซ่อมได้ทราบ

แต่ถ้ามีแสงไฟกระพริบ ไฟหน้าจอติดๆ ดับๆ รวมถึงแสดงผลไม่สมบูรณ์ ก็เป็นไปได้เช่นกันว่า จะเกิดจากสายแพ หรือจอภาพชำรุด แต่ก็มีโอกาสที่กราฟิกชิปเกิดความเสียหายได้เช่นกัน

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

หรือถ้าไม่มีแสงไฟสถานะกระพริบเลย กดติดแต่ก็ดับไปอย่างรวดเร็ว ไม่ขึ้นภาพ หรือจอดำ ก็อาจจะเกิดจากไม่มีไฟเลี้ยงเข้าสู่ระบบ หรือการลัดวงจร ส่งซ่อมปลอดภัยที่สุด

แต่ถ้าในกรณีที่โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด กดปุ่มเพาเวอร์แล้วเงียบ ไม่มีทั้งแสงไฟ เสียงพัดลม และสัญญาณหน้าจอ เช็คเรื่องแบตเตอรี่อีกครั้ง ด้วยการชาร์จไฟทิ้งไว้สักระยะ แล้วลองเปิดเช็คดูอีกครั้ง


5.แบตเตอรี่บวม หมดสภาพ ไม่เก็บประจุ

สิ่งนี้ก็เป็นสาเหตุใหญ่ที่ทำให้เกิดปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดได้เช่นกัน เพราะเกิดกับระบบไฟโดยตรง ดังนั้นแม้จะสามารถบูตระบบ เข้าใช้งานได้ในบางครั้ง แต่ก็คงไม่เหมาะกับการใช้งานต่อเนื่องไปนานๆ และเมื่อเกิดความร้อนมากขึ้น ก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

การสังเกตอาการจากแบตเตอรี่ มีด้วยกันหลายแบบ เช่น แบตไม่เก็บประจุ ใช้ไปไม่นานก็หมด หรือชาร์จแบตไม่เข้า เสียบชาร์จไว้นาน แต่ระดับแบตก็เท่าเดิม และแบตบวม อันนี้อาจจะสังเกตได้ง่าย เพราะแบตจะขยายตัว จนดันบอดี้โน๊ตบุ๊คจนบิดเบี้ยวผิดสังเกตนั่นเอง แบบนี้ไม่ควรใช้เป็นอย่างยิ่ง เพราะเสี่ยงทั้งร่างกาย และอาจทำให้อุปกรณ์อื่นๆ เสียหายตามไปด้วย

การแก้ไขก็เพียงไม่ควรใช้งานต่อ และส่งให้ทางศูนย์หรือร้านซ่อมทำการแก้ไข ซึ่งปกติแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อย และเพิ่มไปเป็นหลักพันบาท ขึ้นอยู่กับหลายองค์ประกอบ รุ่น ความจุหรือการรับประกัน

วิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คให้ใช้งานได้ยาวนาน อย่างเช่น หลีกเลี่ยงความร้อนจัด ไม่เก็บไว้ในที่อุณหภูมิสูงมาก การชาร์จและคลายประจุบ้าง ใช้งานจนเกือบหมด แล้วจึงชาร์จไฟใหม่ ใช้อุปกรณ์ชาร์จที่เหมาะสม เป็นต้น

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

จะเห็นได้ว่ามีหลากหลายราคา และปัจจุบันมีร้านจำหน่ายอยู่หลายที่เลยทีเดียว ส่วนใหญ่ถ้าไปถึงหน้าร้าน ก็บริการเปลี่ยนให้ฟรีอีกด้วย ตรงนี้อยู่ที่ความสะดวกและการบริการ ตัวอย่างเช่น Advice ก็มีบริการด้านแบตเตอรี่โน๊ตบุ๊คด้วยเช่นกัน


6.พัดลมเสีย อุณหภูมิสูง

อย่าเพิ่งคิดว่าโน๊ตบุ๊คเสีย เพราะเมนบอร์ดหรือชิปเซ็ต ซีพียูเสียหาย เพราะส่วนใหญ่ไม่โอกาสน้อยมาก แต่ในเรื่องของความร้อน มีโอกาสเป็นไปได้มาก และยิ่งคนที่ใช้โน๊ตบุ๊คมาเป็นเวลานานๆ ก็มีโอกาสที่ทำให้โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด หรือติดไม่นานก็ดับ ไม่สามารถใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งอาการนี้เกิดจากซีพียู กราฟิก ไม่สามารถลดความร้อนได้ทัน

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

แก้ไขได้โดย การทำความสะอาด ซึ่งหากคุณพอมีพื้นฐานในการแกะฝาหลังโน๊ตบุ๊คอยู่บ้าง มีเครื่องมือและอุปกรณ์สำหรับการแก้ไข ก็สามารถปัดฝุ่น เป่าลม และสิ่งสกปรกบริเวณใบพัดลม และจุดต่างๆ ออกไป หรือถ้าให้ดี มีสิ่งที่เรียกว่า Contact Cleaner ใช้ทำความสะอาดชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ได้เช่นกัน

หรือถ้าจะให้สะอาดล้ำลึก และเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อน ก็อาจจะต้องใช้วิธีที่เรียกว่า เปลี่ยนซิลิโคนระบายความร้อนของซีพียูและกราฟิกชิปใหม่ ข้อดีของวิธีนี้คือ ช่วยระบายความร้อนได้ดียิ่งขึ้น สามารถรองรับโหลดงานหนักๆ ได้เหมือนเดิม แต่ความยากอยู่ที่การแกะฮีตซิงก์ออกมาเพื่อทำความสะอาด ไม่ใช่เรื่องง่าย และบางครั้งมีความซับซ้อน จึงเหมาะกับคนที่มีความชำนาญ หรือส่งร้านซ่อมจะดีที่สุด


7.จอหลักไม่ติด ลองต่อจอเสริม

บางครั้งปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด ก็มักมาพร้อมความซับซ้อนอยู่บ้าง เพราะมีโอกาสเกิดขึ้นได้ในทุกส่วนของอุปกรณ์ เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนเดียวกันทั้งตัวเครื่อง คล้ายกับพีซีออลอินวัน ดังนั้นแล้วก็ต้องทดสอบ ลองไปแต่ละจุด ว่าปัญหาเกิดจากส่วนใด อย่างเช่น บางครั้งเหมือนจะเปิดไม่ติด แต่กลับมีเสียงเบาๆ ของพัดลมในเครื่องให้ได้ยิน หรือบางทีมีแสงไฟคีย์บอร์ด เปิดขึ้นได้ ซึ่งนั่นก็หมายความว่า ระบบทำงาน แต่ว่าไม่มีสัญญาณขึ้นจอภาพ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ลักษณะแบบนี้ให้ลองต่อจอภาพภายนอกดูก่อน หากมีความเป็นไปได้ เพราะมีโอกาสที่คุณจะเช็คปัญหาได้ง่ายขึ้น เตรียมจอภาพที่มีพอร์ตที่ใช้ร่วมกันได้ ส่วนใหญ่จะเป็น HDMI ต่อสายสัญญาณจากโน๊ตบุ๊ค ไปยังจอภาพ จากนั้นกดปุ่ม Win+P ดูว่ามีภาพไปปรากฏบนจอแยกหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่หากพอร์ตไม่มีปัญหา โน๊ตบุ๊คยังใช้ได้ เปิดวินโดว์ทำงานได้ตามปกติ ก็จะแสดงผลมายังจอได้ทันที

แต่ถ้าในกรณีนี้ไม่มีภาพไปปรากฏบนจอ ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า แค่ตัวเครื่องหรือโน๊ตบุ๊คไฟเข้า แต่ไม่ได้บูตเข้าระบบ และส่งสัญญาณภาพได้ตามปกติ หากเป็นเช่นนั้น ก็คงต้องส่งซ่อมน่าจะเหมาะที่สุด


8.ปุ่มเพาเวอร์เสีย

เป็นเรื่องที่น่าปวดหัว และหาทางตรวจเช็คได้ยากมากๆ เพราะปุ่มเพาเวอร์ เป็นตัวเริ่มต้นการทำงานต่างๆ ทั้งหมด หากปุ่มเสีย ใช้งานไม่ได้ ไม่มีสัญญาณส่งไปยังเมนบอร์ด เพื่อแจ้งให้ระบบเริ่มต้นการทำงาน ก็คงจบตั้งแต่ขั้นตอนแรก แต่อย่างไรก็ดีโน๊ตบุ๊คบางรุ่น ยังพอมีปุ่ม Recovery ให้ใช้งาน อย่างเช่น Lenovo ในบางรุ่น สามารถใช้เข็มเล็กๆ จิ้มลงไปในช่อง เพื่อให้ระบบย้อนค่าคืนกลับมาได้ หากไม่ได้เสียหายมากนัก และยังเป็นการรีเช็คไปในตัวได้เลยว่า ระบบอาจไม่ได้เสียหาย แต่เป็นปัญหาที่ปุ่มเพาเวอร์

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

การแก้ไขก็คงทำเองได้ยาก เพราะเป็นปัญหาฮาร์ดแวร์ ที่ซ่อมเองคงไม่ได้ ต้องหาพาร์ทมาเปลี่ยน อาจถึงขั้นที่ต้องซ่อมในระดับการเชื่อมต่อสัญญาณ ดังนั้นก็คงต้องส่งซ่อม ให้ผู้เชี่ยวชาญน่าจะดีที่สุด


โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดซ่อมที่ไหน?

สามารถส่งซ่อมได้ทั่วไป ตามศูนย์ไอที หรือร้านใกล้บ้านได้ แต่ก็แนะนำว่าอาจจะต้องสอบถามให้แน่ใจในหลายๆ ที่ ลองประเมินอาการดูก่อนในเบื้องต้น เพราะบางร้านก็ให้คำแนะนำ ถ้าอาการไม่ได้หนักมาก บางร้านแก้ไขเบื้องต้นให้ได้ บางทีไม่คิดค่าใช้จ่าย แต่ถ้าเป็นหนัก ก็จะประเมินและแจ้งค่าใช้จ่ายให้ได้ทราบทันที คุณจะตกลงซ่อมหรือไม่ ก็ลองพิจารณากันดูครับ ส่วนใหญ่ถ้าไม่ถึงกับเปลี่ยนบอร์ด แค่ซ่อมบางชิ้นหรือเปลี่ยนบางอย่างได้ อาจจะไม่ได้แพงมาก แต่ถ้าอาการหนัก ราคาก็จะสูงขึ้นมาพอสมควร

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

แต่ในกรณีที่ยังมีประกัน แนะนำให้ส่งศูนย์ก่อนเป็นอันดับแรก ให้แน่ใจว่าคุณใช้งานปกติ ไม่ผิดไปจากเงื่อนไขประกันก็พอ หรือถ้ามีประกันอุบัติเหตุ ก็นำเข้าศูนย์ได้เลย หากคุณทำหล่น หรือเปียกน้ำ เรื่องระยะเวลาในการซ่อม ก็ขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยยังไงก็สอบถามดูก่อนได้เลยครับ


Conclusion

อาการ แก้ปัญหา
1.เปิดไม่ติด เงียบสนิท เปิดสวิทช์ที่ปลั๊กราง เช็คไฟเข้า เสียบปลั๊กให้แน่น ต่ออแดปเตอร์ให้ไฟชาร์จเข้าระบบอย่างน้อย 1-2 ชั่วโมง
2.เปิดติด แล้วดับหรือรีสตาร์ท ถอดอแดปเตอร์แล้วกดปุ่มเปิดเครื่อง ชาร์จทิ้งไว้สัก 1-2 ชั่วโมง แล้วลองเปิดดูใหม่
3.เปิดติด บูตเข้าระบบแล้ว BSOD การใช้วิธี Startup Repair ด้วยการเข้าจาก Safe mode หรือใช้ USB Flash Drive บูตเครื่อง หรือใช้วิธี Recovery ระบบ
4.ไฟหน้าจอสว่าง แต่ภาพลาย สายแพของจอภาพ เกิดความเสียหาย พับ บิด ขาด หรือชิปกราฟิกไม่ทำงาน
5.แบตเตอรี่บวม หมดสภาพ ไม่เก็บประจุ เปลี่ยนแบตใหม่ เพื่อป้องกันความเสียหาย
6.พัดลมเสีย อุณหภูมิสูง ทำความสะอาด แกะฝาหลัง เป่าฝุ่นและเปลี่ยนซิลิโคน
7.จอหลักไม่ติด แต่แสดงผลบนจอเสริม ต่อจอนอกด้วยสายสัญญาณ ขยับจอภาพในมุมต่างๆ เพื่อเช็คว่าเกิดจากสายแพสัญญาณหรือเป็นที่จอภาพเสียโดยตรง
8.ปุ่มเพาเวอร์เสีย เช็คจากการ Recovery

ทั้งหมดที่ว่ามานี้เป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการแก้ปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดในเบื้องต้น ซึ่งในบางครั้งอาจจะไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมด เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่ อาจไม่ได้มีอุปกรณ์สำหรับการแกะหรือสลับเปลี่ยนฮาร์ดแวร์บางชิ้น เพื่อเช็คปัญหาเองได้ แนวทางอย่างการชาร์จแบต กระตุ้นแบต ก็พอจะช่วยได้ในเบื้องต้น หากเกิดปัญหาจากเรื่องระบบการจ่ายพลังงาน แต่ส่วนที่อยากแนะนำคือ การใช้ตัวบูต USB Flash drive ที่เรามีคลิปแนะนำการสร้างตัวบูตเอาไว้ให้ด้วย แล้วนำไปใช้ในการ Repair Startup เพื่อแก้ไขตั้งแต่ในเบื้องต้น กรณีที่เข้าระบบไม่ได้ หรือเจอกับอาการบลูสกรีน ซึ่งจะพอช่วยคุณได้ในระดับหนึ่ง แต่ถ้าปัญหาเหล่านั้นลึกในระดับฮาร์ดแวร์ แบบที่ว่ากดปุ่มเพาเวอร์แล้วเงียบกริบ ไม่มีเสียง ไม่มีไฟเข้า ก็แนะนำว่าส่งซ่อมดูจะเหมาะสมที่สุดครับ จะเลือกร้านหรือศูนย์ใกล้บ้านก็ได้ครับ

from:https://notebookspec.com/web/688094-8-tip-check-notebook-not-response

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด 2022 เช็คตรงไหน แก้ไขได้ใน 8 ขั้นตอน ทำเองได้ ง่ายนิดเดียว

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด 2022 แก้ไขใน 8 ขั้นตอน บูตไม่เข้า เครื่องดับ ทำเองก็ได้ ยังไม่ต้องเสียเงิน

Notebook Not Boot cov1

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด อาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ว่ากันตั้งแต่ในส่วนของฮาร์ดแวร์เสีย ซึ่งมักจะเจอกันบ่อย โดยอาการมักจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เมื่อกดปุ่มเพาเวอร์ หรือบางครั้งก็อาจจะเป็นจอดำ ไม่มีสัญญาณ รวมถึงการเกิดจากแบตเตอรี่ที่เสื่อมสภาพ หรือเสียหายจากปัญหาการลัดวงจรก็ตาม แต่ในเบื้องต้นนี้เราจะนำเสนอแนวทางแก้ไขในเบื้องต้น โดยเริ่มจากการตรวจเช็คฮาร์ดแวร์แบบง่ายๆ ไปจนถึงเรื่องของซอฟต์แวร์ และการแกะเครื่อง เพื่อตรวจเช็คด้วยตัวเอง สิ่งที่อาจจะต้องเตรียมก็คือ แฟลชไดรฟ์สำหรับบูตระบบ ไขควงและอุปกรณ์สำหรับแกะโน๊ตบุ๊ค แปรงขนอ่อนปัดทำความสะอาด รวมถึง Contact Cleaner สเปรย์พ่นที่ใช้ร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นั่นเอง ประกอบไปด้วย 8 ขั้นตอนง่ายๆดังนี้

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

  1. เช็คแหล่งจ่ายไฟ
  2. ชาร์จไฟกระตุ้นแบตสักระยะ
  3. คอมอาจเปิดติด แต่หน้าจอดับ
  4. ลองกดปุ่ม Fn บนคีย์บอร์ด
  5. Startup Repair
  6. เช็คแรมที่ติดตั้งบนโน๊ตบุ๊ค
  7. เปิดฝาหลัง แกะแบต
  8. ทำความสะอาดในเบื้องต้น

1.เช็คแหล่งจ่ายไฟ สายไฟและอแดปเตอร์

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด อย่าเพิ่งใจร้อน คิดว่าโน๊ตบุ๊คพังไปแล้ว หรือใช้งานไม่ได้ ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่ชั่วโมง ยังใช้งานอยู่เลย เรียกว่ายังไม่ต้องไปโฟกัสที่ตัวโน๊ตบุ๊ค แต่ให้ดูองค์ประกอบอื่นๆ ที่เชื่อมต่อกันอยู่ โดยเฉพาะแหล่งจ่ายไฟ ว่ากันตั้งแต่ ปลั๊กพ่วง ปลั๊กราง ปลั๊กจากผนัง ไล่มาจนถึงสายไฟ อแดปเตอร์ และคอนเน็คเตอร์ ที่ต่อเข้ากับตัวโน๊ตบุ๊ค ถ้ามีเครื่องมือในการวัดไฟ Volt Amp ก็สามารถตรวจเช็คได้ง่ายขึ้น ส่วนสิ่งอื่นๆ ก็ให้เช็คตามรายละเอียดเหล่านี้ ในกรณีที่อาจเปิดใช้งานจนแบตหมด แล้วเปิดใหม่ไม่ติด

Advertisementavw
โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ปลั๊กจากผนัง ปลั๊กราง สำคัญมากๆ เพราะเป็นจุดจ่ายไฟหลักมาให้กับโน๊ตบุ๊ค ควรต้องเช็คให้แน่ใจว่า สามารถจ่ายไฟได้ตามปกติ ในบางครั้งปลั๊กรางอาจเสียหาย ใช้งานไม่ได้ หรือมีการลัดวงจร ซึ่งส่งผลกระทบต่อโน๊ตบุ๊คโดยตรง หากช่องที่ต่อปลั๊กไว้ ไม่มีไฟหรือเสียหาย ควรเปลี่ยนอันใหม่อันที ไม่ควรฝืนใช้งานต่อไป

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

อแดปเตอร์หรือตัวแปลงไฟ สิ่งนี้ก็สำคัญ เพราะเป็นตัวกลางระหว่างไฟบ้าน ที่ถูกแปลงเพื่อเข้าไปยังโน๊ตบุ๊ค การเช็คอาจจะยากสักนิด ถ้าเป็นไปได้ก็อาจจะต้องหาตัวเทียบที่มี Watt, Amp ที่จ่ายไฟได้ใกล้เคียงกันมาใช้ หรือนำอแดปเตอร์ที่ใช้เอาไปทดสอบกับเครื่องอื่น หากเป็นไปได้ 2 สิ่งนี้จะทำให้เราได้ข้อสรุปที่ง่ายขึ้น ว่าสิ่งใดเสีย


2.ชาร์จไฟกระตุ้นแบตสักระยะ

แต่ในบางครั้ง โอกาสที่เกิดจากแบตโน๊ตบุ๊คเสื่อม หรือเกิดความเสียหาย จนลดประสิทธิภาพการเก็บประจุลงไป ก็อาจจะใช้วิธีกระตุ้นแบต ด้วยการชาร์จไฟ ประมาณ 30 นาทีแล้วกดปุ่มเพาเวอร์ หรือลองดึงสายไฟที่ต่อเข้ากับโน๊ตบุ๊คออก จากนั้นกดปุ่มเพาเวอร์ดูอีกครั้ง แต่ในบางครั้งอาจจะต้องใช้เวลาชาร์จทิ้งไว้หลายชั่วโมง ก่อนที่จะลองเปิดโน๊ตบุ๊ค ซึ่งหากโน๊ตบุ๊คไม่ได้เสียโดยสิ้นเชิง หรือแบตฯ เสื่อมจนเก็บประจุไม่ได้แล้ว วิธีนี้ยังพอมีโอกาสให้คุณได้เปิดเครื่องได้ใหม่อีกครั้ง อย่างไรก็ดี แม้ว่าคุณจะเปิดเครื่อง หลังจากกระตุ้นแบตได้แล้ว ก็ควรจะแก้ไข ด้วยการเปลี่ยนแบตใหม่ ไม่ควรใช้แบตเก่าต่อไป เพราะอาจสร้างปัญหาได้ในภายหลัง โดยราคาของแบต มีตั้งแต่หลักร้อยบาท ไปจนถึง 2-3 พันบาท ขึ้นอยู่กับรุ่น ซีรีส์

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

นอกจากนี้หากคาดว่าเกิดปัญหาจากแบตที่ทำงานไม่สมบูรณ์หรือเริ่มมีอาการเสื่อมเกิดขึ้น อาจจะเปิดติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ให้ลองใช้การ Calibrate Battery ซึ่งเป็นอีกวิธีที่น่าสนใจ สำหรับการคืนสภาพแบตให้กลับมาทำงานได้ แต่จะดีขึ้น หรือเหมือนเดิม ก็ขึ้นอยู่กับสภาวะของแบต ณ เวลานั้น วิธีการทำนั้น ใช้การชาร์จไฟให้ได้มากที่สุด สังเกตตัวเลขที่ปรากฏขึ้นที่แถบสัญลักษณ์มุมล่างขวา หรือในแถบทาส์กบาร์ (กรณีที่เปิดติด) ดูว่าแบตสามารถชาร์จได้สุดที่ใด

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

เมื่อดูเลขว่า ได้สุดๆ ที่กี่ % ให้ถอดสายชาร์จออก จากนั้นเสียชาร์จเข้าไปใหม่อีกประมาณ 30 นาที แล้วถอดสายออกอีกครั้ง ใช้งานโน๊ตบุ๊คจนแบตเตอรี่จนหมด เพราะแบตที่เสื่อมแล้ว บางทีเหลือไม่ถึง 10% ก็ดับได้เลย จากนั้นปล่อยทิ้งเอาไว้สัก 6 ชั่วโมง หรือทิ้งค้างคืนแบบยาวๆ เมื่อได้ตามกำหนดเวลา ก็ให้ชาร์จไฟโน๊ตบุ๊คใหม่อีกครั้ง จนกว่าปริมาณแบตจะเก็บประจุได้สูงสุด ซึ่งอาจจะเต็มหรือไม่เต็มก็ได้ ตามความสามารถของแบต มาถึงตรงนี้ มีโอกาสที่จะทำให้แบตและระบบกลับมาทำงานได้ตามปกติ ซึ่งอาจจะใช้เวลาพอสมควร แต่อย่างไรก็ดี หากมีโอกาส ก็ควรจะเปลี่ยนแบตใหม่ เพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน


3.คอมอาจเปิดติด แต่หน้าจอดับ

แต่บางครั้งโน๊ตบุ๊คไม่ได้เสีย แต่จออาจไม่แสดงผล หรือสายแพรที่เชื่อมสัญญาณระหว่าง เมนบอร์ดของโน๊ตบุ๊คและจอภาพ อาจเสียหาย ทำให้ไม่มีสัญญาณบนหน้าจอ โดยให้สังเกตแสงไฟเล็กๆ ที่ปรากฏบนตัวโน๊ตบุ๊ค ซึ่งจะเป็นตัวบอกว่าโน๊ตบุ๊คยังทำงานอยู่ หรือลองยกขึ้นมา เพื่อฟังเสียงว่าพัดลมยังทำงานอยู่หรือไม่ ซึ่งถ้าพัดลมยังติด ก็มีโอกาสที่โน๊ตบุ๊คอาจจะยังไม่ได้เสีย ให้ลองแก้ไขดังนี้ครับ

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ดูที่พอร์ตแสดงผลบนโน๊ตบุ๊ค บางรุ่นอาจเป็น D-sub แต่บางรุ่นอาจจะเป็น HDMI ให้ลองใช้วิธีต่อสายสัญญาณไปยังจอมอนิเตอร์อื่นๆ ที่คุณมี ลองดูว่ามีสัญญาณไปปรากฏอยู่บนหน้าจอด้วยหรือไม่ ส่วนใหญ่ถ้าจอมอนิเตอร์ เป็นแบบตรวจเช็คสัญญาณให้แบบอัตโนมัติ หากพอร์ตแสดงผลหรือสายสัญญาณไม่ได้เสีย ก็จะปรากฏภาพบนหน้าจอให้ แต่ถ้าโน๊ตบุ๊คเสีย เปิดขึ้น แต่ไม่เข้าระบบปฏิบัติการ เช่น Windows ได้สมบูรณ์ ก็จะไม่มีสัญญาณที่เข้าจอด้วยเช่นกัน

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

และการตรวจเช็คอีกทางหนึ่งก็คือ บางครั้งสายแพรที่ต่อจากบอร์ดเข้าสู่หน้าจอ อาจเสียหายอยู่บ้าง ให้ลองเปิดเครื่องหากได้ยินเสียงพัดลม หรือมีไฟสถานะขึ้นบนตัวเครื่อง แต่ไม่มีสัญญาณเข้าจอ ให้ลองค่อยๆ พับและกางจอเป็นระดับ เพราะบางทีเป็นที่สายสัญญาณ ที่บิดงอหรือต่อเข้ากับคอนเน็คเตอร์บนบอร์ดหลวม ทำให้การเปิดกางหน้าจอในบางมุมไม่ได้ หากเกิดจากสาเหตุดังกล่าวนี้ ก็พอที่จะนำไปซ่อมหรือใช้ในการแก้ไขได้ง่ายขึ้น


4.กดปุ่ม Fn บนคีย์บอร์ด

เพิ่มเติมจากข้อก่อนหน้านี้ ในกรณีที่มีเพียงไฟสถานะขึ้นเท่านั้น แต่ยังไม่มีสัญญาณบนหน้าจอ ให้ลองกดเพาเวอร์หนึ่งครั้ง จากนั้นกดปุ่ม Fn+F7 บนโน๊ตบุ๊คบางรุ่น ที่มีให้ปิดหน้าจอแสดงผลได้ การกดปุ่มนี้อาจทำให้จอแสดงผลทำงาน ซึ่งอาจจะเกิดจากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์ หรือผู้ใช้ไปเผลอกด หรือปุ่มดังกล่าวอาจมีปัญหา

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

อีกปุ่มหนึ่งก็ควรต้องทดลองเช่นเดียวกัน นั่นคือ Fn+F8 หรือปุ่มที่ใช้เพิ่ม-ลดแสงสว่าง ซึ่งโน๊ตบุ๊คในแต่ละรุ่นอาจจะใช้ปุ่มเหล่านี้ไม่ตรงกัน และบางครั้งโน๊ตบุ๊คที่ใช้มานานๆ ก็อาจจะเกิดอาการจอเสื่อมได้เช่นกัน ดังนั้นโน๊ตบุ๊คอาจจะไม่เสีย แต่จอภาพเริ่มไปแล้ว ทำให้จอดับหรือจอมืด ลองปรับเพิ่มความสว่างดูก่อน เผื่อจะยังใช้งานได้

ส่วนอีกปุ่มหนึ่งก็น่าสนใจ นั่นคือ การกด Fn+F8 หรือ F9 เพื่อเป็นการส่งสัญญาณไปยังหน้าจออื่นๆ ที่คุณต่อพ่วงเอาไว้ ในแต่ละรุ่นอาจกดปุ่มไม่เหมือนกัน หรือจะใช้การกดปุ่ม Win+P แล้วกดปุ่มลูกศรลงมา 1 ครั้ง เพื่อเข้าสู่การแสดงผลในโหมด Duplicate หรือการแสดงผลหน้าจอเหมือนกัน หากคอมไม่ได้เสีย แต่เสียที่จอแสดงผล จะได้แก้ไขได้ตรงจุดมากขึ้น อย่างไรก็ดีวิธีนี้ต้องพอมั่นใจได้ว่าระบบเข้าสู่ Windows โดยไม่ติดที่ Log-In เวลาเข้าเครื่อง เพราะไม่อย่างนั้น ก็ไม่สามารถกดปุ่มนี้ได้เลย หรืออาจจะต้องเข้าสู่ Safe Mode หรือใช้วิธีอื่นๆ แทน

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

แต่อีกปุ่มหนึ่งที่หลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ ปุ่มเพาเวอร์ (Power On) ซึ่งมีโอกาสเสียหายได้ เพราะส่วนใหญ่เป็นปุ่มที่ต้องใช้แรงกด หรือการสัมผัสโดยตรง บางครั้งการกดที่รุนแรง หรือเกิดจากสัตว์เลี้ยงเข้ามาเล่นหรืออยู่ใกล้ๆ แล้วเกิดมันเขี้ยวอยากเข้ามาแทะ รวมถึงการโดนกระแทกอย่างรุ่นแรง ก็ทำให้ปุ่มนี้เสียได้เช่นกัน ซึ่งหากเป็นในแบบที่ว่าแล้ว แทบจะซ่อมไม่ได้ เพราะต้องเปลี่ยนชุดควบคุมบนบอร์ด การตรวจเช็คอาจจะยาก เพราะเป็นปุ่มเดียวใช้ปุ่มอื่นแทนไม่ได้ ยกเว้นว่าจะแกะแผงคีย์บอร์ดออกมา แล้วใช้เครื่องมือตรวจเช็คกันอีกครั้งหนึ่ง


5.Startup Repair

เป็นอีกวิธีที่เหมาะสมและช่วยให้การแก้ไขปัญหา โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด หรือในกรณีที่โน๊ตบุ๊คอาจจะเปิดติดบ้าง ไม่ติดบ้าง และถ้าได้รับการแก้ไขบางอย่างบ้างแล้ว และพอเปิดบูตเครื่อง ไฟสถานะติด การใช้ Startup Repair ก็จะเพิ่มโอกาสในการแก้ไขปัญหาได้ดียิ่งขึ้น เพราะอย่างน้อยๆ จะได้แก้ไขในเรื่องของไฟล์ System ที่มีปัญหา หรือแก้ไขการบูต ในกรณีที่เกิดความผิดปกติได้โดยตรง

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

Repair Startup นั้น นอกจากจะสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการบูตเครื่องได้แล้ว ก็ยังช่วยแก้ไขปัญหาบางอย่าง เช่น การเข้าวินโดวส์ไม่ได้หรือบูตเข้าได้ แต่ไม่แสดงผล รวมถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากโปรแกรมบางอย่าง ก็ใช้วิธีนี้ในการแก้ปัญหาได้อีกด้วย อย่างเช่น อาการการที่มีการตรวจพบฮาร์ดดิสก์และตั้งค่าบูตได้ถูกต้อง แต่ไม่สามารถบูตเข้าระบบได้ ซึ่งอาจจะติดค้างอยู่ ณ จุดใดระหว่างการบูตก็ตาม อาจจะต้องตรวจเช็คว่ามีการตั้งค่าบูต USB หรือไม่ รวมถึงมีอุปกรณ์ USB ติดตั้งอยู่ในพอร์ตใดหรือเปล่า หากมีก็ให้ถอดออกแล้วลองบูตใหม่หรือถ้าไม่ได้ ก็ลองใช้การ Repair Startup ได้เช่นกัน

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

วิธีการทำ Startup Repair นั้น ไม้ได้ซับซ้อนมากมายนัก แต่สิ่งที่จะต้องเตรียมก็คือ ตัวบูต Windows ซึ่งอาจจะใช้เป็น USB Flash Drive ก็ได้ เพื่อความสะดวก เริ่มต้นกรณีที่บูตเครื่องได้ แต่ไม่เข้า Windows ให้เสียบแฟลชไดรฟ์เข้าไปที่พอร์ต USB จากนั้นเข้าไปตั้งค่าใน BIOS ให้บูตจาก USB ก่อน แต่ในบางครั้งระบบจะทำการ Detect และเข้าสู่แฟลชไดรฟ์ให้ทันที แล้วเข้าไปที่ Advance Startup

  • เลือกที่ Choose Option หน้านี้ให้เลือกที่ Troubleshoot
  • ไปที่ ที่ Advance options
  • จะมีฟังก์ชั่นต่างๆ ให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น System Restore, System Image Recovery และอื่นๆ ให้เราเลือกที่ Startup Repair
  • ระบบจะแจ้งว่ามีผู้ดูแลหรือ Administrator ซึ่งปรากฏชื่อให้เห็น หากมีหลายคน ก็จะมีชื่อเพิ่มขึ้น แต่ถ้ามีแค่คนเดียว ก็ให้เราคลิกที่ชื่อได้เลย
  • ให้เราใส่ Password ซึ่งก็เป็นรหัสประจำตัวที่เราใช้ในการ Log-in ปกติ
  • เมื่อระบบทำการปรับปรุงหรือแก้ไขแล้ว ก็จะรายงานข้อมูลให้เราได้ทราบ แต่ถ้าในกรณีที่ไม่มี Error ใดเกิดขึ้น ก็จะไม่มีรายงานความผิดปกติ
โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

หรือบางครั้งบูตเครื่องแล้วหน้าจอดำ ไม่เข้าระบบ แต่มีแจ้งเตือนขึ้นมาว่า Reboot and Select proper Boot device or Insert Boot Media… เป็นต้น แสดงว่าโอกาสที่มีปัญหาเกี่ยวกับฮาร์ดดิสก์ SSD หรือ Storage ที่ติดตั้งระบบ Windows นั้นมีปัญหา อาการที่ว่านี้ส่วนใหญ่จะเปิดโน๊ตบุ๊คติด หน้าจอแสดงผล แต่ไม่สามารถเข้าสู่ระบบปฏิบัติการได้ ให้ลองบูตด้วยตัวบูตระบบที่เป็น USB จากนั้นให้เลือก Startup Repair เพื่อแก้ไข หรือใช้วิธีแกะฝาหลังของโน๊ตบุ๊ค แล้วลองขยับสาย SATA หรือถอดไดรฟ์ออกมา เพื่อติดตั้งใหม่อีกครั้ง


6.เช็คแรมที่ติดตั้งบนโน๊ตบุ๊ค

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ตรวจเช็คแรม แรมก็เป็นปัจจัยอีกส่วนหนึ่ง ที่เมื่อเกิดความเสียหาย ก็ทำให้โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด บูตระบบไม่ได้ สามารถเช็คด้วยการเปิด System วิธีการคือ คลิกขวาที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ แล้วเลือก System จากนั้นไปที่ Device แล้วดูในส่วนของ RAM ที่มีอยู่ในระบบว่ามีจำนวนครบตามที่ติดตั้งไว้หรือไม่ เช่นติดตั้งไว้ 8GB (4GB+4GB) หากเห็นแค่ 4GB ก็เป็นไปได้ว่าแรมแถวใดแถวหนึ่งอาจเสียหาย

กรณีที่พบว่าเกิดปัญหาขึ้นจากแรมในระบบ ให้ถอดแรมออกมาทั้งหมด แล้วใช้แรมทีละแถวเพื่อตรวจสอบการใช้งาน หากแถวไหนหรือสล็อตใดเสียบแล้วไม่ติด โน๊ตบุ๊คไม่บูตระบบ ก็ให้สันนิษฐานว่ามีปัญหา แต่ก่อนที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแรมใหม่ ให้ลองสลับแถวแรมดูก่อน โดยย้ายไปที่สล็อตอื่นๆ แล้วทดสอบดูอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าไม่ได้เกิดปัญหาจากตัวแรม แต่ถ้าหลังจากเปลี่ยนสล็อตใส่แรมไปแล้ว เครื่องก็ยังไม่ทำงาน ก็ยังพอมีวิธีในการที่จะทำให้เครื่องกลับมาใช้งานได้ เพราะบางครั้งก็ไม่ได้หมายความว่าแรมจะเสียแบบถาวร แต่ให้ลองทำความสะอาดแรม ก่อนนำมาใช้ หรืออาจใช้ซอฟต์แวร์ ทดสอบแรม

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

นอกจากนี้อาจใช้เครื่องมือที่ในการตรวจเช็ค กรณีที่เปิดติดๆ ดับๆ Memory Analytics รวมถึง Windows Memory Diagnostics Tool เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการทดสอบ ขั้นตอนการใช้งาน ก็เพียง ให้กดปุ่ม Windows + R เพื่อเปิดหน้าต่าง Run จากนั้นพิมพ์ “Mdsched” ลงไป แล้วกด Enter จากนั้นให้เลือก Restart now and check for problem (recommended) หากพบว่าแรมทำงานเป็นปกติ ก็สามารถเลื่อนไปใช้วิธีอื่นในการตรวจเช็คซ้ำ แต่ถ้าเกิดปัญหาขึ้นที่แรม ก็ให้ทำตามขั้นตอนของระบบ เพื่อเช็คความผิดปกติต่อไป

7.เปิดฝาหลัง แกะแบตเตอรี่

เป็นวิธีแนะนำที่อาจจะเหมาะกับผู้ใช้ที่พอมีความรู้ความชำนาญในการแกะโน๊ตบุ๊คอยู่บ้าง หากใครไม่คุ้นเคยหรือไม่มีเครื่องมือใช้งาน ก็ไม่อยากให้ลงมือเอง เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อบอดี้หรือโครงของโน๊ตบุ๊คได้เช่นกัน โดยเฉพาะการแกะฝาหลังให้หลุดออก ซึ่งวิธีการนั้น ต้องหาเครื่องมือมาไขน็อต จะมีทั้ง 4 แฉกและ 6 แฉกขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อต่างกันออกไป จากนั้นใช้การ์ดบางๆ มาเซาะตามร่องให้ง้างออกในบางจุด และค่อยๆ แกะไปเรื่อยๆ จนครบทุกด้าน ไม่ควรรีบมากเกินไปหรืออย่าฝืนดึง กระชาก เพราะอาจเกิดความเสียหายหรือกรอบแตกได้ จะมีค่าใช้จ่ายตามมาไม่น้อย

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

เมื่อแกะฝาหลังโน๊ตบุ๊คออกทั้งหมดแล้ว ให้ดูที่แบตเตอรี่ สังเกตขั้วที่ต่อระหว่างแบตเตอรี่ ซึ่งเราจะเห็นเป็นก้อนสีดำยาวๆ วางอยู่ตามแนวนอนภายในเครื่อง จากนั้นไล่ดูสายไฟที่ต่อจากแบต ไปยังบอร์ด ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า ขั้วดังกล่าวนี้อาจหลุดหรือหลวมอันเนื่องจากการใช้งาน หรือบางครั้งเกิดการหล่นกระแทก ก็ทำให้หลุดหรือเสียหายได้เช่นกัน ในเบื้องต้น ให้ถอดขั้วดังกล่าวออกมา จากนั้นใช้แปรงปัดฝุ่น ค่อยๆ ทำความสะอาด แล้วจึงต่อเข้าไปใหม่ ให้มั่นใจว่า ขั้วนั้นไม่หักหรือไม่หลวม แล้วลองเปิดเครื่อง ว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่?

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

แต่ถ้ายังใช้ไม่ได้ ไม่บูตเข้าระบบ ก็อาจจะต้องลองเปลี่ยนฮาร์ดดิสก์หรือ SSD ตัวใหม่เข้าไป เพราะเป็นไปได้ว่าไดรฟ์ที่ติดตั้งระบบที่มีอยู่เดิมอาจเสียหาย ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้เช่นกัน แม้จะโอกาสน้อยมากๆ ถ้าไม่จมน้ำ หรือตกกระแทกหรือเจอกับความร้อนสูงมากๆ นั่นเอง


8.ทำความสะอาดในเบื้องต้น

ในกรณีที่แกะฝากหลังเปิดเครื่องออกมาแล้ว สามารถใช้ช่วงเวลานี้ในการทำความสะอาดโน๊ตบุ๊คไปด้วยเลย เผื่อว่าจะช่วยให้โน๊ตบุ๊คกลับมาเปิดติด ระบบทำงานได้ตามปกติ เริ่มต้นง่ายๆ ด้วยวิธีพื้นฐานนั่นคือ การถอดแรมในทุกแถวที่มี ออกมาทำความสะอาด โดยใช้ยางลบถูที่พินหน้าสัมผัสของแรมแบบเบาๆ ลดคราบที่เป็นออกไซด์ให้หมดสิ้น จากนั้นเช็ดให้สะอาด แล้วติดตั้งเข้าไปใหม่

โน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติด

ส่วนอุปกรณ์ที่เป็นเมนบอร์ดและอื่นๆ สามารถใช้แปรงและที่เป่าลม มาปัดบรรดาสิ่งสกปรกหรือฝุ่นผง และบางครั้งอาจมีแมลงหรือมดเข้ามาทำรังในนี้ ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายและโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดได้เช่นกัน ให้ปัดทำความสะอาดให้ได้มากที่สุด และในขั้นตอนสุดท้ายใช้สิ่งที่เรียกว่า Contact Cleaner ซึ่งเป็นแบบสเปรย์มาพ่นทำความสะอาดอีกครั้ง โดยสิ่งที่ว่านี้ จะเป็นแบบที่ผู้ใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มักนำมาใช้ทำความสะอาดบรรดาชิ้นส่วนหรือหน้าสัมผัสของเครื่องใช้ไฟฟ้า ด้วยคุณสมบัติที่ทำความสะอาดชิ้นส่วนได้ แห้งเร็ว และไม่เป็นคราบน้ำ ทำให้มีความปลอดภัยในการใช้งานสูง อย่างไรก็ดี การฉีดพ่น ควรกำหนดตำแหน่งให้เหมาะสม รวมถึงทิ้งไว้ให้แห้งสนิด ก่อนจะประกอบและทดสอบใช้งานกันอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัย


Conclusion

และทั้งหมด 8 วิธีนี้ เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยในการแก้ไขปัญหาโน๊ตบุ๊คเปิดไม่ติดได้ด้วยตัวเอง ซึ่งแนะนำว่าหากในข้อต้นๆ 1-5 ยังไม่สามารถแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ตามปกติ ในข้อที่ 6-8 อาจจะเป็นแนวทางที่ช่วยได้มากขึ้นก็จริง แต่ก็ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ดี ในเรื่องของการตรวจเช็ค หากไม่แน่ใจว่าทำถูกต้องหรือไม่ หรือมีอะไรที่เป็นข้อสันนิษฐานในการแก้ไข ก็นำไปแจ้งให้กับทางช่างให้ได้ทราบ หรือถ้ามีประกัน ก็ควรจะส่งเคลมก่อนจะหมดประกัน เพื่อกลับมาใช้งานได้อย่างรวดเร็วต่อไป สุดท้ายนี้ขอให้ทุกท่านผ่านปัญหาที่เจอกันอยู่ได้อย่างสำเร็จลุล่วง แต่ถ้ามีปัญหาอื่นใดเพิ่มเติม สามารถสอบถามหรือคอมเมนต์เอาไว้ได้เลย เพื่อที่จะได้นำเสนอข้อมูลสำหรับเป็นแนวทางในการแก้ปัญหากันต่อไป

from:https://notebookspec.com/web/632189-notebook-can-not-boot-check-now

[Windows tip] อย่างง่าย…เข้า Safe mode ด้วยระบบ System configuration

ในบางครั้งปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานบนวินโดวส์ ซึ่งอาจเกิดจากความผิดพลาดของซอฟต์แวร์บางตัวหรือไฟล์ระบบเกิดความเสียหาย รวมถึงการแก้ไขไฟล์บางกรณี อาจจำเป็นต้องอาศัยการเข้า Safe mode ของ Windows เพื่อเริ่มการแก้ไข อย่างไรก็ดีการเข้าสู่ Safe mode มีด้วยกันหลายวิธี เช่นการบูทเครื่องใหม่หรือเข้าทาง Advanced Start up ก็ตาม แต่ก็มีวิธีที่สั้นๆ ไม่ยุ่งยากมาก เป็นการเข้าสู่ Safe mode ในเบื้องต้นมาฝากกัน

F8 Safemode-2

โดยวิธีการนี้ จะเป็นการเข้า Safe mode ด้วยวิธีการใช้ System configuration

Safe mode-windows 10-1
1.เริ่มต้นให้พิมพ์ msconfig ลงในกล่อง Search บน Start menu แล้วกด Enter เพื่อเข้าสู่ System Configuration

Safe mode-windows 10-2

2.เลือกไปที่แท็ป Boot แล้วดูที่ใต้ Boot options ให้ใส่เครื่องหมายหน้า Safe boot แล้วเลือกตามหัวข้อที่ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Minimal, Alternative shell, Active Directory, และ Network.

Safe mode-windows 10-3

3.คลิกปุ่ม Apply แล้วเลือก OK เวลาที่คุณเห็นหน้าต่างรายการจะปรากฏขึ้นเป็น Restart และ Exit without restart ให้คลิก Restart ถ้าคุณต้องการให้ระบบบูตเครื่องใหม่และเข้า Safe mode ให้ทันที หรือคลิก Exit without restart ถ้าคุณต้องการเข้า Safe mode ครั้งต่อไปที่มีการรีสตาร์ทในภายหลัง

เป็นวิธีการเข้าสู่ Safe mode บน Windows 10 ในแบบเบื้องต้น สำหรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไป

ที่มา : intowindows

from:http://notebookspec.com/5-ways-to-start-windows-10-in-safe-mode/357480/

[Windows Tip]เพิ่ม Safe Mode เข้าไปใน Boot Menu บน Windows 10

Safe Mode ถือเป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญในระบบปฏิบัติการ Windows ซึ่งฟีเจอร์นี้ จะมีอยู่ใน Windows ทุกเวอร์ชั่น สำหรับการแก้ไขปัญหาการบูตระบบในบางครั้ง โดยใน Windows 7 หรือที่เก่ากว่า การเข้าถึง Safe Mode จะใช้วิธีการกด F8 หลังจากที่เริ่มเปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ จึงจะสามารถเข้าใช้งาน Safe Mode ได้ อย่างไรก็ดีสำหรับ Windows 8 และ Windows 10 นั้น อาจจะมีความแตกต่างอยู่บ้างเล็กน้อยในการใช้งาน

safe-mode-to-Windows-10-1

มีอยู่ 2 วิธีในการบูตเข้าสู่ Safe Mode สำหรับ Windows 8 และ Windows 10 แต่ก็มีวิธีที่ดีกว่าในการเข้าถึง Safe Mode ได้ง่ายยิ่งขึ้น การเพิ่มทางเลือกเข้าไปใน Boot Menu น่าจะช่วยให้คุณใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะคุณจะเห็นเมนูที่ตัวบูตได้ทันที และมีเวลามากพอสำหรับการเลือกฟังก์ชั่นเพื่อเข้าสู่ Safe Mode โดยจะปรากฏเมนูขึ้นทุกครั้ง เมื่อมีการบูตเครื่องตามปกติ

โดยที่คุณสามารถกำหนดค่าใน Windows เพื่อให้แสดงเมนู Safe Mode ระหว่างการบูตเครื่องในเวลาประมาณ 2-3 วินาที เมื่อคุณจำเป็นจะต้องเข้าสู่ Safe Mode สิ่งที่ต้องทำก็คือ เลือกที่ออพชั่น Safe Mode และเลือกเมนู แล้วกดปุ่ม Enter

การเพิ่มเมนู Safe Mode ใน Windows 10

safe-mode-to-Windows-10-2

1.เริ่มต้นให้เปิด Command Prompt as administrator แล้วพิมพ์ cmd ลงไปใน Search menu box แล้วกดปุ่ม Ctrl + Shift + Enter สำหรับ Windows 10 ให้พิมพ์ cmd ในช่อง Search หรือคลิกขวาที่ Command Prompt แล้วเลือก Run as administration

safe-mode-to-Windows-10-3

2.ให้พิมพ์หรือเลือก Paste คำสั่งต่อไปนี้ลงไป bcdedit /copy {current} /d “Safe Mode” และกดปุ่ม Enter เพื่อเริ่มคำสั่งการทำงาน

เมื่อคำสั่งเริ่มทำงานจนสำเร็จ ให้ปิดหน้าต่าง Command Prompt ด้วยการพิมพ์ Exit หรือคลิกที่ปุ่มปิดหน้าต่างด้านบน

safe-mode-to-Windows-10-4

3.จากนั้น ให้เปิดหน้าต่าง Run อาจใช้วิธีกดที่ปุ่ม Windows + R แล้วพิมพ์ msconfig แล้วกด Enter ในการเปิด System Configuration utility dialog.

safe-mode-to-Windows-10-5

4.คลิกที่แท็ป Boot แล้วเลือก Safe Mode จากในรายการ ใส่เครื่องหมายหน้า Safe Boot และตั้งค่า Timeout 3 วินาที ตรงจุดนี้คุณสามารถเลือกได้ว่าจะให้เป็น 0 ไปจนถึง 30 วินาที การตั้ง 3 วินาที หมายความว่าคุณสามารถเลือกการ Boot บนตัวเลือกของ Safe Mode ได้ในเวลา 3 วินาที ก่อนที่จะบูตเข้าสู่ระบบปฏิบัติการ Windows โดยอัตโนมัติ

เลือกปรับตามความรู้สึกของคุณเอง ว่าจะใช้เวลาในการเลือกที่ 3 วินาทีพอหรือไม่ หรืออาจจะเพิ่มไปเป็น 5 วินาที ก็ได้เช่นกัน สุดท้ายก็อย่าลืม Apply เพื่อตอบตกลงการใช้งาน

safe-mode-to-Windows-10-6

เมื่อรีบูตระบบ ตัวเลือก Safe Mode ก็จะปรากฏอยู่บนเมนู Boot selection ด้วยเช่นกัน ซึ่งหน้าจอบูตจะเปลี่ยนไปหลังจากผ่านไป 3 วินาที เมื่อคุณเลือกออพชั่น Safe Mode จากที่ Boot Menu คอมพิวเตอร์ของคุณจะรีบูตและเข้าสู่ Safe Mode และพร้อมใช้งานในทันที

ที่มา : intowindows

from:http://notebookspec.com/how-to-add-safe-mode-to-boot-menu-in-windows-8-1/354344/