ลือ!! Amazon Prime Health ที่เหล่านักลงทุนฟันธงว่า “มาแน่นอน”

นักลงทุนวงในอย่าง John Doerr กล่าวในงานประชุมอุตสาหกรรม healthcare ที่นิตยสาร Forbes จัดขึ้น ว่าเจ้าพ่อค้าปลีกอย่าง Amazon จะรุกฐานสมาชิกบริการ Prime ของตัวเองให้หันมาใช้บริการรวบรวมข้อมูลด้านสุขภาพที่สะดวกสบาย เบื้องต้นบริการนี้ถูกเรียกกันเองว่า Amazon Prime Health ซึ่งยังไม่มีการยืนยันว่าข้อมูลนี้ชัวร์หรือมั่วนิ่ม

วงในจากวงการอีคอมเมิร์ซ

ข่าวลือเรื่อง Amazon Prime Health กำลังแจ้งเกิดนั้นได้รับความสนใจมากในวงการอีคอมเมิร์ซ เพราะ John Doerr นักลงทุนคนปล่อยข่าวนี้เป็นนักลงทุนวงใน ซึ่งเคยเทเงินลงทุนในช่วงตั้งต้นของหลายบริษัทใหญ่ทั้ง Google และ Amazon ล่าสุด John Doerr แสดงความเชื่อมั่นว่า Amazon จะเสนอบริการ “Prime Health” สำหรับสินค้ากลุ่มสุขภาพและการแพทย์

Christina Farr ผู้สื่อข่าว CNBC.com ยังรายงานว่า John Doerr ไม่ได้ขยายความว่าข่าวนี้มาจากปากผู้ก่อตั้ง Amazon อย่าง ​Jeff Bezos โดยตรง แต่บอกให้ผู้ฟังลงจินตนาการถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นเมื่อ Amazon เปิดตัว Prime Health พร้อมกับแสดงความมั่นใจว่า Amazon จะเปิดตัว Prime Health แน่นอน

ความเชื่อมั่นหรือความเห็นของ Doerr นั้น ถูกมองว่าสำคัญ เพราะ Doerr เป็นเจ้าของเงินทุนหลายพันล้านเหรียญซึ่งมีส่วนได้เสียกับอนาคตของบริษัทใหญ่เหล่านี้ ที่ผ่านมา Doerr เข้าร่วมกับบริษัทเงินทุน Kleiner Perkins ในปี 1980 และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานบริษัท

เหตุผลที่ควรมา

ส่วนหนึ่งของเหตุผลที่ Amazon มีภาษีดีเรื่องให้บริการสุขภาพคือข้อมูล Prime Health จะมีดีกรีเหนือผู้ให้บริการรายอื่นเพราะ Amazon มีฐานข้อมูลมหาศาลเกี่ยวกับสมาชิก และพฤติกรรมการช้อปปิ้งของทุกคน ข้อมูลเหล่านี้สามารถนำมาใช้เพื่อช่วยตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพของแต่ละคนได้แบบเฉพาะทาง โดยปัจจุบัน Amazon Prime มีผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก

อีกจุดที่น่าสนใจคือ รายงานจาก Wall Street Journal พบว่าปัจจุบัน จำนวนแพทย์ในสหรัฐฯที่เริ่มดึงผู้ป่วยมาซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ Amazon.com นั้นเพิ่มขึ้น ซึ่งสะดวกต่อการซื้อเครื่องวัดความดันโลหิต และอุปกรณ์อื่นโดย direct จากแอปพลิเคชั่นที่ฝังในเวชระเบียนส่วนตัวของผู้ป่วย แนวโน้มนี้แสดงถึงการขยายตัวของตลาดสินค้าสุขภาพในวงการอีคอมเมิร์ซ ซึ่งแม้จะเป็นอุตสาหกรรมที่ซับซ้อนและถูกต่อต้านเพราะความกังวลเรื่องความปลอดภัย แต่ก็ถือเป็นตลาดที่มีโอกาสทองรออยู่ชัดเจน

ที่มา: : FastCompany

 

Source: thumbsup

from:https://thumbsup.in.th/2018/12/amazon-prime-health-is-coming/

Amazon ฟุ้ง SMB ทำเงินเกิน 1 พันล้านเหรียญใน 25 ชั่วโมงแรกของ Prime Day

Amazon ประกาศผลประกอบการน่าทึ่งไตรมาสล่าสุดที่เพิ่งจบไปเมื่อมิถุนายนที่ผ่านมา หนึ่งในสถิติเซอร์ไพรส์คือยอดขายในมหกรรม Prime Day ซึ่งกินเวลา 36 ชั่วโมงในปีนี้ โดยแม้จะมีปัญหาในช่วง 2-3 ชั่วโมงแรกของ Prime Day แต่ Amazon ระบุว่าธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางสามารถสร้างยอดขายได้ 1 พันล้านเหรียญในช่วง 25 ชั่วโมงแรกของ Prime Day ประจำปีนี้

Prime Day ช่วยเพิ่มยอด

ความสำเร็จของ Prime Day เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเรื่องบริการ Prime บริการที่สมาชิกต้องเสียค่าสมาชิกให้ Amazon เพื่อแลกกับบริการจัดส่งสินค้าเร็วใน 2 วันและบริการรายการโทรทัศน์และภาพยนตร์ที่เติบโตขึ้น โดยไตรมาสที่ผ่านมา Amazon ประเดิมเพิ่มราคาสมาชิกจาก 99 เหรียญ มาเป็น 119 เหรียญต่อปี แต่ผลคือชาวเน็ตกว่า 100 ล้านคนวันนี้ตัดสินใจจ่ายเงินเป็นสมาชิก Prime เรียบร้อย

Prime เป็นส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ทำให้ Amazon ทำรายได้มากขึ้น โดยไตรมาสล่าสุด Amazon สามารถทำกำไรเพิ่มขึ้นถึงระดับ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐได้เป็นครั้งแรก จุดนี้ Amazon ย้ำว่านอกจาก Prime ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติง และธุรกิจโฆษณาของ Amazon ก็เติบโตไม่แพ้กัน

ธุรกิจคลาวด์คอมพิวติงอย่าง Amazon Web Services ยังคงเป็นแผนกทำรายได้หลักให้ Amazon ยอดขายไตรมาสล่าสุดเพิ่มขึ้นกว่า 6 พันล้านเหรียญ Amazon Web Services สามารถครองส่วนแบ่งทางการตลาดนำหน้าคู่แข่งอย่าง Microsoft, Google และรายอื่น ทำให้สัดส่วนของธุรกิจคลาวด์ทำกำไรสูงกว่าธุรกิจค้าปลีกหลักของ Amazon

ในมุมธุรกิจโฆษณาออนไลน์ Amazon ยังชิงตลาดที่มี Facebook และ Google ครองพื้นที่ได้สำเร็จ จุดนี้พบว่าธุรกิจโฆษณาทำยอดขายให้ Amazon ได้เกือบ 2.2 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 132% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า

ในภาพรวม Amazon ระบุว่าสามารถทำกำไร 2.5 พันล้านเหรียญในช่วง 3 เดือน (เมษายน-มิถุนายน) อย่างไรก็ตาม การเติบโตของยอดขาย Amazon กลับอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ โดยยอดขายของ Amazon อยู่ที่ 52.9 พันล้านเหรียญในไตรมาสล่าสุด เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ว่าจะมีรายได้มากกว่านี้

ที่มา: : Yahoo Finance

 

Source: thumbsup

from:https://thumbsup.in.th/2018/07/amazon-smb-prime/

เทน้ำเทท่า Amazon จัดส่งสินค้า 5 พันล้านชิ้นแก่สมาชิกบริการ Prime ปี 2017

Amazon แบรนด์ยักษ์วงการค้าปลีกอเมริกันประกาศว่าสามารถจัดส่งสินค้าได้มากกว่า 5 พันล้านชิ้นสู่มือสมาชิกบริการ Prime ในปี 2017 ที่ผ่านมา โดยอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคืออุปกรณ์เสริมให้ทีวีเชื่อมต่ออินเทอรืเน็ตได้ Fire TV Sticks และลำโพงผู้ช่วยส่วนตัวรุ่นเล็ก Echo Dots ที่โกยยอดขายถล่มทลาย

สถิติการจัดส่งสินค้า 5 พันล้านชิ้นนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เมื่อคำนวณว่า Amazon สมาชิกบริการ Prime เฉลี่ยเดือนละ 416 ล้านชิ้นตลอด 12 เดือนที่ผ่านมา

นอกจาก Fire TV Stick และ Echo Dot ที่เป็นสินค้า best-selling ที่สมาชิก Prime ในสหรัฐฯนิยมซื้อหามาใช้งาน ยังมีสินค้าม้ามืดอย่างหม้อ Instant Pot ซึ่งเป็นของขวัญติดชาร์ตของบริการ Amazon อย่าง Wedding Registry รวมถึงรายการ Wish Listed ซึ่งหนังสือดำราอาหารจากหม้อมหัศจรรย์ Instant Pot Cookbook ยังเป็นของขวัญที่ได้รับความนิยมมากตลอดทั้งปีที่ผ่านมา

เงินสะพัดสู่ Amazon ช่วงปี 2017 ยังมาจากบริการ Prime ที่ไม่ต้องมีการจัดส่งสินค้าด้วย เช่น บริการภาพยนตร์ซึ่งเปิดให้สมาชิกได้ชมก่อนใครที่บ้าน บางเรื่องเป็นภาพยนตร์คุณภาพใหม่ที่เข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำซึ่งจะประกาศผลในต้นปีนี้

อย่างไรก็ตาม สินค้าที่ยังต้องจัดส่งหรือ shipping product ก็ยังเป็นสินค้าหลักที่ Amazon ทำเงินจากสมาชิก Prime ได้ตลอดเวลา ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Prime กำลังเพิ่มสมาชิกก้าวกระโดด หลังจากที่ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เจ้าพ่อ Prime อนุญาตให้วัยรุ่นมหาวิทยาลัยสามารถสมัคร Prime ได้เป็นรายเดือน บนค่าใช้จ่ายที่ย่อมเยาลง

ที่มา: Engadget

 

Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2018/01/amazon-prime/

Amazon Prime ยังไม่โตหวือหวาที่สิงคโปร์

ประเมินสถานการณ์ล่าสุดของ Amazon ที่เปิดบริการสมาชิก Prime ในสิงคโปร์ได้ทันช่วงหยุดยาวคริสต์มาส ตามหลังการรุกคืบด้วยการออกแอปพลิเคชัน Prime Now เพื่อให้ลูกค้าสามารถรับสินค้าที่สั่งซื้อไว้ได้ทันใจตั้งแต่กรกฎาคม แต่ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ถูกมองว่ายังไม่พอในการกระตุ้นให้นักช็อปแดนเมอร์ไลออนหันมาหา Amazon ทำให้เจ้าพ่อ ecommerce ในตลาดยังครองส่วนแบ่งสูงเช่นเดิม

อย่างไรก็ตาม หลายคนอาจมองว่าการประเมินนี้เร็วเกินไป เพราะ Amazon เพิ่งเริ่มทำตลาดอาเซียนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา

จากการรวบรวมข้อมูลในช่วงธันวาคม 2017 พบว่า Amazon ยังทิ้งห่างจากเจ้าถิ่นอย่าง Lazada เพราะยอดใช้งานแอปพลิเคชันในกลุ่มช้อปปิ้งนั้นแพ้หลุดหลุ่ยทั้งบนแพลตฟอร์ม Android และ iOS (เฉพาะตลาดสิงคโปร์)

สิ่งที่น่าสนใจจากการสำรวจของ App Annie คือชาวสิงคโปร์ให้ความสนใจ Amazon Prime อย่างมากในวันที่มีข่าวเปิดตัว โดยปริมาณการใช้งานแอปพลิเคชันนั้นเพิ่มขึ้นก้าวกระโดดในวันที่ 7 ธันวาคม แต่ก็กลับลดลงเหลือเลข 2 หลักในช่วงไม่กี่วันถัดมา

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในขณะที่การใช้งานแอปพลิเคชัน Lazada ซึ่งเป็นบริการในเครือ Alibaba นั้นเพิ่มสูงคงที่ตลอดเดือนธันวาคม โดยครองแชมป์แอปพลิเคชันที่มีการใช้งานมากที่สุดอันดับ 1 ในกลุ่ม shopping category ตั้งแต่ช่วง 12 ถึง 15 ธันวาคม ผลพวงจากโปรโมชันวันที่ 12.12 ซึ่งถอดแบบจาก Singles Day และ Black Friday

ส่วนหนึ่งเป็นเพราะ Amazon นั้นโบกมือไม่ร่วมทำโปรโมชันเกาะกระแสใด ทำให้เพื่อนในร่วมสมรภูมิในอาเซียนอย่าง Qoo10, Shopee และ Redmart ทะยานแซงหน้าไป

ยังมีสถิติอื่นที่น่าสนใจของ Amazon ในตลาดสิงคโปร์ ขอเชิญติดตามเพิ่มเติมได้จากที่มา

ที่มา: Tech in Asia

 

Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/12/amazon-prime-singapore-2017/

[Review] Asus Prime Z370-A เมนบอร์ดชิปเซ็ตใหม่รองรับ Intel GEN 8 ราคา 7,XXX บาท

เปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการแล้วกับเมนบอร์ดรุ่นใหม่ล่าสุดจาก ASUS ที่มาพร้อมกับชปเซ็ต Z370 โดยมาในชื่อรุ่นว่า ASUS PRIME Z370-A โดยเมนบอร์ดรุ่นนี้ถูกออกแบบมาเจาะกลุ่มผู้ใช้งานในระดับ MainStream ที่เน้นความคุ้มค่าพร้อมฟีเจอร์ที่มากมาย และคุณภาพการผลิตที่เหนือกว่าแบรนด์อื่น ๆ แต่สำหรับจุดเด่นหลัก ๆ ของเมนบอร์ดรุ่นนี้คงหนีไม่พ้นชิปเซ็ต Z370 ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับ Intel Gen 8 Coffee Lake โดยเฉพาะ และการ Design แบบใหม่ที่เน้นความอลังการมากยิ่งขึ่น

หน้าตาตัวกล่องยังคงเน้นความเรียบง่ายชัดเจน กล่องด้านหน้านั้นได้มีการโชว์ภาพเมนบอร์ดอย่างชัดเจน มีการระบุชื่อรุ่นตัวใหญ่โต PRIME Z370 – A พร้อมกับคีย์ฟีเจอร์หลักอย่าง AURA SYNC และระบบที่รองรับซัพพอร์ตมากมายในด้านล่าง ส่วนตัวกล่องด้านหลังระบุถึง 5 ฟีเจอร์หลัก พร้อมด้วยส่วนประกอบต่าง ๆ ของเมนบอร์ดและสเปคของเมนบอร์ดรุ่นนี้

ในส่วนของบันเดิ้ลที่แถมมาในกล่องอย่างมากมาย โดยจะเป็นของที่จำเป็นต้องใช้ในการจัดสเปกคอม ซึ่งจะประกอบไปด้วย DVD Driver, สาย SATA, หนังสือคู่มือ, น๊อตยึด M.2, Bridge SLI, Back IO Panel Plate, อุปกรณ์ช่วยใส่ CPU

หน้าตาของเมนบอร์ดในซีรีส์นี้ถือว่าได้มีการพัฒนาไปจากรุ่น Prime Z270 A เป็นอย่างมาก แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์การออกแบบเดิมไว้อยู่ โดยเน้นโทนสีดำขาว ลวดลายบน PCB ถูกแต่งเติมด้วยลายกราฟฟิกเราขาคณิต เหมือนกับลวดลาย Diamond CUT ไปในทิศทางเดียวกันกับซิงก์ระบายความร้อนชิปเซ็ตขนาดใหญ่ที่ด้านล่าง

จุดเด่นที่ดึงดูสายตาของเมนบอร์ดรุ่นนี้คือ Back I/O Panel Cover ด้วยการออกแบบที่สวยงามใหญ่โตสกรีนลาย PRIME ผลิตจากวัสดุพลาสติด ABS สีขาวมันเงาพร้อม Layer ลวดลายภายในทำให้ดูโดดเด่นมากขึ้น และยังยาวคลุมซิงร์ระบายความร้อนไปส่วนหนึ่ง ทำให้มิติของเมนบอร์ดูใหญ่โตมากยิ่งขึ้น ในส่วนของภาคจ่ายไฟแบบ 10 Phase คุณภาพสูงรองรับการ Overclock อย่างเต็มปประสิทธิภาพ และซิงก์ระบายความร้อน Aluminum Alloy สีเงิน Anodized เซาะร่องครีบระบายความร้อนมาอย่างสวยงาม พร้อม Socket  LGA 1151 ที่รองรับทั้ง Sky Lake, Kaby Lake และ Coffee Lake

ข้าง ๆ Socket คือ Slot RAM ที่มีมาให้ 24สล๊อต รองรับแรมทั้งแบบ Single และ Dual Channel ตัวสล๊อตผลิตจากวัสดุไนล่อนเหนียว แข็งแรงทนทาน ตามสเปครองรับ Overclock Bus Ram ได้ถึง 4,000 MHz แต่ด้วยเทคโนโลยี ASUS T-TOPOLOGY สามารถดัน Bus Ram ไปได้สูงถึง  4,266 MHz   ในส่วนด้านข้างสล๊อตแรมนั้น มีพอร์ตไฟเลี้ยง 24Pin เมนบอร์ด และพอร์ตสีขาวเด่น ๆ นั้นคือพอร์ตสำหรับต่อไฟ RGB จากภายนอกให้สามารถ Sync กับเมนบอร์ดได้

Expansion Slots ถูกให้มาอย่างจุใจถึง 7 สล๊อตด้วย 2 x PCIe 3.0/2.0 x16 SafeSlot, 1x PCIe 3.0/2.0 x16 และ 4x PCIe 3.0/2.0 x1 แบบปลายปิด รองรับการเชื่อมต่อแบบ 2-Way SLI และ 3-Way Cross FireX ในส่วนของความแข็งแรงนั้นจะมี 2 สล๊อตแบบ 16X จะเป็น Safe Slot หรือสล๊อตเหล็กเสริใความทนทานสามารถรองรับการ์ดจอที่มีน้ำหนักมากได้

ชิปเซ็ต Z370 มาพร้อมกับซิงก์ระบายความร้อนขนาดใหญ่ แน่นอนว่าเป็นการออกแบบที่ไม่เหมือนใคร และสิ่งที่ทำให้เมนบอร์ดรุ่นนี้ไม่เหมือนใครก็คือซิงก์สำหรับ M.2 ที่ช่วยให้สามารถระบายความร้อนให้กับ M.2 SSD ได้ รองรับควาามยาวของ M.2 ได้ตั้งแต่ 2248, 2260 และ 2280 โดยผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมพร้อมลวดลาย ASUS สีขาวโดดเด่นสวยงามไม่เหมือนใคร

พอร์ต SATA 3.0 ที่มีมาให้ถึง 6 พอร์ตสำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้ง HDD, SSD และ DVD Drive แต่ด้านข้างคือฟีเจอร์ที่สำคัญของชิปเซ็ต Z370 ที่สามารถรองรับ USB 3.1 ได้โดยจะมีการเพิ่มพอร์ตสำหรับเชื่อมต่อ Front Panel สำหรับเคสรุ่นใหม่ที่รองรับ USB 3.1 ซึ่งจะให้มาถึง 2 จุดด้วยกัน แตกต่างจากเมนบอร์ดที่ใช้ชิปเซ็ต Z270 จะมีเพียงแค่ USB 3.0 เท่านั้น

Crystal Sound ระบบเสียงเอกสิทธิ์เฉพาะจาก ASUS ที่มาพร้อมกับชิปเสียงประสิทธิภาพสูงและ Japan-made audio capacitors ให้เสียงที่เคลียใสเป็นเอกลักษณ์ให้ความดังสูงสุดถึง 120DB พื่อคุณภาพเสียงที่ดีขึ้นโดยมีความผิดเพี้ยนที่น้อยลง

ในส่วนของพอร์ตการเชื่อมต่อก็ได้ให้มาอย่างครบถ้วนแต่ดูเหมือนมีพอร์ต USB โดยรวมน้อยไป อาจจะไม่เพียงพอกับการใช้งาน

1 x DisplayPort
1 x HDMI
1 x DVI-DL
1 x LAN (RJ45)
4 x USB 3.1 Gen 1 Type-A + USB Type-C
2 x USB 2.0
1 x Optical S/PDIF out
5 x Audio jack(s)

Asus Prime Z370-A ถือเป็นเมนบอร์ดที่เน้นความคุ้มค่าในด้านฟีเจอร์และพอร์ตการเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่ให้มาอย่างครบถ้วนด้วยพร้อมการรองรับ CPU Coffee Lake รุ่นใหม่ล่าสุด และ USB 3.1 อย่างเต็มรูปแบบ ด้วยราคาเพียงแค่ 7,XXX บาท ความคุุ้มค่าที่ได้มานี้ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่สวยงามแปลกตาไม่เหมือนใครด้วยไฟ RGB รองรับการ OverClock ด้วยภาคจ่ายไฟถึง 10 Phase รวมถึงพอร์ต SATA และ M.2 ที่ให้มาอย่างมากมาย เรียกได้ว่าเป็นเมนบอร์ดแบบ All Rounder ที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งานที่สูงมาก ใครจะนำไปขุด Bitcoin ก็ได้ไม่ว่ากันเรียกได้ว่าคุ้มค่าเกินราคา

จุดเด่น

• พอร์ตการเชื่อมต่อที่ครบถ้วน รองรับได้ทุกการใช้งาน
• รองรับ SLI และ CrossfireX
• มีไฟ RGB เสริมความโดดเด่นเพิ่มเติมลูกเล่นให้เมนบอร์ด
• มีเทคโนโลยี AURA Sync ช่วยปรับแสงไฟได้ทุกๆอุปกรณ์ตามใจต้องการ
• การออกแบบแตกต่างออกไปจาก Z270
• ซิก์ระบายความร้อน M.2

ข้อสังเกตุ

• RGB ค่อนข้างน้อย

 

 

from:https://notebookspec.com/review-asus-prime-z370-a/418610/

เปิดทำเนียบสินค้าขายดีบน Amazon วัน Prime Day ใน 13 ประเทศ

วันอังคาร 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาคือวันที่ Amazon จัดงานอีเวนต์ประจำปีชื่อ Prime Day เป็นครั้งที่ 3 ผลลัพท์ของการจัดงานนี้ไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะ Amazon บอกว่านี่คือวันที่บริษัทสามารถทำยอดขายได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ ความน่าสนใจไม่หมดเท่านี้ เนื่องจาก Amazon ยังโชว์ข้อมูลว่าชาว Prime ในแต่ละประเทศนิยมซื้อสินค้าใดมากที่สุดด้วย โดยตุ๊กตาม้าน้ำเรืองแสงในภาพบนคือสินค้าที่ชาวจีนนิยมซื้อมากที่สุด

สหรัฐอเมริกา : แชมป์ 2 สมัยที่ครองใจนักช้อปอเมริกันต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 คือหม้อตุ๋นแรงดันที่ตั้งโปรแกรมได้ Instant Pot DUO80 7-in-1 Multi-Use Programmable Pressure Cooker และชุดทดสอบดีเอ็นเอ 23andMe’s DNA test ที่จะทำให้ผู้ใช้สามารถทราบข้อมูลโภชนาการและการออกกำลังกายที่เหมาะสม

อังกฤษ : ปลั๊กต่ออัจฉริยะ TP-Link Wi-Fi Smart Plug ดึงดูดนักช้อปเมืองผู้ดีมากที่สุด ขณะที่ Sony PlayStation 4 ก็ทำยอดขายได้ถล่มทลายเช่นกัน

สเปน : ระบบหน่วยความจำดิจิทัลราคาประหยัด SanDisk Ultra Fit 64 GB USB 3.0 Flash Drive คว้าแชมป์ในดินแดนสเปน คู่กับสมาร์ทโฟน Moto G Plus (5th-Generation) Smartphone

แม็กซีโก : สายชาร์จ iPhone ราคาประหยัด AmazonBasics Apple-Certified Lightning-to-USB Cable ครองแชมป์นำหน้าเครื่องเกม Nintendo Switch

ญี่ปุ่น : ชาวญี่ปุ่นเน้นสุขภาพ SAVAS Whey Protein ได้แชมป์ไป

อิตาลี : ไม่แน่ว่าคราบพลาสต้าหรือสปาเก็ตตี้อาจฝังแน่นบนจานจนล้างยาก ชาวอิตาเลียนจึงพร้อมใจคลิกซื้อน้ำยาล้างจานอัดเม็ดสำหรับเครื่องล้างจานยี่ห้อ Finish All-in-One Max tablet มากที่สุด

อินเดีย : สมาร์ทโฟน OnePlus 5 ได้แชมป์คู่กับ external hard drives รุ่น Seagate Expansion 1.5 TB Portable External Drive

เยอรมนี/ออสเตรเลีย : นักช้อป 2 ประเทศนี้ตะลุยสมัครสมาชิก PlayStation Plus มากกว่าคลิกซื้อสินค้าใด ขณะเดียวกันก็ซื้อเครื่องทำโซดาที่บ้านยี่ห้อ Soda Stream ซึ่งเป็นอีกสินค้าขายดีใน 2 ประเทศนี้เมื่อวัน Prime Day ที่ผ่านมา

ฝรั่งเศส/เบลเยียม : 2 ประเทศนี้เป็นอีกพื้นที่ที่นักช้อปแห่สมัครสมาชิก PlayStation Plus แต่ก็เป็นแฟนซีรียส์ดัง “Game of Thrones” ด้วยการซื้อแผ่น Blu-ray ซีซัน 1-6 ซึ่งขายในชื่ออย่างเป็นทางการว่า ”Game of Thrones”: The Complete Seasons 1-6 on Blu-ray

จีน : สินค้าขายดีที่สุดในจีนคือตุ๊กตาเด็กรูปม้าน้ำที่กดแล้วมีไฟส่องสว่างยี่ห้อ Fisher Price Soothe and Glow Seahorse สินค้าขายดีอันดับ 2 คือหนังสือชุดของ Yuval Noah Harari ชื่อ Sapiens: A Brief History of Humankind” และ “Homo Deus: A Brief History of Tomorrow.”

แคนาดา : เพื่อนบ้านอาจชอบสินค้าแบบเดียวกัน นักช้อปแคนาดาจึงซื้อหม้อตุ๋นแรงดันเหมือนกันกับนักช้อปแดนลุงแซม นั่นคือหม้อ Instant Pot Duo 7-in-1 Multi-Use Programmable Pressure Cooker โดยสินค้าอันดับ 2 คือแบตเตอรี่ชาร์จไฟใหม่ได้ 8 ชิ้นยี่ห้อ AmazonBasics AA Rechargeable Batteries (8-Pack)

ภาพสินค้าฉบับเต็ม ชมได้จากที่มา

ที่มา: BusinessInsider

 

Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/07/amazon-prime-day-best-selling/

ปีนี้ Prime Day คว่ำ Black Friday ขึ้นแชมป์วันขายดีสุดในประวัติศาสตร์ Amazon

ถือเป็นวันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ Amazon เพราะ Prime Day ซึ่งกินเวลา 30 ชั่วโมงช่วง 10-11 กรกฎาคมที่ผ่านมา น่าเสียดายที่ Amazon ไม่เปิดเผยตัวเลขที่แน่ชัด ระบุเพียงว่ามีการเติบโต 60% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

ไม่เพียง Black Friday แต่ Prime Day ในปีนี้สามารถแซง Cyber Monday ขึ้นแชมป์วันที่มียอดขายสูงสุดในประวัติศาสตร์ Amazon ได้สำเร็จ โดย Prime Day นั้นเป็นอีเวนต์ประจำปีที่ Amazon จะลดราคาสินค้าหลายรายการแก่สมาชิก Amazon Prime

เหตุที่ทำให้ยอดจำหน่ายในอีเวนต์ Prime Day ปีนี้มีตัวเลขเพิ่มขึ้นเกินว่า 60% คือเพราะสมาชิกใหม่ที่สมัครเป็น Amazon Prime มากขึ้น จุดนี้ Amazon ย้ำว่ายอดสมัครสมาชิกใหม่ในวัน Prime Day ก็มีจำนวนมากกว่าทุกวันเช่นกัน

ในขณะที่ Amazon ไม่ยอมเปิดเผยจำนวนสมาชิก Prime รายใหม่ว่าเพิ่มขึ้นในสัดส่วนเท่าใดในวัน Prime Day ปีนี้ ข้อมูลระบุว่าสินค้ายอดฮิตที่ขายดีที่สุดในวันดังกล่าวคือลำโพงฝังผู้ช่วยส่วนตัว Alexa รุ่นใหม่อย่าง Echo Dot โดยสินค้าที่ชาวอเมริกันนิยมซื้อมากที่สุดคือหม้อแรงดัน Instant Pot และชุดทดสอบ DNA ยี่ห้อ 23andMe DNA test เพื่อให้ผู้ทดสอบได้ทราบข้อมูลโภชนาการและรูปแบบออกกำลังกายที่เหมาะกับแต่ละคน

ในภาพรวม Amazon ระบุเพียงว่ามีการคลิกซื้อจำนวนหลายสิบล้านครั้งโดยสมาชิก Prime ในวัน Prime Day ปีนี้ เบื้องต้น สำนัก JP Morgan ออกมาประเมินเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าช่วงเทศกาลจับจ่ายปลายปีที่ผ่านมานั้นทำรายได้สุทธิให้ Amazon มากกว่า 1 พันล้านเหรียญ เพิ่มขึ้น 55% จากวัน Prime Day ปีที่ผ่านมา ทั้งหมดนี้ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า รายได้สุทธิของ Amazon ในปลายปีนี้ก็จะเพิ่มขึ้นอีกอย่างก้าวกระโดด

ที่มา: Reuters

 

Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/07/amazon-prime-day-record-breaking/

พี่ใหญ่ Amazon เปิด Prime Wardrobe ให้ลองเสื้อได้ก่อนซื้อ

Amazon ก้าวไปอีกขั้น ด้วยการเปิดให้ผู้ที่สนใจสามารถลองสวมเสื้อผ้าของ Amazon ได้ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อแล้ว ในบริการที่มีชื่อว่า “Prime Wardrobe” โดยผู้ที่สนใจสามารถสั่งให้ Amazon ส่งเสื้อผ้าไปให้ลองสวมได้ตั้งแต่ 3 – 15 ชิ้นต่อครั้ง และ Amazon จะเก็บเงินเฉพาะเสื้อผ้าที่ลูกค้าพอใจ ส่วนที่เหลือก็ส่งคืนกลับบริษัทดังเดิม

โดยสินค้าที่จะเปิดให้ทดลองสวมได้จริงก่อนตัดสินใจซื้อนี้มีตั้งแต่เสื้อผ้านับล้านชิ้น แอสเซสซอรี่ต่าง ๆ รองเท้าจาก Calvin Klein, Levi’s, Adidas, Hugo Boss และ Lacoste โดยผู้บริโภคจะมีระยะเวลาในการทดลองสวมทั้งสิ้น 7 วัน ก่อนจะตัดสินใจว่าจะส่งคืนหรือไม่

อย่างไรก็ดี บริการนี้เป็นบริการที่เปิดให้เฉพาะกลุ่ม Amazon Prime เท่านั้น ไม่ได้ให้บริการกับลูกค้าทั่วไป (โดยจะเป็น Amazon Prime ได้ต้องเสียค่าสมัคร 99 เหรียญสหรัฐต่อปี แต่ก็จะได้สิทธิพิเศษต่าง ๆ จาก Amazon มากกว่าผู้ใช้ทั่วไป) รวมถึงยังไม่ได้บอกด้วยว่าจะเริ่มให้บริการเมื่อไร แต่จากแนวคิดที่ล้ำหน้าของ Amazon นี้ อาจทำให้ Amazon ประสบความสำเร็จในตลาดค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่นได้อย่างงดงาม

โดยนักวิเคราะห์จากโลกตะวันตกได้มีการคาดการณ์กันว่า ภายในสิ้นปีนี้ Amazon อาจก้าวขึ้นเป็นบริษัทค้าปลีกด้านเครื่องนุ่งห่มที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ร้านค้าปลีกเสื้อผ้าแฟชั่นแบบปกติกำลังทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง

ที่มา : New York Times

 

 

Source: thumbsup

from:http://thumbsup.in.th/2017/06/amazon-prime-wardrobe/

HTC เปิดตัว HTC One M9+ Prime Camera Edition ลุยตลาดในราคาหมื่นนิดๆ

HTC ส่งสมาร์ทโฟน One M9+ Prime Camera Edition ทำตลาดในประเทศอินเดีย โดยเป็นอีกเวอร์ชั่นของ One M9 Prime Camera Edition ที่เปิดตัวในประเทศเยอรมันเมื่อเดือนก่อน

HTC One M9+ Prime Camera Edition มากับชิปประมวลผล MediaTek Helio X10 Octa Core 2.2 GHz จับคู่กับ RAM 2 GB ความจำภายใน 16 GB ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android Lollipop พร้อม Sense UI จอแสดงผล Full HD 1080p ขนาด 5.2 นิ้ว กล้องถ่ายรูป 13 ล้านพิกเซล กล้องด้านหน้า UltraPixel เสริมความปลอดภัยด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ ความจุแบตเตอรี่ 2,840 mAh ขนาดตัวเครื่อง 150.9 x 71.9 x 9.6 มิลลิเมตร และน้ำหนัก 168 กรัม

HTC One M9+ Prime Camera Edition เคาะราคาเปิดตัว 23,990 รูปี หรือราว 12,765 บาท วางจำหน่ายผ่านร้านค้าออนไลน์ของ HTC และร้านค้าชั้นนำในอินเดีย

ที่มา –  htc 

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=147155

Samsung GALAXY CORE Prime หน้าจอ 4.5 นิ้ว กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล วางจำหน่ายวันนี้ราคา 4,990 บาท

ซัมซุงแนะนำสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุด “ซัมซุง กาแลคซี่ คอร์ ไพรม์ (Samsung GALAXY CORE Prime)” ตอบรับความต้องการของกลุ่มวัยรุ่น โดดเด่นด้วยกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล ให้ภาพถ่ายชัดกว่าถึง 6 เท่า พร้อมคุณสมบัติหลากหลายที่ทำให้ถ่ายเซลฟี่ได้สวยยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โหมดหน้าสวย โหมดปรับแต่งความสว่างของรูปถ่าย ไม่ว่าจะถ่ายกลางวันหรือกลางคืน ภาพถ่ายก็สวยสว่างทุกรูป และฟิลเตอร์สำหรับตกแต่งรูปถ่าย พร้อมกล้องหลักความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมออโต้โฟกัสและแฟลชแอลอีดี อีกหนึ่งมือถือถ่ายรูปสวยจากซัมซุงที่พลาดไม่ได้

ซัมซุง กาแลคซี่ คอร์ ไพรม์ มากับหน้าจอ WVGA ขนาด 4.5 นิ้ว ดูชัด สบายตา มือถือถ่ายรูปสวย หน่วยประมวลผลแบบ Quad Core 1.2 GHz เร็วและแรง ทำงานบนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ 4.4 คิทแคท (Android 4.4 KitKat) พร้อมคุณสมบัติสำคัญๆ อย่างครบครัน อาทิ โหมดประหยัดพลังงาน (Ultra Power Saving Mode) ใช้ได้นานสูงสุด 20 ชั่วโมง แม้แบตเตอรี่เหลือเพียง 10% รองรับ 2 ซิมการ์ด ทำให้ชีวิตสะดวกสบายและง่ายขึ้น ซัมซุง กาแลคซี่ คอร์ ไพรม์ Samsung GALAXY CORE Prime พร้อมวางจำหน่ายในวันที่ 20 มกราคมนี้ ในราคา 4,990 บาท

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=111193