คลังเก็บป้ายกำกับ: OPPO_VOOC

OPPO อาจจะเปิดตัวอีกก้าวของเทคโนโลยีชาร์จใว VOOC ในงาน MWC 2016

ต้องบอกว่าจริงแล้วเรื่องชาร์จใวเนี่ยทาง OPPO ชูเป็นจุดขายมาก่อนเจ้าอื่นเลยนะครับ ในชื่อของเทคโนโลยี VOOC และในงาน MWC 2016 นี้ทาง OPPO ก็มีแผนที่จะพัฒนาและมีแนวทางใหม่สำหรับเทคโนโลยีตัวนี้ ซึ่งยังไม่มีข้อม฿ลรายละเอียดใดๆในตอนนี้ นอกจากภาพโปรโมทของทาง OPPO ภาพนี้ครับ

gsmarena_002

VOOC เป็นเทคโนโลยีชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว โดยทาง OPPO กล่าวว่าสามารถใช้เวลาในการชาร์จแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ จาก 0 ถึง 75% ในเวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น และล่าสุดอาจจะเปิดตัวเทคโนโลยี VOOC แบบไร้สายในงาน MWC 2016

ซึ่งหมายความว่าเราจะสามารถชาร์จอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี VOOC เพียงแค่วางเครื่องบนที่ชาร์จไร้สายเท่านั้น น่าสนใจมากครับว่าจะสามารถใช้เวลาได้รวดเร็วเทียบเท่าแบบมีสายหรือเปล่า ก็รอลุ้นกันวันที่ 23 กุมภาพันธ์นี้ครับ

from:https://www.appdisqus.com/2016/02/20/oppo_said_to_be_unveiling_nextgen_vooc_tech_at_mwc_2016.html

รีวิว OPPO R7 Plus สมาร์ทโฟนที่จัดเต็ม Fingerprint, Flash Shot และ OPPO VOOC ในรูปโฉมสุดหรู

OPPO R7 Plus ต้องบอกว่าจัดเต็ม จัดหนักกว่า OPPO R7 Lite มากครับในเรื่องของฟังก์ชั่นชั้นสูงที่ใส่เข้ามาจนแน่นเลยทั้งในส่วนของ Fingerprint sensor รูปแบบใหม่เพียงแค่แตะเท่านั้น และบันทึกลายนิ้วมือได้มากถึง 5 ลายนิ้วมือ, OPPO VOOC ฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

และกล้องความละเอียด 13MP ที่มาพร้อมเลนส์ระดับ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์จับโฟกัสอัตโนมัติซึ่งช่วยให้สามารถจับโฟกัสในที่แสงน้อยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำแถม รวมทั้งระบบกันสั่นซึ่งมีประโยชน์มากๆเวลาถ่ายภาพและบันทึกวีดีโอ มีโหมด Voice Selfie มาให้ด้วยนั่นก็คือการสั่งงานถ่ายภาพด้วยคำสั่งเสียงนั่นเอง เพียงแค่พูดคำว่า Colour หรือ Cheese เพียงเท่านี้ก็จับภาพ Selfie ได้ทันใจและง่ายดายแล้ว

และมาพร้อม Colour OS 2.1 บน Android 5.1.1 Lollipop อีกด้วยนอกจากนี้ OPPO R7 Plus ยังจัดเต็มความจุแบตเตอรี่สูงถึง 4100 mAh เลยละครับ แบตเตอรี่อึดใช้ได้เลยละ

นอกจากเรื่องฟังก์ชั่นแล้ว OPPO R7 Plus ยังรองรับการใช้งาน 2 ซิมตัวเครื่องใช้วัสดุโลหะที่ดูหรูหราทีเดียวครับ หน้าจอ AMOLED ขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วกระจกหน้าจอ 2.5D ความละเอียด Full HD 1080P และเลือกใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 615 จัดเต็ม RAM 3GB หน่วยความจำจุใจ 32GB แถมยังเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้มากถึง 128GB

ซึ่งทั้ง OPPO R7 Plus และ OPPO R7 Lite จะมาราคาต่างกันมากนะครับ OPPO R7 Plus ราคาอยู่ที่ 16990 บาทส่วน OPPO R7 Lite จะอยู่ที่ 10990 บาทครับ

OPPO_R7_Plus_001

OPPO R7 Plus รองรับฟังก์ชั่น OPPO VOOC ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ชาร์จที่มาในชุดจำหน่าย

OPPO_R7_Plus_002

สเปคของ OPPO R7 Plus

3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100

4G LTE band 1(2100), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 40(2300)

Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM, dual stand-by)

ขนาดตัวเครื่อง 158 x 82 x 7.8 มม. น้ำหนัก 192 กรัม

Fingerprint sensor

OPPO VOOC ฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

หน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (367ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D

Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1

ชิบเซ็ต Qualcomm MSM8939 Snapdragon 615 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53 & quad-core 1.0 GHz Cortex-A53

GPU Adreno 405

RAM 3GB

หน่วยความจำภายใน 32GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, dual-band, WiFi Direct, hotspot

Bluetooth 4.0, LE

GPS รองรับ GLONASS

microUSB v2.0, USB Host

เซนเซอร์ Accelerometer, proximity, compass

กล้องความละเอียด 13MP, 4128 x 3096 pixels, Schneider-Kreuznach optics, laser autofocus, dual-LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR

บันทึกวีดีโอความละเอียด 1080p@60fps, 720p@120fps

กล้องหน้าความละเอียด 8MP

แบตเตอรี่ความจุ 4100 mAh

ราคาเปิดตัว 16990 บาท

OPPO_R7_Plus_004

OPPO_R7_Plus_005

OPPO_R7_Plus_006

OPPO R7 Plus จะมาพร้อมงานออกแบบที่คล้ายๆกับ OPPO R7 Lite นะครับโดยเลือกใช้วัสดุโลหะ งานประกอบเนี๊ยบมากๆเช่นเดียวกัน หน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (367ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D ดูสดสวยมาก คมชัดและมีมุมมองที่กว้างมากๆ แถมความสว่างสูงมากครับ สว่างเป็นพิเศษเลยละ และพื้นที่หน้าจอเต็มอิ่มมากครับ ขอบหน้าจอบางเฉียบ และพื้นที่ด้านบนและด้านล่างก็เหลือน้อยมากทีเดียว ปุ่มสัมผัสต่างๆจะย้ายไปอยู่ในหน้าจอทั้งหมด และเป็นสมาร์ทโฟนขนาดหน้าจอ 6 นิ้วที่ดูเล็กและบางมากครับ โดยมีความบางเพียงแค่ 7.8 มม. เท่านั้นเองซึ่งสำหรับสมาร์ทโฟนหน้าจอ 6 นิ้วถือว่าดูบางทีเดียว

OPPO_R7_Plus_007

OPPO_R7_Plus_009

ด้านหลังออกแบบคล้ายๆกันกับ OPPO R7 Lite แต่ชุดกล้องจะอยู่ตรงกลางความละเอียด 13MP ซึ่งใช้ชิ้นเลนส์ของ Schneider-Kreuznach แถมยังมีไฟแฟลชคู่ LED และเลเซอร์จับโฟกัส พร้อมระบบกันสั่นในตัว ถัดลงมาจะเป็น Fingerprint sensor รูปแบบใหม่เพียงแค่แตะเท่านั้น และบันทึกลายนิ้วมือได้มากถึง 5 ลายนิ้วมือ และลำโพงตัวเครื่อง เสียงดังมากๆครับ เสียงใสมากไม่มีแตกเลย

OPPO_R7_Plus_010

OPPO_R7_Plus_011

ด้านบนและด้านล่างจะมีเสาอากาศซ่อนอยู่ ด้านบนมีช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะมีช่องไมโครโฟนและพอร์ท Micro USB

OPPO_R7_Plus_012

OPPO_R7_Plus_015

ด้านขวาจะมีปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายจะมีปุ่ม Power และช่องใส่ซิม (ซิมที่ 2 สามารถเลือกได้ว่าจะใส่ซิมหรือ Micro SD Card) สำหรับแบตเตอรี่รุ่นนี้จัดความจุมาให้สูงมากครับ 4100 mAh เลยทีเดียวความอึดเท่าที่ทดสอบหายห่วงครับใช้งานครบวัน แต่ว่าด้วยขนาดหน้าจอ ทำให้แบตเตอรี่ะดับนี้ก็ใช่ว่าจะอึดมากมายเป็นพิเศษนะครับ ถ้าใช้งานหนักๆควรพก Power Bank แต่ก็ชดเชยด้วย OPPO VOOC นั่นก็คือฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

OPPO_R7_Plus_SC_001

OPPO_R7_Plus_SC_002

OPPO_R7_Plus_SC_003

ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 24869 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 37780 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ได้ผลทดสอบ 59.2fps

รองรับ Multi Touch 10 จุด

GPS จับสัญญาณได้รวดเร็วมาก

คะแนนทดสอบออกมา OPPO R7 Plus จะสูงกว่า OPPO R7 Lite นิดหน่อยนะครับ

OPPO_R7_Plus_SC_006

OPPO_R7_Plus_SC_007

OPPO R7 Plus มาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1 เวอร์ชั่นล่าสุดของ OPPO หลังจากเปิดเครื่องครั้งแรกจะมีอัพเดตใหม่ด้วยนะครับ ก็ไม่รู้ว่าเพิ่มอะไรบ้างเหมือนกัน5555 การใช้งานลื่นไหลดีมากครับ Color OS เวอร์ชั่นใหม่ผมว่ามันลงตัวดีนะ บัคน้อยจริงๆ น่าใช้มากครับแต่ว่า Exclusive Space ก็เหลือแต่หน้าเล่นเพลงเท่านั้น ก็ไม่แน่ใจว่าทาง OPPO จะปรับปรุงเพิ่มเติมหน้า Exclusive Space ใหม่ๆเข้ามาอีกหรือเปล่า ถ้ามีข่าวเพิ่มเติมจะเอามาฝากกันแน่นอนครับสำหรับแฟนๆ AppDisqus

OPPO_R7_Plus_SC_008

OPPO_R7_Plus_SC_009

OPPO_R7_Plus_SC_010

OPPO_R7_Plus_SC_011

OPPO_R7_Plus_SC_013

บริการดาวน์โหลด Wallpaper, Theme, Lockscreen ฟรีมีมาให้เช่นเคยครับ และแอพพลิเคชั่นติดเครื่องอย่าง Backup & Restore, NearMe Cloud, File, App Center, Security Center รวมทั้ง O-Cloud และ Market ของ OPPO นั้นน่าใช้นะครับ แนะนำว่าไหนๆก็ซื้อมาแล้วอยากให้ลองเล่นกันดู

Gesture & Motion มีมาให้เพียบเช่นเคยครับ สมกับเป็นแบรนด์แรกๆที่มาพร้อมจุดขายฟังก์ชั่นเหล่านี้ ช่วยให้เราเข้าถึงฟังก์ชั่นหรือแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการสั่งงานด้วยการแตะหน้าจอเพื่อเลือกปลดล็อคหน้าจอ หรือจับภาพหน้าจอ หรือสั่งงานฟังก์ชั่นเครื่องเล่นเพลงโดยไม่ต้องเข้าเมนูโดยตรง และสามารถเลือกเปิด-ปิด OTG ได้เองอีกด้วย (USB On-The-Go)

และสามารถจับภาพหน้าจอแบบยาวได้ซึ่งมีประโยชน์มากเวลาต้องการจับภาพหน้าจอบทความทั้งหน้า โดยสามารถจับภาพได้ยาว 5 หน้าจอครับ เวลาจะจับภาพหน้าจอแบบนี้ให้กดปุ่ทเพิ่มเสียง+ปุ่ม Power ส่วนการจับภาพหน้าจอปกติให้กดลดเสียง+ปุ่ม Power

และไม่ต้องพึ่งฟิล์มกันรอย Blue Light Cut กันแล้วครับเพราะใน ColorOS 2.1 ทาง OPPO ใส่โหมดถนอมสายตามาให้โดยจะเป็นการกรองแสงสีฟ้าคลื่นสั้นที่ส่งผลเสียต่อสายตาของเรา สามารถเลือกปิดใว้หรือเปิดใช้งานก็ได้ โดยสามารถปรับแต่งได้ 3 ระดับแต่ก็เป็นตัวช่วยในการถนอมสายตานะครับ ดีที่สุดคือควรจะพักสายตาเป็นระยะๆ ไม่ควรใช้สามาร์ทโฟนติดต่อกันเป็นเวลานาน น่าสนใจแค่ไหนสามารถไปอ่านรีวิวของ OPPO R7 Lite ดูได้ครับตามลิงค์นี้

http://www.appdisqus.com/devices/review-oppo-r7-lite

OPPO_R7_Plus_SC_012

OPPO R7 Plus มาพร้อม Fingerprint sensor แบบใหม่ใช้วิธีแตะเท่านั้น ความแม่นยำทำได้ดีมาก แต่ละลายนิ้วมือมีการแสกนละเอียดมากๆ และสามารถตั้งค่านิ้วมือได้ 5 ลายนิ้วมือด้วยกันครับ สามารถใช้งานร่วมกับการปลดล็อคหน้าจอ หรือตั้งค่าเพื่อเปิดใช้งานแอพพลิเคชั่นต่างๆ ซึ่งใช้ไปใช้มาผมว่า Fingerprint sensor มาอยู่ด้านหลังแบบนี้มันใช้งานถนัดดีนะ

OPPO_R7_Plus_SC_014

ทดสอบเรื่องเกมด้วยเกมอย่าง Modern Combat 5 ลื่นไหลดีครับ จริงๆสมาร์ทโฟนสเปคระดับนี้เรื่องเล่นเกมหายห่วงครับ

OPPO_R7_Plus_SC_015

OPPO R7 Plus กล้องความละเอียด 13MP มีจุดเด่นที่มาพร้อมเลนส์ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์จับโฟกัสอัตโนมัติซึ่งช่วยให้สามารถจับโฟกัสในที่แสงน้อยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ และกล้องหน้าความละเอียด 8MP มีโหมด Voice Selfie มาให้ด้วยนั่นก็คือการสั่งงานถ่ายภาพด้วยคำสั่งเสียงนั่นเอง เพียงแค่พูดคำว่า Colour หรือ Cheese เพียงเท่านี้ก็จับภาพ Selfie ได้ทันใจและง่ายดาย และใช้กับการถ่ายภาพปกติได้ด้วยครับ ไม่ใช่ลูกเล่นใหม่ แต่ฟังก์ชั่นสั่งถ่ายภาพด้วยเสียงช่วงนี้กลับมาฮิตอีกรอบครับ^__^

จากการทดสอบความคมชัดเยี่ยมครับ และ White Balance ฉลาดกว่า OPPO R7 Lite มากครับ และจัดเต็มฟังก์ชั่นการถ่ายภาพมาครบเลยครับ เหมือนกับรุ่นใหญ่ไม่มีผิด มีโหมด Ultra HD บันทึกภาพความละเอียดสูงมาให้ด้วยนะ จะติก็ตรงถ่ายภาพระยะใกล้ๆไม่ค่อยได้ครับ น่าแปลกมากอาจจะเป็นเฉพาะเครื่องทดสอบก็เป็นได้นะครับ? มาชมตัวอย่างภาพถ่ายกันครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO R7 Plus

OPPO_R7_Plus_Camera_003

OPPO_R7_Plus_Camera_005

OPPO_R7_Plus_Camera_006

OPPO_R7_Plus_Camera_007

OPPO_R7_Plus_Camera_008

OPPO_R7_Plus_Camera_009

OPPO_R7_Plus_Camera_010

OPPO_R7_Plus_Camera_011

OPPO_R7_Plus_Camera_012

OPPO_R7_Plus_Camera_013

OPPO_R7_Plus_Camera_014

OPPO_R7_Plus_Camera_015

OPPO_R7_Plus_Camera_002

OPPO_R7_Plus_Camera_004

OPPO_R7_Plus_Camera_001

ข้อดีของ OPPO R7 Plus

1. ตัวเครื่องออกแบบสวยหรู วัสดุโลหะ งานประกอบดีมาก ขอบหน้าจอบางมากๆ

2. หน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P 1080 x 1920 pixels (367ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3 2.5D

3. รองรับ 4G และรองรับการใช้งาน Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM, dual stand-by)

4. สเปคน่าใช้ Snapdragon 615, RAM 3GB, หน่วยความจำภายใน 32GB และสามารถเพิ่มได้สูงสุด 128GB

5. เปิดตัวมาพร้อม Android 5.1.1 Lollipop ครอบทับด้วย Color OS 2.1

6. มาพร้อม Fingerprint sensor และ OPPO VOOC ฟังก์ชั่น Fast battery charging ชาร์จแบตเตอรี่ 75% ในเวลาเพียง 30 นาที

7. กล้องความละเอียด 13MP เลนส์ระดับ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์โฟกัส

8. แบตเตอรี่ความจุสูง 4100 mAh

ข้อด้อยของ OPPO R7 Plus

1. ถ่ายภาพระยะใกล้ๆไม่ค่อยได้

2. Snapdragon 615 กับราคานี้ดูจะให้มาน้อยไปหน่อย

OPPO_R7_Plus_013

OPPO_R7_Plus_014

OPPO R7 Plus เป็นสมาร์ทโฟนที่ผมถูกใจมากครับ เพราะผมชอบมือถือหน้าจอใหญ่ๆ ตัวเครื่องสวยมากครับ ให้ความรู้สึกพรีเมี่ยม ราคา 16990 อาจจะดูสูงเพราะใช้ชิปเซ็ตเดียวกับ OPPO R7 Lite แต่ว่ามันมีจุดขายครับทั้งหน้าจอ AMOLED ขนาด 6 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P, Fingerprint sensor, OPPO VOOC และกล้องที่มาพร้อมเลนส์ระดับ Schneider-Kreuznach และฟังก์ชั่น Flash Shot ซึ่งจะมีลูกเล่นเลเซอร์โฟกัส รวมทั้งแบตเตอรี่ความจุสูง 4100 mAh ผมว่ามันก็คุ้มกับเงินที่เพิ่มนะครับ เท่าที่เล่นมาชอบใจทุกอย่างครับ จะติก็ตรงกล้องถ่ายภาพระยะใกล้ๆอย่างภาพอาหารไม่ได้เลยแหะ จับโฟกัสค่อนข้างไกล อย่างภาพข้าวผัดที่ถ่ายมาให้ชมมกันครับ มันได้แค่นั้นอ่ะ ซึ่งผมก็ไม่มั่นใจนะครับว่าเป้นเพราะยังไม่ใช่ตัวจำหน่ายจริงหรือเปล่า แต่นอกนั้นโดยรวมชอบครับ แนะนำว่าลองไปเล่นกันดูนะครับวางจำหน่ายแล้วทั่วประเทศ

เกรด A เริ่ดเชียว!

from:http://www.appdisqus.com/devices/review-oppo-r7-plus

รีวิว OPPO N3 สุดยอดนวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลก เปิดมิติการถ่ายภาพไปอีกระดับ!!!

สำหรับ King of Selfie Phone เป็นชื่อเล่นของแบรนด์ OPPO ไปแล้วนะครับ สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ผลิตออกมาเพื่อตอกย้ำในจุดขายนี้ก็คือ OPPO N3 ซึ่งมาพร้อมกล้องหมุนได้ และไม่ใช่กล้องหมุนได้ธรรมดาเพราะมันเป็นกล้องหมุนได้อัตโนมัติ รุ่นแรกขอโลก โดยเราสามารถบังคับการหมุนของกล้องผ่านหน้าจอ และเซนเซอร์ควบคุมด้านหลังของมือถือ ซึ่งมีความแม่นยำสูงครับ โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Panorama โดยไม่จำเป็นต้องหมุนตัวไปรอบๆนี่มันสุดยอดมากๆ และถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทั้งมี Fingerprint Sensor แบบเดียวกับ iPhone และรองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม

OPPO_N3_001

OPPO_N3_002

สำหรับสเปครุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงใช้ได้เลยครับ สเปคเหมือน OPPO Find 7a โดยเปิดราคา 19990 บาทแต่ผมว่าคุ้มค่าครับ เพราะสเปคแรงหาได้มากมายจากมือถือรุ่นอื่นๆ แต่ว่านวัตกรรมกล้องหมุนได้ด้วยตัวเองนั้นมีเฉพาะใน OPPO N3 เท่านั้น ซึ่งเป็นจุดขายที่คุณหาไม่ได้จากมือถือรุ่นใดๆบนโลก นี่คือความพิเศษที่เล่นเอาผมประทับใจมากๆเลยครับ ยิ่งใช้งานคู่กับ OPPO O Click 2 ด้วยแล้วยิ่งทำให้ OPPO N3 ดูพิเศษยิ่งกว่าใครจริงๆ

OPPO_N3_003

สเปคของ OPPO N3

3G WCDMA 850/ 900/ 1900/ 2100MHz

4G LTE

ขนาดตัวเครื่อง 161.2 x 77 x 8.9 มม. น้ำหนัก 192 กรัม

Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM)

Fingerprint Sensor + O-Touch

หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P (403 ppi), กระจก Gorilla Glass 3

Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย Color OS 2.0

Qualcomm MSM8974AA Snapdragon 801 Quad-core 2.3 GHz Krait 400

GPU Adreno 330

RAM 2GB

หน่วยความจำภายใน 32GB, เพิ่มภายนอกสูงสุด 128GB (ใส่ในช่องใส่ซิม 2)

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, microUSB v2.0, USB Host, NFC, GPS+GLONASS

กล้องความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach), 3456 x 4608 pixels, autofocus, dual-LED flash

ชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (O-Touch)

ขนาดเซนเซอร์ 1/2.3 นิ้ว, geo-tagging, touch focus, face detection, auto panorama (motorized rotation), HDR

รีโมทกล้อง OPPO O Click 2

บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 60fps, HD 720P 120fps

แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh

รองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม

ราคาเปิดตัว 19990 บาท

OPPO_N3_004

OPPO N3 ตัวกล่องหรูมากเหมือนเดิมเป็นกล่องพลาสติค ในกล่องจะมีตัวเครื่อง OPPO N3, คู่มือ, เข็มจิ้มถาดใส่ซิม, OPPO VOOC, สาย Micro USB ที่รองรับมาตราฐาน VOOC, หูฟัง In Ear และยังแถมเจ้า OPPO O Click 2 มาให้ด้วยนะ

OPPO_N3_005

OPPO_N3_006

OPPO N3 มีขนาดเล็กกว่าสมัย OPPO N1 มากครับเพราะหน้าจอลดขนาดลงเหลือ 5.5 นิ้วซึ่งก็ยังใหญ่อยู่ แต่จับถือได้ง่ายขึ้น งานออกแบบสวยหรูดีครับ วัสดุพลาสติคผิวนุ่มสีขาวที่เรียกว่า Baby Skin ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ OPPO ส่วนขอบตัวเครื่องจะเป็นโลหะเคลือบสีขาว เจียรขอบแวววาวสวยงามมาก

OPPO_N3_007OPPO_N3_008

ชุดกล้องหมุนได้มีการพัฒนาเพิ่มขึ้นให้สามารถหมุนได้อัตโนมัติเป็นรุ่นแรกของโลกเลยละครับ ซึ่งผมว่ามันว้าวมากๆเลย กล้องความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach) สามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (สามารถใช้เป็น Shutter ได้ด้วย) และควบคุมผ่านชุดรีโมทกล้อง OPPO O Click 2 ได้ด้วยครับ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน O-Touch โดยจะทำงานเป็น Fingerprint Sensor ด้วยนะครับ โดยใช้วิธีแตะซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับ iPhone และ Huawei Ascend Mate 7

OPPO_N3_009

OPPO_N3_010

OPPO_N3_013

นอกจากการควบคุมผ่านหน้าจอ, ด้านหลัง และชุดรีโมทกล้อง OPPO O Click 2 แล้วในส่วนกล้องหมุนได้สามารถหมุนด้วยมือตัวเองได้เองเลยนะครับ ไม่จำเป็นต้องใช้โหมดอัตโนมัติก็ได้นะครับทาง OPPO บอกมาว่าไม่มีปัญหาแน่นอน

OPPO_N3_014

OPPO_N3_017

ด้านล่างตัวเครื่องขอบโลหะจะออกแบบมาให้เกินตัวเครื่องครับ เพราะตรงนี้มี Notification Light ซึ่งดูสวยงามมากๆเลยละ และมีลำโพงตัวเครื่องอยู่ด้วยครับ เสียงที่ได้คมชัดและเสียงดังดีมาก และบริเวณขอบโลหะด้านล่างสามารถห้อยตุ๊กตาหรือพวกกุญแจได้ด้วยนะครับ (จะห้อย OPPO O Click 2 ก็ได้นะ) หลังๆไม่ค่อยมีสมาร์ทโฟนที่ทำที่ห้อยกันแล้วนะเนี่ย^^

OPPO_N3_015

OPPO_N3_016ด้านขวามีช่องหูฟังขนาด 3.5 มม. และปุ่มปรับระดับเสียง ส่วนด้านซ้ายมีถาดใส่ซิม (ใช้ร่วมกับใส่ Micro SD Card) และปุ่ม Power และพอร์ท Micro USB

OPPO_N3_019

OPPO_N3_020

OPPO O Click 2 หน้าตาดูดีกว่ารุ่นแรกมากครับ ถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ง่ายขึ้นด้วย OPPO N3 จะแถมมาให้เลยนะครับไม่ต้องซื้อเพิ่ม จะบรรจุมาในกล่องเลย ความสามารถก็คือสามารถควบคุมการทำงานของชุดกล้องหมุนได้อัตโนมัติ กดซ้าย-ขวาเพื่อสลับกล้องอย่างรวดเร็ว และกดขึ้น-ลงเพื่อควบคุมการหมุนอย่างละเอียด

OPPO_N3_SC_001

OPPO O Click 2 มันคือ Bluetooth Remote Control นั่นเองโดยสามารถเชื่อมต่อกับ OPPO N3 นอกจากใช้ควบคุมกล้องแล้วยังสามารถแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความได้ด้วย เวลาจะใช้งานก็กดที่ปุ่มบนตัว OPPO O Click 2 สองครั้งจะเป็นการเริ่มทำงานโดยอัตโนมัตรครับ (หลังจากการแพร์ครั้งแรก) และเมื่อเราทำโทรศัพท์หาย เราสามารถกดเรียกหาโทรศัพท์ผ่านทาง OPPO O Click 2 ได้ด้วยนะครับ เป็นอุปกรณ์ที่น่าสนใจและใช้งานได้ดีมาก ที่สำคัญฟรีครับผม^^

OPPO_N3_021

OPPO_N3_022

OPPO N3 มาพร้อมแบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh รองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม หน้าตาสวยงาม และมาพร้อมสาย Micro USB ที่รองรับการใช้งาน OPPO VOOC โดยเฉพาะอีกด้วย (สายจะมีลักษณะหนา และพอร์ทจะมีสีเขียว)

OPPO_N3_SC_002

จากการทดสอบแบตเตอรี่ของ OPPO N3 ไม่ถึงกับอึดมากแต่ก็ทำได้ดีไม่เลวครับ ใช้งานต่อเนื่องได้ยาวนานใช้ได้ และมีจุดเด่นที่เทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที

OPPO_N3_023

OPPO_N3_024หูฟังแบบ In Ear หน้าตาหล่อๆของ OPPO N3 ดูดีมากครับเป็นแบบเดียวกับที่แถมมากับ OPPO Find 7 เลยละ และจะมียางหูฟังมาให้อีก 2 ขนาด

OPPO_N3_SC_003

เครื่องเล่นเพลงของ OPPO N3 มีหน้าตาสวยงามมากครับ และมีหน้าพิเศษ (Exclusive Space) สำหรับการถ่ายภาพและฟังเพลงมาให้ด้วย และมาพร้อมระบบเสียง MaxxAudio และเมื่อฟังเพลงผ่านหูฟังจะสามารถเปิดใช้งานระบบเสียง Dirac HD Sound ได้ด้วยครับ (สำหรับลูกเล่นอื่นก็ได้แก่การสวิงเครื่อง เพื่อเปลี่ยนเพลง) และไม่มีวิทยุมาให้นะครับ

คุณภาพเสียงผ่านลำโพงทำได้ดีมาก เสียงดัง มีมิติ เพราะมากครับ แต่เมื่อทดลองฟังเพลงผ่านหูฟังผมว่าค่อนข้างธรรมดาไปหน่อยไม่ค่อยโดดเด่นนักนะครับ ซึ่งผมว่าตอน OPPO Find 7 ทำได้ดีกว่านี้มากนะครับในเรื่องฟังเพลง

OPPO_N3_026

OPPO_N3_029

OPPO_N3_SC_004

ด้านหลังของ OPPO N3 นอกจากจะมีชุดควบคุม O-Touch แล้วยังเพิ่มในส่วนของ Fingerprint Sensor เข้ามาอีกด้วย โดยใช้เทคนิคเดียวกับ iPhone เลยละครับ โดยการแตะนิ้วลงไปเท่านั้น แถมความแม่นยำทำได้ดีมากเลยละ (แต่ผมว่ายังเป็นรอง iPhone นิดหน่อยนะในเรื่องความแม่นยำ แต่ก็ถือว่าทำได้ดีมากแล้วละครับ) สามารถตั้งค่านิ้วมือได้ถึง 5 ลายด้วยกันครับ

OPPO_N3_SC_005

OPPO_N3_SC_006

OPPO N3 มาพร้อม Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย Color OS 2.0 ยังคงมาพร้อมจุดเด่นต่างๆครบถ้วน หน้าตา UI แบบใหม่ดูเรียบง่ายแต่สวยงามยื่งขึ้น รวมถึง Transition ที่ดูลื่นไหลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น และเสริมด้วยฟังก์ชั่นใหม่ๆอย่าง Live Weather 2.0, Task Manager รูปแบบใหม่สวยงามยิ่งขึ้น, เพิ่มฟังก์ชั่น Gaussian Blur ภาพ Wallpaper โดยการแตะสองครั้งที่หน้าจอ ซึ่งเป็นส่วนนึงของ Global Gaussian Blur Effect ใน Color OS 2.0

OPPO_N3_SC_007

ฟังก์ชั่นการใช้งานมือเดียว โดยการแตะค้างที่มุมหน้าจอและปัดออกมาจะสามารถย่อหน้าจอลงมาได้ ทำให้สามารถใช้มือเดียวได้สะดวกมากยิ่งขึ้น (สามารถใช้ได้สะดวกทั้งมือขวาและมือซ้าย), สามารถตัดแต่งภาพหลังจากการจับภาพหน้าจอได้ในทันที, ระบบประหยัดพลังงานสามารถตั้งค่าให้การทำงานเบื่องหลังหยุดการทำงานทันทีหลังจากปิดหน้าจอเป็นต้น

OPPO_N3_SC_008

OPPO ยังคงมาพร้อมบริการดาวน์โหลด Wallpaper, Theme, Lockscreen ฟรีๆมากมายจุใจ ชนิดว่าปรับแต่งกันได้สนุกสนานไม่ต้องไปหาดาว์นโหลดเพิ่มที่ไหนอีกเลยครับ รวมทั้งธีมพิเศษตามเทศกาลสำคัญๆ OPPO ที่จะตั้งค่าโดยอัตโนมัติเมื่อถึงวันนั้นๆก็ยังมีมาให้เช่นเคย

OPPO_N3_SC_009

OPPO_N3_SC_010

Gesture & Motion มีลูกเล่นมากมายเช่นเคย ซึ่งเพื่อนๆที่เคยใช้ OPPO มาย่อมต้องคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว สำหรับมือใหม่แนะนำว่ามีอะไรๆให้เล่นเยอะเลยละครับ^__^ มีฟังก์ชั่นป้องกันการสัมผัสหน้าจอโดยไม่ตั้งใจเวลาปิดหน้าใว้ และคำสั่ง Gesture สั่งงานคำสั่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องปลดล็อคหน้าจอก่อนก็จัดเต็มเหมือนเดิม และปรับปรุงมาให้ใช้งานได้แม่นยำมากยิ่งขึ้นชัดเจนเลยครับ รวมทั้งมีลูกเล่น Motion ควบคุมการทำงานโดยไม่ต้องสัมผัสหน้าจอมาให้อีกด้วย

OPPO_N3_SC_012

OPPO_N3_SC_011

OPPO N3 ในเรื่องการรับชม File Video สามารถรับชมได้อย่างไหลลื่นดีมาก ทดสอบด้วยความละเอียดระดับ Full HD ทำได้ดีเยี่ยมและมีลูกเล่น Popup Play มาให้เช่นเคยครับ

OPPO_N3_SC_013

OPPO_N3_SC_014

OPPO_N3_SC_015

ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 21618 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 42192 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 63.1fps

รองรับ Multi Touch 5 จุดสมบูรณ์

GPS จับสัญญาณได้แม่นยำและรวดเร็วดีมาก

OPPO_N3_SC_016

OPPO N3 มาพร้อมชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (O-Touch) ความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach), 3456 x 4608 pixels, autofocus, dual-LED flash, บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 60fps, HD 720P 120fps

มีฟังก์ชั่นถ่ายภาพให้เลือกใช้งานมากมาย และสามารถดาว์นโหลดเพิ่มได้ด้วยนะครับ รวมทั้งสิ้นมากถึง 14 ชนิดด้วยกันได้แก่ Normal, Ultra HD (บันทึกภาพความละเอียดสูง 60MP), Colorful Night, Auto Panorama, Expert Mode (สามารถปรับแต่ง White Balance, ISO, EV, Manual Focus), Beauty Mode, After Focus, Super Macro, RAW, Double Exposure, Gif Animation, Audio Photo, Panorama, HDR

OPPO_N3_SC_017

OPPO N3 มีจุดเด่นตรงชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน (O-Touch) คุณภาพการถ่าย Selfie จึงไม่ต่างจากการใช้กล้องหลังมาถ่ายตัวเองเลยครับ และมีฟังก์ชั่นให้เลือกใช้ถึง 5 ชนิดได้แก่ Normal, Beauty Mode, Double Exposure, Gif Animation, Audio Photo

คุณภาพของกล้อง OPPO N3 ความคมชัดทำไดดีมากครับเนื้อ File สวยมาก เก็บรายละเอียดได้ดีแต่ระบบ White Balance ทำงานได้ไม่ดีในกลางแจ้งไม่ฉลาดเอาซะเลยติดเหลืองมากครับ เวลาถ่ายแนะนำให้ปรบแต่ง White Balance ใน Expert Mode จะได้ภาพที่ออกมาสีสันสวยขึ้น สามารถปรับแต่ง White Balance, ISO, EV, Manual Focus ช่วยให้ถ่ายภาพได้สนุกมากขึ้นอีกด้วยครับ

ที่น่าชื่นชมคือ Beauty Mode บน OPPO N3 มี Filter ให้เลือกใช้ถึง 8 แบบและปรับแต่งได้ 10 ระดับ (100% ปกติจะตั้งค่ามาให้มาตราฐาน 50%) ผมว่าปรับแต่งมาได้กำลังดีไม่มากเกินไปจนรูปหน้าดูไม่เป็นธรรมชาติ ถือว่า OPPO พัฒนาในจุดแข็งของตัวเองได้ดีมาก

รวมทั้งชุดกล้องสามารถหมุนได้อัตโนมัติจึงทำให้เกิดฟังก์ชั่น Auto Panorama ซึ่งมันสุดยอดมากครับ เราสามารถถ่ายภาพพาโนรามาได้โดยเราไม่ต้องขยับตัวเลย และภาพที่ออกมาก็ดูน่าตื่นตาตื่นใจมากครับ ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทั้งฟังก์ชั่นที่มีมาตั้งแต่ OPPO Find 7 และ Find 7a นั่นคือ Ultra HD บันทึกภาพความละเอียดสูงถึง 60MP พัฒนาความละเอียดมามากกว่าเดิม และยิ่งใช้งานคู่กับอุปกรณ์เสริม OPPO O Click 2 ยิ่งทำให้ใช้งานได้สนุกและสร้างความเป็นไปได้ใหม่ๆมากยิ่งขึ้น ถือว่าเรื่องกล้องและนวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลกเป็นจุดขายสำคัญของ OPPO N3 เลยละครับ

ตัวอย่างภาพถ่ายจาก OPPO N3

OPPO_N3_Camera_032

OPPO_N3_Camera_033

เปรียบเทียบ Normal และ Beauty Mode พร้อม Filter ทั้ง 8 แบบได้แก่ Natural, Memory, Japanese, Valencia, Expert, Desert, Rainbow, Mono

OPPO_N3_Camera_031

OPPO_N3_Camera_030

Auto Panorama สามารถสนุกได้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง ภาพที่ได้ออกมาดูเท่มากๆครับ ซึ่งไม่มีสมาร์ทโฟนรุ่นไหนทำได้จริงๆ

OPPO_N3_Camera_004

OPPO_N3_Camera_005

 

Double Exposure การซ้อนภาพโดยการถ่ายรูปสองช็อต ซึ่งจริงๆก็มีแอพพลิเคชั่นออกมาให้ถ่ายภาพแนวนี้ได้นานแล้ว แต่ที่ติดมากับสมาร์ทโฟนเป็นมาตราฐานก็น่าจะมีบนเจ้า OPPO N3 เป็นรุ่นแรกนี่ละครับ (ถ้าผมจำไม่ผิดนะ) ซึ่งสนุกดีครับ สามารถสร้างสรรค์ภาพได้อย่างหลากหลายเลยทีเดียว น่าจะถูกใจหลายๆคน

OPPO_N3_Camera_011

OPPO_N3_Camera_010

OPPO_N3_Camera_013

OPPO_N3_Camera_012

Ultra HD (บันทึกภาพความละเอียดสูง 60MP) จะทำงานโดยการถ่ายภาพอย่างรวดเร็วหลายรูป และนำภาพเหล่านั้นมารวมกันกลายมาเป็นภาพความละเอียดระดับ 60MP บน OPPO N3 ครับ

OPPO_N3_Camera_029

OPPO_N3_Camera_028

OPPO_N3_Camera_001

OPPO_N3_Camera_003

OPPO_N3_Camera_023

OPPO_N3_Camera_027

OPPO_N3_Camera_026

OPPO_N3_Camera_025

OPPO_N3_Camera_024

OPPO_N3_Camera_002

OPPO_N3_Camera_009

OPPO_N3_Camera_008

OPPO_N3_Camera_007

OPPO_N3_Camera_015

OPPO_N3_Camera_016

OPPO_N3_Camera_018

OPPO_N3_Camera_022

OPPO_N3_Camera_020

OPPO_N3_Camera_021

ข้อดีของ OPPO N3

1. งานออกแบบสวยหรู วัสดุคุณภาพดี ขอบตัวเครื่องโลหะ การประกอบแน่นหนาดีมาก

2. นวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลก

3. สเปคแรง หน้าจอสวย

4. กล้องคุณภาพดี และมีฟังก์ชั่นถ่ายภาพมาให้อย่างจุใจ และสร้างสรรค์มาก

5. มาพร้อมรีโมทกล้อง OPPO O Click 2 ในกล่อง

6. แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh อึดไม่เลวและรองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายในเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม

ข้อด้อยของ OPPO N3

1. กล้องระบบ White Balance ทำงานได้ไม่ดีในกลางแจ้งไม่ฉลาดเอาซะเลยติดเหลืองมาก

2. ตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ และค่อนข้างมีน้ำหนัก

3. สเปคไม่สูงนัก (เมื่อเทียบกับราคา) พอๆกับ OPPO Find 7a

OPPO_N3_025

OPPO_N3_031OPPO N3 สรุปแล้วเป็นสมาร์ทโฟนที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องกล้องจริงๆครับ และมีจุดขายชัดเจนมาก ขายในเรื่องนวัตกรรมจริงๆ ฉีกแนวจากมือถือทั่วๆไปในตลาดที่แข่งกันในเรื่องของสเปค ซึ่งผมว่ามีไม่กี่รุ่นนะครับที่จะโดดเด่นในเรื่องการสร้างสรรค์แบบนี้ โดยส่วนตัวผมรู้สึกตื่นเต้นไปกับนวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลก ของเจ้า OPPO N3 มากๆเลยละครับ

และนอกจากนวัตกรรมเรื่องกล้องแล้ว สเปคของ OPPO N3 ก็ยังถือว่าแรงอยู่นะครับ โดยจะมีสเปคโดยรวมในระดับเดียวกับ OPPO Find 7a เรื่องความลื่นไหลทำได้ดีมาก หน้าจอสวย เสียงดี (แต่เสียงผ่านหูฟังควรปรับปรุง) และที่น่าแก้ไขที่สุดคือกล้องอมเหลืองเวลาถ่ายภาพกลางแจ้งครับ ซึ่งใน OPPO N1 Mini ไม่เกิดอาการนี้นะ อย่างที่แนะนำครับควรถ่ายภาพในโหมด Expert Mode เพื่อปรับ White Balance ซักหน่อย ซึ่งตรงนี้คงต้องรอ OPPO แก้ไขใน FW ต่อไปครับ

สำหรับคนที่มองหาสมาร์ทโฟนที่เหมาะกับการ Selfie รวมทั้งความแปลกใหม่ในการถ่ายภาพ นวัตกรรมกล้องหมุนได้อัตโนมัติรุ่นแรกของโลกใน OPPO N3 ถือว่าไม่ควรมองงข้ามนะครับ ผมติดใจมากๆเลยละ^__^

เกรด A เริ่ดเชียว!

from:http://www.appdisqus.com/devices/review-oppo-n3

แกะกล่อง OPPO N3 สมาร์ทโฟนกล้องหมุนได้ด้วยด้วยตัวเองรุ่นแรกของโลก!!!

สำหรับ King of Selfie Phone เป็นชื่อเล่นของแบรนด์ OPPO ไปแล้วนะครับ สำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดที่ผลิตออกมาเพื่อตอกย้ำในจุดขายยี้ก็คือ OPPO N3 ซึ่งมาพร้อมกล้องหมุนได้ และไม่ใช่กล้องหมุนได้ธรรมดาเพราะมันเป็นกล้องหมุนได้ด้วยตัวเอง รุ่นแรกขอโลก โดยเราสามารถบังคับการหมุนของกล้องผ่านหน้าจอ และเซนเซอร์ควบคุมด้านหลังของมือถือ ซึ่งมีความแม่นยำสูงครับ โดยเฉพาะการถ่ายภาพ Panorama โดยไม่จำเป็นต้องหมุนตัวไปรอบๆนี่มันสุดยอดมากๆ และถ่ายได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน รวมทั้งมี Fingerprint Sensor แบบเดียวกับ iPhone และรองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายนเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม

ก่อนที่จะรีวิว OPPO N3 ให้ชมกันเพื่อความรวดเร็วผมได้ถ่ายคลิปแกะกล่องรุ่นนี้มาให้ชมกันครับ สำหรับสเปครุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นที่แรงระดับเรือธงรุ่นก่อน แต่ว่าราคาเปิดมาค่อนข้างสูงที่ 19990 บาทแต่ผมว่าคุ้มค่าครับ เพราะสเปคแรงหาได้มากมายจากมือถือรุ่นอื่นๆ แต่ว่านวัตกรรมกล้องหมุนได้ด้วยตัวเองนั้นมีเฉพาะใน OPPO N3 เท่านั้น ซึ่งเป็นจุดขายที่คุณหาไม่ได้จากมือถือรุ่นใดๆบนโลก นี่คือความพิเศษที่เล่นเอาผมประทับใจมากๆเลยครับ ยิ่งใช้งานคู่กับ OPPO O Click 2 ด้วยแล้วยิ่งทำให้ OPPO N3 ดูพิเศษยิ่งกว่าใครจริงๆ (ถ้าจะให้ดี OPPO น่าจะแถมขาตั้งสำหรับสมาร์ทโฟนมาด้วยจะสมบูรณ์แบบเลยนะเนี่ย^^) สำหรับรีวิว OPPO N3 รอชมรออ่านได้เร็วๆนี้นะครับ^__^

คลิปแกะกล่อง OPPO N3

สเปคของ OPPO N3

3G WCDMA 850/ 900/ 1900/ 2100MHz

4G LTE

ขนาดตัวเครื่อง 161.2 x 77 x 8.9 มม. น้ำหนัก 192 กรัม

Dual SIM (Nano-SIM/ Micro-SIM)

Fingerprint Sensor

หน้าจอ AMOLED ขนาด 5.5 นิ้วความละเอียด Full HD 1080P (403 ppi), กระจก Gorilla Glass 3

Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย Color OS 2.0

Qualcomm MSM8974AA Snapdragon 801 Quad-core 2.3 GHz Krait 400

GPU Adreno 330

RAM 2GB

หน่วยความจำภายใน 32GB, เพิ่มภายนอกสูงสุด 128GB (ใส่ในช่องใส่ซิม 2)

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot, Bluetooth 4.0, microUSB v2.0, USB Host, NFC, GPS+GLONASS

กล้องความละเอียด 16 MP (Schneider Kreuznach), 3456 x 4608 pixels, autofocus, dual-LED flash

ชุดกล้องสามารถหมุนได้ด้วยตัวเองผ่านการควบคุมที่หน้าจอ และชุดควบคุมด้านหลังสมาร์ทโฟน

ขนาดเซนเซอร์ 1/2.3 นิ้ว, geo-tagging, touch focus, face detection, auto panorama (motorized rotation), HDR

รีโมทกล้อง OPPO O Click 2

บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 60fps, HD 720P 120fps

แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh

รองรับเทคโนโลยี OPPO VOOC ชาร์จใวที่สุดในโลก 70% ภายนเวลาเพียง 30 นาที และมีขนาดที่ชาร์จเล็กลงกว่าเดิม

ราคาเปิดตัว 19990 บาท

ตัวอย่างการถ่าย Selfie ด้วย OPPO N3 สภาพแสงในที่ร่ม

Oppo-N3_Selfie

from:http://www.appdisqus.com/2015/01/15/unboxing-oppo-n3.html

วีดีโอรีวิว OPPO Find 7 สุดยอดมือถือหน้าจอ 2K สเปคสุดแรง Snapdragon 801 พร้อมสรุปรีวิวทุกอย่างเกี่ยวกับ OPPO Find 7 ครบถ้วนในบทความเดียว! โดยทีม AppDisqus

OPPO Find 7 เป็น Smartphone ที่มาพร้อมสเปคดีที่สุดในไทยตอนนี้ทั้งหน้าจอความละเอียด 2K QHD,Snapdragon 801, RAM 3GB และหน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ 128GB, แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จใว 4 เท่า VOOC เทคโนโลยีการชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว ความร้อนต่ำ และ ปลอดภัยชาร์จได้ 75% ภายใน30 นาทีและถอดแบตเตอรี่ได้เอง, รองรับ 4G LTE และระบบเสียง MaxxAudio โครงตัวเครื่องผลิตจากไทเทเนี่ยม และฝาหลังลายเคฟล่า

OPPO_Find_7_P_000

OPPO_Find_7_P_001

กล้องความละเอียด 13MP และสามารถบันทึกภาพความละเอียด 50MP ได้ด้วยโหมด UltraHD โดยใช้เวลาเพียง 3-4 วินาทีในการประมวลผลเท่านั้น และกล้องหน้าความละเอียด 5MP ที่เรียกได้ว่าถ่ายภาพ Selfie ได้ดีที่สุดในตอนนี้และ Notification Light สุดหรู Skyline ของทั้ง OPPO Find 7 และ 7a ก็โดนใจมากครับสวยจริงๆ

OPPO_Find_7_P_002

OPPO_Find_7_P_003

ข้อดีของ OPPO Find 7

1. ตัวเครื่องสวยหรู แข็งแรง โครงตัวเครื่องผลิตจากไทเทเนี่ยม และฝาหลังลายเคฟล่า

2. หน้าจอความละเอียด 2K QHD

3. สเปคสูงมาก Snapdragon 801, RAM 3GB และหน่วยความจำภายใน 32GB เพิ่มได้ 128GB

4. รองรับ 4G LTE และระบบเสียง MaxxAudio มาพร้อมหูฟังสุดหรู

5. กล้องความละเอียด 13MP และสามารถบันทึกภาพความละเอียด 50MP ได้ด้วยโหมด UltraHD โดยใช้เวลาเพียง 3-4 วินาทีในการประมวลผลเท่านั้น และกล้องหน้าความละเอียด 5MP ที่เรียกได้ว่าถ่ายภาพ Selfie ได้ดีที่สุดในตอนนี้

6. ColorOS หน้าตาสวยงาม ลูกเล่นเยอะมากๆ

7. แบตเตอรี่ความจุ 3000 mAh มาพร้อมเทคโนโลยีชาร์จใว 4 เท่า VOOC เทคโนโลยีการชาร์จพลังงานอย่างรวดเร็ว ความร้อนต่ำ และ ปลอดภัยชาร์จได้ 75% ภายใน30 นาที

OPPO_Find_7_P_005

OPPO_Find_7_P_006

 

ข้อด้อยของ OPPO Find 7

1. ยังคงมาพร้อม Android 4.3 ไม่ใช่ KitKat

2. UI ยังมีบัคเล็กๆน้อยๆบ้างนิดหน่อย

3. กล้องยังถ่ายภาพตอนกลางคืนไม่สวยนัก

4. แบตเตอรี่ยังไม่ค่อยอึดนักแม้จะมาพร้อมความจุ 3000 mAh (เพราะหน้าจอความละเอียดสูง 2K)

เชิญชมคลิปวีดีโอรีวิว OPPO Find 7กันได้เลยครับ

และสนใจ OPPO Find 7 และ OPPO Find 7a สามารถไปอ่านรีวิวได้ที่บทความนี้เลยครับ

รีวิว OPPO Find 7 : แอนดรอยด์หน้าจอ 2K สเปคสูงล้ำ บนฟังชั่นที่ล้ำกว่า โดยทีม AppDisqus

OPPO Find 7 กับภาพถ่ายความละเอียด 50MP ขนาด 100% ด้วยโหมดถ่ายภาพอภินิหาร UltraHD!!!

รีวิววีดีโอ OPPO Find 7a เครื่องศูนย์ไทย โดยทีม AppDisqus

from:http://www.appdisqus.com/2014/07/07/review-oppo-find-7.html