คลังเก็บป้ายกำกับ: OPPO_RENO_2

ที่สุดแห่งความคุ้มค่า! เมื่อซื้อ OPPO Reno2 กับ เอไอเอส รับส่วนลดพิเศษ 8,500 บาท!

 

เอไอเอส ผู้นำเครือข่าย 5G อันดับ 1 มอบโปรโมชั่นต้อนรับซัมเมอร์ กับดีลสุดพิเศษเพื่อลูกค้าเอไอเอส เซเรเนด โดยมอบส่วนลดสูงสุด 8,500 บาท เมื่อซื้อ OPPO Reno2 “4 กล้องหลัง ชัดทุกระยะ สวยทุกมุมมอง”

 

OPPO Reno2

โดย OPPO Reno2 สมาร์ทโฟนที่สุดแห่งการถ่ายวิดีโอ มาพร้อมกล้องความละเอียดสูงสุด 48MP พร้อมถ่ายวิดีโอได้นิ่ง สมูท และคมชัดทุกช็อตกับ Ultra Steady Mode, ไฮบริดซูม 5 เท่า และซูมได้สูงสุดถึง 20 เท่า พร้อมถ่ายระยะใกล้ภาพก็ยังสวยชัดได้ด้วย Ultra Macro Mode ที่สามารถถ่ายได้ใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตร อีกทั้งยังมีชิปเซ็ต Snapdragon 730G RAM 8GB และ ROM 256GB โดย OPPO Reno2 มีให้เลือก 2 สี คือ สี Luminous Black และ สี Sunset Pink

สามารถเป็นเจ้าของ OPPO Reno2 ได้ในราคาพิเศษ! เริ่มต้นเพียง 7,499 บาท จากปกติ 15,999 บาท  ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 21 – 22 มีนาคม 2563 ที่ Serenade Club และ AIS Shop ทุกสาขา โดยสิทธิ์มีจำนวนจำกัด

รายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.ais.co.th/serenade/smartphone/

คลิกช้อปสมาร์ทโฟน OPPO ที่นี่ >>> http://bit.ly/2CtyuWo

 

from:http://mobileocta.com/buy-oppo-reno2-and-ais-receive-a-special-discount-of-8500-baht/

OPPO จัดโปรรับปีใหม่ ปรับราคายกแผง ทั้ง A5 2020, A9 2020, Reno 2 และ A5s เริ่มต้นที่ 4,699 บาท

OPPO จัดมอบโปรโมชั่นพิเศษต้อนรับปีใหม่ ลดราคามือถือ 4 รุ่นเด็ด ทั้ง OPPO A5 2020, A9 2020, Reno2 และ A5s (4/64G) อย่างเป็นทางการ ซึ่งมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เริ่มต้นที่ 4,699 บาท โดยสามารถหาซื้อได้ที่ OPPO Brand Shop ทั่วประเทศหรือตัวแทนจำหน่ายที่ร่วมรายการ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมต่างๆ ของแต่ละรุ่นมีดังนี้

OPPO A5 2020 4GB เหลือ 6,299 บาท

สำหรับ OPPO A5 2020 4GB จุดเด่นหลักเลยคือมาพร้อมกับกล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 12MP พร้อมเลนส์ Ultra Wide Angle 119 องศา และมี Ultra Night Mode 2.0 ไว้ถ่ายกลางคืนได้ด้วย ส่วนชิปเซ็ตเป็น Snapdragon 665, RAM 4 GB ROM 128GB แบตเตอรี่ถึก 5,000 mAh สามารถชาร์จให้เครื่องอื่นได้ด้วยฟีเจอร์ Reverse Charging  ลำโพงสเตอริโอคู่และระบบเสียง Dolby Atmos เสียงดังฟังชัดสุดๆ

โดย OPPO A5 2020 4GB จะมีวางจำหน่าย 2 สี คือ สีดำ Mirror Black และ สีขาว Dazzling White

 

OPPO A9 2020 ลดเหลือ 7,999 บาท

OPPO A9 2020 จุดเด่นของรุ่นนี้เลยคือ สเปคที่จัดเต็ม RAM 8GB ROM 128GB ที่มากกว่าใคร พร้อมชิป Snapdragon 665 กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP เลนส์, Ultra Wide Angle 8MP, เลนส์ Portrait 2MP และเลนส์ Mono 2MP พร้อมแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ 5,000 mAh พร้อมลำโพงสเตอริโอแบบคู่ Dolby Atmos เสียงดังกระหึ่ม

โดย OPPO A9 2020 มีให้เลือกถึง 3 สีคือ Marine Green, Space purple และ Vanilla Mint

 

OPPO Reno2 ราคาใหม่ 15,999 บาท

OPPO Reno2 จากราคาเดิม 17, 990 บาท เหลือเพียง 15,999 บาทเท่านั้น! จุดเด่นของเครื่องคือมาพร้อมกับฟีเจอร์ Ultra Steady Mode ถ่ายวิดีโอได้นิ่งและคมชัด กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP พร้อม Ultra Wide Angle และถ่ายได้ใกล้ถึง 2.5 เซนติเมตรด้วย ส่วนกล้องหน้าเป็น Pivot Rising Camera พร้อม AI Beauty Mode ช่วยปรับให้ภาพดูสวยงามเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

สเปค OPPO Reno2 มาพร้อมกับชิปเซ็ต Snapdragon 730G RAM 8GB และ ROM 256GB แบตเตอรี่ความจุ 4,000 mA ชาร์จเร็ว VOOC 3.0 โดยตัวเครื่องมีให้เลือก 2 สี คือ สีดำ Luminous Black และ สีชมพู Sunset Pink

 

OPPO A5s (4/64GB) เริ่มต้นเพียง 4,699 บาท

สุดท้ายกับน้องเล็ก OPPO A5s (4/64GB) ที่ถือเป็นมือถือที่ขายดีที่สุดรุ่นหนึ่งของ OPPO ที่มาพร้อมกับดีไซน์หน้าจอหยดน้ำ แบตเตอรี่ที่อึดจุใจ 4,230 mAh ชิปเช็ค Helio P35 หน้าจอกว้าง 6.2 นิ้ว คมชัดระดับ HD+ นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับกล้องหลังคู่ 13MP+ 2MP และกล้องหน้า 8MP มีระบบสแกนลายนิ้วมือด้านหลังที่ทำงาน

โดย OPPO A5s (4/64GB) มีทั้งหมด 3 สีคือ สีแดง สีดำ และสีน้ำเงิน

from:https://droidsans.com/oppo-promotion-new-years-a5-reno2-a9/

Review | รีวิว OPPO Reno 2F และ Reno 2 รุ่นไหนเหมาะกับใคร สายเซลฟี่ หรือสายกล้องคมชัด

มือถือ 4 กล้องหลังอย่าง OPPO Reno2 และ Reno2 F ได้เปิดตัวในบ้านเราไปเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเริ่มวางจำหน่ายไปได้ไม่กี่วันนี้เอง ซึ่งมือถือทั้ง 2 รุ่นนี้ มีราคาที่ห่างกันถึง 6,000 บาท เลยทีเดียว โดย Reno 2 เป็นมือถือตัวท็อปเน้นกล้องคมชัดความละเอียดสูง ในราคา 17,900 บาท ส่วน Reno 2F เป็นรุ่นต่อยอดสายเซลฟี่ของ F series ราคา 11,900 บาท

ดีไซน์

สำหรับดีไซน์ของทั้งคู่ถ้าดูเผินๆ จะค่อนข้างคล้ายกัน เพราะมีตัวเครื่องและขนาดหน้าจอเท่ากันที่ 6.5 นิ้ว มีความละเอียด FHD+ แต่ตัวเครื่องของ Reno 2F จะใหญ่กว่านิดเดียว (นิดเดียวจริงๆ) เนื่องจากมีขอบจอโดยรอยหนากว่า และทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบสแกนนิ้วมือบนหน้าจอเหมือนกัน

Reno 2F / Reno 2

รูปแบบการวางปุ่ม และพอร์ทอื่นๆ จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกันหมด

จะมีส่วนต่างอยู่ที่กล้องหน้าซึ่งเป็นกล้องที่ซ่อนเอาไว้บนขอบเครื่องด้านบนทั้งคู่ แต่ว่ากล้องหน้าของ Reno 2 จะเป็นกล้องแบบ Sharkfin Popup Camera เด้งขึ้นมาแบบเฉียงๆส่วนกล้องของ Reno 2F เป็นแบบ Popup ปกติเด้งขึ้นมาพร้อมกับไฟ OLED หลากสี เลือกตั้งค่าได้

Reno 2F / Reno 2

กล้องหลัง 4 ตัว โดยทั้งคู่จะเรียงกล้องเป็นแนวตั้งอยู่ตรงกลางเครื่องด้านบน แต่จะต่างกันตรงที่ Reno 2 มีจุดนูนหรือ O-Dot ที่แข็งแกร่งสุดๆ อยู่ด้านล่างกล้อง ส่วน Reno 2F มีอยู่ด้านบนของกล้อง ซึ่งมันช่วยให้เลนส์กล้องไม่โดนพื้นเวลาวางเครื่องนั่นเอง ส่วนที่บอกว่าแข็งแกร่งนั้นไม่ได้โม้ อย่าเอาไปวางซ้อนกับเครื่องอื่นนะครับ ขูดจอเป็นรอยได้เลยทีเดียว

Reno 2F / Reno 2

สเปค Reno 2 และ Reno 2F

สเปค OPPO Reno 2 OPPO Reno 2F
หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว AMOLED ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว
CPU Snapdragon 730G Helio P70
GPU Adreno 618 Mali-G72 MP3
RAM 8GB 8GB
ความจุ 256GB (UFS 2.1) 128GB (UFS 2.1)
กล้องหลัง 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.4) + 13MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) + 2MP (f/2.4)
กล้องหน้า 16MP 16MP
การเชื่อมต่อ WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 5.0, USB-C WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 4.2, USB-C
เซ็นเซอร์ Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass
แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0

สเปคของทั้งคู่ค่อนข้างจะแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดทั้งชิปของ Reno 2 ที่ใช้ Snapdragon 730G ซึ่งแรงกว่า Helio P70 พอสมควร, ให้ RAM มาเท่ากันที่ 8GB ส่วนความจุ Reno 2 ให้มามากกว่าที่ 256GB ต่อ 128GB นอกจากนี้หน้าจอของ Reno2 ยังสู้แดดได้ดีกว่าเพราะเป็นหน้าจอแบบ Sunlight AMOLED ซึ่งสามารถเร่งแสงได้สูงสุดถึง 700 nits เลยทีเดียว

UI ของ ColorOS 6.1

สำหรับคนที่เคยใช้งานมือถือ OPPO มาก่อนก็น่าจะคุ้นเคยกับหน้าตาของ UI กันมาอยู่แล้ว ส่วนใครที่ไม่เคยใช้มาก่อน ก็แทบจะไม่ต้องปรับตัวอะไรมากมาย เพราะมันจะคล้ายๆ กับ UI มือถือจีนรุ่นอื่นๆ คือไม่มี App Drawer มาให้ แต่จะรวมแอปต่างๆ เอาไว้บนหน้าจอเลย แต่ถ้าใครเคยชินกับแบบ pure android ก็สามารถไปเลือกเปิดใช้ได้นะ ในการตั้งค่า

หนึ่งในฟีเจอร์เด่นใช้สะดวกของ ColorOS 6.1 คือ Smart Side Bar เป็นแถบด้านข้างจอสำหรับปัดออกมาเพื่อเปิดเหล่าแอปที่เราใช้บ่อยๆ โดยเราสามารถเลือกปรับแต่งแอปเหล่านั้นได้เอง เลือกจับภาพหน้าจอ หรือบันทึกวิดีโอไปเลยก็มี

ประสิทธิภาพและการเล่นเกม

จากการทดสอบประสิทธิภาพด้วย AnTuTu พบว่า Reno 2 ทำคะแนนไปได้ถึง 214,203 ส่วน Reno  F ทำไปได้147,589 คะแนน

Reno2 / Reno2 F

ทดสอบความเร็วของหน่วยความจำในการอ่าน-เขียนข้อมูล พบว่าสูสีกัน เพราะเป็นแบบ UFS 2.1 ทั้งคู่นั่นเอง

Reno2 / Reno2 F

ทดสอบการเล่นเกมยอดฮิตจาก Reno 2F ที่ใช้ชิป Helio P70 พบว่าทั้ง ROV และ PUBG สามารถปรับเป็นระดับ HD และเฟรมเรทสูงได้ แต่ในเกม PUBG อาจจะมีบางจังหวะที่กระตุกบ้าง แต่ไม่เยอะ ถ้าใครกลัวว่าจะทำให้ดวลแพ้ ก็ปรับกราฟฟิคลงมาซักหน่อยนึงก้ได้…เพื่อความชัวร์

Reno2 F เล่น PUBG ปรับกราฟฟิค HD และเลือกเฟรมเรทสูงได้

สำหรับเกม ROV พบว่าเซอร์ไพรส์พอสมควร เพราะเปิดกราฟฟิคได้สุดทุกอย่าง แถมเฟรมเรทก็ยังนิ่งอีกต่างหาก

ROV ปรับกราฟฟิคสุดได้ทุกอย่างเลยจ้า

ส่วนรุ่นพี่ OPPO Reno 2 ก็ไม่ต้องลุ้นเลย เพราะชิป Snapdragon 730G แรงพอที่จะเล่นเกมทั้ง 2 ได้ แบบสบายๆ แม้จะปรับกราฟฟิคสูงสุดก็ตาม แต่เนื่องจากชิป Snapdragon 730G เป็นชิปที่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน ทำให้การปรับกราฟฟิคบางเกมยังไม่รองรับ อย่างเช่นกราฟฟิคคลื่นน้ำ หรือหญ้าไหว ในเกม ROV (รอการอัพเดทครั้งใหม่แล้วน่าจะเปิดได้)

Reno2 ไม่มีให้เลือกตั้งค่าภาพ HD

กล้องของทั้ง 2 รุ่น

กล้องReno 2

ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะมีกล้องหลังเท่ากัน 4 ตัว แต่สเปคของเซ็นเซอร์แต่ละจะแตกต่างกันพอสมควร โดย Reno 2 ใช้เซ็นเซอร์หลัก IMX586 ความละเอียด 48MP + เลนส์ซูม 13MP + เลนส์ Wide 8MP + เลนส์จับความลึก 2MP แถมยังมีระบบซูมแบบ Hybrid ไม่เสียความละเอียดได้อีก 5 เท่า และยังซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 20 เท่า อีกต่างหาก เรียกว่าออกแบบมาเพื่อการถ่ายภาพที่เน้นความคทชัดในหลายๆ ระยะ ตั้งแต่ใกล้สุดๆ แบบมาโคร ไปจนถึงระยะซูม







โหมดถ่ายภาพในที่มืด Ultra Dark ของ Reno 2 ถือว่าทำออกมาได้ดีเลย จากการถ่ายโหมดปกติมืดหม่นๆ พอเปิดโหมด Ultra Dark ปุ๊บ ก็สว่างไสวขึ้นมาทันตา แต่จะใช้เวลาในการประเมินผลนานอยู่เหมือนกัน รูปละราวๆ 5 – 6 วินาที เรียกว่าแม้จะแสงน้อยจนแทบมองอะไรไม่เห็นก็ยังดึงลูฟี่ และองค์หญิงชิราโฮชิมาได้เฉยเลย






กล้องหลังของ Reno 2 มีระบบกันสั่นทั้งแบบ OIS และ EIS ทำให้การถ่ายวิดีโอออกมาค่อนข้างนิ่ง พอกับกล้อง Action Cam ระดับกลางๆ ด้วยการเปิดฟีเจอร์ Ultra Steady Video ถ่ายได้ที่ความละเอียด 1080p 60fps

มีโหมดถ่ายวิดีโอแบบหน้าชัดหลังเบลอให้ด้วยนะ ซึ่งประสิทธิภาพในการเบลอฉากหลังเรียกว่าค่อนข้างเนียนพอใช้ได้ แต่ก็ไม่ได้เนียนขนาดกล้องระดับมืออาชีพขนาดนั้น เพราะเวลาขยับการตัดขอบจะยังไม่ค่อยเนียนนัก และการถ่ายควรให้ในเฟรมมีอยู่แค่คนเดียว และถ่ายที่ระยะครึ่งตัวเท่านั้นนะครับ

ระบบซูมเสียงตอนถ่ายวิดีโอ (30fps เท่านั้น) เรียกว่าใช้ได้จริง แต่ต้องเป็นสถานที่ที่ค่อนข้างเงียบ ถึงจะสามารถซูมในบริเวณที่ต้องการได้ ถ้าเป็นการซูมเสียงข้างถนนที่มีทั้งเสียงลม เสียงรถวิ่งไปมา แน่นอนว่าเสียงรอบข้างจะตีกันหมด

กล้อง Reno 2F

ส่วนรุ่นน้อง Reno2 F จะใช้เซ็นเซอร์หลัก ISO Cell 48MP + เลนส์ Wide 8MP + เลนส์ Mono 2MP + เลนส์จับความลึก 2MP เน้นไปที่การถ่ายภาพสายบิวตี้เป็นหลัก








มีโหมดถ่ายในที่มืดมาให้ด้วย แต่ยังไม่ถภึงขั้นขุดแสงจากความมืดได้ อันนี้เรียกว่า Ultra Night Mode 2.0 ซึ่งถ่ายออกมาได้สว่างอยู่เหมือนกัน แต่หากไปเจอที่มือสนิท หรือแสงน้อยมากๆ ก็จะยังสู้ Ultra Dark ของ Reno 2 ไม่ได้นะจ๊ะ






โหมดถ่ายวิดีโอของ Reno 2F มีระบบกันสั่น stabilize เนียนๆ ได้ แต่ไม่มีโหมด Ultra Steady แบบกล้อง action, สามารถถ่ายได้สูงสุดที่ 1080p 30fps

กล้องหน้า 16MP

ทั้งคู่ให้กล้องหน้ามาเท่ากันที่ 16MP ซึ่งประสิทธิภาพก็หายห่วงตามสไตล์ OPPO ด้วยโหมด AI Beauty ที่ถ่ายให้หน้าออกมาเนียนใส วิ้งวับ แบบเป็นธรรมชาติ ไม่วอก ไม่เอเลี่ยนเกินไป แถมยังเลือกปรับได้ทั้งหน้าเล็ก หน้าเรียว ตาโต จมูกเล็ก ฯลฯ






แต่ Reno 2 จะเหนือกว่าตรงที่สามารถถ่ายวิดีโอแบบ Portrait หน้าชัดหลังเบลอได้ด้วย

 

GPS

ระบบนำทางของทั้ง 2 รุ่น จากที่ทดสอบแล้วก็พบว่าแม่นยำใช้ได้ มีระยะคลาดเคลื่อนไม่มากนัก ที่ราวๆ 1 – 3 เมตร และเท่าที่ใช้มายังไม่เคยเจออาการเอ๋ออะไร เวลาวิ่งใต้สะพานหรือทางด่วน

ดู Netflix ความละเอียด HD ได้รึเปล่า?

รุ่นท็อปอย่าง OPPO Reno 2 สามารถดูหนัง ดูซีรีส์จาก Netflix ได้ที่ความละเอียดระดับ HD แบบไม่มีปัญหา แต่สำหรับรุ่นน้องอย่าง Reno 2F จะดูได้แค่ความละเอียด 480p เท่านั้น แต่ถ้าเป็นพวก YouTube, VIU หรือ iflix ก็ยังดูเต็มความละเอียดจอ 1080p ได้ไม่มีปัญหาทั้ง 2 รุ่นครับ

Reno2 / Reno2 F

แบตเตอรี่

ทดสอบการใช้พลังงานของแบตเตอรี่ขนาด 4000 mAh ของทั้งคู่ ด้วยการเปิดคลิปวิดีโอระดับ 1080p ใน YouTube ผ่าน WiFi (ใส่ซิม 4G เอาไว้ทั้ง 2 เครื่อง) ตั้งความสว่างหน้าจอและระดับเสียงเอาไว้ที่ 50% ดูไปได้ราวๆ 3 ชั่วโมงหน่อยๆ พบว่า Reno2 ใช้พลังงานน้อยกว่านิดนึง เพราะจากแบตเตอรี่ 100% เหลืออยู่ที่ 81% ส่วนแบตเตอรี่ของ Reno2 F เหลืออยู่ที่ 77%

Reno2 / Reno2 F

สรุปซื้อรุ่นไหนดี?

สำหรับคนที่อยากจัดเต็มทั้งสเปคเครื่องแรงๆ และกล้องงามๆ ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอ แน่นอนว่า Reno 2 เป็นตัวเลือกที่เหมาะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลักพิมพ์นิยม IMX586 48MP ที่มีระบบถ่ายภาพกลางคืนแบบดีงาม, ระบบซูมที่ดันระยะไปได้ถึง 20x, ฟีเจอร์การถ่ายวิดีโอที่หลากหลาย แถมยังมีระบบกันสั่นสุดเทพ และระบบซูมเสียงล้ำๆ ส่วนสเปคก็แรงหายห่วงทั้งการใช้งานทั่วไป หรือการเล่นเกมหนักๆ ก็ตาม…ด้วยราคาค่าตัว 17,990 บาท ก็ถือว่า OPPO Reno 2 ให้ทุกอย่างมาค่อนข้างสมราคาเลยทีเดียว

แต่สำหรับใครที่ยังคงรักในตระกูล F series และใช้มาตั้งแต่ F7, F9, F11 Pro งานนี้ก็คงต้องจัด OPPO Reno 2F ที่เป็นตัวตายตัวแทนของตระกูล ดีไซน์สวยงามไม่แพ้กัน แถมยังประหยัดกว่าถึง 6,000 บาท ก็ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า เพราะชิปเซ็ตก็ยังแรงและตอบสนองการใช้งานทั่วไปจนถึงการเล่นเกมได้สบายๆ ภาพเซลฟี่เนียน  AI Beauty สวยเหมือนเดิม ส่วนแบตเตอรี่ก็ได้มาเท่ากันที่ 4000 mAh แถมด้วยระบบชาร์จสุดไวก็เป็นระบบ VOOC Flash Charge 3.0 เหมือนกันอีกด้วย

from:https://droidsans.com/review-oppo-reno-2-reno-2f/

OPPO Reno 2F และ Reno 2 มือถือ 4 กล้อง 48MP พร้อมระบบซูม 20X เคาะราคาไทยเริ่มต้น 11,990 บาท

มือถือกล้องหน้าเด้งแบบ Pivot Rising Camera อย่าง OPPO Reno 2, Reno 2Z และ Reno 2Fเปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เผลอแป๊บเดียวก็ได้ฤกษ์เข้ามาถึงประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว ซึ่งในบ้านเราจะเอาเข้ามาจำหน่ายทั้งหมด 2 รุ่น คือตัวท็อป OPPO Reno 2 และรุ่นเล็กสุด Reno 2F โดยเคาะราคาเริ่มต้นมาที่ 11,990 บาท

ตัวเครื่องด้านหลังครอบด้วย Gorilla Glass 5 ทนแรงขีดข่วน

OPPO Reno 2 และ Reno 2F มีตัวเครื่องด้านหลังที่ครอบด้วยกระจกสุดอึด Gorilla Glass 5 ที่สามารถทนการขีดข่วนได้จากเหรียญหรือกุญแจต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์แบบสมมาตรของทั้งกล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงโลโก้ OPPO ที่เรียงลงมาเป็นแนวตั้ง ตรงกลางเครื่องแบบเป๊ะๆ

หน้าจอ AMOLED อัตราส่วนต่อตัวเครื่องสูง 93.1%

หน้าจอของ OPPO Reno 2 มีขอบบางสุดๆ เพียง 3.35 มม. ทำให้สามารถขยายหน้าจอออกไปได้สุดๆ จนมีอัตราส่วนต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.1% (Reno 2F 91.6%) แถมยังครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 6 สุดอึดสุดถึกอีกต่างหาก

OPPO Reno 2F

เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือใต้หน้าจอที่แม่นยำกว่าเดิม

ทั้ง Reno 2 และ Reno 2F มีหน้าจอที่ใหญ่เต็มตาเพราะยืดออกไปจนสุดขอบเครื่อง เซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือก็เลยย้ายมาไว้ใต้หน้าจอแทน ซึ่งเซ็นเซอร์ดังกล่าวสามารถปลดล็อคเครื่องได้เร็วกว่าเดิมถึง 11.3%

กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียด 48MP

OPPO Reno 2 มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว ประกอบด้วยเลนส์หลักเซ็นเซอร์ Sony IMX586 48MP (f/1.7) + เลนส์ซูม 13MP (f/2.4) + เลนส์ Wide Angle 119° 8MP + เลนส์ Mono จับความลึก 2MP 

ส่วนกล้องหลังของ OPPO Reno 2F ก็มีกล้องหลัง 4 ตัว เช่นกัน แต่จะลดสเปคลงมานิดนึง ประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP (f/1.7) + เลนส์ Wide Angle 119° 8MP (f/2.2) + เลนส์ Mono 2MP + เลนส์จับความลึก 2MP 

โหมดถ่ายภาพกลางคืน Ultra Dark

OPPO Reno 2 มีโหมดถ่ายภาพในที่แสงน้อยอย่าง Ultra Dark ที่สามารถเก็บภาพในสภาวะแสงน้อย หรือแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ให้ออกมาคมชัด แจ่มแจ๋ว เหมือนเปิดไฟเลยทีเดียว แถมยังทำงานร่วมกับระบบ AI ในการลด Noise บนภาพถ่าย ให้ภาพออกมาคมกว่าอีกด้วย

ส่วนรุ่นน้องอย่าง OPPO Reno 2F ก็มีมีโหมดถ่ายกลางคืนให้มาด้วยเหมือนกัน แต่จะใช้เทคโนโลยีคนละแบบ เรียกว่า Ultra Night Mode 2.0 ที่ให้ความสว่างและรายละเอียดของภาพแบบครบๆ ไม่แพ้กัน

ถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้ง่ายกว่าที่เคยด้วย Portrait Mode 2.0

ทั้ง OPPO Reno 2 และ Reno 2F มากับเทคโนโลยีหน้าชัดหลังเบลอ Portrait Mode 2.0 ที่มีลูกเล่นหลากหลายทั้ง Portrait Bokeh การปรับความเบลอได้ก่อนถ่าย, HDR Portrait ลดแสงในการถ่ายในพื้นที่แสงมากไป และเพิ่มแสงให้กับพื้นที่ที่แสงน้อยเกินไป, โหมด Monochrome ที่จะเปลี่ยนพื้นหลังให้เป็นสีขาวดำแทนการเบลอก็ยังได้

ซูมดิจิตอลสูงสุด 20 เท่า

นอกจากกล้องหลังของ Reno 2 จะมีเลนส์ให้เลือกใช้ได้หลากหลายแบบแล้ว มันยังสามารถซูมภาพแบบ Optical ได้ 2 เท่า ซูมแบบ Hybrid ได้ 5 เท่า และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 20 เท่า โดยที่ยังคงความคมชัดและรายละเอียดต่างๆ ของภาพได้เป็นอย่างดี

นิ่งสุดๆ ด้วย ULTRA STEADY VIDEO

OPPO Reno 2 มีโหมดถ่ายวิดีโอแบบ Ultra Steady Video ที่ใช้ระบบกันสั่นทั้ง OIS และ EIS พร้อมๆ กัน ทำให้คลิปวิดีโอที่ออกมานิ่งพอๆ กับการถ่ายด้วย Action Cam แถมยังสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ 60fps อีกด้วย

ระบบซูมทั้งภาพและเสียง

นอกจาก Reno 2 จะซูมภาพเข้าไปได้ถึง 20 เท่า ในระหว่างบันทึกวิดีโอแล้ว มันยังสามารถซูมเสียงได้อีก ด้วยการเพิ่มระดับเสียงของสิ่งที่เรากำลังถ่ายอยู่ และใช้ระบบตัดเสียงรอบข้างออก ทำให้เสียงของสิ่งที่เราถ่ายมีความคมชัดมากขึ้น

กล้องเซลฟี่ที่ถ่ายวิดีโอแบบ Bokeh ได้

กล้องหน้าแบบ Pivot Rising Camera ของ Reno 2 และกล้อง Rising Camera ของ Reno 2F ยังสามารถถ่ายวิดีโอเซลฟี่เก๋ๆ ด้วยการใส่เอฟเฟ็คท์ Bokeh หรือหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย

ระบบชาร์จสุดไว VOOC FLASH CHARGE 3.0

OPPO Reno 2 และ Reno 2F ให้แบตเตอรี่มาให้ใช้งานกันได้สบายๆ ถึง 4000 mAh โดยเล่นเกมต่อเนื่องได้ถึง 8 ชม. และดูวิดีโอต่อเนื่องได้ถึง 13 ชม. แถมยังใส่ระบบชาร์จไวอย่าง VOOC Flash Charge 3.0 ที่สามารถชาร์จไฟจาก 0 – 51% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น

สเปค OPPO RENO 2

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • CPU : Snapdragon 730G
  • GPU : Adreno 618
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 256GB
  • กล้องหลัง : Sony IMX586 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.4) + 13MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4), OIS + EIS, Ultra Dark Mode
  • กล้องหน้า Pivot Rising Camera : 16MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • การเชื่อมต่อ : WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 5.0, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาด / น้ำหนัก : 160 x 74.3 x 9.5 มม. / 189 กรัม
  • ระบบ Android 9 ครอบด้วย ColorOS 6.1
  • สีที่วางจำหน่าย : สีดำ Luminous Black, สีชมพู Sunset Pink

สเปค OPPO RENO 2F

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • CPU : Helio P70
  • GPU : Mali-G72 MP3
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD card 256GB
  • กล้องหลัง : Samsung Bright GM1 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) + 2MP (f/2.4), Ultra Night Mode
  • กล้องหน้า Rising Camera : 16MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • การเชื่อมต่อ : WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 4.2, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาด / น้ำหนัก : 161.8 x 75.8 x 8.7 มม. / 195 กรัม
  • ระบบ Android 9 ครอบด้วย ColorOS 6.1
  • สีที่วางจำหน่าย : สีเขียว Lake Green, สีขาว Sky White

นอกจากจะเปิดตัวมือถือทั้ง OPPO Reno 2 และ Reno 2F แล้ว ก็ยังมีหูฟังบลูทูธแบบคล้องคอ OPPO Enco Q1 ที่มีฟีเจอร์ตัดเสียงรบกวนด้วยระบบ AI แบบ Dual Active Noise Canceling ใช้งานได้ยาวๆ 15 ชม. เมื่อเปิดโหมดตัดเสียง และได้ยาวกว่าเดิมเป็น 22 ชม. เมื่อปิดโหมดตัดเสียง

OPPO Enco Q1 จะเริ่มวางขายตาม OPPO Brand Shop และร้านค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2019 เป็นต้นไป ในราคา 2,990 บาท

OPPO Reno 2 และ Reno 2F จะเริ่มเปิดให้จองได้ตั้งแต่วันที่ 9 – 25 ตุลาคม 2019 โดย Reno 2 มีราคาอยู่ที่ 17,990 บาท (รับฟรี Special Gift Box และ Premium Card) ส่วน Reno 2F มีราคาอยู่ที่ 11,990 บาท (รับฟรี OPPO Sport Bag และ VIP Card) โดยจะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคม 2019 เป็นต้นไป

และสำหรับลูกค้าที่จอง OPPO Reno 2 และ Reno 2F ผ่านผู้ให้บริการเครือข่าย AIS, dtac และ Truemove H ในวันที่ 9 – 25 ตุลาคม 2019 พร้อมแพ็คเกจรายเดือนที่กำหนด จะได้สิทธิซื้อเครื่องในราคาพิเศษเริ่มต้นเพียง 3,490 บาท เท่านั้น

from:https://droidsans.com/oppo-reno-2f-reno-2-thailand-price/

รายชื่อมือถือใหม่ผ่าน กสทช. Mate 30 Pro ควง iPhone 11 พร้อม OnePlus 7T และ Xperia 5 ก็มา [กันยายน 2019]

สำหรับช่วงเดือนกันยายนของทุกๆ ปี ถือเป็นช่วงที่มีมือถือรุ่นเรือธงของแต่ละค่ายออกมาเยอะที่สุดแล้ว เปิดตัวกันจ้าละหวั่น เอาซะทีมงานทำข่าวไม่ทันกันเลยทีเดียว ซึ่งรุ่นที่ได้ผ่านการตรวจสอบจาก กสทช. นำทัพมาโดย Mate 30 Pro, iPhone 11, OnePlus 7T, Xperia 5 และรุ่นอื่นๆ อีกเพียบ ไปดูกันได้เลยครับ

หมายเลข

ตราอักษร

แบบ/รุ่น

B38644-19 HUAWEI LIO-L29 (Mate 30 Pro)
B38643-19 Apple A2221 (iPhone 11)
B38642-19 Apple A2215 (iPhone 11 Pro)
B38641-19 Apple A2218 (iPhone 11 Pro Max)
B38640-19 HUAWEI TAS-L29 (Mate 30)
B38634-19 ONEPLUS HD1903 (ONEPLUS7T)
B38632-19 SONY J9210 (Xperia 5)
B38628-19 SAMSUNG SM-R835F (Galaxy Watch Active2)
B38625-19 vivo vivo 1906 (Y11)
B38612-19 SAMSUNG SM-M307F/DS (Galaxy M30s)
B38604-19 Redmi M1908C3KG (Redmi 8A)
B38592-19 OPPO CPH1907 (OPPO Reno2)
B38589-19 OPPO CPH1989 (OPPO Reno2 F)

HUAWEI

เพิ่งเปิดตัวเมื่อสัปดาห์ก่อนตอนนี้เครื่องก็เข้าไทยมาเรียบร้อยแล้ว มาทั้ง Huawei Mate 30 และ Mate 30 Pro ที่เป็นมือถือระดับเครือธงของค่าย ทั้งคู่มาพร้อมกับชิประดับไฮเอนด์ Kirin 990 กล้องหลังสูงสุด 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 40MP เทพๆ ซึ่งจะมาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 10 with EMUI 10 ที่ไม่รองรับ Google Services (คงต้องลุ้นกันต่อไปให้รองรับ)

HUAWEI MATE 30

  • 8GB + 128GB คาดการณ์ราคาไทย 22,990 บาท

HUAWEI MATE 30 PRO

  • 8GB + 256GB คาดการณ์ราคาไทย 31,990 บาท
  • 8GB + 256GB (5G)คาดการณ์ราคาไทย  34,990 บาท
  • 12GB + 512GB (Porsche Design) คาดการณ์ราคาไทย 65,900 บาท

 

APPLE

ในที่สุดก็เข้ามาสักทีสำหรับใครที่เป็นสาวกค่ายผลไม้กับ iPhone 11 ทั้ง 3 รุ่น ก็เพิ่งผ่าน กสทช. เช่นเดียวกัน โดยจะวางจำหน่ายในไทยวันที่ 18 ตุลาคม 2019 นี้ ส่วนใครที่รีบตอนนี้เครื่องหิ้วก็เห็นมีมาวางจำหน่ายแล้วด้วยเช่นกันครับ

iPhone 11

  • 64GB ราคาศูนย์ไทย 24,900 บาท
  • 128GB ราคาศูนย์ไทย 26,900 บาท
  • 256GB ราคาศูนย์ไทย 30,900 บาท

iPhone 11 Pro

  • 64GB ราคาศูนย์ไทย 35,900 บาท
  • 256GB ราคาศูนย์ไทย 41,900 บาท
  • 512GB ราคาศูนย์ไทย 48,900 บาท

iPhone 11 Pro Max

  • 64GB ราคาศูนย์ไทย 39,900 บาท
  • 256GB ราคาศูนย์ไทย 45,900 บาท
  • 512GB ราคาศูนย์ไทย 52,900 บาท

 

OnePlus

ตามมาติดๆ กับเรือธงอีกรุ่นกับ OnePlus 7T ที่คราวนี้อัปเกรดมาใหม่ มาพร้อมกับชิปSnapdragon 855+ กล้องหลัง 3 ตัว แบต 3800 mAh และหน้าจอจะมีรีเฟรชเรทที่ 90Hz  โดยจะเปิดตัวที่อินเดีย, อเมริกา ในวันที่ 26 กันยายน 2019 และจะเปิดตัวที่อังกฤษในวันที่ 10 ตุลาคม 2019 นี้ครับ

 

SONY

xperia-5

หลังจากที่เปิดตัวไปในงาน IFA 2019 ที่ผ่านมากับเจ้าตัว Xperia 5 โดยสเปคเครื่องตัวใหม่จะมาพร้อมกับ Snapdragon 855 RAM 6GB, ROM 128GB กล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลักความละเอียด 12MP,f/1.6 +12MP เลนส์ telephoto ซูม optical ได้ 2x optical + 12MP เลนส์ ultra-wide-angle แบตเตอรี่ 3,140 mAh ซึ่งคาดว่าจะมีมาวางจำหน่ายในช็อปไทยเร็วๆ นี้ โดยทีมงานแอบเห็นบางร้านหิ้วมาขายด้วยเหมือนกันนะ

 

SAMSUNG

มาดูที่แบรนด์ Samsung กันบ้าง ล่าสุดก็มี Galaxy Watch Active2 รุ่นใหม่อัปเกรดมาใหม่ใส่ซิมได้รองรับ LTE ที่ใช้สเปคเป็นหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 40-44 มม. ความละเอียด 360 x 360 ชิป Exynos 9110
RAM 1.5GB ROM 4GB แบตเตอรี่ 247-340 mAh (เรียงตามขนาดหน้าปัด) โดย Galaxy Wacth Active 2 รุ่น Bluetooth ขนาด 40 มม. คาดว่าจะมีราคาอยู่ที่ 8,600 บาท และ ขนาด 44 มม. ราว 9,250 บาท เริ่มวางจำหน่าย 27 กันยายน 2019 นี้เป็นต้นไป (รุ่น LTE ยังไม่อัปเดตราคาและวันวางจำหน่าย)

ถัดมากับอีกรุ่นที่เพิ่งผ่าน กสทช. มาหมาดๆ คือ Galaxy M30s ที่เพิ่งมีสเปคหลุดเมื่อไม่กี่วันก่อน ตอนนี้ก็เข้าไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าจะใช้ชิป Exynos 9610 หรือ Exynos 9611 หน้าจอความละเอียด FHD+ ขนาด 6.4 นิ้ว, RAM 4GB, ระบบ Android 9 คล้ายกับรุ่น M30 แต่ที่ต่างออกไปคือความจุที่มีให้เลือก 2 แบบ คือ 64GB และ 128GB ราคาในไทยคาดจะอยู่ที่ประมาณ 8,100 บาท

 

XIAOMI

ตามติดๆ สำหรับคนสายคุ้มราคาประหยัดแบตถึกๆ ต้องโดนกับ Redmi 8a โดยตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตขนาดใหญ่ 5,000 mAh หน้าจอ Dot Notch ขนาด 6.2 นิ้ว ความละเอียด 1520 x 720 พิกเซล ใช้ชิป Octa-core 2.0GHz RAM 2-4GB ส่วน ROM มี 16-64GB รองรับ microSD card สูงสุด 512GB กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล กล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล ส่วนราคาและวันจำหน่ายยังไม่เปิดเผย

 

VIVO

สำหรับ vivo V11 ถือเป็นรุ่นสายต่อจาก V9 ที่เน้นเรื่องกล้องหน้าเป็นพิเศษ สเปคเบื้องต้นตัวเครื่องใช้หน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.41 นิ้ว ความละเอียด FHD+ ชิป Snapdragon 660 AIE มี RAM 6GB และ ROM 128 GB กล้องหน้า 25MP พร้อม AI ช่วยถ่าย กล้องหลัง 2 ตัว 12MP + 5MP แบต 3400 mAh  สแกนนิ้วใต้หน้าจอ โดยมีราคาว่างจำหน่ายอยู่ที่ 13,999 บาท และรุ่นเล็ก V11i ราคา 9,999 บาท

 

OPPO

เข้าไทยมาเป็นแพ็คคู่ทั้ง OPPO Reno2 และ OPPO Reno2 F ที่เป็นมือถือเน้นกล้อง มีกล้องหลัง 4 ตัวทั้งคู่ สเปคและหน้าตาจะคล้ายๆ กัน โดยตัว Reno2 จะเป็นรุ่นท็อปกล้องหน้าเป็นแบบ Shark fin และ Reno2 F เป็นรุ่นรองกล้องหน้าป๊อบอัพ ส่วน Reno2 Z ยังไม่เข้าไทย โดยราคา Reno2 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 15,900 บาทครับ

 

ที่มา :  nbtc

from:https://droidsans.com/nbtc-new-phone-sep-2019/

พบข้อมูล OPPO Reno รุ่นใหม่คาดว่าจะเป็น Reno รุ่นใหม่ บน TENAA

OPPO ดูเหมือนจะพร้อมที่จะเปิดตัวโทรศัพท์รุ่นใหม่ในจีน ในวันที่ 10 ตุลาคม โดยคาดว่า OPPO จะเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธง OPPO Reno Ace รายละเอียดทั้งหมดของสมาร์ทโฟนได้ปรากฏบน TENAA โทรศัพท์ลึกลับที่มีหมายเลขรุ่น PCKM80 ถูกระบุไว้ ข้อมูลจำเพาะของสเปคที่ตรงกับ Reno 2 F ที่ประกาศในอินเดียเมื่อปลายเดือนที่แล้ว

โดยสเปคของ OPPO PCKM80 มีระบบกล้องสี่เลนส์ วางในแนวตั้งที่มาพร้อมกับแฟลชคู่ LED ด้านหน้าของขอบด้านซ้ายของโทรศัพท์มีปุ่มปรับระดับเสียง และปุ่มเปิดปิดที่ทางด้านขวา สมาร์ทโฟนมีขนาด 161.8 x 75.8 x 8.7 มม. และมีน้ำหนัก 195 กรัม มาพร้อมกับหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มีความละเอียดระดับ Full HD +  1080 x 2340 พิกเซล

ส่วนความละเอียดของ OPPO Reno Ace ที่มาพร้อมกล้อง 4 เลนส์จะมี 48 ล้านพิกเซล + 8 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล + 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้าความละเอียด 16 ล้านพิกเซล แบตอาจจะมาพร้อมความจุ 4,000mAh และใช้งานระบบ Android 9 Pie ส่วนจะจริงหรือไม่อดใจรอเดือนหน้า

ข่าว: พบข้อมูล OPPO Reno รุ่นใหม่คาดว่าจะเป็น Reno รุ่นใหม่ บน TENAA มีที่มาจาก: แอพดิสคัส.

from:https://www.appdisqus.com/2019/09/23/oppo-reno2-f-tenaa-listing-appears.html

รองประธาน OPPO แอบบอกใบ้ สมาร์ทโฟนเรือธง Reno ใหม่ จะมาพร้อมกับหน้าจอ 90Hz

สัปดาห์ที่ผ่านมา OPPO เพิ่งทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนไปทั้งหมด 3 รุ่นภายใต้ซีรีส์ Reno 2 ล่าสุดดูเหมือนว่าพวกเขากำลังจะทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเพิ่มมาอีกรุ่น และคาดว่าน่าจะถึงคิวของรุ่นเรือธงซะที โดยมีการบอกใบ้ว่าจะใช้หน้าจอค่ารีเฟรชเรท 90Hz และเทคโนโลยีชาร์จไวที่อัพเกรดขึ้นจากเดิม

Shen Yiren Brian รองประธาน OPPO ได้ออกมาโพสต์ข้อความแง้มๆ เกี่ยวกับโทรศัพท์รุ่นต่อไปของพวกเขาว่า “อันที่จริงแล้ว Reno ___ จะไม่ได้มีแค่หน้าจอรีเฟรชเรท ___ Hz นะ แต่จะมีเทคโนโลยีชาร์จไวเวอร์ชั่นอัพเกรด ___ วัตต์มาด้วย” ซึ่งส่วนนี้เขาก็อธิบายเพิ่มเติมแล้วว่าไม่ใช่ Reno 2 ที่เพิ่งเปิดตัวไปแต่อย่างใด อีกทั้งวันเปิดตัวก็ไม่ใช่วันที่ 10 กันยายน (วันเดียวกับ Reno 2 series เปิดตัวในจีน)

นอกจากนี้ยังมีคนถามขึ้นมาอีกด้วยว่าหน้าจอรีเฟรชเรท 90Hz นั่นมีเพียงแต่ OnePlus ไม่ใช่เหรอที่ใช้ได้ Shen ก็เลยตอบกลับไปว่า “มันไม่น่าจะเป็นแบบนั้นนะ”

ส่วนเรื่องวันเปิดตัวคาดว่าน่าจะเปิดตัวหลังจากซีรีส์ Reno 2 ที่เตรียมเปิดตัวที่จีนในวันที่ 10 กันยายนที่จะถึงนี้ครับ คาดว่าสมาร์ทโฟนเรือธงหน้าจอ 90Hz ตัวนี้อาจจะยังอยู่ในตระกูล Reno ส่วนจะใช้ชื่ออะไรนั้นเริ่มมีคนทายออกมาว่าอาจจะเป็น Reno Pro หรือไม่

 

ที่มา: weibo 

from:https://droidsans.com/new-oppo-flagship-90hz-display/

OPPO Reno2 5G ผ่านการรับรองจากหน่วยงาน TENAA ยืนยันมาพร้อมเลนส์ซูมปริทรรศน์

OPPO Reno รุ่นแรกมีเวอร์ชั่น 5G วางจำหน่ายในบางประเทศด้วย แต่ Reno2 series ที่เปิดตัวทางการไปเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ไม่ได้ออกเวอร์ชั่น 5G อย่างไรก็ตาม คาดว่า OPPO จะเปิดตัวในอีกไม่นานนี้ เพราะผ่านการรับรองจากหน่วยงาน TENAA ในประเทศจีนแล้ว

หน่วยงาน TENAA เปิดเผยรูปภาพ OPPO Reno2 5G ออกมาแล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุสเปก อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวสังเกตว่า Reno2 5G อาจมาพร้อมเลนส์ซูมปริทรรศน์ แบบเดียวกับที่พบใน Reno 5G โดยที่กล้องหลังมี 4 ตัว เหมือนกับ Reno2 series

ข้อมูลเกี่ยวกับ OPPO Reno2 5G ที่หน่วยงาน TENAA เปิดเผยออกมามีน้อยมาก โดยระบุว่าจะมาพร้อมจอแสดงผล ขนาด 6.6 นิ้ว ความจุแบตเตอรี่ 3,930mAh ขนาดบอดี้ 161.8 x 76.6 x 9.5 มิลลิเมตร และทำงานบนพื้นฐาน Android

ที่มา – Gsmarena
https://www.flashfly.net/wp/265332

from:https://www.flashfly.net/wp/265332

OPPO Reno2 เปิดตัวทางการแล้ว มาพร้อมรุ่น Reno2 Z และ Reno2 F ทั้งหมดได้รับกล้องหลัง 4 ตัว

OPPO เปิดตัวสมาร์ทโฟน Reno2 series อย่างทางการ โดยมีด้วยกัน 3 รุ่น คือ Reno2, Reno2 Z และ Reno2 F ทั้งหมดได้รับการออกแบบคล้ายกัน มาพร้อมกล้องหลัง 4 ตัว แต่รุ่น Reno2 จะใช้กล้องเซลฟี่แบบครีบฉลามเหมือนกับ Reno รุ่นแรก ส่วนกล้องเซลฟี่ของ Reno2 Z และ Reno2 F เป็นแบบป๊อปอัพ Rising Camera สไลด์ขึ้นตรงๆ

OPPO Reno2

OPPO Reno2 มาพร้อมกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาด 1/2.0 นิ้ว รูรับแสง F1.7 ระบบลดภาพสั่นไหว OIS วางคู่กับกล้องมุมกว้างพิเศษ 116 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล มีกล้องเทเลโฟโต้ 13 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.4 และกล้องตัวที่ 4 มีความละเอียด 2 ล้านพิกเซล รองรับระบบซูมดิจิตอลสูงสุด 20 เท่า และซูมแบบไฮบริดสูงสุด 5 เท่า

OPPO Reno2 มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.5 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 93.1% ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 730G ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 256GB ความจุแบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 และทำงานบน ColorOS 6.1

OPPO Reno2 จะเริ่มวางจำหน่ายในอินเดีย วันที่ 20 กันยายนนี้ ราคา 37,000 รูปี หรือราว 15,785 บาท

OPPO Reno2 Z

OPPO Reno2 Z มาพร้อมกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX586 ขนาด 1/2.0 นิ้ว รูรับแสง F1.7 วางคู่กับกล้องมุมกว้างพิเศษ 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 มีกล้องโมโน และกล้องสำหรับถ่ายภาพบุุคคล ตัวละ 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล

OPPO Reno2 Z มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.53 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.6% ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P90 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 256GB ความจุแบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 และทำงานบน ColorOS 6.1

OPPO Reno2 Z เปิดรับจองแล้วในอินเดีย ผ่านร้าน Amazon ราคา 30,000 รูปี หรือราว 12,800 บาท เริ่มวางจำหน่าย 6 กันยายนนี้

OPPO Reno2 F

OPPO Reno2 F มาพร้อมกล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล ขนาดเซ็นเซอร์ 1/2.25 นิ้ว รูรับแสง F1.79 วางคู่กับกล้องมุมกว้างพิเศษ 119 องศา ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง F2.2 มีกล้องโมโน และกล้องสำหรับถ่ายภาพบุุคคล ตัวละ 2 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องเซลฟี่ 16 ล้านพิกเซล

OPPO Reno2 F มาพร้อมจอแสดงผล AMOLED Panoramic Screen ขนาด 6.53 นิ้ว อัตราส่วนหน้าจอต่อบอดี้ 91.6% ใช้ชิปประมวลผล MediaTek Helio P70 ความจำ RAM 8GB จับคู่กับ ROM 128GB ความจุแบตเตอรี่ 4000mAh รองรับชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0 และทำงานบน ColorOS 6.1

OPPO Reno2 F จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤศจิกายนนี้ แต่ยังไม่เปิดเผยราคาออกมา

ที่มา – OPPO
https://www.flashfly.net/wp/264636

from:https://www.flashfly.net/wp/264636

เปิดตัว OPPO Reno 2, Reno 2Z และ Reno 2F มือถือ 4 กล้องหลังความละเอียด 48MP พร้อมระบบซูม 20X

เปิดตัวเรียบร้อยแล้ว สำหรับมือถือกล้องซูม 20 เท่า อย่าง OPPO Reno 2 ที่มาพร้อมกับรุ่นน้องอีก 2 รุ่น ทั้ง Reno 2Z และ Reno 2F ซึ่งจะมีสเปคลดหลั่นลงไปตามลำดับ ซึ่งจริงๆ แล้วมือถือซีรีส์ OPPO Reno 2 ไม่ใช่มือถือเรือธงภาคต่อจาก OPPO Reno รุ่นแรกที่พึ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา แต่มันเป็นมือถือเน้นกล้องที่มีระบบซูมโหดๆ ในราคาที่เอื้อมถึงง่ายกว่าต่างหาก ส่วนสเปค+ฟีเจอร์จะมีอะไรบ้าง.. มาดูกันครับ

ตัวเครื่องด้านหลังทนทานต่อแรงการขีดข่วนด้วย Gorilla Glass 5

OPPO Reno 2 มีตัวเครื่องด้านหลังที่ครอบด้วยกระจกสุดอึด Gorilla Glass 5 ที่สามารถทนการขีดข่วนได้จากเหรียญหรือกุญแจต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการดีไซน์แบบสมมาตรของทั้งกล้องหลัง 4 ตัว รวมถึงโลโก้ OPPO ที่เรียงลงมาเป็นแนวตั้ง ตรงกลางเครื่องแบบเป๊ะๆ

หน้าจอ AMOLED อัตราส่วนต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.1%

หน้าจอของ OPPO Reno 2 มีขอบบางสุดๆ เพียง 3.35 มม. (บางกว่า Reno รุ่นแรก 4%) ทำให้สามารถขยายหน้าจอออกไปได้สุดๆ จนมีอัตราส่วนต่อตัวเครื่องสูงถึง 93.1% แถมยังครอบด้วยกระจก Gorilla Glass 6 สุดอึดสุดถึกอีกต่างหาก

กล้องหลัง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP

OPPO reno 2 มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 4 ตัว ประกอบด้วยเลนส์หลักเซ็นเซอร์ Sony IMX586 48MP (f/1.7) + เลนส์ซูม 13MP (f/2.4) + เลนส์ Wide Angle 116° 8MP + เลนส์ Mono จับความลึก 2MP

ระบบซูม Hybrid 5 เท่า และซูมดิจิตอลสูงสุด 20 เท่า

นอกจากกล้องหลังของ Reno 2 จะมีเลนส์ให้เลือกใช้ได้หลากหลายแบบแล้ว มันยังสามารถซูมภาพแบบ Optical ได้ 2 เท่า ซูมแบบ Hybrid ได้ 5 เท่า และสามารถซูมแบบดิจิตอลได้สูงสุดถึง 20 เท่า โดยที่ยังคงความคมชัดและรายละเอียดต่างๆ ของภาพได้เป็นอย่างดี

มืดแค่ไหนก็หายห่วงด้วย Ultra dark Mode

OPPO Reno 2 ยังมีโหมดถ่ายภาพในที่แสงน้อยอย่าง Ultra Dark Mode ที่สามารถเก็บภาพในสภาวะแสงน้อย หรือแทบจะมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ให้ออกมาคมชัด แจ่มแจ๋ว เหมือนเปิดไฟเลยทีเดียว แถมยังทำงานร่วมกับระบบ AI ในการลด Noise บนภาพถ่าย ให้ภาพออกมาคมกว่าอีกด้วย

นิ่งสุดๆ ด้วย Ultra Steady Video

เอาใจคนชอบถ่ายวิดีโอด้วย Ultra Steady Video ที่ใช้ระบบกันสั่นทั้ง OIS และ EIS พร้อมๆ กัน ทำให้คลิปวิดีโอที่ออกมานิ่งพอๆ กับการถ่ายด้วย Action Cam แถมยังสามารถบันทึกวิดีโอได้ที่ 60fps อีกด้วย

ซูมได้ทั้งภาพและเสียง

นอกจาก Reno 2 จะซูมภาพเข้าไปได้ถึง 20 เท่า ในระหว่างบันทึกวิดีโอแล้ว มันยังสามารถซูมเสียงได้อีก ด้วยการเพิ่มระดับเสียงของสิ่งที่เรากำลังถ่ายอยู่ และใช้ระบบตัดเสียงรอบข้างออก ทำให้เสียงของสิ่งที่เราถ่ายมีความคมชัดมากขึ้น

กล้องเซลฟี่ที่ถ่ายวิดีโอแบบ Bokeh ได้

กล้อง Pivot Rising Camera ของ Reno 2 ยังสามารถถ่ายวิดีโอเซลฟี่เก๋ๆ ด้วยการใส่เอฟเฟ็คท์ Bokeh หรือหน้าชัดหลังเบลอได้อีกด้วย

แบตเตอรี่ 4000 mAh พร้อมระบบชาร์จเร็ว VOOC Flash Charge 3.0

OPPO Reno 2 ให้แบตเตอรี่มาให้ใช้งานกันได้สบายๆ ถึง 4000 mAh โดยเล่นเกมต่อเนื่องได้ถึง 8 ชม. และดูวิดีโอต่อเนื่องได้ถึง 13 ชม. แถมยังใส่ระบบชาร์จไวอย่าง VOOC Flash Charge 3.0 ที่สามารถชาร์จไฟจาก 0 – 51% ได้ในเวลาเพียง 30 นาที เท่านั้น

สเปค OPPO Reno 2

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2400 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • CPU : Snapdragon 730G
  • GPU : Adreno 618
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 256GB
  • กล้องหลัง : Sony IMX586 48MP (f/1.7) + 8MP (f/2.4) + 13MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4), OIS + EIS, Ultra Dark Mode
  • กล้องหน้า Pivot Rising Camera : 16MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • การเชื่อมต่อ : WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 5.0, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาด / น้ำหนัก : 160 x 74.3 x 9.5 มม. / 189 กรัม
  • ระบบ Android 9 ครอบด้วย ColorOS 6.1
  • สีที่วางจำหน่าย : สีดำ Luminous Black, สีน้ำเงิน Ocean Blue, สีชมพู Sunset Pink

สเปค OPPO Reno 2Z

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • CPU : Helio P90
  • GPU : IMG 9XM-HP8
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB / 256GB
  • กล้องหลัง : Sony IMX586 48MP 10x Digital Zoom (f/1.7) + 8MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) + 2MP (f/2.4), EIS, Ultra Dark Mode
  • กล้องหน้า Pop-up : 16MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • การเชื่อมต่อ : WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 5.0, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาด / น้ำหนัก : 161.8 x 75.8 x 8.7 มม. / 195 กรัม
  • ระบบ Android 9 ครอบด้วย ColorOS 6.1
  • สีที่วางจำหน่าย : สีดำ Luminous Black, สีขาว Sky White

สเปค OPPO Reno 2F

  • หน้าจอ AMOLED ความละเอียด FHD+ (2340 x 1080) ขนาด 6.5 นิ้ว
  • CPU : Helio P70
  • GPU : Mali-G72 MP3
  • RAM : 8GB
  • ความจุ : 128GB รองรับ MicroSD card 256GB
  • กล้องหลัง : Sony IMX586 48MP 10x Digital Zoom (f/1.7) + 8MP (f/2.2) + 2MP (f/2.4) + 2MP (f/2.4), Ultra Night Mode
  • กล้องหน้า Pop-up : 16MP
  • เซ็นเซอร์สแกนนิ้วมือบนหน้าจอ
  • การเชื่อมต่อ : WLAN Function: 2.4/5GHz 802.11 a/b/g/n/ac, BT 4.2, USB-C
  • เซ็นเซอร์ : Gyro, Light, Proximity, G-Sensor/Acceleration Sensor, Compass
  • แบตเตอรี่ 4000 mAh รองรับ VOOC Flash Charge 3.0
  • ขนาด / น้ำหนัก : 161.8 x 75.8 x 8.7 มม. / 195 กรัม
  • ระบบ Android 9 ครอบด้วย ColorOS 6.1
  • สีที่วางจำหน่าย : สีฟ้า Lake Blue, สีขาว Sky White

OPPO Reno 2Z จะวางขายในประเทศอินเดียตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน 2019 ในราคา 36,990 รูปี หรือราวๆ 15,775 บาท และ OPPO Reno 2F จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2019 ในราคา 29,990 รูปี หรือราวๆ 12,800 บาท ส่วนรุ่นท็อป OPPO Reno 2 จะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนพฤษจิกายน 2019 แต่ตอนนี้ยังไม่มีราคาออกมาครับ

from:https://droidsans.com/oppo-reno-2-2z-2f-officially-announced/