คลังเก็บป้ายกำกับ: LINE_THAILAND

LINE ประเทศไทย ปักธงปีที่ 12 หนุนขับเคลื่อน Smart Country ด้วย LINE Economy ชูแพลตฟอร์มเพื่อคุณภาพชีวิตคนไทยผสานการเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัลแบบยั่งยืน

LINE ประเทศไทย ปักธงครบรอบ 12 ปี ตั้งเป้าขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น Smart Country ด้วย LINE Economy ระบบเศรษฐกิจบนแอปพลิเคชั่น LINE ที่ปัจจุบันมีผู้ใช้กว่า 54 ล้านคน

มุ่งผลักดันการพัฒนาและทำงานร่วมกันอย่างยั่งยืนระหว่างภาคเทคโนโลยีและภาคส่วนผู้ใช้งานต่าง ๆ บน 4 กลยุทธ์ ได้แก่ (1) ผสานจุดแกร่งระบบนิเวศเพิ่มขีดการแข่งขัน (2) ชูการเป็น Smart Platform ขับเคลื่อน Smart Country (3) สร้างคุณภาพชีวิต Life on LINE ที่ดีบนโลกดิจิทัล และ (4) ส่งเสริมการเติบโตยั่งยืนของเทคคอมพานี

LINE

ดร.พิเชษฐ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LINE ประเทศไทย กล่าวว่า “LINE ก้าวสู่ปีที่ 12 เราเติบโตจากแอปพลิเคชั่นสื่อสารมาเป็นแพลตฟอร์มสำหรับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีในชีวิตประจำวันที่สำคัญของผู้ใช้งานกว่า 54 ล้านคนในปัจจุบัน (ณ มิถุนายน 2566) 

โดยมีประชากรผู้ใช้หลากหลายภาคส่วน ธุรกิจ พันธมิตร คอมมูนิตี้ ที่ทำงานร่วมกันกับบริการและโซลูชันส์ต่าง ๆ บนระบบนิเวศจนเกิดเป็นระบบเศรษฐกิจบนแอป LINE (LINE Economy) นำไปสู่โจทย์ทางธุรกิจข้อถัดไปของเราในการสร้างความยั่งยืนบนแพลตฟอร์มที่เติบโตนี้

โดยมีหมุดหมายสำคัญคือการผลักดันแพลตฟอร์ม LINE ด้วยบทบาทในระดับมหภาค บนความมุ่งมั่นของเราที่อยากจะเห็นแอปพลิเคชั่น LINE มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็น Smart Country กล่าวคือ การที่เทคโนโลยีของ LINE มีบทบาทสำคัญในภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน สอดประสานเข้าด้วยกัน นำไปสู่การยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย”

กลยุทธ์สร้าง LINE Economy ระบบเศรษฐกิจบนแอป LINE ให้ยั่งยืน

1.     ผสานจุดแกร่งระบบนิเวศเพิ่มขีดการแข่งขัน

หลังเสริมทัพแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูงและจัดกลุ่มธุรกิจใหม่เพื่อปฏิบัติการอย่างมีประสิทธิภาพ โดยแบ่งออกเป็นกลุ่มพัฒนาแพลตฟอร์ม, กลุ่มธุรกิจ Consumer Business, กลุ่มธุรกิจ LINE For Business, กลุ่มธุรกิจคอนเทนต์และบริการใหม่ และกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ  บริษัทฯ เดินหน้าสร้างพันธมิตร ไปพร้อมกับการผสานจุดแกร่งระหว่างบริการ – โซลูชันส์บนระบบนิเวศ เพื่อนำเสนอโซลูชันส์ในรูปแบบใหม่ ๆ ไปสู่การเพิ่มขีดการแข่งขันให้แก่ลูกค้าธุรกิจในทุกระดับ เป็นการดึงข้อได้เปรียบจากการเป็นแพลตฟอร์มที่มีโซลูชันส์ครบครัน สามารถตอบโจทย์ทางธุรกิจในตลาดที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ 

2.     ชูการเป็น Smart Platform ขับเคลื่อน Smart Country

หมุดหมายสำคัญที่สะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยก้าวเข้าสู่การเป็น Smart Country คือการที่ทุกภาคส่วนในประเทศประยุกต์ใช้เทคโนโลยีมาเพื่อยกระดับการดำเนินการในส่วนต่าง ๆ นำไปสู่คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน ซึ่ง LINE มุ่งหวังให้เทคโนโลยีบนแพลตฟอร์มเป็นส่วนช่วยผลักดันในด้านต่าง ๆ ได้แก่ ภาครัฐ ที่นำเสนอบริการ e-Service ให้ประชาชนทั่วประเทศเข้าถึงและตรวจสอบการดำเนินการผ่านบัญชีทางการ LINE ได้ง่ายๆ ในไม่กี่ขั้นตอน ภาคเอกชน ที่นำโซลูชันส์ต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม LINE มาสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจที่ต้องการแข่งขัน อำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า และภาคประชาชน ด้วยประสบการณ์การใช้งานแอป LINE ในชีวิตประจำวันผ่านบริการและผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ตั้งแต่การสื่อสาร โซเชียลมีเดีย ช้อปปิ้ง คอนเทนต์ข่าวสาร สั่งอาหารฯลฯ มากไปกว่านั้น คือการส่งเสริมให้ผู้ใช้สามารถเป็นได้หลากหลายบทบาทในเวลาเดียวกัน ทั้งครีเอเตอร์ แอดมินของคอมมูนิตี้ ผู้ประกอบการ โดยมี LINE เป็นแพลตฟอร์มรองรับ

3.    สร้างคุณภาพชีวิต Life on LINE ที่ดีบนโลกดิจิทัล

นอกจากบริการต่าง ๆ บนแพลตฟอร์มที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันของผู้ใช้ บริษัทฯ ได้ริเริ่มแนวคิด LINE Digital Well-being ที่ต้องการปักหมุดในระยะยาวเพื่อให้ความสำคัญในการสร้างสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่บนโลกดิจิทัล โดยที่ผ่านมาได้ทำแคมเปญรณรงค์ในประเด็นที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากการบริหารเวลาเพื่อลดความเหนื่อยล้าบนโลกออนไลน์ ความเห็นอกเห็นใจและทัศนคติเชิงบวกบนโลกออนไลน์  การดูแลความสัมพันธ์รอบตัว ซึ่ง LINE ประเทศไทย ก็ได้หยิบยกแง่มุมใหม่ ๆ มานำเสนอเพื่อสร้างการตระหนักรู้ในประชากรผู้ใช้เพื่อสุขภาวะที่ดีบนโลกดิจิทัล

4.   ส่งเสริมการเติบโตยั่งยืนของเทคคอมพานี

การดูแล Well-being ของพนักงาน ไปพร้อม ๆ กับการสร้างคนรุ่นใหม่ให้กับอุตสาหกรรมดิจิทัลเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความยั่งยืนให้แก่บริษัทฯ จึงเดินหน้าพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่ผ่านโครงการ LINE ROOKIE เปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เข้ามาฝึกงานในโลกของการทำงานจริง ซึ่งได้รับความสนใจจากนักศึกษาเป็นจำนวนมากกว่าพันรายในแต่ละปี เพื่อสร้าง New Talent ให้กับตลาดงานและแลกเปลี่ยนแนวคิดจากคนรุ่นใหม่เพื่อนำมาพัฒนาต่อยอดผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังมีแผนความร่วมมือที่จะนำความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมมาพัฒนาหลักสูตรร่วมกับมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วประเทศเพื่อสร้างบุคลากรคุณภาพป้อนสู่ตลาดงานในประเทศภายในปี 2566 อีกด้วย

.fb-background-color {
background: #ffffff !important;
}
.fb_iframe_widget_fluid_desktop iframe {
width: 100% !important;
}

from:https://www.mobileocta.com/line-thailand-flag-12th-year/?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=line-thailand-flag-12th-year

LINE ประเทศไทย ลงนามกับกทม. เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนค่าฝุ่น PM 2.5 บน LINE ALERT

เป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่จะต้องดูค่าฝุ่น PM 2.5 ก่อนออกจากบ้าน LINE ALERT เตรียมแจ้งเตือนค่าฝุ่นในกรุงเทพฯ หลังลงนามร่วมมือกับกทม.

LINE ประเทศไทย และสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร โดยมีตัวแทนจากทั้ง 2 ฝ่าย คือ โดยมีนายพิชญ์ หมื่นรักษ์ หัวหน้าฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ LINE ประเทศไทย และนายประพาส เหลืองศิรินภา ผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในโครงการ LINE ALERT เพื่อเพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ 

LINE ALERT เป็นบัญชีแจ้งเตือนภับพิบัติร้ายแรงที่ LINE ประเทศไทยร่วมมือกับภาครัฐบาลเพื่อแจ้งเตือนสถานการณ์ร้ายแรง รวมทั้งเป็นศูนย์รวมเบอร์ติดต่อฉุกเฉินและข้อมูลโรงพยาบาล
 

ฝุ่น PM 2.5 เป็นปัญหาที่ยังแก้ไม่ตกสำหรับประเทศไทย องค์กรด้านข้อมูลเพื่อการสื่อสารมวลชน Rocket Media Lab ได้เผยแพร่ข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ The World Air Quality Index Project และอ้างอิงระดับคุณภาพอากาศและค่าฝุ่น PM 2.5 จากข้อเสนอขององค์การกรีนพีซพบว่า ในปี 2022 คนกรุงเทพฯ สูดดมฝุ่นละออง PM 2.5 เทียบเท่าการสูบบุหรี่ 1,224.77 มวนลดลงจากปี 2021 ที่เทียบเท่ากับบุหรี่ 1,261.05  มวน อย่างไรก็ตาม กรุงเทพฯ มีวันที่อากาศดีอยู่ในเกณฑ์สีเขียวอยู่เพียง 49 วัน น้อยกว่าปี 2021 ที่มีอยู่ 90 วัน

สาเหตุที่ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการแก้ไขไม่ถูกวิธีอย่างที่ล่าสุดได้มีการจัดกำลังพลและรถฉีดน้ำเพื่อฉีดน้ำล้างฝุ่นละอองโดยหวังว่าจะสามารถลดฝุ่น PM 2.5 ได้ แต่ที่จริงแล้ว ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กมาจากการท่อไอเสียของรถยนต์ การก่อสร้าง และโรงงานอุตสาหกรรมเป็นหลัก

ที่มา – LINE Thailand, IQAir

อ่านเพิ่มเติม

 

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post LINE ประเทศไทย ลงนามกับกทม. เพิ่มฟีเจอร์แจ้งเตือนค่าฝุ่น PM 2.5 บน LINE ALERT first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/line-collaborates-with-bangkok-to-notify-pm2-5-level/

ข่าวดี SME ไทย LINE จัดกิจกรรมให้ความรู้การทำธุรกิจดิจิทัล พร้อมโปรโมตร้านฟรีผ่าน LINE SHOPPING

LINE ประเทศไทย เดินหน้าแคมเปญ “WE LOVE YOU” อัดกิจกรรมชุดใหญ่ช่วยเหลือ SME ไทย มุ่งอาสาเป็นส่วนหนึ่งช่วยผู้ประกอบการก้าวผ่านวิกฤตนี้ไปด้วยกัน

LINE

พบกับกิจกรรมมากมายจาก LINE

แคมเปญนี้มาพร้อมกิจกรรมให้ความรู้การขาย คลาสเรียนออนไลน์ และ SME Clinic ตอบทุกคำถามการลงโฆษณาบน LINE จากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมช่วยโปรโมตร้านค้าออนไลน์ฟรีภายใต้แคมเปญย่อย “Hug SMEs รักนะเจ้าร้านเล็ก” และมอบคูปองส่วนลด 500 บาท สำหรับซื้อโฆษณาบน LINE ฟรี!

สำหรับมาตรการการช่วยหลือสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ภายใต้แคมเปญ WE LOVE YOU มี 3 ด้าน ดังนี้ 

  • ช่วยเสริมความรู้ พร้อมให้ SME ไทยเข้าศึกษาเพื่อเริ่มต้นการทำธุรกิจดิจิทัลด้วยตนเองได้ทุกเมื่อ และคลาสเรียนออนไลน์ฟรีเพื่อเรียนรู้การใช้งานฟีเจอร์เครื่องมือสร้างธุรกิจบน LINE พร้อมเปิด SME Clinic ให้คำปรึกษาในการทำโฆษณาบน LINE ผ่าน LINE Ads Platform จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรงในรูปแบบถามตอบออนไลน์ 
  • ช่วยโปรโมตร้าน ผ่านแคมเปญ “Hug SMEs รักนะเจ้าร้านเล็ก” ซึ่งเป็นการจัดตลาดนัดออนไลน์ครั้งใหญ่อย่างต่อเนื่องบนแหล่งรวมร้านค้าโซเชียลยอดฮิตอย่าง LINE SHOPPING พร้อมโปรโมตผ่านสื่อต่าง ๆ ของ LINE SHOPPING ฟรี! 
  • ช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่าย สำหรับ SME ที่เปิดบัญชี LINE Ads Platform จะได้รับคูปองส่วนลดสำหรับลงโฆษณาบน LINE มูลค่า 500 บาทฟรี! ตลอดสิงหาคม – ตุลาคม 2564 ซึ่งสามารถนำไปใช้เมื่อลงแคมเปญโฆษณาโดยไม่มีขั้นต่ำ 

นอกจากนี้ LINE ยังร่วมมือกับรายการออนไลน์ใหม่ล่าสุด “โอปชี้กี้ช้อป” ที่จะมาตามหาไอเทมเด็ด รีวิวสินค้าของดี ชี้เป้าให้ทุกคนมาร่วมช้อป เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการช่วยโปรโมตร้านค้า SME และร้านโซเซี่ยลเพิ่มเติมได้ในเดือนกันยายนนี้

ด้านนายเลอทัด ศุภดิลก หัวหน้าฝ่ายธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ LINE ประเทศไทย กล่าวเสริมว่า “ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดอันนำมาสู่มาตรการล็อกดาวน์ที่มีในปัจจุบัน ทำให้เราเพิ่มมาตรการและกิจกรรมช่วยเหลือขึ้นมาเป็นพิเศษมากกว่าเดิม โดยรวมพลังกับบริการอื่นๆ ภายใต้แพลตฟอร์ม LINE นำมาสู่กิจกรรมมากมายผ่านแคมเปญ WE LOVE YOU นี้”

“ด้วย Ecosystem ที่ครบถ้วนและมาตรการช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยในด้านต่างๆ เราเชื่อว่าจะสามารถเป็นอีกหนึ่งกำลังให้ SME และร้านค้ารายย่อยในไทยมีกำลังใจในการสู้ต่อ สามารถใช้เครื่องมือทางธุรกิจภายใต้แพลตฟอร์ม LINE ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เรารวมพลังพร้อมให้การสนับสนุนคนไทยด้วยกันจนกว่าจะผ่านพ้นวิกฤตนี้” นายเลอทัด กล่าวทิ้งท้าย

สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมจาก LINE กับแคมเปญ WE LOVE YOU ได้ ที่นี่

ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

The post ข่าวดี SME ไทย LINE จัดกิจกรรมให้ความรู้การทำธุรกิจดิจิทัล พร้อมโปรโมตร้านฟรีผ่าน LINE SHOPPING first appeared on Brand Inside.
from:https://brandinside.asia/line-thailand-helps-sme/

คุยกับ พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา CEO LINE ประเทศไทย กับการบริหารธุรกิจที่มีผู้ใช้บริการ 47 ล้านราย

เมื่อพูดถึงแอปพลิเคชันที่นับว่ากลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคนไทย ตั้งแต่ตื่นนอน ทำงาน ไปจนถึงเข้านอน ไม่พูดถึงแอปพลิเคชัน LINE คงไม่ได้

พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท LINE ประเทศไทย จำกัด

Brand Inside ได้มีโอกาสคุยกับ พิเชษฐ์ ฤกษ์ปรีชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท LINE ประเทศไทย จำกัด ถึงเรื่องภายในองค์กร วิธีการบริหารธุรกิจที่มีผู้ใช้งานกว่า 47 ล้านรายทั่วไทย รวมถึงเป้าหมายที่ต้องการพา LINE ประเทศไทยเดินต่อไปข้างหน้า

เมื่อ LINE ประเทศไทย ไม่ได้มีแค่แอปพลิเคชัน “แชท”

ปัจจุบัน LINE ประเทศไทย ทำธุรกิจอยู่ด้วยกันหลายด้าน พิเชษฐ์ ได้เล่าถึงภาพรวมของธุรกิจ LINE ประเทศไทย ว่าในปัจจุบันมีผู้ใช้งานแอปพลิเคชัน LINE กว่า 47 ล้านราย โดยมีบริการแชท เป็นผลิตภัณฑ์แรกที่คนไทยรู้จัก นอกจากแชทแล้ว ยังมีสติ๊กเกอร์ และ LINE Official Account ที่ปัจจุบันได้รับการพัฒนาให้เป็น Solution เพื่อธุรกิจอยู่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีธุรกิจคอนเทนต์ ทั้ง LINE TV, LINE Today และ LINE Webtoon อีกด้วย

ส่วนบริการล่าสุดของ LINE ที่เพิ่งเปิดตัวไป นั่นคือ LINE BK ที่ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย โดยพิเชษฐ์ เล่าจุดเริ่มต้นของ LINE BK บริการด้านธนาคารจาก LINE ว่า “ต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ง่าย แก้ไขปัญหาของผู้ใช้งาน และทำให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้น”

“แต่ก่อนเราต้องไปสาขา ไปที่ตู้เอทีเอ็ม ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน แต่ตอนนี้ไม่ต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชันอีกแล้ว ทุกอย่างอยู่ภายใต้แอปพลิเคชัน LINE ทำได้ทั้งทวงเงิน รับเงิน และโอนเงิน ได้ง่ายกว่าเดิม”

นอกจากนี้คนไทยจำนวนมากยังคงเข้าไม่ถึงระบบธนาคาร คนที่มีอาชีพค้าขาย ไม่มี Statement LINE BK ก็จะนำข้อมูลมาวิเคราะห์ความเสี่ยง เสนอสินเชื่อ เหมือนมีเครดิต และอนุมัติโดยเงินจะเข้าบัญชีภายในเวลาเพียง 5 นาที

หน้าที่บริหารของ CEO ดูแลผู้ใช้งาน 47 ล้านราย

เมื่อ LINE ประเทศไทยเติบโตขึ้น มีบริการที่หลากหลาย ครอบคลุมการใช้ชีวิตประจำวันของคนไทย คำถามที่เกิดขึ้นคือ พิเชษฐ์ มีวิธีในการบริหารองค์กรอย่างไร

พิเชษฐ์ เล่าถึงหน้าที่หลักของตัวเองในฐานะ CEO ว่า เขามีหน้าที่สร้างองค์กร และหาคนเก่งๆ เข้ามาทำงาน มีทีมที่แข็งแกร่ง โดยรูปแบบการบริหารองค์กรจะต้องมีการทำเป็นยูนิตให้ชัดเจน มีการตั้งยุทธศาสตร์ให้กัน แล้วคอยมอนิเตอร์ผ่านการประชุม และช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงาน

ด้านการบริหาร “คน” พิเชษฐ์ มีความเห็นว่า “จะบอกแค่จะเอาแบบนั้นๆ อย่างเดียวไม่ได้ ไม่ใช่แค่การรับคำสั่ง แต่ต้องทำยังไงก็ได้ให้พนักงานกลายเป็นคนเก่ง และทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานอย่างเต็มที่”

ความกดดันเมื่อต้องบริหารองค์กร ที่มีผู้ใช้บริการ 47 ล้านราย

แน่นอนว่าในปัจจุบันมีผู้ใช้งานมากถึง 47 ล้านคนย่อมสร้างความกดดันให้กับคนทำงานในฐานะ CEO อย่างพิเชษฐ์ แต่ความกดดันในที่นี้ไม่ได้มาจากคู่แข่งทางธุรกิจ แต่พิเชษฐ์ อธิบายว่าความกดดันมาจาก การทำให้แพลตฟอร์มของ LINE ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน

แม้ CEO ก็ต้องเคยทำเรื่องผิดพลาด แต่ผิดแล้วต้องยอมรับ

ความผิดพลาดนับว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ของทุกคน ไม่เว้นแม้แต่ตัว CEO เอง ซึ่งพิเชษฐ์ เล่าว่า ตัวเขาเองเคยทำสิ่งผิดพลาดมาเยอะ แต่สิ่งสำคัญคือ ต้องรู้จักยอมรับความผิดพลาด เพราะการปิดบังคือสิ่งที่เสียเวลา แต่ควรคิดว่าจะแก้ปัญหาอย่างไร ถ้าไม่ยอมรับความผิดพลาด ก็จะมีปัญหายุ่งยากไปเรื่อยๆ

นอกจากนี้ความผิดพลาดในมุมมองของพิเชษฐ์ ยังหมายถึงความผิดพลาดที่เกิดจากการตัดสินใจช้า ที่จะทำให้เสียโอกาสในการทำธุรกิจไป

แต่อย่างไรก็ตามความผิดพลาดก็ดูจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ไปเสียทั้งหมด เพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เมื่อทำผิดพลาด ก็ต้องรู้จักเรียนรู้ให้เร็ว ด้วยความที่ LINE ยังคงมีความเป็นบริษัท Startup อยู่สูง “สิ่งที่เคยคิดว่าใช่ แต่เมื่อพัฒนาไปคนกลับไม่ชอบ อาจจะเลิก หรือหาทางแก้ไขให้ดีขึ้น ผู้ใช้บริการจะเป็นคนบอกเองว่าทางออกสุดท้ายคืออะไร”

ผู้ใช้บริการ ในมุมมองของ CEO LINE

การดูแลลูกค้านับว่าเป็นสิ่งที่มีความสำคัญกับทุกๆ องค์กร ไม่เว้นแม่แต่ LINE ที่มีลูกค้า 47 ล้านรายใช้งานอยู่ตลอดเวลา

ซีรีส์วาย ใน LINE TV ภาพจาก tv.line.me

เมื่อถามถึงแนวโน้มการให้บริการแก่ลูกค้า พิเชษฐ์ เล่าว่า “ต้องพยายามมอนิเตอร์ สร้างเทรนด์ให้ลูกค้าตาม โดยดูจากข้อมูล พฤติกรรม และกระแสต่างๆ” อย่างเรื่องที่กำลังเป็นกระแสในช่วงนี้ที่พิเชษฐ์ ยกตัวอย่างคือ ซีรีส์วาย กลายเป็น Y Economy คนดูกลุ่มผู้หญิง มีกำลังการใช้จ่ายค่อนข้างสูง

ซีรีส์วาย ที่กำลังกลายเป็นกระแสใหม่ จึงนำไปสู่การรวมคอนเทนต์ซีรีส์วาย ไว้ใน LINE TV แล้วต่อยอดไปเป็นสติ๊กเกอร์ เสียงเพลงรอสาย และเสียงเรียกเข้าของ LINE สิ่งการต่อยอดนี้เกิดขึ้นได้จากการใช้คน และข้อมูล ที่นำมาวิเคราะห์ “เป็นการสร้างเทรนด์ หลังจากนั้นทำอย่างไรเทรนด์จึงจะอยู่รอดได้”

บริหารคนทำงานในยุคใหม่ ที่ไม่ได้ต้องการแค่รายได้อย่างเดียว

การดูแลผู้ใช้บริการกว่า 47 ล้านราย จำเป็นที่จะต้องมีพนักงาน ที่เป็นเหมือนฟันเฟืองที่ขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า การบริหารคนจึงเป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน โดยออฟฟิศของ LINE ประเทศไทย จะมีบรรยากาศที่น่าทำงาน นอกจากส่วนที่นั่งทำงานแล้ว ยังมีบาร์ สำหรับทานอาหาร ทานขนม สร้างวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน เหมือนการนั่งคุยในบาร์

“พนักงานบางคนเข้าออฟฟิศ แต่ไม่ได้มานั่งทำงาน แต่เข้ามาแฮงเอาท์ มาคุย มาเล่นเกม”

ในยุคปัจจุบันพิเชษฐ์ เล่าว่า รายได้ ไม่ได้เป็นความต้องการเพียงอย่างเดียวของพนักงานในยุคใหม่อีกต่อไปแล้ว องค์กรต้องดึงดูดคนเก่งๆ ให้เข้ามาทำงาน โดยใช้ความหยืดหยุ่น และเส้นทางอาชีพที่ชัดเจน

นอกจากนี้พนักงานยังต้องการความภาคภูมิใจที่ได้ทำผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนทั่วไป ได้เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของคนผู้ใช้งานง่ายขึ้น โดยองค์กรจะให้อิสระทางความคิด การมีพนักงานเก่งๆ เข้ามาทำงาน แต่จะชี้นิ้วสั่งคงไม่ได้อีกต่อไป

ชีวิตส่วนตัวของ CEO นอกเหนือจากชีวิตการทำงาน

ในชีวิตของคนคงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีแต่เรื่องงานตลอด 24 ชั่วโมง CEO อย่างพิเชษฐ์ ก็เช่นเดียวกัน ชีวิตในแต่ละวันของพิเชษฐ์ เริ่มขึ้นตอน 6 โมงเช้า ด้วยการเช็คอีเมล จากนั้นจึงวิดีโอคอลจากที่บ้านตอนเช้า แล้วไปถึงที่ทำงานประมาณ 9-10 โมง เพราะที่ LINE ไม่ได้กำหนดเวลาการเข้างานแบบตายตัว ส่วนชีวิตในวันเสาร์-อาทิตย์ พิเชษฐ์จะพยายามอยู่กับครอบครัว และลูกๆ อยู่กับต้นไม้ พาครอบครัวไปเที่ยว

เมื่อถามถึงงานอดิเรก พิเชษฐ์ ตอบว่าตัวเขาชอบตกปลา แต่ไม่ใช่การตกปลาแบบออกทะเล เพราะเมาคลื่น นอกจากนี้ตัวเขายังชอบการอ่านหนังสือ ดูทีวี และใช้เวลาอยู่ร่วมกับลูกๆ และครอบครัว

จินตนาการถึงชีวิต หากไม่ได้เป็น CEO

หากไม่ได้เป็น CEO พิเชษฐ์ จินตนาการถึงชีวิตของตัวเองว่า อยากไปอยู่ต่างจังหวัด อยากไปทำฟาร์ม ไปใช้ชีวิตนอกเมืองหลวง เป็นเรื่องที่น่าสัมผัสว่าชีวิตที่ไม่ต้องการความเป็นสมัยใหม่จะเป็นอย่างไร

สรุป

ชีวิตของคนที่เป็นผู้บริหารระดับสูงขององค์กร โดยเฉพาะ CEO อย่างพิเชษฐ์ ต้องทำหน้าที่เป็นผู้นำขององค์กรไปสู่เป้าหมาย สำหรับ LINE ต้องการจะเป็นแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต Life on LINE ตลอด 24 ชั่วโมง

หน้าที่สำคัญของ CEO จึงต้องเป็นผู้นำที่พาองค์กรไปสู่เป้าหมาย ผ่านการสร้างคน ผู้ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนองค์กร รวมถึงเรียนรู้ ทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานให้ได้มากที่สุด

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/interview-with-line-thailand-ceo/

LINE THAILAND BUSINESS 2020 กับแนวทางที่จะช่วยนักการตลาดให้วางแผนกลยุทธ์ได้ดีขึ้น

คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย

ปัจจุบัน LINE มีบัญชีผู้ใช้งานกว่า 47 ล้านบัญชี แบ่งเป็นการใช้งานผ่านเดสก์ท็อป 7 ล้านราย ที่เหลือเป็นการแชทผ่านสมาร์ทโฟน ผู้ใช้งานเหล่านี้นอกจากการแชทเพื่อสื่อสารแล้ว ยังใช้บริการอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น อ่าน LINE TODAY กว่า 5 ล้านราย เช็ค TIMELINE 19 ล้านราย และใช้งาน LINE TV 18 ล้านราย นั่นจึงเป็นโอกาสของนักการตลาดในการทำความรู้จักลูกค้าให้ดีขึ้น

คุณนรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการพาณิชย์ LINE ประเทศไทย กล่าวว่า ในอดีต เราเห็นตัวอย่างของเทรนด์ใหญ่ระดับโลก (Megatrends) มากมายที่ส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจ การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ทุกธุรกิจคอยเรียนรู้และเร่งปรับตัว ดำเนินรอยตาม Global อยู่เสมอ

แต่ด้วยวิกฤตโควิด-19 ที่ผ่านมา ได้สะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่พลิกโฉมธุรกิจทั่วโลกครั้งใหญ่ไปโดยสิ้นเชิง ทุกภาคส่วนต่างเร่งรับมือกับโจทย์ใหญ่ คือการก้าวขึ้นสู่โลกออนไลน์อย่างรวดเร็วโดยไม่ได้มีสูตรสำเร็จในการใช้ดิจิทัลรับมือวิกฤตครั้งนี้มาก่อน

เราจึงมองว่าการทำธุรกิจแบบ Decentralization ที่ให้ความสำคัญกับภาคส่วนย่อยมากขึ้น สามารถสอดรับการเปลี่ยนแปลงแบบฉับพลันนี้ได้เป็นอย่างดี ควบคู่กับเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบัน ทำให้แต่ละภาคธุรกิจต้องนิยามการเติบโตในธุรกิจใหม่เพื่อความอยู่รอดและก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอีกครั้งหลังวิกฤตครั้งใหญ่นี้

ผู้บริโภคกับพฤติกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นพร้อมกับความเปลี่ยนแปลง

จากข้อมูลเชิงสถิติบนแพลตฟอร์ม LINE ในปัจจุบัน ชี้ให้เห็นถึงพฤติกรรมใหม่ๆ ของผู้บริโภคและมีจำนวนผู้บริโภคที่นิยมชื่นชอบพฤติกรรมเหล่านี้มากขึ้นอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็นวัฒนธรรมใหม่ๆ ในสังคมไทย

โดยเราเรียกเทรนด์นี้ว่า “New Human” หรือผู้บริโภคกับพฤติกรรมใหม่ ตัวอย่างเทรนด์นี้ที่เห็นได้ชัดคือกระแสซีรีส์วายพลิกจากความชอบเฉพาะกลุ่มสู่พฤติกรรมกระแสหลักของผู้ชมชาวไทยก่อนจุดติดเป็นกระแสซีรีส์วายฟีเวอร์ทั่วเอเชีย สร้างกลุ่มแฟนตัวจริงหรือ Fandom ที่พร้อมสนับสนุนนักแสดงซีรีส์วายในดวงใจ

ก่อให้เกิดรูปแบบธุรกิจใหม่ Y-Economy ด้วยการใช้ศิลปิน นักแสดงเป็นกลไกนำไปสู่ความจงรักภักดีต่อแบรนด์และการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจากข้อมูลผลสำรวจโดย LINE ประเทศไทยยังพบว่าร้อยละ 80 ของผู้ชมซีรีส์วายชาวไทยคือเกือบ 20 ล้านคนนิยมดูซีรีส์วายผ่านช่องทาง LINE TV เป็นหลัก

ฐานแฟนคลับกลุ่มซีรี่ย์วายนั้น มีความน่าสนใจคือเป็นกลุ่มคนที่พร้อมสนับสนุนไอดอลของตนเอง ทั้งในรูปแบบของการซื้อสื่อ OOH ตามสถานที่ต่างๆ ดังนั้น แบรนด์ที่ทำโฆษณากับคนกลุ่มนี้จะถูกมองว่าเป็นแบรนด์ที่มีความทันสมัยและพร้อมสนับสนุน

แต่ในขณะเดียวกัน ก็จำเป็นต้องนำเสนอให้แยกออกจากเนื้อเรื่องในภาพยนตร์ เช่นการใช้ศิลปิน นักแสดงในการนำเสนอสินค้าที่พิเศษไปเลย ไม่ใช่มองแค่การวาง Tie In ในซีรี่ย์ เพราะการจดจำแบรนด์ก็จะน้อยลงเช่นกัน

บรรทัดฐานใหม่ในการเก็บข้อมูลไม่พึ่งพาคนกลาง

การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นประเด็นที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา จนเกิดเป็นบรรทัดฐานใหม่ของการเก็บข้อมูลหรือ “New Rule” ที่อาจส่งผลต่อทุกกลุ่มธุรกิจ ทั้งในฝั่งแพลตฟอร์มและฝั่งแบรนด์

การเก็บข้อมูลโดยตรงจากลูกค้า (First-party data) จึงเป็นทางออกที่ทุกกลุ่มธุรกิจควรให้ความสำคัญ และควรเริ่มเตรียมตัว ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ วิธีดำเนินธุรกิจให้สอดคล้อง รองรับมาตรการเหล่านี้ให้ทันท่วงที ซึ่ง LINE เล็งเห็นความสำคัญของ First-party data และเปิดให้แบรนด์สามารถเก็บข้อมูลโดยตรงจากลูกค้า

ผู้ใช้งานด้วยโซลูชันและเครื่องมือบนแพลตฟอร์ม LINE มานานเกือบ 3 ปีผ่าน LINE Business Connect for CRM (BCRM) ที่ช่วยบริการจัดการฐานข้อมูลลูกค้าบน LINE Official Account และ Mission Stickers สติกเกอร์ที่ผู้ใช้งานจะได้รับเมื่อทำภารกิจตามที่แบรนด์กำหนด

ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา LINE มีฐานข้อมูลสะสมที่ได้รับโดยตรงจากผู้ใช้งานมากกว่า 300 ล้านโปรไฟล์รวมจากทุกแบรนด์ที่ใช้บริการ LINE ยังคงมุ่งเน้นให้ความสำคัญของการเก็บและใช้ประโยชน์ของดาต้าอย่างต่อเนื่อง

ด้วยการประกาศเปิดตัวโซลูชันใหม่ล่าสุด MyCustomer ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ผ่าน LINE OA ให้กับแบรนด์ได้ดีและลึกยิ่งขึ้น ยกระดับระบบบริหารความสัมพันธ์ลูกค้าแบบครบวงจรหรือ CRM (Customer relationship management) บน LINE ในแบบเดิมๆ

สู่การเป็น CDP (Customer Data Platform) หรือแพลตฟอร์มสำหรับจัดการข้อมูลลูกค้าแบบใหม่ ซึ่งมีแผนจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการปีหน้า แต่แบรนด์ที่สนใจก็จำเป็นต้องมี LINE OA ร่วมกันก่อน เพื่อนำข้อมูลของ LINE ไปประกอบหลังบ้าน ร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นๆ เพื่อให้ทำความรู้จักลูกค้าให้ดีขึ้น

อิทธิพลและพลังของเอเชียเหนือทั่วโลก

ปฏิเสธไม่ได้ว่าเอเชียได้ก้าวเข้ามาเป็นขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจใหม่ของโลก เฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มูลค่าการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ใน 3 ไตรมาสแรกมีมูลค่ารวมกว่า 2.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มากกว่าทวีปอเมริกาเหนือกว่า 3 เท่า ส่งให้เอเชียกลายเป็น “New Power” ที่อิทธิพลและพลังเหนือภูมิภาคอื่นทั่วโลก

หากวัดเฉพาะผู้บริโภคของไทย ประเทศไทยขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในด้านการช้อปปิ้งผ่านโซเชียลมีเดียมาตั้งแต่ปี 2559 โดยเฉพาะ Chat Commerce ซึ่งมีผลสำรวจเผยว่า เป็นช่องทางการซื้อขายรูปแบบ E-Commerce ที่ดีที่สุดสำหรับเอสเอ็มอีไทย

หากวัดจากผลตอบแทนจากการลงทุนหรือ ROI – Return on Investmentจึงอาจกล่าวได้ว่า Chat Commerce คือช่องทางที่ดีที่สุดสำหรับการขายสินค้าแบบ E-Commerce  ที่เหมาะและตอบโจทย์ความต้องการของคนไทยได้อย่างลงตัว

LINE จึงได้เปิดให้บริการ MyShop เครื่องมือที่ช่วยเสริมประสิทธิภาพ LINE OA ด้านการขายของ ด้วยระบบหน้าร้านออนไลน์ ระบบจัดการสต๊อกสินค้า เป็นต้น ตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา โดยพบว่ามูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวม (Gross Merchandise Value) ของ MyShop มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 17 เท่านับตั้งแต่เปิดให้บริการมา

from:https://www.thumbsup.in.th/line-thailand-business-2020?utm_source=rss&utm_medium=rss&utm_campaign=line-thailand-business-2020

LINE ส่งแรงใจ พร้อมเครื่องมือช่วยเหลือคนไทย ปรับตัวผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19

 

LINE ประเทศไทย ภายใต้พันธกิจ “Closing the distance” เร่งเพิ่มการพัฒนาแพลตฟอร์มและโซลูชัน เพื่อส่งแรงใจช่วยคนไทยทั้งในระดับบุคคลและธุรกิจให้ปรับตัว ปรับแนวคิด สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะช่วง Social Distancing หรือ การเว้นระยะห่างทางสังคม’ ผ่าน 3 มาตรการ ได้แก่ SHARE – HELP – ENTERTAIN 

SHARE รวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว

เพื่อให้คนไทยเข้าถึงข้อมูลที่เชื่อถือได้อย่างฉับไวทันสถานการณ์โควิด-19 LINE TODAY ได้เพิ่มแท็บ โควิด 19’ (https://lin.ee/lII7XOn/vjkyสำหรับรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องและความรู้ต่างๆ ประกอบสถานการณ์โควิด-19 โดยเฉพาะ

พร้อมปรับโฉมบัญชีทางการ หรือ LINE Official Account ของ LINE ประเทศไทย (@linethailand) เป็น โควิด-19 อินโฟ ฮับ ให้ผู้ใช้เข้าถึงรายงานอัปเดตล่าสุด เรื่องราวน่ารู้ พร้อมร่วมมือกับพาร์ทเนอร์สร้างเครื่องมือดิจิทัลสำหรับติดตามและประเมินสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ได้อย่างครบครันและรวดเร็ว

ด้วย 6 บริการ ได้แก่ สถิติการระบาด แบบประเมินสุขภาพ อัปเดตสถานการณ์ โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง เช็คพื้นที่เสี่ยง และ LINE TIPS รวบรวมข้อแนะนำในการดูแลสุขภาพและการปฏิบัติตัว (อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่:https://linecorp.com/th/pr/news/th/2020/3173)

HELP พลิกวิกฤติเป็นโอกาสด้วยเทคโนโลยี

 

เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ธุรกิจทุกขนาดในประเทศไทย ให้สามารถก้าวผ่านวิกฤติ สภาวการณ์ที่เกิดขึ้นได้ LINE ประเทศไทย เตรียมจัดทัพสัมมนาออนไลน์ตลอดเดือนเมษายน เพื่อแบ่งปันความรู้ เทรนด์สำคัญ เทคนิคต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยีและออนไลน์โซลูชันที่แนะนำในการดำเนินธุรกิจฝ่าวิกฤติโควิด-19

พร้อมกรณีศึกษาจากเพื่อนผู้ประกอบการที่น่าสนใจ เพื่อให้ทุกธุรกิจได้เรียนรู้ เริ่มปรับใช้เทคโนโลยีมาพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ โดยผู้ที่สนใจสามารถติดตามกำหนดการและรับชมได้ผ่าน LINE Official Account: LINE for Business [@linebizth]

โดยเฉพาะสำหรับธุรกิจ SME และพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ LINE ยังได้พัฒนาเครื่องมือใหม่ล่าสุดอย่าง ’MyShop’ มาช่วยเหลือผู้ประกอบการให้สามารถเปิดร้านค้าออนไลน์ได้ฟรี บน MyShop

ซึ่งสามารถสมัครได้ง่ายๆ ที่ https://linemyshop.com พร้อมแคมเปญ ‘MyShop เปิดร้านฟรี ฝากร้านได้ อยู่บ้านขายดี 24 ชม. เปิดโอกาสช่วยเหลือร้านค้าออนไลน์ในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่นอกจากจะสามารถเปิดร้านออนไลน์ฟรีได้ผ่านเครื่องมือ MyShop แล้ว ยังสามารถฝากร้าน ฝากสินค้าโปรโมตได้ฟรีผ่าน LINE SHOPPING อีกด้วย

ดูรายละเอียดแคมเปญเพิ่มเติมได้ที่: https://today.line.me/th/pc/article/2lgkeP

ในขณะเดียวกัน LINE MAN ก็พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการร้านอาหารในช่วงวิกฤติด้วยการพัฒนาขั้นตอนการสมัครร้านขึ้นบน LINE MAN ให้รวดเร็วครบจบภายใน 1 วัน ก็สามารถเปิดร้านบน LINE MAN ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ส่งเสริมเทคโนโลยีด้านเดลิเวอรี่เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจร้านอาหารในสภาวะเช่นนี้

Line Store

ENTERTAIN ไม่เหงาเมื่อต้องอยู่บ้าน กับคอนเทนต์บันเทิงหลากหลาย และฟีเจอร์ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ Social Distancing

 

อยู่บ้านยาวๆ คราวนี้ ไม่ต้องกลัวเบื่อ! LINE TV เตรียมขนทัพคอนเทนต์ความบันเทิง เสิร์ฟความสุขให้คนไทย โดยรวบรวมละครเด็ด ซีรีส์ดัง หนังโดน อะนิเมชั่นสุดฮิต พร้อมรายการดีๆ หลากหลายแนวรวมกว่า 100 คอนเทนต์คัดสรรมาให้ดูกันแบบฟรีๆ ในแท็บ อยู่บ้านไม่เหงา (https://tv.line.me/t/10009_อยู่บ้านไม่เหงา) เอาใจคนอยู่บ้านช่วงนี้ ให้เวลาอยู่บ้านของคุณกลายเป็นเวลาคุณภาพสำหรับทุกคนในครอบครัว

ตามมาด้วยพื้นที่โซเชียลใหม่ในหน้าไทม์ไลน์ของ LINE (แท็บที่ 3 ใน LINEไม่ว่าจะเป็น ‘Story’ ให้คุณเพลินไปกับการอัปเดตไลฟ์สไตล์ชิคๆ ในรูปแบบวิดีโอสั้นคลายเหงา พร้อมเอฟเฟกต์หลากหลายให้เลือกเอาตามใจชอบ! และฟีเจอร์ใหม่ ‘Explore’ ตรงมุมบนขวาของหน้าไทม์ไลน์ ไว้ติดตามเทรนด์โซเชียลบน LINE ใครโพสต์อะไร

สามารถเลือกดู เลือกติดตามได้แบบไม่ต้องเพิ่มเพื่อน ทำให้การอยู่บ้านของคุณมีสีสันขึ้น ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป (ทำความรู้จักฟีเจอร์ ‘Explore’ ให้มากขึ้นได้ที่นี่: https://today.line.me/TH/article/v9nVKK)

พร้อมกันนี้ ยังมีสติกเกอร์เซ็ต ดูแลสุขภาพ ให้คุณใช้สื่อแทนใจ ส่งสารทุกความห่วงใยไปยังคนรอบข้างในแบบน่ารักๆ ผ่านแชท โดยรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายในการจัดจำหน่ายสติกเกอร์เซ็ตนี้ยังบริจาคเพื่อบำรุงสภากาชาดไทยอีกด้วย

(ดาวน์โหลดได้ที่ Sticker Shop (In App) : http://lin.ee/qJdPbSb/sknj/PR หรือผ่านทาง LINE STORE ที่ : https://lin.ee/7WcJGWD/sknj/PR)

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยคนไทยผ่อนคลาย รวมถึงอำนวยความสะดวกในขีวิตประจำวันคนไทยได้ในช่วงนี้คือการช้อปปิ้งออนไลน์ LINE SHOPPING

จึงมาพร้อมแคมเปญ อยู่บ้านสบายกาย ช็อปผ่าน LINE SHOPPING สบายใจ’ ให้คนไทยสามารถจับจ่ายซื้อหาของใช้จำเป็นต่างๆ ในยามนี้แบบคุ้มค่า ผ่าน LINE SHOPPING พร้อมได้รับ LINE POINT เพื่อแลกซื้อสติกเกอร์และสินค้าอื่นๆ จาก LINE Store ได้อีกด้วย

(อ่านรายละเอียดแคมเปญ https://today.line.me/th/pc/article/xL8DOj)

มาตรการทั้ง 3 ด้านของ LINE ประเทศไทยตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นภายใต้พันธกิจ ‘Closing the Distance’ คือการเชื่อมโยงผู้คน ข้อมูลข่าวสาร และบริการที่เป็นประโยชน์เข้าด้วยกัน เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถมีชีวิตที่ดีขึ้น และธุรกิจทุกภาคส่วนยังสามารถก้าวต่อไปได้อย่างมั่นใจในทุกสถานการณ์

from:http://mobileocta.com/line-inspired-with-tools-to-help-thai-people-adaptation-through-the-crisis-covid-19/

LINE ประเทศไทย เพิ่มเมนูบริการใหม่ “โควิด-19 อินโฟ ฮับ” มินิแอป บน LINE ประเทศไทย Official Account

 

ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ ข้อมูลที่รวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทุกคนมองหา LINE ประเทศไทย เจ้าของแพลตฟอร์มที่เข้าถึงคนไทยกว่า 45 ล้านคนทั่วประเทศ อาสาเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ อัพเดทสถานการณ์ ที่ถูกต้องเชื่อถือได้และรวดเร็ว

เปิดตัว โควิด-19 อินโฟ ฮับ มินิแอป หรือ COVID-19 INFO HUB Mini App เมนูบริการใหม่บน “LINE ประเทศไทย Official Account” ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 อย่างครบถ้วน

พร้อมพัฒนาเครื่องมือดิจิทัลเพื่อให้ประชาชนสามารถประเมินสุขภาพเบื้องต้นการติดเชื้อโควิด-19 ได้ด้วยตนเอง และยังสามารถเก็บเป็นบันทึกส่วนตัวที่แสดงให้แพทย์ได้วินิจฉัยโรคได้ถูกต้องเมื่อจำเป็นต้องไปโรงพยาบาล

 

COVID-19

โควิด-19 อินโฟ ฮับ มินิแอป เป็นเมนูบริการบน “LINE ประเทศไทย Official Account” ผู้ใช้สามารถเข้าเมนูนี้ได้บนหน้าแรกของแอคเคาน์ LINE ประเทศไทย ซึ่งมีข้อมูลบริการ ประเภท ได้แก่

  1. สถิติการระบาดโควิด-19 จากแหล่งข้อมูล https://covid19.workpointnews.com ร่วมสนับสนุนการจัดทำโดยกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์
  2. แบบประเมินสุขภาพและความเสี่ยง โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง Cleverse ทีมนักพัฒนาดิจิทัล ในการสร้างแบบสอบถามออนไลน์ให้ประชาชนสามารถทำด้วยตนเองในระบบออนไลน์ เพื่อให้ระบบประมวลผลความเสี่ยง พร้อมให้ผู้ใช้งานสามารถเก็บผลประเมินฯดูย้อนหลังได้ ซึ่งจะช่วยการวินิจฉัยรักษาของแพทย์หากบุคคลนั้นต้องพบแพทย์ที่โรงพยาบาล
  3. อัปเดตสถานการณ์เกี่ยวกับโควิด-19 ได้แก่ สถานการณ์ ข่าวสารและความเคลื่อนไหวล่าสุดทั้งในและต่างประเทศ การจัดการหรือนโยบายการรับมือสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ทั้งจากภาครัฐและเอกชนข้อมูลด้านการดูแลรักษาสุขภาพ วิธีการสังเกตตัวเอง ลักษณะอาการที่เข้าเกณฑ์การติดเชื้อ ทั้งหมดจากการรวบรวมบน LINE TODAY
  4. โรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ รายชื่อโรงพยาบาลที่ประชาชนสามารถเข้ารับการตรวจโควิด-19 และขอรับการรักษา
  5. เช็คพื้นที่เสี่ยง โดยร่วมมือกับ 5lab เจ้าของ COVID Tracker ให้สามารถเข้าถึงโปรแกรม โดยเชื่อมต่อจากเมนูบน LINE ประเทศไทย Official Account ได้เลย
  6. LINE TIPS รวมบริการต่างๆ ของ LINE ที่จะช่วยให้การใช้ชีวิตในช่วงนี้ง่ายขึ้นมาไว้ในที่เดียว ทั้งฟีเจอร์ที่รองรับการทำงานจากที่บ้าน และบริการอื่นๆ อาทิ โปรโมชั่นและบริการสั่งอาหารจาก LINE MAN คอนเทนต์ที่น่าสนใจบน LINE TV หรือการร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการบริจาคเพื่อช่วยเหลือสถานการณ์การระบาดฯ ครั้งนี้ด้วยการดาวน์โหลดสติกเกอร์ไลน์ เป็นต้น

ประชาชนสามารถเข้าถึงเมนูบริการ โควิด-19 อินโฟ ฮับ มินิแอปใหม่นี้ได้ ทาง ได้แก่

  • ง่ายๆ เพียงกดติดตาม  “LINE ประเทศไทย Official Account” ด้วยการเข้าหน้าโฮม ตามด้วยปุ่ม Official account และค้นหา LINE ประเทศไทย และกดติดตาม จากนั้นสามารถเข้าถึงเมนูโควิด-19 อินโฟ ฮับ ได้บนปุ่มเมนูบนหน้าแรก หรือเข้าตรงจากมือถือที่ https://lin.ee/8qmA5Gv/wcvn/pr
  • เปิด LINE เข้าหน้า “โฮม” กดแท็บ “บริการ” ก็จะเห็นบริการ “ข้อมูลโควิด-19” ได้จากรายการบริการ
  • เปิด LINE เข้าแท็บ Wallet กดที่บริการ “ข้อมูลโควิด-19” เพื่อเลือกรับข้อมูลได้ทันที
  • ค้นหาคีย์เวิร์ด “ข้อมูลโควิด-19” บนแอปพลิเคชั่น LINE

LINE มีพันธกิจ Closing the distance เชื่อมโยงผู้คน ข้อมูล และบริการให้เข้าถึงกันมากขึ้น ผ่านการให้บริการการสื่อสารและข้อมูลที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับชีวิตประจำวันของทุกคน

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในวิกฤตการณ์เช่นนี้ เราพร้อมเสมอที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญและมีประสิทธิภาพที่เพิ่มความสะดวกสบายให้แก่บุคคล ภาคธุรกิจ และภาครัฐเพื่อที่คนไทยทุกคนจะก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปด้วยกัน

 

from:http://mobileocta.com/line-thailand-adds-a-new-service-menu-covid-19-info-hub-t/

LINE ยืนหนึ่งแพลตฟอร์มในใจคนไทยตลอดปี เผยพฤติกรรมผู้ใช้ชาวไทยที่ติดอันดับโลก

Line Number One Platform Coverตอกย้ำความสำเร็จของ LINE ประเทศไทย ที่ยืนหนึ่งแพลตฟอร์มที่ครองใจคนไทยกว่า 45 ล้านคน พร้อมเผยข้อมูลที่น่าสนใจของพฤติกรรมผู้ใช้ชาวไทยตลอดปี 2562 ด้านต่างๆ LINE ยืนหนึ่งแพลตฟอร์มในใจคนไทยตลอดปี เผยพฤติกรรมผู้ใช้ชาวไทยที่ติดอันดับโลก LINE ประเทศไทย ตอกย้ำความเป็นแพลตฟอร์มยืนหนึ่งที่ครองใจคนไทยกว่า 45 ล้านคน ด้วยบริการหลากหลายที่ตอบโจทย์ความต้องการในชีวิตประจำวันของคนไทยในด้านต่างๆ เผยข้อมูลที่น่าสนใจของพฤติกรรมผู้ใช้ชาวไทยตลอดปี 2562 ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสารที่มีการใช้งานสูงติดอันดับโลกคอนเทนต์ในแบบที่โดนใจคนไทย รวมถึงช่วงเวลาสำคัญในเทศกาลส่งความสุขข้ามปีที่ผ่านมา ด้านการสื่อสาร LINE ยังคงเป็นแพลตฟอร์มยอดฮิตยืนหนึ่งที่ผู้ใช้คนไทยใช้สำหรับติดต่อ สื่อสาร พูดคุยกับเพื่อน ครอบครัว และคนใกล้ชิด โดยไม่ใช่แค่เพียงการแชต ส่งข้อความเท่านั้น บริการ LINE Call หรือโทรฟรีผ่าน LINE ยังเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย โดยมีอัตราการใช้งานเฉลี่ยสูงถึง 49 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งนับเป็นยอดการใช้งานที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย ในขณะที่การส่งสติกเกอร์ยังคงเป็นวิธีการสื่อสารแทนข้อความที่โดนใจคนไทย โดยพบว่าช่วงเวลาที่คนส่งสติกเกอร์ผ่าน LINE เยอะที่สุดคือ เวลา 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน และคำพูดหรือข้อความที่คนไทยนิยมส่งเป็นสติกเกอร์แทนมากที่สุดจะเป็นคำพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ Hello, Love, 555, Ok และ […]

from:https://www.iphonemod.net/line-number-one-platform-in-thailand.html

LINE เผยพฤติกรรมผู้ใช้ชาวไทย ใช้บริการ LINE Call 49 ล้านครั้งต่อวัน สูงที่สุดในโลก

LINE ประเทศไทย กับผู้ใช้งานคนไทยกว่า 45 ล้านราย ได้เปิดข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้ตลอดปี 2562 โดย บริการ LINE Call หรือโทรฟรีผ่าน LINE ยังเป็นที่นิยมในหมู่คนไทย โดยมีอัตราการใช้งานเฉลี่ยสูงถึง 49 ล้านครั้งต่อวัน ซึ่งนับเป็นยอดการใช้งานที่สูงที่สุดในโลกอีกด้วย

ขณะที่การส่งสติกเกอร์ยังคงเป็นวิธีการสื่อสารแทนข้อความที่โดนใจคนไทย โดยพบว่าช่วงเวลาที่คนส่งสติกเกอร์ผ่าน LINE เยอะที่สุดคือเวลา 4 ทุ่มถึงเที่ยงคืน และคำพูดหรือข้อความที่คนไทยนิยมส่งเป็นสติกเกอร์แทนมากที่สุดจะเป็นคำพื้นฐานในชีวิตประจำวัน ได้แก่ Hello, Love, 555, Ok และ Thank you บ่งชี้ให้เห็นว่าคนไทยใช้สติกเกอร์เป็นหนึ่งในการสื่อสารขั้นพื้นฐานในชีวิตประจำวันไปแล้ว ด้วยว่าในบางโอกาส สติกเกอร์สามารถสื่อและส่งต่อความรู้สึกได้ชัดเจนมากกว่าตัวอักษร

นอกจากนี้ LINE ยังเน้นเรื่องของคอนเทนต์ที่ตรงใจคนไทย ด้วยการศึกษารูปแบบพฤติกรรมของผู้ใช้เพื่อมาวิเคราะห์หาคอนเทนต์ที่ใช่ เช่น การพูดคุยผ่านแชต LINE ที่จะคึกคักเป็นพิเศษในช่วงวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน LINE จึงมีการต่อยอดในการคัดสรรคอนเทนต์ที่น่าสนใจและอยู่ในกระแสความสนใจ อาทิ สลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งไม่เพียงแค่แสดงผลสลากกินแบ่ง ยังเพิ่มการถ่ายทอดสด และอัพเดทข่าวสารข้อมูลน่าสนใจอื่นๆ ผ่าน LINE TODAY เพื่อเป็นการตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ กระตุ้นให้เกิดการสนทนาผ่านแชต LINE ได้เป็นอย่างดี ทำให้ภาพรวมของ LINE Ecosystem มีความสมบูรณ์มากขึ้น

จากการศึกษารูปแบบพฤติกรรมผู้ใช้เพื่อวิเคราะห์หาคอนเทนต์ที่ใช่แล้ว สิ่งที่ค้นพบเพิ่มเติมบนแพลตฟอร์ม LINE คือ รูปแบบพฤติกรรมใหม่ๆ ของคนไทยด้วยเช่นเดียวกัน โดยเห็นได้จากอีกหนึ่งคอนเทนต์ที่ฮิตติดลมบนครองใจคนไทยคือ คอนเทนต์ดูดวงใน LINE TODAY โดยช่วงเวลายอดฮิตที่คนไทยนิยมดูดวงมากที่สุดคือเวลา 7 โมงถึง 9 โมงเช้า แสดงให้เห็นว่า คนไทยส่วนใหญ่ในปัจจุบัน เช็คดวงของตนเองในทุกๆ เช้าผ่านแพลตฟอร์ม LINE ก่อนเริ่มต้นกิจกรรมในชีวิตประจำวัน นอกจากนี้ ข้อมูลจากบริการใหม่ล่าสุด LINE Melody เสียงเรียกเข้าและเสียงรอสายเมื่อโทรผ่าน LINE Call มีเพลงฮิตติดลมบนตั้งแต่วันที่ออกอากาศจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ เพลงรักติดไซเรน

ในช่วงเวลาของเทศกาลสำคัญต่างๆ LINE ก็ยังคงยืนหนึ่งแพลตฟอร์มยอดนิยมของคนไทย โดยเฉพาะช่วงเวลาส่งความสุขข้ามปี ซึ่งพบว่า ช่วงเวลาที่มีการส่งข้อความหากันมากที่สุดคือช่วงเวลาเที่ยงคืน – ตี 1 ของวันที่ 1 มกราคม 2563 โดยในช่วงเวลาดังกล่าว มีการส่งสติกเกอร์มากกว่าปกติถึง 6 เท่า และมีการส่งรูปภาพหากันสูงกว่าปกติถึง 8 เท่า สื่อให้เห็นว่าคนไทยไม่ได้นิยมส่งแค่ข้อความเพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยเฉพาะในช่วงเวลาสำคัญแห่งการส่งความสุข รูปภาพและสติกเกอร์กลายเป็นอีกหนึ่งวิธีในการสื่อสารผ่าน LINE ที่มีประสิทธิภาพในช่วงเวลาสำคัญ ในขณะที่กระแสละครซีรี่ส์ ONE YEAR 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ กลายเป็น LINE TV Original (ซีรี่ส์ที่อำนวยการผลิตและออกอากาศบน LINE TV ที่เดียวเท่านั้น) ที่มีคนดูเยอะที่สุดในช่วงเวลาข้ามปี นับเป็นคอนเทนต์ออริจินัลซี่รี่ส์ใน LINE TV ที่สามารถส่งต่อความสุขให้คนไทยในช่วงเวลานี้ได้อย่างดีเยี่ยม

ติดตามข่าวสารจาก Brand Inside ได้จาก Facebook ของเรา

from:https://brandinside.asia/line-thailand-2019-summary/

“เราเป็นอีกช่องทางของการรับชม” ครบรอบ 5 ปี LINE TV ยืนยันไม่ใช่คู่แข่งทีวี

LINE TV เผยข้อมูลหลังครบรอบ 5 ปี เดินหน้าขยายฐานผู้ชมทั่วประเทศ มุ่งเจาะกลุ่มคนดูที่มีไลฟ์สไตล์คนเมือง เผยหลายสถิติที่น่าสนใจ พบคนดูผ่านมือถือมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์, มีคนดูมากขึ้นหลังเปิดฟีเจอร์ฉายขึ้นทีวีผ่าน Chromecast และคอนเทนต์ละคร-ซีรีส์ไทยได้รับความนิยมสูงสุด พร้อมเปิดตัวแอปพลิเคชัน LINE TV บน Android TV นอกจากนี้ประกาศเร่งสร้างฐานผู้ชมหน้าใหม่ที่เป็น Mass อีกด้วย

คุณกณพ ศุภมานพ รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจคอนเทนท์ LINE ประเทศไทย เปิดเผยว่า “นับตั้งแต่เปิดให้บริการแพลตฟอร์มทีวีออนไลน์ LINE TV ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับจากผู้ชมดีมากและได้สร้างพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ไทยแบบใหม่ให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของคนไทยที่เปลี่ยนแปลงไป ทำให้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของจำนวนผู้ชม จำนวนคอนเทนต์ และจำนวนพาร์ทเนอร์ รวมถึงจำนวนยอดวิวโดยเฉลี่ยต่อคอนเทนต์ ที่ล้วนขยายเพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี”

โดยในปีนี้ จะโฟกัสที่กลุ่มคนดูที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตคนเมือง แต่ไม่ได้จำกัดเฉพาะกลุ่มคนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพหรือเมืองหลักเท่านั้น แต่เป็นการโฟกัสที่ไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ ซึ่งกลุ่มเหล่านี้มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศนั้นต้องการจัดการตารางชีวิตของตัวเองได้ อยากดูคอนเทนต์เมื่อไรก็ดูได้ทันที เลือกดูตามความต้องการและความสะดวกของตนเอง เรียกว่าทุกคนสามารถสร้างไพร์มไทม์ในการรับชมคอนเทนต์ของตนเองได้

คุณกณพ กล่าวอีกว่า ปัจจัยที่จะช่วยให้ LINE TV ขยายฐานผู้ชมได้เร็วขึ้นนั้น คือการพัฒนารอบด้าน ทั้งแง่ของ

  1. การสร้างความหลากหลายของคอนเทนต์
  2. การพัฒนาฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้ชมมากขึ้น ทั้งรองรับการสตรีมมิ่งขึ้นทีวีผ่าน Chromecast และเปิดให้ดาวน์โหลดแอพฯ LINE TV ใน Android TV
  3. การพัฒนาการระบบการค้นหาคอนเทนต์ให้ง่ายและรวดเร็ว โดยมีการเพิ่ม Tab ใหม่อีก 2 Tab คือ “100 ล้านวิว” Tab เพื่อแสดงคอนเทนต์ยอดนิยม และ “Movie Tab” เมนูการรับชมภาพยนตร์แบบเต็มเรื่อง จากพาร์ทเนอร์กลุ่มภาพยนตร์แบบถูกลิขสิทธิ์

ซึ่งคุณกณพเชื่อว่า ทั้งหมดที่กล่าวไปข้างต้นจะช่วยยกระดับประสบการณ์ในการรับชมรายการจาก LINE TV ให้เป็นไปดียิ่งขึ้น

ตัวเลขสถิติของ LINE TV เบื้องต้น หลังครบรอบ 5 ปี มีดังนี้

  • คนใช้เวลาดูเฉลี่ย 176 นาทีต่อวัน
  • มีจำนวนพาร์ทเนอร์ 220 ราย
  • มีคอนเทนต์รวมบนแพลตฟอร์มมากกว่า 1,000 คอนเทนต์
  • ยอดวิวที่เติบโตขึ้นมาจากคอนเทนต์หลักอย่างละคร และซีรีย์ต่างๆ ทั้งแบบย้อนหลังจากช่องทีวี หรือแบบออริจินัลที่เรียกว่า LINE TV Originals
  • ยอดวิวเฉลี่ย
    • สำหรับละครท็อปฟอร์มแต่ละเรื่องจะมียอดคนดูแต่ละเรื่องอยู่ที่ 250 ล้านวิว
    • ส่วนละคร 4 เรื่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด (ใบไม้ที่ปลิดปลิว, รักฉุดใจนายฉุกเฉิน, เจ้าหญิงเม็ดทราย และมนตรามหาเสน่ห์) มียอดดูแต่ละเรื่องอยู่ที่ 500 ล้านวิว
    • ยอดคนดูรายการวาไรตี้แต่ละรายการอยู่ที่ 70 ล้านวิว

     

รายละเอียดของสถิติ LINE TV ของปี 2562

เริ่มที่สัดส่วนของคอนเทนต์บน LINE TV ที่ได้รับความนิยมจะพบว่า มีคอนเทนต์ละครและซีรีส์ไทย จำนวน 75 เปอร์เซ็นต์, รองลงมา คือ คอนเทนต์แนว Entertainment & Variety จำนวน 15 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ อีกจำนวน 10 เปอร์เซ็นต์

ข้อมูลระบุว่าผู้ชม LINE TV 40 เปอร์เซ็นต์ ดูบนแพลตฟอร์มดังกล่าวทุกวัน หรือเกือบทุกวัน โดยหากแบ่งเป็นช่วงอายุจะได้ดังนี้

  1. อายุ 14-23 ปี มีผู้ชมทุกวัน 37 เปอร์เซ็นต์
  2. อายุ 24-29 ปี มีผู้ชมทุกวัน 44 เปอร์เซ็นต์
  3. อายุ 30-40 ปี มีผู้ชมทุกวัน 40 เปอร์เซ็นต์
  4. อายุ 41-60 ปี มีผู้ชมทุกวัน 39 เปอร์เซ็นต์

โดยจะเห็นได้ว่าผู้ชมช่วงอายุ 14-23 ปี จะใช้เวลาในการชมเฉลี่ยมากที่สุด ส่วนผู้ชมช่วงอายุ 24-40 ปี ดูในช่วงเวลา 15:00-18:00 น. มากที่สุด

ซึ่งถ้าไปดูจังหวัดที่ชม LINE TV มากสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ (1) กรุงเทพฯ (2) เชียงใหม่ (3) ชลบุรี (4) ขอนแก่น (5) นครราชสีมา (6) สงขลา (7) นครปฐม (8) นครสวรรค์ (9) ภูเก็ต และ (10) อยุธยา

แน่นอนว่าจากการขยายคอนเทนต์ให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้เห็นว่าละครบางเรื่องก็ได้รับความนิยม เช่น ละครเรื่อง “สู้ตายนายกระจับ” ก็สามารถสร้างฐานคนดูจากหัวเมืองอื่นๆ มาได้เช่นกัน โดย 3 จังหวักที่มียอดคนดูมากที่สุด ได้แก่ (1) เชียงใหม่ (2) พัทยา และ (3) ขอนแก่น

ส่วนช่วงเวลาที่มีคนชม LINE TV มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่

  1. ช่วง 15:00-18:00 น. – เป็นช่วงที่นักเรียน นักศึกษา และพนักงานกำลังเดินทางกลับบ้าน ถือเป็นช่วงที่คนดูรายการย้อนหลังมากที่สุด
  2. ช่วง 20:00-22:00 น. – เป็นช่วงที่หลายๆ คนเพิ่งกลับถึงบ้าน จึงต้องการดูอะไรเพื่อเป็นการผ่อนคลาย
  3. ช่วง 12:00-14:00 น. – เป็นช่วงเวลาที่ทั้งนักเรียน นักศึกษา และพนักงาน กำลังพักกลางวัน

และเมื่อดูที่ฐานผู้ชมที่ LINE TV จะโฟกัสในการนำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะสม จะแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ๆ ไล่ตั้งแต่

  1. Youngster – เป็นวัยรุ่นและวัยเรียน อายุ 14-25 ปี
  2. Premium Mass – เป็นวัยทำงาน อายุ 21-34 ปี
  3. Segmented Users – เป็นกลุ่มที่ครอบคลุมช่วงอายุกว้างตั้งแต่ 14-34 ปี แต่มีความชื่นชอบคอนเทนต์ที่มีลักษณะเฉพาะทั้งรูปแบบและเนื้อหา
  4. Mass – เป็นกลุ่มที่ใหญ่ที่สุด โดยครอบคลุมอายุ 14-45 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีโอกาสเป็นผู้ชมใหม่ โดยหลังจากนี้จะป้อนคอนเทนต์ที่ดูง่าย และทุกคนในครอบครัวดูได้ให้มีมากขึ้น

โดยคุณกนพเชื่อว่าการก้าวสู้เป้าหมายในการเป็น “No.1 Online TV Platform ของไทย” คงไม่ไกลเกินเอื้อม เพราะ จากผู้ใช้งาน LINE จำนวน 44 ล้านคนนั้น เมื่อต้นปีมีผู้ใช้ LINE TV 33 ล้านคน แต่ล่าสุด LINE TV มีผู้ใช้เกือบ 40 ล้านคนแล้ว ซึ่งถ้าจำนวนผู้ใช้ LINE TV สามารถทำได้มากกว่าจำนวนผู้ชมทีวี (ที่อยู่ที่ 55 ล้านคน) ได้ก็คงถือว่าเป็นเป้าหมายที่ไปถึงเช่นกัน

 

ยอมรับการใส่ฟีเจอร์ Chromecast เพิ่มยอดคนดู

นอกจากนี้ LINE TV ยังเปิดเผยด้วยว่าการใส่ฟีเจอร์เพื่อให้สามารถรับชมผ่าน Chromecast (เปิดตัวในช่วงเดือนกรกฎาคม 2562) ส่งผลให้ตอนนี้มียอดชม LINE TV ผ่าน Chromecast มากกว่า 3 ล้านครั้งแล้ว โดยแต่ละเดือนมียอดการเติบโตมากกว่า 70 เปอร์เซ็นต์

หากดู Top 3 ของคอนเทนต์แต่ละหมวดที่รับชมผ่าน Chromecast มากที่สุด มีดังนี้

  • Top 3 คอนเทนต์หมวดดราม่า ซีรีส์ และซิทคอม บน Chromecast ได้แก่ สู้ตายนายกระจับ, รักฉุดใจนายฉุกเฉิน และเป็นต่อ
  • Top 3 คอนเทนต์หมวด Animation บน Chromecast มากที่สุด ได้แก่ โคนัน, วีนพีช และนารูโตะ
  • Top 3 คอนเทนต์ในหมวด Entertainment ที่รับชม ได้แก่ The Voice, Hollywood Gamenight Thailand Season 3 และ Infinite Challenge

นอกจากนี้ยังได้เริ่มปล่อยแอป LINE TV ลงบน Android TV เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนแอป LINE TV บน Apple TV จะเปิดให้ดาวน์โหลดในเร็ววันนี้

รวมถึงมองว่าการมี OTT Platform มากรายในตลาดตอนนี้ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลของ LINE TV แต่เป็นเรื่องดีเพราะทำให้ตลาดคุ้นชินกับบริการสตรีมมิ่งมากขึ้น และเลือกได้จะดูเรื่องไหนผ่านแพลตฟอร์มอะไรได้มากยิ่งขึ้น และมองว่า “เราเป็นอีกช่องทางของการรับชม” ไม่ใช่คู่แข่งกับทีวี ซึ่ง LINE TV ย้ำกับพาร์ทเนอร์ตลอด คุณกณพอธิบายทิ้งท้าย

from:https://www.thumbsup.in.th/5-years-of-line-tv-thailand