คลังเก็บป้ายกำกับ: IPHONE_12_SERIES

รวมราคาเก่าแลกใหม่ รับซื้อ iPhone 12, 13 จาก Apple, iStudio, Remobie, Banana IT, YelloBe, Kaitorasap ที่ไหนราคาดีสุด?

เวลา iPhone รุ่นใหม่ออกมา หลาย ๆ คนก็สามารถเอาเครื่องเก่าไป Trade in เพื่อเอาเครดิตเงินไปซื้อรุ่นใหม่ หรือจะเอาไปขายร้านรับซื้อเพื่อได้เป็นเงินออกมาเลยก็ได้ ซึ่งแต่ละช่องทางก็มีราคา ความสะดวกแตกต่างกันออกไป คราวนี้เราเลยรวบรวมราคาจาก Apple, iStudio, Remobie, Banana IT, YelloBe, Kaitorasap มาให้ดูว่าจะขาย iPhone 12 Series, iPhone 13 Series ในเรทราคาประมาณไหนได้บ้างครับ

เทียบราคาสูงสุด Trade in และขาย iPhone มือสองของแต่ละที่

Apple istudio Banana IT Remobie YelloBe Kaitorasup
iPhone 13 Pro Max 22,600 37,000
(1TB)
38,000
(1TB)
38,000
(1TB)
30,500
(512 GB)
29,500 (512GB)
iPhone 13 Pro 20,400 27,000
(1TB)
27,000
(1TB)
27,000
(1TB)
25,000
(512GB)
25,000 (512GB)
iPhone 13 14,100 19,000 18,000 19,000 19,000 18,500
iPhone 13 mini 11,100 14,000 15,000 13,000 16,000 15,300
iPhone 12 Pro Max 17,000 24,000 22,000 24,000 24,000 22,800
iPhone 12 Pro 14,000 20,000 19,000 20,000 20,500 19,300
iPhone 12 10,200 14,000 15,000 13,500 15,000 14,800
iPhone 12 mini 8,000 10,000 11,000 11,000 11,000 9,800

จากในตารางจะเห็นว่าร้านอย่าง YelloBe และ Kaitorasup มีลิสต์ราคาบอกไว้แค่ถึงขนาดความจุ 512GB เท่านั้นในรุ่น iPhone 12 Pro และ iPhone 13 Pro ขึ้นไป แต่ก็พอคาดเดาได้ว่าความต่างราคาแต่ละรุ่นความจุอยู่ที่ 1,000 – 1,500 บาท ก็เอามาบวกเข้าไปให้พอประมาณการได้

ขายไอโฟนกับศูนย์ Apple โดยตรง (Trade in)

จากตารางโดยรวมแล้วจะเห็นได้ว่าการแลกมือถือกับ Apple โดยตรงจะให้ราคาเครื่องต่ำที่สุดทุกรุ่น ดูอย่างรุ่นท็อปสุดอย่าง iPhone 13 Pro Max ที่เค้าบอกว่าประเมินสูงสุดได้แค่ 22,600 บาทเท่านั้น น้อยกว่าการเอาไปขายที่อื่นราว ๆ 14,000 – 15,000 ได้เลย แต่ถ้าเป็นรุ่นล่าง ๆ ลงมาก็จะราคาต่างจากที่อื่นราว ๆ 2,000 – 6,000 บาทได้

Apple มีช่องการการเอาเครื่องเก่ามาแลกเป็นร้าน Apple Store และตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการต่าง ๆ ให้เราเดินเข้าไปได้เลย อีกช่องทางนึงคือให้พนักงานมารับเครื่องเอง ทำได้โดยประเมินเครื่องและกรอกข้อมูลผ่านช่องทางออนไลน์ พอประเมินและส่งเครื่องเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะได้เงินเป็นรูปแบบเครดิตซื้อของในร้าน หรือหากยังไม่อยากซื้อตอนนั้นก็ให้เค้าเก็บเป็นบัตรของขวัญที่เราเอาไว้ใช้ทีหลังได้ด้วย

ถึงแม้ว่าจะได้ราคาที่ต่ำลงมามาก ๆ แต่การ Trade-in กับ Apple เองเลยก็มีประโยชน์ในเรื่องความน่าเชื่อถือ เพราะเป็นเจ้าของแบรนด์ดูแลเอง พอได้เครดิตเงินมาก็เอาไปใช้ซื้อเครื่องจากร้านแบบ Official ได้เลย ทั้งสะดวกและสบายใจ

ขายไอโฟนกับ iStudio (Trade in)

iStudio เป็นอีกที่นึงที่เปิดให้เราเอามือถือเก่าแลกมาแลกเป็นเครดิตใช้จ่ายในร้านได้ มีราคาพอ ๆ กันกับเจ้าอื่น ๆ ต่างกัน 1,000 – 2,000 บาท มีรุ่นที่ให้ราคาดีที่สุดเป็น iPhone 13 Pro, iPhone 13, และ iPhone 12 Pro Max ใครสนใจขายรุ่นพวกนี้ก็ลองไปดูที่ร้าน iStudio กันได้ มีช่องทางประเมินและแลกเปลี่ยนตัวเครื่องที่ร้าน iStudio สาขาต่าง ๆ เช็คสาขา iStudio ได้ที่นี่ครับ

เรทราคาที่เห็นตอนนี้ถือเป็นช่วงโปรโมชัน ที่จะมีจนถึงวันที่ 30 ก.ย. 2022 นี้ ใครสนใจเอาเครื่องเก่าไปแลกก็ต้องรีบหน่อยก่อนราคาเปลี่ยนนะ

ขายไอโฟนกับ Banana IT (Trade in)

Banana IT เป็นอีกที่นึงที่ให้ราคาค่อนข้างดี มีรุ่นที่ประเมินราคาสูงที่สุดได้อย่าง iPhone 13 Pro Max, iPhone 13 Pro, iPhone 12, และ iPhone 12 mini มีช่องทางการไปแลกโดยการเดินเข้าร้านให้เค้าประเมินเครื่องเพื่อใช้เป็นส่วนลดซื้อของในร้านได้ มีสาขาให้เลือกมากมาย เช็คสาขา Banana IT ได้ที่นี่ครับ

ขายไอโฟนกับ Remobie

Remobie เป็นอีกแพลตฟอร์มขายมือถือมือสอง ที่มีการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับแบรนด์อื่น ๆ อย่าง truemove H, AIS, studio7, Banana IT และอื่น ๆ ทำให้หลายคนได้เห็นหน้าตากันมาบ้าง แต่ไม่ว่าจะไปกดขายกับหน้าร้าน Remobie ที่ไหนก็จะได้เรทราคาเดียวกันครับ มีรุ่นราคาให้สูงที่สุดคือ iPhone 13 Pro Max, iPhone 13 Pro, iPhone 13, iPhone 12 Pro Max, และ iPhone 12 mini

ใครสนใจขายมือถือกับ Remobie ก็มีขั้นตอนง่าย ๆ โดยการไปเช็คสภาพเครื่องในเว็บไซต์ จากนั้นก็นัดเวลาและสถานที่ส่งมอบเครื่องตามที่เราต้องการได้เลย แต่หากอยู่ต่างจังหวัดต้องส่งพัสดุไปที่บริษัทเองนะ หลังตรวจเครื่องเสร็จเค้าก็จะโอนเงินให้ทันที สะดวกมาก ๆ เข้าเว็บ Remobie ได้ที่นี่ครับ

ขายไอโฟนกับ YelloBe

YelloBe ก็มีบริการรับซื้อมือถือไอโฟน มีรุ่นที่ให้ราคาดีที่สุดเป็น iPhone 13, iPhone 13 mini, iPhone 12 Pro Max, iPhone 12 Pro, iPhone 12, และ iPhone 12 mini

เริ่มต้นขายมือถือกับ YelloBe ได้โดยการเข้าทำการประเมินสภาพเครื่องเบื้องต้นในเว็บไซต์ จากนั้นก็ทำการนัดสถานที่พบเจอ เลือกได้ว่าจะให้มารับถึงบ้านเลย หรือนัดตามสถานี BTS / MRT ก็ได้ตามสะดวก (แต่ไม่มีให้ส่งไปรษณีย์ไปให้ที่บริษัทนะ) หลังจากให้สินค้าแล้วเค้าก็จะโอนเงินให้ทันที หรือจะรับเป็นเงินสดก็ได้ เข้าเว็บ YelloBe ได้ที่นี่ครับ

ขายไอโฟนกับ Kaitorasap

อีกแพลตฟอร์มนึงเค้าว่าเป็นรายแรกที่มีบริการรับซื้อโทรศัพท์ถึงที่คือเว็บ Kaitorasap โดยมีราคาพอสูสีกับเจ้าอื่น ๆ อยู่ มีขั้นตอนการขายเหมือนกับเจ้าอื่น ๆ เริ่มโดยทำการประเมินตัวเครื่องขึ้นพื้นฐานในเว็บ จากนั้นก็เลือกนัดหมายเวลาและสถานที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่มารับตัวเครื่อง แต่หากอยู่นอกเขตกรุงเทพฯ ก็จะให้ส่งไปรษณีย์ไปที่บริษัทแทนครับ หลังประเมินราคาเสร็จ ตกลงกันเรียบร้อยเค้าก็จะโอนเงินให้ รวมถึงค่าส่งไปรษณีย์ด้วย เข้าเว็บ kaitorasapได้ที่นี่ครับ

สรุปแล้วราคาของแต่ละที่ก็ต่างกันไม่มากเท่าไร ห่างกันเต็มที่ไม่เกิน 2,000 บาท แต่ต้องขอย้ำว่าราคาที่นำเสนอมาให้เป็นค่าการประเมินราคาขั้นสูงสุด หมายความว่าเป็นมือถือสภาพดีและมีความจุสูงที่สุดเท่าที่แต่ละแพลตฟอร์มระบุเอาไว้ พอไปลองให้เค้าประเมินเครื่องจริงก็จะมีการลดหลั่นราคาตามสภาพกันไปนะ ทีนี้จะเลือกขายมือถือที่ไหนก็ต้องดูความสะดวก ความใกล้ของสาขาของแต่ละพื้นที่ ๆ เราอยู่ ร้านไหนเหมาะสุดสำหรับเราก็เลือกร้านนั้นโลด~

from:https://droidsans.com/iphone-12-13-sell-turn-in-best-price-2022/

เปิดตัว Anker PowerCore Magnetic 5K พาวเวอร์แบงค์ MagSafe ชาร์จไร้สายสำหรับ iPhone 12

Anker ผู้ผลิตแบตเตอรี่สำรองและอุปกรณ์เสริมชื่อดัง เปิดตัว Anker PowerCore Magnetic 5K พาวเวอร์แบงค์ความจุ 5000mAh พร้อมแม่เหล็ก MagSafe ในตัว สำหรับ iPhone 12 series โดยเฉพาะ แปะหลังเครื่องแล้วชาร์จไร้สายได้ทันที ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก จับถนัดไม่ลื่นหลุดมือแน่นอนด้วยการเคลือบผิวแบบด้าน ราคาประมาณ 1,200 บาท

Anker PowerCore Magnetic 5K นั้นมาพร้อมกับแม่เหล็กที่สามารถดูดติดแน่นกับหลังเครื่อง iPhone 12 ได้แบบทันที ซึ่งตัวพาวเวอร์แบงค์นี้มาในความจุ 5,000 mAh สามารถชาร์จ iPhone 12 mini, iPhone 12 และ iPhone 12 Pro ได้ประมาณ 1 รอบ ส่วน iPhone 12 Pro Max ที่มีแบตเตอรี่เยอะกว่าใครเพื่อน สามารถชาร์จได้ที่ราว ๆ 75%

ถ้าอยู่ในโหมดที่ไม่ได้ดูดติดกับเครื่อง ตัวพาวเวอร์แบงค์จะสามารถชาร์จเข้าและปล่อยไฟออกผ่านทางพอร์ต USB-C ได้สูงสุด 10W แบบต่อสายตรง แต่ถ้าอยู่ในโหมดการชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe จะจ่ายไฟสูงสุดที่ 5W แทน

นอกจากนี้ Anker PowerCore Magnetic 5K ยังสามารถใช้งานร่วมกับเคสทั่วไปที่ไม่มี MagSafe ได้อีกด้วย แต่ทั้งนี้ตัวเคสนั้น ๆ จะต้องมีความหนาไม่เกิน 5 มม. และมีพื้นผิวเรียบนะครับ ไม่อย่างนั้นแม่เหล็กอาจมีแรงดูดไม่มากพอ

การเปิดจำหน่ายตัวแบตเตอรี่สำรองรุ่นนี้ของ Anker ก็ถือว่า เป็นการตัดหน้า Apple ที่มีแผนว่าจะเปิดตัว Smart Battery Pack with MagSafe เลยก็ว่าได้ โดย Anker PowerCore Magnetic 5K มีราคาอยู่ที่ 39.99 เหรียญ หรือประมาณ 1,200 บาท  ส่วนในบ้านเราจะมีวางจำหน่ายกันในช่วงไหนและมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่นั้น คงต้องรอทางตัวแทนจำหน่าย Anker ในไทยประกาศกันอย่างเป็นทางการอีกทีครับ

 

ที่มา : Anker

from:https://droidsans.com/anker-powercore-magnetic-5k/

Apple อาจเปิดตัวพาวเวอร์แบงค์ ชาร์จผ่านระบบ MagSafe เพิ่มแบตเตอรี่ให้ iPhone 12

จากรายงานของ Bloomberg ดูเหมือนว่า Apple กำลังพัฒนาอุปกรณ์เสริม MagSafe แบบใหม่สำหรับ iPhone 12 อยู่ ซึ่งก็คือ พาวเวอร์แบงค์ที่สามารถแปะด้านหลัง iPhone 12 แล้วชาร์จไปพร้อม ๆ กันได้นั่นเอง แต่เบื้องต้นยังไม่พร้อมออกสู่ตลาดเร็ว ๆ นี้ เนื่องจากยังมีปัญหาด้านซอฟต์แวร์ที่ต้องแก้ไขอยู่

ก่อนหน้านี้เราก็ได้เห็นอุปกรณ์เสริมที่ใช้งาน MagSafe ของ Apple มากมายไม่ว่าจะเป็นแผ่นชาร์จไร้สาย, กระเป๋าเงิน และอื่น ๆ อีกมากมาย ล่าสุดก็ดูเหมือนจะมีทำแบตสำรองตามออกมาอีก จากข้อมูลระบุว่า อุปกรณ์ต้นแบบนี้ใช้วัสดุเป็นยางสีขาว ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นวัสดุแบบเดียวกับ Smart Battery Case ของ Apple ที่เคยทำมาก่อนหน้านี้

ยังไม่มีข้อมูลออกมาแน่ชัดว่าพาวเวอร์แบงค์ตัวนี้จะชาร์จแบตให้ iPhone ด้วยวิธีไหน แต่ถ้าเป็นการชาร์จไร้สายผ่าน MagSafe ตรง ๆ น่าจะถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่สะดวกสบายไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะสามารถชาร์จไปด้วยได้ตลอดเวลา โดยที่ไม่รบกวนการใช้งานปกติ

แท่นชาร์จ MagCharge

แต่จากข้อมูลดูเหมือนว่า แม้แม่เหล็กของ MagSafe จะดูดได้แรงพอที่จะยึดพาวเวอร์แบงค์ได้อย่างมั่นคง แต้กลับประสบปัญหาทางด้าน Software ระหว่างการทดสอบเสียอย่างนั้น โดยตัว iPhone มักจะแจ้งเตือน Overheating ซึ่งในความเป็นจริงแล้วตัวพาวเวอร์แบงค์ไม่ได้ร้อนตามที่ระบบแจ้งเตือนแต่อย่างใด แถมยังมีปัญหาเวลาสลับกันชาร์จระหว่างใส่เคสหรือถอดเคสอีกด้วย

AirPower แท่นชาร์จไร้สายที่ Apple ประกาศยกเลิกการจำหน่าย

ก่อนหน้านี้ Apple ก็เคยพบปัญหาคล้าย ๆ กันกับ แท่นชาร์จ AirPower ในปี 2017 จากเรื่องความร้อนที่มากจนเกินไป เนื่องจากตัวแผ่นชาร์จต้องใช้งานขดลวดขนาดใหญ่และขนาดเล็กควบคู่กันจึงจะสามารถทำงานได้ สุดท้าย Apple ต้องออกมายกเลิกการวางจำหน่ายในที่สุด ดังนั้น สำหรับพาวเวอร์แบงค์ MagSafe ตัวนี้ ก็ดูจะเป็นความท้าทายของ Apple ในการพัฒนา ซึ่งต้องบาลานซ์กันให้ดีระหว่างความเร็วในการชาร์จที่พอเหมาะ เพื่อไม่ให้เกิดความร้อนสะสมมากเกินไปนั่นเองครับ (ในกรณีที่ออกมาเป็นชาร์จไร้สาย)

Source: GSMArena

from:https://droidsans.com/apple-may-annouce-a-new-battery-pack-that-supports-mag-safe/

ผู้ใช้งาน iPhone 12 Series บางเครื่องพบปัญหาหน้าจออมเขียว เมื่อปรับความสว่างหน้าจอต่ำกว่า 90%

ดูเหมือนว่า iPhone 12 Series มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจาก Apple ที่เพิ่งจะทยอยวางจำหน่ายในหลายๆ ประเทศ จะเจอปัญหาเกี่ยวกับหน้าจอซะแล้ว เพราะได้มีรายงานจากผู้ใช้งานบางรายว่า iPhone 12 ของตนมีปัญหาหน้าจอแสดงผลเป็นสีอมเขียวเมื่อเปิดใช้งานความสว่างหน้าจอต่ำกว่า 90%

รายงานเกี่ยวกับความผิดปกติของหน้าจอ iPhone 12 Series ดังกล่าว มาจากผู้ใช้งานได้ไปร้องเรียนในฟอรั่ม Discussions.Apple ว่า iPhone 12 ของตนเองทั้ง 2เครื่อง มีปัญหาเดียวกัน คือหน้าจอแสดงผลมีสีอมเขียวเมื่อปรับความสว่างหน้าจอต่ำกว่า 90% พร้อมทั้งแนบคลิปวิดีโอหลักฐานมาให้ด้วย

ปัญหาหน้าจอแสดงผล อมเขียว ที่เกิดขึ้นบน iPhone 12 Series

ล่าสุด Apple ได้รับทราบถึงปัญหาดังกล่าวแล้ว และกำลังทำการตรวจสอบถึงสาเหตุอยู่ นอกจากนี้ยังแนะนำให้เหล่าศูนย์ซ่อมที่ได้รับการรับรองจาก Apple หลีกเลี่ยงการซ่อมแซม iPhone ที่ประสบปัญหาดังกล่าว แต่จะแจ้งให้ลูกค้าทราบว่าควรทำการอัปเดต iOS ของตนเองให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดแทน เนื่องจาก Apple เชื่อว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะฮาร์ดแวร์ แต่น่าจะเป็นความผิดพลาดของซอฟท์แวร์ซึ่งน่าจะแก้ไขได้โดยการอัปเดตเฟิร์มแวร์ในอนาคต ซึ่งจากที่มีรายงานออกมาบอกว่าปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นได้กับทั้ง iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ที่ใช้ iOS 14.1, iOS 14.2 หรือจะเป็น iOS 14.3 Beta ก็มีสิทธิ์โดนด้วยเหมือนกัน

โดยความจริงแล้วปัญหาดังกล่าวเคยเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ iPhone 11 Series ทั้ง iPhone 11, iPhone 11 Pro, และ iPhone 11 Pro Max ซึ่ง Apple ก็ได้ทำการแก้ไขด้วยการออกอัปเดต iOS 13.6.1 ให้กับผู้ใช้งานไปแล้ว

ปัญหาหน้าจอแสดงผล อมเขียว ที่เกิดบน iPhone 11 Series

ตอนนี้ผู้ใช้งาน iPhone 12 Series ที่ประสบปัญหาดังกล่าวก็ยังทำอะไรไม่ได้นอกจากรอการอัปเดต iOS เวอร์ชั่นใหม่ เพื่อแก้ไขปัญหาหน้าจอแสดงผลอมเขียวกันต่อไปครับ

 

ที่มา: MacRumors

from:https://droidsans.com/iphone-12-series-screen-problem/

iPhone 12 mini และ iPhone 12 Pro Max ถึงมือ JerryRigEverything ทดสอบความทนทาน

มือถือที่หลายๆ คนรอคอยอย่าง iPhone 12 Series ได้เริ่มวางจำหน่ายในบางประเทศไปแล้ว (ส่วนบ้านเราก็รออีกไม่นานคือวันที่ 27 พฤศจิกายนนี้) และล่าสุดรุ่นน้องเล็กสุดอย่าง iPhone 12 mini และรุ่นพี่ใหญ่ iPhone 12 Pro Max ก็ได้เดินทางมาถึงมือของ JerryRigEverything เรียบร้อย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องโดนทดสอบความทนทานทั้งเรื่องรอยขีดข่วนหน้าจอ รอยขีดข่วนตัวเครื่อง และสุดท้ายคือทดสอบความแข็งแรงตัวเครื่องว่าจะรอดจากการงอเครื่องด้วยมือเปล่าหรือได้ไม่

ทดสอบรอยขีดข่วนบนหน้าจอ

เริ่มต้นด้วยการทดสอบความทนทานจากรอยขีดข่วนบนหน้าจอ ซึ่งคราวนี้ Apple ใช้วัสดุใหม่ที่เรียกว่า Ceramic Shield กับ iPhone 12 ทุกรุ่น โดยวัสดุดังกล่าวเป็นการผสมผสานกันระหว่างกระจกและเซรามิกคริสตัล ซึ่งจริงๆ แล้ว JerryRigEverything เคยทดสอบไปรอบนึงแล้วกับ iPhone 12 Pro แต่ไหนๆ ก็ได้ iPhone 12 mini กับ iPhone 12 Pro Max มา ก็ขอทดสอบอีกซักครั้งนึง

ผลออกมาก็คือหน้าจอของ iPhone 12 ทั้ง 2 รุ่น เป็นรอยขีดข่วนตั้งแต่โดนของแข็งระดับ 6 เป็นต้นไป แต่ดูเหมือนว่าร่องรอยจะตื้นกว่ากระจก Gorilla Glasss 6 ที่ใช้กับมือถือเรือธงรุ่นอื่นๆ อยู่นิดหน่อย

ทดสอบรอยขีดข่วนที่ขอบเครื่อง

ต่อด้วยการทดสอบรอยขีดข่วนบนตัวเครื่อง สำหรับ iPhone 12 mini ที่ใช้วัสดุเป็นอลูมิเนียม เมื่อโดนขูดด้วยใบมีดคัตเตอร์ก็พบว่าเป็นรอยลึก และมีเศษหลุดติดออกมาด้วย

ส่วนรุ่นพี่ iPhone 12 Pro Max ใช้วัสดุที่แข็งแรงกว่าคือสเตนเลส ซึ่งแม้ว่าจะยังคงมีร่องรอยจากใบมีดอยู่ แต่รอยพวกนั้นก็ไม่ได้ลึกเหมือนกับบน iPhone 12 mini

ทดสอบรอยขีดข่วนบนฝาหลัง

จากการทดสอบใช้ใบมีดคัตเตอร์กรีดไปมาบนฝาหลังของทั้งคู่ ก็ไม่พบว่ามีรอยขีดข่วนอะไรเกิดขึ้นเลย รวมถึงกระจกที่ครอบกล้องหลังด้วย เพราะฉะนั้นก็หายห่วงไปได้บ้างสำหรับคนที่ไม่ชอบใส่เคส

ทดสอบใช้เปลวไฟลนที่หน้าจอ

ทั้ง iPhone 12 mini และ Pro Max ใช้จอ OLED แบบ Super Retina เมื่อโดนเปลวไฟจากไฟแช็คลนอยู่ราวๆ 50 วินาที ก็ไม่พบว่ามีร่องรอยการเสียหายอะไรเกิดขึ้นเลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งไม่แน่ว่าอาจจะเป็นเพราะกระจกหน้าจอ Ceramic Shield มีส่วนช่วยในการกระจายความร้อนได้ดีกว่า

จะแปลกนิดนึงที่ iPhone 12 mini เกิดอาการหน้าจอทัชเอ๋อๆ เล็กน้อยหลังจากถูกลนด้วยเปลวไฟ แต่พอปิดจอแล้วเปิดใหม่อาการดังกล่าวก็หายไป

ทดสอบงอเครื่องด้วยมือเปล่า

ทดสอบความแข็งแกร่งด้วยการพยายามงอเครื่องด้วยมือเปล่าแบบเต็มแรงก็พบว่า iPhone 12 ทั้งคู่มีความแข็งแกร่งสุดๆ เพราะไม่มีแม้แต่อาการงอ ไม่มีรอยร้าว หรือแม้แต่เสียงอะไรแปลกๆ เกิดขึ้นเลย คาดว่าน่าจะปลอดภัยจากการใส่ไว้ที่กระเป๋ากางเกงด้านหลังแล้วเผลอนั่งทับได้ระดับนึงเลยล่ะ

เรียกได้ว่า iPhone 12 mini และ iPhone 12 Pro Max เป็นมือถือที่ใช้วัสดุ และมีการประกอบเครื่องอยู่ในระดับพรีเมี่ยมสมราคาจริงๆ ครับ

 

ที่มา : JerryRigEverything (YouTube) 

from:https://droidsans.com/iphone-12-mini-iphone-12-pro-max-jerryrigeverything/

Apple ลบข้อมูลการวางจำหน่าย iPhone 12 Series ในประเทศไทยออกทั้งหมด

สาวก Apple พึ่งจะเฮกันไปเมื่อวานนี้หมาดๆ หลังจากมีการประกาศวันวางจำหน่าย iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น ในประเทศไทยไปเมื่อวานนี้ โดยกำหนดการก็คือวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2020 ซึ่งก็เหลืออีกไม่กี่วันเท่านั้น…แต่ล่าสุด ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้น เพราะอยู่ๆ วันนี้ข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทยตามกำหนดการเดิมกลับถูกลบทิ้งไปซะแล้ว

สำหรับกำหนดการวางจำหน่ายของ iPhone 12 Series ดังกล่าว เป็นข้อมูลทางการจาก Apple ซึ่งตอนแรกกำหนดเอาไว้ในหัวข้อ ราคาและความพร้อมให้บริการ ว่าในประเทศไทยจะเริ่มวางขาย iPhone 12 mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2020 เป็นต้นไป แต่พอเข้าไปลองเช็คข้อมูลดังกล่าวอีกครั้งนึงในวันนี้ ก็พบว่าหัวข้อ ราคาและความพร้อมให้บริการ ถูกลบทิ้งออกไปทั้งหมด และไม่มีส่วนไหนที่กล่าวถึงเรื่องการวางจำหน่ายในประเทศไทยแล้วด้วย  


ข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทย ที่เคยมีอยู่ แต่โดนลบทิ้งไปแล้ว

และก็ยังเป็นเรื่องแปลกที่ลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ Apple ของสหรัฐอเมริกากลับพบว่าข้อมูลของการวางจำหน่ายในประเทศไทยยังคงมีอยู่เช่นเดิม ก็คือวันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2020 นั่นเอง

บนหน้าเว็บ Apple US ยังคงมีข้อมูลการวางจำหน่ายในประเทศไทยอยู่

สุดท้ายแล้วก็ต้องมารอดูกันต่อไปว่า iPhone 12 Series ทั้ง 4 รุ่น ในประเทศไทย จะยังคงวางจำหน่ายตามกำหนดการเดิม หรือว่าจะมีการเลื่อนออกไป หากมีข้อมูลแล้วเราจะรีบมาอัปเดตให้ทันทีครับ

 

ข้อมูลเพิ่มเติม : Apple TH

from:https://droidsans.com/iphone-12-series-thailand-schedule-removed/

Anker เปิดตัวอุปกรณ์ชาร์จ iPhone 12 Series เวอร์ชั่นพิเศษ Doraemon Edition เอาไจสาวกหุ่นยนต์แมวสีฟ้า

แบรนด์อุปกรณ์ IT ชื่อดังอย่าง Anker เปิดตัวชุดอุปกรณ์ชาร์จรุ่นพิเศษ Doraemon Edition เน้นการใช้งานร่วมกับมือถือซีรีส์ iPhone 12 โดยเฉพาะ มีให้เลือกทั้งที่ชาร์จ 20W, สายชาร์จ USB-C > Lightning, แท่นชาร์จไร้สาย หรือจะเป็นสายชาร์จแม่เหล็ก MagSafe ก็มีให้เลือกเหมือนกันนะ

สำหรับอุปกรณ์ชาร์จรุ่นพิเศษ Doraemon Edition ของ Anker จัดมาให้แบบทั้งชุดให้เลือกใช้กันได้เต็มที่ มีให้เลือกเพียบไปหมดไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จ 20W ขนาดจิ๋ว สีขาวแปะลายโดราเอมอน สามารถชาร์จ iPhone 12 หรือ iPhone 12 Pro จาก 0% – 50% ในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมง

ยังมีที่ชาร์จไวแบบ 65W สำหรับชาร์จ MacBook Pro และที่ชาร์จแบบ 2 พอร์ต USB-C และ USB-A

สุดซ้ายกับแท่นชาร์จแม่เหล็กที่ใช้งานกับระบบ MagSafe ของ iPhone 12 Series หรือจะใช้กับอุปกรณ์ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จแบบ Qi ก็ได้เหมือนกัน โดยการชาร์จแบบ MagSafe จะได้ที่ความเร็วสูงสุด 15W

นอกจากนี้ยังมีสายชาร์จแบบ USB-C > Lightning และ USB-C > USB-C ธีมโดราเอมอนสีฟ้า-ขาว แปะลายกระดิ่งห้อยคอ พร้อมที่รัดสายลายโดราเอมอนสุดแสนจะน่ารักน่าชัง โดย Anker เคลมว่าสายดังกล่าวมีความทนทานจนสามารถงอไปมาได้กว่า 12,000 ครั้ง

อุปกรณ์ชาร์จสำหรับ iPhone 12 Series เวอร์ชั่นพิเศษ Doraemon Edition จะเริ่มวางขายในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน 2020 เป็นต้นไป ส่วนจะมีขายที่ประเทศอื่นด้วยหรือไม่…ต้องรอลุ้นกันครับ

 

ที่มา : GSMArena

from:https://droidsans.com/anker-iphone-12-series-doraemon-edition/

TENAA เผยข้อมูลขนาด RAM และความจุของแบตเตอรี่ที่ใช้ใน iPhone 12 ทุกรุ่น

เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ Apple มักจะไม่เปิดเผยข้อมูลของ RAM และความจุแบตเตอรี่ของเหล่า iPhone ทุกรุ่นที่เปิดตัว โดยไม่มีการเผยข้อมูลดังกล่าวทั้งภายในงาน รวมถึงในหน้าสเปคอย่างเป็นทางการอีกด้วย แต่ล่าสุด เมื่อมือถือซีรีส์นี้ต้องเข้ามารับการตรวจสอบจาก TENAA (กสทช. จีน) เพื่อให้ผ่านการรับรองก่อนวางจำหน่ายในประเทศ ข้อมูลทั้ง RAM และขนาดแบตเตอรี่ของ iPhone 12 ทุกรุ่นก็ถูกเผยออกมาเรียบร้อย

มาเริ่มกันที่ข้อมูลขนาดแบตเตอรี่ของ iPhone 12 Series ทั้ง 4 รุ่น กันก่อนเลย ซึ่ง iPhone 12 ได้ถูกแงะเครื่องมาก่อนหน้าแล้วรอบนึง ก็เลยรู้ว่ามันมีแบตเตอรี่ขนาด 2815 mAh ส่วนรุ่นอื่นๆ จะมีเท่าไหร่บ้าง มาดูกันครับ

  • iPhone 12 mini : 2227 mAh
  • iPhone 12 : 2851 mAh
  • iPhone 12 Pro : 2815 mAh
  • iPhone 12 Pro Max : 3687 mAh

สำหรับ iPhone 12 และ iPhone 12 Pro Max เป็นรุ่นที่ถูกลดขนาดลงจาก iPhone 11 หากนำมาเทียบกันจะเห็นว่าแตกต่างกันอยู่ที่ราวๆ 15% โดย iPhone 12 มีแบตเตอรี่ 2851 mAh เทียบกับ iPhone 11 ที่มีแบตเตอรี่ 3,110mAh ส่วน iPhone 12 Pro Max มีแบตเตอรี่ 3687 mAh เทียบกับ iPhone 11 Pro Max ที่มีแบตเตอรี่ 3969 mAh แต่เนื่องจาก iPhone 12 Series ใช้ชิป A14 Bionic ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 5nm ทำให้มันประหยัดพลังงานมากกว่า A13 7nm เพราะฉะนั้นในการใช้งานจริงก็น่าจะไม่ต่างกันเท่าไหร่ (แต่มีการทดสอบแล้วว่าถ้าเปิดใช้งาน 5G แบตเตอรี่จะหมดเร็วกว่านะ)

มาต่อกันด้วย RAM ของ iPhone 12 ทั้ง 4 รุ่น กันบ้างว่าจะอยู่ที่เท่าไหร่

  • iPhone 12 mini : 4GB
  • iPhone 12 : 4GB
  • iPhone 12 Pro : 6GB
  • iPhone 12 Pro Max : 6GB

จากข้อมูลจะเห็นว่า iPhone 12 mini และ iPhone 12 ยังคงมี RAM เท่ากับ iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max อยู่ แต่สำหรับรุ่นพี่อย่าง iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ได้รับการอัปเกรด RAM ขึ้นมาเป็น 6GB แล้ว

ตรงนี้ผู้ใช้งานมือถือ Android อาจจะสงสัยว่า ทำไม RAM ของ iPhone ถึงได้น้อยขนาดนี้ ทั้งๆ ที่มือถือ Android ระดับเรือธงเริ่มอัด RAM มาให้ถึง 16GB แล้วในปัจจุบัน…อันนี้ก็ต้องเข้าใจกันนะครับว่าระบบ iOS มีการจัดการเรื่องซอฟท์แวร์ที่ดีมากจนไม่ต้องการ RAM มากมายเพื่อที่จะใช้งานต่างๆ ได้อย่างลื่นไหลนั่นเองครับ

 

ที่มา : Gizchina  

from:https://droidsans.com/tenaa-revealed-iphone-12-series-ram-and-battery-capacity/

MagSafe แถบแม่เหล็กสารพัดประโยชน์ใน iPhone 12 Series รองรับทั้งระบบชาร์จไว และใช้ร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ

ในงานเปิดตัว iPhone 12 Series ที่ผ่านมา เราได้เห็นฟีเจอร์เด็ดๆ ล้ำๆ มากมายที่มาพร้อมกับมือถือซีรีส์นี้ ไม่ว่าจะเป็นชิป A14 ที่ทรงพลังสุดๆ กล้องหลังที่ได้รับการพัฒนาจนมีประสิทธิภาพระดับเทพ หรือจะเป็นหน้าจอ Super Retina XDR ที่งามหยดย้อย และยังมีอีกหนึ่งฟีเจอร์อย่าง MagSafe ที่เป็นแถบชาร์จแม่เหล็กด้านหลังเครื่องที่นอกจากจะรองรับการชาร์จไร้สายแล้ว มันยังรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อีกด้วย

MagSafe คืออะไร?

ถ้าใครที่เคยใช้ หรือเป็นแฟนโน้ตบุ๊ค MacBook มานานแล้ว น่าจะรู้จักฟีเจอร์ MagSafe กันดี เพราะมันเป็นระบบชาร์จที่ใช้หัวชาร์จแบบแม่เหล็กดูดติดกับตัวเครื่องแทนการชาร์จผ่านพอร์ตเหมือนกับโน้ตบุ๊ครุ่นอื่นๆ ทำให้ไม่เสี่ยงเวลามีคนเดินสะดุดสายชาร์จแล้ว MacBook จะกระเด็นตกจากโต๊ะ (เพราะขั้วที่เป็นแม่เหล็กจะหลุดออกมาก่อน) โดยในปี 2016 ทาง Apple ก็โละเอาระบบนี้ออก แล้วเปลี่ยนมาใช้พอร์ตชาร์จแบบ USB-C แทน

MagSafe ที่ใช้กับ MacBook

และฟีเจอร์ดังกล่าวก็ได้กลับมาอีกครั้งแต่คราวนี้มาอยู่บน iPhone 12 Series แทน ซึ่งมันจะรองรับการใช้งานร่วมกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่แค่เอาไว้ชาร์จแบตเตอรี่อย่างเดียวเท่านั้น

iPhone 12 Series ชาร์จไวผ่านพอร์ต MagSafe

อย่างที่บอกไปแล้วว่าฟีเจอร์ MagSafe จะเน้นใช้งานด้านชาร์จแบตเตอรี่ให้กับมือถือซีรีส์ iPhone 12 จากการใช้อุปกรณ์เสริม MagSafe Charger ที่เป็นแท่นชาร์จเล็กๆ ดูดติดกับตัวเครื่องด้านหลัง และยังสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ที่ระดับ 15W ซึ่งเร็วกว่าการชาร์จแบบไร้สายด้วยระบบ Qi (7.5W) ถึง 2 เท่า

MagSafe Charger

โดยในตอนนี้ ทาง Apple มีที่ชาร์จรองรับ MagSafe อยู่ 2 แบบ คือ MagSafe Charger ซึ่งเป็นที่ชาร์จแบบเดี่ยวๆ และ MagSafe Duo Charger ที่สามารถชาร์จได้ทั้ง iPhone 12 และ Apple Watch ไปพร้อมๆ กัน

MagSafe Duo Charger

รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ

นอกจากจะใช้ชาร์จแบตเตอรี่แล้ว แถบแม่เหล็ก MagSafe ยังใช้งานกับอุปกรณ์เสริมอื่นๆ ได้อีก อย่างเช่น Silicone Case และ Clear Case ที่แปะหัวชาร์จ MagSafe ได้เลยโดยที่ไม่ต้องถอดเคสก่อน

Silicone Case และ Clear Case

ซองใส่การ์ด iPhone Leather Wallet with MagSafe ที่เป็นแม่เหล็กแปะเข้าไปด้านหลังเครื่อง สำหรับหยิบใช้งานได้ง่าย (ที่ซองมีตัวบล็อกคลื่นแม่เหล็ก ไม่ต้องกลัวว่าบัตรเครดิตจะพัง)

iPhone Leather Wallet with MagSafe

หรือจะเป็นอุปกรณ์เสริมจากผู้ผลิตอื่นๆ อย่างเช่น Popsockets ที่เป็น Grip สำหรับแปะไว้ด้านหลังของมือถือทำให้ถือเครื่องได้แบบมั่นคงไม่กลัวหล่น เพราะจะเข้าไปล็อคกับง่ามนิ้วเอาไว้

Popsockets

คาดว่าในอนาคตเราจะได้เห็นอุปกรณ์เสริมล้ำๆ เท่ๆ จากผู้ผลิตรายอื่นที่จะมาพลิกแพลงการใช้งาน MagSafe อีกเพียบแน่นอนครับ

 

ที่มา : TheVerge

from:https://droidsans.com/iphone-12-series-magsafe/

เปิดตัว iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max รองรับ 5G ทุกรุ่น พร้อมชิป A14 สุดแรง

เปิดตัวไปเรียบร้อยแล้ว กับมือถือสุดพรีเมี่ยมซีรีส์ iPhone 12 ที่หลายๆ คนรอคอย โดยคราวนี้เปิดตัวมาด้วยกันถึง 4 รุ่น คือ iPhone 12 Mini, iPhone 12, iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max ซึ่งแน่นอนว่าคราวนี้จะต้องรองรับการใช้งาน 5G แล้ว และทาง Apple ก็ยังอัดนวัตกรรมใหม่ๆ ล้ำๆ มาให้พวกเราได้ว้าวกันอีกรอบ ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลยครับ

iPhone 12 Mini / iPhone 12

ดีไซน์ / หน้าจอ

iPhone 12 และ iPhone 12 Mini มากับดีไซน์เรียบหรู ด้วยขอบเครื่องที่ดูเหลี่ยมขึ้น จากเดิมที่เป็นขอบแบบโค้งมน ประกอบกับวัสดุเครื่องที่ผสมผสานกันระหว่างโลหะ และกระจก ทำให้มือถือรุ่นนี้ดูพรีเมี่ยมมากขึ้น แถมหากเอาไปเทียบกับ iPhone 11 แล้ว iPhone 12 จะบางกว่าถึง 11%, เล็กกว่า 15% และเบากว่า 16%

iPhone 12 ทั้งคู่มากับสีสันให้เลือกมากถึง 5 สีให้เลือก ทั้ง สีดำ, สีขาว, สีแดง (Product Red), สีเขียว และสีน้ำเงิน

หน้าจอของ iPhone 12 มีขนาด 6.1 นิ้ว ใช้พาเนลแบบ Super Retina XDR ที่มีค่า Contrast 2,000,000 : 1 มีความละเอียด 2532 x 1170 พิกเซล และมีพิกเซลถึง 2.8 ล้าน มากกว่า iPhone 11 ถึง 2 เท่า ส่วนน้องเล็ก iPhone 12 Mini มีหน้าจอขนาด 5.4 นิ้ว

นอกจากนี้หน้าจอของทั้งคู่ยังเคลือบด้วย Ceramic Shield ที่ทนแรงกระแทกจากการตกหล่นได้มากกว่าเดิมถึง 4 เท่า

 

ชิป A14 Bionic ที่ทรงพลังที่สุดในสมาร์ทโฟน

เราได้รู้จักกับความแรงของชิป A14 ที่ผลิตบนสถาปัตยกรรม 5nm กันไปรอบนึงแล้วกับ iPad Air 4 ซึ่งคราวนี้ก็นับว่าเป็นครั้งแรกที่ชิปดังกล่าวถูกนำมาใส่ในสมาร์ทโฟนซีรีส์ iPhone 12 ซึ่งแน่นอนว่าความเร็ว ความแรงของมันก็ยังคงจัดเต็มอีกเช่นเคย

 

โดย Apple เคลมว่าชิปตัวนี้ให้ประสิทธิภาพ CPU และ GPU ที่แรงกว่าชิปในสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆ กว่า 50%, มี Neural Engine แบบ 16-core, Transistor กว่าหมื่นล้านตัว ทำให้การใช้งานทั่วไป หรือแม้แต่การเล่นเกมกราฟิก 3D โหดแค่ไหนก็ไม่หวั่น

 

กล้องหลังคู่ 12MP ที่มากับฟีเจอร์ Night Mode ในทุกเซ็นเซอร์

กล้องหลังของ iPhone 12 และ iPhone 12 Mini แม้ว่าจะยังคงมีแค่ 2 ตัวเท่าเดิมประกอบด้วยกล้อง Wide 12MP + กล้อง Ultra Wide 12MP ซึ่งมากับฟีเจอร์ถ่ายภาพสภาวะแสงน้อย Night Mode ในเซ็นเซอร์ทั้ง 2 ตัว ทำให้การถ่ายภาพในที่มืดดีขึ้นกว่ารุ่นที่ผ่านๆ มา และมากับ Night mode Time-lapse อีกด้วย นอกจากนี้ Apple ยังเคลมว่ามันสามารถถ่ายวิดีโอได้ในระดับเหนือกว่ามือถือทั่วไปอีกต่างหาก

 

ชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก MagSafe 

iPhone 12 มากับฟีเจอร์ระบบชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก ใช้งานคู่กับที่ชาร์จ MagSafe เป็นแป้นชาร์จที่ใช้แปะเข้ากับด้านหลังเครื่องได้เลย นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานกับอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะตามมาในอนาคตได้อีกด้วย

 

iPhone 12 Pro / iPhone 12 Pro Max

ดีไซน์ / หน้าจอ

ดีไซน์ของรุ่นพี่อย่าง iPhone 12 Pro / Pro Max จะมาในแนวเดียวกับ iPhone 12 และ 12 Mini ด้วยขอบเครื่องที่มีความเหลี่ยมขึ้น และใช้วัสดุแบบเดียวกันที่มีความทนทานในระดับเดียวกัน มากับตัวเครื่องให้เลือกทั้งหมด 4 สี คือ สีเงิน (Silver), สีเทา (Graphite), สีทอง (Gold) และสีฟ้า (Pacific Blue)

 

หน้าจอของ iPhone 12 Pro มีขนาด 6.1 นิ้ว และ Pro Max ขนาด 6.7 นิ้ว ทั้งคู่ใช้พาแนลจอแบบ Super Retina XDR ที่มีค่า Contrast 2,000,000 : 1 มีความละเอียด 2778 x 1284 พิกเซล ที่สามารถเร่งความสว่างได้สูงสุดถึง 1200 nits และเคลือบด้วย Ceramic Shield อีกเช่นเดียวกัน

 

กล้องหลัง 3 ตัวระดับเทพ ที่มาพร้อมระบบกันสั่นในตัวเซ็นเซอร์

แน่นอนว่ารุ่นท็อปอย่าง iPhone 12 Pro และ 12 Pro Max ต้องมากับกล้องระดับเทพ ประกอบด้วยกล้อง Wide 12MP (OIS) + กล้อง Ultra Wide 12MP +  กล้อง Telephoto 12MP (OIS) + เซ็นเซอร์ LiDAR

 

ระบบกันสั่นแบบ OIS ของกล้อง Wide และกล้อง Telephoto เป็นระบบกันสั่นที่ถูกฝังเอาไว้ในตัวเซ็นเซอร์เลย ทำให้ทั้งภาพนิ่ง และวิดีโอทั้งหลาย ออกนิ่งสุดๆ และสมูทสุดๆ

 

ส่วนเซ็นเซอร์ LiDAR ที่ใส่เข้ามา ทำให้การวัดระยะต่างๆ แม่นยำมากกว่าการใช้กล้องจับความลึกทั่วไป ทำให้การถ่ายภาพแบบ Portrait ออกมาเนียน และเป็นธรรมชาติ และยังเอาไปใช้ร่วมกับเทคโนโลยี AR

 

 

from:https://droidsans.com/iphone-12-series-officially-announced/