iPad Air ผ่อน 0% นาน 24 เดือน เพียง 558 บาท/เดือนเท่านั้น ที่ร้าน BaNANAIT ทั่วประเทศ

ส่งต่อความสุข กับเทศกาลของขวัญสุดพิเศษ ที่ Apple@BaNANAIT ทั่วประเทศ

ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2558 – 31 มกราคม 2559

Apple@BaNANAIT ต้อนรับเทศกาลแห่งการให้ ด้วยของขวัญชิ้นพิเศษ iPad ผ่อนสบาย 0% นานสูงสุด 24 เดือน* เริ่มต้นเพียง 558.-** / เดือน กับบัตรเครดิตที่ร่วมรายการ

พิเศษ ! รับสิทธิ์แลกซื้ออุปกรณ์เสริมพร้อมส่วนลดสูงสุด 50% สำหรับลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ Apple

* จำกัดเฉพาะ iPad Air เท่านั้น

** จำกัดเฉพาะ iPad Air 16GB Wi-Fi

*** เงื่อนไขเป็นไปตามแต่ละธนาคารกำหนด

**** สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ณ จุดขาย

รายละเอียดเพิ่มเติม http://www.bananait.com

ติดตามโปรโมชั่นอัพเดททุกวันได้ที่ https://www.facebook.com/bananaitshop

from:http://notebookspec.com/pr-ipad-air-bananait-2015/328743/

ซองและเคสสำหรับ iPad mini จาก incase

ได้รับซองและเคสสำหรับ iPad mini จาก incase มา 3 แบบ หลัก ๆ ไว้สำหรับใช้ร่วมกับ iPad mini 2 และ 3 มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้างติดตามกันได้

ได้รับซองและเคสสำหรับ iPad mini จาก incase มาทั้งหมด 3 รุ่นด้วยกัน โดยเป็นเคส 2 แบบและเป็นซองใส่เครื่อง ซึ่งแต่ละแบบมีจุดเด่นต่างกันไป

incase – ICON Sleeve

สำหรับ incase – ICON Sleeve เป็นซองใส่เครื่องที่ออกมาในช่วงคาบเกี่ยวกับการเปิดตัว iPad mini 4 ซึ่งเรื่องนี้ผมได้สอบถามทางตัวแทนจำหน่ายให้แล้วทาง incase ในต่างประเทศคอนเฟิร์มว่าซองรุ่นนี้สามารถใส่ iPad mini 4 ได้ด้วย

ตัวซอง ICON Sleeve ที่เห็นเป็นสีเทา ๆ เป็นผ้ายืด ๆ ครับ พื้นผิวผ้าจะลื่น ๆ หน่อย บริเวณขอบที่เห็นเป็นสีเหลืองสะท้อนแสงสีจี๊ด ๆ เป็นของโฟมชนิดแข็ง ทาง incase เรียกชื่อวัสดุนี้ว่า ‘TensaerLite’ ซึ่งเป็นวัสดุเดียวกับที่ไนกี้ใช้ทำพื้นรองเท้า Lunarlon ที่เป็นพื้นรองเท้ารองรับแรงกระแทกได้ดีรุ่นหนึ่งของไนกี้ โดยทาง incase ก็ทำซองใส่ให้สามารถรองรับแรงกระแทกได้กรณีที่เกิดอุบัติเหตุเช่นว่าเราทำตกพื้นที่ เหวี่ยงมือไปแล้วดันไปโดนกับประตูไปโดนกำแพง ซึ่งผมก็ลองเอาเครื่องใส่ไว้ข้างในแล้วเคาะ ๆ ให้ดูตามที่เห็นในวิดีโอ ตอนกระแทกซองลงมาก็เสียว ๆ เหมือนกันว่าเครื่องจะบุบอยู่เช่นกัน แต่ผลที่ได้หลังจากที่ลองกระแทกโต๊ะตัวเครื่อง iPad mini ของผมไม่เป็นอะไรเลย ทั้งนี้ขอบโฟม TensaerLite มีอยู่แค่ตรงขอบ ๆ นะครับ ถ้าเกิดว่าคว่ำหน้าลงพื้นก็ยังมีสิทธิ์ที่หน้าจอจะแตกได้

ด้านในซองของ ICON Sleeve จะบุผ้าขนนิ่ม ๆ รองเอาไว้ไม่ให้เครื่องเป็นรอยเวลาใส่เข้าหยิบออก โดยบริเวณฝาปิดซองจะเป็นแม่เหล็กซึ่งก็สะดวกดีเพราะตอนใส่ซองก็ปิดสนิทและตอนที่เราต้องการหยิบ iPad mini ออกมาก็แค่พลิกบริเวณฝาออกแล้วก็จัดการดึงเครื่องออกมาไม่ต้องมารูปซิปเปิดรูดซิปปิด

นอกจากจะใช้ใส่ตัวเครื่อง iPad mini เปล่า ๆ ได้ปกติแล้ว ผมได้ลองเพิ่มเติมกรณีที่ iPad mini มี Smart Cover ติดอยู่ด้วยก็ยังใส่เครื่องที่มี Smart Cover เข้าไปได้ปกติแต่ก็จะฟืด ๆ เล็กน้อยตอนดันเครื่องเข้าไป แล้วก็จะหนาขึ้นนิดหน่อยจากที่มี Smart Cover รวมอยู่ด้วย โดยรวมสำหรับ ICON Sleeve เป็นซองใส่ iPad mini ที่ชอบมาก

incase – Origami Jacket

 

ถัดมาเป็นเคสชื่อรุ่น incase – Origami Jacket ภาพรวมเป็นเคสที่มีฝาปิดด้านหน้าเครื่อง โดยตัวฝาปิดสามารถพับเป็นฐานสามเหลี่ยมสำหรับวางเครื่องได้ด้วย โดยตอนที่เราพับไปไว้ด้านหลังเครื่องจะวางตัวขอบฝาไว้ที่ร่องด้านหลังเคส ในจุดนี้การรองรับการสั่นสะเทือนหรือการกดจิ้มหน้าจอแรง ๆ แล้วเคสอาจมีล้มได้จากที่ขอบฝาเคสกับร่องที่ยันกันไว้ค่อนข้างตื้น ซึ่งผมลองเขย่า ๆ เครื่องแรงมากหน่อยตัวฝามีหลุดอยู่เหมือนกัน ในจุดนี้ก็ต้องระวังกันด้วย

ส่วนด้านที่เป็นตัวเคสเป็นฮาร์ดเคสพลาสติกขอบเคสหนาหน่อยหนึ่ง ส่วนการใส่เครื่องเข้าไปรวมถึงตอนถอดเครื่องออกมาไม่ได้ยากหรือต้องมีท่าพิศดารในการแกะแต่อย่างใด

incase – Book Jacket Slim
สุดท้ายกับ incase – Book Jacket Slim เป็นเคสที่มีฝาปิดด้านหน้า โดยฟังก์ชั่นการใช้งานก็จะคือ ๆ กับ Origami Jacket เพียงแต่วิธีการวางเครื่องตอนใช้งานต่างกัน โดยเวลาใช้ incase – Book Jacket Slim แล้วเราต้องการวางเครื่องให้เอียง ๆ เพื่อใช้งานก็แค่บิเครื่องด้านในออกจากขอบพลาสติกที่ล็อคเครื่องอยู่แล้วก็นำเครื่องมาวางที่ฝาอีกด้านเป็นอันเสร็จเรียบร้อย ตัวเคสเวลาเราใส่เครื่องแล้วถือไปถือมาอันนี้บางจริงสมชื่อที่ห้อยท้ายว่า Slim

ราคา

• incase – ICON Sleeve : 2,590 บาท
• incase – Origami Jacket : 1,890 บาท
• incase – Book Jacket Slim : 1,690 บาท

 

หาซื้อสินค้าได้ที่ :

• Betrend (สยามพารากอน, เอ็มโพเรียม)
• Zen @Central World (ชั้น 5)
• Central Plaza WestGate (ชั้น 3)

from:http://www.siampod.com/2015/11/03/incase-sleeveand-cases-for-ipad-mini/

สำหรับสาวก Apple แล้ว iPad mini 2 อาจจะยังเป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กที่คุ้มค่ามากที่สุดในเวลานี้

เปิดตัวไปอย่างเป็นทางการแบบเงียบๆ แล้วครับกับ iPad mini 4 ที่สเปคนั้นถือว่าไม่ได้ด้วยเลย ด้วยการมาพร้อมกับชิปเซ็ท Apple A8 ที่ความเร็ว 1.5 GHz พร้อมด้วยหน่วยความจำขนาด 2 GB แบตเตอรี่ความจุ 5,124 mAh ซึ่งลดน้อยลงกว่าในรุ่น Mini 3 แต่ทว่าก็มากับความหนาของตัวเครื่องที่ลดลงเหลือแค่ 6.1 mm เท่านั้นทำให้ iPad mini 4 นั้นถูกคาดหวังทางด้านความแรงเป็นอย่างมาก แต่จากผลการทดสอบของ Ars Technica กลับเผยให้เห็นสิ่งที่แตกต่างออกไปจากที่ผู้ใช้คาดหวังครับ

จากผลคะแนนการทดสอบด้วยแอปพลิเคชัน Geekbench นั้นพบว่า iPad mini 4 ได้คะแนนโดยรวมทั้งหมด 3,121 คะแนน, integer benchmark ได้คะแนน 3,569 คะแนน, floating point ได้คะแนน 3,360 คะแนนและคะแนนการทดสอบในส่วนของหน่วยความจำอยู่ที่ 1,748 คะแนนครับ ลองไปดูภาพทางด้านล่างนี้กันครับว่าเมื่อเทียบกับ iPad Mini 2/3 และ iPhone 6 นั้น iPad mini 4 จะทำได้ดีแค่ไหน

หมายเหตุ – iPad Mini 2/3 ใช้ชิปเซ็ท Apple A7 ส่วน iPhone 6 ใช้ชิปเซ็ท Apple A8 ที่ความเร็ว 1.4 GHz

จากผลการทดสอบจะเห็นได้ครับว่าถึงแม้ iPad Mini 4 นั้นจะทำคะแนนได้สูงกว่า iPhone 6(ในบางการทดสอบ) และสูงกว่า iPad Mini 2/3 ในทุกการทดสอบก็จริง แต่เมื่อเทียบราคาขายของ iPad Mini 2 ที่เริ่มต้นที่ 9,900 บาท กับ iPad Mini 4 ที่เริ่มต้น 13,400 บาท ซึ่งห่างกันอยู่ถึง 3,500 บาทแล้ว iPad Mini 4 อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกสำหรับแท็บเล็ตขนาดเล็กที่มีราคาคุ้มค่ามากนักสักเท่าไรครับ

หมายเหตุ – ราคาที่เปรียบเทียบเป็นรุ่น WiFi-only ที่มาพร้อมกับแหล่งข้อมูลความจุ 16 GB จาก Apple Store ไทย

ความแตกต่างของราคาที่เปรียบเทียบกันนั้นจะเพิ่มขึ้นไปอีกในรุ่นที่สูงขึ้น ซึ่งแน่นอนครับว่ายุคที่เงินไม่ได้หากันได้ง่ายๆ แบบนี้ iPad Mini 2 อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าเพราะว่าหากจะว่าไปแล้ว iPad Mini 2 เองก็ยังสามารถทำงานได้อย่างดีอยู่ ทว่าสิ่งที่ผู้ใช้ต้องคิดเพิ่มเติมก็คือใน iPad Mini 4 นั้นจะมาพร้อมกับความสามารถ Touch ID และ Split View multitasking ด้วย โดยเฉพาะความสามารถหลังนั้นถ้าเทียบเครื่องที่มาพร้อมกับหน่วยความจำ 1 GB อย่าง iPad Mini 2 และ 2 GB อย่าง iPad Mini 4 แล้ว iPad Mini 4 น่าจะรองรับความสามารถนี้ได้ดีกว่าเยอะครับ

ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับผู้ซื้อแล้วหล่ะครับว่าต้องการของใหม่ที่มีราคาแพงกว่าหรือว่ายังคงต้องการใช้ของเดิมที่ยังสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี ถ้าคุณเป็นผู้ที่กำลังจะตัดสินใจซื้อ iPad Mini เป็นเครื่องแรกไม่มีเหตุผลใดๆ ครับที่คุณจะมองข้าม iPad Mini 4(ถ้าพูดถึงการรองรับอนาคตในระยะที่ยาวกว่า) แต่ถ้าในมือของคุณมี iPad Mini 2/3 อยู่แล้วหล่ะก็ความสามารถที่เพิ่มขึ้นมาอย่าง Touch ID และความแรงที่เพิ่มขึ้นมาไม่ถึง 50% นั้นน่าจะยังไม่คุ้มถ้าคุณจะเปลี่ยนใจไปใช้ iPad Mini 4 ครับ

ที่มา : cultofmac, arstechnica

from:http://notebookspec.com/ipad-mini-2-still-packs-the-most-value-into-a-tiny-tablet/313843/

iPad mini 4 ชิป A8 ความเร็ว 1.5GHz และมีแรม 2GB

เป็นคำถามคาใจเมื่อ 2 วันก่อนตอนที่เห็นสเป็ค iPad Pro ว่ามีแรม 4GB แล้วน้องเล็ก iPad mini 4 มีแรมเท่าไหร่ 1GB หรือ 2GB กันแน่ ตอนนี้มีคำตอบแล้วว่า iPad mini 4 มีแรมมาในเครื่อง 2GB

เว็บ arstechnica.com ได้เผยข้อมูลทดสอบ iPad mini 4 ทำให้เราได้ทราบว่าตัวเครื่องใช้ชิป A8 ความเร็ว 1.5 GHz (ใน iPhone 6 ชิป A8 ความเร็ว 1.4GHz) และมีแรมมาในเครื่อง 2GB จุดนี้ก็คลายความสงสัยกันแล้วว่า iPad mini 4 ตกลงมีแรมมากี่ GB กันแน่

 

ด้านประสิทธิภาพของ iPad mini 4 เมื่อใช้แอป Geekbench 3 ทดสอบตัวเลขที่ออกมาดีขึ้นกว่า iPad mini 2 และ 3 ที่ใช้ชิป A7 ราว ๆ 25-30 เปอร์เซ็นต์ และมีตัวเลขผลลัพธ์ที่ดีกว่า iPhone 6 ที่ใช้ชิป A8 เหมือนกันอยู่ประมาณ 7-10 เปอร์เซ็นต์ และเมื่อเทียบกับ iPad Air 2 ที่ใช้ชิป A8X ผลคะแนนของ iPad mini 4 ตามหลังอยู่ 40 เปอร์เซ็นต์เป็นอย่างน้อย

 

 

สำหรับขนาดภายนอกของ iPad mini 4 เผื่อใครไม่ได้สังเกตสเป็คก็บอกกันตรงนี้เลยว่าตัวเลข กว้างxสูงxหนา ต่างไปจาก iPad mini 2 และ 3 เล็กน้อย ซึ่งจะมีผลทำให้ฮาร์ดเคสของ iPad mini 2 และ 3 ไม่น่าจะนำมาใส่กับ iPad mini 4 ได้

 

ที่มา : arstechnica.com

 

สรุปเรื่องแรมของอุปกรณ์ iOS ที่ออกในปีนี้สักนิด

• iPad Pro มีแรม 4GB
• iPad mini 4 มีแรม 2GB
• iPhone 6s/6s Plus มีแรม 2GB
• Apple TV (4th Gen) มีแรม 2GB

และ

• iPod touch (6th Gen) มีแรม 1GB

from:http://www.siampod.com/2015/09/16/ipad-mini-4-ram-2gb/

ต้อนรับ iPad mini 4 กับ iPad mini 2 / 3 ปรับลดราคาใหม่เริ่มต้น 9,900 บาท

หลังจากมีการเปิดตัว iPad Pro กับ iPad mini 4 เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา จึงเป็นเวลาที่ทำให้สินค้ารุ่นเก่าที่ขายอยู่ต้องจัดโปรโมชั่นส่งท้ายกันอย่างเป็นทางการ โดยบรรดาตัวแทนจำหน่ายสินค้า Apple ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ได้ปรับราคา iPad mini ใหม่หมดดังนี้ 

iPad mini 2 : Wi-Fi 

16GB : 9,900 บาท (ราคาเพิม 10,400 บาท) 

32GB : 11,700 บาท (ราคาเพิม 12,200 บาท) 

iPad mini 2 : Wi-Fi+Cellular 

16GB : 14,400 บาท (ราคาเดิม 14,900 บาท) 

32GB : 16,200 บาท (ราคาเดิม 16,700 บาท) 

iPad mini 3 : Wi-Fi 

16GB : 11,600 บาท (ราคาเดิม 13,400 บาท) 

64GB : 14,400 บาท (ราคาเดิม 16,900 บาท) 

128GB : 17,900 บาท (ราคาเดิม 20,400 บาท)

iPad mini 3 : Wi-Fi+Cellular

16GB : 16,100 บาท (ราคาเดิม 17,900 บาท) 

64GB : 18,900 บาท (ราคาเดิม 21,400 บาท) 

128GB : 22,400 บาท (ราคาเดิม 24,900 บาท)

ราคาดังกล่าว มีผลตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยราคา iPad mini 2 เป็นราคาเดียวกับที่ Apple ปรับอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา 

***ภาพราคาจาก iStudio เครือ SPVi***

ที่มา:
iStudio by SPVi

from:http://www.macstroke.com/112015/ipad-mini-2-new-price-and-ipad-mini-3-sale

ปรับราคา !!! iPad mini 3 ราคาเริ่มต้นที่ 11,600 บาท และ iPad mini 2 ราคาเริ่มต้นที่ 9,900 บาท

ปรับราคา !!! iPad mini 3 ราคาเริ่มต้นที่ 11,600.- และ iPad mini 2 ราคาเริ่มต้นที่ 9,900.- ทั้งรุ่น Wi-Fi และ Wi-Fi + Cellular มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ร้าน iStudio by comseven ทั่วประเทศ

from:http://notebookspec.com/pr-promotion-ipad-mini-3-ipad-mini-2-discount-by-com7/312491/

ล้างสต๊อก!! iStudio ลดราคา iPad mini 2 และ 3 เริ่มต้น 9,900 บาท ต้อนรับการมาของรุ่นใหม่

 

หลังจากที่มีการเปิดตัว iPad mini 4 เมื่อวันที่ 9 กันยายนที่ผ่านมา iStudio by comseven ก็ประเดิมประกาศล้างสต๊อกชุดแรกออกมา ประกอบไปด้วย iPad mini 2 และ iPad mini 3 โดยมีรายละเอียดราคาดังต่อไปนี้

• iPad mini 2 with Wi-Fi 16GB ราคา 9,900 บาท
• iPad mini 2 with Wi-Fi 32GB ราคา 11,700 บาท
• iPad mini 2 with Wi-Fi + Cellular 16GB ราคา 14,400 บาท
• iPad mini 2 with Wi-Fi + Cellular 32GB ราคา 16,200 บาท
• iPad mini 3 with Wi-Fi 16GB ราคา 11,600 บาท
• iPad mini 3 with Wi-Fi 64GB ราคา 14,400 บาท
• iPad mini 3 with Wi-Fi 128GB ราคา 17,900 บาท
• iPad mini 3 with Wi-Fi + Cellular 16GB ราคา 16,100 บาท
• iPad mini 3 with Wi-Fi + Cellular 64GB ราคา 18,900 บาท
• iPad mini 3 with Wi-Fi + Cellular 128GB ราคา 22,400 บาท

 

ที่มา: iStudio by comseven

 

from:http://www.appdisqus.com/2015/09/14/ipad-mini-2-3-istudio.html

iStudio ประกาศปรับราคา iPad mini 3 และ iPad mini 2 มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ประกาศปรับราคา iPad mini 3 และ iPad mini 2 ทั้งรุ่น Wi-Fi และ Wi-Fi + Cellular มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ที่ iStudio iBeat by comseven ทั่วประเทศ

 

ที่มา – iStudio by comseven

from:http://www.flashfly.net/wp/?p=127877

รีวิว : ขาตั้ง Twelve South – HoverBar for iPad

เป็นอุปกรณ์เสริมสำหรับ iPad ที่อลังการชิ้นหนึ่งเท่าที่ผมเคยได้รับมารีวิวเลยครับสำหรับขาตั้ง Twelve South – HoverBar for iPad

Twelve South – HoverBar for iPad เป็นขาตั้งสำหรับ iPad ที่มีอุปกรณ์ในกล่องยุบยับพอควร เริ่มตั้งแต่

 

• ตัวยึด iPad ทุกขนาดจะรุ่นเล็กจะรุ่นใหญ่จะรุ่นเก่ามีมาเผื่อให้หมด
• ขาเหล็กปรับระดับได้
• หัวยึดระหว่างขาเหล็กกับตัวยึด iPad
• ฐานยึดกับขอบโต๊ะ (มีประแจหกแฉกมาให้ในกล่องช่วยไขน็อต)
• มีขาตั้งสำหรับใช้งาน iPad บนโต๊ะ

สำหรับฐานยึดขอบโต๊ะกับขาเหล็กปรับระดับได้เป็นเหล็กครับ โดยเฉพาะขาเหล็กปรับระดับน้ำหนักจัดว่าหนักมากอยู่เหมือน การประกอบตัวขายึดก็จัดการตัวขาเหล็กประกอบเข้ากับฐานวาง iPad ให้เรียบร้อย จากนั้นเอาฐานยึดกับขอบโต๊ะมาสวมเข้ากับโต๊ะแล้วก็จัดการไขน็อตให้แน่น แล้วก็หมุนขาเหล็กเข้าไปเป็นอันเสร็จเรียบร้อยพร้อมใช้งาน

 

 

 

 

ในการใช้งานตามที่เห็นดูเก้งก้างสักหน่อยเพราะไม่ได้อยู่ในสภาพการใช้งานจริง โต๊ะที่ผมใช้สาธิตก็เล็กด้วยพอเจอเจ้า HoverBar มาขวางไว้โต๊ะยิ่งดูเล็กลงไปจากเดิมอีก ซึ่งนอกจากเราจะยึดกับขอบโต๊ะได้แล้วยังสามารถยึดกับขาด้านหลังของ iMac และ Apple Thunderbolt Display ได้ด้วย

 

ความแน่นหนาของ HoverBar for iPad ด้วยความที่เป็นก้านขาเหล็กขึ้นมาเดี่ยว ๆ พอไปโดนหรือกระทบแรงหน่อยก็มีสั่น ๆ อยู่เช่นกัน จุดนี้ก็ให้ระวังกันสักนิด ส่วนการปรับระดับของก้านเหล็กปรับยากพอควรเพราะเป็นขาเหล็กจะปรับทีต้องจับให้มั่น ๆ หน่อย

 

หลังจากที่ได้ลอง Twelve South – HoverBar for iPad บอกได้เลยว่าไม่ใช่ของที่จะซื้อมาใช้เล่น ๆ น่าจะต้องเป็นกลุ่มคนที่ต้องการของประเภทนี้มาใช้งานจริง ๆ จัง ๆ มากกว่า เท่าที่นึกออก เช่น ซื้อมาเพื่อใช้ร่วมกับการแสดงสินค้าในร้าน มี iPad ยื่นมาระดับสายตาให้กด ๆ  หรือตามร้านอาหารที่ใช้ iPad เป็นเครื่องคิดเงิน แนว ๆ นี้ หรือกลุ่มคนที่ทำงานควบคู่กับระหว่างคอมพิวเตอร์กับ iPad ก็น่าสนใจในการหาซื้อมาใช้งาน

จุดสังเกต

• การติดตั้งใช้งานเหมือนจะยากแต่ไม่ยากอะไรนัก
• ขาเหล็กปรับระดับยากสักหน่อยเพราะแต่ละข้อแข็งมาก

 

 

ราคา : 3,390 บาท

หาซื้อสินค้าได้ที่

• iStudio by Copperwired
• .Life

 

from:http://www.siampod.com/2015/07/21/review-twelve-south-hoverbar-for-ipad/

Apple เลิกขาย iPad mini รุ่นแรกบน Apple Online Store แล้ว

iPad mini ถือว่าเป็นสินค้าอีกรุ่นของแอปเปิล ที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าที่ต้องการแท็บเล็ตหน้าจอขนาดพอดี พกพาสะดวก

สำหรับ iPad mini เปิดตัวเมื่อเดือนตุลาคมปี 2012 มาพร้อมหน้าจอขนาด 7.9 นิ้ว ความบางของตัวเครื่องบางเพียง 7.2 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนซีพียูใช้ Apple A5 (ตัวเดียวกับใน iPad 2) ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS 6 พร้อมกล้องหลัง 5 ล้านพิกเซล กล้องหน้ารองรับ FaceTime HD แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 10 ชั่วโมง และมีน้ำหนักเพียง 308 กรัม

ล่าสุด แอปเปิลเลิกขาย iPad mini รุ่นแรกอย่างเป็นทางการแล้ว โดยถอดสินค้าออกจาก Apple Online Store แบบเงียบ ๆ ทำให้ตอนนี้เหลือเพียง iPad Air 2, iPad Air, iPad mini 3 และ iPad mini 2 ที่วางจำหน่ายอยู่บน Apple Online Store เท่านั้น

ที่มา – MacRumors

from:http://www.108blog.net/apple-removes-original-ipad-mini-from-apple-online-store/