คลังเก็บป้ายกำกับ: I/O

9 สิ่งที่นักการตลาด(และคุณ)ควรรู้จากงาน Google I/O 2019

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา Google ได้แถลงเปิดตัวฟีเจอร์ใหม่ๆ ในงานที่จัดขึ้นทุกปีอย่าง Google I/O 2019 นอกจากการพัฒนาระบบ AI เพื่อช่วยวิเคราะห์ข้อมูลให้เกิดประโยชน์มากขึ้น ทำให้ระบบค้นหา (Search Engine) เก่งกาจมากขึ้น มาดูกันว่า 9 สิ่งที่นักการตลาดและคุณควรรู้จากงานนี้มีอะไรบ้าง

1. AR จะสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับการค้นหา

ระบบค้นหาของกูเกิลที่เราคุ้นเคยกันมานับสิบปี กำลังจะทำให้ผลการค้นหาน่าสนใจมากขึ้น ด้วยการรองรับเทคโนโลยี AR เพื่อให้เราสามารถเห็นภาพของผลการค้นหาในรูปแบบของวัตถุสามมิติ ขนาดเท่าของจริง หมุนดูได้ทุกมุม และสามารถนำมาจำลองวางในพื้นที่จริงได้

เช่น การค้นหารองเท้าสักคู่ ก็สามารถนำมาลองวางที่ห้อง เทียบกับชุดที่จะใส่ดูได้ ว่ามันเข้ากันอย่างที่เราตั้งใจหรือไม่ ก่อนที่จะไปตัดสินใจเลือกซื้อได้

เห็นได้จากการสาธิตการใช้งานแอป Google Lens ในงาน I/O ปีนี้ ทำให้ผู้ใช้มือถือ Android สามารถให้กูเกิลช่วยวิเคราะห์ข้อมูลตรงหน้าได้แบบทันที

2. Google Lens จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันมากขึ้น

Google ยังเพิ่มความสามารถใหม่ๆ โดยยุบขั้นตอนยุ่งยากในชีวิตประจำวัน เช่น สามารถใช้กล้องส่องเมนูที่ร้านอาหาร เพื่อแตะดูได้เลยว่า เมนูไหน มีหน้าตาเป็นอย่างไร มีรีวิวจากคนที่เคยมาทานแล้วกี่คะแนน โดยไม่สลับแอพไปมาเพื่อค้นหา

หรือสามารถใช้กล้องส่องบิลร้านอาหาร เพื่อคำนวนว่าต้องทิปเท่าไหร่ หรือเลือกจำนวนคนที่ทานด้วยกัน เพื่อให้แอพคำนวนได้เลยว่าหารแล้ว ต้องจ่ายคนละเท่าไหร่ จบในแอพเดียว

หลังจากนี้กำแพงภาษาก็ถูกทำลายลง เพราะแค่ใช้กล้องมือถือส่องไปที่ป้าย ก็สามารถแปลภาษาแบบได้ทันที รวมถึงสามารถแตะให้อ่านป้ายให้ฟังได้โดยไม่จำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาของประเทศที่เราจะเดินทางไป

เปิดทางให้ทุกคน สามารถเข้าใจสิ่งใหม่ได้ในรูปแบบที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

3. สั่งจองบริการด้วยเสียงได้แบบม้วนเดียวจบสรอพ

ในงาน I/O ปีที่แล้ว Google เปิดตัว Duplex เทคโนโลยีที่ช่วยให้ Google Assistant ทำงานได้เก่งกาจยิ่งขึ้น โดยโชว์ว่ามันสามารถเป็นผู้ช่วย SME ให้สามารถรับโทรศัพท์แทนเจ้าของร้านไปแบบอัตโนมัติ และเปิดตัวเป็นแพลตฟอร์ม CallJoy ในเวลาต่อมา

ปีนี้ Google เปิดตัวนวัตกรรมใหม่อีกในชื่อ Duplex on the web ทำให้ Google Assistant สามารถดำเนินการบางอย่างให้เสร็จสรรพได้ทันที โดยเราไม่จำเป็นต้องกดหน้าจอที่ปุ่มหรือคีย์บอร์ดต่อไป ตัวอย่างให้คลิปด้านบนแสดงให้เห็นว่า Duplex จะช่วยให้เราสามารถจองรถล่วงหน้าได้ทันที โดยไม่ต้องกรอกข้อมูลซ้ำ เพราะเรามีข้อมูบส่วนตัวเก็บไว้อยู่แล้ว แค่บอกว่าจะให้ทำอะไร ระบบก็พร้อมดำเนินการให้ทันที

ช่วยให้การใช้บริการต่างๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นกว่าเดิม ส่งผลดีต่อภาคธุรกิจต่างๆ อย่างเห็นได้ชัด

4. ตั้ง Voice command ในแบบของตัวเองได้ดีขึ้น

ข้อมูลของแต่ละคน ย่อมมีความแตกต่างกัน ศัพท์คำเดียวกัน อาจมีความหมายคนละอย่างกัน เช่น คำว่า “บ้านแม่” ของแต่ละคน ก็เป็นคนละข้อมูลและสถานที่กัน ทำให้ Google เปิดตัว ‘Personal References’ เพื่อให้เข้าใจบริบทการใช้งาน Voice Recognition ของแต่ละคนได้ใกล้เคียงกับภาษาที่มนุษย์เข้าใจ

เช่น ถามกูเกิลว่า “จากที่นี่ไปบ้านแม่ ใช้เวลาเท่าไหร่” กูเกิลก็จะเข้าใจได้ทันทีว่า เรากำลังจะเดินทางไปที่บ้านคุณแม่ คำนวนเวลาประกอบกับข้อมูลจราจร และตอบกลับเส้นทางมาให้ได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ กูเกิลยังเปิดเผยโปรเจค Euphonia ระบบ Voice Recognition สำหรับผู้พิการทางการออกเสียง เช่น ผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ที่ไม่สามารถออกเสียงเป็นภาษาได้อย่างชัดเจน ก็สามารถใช้เทคโนโลยีการสั่งงานด้วยเสียงได้เช่นกัน

5. Live Caption ขึ้นแคปชันได้ทันทีไม่ต้องใส่เอง

อีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่ถูกเปิดตัวในงาน I/O ปีนี้ คือ ‘Live Caption’ หรือระบบการทำซับไตเติ้ล (Subtitle) อัตโนมัติให้กับทุกคลิปวิดีโอ หรือแม้แต่ Podcast หากนำมาเล่นบนมือถือ Android ผู้ใช้งานจะสามารถเลือกเปิด Live Caption โชว์ซับไตเติ้ลได้อัตโนมัติ รองรับหลายภาษา

แน่นอนว่าฟีเจอร์ดังกล่าวเป็นผลดีต่อกลุ่มคนที่พิการทางการได้ยินที่มีจำนวนหลายล้านคนทั่วโลก สามารถเข้าถึงคอนเทนต์วิดีโอได้เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล รวมถึงบุคคลทั่วไปที่ต้องการจะดูวิดีโอแบบปิดเสียงในขณะเดินทาง ก็สามารถใช้ฟีเจอร์นี้ได้เช่นกัน

6. ให้ความสำคัญกับ ‘ข่าว’ และ ‘Podcast’ มากขึ้น

ปกติแล้วแอปและเว็บ Google News จะสามารถกดตรงปุ่ม View full coverage เพื่อดูว่าแต่ละสำนักข่าวรายงานเหตุกาารณ์ออกมาเป็นอย่างไร และดูได้ว่ามีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นมาต่อเนื่องได้อีกบ้าง ซึ่งหลังจากนี้ฟีเจอร์ดังกล่าวจะมาปรากฎบนหน้าค้นหาของ Google แล้ว

รวมถึง Google ประกาศว่า Podcast ที่เพิ่มเข้าแอป Google Podcast จะถูกเพิ่มเข้าสู่หน้าค้นหาของ Google ด้วยเช่นกัน ซึ่งก่อนหน้านี้ Google ถอด Podcast ที่อยู่ในระบบออกมาเป็น text ทำให้ค้นหาผ่านแอปดังกล่าวได้มาก่อนแล้ว

7. App Actions ในแอป Google เพิ่มขึ้นมาอีก 4 หมวด

งาน I/O ปีก่อน Google เปิดตัว App Actions ฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณสามารถกำหนดการทำงานของแอปหรือแพลตฟอร์มต่างๆ ให้เกิดขึ้นได้อัตโนมัติ ล่าสุดในงาน I/O ปีนี้ เปิด App Actions เพิ่มขึ้นมาอีก 4 หมวด ได้แก่ สุขภาพและการออกกำลังกาย (Health and fitness), การเงินและธนาคาร (Finance and banking), การสั่งอาหาร (Food ordering) และการเรียกรถจากบริการต่างๆ (Ridesharing)

นอกจากนี้ Google ยังเตรียมเปิดให้นักพัฒนาแอป สามารถสร้างคำสั่งเรียกใช้แอปของตัวเองผ่าน Google Assistant ได้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ คำสั่งที่คุณสามารถเรียกใช้ได้ก็เช่น

  • ส่งเงิน จ่ายบิล และดูยอดเงินในบัญชีได้
  • จองรถ(จากบริการ Ridesharing) ติดต่อคนขับ และตรวจสอบสถานะคนขับได้
  • สั่งอาหาร และตรวจสอบสถานะการสั่งอาหารได้
  • สั่งให้เรนิ่มหรือหยุดการบันทึกการออกกำลังกายได้
  • บันทึกการทานอาหารหรือดื่มเครื่องดื่มต่างๆ และตอบคำถามด้านโภชนาการได้

ดูคำสั่งอื่นๆ ที่สามารถพัฒนาได้ที่ลิงก์นี้

8. โฆษณา Google บนแอป จะไปโชว์ในฟีดหน้าแรกของ YouTube ได้

Google App Campaign (เดิมชื่อ Universal App Campaigns) เปิดตัววิธีการ bidding (เสนอซื้อ) โฆษณาใหม่จากเงินที่มีอยู่ โดยเปิดตัว Target Return On Ad Spend (tROAS) แบบอัตโนมัติ โดยอัลกอริทึมจะปรับราคาเสนอให้สูงขึ้นโดยอัตโนมัติ เพื่อแสดงโฆษณาที่มีแนวโน้มใช้เงินมากขึ้น โดยคำนวณจากยอดเงินที่ใช้ใน In-App Purchase ที่ได้ติดตั้งไปโดยจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่เดือนหน้าเป็นต้นไป

นอกจากนี้คลังโฆษณาของ YouTube อย่าง App ad inventory (บรรดา Publisher ที่เปิดให้เอาโฆษณามาลงแล้วเอาไปแสดงบนแอป) ตอนนี้เปิดให้นำโฆษณาจากตรงนี้ไปแสดงบนฟีดหน้าแรกของ YouTube และบน In-Stream Video สำหรับผู้ลงโฆษณา โดยในแคมเปญจะต้องมีแนวภาพแนวนอนหนึ่งอันและวีดีโออย่างน้อยหนึ่งตัว

9. เน้นสร้าง Privacy แบบจริงจัง เห็นข้อมูลผู้ลงโฆษณาได้มากขึ้น

ที่ผ่านมา Google ถูกตั้งคำถามถึงการนำข้อมูลการใช้งานอยู่บ่อยครั้ง แน่นอนว่าคำค้นหาของผู้ใช้ถือเป็นส่วนหนึ่งในการคำนวนผลเรื่องโฆษณา ไม่แปลกที่ผู้ใช้จะรู้สึกไม่มั่นใจถึงความปลอดภัยของข้อมูลที่ Google เก็บไว้ ทำให้ Google ขยับตัวเรื่องของความเป็นส่วนตัวด้วยการเพิ่มฟีเจอร์ใน Android Q และเพิ่มเรื่องของความโปร่งใสในการโฆษณา (Ads transparency) มากขึ้น

โดย Google ระบุว่ากำลังพัฒนา Extension สำหรับเว็บเบราเซอร์ โดยมันจะสามารถแสดงข้อมูลให้เห็นว่าโฆษณาตัวนี้มาจากบริษัทไหน รวมถึงจะบอกได้ว่าโฆษณาตัวนี้ใช้ข้อมูลอันไหนของผู้ใช้มาช่วยในการแสดงผลบ้าง โดยข้อมูลดังกล่าวจะเหมือนการกด ‘Why this ad’ บนโฆษณา แต่การดูผ่าน Extension ก็ถือว่าสะดวกสำหรับบุคคลทั่วไปอยู่พอสมควร

สรุป

Google ย้ำเสมอว่าภารกิจของบริษัท คือ การจัดการข้อมูลให้เกิดประโยชน์ และให้ทุกคนบนโลกสามารถเข้าถึงได้ ถึงวันนี้ มีผู้คนประมาณครึ่งโลก ที่สามารถเข้าถึงโลกออนไลน์ได้ แต่ภารกิจของกูเกิล ยังเหลือหนทางอีกยาวไกล แม้ว่าเทคโนโลยีหลายอย่างจะพัฒนามาไกลมาก แต่ปัจจุบันกระแสเรื่องของความเป็นส่วนตัว ก็ยังเป็นประเด็นที่หลายบริษัท รวมถึง Google ยังหาจุดสมดุลของเรื่องความเป็นส่วนตัวให้ผู้บริโภคและผู้ประกอบการอยู่ร่วมกันได้ต่อไป

ที่มา : Vantage (1) (2), Search Engine Journal (1) (2) (3) และ Google (1) (2) (3)

 
Source: thumbsup

from:https://thumbsup.in.th/2019/05/9-things-marketeers-and-you-should-know-from-google-io-2019/

[บทความแปล] ล้วงลึก Android M OS ตัวใหม่กับฟีเจอร์ต่างๆที่ได้รับการพัฒนา

ต้นทาง: [บทความแปล] ล้วงลึก Android M OS ตัวใหม่กับฟีเจอร์ต่างๆที่ได้รับการพัฒนา

หลังจากงานสัมมนา I/O ของ Google ที่ผ่านมา ในที่สุด Google ก็เริ่มจะมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับ Android OS ตัวใหม่เพิ่มเติมออกมาแล้ว อย่างที่เราทราบกันคือมันมีโค้ดเนมว่า M ซึ่งล่าสุดนั้นทาง Google ได้ปล่อยฉบับ Preview ของ M ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ ซึ่งแน่นอนว่าเวอร์ชั่นใหม่ก็ย่อมมีของเล่นใหม่ๆมาให้ได้ลองเล่นกันอยู่เสมอ เราลองไปดูกันดีกว่าครับว่า มันจะมีฟีเจอร์อะไรที่มีการเปลี่ยนแปลงและได้รับปรับปรุงไปบ้างครับ

gsmarena_001

การอนุญาติสำหรับแอพต่างๆ

ในส่วนนี้เหมือนว่า Android M จะมีการปรับปรุงให้คล้ายๆกับ iOS นะครับ โดยในการจะดาวน์โหลดแอพนั้นจะไม่จำเป็นต้องถามพาสเวิร์ดเราซ้ำทุกครั้งไป เพราะจากนี้เราจะตั้งค่าให้ใส่พาสเวิร์ดเพียงครั้งแรกในการดาวน์โหลดได้แล้ว

นอกจากนั้นเรายังสามารถเข้าไปตรวจสอบในส่วนนี้ได้ผ่านทาง “Setting” ได้เลยครับ ว่าเราจะอนุญาติหรือไม่อนุญาติแอพไหน อันไหนสำคัญและมีความลับเราก็ตั้งค่าไว้ว่าให้ถามหาพาสเวิร์ดทุกครั้งก็ได้ครับ

gsmarena_002

หน้า Chrome ที่ปรับแต่งได้

อย่างที่เราเจอกันบ่อยๆคือ แอพหลายๆแอพในทุกวันนี้จะมีการบังคับให้เราจำเป็นต้องโดดไปโดดมาระหว่างแอพกับหน้าเบราเซอร์ หรือไม่ก็มีการใส่หน้าเว็บเข้ามาในแอพเลย ทำให้เรารู้สึกว่ามันติดๆขัดๆอย่างบอกไม่ถูกใช่ไหมล่ะครับ

gsmarena_003

ดังนั้นทีมพัฒนา Chrome จึงปิ๊งไอเดียขึ้นมาครับ แต่อาจจะเป็นการแก้ปัญหาที่แปลกซักหน่อย โดยการทำให้ Chrome มีหน้าตาเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของแอพไปซะเลย พูดง่ายๆว่าหน้า Chrome จะสามารถปรับแต่งหน้าตาได้ โดยขึ้นอยู่กับผู้ออกแบบแอพนั้นๆครับว่าออกแบบมาเป็นแบบไหน จากนั้นก็จัดการปรับแต่งหน้าตา Chrome ให้กลมกลืนได้นั่นเอง

ลิ้งค์ต่างๆใน App

สำหรับแอพบางแอพที่มีการเชื่อมต่อไปกับบางอย่างที่ไมใช่เบราเซอร์นั้น ใน Android M จะเพิ่มความปลอดดภัยขึ้นมามากขึ้นในการตรวจสอบว่าเจ้าสิ่งที่แอพนี้จะส่งเราไปนั้นเป็นที่ๆอันตรายหรือไม่ โดย Android M จะทำการตรวจสอบผ่านโค้ดของเว็บเซอฟเวอร์นั้นๆครับ พูดง่ายๆว่ามันช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้มากขึ้นนั่นเองครับ

การใช้จ่ายผ่าน Android Pay

ตอนนี้ Google ได้เพิ่มความปลอดภัยให้กับการใช้จ่ายผ่าน Apple Pay มากขึ้น ซึ่งจริงๆแล้วสำหรับฟีเจอร์ Android Pay นั้นก็ถือว่าเป็นฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด ด้วยการใช้เซนเซอร์ NFC ในการสแกนเพื่อชำระค่าบริการต่างๆ

gsmarena_004

โดยการอัพเดทใน Android M นั้นจะช่วยให้ข้อมูลของผู้ซื้ออย่างเรา รวมทั้งข้อมูลบัตรเครดิตของเราเป็นความลับมากขึ้น โดยผู้ขายจะไม่สามารถเห็นรายละเอียดต่างๆของเราได้นั่นเองครับ

เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือเพื่อความปลอดภัยในการใช้จ่าย

จริงๆแล้วฟีเจอร์นี้ก็ไม่ใช่สิ่งใหม่แต่อย่างไรครับเพียงแต่ตอนนี้ Android M จะสามารถใช้ฟีเจอร์อย่างการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเพิ่มความปลอดภัยในการชำระค่าบริการต่างๆได้แล้ว และฟีเจอร์นี้จะเป็นฟีเจอร์อย่างเป็นทางการของ Android เลยครับ นั่นหมายถึงว่าในอนาคตทุก OS ที่ออกมาใหม่ก็จะต้องมีฟีเจอร์นี้อยู่แน่นอน

gsmarena_005

นอกจากที่ฟีเจอร์นี้จะถูกเพิ่มเข้ามาอย่างเป็นทางการแล้ว Google ยังออกแบบมาให้ฟีเจอร์นี้ง่ายสำหรับนักพัฒนาอีกด้วยครับ

พลังงานและการชาร์จ

ใน Android M นั้นจะมีการนำ Project Volta มาใช้ ซึ่งถือเป็นก้าวแรกในการเพิ่มความยาวนานของแบตเตอรี่ให้สามารถอยู่ได้นานขึ้นครับผ่านการใช้งานด้วย Doze โดยการทำงานของมันนั้นจะใช้เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวในการเช็คว่า ตอนนี้โทรศัพท์กำลังวางอยู่นิ่งๆหรือเปล่า

ซึ่งหากพบว่าโทรศัพท์วางอยู่เฉยๆมันก็จะทำการปรับให้แอพต่างๆที่เปิดทิ้งไว้หรือแอพที่ทำงานอยู่เบื้องหลังไม่จำเป็นต้องทำงานมากครับ ซึ่งจะทำให้ประหยัดพลังงานของแบตเตอรี่ไปได้เยอะเลยทีเดียว ทั้งนี้หาก่าผู้ใช้ต้องการใช้งานก็ยังคงใช้งานได้ปกตินะครับ ไม่มีอาการหน่วงหรือดีเลย์เกิดขึ้น

 gsmarena_006

อย่างผลลัพธ์ที่แสดงออกมาให้เห็นกันชัดๆก็คือ การใช้งาน Android M ใน Nexus 9 นั้นกลับสามารถทำให้แบตเตอรี่อยู่ได้นานขึ้นถึง 2 เท่าจากปกติที่ใช้งาน Lollipop ครับ นอกจากนี้ในส่วนของการชาร์จนั้น Google ได้ทำการเพิ่ม USB Type C เข้าไปจึงทำให้สามารถชาร์จแบตได้เร็วขึ้น 3-5 เท่าเลยทีเดียว

Google Now ฉลาดขึ้น

สำหรับ Google Now นั้นตอนนี้ได้ถูกพัฒนาให้มีความฉลาดเพิ่มมากขึ้น โดยมันถูกปรับปรุงให้เข้าใจถึงธรรมชาติของภาษามากขึ้นนั่นเองครับ ฉะนั้นเราจะสามารถถามคำถามแบบเป็นธรรมชาติได้มากขึ้น เรียกได้ว่าระบบตัวนี้ฉลาดพอที่จะเข้าใจความหมายที่เราจะสื่อได้แล้วครับ

ยกตัวอย่างเช่น หากเรากำลังเปิดเพลงของ Skrillex อยู่ แล้วเราอยากรู้ว่าคนร้องชื่อจริงชื่ออะไร เราก็ถามไปได้เลยว่า “เค้าชื่ออะไรนะ?” มันก็จะสามารถหาคำตอบมาให้เราได้เลย โดยเข้าใจคำว่า “เค้า” ที่เราพูดว่าหมายถึงใครหรือสิ่งไหนครับ

การแชร์สิ่งต่างๆทำได้ง่ายขึ้น

สำหรับการแชร์เนื้อหาต่างๆระหว่างแอพบน Android นั้นจริงๆแล้วสามารถทำได้อย่างง่ายดายอยู่แล้วด้วย Direct Share แต่ใน Android M นั้นมันจะสามารถเรียนรู้และจดจำได้ว่า แอพไหนที่เรามักจะแชร์เนื้อหาบ่อยๆจากนั้นมันจะทำการนำมาไว้ด้านบนสุดของลิสท์ ยกตัวอย่างเช่นถ้าเราแชร์รูปไปใน Facebook บ่อยๆมันก็จะนำ Facebook ขึ้นมาอยู่เป็นอันดับแรกเพื่อความสะดวกของผู้ใช้มากยิ่งขึ้นนั่นเองครับ

gsmarena_002 (1)

ปรับปรุงการเลือกข้อความและหน้าต่างเครื่องมือ

สำหรับการเลือกข้อความใน Android นั้น จริงๆแล้วไม่ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเท่าไรนักในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้เจ้าเครื่องมือที่โผล่ขึ้นมาหลังจากที่เราทำการเลือกข้อความแล้วมักจะทำได้ไม่ดีนัก แต่ตอนนี้ใน Android M ได้มีการปรับเปลี่ยนมาให้ดูง่ายขึ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ในส่วนของการเลือกข้อความจากปกติที่จะเลือกเป็นรายตัวอักษรไป ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นการเลือกเป็นรายคำแทน ซึ่งก็จะทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานไดง่ายขึ้นนั่นเองครับ

gsmarena_003 (1)

App Standby

อย่างที่เราได้พูดถึง Doze ไปในช่วงของพลังงานและการชาร์จแบตไว้ว่า Doze นั้นจะทำให้อุปกรณ์ของเราหลับลึกขึ้น หากไม่มีการใช้งานเป็นเวลานานซึ่งก็ทำให้ประหยัดแบตเตอรี่ไปได้มาก แต่นอกจาก Doze แล้ว App Standby ยังเป็นอีกฟีเจอร์หนึ่งที่จะมีหน้าที่ในการตัดการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตในแอพนั้นๆที่เราได้เปิดไว้ รวมถึงหยุดส่งถ่ายข้อมูล ซึ่งก็ก็คือการเปลี่ยนแอพไปอยู่ในโหมดสแตนด์บายแทน แต่ถ้าเราเสียบปลั๊กสายชาร์จเพื่อชาร์จแบต แอพก็จะทำการเชื่อมต่อข้อมูลโดยอัตโนมัติเพราะไม่จำเป็นต้องประหยัดแบตเตอรี่อีกต่อไปนั่นเองครับ

ปรับปรุงเรื่องเสียงการกลับมาของโหมด Silent

มีผู้ใช้ไม่น้อยเลยครับที่ต้องอารมณ์เสียกับการไม่มีโหมด Silent หรือเงียบเสียงใน Lollipop แต่สำหรับ Android M นั้นโหมด Silent ได้กลับมาแล้ว สามารถทำได้ด้วยการกดปุ่มลดเสียงค้างไว้จนทำให้สามารถปิดเสียงได้นั่นเองครับ นอกจากนี้หากกดปุ่มลดเสียงซ้ำอีกครั้งจะเป็นการเปิดโหมดสั่นได้อีกด้วย และอย่าลืมว่าถึงแม้ว่าเราจะอยู่ในโหมด Silent นาฬิกาปลุกก็จะดังอยู่เหมือนเดิมนะครับ

gsmarena_004 (1)

การตั้งค่า”ห้ามรบกวน”แบบรวดเร็ว

ใน Android M นั้นจะมีการเพิ่มปุ่ม Do not disturb เข้ามาใน Notification ซึ่งเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะตั้งเป็นโหมด Silent หรือ Alarm only หรือแม้กระทั่ง Priority only ได้เลยครับ โดยในการปรับแต่งนั้นสามารถทำได้ในหน้าของ Notification หรือเข้าไปที่การตั้งค่าก็ได้เช่นกันครับ

gsmarena_005 (1)

ปรับ SD card ให้กลายเป็นเหมือนพื้นที่ภายในตัวเครื่อง

ตอนนี้หากเราทำการใส่ SD card เข้าไป Android M จะทำการฟอร์แมทและเข้ารหัส จากนั้นเราจะเห็นว่าเจ้า SD card กลายเป็นเหมือนหน่วยคความจำภายในเครื่องไม่ได้ถูกใส่เข้าไปภายหลังอีกต่อไปครับ ดังนั้นการติดตั้งแอพหรือการใส่ข้อมูลส่วนตัวลงไปใน SD card จะทำได้ง่ายกว่าที่เคยครับ

แอพต่างๆจะได้รับการ Auto Backup

ใน Android M จะทำการแบ็คอัพหรือสำรองข้อมูลแอพต่างของเราไว้ใน Google Account ของเราให้โดยอัตโนมัติ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลต่างๆจะหายไปง่ายๆแล้วครับ

รองรับการเชื่อมต่อกับปากกา Stylus

ใน OS นี้จะปรับปรุงเรื่องการเชื่อมต่อกับปากกา Stylus ให้สามารถรองรบการใช้งานได้แล้วครับ

รองรับการเชื่อมต่อแบบ Hotspot 2.0 Release 1

รองรับการทำงาน Hotspot 2.0 ในอุปกรณ์อย่่าง Nexus 6 และ Nexus 9 โดยจะทำการเชื่อมต่อให้โดยอัตโนมัติหากอยู่ในพื่นที่ที่สามารถเชื่อมต่อได้ครับ

โหมดหน้าจอ 4K

Android M นั้นจะรองรับการทำงานร่วมกับหน้าจอความละเอียด 4K ได้แล้ว

รองรับการทำงานร่วมกับ USB On-The-Go

ก่อนหน้านี้จะเห็นได้ว่าหากเราทำการเชื่อมต่อกับ USB OTG นั้นจำเป็นที่จะต้องมีแอพที่ใช้ในการจัดการกับการเชื่อมต่อ เพราะว่าตัว OS เองนั้นจะไม่มีการแสดงอะไรขึ้นมาแจ้งเตือนแต่อย่าใด ซึ่งใน Android M ได้ปรับปรุงตรงจุดนี้ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ จึงไม่จำเป็นต้องเปิดแอพอื่นๆในการใช้งานตรงจุดนี้อีกต่อไป

gsmarena_006 (1)

ปรับปรุงแอพเครื่องคิดเลข

Google ได้ทำการปรับปรุงตรงจุดนี้เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยครับ ยกตัวอย่างเช่นกับสลับค่า sin cos tan แต่ยังคงไม่มีปุ่ม % ดังเคยครับ

gsmarena_007

การเปลี่ยนแปลงของ UI

แน่นอนว่าใน Android M นั้นจะมีการเปล่ยนแปลง UI ซึ่งอย่างแรกที่เราสังเกตุเห็นได้ง่ายๆคือ เจ้าถาดแอพแบบใหม่ที่ก่อนหน้านี้จะแสดงแอพต่างๆเรียงตามตัวอักษร แต่ตอนี้จะเป็นการแสดงแอพโดยเรียงจากความบ่อยที่เราเข้าใช้งานแทนครับ นอกจากนี้ก็ยังมีกล่องค้นหาให้เราไว้ใช้ในการค้นหาแอพต่างๆในเครื่องเราอีกด้วยครับ

gsmarena_008

ในส่วนของ Lockscreen ได้มีการปรับเปลี่ยนในส่วนของรูปแบบของตัวอักษรของนาฬิกา อีกทั้งยังเปลี่ยนนจากปุ่มโทรออก บริเวณด้านซ้ายล่างมาเป็นปุ่มไมโครโฟนเพื่อใช้สั่งการด้วยเสียง

gsmarena_009

หากเราทำการเปิดหน้า Google Now on tap ขึ้นมาก็จะเห็นได้ว่า UI ของตัวแอพนั้นก็มีการเปลี่ยนแปลงไปเช่นกันครับ ตอนนี้ Now on tap ในเวอร์ชั่นนักพัฒนายังไม่สามารถใช้งานได้ แต่การคลิกที่ปุ่มค้นหาและพิมพ์เพื่อค้นหายังสามารถทำได้อยู่ครับ

ในส่วนของอนิเมชั่นต่างๆใน Android M นั้นดูจะเป็นอะไรที่ยิ่งกว่า ใน Lollipop ซะอีกนะครับ ซึ่งหากท่านใดที่ไม่ชอบอนิเมชั่นเหล่านี้ตั้งแต่ใน Lollipop ก็คาดว่าน่าจะไม่ชอบเหล่าอนิเมชั่นที่เกิดขึ้นใน Android M เช่นกัน

และนี่ก็คือทั้งหมดครับสำหรับการมาของ Android M ในเวอร์ชั่น Preview ซึ่งคาดว่าอาจจะมีอะไรแอบซ่อนอยู่มากกว่านี้ครับ แต่จงจำไว้อย่างนึงนะครับว่าใน Preview นั้นยังไม่ใช่ตัวเต็มหรือตัวที่จะปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการครับ เพราะหลังจากที่ทาง Google ได้รับฟีดแบ็คถึงข้อบกพร่องต่างๆที่เกิดขึ้นในเวอร์ชั่นนี้ทาง Google ก็จะทำการนำไปปรับปรุงแก้ไขก่อนเพื่อให้ได้มาซึ่ง OS ที่สมบูรณ์ที่สุดก่อนจะเริ่มปล่อยให้ใช้งานจริงครับ

สำหรับใครที่คิดว่าจะนำไปใช้งานในชีวิตประจำวันนั้นคาดว่าน่าจะไม่เหมาะเท่าไรนะครับ เพราะแอพหลายๆแอพนั้นยังมีข้อมผิดพลาดอยู่มากรวมทั้งในบางครั้งที่ทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นก็ไม่สามารถทำได้ดีเท่าที่ควร ฉะนั้นหากว่าท่านไม่มีอุปกรณ์สำรองเราขอแนะนำว่าให้ใจเย็นๆอีกนิดน่าจะดีกว่าครับผม

 

ที่มา : Gsmarena

ที่มา – iPhone, iPad, Android, Windows Phone 8 เกมรีวิว แอพพลิเคชั่นรีวิว วิจารณ์ มือถือ ข่าวสารล่าสุด – APPDISQUS –

from:http://www.appdisqus.com/2015/05/30/ndroid_m_detailed_the_little_things-news.html

ลือ! ภาพหลุดบริการรูปภาพตัวใหม่จาก Google แยกตัวจาก Google+

เมื่อหลายวันที่ผ่านมาทางเราเคยนำเสนอข่าวที่ว่าทาง Google อาจมีการปล่อยบริการใหม่เกี่ยวกับรูปภาพโดยเป็นบริการที่แยกตัวออกมาจากทาง Google+ ตอนนี้เหมือนว่าบริการที่ว่านั้นจะเริ่มออกมาให้เห็นรำไรกันแล้วครับ

googlegalaxynexusrearaam

โดยล่าสุดได้มีภาพหลุดของการแคปหน้าจอเจ้าแอพตัวใหม่ที่ว่านี้ ออกมาให้เห็นกันแล้ว โดยคาดการณ์ว่าแอพเกี่ยวกับรูปภาพตัวนี้ น่าจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานสัมมนา I/O ที่จะจัดขึ้นในเวลาอันใกล้นี้ครับ

googlephotosappleakaam

โดยภาพหลุดที่ว่านี้ถูกโพสขึ้นในเว็บไซต์ของ Android Police โดยในภาพนั้นแสดงให้เราเห็นถึงฟีเจอร์ต่างๆไม่ว่าจะเป็น Search, Face-matching, Sharing, Backup และ Sync นอกจากนี้ภายในแอพยังประกอบไปด้วยวิธีการสั่งการแบบใหม่ เช่น การกดที่รูปค้างไว้จากนั้นก็ลากนิ้วของเราไปเพื่อที่จะเลือกหลายๆรูปภาพพร้อมกันได้ครับ

และอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจภายในแอพนั้นจะเป็นในส่วนของผู้ช่วยภายในแอพที่จะสามารถจัดเก็บรูปของเราให้อัตโนมัติและทำอนิเมชั่นให้เราอัตโนมัติเช่นกัน นอกจากนี้มันยังสามารถที่จะช่วยเราสร้างอัลบัมรูปภาพหรือทำการนำเสนอแบบ Story รวมทั้งรวมภาพต่างๆไว้ในภาพเดียวกันให้เราได้ อีกทั้งมันยังมีความสามารถที่จะช่วยให้เราตัดภาพตามขนาดที่เราต้องการได้เหมาะสมขึ้นอีกด้วยล่ะครับ

googlephotosappleakaam2

ภาพหลุดเจ้าแอพที่ว่านี้น่าจะเป็นการทำงานบน Lollipop มากกว่าจะเป็นการทำงานบน Android เวอร์ชั่นอื่นๆครับ สำหรับการออกแบบ UI ของแอพนี้รวมทั้งอีกหลายๆฟีเจอร์ที่แสดงให้เราเห็นในภาพนั้นดูจะค่อนข้างคล้ายกับแอพอื่นๆที่ Google เคยปล่อยออกมา แต่อย่างไรก็ตามสำหรับแอพ Photo ที่แยกออกมาจาก Google+ นี้ ทาง Google น่าจะมีการออกมาชี้แจงแถลงไขรายละเอียดเพิ่มเติมภายในงาน I/O 2015 ที่จะจัดขึ้นในซานฟรานซิสโกนี้ครับ

 

ที่มา : Androidme

from:http://www.appdisqus.com/2015/05/25/googles-new-standalone-photos-app-leaks-out-in-screenshots.html