คลังเก็บป้ายกำกับ: iFixit

ซัมซุงประกาศนโยบาย Right-to-Repair เตรียมขายชิ้นส่วนและอะไหล่ผ่าน iFixit

Samsung Electronics America ประกาศนโยบาย “ซ่อมง่าย” ลูกค้าที่ซื้อสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตสามารถซ่อมเองได้ โดยจะเปิดขายอะไหล่ ชิ้นส่วน เครื่องมือซ่อม และคู่มือการซ่อมให้บุคคลทั่วไป

สินค้าชุดแรกภายใต้นโยบายซ่อมเองได้คือ Galaxy S20, S21, Galaxy Tab S7+ เริ่มต้นช่วงฤดูร้อนกลางปีนี้ ชิ้นส่วนที่ซัมซุงระบุคือ ชุดหน้าจอพร้อมแบตเตอรี่ กระจกหลัง และพอร์ตชาร์จไฟ ส่วนชิ้นส่วนและสินค้ารุ่นอื่นๆ จะตามมาในอนาคตต่อไป

ซัมซุงยังประกาศความร่วมมือกับ iFixit ในการกระจายชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่จำเป็น แต่ยังไม่ระบุรายละเอียดว่ามีอะไรบ้าง

ประเด็นเรื่องสิทธิในการซ่อม (Right-to-Repair) ได้รับความสนใจขึ้นมากในช่วงหลัง และก่อนหน้านี้ Microsoft กับ Valve ก็มีความร่วมมือแบบเดียวกันกับ iFixit มาแล้ว

ที่มา – Samsung, iFixit

No Description

ภาพจาก iFixit

from:https://www.blognone.com/node/127881

iFixit ชำแหละเครื่อง Mac Studio เผยให้เห็นว่า SSD สามารถเปลี่ยนได้ แต่อัปเกรดไม่ได้

หลังจากที่ทาง Max Tech ได้ชำแหละเครื่อง Mac Studio กันไ […] More

from:https://www.iphonemod.net/ifixit-teardown-mac-studio-with-ssd-slot.html

iFixit เผย Samsung Galaxy S22 และ S22 Ultra ยังซ่อมยาก โดยเฉพาะการเปลี่ยนจอและแบตเตอรี่

เจ้าของมือถือเรือธงซีรีส์ใหม่เอี่ยมอ่องอย่าง Samsung Galaxy S22 Series หากคิดว่าพอใช้ไปนาน ๆ แล้วแบตเตอรี่เกิดเสื่อมขึ้นมาค่อยแกะเครื่องเปลี่ยนเอง หรือจะเอาไปหาช่างข้างนอกทำให้ อาจต้องคิดใหม่…เพราะทาง iFixit ได้ทดสอบแงะเครื่องของ Galaxy S22 และ Galaxy S22 Ultra พบว่ามันมีความง่ายในการซ่อมเครื่องอยู่ในระดับต่ำ แถมยังบอกด้วยว่าการแกะเครื่องเองมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้หน้าจอแตกร้าวได้อีก

iFixit ที่ได้ทดสอบแงะเครื่องของทั้ง Galaxy S22 และ S22 Ultra ได้บอกว่าทั้งคู่แม้ว่าจะมีรูปร่างหน้าตาที่ต่างกัน แต่ตัวเครื่องด้านในบอกเลยว่าแกะยากพอ ๆ กัน โดยเฉพาะตรงส่วนหน้าจอและแบตเตอรี่ที่ใช้กาวติดเอาไว้อย่างแน่นหนา

โดยหากว่าต้องการแงะ 2 ส่วนนั้นออกมาต้องใช้ปืนพ่นความร้อนเข้าช่วย และยังต้องใช้เวลาพอสมควรเพราะติดกาวไว้แบบแน่นมาก โดยเฉพาะตรงหน้าจอหากงัดออกมาแบบไม่ระวังสุด ๆ รับรองว่ากระจกจอร้าว หรือแตกแน่นอน (แต่ถ้าจะงัดเพื่อเปลี่ยนหน้าจอที่เสียอยู่แล้ว อาจไม่ต้องระวังมาก…จะแตกก็แตกไป)

ตรงแบตเตอรี่ก็ไม่ใช่ว่าจะใช้แค่ปืนพ่นความร้อนแล้วจะหลุดออกมาง่าย ๆ นะ แต่ยังต้องใช้ ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์หยอดลงไปบริเวณที่มีกาวติดอยู่เพื่อให้มันแข็งตัวและร่อนออก จากนั้นใช้ตัวดูดสูญญากาศดึงออกด้วยแรงที่มากพอสมควรกว่าจะออกมาได้

สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ อันนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเพราะใช้การยึดด้วยน้อตเท่านั้น สามารถเอาไขควงมาขันออกได้ง่าย ๆ เลย

สุดท้ายแล้วทาง iFixit ก็เลยให้คะแนนความง่ายในการแงะเครื่องของ Galaxy S22 Series เอาไว้ที่ 3 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนนเท่านั้น โดยอุปสรรคในการแกะที่ยากสุด ๆ ก็อย่างที่บอกไปแล้วว่าอยู่ตรงหน้าจอกับแบตเตอรี่นั่นเอง

iFixit ยังบอกต่อด้วยว่าการแงะมือถือดังกล่าว แม้จะเป็นช่างที่มีประสบการณ์ก็ยังถือว่ายากอยู่ดี เพราะฉะนั้นผู้ใช้งานทั่วไปที่พอมีฝีมืออยู่บ้างก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้ตัวเครื่องชำรุดได้ครับ

 

ที่มา : iFixit

from:https://droidsans.com/samsung-galaxy-s22-s22-ultra-still-hard-to-repair/

ซ่อมให้ง่าย Valve ประกาศขายชิ้นส่วนของ Steam Deck และ Index VR ผ่าน iFixit

Valve ยังเดินหน้านโยบายเปิดกว้างในการปรับแต่ง-ดัดแปลง Steam Deck ต่อไป หลังเปิดไฟล์ 3D Cad ให้ดาวน์โหลดกันตามสบาย ล่าสุดก็ประกาศว่าจะขายชิ้นส่วนของ Steam Deck ผ่าน iFixit ด้วย (นอกจากชิ้นส่วนของ Steam Deck จะยังมีชิ้นส่วนของแว่น Valve Index ด้วยเช่นกัน) โดยรายละเอียดเพิ่มเติมจะประกาศตามมาในภายหลัง

โมเดลธุรกิจของ iFixit มีขายทั้งเครื่องมือ (เช่น ไขควง อุปกรณ์สำหรับแกะเครื่อง) และชิ้นส่วน (เช่น บอร์ด ฮาร์ดดิสก์ แรม พัดลม พาวเวอร์ซัพพลาย) ซึ่งปัจจุบัน iFixit มีขายชิ้นส่วนของอุปกรณ์หลากหลายประเภท ตั้งแต่สมาร์ทโฟน เกมคอนโซล พีซี ไปจนถึงโดรน

ความร่วมมือของ Valve กับ iFixit ย่อมเป็นผลดีกับผู้บริโภค และล่าสุด iFixit ก็ออกวิดีโอแกะเครื่อง Steam Deck มาให้ดูกัน (คะแนนซ่อมง่าย 7/10)

No Description

ที่มา – Valve via xda

from:https://www.blognone.com/node/127219

Microsoft ร่วมมือกับ iFixit ขายอุปกรณ์สำหรับซ่อม Surface โดยเฉพาะ

ไมโครซอฟท์ประกาศความร่วมมือกับ iFixit โดยไมโครซอฟท์จะขายเครื่องมือซ่อม Surface ผ่าน iFixit.com อย่างไรก็ตามการขายนี้จะให้เฉพาะ กลุ่มผู้ให้บริการซ่อมระดับ Pro ของ iFixit, ตัวแทนให้บริการของไมโครซอฟท์, Microsoft Experience Centers และลูกค้าไมโครซอฟท์ระดับองค์กรเท่านั้น

เครื่องมือเฉพาะสำหรับ Surface ที่ไมโครซอฟท์ออกแบบ และให้ iFixit เป็นผู้ผลิต มี 3 อย่าง ได้แก่ เฟรมสำหรับประกอบหน้าจอ, ตัวครอบแบตเตอรี่กันการสัมผัสกับเมนบอร์ด และเครื่องมือแกะหน้าจอ

สุดท้าย iFixit ย้ำว่าความร่วมมือเป็นการขายอุปกรณ์ซ่อมแซม เพื่อสนับสนุนแนวทาง Right to Repair แต่ไม่มีผลกับการให้คะแนนซ่อมแซมเวลา iFixit แกะอุปกรณ์แต่อย่างใด

ที่มา: Windows Central

alt="iFixit"

from:https://www.blognone.com/node/126297

iFixit แกะ MacBook Pro 2021 แล้ว เบื้องต้นพบแบตถอดง่าย เปลี่ยนได้สะดวก

iFixit โพสต์บล็อกยั่วน้ำลายการแกะ MacBook Pro 2021 แล้ว แม้จะยังไม่เสร็จสิ้นทุกขั้นตอน แต่เขาพบว่าคราวนี้แบตเตอรี่ MacBook Pro ถอดง่ายกว่าเดิมมาก แทนที่จะนำไปไว้ส่วนท้ายของบทความเต็ม เขาจึงนำมาให้ดูก่อน

iFixit พบว่าแบตเตอรี่ไม่ได้อยู่ใต้เมนบอร์ดแล้ว แต่อยู่ด้านนอก แยกเป็น 4 ก้อน 2 ก้อนด้านซ้ายและขวามีแถบช่วยดึงแบตเตอรี่ออก (pull tab) ทำให้ถอดได้ง่ายขึ้น ส่วนสองก้อนตรงกลางที่ไม่มีแถบช่วยดึง เมื่อถอด touch pad ออก ก็มีช่องให้ดันแบตเตอรี่ออกได้ง่าย การเปลี่ยนแบตเตอรี่ของ MacBook Pro 2021 น่าจะสะดวกกว่าเดิม

ส่วนการเปลี่ยนแปลงอื่นภายในเครื่อง และการถอดชิ้นส่วนแบบละเอียด น่าจะต้องรอติดตามบทความแบบเต็มของ iFixit เร็วๆ นี้

No Description

ที่มา – iFixit

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/125530

iFixit แกะ Apple Watch Series 7 แล้ว พบหน้าจอแบบใหม่ และแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นเล็กน้อย

iFixit ได้แกะ Apple Watch Series 7 แล้ว พบว่าแบตเตอรี่ในรุ่น 45 มม. มีขนาด 1.189Wh เพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบกับรุ่น 44 มม. ใน Series 6 ส่วนรุ่น 41 มม. แบตเตอรี่ 1.094Wh เพิ่มขึ้น 6.8% จากรุ่น 40 มม. ใน Series 6 ซึ่งในมุมมองของ iFixit พบว่าแบตเตอรี่ที่เพิ่มมานี้เพื่อชดเชยความสว่างหน้าจอที่มากขึ้น ไม่ได้เพิ่มระยะเวลาการใช้งาน

ประเด็นอื่นที่พบคือพอร์ตสำหรับตรวจสอบปัญหาที่ถูกตัดออกไป ซึ่งช่วยให้การป้องกันฝุ่นละออง-น้ำ ดีขึ้น

ในการแกะ Apple Watch ครั้งนี้ iFixit ได้อดีตวิศวกรของแอปเปิล 3 คน ที่ทำงานอยู่ Instrumental มาช่วยเหลือ ซึ่งได้ให้ความเห็นว่าเทคโนโลยีหน้าจอแบบใหม่ OLED on-cell touch น่าจะเป็นสาเหตุหลักให้การผลิตทำได้ยากและช้า

iFixt ให้คะแนนซ่อมแซมครั้งนี้ 6 เต็ม 10 เนื่องจากสามารถเปลี่ยนสลับหน้าจอและ Taptic Engine ทำงานได้ดีจากการทดสอบ

ที่มา: iFixit

alt="iFixit Apple Watch Series 7"

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/125418

iFixit ให้คะแนนความยากง่ายของการซ่อม iPhone 13 Pro แค่ 5/10 หลังเปลี่ยนจอเอง Face ID ใช้ไม่ได้

ถึงคิวของ iFixit ที่จะนำ iPhone 13 Pro รุ่นใหม่ (เปิดให้จองในไทยวันนี้) มาชำแหละดูไส้ในต่าง ๆ ว่ามีฮาร์ดแวร์อะไรบ้าง จัดวางเป็นรูปแบบแบบไหน เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนอย่าง iPhone 12 Pro เบื้องต้นพบว่าการจัดวางแบตเตอรี่เปลี่ยนไป ยังมีวงแหวนแม่เหล็ก MagSafe แบบเดิม และแผงชิ้นส่วนเซ็นเซ็นกล้องและลอจิกบอร์ด

รอบนี้ iPhone 13 ย้ายสายเซ็นเซอร์ต่าง ๆ ไปอยู่เกือบด้านบนของตัวเครื่อง ซึ่งอาจจะทำให้ขาดได้ระหว่างการซ่อม โดย Taptic Engine ที่ควบคุมการสั่นสะเทือนต่าง ๆ ของระบบตัวเครื่องมีขนาดเล็กลง แต่เมื่อเทียบกับชิ้นส่วนอื่น ๆ รอบข้าง กลับมีขนาดที่หนากว่าเยอะ ชั่งแล้วได้ 6.3 กรัม หนักกว่ารุ่นก่อนหน้า (4.8 กรัม) เล็กน้อย

ลำโพงด้านบนของ iPhone 13 Pro รอบนี้ไม่ได้อยู่ติดกับหน้าจอแล้ว เลื่อนขึ้นไปอยู่บริเวณด้านบนของตัวพาแนลแทน ทำให้การเปลี่ยนจออาจจะทำได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ดี ทาง iFixit แอบสังเกตเห็นว่า Apple ได้ใส่พาแนลจอ OLED ที่เชื่อมในส่วนของจอสัมผัสเข้ากับเลเยอร์ของจอ OLED แทน คาดว่าในส่วนนี้น่าจะเข้ามาช่วยลดต้นทุน ความหนา และจำนวนสายต่าง ๆ ไม่ต้องพันกันให้ยุ่งยาก

สาเหตุที่ Apple สามารถทำให้รอยบาก หรือ Notch ของ iPhone 13 Pro และรุ่นอื่น ๆ เล็กลง เป็นเพราะบริษัทฯ ได้ควบรวมเซ็นเซอร์สำคัญ ๆ ของ Face ID เข้ามาด้วยกัน ทำให้ฮาร์ดแวร์ชิ้นดังกล่าวมีขนาดเล็กลง อีกทั้งในตอนนี้ Apple ได้นำ Face ID แยกออกมาจากชิ้นส่วนพาแนลจอด้วย ให้มาอยู่บนรอยบากกับกล้องหน้าแทน

iFixit เผยว่า แม้ว่า Face ID กับพาแนลจอจะคนละชิ้นส่วนกัน แต่การเปลี่ยนหน้าจอ (โดย 3rd party) จะทำให้ฟีเจอร์ Face ID ไม่สามารถใช้งานได้ ดังนั้นการซ่อมดังกล่าวต้องทำผ่านพนักงานของ Apple หรือตัวแทนที่ได้รับการรับรองจากบริษัทฯ เท่านั้น

แบตเตอรี่ของ iPhone 13 Pro รอบนี้เปลี่ยนจากสี่เหลี่ยมมุมฉาก มาเป็นรูปตัว L มีความจุ 3,095 mAh โดย iFixit บอกว่า พวกเขาได้ลองทดสอบเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว ทุกอย่างใช้งานได้ปกติ แม้ว่าจะมีลือ ๆ กันว่า การเปลี่ยนแบตเตอรี่บน iPhone 13 ปีนี้ไม่สามารถทำได้ (ด้วยตัวเอง)

iPhone 13 Pro Max ใช้ RAM ของ SK Hynix แบบ LPDRR4X ขนาด 6GB และมีชิป power management และ UWB ที่ Apple ออกแบบขึ้นมาเอง NAND จาก Kioxia โมดูล Front-End จาก Broadcom และ NFC จาก NXP Semiconductor นอกจากนี้ยังมีโมเด็ม SDX60M ที่ iFixit เชื่อว่าเป็นตัวเดียวกับตัวรับสัญญาณ DRR868 5G RF ของ Qualcomm นั่นเอง

โดยตามที่นักวิเคราะห์สุดแม่นอย่าง Ming-Chi Kuo บอกเอาไว้ โมเด็มดังกล่าวจะเข้ามาทำให้ iPhone 13 สามารถใช้งานระบบโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมได้ ส่งข้อความ โทรเข้าออกได้แม้ไม่มีสัญญาณ ทว่าในงานเปิดตัว California Streaming ทาง Apple ก็ไม่ได้ระบุรายละเอียดอะไรเอาไว้อย่างชัดเจน

สุดท้ายแล้ว iFixit ตัดสินใจให้คะแนนความยากง่ายของการซ่อมแซม iPhone 13 Pro เอาไว้ที่ 5/10 เท่านั้น เนื่องจากปัญหา Face ID ใช้งานไม่ได้ หากแกะเปลี่ยนจอมั่วซั่วนั่นเอง

 

ที่มา: iFixit | MacRumors

from:https://droidsans.com/iphone-13-pro-ifixit-teardown/

iFixit แกะ iPhone 13 Pro แล้ว ยืนยันปัญหา เปลี่ยนจอเองจะใช้ Face ID ไม่ได้

iFixit ได้แกะ iPhone 13 Pro โดยพบประเด็นที่น่าสนใจหลายอย่างที่แตกต่างไปจากใน iPhone 12 ประเด็นแรกคือชิ้นส่วนของ Face ID ที่รวมเป็นโมดูลเดียวกัน ทำให้รอยบากหน้าจอเล็กลง และทำให้ส่วนของ Face ID แยกออกมาจากชิ้นส่วนหน้าจอ ประเด็นนี้ทำให้ iFixit มองว่า Face ID จึงไม่ทำงานหากมีการเปลี่ยนชิ้นส่วนหน้าจอจากร้านภายนอก ที่มีข่าวก่อนหน้านี้ เพราะทำให้ชิ้นส่วนไม่เข้าคู่กัน

แบตเตอรี่มีขนาด 3,095mAh เพิ่มขึ้นจาก iPhone 12 Pro ที่ 2,815mAh โดยแบตเตอรี่เป็นรูปตัว L แตกต่างจากปีก่อนที่เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า และแรมมีขนาด 6GB

iFixit ให้คะแนนซ่อมแซมที่ 5 เต็ม 10 ชิ้นส่วนหลักสามารถเปลี่ยนซ่อมได้ แต่หักคะแนนตรงกระจกหลังที่เปลี่ยนยาก และประเด็นการเปลี่ยนหน้าจอที่ทำให้ใช้ Face ID ไม่ได้

ที่มา: iFixit

alt="iFixit iPhone 13 Pro"

from:https://www.blognone.com/node/124992

FTC โหวตเอกฉันท์บังคับใช้ Right-to-Repair ห้ามผู้ผลิตกีดกันการซ่อมแซมอุปกรณ์ไอที

จากประเด็น โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ สั่ง FTC หรือ คณะกรรมการด้านการค้าของสหรัฐร่างกฎ Right-to-Repair ล่าสุดคณะกรรมการทำการโหวตเป็นเอกฉันท์ 5-0 บังคับใช้กฎ Right-to-Repair

โดย FTC จะหาแนวทางแก้ปัญหา รวบรวมความคิดเห็นและข้อร้องเรียนจากสาธารณะ ตลอดจนทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายของรัฐและผู้กำหนดนโยบาย เพื่อออกแบบกฎ Right-to-Repair

Chair Lina Khan ประธาน FTC กล่าวเมื่อเร็วๆ นี้ว่า การจำกัดสิทธิ์ซ่อมอุปกรณ์ เป็นการเพิ่มต้นทุนให้แก่ผู้บริโภคมหาศาล ปิดโอกาสทางธุรกิจสำหรับร้านซ่อมอิสระ สร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่จำเป็น

No DescriptionImage by Bruno /Germany from Pixabay

ด้าน iFixit เว็บแนะนำและจัดอันดับความยากง่ายของการซ่อมแซมอุปกรณ์ ออกแถลงการณ์สนับสนุนมติของ FTC ระบุว่า FTC เป็นตัวกำหนดทิศทางการค้าของประเทศ และเป็นเวลานานเกินไปแล้วที่ผู้ผลิตกลั่นแกล้งผู้บริโภคและกีดกันร้านซ่อมรายเล็กให้เลิกกิจการ นโยบายใหม่ของ FTC จะสามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้

ที่มา – Engadget

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/123832