คลังเก็บป้ายกำกับ: iFixit

Logitech จับมือ iFixit เผยแพร่คู่มือการซ่อม ขายปลีกชิ้นส่วนอะไหล่ให้ซ่อมเองได้

Logitech เป็นบริษัทฮาร์ดแวร์รายล่าสุดที่ออกมาผลักดันเรื่อง “ซ่อมง่าย” (Right to Repair) โดยจับมือกับ iFixit เป็นช่องทางขายอะไหล่สินค้า เพื่อให้ผู้ใช้สั่งซื้อไปซ่อมเองแบบไม่ต้องผ่านศูนย์บริการ

ในเบื้องต้น สินค้ากลุ่มแรกที่ Logitech ร่วมมือกับ iFixit คือเมาส์ตระกูล MX โดยจะเปิดเอกสารคู่มือการซ่อม เทคนิคการแก้ปัญหาที่พบบ่อย และเปิดให้สั่งอะไหล่จากเว็บ iFixit ได้โดยตรง ส่วนสินค้าอิ่นๆ เช่น คีย์บอร์ด หูฟัง ลำโพง เว็บแคม ตอนนี้เปิดเฉพาะเอกสารคู่มือการซ่อม แต่ยังไม่มีอะไหล่ขาย ใครสนใจตามไปดูที่ หน้าเพจ Logitech บน iFixit

Logitech บอกว่านโยบายใหม่นี้จะช่วยยืดอายุสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ให้ยาวนานขึ้น ลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ (e-waste) ตามแนวทาง Design for Sustainability (DfS) ของบริษัท

ก่อนหน้านี้ iFixit มีความร่วมมือแบบเดียวกันกับหลายแบรนด์ดัง เพื่อเผยแพร่คู่มือการซ่อม-ขายปลีกอะไหล่ให้บุคคลทั่วไป เช่น ซัมซุง, กูเกิล, ไมโครซอฟท์, Valve

ที่มา – Logitech, iFixit

No Description

from:https://www.blognone.com/node/133883

HMD เปิดตัว Nokia G22 มากับจุดเด่นซ่อมด้วยตัวเองได้พร้อมอะไหล่ หน้าจอ 90Hz ชิป Unisoc T606 แบตยาวนานถึง 3 วัน

HMD Global เปิดตัว Nokia G22 โทรศัพท์รุ่นใหม่มีจุดขายซ่อมด้วยตัวเองได้ เพื่อยืดอายุการใช้งานและลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ลง โดยมาพร้อมอะไหล่ชิ้นสำคัญผ่านความร่วมมือกับ iFixit ขายแยกมาให้ตั้งแต่วันแรกที่วางขาย ทั้งหน้าจอ, ฝาหลัง, แบตเตอรี่, และพอร์ตชาร์จ ที่ผู้ใช้งานสามารถซ่อมได้ด้วยตัวเอง ไม่จำเป็นต้องไปศูนย์ และมากับสเปค Unisoc T606 หน้าจอขนาด 6.52 นิ้ว และอัตรารีเฟรช 90Hz ภายในงาน Mobile World Congress 2023

เป็นมือถืออีกรุ่นที่เราไม่ค่อยได้เห็นกันเท่าไหร่ในช่วงเวลานี้ โดยร่วมมือกับ iFixit โชว์ จุดขายมากับการซ่อมเครื่องด้วยตัวเองได้ แถมมีอะไหร่ให้ครบ ไม่จำเป็นต้องเข้าศูนย์ให้เสียเวลา เพื่อมุ่งเน้นความยั่งยืนในการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำให้วัสดุฝาหลังที่ใช้เป็นพลาสติกรีไซเคิล 100% ควบคู่กับการรับประกันและการอัปเดตนานถึง 3 ปี มาพร้อมอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนานถึง 3 วัน ตัวเครื่องจะใช้เวลาประมาณ 5 นาทีในการเปลี่ยนแบต และเปลี่ยนหน้าจอจะใช้เวลาประมาณ 20 นาทีเท่านั้น

มาต่อกันที่สเปคภายใน ตัวโทรศัพท์เป็นเครื่องหน้าจอ 6.52 นิ้ว ความละเอียด HD+  720×1200 พิกเซล อัตราการรีเฟรช 90Hz มีการป้องกัน Gorilla Glass 3 ส่วนกล้องหน้าความละเอียด  8MP มาคู่กับการสแกนลายนิ้วมือที่ด้านข้าง พร้อมกับชิป Unisoc T606 ระดับเริ่มต้น ประกบคู่มากับ Cortex A75 2 คอร์ , Cortex A55 2 คอร์ และ RAM 4GB  ความจุสูงสุด 64GB

ซึ่ง Nokia G22 มีกล้องหน้า 8 ล้านพิกเซล และกล้องหลัก 50MP ประกอบไปด้วยกล้องหลัง 3 ตัว , กล้องมาโคร 2MP ,  เซนเซอร์กล้องจับความลึก 2MP , รองรับ NFC มีช่องหูฟัง ใส่ microSD ได้ กันน้ำระดับ IP52 น้ำหนักเครื่อง 195 กรัม ใช้ระบบปฏิบัติการ Android 12  ออกแพตช์ความปลอดภัยให้ 3 ปีกับอีก 2 เวอร์ชั่น แบตเตอรี่ 5,050mAh รองรับการชาร์จแบบมีสาย 20W

ราคาและการวางจำหน่าย

จะเริ่มขายในสหราชอาณาจักรตั้งแต่ 8 มีนาคมนี้ ราคา 149.99 ปอนด์ หรือประมาณ 6,300 บาท และวางขายแถบยุโรปบางประเทศ ที่ราคา 179 ยูโร แต่ในประเทศอื่น ๆ ยังไม่ได้มีการระบุชัดเจน และราคาอะไหล่ตอนนี้ นี้ พอร์ตชาร์จ 19.95 ยูโร, จอภาพ 49.95 ยูโร, แบตเตอรี่ 24.95 ยูโร และฝาหลัง 24.95 ยูโร มีด้วยกัน 3 สีได้แก่ชาร์โคล , สีเขียว และสีชมพู ถ้าเข้ามาในบ้านเราเมื่อไหร่จะรีบมาอัปเดตให้เพิ่มเติมทันที

 

ที่มา : Nokia G22

 

 

from:https://droidsans.com/hmd-nokia-g22-repairable-smartphone-ifixit-sustainability/

Samsung ขายอะไหล่ Galaxy S22 Series ให้ลูกค้าซื้อไปซ่อมเองได้แล้ว

หลังจากที่เงียบหายไปนานสำหรับ Self-Repair Program ที่ทาง Samsung ได้จับมือกับเว็บสอนซ่อมชื่อดัง iFixit ขายอะไหล่มือถือให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ซื้อไปซ่อมด้วยตนเองไปเมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ซึ่งในตอนนั้นเองก็ได้วางจำหน่ายอะไหล่เพียงแค่รุ่น Galaxy S20 Series, Galaxy S21 Series และแท็บเล็ต Galaxy Tab S7+ เท่านั้น ไม่ได้อัปเดตรุ่นใหม่อีกเลยหลายเดือน ในที่สุดวันนี้ก็มีข่าวดีเพราะทาง Samsung ได้เริ่มขายอะไหล่ Galaxy S22 Series แล้ว

หน้าเว็บของ iFixit ได้มีการอัปเดตอะไหล่แท้ที่ได้รับการรับรองจากทาง Samsung ของ Galaxy S22, Galaxy S22+, Galaxy S22 Ultra ให้ผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ได้เลือกซื้อกันไปซ่อมเองตามกฎ Right-to-repair โดยมีให้เลือกตั้งแต่ แบตเตอรี่ และกระจกหน้าจอ, กระจกหลังเครื่อง และพอร์ตชาร์จ USB-Type C ซึ่งแต่ละชุดอะไหล่มีราคา (ยังไม่รวมภาษี) ดังนี้

ราคาอะไหล่แท้ Galaxy S22 จาก iFixit

Galaxy S22 Replacement Parts Prices

  • อะไหล่พอร์ตชาร์จ: ราคาพร้อมชุดซ่อม 66.99 เหรียญ (2,217 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 59.99 เหรียญ (1,985 บาท)
  • กระจกหลังตัวเครื่อง: ราคาพร้อมชุดซ่อม 66.99 เหรียญ (2,217 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 59.99 เหรียญ (1,985 บาท)
  • ชุดจอแสดงผล พร้อมแบตเตอรี่: ราคาพร้อมชุดซ่อม 166.99 เหรียญ (5,526 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 159.99 เหรียญ (5,294 บาท)

ราคาอะไหล่แท้ Galaxy S22+ จาก iFixit

Galaxy S22+ Replacement Parts Prices

  • อะไหล่พอร์ตชาร์จ: ราคาพร้อมชุดซ่อม 66.99 เหรียญ (2,217 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 59.99 เหรียญ (1,985 บาท)
  • กระจกหลังตัวเครื่อง: ราคาพร้อมชุดซ่อม 66.99 เหรียญ (2,217 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 59.99 เหรียญ (1,985 บาท)
  • ชุดจอแสดงผล พร้อมแบตเตอรี่: ราคาพร้อมชุดซ่อม 189.99 เหรียญ (6,287 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 182.99 เหรียญ (6,056 บาท)

ราคาอะไหล่แท้ Galaxy S22 Ultra จาก iFixit

Galaxy S22 Ultra Replacement Parts Prices

  • อะไหล่พอร์ตชาร์จ: ราคาพร้อมชุดซ่อม 66.99 เหรียญ (2,217 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 59.99 เหรียญ (1,985 บาท)
  • กระจกหลังตัวเครื่อง: ราคาพร้อมชุดซ่อม 66.99 เหรียญ (2,217 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 59.99 เหรียญ (1,985 บาท)
  • ชุดจอแสดงผล พร้อมแบตเตอรี่: ราคาพร้อมชุดซ่อม 239.99 เหรียญ (7,942 บาท) / ไม่มีชุดซ่อม 232.99 เหรียญ (7,710 บาท)

ซึ่งนอกจากจะมีอะไหล่ Galaxy S22 Series ให้เลือกซื้อไปซ่อมเองแล้ว Samsung และ iFixit ยังได้ขายอะไหล่โน้ตบุ๊คอย่าง Galaxy Book Pro และ Galaxy Book Pro 360 ให้เลือกซื้อไปซ่อมด้วย แต่อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าโปรแกรม Self-Repair เปิดให้ใช้งานเฉพาะในสหรัฐเท่านั้น ในบ้านเราถ้าเครื่องปัญหาก็ยังคงต้องพึ่งศูนย์ซ่อมอยู่นะ

 

ที่มา: PhoneArena, iFixit

from:https://droidsans.com/samsung-sell-galaxy-s22-series-replacement-parts-through-ifixit/

iFixit แกะ iPad 10th Gen แล้ว ยืนยันเป็น iPad Air 4 ปรับสเป็ก

iFixit ได้แกะ iPad 10th Gen ซึ่งเป็น iPad รุ่น entry level ตัวแรกที่แสดงผลแบบเต็มหน้าจอ ย้าย Touch ID ไปไว้ที่ปุ่มด้านข้าง

โดย iFixit สรุปภาพรวมว่า iPad 10th Gen ก็คือ iPad Air 4 ที่วางขายปี 2020 มีสเป็กที่ใกล้เคียงกันทุกอย่าง ต่างเพียงกล้องหน้าที่เพิ่มจาก 7MP เป็น 12MP และย้ายตำแหน่งเพื่อรองรับ Center Stage ในแนวนอน

ประเด็นสำคัญของ iPad 10th Gen คือการต้องใช้งานร่วมกับ Apple Pencil 1 แต่ตัวเครื่องเป็นพอร์ต USB-C แล้ว จึงต้องใช้อะแดปเตอร์แปลงในการชาร์จ ขณะที่ iPad Air 4 รองรับ Apple Pencil 2 ที่ชาร์จไร้สายได้ ซึ่งจากการแกะของ iFixit ก็พบคำตอบ ว่าเพราะกล้องย้ายตำแหน่งมาแนวนอน ซึ่งเดิมเป็นตำแหน่งคอยล์ชาร์จไร้สาย iPad รุ่นนี้เลยทำงานกับ Apple Pencil 2 ไม่ได้นั่นเอง

ที่มา: iFixit

No Description

Topics: 

from:https://www.blognone.com/node/131707

iFixit ชำแหละ iPad Gen 10 ไขข้อสงสัย ดีไซน์เหมือน iPad Air 4 แต่ทำไมใช้ Apple Pencil 2 ไม่ได้?

iPad Gen 10 กลายเป็นที่ถกเถียงบนโลกอินเทอร์เน็ตจากดีไซน์ใหม่ล่าสุดที่ปรับให้เหมือนเครื่องรุ่นพี่ขึ้น พร้อมเปลี่ยนพอร์ตเชื่อมต่อให้เป็น USB Type-C แต่ดั้น…ใช้ปากกา Apple Pencil 2 ไม่ได้ซะงั้น ทำให้ผู้ใช้งานต้องจำใจใช้ Apple Pencil 1 ที่ยังมีหัวชาร์จแบบ Lightning อยู่ และต้องหาอะแดปเตอร์มาแปลงให้วุ่นวาย แต่ในเมื่อเปลี่ยนดีไซน์ใหม่แล้วทำไม Apple ไม่ใส่แถบชาร์จปากกาแบบแม่เหล็กมาให้รองรับ Apple Pencil 2 ล่ะ? iFixit จึงได้ปล่อยคลิปแงะตัวเครื่อง เพื่อไขข้อสงสัยให้ทุกคนได้กระจ่างกัน

iFixit เว็บไซต์สอนซ่อมตัวเครื่องด้วยตัวเองได้ปล่อยคลิปแงะ iPad Gen 10 เป็นที่เรียบร้อย โดยสาเหตุที่ทำให้ Apple Pencil 2 ไม่รองรับใน iPad รุ่นใหม่นี้เป็นเพราะดีไซน์กล้องหน้าที่ถูกจัดวางใน Layout แนวนอนแบบใหม่ ซึ่งดันไปตรงกับตำแหน่งที่มักจะใส่แผงวงจรชาร์จไร้สายของ Apple Pencil 2 พอดี แถมยังเลื่อนตำแหน่งวงจรชาร์จขึ้นไปไม่ได้เพราะติดปุ่มเพิ่มลดเสียง เลื่อนลงไปก็ไม่ได้เพราะติดเลนส์กล้องหน้า ซึ่งถ้าเลื่อนหลบจะทำให้ปากกาเลยตัวเครื่องออกมาจนน่าเกลียด จนกลายเป็นที่มาว่าทำไมถึงต้องเลือกใช้ Apple Pencil 1 ที่ชาร์จด้วยวิธีแปลก ๆ นั่นเอง

คลิปชำแหละเครื่องครั้งนี้ยังเผยให้เห็นด้วยว่า iPad Gen 10 มาพร้อมกับแบตเตอรี่แบบ Two Cell ที่มีความจุรวมกันที่ขนาด 7,606 mAh แถมยังเปลี่ยนได้ง่ายขึ้นกว่าในรุ่นอื่น ๆ เพราะใช้กาวยางยึดแบตเตอรี่แบบ Stretch-Release ไม่เหมือน iPad Gen 9 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่ใช้กาวแบบ Glued-in แปะไปเลยตรง ๆ แต่อย่างไรก็ตามมีข้อดี ก็ต้องมีข้อเสียเพราะพอร์ต USB-Type C ของ iPad Gen 10 นั้น ถูกบัดกรียึดไปกับเมนบอร์ดโดยตรง ซึ่งทำให้ยากและต้องใช้ความชำนาญในการเปลี่ยนเป็นอย่างมาก

ในส่วนของบอดี้จะเรียกได้ว่าเป็นรุ่นดีไซน์ใหม่ก็เรียกได้อย่างไม่เต็มปากเพราะ iPad Gen 10 แทบจะลอกดีไซน์ของ iPad Air 4 มาทั้งดุ้น ทั้งเซ็นเซอร์ Touch ID ความจุแบตเตอรี่มีขนาดเดียวกันหมด สำหรับใครที่ไม่อยากสร้างขยะอิเล็กทรอนิกส์ให้โลกเยอะ ลองหา iPad Air 4 มือสองสภาพดี ๆ สักเครื่องน่าจะดีกว่า

 

ที่มา: iFixit, MacRumors

from:https://droidsans.com/ifixit-tears-down-ipad-10/

iFixit ชำแหละ iPad รุ่นที่ 10 ไม่รองรับ Apple Pencil 2 เพราะถูกแทนที่ด้วยกล้องหน้าแนวนอน

iFixit ชำแหละ iPad รุ่นที่ 10 พร้อมยืนยันว่า ถึงแม้ตัวเ […] More

from:https://www.iphonemod.net/ifixit-teardown-ipad-10-landscape-camera.html

Samsung แอบจดสิทธิบัตรแอป Self Repair Assistant สอนลูกค้าซ่อมมือถือด้วยตัวเอง

เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา Samsung ได้ร่วมจับมือ iFixit ออกโปรแกรมขายอะไหล่มือถือและแท็บเล็ตให้ลูกค้าซ่อมตัวเครื่องเอง โดยมีอะไหล่อุปกรณ์ 3 รุ่นอย่าง Galaxy S20 Series, Galaxy S21 Series และแท็บเล็ต Galaxy Tab S7+ ออกมาขายอย่างเป็นการ และล่าสุด Samsung ได้เตรียมเดินหน้าต่อคนเดียว พัฒนาแอป “Self Repair Assistant” ที่จะช่วยให้การซ่อมตัวเครื่องด้วยตัวเองทำได้ง่ายขึ้น

Samsung ได้ย่องจดสิทธิบัตรแอป “Self Repair Assistant” กับหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านการจดทะเบียนสิทธิบัตรการประดิษฐ์ในสหรัฐอเมริกา (USPTO) โดยให้คำอธิบายแอปไว้ว่า เป็นแอปสำหรับให้คำปรึกษาเกี่ยวกับข้อมูลการติดตั้ง และการซ่อมบำรุงสมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, สมาร์ทวอทช์, และหูฟัง ด้วยตนเอง ซึ่งมีรูปโลโก้สีน้ำเงิน พร้อมรูปฟันเฟือง และประแจแนบมาในใบสิทธิบัตรด้วย

ซึ่งดูจากคำอธิบายในใบสิทธิบัตรแล้ว คาดว่า Samsung อาจถึงคราวแยกทางกับ iFixit ที่ให้บริการอะไหล่ และวิธีการซ่อมในขณะนี้ ซึ่งก็มีสัญญาณบ่งบอกมาสักพัก เพราะรายชื่อมือถือที่มีอะไหล่บริการนั้นไม่ได้อัปเดตเลยนับตั้งแต่เปิดตัวออกมา โดยคาดว่า Samsung อาจพัฒนาบริการนี้ให้เป็นของตัวเองแบบเต็มตัว ซึ่งโปรแกรม Self Repair นี้ อาจให้บริการทั้งอะไหล่ ครอบคลุมทุกอุปกรณ์ รวมถึงนาฬิกาอัจฉริยะ และหูฟังไร้สายด้วย

ถึงแม้ว่า Samsung จะได้จดสิทธิบัตรแอปที่ว่านี้จริง แต่ก็ไม่ได้การันตีว่าแอปนี้จะได้ออกมาลืมตาดูโลก แต่ก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับนักซ่อมมือถือ เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณที่ดีที่ Samsung จะให้อิสระในการซ่อมเครื่องมากขึ้น ไม่ต้องขึ้นตรงกับศูนย์บริการอีกต่อไป

 

ที่มา: SamMobile, AndroidPolice 

from:https://droidsans.com/samsung-self-repair-assistant-app-patent/

iFixit ลองแกะ Surface Pro 9 แกะง่ายขึ้นมาก คะแนนซ่อมง่ายเพิ่มจาก 1/10 เป็น 7/10

อุปกรณ์ตระกูล Surface เคยขึ้นชื่อเรื่องการแกะซ่อมเองได้ยาก และได้คะแนนซ่อมง่ายจาก iFixit ระดับต่ำเรี่ยดิน (0 หรือ 1 คะแนน) อยู่พักใหญ่ๆ

ช่วงหลังๆ ไมโครซอฟท์พยายามแก้ปัญหานี้ และถึงขั้นร่วมมือกับ iFixit ขายอุปกรณ์ที่ใช้ซ่อม Surface ด้วย

ล่าสุด iFixit ลองแกะ Surface Pro 9 ที่เพิ่งเปิดตัว และพบว่าปรับปรุงขึ้นจากเดิมมาก (Surface Pro 7 ได้ 1/10 คะแนน) เริ่มตั้งแต่แบตเตอรี่ไม่ถูกแปะกาว แต่เปลี่ยนเป็นใช้น็อตยึดแทน, ใช้ชิ้นส่วนหลายอย่างร่วมกับรุ่นเก่าเพื่อหาอะไหล่ได้ง่ายขึ้น, การแกะจอภาพทำได้ง่ายขึ้น ลดโอกาสจอแตกตอนแกะออก ฯลฯ โดยรวมแล้วได้คะแนนซ่อมง่ายถึง 7/10

iFixit ยังเปิดเผยว่าก่อนไมโครซอฟท์ออก Surface Pro 9 ก็ส่งทีมฮาร์ดแวร์มานั่งคุยกับทีมของ iFixit รับคำแนะนำต่างๆ ไปปรับปรุง ไมโครซอฟท์ยังบอกว่าจะเผยแพร่คู่มือการซ่อม Surface ภายในสิ้นปี 2022 และเริ่มขายชิ้นส่วนอะไหล่ช่วงต้นปี 2023 ซึ่ง iFixit บอกว่าจะส่งผลให้คะแนนซ่อมง่ายเพิ่มขึ้นด้วย

ที่มา – iFixit

from:https://www.blognone.com/node/131469

iFixit ชม! iPhone 14 ซ่อมง่าย (7/10) ถอดจอ, แกะฝาหลังได้นับจาก iPhone 4s

iFixit ชำแหละ iPhone 14 พร้อมออกโรงชม! เป็นรุ่นซ่อมง่าย […] More

from:https://www.iphonemod.net/ifixit-iphone-14-teardown.html

iFixit ให้คะแนน iPhone 14 แกะเครื่องซ่อมเองง่ายกว่าเดิม ส่วนรุ่นพี่ iPhone 14 Pro ยังซ่อมยากอยู่

แม้ว่า iPhone 14 จะมีรูปร่างหน้าตาภายนอกที่แทบไม่ต่างไปจาก iPhone 13 Series เลย แต่จริง ๆ แล้ว Apple ได้ทำการจัดวางตัวเครื่องด้านในใหม่ทำให้มันสามารถซ่อมแซมได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม โดยเว็บไซต์สอนซ่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าด้วยตัวเองอย่าง iFixit ได้ทดลองชำแหละเครื่อง iPhone 14 ออกมาให้ดูกันเรียบร้อย และให้คะแนนความง่ายในการซ่อมเครื่องเองอยู่ที่ 7 เต็ม 10 คะแนน…ส่วนรุ่นพี่อย่าง iPhone 14 Pro ยังคงซ่อมยากเหมือนกับ iPhone 13 Pro เหมือนเดิม

iFixit บอกว่าเครื่องในของ iPhone 14 ได้รับการออกแบบใหม่ให้สามารถงัดแงะได้ง่ายกว่าเดิมมาก เหตุผลส่วนนึงก็น่าจะมาจากนโยบาย Self Service Repair ที่จะให้ลูกค้าสามารถซื้ออะไหล่พร้อมเช่าเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซ่อมเครื่องด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องเอาเครื่องเข้าศูนย์

iPhone 14 มีฝาหลังที่ใช้วัสดุเป็นกระจกเหมือนเดิมแต่ว่ากาวที่ใช้ติดกับเฟรมเครื่องมีความเหนียวน้อยลง ก็เลยสามารถแงะออกมาได้ง่ายกว่าเดิม ไม่เสียงต่อการแตกร้าวเหมือนก่อน และเมื่องัดฝาหลังออกมาได้แล้ว ก็จะมีน้อตอีก 2 ตัว ซึ่งพอขันออกมาแล้วก็จะถอดหน้าจอออกได้ง่าย ๆ เลย

โดย 2 ส่วนนี้แหละ ที่ปกติแล้วจะเป็นปัญหาในการงัดแงะเครื่องมาตลอด เพราะมีความเสี่ยงสูงมากที่จะทำกระจกหน้าจอกับกระจกหลังเครื่องแตกได้ สำหรับชิ้นส่วนอื่น ๆ พอเปิดฝาหลังเข้าไปได้แล้วก็ไม่มีอะไรยากแล้ว ทำให้ iPhone 14 กลายเป็นมือถือจาก Apple ที่ซ่อมแซมด้วยตัวเองได้ง่ายที่สุดในรอบหลายปีจนได้คะแนนความง่ายในการซ่อมไปที่ 7 เต็ม 10 คะแนน

แต่รุ่นพี่ iPhone 14 Pro กลับไม่เป็นอย่างนั้น เพราะ iFixit บอกว่าการออกแบบตัวเครื่องภายในของมือถือรุ่นนี้ยังเหมือนกับ iPhone 13 Pro ไม่ได้ถูกออกแบบมาใหม่เหมือนกับรุ่นน้อง iPhone 14 ทำให้คะแนนความง่ายในการซ่อมแซมเครื่องยังคงเท่าเดิมอยูที่ 6 เต็ม 10 คะแนนครับ

ที่มา: iFixit, 2

from:https://droidsans.com/iphone-14-scored-7-out-of-10-repairability/