คลังเก็บป้ายกำกับ: I-MOBILE_IQ_II

เปรียบเทียบสมาร์ทโฟน 5 รุ่น ในช่วงราคา 4,000 – 6,000 บาท ส่งท้ายปี 2015

เผลอแป้บเดียวก็เข้าช่วงปลายปีอีกแล้ว ใกล้ช่วงปีใหม่ใครกำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาเบ๊าเบามาเป็นของขวัญก็เร่เข้ามาชมกันก่อนเลยจ้า เพราะระยะเวลา 12 เดือนที่ผ่านมานี้ ทุกเดือนก็จะมีสมาร์ทโฟนทั้งรุ่นเล็ก รุ่นใหญ่จากหลายต่อหลายค่าย ออกมาเปิดตัวอวดโฉมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งวันนี้เราก็ได้คัดเลือกสมาร์ทโฟนรุ่นเล็กที่มีการเผยโฉมช่วงครึ่งปีหลังในราคา 4,000 – 6,000 บาทมาเปรียบเทียบกันซักหน่อย โดย 5 รุ่นที่เราคัดเลือกมานี้ก็ได้แก่ i-mobile IQ II, Wiko Pulp FAB 4G, Meizu M2 Note, OPPO Mirror 5 Lite และ Lenovo VIBE P1m ยังไงก็มาดูสเปคและเปรียบเทียบกันดีกว่าว่าจุดแข็งและจุดอ่อนของแต่ละรุ่นจะดีและด้อยกว่ากันแค่ไหน

ตารางเปรียบเทียบสเปคสมาร์ทโฟนช่วงราคา 4,000 – 6,000 บาท

 

  i-mobile IQ II Wiko Pulp FAB 4G Meizu M2 Note OPPO Mirror 5 Lite Lenovo VIBE P1m
           
ราคา 4,444 บาท 4,990 บาท 5,990 บาท 5,990 บาท  4,990 บาท
OS Android 5.1 (Lollipop) Android 5.1 (Lollipop) Android 5.1 (Lollipop) + Flyme 4.5 Android 5.1 (Lollipop) + ColorOS 2.1 Android OS 5.1 (Lollipop)
CPU Qualcomm Snapdragon 410 (MSM8916) Quad-core 1.2 GHz Qualcomm Snapdrago 410 (MSM8916) Quad-Core, 1.2 GHz, Cortex-A53 MediaTek MT6753 1.3GHz octa-core MediaTek MT6582 Quad-core 1.3GHz Mediatek MT6735P Quad-core 1.0 GHz
GPU Adreno 306 Adreno 306 Mali T720MP3 Mali-400MP2 Mali-T720
หน่วยความจำ RAM 1GB +
ROM 16GB + microSD สูงสุด 32GB
RAM 2GB
+ ROM 16GB + รองรับ microSD สูงสุด 64GB
RAM 2GB
+ ROM 16GB + รองรับ microSD สูงสุด 128GB
RAM 1GB + ROM
16GB + รองรับ microSD สูงสูด 32 GB
RAM 2GB + ROM 16GB + รองรับ MicroSD สูงสุด 32 GB
หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว แบบ ONCELL ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล IPS ขนาด 5.5 นิ้ว, ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล IPS ขนาด 5.5 นิ้ว, ความละเอียด Full HD 1920 x 1080 พิกเซล IPS ขนาด 5 นิ้ว, ความละเอียด qHD 960 x 540 พิกเซล IPS ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด HD 1280 x 720 พิกเซล
SIM 2 ซิม (microSIM) 2 ซิม ( microSIM) 2 ซิม (nanoSIM) 2 ซิม (microSIM และ nanoSIM) 2 ซิม (microSIM)
เครือข่ายที่รองรับ 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 (ทุกเครือข่าย) 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 (ทุกเครือข่าย) 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 (ทุกเครือข่าย) 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 (ทุกเครือข่าย) 2G GSM 850 / 900 / 1800 / 1900 (ทุกเครือข่าย)
  3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100 (ทุกเครือข่าย)
  4G LTE 1800 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 4G LTE 1800 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 4G LTE 1800 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 4G LTE 1800 / 2100 (ทุกเครือข่าย) 4G LTE 1800 / 2100 (ทุกเครือข่าย)
การเชื่อมต่อ Bluetooth 4.0, A2DP, microUSB 2.0 Bluetooth 4.0, microUSB 2.0 Bluetooth 4.0, microUSB 2.0 Bluetooth 4.0, A2DP, microUSB 2.0 Bluetooth 4.1, A2DP, LE, microUSB 2.0, USB On-The-Go
กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซล + BSI + Autofocus + LED Flash 13 ล้านพิกเซล + Autofocus + LED flash 13 ล้านพิกเซล + f/2.2, Autofocus, LED Flash 8 ล้านพิกเซล + LED Flash + Autofocus 8 ล้านพิกเซล + Auto Focus + LED Flash
    บันทึกวิดีโอ Full HD   บันทึกวิดีโอ Full HD  
กล้องหน้า 2 ล้านพิกเซล 5 ล้านพิกเซล + เลนส์มุมกว้าง 5 ล้านพิกเซล + f/2.0 + เลนส์มุมกว้าง 69° 5 ล้านพิกเซล 5 ล้านพิกเซล
เสียง ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. + ฟังวิทยุได้ ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม. ลำโพงและช่องหูฟัง 3.5 มม.
Sensors Accelerometer, Light, Proximity Accelerometer, Proximity, Light, Magnetic Hall Effect, Gravity,
IR proximity, Gyroscope, Ambient light,
Touch, Digital compass
Distance, Light, G-sensor, E-compass Accelerator, Proximity
GPS GPS, A-GPS GPS, A-GPS GPS, A-GPS, Glanass, Digital compass A-GPS A-GPS
แบตเตอรี Li-Po 2,500 mAh (ถอดแบตได้) Li-Po 2,820 mAh (ถอดแบตไม่ได้) Li-Po 2,420 mAh (ถอดแบตไม่ได้) Li-Po 2,420 mAh (ถอดแบตไม่ได้) Li-Po 4,000 mAh (ถอดแบตไม่ได้)
ขนาดและน้ำหนัก 140.5 x 69.75 x 9.3 มม.,
น้ำหนัก 134 กรัม
155.4 x 79.3 x 8.5 มม., หนัก 168 กรัม 150.9 x 75.2 x 8.7 มม., หนัก 149 กรัม 142.7 x 71.7 x 7.55 มม., หนัก 141 กรัม 141 x 71.8 x 9.3 มม., หนัก 148 กรัม
สี น้ำตาลดำ, ขาวมุก สีดำ-เทา, สีขาว-ทอง สีขาว, ดำ สีขาว-ทอง, สีดำ-เงิน สีดำ, ขาวมุก

* สีเขียว – จุดแข็ง

* สีแดง – จุดอ่อน

สรุป

i-mobile IQ II: เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักเจ้าเครื่องนี้อย่างแน่นอน เพราะเจ้า i-mobile IQ II นี้มีความโดดเด่นในฐานะที่เป็น Android One ที่ได้รับการอัพเดตโดยตรงจาก Google รุ่นแรกและรุ่นเดียวในประเทศไทย ซึ่งใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 410 และความละเอียดจอแบบ HD ก็ถือว่าโอเคเลยสำหรับราคา 4,444 บาท ส่วนจุดด้อยก็คงจะเป็นแรมที่ให้มาเพียง 1GB และกล้องหน้า 2 ล้านพิกเซลเท่านั้น แต่ก็กำความได้เปรียบในเรื่องการรับอัพเดทจาก Google ไปเต็มๆ รีวิว i-mobile IQ II

Wiko Pulp FAB 4G: สำหรับ Wiko รุ่นนี้ก็ใช้ชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 410 และความละเอียด HD เช่นเดียวกัน ในหน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว ส่วนกล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซลก็สามารถบันทึกภาพวิดีโอแบบ Full HD ได้ด้วย และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับเลนส์มุมกว้างในการเซลฟี่ ถือว่าเป็นมือถือรุ่นเล็กสเปคกลาง ที่อัดกล้องหน้าหลังความละเอียดสูงมาให้หากเทียบในช่วงราคาเดียวกัน ตัว ROM ของ Wiko นั้นเน้นที่ขนาดเล็กใกล้เคียงกับ stock android ใช้พื้นที่ในเครื่องไม่มากและลื่นไหลใช้สะดวก นโยบายเสียจริงไม่ซ่อม แต่เปลี่ยนเครื่องใหม่ของ Wiko ยังเป็นจุดเด่นในเรื่องบริการหลังการขายที่โดดเด่นอยู่ 

Meizu M2 Note: เรียกได้ว่าเป็นรุ่นที่มีจุดเด่นมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะเจ้าเครื่องนี้สามารถรองรับ microSD สูงสุด 128GB ในขณะที่รุ่นอื่นรองรับได้มากสุด 32/64GB เท่านั้น อีกทั้งหน้าจอ 5.5 นิ้วก็เป็นความละเอียดแบบ Full HD กล้องหลัง 13 ล้านพิกเซลให้ค่ารูรับแสง f/2.2 ส่วนกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซลก็ให้ค่ารูรับแสง f/2.0 พร้อมเซลฟี่เลนส์มุมกว้าง 69° ด้วย โดยให้แบตเตอรี่มา 2,420 mAh ซึ่งก็น้อยกว่า Wiko Pulp FAB 4G ซึ่งเป็นรุ่นที่มีขนาดจอเท่ากันนิดหน่อย แต่ในเรื่องของงานดีไซน์นั้นสสวยกว่าและน้ำหนักเบากว่า การใช้งานทั่วไปลื่นไหล รูปถ่ายสวย ถือเป็นอีกรุ่นนึงที่แนะนำในช่วงราคานี้ จะติดก็แค่เรื่องของการหาซื้อและศูนย์บริการที่ยังๆ งงๆ เพราะสั่งซื้อผ่าน Lazada มันเคลมได้ใน 7 วันก็จริง แต่ประกัน 1 ปีนี่ต้องไปติดต่อส่งซ่อมที่ไหนกรณีมีปัญหา รีวิว Meizu m2 note

OPPO Mirror 5 Lite: จุดเด่นของรุ่นนี้คือน้ำหนักเครื่องที่เบาเพียง 141 กรัม แต่ถ้าไปไล่มองดูสเปคเทียบกับรุ่นอื่นๆ แล้วด้อยกว่าในหลายๆ ด้าน เพราะนอกจากแรม 1GB แล้ว ความละเอียดหน้าจอยังเป็นเพียงแบบ qHD เท่านั้น ในขณะที่รุ่นอื่นๆ จะอยู่ที่ HD ทำให้ดูแล้วไม่ค่อยคุ้มค่ากับราคาซักเท่าไหร่ แต่ฟีเจอร์ในเครื่องก็เข้ามาช่วยเติมเต็มให้น่าใช้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Gesture หรือฟังก์ชั่นการถ่ายรูปที่หลากหลาย และกล้องเซลฟี่ที่ไว้ใจได้ของ OPPO ยังตอบสนองความต้องการคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพได้ค่อนข้างดี รีวิว OPPO Mirror 5 Lite

Lenovo VIBE P1m: ถือว่าเป็นอีกรุ่นที่น่าสนใจเลยค่ะ หากซื้อร่วมกับโปรโมชั่นที่ทาง Lenovo จับมือกับค่าย True แล้ว จะเหลือราคาเพียง 2,490 บาท ซึ่งเรียกได้ว่าคุ้มทั้งราคาและสเปคที่ให้มาทั้งหน้าจอขนาดแค่ 5 นิ้ว ความละเอียด HD มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,000 mAh งานสายอึดแบตข้ามวันต้องมา อีกทั้งตั่วเครื่องยังทำจาก Polycarbonate เคลือบ Splashproof กันละอองและหยดน้ำอีกด้วย

หวังว่าสมาร์ทโฟนทั้งรุ่นกลางและรุ่นเล็กที่เราได้นำมาเปรียบเทียบในครั้งนี้ จะเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจของเพื่อนสมาชิกที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนราคาน่ารักๆและสเปคดีๆซักเครื่องไว้เป็นเครื่องหลักหรือเครื่องสำรอง แต่ก็อย่างที่บอกดูสเปคแล้วก็อย่าลืมดูฟีเจอร์ภายในเครื่องด้วยล่ะ ว่าจะตอบโจทย์การใช้งานของเราได้มากน้อยแค่ไหน สนใจรุ่นไหนก็เข้าไปดูรีวิวเพิ่มเติมของแต่ละรุ่นเพื่อเพิ่มความมั่นใจอีกต่อหนึ่งก็ได้ค่ะ Smile

from:http://droidsans.com/compare-smartphone-price-range-4000-6000-baht-in-year-2015

วิธีตีบวกหน่วยความจำ 32/64/128GB ให้กับแอนดรอยด์ด้วย microSD (Android 6.0 Marshmallow เท่านั้น)

หลายๆคนน่าจะพอได้ยินข่าวเรื่อง Android 6.0 Marshmallow สามารถย้ายแอพลง microSD card มาบ้างแล้ว และนาย Akexorcist ก็ได้เคยมาเขียนเล่าไปทีนึงแล้ว ซึ่งตอนนั้นทดสอบกับ Nexus 5 ที่ไม่มีสลอตใส่การ์ดและต้องมีขั้นตอนวุ่นวายอยู่พอสมควร วันนี้หลังจากที่ i-mobile IQ II สมาร์ทโฟน Android One หนึ่งเดียวของไทยได้รับอัพเดทเป็น Android 6.0 แล้วเลยจะขอเอามันมาทดสอบ เพิ่มพื้นที่หน่วยความจำให้กลายเป็น 70GB ได้ด้วยเงินไม่กี่ร้อยบาทเท่านั้น!!

วิธีการเพิ่มเมมก็ไม่ได้วุ่นวายอะไรเลย เพียงแค่ไปหา microSD card มาเสียบเข้าเครื่องเท่านั้น แนะนำให้ใช้ความเร็วระดับ Class 10 ขึ้นไปมาใช้งานนะครับ จะได้ไม่ดึงเครื่องให้ช้าลงไปมากนัก

ซึ่งเมื่อใส่ลงไปแล้วระบบจะมีการถามว่าต้องการใช้งาน microSD ในรูปแบบไหนก่อน portable storage หรือ internal storage ซึ่งความแตกต่างก็คือ

 

Portable storage – ไม่สามารถใช้ย้ายแอพได้ โอนถ่ายสื่อต่างๆ เช่น รูป เพลง คลิป ได้เท่านั้น มีข้อดีคือเมื่อถอด microSD ออกจากเครื่องมาแล้วสามารถนำไปเสียบใช้งานกับอุปกรณ์อื่นได้ต่อทันที

Internal storage – ใช้งานเปรียบเหมือนเป็นหน่วยความจำภายในของเครื่องเลย สามารถย้ายแอพได้แบบ 100% ไม่เปลืองเนื้อที่จัดเก็บในเครื่องเหมือนในอดีต แต่ก่อนใช้งานต้องทำการฟอร์แมตการ์ดก่อนเท่านั้น และหากถอดการ์ดออกมา แอพและรูปที่ถูกลงเอาไว้ในการ์ดจะใช้งานไม่ได้จนกว่าจะเสียบการ์ดกลับเข้าไปใหม่ และจะไม่สามารถนำไปเสียบใช้งานกับอุปกรณ์อื่นได้ (อยากใช้งานได้อีกครั้งก็ต้องฟอร์แมตการ์ดใหม่เลย)

 

และเมื่อเราตกลงที่จะลบข้อมูลและฟอร์แมตการ์ด ระบบก็จะเริ่มจัดการให้ทันที ช้าเร็วต่างกันไปแล้วแต่ขนาดและการ์ดที่ใช้ พอเสร็จสิ้นกระบวนการก็จะมีการแจ้งถามว่าต้องการจะย้ายข้อมูลไปไว้ที่ storage ใหม่เลยหรือไม่ แถมบอกด้วยว่าเราจะประหยัดพื้นที่ไปได้มากน้อยขนาดไหนทันที

 

เท่านี้เราก็จะได้พื้นที่เพิ่มขึ้นมา จากเดิม 16GB กลายเป็น 80GB ทันที (แต่ระบบจะแจ้งว่าเหลือใช้จริงแค่ราวๆ 70.71 เท่านั้นนะ)

 ทดสอบลองย้ายแอพกันหน่อย โดยลองแอปอย่าง Facebook หรือ Line Let’s get rich ที่ถ้าเป็นการย้ายแอพแบบเดิม (move to SD) จะมาได้ไม่หมด หลงเหลืออยู่บนหน่วยความจำหลักอยู่อีกเพียบจนอย่าเรียกว่าย้ายได้จะดีกว่า 

 

เมื่อย้ายแล้วจะเห็นว่าตรงที่เขียนว่า Storage used จะกลายเป็น microSD แทนที่จะแจ้งว่า Internal Storage

สำหรับการย้ายแอพไปลง microSD ของ Android 6.0 Marshmallow ปัจจุบันต้องมานั่งไล่ย้ายทีละตัว คงต้องรออีกสักพักจึงจะได้เห็นคนทำแอพย้ายแบบอัตโนมัติปล่อยออกมาให้ใช้กัน แต่ต่อให้มันจะวุ่นวายไปหน่อย ถ้าได้เนื้อที่มาเพิ่มสำหรับลงแอพได้มากและราคาสุดแสนประหยัดแบบนี้ คงจะไม่มีใครบ่นกันหรอกเนอะ ^^

ถ้าใครต้องการเรียกดูรายละเอียดของแอพที่ลงเอาไว้ใน Internal Storage หรือ ​microSD ก็ทำได้โดยการกดดูที่ Settings > Storage & USB > เลือกหน่วยความจำที่ต้องการ > กดเข้าไปดู apps, images, videos, audio, หรือ other เพื่อจัดการพื้นที่ได้ตามความเหมาะสม จะลบหรือจะย้ายก็ตามสะดวกเลยครับ

  

เพียงเท่านี้ก็จะทำให้ Android One และเหล่าแอนดรอยด์ที่มีหน่วยความจำจำกัด มีพื้นที่เหลือใช้งานกันสบายๆ ไม่ต้องห่วงว่าพื้นที่จะเต็มอีกต่อไป ใครที่กำลังเล็งแอนดรอยด์ตัวราคาประหยัด น่าจะต้องรอถึงช่วงต้นปีหน้าถึงจะได้เห็นยัดใส่ Android 6.0 ลงในเครื่องมาให้ใช้กัน ทีนี้เครื่องจะให้เมมมาเท่าไหร่ก็รอเติมเองกันได้เลยครับ ไม่ต้องเสียเงินเป็นพันๆเพื่อเนื้อที่แค่ไม่กี่ GB อีกต่อไป

ยังไงแต่ก็อย่าลืมว่าการย้ายข้อมูลไว้ใน SD Card จะทำให้ความเร็วในการทำงานของเครื่องลดลง ถึงแม้ว่าจะใช้ Class 10 หรือ UHS-I ก็ตาม เพราะปกติการใช้ Internal Storage ของเครื่องในการทำงานจะได้ความเร็วสูงกว่า SD Card เป็นอย่างมากครับ

ข้อควรรู้และความเสี่ยง

  • หลังจากปรับไปใช้ SD Card เป็นที่เก็บข้อมูลหลักแล้ว ไม่ควรถอดเปลี่ยน SD Card ซึ่งอาจะทำให้แอปในเครื่องหรือข้อมูลบางส่วนหายได้
  • โดยปกติ eMMC ที่เป็นหน่วยความจำในเครื่องจะทนกว่า SD Card ดังนั้น…
  • เลือกใช้ SD Card ยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ไม่พังง่าย มิฉะนั้นข้อมูลทั้งหมดอาจสูญหายไปได้ในพริบตา 
    ยี่ห้อที่แนะนำ : ส่วนตัวใช้ Sandisk ยังไม่เคยพังคามือ แต่ว่า Kingston นี่หลายแผ่นละ

from:http://droidsans.com/expand-internal-storage-with-microsd-on-android-marshmallow

i-mobile IQ II อัพเดทเป็น Android 6.0 Marhmallow เหนียวนุ่มหนุบหนับแล้ว

ไม่นานเกินรอจริงๆ สำหรับ Android One เครื่องแรกในไทยอย่าง i-mobile IQ II ที่ตอนนี้ได้รับอัพเดทกลายร่างเป็น Android 6.0 Marshmallow ไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย โดยมีขนาดของไฟล์อัพเดทอยู่ที่ราวๆ 483 MB

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก @tomtomtoon ที่มาแปะให้ใน forum ด้วยนะครับ ^ ^

from:http://droidsans.com/i-mobile-IQ-II-get-android-marshmallow-update

ชวนคุยยามเช้า : แนะนำ 5 สมาร์ทโฟนน่าสนใจในราคาไม่เกิน 5000 บาท

สวัสดีเช้าวันอังคารผมนาย Joker กลับมาในบทความพิเศษประจำวัน “ชวนคุยยามเช้า” หลังจากที่ห่างหายไปนาน สำหรับทุกวันนี้ที่เศรษฐกิจฝืดเคือง หลายๆคนคงไม่อยากใช้เงินไปกับการซื้อสมาร์ทโฟนมากมายเหมือนแต่ก่อน คงอยากจะหาสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจและใช้งานได้ดีในราคาเหมาะสมกันอย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันก็มีสมาร์ทดฟนราคาเบาๆ แต่การใช้งานอยู่ในระดับที่พอเหมาะออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งก็มีทั้งที่มาจากแบรนด์หน้าใหม่ รวมไปถึงแบรนด์ที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้วในบ้านเรา สำหรับวันนี้ทาง AppDisqus จะนำสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในราคาไม่เกิน 5000 บาทมาแนะนำให้เพื่อนๆที่ต้องการประหยัดเงินในกระเป๋ากันครับ (แนะนำๆ แต่ส่วนตัวผมไม่เคยทำได้เลยครับ จะเปลี่ยนมือถือทีไปๆมาๆเลยเถิดตลอดเลย5555)

True Smart 4G 5_014

True Smart 4G 5.0

True Smart 4G 5.0 เป็นสมาร์ทโฟนจากแบรนด์เครือข่ายที่น่าสนใจ แม้ว่าความรู้สึกแรกอาจจะรู้สึกว่าทำไมมันดูเหมือน iPhone ขนาดนี้หนอก็ตาม ต้องชม TrueMove H นะครับที่คัดเลือกสมาร์ทโฟนมาจำหน่ายภายใต้ชื่อแบรนด์ของตัวเองได้ดีมาก สเปคอาจจะไม่ถึงกับร้องว้าง แต่การใช้งานจริงทำได้น่าประทับใจเกินราคามากครับ แม้จะมีจุดอ่อนในเรื่องของกล้อง Noise ค่อนข้างเยอะ และเสียงลำโพงดังแบบแหลมๆไปหน่อยก็ตาม แต่ด้วยหน้าจอที่สวยเกินคาด และความลื่นไหลที่น่าใช้ แถมกล้องยังสีสด คมดีแบบนี้ในราคาที่ไม่แพง 4990 บาทซึ่งยิ่งถ้าซื้อโดยสมัครแพ็กเกจ 4G iSmart Extra 499 บาทขึ้นไป โดยจะต้องชำระค่าบริการล่วงหน้า 3 เดือนและระยะสัญญานาน 6 เดือนโดย True SMART 4G 5.0 จะเหลือเพียง 2495 บาทเท่านั้นเองซึ่งคุ้มมากครับ

บางคนอาจจะบอกว่านี่ผมต้องสมัครโปรเดือนละ 499 บาทเพื่อมาใช้สมาร์ทโฟนราคาแค่นี้จะเหมาะเหรอ! ผมก็จะบอกว่ามันคุ้มนะครับเพราะโปรนี้ Data จุใจมากครับเหมาะกับคนชอบเล่นเน็ตผ่านมือถือ แถมเจ้า True Smart 4G 5.0 ยังรองรับการใช้งาน 4G LTE ซะด้วยและอย่าดูถูกว่ามันราคาไม่แพงครับ เพราะการใช้งานมันพอเพียงเลยละครับ ลื่นกว่ารุ่นที่ราคาแพงกว่าบางตัวด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องพิจารณาดีๆครับ เพราะถ้าบางคนไม่ต้องการจ่ายค่ารายเดือนในราคาเท่านี้มันก็ไม่เหมาะกับคุณนะครับ แต่ถ้าคนที่ต้องใช้อยู่แล้วผมว่าไม่แพงเลย

สเปคของ True SMART 4G 5.0

3G HSDPA 850 / 2100MHz

4G LTE 1800 / 2100MHz

HSPA 42 / 5.76 Mbps

LTE Cat4 150 / 50 Mbps

รองรับการใช้งาน 2 ซิม (ช่องใส่ซิมที่ 2 ให้เลือกระหว่างใส่ซิมการ์ดหรือ Micro SD Card)

ขนาดตัวเครื่อง 143.5 × 72.7 × 7.2 มม. น้ำหนัก 128 กรัม

หน้าจอ JDI HD ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (320 ppi) รองรับฟังก์ชั่น Mira Vision

Android 4.4.4 KitKat

CPU MediaTek MT6732 Quad-core 1.5 GHz Cortex-A53

GPU mali450-MP4

RAM 1GB

หน่วยความจำภายใน 8GB (เหลือให้ใช้งาน 5.52GB) และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB

Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot

Bluetooth 4.0, A2DP

Micro USB 2.0

GPS

เซนเซอร์ Accelerometer

กล้องความละเอียด 8MP, Autofocus, LED flash, Geo-tagging

บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P

กล้องหน้าความละเอียด 5MP

แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh

มีให้เลือก 2 สีได้แก่ Metal Gray, Champagne Gold

ราคา 4990 บาท (สมัครแพ็กเกจ 4G iSmart Extra 499 บาทขึ้นไป โดยจะต้องชำระค่าบริการล่วงหน้า 3 เดือนและระยะสัญญานาน 6 เดือนจะเหลือเพียง 2495 บาทเท่านั้น)

DSC06460-610x343

i-mobile IQ II

เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัด 4444 บาทซึ่งทาง i-mobile ได้จับมือกับ Google ในโครงการ Android One ซึ่งจุดแข็งก็คือจะได้รับการอัพเดตไม่ทอดทิ้งยาวนานถึง 2 ปีซึ่งเจ้า Android One ก็คือ Nexus ราคาประหยัดนั่นเองครับ เท่ากับว่าถึงแม้เครื่องจะถูกแสนถูกแต่มันก็เป็น Pearl Google ซึ่งให้ประการณ์การใช้งานที่ดี และอัพเดตได้ยาวนาน เป็นรุ่นยอดฮิตอีกรุ่นที่ไม่ควรมองข้าม

สเปคของ i-mobile IQ II

3G HSDPA 850 / 2100MHz

4G LTE 1800 / 2100MHz

รองรับการใช้งาน 2 ซิม

ขนาดตัวเครื่อง 140.5 x 69.75 x 9.3 มม. น้ำหนัก 134 กรัม

หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (320 ppi)

Android 5.1.1 Lollipop

CPU Qualcomm Snapdragon 410 MSM8916 Quad Core 1.2 GHz

RAM 1GB

หน่วยความจำภายใน 16GB และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 32GB

Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot

Bluetooth 4.0, A2DP

Micro USB 2.0

GPS

เซนเซอร์ Accelerometer

กล้องความละเอียด 8MP, Autofocus, LED flash, Geo-tagging

บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P

กล้องหน้าความละเอียด 2MP

แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh

ราคา 4444 บาท

True-Lenovo-4G-LTE_002-610x407

True Lenovo 4G LTE 5.0″

True Lenovo 4G LTE 5.0″ ราคา 4590 บาทจัดเป็นสมาร์ทโฟนที่ดูน่าสนใจ สเปคไม่โดดเด่น แต่การใช้งานทำได้ดีไม่เบา หน้าจอคมชัดและสีสวยสดใส ตัวเครื่องดูสวย บาง และเบาดีมาก รองรับการใช้งาน 4G LTE ทำงานบน Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย VIBE UI 2.0 ของ Lenovo ซึ่งจริงๆสำหรับรุ่นนี้ผมว่าเพิ่มอีกนิดเอาเป็น Lenovo A7000 จะคุ้มกว่านะครับ แต่ว่าบทความนี้กำหนดว่าไม่เกิน 5000 ครับ^__^

สเปคของ True Lenovo 4G LTE 5.0″

3G HSDPA 850 / 2100MHz

4G LTE 2100/1800/2600/800/2300MHz

HSPA, LTE Cat4 150/50 Mbps

ขนาดตัวเครื่อง 141 x 70 x 8.2 มม. น้ำหนัก 128 กรัม

ลำโพงคู่และระบบเสียง Dolby

หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (294 ppi)

Android 4.4.4 KitKat ครอบทับด้วย VIBE UI 2.0

CPU Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53

GPU Adreno 306

RAM 1GB

หน่วยความจำภายใน 8GB และเพิ่มได้อีก 32GB

Wi-Fi 802.11 b/g/n, hotspot

Bluetooth 4.0, A2DP

Micro USB 2.0

GPS

เซนเซอร์ Accelerometer, proximity

กล้องความละเอียด 8MP, 3264 x 2448 pixels, autofocus, LED flash, Geo-tagging, touch focus, face detection

บันทึกวีดีโอความละเอียด HD 720P

กล้องหน้าความละเอียด 2MP

แบตเตอรี่ความจุ 2300 mAh

ราคา 4590 บาท

zenfone-2-laser-ze500

Asus Zenfone 2 Laser

Asus Zenfone 2 Laser เป็นรุ่นที่น่าสนใจครับราคา 4990 บาทมาพร้อมจุดขาย Laser Autofocus ช่วยให้จับภาพได้อย่างแม่นยำแม้ในที่แสงน้อย สเปคอื่นๆก็ดูไม่เลวเลยครับ รองรับ 4G LTE หน้าจอ 5 นิ้วความละเอียด HD 720P ราคาเบาๆแต่ใช้กระจก Corning Gorilla Glass 4, Snapdragon 410, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB และเพิ่มภายนอกได้ถึง 128GB, กล้องความละเอียด 13+5MP และแบตเตอรี่ 2400 mAh ผมว่าน่าสนใจมากทีเดียวครับ

สเปคของ Asus Zenfone 2 Laser

3G HSDPA 850 / 900 / 1900 / 2100MHz

4G LTE band 1(2100), 2(1900), 3(1800), 5(850), 7(2600), 8(900), 20(800)MHz

HSPA 42.2/5.76 Mbps, LTE Cat4 150/50 Mbps

รองรับการใช้งาน 2 ซิม (Micro-SIM, dual stand-by)

ขนาดตัวเครื่อง 143.7 x 71.5 x 10.5 มม. น้ำหนัก 140 กรัม

หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (294 ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 4

Android 5.0 Lollipop

CPU Qualcomm MSM8916 Snapdragon 410 Quad-core 1.2 GHz Cortex-A53

GPU Adreno 306

RAM 2GB

หน่วยความจำภายใน 16GB และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 128GB

Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot

Bluetooth 4.0, A2DP

Micro USB 2.0

GPS

เซนเซอร์ Accelerometer, proximity, compass

กล้องความละเอียด 13MP, 4128 x 3096 pixels, Laser Autofocus, dual-LED (dual tone) flash, Geo-tagging, touch focus, face detection, panorama, HDR

บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 30fps

กล้องหน้าความละเอียด 5MP

แบตเตอรี่ความจุ 2400 mAh

ราคา 4990 บาท

wiko-ridge-4g

Wiko RIDGE

Wiko RIDGE เป็นสมาร์ทโฟนจากแบรนด์ฝรั่งเศสราคาล่าสุดอยู่ที่ 4690 บาทรองรับการใช้งาน 2 ซิม หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P กระจก Gorilla Glass, Cortex-A7 Octa Core 1.4 GHz, RAM 2GB, หน่วยความจำภายใน 16GB และสามารถเพิ่มภายนอกได้อีก, กล้องความละเอียด 13MP และกล้องหน้า 5MP, แบตเตอรี่ความจุ 2400 mAh เป้นสเปคที่น่าสนใจครับ และเป็นอีกหนึ่งรุ่นสุดฮิตซะด้วยในราคานี้ (ถ้าเพิ่มอีกหน่อย Wiko RIDGE Fab 4G น่าสนใจมากเลยครับ แต่อย่างที่บอกครับบทความนี้แนะนำเฉพาะรุ่นที่ไม่เกิน 5000 บาท หึ หึ)

สเปคของ Wiko RIDGE

3G HSDPA 850 / 2100MHz

HSDPA 42 Mbps, HSUPA 11 Mbps

รองรับการใช้งาน 2 ซิม

ขนาดตัวเครื่อง 143 × 72.15 × 7.5 มม. น้ำหนัก 123 กรัม

หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD 720P 720 x 1280 pixels (295 ppi) กระจก Corning Gorilla Glass 3

Android 4.4.2 KitKat

CPU Cortex-A7 Octa Core 1.4 GHz

RAM 2GB

หน่วยความจำภายใน 16GB และเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้สูงสุด 64GB

Wi-Fi 802.11 b/g/n, Wi-Fi Direct, hotspot

Bluetooth 4.0, A2DP

Micro USB 2.0

GPS

เซนเซอร์ Accelerometer, proximity, compass

กล้องความละเอียด 13MP, 4128 x 3096 pixels

บันทึกวีดีโอความละเอียด Full HD 1080P 30fps

กล้องหน้าความละเอียด 5MP

แบตเตอรี่ความจุ 2400 mAh

ราคา 4690 บาท

from:http://www.appdisqus.com/2015/09/22/mobile-phones-5000-baht.html

อัพอีกแล้วจ้า.. i-mobile IQ II : Android One ได้ OTA สำหรับ Security Update เดือนกันยายน

ตามมาติด ๆ กับเหล่า Nexus ที่เพิ่งจะได้รับ Security Update ประจำเดือนกันยายน สำหรับ i-mobile IQ II ซึ่งเป็น Android One ก็ได้รับอัพเดต ส่งตรงมาจาก Google แล้ว

สำหรับ Security Update ประจำเดือนสิงหาคมนั้น ช่องโหว่ StageFright ได้ถูกแพชไปแล้ว แต่ยังไม่ครบทุกตัว

ในเดือนนี้ ได้มี OTA ปล่อยออกมาแล้ว ผู้ใช้งาน i-mobile IQ II สามารถกดอัพเดตได้จากหน้า System Update ได้เลย

การอัพเดตครั้งนี้ จะยังเป็น Android version เดิม (Android 5.1.1) แต่จะเปลี่ยน Build number จาก LUZ59J เป็น LUZ59M

ลองตรวจสอบด้วย App StageFright Detector จะเห็นว่า ช่องโหว่หมายเลข CVE-2015-3864 ที่ไม่ได้ถูกแก้ไขในแพชเดือนที่แล้ว ได้ถูกแก้ไขเรียบร้อย

สำหรับใครที่ใช้งาน i-mobile IQ II อยู่ กด Update กันได้เลย แต่ถ้ายังไม่มา สามารถทำการ Manual Update ด้วยการ sideload ผ่านทาง Recovery mode ด้วย OTA File ที่ผมแงะออกมาให้แล้ว ตาม Link ด้านล่างครับ

Download OTA File

from:http://droidsans.com/google-release-security-update-september-for-android-one

แจ้งข่าว i-Mobile IQ II ราคาพิเศษ 3,690 บาท แต่มีเฉพาะสีขาว


หลังจากที่ออกวางขายมาได้ซักพักแล้วกับ Android One ตัวแรกของไทย i-mobile IQ II กับสเป็คที่เรียกได้ว่าเพียงพอและพอเพียงกับราคาเปิดตัวที่ 4,444 บาท แต่จะว่าไปช่วงราคานี้มีคู่แข่งเยอะเหลือเกิน โดยเฉพาะมือถือแบรนด์จีน เพิ่มเงินอีกนิดหน่อยไม่ถึงพันได้เครื่องที่แรงกว่า มีแรมให้ 2 GB กล้องดีกว่า อาจจะทำให้หลายคนยังไม่ตัดสินใจซื้อ แต่ช่วงนี้คุณสามารถซื้อ i-mobile IQ II ในราคาไม่ถึง 4,000 บาท น่าสนใจไหมล่ะครับ มือถือราคาไม่ถึง 4,000 บาท ที่รับประกันตัวเครื่อง 2 ปี และการอัพเดทซอฟท์แวร์ถึง 2 ปีจาก Google เลยทีเดียว ได้กิน Marshmallow แน่นอน ลองไปดู รีวิว i-mobile IQ II มือถือโครงการ Android One หนึ่งเดียวของประเทศไทย ดูครับ ประกอบการตัดสินใจ

ถามว่าแล้วหาซื้อได้ที่ไหน ชี้เป้าไปที่เว็บ tohome.com เลยครับ โปรโมชันของ i-mobile IQ II ปกติราคาเต็ม 4,444 บาท ลดราคาสเต็ปแรกเหลือ 4,190 บาท แต่เดี๋ยวก่อน เพียงใส่รหัส “SAVE500B” จะได้รับส่วนลดไปอีก 500 บาท เหลือแค่ 3,690 บาทเท่านั้น คุ้มมากมายกับราคานี้ แต่มีเฉพาะสีขาวนะ สามารถจ่ายเงินได้หลายช่องทางเหมือนๆกับสั่ง online กับ lazada, iTruemart ใครสนใจก็ตามไปซื้อได้ครับที่ tohome.com

source : tohome.com

from:http://droidsans.com/i-mobile-iq-II-discount-at-tohome

[Blind Test] เปิดโหวตภาพจากสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัด กล้องตัวไหนถ่ายออกมาดูดีที่สุด

มาอีกแล้วววว~ กับการทดสอบ Blind Test โหวตหาภาพสวยที่สุดโดยไม่รู้ว่าภาพถ่ายจากกล้องตัวใด ซึ่งหลังจากที่พี่ๆ เคยทดสอบลองกล้องรุ่นเมพๆ กันไปแล้วคราวนี้เลยลองจับสมาร์ทโฟนตัวเล็กๆราคาคุ้มๆมาปัดฝุ่น แกะกล่องออกมาท่องโลกกัน เน้นถ่ายภาพแนวแสงธรรมชาติ (ที่ตอนนี้ไม่เอื้ออำนวยเอาซะเลย ; w ; ) และภาพจะไม่มีการปรับขนาดย่อขนาดใดๆ ให้ได้เห็นเนื้อภาพแบบเพียวๆไปเลย

เอาล่ะค่ะมาดูกันดีกว่าว่ามีผู้เข้าร่วมทดสอบในครั้งนี้มีใครกันบ้าง เริ่มด้วย 3 รุ่นท๊อปจากค่ายผู้ให้บริการสัญญาณโครงข่ายอย่าง

และอีก 3 รุ่นเป็นสมาร์ทโฟนที่ได้รับความนิยมของรุ่นเล็ก

อ๋อ ก็ต้องขออธิบายเพิ่มเติมอีกนิดนึงว่าจุดประสงค์ในการ Blind test ครั้งนี้คืออยากให้เพื่อนๆได้เห็นว่าจริงๆ กล้องและการใช้งานของสมาร์ทโฟนรุ่นราคาเบาๆ นี่ก็พอใช้ได้เหมือนกันนะ โดยเราจะมีภาพ Reference มาจาก Samsung Galaxy S6 ที่หลายๆ คนให้การยอมรับในประสิทธิภาพการถ่ายรูป เพื่อให้เห็นข้อเปรียบเทียบว่ารุ่นเล็กๆราคาถูกกว่าเกือบสิบเท่ามันมีความต่างจากรุ่นใหญ่ๆขนาดไหน ส่วนว่าอันไหนสวยกว่าอันไหน อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละคนนะคะ ยังไงก็ขอเชิญไปร่วมโหวตได้ที่ด้านล่างสุดเลย Smile

มาเริ่มกันเลยดีกว่า Laughing out loud (สำหรับคนที่ต้องการดูไฟล์ภาพแบบเพียวๆ ไม่ต้องผ่าน Gallery ของ imgur ที่อาจจะโหลดมาได้ไม่ทันใจ สามารถไปโหลดภาพได้ที่ลิงก์นี้นะคะ Download Full Resolution Pictures)

  1. ภาพถ่ายในที่แสงน้อย

http://imgur.com/a/1aisg/embed

  1. ภาพถ่ายระยะใกล้ (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/qIqIs/embed

  1. ภาพถ่าย Landscape (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/GIprh/embed

  1. ภาพถ่ายบุคคล (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/eDfac/embed

  1. ภาพถ่ายกลางแจ้ง (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/i6oeW/embed

  1. ภาพถ่ายอาหาร (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/6mAZ9/embed

  1. ภาพถ่ายขนนก (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/D0T9T/embed

  1. ภาพถ่าย Selfie (คลิกเพื่อดูภาพ Full Size)

http://imgur.com/a/sAR1C/embed

พอจะเดากันออกบ้างมั๊ยคะ ว่ารุ่นไหนเป็นรุ่นไหน

ยังไงรบกวนช่วยกดโหวตภาพที่เพื่อนๆพี่ๆชื่นชอบ แล้วอดใจรออีก 1 อาทิตย์เราจะมาเฉลยกันว่าภาพไหนมาจากรุ่นอะไรค่า Laughing out loud

 

from:http://droidsans.com/blindtest-budget-android-phone

อัพแล้วจ้า~!! i-mobile IQ II – Android One ได้ OTA แก้ไขช่องโหว่ StageFright แล้ว

ช่องโหว่ StageFright ที่สามารถฝัง Malware ในไฟล์ Video เพื่อโจมตีอุปกรณ์ Android ทั้งหลาย จน Google ได้ออก Patch แก้ช่องโหว่ และปล่อยอัพเดตให้กับตระกูล Nexus ไปแล้ว

สำหรับ i-mobile IQ II สมาร์ทโฟนสายเลือด Pure Android จาก Google ในโครงการ Android One นั้น ก็ได้รับการอัพเดตแล้วเช่นกัน

สำหรับการอัพเดตครั้งนี้ มีขนาด 38.2 MB ด้วยกัน โดยสามารถตรวจสอบการอัพเดตได้จากเมนู Settings > About phone > System updates

โดยการอัพเดตครั้งนี้ จะยังอยู่ที่ Android version 5.1.1 เช่นเดิม แต่จะเปลี่ยน Build number จาก LUZ59I (ซ้าย) เป็น LUZ59J (ขวา)

หากตรวจสอบด้วย App StageFright Detector ของ Zimperium INC. ซึ่งเป็นผู้ค้นพบช่องโหว่นี้ จะพบว่า ได้แก้ไขไปเกือบหมดแล้ว จะยังเหลือช่องโหว่หมายเลข CVE-2015-3864 ที่ยังไม่ถูกแก้ไข (ใน Nexus 4 ที่ผมใช้อยู่ ก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขเช่นกัน) ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นช่องโหว่ที่ถูกค้นพบใหม่

สำหรับใครที่ใช้งาน i-mobile IQ II อยู่ กด Update กันได้เลย แต่ถ้ายังไม่มา สามารถทำการ Manual Update ด้วยการ sideload ผ่านทาง Recovery mode ด้วย OTA File ที่ผมแงะออกมาให้แล้ว ตาม Link ด้านล่างครับ

Download OTA File

from:http://droidsans.com/i-mobile-android-one-get-ota-update

[Review] รีวิว i-mobile IQ II มือถือโครงการ Android One หนึ่งเดียวของประเทศไทย

สวัสดีเพื่อนสมาชิก Droidsans ทุกท่าน หลังจากคราวที่แล้วได้ผมได้ แกะกล่องลองสัมผัส i-mobile IQ II ให้เพื่อนๆสมาชิกได้ดูกันไปแล้ว มาวันนี้ก็ได้เวลาที่เราจะมาดูรีวิวการใช้งานเจ้ามือถือ Android One เครื่องนี้กันแล้วล่ะครับ โดย i-mobile IQ II ถือเป็นมือถือในโครงการ Android One ของ Google รุ่นแรกและยังคงเป็นรุ่นเดียวในประเทศไทย ซึ่งแค่มี Google พะยี่ห้อรับรองมาขนาดนี้คงพอจะรับประกันเรื่องคุณภาพได้เลย i-mobile IQ II มีจำหน่ายแล้วในราคา 4,444 บาท มี 2 สีให้เลือกคือ น้ำตาลดำ และ ขาวมุก ว่าแล้วก็เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

 

รู้จักกับโครงการ Android One

Android One เป็นโครงการของ Google ที่เปิดตัวไปเมื่อเดือนกันยายนปี 2014 ที่ผ่านมา โดยจุดประสงค์ของโครงการคือ การทำสมาร์ทโฟน Android ราคาประหยัดแต่ยังคงให้ผู้ใช้ได้รับประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานในแบบที่ Google ต้องการ ซึ่งมือถือ Android One ทุกตัวจะใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันล่าสุด พร้อมทั้งเป็น Pure Android ที่ไม่ผ่านการปรับแต่งใดๆจากผู้ผลิตเลย ดังนั้น Google จึงสามารถอัพเดตซอฟต์แวร์ใหม่ๆให้กับมือถือแบบนี้ได้โดยตรงไม่ต้องผ่านผู้ผลิตเหมือนกับมือถือยี่ห้ออื่น หากจะเปรียบเทียบง่ายๆ มันก็คือ มือถือ Nexus ที่สเปกไม่สูงและราคาถูกกว่า แต่รับได้อัพเดตซอฟต์แวร์จาก Google โดยตรงเหมือนกัน ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่งบน้อยแต่อยากใช้สมาร์ทโฟนและไม่ชอบโดนลอยแพเหมือนมือถือยี่ห้ออื่น

Android-One-Thailand.jpg

 

 แกะกล่อง i-mobile IQ II

เนื้อหาตรงนี้ผมขอยกมาจากบทความที่แล้ว เพื่อให้เนื้อหาของรีวิวมีความสมบูรณ์ สำหรับคนที่เคยอ่านมาแล้วสามารถข้ามไปได้ หรือใครอยากจะทวนความจำก็มาอ่านกันอีกรอบครับ

 

ด้านหน้ากล่อง i-mobile IQ II พร้อมให้เราแกะกันแล้วล่ะ

 

ด้านหลังของกล่อง จะมีข้อมูลสเปกอยู่และ logo ของ Qualcomm Snapdragon ตัวใหญ่ๆ พร้อมทั้ง logo ของ Android One ชัดเจน สโลแกนด้านล่างของ Android One เขียนไว้ว่า

“Always the latest from Google” หรือ “ใหม่ล่าสุดและใหม่ตลอดเวลาจาก Google จ้า”

 

แกะกล่องออกมาเรียบร้อย เห็น i-mobile IQ II นอนรอให้เปิดบริสุทธิ์ เอ้ย เปิดเครื่องมาดู เราก็มาเปิดกันเถอะ

 

เปิดออกมาแล้วเอาอุปกรณ์ที่แถมมากองรวมกัน นั่งนับดูได้ 6 อย่างคือ

  • สาย USB และ Adaptor 5V1A

  • หูฟัง smalltalk

  • คู่มือการใช้งานภาษาไทย ที่ละเอียดมาก

  • ใบรับประกัน

  • เคสซิลิโคนใส

  • ฟิล์มกันรอย

 

สเปกของ i-mobile IQ II

สเปกของ i-mobile IQ II นั้นไม่สูงมาก จัดอยู่ในประเภทมือถือระดับ low-end เพราะต้องการทำราคาให้ถูก แต่ก็ยังคงให้ประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานได้ รายละเอียดเป็นดังนี้

  • หน้าจอ: IPS ขนาด 5 นิ้ว แบบ ONCELL ความละเอียด HD 720p รองรับมัลติทัช 5 จุด

  • ขนาดตัวเครื่อง: 140.5 x 69.75 x 9.3 mm

  • น้ำหนัก: 134 กรัม

  • CPU: Qualcomm Snapdragon 410 (MSM8916) Quad-core 1.2 GHz

  • GPU: Adreno 306

  • RAM: 1GB

  • ROM: 16GB เพิ่ม microSD ได้สูงสุด 32GB

  • เครือข่าย: รองรับใช้งานได้ 2 SIM แบบ MicroSIM

    • 4G: 1800/2100 (Dtac/True)

    • 3G: 850/2100 (AIS/Dtac/True/3GX)

    • 2G: 900/1800 (AIS/Dtac/True)

  • กล้องหลัง

    • ความละเอียด 8MP (3264×2448 px) พร้อม BSI, Autofocus และแฟลช

    • รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 1080p

  • กล้องหน้า

    • ความละเอียด 2MP (1280×960 px), Fixed Focus

    • รองรับการถ่ายวีดีโอความละเอียดสูงสุด 1280×960 px

  • แบตเตอรี่: ลิเธียมไอออน 2500 mAh

  • OS: Android 5.1.1 แบบ 32-bit (Pure Android)

  • การเชื่อมต่อ: Bluetooth, WiFi, USB, GPS

  • เซ็นเซอร์: Accelerometer, Light, Proximity

  • NFC: ไม่มี

  • OTG: ไม่มี

จุดเด่นของสเปกมือถือรุ่นนี้คือ เลือกใช้ Qualcomm Snapdragon 410 ซึ่งเป็น CPU แบรนด์ยอดนิยม ไม่ใช่ไก่กามาจากที่ไหน รับรองได้ถึงความสเถียรและการเข้ากันได้กับ App ส่วนใหญ่ในตลาด และ Snapdragon 410 นั้นเป็น generation ใหม่ของ CPU สำหรับมือถือ low-end ในปีนี้เลย นอกจากนั้นในเรื่องเครือข่ายยังรองรับ 4G/3G/2G ครบทุกค่ายในประเทศไทย ไม่ต้องมานั่งปวดหัวกลัวว่าจะใช้ค่ายนู้นค่ายนี้ไม่ได้อีก ส่วนหน้าจอแบบ IPS ONCELL นั้นถือว่าให้ภาพสวยและสว่าง มุมมองยังไม่กว้างมากนัก แต่ก็ถือว่าดีเลยสำหรับมือถือราคานี้

imobile-iqii-spec01.jpg 

แต่สิ่งที่น่าเสียดายในเรื่องสเปกคือ RAM ที่ให้มาเพียง 1GB ซึ่งถือว่าน้อยไปซะแล้วสำหรับการใช้งาน Android ในยุคปี 2015 เพราะ App นั้นกิน RAM จุขึ้นทุกวัน ไม่นับเรื่องเกมส์เอาแค่ App ทั่วไปที่ใช้กันอย่าง Facebook, Line, Chrome, Instagram, Youtube หรือ Twitter ก็บริโภค RAM กันเป็นว่าเล่นแล้วล่ะครับ

 

ทรวดทรงองค์เอวของ i-mobile IQ II

ด้านหน้าตัวเครื่องของ IQ II ไม่มีปุ่มใดๆ เพราะใช้ปุ่มแบบซอฟท์แวร์ตามสไตล์ของ Google เค้าล่ะ ส่วนบนจะมีลำโพงสนทนาอยู่ตรงกลาง และถัดไปด้านขวาเป็นกล้องหน้า

 

ด้านขวานี่ก็มาตามมาตรฐานของ Google Android เด๊ะๆ คือ ปุ่มปรับเสียงอยู่ส่วนบนและปุ่ม Power จะอยู่เยิ้องลงมาให้ตรงกับตำแหน่งของนิ้วหัวแม่มือพอดี

 

ด้านซ้ายของตัวเครื่องโล่งไม่มีอะไร แต่โชว์งานออกแบบนิดๆเป็นเส้นโครเมียม 2 เส้นรอบตัวเครื่อง

 

ด้านล่างมีช่องเสียบ microUSB อยู่ตรงกลาง ส่วนฝั่งซ้ายดูเหมือนช่องลำโพงแต่ไม่ใช่ เป็นช่องไมโครโฟนสำหรับสนทนา ส่วนฝั่งขวาถึงจะเป็นลำโพงจริงๆ ซึ่งต้องบอกว่าดังพอควร

 

ด้านบนของตัวเครื่องมีช่องเสียบหูฟัง 3.5mm ส่วนรูเล็กๆนั้นคือ ไมค์ตัดเสียงรบกวน นั่นเองครับ

 

พลิกมาด้านหลังจะเห็นกล้องหลักชัดเจน มีวงแหวนสะท้อนแสงดูสวยขึ้นมาอีกนิด ข้างล่างกล้องเป็นแฟลชสำหรับถ่ายในที่มืด

 

ส่วนล่างของด้านหลังจะมี logo ของ Android One อยู่ ความขลังของเครื่องนี้มันอยู่ตรงนี้นี่แหละ

 

ฝาหลังของ i-mobile IQ II นั้นแกะได้ง่ายๆไม่ต้องออกแรงงัดอะไร โดยเมื่อแกะออกมาจะเห็นแบตเตอรี่ขนาด 2500 mAh และช่องใส่ MicroSIM ได้ 2 อัน อีกช่องเอาไว้สำหรับ microSD card ซึ่งการใส่หรือเปลี่ยน card พวกนี้จะทำแบบ hotswap ไม่ได้ ต้องปิดเครื่องและถอดแบตก่อนทำเสมอ

 

โดยรวมแล้ว i-mobile IQ II เป็นมือถือที่ออกแบบในสไตล์เรียบๆ ไม่หวือหวา แต่ดูดี งานประกอบแน่นปั้ก รอยต่อไม่มีให้เห็นสักเท่าไหร่ เวลาจับถือในมือจะรู้สึกได้ว่า เข้ามือพอดีและไม่ก๊องแก๊ง สมกับที่ผู้บริหาร i-mobile บอกในงานเปิดตัวว่า มือถือรุ่นนี้ Google ตรวจสอบและให้การรับรองอย่างเป็นทางการ หรือ Certified by Google นั่นเอง

imobile-iqii-design01.jpg

 

Pure Android 5.1.1 

แน่นอนว่าสมาร์ทโฟนในโครงการ Android One ก็ต้องทำงานบน Android เวอร์ชันล่าสุดอย่างไม่ต้องสงสัย i-mobile IQ II จึงมาพร้อมกับ Android 5.1.1 Lollipop อมยิ้มตัวล่าสุดที่ได้รับการปรับรสชาติให้เหมาะสมแล้ว ผมหมายถึงได้รับการแก้ไขปัญหาต่างๆจากเวอร์ชันก่อนเรียบร้อยแล้วนั่นเอง และนี่เป็น Android แบบที่ไม่มีการปรับแต่งใดๆทั้งสิ้น เรียกว่า Stock Android หรือ Vanilla Android หรือ Pure Android แล้วแต่คนชอบนะครับ

imobile-iqii-software01.jpg

หน้า Homescreen ของ Stock Android ทุกรุ่นจะใช้ Google Now Launcher ที่หลายคนคงคุ้นเคยเป็นอย่างดี โดยหน้าซ้ายสุดจะถูกจองไว้ให้ Google Now ที่คอยแสดงข้อมูลที่เราสนใจหรือเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตประจำวันของเรา ไม่ว่าจะเป็นทีมกีฬาที่เราชอบ, หุ้นที่เราสนใจ, ระยะทางจากบ้านไปที่ทำงาน, นัดหมายประจำวัน และอื่นๆ

 

Google Core Apps

เนื่องจากเป็น Stock Android ดังนั้น App พื้นฐานทุกตัวในเครื่องจะเป็นของ Google ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Phone, Messenger, Chrome, Camera, Calendar, Gmail, Photos และอื่นๆอีกมากมาย ทั้งที่ใช้และไม่ได้ใช้ แต่นี่ก็เป็นความตั้งใจของ Google ในการทำ Android One เช่นกัน “ให้คนเข้าถึงบริการของ Google ได้มากที่สุด”

imobile-iqii-software04.jpg

 

Adaptive Brightness (ความสว่างอัตโนมัติ)

ชื่อนี้หลายคนอาจจะไม่คุ้นเพราะแต่เดิมมันคือ Auto Brightness หรือ การปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ ของหน้าจอมือถือนั่นเอง แต่ Google เปลี่ยนชื่อของมันใหม่เป็น Adaptive Brightness ทำให้หลายคนถึงกับหาไม่เจอกันเลยว่า ปรับความสว่างอัตโนมัติหายไปไหน? โดยเราสามารเข้าไปเปิด Adaptive Brightness ได้ที่ Settings แล้วเลือก Display ครับ

imobile-iqii-software05.jpg

 

App notifications

อยู่ใน Settings -> Sound & notification เป็นส่วนที่เอาไว้จัดการการแจ้งเตือนจาก App ต่างๆภายในเครื่อง โดยเราสามารถเลือกชื่อ App แล้วปรับค่าการแจ้งเตือนได้ดังนี้

  • Block คือ ไม่อนุญาตให้มีการแจ้งเตือนใดๆจาก App นั้นเลย

  • Priority คือ อนุญาตให้มีการแจ้งเตือนจาก App นี้ได้ถึงแม้ว่าจะมือถืออยู่ในโหมดห้ามรบกวน (Priority interruptions) ก็ตาม

  • Sensitive คือ ตอนที่มือถือกำลังล็อคหน้าจออยู่ จะไม่อนุญาตให้มีแจ้งเตือนของ App นี้ไปแสดงบนหน้าจอล็อคเลย

imobile-iqii-software06.jpg

 

Priority Interruptions (โหมดเสียง, สั่น และเงียบ ที่หายไป)

ไหนๆก็พูดถึงการแจ้งเตือนแล้ว ขอพูดถึงระบบ Priority Interruptions สักนิด ซึ่งเป็นระบบที่ถูกกล่าวสรรเสริญ (สาบส่ง) เป็นอย่างมากจากนักพัฒนาและผู้ใช้เอง เพราะ Google ทำเรื่องง่ายที่ดีอยู่แล้วให้มันยากขึ้น โดยจับเอาโหมดเสียงที่เราเอาไว้ปรับมือถือให้มีเสียง(sound), สั่นอย่างเดียว(vibrate) หรือเงียบเสียงไปเลย (silent) มารวมเข้ากับโหมดห้ามรบกวน (Do not disturb) และความงงก็บังเกิดเมื่อเรากดปุ่มปรับเสียง

imobile-iqii-software07.jpg

ตอนที่เรากดปุ่มปรับเสียงจะมีหน้าจอเล็กๆสีดำ ห้อยลงมาจากด้านบนแบบในรูปครับ ซึ่งเราสามารถเลือกปรับได้ 3 แบบคือ

  • None : โหมดเงียบแบบไม่มีข้อยกเว้น คือจะไม่มีเสียงและการสั่นจากการแจ้งเตือนใดๆทั้งสิ้นรวมถึงสายเรียกเข้าด้วย สามารถตั้งเวลาได้ว่าจะให้อยู่ในโหมดนี้นานแค่ไหน เช่น 15 นาที, 1 ชั่วโมง หรือ 8 ชั่วโมง เป็นต้น หรือจะอยู่ยาวแบบไม่ตั้งเวลา (Indefinitely) ก็ได้

  • Priority : โหมดเงียบแบบมีข้อยกเว้น คือสามารถเลือกการแจ้งเตือนบางอย่างให้ยังเตือนได้เหมือนเดิม เช่น สายเรียกเข้า หรือ SMS จากเบอร์สำคัญ เป็นต้น โหมดนี้สามารถตั้งเวลาได้เหมือนกับ None

  • All : โหมดปกติ อนุญาตให้มีการแจ้งเตือนได้ทุกอย่าง

นอกจาก 3 โหมดที่บอกมา บางคนอาจจะถามว่าแล้ว โหมดสั่นอย่างเดียว(Vibrate only) หายไปไหน? โหมดนี้ยังคงมีอยู่แต่จะไม่มีปุ่มมาให้เปิดปิดได้เหมือนเดิมครับ ต้องใช้การกดปุ่มลดเสียงค้างไว้จนสุดถึงจะกลายเป็นสั่นอย่างเดียว ถ้าใครใช้วิธีนี้อยู่แล้วก็ไม่ต้องปรับอะไร แต่ถ้าคนเคยใช้ปุ่มเปิดปิดมาก่อนก็ต้องปรับตัวนิดหน่อยครับ

 

Restart หรือ Soft Reset หายไปไหน?

imobile-iqii-software08.jpg

สิ่งหนึ่งที่หายไปใน Android 5.1.1 Lollipop คือเมนูสำหรับการ Restart หรือ Soft Reset เครื่อง จากที่เวอร์ชันก่อนหน้านี้ เวลาเรากดปุ่ม Power ค้างไว้จะมีเมนูโผล่ขึ้นมาให้เรา Power off หรือ Restart เครื่องได้ แต่ในเวอร์ชันนี้เหลือเพียงปุ่ม Power off เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แล้วเราจะ Restart ได้ยังไงล่ะ? ทำได้ครับ เราสามารถ Restart เครื่องได้ด้วยการกดปุ่ม Power ค้างไว้ประมาณ 15 วินาทีจนหน้าจอดับแล้วเห็นหน้าจอ logo ของผู้ผลิตกลับขึ้นมาใหม่ ก็ปล่อยปุ่มได้เลย

 

Recents ไม่มีปุ่ม Close all (ปิดทั้งหมด) อีกต่อไปแล้ว

imobile-iqii-software09.jpg

อีกสิ่งหนึ่งที่คนที่เพิ่งจะเคยใช้ Stock Android ที่เป็น Lollipop ต้องปรับตัวคือ การปิด App ทั้งหมด หรือ การ Clear RAM ที่หลายคนรู้จักจะไม่สะดวกอย่างเคย เพราะปุ่ม Close all หรือ ปิดทั้งหมด ถูกเอาออกไปจากหน้า Recents แล้ว เหตุผลที่ Google เอาออกไปเพราะอยากให้ระบบมีการใช้งาน RAM ได้เต็มที่ ถ้าเปิด App ไหนแล้ว RAM ไม่พอ ระบบจะเป็นคนจัดการเลือกปิด App ให้เอง และการปิด App ทั้งหมดในทีเดียวนั้น เป็นการสิ้นเปลืองพลังงาน CPU และอาจส่งผลกับแบตเตอรี่ด้วย Google จึงอนุญาตให้เลือกปิด App ได้ทีละอันและควรเป็น App ที่ต้องการปิดจริงๆเท่านั้น

ผมลองลง App จำพวก Task Killer เช่น CleanMaster ก็ไม่ช่วยอะไร ทำไม่ได้เหมือนกัน เพราะ Google ห้ามจริงจัง ไม่ให้ทำนะครับ

 

IQ II Bonus

imobile-iqii-software02.jpg

App หนึ่งเดียวในเครื่องที่ไม่ใช่ของ Google แต่เป็นของ i-mobile เอง โดย IQ II Bonus เป็น App รวมสิทธิพิเศษสำหรับคนที่ใช้มือถือรุ่นนี้ พร้อมทั้งให้ข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับมือถือ,ศูนย์บริการและการรับประกันไปในตัว

imobile-iqii-software03.jpg

ในส่วนของ “สิทธิพิเศษ” นั้นจะของแจกฟรีและส่วนลดต่างๆ เช่น แจกโดนัทฟรี และส่วนลดบัตรสวนน้ำ ถ้าคนที่ใช้มือถือ Samsung มาก่อน ตรงนี้ก็เหมือนกับ Galaxy Gift นั่นเอง แต่ว่ายังมีของแจกฟรีน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนลดร้านอาหารและโรงแรมซะมากกว่า

สำหรับส่วน “service” จะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์บริการ, เช็คสถานะงานซ่อม, ลง AntiVirus, ข้อมูลการประกัน และข้อมูลการติดต่อ i-mobile และส่วนสุดท้ายจะเป็นข้อมูลสเปกของมือถือ i-mobile ทุกรุ่นเลยครับ

 

ประสิทธิภาพและความอึดของแบตเตอรี่

อย่างที่บอกไปในส่วนของสเปก i-mobile IQ II ใช้หน่วยประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 410 รุ่นใหม่เป็น CPU 64-bit (แต่ OS เป็น 32-bit) แบบ Quad-core ความเร็ว 1.2GHz ถือว่าไม่ขี้เหร่เลยสำหรับมือถือราคา 4,000 กว่าบาท ซึ่งจากการวัดผลด้วยโปรแกรม benchmark อย่าง Antutu และ Geekbench ก็ได้ผลดังนี้

imobile-iqii-performance01.jpg

คะแนนที่ได้ออกมาก็ไม่พลิกโผอะไร ถือว่าดีสมราคา และจากการใช้งานพบว่าลื่นไหลใช้งานได้สนุก เรียกว่าเป็นเพราะตัว Android ถูกปรับจูนให้เข้ากับตัว Hardware ให้ทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดี แต่อาการสะดุดจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเปิดใช้งาน App เยอะๆ เพราะมือถือรุ่นนี้มี RAM เพียง 1GB เมื่อมาสู้กับ App ยุคปัจจุบันอย่าง Facebook, Line, Chrome หรือ Youtube ก็เกิดอาการเอ๋อไปเหมือนกัน โดยเฉพาะ Chrome นั้นกิน RAM พอสมควร เรียกว่าเปิด Chrome ทีไรเครื่องกระตุกตอนนั้นเลยล่ะ น่าเสียดายถ้าได้ RAM มาสัก 2GB มือถือรุ่นนี้จะเป็นรุ่นในฝันสำหรับคนงบน้อยเลยทีเดียว

 

imobile-iqii-performance02.jpg

สำหรับ ROM ที่ให้มา 16GB ก็ถือว่าใช้งานได้เพียงพอสำหรับการเล่น App ทั่วไป ลงเกมส์ได้ และยีงสามารถเสียบ microSD เพิ่มได้อีกสำหรับคนใช้งานเยอะ ตรงนี้คงไม่ขออะไรมากกว่านี้สำหรับมือถือราคา 4000 กว่าบาท

 

imobile-iqii-performance03.jpg

จากรูปกราฟการใช้งานแบตเตอรี่ด้านบนพบจะสรุปได้ว่า i-mobile IQ II นั้นมีการจัดการพลังงานที่ดีพอให้เราสามารถใช้ได้เต็มวัน โดยในวันที่ไม่ได้ใช้งานมากผมยังมีแบตเหลือเกือบ 50% ตอนที่กลับถึงบ้าน สำหรับวันที่ใช้งานเรื่อยๆนั้นก็ยังถือว่าเพียงพอโดยกลับถึงบ้าน 4 ทุ่มแบตยังเหลืออยู่ 21% (มี restart เครื่อง 1 ครั้ง) การใช้งานจะเป็นการเล่นอินเตอร์เน็ต, เล่น social network และดู Youtube เป็นหลัก ส่วนเกมส์ไม่ค่อยได้เล่นมากนัก

 

กล้องถ่ายรูป

i-mobile IQ II มาพร้อมกับกลัองความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อม BSI sensor, ระบบ Autofocus และ Dual-LED flash คุณภาพของภาพถ่ายที่ได้นั้นถือว่า โอเคไม่มากไม่น้อยสำหรับมือถือราคานี้ ถ่ายกลางวันทั่วไป ภาพก็สวยดี ถ่ายกลางคืนก็ noise เยอะหน่อยแต่ไม่เสียหาย จะให้ไปตั้งความหวังเหมือนมือถือราคาสูงก็ใช่ที่นะครับ มาดูภาพตัวอย่างกัน

http://imgur.com/a/tCNro/embed

 

สำหรับกล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซลก็ถือว่าไม่แย่จนเกินไปที่จะถ่าย Selfie สำหรับสาวๆ ภาพที่ได้ก็ถือว่า โอเค เพราะที่จริงละเอียดไปมันก็ไม่ดีหรอกจริงมั้ยครับ?

 

 

สำหรับวิดีโอนั้นถ่ายได้สูงสุดที่ความละเอียด FullHD 1080p คุณภาพที่ได้ก็ประมาณนี้

 

ทิ้งท้ายก่อนจาก

ในความเห็นของผม i-mobile IQ II นั้นเป็นมือถือที่มีคุณภาพคุ้มค่ากับราคา 4,444 บาท ทั้งในด้าน Hardware และ Software ดูง่ายๆ ลองมองหามือถือคู่แข่งในตลาดที่ได้รับการรับประกัน Hardware 2 ปีและการรับประกันอัพเดต Software โดยตรงจาก Google อีก 2 ปี ด้วยราคาเท่านี้ หาไม่มีหรอกครับ ถึงแม้ว่าสเปกบางอย่างอาจจะสู้คู่แข่งไม่ได้ แต่หากเรามองหามือถือราคาถูกใช้งานระยะยาว i-mobile IQ II คือตัวเลือกที่ไม่ต้องตัดสินใจยากเลยครับ แต่ถ้ามือถือรุ่นนี้มากับ RAM 2GB ผมคงบอกว่า “ซื้อได้เลยโดยไม่ต้องคิด” ขอจบรีวิวด้วยประการฉะนี้ คราวหน้าพบกันใหม่ สวัสดีครับ

“i-mobile IQ II เพื่อชีวิตสมาร์ทเป็น 2 เท่า” 

  • ซอฟท์แวร์ล่าสุดจาก Google รับประกันอัพเดตนานถึง 2 ปี (นับจากเดือนสิงหาคม)
  • Android 5.1 Lollipop มาพร้อมประสิทธิภาพที่ดีขึ้น 2 เท่า
  • รับประกันตัวเครื่องโดยศูนย์บริการ i-mobile นานถึง 2 ปี
  • กดรับสิทธิพิเศษจากแอพ IQ II Bonus เพิ่มเป็น 2 เท่า
  • เล่นเน็ต 4G จากทรูมูฟ เอช ฟรีนาน 2 ปี เมื่อมียอดเติมเงินสะสมครบ 200 บาท ต่อเดือน

android-one-devices-th.jpg

 

from:http://droidsans.com/i-mobile-iq-ii-review-the-first-android-one-of-thailand

วิธี Unlock Bootloader สำหรับ i-mobile IQ II (Android One)

หลังจากที่ i-mobile ได้เปิดตัวโครงการ Android One ไปเมื่อหลายเดือนก่อน จนมาถึงเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ก็ได้ฤกษ์วางขายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในชื่อรุ่นว่า i-mobile IQ II นับได้ว่าเป็น Android One รุ่นแรกของประเทศไทยเลยทีเดียว

สำหรับ Android One นั้น จะเป็นรุ่นที่ใช้เฟิร์มแวร์เดิม ๆ จาก Google โดยไม่มีการปรับแต่งใด ๆ จากผู้ผลิต ซึ่งก็จะเหมือนกับตระกูล Nexus นั่นเอง หรือจะเรียกว่า Android One คือ Nexus เอื้ออาทร ก็ได้

และแน่นอนว่า เมื่อมันใกล้เคียง Nexus ก็น่าจะทำอะไรได้เหมือน ๆ กับ Nexus สิ่งแรกที่ผมทำหลังจากได้เครื่องมาแล้วนั่นก็คือการ Unlock Bootloader!!

วันนี้เราจะมาดูกันว่า วิธีการ Unlock Bootloader สำหรับ i-mobile IQ II นั้น มีขั้นตอนการทำอย่างไร…

“การ Unlock Bootloader อาจทำให้เครื่องของท่านนั้นหมดประกัน
และผู้เขียนไม่ขอรับผิดชอบ หากเกิดปัญหาใด ๆ”

เริ่มจากเข้าไปที่ Settings > About phone

เลื่อนลงไปด้านล่างสุด แล้วแตะที่ Build number 7 ครั้ง เมนู Developer options ในหน้า Settings ที่ซ่อนอยู่จะโผล่ออกมา

เข้าไปในเมนู Developer options จะพบกับเมนู OEM unlocking ซึ่งจะปิดอยู่ ก็เปิดมันซะ และเปิดใช้งาน USB debugging ด้วย (ในรูปปิดอยู่)

Quote:

ขั้นตอนที่ผ่านมา จะเหมือนกับ Nexus 6 และ Nexus 9 นั่นเอง

ต่อสาย USB เข้ากับ PC และลง adb driver ให้เรียบร้อย โดย adb driver นั้น จะใช้ตัวเดียวกับของ Nexus เลย ซึ่งอยู่ใน Android SDK > Google USB Driver แต่ไม่ต้องเสียเวลาโหลด Android SDK เพราะผมแงะ Google USB Driver ออกมาให้แล้ว สามารถโหลดได้จากที่นี่

หลังจากนั้น ให้โหลด Android SDK > Platform-tools มา ซึ่งผมแงะ Platform-tools ออกมาให้แล้วเช่นกัน โหลดได้จากที่นี่

แตกไฟล์ Zip ออกมา จะได้ Folder ชื่อ platform-tools จะเห็นโปรแกรม adb และ fastboot อยู่ข้างในซึ่งเราจะใช้สองโปรแกรมนี้เป็นหลัก

ให้เข้าไป platform-tools ด้วย dos (สำหรับ Windows) และ Terminal (สำหรับ Linux และ Mac) แล้วพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้

adb reboot bootloader

หรือคำสั่งนี้

adb reboot-bootloader

Quote:

สำหรับ Linux และ Mac ให้เติม ./ นำหน้า

เครื่องจะเข้าสู่ Bootloader โดยจะแสดงเป็น Logo i-mobile ดังรูป

Quote:

น่าจะกดปุ่ม Power + VolUp + VolDown ตอนปิดเครื่องได้ (บางรุ่นจะเป็น Power + VolDown) เหมือน Nexus แต่ผมลืมทดลอง ใครลองแล้วบอกด้วยนะ

หลังจากนั้น ให้ป้อนคำสั่งดังต่อไปนี้

fastboot oem unlock

ซึ่งจะพบคำเตือนว่า ข้อมูลทั้งหมดจะหายไป เช่นเดียวกับการ Factory Reset หากต้องการยืนยัน ให้ป้อนคำสั่งต่อไป (บน Nexus จะแสดงบนหน้าจอ และให้ยืนยันบนเครื่องได้เลย)

fastboot oem unlock-go

เรียบร้อยแล้วครับ การ Unlock Bootloader

ในทางตรงกันข้าม สามารถ Lock Bootloader ได้ด้วยคำสั่ง fastboot oem lock นั่นเอง

จะกลับเข้าสู่โหมดปกติ ก็ทำการ Reboot ด้วยคำสั่ง…

fastboot reboot

.

สำหรับการเข้าสู่ Recovery Mode สามารถทำได้โดยการใช้คำสั่ง adb ดังนี้ (อย่าลืมเปิด USB debugging ก่อนนะ)

adb reboot recovery

ซึ่งหน้าตาของ Recovery Mode ก็เป็นแบบนี้ (เหมือนของ Nexus และอีกหลาย ๆ ยี่ห้อ)

ซึ่งใน Recovery Mode จะซ่อนเมนูเอาไว้ ต้องกดให้แสดงขึ้นมา ด้วยการกดปุ่ม Power ค้างไว้แล้วตามด้วยปุ่ม VolUp ก็จะแสดงเมนูออกมา

สามารถกดเลื่อนขึ้น/ลง ได้ด้วยปุ่ม VolUp/VolDown ซึ่งจากเมนูที่เห็นนั้น แทบจะเหมือนกับของ Nexus เลย สามารถ Factory Reset จากที่นี่ กรณีเครื่อง Boot ไม่เสร็จได้ หรือแม้กระทั่ง Manual Update จาก OTA Package ได้เลย

Quote:

นี่มัน Nexus ชัด ๆ

จบคร๊าบบบบบบบ Wink

from:http://droidsans.com/how-to-unlock-bootloader-i-mobile-iq-ii